บทความนี้ไม่มีจาก |
จารึกวัดศรีชุม หรือ ศิลาจารึกสุโขทัยหลักที่ 2 เป็นศิลาจารึกภาษาไทยสมัยสุโขทัยที่สำคัญ ที่เล่าเรื่องราวการสถาปนากรุงสุโขทัย และ วีรกรรมของกษัตริย์ โดยสันนิษฐานว่าผู้สร้างศิลาจารึกหลักนี้คือ พระมหาเถรศรีศรัทธา ผู้เป็นเชื้อสายของพ่อขุนศรีนาวนำถุม ผู้สถาปนาแคว้นสุโขทัย-ศรีสัชนาลัย
วัสดุ | หินดินดาน |
---|---|
ความสูง | 275 เซนติเมตร (108 นิ้ว) |
ความกว้าง | 67 เซนติเมตร (26 นิ้ว) |
ตัวหนังสือ | อักษรสุโขทัย |
สร้าง | ราว พ.ศ. 1884-1910 |
ช่วงเวลา/วัฒนธรรม | สุโขทัย |
ค้นพบ | พ.ศ. 2430 ในวัดศรีชุม ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย |
ค้นพบโดย | หลวงสโมสรพลการ |
ที่อยู่ปัจจุบัน | พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร |
จารึกวัดศรีชุม |
ในจารึกยังปรากฎคำว่า ขอม ครั้งแรก หลังยุคอาณาจักรพระนครได้ล่มสลายลง
รูปลักษณ์
จารึกสลักตัวอักษรไทย ภาษาไทย บนแผ่นหินดินดาน รูปใบเสมา เรียวบาง (ชำรุดบางแห่ง) มี 2 ด้าน 212 บรรทัด กว้าง 2 ศอก สูง 9 ศอก หนา 3 ถึง 4 นิ้วโดยประมาณ
การค้นพบ
ตามประวัติ ใน พ.ศ. 2430 ได้ค้นพบจารึกนี้อยู่ในอุโมงค์มณฑปวัดศรีชุม และได้ขนย้ายนำมารวบรวมไว้ในกรุงเทพฯ ผู้ศึกษาจารึกนี้เป็นคนแรกคือ ศาสตราจารย์ ยอร์ช เซเดส์ผู้เป็นบรรณารักษ์ใหญ่หอพระสมุดวชิรญาณในขณะนั้น ข้อความจารึกได้รับการพิมพ์เผยแพร่ครั้งแรกใน พ.ศ. 2467 ปัจจุบันจารึกนี้เก็บรักษาอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
เนื้อหาในจารึก
สันนิษฐานว่าศิลาจารึกวัดศรีชุมนี้อาจสร้างขึ้นราว พ.ศ. 1884-1910 ในรัชกาลพระมหาธรรมราชาที่ 1 (พระยาลิไทย)
เรื่องราวที่ปรากฏในจารึกกล่าวถึง
- การสถาปนาแคว้นสุโขทัย-ศรีสัชนาลัย รวบรวมหัวเมืองเหนือโดยพ่อขุนศรีนาวนำถุม
- ขอมสบาดโขลญลำพงเป็นผู้ปกครองเมืองสุโขทัยในเวลาต่อมา
- พ่อขุนผาเมืองเป็นบุตรของพ่อขุนศรีนาวนำถุม และ เป็นบุตรเขยของกษัตริย์กัมพูชา (ผีฟ้าเจ้าเมืองศรียโสธรปุระ) ทรงพระนาม กัมรเตงอัญศรีอิทรบดินทราทิตย์ และ ได้รับมอบ พระขรรค์ชัยศรี
- พ่อขุนผาเมือง ร่วมกับพระสหาย คือ พ่อขุนบางกลางหาว ร่วมทำการรบขับไล่ขอมสบาดโขลญลำพง ออกจากเมืองสุโขทัย โดยกำลังทหารของพ่อขุนผาเมืองสามารถยึดเมืองได้ แต่พ่อขุนผาเมืองได้มอบการปกครองแด่พ่อขุนบางกลางหาว พร้อมทั้งเฉลิมพระนาม ศรีอินทราทิตย์ หลังจากนั้นไม่ปรากฏพระนามของพ่อขุนผาเมืองในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีก
- เรียกพ่อขุนรามคำแหง บุตรของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ว่า พ่อขุนรามราช เป็นนักปราชญ์ผู้รู้ธรรม ผู้สร้างพระศรีรัตนธาตุในเมืองศรีสัชนาลัย
- พระยาคำแหงพระราม เชื้อสายตระกูลพ่อขุนศรีนาวนำถุม มีบุตรผู้หนึ่งเกิดใน สรลวง-สองแคว ซึ่งต่อมาคือ มหาเถรศรีศรัทธา และมีเรื่องราวอยู่ในจารึกนี้
- จารึกนี้บอกเป็นนัยว่า สรลวง-สองแคว คือเมืองเดียวกัน ซึ่งต่อมาคือเมืองพิษณุโลก
- มหาเถรศรีศรัทธาในวัยหนุ่มเคยช่วยบิดารบกับ ท้าวอีจาน และ ช่วยพระยาเลอไทยชนช้างกับ ขุนจัง จนได้รับชัยชนะ
- ภายหลัง มหาเถรศรีศรัทธาได้ออกบวช ออกจากเมืองทาง รัตภูมิ และ เดินทางจาริกแสวงบุญไปตามเมืองต่าง ๆ กระทั่งได้ไปนมัสการพระบรมสารีริกธาตุถึงเกาะลังกา จากนั้นได้มีการนำเรื่องราวการชีวประวัติและเดินทางจาริกแสวงบุญมาสร้างเป็นจารึกนี้ในที่สุด
- นครปฐม อาจมีชื่อเรียกในภาษาขอมว่า นครพระธม
ชื่อสถานที่เช่น อีจาน และ รัตภูมิ อาจบอกถึงสถานที่ตั้งเมืองของมหาเถรศรีศรัทธา หากมีการศึกษาต่อไปในอนาคต
เนื่องจากมีการเล่าเรื่องราวข้อมูลเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่สำคัญ และ ข้อมูลหลายอย่างไม่พบในศิลาจารึกหลักอื่น ๆ ศิลาจารึกหลักนี้จึงเป็นที่สนใจของนักประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ ใจความโดยรวมของศิลาจารึกนี้ยังสอดคล้องกับศิลาจารึกหลักที่ 1
อ้างอิง
- จารึกในประเทศไทย ศูนย์มานุษวิทยาสิรินธรฯ
ดูเพิ่ม
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniimmikarxangxingcakaehlngthimaidkrunachwyprbprungbthkhwamni odyephimkarxangxingaehlngthimathinaechuxthux enuxkhwamthiimmiaehlngthimaxacthukkhdkhanhruxlbxxk eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir carukwdsrichum hrux silacaruksuokhthyhlkthi 2 epnsilacarukphasaithysmysuokhthythisakhy thielaeruxngrawkarsthapnakrungsuokhthy aela wirkrrmkhxngkstriy odysnnisthanwaphusrangsilacarukhlknikhux phramhaethrsrisrththa phuepnechuxsaykhxngphxkhunsrinawnathum phusthapnaaekhwnsuokhthy srischnalycarukwdsrichum silacaruksuokhthyhlkthi 2wsduhindindankhwamsung275 esntiemtr 108 niw khwamkwang67 esntiemtr 26 niw twhnngsuxxksrsuokhthysrangraw ph s 1884 1910chwngewla wthnthrrmsuokhthykhnphbph s 2430 inwdsrichum tablemuxngeka xaephxemuxngsuokhthy cnghwdsuokhthykhnphbodyhlwngsomsrphlkarthixyupccubnphiphithphnthsthanaehngchati phrankhrcarukwdsrichummnthpwdsrichum suokhthy incarukyngprakdkhawa khxm khrngaerk hlngyukhxanackrphrankhridlmslaylngruplksncarukslktwxksrithy phasaithy bnaephnhindindan rupibesma eriywbang charudbangaehng mi 2 dan 212 brrthd kwang 2 sxk sung 9 sxk hna 3 thung 4 niwodypramankarkhnphbtamprawti in ph s 2430 idkhnphbcaruknixyuinxuomngkhmnthpwdsrichum aelaidkhnyaynamarwbrwmiwinkrungethph phusuksacarukniepnkhnaerkkhux sastracary yxrch esedsphuepnbrrnarksihyhxphrasmudwchiryaninkhnann khxkhwamcarukidrbkarphimphephyaephrkhrngaerkin ph s 2467 pccubncarukniekbrksaxyuthiphiphithphnthsthanaehngchati phrankhrenuxhaincaruksnnisthanwasilacarukwdsrichumnixacsrangkhunraw ph s 1884 1910 inrchkalphramhathrrmrachathi 1 phrayaliithy eruxngrawthipraktincarukklawthung karsthapnaaekhwnsuokhthy srischnaly rwbrwmhwemuxngehnuxodyphxkhunsrinawnathum khxmsbadokhlylaphngepnphupkkhrxngemuxngsuokhthyinewlatxma phxkhunphaemuxngepnbutrkhxngphxkhunsrinawnathum aela epnbutrekhykhxngkstriykmphucha phifaecaemuxngsriyosthrpura thrngphranam kmretngxysrixithrbdinthrathity aela idrbmxb phrakhrrkhchysri phxkhunphaemuxng rwmkbphrashay khux phxkhunbangklanghaw rwmthakarrbkhbilkhxmsbadokhlylaphng xxkcakemuxngsuokhthy odykalngthharkhxngphxkhunphaemuxngsamarthyudemuxngid aetphxkhunphaemuxngidmxbkarpkkhrxngaedphxkhunbangklanghaw phrxmthngechlimphranam srixinthrathity hlngcaknnimpraktphranamkhxngphxkhunphaemuxnginehtukarnprawtisastrthisakhyxik eriykphxkhunramkhaaehng butrkhxngphxkhunsrixinthrathity wa phxkhunramrach epnnkprachyphuruthrrm phusrangphrasrirtnthatuinemuxngsrischnaly phrayakhaaehngphraram echuxsaytrakulphxkhunsrinawnathum mibutrphuhnungekidin srlwng sxngaekhw sungtxmakhux mhaethrsrisrththa aelamieruxngrawxyuincarukni caruknibxkepnnywa srlwng sxngaekhw khuxemuxngediywkn sungtxmakhuxemuxngphisnuolk mhaethrsrisrththainwyhnumekhychwybidarbkb thawxican aela chwyphrayaelxithychnchangkb khuncng cnidrbchychna phayhlng mhaethrsrisrththaidxxkbwch xxkcakemuxngthang rtphumi aela edinthangcarikaeswngbuyiptamemuxngtang krathngidipnmskarphrabrmsaririkthatuthungekaalngka caknnidmikarnaeruxngrawkarchiwprawtiaelaedinthangcarikaeswngbuymasrangepncarukniinthisud nkhrpthm xacmichuxeriykinphasakhxmwa nkhrphrathm chuxsthanthiechn xican aela rtphumi xacbxkthungsthanthitngemuxngkhxngmhaethrsrisrththa hakmikarsuksatxipinxnakht enuxngcakmikarelaeruxngrawkhxmulehtukarnprawtisastrthisakhy aela khxmulhlayxyangimphbinsilacarukhlkxun silacarukhlknicungepnthisnickhxngnkprawtisastrcnthungpccubn nxkcakni ickhwamodyrwmkhxngsilacarukniyngsxdkhlxngkbsilacarukhlkthi 1xangxingcarukinpraethsithy sunymanuswithyasirinthrduephimsilacarukhlkthi 1bthkhwamprawtisastrniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk