ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (อังกฤษ: Mahasarakham University; อักษรย่อ: มมส. – MSU) หรือ ม.สารคาม เป็นสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถือกำเนิดมาจากวิทยาลัยวิชาการศึกษาเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2511 นับเป็นสถาบันอุดมศึกษาแห่งที่ 2 ของภาคถัดจาก ม.ขอนแก่น ต่อมาได้ยกฐานะขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตมหาสารคาม เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2517 กลายเป็นมหาวิทยาลัยแห่งที่ 2 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และได้แยกตัวเป็นมหาวิทยาลัยเอกเทศภายใต้ชื่อ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2537 โดยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงลงพระปรมาภิไธยในพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซึ่งได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 111 ตอนที่ 54ก จึงถือว่าวันที่ 9 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสถาปนาสถาบัน ส่วนปี 2511 เป็นปีก่อตั้งสถาบัน
ตราโรจนากร สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัย | |
ชื่อเดิม | วิทยาลัยวิชาการศึกษามหาสารคาม (2511–2517) มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตมหาสารคาม (2517–2537) |
---|---|
ชื่อย่อ | มมส. / MSU |
คติพจน์ | บาลี: พหูนํ ปณฺฑิโต ชีเว (ผู้มีปัญญา พึงเป็นอยู่เพื่อมหาชน) อังกฤษ: Public devotion is a virtue of the learned |
ประเภท | สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ |
สถาปนา | 9 ธันวาคม พ.ศ. 2511 |
งบประมาณ | 3.01 พันล้านบาท (ปีงบประมาณ 2563) |
ดร.พันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ | |
อธิการบดี | รศ.ดร. |
อาจารย์ | 1,244 คน (ปีการศึกษา 2562): 78 |
เจ้าหน้าที่ | 2,270 คน (ปีการศึกษา 2563) |
ผู้ศึกษา | 39,104 คน (ปีการศึกษา 2564) |
ที่ตั้ง | เขตพื้นที่ขามเรียง (ม.ใหม่) 41 หมู่ 20 ตำบลขามเรียง อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม 44150 เขตพื้นที่ในเมือง (ม.เก่า) 269 หมู่ 2 ถนนนครสวรรค์ ตำบลตลาด อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม 44000 สำหรับเขตพื้นที่อื่น ดูในบทความ |
ต้นไม้ | ราชพฤกษ์ (ต้นคูณ) |
สี | |
มอน้ำชี ศรีโรจนากร | |
เครือข่าย | ASAIHL, AUN, |
มาสคอต | เสือดาว จามรี ภุมริน มฤคมาศ |
เว็บไซต์ | http://www.msu.ac.th/ |
ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยมหาสารคามอยู่ภายใต้บังคับพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2541 มีสถานะเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ ตั้งอยู่ที่ตำบลขามเรียง อำเภอกันทรวิชัย (ม.ใหม่) และถนนนครสวรรค์ ตำบลตลาด อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม (ม.เก่า) มีรองศาสตราจารย์ ดร.ประยุกต์ ศรีวิไล เป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัย โดยมหาวิทยาลัยได้ทำการเรียนการสอนมาแล้วกว่า 55 ปี
มหาวิทยาลัยมหาสารคามเปิดการสอนทั้งในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก รวมทั้งสิ้น 203 หลักสูตร ใน 20 คณะและเทียบเท่า ครอบคลุมทั้งสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์การแพทย์ การเกษตร มนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์ แบ่งได้เป็นหลักสูตรระดับปริญญาตรี 92 หลักสูตร ปริญญาโท 66 หลักสูตร ปริญญาเอก 42 หลักสูตร ประกาศนียบัตร 3 หลักสูตร มีบัณฑิตวิทยาลัยดูแลการเรียนการสอนในระดับปริญญาโทและเอก มหาวิทยาลัยมหาสารคามมีนิสิตอยู่ในคณะและวิทยาลัยต่าง ๆ รวมแล้วประมาณ 40,000 คน มีบุคลากรสายวิชาการ 1,244 คน มีตำแหน่งทางวิชาการ ระดับศาสตราจารย์ 7 คน รองศาสตราจารย์ 115 คน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ 506 คน และอาจารย์ 616 คน: 78 และบุคลากรสายสนับสนุน 2,270 คน: 78 ทำการเรียนการสอนทั้งหลักสูตรภาษาไทยและหลักสูตรนานาชาติ ภาคปกติและภาคพิเศษ
ประวัติ
วิทยาลัยวิชาการศึกษามหาสารคาม
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ถือกำเนิดมาจากวิทยาลัยวิชาการศึกษามหาสารคาม เมื่อวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2511 โดย อดีตอธิบดีกรมการฝึกหัดครู (พ.ศ. 2500 - 2513) ซึ่งท่านได้มีแนวคิดเกี่ยวกับการศึกษาในสมัยนั้น เรื่องความต้องการใช้การศึกษาช่วยพัฒนาชุมชนในชนบท จึงต้องรีบผลิตครูที่มีคุณภาพและจำนวนมากพอเพียงออกไปเป็นผู้นำ โดยการศึกษาฝึกหัดครูจะต้องเป็นขั้น ๆ โดยลำดับจนถึงขั้นปริญญา ขณะเดียวกันก็ค่อยลดการผลิตครูระดับประกาศนียบัตรลงจนเลิกไปในที่สุด และผลิตครูขั้นปริญญาเพิ่มขึ้น ๆ และเมื่อถึงโอกาสอันสมควร สถานศึกษาฝึกหัดครู สถานศึกษาอาชีวศึกษา และสถาบันขั้นปริญญาต่าง ๆ ซึ่งอยู่ในจังหวัดเดียวกันและจังหวัดใกล้เคียง ก็จะรวมกันเป็นมหาวิทยาลัยภูมิภาค ทั้งนี้อาจารย์บุญถิ่น ได้มีแนวคิดและเหตุผลที่เลือกจังหวัดมหาสารคามให้เป็นที่ตั้งของวิทยาลัย “ครูปริญญา” ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้นว่า
“ | …ทางภาคเหนือนั้น เดิมเราตั้งใจจะเปิดที่เชียงใหม่ก่อน แต่เมื่อมีมหาวิทยาลัยตั้งขึ้นในระยะที่เรากำลังดำเนินการอยู่ จึงเปิดที่พิษณุโลก ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้นขั้นแรกเตรียมจะเปิดที่อุบลหรืออุดรธานี แต่ในระยะนั้นแถบชายแดนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่ค่อยเรียบร้อยจึงเปิดที่มหาสารคาม ในภาคใต้และภาคกลางก็จะเปิดหลายแห่ง แต่เนื่องจากกำลังคนมีจำกัด จึงเปิดเพียงสองแห่งไปตามกำลังคนที่มีอยู่ในขณะนั้น คือที่สงขลาและบางเขน… | ” |
ในช่วงระยะแรกของการก่อตั้งวิทยาลัยวิชาการศึกษามหาสารคามนั้น ต้องประสบปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานจากความไม่พร้อมในด้านอาคารสถานที่ บุคลากร และอุปกรณ์ประกอบการเรียนการสอน จึงต้องอาศัยวิทยาลัยครูมหาสารคาม (มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ในปัจจุบัน) ในเบื้องต้นเกือบทั้งหมด ซึ่งช่วยสนับสนุนและเป็นพี่เลี้ยงในช่วงก่อตั้ง วิทยาลัยวิชาการศึกษาอื่นที่ไปตั้งในแต่ละภูมิภาคต่างก็ประสบในทำนองเดียวกันและช่วยเหลือกันในการแก้ปัญหาดังกล่าว
หลักสูตรที่เปิดสอนในปีการศึกษาแรก พ.ศ. 2511 มี 2 วิชาเอก คือ วิชาเอกภาษาอังกฤษและชีววิทยา ประกอบด้วย 3 คณะวิชาคือ คณะวิชาการศึกษา คณะวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ และคณะวิชามนุษยธรรมศึกษาและสังคมศาสตร์ โดยคณะวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ และคณะวิชามนุษยธรรมศึกษาและสังคมศาสตร์ เป็นคณะวิชาที่เปิดสอนวิชาพื้นฐานให้กับหลักสูตรการศึกษาบัณฑิตของคณะวิชาการศึกษา จึงยังไม่ได้เปิดรับนิสิต ส่วนคณะวิชาการศึกษาสามารถเปิดรับนิสิตรุ่นแรกได้จำนวน 134 คน ซึ่งนิสิตที่มาเรียนในระยะแรก ปีการศึกษา 2511 – 2515 ได้รับการเลือกจากผู้สมัครที่มีผลการเรียนดีจากวิทยาลัยครูทั่วประเทศมาศึกษาต่อในหลักสูตรปริญญาตรี 2 ปี
ในปีการศึกษา 2512 การก่อสร้างอาคารสถานที่ของวิทยาลัยเสร็จสมบูรณ์และเปิดใช้งาน คือ อาคารเรียน 1, หอสมุด หอศิลป์ โรงอาหาร หอพักชาย และหอพักหญิง จากนั้นวิทยาลัยจึงได้มีการพัฒนามาตามลำดับ
ในปี 2514 ได้มีการดำเนินการขอพื้นที่ฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นที่ของกองทัพอากาศ ซึ่งได้ใช้เป็นสนามแข่งม้าและสนามบินจากนั้นจึงได้มีการก่อสร้างอาคารเรียนและหอพักเพิ่มเติม
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตมหาสารคาม
ต่อมาในวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2517 ได้มีประกาศใช้พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ พ.ศ. 2517 ในราชกิจจานุเบกษา ซึงเป็นการรวมวิทยาลัยเขตทั้งหมด เป็นมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และโอนสถานะไปสังกัดทบวงมหาวิทยาลัย และเรียกชื่อมหาวิทยาลัยและชื่อวิทยาเขตตามสถานที่ตั้งของวิทยาเขตต่อท้าย ยกเว้นวิทยาเขตพระนครให้เปลี่ยนเป็นมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ บางเขน
ก่อนที่จะได้รับการยกฐานะเป็นมหาวิทยาลัยได้นั้น ทางวิทยาลัยวิชาการศึกษาได้เริ่มมีการเคลื่อนไหวมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 ทั้งนี้ เมื่อครั้งที่ศาสตราจารย์ ดร. สุดใจ เหล่าสุนทร เข้าดำรงตำแหน่งอธิการวิทยาลัยวิชาการศึกษา และเห็นว่าการบริหารงานของวิทยาลัยนั้นขาดความคล่องตัวอยู่มาก เนื่องด้วยข้อจำกัดหลายประการจะเป็นปัญหาระยะยาวในการขยายผลด้านการศึกษาในอนาคตต่อไป จึงได้ร่างพระราชบัญญัติเพื่อขอยกฐานะเป็นมหาวิทยาลัยต่อสภาวิทยาลัยวิชาการศึกษา โดยในระหว่างนั้น ศาสตราจารย์ ดร. สุดใจ เหล่าสุนทร ได้ออกเอกสารที่เรียกว่า 'เอกสารปกขาว' เพื่อชี้แจงหลักการและเหตุผลดังกล่าวแก่ผู้ที่สนใจรับทราบว่า
“ | …เมื่อข้าพเจ้าได้รับตำแหน่งอธิการวิทยาลัยวิชาการศึกษาเมื่อเดือนมกราคม 2512 ได้พบว่าการดำเนินงานของวิทยาลัยวิชาการศึกษาไม่มีความคล่องตัวเป็นอันมาก จึงได้ร่างพ.ร.บ. ยกฐานะวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยเสนอต่อประธานสภาวิทยาลัยวิชาการศึกษา เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2512 และรอรับฟังพิจารณาอยู่ 1 ปีเต็ม จนถึงเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2512 จึงได้เสนอร่าง พ.ร.บ. นี้ต่อประธานสภาวิทยาลัยวิชาการอีกครั้งหนึ่ง และเสนอให้เลขาธิการสภาการศึกษาแห่งชาติ เพื่อพิจารณาอีกทางหนึ่ง... ...อาจจะเป็นเพราะวิทยาลัยวิชาการศึกษาเป็น วิทยาลัย ในความหมายของความเข้าใจของบุคคลทั่วไปว่า ไม่ใช่สถานศึกษาชั้นปริญญาในระดับมหาวิทยาลัย ดังที่วิทยาลัยวิชาการศึกษาได้ดำเนินงานอยู่จริง จึงเห็นสมควรที่จะออกเอกสารฉบับนี้ เพื่อสร้างความเข้าใจให้แก่บุคคลที่สนใจในการศึกษาขั้น มหาวิทยาลัย… | ” |
เมื่อได้มีการเสนอร่างพระราชบัญญัติต่อไปตามลำดับ โดยเป็นการดำเนินการตามวิธีที่ถูกต้องและขั้นตอนระเบียบแบบแผนของทางราชการ เริ่มตั้งแต่สภาวิทยาลัยวิชาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ สภาการศึกษา สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม การดำเนินการได้หยุดชะงักไปขณะหนึ่ง เนื่องจากความวุ่นวายทางการเมืองของประเทศในช่วงเวลานั้น จนกระทั่งมีการยกฐานะวิทยาลัยวิชาการศึกษาเป็นกรมหนึ่งของกระทรวงศึกษาธิการ ตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 216 ลงวันที่ 29 กันยายน 2515 ต่อมาในวันที่ 16 มกราคม 2517 คณะรัฐมนตรี มีมติให้ยกฐานะวิทยาลัยวิชาการศึกษาเป็นมหาวิทยาลัย และได้มีการเสนอร่างพระราชบัญญัติสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติ กระทั่งมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ พ.ศ. 2517
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงโปรดเกล้าฯพระราชทานชื่อมหาวิทยาลัยให้เป็นมงคลนามและพระราชทานความหมายว่า " มหาวิทยาลัยที่เจริญเป็นศรีสง่าแก่มหานคร " โดย ' วิโรฒ ' มาจาก ' วิรูฒ ' (ภาษาสันสกฤต) ' วิรุฬห์ ' (ภาษาบาลี) ซึ่งแปลว่า " เจริญ , งอกงาม "
ภายหลังทางวิทยาลัยโดยความร่วมมือทั้งอาจารย์และนิสิต ได้พยายามดำเนินการมาตามลำดับ ทั้งนี้โดยตระหนักจากการพิจารณาองค์ ประกอบความพร้อมในด้านต่าง ๆ ของวิทยาลัยและประโยชน์อันจะเกิดขึ้นต่อ วิทยาลัยและในวงกว้างทางการศึกษาและประเทศชาติต่อไป ทางวิทยาลัย จึงได้มีการชี้แจงเหตุผลและความจำเป็นในการยกฐานะเป็นมหาวิทยาลัยได้ดังนี้
- วิทยาลัยวิชาการศึกษามีความพร้อมโดยสมบูรณ์ที่จะเติบโต เป็นมหาวิทยาลัย ทั้งนี้ทางวิทยาลัยมีความพร้อมของอุปกรณ์ประกอบการสอน อาจารย์ และอาคารสถานที่เพียงพอที่จะเปิดสอนสาขาอื่น ๆ ได้โดยไม่ต้องใช้งบประมาณเพิ่มขึ้น
- ความเจริญก้าวหน้าของวิทยาลัยวิชาการศึกษา
- ความคล่องตัวในการบริหารงาน
- ความเจริญก้าวหน้าทางวิชาการความหลากหลายทางการศึกษาที่ จะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างกว้างขวางในด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
หลังจากที่ได้ยกฐานะแล้ว ทางมหาวิทยาลัยฯได้นำวิธีสอบคัดเลือกนิสิต เข้าศึกษาใน 2 ระดับ คือชั้นปีที่ 1 และ 3 ซึ่งในปีการศึกษานี้มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาสารคามยังคงรับนิสิตภาคปกติที่จบป.กศ. สูงเข้าศึกษาชั้นปีที่ 3 โดยวิธีการสอบคัดเลือกเหมือนเดิม แต่ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ คือได้เปิดรับสมัครสอบนิสิตชั้นปีที่ 1 เข้าเรียนหลักสูตรปริญญาตรี 4 ปีเป็นปีแรกโดยใช้ วิธีการสอบผ่านทบวงมหาวิทยาลัย โดยรับทั้งสิ้น 63 คน สำหรับวิชาเอกที่เปิดในปีการศึกษา 2517 มีทั้งสิ้น 4 คณะวิชา ได้แก่คณะศึกษาศาสตร์, คณะวิทยาศาสตร์, คณะมนุษยศาสตร์ และคณะสังคมศาสตร์ ประกอบด้วยสาขาวิชาประวัติศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ภูมิศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย สังคมศึกษา ภาษาอังกฤษ ชีววิทยา และการประถมศึกษา ซึ่งได้ใช้วิธีการสอบแข่งขันในการคัดเลือกผู้มาเรียนเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
ต่อมาเนื่องจากได้มีการขยายการศึกษาสู่ระดับบัณฑิตศึกษา ทางมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒจึงได้จัดตั้งบัณฑิตวิทยาลัยขึ้นตามวิทยาเขตต่าง ๆ สำหรับวิทยาเขตมหาสารคามนั้น ได้จัดตั้งบัณฑิตวิทยาลัยในปี 2522 นอกจากนั้นยังได้จัดตั้งคณะใหม่และยกฐานะหน่วยงานสำคัญขึ้นมา 3 หน่วยงานใน ปีพ.ศ. 2529 ประกอบด้วย คณะเทคโนโลยี สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน ตามประกาศทบวงมหาวิทยาลัยในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 12 พฤศจิกายน 2529 , สำนักวิทยบริการ ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา สิงหาคม 2529 และสถาบันวิจัยรุกขเวช ตามประกาศจัดตั้งในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2536
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาสารคามได้มีพัฒนาการมาตามลำดับโดยอาศัยเงื่อนไขของเวลาในการสร้างความพร้อมต่าง ๆ กระทั่งสามารถดำเนินการแยกเป็นมหาวิทยาลัยเอกเทศสำเร็จภายใต้ชื่อ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2537 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงลงพระปรมาภิไธยในพระราชบัญญัติของมหาวิทยาลัย ซึ่งได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา นับเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐแห่งที่ 19 ของประเทศไทย สำหรับแนวคิดในการแยกตัวเป็นเอกเทศนั้นได้เริ่มปรากฏขึ้นตั้งแต่ปีพ.ศ. 2527 โดย ดร.ถวิล ลดาวัลย์รองอธิการบดีเวลานั้นได้มีแนวความคิดที่จะรวมสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาหลัก ๆ ของจังหวัดมหาสารคามเข้าเป็นมหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่แนวคิดดังกล่าวได้ติดขัดปัญหาบางประการจึงไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ เช่น ปัญหาของต้นสังกัดเดิมของแต่ละสถาบัน เป็นต้น ครั้นต่อมาในปี พ.ศ. 2531 รองศาสตราจารย์ ดร. วีระ บุญยกาญจนะเป็นรองอธิการบดีจึงได้มีการเสนอให้แยกออกจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒอีกครั้ง โดยให้ลักษณะเป็นสถาบันในนามของสถาบันบัณฑิตศึกษาเพื่อพัฒนาชนบท แต่ให้มีสถานภาพเป็นมหาวิทยาลัย หากแต่ไม่อาจดำเนินต่อไปให้สัมฤทธิ์ผลได้เช่นกัน
กระทั่งในปี พ.ศ. 2535 เมื่อรองศาสตราจารย์ ดร. จรูญ คูณมีเป็นรองอธิการบดี จึงได้มีสืบสานแนวคิดที่จะแยกตัวออกอีกครั้ง และเริ่มปรากฏผลชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้ประกอบกับในช่วงเวลานั้น นายสุเทพ อัตถากร ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัย ซึ่งได้ให้สนใจและความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ในการสนับสนุนแนวคิดที่จะให้มีมหาวิทยาลัยเกิดขึ้นในจังหวัดมหาสารคาม การดำเนินงานจึงได้เริ่มตั้งแต่การแต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำโครงการจัดตั้งมหาวิทยาลัยมหาสารคามและคณะกรรมการร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2535 จากนั้นจึงได้ดำเนินงานมาตามขั้นตอนจนสามารถยกฐานะเป็นมหาวิทยาลัยได้สำเร็จดังที่กล่าวข้างต้นในช่วงรองศาสตราจารย์ ดร. บุญชม ศรีสะอาด เป็นรองอธิการบดี ซึ่งได้สืบสานแนวคิดและการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องโดยได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งบุคคลภายในและภายนอกในสายงานต่าง ๆ ในระหว่างที่มีการดำเนินการเพื่อยกฐานะเป็นมหาวิทยาลัยเอกเทศนั้นได้มีการทบทวนเรื่องชื่อของมหาวิทยาลัยเพื่อหาความเหมาะสมและเห็นพ้องต้องกันทุกฝ่าย โดยการดำเนินการสำรวจประชามติให้เป็นเอกฉันท์ ซึ่งชื่อที่เสนอในครั้งนั้นมีความหลากหลายของที่มาและแนวคิด ได้แก่ มหาวิทยาลัยอีสาน มหาวิทยาลัยภัทรินธร มหาวิทยาลัยศรีเจริญราชเดช มหาวิทยาลัยศรีมหาชัย มหาวิทยาลัยศรีมหาสารคาม จนกระทั่งได้มาเห็นชอบพร้อมกันต่อชื่อ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ในเบื้องท้ายดังปรากฏในปัจจุบัน
ภายหลังได้มีการขยายพื้นที่มายัง ป่าโคกหนองไผ่ ตำบลขามเรียง อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม บนเนื้อที่ประมาณ 1,300 ไร่ ขณะนั้นของรองศาสตราจารย์ ดร. ภาวิช ทองโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคามคนแรก (พ.ศ. 2538-2546) และได้ดำเนินการสร้างอาคารต่าง ๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 ภายหลังจึงได้ย้ายศูนย์กลางบริหารงานมา ณ ที่ทำการแห่งใหม่ในปีการศึกษา 2542 อีกทั้งยังได้มีการเปิดสาขาวิชาและคณะใหม่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก เพื่อเปิดบริการทางการศึกษาให้มีหลากหลายมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้มหาวิทยาลัยยังได้เปิดสอนระดับประถมและมัธยมศึกษาในโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดยเปิดสอนในปีการศึกษา 2540 เป็นปีการศึกษาแรก และยังได้ขยายการศึกษาระดับปริญญาตรี ปริญญาโทไปยังวิทยาเขตนครพนม (มหาวิทยาลัยมหาสารคาม วิทยาเขตนครพนม ปัจจุบันแยกเอกเทศเป็น มหาวิทยาลัยนครพนม) และศูนย์พัฒนาการศึกษาอุดรธานี โดยใช้สอน ระบบทางไกลผ่านดาวเทียม
ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีศูนย์กลางการบริหารงานตั้งอยู่เลขที่ 41 หมู่ 20 ตำบลขามเรียง อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม มีพื้นที่ประมาณ 1,300 ไร่ และที่ตั้งเดิม ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 269 หมู่ 2 ถนนนครสวรรค์ ตำบลตลาด อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม มีพื้นที่ 368 ไร่ เปิดทำการเรียนการสอนกว่า 200 หลักสูตรใน 17 คณะ 2 วิทยาลัย 2 สถาบันวิจัย คลอบคลุมทั้งสายวิทยาศาสตร์การแพทย์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์และสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม นับเป็นสถาบันอุดมศึกษา (สถาบันอุดมศึกษา คือ สถาบันที่จัดการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป มีสถานะทั้ง วิทยาลัย มหาวิทยาลัย และสถาบัน) แห่งที่ 14 ของไทยที่ทำการเรียนการสอนระดับปริญญาตรีขึ้นไปถัดจาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ (มหิดล), มหาวิทยาลัยศิลปากร, วิทยาลัยวิชาการศึกษาประสานมิตร (ม.ศรีนครินทรวิโรฒ), วิทยาลัยวิชาการศึกษาปทุมวัน (ม.ศรีนครินทรวิโรฒ), วิทยาลัยวิชาการศึกษาบางแสน (ม.บูรพา), มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, มหาวิทยาลัยขอนแก่น, สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และวิทยาลัยวิชาการศึกษาพิษณุโลก (ม.นเรศวร) ตามลำดับ
การบริหารงาน
รายนามนายกสภามหาวิทยาลัย
นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งมหาวิทยาลัยในปี 2537 จนถึงปัจจุบัน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีนายกสภามหาวิทยาลัย ดังรายนามต่อไปนี้
ทำเนียบนายกสภามหาวิทยาลัยมหาสารคาม | ||
---|---|---|
รายนามนายกสภามหาวิทยาลัย | วาระการดำรงตำแหน่ง | |
1. มีชัย ฤชุพันธุ์ | พ.ศ. 2538 - พ.ศ. 2551 | |
2. พลเอกสุพิทย์ วรอุทัย | 12 มีนาคม พ.ศ. 2551 - 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 | |
3. อำนวย ปะติเส | 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 - 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 | |
4. ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.อักขราทร จุฬารัตน | 9 ธันวาคม พ.ศ. 2554 - 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556 | |
5. ปัญญา ถนอมรอด | 5 มิถุนายน พ.ศ. 2554 - 22 กุมภาพันธ์ 2562 | |
6. | 22 กันยายน พ.ศ. 2562 - 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 | |
7. พันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ | 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 - ปัจจุบัน |
ทำเนียบอธิการบดี
อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีวาระดำรงตำแหน่ง 4 ปี มาจากการเสนอชื่อ 2 ทาง คือ การสมัครของผู้ที่มีความสนใจ และการเสนอชื่อ ซึ่งคณะกรรมการสรรหาอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคามได้กำหนดให้มีการรับสมัครและการเสนอชื่อผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และเสนอชื่อขอพระราชทานโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งอธิการบดีมหาวิทยาลัย ซึ่งปัจจุบัน มหาวิทยาลัยมหาสารคามมีอธิการบดีมาแล้ว ดังรายนามต่อไปนี้
วิทยาลัยวิชาการศึกษามหาสารคาม | |||
---|---|---|---|
ลำดับ | รายนามรองอธิการประจำวิทยาเขต | วาระการดำรงตำแหน่ง | อ้างอิง |
ศาสตราจารย์ ดร.สายหยุด จำปาทอง | พ.ศ. 2510 - พ.ศ. 2512 | ||
รองศาสตราจารย์ ดร.บุญชม ไชยโกษี | พ.ศ. 2512 - พ.ศ. 2516 | ||
ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ทรงศักดิ์ ศรีกาฬสินธุ์ | พ.ศ. 2516 - พ.ศ. 2517 | ||
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตมหาสารคาม | |||
ลำดับ | รายนามรองอธิการประจำวิทยาเขต | วาระการดำรงตำแหน่ง | อ้างอิง |
ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ทรงศักดิ์ ศรีกาฬสินธุ์ | พ.ศ. 2517 - พ.ศ. 2518 | ||
รองศาสตราจารย์ ชูเกียรติ มณีธร | พ.ศ. 2518 (รักษาการ) | ||
ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ วิทยารัฐ | พ.ศ. 2519 | ||
รองศาสตราจารย์ ดร.ชาตรี เมืองนาโพธิ์ | พ.ศ. 2519 - พ.ศ. 2524 | ||
รองศาสตราจารย์ ดร.วีระ บุญยะกาญจน | พ.ศ. 2524 - พ.ศ. 2526 | ||
ดร.ถวิล ลดาวัลย์ | พ.ศ. 2526 - พ.ศ. 2530 | ||
รองศาสตราจารย์ ดร.วีระ บุญยะกาญจน | พ.ศ. 2530 - พ.ศ. 2534 | ||
รองศาสตราจารย์ ดร.จรูญ คูณมี | พ.ศ. 2534 - พ.ศ. 2536 | ||
รองศาสตราจารย์ ดร.บุญชม ศรีสะอาด | พ.ศ. 2537 | ||
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม | |||
ลำดับ | รายนามอธิการบดี | วาระการดำรงตำแหน่ง | อ้างอิง |
รองศาสตราจารย์ ดร.บุญชม ศรีสะอาด | พ.ศ. 2538 (รักษาการ) | ||
ศาสตราจารย์พิเศษ เภสัชกร ดร.ภาวิช ทองโรจน์ | พ.ศ. 2538 - พ.ศ. 2546 | ||
ศาสตราจารย์ นายแพทย์อดุลย์ วิริยเวชกุล | พ.ศ. 2546 - พ.ศ. 2550 | ||
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ทันตแพทย์สมศักดิ์ จักรไพวงศ์ | พ.ศ. 2550 - พ.ศ. 2551 (รักษาการ) | ||
รองศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย สมัปปิโต | พ.ศ. 2551 - พ.ศ. 2552 (รักษาการ) พ.ศ. 2552 - พ.ศ. 2558 | ||
ศาสตราจารย์ ดร.ปรีชา ประเทพา | พ.ศ. 2558 - พ.ศ. 2559 (รักษาการ) | ||
ศาสตราจารย์ ดร.สัมพันธ์ ฤทธิเดช | พ.ศ. 2559 - พ.ศ. 2562 | ||
รองศาสตราจารย์เทียนศักดิ์ เมฆพรรณโอภาส | พ.ศ. 2562 (รักษาการ) | ||
รองศาสตราจารย์ ดร.ประยุกต์ ศรีวิไล | พ.ศ. 2562 - 2566 พ.ศ. 2566 - ปัจจุบัน |
อัตลักษณ์
-
ตราโรจนากร
ตราประจำมหาวิทยาลัย -
สีเหลือง-เทา
สีประจำมหาวิทยาลัย -
ดอกคูณหรือราชพฤกษ์
ดอกไม้ประจำมหาวิทยาลัย
- ตราโรจนากร คือ ตราประจำมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซึ่งมีความหมายว่า สัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรือง ซึ่งมีองค์ประกอบเป็นรูปใบเสมา ภายในมีภาพขององค์พระธาตุนาดูน ด้านล่างเป็นสุริยรังสีที่แผ่ขึ้นจากผ้าลายขิตซึ่งอยู่เหนือคำขวัญภาษาบาลี โดยแต่ละส่วนของตราโรจนากรนี้ มีความหมายดังนี้
พหูนํ ปณฺฑิโต ชีเว คือ ปรัชญาของมหาวิทยาลัย มีหมายความว่า ผู้มีปัญญาพึงเป็นอยู่เพื่อมหาชน
ใบเสมา หมายถึง ภูมิปัญญา
พระธาตุนาดูน หมายถึง คุณธรรมความดี
สุริยรังสี หมายถึง ความเจริญรุ่งเรือง
ลายขิต หมายถึง ภูมิปัญญาและมรดกทางวัฒนธรรมแห่งอีสาน
ความหมายโดยรวม คือ ความเจริญรุ่งเรืองอันเป็นผลจากความรู้และคุณธรรม ผสมผสานกับภูมิปัญญาแห่งท้องถิ่นอีสาน
- พระพุทธรูปประจำมหาวิทยาลัย : พระพุทธกันทรวิชัยอภิสมัยธรรมนายก
- ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย : ต้นราชพฤกษ์ หรือ ต้นคูณ
- สีประจำมหาวิทยาลัย คือ สีเหลือง - เทา
███ สีเหลือง หมายถึง ความเจริญรุ่งเรือง ความดีงาม ความอุดมสมบูรณ์
███ สีเทา หมายถึง ความคิด หรือ ปัญญา (นอกจากนี้ สีเทา ยังเป็นสีร่วมกันของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒและอดีตวิทยาเขตทั้ง 4 แห่งด้วย)
รวมหมายถึง การมีปัญญาและความคิดที่ดีงาม อันนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง
เพลงมหาวิทยาลัย
|
|
โดยเพลงทั้งหมดนี้สามารถฟังได้บน Apple Music
การศึกษา
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้เปิดหลักสูตรการเรียนการสอนครอบคลุมทั้งสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์สุขภาพ สังคมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ การบริหารการศึกษาดำเนินการโดย 17 คณะ 2 วิทยาลัย 1 สถาบัน มีหน่วยงานสนับสนุนการศึกษาประกอบด้วย 1 บัณฑิตวิทยาลัย 1 สถาบันวิจัย 1 ศูนย์วิจัย: 5 ในปีการศึกษา 2563 มหาวิทยาลัยเปิดการสอนหลักสูตรต่าง ๆ จำนวน 203 สาขาวิชา เป็นหลักสูตรระดับปริญญาตรี 92 สาขาวิชา ระดับปริญญาโท 66 สาขาวิชา ระดับปริญญาเอก 42 สาขาวิชา และระดับประกาศนียบัตร 3 สาขาวิชา ประกอบไปด้วย
คณะวิชาในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม | ||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
คณะ/วิทยาลัย/สถาบัน | ก่อตั้ง | ที่ตั้ง | เขตพื้นที่ | สีประจำคณะ | กลุ่มคณะ | |||
คณะพยาบาลศาสตร์ Faculty of Nursing | พย. NU | 25 ปี | 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2541 | อาคาร 100 ปี สมเด็จพระศรีนครินทร์ | ขามเรียง | สีขาว | วิทยาศาสตร์สุขภาพ | |
คณะแพทยศาสตร์ Faculty of Medicine | พ. MED | 20 ปี | 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2546 | อาคารปฏิบัติการคณะแพทยศาสตร์ | ในเมือง | ███ สีเขียว | วิทยาศาสตร์สุขภาพ | |
คณะเภสัชศาสตร์ Faculty of Pharmacy | ภ. PC | 25 ปี | 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542 | อาคารเภสัชศาสตร์สิรินธร | ขามเรียง | ███ สีเขียวมะกอก | วิทยาศาสตร์สุขภาพ | |
คณะสัตวแพทยศาสตร์ Faculty of Veterinary Sciences | สพ. VET | 15 ปี | 26 กันยายน พ.ศ. 2551 | อาคารเรียนคณะสัตวแพทยศาสตร์ | ในเมือง นาสีนวน | ███ สีฟ้าหม่น | วิทยาศาสตร์สุขภาพ | |
คณะสาธารณสุขศาสตร์ Faculty of Public Health | สธ. PH | 20 ปี | 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 | อาคารปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ และปลีคลินิก | ขามเรียง | ███ สีชมพูอมส้ม | วิทยาศาสตร์สุขภาพ | |
คณะเทคโนโลยี Faculty of Technology | ทล. TA | 37 ปี | 7 สิงหาคม พ.ศ. 2529 | อาคารปฏิบัติการเทคโนโลยี อุตสาหกรรมการเกษตร | ขามเรียง | ███ สีชมพู | วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี | |
คณะวิทยาการสารสนเทศ Faculty of Informatics | วสท. IT | 21 ปี | 24 เมษายน พ.ศ. 2546 | อาคารปฏิบัติการวิทยาการสารสนเทศ | ขามเรียง | ███ สีน้ำเงิน | วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี | |
คณะวิทยาศาสตร์ Faculty of Science | วท. SCI | 56 ปี | 27 มีนาคม พ.ศ. 2511 | กลุ่มอาคารปฏิบัติการ กลางทางวิทยาศาสตร์ | ขามเรียง | ███ สีเหลือง | วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี | |
คณะวิศวกรรมศาสตร์ Faculty of Engineering | วศ. EN | 25 ปี | 18 มีนาคม พ.ศ. 2542 | อาคารปฏิบัติการวิศวกรรมศาสตร์ | ขามเรียง | ███ สีเลือดหมู | วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี | |
คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ผังเมืองและนฤมิตศิลป์ Faculty of Architecture | สถ. ARCH | 23 ปี | 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2543 | อาคารคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ผังเมืองและนฤมิตศิลป์ | ขามเรียง | ███ สีน้ำตาลเข้ม | วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี | |
คณะสิ่งแวดล้อมและ ทรัพยากรศาสตร์ Faculty of Environment | สวล. ENV | 19 ปี | 17 กันยายน พ.ศ. 2547 | อาคารวิทยาศาสตร์สุขภาพ | ขามเรียง | ███ สีเขียวอ่อน | วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี | |
สถาบันวิจัยวลัยรุกขเวช Walairukhavej Botanical | สวร. WRBRI | 31 ปี | 22 ตุลาคม พ.ศ. 2535 | อาคารวิจัยและปฏิบัติการ ชั้น 2 | ขามเรียง นาดูน | ██████ สีน้ำตาล-สีเหลือง | วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี | |
คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม Faculty of Tourism and | ทร. THM | 24 ปี | 16 มิถุนายน พ.ศ. 2543 | อาคารปฏิบัติการการ การท่องเที่ยวและการโรงแรม | ในเมือง | ███ สีม่วงดอกชบา | สังคมศาสตร์ | |
คณะการบัญชีและการจัดการ Mahasarakham Business School | บช. MBS | 25 ปี | 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2541 | อาคารบริหารธุรกิจสิรินธร กลุ่มอาคารบริหารธุรกิจ และพาณิชยศาสตร์ | ขามเรียง | ███ สีฟ้าคราม | สังคมศาสตร์ | |
คณะนิติศาสตร์ Faculty of Law | น. LW | 10 ปี | 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 | อาคารราชนครินทร์ ชั้น 4 | ขามเรียง | สีขาวงาช้าง | สังคมศาสตร์ | |
คณะมนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์ Faculty of Humanities | มนส. HUSOC | 56 ปี | 27 มีนาคม พ.ศ. 2511 | อาคารศูนย์เรียนรู้พัฒนา ภูมิปัญญาท้องถิ่น | ขามเรียง | ███ สีม่วงดอกอินทนิล | มนุษยศาสตร์ | |
คณะศิลปกรรมศาสตร์ และวัฒนธรรมศาสตร์ Faculty of Fine-Applied Arts | ศป. FACS | 22 ปี | 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545 | อาคารปฏิบัติการ ทางศิลปกรรมศาสตร์ อาคารวัฒนธรรมศาสตร์ | ขามเรียง ในเมือง | ██████ สีทอง-สีเงิน | มนุษยศาสตร์ | |
คณะศึกษาศาสตร์ Faculty of Education | ศษ. EDU | 56 ปี | 27 มีนาคม พ.ศ. 2511 | อาคารวิทยพัฒนา | ในเมือง | ███ สีแสด | สังคมศาสตร์ | |
วิทยาลัยการเมืองการปกครอง College of Politics | วมป. COPAG | 20 ปี | 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 | อาคารวิทยบริการ D | ขามเรียง | ███ สีน้ำตาลอ่อน | สังคมศาสตร์ | |
วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ College of Music | วดศ. MUA | 15 ปี | 26 กันยายน พ.ศ. 2551 | อาคารวิทยบริการ C | ขามเรียง | ███ สีม่วง | มนุษยศาสตร์ | |
บัณฑิตวิทยาลัย Graduate School | บว. GS | 44 ปี | 8 ธันวาคม พ.ศ. 2522 | อาคารปฏิบัติการกลาง ทางวิทยาศาสตร์ (SC3) ชั้น 1 | ขามเรียง | ████ สีส้ม-น้ำเงิน | สหวิทยาการ |
หน่วยงานสนับสนุนด้านการสอน
| ส่วนงานสนับสนุนการศึกษาและวิจัย
|
-
ป้ายมหาวิทยาลัยมหาสารคาม -
โรงพยาบาลสุทธาเวช คณะแพทยศาสตร์ -
อาคารเรียนคณะศึกษาศาสตร์ -
อาคารปฏิบัติการกลางทางวิทยาศาสตร์
การก่อตั้งคณะ
มหาวิทยาลัยมหาสารคามมีหลักสูตรที่เปิดสอนในแต่ละคณะทั้งหมดประมาณ 203 หลักสูตรโดยจะมีการแบ่งหลักสูตรออกเป็น หลักสูตรภาคปกติ หลักสูตรภาคพิเศษ หลักสูตรนานาชาติ หลักสูตรต่อเนื่อง และหลักสูตรสาขาวิชาร่วม โดยแต่ละคณะจะเป็นผู้กำหนดรายวิชาในแต่ละสาขาวิชาที่เปิดสอน
ปีที่ก่อตั้ง | คณะ |
---|---|
2511 | คณะศึกษาศาสตร์† (56 ปี) • คณะวิทยาศาสตร์† (56 ปี) • คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์† (56 ปี) |
2522 | บัณฑิตวิทยาลัย† (44 ปี) |
2529 | คณะเทคโนโลยี† (37 ปี) • สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน† (37 ปี) |
2535 | สถาบันวิจัยวลัยรุกขเวช† ( 31 ปี) |
2541 | คณะการบัญชีและการจัดการ (25 ปี) • คณะพยาบาลศาสตร์ (25 ปี) |
2542 | คณะเภสัชศาสตร์ (25 ปี) • คณะวิศวกรรมศาสตร์ (25 ปี) |
2543 | คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม (24 ปี) • คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ผังเมืองและนฤมิตศิลป์ (23 ปี) |
2545 | คณะศิลปกรรมศาสตร์ (22 ปี - ปัจจุบันคือ คณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์) |
2546 | คณะแพทยศาสตร์ (20 ปี) • คณะวิทยาการสารสนเทศ (21 ปี) • คณะสาธารณสุขศาสตร์ (20 ปี) • วิทยาลัยการเมืองการปกครอง (20 ปี) |
2547 | คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ (19 ปี) |
2551 | คณะสัตวแพทยศาสตร์ (15 ปี) • วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ (15 ปี) |
2554 | คณะวัฒนธรรมศาสตร์ (ปี 2554 - 2563 รวม 9 ปี - ปัจจุบันคือ คณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์) |
2557 | คณะนิติศาสตร์ (10 ปี) |
หมายเหตุ
- ตัวเอียง หมายถึง ถูกยุบรวมกับหน่วยงานอื่นหรือยกเลิกหน่วยงาน
- † หมายถึง โอนย้ายสังกัดของหน่วยงานมาสังกัดมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ส่วนงานอื่น ๆ
หน่วยงานส่งเสริมสนับสนุนการศึกษา
|
|
การวิจัย
ผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติในฐานข้อมูล ISI ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 – พ.ศ. 2548 มีทั้งสิ้น 29 เรื่อง ส่วนในปี พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยมหาสารคามได้รับทุนวิจัยรวมทั้งสิ้น 272 โครงการกว่า 86 ล้านบาท: 40 โดยแบ่งตามกลุ่มสาขาวิชาดังนี้
- กลุ่มวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวม 161 โครงการ
- กลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพ รวม 63 โครงการ
- กลุ่มมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ รวม 30 โครงการ
- หน่วยวิจัย รวม 8 โครงการ
- หน่วยงานสนับสนุนการสอน รวม 10 โครงการ
โดยมหาวิทยาลัยมีผลงานการวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่และอ้างอิงในฐานข้อมูล ISI Thomson Reuters สะสมตั้งแต่ปี 2554 - 2563 ทั้งสิ้น 20,368 เรื่อง: 44 ฐานข้อมูล SCOPUS สะสมตั้งแต่ปี 2554 - 2563 ทั้งสิ้น 28,357 เรื่อง: 44 ส่วนในระดับบัณฑิตศึกษานั้น ในปีงบประมาณ 2563 มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีผลงานวิจัยเผยแพร่และอ้างอิงในระดับชาติทั้งสิ้น 301 เรื่อง และในระดับนานาชาติทั้งสิ้น 97 เรื่อง: 45 นอกจากนี้ในปีเดียวกันนั้น ฐานข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีการยื่นคำขอจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาทั้งสิ้น 24 รายการ และได้รับการจดทะเบียนอนุสิทธิบัตรจำนวน 2 รายการ: 46
อันดับและมาตรฐานมหาวิทยาลัย
การประเมินคุณภาพมหาวิทยาลัย
อันดับมหาวิทยาลัย | ||||
---|---|---|---|---|
อันดับในประเทศ (อันดับนานาชาติ) | ||||
สถาบันที่จัด/ปีการศึกษาที่จัด | อันดับ | |||
THE (World) (2022) | 4 (1201+) | |||
THE (World) (2021) | 3 (1001+) | |||
THE (World) (2020) | 4 (401-600) | |||
QS (Asia) (2021) | 13 (501-550) | |||
QS (Asia) (2020) | 13 (401-450) | |||
QS (World) (2020) | 13 (-) | |||
Webometrics (2021) | 15 (1954) | |||
Webometrics (2020) | 15 (2008) | |||
Webometrics (2018) | 16 (1156) | |||
RUR (2020) | 10 (766) | |||
RUR (2018) | 10 (779) | |||
URAP (2018) | 18 (1767) | |||
SIR (2021) | 18 (802) | |||
SIR (2020) | 17 (781) | |||
UI Green Metric (2019) | 14 (233) | |||
uniRank (2019) | 13 (1413) | |||
Nature Index Ranking (2021) | 13 (-) | |||
Nature Index Ranking (2019) | 8 (-) | |||
SIR (2014) | 23 (2863) |
เมื่อปี พ.ศ. 2549 คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกลได้เข้าร่วมการประเมินคุณภาพผลงานวิจัยเชิงวิชาการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของสถาบันอุดมศึกษาซึ่งจัดประเมินโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) มีหน่วยงานเข้าร่วม 436 หน่วยงาน จาก 36 สถาบันอุดมศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชน โดยภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ถูกจัดอันดับอยู่ในระดับ 4 (ดี) และต่อมาในปี พ.ศ. 2554 ภาควิชาวิศวกรรมชีวภาพ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้เข้าร่วมประเมินในโครงการดังกล่าวในสาขา Agricultural/Irrigation/Water Resources Engineering และ Other Engineering Disciplines ผลการประเมินถูกจัดอยู่ในระดับ 5 (ดีมาก)
อันดับมหาวิทยาลัย
นอกจากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดยหน่วยงานในประเทศไทยแล้ว ยังมีหน่วยงานจัดอันดับมหาวิทยาลัยจากต่างประเทศอีกหลายหน่วยงาน ซึ่งแต่ละหน่วยงานมีเกณฑ์การจัดอันดับและการให้คะแนนที่แตกต่างกัน ได้แก่
การจัดอันดับโดย Quacquarelli Symonds
แควกเควเรลลี ไซมอนด์ส หรือ British Quacquarelli Symonds (QS) เป็นบริษัทจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับมากที่สุดแห่งหนึ่ง มีการจัดอันดับครอบคลุมในหลายมิติ เช่น การจัดอันดับเป็นระดับโลก (QS World University Rankings) ระดับทวีปเอเชีย (QS University Rankings: Asia) การจัดอันดับแยกตามคณะ (QS World University Rankings by Faculty) การจัดอันดับแยกตามรายวิชา (QS World University Rankings by Subject) การจัดอันดับคุณภาพบัณฑิต (QS Graduate Employability Rankings 2017) เป็นต้น
น้ำหนักการชี้วัด การแบ่งคะแนนจะต่างกันในแต่ละสาขาวิชา เช่น ทางด้านการแพทย์ ซึ่งเป็นสาขาที่มีอัตราการเผยแพร่งานวิจัยสูง การวัดการอ้างอิงและh-index ก็จะคิดเป็น 25 เปอร์เซนต์ สำหรับแต่ละมหาวิทยาลัย ในทางกลับกันสาขาที่มีการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการที่น้อยกว่า เช่น สาขาประวัติศาสตร์ จะคิดเป็นร้อยละที่ต่ำกว่าคือ 15 เปอร์เซนต์ จากคะแนนทั้งหมด ในขณะเดียวกันสาขาศิลปะและการออกแบบ ซึ่งมีผลงานตีพิมพ์น้อยก็จะใช้วิธีการวัดจากผู้ว่าจ้างและการสำรวจด้านวิชาการ
QS Asia
- ชื่อเสียงทางวิชาการ (30 เปอร์เซนต์) เป้าหมายของตัวชี้วัดนี้เพื่อจะบอกว่ามหาวิทยาลัยใดมีชื่อเสียงในในระดับนานาชาติ
- การสำรวจผู้จ้างงาน (20 เปอร์เซนต์)
- อัตราส่วนของคณะต่อนักศึกษา (15 เปอร์เซนต์) วัดจากอัตราส่วนของบุคลากรทางการศึกษาต่อจำนวนนักศึกษา และการติดต่อและให้การสนับสนุนของบุคลากรที่มีต่อนักศึกษา
- การอ้างอิงในรายงาน (10 เปอร์เซนต์) และผลงานของคณะ (10 เปอร์เซนต์) เป็นการรวมทั้งงานที่อ้างอิงใน Scopus และ การตีพิมพ์ผลงานโดยคณะนั้น ๆ เอง
- บุคลากรระดับดุษฎีบัณฑิต (5 เปอร์เซนต์)
- สัดส่วนคณะที่เป็นหลักสูตรนานาชาติ (2.5 เปอร์เซนต์) และนักศึกษาต่างชาติ (2.5 เปอร์เซนต์)
- สัดส่วนของรับนักศึกษาและเปลี่ยนที่เข้ามาศึกษา (2.5 เปอร์เซนต์) และการส่งนักศึกษาออกไปแลกเปลี่ยน (2.5 เปอร์เซนต์)
โดยมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้รับการจัดให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 13 ของประเทศไทย (ร่วมกับแม่ฟ้าหลวงและนเรศวร) และเป็นอันดับที่ 401-450 ของเอเชียในปี 2563
ในปี 2564 (2021) มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้รับการจัดให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 13 ของประเทศไทย และเป็นอันดับที่ 501-550 ของเอเชีย
การจัดอันดับโดยไทมส์ไฮเออร์เอดูเคชันซัปพลีเมนต์
ได้ประกาศผลอันดับมหาวิทยาลัย รางวัล “THE Social Impact Ranking 2021” หรือมหาวิทยาลัยที่ดำเนินภารกิจเพื่อสังคมที่สร้างผลกระทบต่อสังคมพบว่ามหาวิทยาลัยมหาสารคามได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับที่ 1001+ ของโลก และอันดับ 3 ของประเทศไทย โดยได้คะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 10.3-25.0 ด้านการสอน 17.9 และด้านการวิจัย 7.9 คะแนน นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ยังมีคะแนนในด้านอื่น ๆ อีก ได้แก่ ด้านรายได้จากภาคอุตสาหกรรม (Industry Income) 34.5 คะแนน ลำดับที่ 14 (1,001+), ด้านมุมมองระหว่างประเทศ (International Outlook) 26.9 คะแนน ลำดับที่ 13 (1,001+), ด้านชื่อเสียงทางวิชาการ (Teaching) 17.9 คะแนน ลำดับที่ 11 (1,001+), ด้านความเป็นเลิศด้านการวิจัย (Research) 7.9 คะแนน ลำดับที่ 15 (1,001+) และด้านการเผยแพร่งานวิจัย (Citations) 9.6 คะแนน ลำดับที่ 15 (1,001+)
ในปี 2022 Times Higher Education World University Rankings ได้ประกาศผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยทั่วโลกอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2564 โดยผลการจัดอันดับของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้รับการจัดอันดับที่ 1201+ ร่วมในระดับโลก และอันดับ 4 ร่วมระดับประเทศ และด้านที่ทำคะแนนได้ดีที่สุดเรียงจากมากไปน้อย ได้แก่ 1. ด้านรายได้ทางด้านอุตสาหกรรม (การถ่ายทอดความรู้) 2. ด้านภาพลักษณ์ในระดับนานาชาติ (เจ้าหน้าที่ในมหาวิทยาลัย นักศึกษาและการวิจัย) 3. ด้านการเรียนการสอน (สภาพแวดล้อมการเรียนรู้) 4. ด้านการวิจัย (ปริมาณ รายได้และชื่อเสียง) 5. ด้านการอ้างอิง (ผลงานวิจัย)
สำหรับการจัดอันดับในปีนี้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลมากกว่า 108 ล้าน citations จากงานวิจัยกว่า 14.4 ล้านฉบับ รวมถึงผลการสำรวจที่ได้จากนักวิชาการกว่า 22,000 คนทั่วโลก ซึ่งอันดับที่ 1 ของโลก ได้แก่ University of Oxford สหราชอาณาจักร นอกจากนี้ Peking University และ Tsinghua University มหาวิทยาลัย 2 แห่งจากสาธารณรัฐประชาชนจีนยังสามารถติด 2 ใน 20 อันดับแรกของโลก สำหรับประเทศไทยนั้น อันดับที่ 1 หรืออันดับที่ 601–800 ของโลก ได้แก่ มหาวิทยาลัยมหิดล และ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง นอกจากมหาวิทยาลัยในประเทศไทยจำนวน 17 แห่ง ที่ติดอันดับแล้ว ยังมีอีก 6 แห่งที่ส่งข้อมูลเข้าร่วมการจัดอันดับในปีนี้ด้วย
การจัดอันดับโดย Webometrics
การจัดอันดับมหาวิทยาลัยของเว็บโอเมตริกซ์ ปี พ.ศ. 2559 จัดทำขึ้นเพื่อแสดงถึงความตั้งใจของสถาบันต่าง ๆ ในการเผยแพร่ความรู้สู่เว็บ และเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงความรู้อย่างเปิดกว้าง (Open Access) ทั่วโลก อันดับโอเมตริกซ์จะบอกถึงปริมาณและคุณภาพของสิ่งตีพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ในเว็บไซต์ของสถาบัน โดยพิจารณาจากจำนวนลิงก์ที่เชื่อมโยงเข้าสู่เว็บสถาบันจากเว็บภายนอกโดยวัดจากการสืบค้นด้วยเสิร์ชเอนจิน (Search engine) และนับจำนวนเอกสารตีพิมพ์ออนไลน์ในไฟล์ (อาทีเช่น .pdf .ps .ppt และ .doc) และจำนวนเอกสารที่มีการอ้างอิง (Citations) ผ่านกูเกิลสกอลาร์ (Google Scholar) เว็บโอเมตริกซ์0tจัดอันดับปีละ 2 ครั้ง ในเดือนมกราคม และกรกฎาคม การจัดอันดับล่าสุดในรอบที่ 1 ประจำปี พ.ศ. 2559 มหาวิทยาลัยมหาสารคามอยู่ในอันดับที่ 12 ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย อันดับที่ 25 ของภูมิภาคอาเซียน อันดับที่ 279 ของเอเชีย และอยู่ในอันดับที่ 1156 ของโลก และล่าสุดการจัดอันดับรอบที่ 1 ประจำปี พ.ศ. 2563 มหาวิทยาลัยมหาสารคามได้รับการจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับที่ 15 ของประเทศไทย 508 ของทวีปเอเชีย และอยู่ในอันดับที่ 1954 ของโลก
การจัดอันดับโดย UI Green Metric World University Ranking
เป็นการจัดอันดับมหาวิทยาลัยสีเขียวที่จัดโดยมหาวิทยาลัยอินโดนีเซีย ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อสนับสนุนการเป็นมหาวิทยาลัยยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมทั่วโลก ในรอบ พ.ศ. 2561 มหาวิทยาลัยมหาสารคามได้รับการจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยสีเขียวอันดับ 14 ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย และเป็นอันดับที่ 233 ของโลก
การจัดอันดับโดย SCImago Institutions Ranking
อันดับมหาวิทยาลัยโดย SCImago Institutions Ranking หรือ SIR ซึ่งเป็นการจัดอันดับสถาบันที่มีผลงานวิจัยในระดับนานาชาติ ในปี พ.ศ. 2553 มหาวิทยาลัยมหาสารคามได้รับการจัดให้อยู่ในอันดับที่ 2863 ของโลก อันดับที่ 767 ของทวีปเอเชีย และเป็นอันดับ 15 ของประเทศไทย ส่วนปี ค.ศ. 2017 อยู่ในลำดับที่ 16 ของประเทศไทยลำดับที่ 649 ของโลก ผลการจัดอันดับสถาบันการศึกษา Scimago Institutions Rankings 2020 ได้รับการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ ซึ่งผลการจัดอันดับประเภทภาพรวม (Overall Rank) มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ติดอันดับที่ 15 ของไทย อันดับที่ 781 ของโลก
ผลการจัดอันดับสถาบันการศึกษา Scimago Institutions Rankings 2021 ได้รับการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ ปรากฏว่ามีมหาวิทยาลัยในไทยติดอันดับจำนวน 27 แห่ง โดยผลการจัดอันดับ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ติดอันดับที่ 18 ของไทย อันดับที่ 802 ของโลก
- 1. ด้านการวิจัย ติดอันดับที่ 11 ของไทย อันดับที่ 436 ของโลก
- 2. ด้านนวัตกรรม ติดอันดับที่ 21 ของไทย อันดับที่ 523 ของโลก
- 3. ด้านสังคม ติดอันดับที่ 13 ของไทย อันดับที่ 246 ของโลก
Scimago Institutions Rankings เป็นการจัดอันดับจากองค์การในประเทศสเปน ทำการจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา โดยมีเกณฑ์ในการพิจารณาจากผลงาน 3 ด้าน ได้แก่
- 1. ด้านการวิจัย อ้างอิงผลข้อมูลจาก Scopus
- 2. ด้านนวัตกรรม พิจารณาข้อมูลมาจาก PATSTAT
- 3. ด้านสังคม ข้อมูลจากเว็บไซต์ต่าง ๆ
นอกจากการจัดอันดับใน 3 ด้านหลักแล้ว มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ยังได้รับการจัดอันดับในแต่ละกลุ่มสาขาวิชาทั้งสิ้น 14 สาขาวิชาอันได้แก่
สาขาวิชา | ระดับนานาชาติ | ระดับประเทศ |
---|---|---|
วิทยาศาสตร์ เกษตรและชีวภาพ | 589 | 14 |
หมายเหตุ ผลการจัดลำดับเฉพาะหน่วยงานประเภท สถาบันอุดมศึกษา เท่านั้น!
การจัดอันดับโดย uniRank
uniRank เป็นการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดยหน่วยงานไม่แสวงหากำไร IREG Observatory ที่ประกอบไปด้วยผู้ทรงคุณวุฒิในแวดวงการศึกษาจากหลายสถาบัน และจดทะเบียนหน่วยงานอยู่ในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม อันดับของ uniRank จะอาศัยการรวบรวมข้อมูลตัววัดเว็บ (web metrics) 5 ฐานข้อมูลได้แก่ 1. Moz Domain Authority 2. Alexa Global Rank 3. SimilarWeb Global Rank 4. Majestic Referring Domains 5. Majestic Trust Flow โดยการจัดอันดับประจำปี ค.ศ. 2019 มหาวิทยาลัยมหาสารคามอยู่ในอันดับที่ 13 ในการจัดอันดับมหาวิทยาลัยภายในประเทศไทย และอยู่ในอันดับที่ 1,413 ในการจัดอันดับมหาวิทยาลัยทั่วโลก
การจัดอันดับโดย University Ranking by Academic Performance
อันดับที่จัดโดย University Ranking by Academic Performance หรือ URAP ปี พ.ศ. 2558 มหาวิทยาลัยมหาสารคามได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับ 16 ของประเทศไทย และอันดับ 1767 ของโลก ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม B โดยมีพื้นฐานทางด้านวิชาการตรงตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คุณภาพและปริมาณของบทความตีพิมพ์ทางวิชาการ บทความวิจัย การเผยแพร่ และการอ้างอิง
การจัดอันดับโดย Nature Index
จัดโดยวารสารในเครือ Nature Publishing Group ซึ่งเป็นวารสารทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีชื่อเสียงชั้นนำของโลก โดยการนับจำนวนบทความที่ตีพิมพ์ต่อปีในวารสารที่ในเครือ Nature Publishing Group โดยล่าสุดปี พ.ศ. 2564 มหาวิทยาลัยมหาสารคามอยู่ในอันดับ 13 ของประเทศไทยในด้านคะแนนรวม แบ่งเป็นด้านเคมี อันดับที่ 14 ด้านวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต อันดับที่ 8 และด้านวิทยาศาสตร์กายภาพ อันดับที่ 10
การรับบุคคลเข้าศึกษาต่อ
ระดับประกาศนียบัตรบัณฑิต
หลักสูตรระดับประกาศนียบัตรบัณฑิต และประกาศนียบัตรบัณฑิตชั้นสูง เป็นหลักสูตรที่มุ่งพัฒนานักวิชาการและนักวิชาชีพ ให้มีความชำนาญในสาขาวิชาเฉพาะ สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนางานในสาขาวิชาชีพ นั้น ๆ การศึกษาระดับประกาศนียบัตรบัณฑิตจะต้องศึกษากระบวนวิชาระดับบัณฑิตศึกษา มีหน่วยกิตรวม ตลอดหลักสูตร ไม่น้อยกว่า 24 หน่วยกิต โดยเป็นกระบวนวิชาในระดับบัณฑิตศึกษา ไม่น้อยกว่า 18 หน่วยกิต โดยหลักสูตรระดับประกาศนียบัตรบัณฑิต สามารถสมัครได้โดยตรงที่คณะวิชาที่เปิดรับได้เลย
ระดับปริญญาตรี
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้กำหนดวิธีการรับบุคคลเข้าศึกษาในระดับปริญญาตรีในระบบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- ผู้ที่จบการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่าจะสมัครเพื่อเข้ารับการสอบคัดเลือกผ่านระบบแอดมิสชันส์ โดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
- ทั้งนี้ ตั้งแต่ปีการศึกษา 2561 เป็นต้นไป การคัดเลือกจะทำ 5 รอบ ตาม(ระบบและเกณฑ์การคัดเลือกเข้าอุดมศึกษากลาง TCAS) : 24 การรับสมัครและการคัดเลือกแต่ละรอบตามระบบ TCAS จะเป็นไปตามปฏิทินการรับบุคคลเข้าศึกษาในระดับปริญญาตรีประจำปีของมหาวิทยาลัย และรายละเอีนดของเกณฑ์พื้นฐาน ดังเช่น เอกสารแผ่นพับการรับสมัครประจำปีการศึกษา 2561
- มหาวิทยาลัยมหาสารคามจัดสอบคัดเลือกหรือรับเข้าโดยตรง ตามโครงการต่าง ๆ ดังนี้ : 38–45 ตามเอกสารที่มหาวิทยาลัยประกาศให้ทราบล่วงหน้าเป็นรายปี
|
|
- มหาวิทยาลัยประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าศึกษาในหลักสูตรระดับปริญญาตรี ผ่านทางเว็บไซต์ของผ่ายวิชาการ
ระดับปริญญาโท
การรับเข้าศึกษาในระดับปริญญาโท มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- ผู้สมัครต้องสำเร็จปริญญาตรี หรือกำลังศึกษาอยู่ในภาคการศึกษาสุดท้าย และมีคุณสมบัติขั้นต้น ดังนี้
- ผลการศึกษาหลังจากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ได้คะแนนเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 75.00 หรือแต้มระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 2.50, หรือ
- มีประสบการณ์ในการทำงานอย่างน้อย 3 ปี และมีคุณสมบัติพิเศษตามที่แต่ละหลักสูตรกำหนด
- กรณีสมัครเรียนหลักสูตรแผน ก แบบ ก.1 หรือ แบบ ก.2 (ตามมาคฐานบัณฑิตศึกษาของประเทศไทย) ผู้สมัครต้องจัดเตรียมเอกสารเค้าโครงวิจัย ที่สอดคล้องกับทิศทางของสาขาวิชา และนำเสนอต่อคณะกรรมการสอบสัมภาษณ์
- มาตรฐานหนึ่งของบัณฑิตศึกษาสำหรับหลักสูตรปริญญาโท ที่กำหนดการทำวิทยานิพนธ์ แบ่งเป็น 2 แบบ คือ
- แผน ก แบบ ก.1 วิทยานิพนธ์ไม่น้อยกว่า 36 หน่วยกิต
- แผน ก แบบ ก.2 วิทยานิพนธ์ไม่น้อยกว่า 12 หน่วยกิต
ระดับปริญญาเอก
การรับเข้าศึกษาในระดับปริญญาเอก มีรายละเอียดดังต่อไปนี้ : 5
- ผู้สมัครต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท หรือกำลังศึกษาอยู่ในภาคการศึกษาสุดท้าย และมีคุณสมบัติขั้นต้น ดังนี้
- ผลการศึกษาหลังจากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท ได้คะแนนเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 81.25 หรือแต้มระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 3.25, หรือ
- มีคุณสมบัติพิเศษตามที่แต่ละหลักสูตรกำหนด โดยพิจารณาผลการสอบข้อเชียนและผลงานวิชาการอื่นประกอบ
- กรณีสมัครเรียนหลักสูตรแผน ก แบบ ก.1 หรือ แบบ ก.2 (ตามมาคฐานบัณฑิตศึกษาของประเทศไทย) ผู้สมัครต้องจัดเตรียมเอกสารเค้าโครงวิจัย ที่สอดคล้องกับทิศทางของสาขาวิชา และนำเสนอต่อคณะกรรมการสอบสัมภาษณ์
- มาตรฐานหนึ่งของบัณฑิตศึกษาสำหรับหลักสูตรปริญญาเอก ที่กำหนดการทำวิทยานิพนธ์ แบ่งเป็น 2 แบบ คือ
- แผน ก แบบ ก.1 วิทยานิพนธ์ไม่น้อยกว่า 48 หน่วยกิต
- แผน ก แบบ ก.2 วิทยานิพนธ์ไม่น้อยกว่า 36 หน่วยกิต
พื้นที่มหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีจำนวนพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 3,592 ไร่ ประกอบด้วยเขตพื้นที่การศึกษา 2 เขตและเขตพื้นที่วิจัยและปฏิบัติการ 2 เขต ได้แก่
เขตพื้นที่ในเมือง หรือ ม.เก่า
เขตพื้นที่ในเมือง ตั้งอยู่เลขที่ 269 หมู่ 2 ตำบลตลาด อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม ระยะห่างจากเขตพื้นที่ขามเรียงประมาณ 10 กิโลเมตร มีพื้นที่รวมทั้งหมด 368 ไร่ โดยเป็นพื้นที่เดิมของมหาวิทยาลัย ในช่วงตั้งแต่เป็นวิทยาลัยวิชาการศึกษามหาสารคาม และรวมพื้นที่ของวิทยาลัยศรีอีสาน (คณาสวัสดิ์อุทิศ) ที่ปิดกิจการไปแล้ว เดิมเป็นที่ตั้งของคณะศึกษาศาสตร์ คณะเทคโนโลยี คณะสัตวแพทยศาสตร์และสัตวศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ และคณะการบัญชีและการจัดการ ปัจจุบันเป็นที่ตั้งหน่วยงานและสถานที่ต่าง ๆ ได้แก่
คณะวิชา
- คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม
- คณะการบัญชีและการจัดการ
- คณะแพทยศาสตร์
- คณะศึกษาศาสตร์
- คณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ (เฉพาะภาควิชาวัฒนธรรมและการออกแบบ)
- คณะสัตวแพทยศาสตร์
สถานที่สำคัญ
-
อาคารคณะแพทยศาสตร์ -
อาคารเรียนคณะศึกษาศาสตร์ -
อาคารเฉลิมพระเกียรติ ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 -
อาคารคณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม
- โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (ฝ่ายประถม)
- โรงพยาบาลสุทธาเวช
- โรงอาหารกลาง เขตพื้นที่ในเมือง
- สถาบันขงจื้อ
- สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน
- โครงการอนุรักษ์ใบลานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- ศูนย์บริการแพทย์แผนไทยประยุกต์
- หอพักมอเก่า (11 หอ)
- ศูนย์ประชุมเฉลิมพระเกียรติฯ
หอประชุมเฉลิมพระเกียรติฯ หรือ ศูนย์ประชุมเฉลิมพระเกียรติ ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 ตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เขตพื้นที่ในเมือง มีลักษณะเป็นหอประชุมอเนกประสงค์ สามารถรองรับกิจกรรมพิธีพระราชทานปริญญาบัตร และกิจกรรมทางด้านวิชาการ กิจกรรมการประชุม การอบรมสัมมนา การจัดนิทรรศการ ทั้งภายในมหาวิทยาลัย หน่วยงานภาครัฐ ชุมชน และเอกชนอื่น ๆ ภายในอาคารประกอบด้วย ห้องโถงอเนกประสงค์ขนาดความจุ 5,000 คน ห้องประชุมย่อยความจุห้องละ 80 คน จำนวน 2 ห้อง และห้องประชุมย่อยความจุห้องละ 60 คน จำนวน 8 ห้อง พร้อมพื้นที่บริการและพื้นที่สนับสนุนต่าง ๆ
เขตพื้นที่ขามเรียง หรือ ม.ใหม่
เขตพื้นที่ขามเรียง ตั้งอยู่เลขที่ 41 หมู่ 20 ตำบลขามเรียง อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม เป็นพื้นที่ใหม่ที่ขยายเพื่อรองรับการเติบโตของมหาวิทยาลัย มีพื้นที่ทั้งหมด 1,300 ไร่ เริ่มแรกนั้นมีเพียงอาคารราชนครินทร์เป็นอาคารเรียนแรก ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางบริหารงานมหาวิทยาลัย หน่วยงานและสถานที่ต่าง ๆ ได้แก่
คณะวิชา
สถานที่สำคัญ
-
สนามฟ้า สนามกีฬามหาวิทยาลัยมหาสารคาม -
อาคารราชนครินทร์ (RN) -
อาคารบริหารธุรกิจสิรินธร -
อาคารวิทยาศาสตร์ชีวภาพ
|
|
ศูนย์สารนิเทศอีสานสิรินธร
เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 โดยผู้ที่ริเริ่มจุดประกายแนวคิดและเป็นกำลังสำคัญผลักดัน คือ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.ฉวีลักษณ์ บุณยะกาญจน ซึ่งเป็นผู้อำนวยการสำนักหอสมุดในขณะนั้นท่านได้มองเห็นคุณค่าและตระหนักถึงความสำคัญของสารสนเทศท้องถิ่น จึงเกิดแนวคิดริเริ่มจัดตั้ง “ศูนย์เอกสารอีสาน” ขึ้น เพื่อเป็นศูนย์กลางบริการสารสนเทศที่เกี่ยวกับภูมิภาคอีสาน โดยในระยะเริ่มแรกมีผู้มาขอใช้บริการสารสนเทศอีสานที่สำนักวิทยบริการ (เดิมเรียกว่า หอสมุด) ทั้งจากกลุ่มคณะทำงานตามโครงการพัฒนาทุ่งกุลาร้องไห้ กลุ่มนักวิจัยคณะทำงานการพลังงานแห่งชาติ และกลุ่มนักวิจัยอื่น ๆ ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับภูมิภาคอีสานอยู่ในขณะนั้น มักจะติดต่อสอบถามและโทรศัพท์มาถามถึงข้อมูลเกี่ยวกับภาคอีสานอยู่เสมอ คำถามเหล่านี้เมื่อมีจำนวนมากขึ้นทางสำนักวิทยบริการจึงได้เก็บรวบรวมไว้ พร้อมทั้งค้นหาข้อมูลคำตอบจนมีจำนวนข้อมูลอีสานเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้เป็นศูนย์กลางบริการสารสนเทศที่เกี่ยวกับอีสาน ต่อมาในวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2536 ได้รับพระกรุณาจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานนามให้ว่า “ศูนย์สารนิเทศอีสานสิรินธร” และในวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2538 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาเปิดศูนย์สารนิเทศอีสานสิรินธร อย่างเป็นทางการ
อาคารบรมราชกุมารี
เมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2539 มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้มีการก่อสร้างอาคารบรมราชกุมารี ในเขตพื้นที่ตำบลขามเรียง อำเภอกันทรวิชัย ขึ้น สร้างแล้วเสร็จเมื่อเดือนสิงหาคม 2541 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จวางศิลาฤกษ์ ในวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2539 และทรงเป็นองค์ประธานเปิดอาคารบรมราชกุมารี ในวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2542 พร้อมทั้งพระราชทานนามว่า “อาคารบรมราชกุมารี” โดยอาคารบรมราชกุมารี เป็นอาคารก่อสร้างแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก สูง 4 ชั้น หลังคาทรงไทย มีพื้นที่ใช้สอย 6,000 ตารางเมตร มีจำนวนห้องทั้งสิ้น 40 ห้อง บรรจุบุคลากรเข้าปฏิบัติงานภายในอาคารได้กว่า 200 คน และลองรับบุคคลเข้าติดต่อประสานงานในตัวอาคารเฉลี่ยวันละ 400 คน
อาคารบรมราชกุมารี มีความสำคัญโดยเป็นที่ตั้งสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ทั้งยังเป็นศูนย์กลางในการประชุมสำคัญ ๆ ของมหาวิทยาลัย เป็นสถานที่ต้อนรับบุคคลสำคัญและผู้มาเยือนทั่วโลก เป็นอาคารที่นิสิตและบุคลากรมหาวิทยาลัยทุกคนได้เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อติดต่อประสานงานทางราชการ ถือเป็นหนึ่งในอาคารที่สวยงามที่สุดในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นแลนมาร์คมหาวิทยาลัยในเขตพื้นที่ขามเรียงเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ ที่ทางมหาวิทยาลัยจัดกิจกรรมเพื่อให้ทั้งบุคลากรและนิสิตได้มีส่วนร่วมเกิดความสัมพันธ์อันดีในมหาวิทยาลัย อาทิ งานประเพณีฮีต 12 คลอง 14 วันสถาปณามหาวิทยาลัย และงานพิธีต่าง ๆ ตามโอกาสที่มหาวิทยาลัยกำหนดขึ้น “ตึกบรม”, “อาคารบรม”, “ตึกอธิการ” เป็นคำเรียกที่คุ้นเคยติดปากของนิสิต และบุคลากร มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ปัจจุบันอาคารบรมราชกุมารีใช้เป็นที่ทำการของหน่วยงานในสังกัดสำนักงานอธิการบดี ประกอบด้วย
ชั้นล่าง -กองประชาสัมพันธ์และกิจการต่างประเทศ กลุ่มงานสถานีวิทยุกระจายเสียงมหาวิทยาลัยมหาสารคาม -สำนักหน่วยตรวจสอบภายใน
ชั้น 1 -กองประชาสัมพันธ์และกิจการต่างประเทศ -กองกลาง (งานสารบรรณ) -กองคลังและพัสดุ กลุ่มงานการเงินและบริหารงบประมาณ กลุ่มงานจัดหารายได้และผลประโยชน์
ชั้น 2 -กองประชาสัมพันธ์และกิจการต่างประเทศ กลุ่มงานกิจการต่างประเทศ -กองคลังและพัสดุ งานบริหารงานทั่วไป กลุ่มงานบริหารงานพัสดุ กลุ่มงานบัญชี
ชั้น 3 -กองการเจ้าหน้าที่ -กองแผนงาน
ชั้น 4 -สำนักงานอธิการบดี (งานบริหารงานทั่วไป) -กองกลาง กลุ่มงานบริหารงานทั่วไป กลุ่มงานพิธีการและกิจการพิเศษ กลุ่มงานการประชุม งานเลขานุการ อธิการบดี และห้องประชุม
เขตพื้นที่ปฏิบัติการนาสีนวล
ตั้งอยู่ที่ตำบลนาสีนวล อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม ห่างจากเขตพื้นที่ขามเรียงประมาณ 16 กิโลเมตร เดิมพื้นที่นี้เป็นโครงการศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีเกษตรกรรมเฉลิมพระเกียรติ ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นฟาร์มมหาวิทยาลัย และในปี พ.ศ. 2554 ได้มีการสร้างอาคารปฏิบัติการและโรงพยาบาลสัตว์ ของคณะสัตวแพทยศาสตร์ ปัจจุบันเขตพื้นที่นาสีนวลเป็นพื้นที่ให้ปฏิบัติงานในด้านการเรียนรู้การสอนของคณะสัตวแพทยศาสตร์ และคณะเทคโนโลยี มีสถานที่ ได้แก่
- อาคารปฏิบัติการและโรงพยาบาลสัตว์ คณะสัตวแพทยศาสตร์
- อาคารเรียนรู้การเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร คณะเทคโนโลยี
- ฟาร์มมหาวิทยาลัยมหาสารคาม คณะสัตวแพทยศาสตร์
เขตพื้นที่ปฏิบัติการสถาบันวิจัยวลัยรุกขเวช
เป็นพื้นที่ปฏิบัติการของสถาบันวิจัยวลัยรุกขเวช มี 2 ที่คือ พื้นที่ปฏิบัติการตั้งอยู่ที่บ้านเกิ้ง ตำบลเกิ้ง อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม มีเนื้อที่ 273 ไร่ และพื้นที่ปฏิบัติการ ณ อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม มีเนื้อที่ 650 ไร่
ชีวิตในมหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นอีกหนึ่งมหาวิทยาลัยที่ใช้คำว่า "นิสิต" เรียกผู้เข้าศึกษา โดยคำว่า "นิสิต" มีความหมายว่า "ผู้อยู่อาศัย" คำว่า "นิสิต" ได้เริ่มใช้ครั้งแรกในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เนื่องจากที่ตั้งของมหาวิทยาลัยถือว่าอยู่นอกเมือง การคมนาคมเพื่อมาศึกษาเป็นการยากลำบาก ดังนั้น ผู้ที่มาเรียนส่วนใหญ่จำเป็นต้องพักภายในหอพักของมหาวิทยาลัย และเรียกบุคคลที่อาศัยในห้องปฏิบัติการว่านิสิตเช่นเดียวกันด้วย ซึ่งในภายหลังมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ,มหาวิทยาลัยนเรศวร, มหาวิทยาลัยบูรพา, มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยทักษิณ และมหาวิทยาลัยพะเยา ได้เปิดอยู่นอกเมือง และผู้ที่มาศึกษาก็จำเป็นต้องอยู่หอพักเช่นเดียวกัน จึงได้ใช้คำว่า "นิสิต" เช่นเดียวกัน ในปัจจุบันนี้ ถึงแม้ว่าผู้ที่มาเรียนจะไม่ได้พักในหอพักเหมือนในสมัยก่อนแล้วก็ตาม แต่ก็ยังนิยมเรียกว่านิสิตอยู่
กิจกรรม
การเรียนในมหาวิทยาลัยมหาสารคามนั้นจะใช้เวลาในการเรียนต่างกันตามแต่ละหลักสูตรในแต่ละคณะ โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้เวลาในการเรียน 4 ปี แต่สำหรับคณะแพทยศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ และคณะสัตวแพทยศาสตร์ จะใช้เวลาเรียนทั้งหมด 6 ปี ส่วนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ผังเมืองและนฤมิตศิลป์จะใช้เวลาเรียนทั้งหมด 5 ปี นอกจากนี้ก็ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้นิสิตได้เข้าร่วมเพื่อที่จะได้พบปะและทำความรู้จักนิสิตในคณะอื่น ซึ่งมีการจัดหมุนเวียนกันตลอดทั้งปี
กิจกรรมนิสิต
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีกิจกรรมต่าง ๆ ให้นิสิตได้ทำระหว่างการศึกษาเพื่อเสริมทักษะการอยู่ร่วมในสังคม ไม่ว่าจะเป็น ชมรม ชุมนุม กิจกรรมสาขา งานกีฬาต่าง ๆ วงดนตรี กานแสดงศิลปนาฏศิลป์พื้นเมือง โดยแบ่งออกเป็น กิจกรรมส่วนกลางซึ่งจัดโดย องค์การนิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นผู้ดำเนินโครงการ และยังมีกิจกรรมส่วนของคณะซึ่งจัดโดยสโมสรนิสิตแต่ละคณะทั้งหมด 17 คณะ 2 วิทยาลัย และยังมีกิจกรรมเลือกเสรีหรือชมรมต่าง ๆ อีกมากมาย
กิจกรรมบายศรีสู่ขวัญน้องใหม่
กิจกรรมบายศรีสู่ขวัญน้องใหม่ จัดขึ้น ณ ลานอัฐศิลป์ (ลานแปดเหลี่ยม) มหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการผูกข้อมือสร้างขวัญและกำลังใจให้กับนิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม อีกทั้งเพื่อให้นิสิตใหม่เรียนรู้วัฒนธรรมการบายศรีสู่ขวัญและสืบสานวัฒนธรรมอันดีงาม และเพื่อเป็นการต้อนรับนิสิตใหม่เข้าศึกษาต่อในรั้วมหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดยมีผู้บริหาร อาจารย์ บุคลากร และนิสิตเข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 10,000 คน จากทั้ง 17 คณะ 2 วิทยาลัย นับเป็นกิจกรรมที่มีมาอย่างยาวนาน
ประเพณีประชุมเชียร์
ประเพณีประชุมเชียร์ เป็นกิจกรรมที่มุ้งเน้นการถ่ายทอดความสัมพันธ์ของนิสิตรุ่นพี่สู่รุ่นน้อง ที่ส่งผลให้เกิดความสามัคคี มีระเบียบวินัย มีความภาคภูมิใจในสถาบัน และมีการช่วยเหลือเกื้อกูลกันฉันพี่น้อง โดยมีการจัดกิจกรรมลักษณะสร้างสรรค์ อบอุ่น ประทับใจ เสริมสร้างการพัฒนานิสิต เพื่อถ่ายทอดความเป็นสถาบันผ่านบทเพลง สร้างความภาคภูมิใจในสถาบันรวมทั้งสร้างขวัญและกำลังใจให้กับนิสิตใหม่ ตลอดจนเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้องและนิสิตใหม่ภายในรุ่น อีกทั้งเพื่อให้นิสิตใหม่ได้เรียนรู้ความเป็นอีสาน และเพื่อให้นิสิตใหม่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพมหาวิทยาลัยได้ง่าย เป็นการปลูกจิตสำนึกให้รัก ศรัทธา ในสถาบัน เพื่อสืบสานตำนานเชียร์มหาวิทยาลัยมหาสารคามให้คงอยู่สืบไป โดยกิจกรรมนี้ได้แบ่งโซนบริหารจัดการออกเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่
- หนองภูเลยธานี (หนองคาย-หนองบัวลำภู-เลย-อุดรธานี)
- มุกสกลกาฬนคร (มุกดาหาร - สกลนคร - บึงกาฬ - นครพนม)
- ร้อยแก่นสารสินธุ์ (ร้อยเอ็ด - ขอนแก่น - มหาสารคาม - กาฬสินธุ์)
- นครชัยบุรินทร์ (นครราชสีมา-ชัยภูมิ-บุรีรัมย์-สุรินทร์)
- ศรีโสธรเจริญราชธานี (ศรีสะเกษ-ยโสธร-อำนาจเจริญ-อุบลราชธานี)
กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์และอาสาสมัคร
การออกค่ายอาสาสมัครของนิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคามมีหลายองค์การ เช่น ชมรมอาสาพัฒนา เป็นต้น ทั้งนี้นิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคามที่จะได้รับการเสนอชื่อการเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร จะต้องเป็นนิสิตที่ทำกิจกรรมในด้านต่าง ๆ เป็นการพัฒนานิสิตในด้าน จริยธรรมและคุณธรรม วิชาการและทักษะวิชาชีพ สุขภาพ โดยเป็นการพัฒนาตนเองและเป็นการทำประโยชน์แก่สังคมอีกด้วย
งานเทางามสัมพันธ์
กิจกรรม เกิดขึ้นหลังจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒวิทยาเขตต่าง ๆ ได้รับการยกฐานะเป็นมหาวิทยาลัยใหม่ ซึ่งประกอบด้วย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และมหาวิทยาลัยทักษิณ แม้ว่าวิทยาเขตต่าง ๆ จะได้รับการยกฐานะเป็นมหาวิทยาลัยเอกเทศ แต่ด้วยความตระหนักถึงความผูกพันทั้ง 5 มหาวิทยาลัย จึงมีปณิธานที่จะร่วมมือกันในภารกิจอันควรแก่มหาวิทยาลัย ดังนั้นจึงได้ร่วมมือกันจัดงานเทา-งามสัมพันธ์ ขึ้น โดยใช้สี “เทา” ซึ่งเป็นสีประจำโดยรวมของทุกวิทยาเขตเป็นพื้นฐาน และเพิ่มคำว่า “งาม” ซึ่งเป็นคำที่มีความหมายและมีคุณค่ายิ่ง มีความหมายรวมเป็น “เทา-งามสัมพันธ์” ในปี 2538 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตสงขลา หรือมหาวิทยาลัยทักษิณ เป็นเจ้าภาพโดยมีรูปแบบกิจกรรมที่เน้นด้านกีฬาและด้านศิลปวัฒนธรรมเป็นหลัก
ต่อมาในปี พ.ศ. 2539 ทั้ง 5 มหาวิทยาลัย โดยอธิการบดีร่วมเล็งเห็นความสำคัญต่อภารกิจของมหาวิทยาลัยและประเทศชาติ จึงได้ร่วมลงนามข้อตกลงความร่วมมือมหาวิทยาลัยในเครือเทา-งามสัมพันธ์ เป็นต้นมา ซึ่งมีข้อตกลงชัดเจนใน 4 ด้าน คือ ด้านการวิจัย ด้านการบริหารวิชาการแก่สังคม ด้านการสร้างความสามัคคีระหว่างมหาวิทยาลัยในเครือเทา-งาม ตลอดจนถึงการทะนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมและการกีฬา และด้านการพัฒนาองค์กรบริหาร การจัดการและวิชาการ
ในปี พ.ศ. 2565 มหาวิทยาลัยพะเยา เข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือเทางามอย่างเป็นทางการ เป็นมหาวิทยาลัยที่ 6 ของกลุ่ม และปัจจุบันมีมหาวิทยาลัยในเครือทั้งสิ้น 6 แห่งด้วยกัน คือ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, มหาวิทยาลัยบูรพา, มหาวิทยาลัยนเรศวร, มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, มหาวิทยาลัยทักษิณ และมหาวิทยาลัยพะเยา (อนึ่ง มหาวิทยาลัยพะเยา เป็นมหาวิทยาลัยเดียวที่ไม่ได้ใช้สีเทาเป็นสีประจำมหาวิทยาลัย และเป็นมหาวิทยาลัยเดียวที่ไม่ได้เกี่ยวข้องในการเป็นวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒโดยตรงเหมือนอีก 4 แห่ง แต่แยกตัวมาจากวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยนเรศวร)
พิธีพระราชทานปริญญาบัตร
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ในการประกอบพระราชพิธีต่าง ๆ ในกิจการของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิต มหาบัณฑิต และดุษฎีบัณฑิตของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ณ อาคารศูนย์ประชุมเฉลิมพระเกียรติ ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 มหาวิทยาลัยมหาสารคาม อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม ในช่วงเดือนธันวาคมเป็นประจำทุกปี
ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่ง
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้กำหนดครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่ง ไว้เป็นชุดพิธีการสำหรับสำหรับใช้ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ดังนี้
- ครุยวิทยฐานะ
- ครุยดุษฎีบัณฑิต ทำด้วยผ้าหรือแพรสีดำเย็บเป็นเสื้อคลุมยาวเหนือข้อเท้าพอประมาณหลังจีบตัวเสื้อผ่าอกตลอดมีแถบกำมะหยี่หรือสักหลาดสีเทากว้าง 10 ซม. ขลิบริมด้วยผ้าสีเหลืองกว้าง 1.5 ซม. เย็บติดเป็นสาบตามสีประจำมหาวิทยาลัยตลอดด้านหน้าทั้งสองข้าง แขนเสื้อปลายบานยาวระดับข้อมือ ตอนกลางแขนเสื้อทั้งสองข้างมีแถบกำมะหยี่หรือสักหลาดสีเทากว้าง 7 ซม. ยาว 42 ซม. ขลิบริมด้วยผ้าสีเหลืองกว้าง 0.5 ซม. ปลายแถบทั้งสองข้างเป็นมุมแหลมจำนวน 3 แถบ ติดเรียงกันตามขวางระยะห่างกัน 3.5 ซม. ตัวเสื้อประดับด้วยเข็มวิทยฐานะจำนวน 2 อันในระดับหน้าอกกึ่งกลางของแถบกำมะหยี่หรือสักหลาดสีเทาด้านหน้าทั้งสองข้าง มีผ้าคล้องคอด้านในทำด้วยผ้าต่วนหรือแพรสีเหลือง มีแถบทำด้วยผ้าต่วนหรือแพรสีเทา กว้าง 8 ซม. ทาบจากขอบมุมด้านล่างเป็นแนวยาวรอบ และมีแพรสีเหลืองกว้าง 1.5 ซม. ขลิบริมขอบล่าง
- ครุยมหาบัณฑิต เช่นเดียวกับครุยดุษฎีบัณฑิต แต่ตอนกลางแขนมีแถบกำมะหยี่หรือสักหลาดสีเทาจำนวน 2 แถบติดเรียงกันตามขวางระยะห่างกัน 3.5 ซม.
- ครุยบัณฑิต เช่นเดียวกับครุยดุษฎีบัณฑิต แต่ตอนกลางแขนมีแถบกำมะหยี่หรือสักหลาดสีเทาจำนวนหนึ่งแถบติดตามขวาง
- เข็มวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะของมหาวิทยาลัยมหาสารคามมีลักษณะเป็นรูปตรามหาวิทยาลัยซึ่งเรียกว่า "โรจนากร" ขนาดกว้าง 3.5 ซม. ยาว 4.5 ซม. ทำด้วยโลหะสีทอง มีองค์ประกอบเป็นรูปใบเสมาตรงกลางมีรูปสัญลักษณ์ขององค์พระธาตุนาดูนประดิษฐานอยู่เหนือสุริยะรังสี ด้านล่างเป็นลายขิดอีสาน มีคำขวัญเป็นภาษาบาลีว่า "พหูนํ ปณฺฑิโต ชีเว" หมายถึง "ผู้มีปัญญาพึงเป็นอยู่เพื่อมหาชน"
- ครุยประจำตำแหน่ง
- นายกสภามหาวิทยาลัย ครุยทำด้วยผ้าหรือแพรสีเทาเข้ม เย็บเป็นเสื้อคลุมยาวเหนือข้อเท้าพอประมาณ หลังจีบ ตัวเสื้อผ่าอกตลอด มีแถบกำมะหยี่หรือสักหลาดสีเหลืองกว้าง 10 ซม. ขลิบริมด้วยผ้าสีดำกว้าง 0.5 ซม. เย็บติดเป็นสาบตลอดด้านหน้าทั้งสองข้าง แขนเสื้อปลายบานยาวระดับข้อมือ ตอนกลางแขนเสื้อทั้งสองข้างมีแถบกำมะหยี่หรือสักหลาดสีเหลืองกว้าง 4.5 ซม. ยาว 42 ซม. ปลายแขนทั้งสองข้างเป็นมุมแหลมจำนวน 4 แถบติดเรียงกันตามขวางระยะห่าง 3.5 ซม. ตัวเสื้อประดับด้วยสายสร้อยทำด้วยโลหะสีทอง มีผ้าคล้องคอด้านในมีลักษณะเช่นเดียวกับครุยดุษฎีบัณฑิต ด้านนอกมีพื้นเป็นผ้าต่วนหรือแพรสีเทา มีแถบกำมะหยี่หรือสักหลาดสีเหลืองกว้าง 1.5 ซม. ขลิบริมขอบล่าง
- กรรมการสภามหาวิทยาลัย เช่นเดียวกับนายกสภามหาวิทยาลัย แต่ตัวเสื้อไม่มีสายสร้อยประดับ
- อธิการบดี เช่นเดียวกับนายกสภามหาวิทยาลัย แต่ตัวเสื้อประดับด้วยสายสร้อยทำด้วยโลหะสีเงิน
- คณาจารย์ ครุยทำด้วยผ้าหรือแพรสีเทาเข้ม เย็บเป็นเสื้อคลุมยาวเหนือข้อเท้าพอประมาณ หลังจีบ ตัวเสื้อผ่าอกตลอด มีแถบกำมะหยี่หรือสักหลาดสีเทาเข้มกว้าง 10 ซม. ขลิบริมด้วยผ้าสีเหลืองกว้าง 0.5 ซม. เย็บติดเป็นสาบตลอดด้านหน้าทั้งสองข้าง แขนเสื้อปลายบานยาวระดับข้อมือ ตอนกลางแขนเสื้อทั้งสองข้างมีแถบกำมะหยี่หรือสักหลาดสีเหลืองกว้าง 4.5 ซม. ยาว 42 ซม. ปลายแถบทั้งสองข้างเป็นมุมแหลมจำนวน 3 แถบติดเรียงกันตามขวางระยะห่าง 3.5 ซม. ตัวเสื้อประดับด้วยเข็มวิทยฐานะจำนวน 2 อันในระดับหน้าอกกึ่งกลางของแถบกำมะหยี่หรือสักหลาดสีเทาเข้มด้านหน้าทั้งสองข้าง มีผ้าคล้องคอด้านในมีลักษณะเช่นเดียวกับครุยดุษฎีบัณฑิต ด้านนอกมีพื้นเป็นผ้าต่วนหรือแพรสีเทา มีแถบกำมะหยี่หรือสักหลาดสีเหลืองกว้าง 1.5 ซม. ขลิบริมขอบล่าง
การนับรุ่น
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เริ่มนับรุ่นส่วนกลางครั้งแรกในปี 2517 ครั้งเมื่อยังเป็นมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตมหาสารคาม คณะศึกษาศาสตร์ เริ่มนับรุ่นส่วนคณะของตนเองตั้งแต่ปี 2511 สมัยวิทยาลัยวิชาการศึกษามหาสารคาม ส่วนคณะวิทยาศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เริ่มนับรุ่นของตนรุ่นแรกในช่วงการต่อตั้งหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสถิติ และหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาไทย
รุ่นเสือดาว เป็นรุ่นที่ถูกก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2517 สัญลักษณ์คือ เสือดาว ซึ่งลักษณะเด่นของเสือดาวนั้น คือ ความกระฉับกระเฉง คล่องแคล่ว ว่องไว ตื่นตัวอยู่เสมอ ในทุก ๆ ด้าน
รุ่นจามรี เป็นรุ่นที่ถูกตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2518 ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของควายป่า ซึ่งลักษณะเด่นของจามรีคือ เป็นสัตว์ที่รักขน รักความสะอาดเป็นชีวิตจิตใจ รุ่นนี้มีลักษณเด่น คือ เรียบร้อยและแข็งแกร่ง จึงใช้จามรีเป็นสัญลักษณ์เพื่อให้รักษาความสะอาดเหมือนจามรีรักขน
รุ่นภุมริน ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2519 ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของผึ้ง มีลักษณะเด่นคือ มีคามสามัคคีเหมือนผึ้งที่อยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน รักที่จะทำงานเพื่อส่วนรวมเป็นหลัก
รุ่นมฤคมาศ ก่อตั้งรุ่นขึ้นมาเมื่อปี พ.ศ. 2520 เป็นสัญลักษณ์ของกวางทอง ลักษณะเด่นของกวางทอง คือ กวางทองเป็นสัตว์ที่ดูแลรักษาความสะอาดของตัวเองเสมอ อยู่ร่วมกันเป็นกลุ่ม คอยช่วยเหลือกันและกัน ระวังภัยให้กันและกัน จึงเป็นสัตว์ที่มีความสะอาดเป็นเลิศ และมีความหยิ่งทะนงในความสง่างามของตัวเอง
การนับรุ่นของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม จะผลัดเปลี่ยนรุ่นกันทุก ๆ 4 ปี โดยไล่ตามลำดับ เสือดาว จามรี ภุมริน มฤคมาศ เมื่อครบแล้วจึงย้อนกลับมารุ่นเสือดาวตามเดิม นับแบบนี้มาเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน
หอพักนิสิต
หอพักนิสิต มีทั้งหมด 21 หอพัก แบ่งได้เป็น
หอพักนิสิตในเมือง มีทั้งหมด 11 หอ ได้แก่ หอพักราชพฤกษ์ หอพักชัยพฤกษ์ หอพักปฐมเวศน์ หอพักการเวก หอพักการะเกด หอพักชวนชม หอพักพุทธรักษา หอพักชงโค หอพักอินทนิล หอพักเบญจมาศ และหอพักปาริชาติ
หอพักนิสิตขามเรียง มีทั้งหมด 10 หอ โดยหอพักนิสิตในเขตพื้นที่ขามเรียงจะตั้งชื่อตามอำเภอในจังหวัดมหาสารคาม ได้แก่ หอพักกันทรวิชัย หอพักวาปีปทุม หอพักกุดรัง หอพักยางสีสุราช หอพักบรบือ หอพักเชียงยืน หอพักพยัคฆภูมิพิสัย หอพักโกสุมพิสัย หอพักนาดูน และ หอพักชื่นชม
การเดินทาง
การเดินทางมามหาวิทยาลัย
นิสิต นักเรียน บุคลากร และบุคคลทั่วไปสามารถเดินทางมามหาวิทยาลัยได้ทั้งทางรถยนต์ส่วนตัว และรถโดยสารประจำทาง โดยรถโดยสารประจำทางที่มีให้บริการในจังหวัดมหาสารคามในปัจจุบัน คือ รถสองแถว ในราคา 8 บาท (ถ้าหลัง 20.00 น. ราคา 10 บาท) แบ่งออกเป็นสายเส้นทาง ดังนี้
- สายสีน้ำเงินและสีฟ้า เส้นทางสายนี้จะผ่านสถานที่สำคัญ คือ สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดมหาสารคาม โรงเรียนผดุงนารี ที่การอำเภอเมืองมหาสารคาม โรงเรียนอนุบาลมหาสารคาม วิทยาลัยเทคนิคมหาสารคาม เขตพื้นที่ในเมือง (ม.เก่า) คือ คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เข้าเขตพื้นที่ขามเรียง (ม.ใหม่) โดยจะผ่านตำบลท่าขอนยาง ทางหลวงหมายเลข 2202 ผ่านพิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ สวนสุขภาพ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ วิทยาลัยการเมืองการปกครอง อาคารบรมราชกุมารี โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (ฝ่ายมัธยม) คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ อาคารราชนครินทร์ เข้าถนนมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ผ่านอาคารพลศึกษา คณะการบัญชีและการจัดการ อาคารบริการกลาง (พลาซ่า) หอใน ศูนย์หนังสือมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ตลาดน้อย อาคารปฏิบัติการกลางวิทยาศาสตร์ และสิ้นสุดที่คณะเทคโนโลยี เส้นทางสายนี้บางคันอาจจะสิ้นสุดที่ตำบลขามเรียง
- สายสีเหลือง เส้นทางสายนี้จะผ่านสถานที่สำคัญ คือ เขตพื้นที่ในเมือง (ม.เก่า) คือ คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (ฝ่ายประถม) หอใน ม.เก่า โรงอาหารกลาง คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลสุทธาเวช ศูนย์บริการทางการแพทย์ ภาควิชาวัฒนธรรมศาสตร์ คณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ เสริมไทยคอมเพล็กซ์ มาลินพลาซ่า มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตมหาสารคาม ไทวัสดุ แม็คโคร บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เข้าเขตพื้นที่ขามเรียง (ม.ใหม่) โดยจะผ่านตำบลท่าขอนยาง ทางหลวงหมายเลข 2202 ผ่านพิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ สวนสุขภาพ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ วิทยาลัยการเมืองการปกครอง อาคารบรมราชกุมารี โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (ฝ่ายมัธยม) คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ อาคารราชนครินทร์ เข้าถนนมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ผ่านอาคารพลศึกษา คณะการบัญชีและการจัดการ อาคารบริการกลาง (พลาซ่า) ศูนย์หนังสือมหาวิทยาลัยมหาสารคาม หอใน ตลาดน้อย อาคารปฏิบัติการกลางวิทยาศาสตร์ คณะเทคโนโลยี และสิ้นสุดที่ซอยลาวัลย์
การเดินทางภายในมหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยมหาสารคามได้จัดรถบริการแก่นิสิต นักเรียน บุคลากร และบุคคลทั่วไป เพื่อให้ได้เดินทางไปยังคณะหรือหน่วยงานต่าง ๆ ได้อย่างทั่วถึง โดยมีรถรางไฟฟ้าที่ผ่านหน่วยงานสถานที่ที่สำคัญในเขตพื้นที่ขามเรียง (ม.ใหม่) ผู้ใช้บริการสามารถขึ้นลงได้ตามจุดจอดรถเท่านั้น โดยมีป้ายจุดจอดรถต่าง ๆ ดังนี้ จุดพักรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า จุดจอดรถหลังพลาซ่า จุดจอดรถหอชื่นชม จุดจอดรถหน้าตึกคณะการบัญชีฯ จุดจอดรถหน้าเซเว่น ข้างอาคารบริการนิสิต จุดจอดหน้าคณะวิทยาศาสตร์ (เยื้องตึกวิทยาศาสตร์) จุดจอดหน้าคณะวิทยาศาสตร์ (ป้ายรถเมล์) จุดจอดหน้าคณะสถาปัตยกรรมฯ จุดจอดรถคณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ จุดจอดรถหน้าป้ายคณะการบัญชีฯ จุดจอดริมคลองป้ายรถเมล์ตรงข้ามคณะการบัญชี จุดจอดรถหน้าอาคารราชครินทร์ (คณะนิติศาสตร์) จุดจอดรถหน้าคณะมนุษยศาสตร์ฯ จุดจอดรถวิทยาลัยการเมืองการปกครอง จุดจอดรถคณะเภสัชศาสตร์ จุดจอดรถคณะสิ่งแวดล้อมฯ จุดจอดรถคณะพยาบาลศาสตร์ จุดจอดรถคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุดจอดรถคณะสาธารณสุขศาสตร์ จุดจอดสะพานคณะเทคโนโลยี จุดจอดหน้าหอพักกันทรวิชัย-ตลาดน้อย จุดจอดหน้าอาคารพลาซ่า และจะกลับมาสิ้นสุดที่จุดพักรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ปัจจุบันยังไม่มีรถขนส่งบริการในเขตพื้นที่ในเมือง (ม.เก่า) และเขตพื้นที่นาสีนวล ส่วนในเขตพื้นที่ในเมือง (ม.เก่า) สามารถเลือกใช้บริการรถสองแถวได้
ศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียง
- ดูบทความหลักที่ รายนามบุคคลสำคัญจากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงจากมหาวิทยาลัยมหาสารคามตั้งแต่สมัยวิทยาลัยวิชาการศึกษามหาสารคาม สมัยมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตมหาสารคาม จนกระทั่งถึงสมัยมหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีหลากหลายตั้งแต่บุคคลสำคัญในด้านการเมืองการปกครอง นักวิชาการ ศิลปิน ข้าราชการและคณาจารย์ เช่น
-
ชลิตา ส่วนเสน่ห์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2559 -
สุดารัตน์ บุตรพรม หรือตุ๊กกี้ ชิงร้อย -
นิสิต สินธุไพร
- ชลิตา ส่วนเสน่ห์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2559 ศิษย์เก่าคณะวิทยาศาสตร์
- ลิขิต บุตรพรม นักแสดง/นายแบบ ศิษย์เก่าคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
- สุดารัตน์ บุตรพรม นักแสดง/ดาราตลก ศิษย์เก่าคณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์
- อาณัตพล ศิริชุมแสง นักแสดง/เดอะ สตาร์ 3 ศิษย์เก่าคณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม
- ชิงชัย มงคลธรรม หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ศิษย์เก่าคณะศึกษาศาสตร์
- นิสิต สินธุไพร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ศิษย์เก่าคณะศึกษาศาสตร์
- มนตรี อุดมพงษ์ นักข่าว ศิษย์เก่าคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
- สุทิน คลังแสง นักการเมือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดมหาสารคาม ศิษย์เก่าคณะศึกษาศาสตร์
- ธนาธิป ศรีทองสุก นักร้อง/นักแสดง (สมาชิกวงElement) ศิษย์เก่าคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
ระเบียงภาพมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
-
ป้ายมหาวิทยาลัยมหาสารคาม -
โรงพยาบาลสุทธาเวช คณะแพทยศาสตร์ -
อาคารศูนย์กีฬาและนันทนาการ -
อาคารปฏิบัติการกลางทางวิทยาศาสตร์ -
สนามฟ้า สนามกีฬามหาวิทยาลัยมหาสารคาม -
ศูนย์บริการทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ เขตพื้นที่ขามเรียง -
อาคารบริหารธุรกิจสิรินธร -
อาคารวิทยาศาสตร์ชีวภาพ -
อาคารคณะแพทยศาสตร์ ด้านข้าง -
อาคารคณะแพทยศาสตร์ -
อาคารเฉลิมพระเกียรติ ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 -
อาคารโรงพยาบาลสุทธาเวช -
โดม 50 ปีคณะศึกษาศาสตร์ -
อาคารคณะการบัญชีฯ ม.เก่า -
อาคารแพทย์แผนไทยประยุกต์ -
อาคารสถาบันวิจัยศิลปและวัฒนธรรมอีสาน -
อาคารคณะวัฒนธรรมศาสตร์ -
อาคารคณะศึกษาศาสตร์ -
อาคารคณะศึกษาศาสตร์ 2 -
อาคารวิทยพัฒนา -
อาคารคณะวิศวกรรมศาสตร์ -
อาคารคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ -
อาคารคณะวิทยาการสารสนเทศ -
โรงอาหารคณะแพทยศาสตร์ -
อาคารคณะเภสัชศาสตร์ -
อาคารคณะเภสัชศาสตร์ -
อาคารคณะสาธารณสุขศาสตร์ -
อาคารราชนครินทร์ (RN) -
อาคารคณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม -
อาคารคณะสัตวแพทยศาสตร์และโรงพยาบาลสัตว์นาสีนวน -
สถาบันขงจื้อ -
ลานคณะศึกษาศาสตร์
เชิงอรรถ
- สถาบันวิจัยศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน เป็นสถาบันที่ทำหน้าที่สนับสนุนการวิจัยและการศึกษาให้กับคณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์
- ศูนย์วิจัยและการศึกษาบรรพชีวินวิทยา เป็นหน่วยงานสนับสนุนการศึกษาด้านบรรพชีวินวิทยาและชีววิทยาให้กับภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์
- ก่อตั้งครั้งแรกในชื่อ คณะวิชาการศึกษา และได้เปลี่ยนชื่อเป็น คณะศึกษาศาสตร์ ในปี 2517
- ก่อตั้งครั้งแรกในชื่อ คณะวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ต่อมาได้ทอนชื่อเหลือเพียง คณะวิทยาศาสตร์ ในปี 2518
- ก่อตั้งครั้งแรกในชื่อ คณะวิชามนุษยธรรมศึกษาและสังคมศาสตร์ ต่อมาในปี 2517 ได้แยกหน่วยงานเป็น คณะมนุษยศาสตร์ และคณะสังคมศาสตร์ ก่อนที่จะถูกควบรวมกันเป็น คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ในปี 2537
- หลังจากยกฐานะเป็น มหาวิทยาลัยมหาสารคามแล้ว บัณฑิตวิทยาลัยถูกลดฐานะหน่วยงานลงเป็นงานบริหารบัณฑิตศึกษา สังกัดกองบริการการศึกษา ฝ่ายวิชาการ และกลับมาเป็นบัณฑิตวิทยาลัยอีกครั้งในปี 2546
- เดิมคือภาควิชาบริหารธุรกิจ สังกัดคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เป็นคณะแรกที่จัดตั้งขึ้นภายใต้ชื่อ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
- ชื่อเดิมคือ คณะเภสัชศาสตร์และวิทยาศาสตร์สุขภาพ ภายหลังได้แยกสาขาสาธารณสุขศาสตร์ไปจัดตั้งคณะใหม่ และโอนย้ายสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ไปสังกัดคณะแพทยศาสตร์ จึงตัดสร้อย "และวิทยาศาสตร์สุขภาพ"ออก เหลือเพียง คณะเภสัชศาสตร์ในปี 2548
- เดิมชื่อ คณะวิศวกรรมศาสตร์และวิทยาการคอมพิวเตอร์ ในภายหลังได้แยกภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์เพื่อรวมกับภาควิชาบรรณารักศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ และจัดตั้งเป็น คณะวิทยาการสารสนเทศ จึงตัดสร้อย "และวิทยาการคอมพิวเตอร์"ออก เหลือเพียง คณะวิศวกรรมศาสตร์ในปี 2548
- เดิมคือภาควิชาทัศนศิลป์และศิลปะการแสดง คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ก่อตั้งเป็นคณะในปี 2545 และได้ยุบคณะวัฒนธรรมศาสตร์เข้ากับคณะศิลปกรรมศาสตร์ในปี 2563
- เกิดจากการควบรวมภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์กับภาควิชาบรรณารักศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์
- แยกสาขาสาธารณสุขศาสตร์จาก คณะเภสัชศาสตร์และวิทยาศาสตร์สุขภาพ
- เดิมคือภาควิชารัฐศาสตร์ สังกัดคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
- เดิมคือ คณะสัตวแพทยศาสตร์และสัตวศาสตร์ ภายหลังได้โอนสาขาวิชาสัตวศาสตร์และสาขาวิชาประมง ไปสังกัดคณะเทคโนโลยี จึงตัดสร้อย "และสัตวศาสตร์"ออก เหลือเพียง คณะสัตวแพทยศาสตร์ในปี 2555
- เดิมคือสาขาวิชาดุริยางคศศาสตร์ สังกัดคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
- เดิมคือสาขาวัฒนธรรมศาสตร์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ และในปี 2563 ได้ถูกยุบกลับไปรวมกับคณะศิลปกรรมศาสตร์เป็น คณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์
- เดิมคือสาขาวิชานิติศาสตร์ สังกัดวิทยาลัยการเมืองการปกครอง
- คณะดำเนินการเอง
อ้างอิง
- การกำหนดรหัสตัวพยัญชนะประจำกระทรวงและเลขที่หนังสือออกของ กระทรวงการอดุมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม 2021-12-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน สืบค้นเมื่อ 22 เมษายน 2564
- กองคลังและพัสดุ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, รายงานของผู้ตรวจสอบบัญชีและรายงานการเงิน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประจำปีงบประมาณ 2363 2022-01-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน 27 มกราคม 2565.
- (PDF). 2562 https://meeting.msu.ac.th/meetingmsu/images/documents/doc_command/2566/คำสั่ง%20โปรดเกล้านายกสภามหาวิทยาลัย.pdf. สืบค้นเมื่อ 30 เมษายน 2562.
{{}}
:|title=
ไม่มีหรือว่างเปล่า ((help)); ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - . 2562. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-05-02. สืบค้นเมื่อ 30 เมษายน 2562.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help))
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
lingkkhamphasa inbthkhwamni miiwihphuxanaelaphurwmaekikhbthkhwamsuksaephimetimodysadwk enuxngcakwikiphiediyphasaithyyngimmibthkhwamdngklaw krann khwrribsrangepnbthkhwamodyerwthisud mhawithyalymhasarkham xngkvs Mahasarakham University xksryx mms MSU hrux m sarkham epnsthabnxudmsuksachnnakhxngphakhtawnxxkechiyngehnux thuxkaenidmacakwithyalywichakarsuksaemuxwnthi 27 minakhm 2511 nbepnsthabnxudmsuksaaehngthi 2 khxngphakhthdcak m khxnaekn txmaidykthanakhunepnmhawithyalysrinkhrinthrwiorth withyaekhtmhasarkham emuxwnthi 29 mithunayn 2517 klayepnmhawithyalyaehngthi 2 khxngphakhtawnxxkechiyngehnux aelaidaeyktwepnmhawithyalyexkethsphayitchux mhawithyalymhasarkham emuxwnthi 9 thnwakhm 2537 odyphrabathsmedcphrabrmchnkathiebsr mhaphumiphlxdulyedchmharach brmnathbphitr thrnglngphraprmaphiithyinphrarachbyytimhawithyalymhasarkham sungidmikarprakasinrachkiccanuebksa elmthi 111 txnthi 54k cungthuxwawnthi 9 thnwakhmkhxngthukpi epnwnsthapnasthabn swnpi 2511 epnpikxtngsthabnmhawithyalymhasarkhamtraorcnakr sylksnpracamhawithyalychuxedimwithyalywichakarsuksamhasarkham 2511 2517 mhawithyalysrinkhrinthrwiorth withyaekhtmhasarkham 2517 2537 chuxyxmms MSUkhtiphcnbali phhun pn thiot chiew phumipyya phungepnxyuephuxmhachn xngkvs Public devotion is a virtue of the learnedpraephthsthabnxudmsuksakhxngrthsthapna9 thnwakhm ph s 2511 55 pi ngbpraman3 01 phnlanbath pingbpraman 2563 dr phnthskdi sirirchtphngsxthikarbdirs dr xacary1 244 khn pikarsuksa 2562 78 ecahnathi2 270 khn pikarsuksa 2563 phusuksa39 104 khn pikarsuksa 2564 thitngekhtphunthikhameriyng m ihm 41 hmu 20 tablkhameriyng xaephxknthrwichy cnghwdmhasarkham 44150 ekhtphunthiinemuxng m eka 269 hmu 2 thnnnkhrswrrkh tabltlad xaephxemuxngmhasarkham cnghwdmhasarkham 44000 sahrbekhtphunthixun duinbthkhwamtnimrachphvks tnkhun si sietha aela siehluxngmxnachi sriorcnakrekhruxkhayASAIHL AUN maskhxtesuxdaw camri phumrin mvkhmasewbisthttp www msu ac th pccubn mhawithyalymhasarkhamxyuphayitbngkhbphrarachbyytimhawithyalymhasarkham chbbthi 2 ph s 2541 misthanaepnmhawithyalykhxngrth tngxyuthitablkhameriyng xaephxknthrwichy m ihm aelathnnnkhrswrrkh tabltlad xaephxemuxngmhasarkham cnghwdmhasarkham m eka mirxngsastracary dr prayukt sriwiil epnxthikarbdimhawithyaly odymhawithyalyidthakareriynkarsxnmaaelwkwa 55 pi mhawithyalymhasarkhamepidkarsxnthnginradbpriyyatri priyyaoth aelapriyyaexk rwmthngsin 203 hlksutr in 20 khnaaelaethiybetha khrxbkhlumthngsakhawithyasastraelaethkhonolyi withyasastrkaraephthy karekstr mnusysastr aelasngkhmsastr aebngidepnhlksutrradbpriyyatri 92 hlksutr priyyaoth 66 hlksutr priyyaexk 42 hlksutr prakasniybtr 3 hlksutr mibnthitwithyalyduaelkareriynkarsxninradbpriyyaothaelaexk mhawithyalymhasarkhamminisitxyuinkhnaaelawithyalytang rwmaelwpraman 40 000 khn mibukhlakrsaywichakar 1 244 khn mitaaehnngthangwichakar radbsastracary 7 khn rxngsastracary 115 khn phuchwysastracary 506 khn aelaxacary 616 khn 78 aelabukhlakrsaysnbsnun 2 270 khn 78 thakareriynkarsxnthnghlksutrphasaithyaelahlksutrnanachati phakhpktiaelaphakhphiessprawtiwithyalywichakarsuksamhasarkham mhawithyalymhasarkham thuxkaenidmacakwithyalywichakarsuksamhasarkham emuxwnthi 27 minakhm ph s 2511 ody xditxthibdikrmkarfukhdkhru ph s 2500 2513 sungthanidmiaenwkhidekiywkbkarsuksainsmynn eruxngkhwamtxngkarichkarsuksachwyphthnachumchninchnbth cungtxngribphlitkhruthimikhunphaphaelacanwnmakphxephiyngxxkipepnphuna odykarsuksafukhdkhrucatxngepnkhn odyladbcnthungkhnpriyya khnaediywknkkhxyldkarphlitkhruradbprakasniybtrlngcnelikipinthisud aelaphlitkhrukhnpriyyaephimkhun aelaemuxthungoxkasxnsmkhwr sthansuksafukhdkhru sthansuksaxachiwsuksa aelasthabnkhnpriyyatang sungxyuincnghwdediywknaelacnghwdiklekhiyng kcarwmknepnmhawithyalyphumiphakh thngnixacarybuythin idmiaenwkhidaelaehtuphlthieluxkcnghwdmhasarkhamihepnthitngkhxngwithyaly khrupriyya thiphakhtawnxxkechiyngehnuxnnwa thangphakhehnuxnn edimeratngiccaepidthiechiyngihmkxn aetemuxmimhawithyalytngkhuninrayathierakalngdaeninkarxyu cungepidthiphisnuolk inphakhtawnxxkechiyngehnuxnnkhnaerketriymcaepidthixublhruxxudrthani aetinrayannaethbchayaedninphakhtawnxxkechiyngehnuximkhxyeriybrxycungepidthimhasarkham inphakhitaelaphakhklangkcaepidhlayaehng aetenuxngcakkalngkhnmicakd cungepidephiyngsxngaehngiptamkalngkhnthimixyuinkhnann khuxthisngkhlaaelabangekhn inchwngrayaaerkkhxngkarkxtngwithyalywichakarsuksamhasarkhamnn txngprasbpyhaaelaxupsrrkhinkardaeninngancakkhwamimphrxmindanxakharsthanthi bukhlakr aelaxupkrnprakxbkareriynkarsxn cungtxngxasywithyalykhrumhasarkham mhawithyalyrachphtmhasarkham inpccubn inebuxngtnekuxbthnghmd sungchwysnbsnunaelaepnphieliynginchwngkxtng withyalywichakarsuksaxunthiiptnginaetlaphumiphakhtangkprasbinthanxngediywknaelachwyehluxkninkaraekpyhadngklaw hlksutrthiepidsxninpikarsuksaaerk ph s 2511 mi 2 wichaexk khux wichaexkphasaxngkvsaelachiwwithya prakxbdwy 3 khnawichakhux khnawichakarsuksa khnawichawithyasastraelakhnitsastr aelakhnawichamnusythrrmsuksaaelasngkhmsastr odykhnawichawithyasastraelakhnitsastr aelakhnawichamnusythrrmsuksaaelasngkhmsastr epnkhnawichathiepidsxnwichaphunthanihkbhlksutrkarsuksabnthitkhxngkhnawichakarsuksa cungyngimidepidrbnisit swnkhnawichakarsuksasamarthepidrbnisitrunaerkidcanwn 134 khn sungnisitthimaeriyninrayaaerk pikarsuksa 2511 2515 idrbkareluxkcakphusmkhrthimiphlkareriyndicakwithyalykhruthwpraethsmasuksatxinhlksutrpriyyatri 2 pi inpikarsuksa 2512 karkxsrangxakharsthanthikhxngwithyalyesrcsmburnaelaepidichngan khux xakhareriyn 1 hxsmud hxsilp orngxahar hxphkchay aelahxphkhying caknnwithyalycungidmikarphthnamatamladb inpi 2514 idmikardaeninkarkhxphunthifngtrngkhamsungepnthikhxngkxngthphxakas sungidichepnsnamaekhngmaaelasnambincaknncungidmikarkxsrangxakhareriynaelahxphkephimetim mhawithyalysrinkhrinthrwiorth withyaekhtmhasarkham txmainwnthi 28 mithunayn ph s 2517 idmiprakasichphrarachbyytimhawithyalysrinkhrinthrwiorth ph s 2517 inrachkiccanuebksa sungepnkarrwmwithyalyekhtthnghmd epnmhawithyalysrinkhrinthrwiorth aelaoxnsthanaipsngkdthbwngmhawithyaly aelaeriykchuxmhawithyalyaelachuxwithyaekhttamsthanthitngkhxngwithyaekhttxthay ykewnwithyaekhtphrankhrihepliynepnmhawithyalysrinkhrinthrwiorth bangekhn kxnthicaidrbkarykthanaepnmhawithyalyidnn thangwithyalywichakarsuksaiderimmikarekhluxnihwmatngaetpi ph s 2512 thngni emuxkhrngthisastracary dr sudic ehlasunthr ekhadarngtaaehnngxthikarwithyalywichakarsuksa aelaehnwakarbriharngankhxngwithyalynnkhadkhwamkhlxngtwxyumak enuxngdwykhxcakdhlayprakarcaepnpyharayayawinkarkhyayphldankarsuksainxnakhttxip cungidrangphrarachbyytiephuxkhxykthanaepnmhawithyalytxsphawithyalywichakarsuksa odyinrahwangnn sastracary dr sudic ehlasunthr idxxkexksarthieriykwa exksarpkkhaw ephuxchiaecnghlkkaraelaehtuphldngklawaekphuthisnicrbthrabwa emuxkhaphecaidrbtaaehnngxthikarwithyalywichakarsuksaemuxeduxnmkrakhm 2512 idphbwakardaeninngankhxngwithyalywichakarsuksaimmikhwamkhlxngtwepnxnmak cungidrangph r b ykthanawithyalyepnmhawithyalyesnxtxprathansphawithyalywichakarsuksa emuxwnthi 18 krkdakhm 2512 aelarxrbfngphicarnaxyu 1 pietm cnthungemuxwnthi 28 krkdakhm 2512 cungidesnxrang ph r b nitxprathansphawithyalywichakarxikkhrnghnung aelaesnxihelkhathikarsphakarsuksaaehngchati ephuxphicarnaxikthanghnung xaccaepnephraawithyalywichakarsuksaepn withyaly inkhwamhmaykhxngkhwamekhaickhxngbukhkhlthwipwa imichsthansuksachnpriyyainradbmhawithyaly dngthiwithyalywichakarsuksaiddaeninnganxyucring cungehnsmkhwrthicaxxkexksarchbbni ephuxsrangkhwamekhaicihaekbukhkhlthisnicinkarsuksakhn mhawithyaly paychuxmhawithyalysrinkhrinthrwiorth withyaekhtmhasarkham emuxidmikaresnxrangphrarachbyytitxiptamladb odyepnkardaeninkartamwithithithuktxngaelakhntxnraebiybaebbaephnkhxngthangrachkar erimtngaetsphawithyalywichakarsuksa krathrwngsuksathikar sphakarsuksa sankelkhathikarnaykrthmntri thiprachumkhnarthmntri xyangirktam kardaeninkaridhyudchangkipkhnahnung enuxngcakkhwamwunwaythangkaremuxngkhxngpraethsinchwngewlann cnkrathngmikarykthanawithyalywichakarsuksaepnkrmhnungkhxngkrathrwngsuksathikar tamprakaskhnaptiwti chbbthi 216 lngwnthi 29 knyayn 2515 txmainwnthi 16 mkrakhm 2517 khnarthmntri mimtiihykthanawithyalywichakarsuksaepnmhawithyaly aelaidmikaresnxrangphrarachbyytisukarphicarnakhxngsphanitibyyti krathngmikarprakasichphrarachbyytimhawithyalysrinkhrinthrwiorth ph s 2517 thngni phrabathsmedcphraecaxyuhw idthrngoprdeklaphrarachthanchuxmhawithyalyihepnmngkhlnamaelaphrarachthankhwamhmaywa mhawithyalythiecriyepnsrisngaaekmhankhr ody wiorth macak wiruth phasasnskvt wirulh phasabali sungaeplwa ecriy ngxkngam phayhlngthangwithyalyodykhwamrwmmuxthngxacaryaelanisit idphyayamdaeninkarmatamladb thngniodytrahnkcakkarphicarnaxngkh prakxbkhwamphrxmindantang khxngwithyalyaelapraoychnxncaekidkhuntx withyalyaelainwngkwangthangkarsuksaaelapraethschatitxip thangwithyaly cungidmikarchiaecngehtuphlaelakhwamcaepninkarykthanaepnmhawithyalyiddngni withyalywichakarsuksamikhwamphrxmodysmburnthicaetibot epnmhawithyaly thngnithangwithyalymikhwamphrxmkhxngxupkrnprakxbkarsxn xacary aelaxakharsthanthiephiyngphxthicaepidsxnsakhaxun idodyimtxngichngbpramanephimkhun khwamecriykawhnakhxngwithyalywichakarsuksa khwamkhlxngtwinkarbriharngan khwamecriykawhnathangwichakarkhwamhlakhlaythangkarsuksathi cakxihekidpraoychnxyangkwangkhwangindanesrsthkicaelasngkhmkhxngpraeths hlngcakthiidykthanaaelw thangmhawithyalyidnawithisxbkhdeluxknisit ekhasuksain 2 radb khuxchnpithi 1 aela 3 sunginpikarsuksanimhawithyalysrinkhrinthrwiorth mhasarkhamyngkhngrbnisitphakhpktithicbp ks sungekhasuksachnpithi 3 odywithikarsxbkhdeluxkehmuxnedim aetthiephimekhamaihm khuxidepidrbsmkhrsxbnisitchnpithi 1 ekhaeriynhlksutrpriyyatri 4 piepnpiaerkodyich withikarsxbphanthbwngmhawithyaly odyrbthngsin 63 khn sahrbwichaexkthiepidinpikarsuksa 2517 mithngsin 4 khnawicha idaekkhnasuksasastr khnawithyasastr khnamnusysastr aelakhnasngkhmsastr prakxbdwysakhawichaprawtisastr fisiks ekhmi phumisastr khnitsastr phasaithy sngkhmsuksa phasaxngkvs chiwwithya aelakarprathmsuksa sungidichwithikarsxbaekhngkhninkarkhdeluxkphumaeriyneruxymacnthungpccubn txmaenuxngcakidmikarkhyaykarsuksasuradbbnthitsuksa thangmhawithyalysrinkhrinthrwiorthcungidcdtngbnthitwithyalykhuntamwithyaekhttang sahrbwithyaekhtmhasarkhamnn idcdtngbnthitwithyalyinpi 2522 nxkcaknnyngidcdtngkhnaihmaelaykthanahnwyngansakhykhunma 3 hnwynganin piph s 2529 prakxbdwy khnaethkhonolyi sthabnwicysilpaaelawthnthrrmxisan tamprakasthbwngmhawithyalyinrachkiccanuebksa wnthi 12 phvscikayn 2529 sankwithybrikar tamprakasinrachkiccanuebksa singhakhm 2529 aelasthabnwicyrukkhewch tamprakascdtnginrachkiccanuebksa emuxwnthi 7 knyayn 2536 mhawithyalymhasarkham mhawithyalysrinkhrinthrwiorth mhasarkhamidmiphthnakarmatamladbodyxasyenguxnikhkhxngewlainkarsrangkhwamphrxmtang krathngsamarthdaeninkaraeykepnmhawithyalyexkethssaercphayitchux mhawithyalymhasarkham emuxwnthi 9 thnwakhm 2537 odyphrabathsmedcphraecaxyuhwthrnglngphraprmaphiithyinphrarachbyytikhxngmhawithyaly sungidmikarprakasinrachkiccanuebksa nbepnmhawithyalykhxngrthaehngthi 19 khxngpraethsithy sahrbaenwkhidinkaraeyktwepnexkethsnniderimpraktkhuntngaetpiph s 2527 ody dr thwil ldawlyrxngxthikarbdiewlannidmiaenwkhwamkhidthicarwmsthabnkarsuksaradbxudmsuksahlk khxngcnghwdmhasarkhamekhaepnmhawithyalyediywkn aetaenwkhiddngklawidtidkhdpyhabangprakarcungimsamarthdaeninkartxipid echn pyhakhxngtnsngkdedimkhxngaetlasthabn epntn khrntxmainpi ph s 2531 rxngsastracary dr wira buyykaycnaepnrxngxthikarbdicungidmikaresnxihaeykxxkcakmhawithyalysrinkhrinthrwiorthxikkhrng odyihlksnaepnsthabninnamkhxngsthabnbnthitsuksaephuxphthnachnbth aetihmisthanphaphepnmhawithyaly hakaetimxacdaenintxipihsmvththiphlidechnkn paychuxmhawithyalymhasarkhamthihnakhnasuksasastr krathnginpi ph s 2535 emuxrxngsastracary dr cruy khunmiepnrxngxthikarbdi cungidmisubsanaenwkhidthicaaeyktwxxkxikkhrng aelaerimpraktphlchdecnmakkhun thngniprakxbkbinchwngewlann naysuethph xtthakr darngtaaehnngrthmntriwakarthbwngmhawithyaly sungidihsnicaelakhwamchwyehluxxyangetmthiinkarsnbsnunaenwkhidthicaihmimhawithyalyekidkhunincnghwdmhasarkham kardaeninngancungiderimtngaetkaraetngtngkhnakrrmkarcdthaokhrngkarcdtngmhawithyalymhasarkhamaelakhnakrrmkarrangphrarachbyytimhawithyaly emuxwnthi 12 phvsphakhm 2535 caknncungiddaeninnganmatamkhntxncnsamarthykthanaepnmhawithyalyidsaercdngthiklawkhangtninchwngrxngsastracary dr buychm srisaxad epnrxngxthikarbdi sungidsubsanaenwkhidaelakardaeninnganxyangtxenuxngodyidrbkhwamrwmmuxcakhlayfaythiekiywkhxng thngbukhkhlphayinaelaphaynxkinsayngantang inrahwangthimikardaeninkarephuxykthanaepnmhawithyalyexkethsnnidmikarthbthwneruxngchuxkhxngmhawithyalyephuxhakhwamehmaasmaelaehnphxngtxngknthukfay odykardaeninkarsarwcprachamtiihepnexkchnth sungchuxthiesnxinkhrngnnmikhwamhlakhlaykhxngthimaaelaaenwkhid idaek mhawithyalyxisan mhawithyalyphthrinthr mhawithyalysriecriyrachedch mhawithyalysrimhachy mhawithyalysrimhasarkham cnkrathngidmaehnchxbphrxmkntxchux mhawithyalymhasarkham inebuxngthaydngpraktinpccubn phayhlngidmikarkhyayphunthimayng paokhkhnxngiph tablkhameriyng xaephxknthrwichy cnghwdmhasarkham bnenuxthipraman 1 300 ir khnannkhxngrxngsastracary dr phawich thxngorcn xthikarbdimhawithyalymhasarkhamkhnaerk ph s 2538 2546 aelaiddaeninkarsrangxakhartang tngaetpi ph s 2539 phayhlngcungidyaysunyklangbriharnganma n thithakaraehngihminpikarsuksa 2542 xikthngyngidmikarepidsakhawichaaelakhnaihmephimkhunepncanwnmak ephuxepidbrikarthangkarsuksaihmihlakhlaymakyingkhun nxkcaknimhawithyalyyngidepidsxnradbprathmaelamthymsuksainorngeriynsathitmhawithyalymhasarkham odyepidsxninpikarsuksa 2540 epnpikarsuksaaerk aelayngidkhyaykarsuksaradbpriyyatri priyyaothipyngwithyaekhtnkhrphnm mhawithyalymhasarkham withyaekhtnkhrphnm pccubnaeykexkethsepn mhawithyalynkhrphnm aelasunyphthnakarsuksaxudrthani odyichsxn rabbthangiklphandawethiym pccubn mhawithyalymhasarkham misunyklangkarbriharngantngxyuelkhthi 41 hmu 20 tablkhameriyng xaephxknthrwichy cnghwdmhasarkham miphunthipraman 1 300 ir aelathitngedim sungtngxyuelkhthi 269 hmu 2 thnnnkhrswrrkh tabltlad xaephxemuxng cnghwdmhasarkham miphunthi 368 ir epidthakareriynkarsxnkwa 200 hlksutrin 17 khna 2 withyaly 2 sthabnwicy khlxbkhlumthngsaywithyasastrkaraephthy withyasastraelaethkhonolyi sngkhmsastr mnusysastraelasingaewdlxm mhawithyalymhasarkham nbepnsthabnxudmsuksa sthabnxudmsuksa khux sthabnthicdkarsuksaradbpriyyatrikhunip misthanathng withyaly mhawithyaly aelasthabn aehngthi 14 khxngithythithakareriynkarsxnradbpriyyatrikhunipthdcak culalngkrnmhawithyaly mhawithyalythrrmsastr mhawithyalyekstrsastr mhawithyalyaephthysastr mhidl mhawithyalysilpakr withyalywichakarsuksaprasanmitr m srinkhrinthrwiorth withyalywichakarsuksapthumwn m srinkhrinthrwiorth withyalywichakarsuksabangaesn m burpha mhawithyalyechiyngihm mhawithyalykhxnaekn sthabnbnthitphthnbriharsastr mhawithyalysngkhlankhrinthr aelawithyalywichakarsuksaphisnuolk m nerswr tamladbkarbriharnganraynamnayksphamhawithyaly nbtngaeterimkxtngmhawithyalyinpi 2537 cnthungpccubn mhawithyalymhasarkham minayksphamhawithyaly dngraynamtxipni thaeniybnayksphamhawithyalymhasarkhamraynamnayksphamhawithyaly warakardarngtaaehnng1 michy vchuphnthu ph s 2538 ph s 25512 phlexksuphithy wrxuthy 12 minakhm ph s 2551 5 kumphaphnth ph s 25523 xanwy paties 9 phvscikayn ph s 2552 8 phvscikayn ph s 25544 sastracaryphiess dr xkkhrathr culartn 9 thnwakhm ph s 2554 4 mithunayn ph s 25565 pyya thnxmrxd 5 mithunayn ph s 2554 22 kumphaphnth 25626 22 knyayn ph s 2562 30 phvsphakhm ph s 25667 phnthskdi sirirchtphngs 31 phvsphakhm ph s 2566 pccubnthaeniybxthikarbdi xthikarbdimhawithyalymhasarkham miwaradarngtaaehnng 4 pi macakkaresnxchux 2 thang khux karsmkhrkhxngphuthimikhwamsnic aelakaresnxchux sungkhnakrrmkarsrrhaxthikarbdimhawithyalymhasarkhamidkahndihmikarrbsmkhraelakaresnxchuxphusmkhwrdarngtaaehnngxthikarbdimhawithyalymhasarkham aelaesnxchuxkhxphrarachthanoprdeklaoprdkrahmxmaetngtngxthikarbdimhawithyaly sungpccubn mhawithyalymhasarkhammixthikarbdimaaelw dngraynamtxipni withyalywichakarsuksamhasarkhamladb raynamrxngxthikarpracawithyaekht warakardarngtaaehnng xangxing1 sastracary dr sayhyud capathxng ph s 2510 ph s 25122 rxngsastracary dr buychm ichyoksi ph s 2512 ph s 25163 sastracaryphiess dr thrngskdi srikalsinthu ph s 2516 ph s 2517mhawithyalysrinkhrinthrwiorth withyaekhtmhasarkhamladb raynamrxngxthikarpracawithyaekht warakardarngtaaehnng xangxing1 sastracaryphiess dr thrngskdi srikalsinthu ph s 2517 ph s 25182 rxngsastracary chuekiyrti mnithr ph s 2518 rksakar 3 sastracary dr praesrith withyarth ph s 25194 rxngsastracary dr chatri emuxngnaophthi ph s 2519 ph s 25245 rxngsastracary dr wira buyyakaycn ph s 2524 ph s 25266 dr thwil ldawly ph s 2526 ph s 25307 rxngsastracary dr wira buyyakaycn ph s 2530 ph s 25348 rxngsastracary dr cruy khunmi ph s 2534 ph s 25369 rxngsastracary dr buychm srisaxad ph s 2537mhawithyalymhasarkhamladb raynamxthikarbdi warakardarngtaaehnng xangxing1 rxngsastracary dr buychm srisaxad ph s 2538 rksakar 2 sastracaryphiess ephschkr dr phawich thxngorcn ph s 2538 ph s 25463 sastracary nayaephthyxduly wiriyewchkul ph s 2546 ph s 25504 sastracaryekiyrtikhun thntaephthysmskdi ckriphwngs ph s 2550 ph s 2551 rksakar 5 rxngsastracary dr suphchy smppiot ph s 2551 ph s 2552 rksakar ph s 2552 ph s 25586 sastracary dr pricha praethpha ph s 2558 ph s 2559 rksakar 7 sastracary dr smphnth vththiedch ph s 2559 ph s 25628 rxngsastracaryethiynskdi emkhphrrnoxphas ph s 2562 rksakar 9 rxngsastracary dr prayukt sriwiil ph s 2562 2566 ph s 2566 pccubnxtlksntraorcnakr trapracamhawithyaly siehluxng etha sipracamhawithyaly dxkkhunhruxrachphvks dxkimpracamhawithyalytraorcnakr khux trapracamhawithyalymhasarkham sungmikhwamhmaywa sylksnaehngkhwamecriyrungeruxng sungmixngkhprakxbepnrupibesma phayinmiphaphkhxngxngkhphrathatunadun danlangepnsuriyrngsithiaephkhuncakphalaykhitsungxyuehnuxkhakhwyphasabali odyaetlaswnkhxngtraorcnakrni mikhwamhmaydngni phhun pn thiot chiew khux prchyakhxngmhawithyaly mihmaykhwamwa phumipyyaphungepnxyuephuxmhachn ibesma hmaythung phumipyya phrathatunadun hmaythung khunthrrmkhwamdi suriyrngsi hmaythung khwamecriyrungeruxng laykhit hmaythung phumipyyaaelamrdkthangwthnthrrmaehngxisan khwamhmayodyrwm khux khwamecriyrungeruxngxnepnphlcakkhwamruaelakhunthrrm phsmphsankbphumipyyaaehngthxngthinxisan phraphuththruppracamhawithyaly phraphuththknthrwichyxphismythrrmnayktnimpracamhawithyaly tnrachphvks hrux tnkhunsipracamhawithyaly khux siehluxng etha siehluxng hmaythung khwamecriyrungeruxng khwamdingam khwamxudmsmburn sietha hmaythung khwamkhid hrux pyya nxkcakni sietha yngepnsirwmknkhxngmhawithyalysrinkhrinthrwiorthaelaxditwithyaekhtthng 4 aehngdwy rwmhmaythung karmipyyaaelakhwamkhidthidingam xnnaipsukhwamecriyrungeruxngephlngmhawithyalyephlngmarchmhawithyalymhasarkham MSU MARCH mmsaednngam chawhx thinehluxngetha rmthngehluxngetha rbkhwynxng rmcamcuri ehluxngetha chachacha mntrkehluxngetha rawng mms rwmic khunsuehya sarkhamaednfn ehluxngethathinthxng ehluxngethathinngam sngnxng xaly mms xalaxaly khathanisit odyephlngthnghmdnisamarthfngidbn Apple Musickarsuksamhawithyalymhasarkham idepidhlksutrkareriynkarsxnkhrxbkhlumthngsakhawithyasastraelaethkhonolyi withyasastrsukhphaph sngkhmsastr aelamnusysastr karbriharkarsuksadaeninkarody 17 khna 2 withyaly 1 sthabn mihnwyngansnbsnunkarsuksaprakxbdwy 1 bnthitwithyaly 1 sthabnwicy 1 sunywicy 5 inpikarsuksa 2563 mhawithyalyepidkarsxnhlksutrtang canwn 203 sakhawicha epnhlksutrradbpriyyatri 92 sakhawicha radbpriyyaoth 66 sakhawicha radbpriyyaexk 42 sakhawicha aelaradbprakasniybtr 3 sakhawicha prakxbipdwy khnawichainmhawithyalymhasarkhamkhna withyaly sthabn kxtng thitng ekhtphunthi sipracakhna klumkhnakhnaphyabalsastr Faculty of Nursing phy NU 25 pi 19 krkdakhm ph s 2541 xakhar 100 pi smedcphrasrinkhrinthr khameriyng sikhaw withyasastrsukhphaphkhnaaephthysastr Faculty of Medicine ph MED 20 pi 21 phvscikayn ph s 2546 xakharptibtikarkhnaaephthysastr inemuxng siekhiyw withyasastrsukhphaphkhnaephschsastr Faculty of Pharmacy ph PC 25 pi 13 kumphaphnth ph s 2542 xakharephschsastrsirinthr khameriyng siekhiywmakxk withyasastrsukhphaphkhnastwaephthysastr Faculty of Veterinary Sciences sph VET 15 pi 26 knyayn ph s 2551 xakhareriynkhnastwaephthysastr inemuxng nasinwn sifahmn withyasastrsukhphaphkhnasatharnsukhsastr Faculty of Public Health sth PH 20 pi 17 krkdakhm ph s 2546 xakharptibtikarwithyasastr aelaplikhlinik khameriyng sichmphuxmsm withyasastrsukhphaphkhnaethkhonolyi Faculty of Technology thl TA 37 pi 7 singhakhm ph s 2529 xakharptibtikarethkhonolyi xutsahkrrmkarekstr khameriyng sichmphu withyasastrethkhonolyikhnawithyakarsarsneths Faculty of Informatics wsth IT 21 pi 24 emsayn ph s 2546 xakharptibtikarwithyakarsarsneths khameriyng sinaengin withyasastrethkhonolyikhnawithyasastr Faculty of Science wth SCI 56 pi 27 minakhm ph s 2511 klumxakharptibtikar klangthangwithyasastr khameriyng siehluxng withyasastrethkhonolyikhnawiswkrrmsastr Faculty of Engineering ws EN 25 pi 18 minakhm ph s 2542 xakharptibtikarwiswkrrmsastr khameriyng sieluxdhmu withyasastrethkhonolyikhnasthaptykrrmsastr phngemuxngaelanvmitsilp Faculty of Architecture Urban Design and Creative Arts sth ARCH 23 pi 1 krkdakhm ph s 2543 xakharkhnasthaptykrrmsastr phngemuxngaelanvmitsilp khameriyng sinatalekhm withyasastrethkhonolyikhnasingaewdlxmaela thrphyakrsastr Faculty of Environment and Resource Studies swl ENV 19 pi 17 knyayn ph s 2547 xakharwithyasastrsukhphaph khameriyng siekhiywxxn withyasastrethkhonolyisthabnwicywlyrukkhewch Walairukhavej Botanical Research Institute swr WRBRI 31 pi 22 tulakhm ph s 2535 xakharwicyaelaptibtikar chn 2 khameriyng nadun sinatal siehluxng withyasastrethkhonolyikhnakarthxngethiywaelakarorngaerm Faculty of Tourism and Hotel Management thr THM 24 pi 16 mithunayn ph s 2543 xakharptibtikarkar karthxngethiywaelakarorngaerm inemuxng simwngdxkchba sngkhmsastrkhnakarbychiaelakarcdkar Mahasarakham Business School bch MBS 25 pi 19 krkdakhm ph s 2541 xakharbriharthurkicsirinthr klumxakharbriharthurkic aelaphanichysastr khameriyng sifakhram sngkhmsastrkhnanitisastr Faculty of Law n LW 10 pi 29 phvscikayn ph s 2556 xakharrachnkhrinthr chn 4 khameriyng sikhawngachang sngkhmsastrkhnamnusysastr aelasngkhmsastr Faculty of Humanities and Social sciences mns HUSOC 56 pi 27 minakhm ph s 2511 xakharsunyeriynruphthna phumipyyathxngthin khameriyng simwngdxkxinthnil mnusysastrkhnasilpkrrmsastr aelawthnthrrmsastr Faculty of Fine Applied Arts and Cultural Science sp FACS 22 pi 21 kumphaphnth ph s 2545 xakharptibtikar thangsilpkrrmsastr xakharwthnthrrmsastr khameriyng inemuxng sithxng siengin mnusysastrkhnasuksasastr Faculty of Education ss EDU 56 pi 27 minakhm ph s 2511 xakharwithyphthna inemuxng siaesd sngkhmsastrwithyalykaremuxngkarpkkhrxng College of Politics and Governance wmp COPAG 20 pi 17 krkdakhm ph s 2546 xakharwithybrikar D khameriyng sinatalxxn sngkhmsastrwithyalyduriyangkhsilp College of Music wds MUA 15 pi 26 knyayn ph s 2551 xakharwithybrikar C khameriyng simwng mnusysastrbnthitwithyaly Graduate School bw GS 44 pi 8 thnwakhm ph s 2522 xakharptibtikarklang thangwithyasastr SC3 chn 1 khameriyng sism naengin shwithyakarhnwyngansnbsnundankarsxn sankwithybrikar sankkhxmphiwetxr sanksuksathwip swnngansnbsnunkarsuksaaelawicy sthabnkhngcux sthabnwicysilpaaelawthnthrrmxisan sunywicyaelakarsuksabrrphchiwinwithya orngeriynsathitmhawithyalymhasarkham orngphyabalsuththaewch sthanthitang inmhawithyalymhasarkham paymhawithyalymhasarkham orngphyabalsuththaewch khnaaephthysastr xakhareriynkhnasuksasastr xakharptibtikarklangthangwithyasastrkarkxtngkhna mhawithyalymhasarkhammihlksutrthiepidsxninaetlakhnathnghmdpraman 203 hlksutrodycamikaraebnghlksutrxxkepn hlksutrphakhpkti hlksutrphakhphiess hlksutrnanachati hlksutrtxenuxng aelahlksutrsakhawicharwm odyaetlakhnacaepnphukahndraywichainaetlasakhawichathiepidsxn pithikxtng khna2511 khnasuksasastr 56 pi khnawithyasastr 56 pi khnamnusysastraelasngkhmsastr 56 pi 2522 bnthitwithyaly 44 pi 2529 khnaethkhonolyi 37 pi sthabnwicysilpaaelawthnthrrmxisan 37 pi 2535 sthabnwicywlyrukkhewch 31 pi 2541 khnakarbychiaelakarcdkar 25 pi khnaphyabalsastr 25 pi 2542 khnaephschsastr 25 pi khnawiswkrrmsastr 25 pi 2543 khnakarthxngethiywaelakarorngaerm 24 pi khnasthaptykrrmsastr phngemuxngaelanvmitsilp 23 pi 2545 khnasilpkrrmsastr 22 pi pccubnkhux khnasilpkrrmsastraelawthnthrrmsastr 2546 khnaaephthysastr 20 pi khnawithyakarsarsneths 21 pi khnasatharnsukhsastr 20 pi withyalykaremuxngkarpkkhrxng 20 pi 2547 khnasingaewdlxmaelathrphyakrsastr 19 pi 2551 khnastwaephthysastr 15 pi withyalyduriyangkhsilp 15 pi 2554 khnawthnthrrmsastr pi 2554 2563 rwm 9 pi pccubnkhux khnasilpkrrmsastraelawthnthrrmsastr 2557 khnanitisastr 10 pi hmayehtu twexiyng hmaythung thukyubrwmkbhnwynganxunhruxykelikhnwyngan hmaythung oxnyaysngkdkhxnghnwynganmasngkdmhawithyalymhasarkhamswnnganxun hnwyngansngesrimsnbsnunkarsuksa sanknganxthikarbdi kxngklang ngankarprachum kxngaephnngan kxngkarecahnathi kxngkickarnisit kxngthunkuyumephuxkarsuksa kxngkhlngaelaphsdu kxngbrikarkarsuksa kxngthaebiynaelapramwlphl shkrnxxmthrphymhawithyalysrinkhrinthrwiorth cakd shkrnxxmthrphymhawithyalymhasarkham smakhmsisyeka sankbrikarwichakar kxngxakharsthanthi nganbrikarhxphknisit xakharchudxasybukhlakr kxngsngesrimkarwicyaelabrikarwichakar sunykhwamepnelisthangnwtkrrmihm sunykhwamrwmmuxkbphakhxutsahkrrm UIC farmmhawithyalymhasarkham sunyekhruxngmuxklangmhawithyalymhasarkham phiphithphnthmhawithyalymhasarkham okhrngkarxnurksphnthukrrmphuchxnenuxngmacakphrarachdari smedcphraethphrtnrachsuda syambrmrachkumari xph sth kxngprachasmphnthaelakickartangpraeths sanktrwcsxbphayin sphakhnacary orngeriynsathitmhawithyalymhasarkham orngphyabalsuththaewch orngphyabalstwkarwicyphlnganwicykhxngmhawithyalythiidrbkartiphimphephyaephrinwarsarwichakarradbnanachatiinthankhxmul ISI tngaetpi ph s 2542 ph s 2548 mithngsin 29 eruxng swninpi ph s 2563 thiphanma mhawithyalymhasarkhamidrbthunwicyrwmthngsin 272 okhrngkarkwa 86 lanbath 40 odyaebngtamklumsakhawichadngni klumwithyasastraelaethkhonolyi rwm 161 okhrngkar klumwithyasastrsukhphaph rwm 63 okhrngkar klummnusysastraelasngkhmsastr rwm 30 okhrngkar hnwywicy rwm 8 okhrngkar hnwyngansnbsnunkarsxn rwm 10 okhrngkar odymhawithyalymiphlngankarwicythiidrbkartiphimphephyaephraelaxangxinginthankhxmul ISI Thomson Reuters sasmtngaetpi 2554 2563 thngsin 20 368 eruxng 44 thankhxmul SCOPUS sasmtngaetpi 2554 2563 thngsin 28 357 eruxng 44 swninradbbnthitsuksann inpingbpraman 2563 mhawithyalymhasarkham miphlnganwicyephyaephraelaxangxinginradbchatithngsin 301 eruxng aelainradbnanachatithngsin 97 eruxng 45 nxkcakniinpiediywknnn thankhxmulthrphysinthangpyya mhawithyalymhasarkham mikaryunkhakhxcdthaebiynthrphysinthangpyyathngsin 24 raykar aelaidrbkarcdthaebiynxnusiththibtrcanwn 2 raykar 46 xndbaelamatrthanmhawithyalykarpraeminkhunphaphmhawithyaly xndbmhawithyalyxndbinpraeths xndbnanachati sthabnthicd pikarsuksathicd xndbTHE World 2022 4 1201 THE World 2021 3 1001 THE World 2020 4 401 600 QS Asia 2021 13 501 550 QS Asia 2020 13 401 450 QS World 2020 13 Webometrics 2021 15 1954 Webometrics 2020 15 2008 Webometrics 2018 16 1156 RUR 2020 10 766 RUR 2018 10 779 URAP 2018 18 1767 SIR 2021 18 802 SIR 2020 17 781 UI Green Metric 2019 14 233 uniRank 2019 13 1413 Nature Index Ranking 2021 13 Nature Index Ranking 2019 8 SIR 2014 23 2863 emuxpi ph s 2549 khnawiswkrrmsastr phakhwichawiswkrrmekhruxngklidekharwmkarpraeminkhunphaphphlnganwicyechingwichakardanwithyasastraelaethkhonolyikhxngsthabnxudmsuksasungcdpraeminodysankngankxngthunsnbsnunkarwicy skw mihnwynganekharwm 436 hnwyngan cak 36 sthabnxudmsuksathngphakhrthaelaexkchn odyphakhwichawiswkrrmekhruxngkl khnawiswkrrmsastr mhawithyalymhasarkham thukcdxndbxyuinradb 4 di aelatxmainpi ph s 2554 phakhwichawiswkrrmchiwphaph khnawiswkrrmsastr mhawithyalymhasarkham idekharwmpraemininokhrngkardngklawinsakha Agricultural Irrigation Water Resources Engineering aela Other Engineering Disciplines phlkarpraeminthukcdxyuinradb 5 dimak xndbmhawithyaly nxkcakkarcdxndbmhawithyalyodyhnwynganinpraethsithyaelw yngmihnwyngancdxndbmhawithyalycaktangpraethsxikhlayhnwyngan sungaetlahnwynganmieknthkarcdxndbaelakarihkhaaennthiaetktangkn idaek karcdxndbody Quacquarelli Symonds aekhwkekhwerlli ismxnds hrux British Quacquarelli Symonds QS epnbristhcdxndbmhawithyalyolkthimichuxesiyngaelaepnthiyxmrbmakthisudaehnghnung mikarcdxndbkhrxbkhluminhlaymiti echn karcdxndbepnradbolk QS World University Rankings radbthwipexechiy QS University Rankings Asia karcdxndbaeyktamkhna QS World University Rankings by Faculty karcdxndbaeyktamraywicha QS World University Rankings by Subject karcdxndbkhunphaphbnthit QS Graduate Employability Rankings 2017 epntn nahnkkarchiwd karaebngkhaaenncatangkninaetlasakhawicha echn thangdankaraephthy sungepnsakhathimixtrakarephyaephrnganwicysung karwdkarxangxingaelah index kcakhidepn 25 epxresnt sahrbaetlamhawithyaly inthangklbknsakhathimikarephyaephrphlnganthangwichakarthinxykwa echn sakhaprawtisastr cakhidepnrxylathitakwakhux 15 epxresnt cakkhaaennthnghmd inkhnaediywknsakhasilpaaelakarxxkaebb sungmiphlngantiphimphnxykcaichwithikarwdcakphuwacangaelakarsarwcdanwichakar QS Asia chuxesiyngthangwichakar 30 epxresnt epahmaykhxngtwchiwdniephuxcabxkwamhawithyalyidmichuxesiyngininradbnanachati karsarwcphucangngan 20 epxresnt xtraswnkhxngkhnatxnksuksa 15 epxresnt wdcakxtraswnkhxngbukhlakrthangkarsuksatxcanwnnksuksa aelakartidtxaelaihkarsnbsnunkhxngbukhlakrthimitxnksuksa karxangxinginrayngan 10 epxresnt aelaphlngankhxngkhna 10 epxresnt epnkarrwmthngnganthixangxingin Scopus aela kartiphimphphlnganodykhnann exng bukhlakrradbdusdibnthit 5 epxresnt sdswnkhnathiepnhlksutrnanachati 2 5 epxresnt aelanksuksatangchati 2 5 epxresnt sdswnkhxngrbnksuksaaelaepliynthiekhamasuksa 2 5 epxresnt aelakarsngnksuksaxxkipaelkepliyn 2 5 epxresnt odymhawithyalymhasarkham idrbkarcdihepnmhawithyalyxndb 13 khxngpraethsithy rwmkbaemfahlwngaelanerswr aelaepnxndbthi 401 450 khxngexechiyinpi 2563 inpi 2564 2021 mhawithyalymhasarkham idrbkarcdihepnmhawithyalyxndb 13 khxngpraethsithy aelaepnxndbthi 501 550 khxngexechiy karcdxndbodyithmsihexxrexduekhchnspphliemnt idprakasphlxndbmhawithyaly rangwl THE Social Impact Ranking 2021 hruxmhawithyalythidaeninpharkicephuxsngkhmthisrangphlkrathbtxsngkhmphbwamhawithyalymhasarkhamidrbkarcdxndbihxyuinxndbthi 1001 khxngolk aelaxndb 3 khxngpraethsithy odyidkhaaennechliyxyuthi 10 3 25 0 dankarsxn 17 9 aeladankarwicy 7 9 khaaenn nxkcakni mhawithyalymhasarkham yngmikhaaennindanxun xik idaek danrayidcakphakhxutsahkrrm Industry Income 34 5 khaaenn ladbthi 14 1 001 danmummxngrahwangpraeths International Outlook 26 9 khaaenn ladbthi 13 1 001 danchuxesiyngthangwichakar Teaching 17 9 khaaenn ladbthi 11 1 001 dankhwamepnelisdankarwicy Research 7 9 khaaenn ladbthi 15 1 001 aeladankarephyaephrnganwicy Citations 9 6 khaaenn ladbthi 15 1 001 inpi 2022 Times Higher Education World University Rankings idprakasphlkarcdxndbmhawithyalythwolkxyangepnthangkaremuxwnthi 2 knyayn 2564 odyphlkarcdxndbkhxngmhawithyalymhasarkham idrbkarcdxndbthi 1201 rwminradbolk aelaxndb 4 rwmradbpraeths aeladanthithakhaaenniddithisuderiyngcakmakipnxy idaek 1 danrayidthangdanxutsahkrrm karthaythxdkhwamru 2 danphaphlksninradbnanachati ecahnathiinmhawithyaly nksuksaaelakarwicy 3 dankareriynkarsxn sphaphaewdlxmkareriynru 4 dankarwicy priman rayidaelachuxesiyng 5 dankarxangxing phlnganwicy sahrbkarcdxndbinpinithakarwiekhraahkhxmulmakkwa 108 lan citations caknganwicykwa 14 4 lanchbb rwmthungphlkarsarwcthiidcaknkwichakarkwa 22 000 khnthwolk sungxndbthi 1 khxngolk idaek University of Oxford shrachxanackr nxkcakni Peking University aela Tsinghua University mhawithyaly 2 aehngcaksatharnrthprachachncinyngsamarthtid 2 in 20 xndbaerkkhxngolk sahrbpraethsithynn xndbthi 1 hruxxndbthi 601 800 khxngolk idaek mhawithyalymhidl aela mhawithyalyaemfahlwng nxkcakmhawithyalyinpraethsithycanwn 17 aehng thitidxndbaelw yngmixik 6 aehngthisngkhxmulekharwmkarcdxndbinpinidwy karcdxndbody Webometrics karcdxndbmhawithyalykhxngewboxemtriks pi ph s 2559 cdthakhunephuxaesdngthungkhwamtngickhxngsthabntang inkarephyaephrkhwamrusuewb aelaephuxsngesrimkarekhathungkhwamruxyangepidkwang Open Access thwolk xndboxemtrikscabxkthungprimanaelakhunphaphkhxngsingtiphimphxielkthrxniksinewbistkhxngsthabn odyphicarnacakcanwnlingkthiechuxmoyngekhasuewbsthabncakewbphaynxkodywdcakkarsubkhndwyesirchexncin Search engine aelanbcanwnexksartiphimphxxnilninifl xathiechn pdf ps ppt aela doc aelacanwnexksarthimikarxangxing Citations phankuekilskxlar Google Scholar ewboxemtriks0tcdxndbpila 2 khrng ineduxnmkrakhm aelakrkdakhm karcdxndblasudinrxbthi 1 pracapi ph s 2559 mhawithyalymhasarkhamxyuinxndbthi 12 khxngmhawithyalyinpraethsithy xndbthi 25 khxngphumiphakhxaesiyn xndbthi 279 khxngexechiy aelaxyuinxndbthi 1156 khxngolk aelalasudkarcdxndbrxbthi 1 pracapi ph s 2563 mhawithyalymhasarkhamidrbkarcdxndbihepnmhawithyalyxndbthi 15 khxngpraethsithy 508 khxngthwipexechiy aelaxyuinxndbthi 1954 khxngolk karcdxndbody UI Green Metric World University Ranking epnkarcdxndbmhawithyalysiekhiywthicdodymhawithyalyxinodniesiy praethsxinodniesiy ephuxsnbsnunkarepnmhawithyalyyngyundansingaewdlxmthwolk inrxb ph s 2561 mhawithyalymhasarkhamidrbkarcdxndbihepnmhawithyalysiekhiywxndb 14 khxngmhawithyalyinpraethsithy aelaepnxndbthi 233 khxngolk karcdxndbody SCImago Institutions Ranking xndbmhawithyalyody SCImago Institutions Ranking hrux SIR sungepnkarcdxndbsthabnthimiphlnganwicyinradbnanachati inpi ph s 2553 mhawithyalymhasarkhamidrbkarcdihxyuinxndbthi 2863 khxngolk xndbthi 767 khxngthwipexechiy aelaepnxndb 15 khxngpraethsithy swnpi kh s 2017 xyuinladbthi 16 khxngpraethsithyladbthi 649 khxngolk phlkarcdxndbsthabnkarsuksa Scimago Institutions Rankings 2020 idrbkarephyaephrphanewbist sungphlkarcdxndbpraephthphaphrwm Overall Rank mhawithyalymhasarkham tidxndbthi 15 khxngithy xndbthi 781 khxngolk phlkarcdxndbsthabnkarsuksa Scimago Institutions Rankings 2021 idrbkarephyaephrphanewbist praktwamimhawithyalyinithytidxndbcanwn 27 aehng odyphlkarcdxndb mhawithyalymhasarkham tidxndbthi 18 khxngithy xndbthi 802 khxngolk 1 dankarwicy tidxndbthi 11 khxngithy xndbthi 436 khxngolk 2 dannwtkrrm tidxndbthi 21 khxngithy xndbthi 523 khxngolk 3 dansngkhm tidxndbthi 13 khxngithy xndbthi 246 khxngolk Scimago Institutions Rankings epnkarcdxndbcakxngkhkarinpraethssepn thakarcdxndbmhawithyalychnnatngaetpi 2009 epntnma odymieknthinkarphicarnacakphlngan 3 dan idaek 1 dankarwicy xangxingphlkhxmulcak Scopus 2 dannwtkrrm phicarnakhxmulmacak PATSTAT 3 dansngkhm khxmulcakewbisttang nxkcakkarcdxndbin 3 danhlkaelw mhawithyalymhasarkham yngidrbkarcdxndbinaetlaklumsakhawichathngsin 14 sakhawichaxnidaek sakhawicha radbnanachati radbpraethswithyasastr ekstraelachiwphaph chiwekhmi phnthusastr aelaxnuchiwwithya briharthurkic karcdkar aelakarbychi ekhmi withyasastrkhxmphiwetxr withyasastr olkaeladawekhraah wiswkrrmsastr withyasastrsingaewdlxm khnitsastr aephthysastr ephschwithya phiswithya aelaephschsastr fisiksaeladarasastr sngkhmsastr stwaephthy 589 772 828 726 645 514 576 619 671 658 693 646 731 397 14 16 16 19 16 12 17 17 19 14 15 11 15 7 hmayehtu phlkarcdladbechphaahnwynganpraephth sthabnxudmsuksa ethann karcdxndbody uniRank uniRank epnkarcdxndbmhawithyalyodyhnwynganimaeswnghakair IREG Observatory thiprakxbipdwyphuthrngkhunwuthiinaewdwngkarsuksacakhlaysthabn aelacdthaebiynhnwynganxyuinkrungbrsesls praethsebleyiym xndbkhxng uniRank caxasykarrwbrwmkhxmultwwdewb web metrics 5 thankhxmulidaek 1 Moz Domain Authority 2 Alexa Global Rank 3 SimilarWeb Global Rank 4 Majestic Referring Domains 5 Majestic Trust Flow odykarcdxndbpracapi kh s 2019 mhawithyalymhasarkhamxyuinxndbthi 13 inkarcdxndbmhawithyalyphayinpraethsithy aelaxyuinxndbthi 1 413 inkarcdxndbmhawithyalythwolk karcdxndbody University Ranking by Academic Performance xndbthicdody University Ranking by Academic Performance hrux URAP pi ph s 2558 mhawithyalymhasarkhamidrbkarcdxndbihepnxndb 16 khxngpraethsithy aelaxndb 1767 khxngolk thukcdxyuinklum B odymiphunthanthangdanwichakartrngtamkdeknththikahndiw khunphaphaelaprimankhxngbthkhwamtiphimphthangwichakar bthkhwamwicy karephyaephr aelakarxangxing karcdxndbody Nature Index cdodywarsarinekhrux Nature Publishing Group sungepnwarsarthangwithyasastraelaethkhonolyithimichuxesiyngchnnakhxngolk odykarnbcanwnbthkhwamthitiphimphtxpiinwarsarthiinekhrux Nature Publishing Group odylasudpi ph s 2564 mhawithyalymhasarkhamxyuinxndb 13 khxngpraethsithyindankhaaennrwm aebngepndanekhmi xndbthi 14 danwithyasastrephuxchiwit xndbthi 8 aeladanwithyasastrkayphaph xndbthi 10karrbbukhkhlekhasuksatxradbprakasniybtrbnthit hlksutrradbprakasniybtrbnthit aelaprakasniybtrbnthitchnsung epnhlksutrthimungphthnankwichakaraelankwichachiph ihmikhwamchanayinsakhawichaechphaa samarthnakhwamruipprayuktichephuxphthnanganinsakhawichachiph nn karsuksaradbprakasniybtrbnthitcatxngsuksakrabwnwicharadbbnthitsuksa mihnwykitrwm tlxdhlksutr imnxykwa 24 hnwykit odyepnkrabwnwichainradbbnthitsuksa imnxykwa 18 hnwykit odyhlksutrradbprakasniybtrbnthit samarthsmkhridodytrngthikhnawichathiepidrbidely radbpriyyatri mhawithyalymhasarkham idkahndwithikarrbbukhkhlekhasuksainradbpriyyatriinrabbtang dngtxipni phuthicbkarsuksamthymsuksatxnplayhruxethiybethacasmkhrephuxekharbkarsxbkhdeluxkphanrabbaexdmischns odysankngankhnakrrmkarkarxudmsuksathngni tngaetpikarsuksa 2561 epntnip karkhdeluxkcatha 5 rxb tamrabbaelaeknthkarkhdeluxkekhaxudmsuksaklang TCAS 24 karrbsmkhraelakarkhdeluxkaetlarxbtamrabb TCAS caepniptamptithinkarrbbukhkhlekhasuksainradbpriyyatripracapikhxngmhawithyaly aelaraylaexindkhxngeknthphunthan dngechn exksaraephnphbkarrbsmkhrpracapikarsuksa 2561 dd mhawithyalymhasarkhamcdsxbkhdeluxkhruxrbekhaodytrng tamokhrngkartang dngni 38 45 tamexksarthimhawithyalyprakasihthrablwnghnaepnraypiokhrngkarsngesrimeyawchndiedndankilaokhrngkarsngesrimeyawchndiedndansilpwthnthrrmokhrngkaredkdimithieriynokhrngkarephchrrachphvksokhrngkarorngeriyninekhruxkhaykhxngkhnawithyasastr okhrngkarsnbsnunkarcdtnghxngeriynwithyasastrinorngeriyn wmw okhrngkarsngesrimdanwithyakarsarsnethsokhrngkaresnthangsuwiswkrrunihmokhrngkarsathitphichitsthaptyokhrngkarsanfnchnxyakeriynsthaptyokhrngkaresnthangxachiwasusthaptymmsokhrngkardawxinthnil okhrngkarokhwta COPAG rxbthi 1okhrngkar COPAG ONEokhrngkarephchrphraphikhenswrokhrngkarsisyknkutidntriokhrngkarkhndisriwthnthrrmokhrngkartnklanitisastrokhrngkarsngesrimdanwithyakarsarsneths rabbphiess okhrngkarsisyknkutidntri rabbphiess okhrngkartnklanitisastr rabbphiess okhrngkarsngesrimdanwithyakarsarsneths rabbethiybekha okhrngkarokhwtarabbphiess rabbethiybekha mhawithyalyprakasraychuxphuphankarkhdeluxkekhasuksainhlksutrradbpriyyatri phanthangewbistkhxngphaywichakarradbpriyyaoth karrbekhasuksainradbpriyyaoth miraylaexiyddngtxipni phusmkhrtxngsaercpriyyatri hruxkalngsuksaxyuinphakhkarsuksasudthay aelamikhunsmbtikhntn dngniphlkarsuksahlngcaksaerckarsuksaradbpriyyatri idkhaaennechliyimtakwarxyla 75 00 hruxaetmradbkhaaennechliysasmimtakwa 2 50 hruxmiprasbkarninkarthanganxyangnxy 3 pi aelamikhunsmbtiphiesstamthiaetlahlksutrkahndkrnismkhreriynhlksutraephn k aebb k 1 hrux aebb k 2 tammakhthanbnthitsuksakhxngpraethsithy phusmkhrtxngcdetriymexksarekhaokhrngwicy thisxdkhlxngkbthisthangkhxngsakhawicha aelanaesnxtxkhnakrrmkarsxbsmphasnmatrthanhnungkhxngbnthitsuksasahrbhlksutrpriyyaoth thikahndkarthawithyaniphnth aebngepn 2 aebb khuxaephn k aebb k 1 withyaniphnthimnxykwa 36 hnwykit aephn k aebb k 2 withyaniphnthimnxykwa 12 hnwykit dd radbpriyyaexk karrbekhasuksainradbpriyyaexk miraylaexiyddngtxipni 5 phusmkhrtxngsaerckarsuksaradbpriyyaoth hruxkalngsuksaxyuinphakhkarsuksasudthay aelamikhunsmbtikhntn dngniphlkarsuksahlngcaksaerckarsuksaradbpriyyaoth idkhaaennechliyimtakwarxyla 81 25 hruxaetmradbkhaaennechliysasmimtakwa 3 25 hruxmikhunsmbtiphiesstamthiaetlahlksutrkahnd odyphicarnaphlkarsxbkhxechiynaelaphlnganwichakarxunprakxbkrnismkhreriynhlksutraephn k aebb k 1 hrux aebb k 2 tammakhthanbnthitsuksakhxngpraethsithy phusmkhrtxngcdetriymexksarekhaokhrngwicy thisxdkhlxngkbthisthangkhxngsakhawicha aelanaesnxtxkhnakrrmkarsxbsmphasnmatrthanhnungkhxngbnthitsuksasahrbhlksutrpriyyaexk thikahndkarthawithyaniphnth aebngepn 2 aebb khuxaephn k aebb k 1 withyaniphnthimnxykwa 48 hnwykit aephn k aebb k 2 withyaniphnthimnxykwa 36 hnwykit dd phunthimhawithyalymhawithyalymhasarkham micanwnphunthithnghmdpraman 3 592 ir prakxbdwyekhtphunthikarsuksa 2 ekhtaelaekhtphunthiwicyaelaptibtikar 2 ekht idaek ekhtphunthiinemuxng hrux m eka ekhtphunthiinemuxng tngxyuelkhthi 269 hmu 2 tabltlad xaephxemuxngmhasarkham cnghwdmhasarkham rayahangcakekhtphunthikhameriyngpraman 10 kiolemtr miphunthirwmthnghmd 368 ir odyepnphunthiedimkhxngmhawithyaly inchwngtngaetepnwithyalywichakarsuksamhasarkham aelarwmphunthikhxngwithyalysrixisan khnaswsdixuthis thipidkickaripaelw edimepnthitngkhxngkhnasuksasastr khnaethkhonolyi khnastwaephthysastraelastwsastr khnaaephthysastr khnakarthxngethiywaelakarorngaerm khnasingaewdlxmaelathrphyakrsastr aelakhnakarbychiaelakarcdkar pccubnepnthitnghnwynganaelasthanthitang idaek khnawicha khnakarthxngethiywaelakarorngaerm khnakarbychiaelakarcdkar khnaaephthysastr khnasuksasastr khnasilpkrrmsastraelawthnthrrmsastr echphaaphakhwichawthnthrrmaelakarxxkaebb khnastwaephthysastrsthanthisakhy sthanthisakhyinekhtphunthiinemuxng xakharkhnaaephthysastr xakhareriynkhnasuksasastr xakharechlimphraekiyrti inoxkaschlxngphrachnmayu 5 rxb 2 emsayn 2558 xakharkhnakarthxngethiywaelakarorngaermorngeriynsathitmhawithyalymhasarkham fayprathm orngphyabalsuththaewch orngxaharklang ekhtphunthiinemuxng sthabnkhngcux sthabnwicysilpaaelawthnthrrmxisan okhrngkarxnurksiblanphakhtawnxxkechiyngehnux sunybrikaraephthyaephnithyprayukt hxphkmxeka 11 hx sunyprachumechlimphraekiyrti hxprachumechlimphraekiyrti hrux sunyprachumechlimphraekiyrti inoxkaschlxngphrachnmayu 5 rxb 2 emsayn 2558 tngxyuthimhawithyalymhasarkham ekhtphunthiinemuxng milksnaepnhxprachumxenkprasngkh samarthrxngrbkickrrmphithiphrarachthanpriyyabtr aelakickrrmthangdanwichakar kickrrmkarprachum karxbrmsmmna karcdnithrrskar thngphayinmhawithyaly hnwynganphakhrth chumchn aelaexkchnxun phayinxakharprakxbdwy hxngothngxenkprasngkhkhnadkhwamcu 5 000 khn hxngprachumyxykhwamcuhxngla 80 khn canwn 2 hxng aelahxngprachumyxykhwamcuhxngla 60 khn canwn 8 hxng phrxmphunthibrikaraelaphunthisnbsnuntang ekhtphunthikhameriyng hrux m ihm ekhtphunthikhameriyng tngxyuelkhthi 41 hmu 20 tablkhameriyng xaephxknthrwichy cnghwdmhasarkham epnphunthiihmthikhyayephuxrxngrbkaretibotkhxngmhawithyaly miphunthithnghmd 1 300 ir erimaerknnmiephiyngxakharrachnkhrinthrepnxakhareriynaerk pccubnepnsunyklangbriharnganmhawithyaly hnwynganaelasthanthitang idaek khnawicha khnakarbychiaelakarcdkar khnaethkhonolyi khnanitisastr khnaphyabalsastr khnaephschsastr khnamnusysastraelasngkhmsastr khnawithyakarsarsneths khnawithyasastr khnawiswkrrmsastr khnasilpkrrmsastraelawthnthrrmsastr khnasthaptykrrmsastr phngemuxngaelanvmitsilp khnasatharnsukhsastr khnasingaewdlxmaelathrphyakrsastr withyalykaremuxngkarpkkhrxng withyalyduriyangkhsilp bnthitwithyaly sthanthisakhy sthanthisakhyinekhtphunthikhameriyng snamfa snamkilamhawithyalymhasarkham xakharrachnkhrinthr RN xakharbriharthurkicsirinthr xakharwithyasastrchiwphaphsthabnwicywlyrukkhewch sankwithybrikar sankkhxmphiwetxr sanknganxthikarbdi xakharbrmrachkumari kxngklang ngansarbrrn nganprachum nganprasanngan kxngkickarnisit sphanisit xngkhkarnisit kxngthunkuyumephuxkarsuksa kys kxngaephnngan kxngecahnathi kxngkhlngaelaphsdu kxngbrikarkarsuksa tukekhiyw kxngthaebiynaelapramwlphl kxngsngesrimkarwicyaelabrikarwichakar kxngxakharsthanthi kxngprachasmphnthaelakickartangpraeths orngeriynsathitmhawithyalymhasarkham faymthym sanksuksathwip sankbrikarwichakar bnthitwithyaly sunywicyaelakarsuksabrrphchiwinwithya snamkilamhawithyalymhasarkham ranyamhawithyaly sunysarniethsxisansirinthr sunysuksathurkicaelaesrsthkicxaesiyn sunyekahlisuksa sunykhxmulaelawthnthrrmxemrikn phiphithphnthehdthimivththithangya orngphyabalstw khnastwaephthysastr phiphithphnthmhawithyalymhasarkham sunykhwamepnelisthangnwtkrrmihm sunykhwamrwmmuxkbphakhxutsahkrrm sunyekhruxngmuxklang okhrngkarxnurksexksariblaninphakhtawnxxkechiyngehnux okhrngkarxnurksphnthukrrmphuchxnenuxngmacakphrarachdari smedcphraethphrtnrachsuda syambrmrachkumari xph sth sunyhnngsuxmhawithyalymhasarkham xakharphthnanisit xakharphlasuksa xakharsunykilaaelannnakar xakharbrikarklang tladnxy sunybrikarthangkaraephthy orngphyabalsuththaewch sthabnphasaaelawthnthrrmekahliescng sunywicythurkicrahwangpraeths sunyphthnakarbychi hxphkmxihm 10 hx sunysarniethsxisansirinthr erimdaeninkartngaetpi ph s 2513 odyphuthirierimcudprakayaenwkhidaelaepnkalngsakhyphlkdn khux sastracaryekiyrtikhun dr chwilksn bunyakaycn sungepnphuxanwykarsankhxsmudinkhnannthanidmxngehnkhunkhaaelatrahnkthungkhwamsakhykhxngsarsnethsthxngthin cungekidaenwkhidrierimcdtng sunyexksarxisan khun ephuxepnsunyklangbrikarsarsnethsthiekiywkbphumiphakhxisan odyinrayaerimaerkmiphumakhxichbrikarsarsnethsxisanthisankwithybrikar edimeriykwa hxsmud thngcakklumkhnathangantamokhrngkarphthnathungkularxngih klumnkwicykhnathangankarphlngnganaehngchati aelaklumnkwicyxun thithanganekiywkhxngkbphumiphakhxisanxyuinkhnann mkcatidtxsxbthamaelaothrsphthmathamthungkhxmulekiywkbphakhxisanxyuesmx khathamehlaniemuxmicanwnmakkhunthangsankwithybrikarcungidekbrwbrwmiw phrxmthngkhnhakhxmulkhatxbcnmicanwnkhxmulxisanephimmakkhun cungthaihepnsunyklangbrikarsarsnethsthiekiywkbxisan txmainwnthi 25 mithunayn ph s 2536 idrbphrakrunacaksmedcphraethphrtnrachsuda syambrmrachkumari phrarachthannamihwa sunysarniethsxisansirinthr aelainwnthi 12 thnwakhm ph s 2538 smedcphraknisthathiracheca krmsmedcphraethphrtnrachsuda syambrmrachkumari esdcphrarachdaeninmaepidsunysarniethsxisansirinthr xyangepnthangkar xakharbrmrachkumari xakharbrmrachkumari emuxwnthi 26 knyayn ph s 2539 mhawithyalymhasarkham idmikarkxsrangxakharbrmrachkumari inekhtphunthitablkhameriyng xaephxknthrwichy khun srangaelwesrcemuxeduxnsinghakhm 2541 idrbphramhakrunathikhuncak smedcphraknisthathiracheca krmsmedcphraethphrtnrachsuda syambrmrachkumari esdcwangsilavks inwnthi 11 thnwakhm ph s 2539 aelathrngepnxngkhprathanepidxakharbrmrachkumari inwnthi 26 thnwakhm ph s 2542 phrxmthngphrarachthannamwa xakharbrmrachkumari odyxakharbrmrachkumari epnxakharkxsrangaebbkhxnkritesrimehlk sung 4 chn hlngkhathrngithy miphunthiichsxy 6 000 tarangemtr micanwnhxngthngsin 40 hxng brrcubukhlakrekhaptibtinganphayinxakharidkwa 200 khn aelalxngrbbukhkhlekhatidtxprasannganintwxakharechliywnla 400 khn xakharbrmrachkumari mikhwamsakhyodyepnthitngsanknganxthikarbdi mhawithyalymhasarkham thngyngepnsunyklanginkarprachumsakhy khxngmhawithyaly epnsthanthitxnrbbukhkhlsakhyaelaphumaeyuxnthwolk epnxakharthinisitaelabukhlakrmhawithyalythukkhnidekhamamiswnekiywkhxngephuxtidtxprasannganthangrachkar thuxepnhnunginxakharthiswyngamthisudinmhawithyalymhasarkham epnaelnmarkhmhawithyalyinekhtphunthikhameriyngelykwaid nxkcakniyngepnsthanthi thithangmhawithyalycdkickrrmephuxihthngbukhlakraelanisitidmiswnrwmekidkhwamsmphnthxndiinmhawithyaly xathi nganpraephnihit 12 khlxng 14 wnsthapnamhawithyaly aelanganphithitang tamoxkasthimhawithyalykahndkhun tukbrm xakharbrm tukxthikar epnkhaeriykthikhunekhytidpakkhxngnisit aelabukhlakr mhawithyalymhasarkham pccubnxakharbrmrachkumariichepnthithakarkhxnghnwynganinsngkdsanknganxthikarbdi prakxbdwy chnlang kxngprachasmphnthaelakickartangpraeths klumngansthaniwithyukracayesiyngmhawithyalymhasarkham sankhnwytrwcsxbphayin chn 1 kxngprachasmphnthaelakickartangpraeths kxngklang ngansarbrrn kxngkhlngaelaphsdu klumngankarenginaelabriharngbpraman klumngancdharayidaelaphlpraoychn chn 2 kxngprachasmphnthaelakickartangpraeths klumngankickartangpraeths kxngkhlngaelaphsdu nganbriharnganthwip klumnganbriharnganphsdu klumnganbychi chn 3 kxngkarecahnathi kxngaephnngan chn 4 sanknganxthikarbdi nganbriharnganthwip kxngklang klumnganbriharnganthwip klumnganphithikaraelakickarphiess klumngankarprachum nganelkhanukar xthikarbdi aelahxngprachum ekhtphunthiptibtikarnasinwl tngxyuthitablnasinwl xaephxknthrwichy cnghwdmhasarkham hangcakekhtphunthikhameriyngpraman 16 kiolemtr edimphunthiniepnokhrngkarsunythaythxdethkhonolyiekstrkrrmechlimphraekiyrti phayhlngepliynchuxepnfarmmhawithyaly aelainpi ph s 2554 idmikarsrangxakharptibtikaraelaorngphyabalstw khxngkhnastwaephthysastr pccubnekhtphunthinasinwlepnphunthiihptibtinganindankareriynrukarsxnkhxngkhnastwaephthysastr aelakhnaethkhonolyi misthanthi idaek xakharptibtikaraelaorngphyabalstw khnastwaephthysastr xakhareriynrukarekstraelaxutsahkrrmekstr khnaethkhonolyi farmmhawithyalymhasarkham khnastwaephthysastrekhtphunthiptibtikarsthabnwicywlyrukkhewch epnphunthiptibtikarkhxngsthabnwicywlyrukkhewch mi 2 thikhux phunthiptibtikartngxyuthibaneking tableking xaephxemuxng cnghwdmhasarkham mienuxthi 273 ir aelaphunthiptibtikar n xaephxnadun cnghwdmhasarkham mienuxthi 650 irchiwitinmhawithyalymhawithyalymhasarkham epnxikhnungmhawithyalythiichkhawa nisit eriykphuekhasuksa odykhawa nisit mikhwamhmaywa phuxyuxasy khawa nisit iderimichkhrngaerkinculalngkrnmhawithyaly enuxngcakthitngkhxngmhawithyalythuxwaxyunxkemuxng karkhmnakhmephuxmasuksaepnkaryaklabak dngnn phuthimaeriynswnihycaepntxngphkphayinhxphkkhxngmhawithyaly aelaeriykbukhkhlthixasyinhxngptibtikarwanisitechnediywkndwy sunginphayhlngmhawithyalyekstrsastr mhawithyalysrinkhrinthrwiorth mhawithyalynerswr mhawithyalyburpha mhawithyalymhasarkham mhawithyalythksin aelamhawithyalyphaeya idepidxyunxkemuxng aelaphuthimasuksakcaepntxngxyuhxphkechnediywkn cungidichkhawa nisit echnediywkn inpccubnni thungaemwaphuthimaeriyncaimidphkinhxphkehmuxninsmykxnaelwktam aetkyngniymeriykwanisitxyu kickrrm kareriyninmhawithyalymhasarkhamnncaichewlainkareriyntangkntamaetlahlksutrinaetlakhna odyswnihyaelwcaichewlainkareriyn 4 pi aetsahrbkhnaaephthysastr khnaephschsastr aelakhnastwaephthysastr caichewlaeriynthnghmd 6 pi swnkhnasthaptykrrmsastr phngemuxngaelanvmitsilpcaichewlaeriynthnghmd 5 pi nxkcaknikyngmikickrrmtang ihnisitidekharwmephuxthicaidphbpaaelathakhwamrucknisitinkhnaxun sungmikarcdhmunewiynkntlxdthngpi kickrrmnisit mhawithyalymhasarkham mikickrrmtang ihnisitidtharahwangkarsuksaephuxesrimthksakarxyurwminsngkhm imwacaepn chmrm chumnum kickrrmsakha ngankilatang wngdntri kanaesdngsilpnatsilpphunemuxng odyaebngxxkepn kickrrmswnklangsungcdody xngkhkarnisitmhawithyalymhasarkham epnphudaeninokhrngkar aelayngmikickrrmswnkhxngkhnasungcdodysomsrnisitaetlakhnathnghmd 17 khna 2 withyaly aelayngmikickrrmeluxkesrihruxchmrmtang xikmakmay kickrrmbaysrisukhwynxngihm kickrrmbaysrisukhwynxngihm cdkhun n lanxthsilp lanaepdehliym mhawithyalymhasarkham odymiwtthuprasngkhephuxepnkarphukkhxmuxsrangkhwyaelakalngicihkbnisitmhawithyalymhasarkham xikthngephuxihnisitihmeriynruwthnthrrmkarbaysrisukhwyaelasubsanwthnthrrmxndingam aelaephuxepnkartxnrbnisitihmekhasuksatxinrwmhawithyalymhasarkham odymiphubrihar xacary bukhlakr aelanisitekharwmkickrrmmakkwa 10 000 khn cakthng 17 khna 2 withyaly nbepnkickrrmthimimaxyangyawnan praephniprachumechiyr praephniprachumechiyr epnkickrrmthimungennkarthaythxdkhwamsmphnthkhxngnisitrunphisurunnxng thisngphlihekidkhwamsamkhkhi miraebiybwiny mikhwamphakhphumiicinsthabn aelamikarchwyehluxekuxkulknchnphinxng odymikarcdkickrrmlksnasrangsrrkh xbxun prathbic esrimsrangkarphthnanisit ephuxthaythxdkhwamepnsthabnphanbthephlng srangkhwamphakhphumiicinsthabnrwmthngsrangkhwyaelakalngicihkbnisitihm tlxdcnephuxsrangkhwamsmphnthxndirahwangrunphikbrunnxngaelanisitihmphayinrun xikthngephuxihnisitihmideriynrukhwamepnxisan aelaephuxihnisitihmsamarthprbtwekhakbsphaphmhawithyalyidngay epnkarplukcitsanukihrk srththa insthabn ephuxsubsantananechiyrmhawithyalymhasarkhamihkhngxyusubip odykickrrmniidaebngosnbriharcdkarxxkepn 5 klum idaek hnxngphuelythani hnxngkhay hnxngbwlaphu ely xudrthani muksklkalnkhr mukdahar sklnkhr bungkal nkhrphnm rxyaeknsarsinthu rxyexd khxnaekn mhasarkham kalsinthu nkhrchyburinthr nkhrrachsima chyphumi burirmy surinthr sriosthrecriyrachthani srisaeks yosthr xanacecriy xublrachthani kickrrmbaephypraoychnaelaxasasmkhr karxxkkhayxasasmkhrkhxngnisitmhawithyalymhasarkhammihlayxngkhkar echn chmrmxasaphthna epntn thngninisitmhawithyalymhasarkhamthicaidrbkaresnxchuxkarekharbphrarachthanpriyyabtr catxngepnnisitthithakickrrmindantang epnkarphthnanisitindan criythrrmaelakhunthrrm wichakaraelathksawichachiph sukhphaph odyepnkarphthnatnexngaelaepnkarthapraoychnaeksngkhmxikdwy nganethangamsmphnth trasylksnkickrrmethangamsmphnth khrngthi 25 kickrrm ekidkhunhlngcakmhawithyalysrinkhrinthrwiorthwithyaekhttang idrbkarykthanaepnmhawithyalyihm sungprakxbdwy mhawithyalysrinkhrinthrwiorth mhawithyalyburpha mhawithyalynerswr mhawithyalymhasarkham aelamhawithyalythksin aemwawithyaekhttang caidrbkarykthanaepnmhawithyalyexkeths aetdwykhwamtrahnkthungkhwamphukphnthng 5 mhawithyaly cungmipnithanthicarwmmuxkninpharkicxnkhwraekmhawithyaly dngnncungidrwmmuxkncdnganetha ngamsmphnth khun odyichsi etha sungepnsipracaodyrwmkhxngthukwithyaekhtepnphunthan aelaephimkhawa ngam sungepnkhathimikhwamhmayaelamikhunkhaying mikhwamhmayrwmepn etha ngamsmphnth inpi 2538 mhawithyalysrinkhrinthrwiorth withyaekhtsngkhla hruxmhawithyalythksin epnecaphaphodymirupaebbkickrrmthienndankilaaeladansilpwthnthrrmepnhlk txmainpi ph s 2539 thng 5 mhawithyaly odyxthikarbdirwmelngehnkhwamsakhytxpharkickhxngmhawithyalyaelapraethschati cungidrwmlngnamkhxtklngkhwamrwmmuxmhawithyalyinekhruxetha ngamsmphnth epntnma sungmikhxtklngchdecnin 4 dan khux dankarwicy dankarbriharwichakaraeksngkhm dankarsrangkhwamsamkhkhirahwangmhawithyalyinekhruxetha ngam tlxdcnthungkarthanubarungsilpwthnthrrmaelakarkila aeladankarphthnaxngkhkrbrihar karcdkaraelawichakar inpi ph s 2565 mhawithyalyphaeya ekharwmepnsmachikekhruxethangamxyangepnthangkar epnmhawithyalythi 6 khxngklum aelapccubnmimhawithyalyinekhruxthngsin 6 aehngdwykn khux mhawithyalysrinkhrinthrwiorth mhawithyalyburpha mhawithyalynerswr mhawithyalymhasarkham mhawithyalythksin aelamhawithyalyphaeya xnung mhawithyalyphaeya epnmhawithyalyediywthiimidichsiethaepnsipracamhawithyaly aelaepnmhawithyalyediywthiimidekiywkhxnginkarepnwithyaekhtkhxngmhawithyalysrinkhrinthrwiorthodytrngehmuxnxik 4 aehng aetaeyktwmacakwithyaekhtkhxngmhawithyalynerswr phithiphrarachthanpriyyabtr phrabathsmedcphrawchireklaecaxyuhw thrngphrakrunaoprdekla ih smedcphraknisthathiracheca krmsmedcphraethphrtnrachsuda syambrmrachkumari esdcphrarachdaeninaethnphraxngkhinkarprakxbphrarachphithitang inkickarkhxngmhawithyalymhasarkham aelaphithiphrarachthanpriyyabtraekbnthit mhabnthit aeladusdibnthitkhxngmhawithyalymhasarkham n xakharsunyprachumechlimphraekiyrti inoxkaschlxngphrachnmayu 5 rxb 2 emsayn 2558 mhawithyalymhasarkham xaephxemuxngmhasarkham cnghwdmhasarkham inchwngeduxnthnwakhmepnpracathukpi khruywithythana ekhmwithythana aelakhruypracataaehnng mhawithyalymhasarkham idkahndkhruywithythana ekhmwithythana aelakhruypracataaehnng iwepnchudphithikarsahrbsahrbichinphithiphrarachthanpriyyabtr dngni khruywithythana khruydusdibnthit thadwyphahruxaephrsidaeybepnesuxkhlumyawehnuxkhxethaphxpramanhlngcibtwesuxphaxktlxdmiaethbkamahyihruxskhladsiethakwang 10 sm khlibrimdwyphasiehluxngkwang 1 5 sm eybtidepnsabtamsipracamhawithyalytlxddanhnathngsxngkhang aekhnesuxplaybanyawradbkhxmux txnklangaekhnesuxthngsxngkhangmiaethbkamahyihruxskhladsiethakwang 7 sm yaw 42 sm khlibrimdwyphasiehluxngkwang 0 5 sm playaethbthngsxngkhangepnmumaehlmcanwn 3 aethb tideriyngkntamkhwangrayahangkn 3 5 sm twesuxpradbdwyekhmwithythanacanwn 2 xninradbhnaxkkungklangkhxngaethbkamahyihruxskhladsiethadanhnathngsxngkhang miphakhlxngkhxdaninthadwyphatwnhruxaephrsiehluxng miaethbthadwyphatwnhruxaephrsietha kwang 8 sm thabcakkhxbmumdanlangepnaenwyawrxb aelamiaephrsiehluxngkwang 1 5 sm khlibrimkhxblang khruymhabnthit echnediywkbkhruydusdibnthit aettxnklangaekhnmiaethbkamahyihruxskhladsiethacanwn 2 aethbtideriyngkntamkhwangrayahangkn 3 5 sm khruybnthit echnediywkbkhruydusdibnthit aettxnklangaekhnmiaethbkamahyihruxskhladsiethacanwnhnungaethbtidtamkhwang ekhmwithythana ekhmwithythanakhxngmhawithyalymhasarkhammilksnaepnruptramhawithyalysungeriykwa orcnakr khnadkwang 3 5 sm yaw 4 5 sm thadwyolhasithxng mixngkhprakxbepnrupibesmatrngklangmirupsylksnkhxngxngkhphrathatunadunpradisthanxyuehnuxsuriyarngsi danlangepnlaykhidxisan mikhakhwyepnphasabaliwa phhun pn thiot chiew hmaythung phumipyyaphungepnxyuephuxmhachn khruypracataaehnng nayksphamhawithyaly khruythadwyphahruxaephrsiethaekhm eybepnesuxkhlumyawehnuxkhxethaphxpraman hlngcib twesuxphaxktlxd miaethbkamahyihruxskhladsiehluxngkwang 10 sm khlibrimdwyphasidakwang 0 5 sm eybtidepnsabtlxddanhnathngsxngkhang aekhnesuxplaybanyawradbkhxmux txnklangaekhnesuxthngsxngkhangmiaethbkamahyihruxskhladsiehluxngkwang 4 5 sm yaw 42 sm playaekhnthngsxngkhangepnmumaehlmcanwn 4 aethbtideriyngkntamkhwangrayahang 3 5 sm twesuxpradbdwysaysrxythadwyolhasithxng miphakhlxngkhxdaninmilksnaechnediywkbkhruydusdibnthit dannxkmiphunepnphatwnhruxaephrsietha miaethbkamahyihruxskhladsiehluxngkwang 1 5 sm khlibrimkhxblang krrmkarsphamhawithyaly echnediywkbnayksphamhawithyaly aettwesuximmisaysrxypradb xthikarbdi echnediywkbnayksphamhawithyaly aettwesuxpradbdwysaysrxythadwyolhasiengin khnacary khruythadwyphahruxaephrsiethaekhm eybepnesuxkhlumyawehnuxkhxethaphxpraman hlngcib twesuxphaxktlxd miaethbkamahyihruxskhladsiethaekhmkwang 10 sm khlibrimdwyphasiehluxngkwang 0 5 sm eybtidepnsabtlxddanhnathngsxngkhang aekhnesuxplaybanyawradbkhxmux txnklangaekhnesuxthngsxngkhangmiaethbkamahyihruxskhladsiehluxngkwang 4 5 sm yaw 42 sm playaethbthngsxngkhangepnmumaehlmcanwn 3 aethbtideriyngkntamkhwangrayahang 3 5 sm twesuxpradbdwyekhmwithythanacanwn 2 xninradbhnaxkkungklangkhxngaethbkamahyihruxskhladsiethaekhmdanhnathngsxngkhang miphakhlxngkhxdaninmilksnaechnediywkbkhruydusdibnthit dannxkmiphunepnphatwnhruxaephrsietha miaethbkamahyihruxskhladsiehluxngkwang 1 5 sm khlibrimkhxblangkarnbrun mhawithyalymhasarkham erimnbrunswnklangkhrngaerkinpi 2517 khrngemuxyngepnmhawithyalysrinkhrinthrwiorth withyaekhtmhasarkham khnasuksasastr erimnbrunswnkhnakhxngtnexngtngaetpi 2511 smywithyalywichakarsuksamhasarkham swnkhnawithyasastr khnamnusysastraelasngkhmsastr erimnbrunkhxngtnrunaerkinchwngkartxtnghlksutrwithyasastrbnthit sakhawichasthiti aelahlksutrsilpsastrbnthit sakhawichaphasaithy runesuxdaw epnrunthithukkxtngemuxpi ph s 2517 sylksnkhux esuxdaw sunglksnaednkhxngesuxdawnn khux khwamkrachbkraechng khlxngaekhlw wxngiw tuntwxyuesmx inthuk dan runcamri epnrunthithuktngkhunemuxpi ph s 2518 sungepnsylksnkhxngkhwaypa sunglksnaednkhxngcamrikhux epnstwthirkkhn rkkhwamsaxadepnchiwitcitic runnimilksnedn khux eriybrxyaelaaekhngaekrng cungichcamriepnsylksnephuxihrksakhwamsaxadehmuxncamrirkkhn runphumrin kxtngemuxpi ph s 2519 sungepnsylksnkhxngphung milksnaednkhux mikhamsamkhkhiehmuxnphungthixyurwmknepnklumepnxnhnungxnediywkn rkthicathanganephuxswnrwmepnhlk runmvkhmas kxtngrunkhunmaemuxpi ph s 2520 epnsylksnkhxngkwangthxng lksnaednkhxngkwangthxng khux kwangthxngepnstwthiduaelrksakhwamsaxadkhxngtwexngesmx xyurwmknepnklum khxychwyehluxknaelakn rawngphyihknaelakn cungepnstwthimikhwamsaxadepnelis aelamikhwamhyingthannginkhwamsngangamkhxngtwexng karnbrunkhxngmhawithyalymhasarkham caphldepliynrunknthuk 4 pi odyiltamladb esuxdaw camri phumrin mvkhmas emuxkhrbaelwcungyxnklbmarunesuxdawtamedim nbaebbnimaeruxy cnthungpccubn hxphknisit hxphknisit mithnghmd 21 hxphk aebngidepn hxphknisitinemuxng mithnghmd 11 hx idaek hxphkrachphvks hxphkchyphvks hxphkpthmewsn hxphkkarewk hxphkkaraekd hxphkchwnchm hxphkphuththrksa hxphkchngokh hxphkxinthnil hxphkebycmas aelahxphkparichati hxphknisitkhameriyng mithnghmd 10 hx odyhxphknisitinekhtphunthikhameriyngcatngchuxtamxaephxincnghwdmhasarkham idaek hxphkknthrwichy hxphkwapipthum hxphkkudrng hxphkyangsisurach hxphkbrbux hxphkechiyngyun hxphkphykhkhphumiphisy hxphkoksumphisy hxphknadun aela hxphkchunchmkaredinthangkaredinthangmamhawithyaly aephnphngmhawithyalymhasarkham ekhtphunthikhameriyng nisit nkeriyn bukhlakr aelabukhkhlthwipsamarthedinthangmamhawithyalyidthngthangrthyntswntw aelarthodysarpracathang odyrthodysarpracathangthimiihbrikarincnghwdmhasarkhaminpccubn khux rthsxngaethw inrakha 8 bath thahlng 20 00 n rakha 10 bath aebngxxkepnsayesnthang dngni saysinaenginaelasifa esnthangsaynicaphansthanthisakhy khux sthanikhnsngphuodysarcnghwdmhasarkham orngeriynphdungnari thikarxaephxemuxngmhasarkham orngeriynxnubalmhasarkham withyalyethkhnikhmhasarkham ekhtphunthiinemuxng m eka khux khnakarthxngethiywaelakarorngaerm biksi suepxresnetxr ekhaekhtphunthikhameriyng m ihm odycaphantablthakhxnyang thanghlwnghmayelkh 2202 phanphiphithphnthmhawithyalymhasarkham khnasingaewdlxmaelathrphyakrsastr khnaephschsastr swnsukhphaph withyalyduriyangkhsilp withyalykaremuxngkarpkkhrxng xakharbrmrachkumari orngeriynsathitmhawithyalymhasarkham faymthym khnamnusysastraelasngkhmsastr xakharrachnkhrinthr ekhathnnmhawithyalymhasarkham phanxakharphlsuksa khnakarbychiaelakarcdkar xakharbrikarklang phlasa hxin sunyhnngsuxmhawithyalymhasarkham tladnxy xakharptibtikarklangwithyasastr aelasinsudthikhnaethkhonolyi esnthangsaynibangkhnxaccasinsudthitablkhameriyngsaysiehluxng esnthangsaynicaphansthanthisakhy khux ekhtphunthiinemuxng m eka khux khnakarthxngethiywaelakarorngaerm orngeriynsathitmhawithyalymhasarkham fayprathm hxin m eka orngxaharklang khnaaephthysastr orngphyabalsuththaewch sunybrikarthangkaraephthy phakhwichawthnthrrmsastr khnasilpkrrmsastraelawthnthrrmsastr khnasuksasastr esrimithykhxmephlks malinphlasa mhawithyalyrachphtmhasarkham mhawithyalykarkilaaehngchati withyaekhtmhasarkham ithwsdu aemkhokhr biksi suepxresnetxr ekhaekhtphunthikhameriyng m ihm odycaphantablthakhxnyang thanghlwnghmayelkh 2202 phanphiphithphnthmhawithyalymhasarkham khnasingaewdlxmaelathrphyakrsastr khnaephschsastr swnsukhphaph withyalyduriyangkhsilp withyalykaremuxngkarpkkhrxng xakharbrmrachkumari orngeriynsathitmhawithyalymhasarkham faymthym khnamnusysastraelasngkhmsastr xakharrachnkhrinthr ekhathnnmhawithyalymhasarkham phanxakharphlsuksa khnakarbychiaelakarcdkar xakharbrikarklang phlasa sunyhnngsuxmhawithyalymhasarkham hxin tladnxy xakharptibtikarklangwithyasastr khnaethkhonolyi aelasinsudthisxylawlykaredinthangphayinmhawithyaly aephnphngmhawithyalymhasarkham ekhtphunthiinemuxng mhawithyalymhasarkhamidcdrthbrikaraeknisit nkeriyn bukhlakr aelabukhkhlthwip ephuxihidedinthangipyngkhnahruxhnwyngantang idxyangthwthung odymirthrangiffathiphanhnwyngansthanthithisakhyinekhtphunthikhameriyng m ihm phuichbrikarsamarthkhunlngidtamcudcxdrthethann odymipaycudcxdrthtang dngni cudphkrthodysarphlngnganiffa cudcxdrthhlngphlasa cudcxdrthhxchunchm cudcxdrthhnatukkhnakarbychi cudcxdrthhnaesewn khangxakharbrikarnisit cudcxdhnakhnawithyasastr eyuxngtukwithyasastr cudcxdhnakhnawithyasastr payrtheml cudcxdhnakhnasthaptykrrm cudcxdrthkhnasilpkrrmsastraelawthnthrrmsastr cudcxdrthhnapaykhnakarbychi cudcxdrimkhlxngpayrthemltrngkhamkhnakarbychi cudcxdrthhnaxakharrachkhrinthr khnanitisastr cudcxdrthhnakhnamnusysastr cudcxdrthwithyalykaremuxngkarpkkhrxng cudcxdrthkhnaephschsastr cudcxdrthkhnasingaewdlxm cudcxdrthkhnaphyabalsastr cudcxdrthkhnawiswkrrmsastr cudcxdrthkhnasatharnsukhsastr cudcxdsaphankhnaethkhonolyi cudcxdhnahxphkknthrwichy tladnxy cudcxdhnaxakharphlasa aelacaklbmasinsudthicudphkrthodysarphlngnganiffa pccubnyngimmirthkhnsngbrikarinekhtphunthiinemuxng m eka aelaekhtphunthinasinwl swninekhtphunthiinemuxng m eka samartheluxkichbrikarrthsxngaethwidsisyekathimichuxesiyngdubthkhwamhlkthi raynambukhkhlsakhycakmhawithyalymhasarkham sisyekathimichuxesiyngcakmhawithyalymhasarkhamtngaetsmywithyalywichakarsuksamhasarkham smymhawithyalysrinkhrinthrwiorth withyaekhtmhasarkham cnkrathngthungsmymhawithyalymhasarkham mihlakhlaytngaetbukhkhlsakhyindankaremuxngkarpkkhrxng nkwichakar silpin kharachkaraelakhnacary echn sisyekathimichuxesiyng chlita swnesnh misyuniewirsithyaelnd 2559 sudartn butrphrm hruxtukki chingrxy nisit sinthuiphr nisit sinthuiphrchlita swnesnh misyuniewirsithyaelnd 2559 sisyekakhnawithyasastr likhit butrphrm nkaesdng nayaebb sisyekakhnamnusysastraelasngkhmsastr sudartn butrphrm nkaesdng daratlk sisyekakhnasilpkrrmsastraelawthnthrrmsastr xantphl sirichumaesng nkaesdng edxa star 3 sisyekakhnakarthxngethiywaelakarorngaerm chingchy mngkhlthrrm hwhnaphrrkhkhwamhwngihm xditrthmntriwakarkrathrwngsuksathikar aelarthmntripracasanknaykrthmntri inrthbalkhxngphlexkchwlit yngicyuthth sisyekakhnasuksasastr nisit sinthuiphr smachiksphaphuaethnrasdrcnghwdrxyexd phrrkhephuxithy sisyekakhnasuksasastr mntri xudmphngs nkkhaw sisyekakhnamnusysastraelasngkhmsastr suthin khlngaesng nkkaremuxng rthmntriwakarkrathrwngklaohm smachiksphaphuaethnrasdrcnghwdmhasarkham sisyekakhnasuksasastr thnathip srithxngsuk nkrxng nkaesdng smachikwngElement sisyekakhnamnusysastraelasngkhmsastrraebiyngphaphmhawithyalymhasarkhamsthanthitang khxngmhawithyalymhasarkham paymhawithyalymhasarkham orngphyabalsuththaewch khnaaephthysastr xakharsunykilaaelannthnakar xakharptibtikarklangthangwithyasastr snamfa snamkilamhawithyalymhasarkham sunybrikarthangkaraephthy khnaaephthysastr ekhtphunthikhameriyng xakharbriharthurkicsirinthr xakharwithyasastrchiwphaph xakharkhnaaephthysastr dankhang xakharkhnaaephthysastr xakharechlimphraekiyrti inoxkaschlxngphrachnmayu 5 rxb 2 emsayn 2558 xakharorngphyabalsuththaewch odm 50 pikhnasuksasastr xakharkhnakarbychi m eka xakharaephthyaephnithyprayukt xakharsthabnwicysilpaelawthnthrrmxisan xakharkhnawthnthrrmsastr xakharkhnasuksasastr xakharkhnasuksasastr 2 xakharwithyphthna xakharkhnawiswkrrmsastr xakharkhnasingaewdlxmaelathrphyakrsastr xakharkhnawithyakarsarsneths orngxaharkhnaaephthysastr xakharkhnaephschsastr xakharkhnaephschsastr xakharkhnasatharnsukhsastr xakharrachnkhrinthr RN xakharkhnakarthxngethiywaelakarorngaerm xakharkhnastwaephthysastraelaorngphyabalstwnasinwn sthabnkhngcux lankhnasuksasastrechingxrrthsthabnwicysilpaaelawthnthrrmxisan epnsthabnthithahnathisnbsnunkarwicyaelakarsuksaihkbkhnasilpkrrmsastraelawthnthrrmsastr sunywicyaelakarsuksabrrphchiwinwithya epnhnwyngansnbsnunkarsuksadanbrrphchiwinwithyaaelachiwwithyaihkbphakhwichachiwwithya khnawithyasastr kxtngkhrngaerkinchux khnawichakarsuksa aelaidepliynchuxepn khnasuksasastr inpi 2517 kxtngkhrngaerkinchux khnawichawithyasastraelakhnitsastr txmaidthxnchuxehluxephiyng khnawithyasastr inpi 2518 kxtngkhrngaerkinchux khnawichamnusythrrmsuksaaelasngkhmsastr txmainpi 2517 idaeykhnwynganepn khnamnusysastr aelakhnasngkhmsastr kxnthicathukkhwbrwmknepn khnamnusysastraelasngkhmsastrinpi 2537 hlngcakykthanaepn mhawithyalymhasarkhamaelw bnthitwithyalythukldthanahnwynganlngepnnganbriharbnthitsuksa sngkdkxngbrikarkarsuksa faywichakar aelaklbmaepnbnthitwithyalyxikkhrnginpi 2546 edimkhuxphakhwichabriharthurkic sngkdkhnamnusysastraelasngkhmsastr epnkhnaaerkthicdtngkhunphayitchux mhawithyalymhasarkham chuxedimkhux khnaephschsastraelawithyasastrsukhphaph phayhlngidaeyksakhasatharnsukhsastripcdtngkhnaihm aelaoxnyaysakhakaraephthyaephnithyprayukt ipsngkdkhnaaephthysastr cungtdsrxy aelawithyasastrsukhphaph xxk ehluxephiyng khnaephschsastrinpi 2548 edimchux khnawiswkrrmsastraelawithyakarkhxmphiwetxr inphayhlngidaeykphakhwichawithyakarkhxmphiwetxrephuxrwmkbphakhwichabrrnarksastraelasarsnethssastr aelacdtngepn khnawithyakarsarsneths cungtdsrxy aelawithyakarkhxmphiwetxr xxk ehluxephiyng khnawiswkrrmsastrinpi 2548 edimkhuxphakhwichathsnsilpaelasilpakaraesdng khnamnusysastraelasngkhmsastr kxtngepnkhnainpi 2545 aelaidyubkhnawthnthrrmsastrekhakbkhnasilpkrrmsastrinpi 2563 ekidcakkarkhwbrwmphakhwichawithyakarkhxmphiwetxrkbphakhwichabrrnarksastraelasarsnethssastr aeyksakhasatharnsukhsastrcak khnaephschsastraelawithyasastrsukhphaph edimkhuxphakhwicharthsastr sngkdkhnamnusysastraelasngkhmsastr edimkhux khnastwaephthysastraelastwsastr phayhlngidoxnsakhawichastwsastraelasakhawichapramng ipsngkdkhnaethkhonolyi cungtdsrxy aelastwsastr xxk ehluxephiyng khnastwaephthysastrinpi 2555 edimkhuxsakhawichaduriyangkhssastr sngkdkhnamnusysastraelasngkhmsastr edimkhuxsakhawthnthrrmsastr khnasilpkrrmsastr aelainpi 2563 idthukyubklbiprwmkbkhnasilpkrrmsastrepn khnasilpkrrmsastraelawthnthrrmsastr edimkhuxsakhawichanitisastr sngkdwithyalykaremuxngkarpkkhrxng khnadaeninkarexngxangxingkarkahndrhstwphyychnapracakrathrwngaelaelkhthihnngsuxxxkkhxng krathrwngkarxdumsuksa withyasastr wicy aelanwtkrrm 2021 12 07 thi ewyaebkaemchchin subkhnemux 22 emsayn 2564 kxngkhlngaelaphsdu mhawithyalymhasarkham rayngankhxngphutrwcsxbbychiaelarayngankarengin mhawithyalymhasarkham pracapingbpraman 2363 2022 01 27 thi ewyaebkaemchchin 27 mkrakhm 2565 PDF 2562 https meeting msu ac th meetingmsu images documents doc command 2566 khasng 20oprdeklanayksphamhawithyaly pdf subkhnemux 30 emsayn 2562 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a title immihruxwangepla help trwcsxbkhawnthiin accessdate help 2562 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2019 05 02 subkhnemux 30 emsayn 2562 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help