สันนิบาตชาติ (อังกฤษ: League of Nations, LON;ฝรั่งเศส: Société des Nations, SDN, SdN) เป็นทั่วโลกแห่งแรกที่มีภารกิจหลักในการปกป้องสันติภาพของโลก ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 10 มกราคม ค.ศ. 1920 ภายหลังจากการประชุมสันติภาพปารีส ซึ่งสงครามโลกครั้งที่หนึ่งได้ยุติลง ในปี ค.ศ. 1919 วูดโรว์ วิลสัน ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐ ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพจากบทบาทของเขาในฐานะผู้ก่อตั้งสันนิบาต
สันนิบาตชาติ League of Nations (อังกฤษ) Société des Nations (ฝรั่งเศส) | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ธงกึ่งทางการใน ค.ศ. 1939 | |||||||||
แผนที่ประเทศสมาชิกสันนิบาต | |||||||||
สถานะ | |||||||||
สำนักงานใหญ่ | เจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ | ||||||||
ภาษาทางการ | อังกฤษ, ฝรั่งเศส | ||||||||
เลขาธิการ | |||||||||
• ค.ศ. 1920–1933 | |||||||||
• ค.ศ. 1933–1940 | |||||||||
• ค.ศ. 1940–1946 | |||||||||
รองเลขาธิการ | |||||||||
• ค.ศ. 1919–1923 | |||||||||
• ค.ศ. 1923–1933 | |||||||||
• ค.ศ. 1937–1940 | |||||||||
ก่อตั้ง | |||||||||
ยุคประวัติศาสตร์ | สมัยระหว่างสงคราม | ||||||||
10 มกราคม ค.ศ. 1920 | |||||||||
• ประชุมครั้งแรก | 16 มกราคม ค.ศ. 1920 | ||||||||
• ยุบ | 20 เมษายน ค.ศ. 1947 | ||||||||
|
เป้าหมายหลักขององค์กรนี้ ตามที่ได้ระบุไว้ใน รวมทั้งการป้องกันไม่ให้เกิดสงครามผ่านทางการรักษาความปลอดภัยโดยรวมและและการยุติข้อพิพาทระว่างประเทศผ่านทางการเจรจาและอนุญาโตตุลาการ ประเด็นอื่น ๆ ในเรื่องนี้และสนธิสัญญาที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สหภาพแรงงาน การปฏิบัติตัวต่อประชากรชาวพื้นเมือง การค้ามนุษย์และยาเสพติดที่ผิดกฎหมาย การค้าขายอาวุธปืน สุขภาพทั่วโลก เชลยสงคราม และการปกป้องชนกลุ่มน้อยในยุโรปลงนาม เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 1919 ซึ่งเป็นส่วนที่หนึ่งของสนธิสัญญาแวร์ซาย และมีผลใช้บังคับร่วมกับสนธิสัญญาอื่น ๆ เมื่อวันที่ 10 มกราคม ค.ศ. 1920 การประชุมครั้งแรกของคณะมนตรีสันนิบาตเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 มกราคม ค.ศ. 1920 การประชุมครั้งแรกของสมัชชาสันนิบาตได้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 1920
ปรัชญาด้านการทูตที่อยู่เบื้องหลังของสันนิบาตเป็นตัวแทนของการเปลี่ยนแปลงรากฐานจากช่วงร้อยปีก่อนหน้านี้ สันนิบาตนั้นไม่มีกองกำลังติดอาวุธเป็นของตัวเองและขึ้นอยู่กับประเทศต่าง ๆ ในฝ่ายสัมพันธมิตรที่เป็นฝ่ายชนะในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง (ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร อิตาลี และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสมาชิกถาวรของสภาบริหาร) เพื่อใช้บังคับในการลงมติ บทลงโทษด้วยการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ หรือให้จัดตั้งกองทัพเมื่อมีความจำเป็น มหาอำนาจมักจะไม่เต็มใจที่จะกระทำเช่นนั้น บทลงโทษนั้นอาจจะไปทำร้ายต่อประเทศสมาชิกในสันนิบาต ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เต็มใจที่จะปฏิบัติตาม ในช่วงสงครามอิตาลี-อะบิสซิเนียครั้งที่สอง เมื่อสันนิบาตได้กล่าวหาว่า ทหารอิตาลีได้กำหนดเป้าหมายโจมตีไปที่เต็นท์แพทย์ของ เบนิโต มุสโสลินีได้ตอบไปว่า "สันนิบาตนี้ดีนักหนา เมื่อนกกระจอกส่งเสียงร้องเอะอะโวยวาย แต่คงไม่ดีทั้งหมดเลย เมื่อนกอินทรีได้หลุดออกไป"
ด้วยองค์กรนี้ได้เติบโตขยายมากขึ้น ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน ค.ศ. 1934 ถึง 23 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1935 ได้มีสมาชิกถึง 58 สมาชิก ภายหลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นและบางส่วนก็ประสบความล้มเหลวในปี ค.ศ. 1920 ในท้ายที่สุด สันนิบาตได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ไม่สามารถขัดขวางความก้าวร้าวของฝ่ายอักษะในปี ค.ศ. 1930 ความน่าเชื่อถือขององค์กรได้ลดลงจากข้อเท็จจริงที่ว่าสหรัฐอเมริกาไม่เคยเข้าร่วมสันนิบาตและสหภาพโซเวียตได้เข้าร่วมในช่วงปลายปีและไม่นานก็ถูกขับไล่ในภายหลังจากได้เข้ารุกรานฟินแลนด์. เยอรมนีได้ถอนตัวออกจากสันนิบาตเช่นเดียวกับญี่ปุ่น อิตาลี สเปน และอื่น ๆ การริเริ่มของสงครามโลกครั้งที่สองได้แสดงให้เห็นว่า สันนิบาตได้ประสบความล้มเหลวในเป้าหมายหลักนั่นคือเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสงครามโลกในอนาคต สันนิบาติได้ดำรงอยู่ถึง 26 ปี สหประชาชาติ (UN) ได้เข้ามาแทนที่ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง และได้สืบทอดหน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ ที่ก่อตั้งขึ้นโดยสันนิบาต
ที่มา
แนวความคิดของประชาคมนานาชาติที่อยู่ร่วมกันอย่างสันติมีมานานแล้ว ในปี ค.ศ. 1795 อิมมานูเอล คานต์ เสนอให้มีการก่อตั้งองค์การที่จะไกล่เกลี่ยของพิพาทและรักษาสันติภาพระหว่างประเทศในงานเขียนของเขา Perpetual Peace: A Philosophical Sketch โดยเขาย้ำว่าแนวทางนี้ไม่ใช่การให้มีรัฐบาลปกครองโลก แต่ให้รัฐบาลของแต่ละประเทศเคารพพลเมืองของตน และต้อนรับชาวต่างประเทศในลักษณะที่เป็นมนุษย์ด้วยกัน สันติภาพระหว่างประเทศก็จะเกิดขึ้น
ต่อมาเมื่อเกิดสงครามนโปเลียนในศตวรรษที่ 19 ก็มีความพยายามร่วมมือกันเพื่อให้ยุโรปมีความมั่นคงยิ่งขึ้น รวมทั้งได้เกิดอนุสัญญาเจนีวาขึ้นเพื่อมนุษยธรรมระหว่างสงคราม และซึ่งกำหนดกฎเกณฑ์ของสงครามและการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างประเทศ และในปี ค.ศ. 1889 นักรณรงค์สันติภาพได้ก่อตั้ง (Inter-Parliamentary Union: IPU) ขึ้นเพื่อสนับสนุนการเจรจาและการทูตในการแก้ไขข้อพิพาท
ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 มีกลุ่มอำนาจใหญ่สองกลุ่มในยุโรปที่ขัดแย้งกัน และเป็นสาเหตุของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ซึ่งมีทหารเสียชีวิต 8.5 ล้านนาย ผู้บาดเจ็บ 21 ล้านคน และพลเรือนเสียชีวิต 10 ล้านคน สงครามนี้ได้ส่งผลกระทบในทุกด้านของชีวิต และทำให้เกิดกระแสต่อต้านสงครามทั่วโลก จนเกิดวลีเรียกสงครามโลกครั้งที่หนึ่งว่า "สงครามเพื่อที่จะหยุดสงครามทั้งหมด" และมีการสืบสวนถึงสาเหตุอย่างถี่ถ้วน ซึ่งพบว่าเกิดจาก การแข่งขันทางอาวุธ พันธมิตร การทูตลับ และเสรีภาพในการเข้าร่วมสงครามของรัฐต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ส่วนตน จึงมีการเสนอให้มีองค์การระหว่างประเทศที่จะทำหน้าที่หยุดสงครามในอนาคตด้วย การทูตอย่างเปิดเผย การตัดสินข้อพิพาท ความร่วมมือระหว่างชาติ การควบคุมสิทธิในการเข้าร่วมสงคราม และการลงโทษประเทศที่ทำผิดกฎ
บุคคลสำคัญที่มีส่วนทำให้สันนิบาตชาติเป็นความจริงขึ้นมาคือประธานาธิบดีวูดโรว์ วิลสันแห่งสหรัฐอเมริกา การตั้งสันนิบาตชาติเป็นหนึ่งในหลักการสิบสี่ข้อของวิลสัน ซึ่งข้อ 14 ระบุว่า การรวมตัวกันของประชาชาติควรจะก่อตั้งขึ้นภายใต้พันธะที่แน่นอนเพื่อจุดประสงค์ที่สามารถให้ความช่วยเหลือกันได้กับทุกฝ่าย และให้การรับรองแก่รัฐที่มีขนาดเล็กกว่าเทียบเท่ากับตนเอง โดยการจัดตั้งองค์การสันนิบาตชาติขึ้นมา โดยในระหว่าง ซึ่งมีสามประเทศใหญ่ผู้ชนะสงครามเข้าร่วมคือ อเมริกา ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร แนวความคิดการก่อตั้งสันนิบาตชาติของวิลสันได้รับการยอมรับ และกลายเป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญาแวร์ซายส์
ร่างขึ้นโดยคณะกรรมการพิเศษ โดยมี 44 ประเทศที่เซ็นยอมรับกติกานี้ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย อย่างไรก็ดีแม้วิลสันจะประสบผลสำเร็จในการผลักดันให้สันนิบาตชาติเป็นจริงขึ้นมา ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปีเดียวกัน แต่รัฐสภาอเมริกากลับมีมติไม่ยอมให้ประเทศอเมริกาเข้าร่วมสันนิบาต เนื่องจากเกรงว่าจะมีข้อผูกมัดตามมา ซึ่งจะเป็นสาเหตุที่ทำให้สันนิบาตล่มในเวลาต่อมา
สันนิบาตชาติเปิดประชุมคณะมนตรีหกวันหลังจากสนธิสัญญาแวร์ซายส์มีผลใช้บังคับ ต่อมาสำนักงานใหญ่ย้ายไปกรุงเจนีวา และมีการประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1920
ตราสัญลักษณ์
มีตราสัญลักษณ์กึ่งทางการเกิดขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1939 ซึ่งเป็นดาวห้าเหลี่ยมสองดวงในรูปห้าเหลี่ยมสีน้ำเงิน สื่อความหมายถึงทวีปในโลก 5 ทวีป และเผ่าพันธุ์ 5 เผ่า (ขาว เหลือง น้ำตาล ดำ แดง) ตามที่เชื่อกันในสมัยนั้น ด้านบนเป็นชื่อภาษาอังกฤษ (League of Nations) ส่วนด้านล่างเป็นภาษาฝรั่งเศส ("Société des Nations")
โครงสร้าง
องค์กรที่สำคัญมี 3 องค์กรคือ:
- (Assembly) เป็นที่ประชุมใหญ่ขององค์การ ประกอบด้วยผู้แทนของประเทศสมาชิกทั้งหมด มีหน้าที่พิจารณาปัญหาต่าง ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อสันติภาพของโลก
- (Council) ทำหน้าที่ควบคุมสมัชชา ประกอบด้วยสมาชิกถาวร 4 ประเทศ คือ ฝรั่งเศส อังกฤษ อิตาลี และญี่ปุ่น และสมาชิกประเภทไม่ถาวรที่มาจากการเลือกตั้งอีก 4 ประเทศ ทำหน้าที่พิจารณาเรื่องต่าง ๆ ที่เป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพและปฏิบัติตามข้อเสนอแนะของสมัชชา ทั้งนี้มติของคณะมนตรีซึ่งเป็นมติสูงสุด จะต้องเป็นฉันทามติเท่านั้นจึงสามารถใช้บังคับได้ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้สันนิบาตล่มเมื่อญี่ปุ่นและอิตาลีกลับกลายเป็นผู้คุกคามสันติภาพเสียเองในเวลาต่อมา
- (Secretary-General) เลขาธิการที่ได้รับเลือกมีหน้าที่จัดทำรายงาน รักษาเอกสาร อำนวยการวิจัย และประสานงานกับฝ่ายต่าง ๆ
และมีหลายหน่วยงานและคณะกรรมการ (commission) อื่น ๆ อีก ซึ่งบางองค์การเมื่อยุบสันนิบาตชาติก็ได้ถ่ายโอนไปในสังกัดของสหประชาชาติ
- (ต่อมากลายเป็นศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ) ทำหน้าที่พิจารณาคดีและตัดสินข้อพิพาทระหว่างประเทศ
- องค์การแรงงานระหว่างประเทศ มีผลงานโดดเด่นได้แก่ การรณรงค์ให้ทำงานแปดชั่วโมงต่อวัน การรณรงค์คัดค้านแรงงานเด็ก และสนับสนุนสิทธิของผู้หญิงในสถานที่ทำงาน
- (ต่อมากลายเป็นองค์การอนามัยโลก) มีผลงานโดดเด่นทางด้านการต่อสู้โรคเรื้อน มาลาเรีย ไข้เหลือง และไข้รากสาดใหญ่
- ทำหน้าที่ขจัดระบอบทาสและการบังคับขายประเวณี โดยเฉพาะในประเทศอาณานิคม
- มีผลงานโดดเด่นคือการนำเชลยศึกสงคราม 427,000 คน จากประเทศรัสเซียส่งกลับประเทศดั้งเดิม 26 ประเทศ
- (ดูที่ดินแดนใต้อาณัติ)
- ต่อมากลายเป็น ในสหประชาชาติ
- มีผลงานจัดตั้งอนุสัญญาเพื่อควบคุมท่าเรือ น่านน้ำ และทางรถไฟ ระหว่างประเทศ
- (ต่อมากลายเป็นองค์การยูเนสโก) ทำหน้าที่ปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา สนับสนุนความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย การแลกเปลี่ยนวารสารและสิ่งตีพิมพ์ระหว่างประเทศ
รัฐสมาชิก
เมื่อเริ่มต้นมีรัฐสมาชิกร่วมก่อตั้งสันนิบาต 42 ประเทศ แต่มีเพียง 23 ประเทศเท่านั้นที่เป็นสมาชิกจนกระทั่งยุบสันนิบาตในปี ค.ศ. 1946 ซึ่งประเทศไทยรวมอยู่ในประเทศเหล่านี้ด้วย
สันนิบาตมีจำนวนรัฐสมาชิกมากที่สุดคือ 58 ประเทศในช่วงปี ค.ศ. 1934-1935
ดินแดนใต้อาณัติ
เมื่อสงครามโลกครั้งที่หนึ่งจบลง ประเทศผู้แพ้ เช่น เยอรมนี และจักรวรรดิออตโตมันจำต้องสละอาณานิคมซึ่งเป็นบทลงโทษจากประเทศผู้ชนะสงคราม การประชุมสันติภาพที่ปารีสจึงได้ตกลงให้รัฐบาลต่าง ๆ บริหารอาณาบริเวณเหล่านี้ในนามของสันนิบาต เรียกว่า ดินแดนใต้อาณัติ (mandate) ซึ่งอำนาจของสันนิบาตในการจัดการได้รับการรับรองจากมาตรา 22 ของกติกาสันนิบาตชาติ โดยมีคณะกรรมการจัดการดินแดนใต้อาณัติเป็นผู้ดูแล
ดินแดนใต้อาณัติแบ่งออกเป็นสามประเภท A B C ตามมาตรา 22
- A คือดินแดนที่เคยอยู่ในจักรวรรดิออตโตมันมาก่อน ที่ "ต้องได้รับความช่วยเหลือจากผู้ได้รับมอบอาณัติเป็นระยะเวลาหนึ่งจนกว่าจะสามารถปกครองตนเองได้"
- B คือดินแดนที่เคยเป็นอาณานิคมของเยอรมนีมาก่อน ที่ "ต้อง[ได้รับการเข้ามาดูแล]เพื่อรักษาเสรีภาพทางมโนธรรมและศาสนา...และเพื่อยับยั้งการค้าทาส การค้าอาวุธ"
- C คือเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ที่ "สมควรที่สุดที่จะอยู่ใต้อาณัติ... เพื่อที่ชนพื้นเมืองจะได้รับการปกป้องดังที่กล่าวมาแล้ว[สำหรับ B]
ส่วนประเทศมหาอำนาจขณะนั้น 7 ประเทศได้ รับมอบอาณัติ (mandatory) คือมีอำนาจปกครองดินแดนใต้อาณัติของสันนิบาต ได้แก่ สหราชอาณาจักร, สหพันธ์แอฟริกาใต้, ฝรั่งเศส, เบลเยียม, นิวซีแลนด์, ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น
ดินแดนใต้อาณัติทั้งหมดไม่ได้รับเอกราชจวบจนสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุด ยกเว้นประเทศอิรักประเทศเดียวที่ได้รับเอกราชและเข้าร่วมสันนิบาตในปี ค.ศ. 1932 หลังจากสันนิบาตถูกยุบดินแดนใต้อาณัติเหล่านี้ถูกโอนไปให้สหประชาชาติดูแล เรียกว่า ดินแดนในภาวะทรัสตีของสหประชาชาติ (United Nations Trust Territories) และเป็นเอกราชทั้งหมดในปี ค.ศ. 1990
นอกจากดินแดนใต้อาณัติแล้ว สันนิบาตยังปกครองเป็นเวลา 15 ปี ก่อนจะจัดให้มีประชามติ ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เลือกที่จะกลับเข้าเป็นส่วนหนึ่งของเยอรมนี และยังปกครองเสรีนครดันท์ซิช (ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศโปแลนด์) ตั้งแต่ค.ศ. 1920 - 1939
อ้างอิง
- . United Nations Geneva. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-08-03. สืบค้นเมื่อ 6 June 2020.
- Christian, Tomuschat (1995). The United Nations at Age Fifty: A Legal Perspective. Martinus Nijhoff Publishers. p. 77. ISBN .
- "Covenant of the League of Nations". The Avalon Project. จากแหล่งเดิมเมื่อ 26 July 2011. สืบค้นเมื่อ 30 August 2011.
- See Article 23, "Covenant of the League of Nations". จากแหล่งเดิมเมื่อ 26 July 2011. สืบค้นเมื่อ 20 April 2009., "Treaty of Versailles". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 January 2010. สืบค้นเมื่อ 23 January 2010. and .
- Jahanpour, Farhang. "The Elusiveness of Trust: the experience of Security Council and Iran" (PDF). Transnational Foundation of Peace and Future Research. p. 2. (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 27 July 2014. สืบค้นเมื่อ 27 June 2008.
- Osakwe, C O (1972). The participation of the Soviet Union in universal international organizations.: A political and legal analysis of Soviet strategies and aspirations inside ILO, UNESCO and WHO. Springer. p. 5. ISBN .
- Pericles, Lewis (2000). Modernism, Nationalism, and the Novel. Cambridge University Press. p. 52. ISBN .
- Ginneken, Anique H. M. van (2006). Historical Dictionary of the League of Nations. Scarecrow Press. p. 174. ISBN .
- Ellis, Charles Howard (2003). The Origin, Structure & Working of the League of Nations. Lawbook Exchange Ltd. p. 169. ISBN .
- คานต์, อิมมานูเอล. . Mount Holyoke College. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-04-06. สืบค้นเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2011. (อังกฤษ)
- คานต์, อิมมานูแอล (1795). . สมาคมรัฐธรรมนูญ. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-09-30. สืบค้นเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2011. (อังกฤษ)
- (httpPages) /B5B92952225993B0C1256F2D00393560?OpenDocument "ก่อนจะเป็น "สันนิบาตชาติ"". สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ ณ กรุงเจนีวา. สืบค้นเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2011.
{{}}
: ตรวจสอบค่า|url=
((help))[](อังกฤษ) - วิลสัน, วูดโรว์ (8 มกราคม 1918). . The Avalon Project. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-04-06. สืบค้นเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2011. (อังกฤษ)
- . สหประชาชาติ. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-09-23. สืบค้นเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2011. (อังกฤษ)
- . มหาวิทยาลัยแห่งรัฐอินเดียนา. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-09-09. สืบค้นเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2011. (อังกฤษ)
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
snnibatchati xngkvs League of Nations LON frngess Societe des Nations SDN SdN epnthwolkaehngaerkthimipharkichlkinkarpkpxngsntiphaphkhxngolk kxtngkhunemuxwnthi 10 mkrakhm kh s 1920 phayhlngcakkarprachumsntiphaphparis sungsngkhramolkkhrngthihnungidyutilng inpi kh s 1919 wudorw wilsn prathanathibdiaehngshrth idrbrangwloneblsakhasntiphaphcakbthbathkhxngekhainthanaphukxtngsnnibatsnnibatchati League of Nations xngkvs Societe des Nations frngess thngkungthangkarin kh s 1939aephnthipraethssmachiksnnibatsthanasanknganihyecniwa switesxraelndphasathangkarxngkvs frngesselkhathikar kh s 1920 1933 kh s 1933 1940 kh s 1940 1946rxngelkhathikar kh s 1919 1923 kh s 1923 1933 kh s 1937 1940kxtngyukhprawtisastrsmyrahwangsngkhram snthisyyaaewrsay10 mkrakhm kh s 1920 prachumkhrngaerk16 mkrakhm kh s 1920 yub20 emsayn kh s 1947kxnhna thdipkhwamrwmmuxaehngyuorp shprachachatibthkhwamnixangxingkhristskrach khristthswrrs khriststwrrs sungepnsarasakhykhxngenuxha epahmayhlkkhxngxngkhkrni tamthiidrabuiwin rwmthngkarpxngknimihekidsngkhramphanthangkarrksakhwamplxdphyodyrwmaelaaelakaryutikhxphiphathrawangpraethsphanthangkarecrcaaelaxnuyaottulakar praednxun ineruxngniaelasnthisyyathiekiywkhxng idaek shphaphaerngngan karptibtitwtxprachakrchawphunemuxng karkhamnusyaelayaesphtidthiphidkdhmay karkhakhayxawuthpun sukhphaphthwolk echlysngkhram aelakarpkpxngchnklumnxyinyuorplngnam emuxwnthi 28 mithunayn kh s 1919 sungepnswnthihnungkhxngsnthisyyaaewrsay aelamiphlichbngkhbrwmkbsnthisyyaxun emuxwnthi 10 mkrakhm kh s 1920 karprachumkhrngaerkkhxngkhnamntrisnnibatekidkhunemuxwnthi 16 mkrakhm kh s 1920 karprachumkhrngaerkkhxngsmchchasnnibatidekidkhun emuxwnthi 15 phvscikayn kh s 1920 prchyadankarthutthixyuebuxnghlngkhxngsnnibatepntwaethnkhxngkarepliynaeplngrakthancakchwngrxypikxnhnani snnibatnnimmikxngkalngtidxawuthepnkhxngtwexngaelakhunxyukbpraethstang infaysmphnthmitrthiepnfaychnainsngkhramolkkhrngthihnung frngess shrachxanackr xitali aelayipun sungepnsmachikthawrkhxngsphabrihar ephuxichbngkhbinkarlngmti bthlngothsdwykarkhwabatrthangesrsthkic hruxihcdtngkxngthphemuxmikhwamcaepn mhaxanacmkcaimetmicthicakrathaechnnn bthlngothsnnxaccaiptharaytxpraethssmachikinsnnibat dngnnphwkekhacungimetmicthicaptibtitam inchwngsngkhramxitali xabissieniykhrngthisxng emuxsnnibatidklawhawa thharxitaliidkahndepahmayocmtiipthietnthaephthykhxng ebniot musosliniidtxbipwa snnibatnidinkhna emuxnkkracxksngesiyngrxngexaxaowyway aetkhngimdithnghmdely emuxnkxinthriidhludxxkip dwyxngkhkrniidetibotkhyaymakkhun tngaetwnthi 28 knyayn kh s 1934 thung 23 kumphaphnth kh s 1935 idmismachikthung 58 smachik phayhlngcakthiprasbkhwamsaercxyangoddednaelabangswnkprasbkhwamlmehlwinpi kh s 1920 inthaythisud snnibatidaesdngihehnaelwwa imsamarthkhdkhwangkhwamkawrawkhxngfayxksainpi kh s 1930 khwamnaechuxthuxkhxngxngkhkridldlngcakkhxethccringthiwashrthxemrikaimekhyekharwmsnnibataelashphaphosewiytidekharwminchwngplaypiaelaimnankthukkhbilinphayhlngcakidekharukranfinaelnd eyxrmniidthxntwxxkcaksnnibatechnediywkbyipun xitali sepn aelaxun karrierimkhxngsngkhramolkkhrngthisxngidaesdngihehnwa snnibatidprasbkhwamlmehlwinepahmayhlknnkhuxephuxpxngknimihekidsngkhramolkinxnakht snnibatiiddarngxyuthung 26 pi shprachachati UN idekhamaaethnthiinchwnghlngsngkhramolkkhrngthisxngsinsudlng aelaidsubthxdhnwynganaelaxngkhkrtang thikxtngkhunodysnnibatthimakardthiralukinoxkaskxtngsnnibat khninrupkhuxprathanathibdiwudorw wilsn phuesnxihkxtngxngkhkarnikhun aenwkhwamkhidkhxngprachakhmnanachatithixyurwmknxyangsntimimananaelw inpi kh s 1795 ximmanuexl khant esnxihmikarkxtngxngkhkarthicaiklekliykhxngphiphathaelarksasntiphaphrahwangpraethsinnganekhiynkhxngekha Perpetual Peace A Philosophical Sketch odyekhayawaaenwthangniimichkarihmirthbalpkkhrxngolk aetihrthbalkhxngaetlapraethsekharphphlemuxngkhxngtn aelatxnrbchawtangpraethsinlksnathiepnmnusydwykn sntiphaphrahwangpraethskcaekidkhun txmaemuxekidsngkhramnopeliyninstwrrsthi 19 kmikhwamphyayamrwmmuxknephuxihyuorpmikhwammnkhngyingkhun rwmthngidekidxnusyyaecniwakhunephuxmnusythrrmrahwangsngkhram aelasungkahndkdeknthkhxngsngkhramaelakariklekliykhxphiphathrahwangpraeths aelainpi kh s 1889 nkrnrngkhsntiphaphidkxtng Inter Parliamentary Union IPU khunephuxsnbsnunkarecrcaaelakarthutinkaraekikhkhxphiphath inchwngtnstwrrsthi 20 miklumxanacihysxngkluminyuorpthikhdaeyngkn aelaepnsaehtukhxngsngkhramolkkhrngthihnung sungmithharesiychiwit 8 5 lannay phubadecb 21 lankhn aelaphleruxnesiychiwit 10 lankhn sngkhramniidsngphlkrathbinthukdankhxngchiwit aelathaihekidkraaestxtansngkhramthwolk cnekidwlieriyksngkhramolkkhrngthihnungwa sngkhramephuxthicahyudsngkhramthnghmd aelamikarsubswnthungsaehtuxyangthithwn sungphbwaekidcak karaekhngkhnthangxawuth phnthmitr karthutlb aelaesriphaphinkarekharwmsngkhramkhxngrthtang ephuxpraoychnswntn cungmikaresnxihmixngkhkarrahwangpraethsthicathahnathihyudsngkhraminxnakhtdwy karthutxyangepidephy kartdsinkhxphiphath khwamrwmmuxrahwangchati karkhwbkhumsiththiinkarekharwmsngkhram aelakarlngothspraethsthithaphidkd bukhkhlsakhythimiswnthaihsnnibatchatiepnkhwamcringkhunmakhuxprathanathibdiwudorw wilsnaehngshrthxemrika kartngsnnibatchatiepnhnunginhlkkarsibsikhxkhxngwilsn sungkhx 14 rabuwa karrwmtwknkhxngprachachatikhwrcakxtngkhunphayitphnthathiaennxnephuxcudprasngkhthisamarthihkhwamchwyehluxknidkbthukfay aelaihkarrbrxngaekrththimikhnadelkkwaethiybethakbtnexng odykarcdtngxngkhkarsnnibatchatikhunma odyinrahwang sungmisampraethsihyphuchnasngkhramekharwmkhux xemrika frngess shrachxanackr aenwkhwamkhidkarkxtngsnnibatchatikhxngwilsnidrbkaryxmrb aelaklayepnswnhnungkhxngsnthisyyaaewrsays rangkhunodykhnakrrmkarphiess odymi 44 praethsthiesnyxmrbktikanisungrwmthungpraethsithydwy xyangirkdiaemwilsncaprasbphlsaercinkarphlkdnihsnnibatchatiepncringkhunma sungthaihekhaidrbrangwloneblsakhasntiphaphinpiediywkn aetrthsphaxemrikaklbmimtiimyxmihpraethsxemrikaekharwmsnnibat enuxngcakekrngwacamikhxphukmdtamma sungcaepnsaehtuthithaihsnnibatlminewlatxma snnibatchatiepidprachumkhnamntrihkwnhlngcaksnthisyyaaewrsaysmiphlichbngkhb txmasanknganihyyayipkrungecniwa aelamikarprachumsmchchaihykhrngaerkinpi kh s 1920trasylksnmitrasylksnkungthangkarekidkhunkhrngaerkinpi kh s 1939 sungepndawhaehliymsxngdwnginruphaehliymsinaengin suxkhwamhmaythungthwipinolk 5 thwip aelaephaphnthu 5 epha khaw ehluxng natal da aedng tamthiechuxkninsmynn danbnepnchuxphasaxngkvs League of Nations swndanlangepnphasafrngess Societe des Nations okhrngsrangpaaelednasiyng n nkhrecniwa epnsanknganihykhxngsnnibattngaetpi 1929 cnkrathngthukyub xngkhkrthisakhymi 3 xngkhkrkhux Assembly epnthiprachumihykhxngxngkhkar prakxbdwyphuaethnkhxngpraethssmachikthnghmd mihnathiphicarnapyhatang thixacsngphlkrathbtxsntiphaphkhxngolk Council thahnathikhwbkhumsmchcha prakxbdwysmachikthawr 4 praeths khux frngess xngkvs xitali aelayipun aelasmachikpraephthimthawrthimacakkareluxktngxik 4 praeths thahnathiphicarnaeruxngtang thiepnphykhukkhamtxsntiphaphaelaptibtitamkhxesnxaenakhxngsmchcha thngnimtikhxngkhnamntrisungepnmtisungsud catxngepnchnthamtiethanncungsamarthichbngkhbid sungepnehtuphlthithaihsnnibatlmemuxyipunaelaxitaliklbklayepnphukhukkhamsntiphaphesiyexnginewlatxma Secretary General elkhathikarthiidrbeluxkmihnathicdtharayngan rksaexksar xanwykarwicy aelaprasanngankbfaytang aelamihlayhnwynganaelakhnakrrmkar commission xun xik sungbangxngkhkaremuxyubsnnibatchatikidthayoxnipinsngkdkhxngshprachachati txmaklayepnsalyutithrrmrahwangpraeths thahnathiphicarnakhdiaelatdsinkhxphiphathrahwangpraeths xngkhkaraerngnganrahwangpraeths miphlnganoddednidaek karrnrngkhihthanganaepdchwomngtxwn karrnrngkhkhdkhanaerngnganedk aelasnbsnunsiththikhxngphuhyinginsthanthithangan txmaklayepnxngkhkarxnamyolk miphlnganoddednthangdankartxsuorkheruxn malaeriy ikhehluxng aelaikhraksadihy thahnathikhcdrabxbthasaelakarbngkhbkhaypraewni odyechphaainpraethsxananikhm miphlnganoddednkhuxkarnaechlysuksngkhram 427 000 khn cakpraethsrsesiysngklbpraethsdngedim 26 praeths duthidinaednitxanti txmaklayepn inshprachachati miphlngancdtngxnusyyaephuxkhwbkhumthaerux nanna aelathangrthif rahwangpraeths txmaklayepnxngkhkaryuensok thahnathipkpxngthrphysinthangpyya snbsnunkhwamrwmmuxrahwangmhawithyaly karaelkepliynwarsaraelasingtiphimphrahwangpraethsrthsmachikaephnthirthsmachikkhxngsnnibatinpi kh s 1920 rthsmachik xananikhmkhxngrthsmachik dinaednphayitxantisnnibatchati rththiimepnsmachik xananikhmkhxngrththiimepnsmachik emuxerimtnmirthsmachikrwmkxtngsnnibat 42 praeths aetmiephiyng 23 praethsethannthiepnsmachikcnkrathngyubsnnibatinpi kh s 1946 sungpraethsithyrwmxyuinpraethsehlanidwy snnibatmicanwnrthsmachikmakthisudkhux 58 praethsinchwngpi kh s 1934 1935dinaednitxantiemuxsngkhramolkkhrngthihnungcblng praethsphuaeph echn eyxrmni aelackrwrrdixxtotmncatxngslaxananikhmsungepnbthlngothscakpraethsphuchnasngkhram karprachumsntiphaphthipariscungidtklngihrthbaltang briharxanabriewnehlaniinnamkhxngsnnibat eriykwa dinaednitxanti mandate sungxanackhxngsnnibatinkarcdkaridrbkarrbrxngcakmatra 22 khxngktikasnnibatchati odymikhnakrrmkarcdkardinaednitxantiepnphuduael dinaednitxantiaebngxxkepnsampraephth A B C tammatra 22 A khuxdinaednthiekhyxyuinckrwrrdixxtotmnmakxn thi txngidrbkhwamchwyehluxcakphuidrbmxbxantiepnrayaewlahnungcnkwacasamarthpkkhrxngtnexngid B khuxdinaednthiekhyepnxananikhmkhxngeyxrmnimakxn thi txng idrbkarekhamaduael ephuxrksaesriphaphthangmonthrrmaelasasna aelaephuxybyngkarkhathas karkhaxawuth C khuxekaainmhasmuthraepsifikitthi smkhwrthisudthicaxyuitxanti ephuxthichnphunemuxngcaidrbkarpkpxngdngthiklawmaaelw sahrb B swnpraethsmhaxanackhnann 7 praethsid rbmxbxanti mandatory khuxmixanacpkkhrxngdinaednitxantikhxngsnnibat idaek shrachxanackr shphnthaexfrikait frngess ebleyiym niwsiaelnd xxsetreliy aelayipun dinaednitxantithnghmdimidrbexkrachcwbcnsngkhramolkkhrngthisxngsinsud ykewnpraethsxirkpraethsediywthiidrbexkrachaelaekharwmsnnibatinpi kh s 1932 hlngcaksnnibatthukyubdinaednitxantiehlanithukoxnipihshprachachatiduael eriykwa dinaedninphawathrstikhxngshprachachati United Nations Trust Territories aelaepnexkrachthnghmdinpi kh s 1990 nxkcakdinaednitxantiaelw snnibatyngpkkhrxngepnewla 15 pi kxncacdihmiprachamti sungprachakrswnihyeluxkthicaklbekhaepnswnhnungkhxngeyxrmni aelayngpkkhrxngesrinkhrdnthsich pccubnepnswnhnungkhxngpraethsopaelnd tngaetkh s 1920 1939xangxing United Nations Geneva khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2020 08 03 subkhnemux 6 June 2020 Christian Tomuschat 1995 The United Nations at Age Fifty A Legal Perspective Martinus Nijhoff Publishers p 77 ISBN 9789041101457 Covenant of the League of Nations The Avalon Project cakaehlngedimemux 26 July 2011 subkhnemux 30 August 2011 See Article 23 Covenant of the League of Nations cakaehlngedimemux 26 July 2011 subkhnemux 20 April 2009 Treaty of Versailles ekbcakaehlngedimemux 19 January 2010 subkhnemux 23 January 2010 and Jahanpour Farhang The Elusiveness of Trust the experience of Security Council and Iran PDF Transnational Foundation of Peace and Future Research p 2 PDF cakaehlngedimemux 27 July 2014 subkhnemux 27 June 2008 Osakwe C O 1972 The participation of the Soviet Union in universal international organizations A political and legal analysis of Soviet strategies and aspirations inside ILO UNESCO and WHO Springer p 5 ISBN 978 9028600027 Pericles Lewis 2000 Modernism Nationalism and the Novel Cambridge University Press p 52 ISBN 9781139426589 Ginneken Anique H M van 2006 Historical Dictionary of the League of Nations Scarecrow Press p 174 ISBN 9780810865136 Ellis Charles Howard 2003 The Origin Structure amp Working of the League of Nations Lawbook Exchange Ltd p 169 ISBN 9781584773207 khant ximmanuexl Mount Holyoke College khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2019 04 06 subkhnemux 26 phvscikayn 2011 xngkvs khant ximmanuaexl 1795 smakhmrththrrmnuy khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2019 09 30 subkhnemux 26 phvscikayn 2011 xngkvs httpPages B5B92952225993B0C1256F2D00393560 OpenDocument kxncaepn snnibatchati sanknganihyshprachachati n krungecniwa subkhnemux 26 phvscikayn 2011 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkha url help lingkesiy xngkvs wilsn wudorw 8 mkrakhm 1918 The Avalon Project khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 04 06 subkhnemux 26 phvscikayn 2011 xngkvs shprachachati khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 09 23 subkhnemux 26 phvscikayn 2011 xngkvs mhawithyalyaehngrthxinediyna khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 09 09 subkhnemux 26 phvscikayn 2011 xngkvs bthkhwamprawtisastrniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk