พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร (อังกฤษ: Bangkok National Museum) เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ถนนหน้าพระธาตุ แขวง พระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร บริเวณพระราชวังบวรสถานมงคล หรือส่วนหนึ่งของที่ประทับวังหน้า ซึ่งก็คือพื้นที่พระราชวังของสมเด็จพระบวรราชเจ้าตั้งแต่รัชกาลที่ 1 เป็นต้นมา มีอาณาเขตตั้งแต่บริเวณมหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มณฑลพิธีท้องสนามหลวงตอนตะวันตก อนุสาวรีย์ทหารอาสา และโรงละครแห่งชาติในปัจจุบัน
บริเวณทางเข้าพิพิธภัณฑ์ ประกอบด้วยพระที่นั่งศิวโมกขพิมาน (ซ้ายกลาง) และพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ (ขวาหลังป้าย) | |
ก่อตั้ง | พ.ศ. 2430 |
---|---|
ที่ตั้ง | เขตพระนคร, กรุงเทพมหานคร |
จำนวนผู้เยี่ยมชม | 710,007 คน (พ.ศ. 2555) |
ภัณฑารักษ์ | กรมศิลปากร |
ภายในพิพิธภัณฑ์ประกอบด้วยหมู่พระที่นั่งต่าง ๆ ได้แก่ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย หมู่พระวิมาน พระที่นั่งอิศเรศราชานุสรณ์ อาคารประพาสพิพิธภัณฑ์ และ อาคารมหาสุรสิงหนาท
เดิมพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ในพระบรมมหาราชวัง ที่หอคองคอเดีย (ศาลาสหทัยสมาคม ในปัจจุบัน) เรียกว่า "มิวเซียม" หรือ "พิพิธภัณฑสถานหอคองคอเดีย" โดยมีพิธีเปิดเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2417 จนต่อมาเมื่อกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ เสด็จทิวงคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงให้ยกเลิกตำแหน่งกรมพระราชวังบวรสถานมงคลลง เป็นเหตุให้พระราชวังบวรสถานมงคลว่าง พระองค์จึงโปรดฯ ให้ย้ายพิพิธภัฑสถานมาจัดแสดงโดยใช้พื้นที่ของพระราชวังบวรฯ บางส่วน จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ส่วนพระราชมณเฑียรของพระราชวังบวรฯ ทั้งหมดได้เปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑสถานสำหรับพระนครและหอสมุดพระวชิรญาณเพื่อจัดตั้งเป็น พิพิธภัณฑสถานสำหรับพระนคร เมื่อ พ.ศ. 2469
ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทย ประวัติศาสตร์ศิลปะและโบราณคดีในประเทศไทย งานประณีตศิลป์และชาติพันธุ์วิทยา รวมไปถึงนิทรรศการชั่วคราวต่าง ๆ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีสถิติจำนวนผู้เข้าชมมากที่สุดในประเทศไทย จากข้อมูลปี พ.ศ. 2555 มีผู้เข้าชมราว 710,007 คน
ประวัติ
การจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทยนั้นเริ่มขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยพระองค์ทรงจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ส่วนพระองค์ขึ้นที่พระที่นั่งราชฤดีซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านข้างของพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ต่อมา เมื่อพระองค์ทรงสร้างพระอภิเนาว์นิเวศน์ขึ้นภายในพระบรมมหาราชวัง จึงโปรดฯ ให้ย้ายโบราณวัตถุและของแปลก ๆ มาไว้ยังพระที่นั่งประพาสพิพิธภัณฑ์ในหมู่พระอภิเนาว์นิเวศน์ ซึ่งนับเป็นพิพิธภัณฑ์ส่วนพระองค์ หรือ “รอยัล มิวเซียม” (Royal Museum) มิได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม
ต่อมา ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งพิพิธภัณฑสถานสำหรับพระนครขึ้นที่หอคองคอเดีย (ศาลาสหทัยสมาคม ในปัจจุบัน) เรียกว่า "มิวเซียม" หรือ "พิพิธภัณฑสถานหอคองคอเดีย" โดยมีพิธีเปิดเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2417 ซึ่งนับเป็นวันกำเนิดของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย พิพิธภัณฑสถานตั้งอยู่ภายในพระบรมมหาราชวังเป็นเวลา 13 ปี จนกระทั่ง กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญเสด็จทิวงคต พร้อมกันนั้นพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดฯ ให้ยกเลิกตำแหน่งกรมพระราชวังบวรสถานมงคล เป็นเหตุให้พระราชวังบวรสถานมงคล หรือ วังหน้า ว่างลง พระองค์จึงโปรดฯ ให้ย้ายพิพิธภัฑสถานมาจัดแสดงโดยใช้พื้นที่ของพระราชวังบวรฯ บางส่วน ได้แก่ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ และพระที่นั่งอิศราวินิจฉัย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2430 นอกจากนี้ พระองค์ยังโปรดฯ ให้มีการปรับปรุงพื้นที่เขตวังหน้าและให้ตัดพื้นที่บางส่วนไปใช้ในราชการทหารด้วย
ครั้งถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เจ้านายฝ่ายกรมพระราชวังบวรฯ เหลือน้อยพระองค์ พระองค์จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้านายฝ่ายพระราชวังบวรฯ เข้าไปประทับในพระบรมมหาราชวัง และพระราชทานพระมหามณเฑียร ณ ขณะนั้นให้เป็นโรงทหาร จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์โปรดฯ ให้ย้ายโรงทหารไปอยู่ที่วังจันทรเกษม (บริเวณกระทรวงศึกษาธิการ ในปัจจุบัน) ส่วนพระราชมณเฑียรของพระราชวังบวรฯ ทั้งหมดจัดเป็นพิพิธภัณฑสถานสำหรับพระนครและหอสมุดพระวชิรญาณเพื่อจัดตั้งเป็น พิพิธภัณฑสถานสำหรับพระนคร เมื่อ พ.ศ. 2469 ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เมื่อ พ.ศ. 2477
ในปี พ.ศ. 2510 ได้สร้างอาคารเพิ่มขึ้นอีก 2 หลัง คือ "อาคารมหาสุรสิงหนาท" ปัจจุบัน จัดแสดงความเป็นมา ศิลปวัตถุ โบราณวัตถุในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ และในยุคประวัติศาสตร์ตั้งแต่อาณาจักรทวารวดี ศรีวิชัย ลพบุรี ตลอดจนอิทธิพลอารยธรรมอินเดียสมัยก่อนพุทธศักราช 1800 และ "อาคารประพาสพิพิธภัณฑ์" ปัจจุบัน จัดแสดงศิลปวัตถุจากอาณาจักรล้านนา สุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์ ตลอดจนจัดแสดงงานประณีตศิลป์ของกรุงรัตนโกสินทร์
วัตถุจัดแสดง
แนวทางการจัดแสดง ปัจจุบัน พิพิธภัณสถานแห่งชาติ พระนคร แบ่งการจัดแสดง ออกเป็น 3 หัวเรื่องใหญ่ ๆ คือ
- ประวัติศาสตร์ชาติไทย จัดแสดงในพระที่นั่งศิวโมกขพิมาน
- ประวัติศาสตร์ศิลปะและโบราณคดีในประเทศไทย จัดแสดงตามยุคสมัย คือ
- สมัยก่อนประวัติศาสตร์ จัดแสดงในอาคารส่วนหลัง ของ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน
- สมัยประวัติศาสตร์ จัดแสดงในอาคารใหม่ 2 หลัง ที่สร้างขนาบสองข้างของหมู่วิมานเมื่อ พ.ศ. 2510 โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ สมัยก่อนพุทธศักราช 1800 ได้แก่ สมัยทวารวดี สมัยศรีวิชัย และ สมัยลพบุรีจัดแสดงในอาคารมหาสุรสิงหนาท และส่วนที่ 2 คือ สมัยหลังพุทธศักราช 1800 เป็นต้นมา จนถึง สมัยรัตนโกสินทร์จัดแสดงในอาคารประพาสพิพิธภัณฑ์
- ประณีตศิลป์ และ ชาติพันธุ์วิทยา จัดแสดงในหมู่พระวิมาน คือ พระที่นั่งวสันตพิมาน พระที่นั่งวายุสถานอมเรศ และ พระที่นั่งพรหมเมศธาดา ศิลปโบราณวัตถุที่จัดแสดง ได้แก่ เครื่องดนตรี ผ้าโบราณ เครื่องถ้วย เครื่องสูง อาวุธโบราณ เครื่องใช้ในพิธีพระพุทธศาสนา และ อัฐบริขารของสงฆ์ และ เครื่องการละเล่นต่าง ๆ เช่น หัวโขน หุ่นกระบอก หุ่นเล็ก และหนังใหญ่ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมี ราชรถที่ใช้ในกระบวนแห่พระบรมศพ คือพระมหาพิชัยราชรถ เวชยันตรราชรถ ราชรถน้อย และ เครื่องประกอบการพระราชพิธีต่าง ๆ ที่ใช้ใน พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ จัดแสดงใน อาคารโรงราชรถ
นอกจากศิลปะโบราณวัตถุแล้ว พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ยังมีโบราณสถานคือ พระที่นั่ง และ พระตำหนักบางองค์ ที่เป็นตัวอย่างของ งานสถาปัตยกรรมไทยที่งดงาม เช่น พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ภายในพระที่นั่งประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ และมีจิตรกรรมฝาผนังที่งดงามยิ่ง พระที่นั่งอิศเรศราชานุสรณ์ ที่ประทับ ของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระตำหนักแดง ที่ประทับ ของสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินีในรัชกาลที่ 2 รวมไปถึง พระที่นั่งขนาดย่อม และศาลาทรงไทยในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ศาลาสรง ศาลาสำราญมุขมาตย์ พระที่นั่งมังคลาภิเษก และ พระที่นั่งปาฏิหาริย์ทัศนัย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ยังคงมีเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมไทย ที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะรัตนโกสินทร์ในปัจจุบัน
พระที่นั่ง
พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน
เดิมเคยเป็นห้องสำหรับสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท เสด็จออกขุนนางและบำเพ็ญพระราชกุศลต่าง ๆ ปัจจุบันจัดแสดงเรื่องประวัติศาสตร์ชาติไทย
- สมัยสุโขทัย จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับการก่อตั้งอาณาจักร สถาปัตยกรรม การชลประทานการผลิตเครื่องสังคโลก ศิลาจารึกหลักที่ 1 สมัยสุโขทัย (พุทธศตวรรษที่ 19)
- สมัยกรุงศรีอยุธยา จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับเศรษฐกิจการเมือง การปกครองและเหตุการณ์ณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ ตู้จัดแสดงเหตุการณ์สงครามเสียพระสุริโยทัย พ.ศ. 2091
- สมัยรัตนโกสินทร์ จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรี เครื่องราชบรรณาการ เทคโนโลยีในการพัฒนาประเทศ และการเข้าร่วมสงครามโลก กองทัพทหารไทยอาสาเข้าไปร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 พ.ศ. 2461
พระที่นั่งพุทไธสวรรย์
พระที่นั่งพุทไธสวรรค์ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 สำหรับประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องพุทธประวัติและภาพเทพชุมนุม
- พระพุทธสิหิงค์ ตามตำนานกล่าวว่า เจ้าเมืองนครศรีธรรมราชได้มาจากลังกาแล้วนำขึ้นไปถวายพระเจ้ากรุงสุโขทัย จากนั้นได้ถูกอัญเชิญไปประดิษฐานหลายเมือง เช่น กรุงศรีอยุธยา กำแพงเพชร เชียงราย เชียงใหม่
- พระพุทธสิหิงค์ ศิลปะสุโขทัย สำริดกะไหล่ทอง สูง 166 ซม.
- ภาพเขียนพุทธประวัติ ตอนเทศนาโปรดพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ จิตรกรรมฝาผนังในพระที่นั่งพุทไธสวรรย์
พระตำหนักแดง
เดิมนั้นตั้งอยู่บริเวณด้านหลังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ ได้โปรดฯให้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระพี่นางเธอ สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ ซึ่งเป็นพระพี่นางพระองค์เล็ก และก็ได้สร้างพระตำหนักเขียวขึ้นเพื่อถวายเป็นที่ประทับของ สมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระเทพสุดาวดี ซึ่งเป็นพระพี่นางพระองค์ใหญ่
เมื่อสมเด็จฯเจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์สิ้นพระชนม์ใน พ.ศ. ๒๓๓๒ แล้ว พระธิดา คือ เจ้าฟ้าหญิงบุญรอด ได้ทรงครอบครองตำหนักแดงต่อมา จนกระทั่งทรงย้ายไปประทับกับพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยผู้เป็นพระภัศดา (ในขณะที่ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร) ณ พระราชวังเดิม กรุงธนบุรี
และเมื่อสมเด็จฯเจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ ได้ทรงย้ายที่ประทับจากพระราชวังเดิม กรุงธนบุรีมาประทับในพระบรมมหาราชวังพร้อมกับสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินีในรัชกาลที่ ๒ (เจ้าฟ้าหญิงบุญรอด) สมเด็จพระศรีสุริเยนทร์ฯ มีพระราชโอรสสามพระองค์ สิ้นพระชนม์หนึ่งพระองค์ เหลือ ๒ พระองค์คือ
๑.สมเด็จเจ้าฟ้าชายมงกุฏ (ได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ เป็นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔)
๒.สมเด็จเจ้าฟ้าชายจุฑามณี (ได้รับพระราชทานพระบวรราชาภิเษกเป็น พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว )
ครั้นถึงรัชกาลที่ ๓ สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี ในรัชกาลที่ ๒ ได้เสด็จออกไปประทับอยู่พระราชวังเดิมกับพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยเหตุที่ว่าในระยะเวลาช่วงนั้น ภายในพระบรมมหาราชวังมีการเปลี่ยนแปลงให้รื้อตำหนักเครื่องไม้ในพระราชวังหลวงสร้างเป็นตำหนักตึก รัชกาลที่ ๓ จึงได้พระราชทานตำหนักแดงของเดิมให้ไปปลูกถวาย ณ พระราชวังเดิม กรุงธนบุรี
เมื่อสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี สวรรคตในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๙ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงย้ายที่ประทับจากพระราชวังเดิม กรุงธนบุรีมาอยู่ภายในพระราชวังบวรสถานมงคล จึงโปรดเกล้าฯให้รื้อตำหนักแดงจากพระราชวังเดิมให้มาสร้างใหม่ที่ท้ายพระบวรราชวัง (บริเวณที่ตั้งของอาคารประพาสพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบัน) เมื่อพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคต พระตำหนักแดงไม่ได้รับการดูแลจึงชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา จนกระทั่งถึงในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ปี พ.ศ. 2470 สมเด็จพระศรีสวรินทราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เสด็จประพาสพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ได้ทอดพระเนตรเห็นพระตำหนักแดงชำรุดทรุดโทรม จึงได้พระราชทานพระราชทรัพย์ในการปฏิสังขรณ์จนแล้วเสร็จในปีพ.ศ. 2471 โดยสมเด็จพระพันวัสสาฯ ได้เสด็จมาบำเพ็ญพระกุศลฉลองพระตำหนักแดงด้วยพระองค์เอง
ต่อมาในปี 2506 ได้มีการปฏิสังขรณ์อีกครั้งหนึ่ง โดยได้ย้ายพระตำหนักแดง ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศเหนือของหมู่พระวิมานมาปลูกที่หลังพระที่นั่งศิวโมกขพิมานดังที่เห็นในปัจจุบัน
การจัดแสดง ภายในพระตำหนักแดงมีการจัดแสดงสิ่งของ เครื่องใช้ของชนชั้นสูง ส่วนใหญ่เป็นศิลปวัตถุที่เป็นเครื่องประดับบ้าน เช่น ตู้เท้าสิงห์ โต๊ะและเก้าอี้เท้าสิงห์ โถเบญจรงค์ หีบใส่ผ้าของชนชั้นสูง และศิลปวัตถุของผู้ครอบครองตำหนัก ได้แก่ พระแท่นบรรทม และฉลองพระบาทของสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินีในรัชกาลที่ 2 โคมส่องเสด็จของสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
หมู่พระวิมาน
พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย
สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพย์ในสมัยรัชกาลที่ 3 โปรดเกล้า ให้สร้างขึ้นเป็นท้องพระโรงใช้เป็นที่เสด็จออก ปัจจุบันใช้เป็นห้องจัดแสดงนิทรรศการพิเศษหมุนเวียนตลอดปี
- ห้องมุขกระสัน ภายในห้องมหรรฆภัณฑ์ซึ่งเก็บรักษาและจัดแสดงเครื่องทองที่ได้จากการขุดค้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเครื่องทองในสมัยรัตนโกสินทร์
- พระพุทธรูปบุทอง ศิลปะรัตนโกสินทร์ (พุทธศตวรรษที่ 24)
พระที่นั่งภิมุขมณเฑียร
จัดแสดงเครื่องราชยาน คานหาม สัปคับ เสลี่ยงกง เสลี่ยงหิ้วและสีวิกา
- พระที่นั่งราเชนทรยาน สร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 ไม้จำหลักปิดทองประดับกระจก กว้าง 103 ซม. ยาว 191 ซม. สูง 415 ซม. ใช้สำหรับราชพิธี
พระที่นั่งทักษิณาภิมุข
เคยเป็นที่ประทับในสมัยสมเด็จพระบวรเจ้ามหาศักดิพลเสพย์ ปัจจุบันจัดแสดงเครื่องการละเล่น หุ่น หัวโขน หนังใหญ่ เครื่องแต่งกาย ละคร เครื่องกีฬาไทย หมากรุกงา ปี้กระเบื้อง ตัวหวย กอ ขอ
- ตัวหนังใหญ่ ศิลปะรัตนโกสินทร์ ทำด้วยหนังวัว สูง 160 กว้าง 141 ซม
พระที่นั่งวสันตพิมาน
ชั้นล่าง จัดแสดงเครื่องถ้วยล้านนา ลพบุรี เบญจรงค์ลายน้ำทอง เครื่องถ้วยญี่ปุ่น และเครื่องถ้วยยุโรป
- ชาม ศิลปะไทย – จีน สมัยอยุธยาดินเผาเนื้อกระเบื้อง
พระที่นั่งวสันตพิมาน
ชั้นบน จัดแสดงงาช้าง งาช้างจำหลัก และเครื่องใช้ที่ทำจากงาช้าง
- งาช้างแกะสลักเป็นพระพุทธรูป ศิลปะพม่า (พุทธศตวรรษที่ 25) สูงพร้อมฐาน 8. ซม.
พระที่นั่งปัจฉิมาภิมุข
จัดแสดงของใช้ประดับมุก เครื่องมุกส่วนใหญ่เป็นของสมเด็จ ฯ กรมพระนครสวรรค์พินิต ประทานพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
- เตียบ สมัยรัตนโกสินทร์ (พุทธศตวรรษที่ 25) หวายแลไม้ลงรักประดับมุข ปากกว้าง 49.5 ซม. สูงพร้อมฝา 62 ซม.
พระที่นั่งปฤษฎางคภิมุข
จัดแสดงหุ่นจำลองม้าและช้างทองเครื่องคชาธารอาวุธภัณฑ์สมัยโบราณและกลองศึก
อ้างอิง
- พิษน้ำท่วมยอดชมพิพิธภัณฑ์ลดฮวบ[] ,ผู้จัดการ - Manager Online .วันที่ 9 ต.ค. 2555
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร, https://lordknight1234.wordpress.com/ .สืบค้นเมื่อ 02/01/2560
- ราชกิจจานุเบกษา, คำกราบบังคมทูล ในการเปิดพิพิธภัณฑ์สถานสำหรับพระนคร, เล่ม ๔๓, ตอน ง, ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๖๙, หน้า ๓๐๓๘
- ประวัติความเป็นมาพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จาก เว็บไซต์พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
- อธิบายว่าด้วยหอพระสมุดวชิรญาณและพิพิธภัณฑสถาน สำหรับพระนคร, พระนคร : โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร, 2470
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์ของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
- ภาพถ่ายทางอากาศของ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
- แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศของ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
- ภาพถ่ายดาวเทียมจากวิกิแมเปีย หรือกูเกิลแมปส์
- แผนที่จากลองดูแมป หรือเฮียวีโก
- ภาพถ่ายทางอากาศจากเทอร์ราเซิร์ฟเวอร์
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phiphithphnthsthanaehngchati phrankhr xngkvs Bangkok National Museum epnphiphithphnthsthanaehngchatiaehngaerkkhxngpraethsithy tngxyuthithnnhnaphrathatu aekhwng phrabrmmharachwng ekhtphrankhr krungethphmhankhr briewnphrarachwngbwrsthanmngkhl hruxswnhnungkhxngthiprathbwnghna sungkkhuxphunthiphrarachwngkhxngsmedcphrabwrrachecatngaetrchkalthi 1 epntnma mixanaekhttngaetbriewnmhawithyalysilpakr wngthaphra mhawithyalythrrmsastr mnthlphithithxngsnamhlwngtxntawntk xnusawriythharxasa aelaornglakhraehngchatiinpccubnphiphithphnthsthanaehngchati phrankhrbriewnthangekhaphiphithphnth prakxbdwyphrathinngsiwomkkhphiman sayklang aelaphrathinngphuthithswrry khwahlngpay kxtngph s 2430thitngekhtphrankhr krungethphmhankhrcanwnphueyiymchm710 007 khn ph s 2555 phntharkskrmsilpakr phayinphiphithphnthprakxbdwyhmuphrathinngtang idaek phrathinngsiwomkkhphiman phrathinngphuthithswrry phrathinngxisrawinicchy hmuphrawiman phrathinngxisersrachanusrn xakharpraphasphiphithphnth aela xakharmhasursinghnath edimphiphithphnthtngxyuinphrabrmmharachwng thihxkhxngkhxediy salashthysmakhm inpccubn eriykwa miwesiym hrux phiphithphnthsthanhxkhxngkhxediy odymiphithiepidemuxwnthi 19 knyayn ph s 2417 cntxmaemuxkrmphrarachwngbwrwiichychay esdcthiwngkht phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw cungihykeliktaaehnngkrmphrarachwngbwrsthanmngkhllng epnehtuihphrarachwngbwrsthanmngkhlwang phraxngkhcungoprd ihyayphiphithphthsthanmacdaesdngodyichphunthikhxngphrarachwngbwr bangswn cnthungrchsmyphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhw swnphrarachmnethiyrkhxngphrarachwngbwr thnghmdidepliynepnphiphithphnthsthansahrbphrankhraelahxsmudphrawchiryanephuxcdtngepn phiphithphnthsthansahrbphrankhr emux ph s 2469 phayinphiphithphnthmikarcdaesdngekiywkbprawtisastrchatiithy prawtisastrsilpaaelaobrankhdiinpraethsithy nganpranitsilpaelachatiphnthuwithya rwmipthungnithrrskarchwkhrawtang phiphithphnthsthanaehngchati phrankhr epnphiphithphnththimisthiticanwnphuekhachmmakthisudinpraethsithy cakkhxmulpi ph s 2555 miphuekhachmraw 710 007 khnprawtikarcdtngphiphithphnthinpraethsithynnerimkhuninrchsmyphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw odyphraxngkhthrngcdtngphiphithphnthswnphraxngkhkhunthiphrathinngrachvdisungtngxyubriewndankhangkhxngphrathinngxmrinthrwinicchy txma emuxphraxngkhthrngsrangphraxphienawniewsnkhunphayinphrabrmmharachwng cungoprd ihyayobranwtthuaelakhxngaeplk maiwyngphrathinngpraphasphiphithphnthinhmuphraxphienawniewsn sungnbepnphiphithphnthswnphraxngkh hrux rxyl miwesiym Royal Museum miidepidihprachachnthwipekhachm txma inrchsmyphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw phraxngkhthrngphrakrunaoprdekla ihcdtngphiphithphnthsthansahrbphrankhrkhunthihxkhxngkhxediy salashthysmakhm inpccubn eriykwa miwesiym hrux phiphithphnthsthanhxkhxngkhxediy odymiphithiepidemuxwnthi 19 knyayn ph s 2417 sungnbepnwnkaenidkhxngphiphithphnthsthanaehngchatiaehngaerkkhxngpraethsithy phiphithphnthsthantngxyuphayinphrabrmmharachwngepnewla 13 pi cnkrathng krmphrarachwngbwrwiichychayesdcthiwngkht phrxmknnnphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwoprd ihykeliktaaehnngkrmphrarachwngbwrsthanmngkhl epnehtuihphrarachwngbwrsthanmngkhl hrux wnghna wanglng phraxngkhcungoprd ihyayphiphithphthsthanmacdaesdngodyichphunthikhxngphrarachwngbwr bangswn idaek phrathinngsiwomkkhphiman phrathinngphuthithswrry aelaphrathinngxisrawinicchy tngaetpi ph s 2430 nxkcakni phraxngkhyngoprd ihmikarprbprungphunthiekhtwnghnaaelaihtdphunthibangswnipichinrachkarthhardwy khrngthungrchsmyphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhw ecanayfaykrmphrarachwngbwr ehluxnxyphraxngkh phraxngkhcungthrngphrakrunaoprdekla ihecanayfayphrarachwngbwr ekhaipprathbinphrabrmmharachwng aelaphrarachthanphramhamnethiyr n khnannihepnorngthhar cnthungrchsmyphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhw phraxngkhoprd ihyayorngthharipxyuthiwngcnthreksm briewnkrathrwngsuksathikar inpccubn swnphrarachmnethiyrkhxngphrarachwngbwr thnghmdcdepnphiphithphnthsthansahrbphrankhraelahxsmudphrawchiryanephuxcdtngepn phiphithphnthsthansahrbphrankhr emux ph s 2469 txmaidepliynchuxepn phiphithphnthsthanaehngchati phrankhr emux ph s 2477 inpi ph s 2510 idsrangxakharephimkhunxik 2 hlng khux xakharmhasursinghnath pccubn cdaesdngkhwamepnma silpwtthu obranwtthuinsmykxnprawtisastr aelainyukhprawtisastrtngaetxanackrthwarwdi sriwichy lphburi tlxdcnxiththiphlxarythrrmxinediysmykxnphuththskrach 1800 aela xakharpraphasphiphithphnth pccubn cdaesdngsilpwtthucakxanackrlanna suokhthy xyuthya aelartnoksinthr tlxdcncdaesdngnganpranitsilpkhxngkrungrtnoksinthrwtthucdaesdngrachrthnxy phayinorngrachrth phiphithphnthsthanaehngchati phrankhr bicarukphxkhunramkhaaehng hlkthi 1 bxkelaphranamphrabida phramarda phraechstha phrayati aenwthangkarcdaesdng pccubn phiphithphnsthanaehngchati phrankhr aebngkarcdaesdng xxkepn 3 hweruxngihy khux prawtisastrchatiithy cdaesdnginphrathinngsiwomkkhphiman prawtisastrsilpaaelaobrankhdiinpraethsithy cdaesdngtamyukhsmy khux smykxnprawtisastr cdaesdnginxakharswnhlng khxng phrathinngsiwomkkhphiman smyprawtisastr cdaesdnginxakharihm 2 hlng thisrangkhnabsxngkhangkhxnghmuwimanemux ph s 2510 odyaebngepn 2 swn khux smykxnphuththskrach 1800 idaek smythwarwdi smysriwichy aela smylphburicdaesdnginxakharmhasursinghnath aelaswnthi 2 khux smyhlngphuththskrach 1800 epntnma cnthung smyrtnoksinthrcdaesdnginxakharpraphasphiphithphnth pranitsilp aela chatiphnthuwithya cdaesdnginhmuphrawiman khux phrathinngwsntphiman phrathinngwayusthanxmers aela phrathinngphrhmemsthada silpobranwtthuthicdaesdng idaek ekhruxngdntri phaobran ekhruxngthwy ekhruxngsung xawuthobran ekhruxngichinphithiphraphuththsasna aela xthbrikharkhxngsngkh aela ekhruxngkarlaelntang echn hwokhn hunkrabxk hunelk aelahnngihy epntn nxkcakni yngmi rachrththiichinkrabwnaehphrabrmsph khuxphramhaphichyrachrth ewchyntrrachrth rachrthnxy aela ekhruxngprakxbkarphrarachphithitang thiichin phrarachphithithwayphraephlingphrabrmsph cdaesdngin xakharorngrachrth nxkcaksilpaobranwtthuaelw phiphithphnthsthanaehngchati phrankhr yngmiobransthankhux phrathinng aela phratahnkbangxngkh thiepntwxyangkhxng ngansthaptykrrmithythingdngam echn phrathinngphuthithswrry phayinphrathinngpradisthanphraphuththsihingkh aelamicitrkrrmfaphnngthingdngamying phrathinngxisersrachanusrn thiprathb khxngphrabathsmedcphrapineklaecaxyuhw aelaphratahnkaedng thiprathb khxngsmedcphrasrisurieynthrabrmrachiniinrchkalthi 2 rwmipthung phrathinngkhnadyxm aelasalathrngithyinrupaebbtang echn salasrng salasaraymukhmaty phrathinngmngkhlaphiesk aela phrathinngpatihariythsny dwyehtunicungthaihphiphithphnthsthanaehngchati phrankhr yngkhngmiexklksnthangsthaptykrrmithy thioddednthisudaehnghnungkhxngekaartnoksinthrinpccubnphrathinngphrathinngsiwomkkhphiman briewndanhnaphrathinngsiwomkkhphimanineduxnmithunayn ph s 2566 edimekhyepnhxngsahrbsmedckrmphrarachwngbwrmhasursinghnath esdcxxkkhunnangaelabaephyphrarachkusltang pccubncdaesdngeruxngprawtisastrchatiithy smysuokhthy cdaesdngeruxngrawekiywkbkarkxtngxanackr sthaptykrrm karchlprathankarphlitekhruxngsngkholk silacarukhlkthi 1 smysuokhthy phuththstwrrsthi 19 smykrungsrixyuthya cdaesdngeruxngrawekiywkbesrsthkickaremuxng karpkkhrxngaelaehtukarnnsakhyinprawtisastr tucdaesdngehtukarnsngkhramesiyphrasurioythy ph s 2091 smyrtnoksinthr cdaesdngeruxngrawekiywkbphramhakstriyinrachwngsckri ekhruxngrachbrrnakar ethkhonolyiinkarphthnapraeths aelakarekharwmsngkhramolk kxngthphthharithyxasaekhaiprwmrbinsngkhramolkkhrngthi 1 ph s 2461phrathinngphuthithswrry phrathinngphuthithswrryphrathinngphuthithswrryineduxnmithunayn ph s 2566phraphuththsihingkh xngkhcringcaksmyxanackrsuokhthy pradisthanxyuphayinphrathinng phrathinngphuthithswrrkh srangkhuninsmyrchkalthi 1 sahrbpradisthanphraphuththsihingkhphayinmiphaphcitrkrrmfaphnngeruxngphuththprawtiaelaphaphethphchumnum phraphuththsihingkh tamtananklawwa ecaemuxngnkhrsrithrrmrachidmacaklngkaaelwnakhunipthwayphraecakrungsuokhthy caknnidthukxyechiyippradisthanhlayemuxng echn krungsrixyuthya kaaephngephchr echiyngray echiyngihm phraphuththsihingkh silpasuokhthy saridkaihlthxng sung 166 sm phaphekhiynphuththprawti txnethsnaoprdphuththmardabnswrrkhchndawdungs citrkrrmfaphnnginphrathinngphuthithswrryphratahnkaedng phratahnkaedng emuxeduxnthnwakhm ph s 2566 edimnntngxyubriewndanhlngphrathinngdusitmhaprasath inphrabrmmharachwng phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach rchkalthi 1 idoprdihsrangkhunephuxichepnthiprathbkhxngsmedcphraphinangethx smedcecafakrmphrasrisudarks sungepnphraphinangphraxngkhelk aelakidsrangphratahnkekhiywkhunephuxthwayepnthiprathbkhxng smedcphraphinangethx ecafakrmphraethphsudawdi sungepnphraphinangphraxngkhihy emuxsmedcecafakrmphrasrisudarkssinphrachnmin ph s 2332 aelw phrathida khux ecafahyingbuyrxd idthrngkhrxbkhrxngtahnkaedngtxma cnkrathngthrngyayipprathbkbphrabathsmedcphraphuththelishlanphalyphuepnphraphsda inkhnathithrngdarngphraxisriyysepnsmedcphraecalukyaethx ecafakrmhlwngxisrsunthr n phrarachwngedim krungthnburi aelaemuxsmedcecafakrmhlwngxisrsunthr esdcethlingthwlyrachsmbtiepnphrabathsmedcphraphuththelishlanphaly rchkalthi 2 idthrngyaythiprathbcakphrarachwngedim krungthnburimaprathbinphrabrmmharachwngphrxmkbsmedcphrasrisurieynthrabrmrachiniinrchkalthi 2 ecafahyingbuyrxd smedcphrasrisurieynthr miphrarachoxrssamphraxngkh sinphrachnmhnungphraxngkh ehlux 2 phraxngkhkhux 1 smedcecafachaymngkut idesdcethlingthwlyrachsmbti epnphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw rchkalthi 4 2 smedcecafachaycuthamni idrbphrarachthanphrabwrrachaphieskepn phrabathsmedcphrapineklaecaxyuhw khrnthungrchkalthi 3 smedcphrasrisurieynthrabrmrachini inrchkalthi 2 idesdcxxkipprathbxyuphrarachwngedimkbphrabathsmedcphrapineklaecaxyuhw dwyehtuthiwainrayaewlachwngnn phayinphrabrmmharachwngmikarepliynaeplngihruxtahnkekhruxngiminphrarachwnghlwngsrangepntahnktuk rchkalthi 3 cungidphrarachthantahnkaedngkhxngedimihipplukthway n phrarachwngedim krungthnburi emuxsmedcphrasrisurieynthrabrmrachini swrrkhtinrchkalphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw emux ph s 2379 phrabathsmedcphrapineklaecaxyuhwidthrngyaythiprathbcakphrarachwngedim krungthnburimaxyuphayinphrarachwngbwrsthanmngkhl cungoprdeklaihruxtahnkaedngcakphrarachwngedimihmasrangihmthithayphrabwrrachwng briewnthitngkhxngxakharpraphasphiphithphnthinpccubn emuxphrabathsmedcphrapineklaecaxyuhwswrrkht phratahnkaedngimidrbkarduaelcungcharudthrudothrmtamkalewla cnkrathngthunginrchsmyphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhw rchkalthi 7 pi ph s 2470 smedcphrasriswrinthrabrmrachethwi phraphnwssaxyyikaeca esdcpraphasphiphithphnthsthanaehngchati idthxdphraentrehnphratahnkaedngcharudthrudothrm cungidphrarachthanphrarachthrphyinkarptisngkhrncnaelwesrcinpiph s 2471 odysmedcphraphnwssa idesdcmabaephyphrakuslchlxngphratahnkaedngdwyphraxngkhexng txmainpi 2506 idmikarptisngkhrnxikkhrnghnung odyidyayphratahnkaedng sungtngxyuthangthisehnuxkhxnghmuphrawimanmaplukthihlngphrathinngsiwomkkhphimandngthiehninpccubn karcdaesdng phayinphratahnkaedngmikarcdaesdngsingkhxng ekhruxngichkhxngchnchnsung swnihyepnsilpwtthuthiepnekhruxngpradbban echn tuethasingh otaaelaekaxiethasingh othebycrngkh hibisphakhxngchnchnsung aelasilpwtthukhxngphukhrxbkhrxngtahnk idaek phraaethnbrrthm aelachlxngphrabathkhxngsmedcphrasrisurieynthrabrmrachiniinrchkalthi 2 okhmsxngesdckhxngsmedcphrapineklaecaxyuhw hmuphrawiman hmuphrawimanphrathinngthksinaphimukhphrathinngpcchimaphimukh phrathinngxisrawinicchy smedcphrabwrrachecamhaskdiphlesphyinsmyrchkalthi 3 oprdekla ihsrangkhunepnthxngphraorngichepnthiesdcxxk pccubnichepnhxngcdaesdngnithrrskarphiesshmunewiyntlxdpi hxngmukhkrasn phayinhxngmhrrkhphnthsungekbrksaaelacdaesdngekhruxngthxngthiidcakkarkhudkhnthicnghwdphrankhrsrixyuthya aelaekhruxngthxnginsmyrtnoksinthr phraphuththrupbuthxng silpartnoksinthr phuththstwrrsthi 24 phrathinngphimukhmnethiyr cdaesdngekhruxngrachyan khanham spkhb esliyngkng esliynghiwaelasiwika phrathinngraechnthryan sranginsmyrchkalthi 1 imcahlkpidthxngpradbkrack kwang 103 sm yaw 191 sm sung 415 sm ichsahrbrachphithiphrathinngthksinaphimukh ekhyepnthiprathbinsmysmedcphrabwrecamhaskdiphlesphy pccubncdaesdngekhruxngkarlaeln hun hwokhn hnngihy ekhruxngaetngkay lakhr ekhruxngkilaithy hmakruknga pikraebuxng twhwy kx khx twhnngihy silpartnoksinthr thadwyhnngww sung 160 kwang 141 smphrathinngwsntphiman chnlang cdaesdngekhruxngthwylanna lphburi ebycrngkhlaynathxng ekhruxngthwyyipun aelaekhruxngthwyyuorp cham silpaithy cin smyxyuthyadinephaenuxkraebuxngphrathinngwsntphiman chnbn cdaesdngngachang ngachangcahlk aelaekhruxngichthithacakngachang ngachangaekaslkepnphraphuththrup silpaphma phuththstwrrsthi 25 sungphrxmthan 8 sm phrathinngpcchimaphimukh cdaesdngkhxngichpradbmuk ekhruxngmukswnihyepnkhxngsmedc krmphrankhrswrrkhphinit prathanphiphithphnthsthanaehngchati etiyb smyrtnoksinthr phuththstwrrsthi 25 hwayaelimlngrkpradbmukh pakkwang 49 5 sm sungphrxmfa 62 sm phrathinngpvsdangkhphimukh cdaesdnghuncalxngmaaelachangthxngekhruxngkhchatharxawuthphnthsmyobranaelaklxngsukxangxingphisnathwmyxdchmphiphithphnthldhwb lingkesiy phucdkar Manager Online wnthi 9 t kh 2555 phiphithphnthsthanaehngchatiphrankhr https lordknight1234 wordpress com subkhnemux 02 01 2560 rachkiccanuebksa khakrabbngkhmthul inkarepidphiphithphnthsthansahrbphrankhr elm 43 txn ng 26 phvscikayn ph s 2469 hna 3038 prawtikhwamepnmaphiphithphnthsthanaehngchati cak ewbistphiphithphnthsthanaehngchati xthibaywadwyhxphrasmudwchiryanaelaphiphithphnthsthan sahrbphrankhr phrankhr orngphimphosphnphiphrrththnakr 2470aehlngkhxmulxunewbistkhxngphiphithphnthsthanaehngchati phrankhrwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb phiphithphnthsthanaehngchati phrankhr phaphthaythangxakaskhxng phiphithphnthsthanaehngchati phrankhraephnthiaelaphaphthaythangxakaskhxng phiphithphnthsthanaehngchati phrankhr phaphthaydawethiymcakwikiaemepiy hruxkuekilaemps aephnthicaklxngduaemp hruxehiywiok phaphthaythangxakascakethxrraesirfewxr 13 45 29 N 100 29 29 E 13 757930 N 100 491482 E 13 757930 100 491482