จักรพรรดินีมารีเยีย เฟโอโดรอฟนา (รัสเซีย: Maрия Фёлоровна, อักษรโรมัน: Mariya Fyodorovna; 26 พฤศจิกายน ค.ศ. 1847 – 13 ตุลาคม ค.ศ. 1928) พระอิสริยยศเมื่อแรกพระราชสมภพคือ เจ้าหญิงดักมาร์แห่งเดนมาร์ก เป็นจักรพรรดินีแห่งรัสเซีย ระหว่างปี 1881 ถึง 1894 ในฐานะพระมเหสีในจักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 3 พระองค์เป็นพระราชธิดาพระองค์ที่สองในพระเจ้าคริสเตียนที่ 9 แห่งเดนมาร์ก และลูอีเซอแห่งเฮ็สเซิน-คัสเซิล พระราชโอรสพระองค์โตของพระองค์คือ จักรพรรดินิโคลัสที่ 2 องค์พระประมุขรัสเซีย พระองค์สุดท้ายที่จักรพรรดินีทรงดำรงพระชนม์ชีพยืนยาวกว่าเป็นเวลาสิบปี หลังจากผู้ปฏิบัติการของพรรคบอลเชวิคลอบปลงพระชนม์จักรพรรดินิโคลัสและครอบครัวในปี 1918
จักรพรรดินีมารีเยีย เฟโอโดรอฟนา | |||||
---|---|---|---|---|---|
จักรพรรดินีมารีเยีย เฟโอโดรอฟนา ในปี 1881 | |||||
จักรพรรดินีแห่งรัสเซีย | |||||
ดำรงพระยศ | 13 มีนาคม 1881 – 1 พฤศจิกายน 1894 | ||||
ราชาภิเษก | 27 พฤษภาคม 1883 | ||||
พระราชสมภพ | เจ้าหญิงมารี โซฟี ฟรีเดอรีเคอ ดักมาร์แห่งชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์-เซอเนอปอร์-กลึคส์บวร์ค 26 พฤศจิกายน ค.ศ. 1847 , , ประเทศเดนมาร์ก | ||||
สวรรคต | 13 ตุลาคม ค.ศ. 1928 , , ประเทศเดนมาร์ก | (80 ปี)||||
ฝังพระศพ |
| ||||
คู่อภิเษก | จักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 3 แห่งรัสเซีย (สมรส 1866; เสียชีวิต 1894) | ||||
พระราชบุตร รายละเอียด | |||||
| |||||
พระราชบิดา | พระเจ้าคริสเตียนที่ 9 แห่งเดนมาร์ก | ||||
พระราชมารดา | ลูอีเซอแห่งเฮ็สเซิน-คัสเซิล | ||||
ศาสนา | รัสเซียออร์ทอดอกซ์ ก่อนหน้า ลูเทอแรน |
ครอบครัว
เจ้าหญิงดักมาร์ ซึ่งมีพระนามเต็มว่า มารี โซฟี ฟรีเดอรีเคอ ดักมาร์ ทรงได้รับการขนานพระนามตามบรรพสตรีผู้หนึ่งมีพระนามว่า เจ้าหญิงมารี โซฟี ฟรีเดอรีเคอแห่งเฮ็สเซิน-คัสเซิล (ค.ศ. 1767 – ค.ศ. 1852) พระราชชนนีพันปีหลวงแห่งเดนมาร์ก ต่อมาไม่นานพระบิดาในเจ้าหญิงดักมาร์ทรงเป็นรัชทายาทแห่งราชบัลลังก์เดนมาร์ก ทั้งนี้เป็นเพราะสิทธิในการสืบราชสมบัติของพระชายา ซึ่งเป็นพระราชนัดดาในพระเจ้าคริสเตียนที่ 8 เจ้าหญิงซึ่งประสูติในสายย่อยของรัฐเจ้าครองนครที่มีฐานะยากจน ทรงเข้ารับศีลจุ่มในลัทธิลูเธอรัน พระชนกของพระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งเดนมาร์กเมื่อปี ค.ศ. 1863 หลังจากการสวรรคตของพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 7 เนื่องมาจากความสัมพันธ์อันรุ่งโรจน์ของบรรดาพระราชโอรสและธิดากับพระราชวงศ์อื่นในทวีปยุโรปไม่ว่าจะเป็นการอภิเษกสมรสหรือการครองราชสมบัติ ทำให้พระองค์มีพระราชสมัญญาว่า "พระสัสสุระแห่งยุโรป" (Father-in-law of Europe)
ตลอดช่วงพระชนม์ชีพ เจ้าหญิงดักมาร์ทรงเป็นที่รู้จักว่า มารีเยีย เฟโอโดรอฟนา (ในภาษารัสเซีย Мария Фёдоровна) ซึ่งเป็นพระนามที่พระองค์ทรงใช้เมื่อเข้ารีตในคริสตจักรรัสเซียออร์ทอดอกซ์ก่อนการอภิเษกสมรสในปี ค.ศ. 1866 กับจักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 3 แห่งรัสเซีย ซึ่งในขณะนั้นทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นมกุฎราชกุมารแห่งรัสเซีย นอกจากนี้พระองค์ทรงเป็นที่รู้จักในครอบครัวว่า "มินนี่" (Minnie)
เจ้าหญิงดักมาร์ หรือ มารีเยีย เฟโอโดรอฟนาเป็นพระขนิษฐาในเจ้าหญิงอเล็กซานดรา พระมเหสีในพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 และพระราชชนนีของสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 ที่ช่วยอธิบายถึงความละม้ายคล้ายคลึงกันอย่างมากระหว่างจักรพรรดินิโคลัสที่ 2 และสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังเป็นพระขนิษฐาในพระเจ้าจอร์จที่ 1 แห่งกรีซ และ สมเด็จพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 8 ซึ่งเป็นพระเชษฐาพระองค์ใหญ่ อีกทั้งยังเป็นพระภคินีในเจ้าหญิงไธรา ดัชเชสแห่งคัมบาลันด์อีกด้วย
เป็นคู่หมั้นสองหน สุดท้ายเป็นเจ้าสาว
การถือกำเนิดของอุดมคติเกี่ยวกับความชื่นชอบสิ่งซึ่งเป็นของสลาฟในจักรวรรดิรัสเซียทำให้จักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 2 แห่งรัสเซียทรงเสาะหาเจ้าสาวให้กับ ในประเทศอื่นนอกเหนือไปจากรัฐเยอรมันต่าง ๆ ที่ได้ถวายพระชายาให้กับจักรพรรดิรัสเซีย อย่างเป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาเป็นเวลานาน ในปี ค.ศ. 1864 แกรนด์ดยุกนีโคไล หรือ ซึ่งรู้จักในหมู่พระประยูรญาติว่า "นิกซา" เสด็จเยือนประเทศเดนมาร์กและทรงหมั้นกับเจ้าหญิงดักมาร์ แต่พระองค์สิ้นพระชนม์ด้วยวัณโรค เมื่อวันที่ 22 เมษายน ค.ศ. 1865 ทั้งนี้ก่อนสิ้นพระชนม์ยังมีพระประสงค์ให้เจ้าหญิงทรงหมั้นกับแกรนด์ดยุกอะเลคซันดร์ ซึ่งต่อมาคือ จักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 3 พระอนุชาแทน เจ้าหญิงดักมาร์ทรงเสียพระทัยมากเมื่อพระคู่หมั้นสิ้นพระชนม์ พระองค์ทรงพระทัยสลายมากเมื่อเสด็จกลับสู่มาตุภูมิ พระประยูรญาติต่างทรงรู้สึกเป็นห่วงสุขภาพของเจ้าหญิง พระองค์ทรงรู้สึกเกี่ยวพันกับประเทศรัสเซียและนึกถึงประเทศที่ยิ่งใหญ่อยู่ไกลโพ้นที่จะเป็นบ้านใหม่ของพระองค์ การสูญเสียครั้งใหญ่นี้ทำให้ทรงใกล้ชิดกับพระชนกและชนนีของแกรนด์ดยุกนิโคไล และทรงได้รับพระราชหัตถเลขาจากจักรพรรดิอะเลคซันที่ 2 ซึ่งเนื้อความในนั้นเป็นคำปลอบใจจากพระจักรพรรดิ พระองค์ตรัสกับเจ้าหญิงด้วยความรักใคร่ว่าพระองค์ทรงหวังว่าเจ้าหญิงจะยังคงคิดว่าเป็นสมาชิกในพระราชวงศ์รัสเซียอยู่ ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1866 เมื่อแกรนด์ดยุกอะเลคซันดร์เสด็จเยือนประเทศเดนมาร์ก ทรงขออภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงดักมาร์ ทั้งสองพระองค์ประทับอยู่ในห้องของเจ้าหญิงเพื่อดูรูปต่าง ๆ ด้วยกัน
เจ้าหญิงดักมาร์เสด็จออกจากประเทศเดนมาร์กเมื่อวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 1866 ขณะนั้นท่ามกลางฝูงชนที่ยืนรายล้อมท่าเรือส่งเสด็จได้มียืนเฝ้าส่งเสด็จอยู่ด้วย เขาได้เขียนลงในสมุดบันทึกว่า "เมื่อวานนี้ ที่ท่าเรือ ขณะเจ้าหญิงเสด็จผ่านหน้าข้าพเจ้า ก็ทรงหยุดยืนและจับมือของข้าพเจ้า นัยน์ตาสองข้างเต็มไปด้วยน้ำตา ช่างเป็นสาวน้อยที่น่าสงสารอะไรเช่นนี้ พระผู้เป็นเจ้า โปรดทรงเมตตาและเห็นใจเจ้าหญิงด้วย เขาร่ำลือว่ามีราชสำนักอันงามสง่าในกรุงเซนต์ปีเตอส์เบิร์ก และครอบครัวของจักรพรรดินั้นดี แต่กระนั้นเจ้าหญิงยังคงต้องมุ่งหน้าไปยังประเทศที่ไม่ทรงคุ้นเคย ที่ซึ่งผู้คนแตกต่างและศาสนาก็แตกต่างเช่นกัน อีกทั้งจะไม่ทรงมีคนรู้จักอยู่ข้าง ๆ เลย"
เจ้าหญิงดักมาร์ทรงได้รับการต้อนรับอันอบอุ่นที่เมืองครอนสตัดท์จากสมเด็จพระจักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 2 และสมาชิกทุกพระองค์ในราชวงศ์รัสเซีย เจ้าหญิงทรงได้รับพระราชทานพระอิสริยยศเป็นแกรนด์ดัชเชสมารีเยีย เฟโอโดรอฟนาแห่งรัสเซีย งานพิธีราชาภิเษกสมรสอันหรูหราเกิดขึ้นในวันที่ 9 พฤศจิกายน [ตามปฎิทินเก่า: 28 ตุลาคม] ค.ศ. 1866 ณ โบสถ์หลวง พระราชวังฤดูหนาว กรุงเซนต์ปีเตอส์เบิร์ก หลังจากคืนวันอภิเษกสมรส แกรนด์ดยุกอเล็กซานเดอร์ทรงเขียนเล่าในสมุดบันทึกว่า "เราถอดรองเท้าและชุดคลุมประดับด้วยเงินออก และสัมผัสร่างกายที่รักของเราอยู่ด้านข้าง เรารู้สึกยังไงน่ะหรือ เราไม่ปรารถนาที่จะพรรณนาลงในนี้ หลังจากนั้นเราสองคนก็คุยกันอยู่เป็นเวลานาน" หลังจากงานเลี้ยงฉลองการอภิเษกสมรสทั้งหมดผ่านพ้นไป ทั้งสองพระองค์ก็ได้ย้ายไปยัง ในกรุงเซนต์ปีเตอส์เบิร์ก ซึ่งเป็นที่ประทับอีกต่อมา 15 ปี เมื่อมิได้เสด็จประพาสฤดูร้อนยัง อันเป็นตำหนักฤดร้อนอยู่ใน
พระราชบุตร
จักรพรรดิอะเลคซันดร์และจักรพรรดิมารีเยีย เฟโอโดรอฟนาแห่งรัสเซีย มีพระราชโอรสหกพระองค์และพระราชธิดาสองพระองค์ ดังนี้
- จักรพรรดินิโคลัสที่ 2 แห่งรัสเซีย (18 พฤษภาคม ค.ศ. 1868 – 17 กรกฎาคม ค.ศ. 1918)
- เสด็จขึ้นครองราชสมบัติสืบต่อพระบรมราชชนก เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 1894 และทรงสละราชสมบัติ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 1917
- ทรงอภิเษกสมรสกันในวันที่ 26 พฤศจิกายน ค.ศ. 1894 ณ โบสถ์หลวง พระราชวังฤดูหนาว กรุงเซนต์ปีเตอส์เบิร์ก กับ เจ้าหญิงวิคโทรีอา อาลิกซ์ เฮเลเนอ ลูอีเซอ เบียทริซแห่งเฮ็สเซินและไรน์ (6 มิถุนายน ค.ศ. 1872 – 17 กรกฎาคม ค.ศ. 1918) หลังจากการเข้ารีตในศาสนจักรออร์ทอดอกซ์รัสเซีย ทรงเปลี่ยนพระนามเป็น แกรนด์ดัชเชสอะเลคซันดรา เฟโอโดรอฟนาแห่งรัสเซีย เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 1894
- (7 มิถุนายน ค.ศ. 1869 – 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1870)
- (6 พฤษภาคม ค.ศ. 1871 – 9 สิงหาคม ค.ศ. 1899)
- (6 เมษายน ค.ศ. 1875 – 20 เมษายน ค.ศ. 1960)
- ทรงอภิเษกสมรสกันเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1894 ณ พระราชวังปีเตอร์ฮอฟ (Peterhof) ใกล้กับกรุงเซนต์ปีเตอส์เบิร์ก กับ (13 เมษายน ค.ศ. 1866 – 26 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1933)
- แกรนด์ดยุกมีฮาอิล อะเลคซันโดรวิชแห่งรัสเซีย (1 ธันวาคม ค.ศ. 1878 – 13 มิถุนายน ค.ศ. 1918)
- เสด็จขึ้นครองราชสมบัติหลังการสละราชสมบัติของพระเชษฐาธิราชเป็นแต่ในนาม ในวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 1917
- ทรงอภิเษกสมรสกันเมื่อในวันที่ 29 ตุลาคม ค.ศ. 1912 ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย กับ (9 กรกฎาคม ค.ศ. 1880 – 26 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1952) ได้รับการสถาปนาเป็น เคาน์เตสบราสโซวา เมื่อปี ค.ศ. 1928 และ เจ้าหญิงโรมานอฟสกายา-บราสโซวา เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ. 1935
- (13 มิถุนายน ค.ศ. 1882 – 24 พฤศจิกายน ค.ศ. 1960)
- ทรงอภิเษกสมรสครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 1901 ณ เมืองกัตชินา แต่ทรงหย่าร้างเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ค.ศ. 1916 กับ (21 พฤศจิกายน ค.ศ. 1868 – 11 มีนาคม ค.ศ. 1924)
- ทรงอภิเษกสมรสครั้งที่สองเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ค.ศ. 1916 ณ เคียฟ ประเทศยูเครน กับ นิโคไล อะเลคซันโดรวิช คูลีคอฟสกี (11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1882 – 11 สิงหาคม ค.ศ. 1958)
ซาเรฟนา
แกรนด์ดัชเชสมารีเยีย เฟโอโดรอฟนามีพระสิริโฉมและเป็นที่ชื่นชอบ ในช่วงแรกพระองค์ทรงเริ่มเรียนรู้ภาษารัสเซียและทรงพยายามทำความเข้าใจกับชาวรัสเซีย พระองค์ไม่ค่อยทรงแทรกแซงการเมือง โดยมากโปรดที่จะให้เวลาและกำลังพระวรกายกับครอบครัว การกุศล และงานด้านสังคมสำหรับตำแหน่งของพระองค์ ทั้งนี้ยังมีข้อยกเว้นหนึ่งคือ ความไม่ชอบในด้านสงครามต่อประเทศเยอรมนี อันเนื่องมาจากการผนวกดินแดนของเดนมาร์กเข้าไปในจักรวรรดิเยอรมันที่สถาปนาขึ้นมาใหม่
จักรพรรดินีแห่งรัสเซีย
ในตอนเช้าของวันที่ 13 มีนาคม ค.ศ. 1881 จักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 2 ขณะมีพระชนมพรรษา 62 พรรษา ทรงถูกปลงพระชนม์ในขณะเสด็จกลับมายังพระราชวังฤดูหนาวจากการตรวจแถวทหาร ต่อมาแกรนด์ดัชเชสมารีเยียได้ทรงบรรยายลงในสมุดบันทึกถึงความบาดเจ็บที่จักรพรรดิทรงได้รับเมื่อถูกนำกลับมายังพระราชวัง "พระเพลาทั้งสองข้างของพระองค์ถูกระเบิดอย่างรุนแรง และเปิดขึ้นมาถึงพระชานุ พระโลหิตไหลออกมามากมาย ประมาณครึ่งหนึ่งของฉลองพระบาทบู๊ตข้างขวา เหลืองแต่พระบาทขวาเพียงข้างเดียว" จักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 2 เสด็จสวรรคตในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา แม้ว่าประชาชนจะไม่รักใคร่ในจักรพรรดิองค์ใหม่ แต่ก็ชื่นชอบในสตรีหมายเลขหนึ่งองค์ใหม่อย่างมาก ดังที่บุคคลร่วมสมัยเดียวกับพระองค์กล่าวว่า "เป็นจักรพรรดินี อย่างแท้จริง" พระองค์เองทรงไม่พอพระทัยกับพระราชสถานะใหม่เท่าใดนัก ในสมุดบันทึกส่วนพระองค์ทรงเขียนว่า "ช่วงเวลาที่สุขและสงบที่สุดของเราหมดสิ้นลงแล้ว สันติสุขและความเงียบสงบมลายหายไปแล้ว ตอนนี้เราคงจะห่วงแต่เพียงซาชา (ซาชา คือพระนามลำลองที่ทรงเรียกสมเด็จพระราชสวามี จักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 3) เท่านั้น"
จักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 3 และจักรพรรดินีมารีเยียทรงเข้าพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 1883 ณ พระราชวังเครมลิน ที่กรุงมอสโก เพียงก่อนงานพิธีบรมราชาภิเษก การสบคบคิดวางแผนร้ายครั้งใหญ่ก็ถูกเปิดโปง ซึ่งทำให้การเฉลิมฉลองเงียบเหงาหดหู่ แต่ก็ยังมีแขกเหรื่อจำนวนกว่าแปดพันคนมาร่วมพระราชพิธีอันงามเลิศนี้ เนื่องมาจากภัยอันตรายต่อจักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 3 และจักรพรรดินีมารีเยีย ภายหลังงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก นายพลเชเรวิน ซึ่งเป็นหัวหน้าตำรวจรักษาความปลอดภัย ก็เร่งเร้าให้จักรพรรดิและครอบครัวเสด็จแปรพระราชฐานไปยัง ซึ่งเป็นที่ประทับอันปลอดภัยมากกว่า โดยตั้งอยู่ 50 กิโลเมตรนอกกรุงเซนต์ปีเตอส์เบิร์ก พระราชวังหลังใหญ่นี้มีห้องหับราวเก้าร้อยห้องและสร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดินีนาถเยกาเจรีนาที่ 2 พระราชวงศ์โรมานอฟได้ให้ความสนใจกับคำแนะนำดังกล่าวนี้ จักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 3 และจักรพรรดินีมารีเยียประทับอยู่ที่พระราชวังกัตชินาเป็นเวลาสิบสามปีและทรงเลี้ยงดูพระโอรสพระธิดาจนเจริญพระชนม์ในพระราชวังแห่งนี้ด้วย
ด้วยการคุ้มกันอย่างแน่นหนา จักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 3 และจักรพรรดินีมารีเยียเสด็จจากพระราชวังกัตชินาเป็นครั้งคราวเพื่อไปยังเมืองหลวงในการทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจทางพิธีการต่าง ๆ จักรพรรดินีทรงโปรดงานเลี้ยงเต้นรำและการพบปะสังสรรค์ในพระราชวังฤดูหนาวมาก แต่กระนั้นก็ยังสามารถจัดขึ้นในพระราชวังกัตชินา จักรพรรดิอะเลคซันดร์ทรงเคยร่วมสนุกกับนักดนตรี แม้ว่าภายหลังจะทรงส่งกลับทีละคร เมื่อสิ่งนี้ได้เกิดขึ้น จักรพรรดินีมารีเยียทรงทราบดีว่างานเลี้ยงได้สิ้นสุดลงแล้ว
ในรัชสมัยของจักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 3 กลุ่มต่อต้านระบอบกษัตริย์เงียบหายไปอย่างรวดเร็ว มีนักศึกษากลุ่มหนึ่งได้พยายามวางแผนลอบปลงพระชนม์จักรพรรดิในงานครบรอบหกปีการเสด็จสวรรคตของพระชนกนาถ จักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 2 ที่จัดขึ้น ณ ป้อมปีเตอร์และปอล มหาวิหารสุสานหลวงแห่งราชวงศ์โรมานอฟในกรุงเซนต์ปีเตอส์เบิร์ก เหล่านักวางแผนก่อการร้ายได้ยัดระเบิดลงไว้ในไส้ข้างในของหนังสือเรียนที่พวกเขาตั้งใจจะขว้างใส่สมเด็จพระจักรพรรดิขณะเสด็จกลับจากมหาวิหาร อย่างไรก็ตาม ตำรวจลับรัสเซียได้เปิดโปงแผนการร้ายก่อนที่ถูกทำให้สำเร็จลุล่วง นักศึกษาจำนวนห้าคนถูกจับแขวนคอ รวมทั้งอะเลคซันดร์ อุลยานอฟ เขามีน้องชายที่มีพรสววรค์คนหนึ่ง ซึ่งมีความคิดทางการเมืองในเชิงปฏิบัติดังเช่นพี่ชาย เด็กชายคนนั้นคือ วลาดิมีร์ เลนิน ซึ่งอีกหลายปีต่อมาได้ใช้เวลาส่วนมากกับขบวนการปฏิวัติใต้ดินอยู่ในทวีปยุโรปในการหล่อหลอมแนวคิดและทฤษฎีทางการเมืองที่เขาจะนำมาใช้ในประเทศรัสเซียหลังจากการกลับมาในปี ค.ศ. 1917 เพื่อล้างแค้นกับการตายของพี่ชาย
เมื่อเจ้าหญิงอเล็กซานดรา เจ้าหญิงแห่งเวลส ซึ่งเป็นพระเชษฐภคินีเสด็จพระราชดำเนินเยือนพระราชวังกัตชินาในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1894 พระองค์ทรงแปลกพระทัยที่ได้เห็นว่าพระพลานามัยของจักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 3 พระกนิษฐภรรดาอ่อนแอลงมาก โดยทรงดูเหมือนเหี่ยวแห้งลง ความสดชื่นบนพระปรางและความสดใสร่าเริงได้จางหายไป ในตอนนั้นจักรพรรดินีทรงทราบนานแล้วว่าจักรพรรดิทรงพระประชวรและจะมีพระชนม์ชีพอยู่ได้อีกไม่นาน จึงได้ทรงหันความสนใจมาที่มกุฎราชกุมารนิโคลัส พระราชโอรสองค์ใหญ่ ทั้งในเรื่องส่วนตัวและอนาคตของพระราชวงศ์ซึ่งตอนนี้ขึ้นอยู่กับพระองค์ มกุฎราชกุมารนิโคลัสทรงหมายมั่นมานานที่จะอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงอาลิกซ์แห่งเฮ็สเซินและโดยไรน์ ทั้งจักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 3 และจักรพรรดินีมารีเยียไม่ทรงเห็นด้วยกับการอภิเษกสมรสนี้ มกุฎราชกุมารนิโคลัส จึงทรงสรุปสถานการณ์ไว้ดังนี้ "เราอยากเดินไปสู่จุดหมายหนึ่ง แต่มันก็เห็นชัดว่าแม่อยากจะให้เราเดินไปอีกทาง ความฝันของเราคือวันหนึ่งจะแต่งงานกับอาลิกซ์" ทั้งจักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 3 และจักรพรรดินีมารีเยียทรงมองว่าเจ้าหญิงอาลิกซ์ทรงขี้อายและแปลกประหลาดในบางครั้ง ทั้งสองพระองค์ยังทรงกังวลว่าเจ้าหญิงวัยดรุณีพระองค์นี้ขาดคุณสมบัติคู่ควรในการเป็นจักรพรรดินีแห่งรัสเซียอีกด้วย พระชนกนาถและพระราชชนนีของมกุฎราชกุมารนิโคลาสทรงรู้จักกับเจ้าหญิงอาลิกซ์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์และทรงมีความรูสึกว่าเจ้าหญิงทรงมีอารมณ์รุนแรงผิดปกติและไม่เต็มบาท ทั้งสองพระองค์ทรงยอมให้มกุฎราชกุมารอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงอาลิกซ์อย่างลังเลพระทัย
จักรพรรดินีพันปีหลวง
จักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 3 เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 1894 ณ พระราชวังลิวาเดีย ที่ประทับตากอากาศบนแหลมไครเมีย ขณะมีพระชนมพรรษาได้ 49 พรรษา จักรพรรดินีมาเรียทรงเขียนลงในสมุดบันทึกส่วนพระองค์ว่า "เราเสียใจและท้อใจอย่างที่สุด แต่เมื่อเราเห็นรอยยิ้มที่เปี่ยมสุขและความสงบบนใบหน้าของเขาตามมานั้น มันก็ทำให้เราเข้มแข็งมากขึ้น" ในระยะเวลาที่ไม่สามารถปลอบโยนได้ของจักรพรรดินีมาเรีย เจ้าหญิงอเล็กซานดรา พระเชษฐภคินีและเจ้าชายแห่งเวลส์ (ต่อมาคือ สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7) พระเชษฐภรรดา (พี่เขย) ก็ได้เสด็จพระราชดำเนินมายังประเทศรัสเซียในอีกไม่กี่วันต่อมา เจ้าชายแห่งเวลส์ทรงวางกำหนดการพระราชพิธีพระบรมศพของจักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 3 และพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสสำหรับจักรพรรดินิโคลัสที่ 2 องค์พระประมุขแห่งรัสเซียพระองค์ใหม่กับเจ้าหญิงอลิกซ์
พระนัดดาเขยในจักรพรรดินีมารีเยีย ทรงบันทึกว่า พระองค์ทรงมีอิทธิพลอย่างมากในพระราชวงศ์ เซียร์เกย์ วิตต์ก็ได้ชื่นชมถึงไหวพริบปฏิภาณและทักษะทางการทูตของพระองค์ แต่กระนั้นพระองค์ทรงเข้ากับจักรพรรดินีอะเลคซันดรา เฟโอโดรอฟนาแห่งรัสเซีย พระสุณิสาได้ไม่ดีนัก ทั้งนี้อาจเป็นเพราะทำให้ต้องทรงรับผิดชอบกับความเศร้าโศกที่ประดังเข้ามาในครอบครัวของจักรพรรดินิโคลัส พระราชโอรสของพระองค์
ทันที่การเสด็จสวรรคตของจักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 3 ผ่านพ้นไป จักรพรรดินีมารีเยีย ซึ่งบัดนี้ทรงกลายเป็นสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงแห่งรัสเซียทรงมีมุมมองอนาคตที่สดใสมากกว่าเดิม ดังที่ตรัสว่า "ทุกสิ่งทุกอย่างจะราบรื่นดี" พระองค์ประทับอยู่ในประเทศรัสเซียมาเป็นเวลายี่สิบแปดปีแล้ว โดยช่วงสิบสามปีทรงเป็นจักรพรรดินี และในอีกสามสิบสี่ปีความเป็นม่ายยังคงรอพระองค์อยู่ ส่วนในสิบปีสุดท้ายเป็นการลี้ภัยอยู่นอกประเทศในมาตุภูมิ ในตอนสิ้นเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1894 จักรพรรดินีมารีเยียทรงย้ายไปประทับที่ ในกรุงเซนต์ปีเตอส์เบิร์ก จนกระทั่งการปฏิวัติเริ่มขึ้น พระองค์ทรงดำรงพระชนม์และปลอบพระทัยพระองค์เองได้อย่างเสรี และเมื่อเวลาผ่านเลยไปความกลัวได้ลดน้อยถอยลง ในฐานะที่ทรงเป็นจักรพรรดินีและพระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระองค์ไม่ได้ทรงตกเป็นเป้าหมายทางการเมืองสำหรับพวกมือสังหารในลัทธิสังคมนิยมและอนาธิปไตยอีกต่อไป
การปฏิวัติและลี้ภัย
การปฏิวัติเข้ามาที่ประเทศรัสเซียในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1917 หลังจากทรงพบกับจักรพรรดินิโคลัสที่ 2 พระราชโอรสซึ่งทรงถูกโค่นล้มลงมาจากราชบัลลังก์ในเมืองโมกิเลฟ จักรพรรดินีมาเรียประทับ ณ เมืองเคียฟอยู่ระยะหนึ่ง เพื่อปฏิบัติพระราชกรณียกิจในสภากาชาดต่อไป เมื่อมันเป็นอันตรายต่อการประทับอยู่ต่อ พระองค์จึงเสด็จจากเมืองไปยังเมืองไครเมียพร้อมกับสมาชิกราชวงศ์โรมานอฟที่ลี้ภัยพระองค์อื่น เมื่อประทับอยู่ที่ทะเลดำ พระองค์ก็ทรงได้รับรายงานว่าพระราชโอรส พระราชสุณิสาและพระราชนัดดาทรงถูกปลงพระชนม์ อย่างไรก็ตามพระองค์ทรงปฏิเสธว่ารายงานนั้นเป็นเพียงข่าวลือ ในวันหนึ่งหลังจากการปลงพระชนม์ครอบครัวของจักรพรรดิ จักรพรรดินีมารีเยียทรงได้รับข้อความฉบับหนึ่งจากนิคกีที่เป็น "ชายที่น่าประทับใจคนหนึ่ง" ซึ่งเล่าถึงชีวิตอันยากลำบากของครอบครัวพระราชโอรสในเมืองเยคาเตรินบุร์ก "และไม่มีใครช่วยหรือปลดปล่อยพวกนั้นได้เลย มีแต่พระผู้เป็นเจ้า พระองค์โปรดช่วยเหลือนิคกีผู้น่าสงสารและโชคร้าย ช่วยเขาในเวลายากลำบากมากด้วย" ในสมุดบันทึกส่วนพระองค์นั้น ยังทรงปลอบใจพระองค์เองว่า "เราแน่ใจว่าพวกนั้นได้ออกจากรัสเซียมาแล้วและตอนนี้พวกบอลเชวิคกำลังพยายามปิดบังความจริงเอาไว้" พระองค์ทรงยึดถือความเชื่อมั่นนี้อย่างเหนียวแน่นจนถึงวันสวรรคต ความจริงมันเจ็บปวดมากเกินกว่าพระองค์จะแบกรับไว้ได้ พระราชหัตถเลขาถึงพระราชโอรสและพระราชวงศ์ได้หายสาบสูญไปนับแต่นั้น แต่ในฉบับหนึ่งที่พบ พระองค์ทรงเขียนว่า "ลูกรู้ว่าความคิดและคำภาวนาของแม่ไม่เคยหายไปจากลูกเลย แม่คิดถึงลูกทั้งวันและคืนและบางครั้งรู้สึกเจ็บปวดที่ใจมากจนแม่แทบจะทนไม่ได้อีกต่อไปแล้ว แต่พระเจ้ามีพระเมตตา พระองค์จะประทานความเข้มแข็งให้เราผ่านพ้นความยากลำบากนี้ไปได้"
ถึงแม้ว่าจะมีการล้มล้างระบอบราชาธิปไตยไปในปี ค.ศ. 1917 แล้วก็ตาม ในตอนแรกสมเด็จพระจักรพรรดินีมาเรียทรงปฏิเสธที่จะเสด็จออกจากประเทศรัสเซีย พอในปี ค.ศ. 1919ด้วยการเร่งเร้าของสมเด็จพระราชินีอเล็กซานดรา จึงจำต้องเสด็จออกจากประเทศรัสเซียอย่างไม่เต็มพระทัย โดยการหลบหนีไปทางแหลมไครเมีย ประทับเรือหลวงของอังกฤษที่พระเจ้าจอร์จที่ 5 ผู้เป็นพระราชภาคินัย (เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระราชินีอเล็กซานดราฯ พระเชษฐภคินี) ออกจากทะเลดำ ไปสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และไปถึงกรุงลอนดอน ในที่สุด พระเจ้าจอร์จที่ 5 ทรงส่งเรือรบหลวง HMS Marlborough เพื่อจะช่วยชีวิตสมเด็จพระมาตุจฉา (น้า) หลังจากการประทับในฐานทัพเรืออังกฤษที่เกาะมอลตาและต่อมาในกรุงลอนดอนระยะหนึ่งแล้ว จึงเสด็จกลับประเทศเดนมาร์ก โดยทรงเลือกประทับอยู่ในตำหนักฮวิดอร์ ใกล้กับกรุงโคเปนเฮเกน เป็นที่ประทับถาวรแห่งใหม่ แม้ว่าสมเด็จพระราชินีอเล็กซานดราไม่ทรงเคยปฏิบัติพระองค์ไม่ดีกับพระกนิษฐาและทรงใช้เวลาในวันหยุดด้วยกันในตำหนักเล็กหลังหนึ่งในอังกฤษ จักรพรรดินีมารีเยียกลับทรงรู้สึกว่าตอนนี้ทรงเป็น "รอง"
ในระหว่างการลี้ภัยอยู่ในกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ก็ยังมีผู้อพยพชาวรัสเซียจำนวนมากมาย สำหรับพวกเขาจักรพรรดินีมารีเยียยังคงทรงเป็นจักรพรรดินี พระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงศักดิ์สูงสุดเหนือพระราชวงศ์รัสเซียทั้งมวล ผู้คนแสดงความเคารพและเห็นคุณค่าของพระองค์อย่างมาก รวมทั้งยังให้ความช่วยเหลือพระองค์อยู่บ่อยครั้ง สมัชชาสนับสนุนประมุขแห่งชาวรัสเซียทั้งมวลซึ่งได้จัดตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1921 ได้เสนอให้พระองค์เป็นผู้รักษาการณ์ชั่วคราวของราชบัลลังก์รัสเซีย แต่พระองค์ทรงปฏิเสธข้อเสนอนั้น พระองค์ไม่โปรดที่จะแทรกแซงเกมทางการเมืองและทรงให้คำตอบที่หลบเลี่ยงว่า "ไม่มีใครเห็นนิคกีถูกปลงพระชนม์" และดังนั้นจึงยังมีโอกาสเหลืออยู่ พระองค์ทรงให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ ซึ่งเป็นนักลงทุนที่ศึกษาเหตุการณ์เกี่ยวกับการปลงพระชนม์ครอบครัวของจักรพรรดิ ทั้งพระองค์และนิโคไลไม่เคยพบกันเลย โดยในตอนสุดท้ายแกรนด์ดัชเชสโอลกาทรงส่งโทรเลขมายังกรุงปารีส เพื่อยกเลิกนัดหมายในการเข้าเฝ้าจักรพรรดินี มันคงเป็นการยากมากสำหรับสตรีชราและเจ็บป่วยที่จะได้ยินเรื่องราวอันเลวร้ายของลูกชายและครอบครัว
การสวรรคตและการฝังพระศพ
ในเดือนพฤศจิกายม ค.ศ. 1925 สมเด็จพระราชินีอเล็กซานดรา พระราชชนนีในสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 ซึ่งเป็นพระเชษฐภคินีที่ทรงสนิทสนมมากที่สุดเสด็จสู่สวรรคาลัย สิ่งนี้นับเป็นการสูญเสียครั้งสุดท้ายเกินกว่าจักรพรรดินีมารีเยีย ผู้ทรงพระชราจะทรงทนรับได้ แกรนด์ดยุกอะเลคซันดร์ มีฮาอิโลวิชแห่งรัสเซีย ซึ่งเป็นพระชามาดา (ลูกเขย) ได้เขียนเกี่ยวกับบั้นปลายพระชนม์ชีพของจักรพรรดินีไว้ว่า "พระองค์ทรงพร้อมที่จะพบกับพระผู้สร้างแล้ว" จักรพรรดินีมารีเยียเสด็จสู่สวรรคาลัยในวันที่ 13 ตุลาคม ค.ศ. 1928 ณ พระตำหนักที่เคยทรงประทับร่วมกับสมเด็จพระราชินีอเล็กซานดรา ซึ่งเป็นพระเชษฐภคินี ที่เมืองฮวิดอร์ ใกล้กับกรุงโคเปนเฮเกน สิริพระชนมายุ 81 พรรษา พระองค์เป็นจักรพรรดินีในราชวงศ์โรมานอฟที่เสด็จสวรรคตเป็นคนสุดท้าย
หลังจากการทำพิธีทางศาสนาในโบสถ์ออร์ทอดอกซ์รัสเซียอะเลคซันดร์เนฟสกี พระบรมศพของจักรพรรดินีได้รับการบรรจุฝังอยู่ในวิหารหลวงรอสคิลด์ อันเป็นสุสานหลวงของพระราชวงศ์เดนนิช ตามพระชาติกำเนิดที่ทรงพระราชสมภพเป็นเจ้าหญิงเดนนิช ในปี ค.ศ. 2005 สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์กและประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซียและรัฐบาลของทั้งสองประเทศได้เห็นพ้องต้องกันว่าจะอัญเชิญพระบรมศพพระจักรพรรดินีคืนสู่กรุงเซนต์ปีเตอส์เบิร์กเพื่อให้สอดคล้องกับที่มีพระราชประสงค์จะได้รับการบรรจุฝังไว้เคียงข้างกับสมเด็จพระราชสวามี เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 23 ถึงวันที่ 28 กันยายน ค.ศ. 2006 ในพระราชพิธีพระบรมศพ ซึ่งบุคคลสำคัญระดับสูงมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก รวมทั้งเจ้าชายมกุฎราชกุมารและเจ้าหญิงมกุฎราชกุมารีแห่งเดนมาร์ก เจ้าชายและเจ้าหญิงไมเคิลแห่งเคนต์ เกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้น โดยมีกลุ่มคนยืนรอบโลงพระศพแน่นขนัดมากเสียจนทำให้นักการทูตหนุ่มชาวเดนมาร์กคนหนึ่งตกลงไปในช่องที่เตรียมไว้สำหรับบรรจุฝังพระบรมศพก่อนจะมีการวางหีบพระบรมศพลงมา ในวันที่ 26 กันยายน ค.ศ. 2006 พระบรมรูปของจักรพรรดินีมารีเยียใกล้กับพระตำหนักเล็ก อันเป็นที่ประทับประจำของพระองค์ในพระราชวังปีเตอร์โฮฟได้เปิดสู่สาธารณชน หลังจากการทำพิธีทางศาสนาในมหาวิหารเซนต์ไอแซ็ก พระบรมศพได้รับการบรรจุอยู่เคียงข้าง จักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 3 พระราชสวามี เมื่อวันที่28 กันยายน ค.ศ. 2006 ณ ป้อมปีเตอร์และปอล อันเป็นสุสานหลวงที่ประดิษฐานพระบรมศพจักรพรรดิและจักรพรรดินีแห่งรัสเซียทุกพระองค์ตั้งแต่จักรพรรดิปีเตอร์ที่ 1 มหาราชเป็นต้นมา รวมเป็นเวลา 140 ปีหลังจากการเสด็จมาประเทศรัสเซียเป็นครั้งแรกและเกือบ 78 ปีหลังจากการเสด็จสู่สวรรคาลัย
พระอิสริยยศ
- ค.ศ. 1847 – ค.ศ. 1853: เจ้าหญิงดักมาร์แห่งชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์-เซินเนอปอร์-กลึคส์บวร์ค
(Her Serene Highness Princess Dagmar of Schleswig-Holstein-Sonderburg-Glücksburg) - ค.ศ. 1853 – ค.ศ. 1858: เจ้าหญิงดักมาร์แห่งเดนมาร์ก (Her Highness Princess Dagmar of Denmark)
- ค.ศ. 1858 – ค.ศ. 1866: เจ้าหญิงดักมาร์แห่งเดนมาร์ก (Her Royal Highness Princess Dagmar of Denmark)
- ค.ศ. 1866 – ค.ศ. 1881: แกรนด์ดัชเชสมารีเยีย เฟโอโดรอฟนา ซาเรฟนาแห่งรัสเซีย
(Her Imperial Highness Grand Duchess Maria Feodorovna, Tsarevna of Russia) - ค.ศ. 1881 – ค.ศ. 1894: จักรพรรดินีแห่งรัสเซีย (Her Imperial Majesty The Empress of Russia)
- ค.ศ. 1894 – ค.ศ. 1928 : จักรพรรดินีมารีเยีย เฟโอโดรอฟนา พระบรมราชชนนีพันปีหลวงแห่งรัสเซีย
(Her Imperial Majesty The Dowager Empress Maria Feodorovna of Russia)
อ้างอิง
- Empress Marie Feodorovna's Favorite Residences in Russia and in Denmark, p.55
- A Royal Family, pp.171-172
- ibid p.173
- Paul Theroff (2007). . An Online Gotha. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-03-15. สืบค้นเมื่อ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2550.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - A Royal Family, p.175
- ibid p.176
- ibid p.179
- ibid p.184
- ibid p.184
- ibid p.185
- The Diaries of Empress Marie Feodorovna, p.239
- A Royal Family, p.197
- Empress Maria Fiodorovna, p.142
- Empress Maria Fiodorovna, p.142
- พิธีกรรมทางศาสนาจำนวนมาก 2009-04-19 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-12-08. สืบค้นเมื่อ 2007-08-25.
บรรณานุกรม
- A Royal Family - The Story of Christian IX and his European descendants, by Anna Lerche and Marcus Mandal. - ในบทที่ชื่อ "ความรักและการปฏิวัติ - โชคชะตาของดักมาร์ในช่วงความยิ่งใหญ่และความเสื่อมของจักรวรรดิรัสเซีย" ข้อมูลที่ดีเลิศจากการเข้าถึงเอกสารลับของพระราชวงศ์และการสัมภาษณ์สมาชิกพระราชวงศ์ต่างๆ ของยุโรป
- Empress Maria Fiodorovna, by A.I. Barkovets and V.M.Tenikhina, Abris Publishers, St.Petersburg, 2006.
- Empress Maria Feodorovna's Favourite Residences in Russia and Denmark, by Galina Korneva and Tatiana Cheboksarova, Liki Rossi, St.Petersburg, 2006.
- Little Mother of Russia: A Biography of Empress Marie Fedorovna, by Coryne Hall. - เป็นข้อมูลทางด้านอัตชีวประวัติมาตรฐานของจักรพรรดินีมารีเยีย เฟโอโดรอฟนา
- The Court of the Last Tsar, by Gregory King. - ข้อมูลเกี่ยวกับบทบาทของจักรพรรดินีพันปีหลวงในราชสำนักของจักรพรรดินิโคลัสที่ 2 พระราชโอรส และความไม่ชอบและไม่ไว้วางใจในจักรพรรดินีอะเลคซันดรา
แหล่งข้อมูลอื่น
- Mother of Last Russian Tsar to Be Reburied 2008-01-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - สำนักข่าวมอสโก
- /(เดนมาร์ก)/(อังกฤษ) Website of the Danish Cultural Society Dagmaria 2007-09-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (รัสเซีย)
- Information about the reburial 2009-04-19 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - กระทรวงการต่างประเทศของเดนมาร์ก
ก่อนหน้า | จักรพรรดินีมารีเยีย เฟโอโดรอฟนาแห่งรัสเซีย (ดักมาร์แห่งเดนมาร์ก) | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
เจ้าหญิงมารีแห่งเฮ็สเซินและโดยไรน์ (มาเรีย อะเลคซันดรอฟนา) | จักรพรรดินีแห่งรัสเซีย (14 มีนาคม ค.ศ. 1881 – 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 1894) | เจ้าหญิงอาลิกซ์แห่งเฮ็สเซินและโดยไรน์ (อเลคซันดรา เฟโอโดรอฟนา) |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
ckrphrrdinimarieyiy efoxodrxfna rsesiy Mariya Fyolorovna xksrormn Mariya Fyodorovna 26 phvscikayn kh s 1847 13 tulakhm kh s 1928 phraxisriyysemuxaerkphrarachsmphphkhux ecahyingdkmaraehngednmark epnckrphrrdiniaehngrsesiy rahwangpi 1881 thung 1894 inthanaphramehsiinckrphrrdixaelkhsndrthi 3 phraxngkhepnphrarachthidaphraxngkhthisxnginphraecakhrisetiynthi 9 aehngednmark aelaluxiesxaehngehsesin khsesil phrarachoxrsphraxngkhotkhxngphraxngkhkhux ckrphrrdiniokhlsthi 2 xngkhphrapramukhrsesiy phraxngkhsudthaythickrphrrdinithrngdarngphrachnmchiphyunyawkwaepnewlasibpi hlngcakphuptibtikarkhxngphrrkhbxlechwikhlxbplngphrachnmckrphrrdiniokhlsaelakhrxbkhrwinpi 1918ckrphrrdinimarieyiy efoxodrxfnackrphrrdinimarieyiy efoxodrxfna inpi 1881ckrphrrdiniaehngrsesiydarngphrays13 minakhm 1881 1 phvscikayn 1894rachaphiesk27 phvsphakhm 1883phrarachsmphphecahyingmari osfi friedxriekhx dkmaraehngchelswich hxlchitn esxenxpxr klukhsbwrkh 26 phvscikayn kh s 1847 1847 11 26 praethsednmarkswrrkht13 tulakhm kh s 1928 1928 10 13 80 pi praethsednmarkfngphrasph rxskild 1928 2006 esntpietxsebirk tngaet 2006 khuxphieskckrphrrdixaelkhsndrthi 3 aehngrsesiy smrs 1866 esiychiwit 1894 phrarachbutr raylaexiydckrphrrdiniokhlsthi 2 aehngrsesiy aekrnddyukmihaxil xaelkhsnodrwichphranametmmari osfi friedxriekhx dkmarphrarachbidaphraecakhrisetiynthi 9 aehngednmarkphrarachmardaluxiesxaehngehsesin khsesilsasnarsesiyxxrthxdxks kxnhna luethxaernkhrxbkhrwecahyingdkmar sungmiphranametmwa mari osfi friedxriekhx dkmar thrngidrbkarkhnanphranamtambrrphstriphuhnungmiphranamwa ecahyingmari osfi friedxriekhxaehngehsesin khsesil kh s 1767 kh s 1852 phrarachchnniphnpihlwngaehngednmark txmaimnanphrabidainecahyingdkmarthrngepnrchthayathaehngrachbllngkednmark thngniepnephraasiththiinkarsubrachsmbtikhxngphrachaya sungepnphrarachnddainphraecakhrisetiynthi 8 ecahyingsungprasutiinsayyxykhxngrthecakhrxngnkhrthimithanayakcn thrngekharbsilcuminlththiluethxrn phrachnkkhxngphraxngkhthrngepnphramhakstriyaehngednmarkemuxpi kh s 1863 hlngcakkarswrrkhtkhxngphraecaefredxrikthi 7 enuxngmacakkhwamsmphnthxnrungorcnkhxngbrrdaphrarachoxrsaelathidakbphrarachwngsxuninthwipyuorpimwacaepnkarxphiesksmrshruxkarkhrxngrachsmbti thaihphraxngkhmiphrarachsmyyawa phrasssuraaehngyuorp Father in law of Europe tlxdchwngphrachnmchiph ecahyingdkmarthrngepnthiruckwa marieyiy efoxodrxfna inphasarsesiy Mariya Fyodorovna sungepnphranamthiphraxngkhthrngichemuxekharitinkhristckrrsesiyxxrthxdxkskxnkarxphiesksmrsinpi kh s 1866 kbckrphrrdixaelkhsndrthi 3 aehngrsesiy sunginkhnannthrngdarngphraxisriyysepnmkudrachkumaraehngrsesiy nxkcakniphraxngkhthrngepnthiruckinkhrxbkhrwwa minni Minnie ecahyingdkmar hrux marieyiy efoxodrxfnaepnphrakhnisthainecahyingxelksandra phramehsiinphraecaexdewirdthi 7 aelaphrarachchnnikhxngsmedcphraecacxrcthi 5 thichwyxthibaythungkhwamlamaykhlaykhlungknxyangmakrahwangckrphrrdiniokhlsthi 2 aelasmedcphraecacxrcthi 5 idepnxyangdi nxkcakniyngepnphrakhnisthainphraecacxrcthi 1 aehngkris aela smedcphraecaefredxrikthi 8 sungepnphraechsthaphraxngkhihy xikthngyngepnphraphkhiniinecahyingithra dchechsaehngkhmbalndxikdwyepnkhuhmnsxnghn sudthayepnecasawkarthuxkaenidkhxngxudmkhtiekiywkbkhwamchunchxbsingsungepnkhxngslafinckrwrrdirsesiythaihckrphrrdixaelkhsndrthi 2 aehngrsesiythrngesaahaecasawihkb inpraethsxunnxkehnuxipcakrtheyxrmntang thiidthwayphrachayaihkbckrphrrdirsesiy xyangepnthrrmeniymptibtimaepnewlanan inpi kh s 1864 aekrnddyukniokhil hrux sungruckinhmuphraprayuryatiwa niksa esdceyuxnpraethsednmarkaelathrnghmnkbecahyingdkmar aetphraxngkhsinphrachnmdwywnorkh emuxwnthi 22 emsayn kh s 1865 thngnikxnsinphrachnmyngmiphraprasngkhihecahyingthrnghmnkbaekrnddyukxaelkhsndr sungtxmakhux ckrphrrdixaelkhsndrthi 3 phraxnuchaaethn ecahyingdkmarthrngesiyphrathymakemuxphrakhuhmnsinphrachnm phraxngkhthrngphrathyslaymakemuxesdcklbsumatuphumi phraprayuryatitangthrngrusukepnhwngsukhphaphkhxngecahying phraxngkhthrngrusukekiywphnkbpraethsrsesiyaelanukthungpraethsthiyingihyxyuiklophnthicaepnbanihmkhxngphraxngkh karsuyesiykhrngihynithaihthrngiklchidkbphrachnkaelachnnikhxngaekrnddyukniokhil aelathrngidrbphrarachhtthelkhacakckrphrrdixaelkhsnthi 2 sungenuxkhwaminnnepnkhaplxbiccakphrackrphrrdi phraxngkhtrskbecahyingdwykhwamrkikhrwaphraxngkhthrnghwngwaecahyingcayngkhngkhidwaepnsmachikinphrarachwngsrsesiyxyu ineduxnmithunayn kh s 1866 emuxaekrnddyukxaelkhsndresdceyuxnpraethsednmark thrngkhxxphiesksmrskbecahyingdkmar thngsxngphraxngkhprathbxyuinhxngkhxngecahyingephuxduruptang dwykn aekrnddchechsmarieyiyaelaaekrnddyukniokhil ecahyingdkmaresdcxxkcakpraethsednmarkemuxwnthi 1 knyayn kh s 1866 khnannthamklangfungchnthiyunraylxmthaeruxsngesdcidmiyunefasngesdcxyudwy ekhaidekhiynlnginsmudbnthukwa emuxwanni thithaerux khnaecahyingesdcphanhnakhapheca kthrnghyudyunaelacbmuxkhxngkhapheca nyntasxngkhangetmipdwynata changepnsawnxythinasngsarxairechnni phraphuepneca oprdthrngemttaaelaehnicecahyingdwy ekharaluxwamirachsankxnngamsngainkrungesntpietxsebirk aelakhrxbkhrwkhxngckrphrrdinndi aetkrannecahyingyngkhngtxngmunghnaipyngpraethsthiimthrngkhunekhy thisungphukhnaetktangaelasasnakaetktangechnkn xikthngcaimthrngmikhnruckxyukhang ely ecahyingdkmarthrngidrbkartxnrbxnxbxunthiemuxngkhrxnstdthcaksmedcphrackrphrrdixaelkhsndrthi 2 aelasmachikthukphraxngkhinrachwngsrsesiy ecahyingthrngidrbphrarachthanphraxisriyysepnaekrnddchechsmarieyiy efoxodrxfnaaehngrsesiy nganphithirachaphiesksmrsxnhruhraekidkhuninwnthi 9 phvscikayn tampdithineka 28 tulakhm kh s 1866 n obsthhlwng phrarachwngvduhnaw krungesntpietxsebirk hlngcakkhunwnxphiesksmrs aekrnddyukxelksanedxrthrngekhiynelainsmudbnthukwa erathxdrxngethaaelachudkhlumpradbdwyenginxxk aelasmphsrangkaythirkkhxngeraxyudankhang erarusukyngingnahrux eraimprarthnathicaphrrnnalnginni hlngcaknnerasxngkhnkkhuyknxyuepnewlanan hlngcaknganeliyngchlxngkarxphiesksmrsthnghmdphanphnip thngsxngphraxngkhkidyayipyng inkrungesntpietxsebirk sungepnthiprathbxiktxma 15 pi emuxmiidesdcpraphasvdurxnyng xnepntahnkvdrxnxyuinphrarachbutrckrphrrdixaelkhsndraelackrphrrdimarieyiy efoxodrxfnaaehngrsesiy miphrarachoxrshkphraxngkhaelaphrarachthidasxngphraxngkh dngni ckrphrrdinimarieyiy efoxodrxfnaaelaphrarachwngsckrphrrdiniokhlsthi 2 aehngrsesiy 18 phvsphakhm kh s 1868 17 krkdakhm kh s 1918 esdckhunkhrxngrachsmbtisubtxphrabrmrachchnk emuxwnthi 1 phvscikayn kh s 1894 aelathrngslarachsmbti emuxwnthi 15 minakhm kh s 1917 thrngxphiesksmrskninwnthi 26 phvscikayn kh s 1894 n obsthhlwng phrarachwngvduhnaw krungesntpietxsebirk kb ecahyingwikhothrixa xaliks ehelenx luxiesx ebiythrisaehngehsesinaelairn 6 mithunayn kh s 1872 17 krkdakhm kh s 1918 hlngcakkarekharitinsasnckrxxrthxdxksrsesiy thrngepliynphranamepn aekrnddchechsxaelkhsndra efoxodrxfnaaehngrsesiy emuxwnthi 2 phvscikayn kh s 1894 7 mithunayn kh s 1869 2 phvsphakhm kh s 1870 6 phvsphakhm kh s 1871 9 singhakhm kh s 1899 6 emsayn kh s 1875 20 emsayn kh s 1960 thrngxphiesksmrsknemuxwnthi 6 singhakhm kh s 1894 n phrarachwngpietxrhxf Peterhof iklkbkrungesntpietxsebirk kb 13 emsayn kh s 1866 26 kumphaphnth kh s 1933 aekrnddyukmihaxil xaelkhsnodrwichaehngrsesiy 1 thnwakhm kh s 1878 13 mithunayn kh s 1918 esdckhunkhrxngrachsmbtihlngkarslarachsmbtikhxngphraechsthathirachepnaetinnam inwnthi 15 minakhm kh s 1917 thrngxphiesksmrsknemuxinwnthi 29 tulakhm kh s 1912 n krungewiynna praethsxxsetriy kb 9 krkdakhm kh s 1880 26 kumphaphnth kh s 1952 idrbkarsthapnaepn ekhanetsbrasoswa emuxpi kh s 1928 aela ecahyingormanxfskaya brasoswa emuxwnthi 28 krkdakhm kh s 1935 13 mithunayn kh s 1882 24 phvscikayn kh s 1960 thrngxphiesksmrskhrngaerkemuxwnthi 9 singhakhm kh s 1901 n emuxngktchina aetthrnghyarangemuxwnthi 16 tulakhm kh s 1916 kb 21 phvscikayn kh s 1868 11 minakhm kh s 1924 thrngxphiesksmrskhrngthisxngemuxwnthi 14 phvscikayn kh s 1916 n ekhiyf praethsyuekhrn kb niokhil xaelkhsnodrwich khulikhxfski 11 phvscikayn kh s 1882 11 singhakhm kh s 1958 saerfnaaekrnddchechsmarieyiy efoxodrxfnamiphrasiriochmaelaepnthichunchxb inchwngaerkphraxngkhthrngerimeriynruphasarsesiyaelathrngphyayamthakhwamekhaickbchawrsesiy phraxngkhimkhxythrngaethrkaesngkaremuxng odymakoprdthicaihewlaaelakalngphrawrkaykbkhrxbkhrw karkusl aelangandansngkhmsahrbtaaehnngkhxngphraxngkh thngniyngmikhxykewnhnungkhux khwamimchxbindansngkhramtxpraethseyxrmni xnenuxngmacakkarphnwkdinaednkhxngednmarkekhaipinckrwrrdieyxrmnthisthapnakhunmaihmckrphrrdiniaehngrsesiyintxnechakhxngwnthi 13 minakhm kh s 1881 ckrphrrdixaelkhsndrthi 2 khnamiphrachnmphrrsa 62 phrrsa thrngthukplngphrachnminkhnaesdcklbmayngphrarachwngvduhnawcakkartrwcaethwthhar txmaaekrnddchechsmarieyiyidthrngbrryaylnginsmudbnthukthungkhwambadecbthickrphrrdithrngidrbemuxthuknaklbmayngphrarachwng phraephlathngsxngkhangkhxngphraxngkhthukraebidxyangrunaerng aelaepidkhunmathungphrachanu phraolhitihlxxkmamakmay pramankhrunghnungkhxngchlxngphrabathbutkhangkhwa ehluxngaetphrabathkhwaephiyngkhangediyw ckrphrrdixaelkhsndrthi 2 esdcswrrkhtinxikimkichwomngtxma aemwaprachachncaimrkikhrinckrphrrdixngkhihm aetkchunchxbinstrihmayelkhhnungxngkhihmxyangmak dngthibukhkhlrwmsmyediywkbphraxngkhklawwa epnckrphrrdini xyangaethcring phraxngkhexngthrngimphxphrathykbphrarachsthanaihmethaidnk insmudbnthukswnphraxngkhthrngekhiynwa chwngewlathisukhaelasngbthisudkhxngerahmdsinlngaelw sntisukhaelakhwamengiybsngbmlayhayipaelw txnnierakhngcahwngaetephiyngsacha sacha khuxphranamlalxngthithrngeriyksmedcphrarachswami ckrphrrdixaelkhsndrthi 3 ethann ckrphrrdixaelkhsndrthi 3 aelackrphrrdinimarieyiythrngekhaphrarachphithibrmrachaphieskemuxwnthi 27 phvsphakhm kh s 1883 n phrarachwngekhrmlin thikrungmxsok ephiyngkxnnganphithibrmrachaphiesk karsbkhbkhidwangaephnraykhrngihykthukepidopng sungthaihkarechlimchlxngengiybehngahdhu aetkyngmiaekhkehruxcanwnkwaaepdphnkhnmarwmphrarachphithixnngamelisni enuxngmacakphyxntraytxckrphrrdixaelkhsndrthi 3 aelackrphrrdinimarieyiy phayhlngnganphrarachphithibrmrachaphiesk nayphlecherwin sungepnhwhnatarwcrksakhwamplxdphy kerngeraihckrphrrdiaelakhrxbkhrwesdcaeprphrarachthanipyng sungepnthiprathbxnplxdphymakkwa odytngxyu 50 kiolemtrnxkkrungesntpietxsebirk phrarachwnghlngihynimihxnghbrawekarxyhxngaelasrangkhuninsmyckrphrrdininatheykaecrinathi 2 phrarachwngsormanxfidihkhwamsnickbkhaaenanadngklawni ckrphrrdixaelkhsndrthi 3 aelackrphrrdinimarieyiyprathbxyuthiphrarachwngktchinaepnewlasibsampiaelathrngeliyngduphraoxrsphrathidacnecriyphrachnminphrarachwngaehngnidwy dwykarkhumknxyangaennhna ckrphrrdixaelkhsndrthi 3 aelackrphrrdinimarieyiyesdccakphrarachwngktchinaepnkhrngkhrawephuxipyngemuxnghlwnginkarthrngptibtiphrarachkrniykicthangphithikartang ckrphrrdinithrngoprdnganeliyngetnraaelakarphbpasngsrrkhinphrarachwngvduhnawmak aetkrannkyngsamarthcdkhuninphrarachwngktchina ckrphrrdixaelkhsndrthrngekhyrwmsnukkbnkdntri aemwaphayhlngcathrngsngklbthilakhr emuxsingniidekidkhun ckrphrrdinimarieyiythrngthrabdiwanganeliyngidsinsudlngaelw inrchsmykhxngckrphrrdixaelkhsndrthi 3 klumtxtanrabxbkstriyengiybhayipxyangrwderw minksuksaklumhnungidphyayamwangaephnlxbplngphrachnmckrphrrdiinngankhrbrxbhkpikaresdcswrrkhtkhxngphrachnknath ckrphrrdixaelkhsndrthi 2 thicdkhun n pxmpietxraelapxl mhawiharsusanhlwngaehngrachwngsormanxfinkrungesntpietxsebirk ehlankwangaephnkxkarrayidydraebidlngiwiniskhanginkhxnghnngsuxeriynthiphwkekhatngiccakhwangissmedcphrackrphrrdikhnaesdcklbcakmhawihar xyangirktam tarwclbrsesiyidepidopngaephnkarraykxnthithukthaihsaerclulwng nksuksacanwnhakhnthukcbaekhwnkhx rwmthngxaelkhsndr xulyanxf ekhaminxngchaythimiphrswwrkhkhnhnung sungmikhwamkhidthangkaremuxnginechingptibtidngechnphichay edkchaykhnnnkhux wladimir elnin sungxikhlaypitxmaidichewlaswnmakkbkhbwnkarptiwtiitdinxyuinthwipyuorpinkarhlxhlxmaenwkhidaelathvsdithangkaremuxngthiekhacanamaichinpraethsrsesiyhlngcakkarklbmainpi kh s 1917 ephuxlangaekhnkbkartaykhxngphichay emuxecahyingxelksandra ecahyingaehngewls sungepnphraechsthphkhiniesdcphrarachdaenineyuxnphrarachwngktchinaineduxnkrkdakhm kh s 1894 phraxngkhthrngaeplkphrathythiidehnwaphraphlanamykhxngckrphrrdixaelkhsndrthi 3 phraknisthphrrdaxxnaexlngmak odythrngduehmuxnehiywaehnglng khwamsdchunbnphraprangaelakhwamsdisraeringidcanghayip intxnnnckrphrrdinithrngthrabnanaelwwackrphrrdithrngphraprachwraelacamiphrachnmchiphxyuidxikimnan cungidthrnghnkhwamsnicmathimkudrachkumarniokhls phrarachoxrsxngkhihy thngineruxngswntwaelaxnakhtkhxngphrarachwngssungtxnnikhunxyukbphraxngkh mkudrachkumarniokhlsthrnghmaymnmananthicaxphiesksmrskbecahyingxaliksaehngehsesinaelaodyirn thngckrphrrdixaelkhsndrthi 3 aelackrphrrdinimarieyiyimthrngehndwykbkarxphiesksmrsni mkudrachkumarniokhls cungthrngsrupsthankarniwdngni eraxyakedinipsucudhmayhnung aetmnkehnchdwaaemxyakcaiheraedinipxikthang khwamfnkhxngerakhuxwnhnungcaaetngngankbxaliks thngckrphrrdixaelkhsndrthi 3 aelackrphrrdinimarieyiythrngmxngwaecahyingxaliksthrngkhixayaelaaeplkprahladinbangkhrng thngsxngphraxngkhyngthrngkngwlwaecahyingwydruniphraxngkhnikhadkhunsmbtikhukhwrinkarepnckrphrrdiniaehngrsesiyxikdwy phrachnknathaelaphrarachchnnikhxngmkudrachkumarniokhlasthrngruckkbecahyingxalikstngaetyngthrngphraeyawaelathrngmikhwamrusukwaecahyingthrngmixarmnrunaerngphidpktiaelaimetmbath thngsxngphraxngkhthrngyxmihmkudrachkumarxphiesksmrskbecahyingxaliksxyanglngelphrathyckrphrrdiniphnpihlwngckrphrrdixaelkhsndrthi 3 esdcswrrkhtemuxwnthi 1 phvscikayn kh s 1894 n phrarachwngliwaediy thiprathbtakxakasbnaehlmikhremiy khnamiphrachnmphrrsaid 49 phrrsa ckrphrrdinimaeriythrngekhiynlnginsmudbnthukswnphraxngkhwa eraesiyicaelathxicxyangthisud aetemuxeraehnrxyyimthiepiymsukhaelakhwamsngbbnibhnakhxngekhatammann mnkthaiheraekhmaekhngmakkhun inrayaewlathiimsamarthplxboynidkhxngckrphrrdinimaeriy ecahyingxelksandra phraechsthphkhiniaelaecachayaehngewls txmakhux smedcphraecaexdewirdthi 7 phraechsthphrrda phiekhy kidesdcphrarachdaeninmayngpraethsrsesiyinxikimkiwntxma ecachayaehngewlsthrngwangkahndkarphrarachphithiphrabrmsphkhxngckrphrrdixaelkhsndrthi 3 aelaphrarachphithirachaphiesksmrssahrbckrphrrdiniokhlsthi 2 xngkhphrapramukhaehngrsesiyphraxngkhihmkbecahyingxliks phranddaekhyinckrphrrdinimarieyiy thrngbnthukwa phraxngkhthrngmixiththiphlxyangmakinphrarachwngs esiyreky wittkidchunchmthungihwphribptiphanaelathksathangkarthutkhxngphraxngkh aetkrannphraxngkhthrngekhakbckrphrrdinixaelkhsndra efoxodrxfnaaehngrsesiy phrasunisaidimdink thngnixacepnephraathaihtxngthrngrbphidchxbkbkhwamesraoskthipradngekhamainkhrxbkhrwkhxngckrphrrdiniokhls phrarachoxrskhxngphraxngkh thnthikaresdcswrrkhtkhxngckrphrrdixaelkhsndrthi 3 phanphnip ckrphrrdinimarieyiy sungbdnithrngklayepnsmedcphrabrmrachchnniphnpihlwngaehngrsesiythrngmimummxngxnakhtthisdismakkwaedim dngthitrswa thuksingthukxyangcarabrundi phraxngkhprathbxyuinpraethsrsesiymaepnewlayisibaepdpiaelw odychwngsibsampithrngepnckrphrrdini aelainxiksamsibsipikhwamepnmayyngkhngrxphraxngkhxyu swninsibpisudthayepnkarliphyxyunxkpraethsinmatuphumi intxnsineduxnphvscikayn kh s 1894 ckrphrrdinimarieyiythrngyayipprathbthi inkrungesntpietxsebirk cnkrathngkarptiwtierimkhun phraxngkhthrngdarngphrachnmaelaplxbphrathyphraxngkhexngidxyangesri aelaemuxewlaphanelyipkhwamklwidldnxythxylng inthanathithrngepnckrphrrdiniaelaphrabrmrachchnniphnpihlwng phraxngkhimidthrngtkepnepahmaythangkaremuxngsahrbphwkmuxsngharinlththisngkhmniymaelaxnathipityxiktxipkarptiwtiaelaliphyckrphrrdinimarieyiy efoxodrxfnaaelaphrarachswami emuxkhrawesdcpraphasyngkrungokhepnehekn inpi kh s 1893 karptiwtiekhamathipraethsrsesiyineduxnminakhm kh s 1917 hlngcakthrngphbkbckrphrrdiniokhlsthi 2 phrarachoxrssungthrngthukokhnlmlngmacakrachbllngkinemuxngomkielf ckrphrrdinimaeriyprathb n emuxngekhiyfxyurayahnung ephuxptibtiphrarachkrniykicinsphakachadtxip emuxmnepnxntraytxkarprathbxyutx phraxngkhcungesdccakemuxngipyngemuxngikhremiyphrxmkbsmachikrachwngsormanxfthiliphyphraxngkhxun emuxprathbxyuthithaelda phraxngkhkthrngidrbraynganwaphrarachoxrs phrarachsunisaaelaphrarachnddathrngthukplngphrachnm xyangirktamphraxngkhthrngptiesthwarayngannnepnephiyngkhawlux inwnhnunghlngcakkarplngphrachnmkhrxbkhrwkhxngckrphrrdi ckrphrrdinimarieyiythrngidrbkhxkhwamchbbhnungcaknikhkithiepn chaythinaprathbickhnhnung sungelathungchiwitxnyaklabakkhxngkhrxbkhrwphrarachoxrsinemuxngeykhaetrinburk aelaimmiikhrchwyhruxpldplxyphwknnidely miaetphraphuepneca phraxngkhoprdchwyehluxnikhkiphunasngsaraelaochkhray chwyekhainewlayaklabakmakdwy insmudbnthukswnphraxngkhnn yngthrngplxbicphraxngkhexngwa eraaenicwaphwknnidxxkcakrsesiymaaelwaelatxnniphwkbxlechwikhkalngphyayampidbngkhwamcringexaiw phraxngkhthrngyudthuxkhwamechuxmnnixyangehniywaenncnthungwnswrrkht khwamcringmnecbpwdmakekinkwaphraxngkhcaaebkrbiwid phrarachhtthelkhathungphrarachoxrsaelaphrarachwngsidhaysabsuyipnbaetnn aetinchbbhnungthiphb phraxngkhthrngekhiynwa lukruwakhwamkhidaelakhaphawnakhxngaemimekhyhayipcaklukely aemkhidthunglukthngwnaelakhunaelabangkhrngrusukecbpwdthiicmakcnaemaethbcathnimidxiktxipaelw aetphraecamiphraemtta phraxngkhcaprathankhwamekhmaekhngiheraphanphnkhwamyaklabakniipid thungaemwacamikarlmlangrabxbrachathipityipinpi kh s 1917 aelwktam intxnaerksmedcphrackrphrrdinimaeriythrngptiesththicaesdcxxkcakpraethsrsesiy phxinpi kh s 1919dwykarerngerakhxngsmedcphrarachinixelksandra cungcatxngesdcxxkcakpraethsrsesiyxyangimetmphrathy odykarhlbhniipthangaehlmikhremiy prathberuxhlwngkhxngxngkvsthiphraecacxrcthi 5 phuepnphrarachphakhiny epnphrarachoxrsinsmedcphrarachinixelksandra phraechsthphkhini xxkcakthaelda ipsuthaelemdietxrereniyn aelaipthungkrunglxndxn inthisud phraecacxrcthi 5 thrngsngeruxrbhlwng HMS Marlborough ephuxcachwychiwitsmedcphramatuccha na hlngcakkarprathbinthanthpheruxxngkvsthiekaamxltaaelatxmainkrunglxndxnrayahnungaelw cungesdcklbpraethsednmark odythrngeluxkprathbxyuintahnkhwidxr iklkbkrungokhepnehekn epnthiprathbthawraehngihm aemwasmedcphrarachinixelksandraimthrngekhyptibtiphraxngkhimdikbphraknisthaaelathrngichewlainwnhyuddwyknintahnkelkhlnghnunginxngkvs ckrphrrdinimarieyiyklbthrngrusukwatxnnithrngepn rxng inrahwangkarliphyxyuinkrungokhepnehekn praethsednmark kyngmiphuxphyphchawrsesiycanwnmakmay sahrbphwkekhackrphrrdinimarieyiyyngkhngthrngepnckrphrrdini phrabrmrachchnniphnpihlwngthrngskdisungsudehnuxphrarachwngsrsesiythngmwl phukhnaesdngkhwamekharphaelaehnkhunkhakhxngphraxngkhxyangmak rwmthngyngihkhwamchwyehluxphraxngkhxyubxykhrng smchchasnbsnunpramukhaehngchawrsesiythngmwlsungidcdtngkhuninpi kh s 1921 idesnxihphraxngkhepnphurksakarnchwkhrawkhxngrachbllngkrsesiy aetphraxngkhthrngptiesthkhxesnxnn phraxngkhimoprdthicaaethrkaesngekmthangkaremuxngaelathrngihkhatxbthihlbeliyngwa immiikhrehnnikhkithukplngphrachnm aeladngnncungyngmioxkasehluxxyu phraxngkhthrngihkarsnbsnunthangkarenginaek sungepnnklngthunthisuksaehtukarnekiywkbkarplngphrachnmkhrxbkhrwkhxngckrphrrdi thngphraxngkhaelaniokhilimekhyphbknely odyintxnsudthayaekrnddchechsoxlkathrngsngothrelkhmayngkrungparis ephuxykelikndhmayinkarekhaefackrphrrdini mnkhngepnkaryakmaksahrbstrichraaelaecbpwythicaidyineruxngrawxnelwraykhxnglukchayaelakhrxbkhrwkarswrrkhtaelakarfngphrasphineduxnphvscikaym kh s 1925 smedcphrarachinixelksandra phrarachchnniinsmedcphraecacxrcthi 5 sungepnphraechsthphkhinithithrngsnithsnmmakthisudesdcsuswrrkhaly singninbepnkarsuyesiykhrngsudthayekinkwackrphrrdinimarieyiy phuthrngphrachracathrngthnrbid aekrnddyukxaelkhsndr mihaxiolwichaehngrsesiy sungepnphrachamada lukekhy idekhiynekiywkbbnplayphrachnmchiphkhxngckrphrrdiniiwwa phraxngkhthrngphrxmthicaphbkbphraphusrangaelw ckrphrrdinimarieyiyesdcsuswrrkhalyinwnthi 13 tulakhm kh s 1928 n phratahnkthiekhythrngprathbrwmkbsmedcphrarachinixelksandra sungepnphraechsthphkhini thiemuxnghwidxr iklkbkrungokhepnehekn siriphrachnmayu 81 phrrsa phraxngkhepnckrphrrdiniinrachwngsormanxfthiesdcswrrkhtepnkhnsudthay hlngcakkarthaphithithangsasnainobsthxxrthxdxksrsesiyxaelkhsndrenfski phrabrmsphkhxngckrphrrdiniidrbkarbrrcufngxyuinwiharhlwngrxskhild xnepnsusanhlwngkhxngphrarachwngsednnich tamphrachatikaenidthithrngphrarachsmphphepnecahyingednnich inpi kh s 2005 smedcphrarachininathmarekrethxthi 2 aehngednmarkaelaprathanathibdiwladimir putinaehngrsesiyaelarthbalkhxngthngsxngpraethsidehnphxngtxngknwacaxyechiyphrabrmsphphrackrphrrdinikhunsukrungesntpietxsebirkephuxihsxdkhlxngkbthimiphrarachprasngkhcaidrbkarbrrcufngiwekhiyngkhangkbsmedcphrarachswami ekidkhuntngaetwnthi 23 thungwnthi 28 knyayn kh s 2006 inphrarachphithiphrabrmsph sungbukhkhlsakhyradbsungmarwmnganepncanwnmak rwmthngecachaymkudrachkumaraelaecahyingmkudrachkumariaehngednmark ecachayaelaecahyingimekhilaehngekhnt ekidehtukarnwunwaykhun odymiklumkhnyunrxbolngphrasphaennkhndmakesiycnthaihnkkarthuthnumchawednmarkkhnhnungtklngipinchxngthietriymiwsahrbbrrcufngphrabrmsphkxncamikarwanghibphrabrmsphlngma inwnthi 26 knyayn kh s 2006 phrabrmrupkhxngckrphrrdinimarieyiyiklkbphratahnkelk xnepnthiprathbpracakhxngphraxngkhinphrarachwngpietxrohfidepidsusatharnchn hlngcakkarthaphithithangsasnainmhawiharesntixaesk phrabrmsphidrbkarbrrcuxyuekhiyngkhang ckrphrrdixaelkhsndrthi 3 phrarachswami emuxwnthi28 knyayn kh s 2006 n pxmpietxraelapxl xnepnsusanhlwngthipradisthanphrabrmsphckrphrrdiaelackrphrrdiniaehngrsesiythukphraxngkhtngaetckrphrrdipietxrthi 1 mharachepntnma rwmepnewla 140 pihlngcakkaresdcmapraethsrsesiyepnkhrngaerkaelaekuxb 78 pihlngcakkaresdcsuswrrkhalyphraxisriyyskh s 1847 kh s 1853 ecahyingdkmaraehngchelswich hxlchitn esinenxpxr klukhsbwrkh Her Serene Highness Princess Dagmar of Schleswig Holstein Sonderburg Glucksburg kh s 1853 kh s 1858 ecahyingdkmaraehngednmark Her Highness Princess Dagmar of Denmark kh s 1858 kh s 1866 ecahyingdkmaraehngednmark Her Royal Highness Princess Dagmar of Denmark kh s 1866 kh s 1881 aekrnddchechsmarieyiy efoxodrxfna saerfnaaehngrsesiy Her Imperial Highness Grand Duchess Maria Feodorovna Tsarevna of Russia kh s 1881 kh s 1894 ckrphrrdiniaehngrsesiy Her Imperial Majesty The Empress of Russia kh s 1894 kh s 1928 ckrphrrdinimarieyiy efoxodrxfna phrabrmrachchnniphnpihlwngaehngrsesiy Her Imperial Majesty The Dowager Empress Maria Feodorovna of Russia xangxingEmpress Marie Feodorovna s Favorite Residences in Russia and in Denmark p 55 A Royal Family pp 171 172 ibid p 173 Paul Theroff 2007 An Online Gotha khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 03 15 subkhnemux 22 singhakhm ph s 2550 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help A Royal Family p 175 ibid p 176 ibid p 179 ibid p 184 ibid p 184 ibid p 185 The Diaries of Empress Marie Feodorovna p 239 A Royal Family p 197 Empress Maria Fiodorovna p 142 Empress Maria Fiodorovna p 142 phithikrrmthangsasnacanwnmak 2009 04 19 thi ewyaebkaemchchin khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2015 12 08 subkhnemux 2007 08 25 brrnanukrmA Royal Family The Story of Christian IX and his European descendants by Anna Lerche and Marcus Mandal ISBN 87 15 10957 7 inbththichux khwamrkaelakarptiwti ochkhchatakhxngdkmarinchwngkhwamyingihyaelakhwamesuxmkhxngckrwrrdirsesiy khxmulthidieliscakkarekhathungexksarlbkhxngphrarachwngsaelakarsmphasnsmachikphrarachwngstang khxngyuorp Empress Maria Fiodorovna by A I Barkovets and V M Tenikhina Abris Publishers St Petersburg 2006 Empress Maria Feodorovna s Favourite Residences in Russia and Denmark by Galina Korneva and Tatiana Cheboksarova Liki Rossi St Petersburg 2006 Little Mother of Russia A Biography of Empress Marie Fedorovna by Coryne Hall ISBN 978 0 8419 1421 6 epnkhxmulthangdanxtchiwprawtimatrthankhxngckrphrrdinimarieyiy efoxodrxfna The Court of the Last Tsar by Gregory King ISBN 978 0 471 72763 7 khxmulekiywkbbthbathkhxngckrphrrdiniphnpihlwnginrachsankkhxngckrphrrdiniokhlsthi 2 phrarachoxrs aelakhwamimchxbaelaimiwwangicinckrphrrdinixaelkhsndraaehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb ckrphrrdinimarieyiy efoxodrxfnaaehngrsesiy dkmaraehngednmark Mother of Last Russian Tsar to Be Reburied 2008 01 15 thi ewyaebkaemchchin sankkhawmxsok ednmark xngkvs Website of the Danish Cultural Society Dagmaria 2007 09 14 thi ewyaebkaemchchin rsesiy Information about the reburial 2009 04 19 thi ewyaebkaemchchin krathrwngkartangpraethskhxngednmarkkxnhna ckrphrrdinimarieyiy efoxodrxfnaaehngrsesiy dkmaraehngednmark thdipecahyingmariaehngehsesinaelaodyirn maeriy xaelkhsndrxfna ckrphrrdiniaehngrsesiy 14 minakhm kh s 1881 1 phvscikayn kh s 1894 ecahyingxaliksaehngehsesinaelaodyirn xelkhsndra efoxodrxfna