ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
บทความนี้ไม่มีจาก |
อเล็กซานดราแห่งเดนมาร์ก (อเล็กซานดรา แคโรไลนา มารี ชาร์ล็อต หลุยส์ จูเลีย; 1 ธันวาคม ค.ศ. 1844 — 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1925) เป็นพระอัครมเหสีในสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 แห่งสหราชอาณาจักร และสมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งอินเดียในช่วงระหว่างรัชกาลของพระสวามี ก่อนหน้านี้ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นเจ้าหญิงแห่งเวลส์ ระหว่างปี ค.ศ. 1863 — ค.ศ. 1901 (ยาวนานกว่าผู้ใดที่เคยดำรงพระอิสริยยศนี้) หลังการเสด็จสวรรคตของพระสวามีในปี ค.ศ. 1910 ตราบจนถึงการเสด็จสวรรคตของพระองค์เอง ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระราชชนนี ที่ทรงเป็นทั้งพระราชินีในรัชกาลก่อนและพระราชชนนีของกษัตริย์ที่ทรงครองราชย์อยู่ คือ สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 แห่งสหราชอาณาจักร แต่ไม่โปรดใช้พระอิสริยยศเช่นนี้ จึงได้มีพระอิสริยยศเป็น "สมเด็จพระราชินีอเล็กซานดรา " (Her Majesty Queen Alexandra) ตลอดการเป็นหม้ายของพระองค์
อเล็กซานดราแห่งเดนมาร์ก | |||||
---|---|---|---|---|---|
พระฉายาลักษณ์ ฉายราวปี ค.ศ. 1889 | |||||
สมเด็จพระราชินีแห่งสหราชอาณาจักรและเครือจักรภพ จักรพรรดินีแห่งอินเดีย | |||||
ดำรงพระยศ | 22 มกราคม 1901 - 6 พฤษภาคม 1910 | ||||
ราชาภิเษก | 9 สิงหาคม 1902 (สหราชอาณาจักร) 1 มกราคม 1903 (อินเดีย) | ||||
ก่อนหน้า | อัลเบิร์ต (พระราชสวามี) | ||||
ถัดไป | แมรี (พระราชินี) | ||||
พระราชสมภพ | 1 ธันวาคม ค.ศ. 1844 โคเปนเฮเกน เดนมาร์ก | ||||
สวรรคต | 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1925 ตำหนักซานดริงแฮม นอร์ฟอล์ก | (80 ปี)||||
ฝังพระศพ | 28 พฤศจิกายน ค.ศ. 1925 โบสถ์น้อยเซนต์จอร์จ ปราสาทวินด์เซอร์ | ||||
พระราชสวามี | สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 แห่งสหราชอาณาจักร | ||||
พระราชบุตร | เจ้าชายอัลเบิร์ต วิกเตอร์ ดยุกแห่งคลาเรนซ์และเอวอนเดล สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 เจ้าหญิงลูอีส พระราชกุมารี เจ้าหญิงวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร ม็อดแห่งเวลส์ สมเด็จพระราชินีแห่งนอร์เวย์ เจ้าชายอเล็กซานเดอร์ จอห์นแห่งเวลส์ | ||||
| |||||
ราชวงศ์ | กลึคส์บวร์ค | ||||
พระราชบิดา | พระเจ้าคริสเตียนที่ 9 แห่งเดนมาร์ก | ||||
พระราชมารดา | ลูอีเซอแห่งเฮ็สเซิน-คัสเซิล | ||||
ลายพระอภิไธย |
ชีวิตในวัยเยาว์
เจ้าหญิงอเล็กซานดรา หรือ "อลิกซ์" ที่เรียกกันในหมู่พระประยูรญาติ เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ค.ศ. 1844 ณ พระราชวังสีเหลือง ซึ่งเป็นตึกแถวในสมัยศตวรรษที่ 18 ที่เลขที่ 18 ถนนอมาลีกาด ถัดมาจาก ในกรุงโคเปนเฮเกน พระราชชนกคือ เจ้าชายคริสเตียน ซึ่งต่อมาเสวยราชสมบัติเป็นคริสเตียนที่ 9 ส่วนพระราชชนนีคือ สมเด็จพระราชินีลูอีเซอแห่งเดนมาร์ก แม้ว่าพระองค์จะมีพระราชเปตามหัยกาสองพระองค์คือ สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 2 และ เฟรเดอริกที่ 5 เป็นพระมหากษัตริย์และทรงมีเชื้อสายของเจ้าชายครองรัฐ ครอบครัวของพระองค์ทรงมีความเป็นอยู่แบบธรรมดา และถึงแม้จะไม่ได้มีความมั่งคั่งมากมาย ก็ยังสามารถมีการอภิเษกสมรสอย่างน่าประทับใจได้ เช่น เจ้าหญิงแด็กมาร์ พระขนิษฐาที่ต่อมาทรงเป็น จักรพรรดินีมารีเยีย เฟโอโดรอฟนาแห่งรัสเซีย พระอัครมเหสีในอะเลคซันดร์ที่ 3 และพระราชชนนีในนิโคลัสที่ 2 ทำให้พระราชชนกของพระองค์มีพระสมัญญาว่า "พระสัสสุระแห่งยุโรป" (Father-in-Law of Europe)
เจ้าหญิงแห่งเวลส์
เจ้าชายอัลเบิร์ต เอ็ดเวิร์ด เจ้าชายแห่งเวลส์แห่งสหราชอาณาจักร ซึ่งเรียกกันว่า "เบอร์ตี้" ทรงทำให้สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียและเจ้าชายอัลเบิร์ต พระราชสวามี พระชนนีและพระชนกทรงหนักใจอย่างมาก และพระชนนีซึ่งตอนนี้ทรงเป็นม่ายทรงกระตือรือร้นที่จะให้พระองค์อภิเษกสมรส เจ้าหญิงอเล็กซานดรามิได้ทรงเป็นตัวเลือกแรกของพระองค์ เนื่องจากว่าประเทศเดนมาร์กเป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศปรัสเซีย และพระประยูรญาติในพระราชวงศ์อังกฤษส่วนมากเป็นชาวเยอรมัน
อย่างไรก็ตาม ในการเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย เจ้าหญิงอลิกซ์ผู้ทรงพระสิริโฉมงามทำให้พระองค์และเจ้าชายเบอร์ตี้ทรงพึงพอพระทัยมาก กวีเอกแห่งราชสำนัก ได้ประพันธ์บทกวีสรรเสริญพระเกียรติเจ้าหญิงอเล็กซานดรา และเซอร์ ก็ได้แต่งดนตรีเป็นพิเศษเพื่อการต้อนรับเจ้าหญิงในการเสด็จมาถึงสหราชอาณาจักร ทั้งสองพระองค์อภิเษกสมรสกันเมื่อวันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 1863 ณ ปราสาทวินด์เซอร์ พระชนกของเจ้าหญิงได้เสด็จขึ้นครองราชบัลลังก์เดนมาร์กในอีกแปดเดือนต่อมา
ในการเสด็จไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ของทั้งสองพระองค์ก็ได้มีเด็กนักเรียนจากวิทยาลัยอีตัน ที่อยู่ข้างปราสาทวินด์เซอร์ส่งเสด็จ รวมทั้ง บิดาของวินสตัน เชอร์ชิล ซึ่งต่อมาดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรด้วย
เจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์มีพระโอรสและธิดา 6 พระองค์ดังนี้
- เจ้าชายอัลเบิร์ต วิกเตอร์ ดยุกแห่งคลาเรนซ์และเอวอนเดล (พระนามแบบเต็ม อัลเบิร์ต วิกเตอร์ คริสเตียน เอ็ดเวิร์ด; ประสูติ 8 มกราคม ค.ศ. 1864 สิ้นพระชนม์ 14 มกราคม ค.ศ. 1892)
- ทรงได้รับการเฉลิมพระอิสริยยศเป็น ดยุกแห่งคลาเรนซ์และเอวอนเดล เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ค.ศ. 1890
- สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 (จอร์จ เฟรเดอริค เออร์เนส อัลเบิร์ต; 3 มิถุนายน ค.ศ. 1865 - 20 มกราคม ค.ศ. 1936)
- เสด็จขึ้นครองราชสมบัติต่อจากพระบรมราชชนกเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1910
- ทรงอภิเษกสมรสกับเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ค.ศ. 1893 ณ โบสถ์หลวง พระราชวังเซนต์เจมส์ กรุงลอนดอน กับ เจ้าหญิงวิกตอเรีย แมรี่ ออกัสตา หลุยซา โอลกา พอลีน คลอดีน แอ็กเนสแห่งเท็ค (26 พฤษภาคม ค.ศ. 1867 - 24 มีนาคม ค.ศ. 1953)
- เจ้าหญิงหลุยส์แห่งเวลส์ (หลุยส์ วิกตอเรีย อเล็กซานดรา แด็กมาร์; 20 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1867 - 4 มกราคม ค.ศ. 1831)
- ทรงได้รับการเฉลิมพระอิสริยยศเป็น พระราชกุมารี เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 1905
- ทรงอภิเษกสมรสในวันที่ 27 กรกฎาคม ค.ศ. 1889 ณ พระราชวังบัคกิงแฮม กรุงลอนดอน กับ อเล็กซานเดอร์ ดัฟฟ์ ดยุกที่ 1 แห่งไฟฟ์ (เกิด 10 พฤศจิกายน ค.ศ. 1849 ถึงแก่กรรม 29 มกราคม ค.ศ. 1912) ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น ดยุคแห่งไฟฟ์ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ค.ศ. 1889
- เจ้าหญิงวิกตอเรียแห่งเวลส์ (วิกตอเรีย อเล็กซานดรา โอลกา แมรี่; 6 กรกฎาคม ค.ศ. 1868 - 3 ธันวาคม ค.ศ. 1935)
- เจ้าหญิงม็อดแห่งเวลส์ (ม็อด ชาร์ล็อต แมรี่ วิกตอเรีย; 26 พฤศจิกายน ค.ศ. 1869 - 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1938)
- ทรงอภิเษกสมรสเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ค.ศ. 1896 ณ พระราชวังบัคกิงแฮม กรุงลอนดอน กับ เจ้าชายคาร์ลแห่งเดนมาร์ก (3 สิงหาคม ค.ศ. 1872 - 21 กันยายน ค.ศ. 1957) เสด็จขึ้นครองราชบัลลังก์แห่งนอร์เวย์ และ เถลิงพระนามาภิไธย โฮกุนที่ 7 เมื่อวันที่ [18 พฤศจิกายน ค.ศ. 1905
- ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระราชินีแห่งนอร์เวย์ เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 1905 หลังจากการเสวยราชสมบัติแห่งนอร์เวย์
- (อเล็กซานเดอร์ จอห์น ชาร์ลส์ โรเบิร์ต อัลเบิร์ต; 6 - 7 เมษายน ค.ศ. 1871)
ชีวิตส่วนพระองค์
เจ้าหญิงอลิกซ์ทรงทุ่มเทให้กับพระโอรสธิดาและข้าราชบริพารทั้งหลายอย่างมากและทรงรื่นรมย์กับกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเต้นรำและการเล่นสเก็ตน้ำแข็ง แม้หลังการประสูติของเจ้าชายอัลเบิร์ต วิกเตอร์ ("เอ็ดดี้") พระโอรสพระองค์แรกในปี พ.ศ. 2407 พระองค์ก็ยังทรงปฏิบัติพระองค์ดังเดิมเหมือนแต่ก่อน ทำให้การกระทบกระทั่งกันระหว่างสมเด็จพระราชินีนาถกับทั้งเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์อยู่บ้าง อย่างไรก็ดี หลังจากการประสูติพระธิดาพระองค์ที่สามในปี พ.ศ. 2410 ความยุ่งยากต่าง ๆ ก็เข้ามาคุกคามชีวิตของพระองค์และทรงจมอยู่ในความทุกข์ใจอย่างถาวร อีกทั้งยังทรงทนทุข์กับระดับความหูหนวกที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นกรรมพันธุ์ ด้วยความอายรอยแผลเป็นบนพระศอ (ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นผลมาจากอุบัติเหตุเมื่อทรงพระเยาว์) ทำให้พระองค์ทรงพยายามซ่อนแผลเป็นโดยการสวมสร้อยพระศอแบบรัดคอสูงและทรงฉลองพระองค์คอตั้ง เนื่องจากทรงเป็นสตรีที่มีรูปโฉมงดงาม พระคอที่เรียวระหงทำให้การแต่งพระองค์เช่นนี้เกิดเป็นกระแสความนิยมขึ้นมา
เจ้าชายเบอร์ตี้และเจ้าหญิงอลิกซ์ทรงให้ตำหนักแซนดริงแฮมเป็นพระราชฐานโปรด การอภิเษกสมรสของทั้งสองพระองค์ถือว่ามีความสุขในหลาย ๆ ด้าน อย่างไรก็ตาม เจ้าชายเบอร์ตี้มิได้ทรงสนพระทัยพระชายาหรือพระโอรสธิดามากเท่าที่ควร และทั้งสองพระองค์ก็เหินห่างกันมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งการประชวรอย่างรุนแรงของเจ้าชายในต้นทศวรรษ 1870 ได้นำความปรองดองกลับคืนมา ความสัมพันธ์ของทั้งสองพระองค์ขึ้น ๆ ลง ๆ ตลอดเวลาหลายปี แม้ว่าเจ้าชายเบอร์ตี้จะทรงได้รับความรักใคร่จากพระชายากลับคืนมา แต่ก็ยังคงมีพระสนมลับอยู่เรื่อย ๆ เช่น ซึ่งเป็นนักแสดงละคร หญิงสาวผู้มีมนุษยธรรม และ หญิงสาวแม่งานสังคม
เจ้าหญิงทรงทราบเรื่องราวเกี่ยวกับบรรดาสนมลับส่วนใหญ่อย่างเต็มที่ และเค็พเพลถึงขนาดได้รับพระราชานุญาตจากพระองค์ให้มาเข้าเฝ้าที่ข้างพระแท่นบรรทมของพระสวามีในช่วงการเสด็จสวรรคต อย่างไรก็ตาม พระองค์ทรงเพียงแค่ยอมทนกับเค็พเพลเท่านั้นแต่ก็ไม่ได้ทรงยอมรับเธอ ในบรรดาหญิงสาวคนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเจ้าชายเบอร์ตี้ เคย์เซอร์ดูเหมือนจะได้รับการยอมรับอย่างดีที่สุดจากเชื้อพระวงศ์ เนื่องมาจากลักษณะนิสัยที่สุขุมรอคอบและมีความเคารพนบนอบ และความจริงที่ว่าเธอเองก็ยังไม่ได้แต่งงาน
เรย์มอนด์ ลามอนท์-บราวน์ ผู้เขียนหนังสือเรื่อง Edward VII's Last Loves: Alice Keppel and Agnes Keyser (ความรักครั้งสุดท้ายของเอ็ดเวิร์ดที่ 7: อลิซ เค็พเพลและแอ็กเนส เคย์เซอร์) เขียนว่าอิทธิพลด้านบวกที่ความสัมพันธ์นอกสมรสทั้งสองครั้งนี้มีอิทธิพลต่อพระองค์สามารถบรรยายออกมาอย่างเต็มที่ได้ เขาได้อ้างอิงถึงอลิซ เค็พเพลและแอ็กเนส เคย์เซอร์ ซึ่งความสัมพันธ์เกิดขึ้นพร้อมกัน โดยเริ่มต้นในระหว่างปี พ.ศ. 2441 และ พ.ศ. 2443 และดำเนินต่อมาจนกระทั่งการเสด็จสวรรคตของพระองค์ ส่วนเจ้าหญิงอเล็กซานดราเองก็ทรงมีความซื่อสัตย์ตลอดชีวิตการสมรสของพระองค์
การสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายอัลเบิร์ต วิกเตอร์ในปี พ.ศ. 2435 เป็นความหายนะอันรุนแรงต่อเจ้าหญิงซึ่งทรงจิตใจที่อ่อนไหว และพระองค์ทรงยืนยันให้คงสภาพห้องพระบรรทมและสิ่งของทุกอย่างให้เหมือนเดิมอย่างที่เจ้าชายทรงทิ้งไว้มากเท่ากับที่พระสัสสุ (แม่สามี) เคยปฏิบัติหลังจากการสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายอัลเบิร์ตในปี พ.ศ. 2404 เจ้าหญิงอลิกซ์ยังคงมีพระสิริโฉมที่อ่อนเยาว์ในช่วงกลางพระชนม์ชีพ ราวกับว่าพระองค์ยังสาว ยังต้องขอบคุณผ้าคลุมอันประณีตและการแต่งพระพักตร์อย่างหนา (นักสังเกตคนหนึ่งบรรยายพระองค์ว่า ทรงดูเหมือนเคลือบเอาไว้)
สมเด็จพระราชินีอเล็กซานดรา
เมื่อสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียเสด็จสวรรคตในวันที่ 22 มกราคม ค.ศ. 1901 เจ้าชายแห่งเวลส์ก็เสวยราชสมบัติสืบต่อเป็นสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 และเจ้าหญิงแห่งเวลส์ได้กลายเป็นสมเด็จพระราชินี ตั้งแต่ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระราชินีในรัชกาลของพระสวามี และสมเด็จพระราชชนนีต่อจากนั้นจนกระทั่งสวรรคต พระองค์ทรงเป็นที่รักของประชาชนชาวอังกฤษอย่างมาก พระองค์ทรงประกอบการกุศลมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Alexandra Rose Day ในช่วงของสงครามบัวร์ พระองค์ได้ทรงก่อตั้ง (Queen Alexandra's Nursing Corps) หรือที่รู้จักกันในนาม "Q.A.s" ไม่ได้มีหลักฐานอันชี้ชัดว่าพระองค์ทรงขาดไหวพริบทางการการเมือง พระองค์ทรงมีความไม่โปรดจำเพาะกับชาวเยอรมัน เป็นความเกลียดชังซึ่งเกิดมาจากการที่ปรัสเซียยึดครองและฮ็อลชไตน์ ซึ่งเป็นอดีตดินแดนของเดนมาร์กในช่วงในปี ค.ศ. 1864
เฉกเช่นเดียวกับพระราชวงศ์ต่าง ๆ ในสมัยของพระองค์ สมเด็จพระราชินีอเล็กซานดรามิทรงมีความเข้าพระทัยเรื่องเงินตรา แม้จะมีความอุตสาหะของเซอร์ ดิกตัน โพรบีน ผู้ควบคุมบัญชีอันจงรักภักดี ซึ่งมีบทบาทที่คล้ายคลึงกันเมื่อพระสวามีทรงเป็นเจ้าชายแห่งเวลส์และต่อมาทรงเป็นสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7
พระองค์เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1925 ด้วยอาการพระหทัยวาย ณ และพระบรมศพฝังอยู่ในหลุมผังพระศพที่ตกแต่งอย่างปราณีตทางด้านขวาของแท่นบูชาหลัก เคียงข้างพระราชสวามีในโบสถ์เซนต์จอร์จ ปราสาทวินด์เซอร์ และถัดมาอีก 13 ปี ในปี 2481 ม็อดแห่งเวลส์ สมเด็จพระราชินีแห่งนอร์เวย์ พระราชธิดาของพระองค์ ก็สวรรคตลงในวันเดียวกัน
พระอิสริยยศ
- 1 ธันวาคม ค.ศ. 1844 – 31 กรกฎาคม ค.ศ. 1853: เจ้าหญิงอเล็กซานดราแห่งชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์-ซอนเดอร์บูร์ก-กลึกซ์บูร์ก (Her Serene Highness Princess Alexandra of Schleswig-Holstein-Sonderburg-Glücksburg)
- 31 กรกฎาคม ค.ศ. 1853 – 21 ธันวาคม ค.ศ. 1858: เจ้าหญิงอเล็กซานดราแห่งเดนมาร์ก (Her Highness Princess Alexandra of Denmark)
- 21 ธันวาคม ค.ศ. 1858 – 10 มีนาคม ค.ศ. 1863: เจ้าหญิงอเล็กซานดราแห่งเดนมาร์ก (Her Royal Highness Princess Alexandra of Denmark)
- 10 มีนาคม ค.ศ. 1863 – 22 มกราคม ค.ศ. 1901: เจ้าหญิงแห่งเวลส์ (Her Royal Highness The Princess of Wales)
- ในประเทศอังกฤษ: ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ (Her Royal Highness The Duchess of Cornwall)
- ในประเทศสกอตแลนด์: ดัชเชสแห่งรอธซี (Her Royal Highness The Duchess of Rothesay)
- ในเสรีรัฐไอริช: เคานท์เตสแห่งดับลิน (Her Royal Highness The Countess of Dublin)
- 22 มกราคม ค.ศ. 1901 – 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1910: สมเด็จพระราชินี (Her Majesty The Queen)
- ในบริติชอินเดีย: สมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งอินเดีย (Her Imperial Majesty The Queen-Empress)
- 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1910 – 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1925: สมเด็จพระราชินีอเล็กซานดรา (Her Majesty Queen Alexandra)
ตราพระนามาภิไธยเเละตราอาร์มประจำพระองค์
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
lingkkhamphasa inbthkhwamni miiwihphuxanaelaphurwmaekikhbthkhwamsuksaephimetimodysadwk enuxngcakwikiphiediyphasaithyyngimmibthkhwamdngklaw krann khwrribsrangepnbthkhwamodyerwthisudbthkhwamniimmikarxangxingcakaehlngthimaidkrunachwyprbprungbthkhwamni odyephimkarxangxingaehlngthimathinaechuxthux enuxkhwamthiimmiaehlngthimaxacthukkhdkhanhruxlbxxk eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir xelksandraaehngednmark xelksandra aekhorilna mari charlxt hluys cueliy 1 thnwakhm kh s 1844 20 phvscikayn kh s 1925 epnphraxkhrmehsiinsmedcphraecaexdewirdthi 7 aehngshrachxanackr aelasmedcphrackrphrrdiniaehngxinediyinchwngrahwangrchkalkhxngphraswami kxnhnanithrngdarngphraxisriyysepnecahyingaehngewls rahwangpi kh s 1863 kh s 1901 yawnankwaphuidthiekhydarngphraxisriyysni hlngkaresdcswrrkhtkhxngphraswamiinpi kh s 1910 trabcnthungkaresdcswrrkhtkhxngphraxngkhexng thrngdarngphraxisriyysepn smedcphrarachchnni thithrngepnthngphrarachiniinrchkalkxnaelaphrarachchnnikhxngkstriythithrngkhrxngrachyxyu khux smedcphraecacxrcthi 5 aehngshrachxanackr aetimoprdichphraxisriyysechnni cungidmiphraxisriyysepn smedcphrarachinixelksandra Her Majesty Queen Alexandra tlxdkarepnhmaykhxngphraxngkhxelksandraaehngednmarkphrachayalksn chayrawpi kh s 1889smedcphrarachiniaehngshrachxanackraelaekhruxckrphph ckrphrrdiniaehngxinediydarngphrays22 mkrakhm 1901 6 phvsphakhm 1910rachaphiesk9 singhakhm 1902 shrachxanackr 1 mkrakhm 1903 xinediy kxnhnaxlebirt phrarachswami thdipaemri phrarachini phrarachsmphph1 thnwakhm kh s 1844 1844 12 01 okhepnehekn ednmarkswrrkht20 phvscikayn kh s 1925 1925 11 20 80 pi tahnksandringaehm nxrfxlkfngphrasph28 phvscikayn kh s 1925 obsthnxyesntcxrc prasathwindesxrphrarachswamismedcphraecaexdewirdthi 7 aehngshrachxanackrphrarachbutrecachayxlebirt wiketxr dyukaehngkhlaernsaelaexwxnedl smedcphraecacxrcthi 5 ecahyingluxis phrarachkumari ecahyingwiktxeriyaehngshrachxanackr mxdaehngewls smedcphrarachiniaehngnxrewy ecachayxelksanedxr cxhnaehngewlsphranametmxelksandra aekhorilna charlxt hluys cueliyrachwngsklukhsbwrkhphrarachbidaphraecakhrisetiynthi 9 aehngednmarkphrarachmardaluxiesxaehngehsesin khsesillayphraxphiithychiwitinwyeyawecahyingxelksandraaelaecahyingaedkmaraehngednmark ecahyingxelksandra hrux xliks thieriykkninhmuphraprayuryati esdcphrarachsmphphemuxwnthi 1 thnwakhm kh s 1844 n phrarachwngsiehluxng sungepntukaethwinsmystwrrsthi 18 thielkhthi 18 thnnxmalikad thdmacak inkrungokhepnehekn phrarachchnkkhux ecachaykhrisetiyn sungtxmaeswyrachsmbtiepnkhrisetiynthi 9 swnphrarachchnnikhux smedcphrarachiniluxiesxaehngednmark aemwaphraxngkhcamiphraracheptamhykasxngphraxngkhkhux smedcphraecacxrcthi 2 aela efredxrikthi 5 epnphramhakstriyaelathrngmiechuxsaykhxngecachaykhrxngrth khrxbkhrwkhxngphraxngkhthrngmikhwamepnxyuaebbthrrmda aelathungaemcaimidmikhwammngkhngmakmay kyngsamarthmikarxphiesksmrsxyangnaprathbicid echn ecahyingaedkmar phrakhnisthathitxmathrngepn ckrphrrdinimarieyiy efoxodrxfnaaehngrsesiy phraxkhrmehsiinxaelkhsndrthi 3 aelaphrarachchnniinniokhlsthi 2 thaihphrarachchnkkhxngphraxngkhmiphrasmyyawa phrasssuraaehngyuorp Father in Law of Europe ecahyingaehngewlsecachayxlebirt exdewird ecachayaehngewlsaehngshrachxanackr sungeriykknwa ebxrti thrngthaihsmedcphrarachininathwiktxeriyaelaecachayxlebirt phrarachswami phrachnniaelaphrachnkthrnghnkicxyangmak aelaphrachnnisungtxnnithrngepnmaythrngkratuxruxrnthicaihphraxngkhxphiesksmrs ecahyingxelksandramiidthrngepntweluxkaerkkhxngphraxngkh enuxngcakwapraethsednmarkepnptipkstxpraethsprsesiy aelaphraprayuryatiinphrarachwngsxngkvsswnmakepnchaweyxrmn xyangirktam inkarekhaefa smedcphrarachininathwiktxeriy ecahyingxliksphuthrngphrasiriochmngamthaihphraxngkhaelaecachayebxrtithrngphungphxphrathymak kwiexkaehngrachsank idpraphnthbthkwisrresriyphraekiyrtiecahyingxelksandra aelaesxr kidaetngdntriepnphiessephuxkartxnrbecahyinginkaresdcmathungshrachxanackr thngsxngphraxngkhxphiesksmrsknemuxwnthi 10 minakhm kh s 1863 n prasathwindesxr phrachnkkhxngecahyingidesdckhunkhrxngrachbllngkednmarkinxikaepdeduxntxma inkaresdcipdumnaphungphracnthrkhxngthngsxngphraxngkhkidmiedknkeriyncakwithyalyxitn thixyukhangprasathwindesxrsngesdc rwmthng bidakhxngwinstn echxrchil sungtxmadarngtaaehnngepnnaykrthmntriaehngshrachxanackrdwy ecachayaelaecahyingaehngewlsmiphraoxrsaelathida 6 phraxngkhdngni ecachayxlebirt wiketxr dyukaehngkhlaernsaelaexwxnedl phranamaebbetm xlebirt wiketxr khrisetiyn exdewird prasuti 8 mkrakhm kh s 1864 sinphrachnm 14 mkrakhm kh s 1892 thrngidrbkarechlimphraxisriyysepn dyukaehngkhlaernsaelaexwxnedl emuxwnthi 24 phvsphakhm kh s 1890 smedcphraecacxrcthi 5 cxrc efredxrikh exxrens xlebirt 3 mithunayn kh s 1865 20 mkrakhm kh s 1936 esdckhunkhrxngrachsmbtitxcakphrabrmrachchnkemuxwnthi 6 phvsphakhm kh s 1910 thrngxphiesksmrskbemuxwnthi 6 krkdakhm kh s 1893 n obsthhlwng phrarachwngesntecms krunglxndxn kb ecahyingwiktxeriy aemri xxksta hluysa oxlka phxlin khlxdin aexkensaehngethkh 26 phvsphakhm kh s 1867 24 minakhm kh s 1953 ecahyinghluysaehngewls hluys wiktxeriy xelksandra aedkmar 20 kumphaphnth kh s 1867 4 mkrakhm kh s 1831 thrngidrbkarechlimphraxisriyysepn phrarachkumari emuxwnthi 9 phvscikayn kh s 1905 thrngxphiesksmrsinwnthi 27 krkdakhm kh s 1889 n phrarachwngbkhkingaehm krunglxndxn kb xelksanedxr dff dyukthi 1 aehngiff ekid 10 phvscikayn kh s 1849 thungaekkrrm 29 mkrakhm kh s 1912 idrbphrarachthanbrrdaskdiepn dyukhaehngiff emuxwnthi 29 krkdakhm kh s 1889 ecahyingwiktxeriyaehngewls wiktxeriy xelksandra oxlka aemri 6 krkdakhm kh s 1868 3 thnwakhm kh s 1935 ecahyingmxdaehngewls mxd charlxt aemri wiktxeriy 26 phvscikayn kh s 1869 20 phvscikayn kh s 1938 thrngxphiesksmrsemuxwnthi 22 krkdakhm kh s 1896 n phrarachwngbkhkingaehm krunglxndxn kb ecachaykharlaehngednmark 3 singhakhm kh s 1872 21 knyayn kh s 1957 esdckhunkhrxngrachbllngkaehngnxrewy aela ethlingphranamaphiithy ohkunthi 7 emuxwnthi 18 phvscikayn kh s 1905 thrngdarngphraxisriyysepn smedcphrarachiniaehngnxrewy emuxwnthi 18 phvscikayn kh s 1905 hlngcakkareswyrachsmbtiaehngnxrewy xelksanedxr cxhn charls orebirt xlebirt 6 7 emsayn kh s 1871 chiwitswnphraxngkhecahyingxliksthrngthumethihkbphraoxrsthidaaelakharachbripharthnghlayxyangmakaelathrngrunrmykbkickrrmtang echn karetnraaelakarelnsektnaaekhng aemhlngkarprasutikhxngecachayxlebirt wiketxr exddi phraoxrsphraxngkhaerkinpi ph s 2407 phraxngkhkyngthrngptibtiphraxngkhdngedimehmuxnaetkxn thaihkarkrathbkrathngknrahwangsmedcphrarachininathkbthngecachayaelaecahyingaehngewlsxyubang xyangirkdi hlngcakkarprasutiphrathidaphraxngkhthisaminpi ph s 2410 khwamyungyaktang kekhamakhukkhamchiwitkhxngphraxngkhaelathrngcmxyuinkhwamthukkhicxyangthawr xikthngyngthrngthnthukhkbradbkhwamhuhnwkthiephimkhun sungepnkrrmphnthu dwykhwamxayrxyaephlepnbnphrasx sungklawknwaepnphlmacakxubtiehtuemuxthrngphraeyaw thaihphraxngkhthrngphyayamsxnaephlepnodykarswmsrxyphrasxaebbrdkhxsungaelathrngchlxngphraxngkhkhxtng enuxngcakthrngepnstrithimirupochmngdngam phrakhxthieriywrahngthaihkaraetngphraxngkhechnniekidepnkraaeskhwamniymkhunma ecachayebxrtiaelaecahyingxliksthrngihtahnkaesndringaehmepnphrarachthanoprd karxphiesksmrskhxngthngsxngphraxngkhthuxwamikhwamsukhinhlay dan xyangirktam ecachayebxrtimiidthrngsnphrathyphrachayahruxphraoxrsthidamakethathikhwr aelathngsxngphraxngkhkehinhangknmakkhuneruxy cnkrathngkarprachwrxyangrunaerngkhxngecachayintnthswrrs 1870 idnakhwamprxngdxngklbkhunma khwamsmphnthkhxngthngsxngphraxngkhkhun lng tlxdewlahlaypi aemwaecachayebxrticathrngidrbkhwamrkikhrcakphrachayaklbkhunma aetkyngkhngmiphrasnmlbxyueruxy echn sungepnnkaesdnglakhr hyingsawphumimnusythrrm aela hyingsawaemngansngkhm ecahyingthrngthraberuxngrawekiywkbbrrdasnmlbswnihyxyangetmthi aelaekhphephlthungkhnadidrbphrarachanuyatcakphraxngkhihmaekhaefathikhangphraaethnbrrthmkhxngphraswamiinchwngkaresdcswrrkht xyangirktam phraxngkhthrngephiyngaekhyxmthnkbekhphephlethannaetkimidthrngyxmrbethx inbrrdahyingsawkhnxun thiekiywkhxngkbecachayebxrti ekhyesxrduehmuxncaidrbkaryxmrbxyangdithisudcakechuxphrawngs enuxngmacaklksnanisythisukhumrxkhxbaelamikhwamekharphnbnxb aelakhwamcringthiwaethxexngkyngimidaetngngan erymxnd lamxnth brawn phuekhiynhnngsuxeruxng Edward VII s Last Loves Alice Keppel and Agnes Keyser khwamrkkhrngsudthaykhxngexdewirdthi 7 xlis ekhphephlaelaaexkens ekhyesxr ekhiynwaxiththiphldanbwkthikhwamsmphnthnxksmrsthngsxngkhrngnimixiththiphltxphraxngkhsamarthbrryayxxkmaxyangetmthiid ekhaidxangxingthungxlis ekhphephlaelaaexkens ekhyesxr sungkhwamsmphnthekidkhunphrxmkn odyerimtninrahwangpi ph s 2441 aela ph s 2443 aeladaenintxmacnkrathngkaresdcswrrkhtkhxngphraxngkh swnecahyingxelksandraexngkthrngmikhwamsuxstytlxdchiwitkarsmrskhxngphraxngkh karsinphrachnmkhxngecachayxlebirt wiketxrinpi ph s 2435 epnkhwamhaynaxnrunaerngtxecahyingsungthrngciticthixxnihw aelaphraxngkhthrngyunynihkhngsphaphhxngphrabrrthmaelasingkhxngthukxyangihehmuxnedimxyangthiecachaythrngthingiwmakethakbthiphrasssu aemsami ekhyptibtihlngcakkarsinphrachnmkhxngecachayxlebirtinpi ph s 2404 ecahyingxliksyngkhngmiphrasiriochmthixxneyawinchwngklangphrachnmchiph rawkbwaphraxngkhyngsaw yngtxngkhxbkhunphakhlumxnpranitaelakaraetngphraphktrxyanghna nksngektkhnhnungbrryayphraxngkhwa thrngduehmuxnekhluxbexaiw smedcphrarachinixelksandraemuxsmedcphrarachininathwiktxeriyesdcswrrkhtinwnthi 22 mkrakhm kh s 1901 ecachayaehngewlskeswyrachsmbtisubtxepnsmedcphraecaexdewirdthi 7 aelaecahyingaehngewlsidklayepnsmedcphrarachini tngaetthrngdarngphraxisriyysepnsmedcphrarachiniinrchkalkhxngphraswami aelasmedcphrarachchnnitxcaknncnkrathngswrrkht phraxngkhthrngepnthirkkhxngprachachnchawxngkvsxyangmak phraxngkhthrngprakxbkarkuslmakmay odyechphaaxyangying Alexandra Rose Day inchwngkhxngsngkhrambwr phraxngkhidthrngkxtng Queen Alexandra s Nursing Corps hruxthiruckkninnam Q A s imidmihlkthanxnchichdwaphraxngkhthrngkhadihwphribthangkarkaremuxng phraxngkhthrngmikhwamimoprdcaephaakbchaweyxrmn epnkhwamekliydchngsungekidmacakkarthiprsesiyyudkhrxngaelahxlchitn sungepnxditdinaednkhxngednmarkinchwnginpi kh s 1864 echkechnediywkbphrarachwngstang insmykhxngphraxngkh smedcphrarachinixelksandramithrngmikhwamekhaphrathyeruxngengintra aemcamikhwamxutsahakhxngesxr diktn ophrbin phukhwbkhumbychixncngrkphkdi sungmibthbaththikhlaykhlungknemuxphraswamithrngepnecachayaehngewlsaelatxmathrngepnsmedcphraecaexdewirdthi 7 phraxngkhesdcswrrkhtemuxwnthi 20 phvscikayn kh s 1925 dwyxakarphrahthyway n aelaphrabrmsphfngxyuinhlumphngphrasphthitkaetngxyangpranitthangdankhwakhxngaethnbuchahlk ekhiyngkhangphrarachswamiinobsthesntcxrc prasathwindesxr aelathdmaxik 13 pi inpi 2481 mxdaehngewls smedcphrarachiniaehngnxrewy phrarachthidakhxngphraxngkh kswrrkhtlnginwnediywknphraxisriyys1 thnwakhm kh s 1844 31 krkdakhm kh s 1853 ecahyingxelksandraaehngchelswich hxlchitn sxnedxrburk kluksburk Her Serene Highness Princess Alexandra of Schleswig Holstein Sonderburg Glucksburg 31 krkdakhm kh s 1853 21 thnwakhm kh s 1858 ecahyingxelksandraaehngednmark Her Highness Princess Alexandra of Denmark 21 thnwakhm kh s 1858 10 minakhm kh s 1863 ecahyingxelksandraaehngednmark Her Royal Highness Princess Alexandra of Denmark 10 minakhm kh s 1863 22 mkrakhm kh s 1901 ecahyingaehngewls Her Royal Highness The Princess of Wales inpraethsxngkvs dchechsaehngkhxrnwxll Her Royal Highness The Duchess of Cornwall inpraethsskxtaelnd dchechsaehngrxthsi Her Royal Highness The Duchess of Rothesay inesrirthixrich ekhanthetsaehngdblin Her Royal Highness The Countess of Dublin 22 mkrakhm kh s 1901 6 phvsphakhm kh s 1910 smedcphrarachini Her Majesty The Queen inbritichxinediy smedcphrackrphrrdiniaehngxinediy Her Imperial Majesty The Queen Empress 6 phvsphakhm kh s 1910 20 phvscikayn kh s 1925 smedcphrarachinixelksandra Her Majesty Queen Alexandra traphranamaphiithyeelatraxarmpracaphraxngkh kxnhna xelksandraaehngednmark thdipecachayxlebirt smedcphrarachiniaehngshrachxanackr maeriyaehngethkhimmi smedcphrackrphrrdiniaehngxinediy in smedcphrackrphrrdiexdewirdthi 7 smedcphrackrphrrdiniaemrikhaorlienxaehngebranchiwkh wxlefinbuthethil ecahyingaehngewls maeriyaehngethkhkhaorlienxaehngebranchiwkh wxlefinbuthethil dchechsaehngkhxrnwxll maeriyaehngethkhkhaorlienxaehngebranchiwkh wxlefinbuthethil dchechsaehngrxthesy maeriyaehngethkh