วัดชลธาราสิงเห พระอารามหลวง หรือ วัดชลธาราสิงเห (วัดพิทักษ์แผ่นดินไทย) ตั้งอยู่ที่ หมู่ 3 ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ก่อสร้างโดยพระคุณโอภาสพุทธคุณ (พุด) เมื่อปี พ.ศ. 2403 ในปลายรัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก่อนการตั้งอำเภอตากใบ 49 ปี
วัดชลธาราสิงเห | |
---|---|
ชื่อสามัญ | วัดชลธาราสิงเห |
ที่ตั้ง | ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ 96110 นราธิวาส ประเทศไทย |
ประเภท | พระอารามหลวงชั้นพิเศษ |
พระประธาน | หลวงพ่อใหญ่ |
พระพุทธรูปสำคัญ | พระพุทธรูปปางไสยาสน์ อนุสาวรีย์รูปปั้นหลวงพ่อพุฒ |
พระจำพรรษา | พระภิกษุสงฆ์จำพรรษา 7 รูป |
จุดสนใจ | วิหารพระนอน หอพระนารายณ์ ศาลากลางน้ำ ศาลาธรรม โบสถ์ ภาพจิตรกรรมฝาผนัง |
กิจกรรม | เทศนาธรรมในวันพระ |
การถ่ายภาพ | ไม่ควรใช้แฟลช ในถ่ายภาพจิตรกรรมฝาผนัง |
ส่วนหนึ่งของ |
ที่ตั้งและอาณาเขต
วัดชลธาราสิงเหตั้งอยู่ที่หมู่ 3 ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส
ประวัติ
วัดชลธาราสิงเหเดิมชื่อว่า "วัดท่าพรุ" หรือ "วัดเจ๊ะเห" ตามสถานที่ตั้งที่วัด ณ หมู่บ้านเจ๊ะเห ในอดีตเมื่ออำเภอตากใบยังเป็นส่วนหนึ่งของรัฐกลันตัน ในครั้งนั้นพระคุณโอภาสพุทธคุณได้เดินทางมาถึงบริเวณดังกล่าว เห็นว่า พื้นที่เป็นป่ากว้างว่างเปล่าไม่มีผู้คนอาศัย ที่ดินติดริมแม่น้ำตากใบมีทิวทัศน์สวยงามและเหมาะสมต่อการสร้างวัด พระคุณโอภาสพุทธคุณจึงขอที่ดินเพื่อสร้างวัดชลธาราสิงเหจากพระยากลันตัน (ต่วนสนิปากแดง) ซึ่งภายหลังได้รับบรรดาศักดิ๋เป็น พระยาเดชานุชิตมหิศรายานุกูลวิบูลย์ภักดี
จนกระทั่งขุนสมานธาตุวฤทธิ์ หรือ เปลี่ยน กาญจนารัณย์ นายอำเภอคนแรกของตากใบ ได้เปลี่ยนชื่อวัดเป็น วัดชลธาราสิงเห ซึ่งหมายถึง วัดที่ติดกับสายแม่น้ำ และ สิงเห ในที่นี้หมายถึงชื่อท่านพระครูโอภาสพุทธคุณ ผู้ซึ่งบุคคลทั่วไปต่างเกรงกลัวทั่วไปดั่งราชสีห์
ความสำคัญ
วัดชลธาราสิงเหนั้นมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์พรมแดนไทย-มาเลเซีย เนื่องจากเป็นสถานที่ที่รัฐบาลสยามใช้เป็นเหตุผลอ้างอิงในการปักปันเขตแดนใน สมัย รัชกาลที่ 5 พ.ศ. 2452 ในเวลานั้นเมื่อแหลมมลายูได้ตกเป็นอาณานิคมของจักรวรรดิบริติช จากสนธิสัญญาอังกฤษ–สยาม พ.ศ. 2452 อังกฤษได้พยายามที่จะผนวกจังหวัดนราธิวาสให้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพมาลายาด้วย ซึ่งอังกฤษได้อ้างการปักปันเขตแดนโดยใช้สันเขาและแม่น้ำเป็นแนวตามหลักสากล เข้ามาถึงบ้านปลักเล็กเลยจากวัดชลธาราสิงเห 25 กิโลเมตร ซึ่งเส้นแบ่งเขตรัฐกลันตันกับประเทศไทยจะอยู่ที่ตำบลบ้านสะปอม ในเขตอำเภอเมืองและอำเภอตากใบในปัจจุบัน
แต่ด้วยพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัฐบาลสยามจึงถือยกเอาพระพุทธศาสนา วัด และศิลปะในวัดเป็นเครื่องต่อรองการแบ่งปันเขตแดน โดยให้เหตุผลว่าวัดชลธาราสิงเหเป็นวัดไทยที่มีความสำคัญ เป็นมรดกทางพุทธศาสนา ซึ่งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวอำเภอตากใบ มีอาคารสถานที่และถาวรวัตถุเป็นแบบไทย ประชาชนนับถือศาสนาพุทธเป็นเวลาช้านาน ประกอบกับท้องที่อำเภอตากใบมีวัด ชาวพุทธอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จึงควรไม่รวมพื้นที่เหล่านี้ไปในเขตรัฐกลันตันที่ประชาชนส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม
สุดท้ายอังกฤษยอมจำนนต่อเหตุผลและยอมรับให้เป็นจังหวัดนราธิวาสในประเทศไทยต่อไป ฝ่ายอังกฤษจึงยอมเลื่อนการปักปันเขตแดนถอยลงไปทางใต้จนถึงลำน้ำแม่น้ำโก-ลก ทำให้พื้นที่ทางตอนเหนือแม่น้ำตากใบของจังหวัดนราธิวาสอยู่ในการปกครองของราชอาณาจักรไทยมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีผลให้ 4 อำเภอชายแดนไทย คือ อำเภอตากใบ อำเภอแว้ง อำเภอสุไหงปาดี และ อำเภอสุไหงโก-ลก ไม่ต้องผนวกเป็นส่วนหนึ่งของประเทศมาเลเซีย วัดชลธาราสิงเหจึงเป็นที่รู้จักในอีกนามหนึ่งว่า "วัดพิทักษ์แผ่นดินไทย"
นอกจากนั้น วัดชลธาราสิงเห ยังมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และเป็นพื้นที่อนุบาลสัตว์น้ำจากป่าชายเลนที่ปลูกริมชายฝั่งแม่น้ำของบริเวณวัด และเนื่องด้วยวัดชลธาราสิงเห ติดต่อกับแม่น้ำตากใบทำให้มีสภาพแวดล้อมและธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรชายฝั่ง และเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์วิถีชีวิตดั้งเดิมของภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย วัดชลธาราสิงเหจึงถือเป็นวัดที่มีความสำคัญอันทรงคุณค่าและเป็นศูนย์กลางด้านภูมิทัศน์วัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมท้องถิ่น
พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ยก วัดชลธาราสิงเห ขึ้นเป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ เป็นกรณีพิเศษ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 5 ธันวาคม 2542 ตั้งแต่วันที่ 22 เดือนมีนาคม พ.ศ. 2543
วัดลธาราสิงเหได้รับคัดเลือกเป็นวัดพัฒนาตัวอย่างดีเด่นเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ ณ วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542 โดยกรมการศาสนา
กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนวัดชลธาราสิงเหเป็นโบราณสถานของชาติเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2516 และได้ดำเนินการบรูณะปรับภูมิทัศน์โบราณสถานภายในวัดชลธาราสิงเหอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 มาจวบจนปัจจุบัน เพื่อรักษาโบราณสถานแห่งนี้ไว้เป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมสืบไป
สิ่งก่อสร้างภายในวัด
พระครูโอภาสพุทธคุณเป็นผู้สร้างพระอุโบสถโดยมอบให้พระไชยวัดเกาะสะท้อนเป็นช่างก่อสร้างและเขียนภาพในพระอุโบสถ พระธรรมวินัย (จุ้ย) และทิดมี ชาวสงขลาช่วยกันเขียนภาพในพระอุโบสถ กุฏิ สร้างพระประธานในพระอุโบสถและกำแพงแก้วล้อมรอบพระอุโบสถ ในปี พ.ศ. 2426 สมัยต่อมาวัดชลธาราสิงเห ได้รับการบูรณะ ปรับปรุง ซ่อมแซม และก่อสร้างอาคารเพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยอาคารต่าง ๆ มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมภาคใต้ที่ได้รับอิทธิพลจากตะวันตก คือ การประดับลวดลายไม้ฉลุ เรียกว่า ลวดลายขนมปังขิง
พระอุโบสถ
เป็นศิลปะแบบรัตนโกสินทร์ สร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หลังคาซ้อน 3 ชั้น มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ หน้าบัน ประดับลวดลายปูนปั้น เป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระประธานเป็นรูปปางมารวิชัยภายในซุ้มเรือนแก้ว นอกจากนี้ยังปรากฏภาพจิตรกรรมฝาผนังโดยลักษณะจิตรกรรมเป็นสีฝุ่น เขียนโดยพระภิกษุชาวสงขลา ลายเทพชุมนุม ภาพชีวิตความเป็นอยู่ในอดีต ไตรภูมิ และลำดับภาพพุทธประวัติ เริ่มจากมุมด้านทิศใต้มาทางทิศตะวันออก โดยแบ่งฝาผนังในแนวตั้งเป็น 4 ช่องเสา ในแต่ละช่องเสายังแบ่งออกเป็น 3 ช่วง คือ บน,กลางและล่าง
ตอนบนสุดเป็นวิทยาธร ต่อมาเป็นเทพชุมนุม 1 ชั้น นั่งประณมหัตถ์ถือดอกไม้ ถัดลงมาเป็นช่องสี่เหลี่ยมซ้อนกัน 2 ชั้น เขียนภาพพุทธประวัติเริ่มตั้งแต่ตอนลาพระนางยโสธราและราหุล แล้วเรียงลำดับเรื่องจนถึงตอนประทับรอยพระพุทธบาท ด้านหน้าพระประธานมีภาพตอนพระพุทธเจ้าเสด็จลงจากดาวดึงส์ เป็นภาพขนาดใหญ่ ผนังด้านล่างเป็นพื้นที่ว่างมีแต่ภาพมณฑปเหนือเศียรพระ เพดานเขียนลายบนพื้นแดง
และยังเป็นที่ประดิษฐานพระประธานปิดทองทั้งองค์ ทำให้ไม่เห็นลักษณะเดิมที่พระโอษฐ์เป็นสีแดง พระเกศาเป็นสีดำ ประดิษฐานอยู่บนบุษบกทรงสอบสูง 1.5 เมตร จากลักษณะบุษบก สันนิษฐานว่าเป็นพระมอญ ตามผนังประดับด้วยเครื่องถ้วยสังคโลกจากประเทศจีน
พลับพลาที่ประทับในรัชกาลที่ 6
สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2458 พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ได้เสด็จประพาสวัดชลธาราสิงเห และทรงโปรดเกล้าฯให้สร้างพลับพลาริมแม่น้ำตากใบเป็นที่ประทับ เพื่อสำหรับทอดพระเนตรการแข่งเรือยาวในอดีต ซึ่งปัจจุบันยังคงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ เป็นพื้นที่ริมแม่น้ำสำหรับนักท่องเที่ยว โดยสามารถชมทัศนียภาพรอบของแม่น้ำตากใบ และยังสามารถมองเห็นเกาะยาวของจังหวัดนราธิวาสได้
หอพระนารายณ์
เป็นอาคารเครื่องก่อ ขนาด 5.45 เมตร ยาว 6.30 เมตร มีมุขขนาดกว้าง 3.40 เมตร ยาว 4.06 เมตร มีหน้าต่างด้านๆละ 1 ช่อง ส่วนทางด้านหน้าทางทิศตะวันออกมีประตู 3 บาน หลังคาทรงมณฑป 4 ชั้นยอดแหลม มุงกระเบื้องดินเผาเกาะยอ ฐานสี่เหลี่ยมก่ออิฐ มุมหลังคาแต่ละชั้นประดับด้วยหัวนาค ส่วนยอดของหลังคาหล่อด้วยปูนซีเมนต์ ตรงหน้าบันมีจารึก “ปฏิสังขรณ์ พ.ศ. 2499” เพดานมุขมี 2 ห้อง ตกแต่งลวดลายเป็นภาพดวงดารา ภายในมณฑปมีรูปพระนารายณ์ 4 กร บนฐานชุกชีมีพระพุทธรูปปางมารวิชัย 3 องค์
เพดานด้านในประธานตกแต่งลายดวงดารา พื้นหลังประดับด้วยภาพผีเสื้อ หงส์ ช่อดอกไม้และดาวดวงเล็กๆกระจายอยู่ทั่วไป พื้นหลังมีสีขาว ตกแต่งลวดลายดอกไม้ร่วง คอสองเป็นลายพุ่มข้าวบิณฑ์ คานตกแต่งลายก้านปู ด้านนอกมีการตกแต่งลายเขียนสีและประดับกระจก กรมศิลปากรได้เข้ามาบูรณะตัวหลังคาและโครงสร้างหอพระนารายณ์ในปี พ.ศ. 2541
กุฏิสิทธิสารประดิษฐ์ หรือ กุฏิพระครสิทธิสารวิหารวัตร (อาคารพิพิธภัณฑ์วัดชลธาราสิงเห)
กุฏิสิทธิสารประดิษฐ์ (อาคารพิพิธภัณฑ์วัดชลธาราสิงเห) สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2498 โดยพระครูสิทธิสารวิหารวัตร เป็นอาคารไม้ยกพื้นสูง หลังคาทรงปั้นหยามุงกระเบื้องดินเผา มีหลังคาซ้อนกันหลายชั้น ตรงยอดหลังคาและปลายมุมหลังคาทำเป็นรูปตัวนาคและหางหงส์ ภายในกุฏิตกแต่งด้วยภาพจิตรกรรม เช่น บริเวณหน้าบันเป็นภาพพระพุทธประวัติตอนปรินิพพาน บานประตูเป็นภาพทวารบาล ฝ้าเพดานตกแต่งด้วยรูปพระอาทิตย์ พระจันทร์และเหล่าเทวดา ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนจากกรมศิลปากรให้เป็นพิพิธภัณฑสถานวัดชลธาราสิงเหเพื่อเก็บโบราณวัตถุชิ้นสำคัญของวัด โดยกุฏิหลังนี้ใช้เป็นอาคารพิพิธภัณฑ์วัดชลธาราสิงเหตั้งแต่ พ.ศ. 2553
กุฏิพระครูวิมลถาปนกิจ
กุฏิพระครูวิมลถาปนกิจ สร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2482 เป็นกุฏิไม้ยกพื้นสูง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของกุฏิสิทธิสารประดิษฐ์ หลังคาทรงปั้นหยามุงกระเบื้องดินเผา มีไม้ฉลุประดับหลังคา ตอนหน้าเป็นมุข หลังคามุขประดับช่อฟ้าและหางหงส์ ภายในกุฏิตกแต่งด้วยจิตรกรรมแสดงฝีมือช่างพื้นถิ่นภาคใต้ เช่น รูปพระจันทร์ทรงราชรถเทียมม้า และพระอาทิตย์ทรงราชรถเทียมราชสีห์ เป็นต้น
หอระฆังจัตุรมุข
หอระฆังจัตุรมุข ตั้งอยู่บริเวณหมู่กฏิสิทธิสารประดิษฐ์ เดิมเป็นหอไตรกลางน้ำ เมื่อชำรุดจึงได้ย้ายมาสร้างบนบกและดัดแปลงกลายเป็นหอระฆัง โดยมีลักษณะเป็นอาคารไม้ สูง 2 ชั้น ยอดมณฑปมุงกระเบื้องดินเผาประดับช่อฟ้าและหางหงส์
หอระฆัง (หอกลอง)
หอระฆัง (หอกลอง) ภายในวัดชลธาราสิงเห มีหอระฆัง 2 หลัง โดยหอระฆังทางด้านตะวันออกของกุฏิเจ้าอาวาสมีลักษณะเป็นหอระฆัง 3 ชั้น หลังทรงมณฑป ฝาผนังหอระฆังชั้นบนเป็นฝาไม้ มีช่องหน้าต่างขนาดเล็ก มีลวดลายประดับคล้ายฝาผนังกุฏิเจ้าอาวาส โดยภายในหอระฆังมีระฆัง 2 ใบ
วิหารพระพุทธไสยาสน์
ตั้งอยู่บริเวณหน้าเจดีย์ เป็นวิหารคลุมพระไสยาสน์มีขนาดกว้าง 5.90 เมตร ยาว 9.90 เมตร สร้างโดยพระครูสิทธิสารวิหารวัตรเมื่อปี พ.ศ. 2484 ภายในวิหารมีพระพุทธไสยาสน์ประดิษฐานอยู่ตอนท้ายของวิหารโถงและติดกับฐานเจดีย์เป็นอาคารเครื่องก่อ มีฝาผนังทั้งสี่ด้าน มีประตูทางเข้าทางทิศตะวันตก (สันนิษฐานว่าอาคารโถงน่าจะเป็นการต่อเติมในสมัยหลัง) องค์พระพุทธไสยาสน์เป็นพระพุทธรูปปูนปั้น ประดับด้วยกระจกสีทองโดยประทับอยู่บนนาค ประดิษฐานอยู่ในคูหาที่ประดับด้วยเครื่องถ้วยยุโรป จีน และ ญี่ปุ่น
ศาลาธรรม
เป็นสถาปัตยกรรมศิลปะภาคใต้และผสมอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมจีน มีการตกแต่งด้วยใบระกา หางหงส์และปูนปั้น
เจดีย์
เป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูนทรงระฆังบนฐานสี่เหลี่ยม ขนาด 4.55 เมตร ยาว 5.50 เมตร ทรงฐานสูงมีลานประทักษิณรอบเจดีย์ มีพนักกั้นเป็นขอบลายประทักษิณ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นสมัยครูจันทร์เป็นเจ้าอาวาส (ดำรงตำแหน่งระหว่างปี พ.ศ. 2456 - 2462) แต่สร้างไม่เสร็จ จากนั้นมาสร้างอีกครั้งในปี พ.ศ. 2484 ลักษณะตัวเจดีย์เป็นทรงระฆังก่อิฐถือปูนบนฐานทรงสี่เหลี่ยมทรงสูงล้อมรอบด้วยลานประทักษิณ ต่อขึ้นไปเป็นบัลลังก์ ก้านฉัตร ไม่มีเสาหาน แล้วเป็นแผ่นปล้องไฉนลดหลันกันไปเป็นรูปทรงกรวยจนถึงปลียอดและลูกแก้ว
การเดินทางและการเข้าชม
การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 4084 นราธิวาส-ตากใบ ถึงสี่แยกตลาดอำเภอตากใบ เลี้ยวซ้าย 100 เมตร จะถึงปากทางเข้าวัด หรือรถนั่งรถโดยสารประจำทางเส้นที่จะไปอำเภอตากใบ มีรถสองแถว รถตู้ และรถบัส ขึ้นที่สถานีขนส่งนราธิวาส ลงสามแยกอำเภอตากใบ เดินเข้าไปอีก 500 เมตร เปิดให้ชมทุกวันระหว่างเวลา 08.00 น. - 17.00 น. ยกเว้นพิพิธภัณฑ์หยุดวันสุดสัปดาห์ โดยไม่เสียค่าบริการทั้งคนไทยและต่างชาติ
แหล่งข้อมูลอื่น
- รายละเอียดวัดชลธาราสิงเหในเว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 2009-02-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ข้อมูลวัดชลธาราสิงเห
- รายละเอียดวัดชลธาราสิงเหในหมูหิน 2008-10-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
wdchltharasingeh phraxaramhlwng hrux wdchltharasingeh wdphithksaephndinithy tngxyuthi hmu 3 tablecaeh xaephxtakib cnghwdnrathiwas kxsrangodyphrakhunoxphasphuththkhun phud emuxpi ph s 2403 inplayrchkalthi 4 phrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw kxnkartngxaephxtakib 49 piwdchltharasingehchuxsamywdchltharasingehthitngtablecaeh xaephxtakib 96110 nrathiwas praethsithypraephthphraxaramhlwngchnphiessphraprathanhlwngphxihyphraphuththrupsakhyphraphuththruppangisyasn xnusawriyruppnhlwngphxphuthphracaphrrsaphraphiksusngkhcaphrrsa 7 rupcudsnicwiharphranxn hxphranarayn salaklangna salathrrm obsth phaphcitrkrrmfaphnngkickrrmethsnathrrminwnphrakarthayphaphimkhwrichaeflch inthayphaphcitrkrrmfaphnngswnhnungkhxngsaranukrmphraphuththsasnathitngaelaxanaekhtwdchltharasingehtngxyuthihmu 3 tablecaeh xaephxtakib cnghwdnrathiwasprawtiwdchltharasingehedimchuxwa wdthaphru hrux wdecaeh tamsthanthitngthiwd n hmubanecaeh inxditemuxxaephxtakibyngepnswnhnungkhxngrthklntn inkhrngnnphrakhunoxphasphuththkhunidedinthangmathungbriewndngklaw ehnwa phunthiepnpakwangwangeplaimmiphukhnxasy thidintidrimaemnatakibmithiwthsnswyngamaelaehmaasmtxkarsrangwd phrakhunoxphasphuththkhuncungkhxthidinephuxsrangwdchltharasingehcakphrayaklntn twnsnipakaedng sungphayhlngidrbbrrdaskdiepn phrayaedchanuchitmhisrayanukulwibulyphkdi cnkrathngkhunsmanthatuwvththi hrux epliyn kaycnarny nayxaephxkhnaerkkhxngtakib idepliynchuxwdepn wdchltharasingeh sunghmaythung wdthitidkbsayaemna aela singeh inthinihmaythungchuxthanphrakhruoxphasphuththkhun phusungbukhkhlthwiptangekrngklwthwipdngrachsihkhwamsakhywdchltharasingehnnmikhwamsakhythangprawtisastrphrmaednithy maelesiy enuxngcakepnsthanthithirthbalsyamichepnehtuphlxangxinginkarpkpnekhtaednin smy rchkalthi 5 ph s 2452 inewlannemuxaehlmmlayuidtkepnxananikhmkhxngckrwrrdibritich caksnthisyyaxngkvs syam ph s 2452 xngkvsidphyayamthicaphnwkcnghwdnrathiwasihekhaipepnswnhnungkhxngshphaphmalayadwy sungxngkvsidxangkarpkpnekhtaednodyichsnekhaaelaaemnaepnaenwtamhlksakl ekhamathungbanplkelkelycakwdchltharasingeh 25 kiolemtr sungesnaebngekhtrthklntnkbpraethsithycaxyuthitablbansapxm inekhtxaephxemuxngaelaxaephxtakibinpccubn aetdwyphraprichasamarthkhxngphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw rthbalsyamcungthuxykexaphraphuththsasna wd aelasilpainwdepnekhruxngtxrxngkaraebngpnekhtaedn odyihehtuphlwawdchltharasingehepnwdithythimikhwamsakhy epnmrdkthangphuththsasna sungepnwdkhubankhuemuxngkhxngchawxaephxtakib mixakharsthanthiaelathawrwtthuepnaebbithy prachachnnbthuxsasnaphuththepnewlachanan prakxbkbthxngthixaephxtakibmiwd chawphuththxasyxyuepncanwnmak cungkhwrimrwmphunthiehlaniipinekhtrthklntnthiprachachnswnihyepnchawmuslim sudthayxngkvsyxmcanntxehtuphlaelayxmrbihepncnghwdnrathiwasinpraethsithytxip fayxngkvscungyxmeluxnkarpkpnekhtaednthxylngipthangitcnthunglanaaemnaok lk thaihphunthithangtxnehnuxaemnatakibkhxngcnghwdnrathiwasxyuinkarpkkhrxngkhxngrachxanackrithymacnthungpccubn sungmiphlih 4 xaephxchayaednithy khux xaephxtakib xaephxaewng xaephxsuihngpadi aela xaephxsuihngok lk imtxngphnwkepnswnhnungkhxngpraethsmaelesiy wdchltharasingehcungepnthiruckinxiknamhnungwa wdphithksaephndinithy nxkcaknn wdchltharasingeh yngmithrphyakrthrrmchatithixudmsmburnaelaepnphunthixnubalstwnacakpachayelnthiplukrimchayfngaemnakhxngbriewnwd aelaenuxngdwywdchltharasingeh tidtxkbaemnatakibthaihmisphaphaewdlxmaelathrrmchatithimikhwamxudmsmburnkhxngthrphyakrchayfng aelaepnswnhnunginkarxnurkswithichiwitdngedimkhxngphakhittxnlangkhxngpraethsithy wdchltharasingehcungthuxepnwdthimikhwamsakhyxnthrngkhunkhaaelaepnsunyklangdanphumithsnwthnthrrmaelasthaptykrrmthxngthin phrabathsmedcphramhaphumiphlxdulyedchmharach brmnathbphitr thrngphrakrunaoprdeklaihyk wdchltharasingeh khunepnphraxaramhlwng chntri chnidsamy epnkrniphiess enuxnginoxkasphrarachphithimhamngkhlechlimphrachnmphrrsa 6 rxb 5 thnwakhm 2542 tngaetwnthi 22 eduxnminakhm ph s 2543 wdltharasingehidrbkhdeluxkepnwdphthnatwxyangdiednechlimphraekiyrti phrabathsmedcphramhaphumiphlxdulyedchmharach brmnathbphitr enuxnginoxkasphrarachphithimhamngkhlechlimphrachnmphrrsakhrb 6 rxb n wnthi 5 thnwakhm ph s 2542 odykrmkarsasna krmsilpakridprakaskhunthaebiynwdchltharasingehepnobransthankhxngchatiemuxwnthi 31 krkdakhm ph s 2516 aelaiddaeninkarbrunaprbphumithsnobransthanphayinwdchltharasingehxyangtxenuxngmatngaetpi ph s 2527 macwbcnpccubn ephuxrksaobransthanaehngniiwepnmrdkthangsilpwthnthrrmsubipsingkxsrangphayinwdphrakhruoxphasphuththkhunepnphusrangphraxuobsthodymxbihphraichywdekaasathxnepnchangkxsrangaelaekhiynphaphinphraxuobsth phrathrrmwiny cuy aelathidmi chawsngkhlachwyknekhiynphaphinphraxuobsth kuti srangphraprathaninphraxuobsthaelakaaephngaekwlxmrxbphraxuobsth inpi ph s 2426 smytxmawdchltharasingeh idrbkarburna prbprung sxmaesm aelakxsrangxakharephimkhuntamladb odyxakhartang milksnathangsthaptykrrmphakhitthiidrbxiththiphlcaktawntk khux karpradblwdlayimchlu eriykwa lwdlaykhnmpngkhing phraxuobsth epnsilpaaebbrtnoksinthr sranginsmyphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw hlngkhasxn 3 chn michxfa ibraka hanghngs hnabn pradblwdlaypunpn epnrupphraxinthrthrngchangexrawn phayinphraxuobsthpradisthanphraprathanepnruppangmarwichyphayinsumeruxnaekw nxkcakniyngpraktphaphcitrkrrmfaphnngodylksnacitrkrrmepnsifun ekhiynodyphraphiksuchawsngkhla layethphchumnum phaphchiwitkhwamepnxyuinxdit itrphumi aelaladbphaphphuththprawti erimcakmumdanthisitmathangthistawnxxk odyaebngfaphnnginaenwtngepn 4 chxngesa inaetlachxngesayngaebngxxkepn 3 chwng khux bn klangaelalang txnbnsudepnwithyathr txmaepnethphchumnum 1 chn nngpranmhtththuxdxkim thdlngmaepnchxngsiehliymsxnkn 2 chn ekhiynphaphphuththprawtierimtngaettxnlaphranangyosthraaelarahul aelweriyngladberuxngcnthungtxnprathbrxyphraphuththbath danhnaphraprathanmiphaphtxnphraphuththecaesdclngcakdawdungs epnphaphkhnadihy phnngdanlangepnphunthiwangmiaetphaphmnthpehnuxesiyrphra ephdanekhiynlaybnphunaedng aelayngepnthipradisthanphraprathanpidthxngthngxngkh thaihimehnlksnaedimthiphraoxsthepnsiaedng phraeksaepnsida pradisthanxyubnbusbkthrngsxbsung 1 5 emtr caklksnabusbk snnisthanwaepnphramxy tamphnngpradbdwyekhruxngthwysngkholkcakpraethscin phlbphlathiprathbinrchkalthi 6 srangkhuninpi ph s 2458 phrabathsmedcphramngkuteklaecaxyuhw rchkalthi 6 idesdcpraphaswdchltharasingeh aelathrngoprdeklaihsrangphlbphlarimaemnatakibepnthiprathb ephuxsahrbthxdphraentrkaraekhngeruxyawinxdit sungpccubnyngkhngxyuinsphaphthismburn epnphunthirimaemnasahrbnkthxngethiyw odysamarthchmthsniyphaphrxbkhxngaemnatakib aelayngsamarthmxngehnekaayawkhxngcnghwdnrathiwasid hxphranarayn epnxakharekhruxngkx khnad 5 45 emtr yaw 6 30 emtr mimukhkhnadkwang 3 40 emtr yaw 4 06 emtr mihnatangdanla 1 chxng swnthangdanhnathangthistawnxxkmipratu 3 ban hlngkhathrngmnthp 4 chnyxdaehlm mungkraebuxngdinephaekaayx thansiehliymkxxith mumhlngkhaaetlachnpradbdwyhwnakh swnyxdkhxnghlngkhahlxdwypunsiemnt trnghnabnmicaruk ptisngkhrn ph s 2499 ephdanmukhmi 2 hxng tkaetnglwdlayepnphaphdwngdara phayinmnthpmirupphranarayn 4 kr bnthanchukchimiphraphuththruppangmarwichy 3 xngkh ephdandaninprathantkaetnglaydwngdara phunhlngpradbdwyphaphphiesux hngs chxdxkimaeladawdwngelkkracayxyuthwip phunhlngmisikhaw tkaetnglwdlaydxkimrwng khxsxngepnlayphumkhawbinth khantkaetnglaykanpu dannxkmikartkaetnglayekhiynsiaelapradbkrack krmsilpakridekhamaburnatwhlngkhaaelaokhrngsranghxphranarayninpi ph s 2541 kutisiththisarpradisth hrux kutiphrakhrsiththisarwiharwtr xakharphiphithphnthwdchltharasingeh kutisiththisarpradisth xakharphiphithphnthwdchltharasingeh srangkhuninpi ph s 2498 odyphrakhrusiththisarwiharwtr epnxakharimykphunsung hlngkhathrngpnhyamungkraebuxngdinepha mihlngkhasxnknhlaychn trngyxdhlngkhaaelaplaymumhlngkhathaepnruptwnakhaelahanghngs phayinkutitkaetngdwyphaphcitrkrrm echn briewnhnabnepnphaphphraphuththprawtitxnpriniphphan banpratuepnphaphthwarbal faephdantkaetngdwyrupphraxathity phracnthraelaehlaethwda pccubnidrbkarkhunthaebiyncakkrmsilpakrihepnphiphithphnthsthanwdchltharasingehephuxekbobranwtthuchinsakhykhxngwd odykutihlngniichepnxakharphiphithphnthwdchltharasingehtngaet ph s 2553 kutiphrakhruwimlthapnkic kutiphrakhruwimlthapnkic srangkhuninpiph s 2482 epnkutiimykphunsung tngxyuthangthistawnxxkkhxngkutisiththisarpradisth hlngkhathrngpnhyamungkraebuxngdinepha miimchlupradbhlngkha txnhnaepnmukh hlngkhamukhpradbchxfaaelahanghngs phayinkutitkaetngdwycitrkrrmaesdngfimuxchangphunthinphakhit echn rupphracnthrthrngrachrthethiymma aelaphraxathitythrngrachrthethiymrachsih epntn hxrakhngcturmukh hxrakhngcturmukh tngxyubriewnhmuktisiththisarpradisth edimepnhxitrklangna emuxcharudcungidyaymasrangbnbkaeladdaeplngklayepnhxrakhng odymilksnaepnxakharim sung 2 chn yxdmnthpmungkraebuxngdinephapradbchxfaaelahanghngs hxrakhng hxklxng hxrakhng hxklxng phayinwdchltharasingeh mihxrakhng 2 hlng odyhxrakhngthangdantawnxxkkhxngkutiecaxawasmilksnaepnhxrakhng 3 chn hlngthrngmnthp faphnnghxrakhngchnbnepnfaim michxnghnatangkhnadelk milwdlaypradbkhlayfaphnngkutiecaxawas odyphayinhxrakhngmirakhng 2 ib wiharphraphuththisyasn tngxyubriewnhnaecdiy epnwiharkhlumphraisyasnmikhnadkwang 5 90 emtr yaw 9 90 emtr srangodyphrakhrusiththisarwiharwtremuxpi ph s 2484 phayinwiharmiphraphuththisyasnpradisthanxyutxnthaykhxngwiharothngaelatidkbthanecdiyepnxakharekhruxngkx mifaphnngthngsidan mipratuthangekhathangthistawntk snnisthanwaxakharothngnacaepnkartxetiminsmyhlng xngkhphraphuththisyasnepnphraphuththruppunpn pradbdwykracksithxngodyprathbxyubnnakh pradisthanxyuinkhuhathipradbdwyekhruxngthwyyuorp cin aela yipun salathrrm epnsthaptykrrmsilpaphakhitaelaphsmxiththiphlcaksthaptykrrmcin mikartkaetngdwyibraka hanghngsaelapunpn ecdiy epnecdiykxxiththuxpunthrngrakhngbnthansiehliym khnad 4 55 emtr yaw 5 50 emtr thrngthansungmilanprathksinrxbecdiy miphnkknepnkhxblayprathksin snnisthanwasrangkhunsmykhrucnthrepnecaxawas darngtaaehnngrahwangpi ph s 2456 2462 aetsrangimesrc caknnmasrangxikkhrnginpi ph s 2484 lksnatwecdiyepnthrngrakhngkxiththuxpunbnthanthrngsiehliymthrngsunglxmrxbdwylanprathksin txkhunipepnbllngk kanchtr immiesahan aelwepnaephnplxngichnldhlnknipepnrupthrngkrwycnthungpliyxdaelalukaekwkaredinthangaelakarekhachmkaredinthang ichthanghlwnghmayelkh 4084 nrathiwas takib thungsiaeyktladxaephxtakib eliywsay 100 emtr cathungpakthangekhawd hruxrthnngrthodysarpracathangesnthicaipxaephxtakib mirthsxngaethw rthtu aelarthbs khunthisthanikhnsngnrathiwas lngsamaeykxaephxtakib edinekhaipxik 500 emtr epidihchmthukwnrahwangewla 08 00 n 17 00 n ykewnphiphithphnthhyudwnsudspdah odyimesiykhabrikarthngkhnithyaelatangchatiaehlngkhxmulxunraylaexiydwdchltharasingehinewbistkarthxngethiywaehngpraethsithy 2009 02 03 thi ewyaebkaemchchin khxmulwdchltharasingeh raylaexiydwdchltharasingehinhmuhin 2008 10 09 thi ewyaebkaemchchin 6 15 43 N 102 03 00 E 6 262 N 102 05 E 6 262 102 05