สมเด็จพระราชินีฮะซัยมาแห่งอิรัก หรือ เจ้าหญิงฮะซัยมา บินต์ นาศิร (พ.ศ. 2427 - พ.ศ. 2478) ทรงเป็นเจ้าหญิงอาหรับ และทรงเป็นสมเด็จพระราชินีพระองค์แรกและสุดท้ายแห่งซีเรีย ทรงเป็นสมเด็จพระราชินีพระองค์แรกแห่งอิรัก โดยเป็นพระมเหสีในพระเจ้าฟัยศ็อลที่ 1 แห่งอิรัก และทรงเป็นสมเด็จพระราชชนนีแห่งอิรักในรัชสมัยของพระเจ้าฆอซีแห่งอิรัก
สมเด็จพระราชินีฮะซัยมาแห่งอิรัก | |
---|---|
ฮะซัยมา บินต์ นาศิร (الملكة حزيمة بنت الشريف ناصر) สมเด็จพระราชินีฮะซัยมาแห่งอิรัก | |
ฮะซัยมา บินต์ นาศิร สมเด็จพระราชินีแห่งซีเรีย สมเด็จพระราชินีแห่งอิรัก สมเด็จพระราชชนนีแห่งอิรัก | |
ประสูติ | พ.ศ. 2427 เมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย |
สวรรคต | พ.ศ. 2478 แบกแดด ประเทศอิรัก (พระชนมายุ 51 พรรษา) |
พระราชสวามี | พระเจ้าฟัยศ็อลที่ 1 แห่งอิรัก |
พระราชบุตร | พระเจ้าฆอซีแห่งอิรัก |
สมเด็จพระราชินีฮะซัยมาแห่งอิรัก | |
ราชวงศ์ | (ฮาชิม) |
พระราชบิดา | นาศิร อิบต์ อะลี |
พระราชมารดา | ดิลเบอระห์ ฮะนุม |
พระราชประวัติ
เจ้าหญิงฮะซัยมา บินต์ นาศิร ประสูติในปีพ.ศ. 2427 ทรงเป็นธิดาในนาศิร อิบต์ อะลีกับดิลเบอระห์ ฮะนุม ทรงประสูติที่กรุงเมกกะ
ในปีพ.ศ. 2447 ทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าชายฟัยศ็อล บิน ฮุซัยน์ บิน อะลี อัลฮาชิมี พระโอรสในกับ มีพระโอรสรวมกัน 4 พระองค์
หลังจากการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง อาณาเขตปกครองของจักรวรรดิออตโตมันเดิมถูกแบ่งเป็นส่วนๆโดยชาติยุโรป หรือได้ประกาศเอกราช ในปีพ.ศ. 2463 เจ้าชายฟัยศ็อลทรงได้รับการสถาปนาเป็นแห่งซีเรีย และเจ้าหญิงฮะซัยมาจึงได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชินีแห่งซีเรีย เมื่อคำสั่งมาถึงพระสวามี พระนางจึงพาพระโอรสธิดาย้ายไปยังที่พำนักใหม่คือพระราชวังหลวงในกรุงดามัสกัส แต่น่าเสียดายที่ทรงครองราชสมบัติเพียง 4 เดือนเท่านั้น ราชอาณาจักรซีเรียถูกล้มล้างหลังจาก และทำให้พระเจ้าฟัยศ็อลและพระราชินีฮะซัยมาสูณเสียพระอิศริยยศไป
ในปีพ.ศ. 2464 รัฐบาลอังกฤษได้กราบบังคมทูลเชิญอดีตพระเจ้าฟัยศ็อลแห่งซีเรียไปครองราชบัลลังก์แห่งใหม่ที่ราชอาณาจักรอิรัก ที่ซึ่งได้รับอำนาจในการปกครองจากนานาชาติ พระองค์ทรงตอบรับและได้รับการสถาปนาเป็นพระมหากษัตริย์แห่งอิรัก อดีตพระราชินีฮะซัยมาแห่งซีเรียจึงได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชินีแห่งอิรักและพระราชวงศ์ได้ย้ายไปประทับที่กรุงแบกแดดเมืองหลวงแห่งใหม่ของราชอาณาจักร
พระเจ้าฟัยศ็อลที่ 1 แห่งอิรักเสด็จสวรรคตในวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2476 เจ้าชายฆอซี พระราชโอรสทรงครองราชบัลลังก์สืบต่อเป็น พระเจ้าฆอซีแห่งอิรัก พระนางจึงได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชชนนีแห่งอิรัก พระนางทรงดำรงพระชนม์ชีพทันพระราชพิธีอภิเษกสมรสของพระโอรสกับเจ้าหญิงอะลียะฮ์ บินต์ อะลีแห่งเฮแจซ
หลังจากพระโอรสครองราชย์ได้ 2 ปี สมเด็จพระราชชนนีฮะซัยมาแห่งอิรักสิ้นพระชนม์ในปีพ.ศ. 2478 ณ แบกแดด ประเทศอิรัก สิริพระชนมายุ 51 พรรษา
พระโอรส-ธิดา
พระนางกับพระเจ้าฟัยศ็อลที่ 1 แห่งอิรักมีพระโอรสธิดาร่วมกัน 4 พระองค์ได้แก่
พระนาม | ประสูติ | สิ้นพระชนม์ | คู่สมรส และพระโอรส-ธิดา | |
พ.ศ. 2449 | พ.ศ. 2479 | |||
พ.ศ. 2450 | พ.ศ. 2502 | |||
พ.ศ. 2453 | พ.ศ. 2477 | |||
พระเจ้าฆอซีแห่งอิรัก | พ.ศ. 2455 | 21 มีนาคมพ.ศ. 2482 | 4 เมษายนอภิเษกสมรส 25 มกราคม พ.ศ. 2477 เจ้าหญิงอะลียะฮ์ บินต์ อะลีแห่งเฮแจซ มีพระโอรส 1 พระองค์ ได้แก่ พระเจ้าฟัยศ็อลที่ 2 แห่งอิรัก |
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- http://en.wikipedia.org/wiki/Huzaima_bint_Nasser
- Masalha, N. (Oct., 1991). "Faisal's Pan-Arabism, 1921–33". Middle Eastern Studies. 27 (4): 679–693. JSTOR 4283470.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=
((help)) - Simon, Reeva S. (Jun., 1974). "The Hashemite 'Conspiracy': Hashemite Unity Attempts, 1921–1958". International Journal of Middle East Studies. 5 (3): 314–327. JSTOR 162381.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=
((help)) - Charles, Tripp (2007). A History of Iraq (3 ed.). New York: Cambridge University Press. ISBN .
ก่อนหน้า | สมเด็จพระราชินีฮะซัยมาแห่งอิรัก | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระอิศริยยศใหม่ สถาปนาราชอาณาจักรซีเรีย | (8 มีนาคม พ.ศ. 2463 - 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2463) | สิ้นสุด ถูกล้มล้าง | ||
พระอิศริยยศใหม่ สถาปนาราชอาณาจักรอิรัก | สมเด็จพระราชินีแห่งอิรัก (23 สิงหาคม พ.ศ. 2464 - 8 กันยายน พ.ศ. 2476) | เจ้าหญิงอะลียะฮ์ บินต์ อะลีแห่งเฮแจซ |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
smedcphrarachinihasymaaehngxirk hrux ecahyinghasyma bint nasir ph s 2427 ph s 2478 thrngepnecahyingxahrb aelathrngepnsmedcphrarachiniphraxngkhaerkaelasudthayaehngsieriy thrngepnsmedcphrarachiniphraxngkhaerkaehngxirk odyepnphramehsiinphraecafysxlthi 1 aehngxirk aelathrngepnsmedcphrarachchnniaehngxirkinrchsmykhxngphraecakhxsiaehngxirksmedcphrarachinihasymaaehngxirkhasyma bint nasir الملكة حزيمة بنت الشريف ناصر smedcphrarachinihasymaaehngxirkhasyma bint nasir smedcphrarachiniaehngsieriy smedcphrarachiniaehngxirk smedcphrarachchnniaehngxirkprasutiph s 2427 emkka praethssaxudixaraebiyswrrkhtph s 2478 aebkaedd praethsxirk phrachnmayu 51 phrrsa phrarachswamiphraecafysxlthi 1 aehngxirkphrarachbutrphraecakhxsiaehngxirksmedcphrarachinihasymaaehngxirkrachwngs hachim phrarachbidanasir xibt xaliphrarachmardadilebxrah hanumphrarachprawtiphraecafysxlthi 1 aehngsieriyaelaxirk ecahyinghasyma bint nasir prasutiinpiph s 2427 thrngepnthidainnasir xibt xalikbdilebxrah hanum thrngprasutithikrungemkka inpiph s 2447 thrngxphiesksmrskbecachayfysxl bin husyn bin xali xlhachimi phraoxrsinkb miphraoxrsrwmkn 4 phraxngkh hlngcakkarsinsudsngkhramolkkhrngthihnung xanaekhtpkkhrxngkhxngckrwrrdixxtotmnedimthukaebngepnswnodychatiyuorp hruxidprakasexkrach inpiph s 2463 ecachayfysxlthrngidrbkarsthapnaepnaehngsieriy aelaecahyinghasymacungidrbkarsthapnaepnsmedcphrarachiniaehngsieriy emuxkhasngmathungphraswami phranangcungphaphraoxrsthidayayipyngthiphankihmkhuxphrarachwnghlwnginkrungdamsks aetnaesiydaythithrngkhrxngrachsmbtiephiyng 4 eduxnethann rachxanackrsieriythuklmlanghlngcak aelathaihphraecafysxlaelaphrarachinihasymasunesiyphraxisriyysip inpiph s 2464 rthbalxngkvsidkrabbngkhmthulechiyxditphraecafysxlaehngsieriyipkhrxngrachbllngkaehngihmthirachxanackrxirk thisungidrbxanacinkarpkkhrxngcaknanachati phraxngkhthrngtxbrbaelaidrbkarsthapnaepnphramhakstriyaehngxirk xditphrarachinihasymaaehngsieriycungidrbkarsthapnaepnsmedcphrarachiniaehngxirkaelaphrarachwngsidyayipprathbthikrungaebkaeddemuxnghlwngaehngihmkhxngrachxanackr phraecafysxlthi 1 aehngxirkesdcswrrkhtinwnthi 8 knyayn ph s 2476 ecachaykhxsi phrarachoxrsthrngkhrxngrachbllngksubtxepn phraecakhxsiaehngxirk phranangcungidrbkarsthapnaepnsmedcphrarachchnniaehngxirk phranangthrngdarngphrachnmchiphthnphrarachphithixphiesksmrskhxngphraoxrskbecahyingxaliyah bint xaliaehngehaecs hlngcakphraoxrskhrxngrachyid 2 pi smedcphrarachchnnihasymaaehngxirksinphrachnminpiph s 2478 n aebkaedd praethsxirk siriphrachnmayu 51 phrrsaphraoxrs thidaphranangkbphraecafysxlthi 1 aehngxirkmiphraoxrsthidarwmkn 4 phraxngkhidaek phranam prasuti sinphrachnm khusmrs aelaphraoxrs thida1906 ph s 2449 1936 ph s 24791907 ph s 2450 1959 ph s 25021910 ph s 2453 1934 ph s 2477phraecakhxsiaehngxirk 1912 21 minakhm ph s 2455 1939 4 emsayn ph s 2482 xphiesksmrs 25 mkrakhm ph s 2477 ecahyingxaliyah bint xaliaehngehaecs miphraoxrs 1 phraxngkh idaek phraecafysxlthi 2 aehngxirkduephimphraecafysxlthi 1 aehngxirk phraecakhxsiaehngxirk rachxanackrxirkxangxinghttp en wikipedia org wiki Huzaima bint Nasser Masalha N Oct 1991 Faisal s Pan Arabism 1921 33 Middle Eastern Studies 27 4 679 693 JSTOR 4283470 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a trwcsxbkhawnthiin date help Simon Reeva S Jun 1974 The Hashemite Conspiracy Hashemite Unity Attempts 1921 1958 International Journal of Middle East Studies 5 3 314 327 JSTOR 162381 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a trwcsxbkhawnthiin date help Charles Tripp 2007 A History of Iraq 3 ed New York Cambridge University Press ISBN 978 0 521 87823 4 kxnhna smedcphrarachinihasymaaehngxirk thdipphraxisriyysihm sthapnarachxanackrsieriy 8 minakhm ph s 2463 24 krkdakhm ph s 2463 sinsud thuklmlangphraxisriyysihm sthapnarachxanackrxirk smedcphrarachiniaehngxirk 23 singhakhm ph s 2464 8 knyayn ph s 2476 ecahyingxaliyah bint xaliaehngehaecs