วรนุช อารีย์ (เดิมชื่อ นุชวรา อารีย์; 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2471 - 20 ธันวาคม พ.ศ. 2560) นักร้องหญิงวงดนตรีกรมประชาสัมพันธ์และวงสุนทราภรณ์ เจ้าของฉายา เสียงน้ำมนต์ก้นบาตร และ นักร้องเสียงละเมอ
วรนุช อารีย์ | |
---|---|
วรนุช อารีย์ จากรายการเสียงสวรรค์เมื่อวันวาน | |
สารนิเทศภูมิหลัง | |
เกิด | 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2471 สว่าง อารีย์ จังหวัดธนบุรี |
เสียชีวิต | 20 ธันวาคม พ.ศ. 2560 (89 ปี) |
อาชีพ | นักร้อง, ข้าราชการ |
ปีที่แสดง | พ.ศ. 2491 - 2560 (69 ปี) |
สังกัด | วงสุนทราภรณ์ |
ประวัติ
วรนุช อารีย์ (เดิมชื่อ สว่าง อารีย์ และเปลี่ยนมาเป็น นุชวรา อารีย์) นักร้องหญิงประจำวงวงดนตรีกรมประชาสัมพันธ์หรือวงดนตรีสุนทราภรณ์ เกิดเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2471 ที่ธนบุรี เป็นบุตรของ นายนุช และ นางเจริญ อารีย์ มีน้องชาย 1 คน คือ นายนริศ อารีย์ คุณพ่อเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเด็ก เข้ารับการศึกษาเบื้องต้นที่ แต่ก็เรียนไม่จบเนื่องจากแม่ไม่มีเงินส่งให้เรียน
ชีวิตนักร้อง
วรนุชสนใจการร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กๆโดยอาศัยฟังวิทยุจากข้างๆบ้านเนื่องจากบ้านตัวเองยากจน ซึ่งขณะที่ศึกษาอยู่โรงเรียนวัดจักรวรรดิราชาวาสทุกๆเย็นวันศุกร์จะมีการร้องเพลงหน้าชั้นเรียนก่อนกลับบ้าน วรนุชก็จะออกไปร้องทุกครั้งและจะได้รางวัลเป็นสมุดกลับมา
ต่อมานางเจริญผู้เป็นมารดาได้สมรสใหม่จึงส่งวรนุชมาอยู่กับคุณน้า ทุกๆเย็นหลังช่วยคุณน้าทำงานบ้านเสร็จวรนุชก็มักจะครวญเพลงเป็นเพื่อนแก้เหงา จนกระทั่งคนข้างบ้านที่ทำงานอยู่กรมไปรษณีย์กลางได้ยินเข้าจึงพาไปฝากให้อยู่กับของครูเมื่อปีพ.ศ.2491 โดยทำหน้าที่พากย์เสียงละครวิทยุและร้องเพลงสลับช่วง
ต่อมาครูเอื้อ สุนทรสนานเห็นถึงความสามารถจึงให้คุณประเสริฐมาชักชวนไปอยู่ที่วงดนตรีกรมประชาสัมพันธ์หรือวงดนตรีสุนทราภรณ์ด้วยกัน พอดีกับตำแหน่งนักร้องหญิงของวงว่างลงวรนุชจึงลองไปสอบกับครูเอื้อ สุนทรสนานในปีพ.ศ.2495 โดยสอบเข้าได้ที่ 1 พร้อมกับศรีสุดา รัชตะวรรณ ซึ่งได้ที่ 2 และ พูลศรี เจริญพงษ์ ได้ที่ 3 ตามลำดับ
ครูเอื้อ สุนทรสนาน มักจะแต่งเพลงแนวหวานเย็นเศร้าๆให้วรนุช อารีย์ขับร้อง โดยเพลงแรกที่เธอได้ร้องออกอากาศทางวิทยุ คือเพลง เมื่อเธอกลับมา ส่วนเพลงแรกที่เธอบันทึกเสียงคือเพลง พรางรัก
ความภูมิใจ
ในขณะรับราชการในตำแหน่งคีตศิลปิน วงดนตรีกรมประชาสัมพันธ์นั้น วรนุช อารีย์ ได้มีโอกาสบันทึกเสียงเพลงพระราชนิพนธ์ลมหนาว ในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และเพลงของสถาบันต่าง ๆ รวมทั้งเพลงปลุกใจไว้หลายเพลง นอกเหนือจากเพลงทั่วไป นอกจากนี้ ยังร่วมเดินทางไปร้องเพลงกล่อมขวัญทหารตามชายแดน ได้รับพระราชทานเข็มที่ระลึกจากพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี และจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และท้ายที่สุด เธอได้รับประกาศเชิดชูเกียรติ " " จากสถาบันราชภัฏจันทรเกษม ในสาขาดนตรีนาฏศิลป์ ทางขับร้องเพลงไทยสากล เมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2545
ชีวิตครอบครัว
วรนุช อารีย์สมรสเมื่อปี 2514 มีบุตรสาว 1 คน และ มีบุตรบุญธรรม 1 คน
บั้นปลายชีวิต
วรนุช อารีย์ เกษียณอายุราชการเมื่อปี พ.ศ. 2532 แต่ยังคงขับร้องเพลงให้วงดนตรีกรมประชาสัมพันธ์เรื่อยมา และยังรับเชิญร้องเพลงตามงานต่าง ๆ หลายสิบปี จนกระทั่งเสียชีวิตเมื่อ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2560 สิริอายุ 89 ปี
ตัวอย่างผลงานเพลง
ผลงานเพลงของวรนุช อารีย์ สามารถจำแนกออกมาได้เป็นหลายประเภทดังนี้
1. เพลงขับร้องเดี่ยว เช่น ปวดใจ เปลี่ยวใจ นางครวญ รำพันสวาท มนต์ดลใจ ผาเงอบ ฝนเอย รักต่างแดน เพลินพนา รักเธอคนเดียว ดึกดำ คืนนั้นวันนี้ วันและคืน หวัง โลกกับชีวิต คนใจร้าย อย่าเพียงแต่มอง ล้อโลก ไผ่ครวญ รักคิมหันต์ อนาถเมื่อขาดรัก กล้วยไม้ ฟ้ามัวใจหมอง ละเมอรักฝากลม บางแสนโสภา อย่าร้องไห้ ใครคู่ฉัน พรางรัก เสียงสะอื้นที่บางแสน อ๊ายอาย ลองคิดดู ลวงรัก ธรณิณที่รัก เป็นต้น
2. เพลงขับร้องนำหมู่ เช่น ไม่มีหวัง ยะลา ดอกไม้เมืองเหนือ ฉันล่ะเบื่อ ศักดิ์ไทย อนุสติไทย คำปฏิญาณ ไทยมุ่งหน้า เป็นต้น
3. เพลงขับร้องคู่ (ชาย-หญิง) เช่น ระฆังสั่งลา(คู่วินัย) ทำนายฝัน(คู่สมศักดิ์) คลื่นสวาท(คู่สมศักดิ์) ใคร(คู่สุนทราภรณ์) บ่อโศก(คู่สมศักดิ์) อ่างหิน(คู่วินัย) หยดน้ำเจ้าพระยา(คู่สุนทราภรณ์) ดาวในใจ(คู่สุนทราภรณ์) รักยามเย็น(คู่สุนทราภรณ์) หวานคำ(คู่วินัย) ตะลุงเริงใจ(คู่วินัย) สาวสุดสวย(คู่) ไม่มีรัก(คู่สมศักดิ์) เป็นต้น
4. เพลงร้องคู่ (หญิง-หญิง) เช่น เพลงพาชื่น(คู่ศรีสุดา) สามนัด(คู่ศรีสุดา,มาริษา,) รื่นเริงใจ(คู่ศรีสุดา,มาริษา) บ้านเกิดเมืองนอน(คู่ศรีสุดา,มาริษา,บุษยา) ลาปีเก่า(คู่ศรีสุดา,ชวลี) ลาชั่วคืน(คู่ศรีสุดา,มาริษา)
5. เพลงรำวง เช่น รำวงเทวีศรีนวล รำวงลีลารัก รำวงปูจ๋า รำวงหมองู เพลินนาวา เริงตลุง รำวงมาลัยรจนา รำวงมาลัยลอย เรือเพลง ขวัญข้าว เริงสงกรานต์ ยายกะตา รำวงบ้านนา รำวงบ้านใกล้ใจรัก รำวงบ้านนาสำราญ เป็นต้น
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2530 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 3 ตริตาภรณ์มงกุฎไทย (ต.ม.)
อ้างอิง
- ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2530 เล่ม 104 ตอนที่ 256 ราชกิจจานุเบกษา 9 ธันวาคม พ.ศ. 2539
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
wrnuch xariy edimchux nuchwra xariy 23 phvscikayn ph s 2471 20 thnwakhm ph s 2560 nkrxnghyingwngdntrikrmprachasmphnthaelawngsunthraphrn ecakhxngchaya esiyngnamntknbatr aela nkrxngesiynglaemxwrnuch xariyt m wrnuch xariy cakraykaresiyngswrrkhemuxwnwansarniethsphumihlngekid23 phvscikayn ph s 2471 swang xariy cnghwdthnburiesiychiwit20 thnwakhm ph s 2560 89 pi xachiphnkrxng kharachkarpithiaesdngph s 2491 2560 69 pi sngkdwngsunthraphrnprawtiwrnuch xariy edimchux swang xariy aelaepliynmaepn nuchwra xariy nkrxnghyingpracawngwngdntrikrmprachasmphnthhruxwngdntrisunthraphrn ekidemuxwnthi 23 phvscikayn ph s 2471 thithnburi epnbutrkhxng naynuch aela nangecriy xariy minxngchay 1 khn khux naynris xariy khunphxesiychiwittngaetethxyngedk ekharbkarsuksaebuxngtnthi aetkeriynimcbenuxngcakaemimmienginsngiheriynchiwitnkrxngwrnuchsnickarrxngephlngmatngaetedkodyxasyfngwithyucakkhangbanenuxngcakbantwexngyakcn sungkhnathisuksaxyuorngeriynwdckrwrrdirachawasthukeynwnsukrcamikarrxngephlnghnachneriynkxnklbban wrnuchkcaxxkiprxngthukkhrngaelacaidrangwlepnsmudklbma txmanangecriyphuepnmardaidsmrsihmcungsngwrnuchmaxyukbkhunna thukeynhlngchwykhunnathanganbanesrcwrnuchkmkcakhrwyephlngepnephuxnaekehnga cnkrathngkhnkhangbanthithanganxyukrmiprsniyklangidyinekhacungphaipfakihxyukbkhxngkhruemuxpiph s 2491 odythahnathiphakyesiynglakhrwithyuaelarxngephlngslbchwng txmakhruexux sunthrsnanehnthungkhwamsamarthcungihkhunpraesrithmachkchwnipxyuthiwngdntrikrmprachasmphnthhruxwngdntrisunthraphrndwykn phxdikbtaaehnngnkrxnghyingkhxngwngwanglngwrnuchcunglxngipsxbkbkhruexux sunthrsnaninpiph s 2495 odysxbekhaidthi 1 phrxmkbsrisuda rchtawrrn sungidthi 2 aela phulsri ecriyphngs idthi 3 tamladb khruexux sunthrsnan mkcaaetngephlngaenwhwaneynesraihwrnuch xariykhbrxng odyephlngaerkthiethxidrxngxxkxakasthangwithyu khuxephlng emuxethxklbma swnephlngaerkthiethxbnthukesiyngkhuxephlng phrangrk khwamphumiic inkhnarbrachkarintaaehnngkhitsilpin wngdntrikrmprachasmphnthnn wrnuch xariy idmioxkasbnthukesiyngephlngphrarachniphnthlmhnaw inphrabathsmedcphramhaphumiphlxdulyedchmharach brmnathbphitr aelaephlngkhxngsthabntang rwmthngephlngplukiciwhlayephlng nxkehnuxcakephlngthwip nxkcakni yngrwmedinthangiprxngephlngklxmkhwythhartamchayaedn idrbphrarachthanekhmthiralukcakphrabathsmedcphramhaphumiphlxdulyedchmharach brmnathbphitr smedcphraecaphkhiniethx ecafaephchrrtnrachsuda siriosphaphnnwdi aelacakphraecawrwngsethx phraxngkhecaosmswli phrawrrachathinddamatu aelathaythisud ethxidrbprakasechidchuekiyrti caksthabnrachphtcnthreksm insakhadntrinatsilp thangkhbrxngephlngithysakl emuxwnthi 11 knyayn ph s 2545 chiwitkhrxbkhrw wrnuch xariysmrsemuxpi 2514 mibutrsaw 1 khn aela mibutrbuythrrm 1 khnbnplaychiwitwrnuch xariy eksiynxayurachkaremuxpi ph s 2532 aetyngkhngkhbrxngephlngihwngdntrikrmprachasmphntheruxyma aelayngrbechiyrxngephlngtamngantang hlaysibpi cnkrathngesiychiwitemux 20 thnwakhm ph s 2560 sirixayu 89 pitwxyangphlnganephlngphlnganephlngkhxngwrnuch xariy samarthcaaenkxxkmaidepnhlaypraephthdngni 1 ephlngkhbrxngediyw echn pwdic epliywic nangkhrwy raphnswath mntdlic phaengxb fnexy rktangaedn ephlinphna rkethxkhnediyw dukda khunnnwnni wnaelakhun hwng olkkbchiwit khnicray xyaephiyngaetmxng lxolk iphkhrwy rkkhimhnt xnathemuxkhadrk klwyim famwichmxng laemxrkfaklm bangaesnospha xyarxngih ikhrkhuchn phrangrk esiyngsaxunthibangaesn xayxay lxngkhiddu lwngrk thrninthirk epntn 2 ephlngkhbrxngnahmu echn immihwng yala dxkimemuxngehnux chnlaebux skdiithy xnustiithy khaptiyan ithymunghna epntn 3 ephlngkhbrxngkhu chay hying echn rakhngsngla khuwiny thanayfn khusmskdi khlunswath khusmskdi ikhr khusunthraphrn bxosk khusmskdi xanghin khuwiny hydnaecaphraya khusunthraphrn dawinic khusunthraphrn rkyameyn khusunthraphrn hwankha khuwiny talungeringic khuwiny sawsudswy khu immirk khusmskdi epntn 4 ephlngrxngkhu hying hying echn ephlngphachun khusrisuda samnd khusrisuda marisa runeringic khusrisuda marisa banekidemuxngnxn khusrisuda marisa busya lapieka khusrisuda chwli lachwkhun khusrisuda marisa 5 ephlngrawng echn rawngethwisrinwl rawnglilark rawngpuca rawnghmxngu ephlinnawa eringtlung rawngmalyrcna rawngmalylxy eruxephlng khwykhaw eringsngkrant yaykata rawngbanna rawngbaniklicrk rawngbannasaray epntnekhruxngrachxisriyaphrnph s 2530 ekhruxngrachxisriyaphrnxnmiekiyrtiysyingmngkudithy chnthi 3 tritaphrnmngkudithy t m xangxingprakassanknaykrthmntri eruxng phrarachthanekhruxngrachxisriyaphrn enuxnginworkasphrarachphithiechlimphrachnmphrrsa wnthi 5 thnwakhm 2530 elm 104 txnthi 256 rachkiccanuebksa 9 thnwakhm ph s 2539 bthkhwamephlng dntri hrux ekhruxngdntriniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk