บทความนี้ยังต้องการเพิ่มเพื่อ |
บทความนี้ต้องการการจัดหน้า หรือ ให้ คุณสามารถปรับปรุงแก้ไขบทความนี้ได้ และนำป้ายออก พิจารณาใช้เพื่อชี้ชัดข้อบกพร่อง |
ประวัติศาสตร์หมู่เกาะอังกฤษ
|
แบ่งตามลำดับเหตุการณ์
แบ่งตามประเทศ แบ่งตามหัวเรื่อง
|
อังกฤษในยุคกลางช่วงรุ่งโรจน์ (อังกฤษ: England in the High Middle Ages) คือ ประวัติศาสตร์ของประเทศอังกฤษในช่วงระหว่างการพิชิตของชาวนอร์มันในปี ค.ศ. 1066 จนถึงการสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าจอห์นที่คนส่วนหนึ่งมองว่าเป็นกษัตริย์อ็องฌูแว็งคนสุดท้ายของอังกฤษในปี ค.ศ. 1216
อังกฤษภายใต้การปกครองของชาวนอร์มัน
วิลเลียม ดยุคแห่งนอร์ม็องดี ได้รับการสวมมงกุฎเป็นกษัตริย์แห่งอังกฤษเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ. 1066 ทว่าในตอนแรกตำแหน่งของพระองค์ไม่ค่อยมั่นคงปลอดภัยนัก พระองค์มีคนเพียงหลักพันไว้ควบคุมประชากรราว 2 ล้านคน อีกทั้งพระเจ้าสเวน กษัตริย์แห่งเดนมาร์กเองก็อ้างสิทธิ์ในราชบัลลังก์อังกฤษเช่นกัน ในช่วงแรกชาวนอร์มันเป็นผู้รุกรานที่เป็นที่เกลียดชังและพวกเขาต้องดับความขุ่นเคืองของประชากรชาวแซ็กซัน
วิธีการหนึ่งที่ชาวนอร์มันใช้ควบคุมชาวแซ็กซันคือการสร้างปราสาท พวกเขาเลือกเนินดินที่เรียกว่าม็อตต์ ด้านบนพวกเขาล้อมรั้วไม้ ด้านล่างพวกเขาล้อมรั้วไม้อีกชั้น พื้นที่ภายในถูกเรียกว่าไบลีย์ สิ่งนี้จึงถูกเรียกว่าปราสาทแบบม็อตต์แอนด์ไบลีย์ หรือปราสาทเนิน ไม่นานชาวนอร์มันก็เริ่มสร้างปราสาทหิน ในปี ค.ศ. 1078 วิลเลียมเริ่มสร้างหอคอยลอนดอน
วิลเลียมพำนักอยู่ในนอร์ม็องดีตั้งแต่เดือนมีนาคมจนถึงเดือนธันวาคม ค.ศ. 1067 เมื่อพระองค์กลับมาอังกฤษ ภารกิจแรกของพระองค์คือปราบการลุกฮือในฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ พระองค์ทำการปิดล้อมเอ็กซิเตอร์ จนเมืองที่ล้อมรอบด้วยกำแพงยอมจำนนอย่างมีเกียรติในที่สุด
แม้อังกฤษตอนใต้จะตกอยู่ภายใต้การควบคุมของชาวนอร์มันแล้ว แต่ตอนกลางกับตอนเหนือนั้นต่างออกไป ในปี ค.ศ. 1068 วิลเลียมเดินทัพขึ้นเหนือผ่านวอริคและน็อตติงแฮมเข้าสู่ยอร์ก ประชาชนของยอร์กยอมสวามิภักดิ์ต่อพระองค์ทันที วิลเลียมจึงกลับไปลอนดอนทางแคมบริดจ์และยอร์ก
ทว่าในเดือนมกราคม ค.ศ. 1069 ประชาชนของยอร์กเชอร์และนอร์ธัมเบอร์แลนด์ก่อกบฏ วิลเลียมรีบขึ้นเหนือไปบดขยี้กลุ่มกบฏ ทว่าการขึ้นเหนือพัดเปลวไฟแห่งการก่อกบฏให้ปะทุขึ้นในพื้นที่อื่น มีการลุกฮือเกิดขึ้นในซอเมอร์เซ็ตและดอร์เซ็ต อีกทั้งชาวแซ็กซันยังเรียกตัวเอ็ดการ์ พระนัดดาชายของพระเจ้าเอ็ดมุนด์ผู้ทนทาน อดีตผู้ปกครองชาวแซ็กซัน มานำกองทัพชาวไอริชไปเดวอนเหนือ ทว่าผู้บัญชาการชาวนอร์มันในพื้นที่บดขยี้การลุกฮือและขับไล่พวกไอริชออกไปได้
ยังไม่จบเพียงเท่านั้น ในฤดูใบไม้ร่วงของปี ค.ศ. 1069 พระเจ้าสเวนแห่งเดนมาร์กส่งคนมาสำรวจอังกฤษ เมื่อชาวเดนมาถึงยอร์กเชอร์ ประชาชนของยอร์กเชอร์ลุกขึ้นมาก่อกบฏอีกครั้ง วิลเลียมเดินทัพขึ้นเหนือไปยึดครองยอร์ก ชาวเดนถอนทัพออกจากอังกฤษตอนเหนือ ครั้งนี้วิลเลียมนำเอานโยบายการเผาทำลายผืนดินมาใช้เพื่อไม่ให้เกิดการก่อกบฏขึ้นในตอนเหนืออีก ในปี ค.ศ. 1069 – 1070 คนของพระองค์เผาบ้าน, พืชพรรณธัญญาหาร และเครื่องไม้เครื่องมือ ตั้งแต่ฮัมเบอร์จนถึงเดอแรม พวกเขายังสังหารปศูสัตว์ ความอดอยากที่เกิดขึ้นตลอดหลายปีหลังจากนั้นทำให้ผู้คนหิวตาย อาชญากรรมที่เลวร้ายนี้ถูกเรียกว่าการทำลายทางเหนือ และต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะฟื้นฟูตอนเหนือของอังกฤษกลับมาได้
ในเวลาเดียวกันชาวเดนล่องเรือลงใต้ไปปล้นและยึดเป็นฐานที่มั่น ชาวแซ็กซันหลายคนเข้าร่วมกับชาวเดน กบฏแซ็กซันกลุ่มดังกล่าวอยู่ภายใต้การนำของชายที่ชื่อ
การเปลี่ยนแปลงทางสังคม
ทว่าในปี ค.ศ. 1070 พระเจ้าวิลเลียมทำสนธิสัญญากับพระเจ้าสเวน ชาวเดนจึงจากไป ชาวแซ็กซันยังคงต่อสู้ต่อไปใน แต่ในปี ค.ศ. 1071 พวกเขาถูกบีบให้ยอมจำนน เฮียร์เวิร์ดหนีไป วิลเลียมจึงควบคุมอังกฤษทั้งประเทศ
หลังการพิชิตของชาวนอร์มัน ขุนนางชาวแซ็กซันส่วนใหญ่ทิ้งที่ดินของตย วิลเลียมริบที่ดินเหล่านั้นเข้าหลวงและมอบมันให้กับผู้ติดตามของพระองค์ พวกเขาได้ครอบครองดินแดนแลกกับการจัดหาทหารมาให้กษัตริย์
วิลเลียมยังเปลี่ยนศาสนจักรในอังกฤษ ในตอนนั้นศาสนจักรร่ำรวยและมีอำนาจ กษัตริย์จึงจำเป็นต้องมีคนช่วย วิลเลียมแทนที่นักบวชอาวุโสชาวแซ็กซันด้วยกลุ่มคนที่ภักดีต่อพระองค์ แลนฟรังก์ ชาวอิตาเลียน แทนที่สติกุนด์ อาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์บรีชาวแซ็กซัน (โดยได้รับการเห็นชอบจากพระสันตะปาปา) แล้วแลนฟรังก์ก็ถอดเหล่าบิชอปและพระอธิการออกเพื่อเอาชาวนอร์มันมาแทนที่
ในชนชั้นล่างลงมาทางสังคมก็มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเช่นกัน ในช่วงปลายสมัยแซ็กซัน เหล่าชาวนาคือคนที่ไม่มีอิสรภาพ แนวทางนี้ถูกสืบสานต่อโดยชาวนอร์มัน ในทางกลับกันความเป็นทาสนั้นลดลง (และหมดไปในกลางคริสต์ศตวรรษที่ 12)
ในปี ค.ศ. 1085 วิลเลียมตัดสินใจทำการสำรวจอาณาจักรของตนครั้งใหญ่เพื่อดูตรวจสอบดูว่ามั่งคั่งแค่ไหน เป็นผลให้เกิดหนังสือวันพิพากษา (ดูมสเดย์) ขึ้นในปี ค.ศ. 1086
วิลเลียมสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1087 และพระโอรสที่ชื่อวิลเลียมเช่นกันของพระองค์สืบทอดตำแหน่งต่อจากพระองค์ (บางครั้งพระองค์ก็ถูกเรียกว่าวิลเลียมรูฟัสเพราะผิวที่เป็นสีแดง) พระเชษฐาของรูฟัส โรเบิร์ต (หรือรอแบต์ตามการออกเสียงแบบฝรั่งเศส) กลายเป็นดยุคแห่งนอร์ม็องดี
วิลเลียมผู้พิชิตเป็นคนโหดเหี้ยม ทว่าผู้เขียนในยุคนั้นกล่าวถึงพระองค์ว่า "เป็นคนรักษากฎหมาย" คริสต์ศตวรรษที่ 11 เป็นยุคที่ไร้กฎหมาย ผู้ปกครองที่แข็งแกร่งที่รักษากฎหมายจึงได้รับการยกย่อง
วิลเลียมรูฟัส
รูฟัสไม่ใช้คนที่เคารพในศาสนาและไม่เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักบวช นอกจากนี้พวกเขายังวิพากษ์วิจารณ์พระองค์กับข้าราชสำนักของพระองค์ที่ไว้ผมยาว (ในยุคของพระบิดาของพระองค์นิยมไว้ผมสั้น) นักบวชคิดว่าผมยาวนั้นเป็นคุณสมบัติของผู้หญิง
ทว่าในอีกหลายๆ แง่มุมรูฟัสก็เป็นกษัตริย์ที่มีพระปรีชาสามารถ ภายใต้การปกครองของพระองค์ เหล่าบารอนตกที่นั่งลำบากเนื่องจากส่วนใหญ่มีที่ดินทั้งในนอร์ม็องดีและในอังกฤษ หลายคนอยากให้ทั้งสองฝั่งอยู่ใต้การปกครองของคนๆ เดียว ในปี ค.ศ. 1080 จึงมีการก่อกบฏเกิดขึ้นในอังกฤษตะวันออก กลุ่มกบฏอยากปลดรูฟัสออกจากตำแหน่งและให้พระเชษฐาของพระองค์ โรเบิร์ต ปกครองทั้งอังกฤษและนอร์ม็องดี ทว่ารูฟัสบดขยี้กลุ่มกบฏได้ การก่อกบฏครั้งที่สองในปี ค.ศ. 1095 ก็ถูกบดขยี้เช่นกัน
ในเวลาเดียวกัน รูฟัสยึดพื้นที่ที่ตอนนี้ถูกเรียกว่าคัมเบรียมาจากชาวสกอต (ก่อนหน้าพระองค์จะขึ้นครองราชย์ พื้นที่ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของสกอตแลนด์) รูฟัสยังบีบกษัตริย์สกอตให้ยอมรับพระองค์เป็นเจ้าเหนือหัวตามระบอบศักดินา
วิลเลียมรูฟัสถูกยิงด้วยลูกธนูขณะกำลังล่าสัตว์อยู่ในนิวฟอเรสต์ ไม่มีใครรู้ว่ามันเป็นอุบัติเหตุหรือการฆาตกรรม (ซึ่งดูน่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่า)
อังกฤษในคริสต์ศตวรรษที่ 12
เฮนรีที่ 1
หลังการตาย "โดยอุบัติเหตุ" ของวิลเลียมรูฟัส พระอนุชาของพระองค์ เฮนรี ยึดท้องพระคลังหลวงในวินเชสเตอร์และได้รับการสวมมงกุฎเป็นกษัตริย์แห่งอังกฤษ พระเชษฐาของพระองค์ โรเบิร์ต ได้เป็นดยุคแห่งนอร์ม็องดี
เฮนรีที่ 1 เสด็จพระราชสมภพในปี ค.ศ. 1068 และพระองค์ได้รับการศึกษาอย่างดี เมื่อยึดบัลลังก์มาได้ พระองค์ออกกฎบัตรสัญญาว่าจะปกครองด้วยความยุติธรรม พระองค์ยังได้รับความนิยมจากไพร่ฟ้าประชาชนชาวแซ็กซันจากการแต่งงานกับอีดิธ ลูกหลานของพระเจ้าเอ็ดมุนด์ผู้ทนทาน ที่สำคัญที่สุด พระองค์ยังเคารพในศาสนจักร
เฮนรีพิสูจน์ให้เห็นว่าพระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ผู้มีพระปรีชาสามารถ พระองค์มักขัดแย้งกับพระเชษฐา โรเบิร์ต ดยุคแห่งนอร์ม็องดี ในปี ค.ศ. 1101 โรเบิร์ตบุกอังกฤษ ขึ้นฝั่งที่อ่าวพอร์ตสมัธ แต่สนธิสัญญาอัลทอนทำให้พระองค์ยอมกลับบ้านไปอีกครั้ง ทว่าสันติสุขคงอยู่ได้ไม่นาน ในปี ค.ศ. 1105 เฮนรีบุกนอร์ม็องดี ในปี ค.ศ. 1106 พระองค์ชนะสมรภูมิแต็งเชอเบร (ไพร่ฟ้าประชาชาวแซ็กซันของพระองค์มองว่าสมรภูมินี้คือการแก้แค้นให้กับสมรภูมิเฮสติงส์) เฮนรียังจับกุมตัวพระเชษฐา โรเบิร์ต พระองค์ถูกจองจำจนถึงปี ค.ศ. 1134 ที่ทรงสิ้นพระชนม์ด้วยพระชนมายุ 80 พรรษา
เฮนรียังตั้งสวนสัตว์หลวงขึ้นมาในอังกฤษโดยมีสัตว์แปลกอย่างสิงโต, เสือดาว, ลิงซ์, อูฐ และเม่น
ในขณะเดียวกันเฮนรีมีพระโอรสคนเดียวชื่อวิลเลียม ในปี ค.ศ. 1119 กษัตริย์แห่งฝรั่งเศสยอมรับวิลเลียมเป็นทายาทในบัลลังก์อังกฤษและทายาทในตำแหน่งดยุคแห่งนอร์ม็องดี ทว่าวิลเลียมจมน้ำสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1120 เมื่อเรือของพระองค์ เรือขาว อับปาง ทิ้งให้เฮนรีไม่เหลือทายาท ก่อนจะสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1135 เฮนรีให้เหล่าบารอนสัญญาว่าจะยอมรับพระธิดาของพระองค์ มาทิลดา เป็นพระราชินี
ทว่าเมื่อเฮนรีสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1135 พระนัดดาชาย (ลูกชายของพี่น้อง) ของพระองค์ สตีเฟน ก็อ้างสิทธิ์ในบัลลังก์เช่นกันและบารอนหลายคนสนับสนุนพระองค์ มาทิลดาอยู่ต่างแดนในตอนที่พระบิดาสิ้นพระชนม์ สตีเฟนจึงได้รับการสวมมงกุฎเป็นกษัตริย์แห่งอังกฤษ แต่มาทิลดาก็ไม่ยอมวางมือจากการอ้างสิทธิ์ในบัลลังก์และพระองค์เองก็มีผู้สนับสนุนหลายคนเช่นกัน ส่งผลให้สงครามกลางเมืองอันยาวนานเกิดขึ้น ซึ่งจะอยู่ไปจนถึงปี ค.ศ. 1154 ช่วงเวลาหลายปีนี้ถูกเรียกว่า "ฤดูหนาวอันยาวนานทั้งสิบเก้าฤดู" การต่อสู้จบลงไม่นานก่อนสตีเฟนจะสิ้นพระชนม์ เมื่อพระองค์ยอมรับให้บุตรชายของมาทิลดา เฮนรี เป็นทายาทของตน หลังพระเจ้าสตีเฟนสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1154 บุตรชายของมาทิลดากลายเป็นพระเจ้าเฮนรีที่ 2
เฮนรีที่ 2
พระเจ้าเฮนรีที่ 2 เป็นกษัตริยแพลนทาเจเนตคนแรก พระองค์เสด็จพระราชสมภพที่เลอม็องส์ในประเทศฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1133 พระองค์เป็นชายมีการศึกษาสูงที่เป็นที่รู้กันว่ามีอารมณ์รุนแรง
ทว่าเฮนรีไม่ได้ปกครองแค่อังกฤษ พระองค์ยังปกครองพื้นที่ขนาดใหญ่ของฝรั่งเศส ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1150 พระองค์เป็นดยุคแห่งนอร์ม็องดี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1151 พระองค์เป็นเคานต์แห่งอ็องฌู การแต่งงานกับเอลินอร์แห่งอากีแตนทำให้พระองค์กลายเป็นขุนนางเจ้าของที่ดินส่วนดังกล่าวของฝรั่งเศส ต่อมาพระองค์กลายเป็นผู้ปกครองของบริตทานี ในวัยผู้ใหญ่เฮนรีใข้เวลาอยู่ในฝรั่งเศสมากกว่าในอังกฤษ
เฮนรีพิสูจน์ให้เห็นว่าทรงเป็นกษัตริย์ผู้แข็งแกร่ง ในช่วงสงครามกลางเมืองบารอนหลายคนได้สร้างปราสาทขึ้นมาแบบผิดกฎหมาย เฮนรีให้พวกเขารื้อถอนออก อีกทั้งเฮนรียังได้ปฏิรูปกฎหมาย พระองค์แต่งตั้งผู้พิพากษาขึ้นมาให้เดินทางไปทั่วประเทศเพื่อไต่สวนคดีผิดกฎหมายร้ายแรง
ทว่านักบวชมีสิทธิ์ในการขึ้นศาลของตัวเองซึ่งบทลงโทษมักเบามาก เฮนรีรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมและพระองค์พยายามบีบนักบวชให้ยอมขึ้นศาลของพระองค์ แต่แน่นอนว่าพวกเขาต่อต้าน เฮนรีจึงให้สหายของพระองค์ โธมัส เบ็คเก็ต เป็นอาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์บรี ทว่าทันทีที่ได้รับการแต่งตั้ง เขาปฏิเสธที่จะทำตามคำขอของกษัตริย์
ในปี ค.ศ. 1170 ขณะที่เฮนรีอยู่ในนอร์ม็องดี พระองค์โกรธจนขาดสติและตะคอกออกมาว่า "ไม่มีใครคิดจะกำจัดนักบวชตัวปัญหาคนนี้ให้ข้าเลยหรือ" อัศวินสี่คนถือว่านั่นเป็นคำสั่งและไปอังกฤษเพื่อสังหารเบ็คเก็ตในอาสนวิหารแคนเทอร์บรี ผู้คนมีความคิดเป็นลบกับการฆาตกรรมครั้งนี้ พระองค์จึงแสดงสำนึกบาปด้วยการเดินเท้าเปล่าไปแคนเทอร์บรีให้นักบวชเฆี่ยนหลังที่เปลือยเปล่าของพระองค์
เฮนรียังมีปัญหากับพระโอรสเพราะพระองค์ปฏิเสธที่จะมอบอำนาจที่แท้จริงให้ พระองค์มีพระโอรสธิดา 8 คนและมีที่สิ้นพระชนม์ในวัยเด็ก 4 คน (ซึ่งไม่ถือว่าผิดปกติในยุคกลางที่อัตราการเสียชีวิตของทารกมีสูงมาก) พระโอรสสี่คนที่รอดชีวิต คือ เฮนรี เจฟฟรีย์ ริชาร์ด และจอห์น พระโอรสคนสุดท้อง ในปี ค.ศ. 1173 – 1174 เฮนรีเผชิญกับการก่อกบฏของพระโอรสคนโตทั้งสามที่มีพระมารดาคอยให้การช่วยเหลือ เฮนรีปราบกบฏได้ พระองค์ให้อภัยพระโอรส ทว่าพระมเหสีของพระองค์ถูกคุมขังตลอดรัชสมัยที่เหลือของเฮนรี
พระโอรสของเฮนรี เฮนรี สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1183 และพระโอรส เจฟฟรีย์ สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1186
ในปี ค.ศ. 1189 เฮนรีเผชิญกับการก่อกบฏอีกครั้ง ครั้งนี้พระโอรสคนสุดท้อง จอห์น ร่วมก่อกบฏด้วย เรื่องนี้ทำให้เฮนรีใจสลายและเฮนรีสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1189
ริชาร์ดที่ 1
กษัตริย์คนต่อมา พระเจ้าริชาร์ดที่ 1 เสด็จพระราชสมภพในปี ค.ศ. 1157 ในตอนที่มีชีวิตอยู่ พระองค์เป็นกษัตริย์ที่ได้รับความนิยมเพราะทรงเป็นนักรบที่ประสบความสำเร็จ ทว่าทรงทิ้งประเทศไปต่อสู้ในสงครามต่างแดน
ซาลาดินยึดเยรูซาเล็มได้ในปี ค.ศ. 1187 ริชาร์ดจึงตั้งใจว่าจะเอามันกลับคืนมา พระองค์ทิ้งอังกฤษไปทันทีที่ทำได้ในปี ค.ศ. 1190 ทรงไปถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในปี ค.ศ. 1191 ริชาร์ดพอจะประสบความสำเร็จอยู่บ้างแต่ทรงล้มเหลวในการเข้ายึดเยรูซาเล็ม เป้าหมายหลักของพระองค์ ในปี ค.ศ. 1192 พระองค์ทำสนธิสัญญากับซาลาดิน
ทว่าระหว่างเดินทางกลับบ้านพระองค์ถูกดยุคแห่งออสเตรียจับเป็นนักโทษ ไพร่ฟ้าประชาชนของริชาร์ดถูกบีบให้จ่ายค่าไถ่ก้อนโตเพื่อไถ่ตัวพระองค์ (ในปี ค.ศ. 1194) หลังได้รับการปล่อยตัว ริชาร์ดกลับไปอังกฤษแต่ไปนานพระองค์ก็ออกเดินทางไปนอร์ม็องดี พระองค์ไม่หันกลับมามองอังกฤษอีกเลย ขณะกำลังปิดล้อมปราสาท ริชาร์ดถูกยิงด้วยหน้าไม้ พระองค์สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1199 และคนที่ขึ้นครองตำแหน่งต่อจากพระองค์คือพระอนุชา พระเจ้าจอห์น
อังกฤษในคริสต์ศตวรรษที่ 13
พระเจ้าจอห์น
พระเจ้าจอห์นพิสูจน์ให้เห็นว่าทรงเป็นกษัตริย์ที่ล้มเหลว ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1202 ถึงปี ค.ศ. 1204 กษัตริย์ฝรั่งเศสได้ดินแดนในฝรั่งเศสส่วนใหญ่ของพระเจ้าจอห์นไป ทำให้พระองค์กลายเป็นที่รู้จักในชื่อจอห์นดาบเบา ในปี ค.ศ. 1205 จอห์นยังเริ่มขัดแย้งกับพระสันตะปาปาเรื่องใครควรได้เป็นอาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์บรีคนใหม่ คนที่พระเจ้าจอห์นเลือกหรือคนที่พระสันตะปาปาเลือก ส่งผลให้ในปี ค.ศ. 1208 พระสันตะปาปาให้อังกฤษตกอยู่ใต้คำสั่งห้ามที่ไม่อนุญาตประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ในปี ค.ศ. 1209 พระองค์ตัดขาดจอห์นออกจากศาสนา และสุดท้ายในปี ค.ศ. 1213 จอห์นถูกบีบบังคับให้เป็นฝ่ายยอม
ในขณะเดียวกันจอห์นบาดหมางกับไพร่ฟ้าประชาชนของพระองค์หลายคน พวกเขาอ้างว่าพระองค์ปกครองเยี่ยงทรราชย์ที่ปฏิเสธกฎหมายศักดินา พระองค์ถูกกล่าวหาว่าข่มขู่เอาเงินจากประชาชน ขายตำแหน่ง เรียกเก็บภาษีเพิ่ม และตั้งกฎหมายขึ้นมาตามอำเภอใจ ปัญหารุนแรงขึ้นหลังจอห์นพยายามเอาดินแดนในฝรั่งเศสที่เสียไปกลับคืนมาในปี ค.ศ. 1214 แต่ล้มเหลว ความอดทนของเหล่าบารอนหมดลง จนในปี ค.ศ. 1215 สงครามกลางเมืองก็อุบัติขึ้น ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1215 จอห์นถูกบีบให้ยอมรับกฎบัตรที่รู้จักกันในชื่อแม็กนาคาร์ตาที่รันนีย์เมด กฎบัตรที่จะหยุดการกระทำมิชอบ ส่งเสริมสิทธิ์และอภิสิทธิ์ดั้งเดิมของศาสนจักร ทั้งยังคุ้มครองสิทธิ์และอภิสิทธิ์ของชนชั้นสูง มีการกล่าวถึงพ่อค้าที่อยู่ในเมืองด้วย ทว่าประชาชนทั่วไปไม่ได้รับการสนใจ
ทว่าแม็กนาคาร์ตาส่งเสริมหลักการสำคัญคือไม่ให้กษัตริย์อังกฤษปกครองตามอำเภอใจ กษัตริย์ต้องเชื่อฟังกฎหมายของอังกฤษและธรรมเนียมของอังกฤษเหมือนกับคนอื่นๆ อีกทั้งแม็กนาคาร์ตายังไม่อนุญาตให้จับกุม จำคุก หรือยึดทรัพย์บุคคลที่มีอิสรภาพโดยไม่มีการพิจารณาคดีตามกฎหมายจากขุนนางหรือไม่ผ่านกระบวนการทางกฎหมาย
พระเจ้าจอห์นไม่ยอมทำตามเงื่อนไขของแม็กนาคาร์ตา พระองค์จึงยื่นอุทธรณ์ต่อประสันตะปาปาที่ประกาศให้พระองค์ไม่ถูกผูกมัดโดยแม็กนาคาร์ตา การก่อกบฏอุบัติขึ้นอีกครั้งและครั้งนี้เหล่าบารอนกบฏเชิญเจ้าชายฝรั่งเศสมาปกครองอังกฤษ ทว่าพระเจ้าจอห์นสิ้นพระชนม์ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1216
อ้างอิง
- A HISTORY OF ENGLAND IN THE MIDDLE AGES By Tim Lambert: http://www.localhistories.org/normans.html
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniyngtxngkarephimaehlngxangxingephuxphisucnkhwamthuktxngkhunsamarthphthnabthkhwamniidodyephimaehlngxangxingtamsmkhwr enuxhathikhadaehlngxangxingxacthuklbxxk haaehlngkhxmul xngkvsinsmyklangyukhrungorcn khaw hnngsuxphimph hnngsux skxlar JSTOR eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir bthkhwamnitxngkarkarcdhna cdhmwdhmu islingkphayin hruxekbkwadenuxha ihmikhunphaphdikhun khunsamarthprbprungaekikhbthkhwamniid aelanapayxxk phicarnaichpaykhxkhwamxunephuxchichdkhxbkphrxng prawtisastrhmuekaaxngkvs klxngni duaekaebngtamladbehtukarn brietnyukhkxnprawtisastr brietnyukhsmrid brietnsmyormn xngkvssmyaexngokl aesksn xngkvssmyaexngokl nxrmn xngkvsinsmyklangyukhrungorcn skxtaelndinyukhklang ewlsinyukhklang ixraelndinyukhklang ixraelndsmyihm smyihmtxntn aebngtampraeths prawtisastrxngkvs prawtisastrixraelnd esrirthixrich prawtisastrshrachxanackr duephim aebngtamhweruxng prawtisastrrththrrmnuy prawtisastresrsthkic xngkvsinyukhklangchwngrungorcn xngkvs England in the High Middle Ages khux prawtisastrkhxngpraethsxngkvsinchwngrahwangkarphichitkhxngchawnxrmninpi kh s 1066 cnthungkarsinphrachnmkhxngphraecacxhnthikhnswnhnungmxngwaepnkstriyxxngchuaewngkhnsudthaykhxngxngkvsinpi kh s 1216xngkvsphayitkarpkkhrxngkhxngchawnxrmnwileliym dyukhaehngnxrmxngdi idrbkarswmmngkudepnkstriyaehngxngkvsemuxwnthi 25 thnwakhm kh s 1066 thwaintxnaerktaaehnngkhxngphraxngkhimkhxymnkhngplxdphynk phraxngkhmikhnephiynghlkphniwkhwbkhumprachakrraw 2 lankhn xikthngphraecasewn kstriyaehngednmarkexngkxangsiththiinrachbllngkxngkvsechnkn inchwngaerkchawnxrmnepnphurukranthiepnthiekliydchngaelaphwkekhatxngdbkhwamkhunekhuxngkhxngprachakrchawaesksn withikarhnungthichawnxrmnichkhwbkhumchawaesksnkhuxkarsrangprasath phwkekhaeluxkenindinthieriykwamxtt danbnphwkekhalxmrwim danlangphwkekhalxmrwimxikchn phunthiphayinthukeriykwaibliy singnicungthukeriykwaprasathaebbmxttaexndibliy hruxprasathenin imnanchawnxrmnkerimsrangprasathhin inpi kh s 1078 wileliymerimsranghxkhxylxndxn wileliymphankxyuinnxrmxngditngaeteduxnminakhmcnthungeduxnthnwakhm kh s 1067 emuxphraxngkhklbmaxngkvs pharkicaerkkhxngphraxngkhkhuxprabkarlukhuxinfngtawntkechiyngit phraxngkhthakarpidlxmexksietxr cnemuxngthilxmrxbdwykaaephngyxmcannxyangmiekiyrtiinthisud aemxngkvstxnitcatkxyuphayitkarkhwbkhumkhxngchawnxrmnaelw aettxnklangkbtxnehnuxnntangxxkip inpi kh s 1068 wileliymedinthphkhunehnuxphanwxrikhaelanxttingaehmekhasuyxrk prachachnkhxngyxrkyxmswamiphkditxphraxngkhthnthi wileliymcungklbiplxndxnthangaekhmbridcaelayxrk thwaineduxnmkrakhm kh s 1069 prachachnkhxngyxrkechxraelanxrthmebxraelndkxkbt wileliymribkhunehnuxipbdkhyiklumkbt thwakarkhunehnuxphdeplwifaehngkarkxkbtihpathukhuninphunthixun mikarlukhuxekidkhuninsxemxrestaeladxrest xikthngchawaesksnyngeriyktwexdkar phranddachaykhxngphraecaexdmundphuthnthan xditphupkkhrxngchawaesksn manakxngthphchawixrichipedwxnehnux thwaphubychakarchawnxrmninphunthibdkhyikarlukhuxaelakhbilphwkixrichxxkipid yngimcbephiyngethann invduibimrwngkhxngpi kh s 1069 phraecasewnaehngednmarksngkhnmasarwcxngkvs emuxchawednmathungyxrkechxr prachachnkhxngyxrkechxrlukkhunmakxkbtxikkhrng wileliymedinthphkhunehnuxipyudkhrxngyxrk chawednthxnthphxxkcakxngkvstxnehnux khrngniwileliymnaexanoybaykarephathalayphundinmaichephuximihekidkarkxkbtkhunintxnehnuxxik inpi kh s 1069 1070 khnkhxngphraxngkhephaban phuchphrrnthyyahar aelaekhruxngimekhruxngmux tngaethmebxrcnthungedxaerm phwkekhayngsngharpsustw khwamxdxyakthiekidkhuntlxdhlaypihlngcaknnthaihphukhnhiwtay xachyakrrmthielwraynithukeriykwakarthalaythangehnux aelatxngichewlahlaypikwacafunfutxnehnuxkhxngxngkvsklbmaid inewlaediywknchawednlxngeruxlngitipplnaelayudepnthanthimn chawaesksnhlaykhnekharwmkbchawedn kbtaesksnklumdngklawxyuphayitkarnakhxngchaythichux karepliynaeplngthangsngkhm thwainpi kh s 1070 phraecawileliymthasnthisyyakbphraecasewn chawedncungcakip chawaesksnyngkhngtxsutxipin aetinpi kh s 1071 phwkekhathukbibihyxmcann ehiyrewirdhniip wileliymcungkhwbkhumxngkvsthngpraeths hlngkarphichitkhxngchawnxrmn khunnangchawaesksnswnihythingthidinkhxngty wileliymribthidinehlannekhahlwngaelamxbmnihkbphutidtamkhxngphraxngkh phwkekhaidkhrxbkhrxngdinaednaelkkbkarcdhathharmaihkstriy wileliymyngepliynsasnckrinxngkvs intxnnnsasnckrrarwyaelamixanac kstriycungcaepntxngmikhnchwy wileliymaethnthinkbwchxawuoschawaesksndwyklumkhnthiphkditxphraxngkh aelnfrngk chawxitaeliyn aethnthistikund xarchbichxpaehngaekhnethxrbrichawaesksn odyidrbkarehnchxbcakphrasntapapa aelwaelnfrngkkthxdehlabichxpaelaphraxthikarxxkephuxexachawnxrmnmaaethnthi inchnchnlanglngmathangsngkhmkmikarepliynaeplngekidkhunechnkn inchwngplaysmyaesksn ehlachawnakhuxkhnthiimmixisrphaph aenwthangnithuksubsantxodychawnxrmn inthangklbknkhwamepnthasnnldlng aelahmdipinklangkhriststwrrsthi 12 inpi kh s 1085 wileliymtdsinicthakarsarwcxanackrkhxngtnkhrngihyephuxdutrwcsxbduwamngkhngaekhihn epnphlihekidhnngsuxwnphiphaksa dumsedy khuninpi kh s 1086 wileliymsinphrachnminpi kh s 1087 aelaphraoxrsthichuxwileliymechnknkhxngphraxngkhsubthxdtaaehnngtxcakphraxngkh bangkhrngphraxngkhkthukeriykwawileliymrufsephraaphiwthiepnsiaedng phraechsthakhxngrufs orebirt hruxrxaebttamkarxxkesiyngaebbfrngess klayepndyukhaehngnxrmxngdi wileliymphuphichitepnkhnohdehiym thwaphuekhiyninyukhnnklawthungphraxngkhwa epnkhnrksakdhmay khriststwrrsthi 11 epnyukhthiirkdhmay phupkkhrxngthiaekhngaekrngthirksakdhmaycungidrbkarykyxng wileliymrufs karsinphrachnmkhxngwileliymrufs xlfxngos edx nuwill kh s 1895 rufsimichkhnthiekharphinsasnaaelaimepnthiniymxyangmakinhmunkbwch nxkcakniphwkekhayngwiphakswicarnphraxngkhkbkharachsankkhxngphraxngkhthiiwphmyaw inyukhkhxngphrabidakhxngphraxngkhniymiwphmsn nkbwchkhidwaphmyawnnepnkhunsmbtikhxngphuhying thwainxikhlay aengmumrufskepnkstriythimiphraprichasamarth phayitkarpkkhrxngkhxngphraxngkh ehlabarxntkthinnglabakenuxngcakswnihymithidinthnginnxrmxngdiaelainxngkvs hlaykhnxyakihthngsxngfngxyuitkarpkkhrxngkhxngkhn ediyw inpi kh s 1080 cungmikarkxkbtekidkhuninxngkvstawnxxk klumkbtxyakpldrufsxxkcaktaaehnngaelaihphraechsthakhxngphraxngkh orebirt pkkhrxngthngxngkvsaelanxrmxngdi thwarufsbdkhyiklumkbtid karkxkbtkhrngthisxnginpi kh s 1095 kthukbdkhyiechnkn inewlaediywkn rufsyudphunthithitxnnithukeriykwakhmebriymacakchawskxt kxnhnaphraxngkhcakhunkhrxngrachy phunthidngklawepnswnhnungkhxngskxtaelnd rufsyngbibkstriyskxtihyxmrbphraxngkhepnecaehnuxhwtamrabxbskdina wileliymrufsthukyingdwylukthnukhnakalnglastwxyuinniwfxerst immiikhrruwamnepnxubtiehtuhruxkarkhatkrrm sungdunacaepnxyanghlngmakkwa xngkvsinkhriststwrrsthi 12ehnrithi 1 hlngkartay odyxubtiehtu khxngwileliymrufs phraxnuchakhxngphraxngkh ehnri yudthxngphrakhlnghlwnginwinechsetxraelaidrbkarswmmngkudepnkstriyaehngxngkvs phraechsthakhxngphraxngkh orebirt idepndyukhaehngnxrmxngdi ehnrithi 1 esdcphrarachsmphphinpi kh s 1068 aelaphraxngkhidrbkarsuksaxyangdi emuxyudbllngkmaid phraxngkhxxkkdbtrsyyawacapkkhrxngdwykhwamyutithrrm phraxngkhyngidrbkhwamniymcakiphrfaprachachnchawaesksncakkaraetngngankbxidith lukhlankhxngphraecaexdmundphuthnthan thisakhythisud phraxngkhyngekharphinsasnckr karcmkhxngeruxkhawinchxngaekhbxngkvs iklchayfngnxrmxngdi nxkbareflxr emux 25 phvscikayn kh s 1120 ehnriphisucnihehnwaphraxngkhepnphramhakstriyphumiphraprichasamarth phraxngkhmkkhdaeyngkbphraechstha orebirt dyukhaehngnxrmxngdi inpi kh s 1101 orebirtbukxngkvs khunfngthixawphxrtsmth aetsnthisyyaxlthxnthaihphraxngkhyxmklbbanipxikkhrng thwasntisukhkhngxyuidimnan inpi kh s 1105 ehnribuknxrmxngdi inpi kh s 1106 phraxngkhchnasmrphumiaetngechxebr iphrfaprachachawaesksnkhxngphraxngkhmxngwasmrphuminikhuxkaraekaekhnihkbsmrphumiehstings ehnriyngcbkumtwphraechstha orebirt phraxngkhthukcxngcacnthungpi kh s 1134 thithrngsinphrachnmdwyphrachnmayu 80 phrrsa ehnriyngtngswnstwhlwngkhunmainxngkvsodymistwaeplkxyangsingot esuxdaw lings xuth aelaemn inkhnaediywknehnrimiphraoxrskhnediywchuxwileliym inpi kh s 1119 kstriyaehngfrngessyxmrbwileliymepnthayathinbllngkxngkvsaelathayathintaaehnngdyukhaehngnxrmxngdi thwawileliymcmnasinphrachnminpi kh s 1120 emuxeruxkhxngphraxngkh eruxkhaw xbpang thingihehnriimehluxthayath kxncasinphrachnminpi kh s 1135 ehnriihehlabarxnsyyawacayxmrbphrathidakhxngphraxngkh mathilda epnphrarachini thwaemuxehnrisinphrachnminpi kh s 1135 phranddachay lukchaykhxngphinxng khxngphraxngkh stiefn kxangsiththiinbllngkechnknaelabarxnhlaykhnsnbsnunphraxngkh mathildaxyutangaednintxnthiphrabidasinphrachnm stiefncungidrbkarswmmngkudepnkstriyaehngxngkvs aetmathildakimyxmwangmuxcakkarxangsiththiinbllngkaelaphraxngkhexngkmiphusnbsnunhlaykhnechnkn sngphlihsngkhramklangemuxngxnyawnanekidkhun sungcaxyuipcnthungpi kh s 1154 chwngewlahlaypinithukeriykwa vduhnawxnyawnanthngsibekavdu kartxsucblngimnankxnstiefncasinphrachnm emuxphraxngkhyxmrbihbutrchaykhxngmathilda ehnri epnthayathkhxngtn hlngphraecastiefnsinphrachnminpi kh s 1154 butrchaykhxngmathildaklayepnphraecaehnrithi 2 ehnrithi 2 phraecaehnrithi 2 epnkstriyaephlnthaecentkhnaerk phraxngkhesdcphrarachsmphphthielxmxngsinpraethsfrngessinpi kh s 1133 phraxngkhepnchaymikarsuksasungthiepnthiruknwamixarmnrunaerng thwaehnriimidpkkhrxngaekhxngkvs phraxngkhyngpkkhrxngphunthikhnadihykhxngfrngess tngaetpi kh s 1150 phraxngkhepndyukhaehngnxrmxngdi tngaetpi kh s 1151 phraxngkhepnekhantaehngxxngchu karaetngngankbexlinxraehngxakiaetnthaihphraxngkhklayepnkhunnangecakhxngthidinswndngklawkhxngfrngess txmaphraxngkhklayepnphupkkhrxngkhxngbritthani inwyphuihyehnriikhewlaxyuinfrngessmakkwainxngkvs ehnriphisucnihehnwathrngepnkstriyphuaekhngaekrng inchwngsngkhramklangemuxngbarxnhlaykhnidsrangprasathkhunmaaebbphidkdhmay ehnriihphwkekharuxthxnxxk xikthngehnriyngidptirupkdhmay phraxngkhaetngtngphuphiphaksakhunmaihedinthangipthwpraethsephuxitswnkhdiphidkdhmayrayaerng phaphwadtnkhriststwrrsthi 14 khngehnrikbothms ebkhekt thwankbwchmisiththiinkarkhunsalkhxngtwexngsungbthlngothsmkebamak ehnrirusukwaimyutithrrmaelaphraxngkhphyayambibnkbwchihyxmkhunsalkhxngphraxngkh aetaennxnwaphwkekhatxtan ehnricungihshaykhxngphraxngkh othms ebkhekt epnxarchbichxpaehngaekhnethxrbri thwathnthithiidrbkaraetngtng ekhaptiesththicathatamkhakhxkhxngkstriy inpi kh s 1170 khnathiehnrixyuinnxrmxngdi phraxngkhokrthcnkhadstiaelatakhxkxxkmawa immiikhrkhidcakacdnkbwchtwpyhakhnniihkhaelyhrux xswinsikhnthuxwannepnkhasngaelaipxngkvsephuxsngharebkhektinxasnwiharaekhnethxrbri phukhnmikhwamkhidepnlbkbkarkhatkrrmkhrngni phraxngkhcungaesdngsanukbapdwykaredinethaeplaipaekhnethxrbriihnkbwchekhiynhlngthiepluxyeplakhxngphraxngkh ehnriyngmipyhakbphraoxrsephraaphraxngkhptiesththicamxbxanacthiaethcringih phraxngkhmiphraoxrsthida 8 khnaelamithisinphrachnminwyedk 4 khn sungimthuxwaphidpktiinyukhklangthixtrakaresiychiwitkhxngtharkmisungmak phraoxrssikhnthirxdchiwit khux ehnri ecffriy richard aelacxhn phraoxrskhnsudthxng inpi kh s 1173 1174 ehnriephchiykbkarkxkbtkhxngphraoxrskhnotthngsamthimiphramardakhxyihkarchwyehlux ehnriprabkbtid phraxngkhihxphyphraoxrs thwaphramehsikhxngphraxngkhthukkhumkhngtlxdrchsmythiehluxkhxngehnri phraoxrskhxngehnri ehnri sinphrachnminpi kh s 1183 aelaphraoxrs ecffriy sinphrachnminpi kh s 1186 inpi kh s 1189 ehnriephchiykbkarkxkbtxikkhrng khrngniphraoxrskhnsudthxng cxhn rwmkxkbtdwy eruxngnithaihehnriicslayaelaehnrisinphrachnminpi kh s 1189 richardthi 1 richardkalngrbkarecimnamnrahwangkarrachaphieskinewstminsetxraexbbiy cakphngsawdarinkhriststwrrsthi 13 kstriykhntxma phraecarichardthi 1 esdcphrarachsmphphinpi kh s 1157 intxnthimichiwitxyu phraxngkhepnkstriythiidrbkhwamniymephraathrngepnnkrbthiprasbkhwamsaerc thwathrngthingpraethsiptxsuinsngkhramtangaedn saladinyudeyrusaelmidinpi kh s 1187 richardcungtngicwacaexamnklbkhunma phraxngkhthingxngkvsipthnthithithaidinpi kh s 1190 thrngipthungdinaednskdisiththiinpi kh s 1191 richardphxcaprasbkhwamsaercxyubangaetthrnglmehlwinkarekhayudeyrusaelm epahmayhlkkhxngphraxngkh inpi kh s 1192 phraxngkhthasnthisyyakbsaladin thwarahwangedinthangklbbanphraxngkhthukdyukhaehngxxsetriycbepnnkoths iphrfaprachachnkhxngrichardthukbibihcaykhaithkxnotephuxithtwphraxngkh inpi kh s 1194 hlngidrbkarplxytw richardklbipxngkvsaetipnanphraxngkhkxxkedinthangipnxrmxngdi phraxngkhimhnklbmamxngxngkvsxikely khnakalngpidlxmprasath richardthukyingdwyhnaim phraxngkhsinphrachnminpi kh s 1199 aelakhnthikhunkhrxngtaaehnngtxcakphraxngkhkhuxphraxnucha phraecacxhnxngkvsinkhriststwrrsthi 13phraecacxhn chychnakhxngfrngessthismrphumibuwinsdbaephnkarkhxngcxhnthicaexanxrmxngdiklbkhunmainpi kh s 1214 aelanaipsusngkhrambarxnkhrngthi 1 phraecacxhnphisucnihehnwathrngepnkstriythilmehlw tngaetpi kh s 1202 thungpi kh s 1204 kstriyfrngessiddinaedninfrngessswnihykhxngphraecacxhnip thaihphraxngkhklayepnthiruckinchuxcxhndabeba inpi kh s 1205 cxhnyngerimkhdaeyngkbphrasntapapaeruxngikhrkhwridepnxarchbichxpaehngaekhnethxrbrikhnihm khnthiphraecacxhneluxkhruxkhnthiphrasntapapaeluxk sngphlihinpi kh s 1208 phrasntapapaihxngkvstkxyuitkhasnghamthiimxnuyatprakxbphithikrrmthangsasna inpi kh s 1209 phraxngkhtdkhadcxhnxxkcaksasna aelasudthayinpi kh s 1213 cxhnthukbibbngkhbihepnfayyxm inkhnaediywkncxhnbadhmangkbiphrfaprachachnkhxngphraxngkhhlaykhn phwkekhaxangwaphraxngkhpkkhrxngeyiyngthrrachythiptiesthkdhmayskdina phraxngkhthukklawhawakhmkhuexaengincakprachachn khaytaaehnng eriykekbphasiephim aelatngkdhmaykhunmatamxaephxic pyharunaerngkhunhlngcxhnphyayamexadinaedninfrngessthiesiyipklbkhunmainpi kh s 1214 aetlmehlw khwamxdthnkhxngehlabarxnhmdlng cninpi kh s 1215 sngkhramklangemuxngkxubtikhun ineduxnmithunayn kh s 1215 cxhnthukbibihyxmrbkdbtrthiruckkninchuxaemknakhartathirnniyemd kdbtrthicahyudkarkrathamichxb sngesrimsiththiaelaxphisiththidngedimkhxngsasnckr thngyngkhumkhrxngsiththiaelaxphisiththikhxngchnchnsung mikarklawthungphxkhathixyuinemuxngdwy thwaprachachnthwipimidrbkarsnic thwaaemknakhartasngesrimhlkkarsakhykhuximihkstriyxngkvspkkhrxngtamxaephxic kstriytxngechuxfngkdhmaykhxngxngkvsaelathrrmeniymkhxngxngkvsehmuxnkbkhnxun xikthngaemknakhartayngimxnuyatihcbkum cakhuk hruxyudthrphybukhkhlthimixisrphaphodyimmikarphicarnakhditamkdhmaycakkhunnanghruximphankrabwnkarthangkdhmay phraecacxhnimyxmthatamenguxnikhkhxngaemknakharta phraxngkhcungyunxuththrntxprasntapapathiprakasihphraxngkhimthukphukmdodyaemknakharta karkxkbtxubtikhunxikkhrngaelakhrngniehlabarxnkbtechiyecachayfrngessmapkkhrxngxngkvs thwaphraecacxhnsinphrachnmineduxntulakhm kh s 1216xangxingA HISTORY OF ENGLAND IN THE MIDDLE AGES By Tim Lambert http www localhistories org normans html