ลังกาสุกะ เป็นอาณาจักรมลายูโบราณ (ฮินดู-พุทธ) ที่ตั้งอยู่ในคาบสมุทรมลายู ชื่อมีที่มาจากภาษาสันสกฤต กล่าวกันว่าเป็นคำสมาสของคำว่า ลังกะ แปลว่า "แดนสุกสกาว" กับ -สุกะ แปลว่า "ความสุขอันล้นพ้น" ตัวอาณาจักรเป็นหนึ่งในอาณาจักรที่เก่าแก่ที่สุดในคาบสมุทรมลายู แต่ยังคงขัดแย้งในที่ตั้งของอาณาจักร สถานที่ที่เป็นไปได้ตามการค้นพบของนักโบราณคดีอยู่ที่อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี โดยก่อตั้งในศตวรรษที่ 2
ลังกาสุกะ | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
พุทธศตวรรษที่ 7–พุทธศตวรรษที่ 23 | |||||||
เมืองหลวง | กรุงโกตามหลิฆัย (อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ในปัจจุบัน) | ||||||
ภาษาทั่วไป | มลายูโบราณ | ||||||
ศาสนา | ศาสนาฮินดู-ศาสนาพุทธ | ||||||
การปกครอง | ราชาธิปไตย | ||||||
รายา | |||||||
ประวัติศาสตร์ | |||||||
• ก่อตั้ง | พุทธศตวรรษที่ 7 | ||||||
• สิ้นสุด | พุทธศตวรรษที่ 23 | ||||||
| |||||||
ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ | มาเลเซีย ไทย |
รายงานจากตำนาน พงศาวดารเกอดะฮ์ อาณาจักรนี้ก่อตั้งและตั้งชื่อโดยมะโรง มหาวงศ์ อีกข้อเสนอหนึ่งกล่าวว่า ชื่ออาณาจักรอาจมาจากการสมาสระหว่าง ลังกา กับ อโศก กษัตริย์นักรบชาวฮินดูราชวงศ์โมริยะในตำนาน และนักล่าอาณานิคมชาวอินเดียยุคแรกของคอคอดมลายูได้ตั้งชื่ออาณาจักรลังกาสุกะ เพื่อยกย่องเกียรติของพระองค์
อาณาจักรลังกาสุกะในยุคโบราณ
ลังกาสุกะเป็นนครรัฐตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 7 รุ่งเรืองยาวนานถึง 1,400 ปี จึงเสื่อมสลายไป ไม่ใช่เพราะถูกอำนาจใดเข้าตี หากแต่ทะเลถอยห่างตัวเมืองออกไปทุกที จนผู้คนพากันทิ้งเมือง ซ้ำโดนน้ำท่วมโคลนถมทับตัวเมืองแทบหมด เพิ่งขุดเจอซากไม่นานมานี้ เชื่อกันว่าคนในหมู่บ้านกาแลจิน อ.เมืองปัตตานีปัจจุบันคือผู้สืบเชื้อสายชาวเมืองลังกาสุกะ ที่เป็นลูกครึ่งชาวจีนกับคนพื้นเมืองที่ต้องทิ้งเมืองเก่ามาอยู่ในปัตตานีเมื่อ 1,000 กว่าปีที่แล้ว
อาณาจักรโบราณยิ่งใหญ่ที่เชื่อว่ามีพื้นที่คลุมไปถึงตอนเหนือมาเลเซีย เพราะพบสิ่ง ก่อสร้างโบราณ แบบเดียวกับที่พบในปัตตานีแถวริมฝั่งแม่น้ำบูจังและปาดังลาวาส (ปากแม่น้ำลาวาส) ในรัฐเคดาห์ หนังสือเหล่านั้นเรียกอย่างจืดชืดไม่ดึงดูดใจสักนิดว่า "เมืองโบราณยะรัง" เพราะซากเมืองเก่าพบที่ อ.ยะรัง ทั้งที่มีความเก่าแก่รุ่งเรืองมาก่อน อาณาจักรศรีวิชัยและอาณาจักรทวาราวดีตั้ง 500 ปี ศรีวิชัยและทวาราวดีตั้งในพุทธศตวรรษที่ 12 ลังกาสุกะเป็นนครรัฐที่โลกตะวันตกตะวันออก รู้จักกันแล้ว ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 7 เมืองโบราณยะรังจึงไม่ใช่เมืองเก่าธรรมดา หากแต่เป็นเมืองท่านครรัฐยิ่งใหญ่ สมัยโบราณเก๋ากึ๊กในภูมิภาคนี้โดยแท้
เมืองโบราณที่ กรมศิลปากร กำลังขุดแต่งอยู่ที่ อำเภอยะรัง ในขณะนี้คือ ศูนย์การปกครอง อาณาจักรลังกาสุกะ ในเมื่อบันทึก ชาวอินเดียและ ชาวอาหรับ ที่เรียกเมืองนี้ว่า "ลังกาสุกะ" กับบันทึก ของชาวจีนที่เรียก "หลาง หย่า ซุ่ย" ล้วนระบุทิศทางและ ที่ตั้งตรงกันหมด น.ส.พรทิพย์ พันธุโกวิท หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการ โบราณคดี ผู้ควบคุมการขุดแต่งและ บูรณะมาตั้งแต่แรกถึง 16 ปี อธิบายว่า ปัตตานีวันนี้คือ ดินแดนเกิดใหม่ เมื่อทะเลถอย ห่างฝั่งออกไปทุกที ลังกาสุกะเลยกลายเป็น เมืองภายในแผ่นดิน อยู่ห่างชายฝั่งทะเล ในวันนี้เกือบ 25 กม. ชายฝั่งบริเวณท่าเรือใหญ่ครั้งโน้น ปัจจุบันนี้คือ คลองปาเละหมู่บ้านกาแลบูซา (ท่าเรือใหญ่) หมู่บ้านเทียระยา (หมู่บ้านเสากระโดงเรือ) ต.ตันหยงลูโละ อ.เมือง ปัตตานี
ร่องรอยทางโบราณคดี ชี้ให้เห็นว่ามีลักษณะเป็นเมืองเรียงกันถึง 3 เมืองด้วยกัน ได้แก่ เมืองที่กำลังขุดอยู่ที่บ้านวัด บ้านจาเละ และบ้านปราแว (พระราชวัง) อำเภอยะรัง บ้านปราแวอยู่ริมทะเล มีลักษณะ ค่ายคูประตูหอรบตามมุมเมือง คาดว่าน่าจะเป็นประชาคม 3 แห่ง ที่อยู่ร่วมกันมากกว่าเมือง โดยรวมแล้วพื้นที่ดังกล่าวนี้ พบร่องรอยทางโบราณคดีถึงกว่า 40 แห่ง ลงมือขุดไปเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น ชิ้นใหญ่ ๆ ที่กำลังขุดอยู่เป็นศาสนสถานใน ศาสนาพราหมณ์และ พุทธศาสนา ทั้งพบคำจารึกภาษาปัลลวะอินเดียโบราณและภาษาสันสกฤตด้วย บ่งบอกอย่างเด่นชัด แรกเริ่มนั้นชาวลังกาสุกะนับถือศาสนาพราหมณ์ เปลี่ยนมาถือพุทธ แล้วเปลี่ยนมาเป็นอิสลามตามลำดับ
ลังกาสุกะเฟื่องเนื่องมาจากที่ตั้งเป็นกึ่งกลางเส้นทางค้าขายโลกตะวันตกและตะวันออก เป็นศูนย์กลางการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าและศูนย์ค้าเครื่องเทศสินค้าสำคัญของภูมิภาคนี้ ที่ดังที่สุด ได้แก่ไม้หอม และกำยาน ซึ่งอินเดีย อาหรับยันยุโรปต่างต้องการอย่างมาก น่าเชื่อว่ากำยานชั้นดีที่สุดเป็นกำยานลังกาสุกะ เพราะเครื่องหอมทำจากกำยานที่โลกอาหรับ และชาติมุสลิมใช้อย่างกว้างขวาง เนื่องจากเป็นเครื่องหอม ที่ไม่มีแอลกอฮอล์เจือปนไม่ผิด หลักทางศาสนาที่ชื่อว่า "ไซมีส เบนโซอีน" ที่ยังใช้กันมาจนทุกวันนี้ ลังกาสุกะเป็นท่าเรือ ส่งออกที่ใหญ่มาก
ลังกาสุกะอาจเป็นอาณาจักรเดียวในโลกที่ล่มสลายไปไม่ใช่เพราะการสงครามหรือโรคระบาด หากเกิดจากทะเลถอยห่างออกไปเรื่อย ๆ เมื่อไม่สามารถทำมาหากินได้เหมือนเดิม ผู้คนก็อพยพทิ้งบ้านทิ้งเมืองไปอยู่ที่อื่นกันหมด พร้อม ๆ กับอาณาจักรอื่นใกล้เคียงเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาแทนที่
ศูนย์กลางอาณาจักรลังกาสุกะ
อาณาจักรลังกาสุกะเป็นอาณาจักรโบราณ มีศูนย์กลางตั้งอยู่บริเวณ อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี มีอาณาเขตปกครองกว้างขวางครอบคลุมคาบสมุทรมลายูตอนล่างทั้งหมดโดยพัฒนามาจากเมืองท่าเล็กๆ ของชาวพื้นเมืองจนเติบโตเป็นรัฐและมีฐานะเป็นอาณาจักรมาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 7 เป็นศูนย์กลางการค้าและศาสนา จนได้ล่มสลายไปในต้นพุทธศตวรรษที่ 21 ปัจจุบันปรากฏร่องรอยศาสนสถานประเภทสถูปเจดีย์ขนาดใหญ่ จำนวน 33 แห่ง ในพื้นที่ประมาณ 9 ตารางกิโลเมตร
จากตำนานและจดหมายเหตุ
จากตำนาน ไทรบุรี ปัตตานี กล่าวถึงเมืองลังกาสุกะ ของพระเจ้ามะโรงมหาวงศ์หรือราชามารงมหาวังสา ต่อมาคำว่าลังกาสุกะค่อย ๆ เลือนหายไป กลายเป็นคำว่าปัตตานีดารุสสาลามเข้ามาแทนที
จดหมายเหตุราชวงศ์เหลียง (พ.ศ. 1045-1099) บันทึกไว้ว่าอาณาจักรลังกาสุกะ สถาปนาขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 7 มีอำนาจปกครองระหว่างสองฝั่งทะเล คือด้านตะวันตกจรดไทรบุรี และด้านตะวันออกที่ปัตตานีข้อความในจดหมายเหตุนี้สอดคล้องกับตำนานไทรบุรี ปัตตานี
(Paul Wheatly) ผู้เชี่ยวชาญเรื่องแหลมมาลายู มีความเห็นว่าตำนานไทรบุรี ฯมีลักษณะเหมือนเทพนิยาย แต่งขึ้นเมื่อชาวอินเดียเดินทางมาถึงหัวเมืองมาลายูราวพุทธศตวรรษที่ 6 และเขาแสดงความคิดเห็นไว้ว่า ลังกาสุกะ ไม่ควรไปซ้ำซ้อนกับไทรบุรีน่าจะอยู่ทางปัตตานีทั้งหมด
(D.G.E. Hall) ได้กล่าวถึงรัฐเก่าแก่สามรัฐในแหลมมาลายู คือรัฐหลังสยิว (ลังกาสุกะ) ตันหม่าหลิง (ตามพรลิงก์ หรือนครศรีธรรมราช) ตักโกลา (ตะกั่วป่า) ต่อมารัฐทั้งสามนี้ตกอยู่ใต้อำนาจของอาณาจักรฟูนันซึ่งเป็นอาณาจักรที่มีกองเรือยิ่งใหญ่ อยู่ในทะเลจีนตอนใต้ เมื่อตกอยู่ใต้อำนาจแล้วก็รับเอาวัฒนธรรมต่างๆ มาจากอินเดีย
ต่อมาพุทธศตวรรษที่ 11 อาณาจักรฟูนันเสื่อมสลายลง รัฐต่าง ๆ ที่ตกอยู่ใต้อิทธิพลก็แยกตัวเป็นอิสระ ลังกาสุกะภายใต้การนำของพระเจ้าภคทัตก็ฟื้นฟูอำนาจของตนเองได้อย่างรวดเร็ว
พุทธศตวรรษที่ 14-15 ลังกาสุกะกลับตกอยู่ใต้อำนาจของอาณาจักรศรีวิชัย พระเจ้าราเชนทร์โจระที่ 1 แห่งอินเดีย ยกทัพเรือข้ามมายึดรัฐต่าง ๆของศรีวิชัย ลังกาสุกะก็พลอยถูกยึดไปด้วย ต่อมาอีกอาณาจักรมัชปาหิตแห่งชวากลับเข้ามามีอำนาจ และชื่อลังกาสุกะค่อยเลือนจางหายไป แสดงว่าอาณาจักรลังกาสุกะตะวันออกนั้นอยู่ที่ปัตตานีนี่เอง เนื่องจากยุคลังกาสุกะ เมืองปัตตานียังไม่เกิดขึ้น และต้องนับถือพุทธศาสนาด้วยเพราะเมื่อเกิดการขุดค้นขึ้นพบทั้งศาสนาฮินดูและพุทธศาสนา เช่น สถูปสำคัญในพระพุทธศาสนาที่อำเภอยะรัง ที่ได้บูรณะตกแต่งแล้วก็แสดงถึงดินแดนในพระพุทธศาสนา และลังกาสุกะต้องมีอายุประมาณ 1,500 ปีมาแล้ว นับว่าเก่าแก่มาก แต่พึ่งรู้จักกันจริงไม่กี่ปีมานี้
การเข้ามาของศาสนาอิสลาม
กล่าวคือ ประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 15 (ประมาณ พ.ศ. 2000 เศษ ในยุคพญาอินทิรา) ศาสนาอิสลามได้เผยแพร่เข้าสู่ปัตตานีและปาหัง ก่อนที่จะเข้าสู่มาละกา ในช่วงนั้นกษัตริย์หรือสุลต่านเมืองปัตตานีล้มป่วย ไม่มีหมอในปัตตานีรักษาได้ เกิดการตีฆ้องร้องป่าวหาผู้รักษามีแขกปาซายจากสุมาตราชื่อเช็กสะอิ หรือ เช็กซาฟียิดดิน ได้ขันอาสามารักษาสุลต่านแต่ขอคำมั่นสัญญาว่าถ้ารักษาหายแล้ว พระองค์จะต้องเข้ารีตนับถือศาสนาอิสลาม เมื่อได้รักษาจนหายแต่เมื่อหายแล้วสุลต่านไม่ยอมเปลี่ยนศาสนาเลยป่วยหนักอีก กลับมารักษากันใหม่ขอคำสัญญากันอีกกลับไปกลับมาเช่นนี้ถึง 3 ครั้ง สุลต่านเลยต้องยอมเปลี่ยนศาสนามานับถือศาสนาอิสลามหมอผู้รักษาได้รับการแต่งตั้งเป็น ดาโต๊ะ สะรี ยารา ฟาเก้าฮ์ (ผู้รู้ทางศาสนายอดเยี่ยม)เมื่อเจ้าเมืองเปลี่ยนศาสนาใหม่ โอรส ธิดา ขุนนาง และชาวเมืองก็เริ่มเปลี่ยนศาสนาตามเป็นศาสนาอิสลามต่อจากนั้นก็เริ่มมีการทำลาย พระพุทธรูป พุทธสถาน เทวรูป และเทวาลัย อาณาจักรที่เคยนับถือพระพุทธศาสนาอยู่หลายปีจึงมีโบราณวัตถุทางพุทธศาสนาน้อยเต็มที หรือแทบจะไม่มีเลย ก็มีพบบ้างกันที่ยะรังเมืองโบราณ []
ราชทูตลังกาสุกะ
ที่จตุรัสเทียนอันเหมิน กรุงปักกิ่ง มีภาพปรากฏอยู่ในจดหมายเหตุราชวงศ์เหลียง หรือเหลียงชู ของจีน (พ.ศ. 1045-1106) บุคคลในภาพชื่อ อชิตะ (จีนออกเสียงเป็น อาเซ่อตัว) เป็นราชทูตจากประเทศลังกาสุกะ (จีนออกเสียงเป็น หลังหยาสิ้ว บางแหล่งเรียก หลาง หย่า ซุ่ย) มีคำบรรยายภาพว่า "เป็นคนหัวหยิกหยอง น่ากลัว นุ่งผ้า โจงกระเบน ห่มสไบเฉียง สวมกำไลที่ข้อเท้าทั้งสอง ผิวค่อนข้างดำ" โดยเดินทางไปเยือนราชสำนักจีนในปี พ.ศ. 1058 สมัยฮ่องเต้แห่งราชวงศ์เหลียง ทางการจีนได้เขียนภาพ อาเซ่อตัว ไว้เป็นที่ระลึกพระเจ้าแผ่นดินแห่งลังกาสุกะในเวลานั้น ทรงพระนามว่า ผอเจี่ยต้าตัว หรือ ภัคทัตตเหลียงชู ซึ่งตรงกับรัชสมัย (ประมาณ พ.ศ. 1060)
อ้างอิง
- Guy, John (2014). Lost Kingdoms: Hindu-Buddhist Sculpture of Early Southeast Asia. Yale University Press. pp. 28–29. ISBN .
- W. Linehan (April 1948). "Langkasuka The Island of Asoka". Journal of the Malayan Branch of the Royal Asiatic Society. 21 (1 (144)): 119–123. JSTOR 41560480.
- ประวัติศาสตร์อาณาจักรลังกาสุกะ (นครปัตตานี)http://blog.eduzones.com/tambralinga/3310 2010-01-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ปัตตานี คือ ลังกาสุกะ http://nikrakib.blogspot.com/2007/08/blog-post_27.html
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
lngkasuka epnxanackrmlayuobran hindu phuthth thitngxyuinkhabsmuthrmlayu chuxmithimacakphasasnskvt klawknwaepnkhasmaskhxngkhawa lngka aeplwa aednsukskaw kb suka aeplwa khwamsukhxnlnphn twxanackrepnhnunginxanackrthiekaaekthisudinkhabsmuthrmlayu aetyngkhngkhdaeynginthitngkhxngxanackr sthanthithiepnipidtamkarkhnphbkhxngnkobrankhdixyuthixaephxyarng cnghwdpttani odykxtnginstwrrsthi 2lngkasukaphuththstwrrsthi 7 phuththstwrrsthi 23emuxnghlwngkrungoktamhlikhy x yarng c pttani inpccubn phasathwipmlayuobransasnasasnahindu sasnaphuththkarpkkhrxngrachathipityraya prawtisastr kxtngphuththstwrrsthi 7 sinsudphuththstwrrsthi 23thdipxanackrpatanipccubnepnswnhnungkhxngmaelesiy ithy rayngancaktanan phngsawdarekxdah xanackrnikxtngaelatngchuxodymaorng mhawngs xikkhxesnxhnungklawwa chuxxanackrxacmacakkarsmasrahwang lngka kb xosk kstriynkrbchawhindurachwngsomriyaintanan aelanklaxananikhmchawxinediyyukhaerkkhxngkhxkhxdmlayuidtngchuxxanackrlngkasuka ephuxykyxngekiyrtikhxngphraxngkhxanackrlngkasukainyukhobranlngkasukaepnnkhrrthtngaetphuththstwrrsthi 7 rungeruxngyawnanthung 1 400 pi cungesuxmslayip imichephraathukxanacidekhati hakaetthaelthxyhangtwemuxngxxkipthukthi cnphukhnphaknthingemuxng saodnnathwmokhlnthmthbtwemuxngaethbhmd ephingkhudecxsakimnanmani echuxknwakhninhmubankaaelcin x emuxngpttanipccubnkhuxphusubechuxsaychawemuxnglngkasuka thiepnlukkhrungchawcinkbkhnphunemuxngthitxngthingemuxngekamaxyuinpttaniemux 1 000 kwapithiaelw xanackrobranyingihythiechuxwamiphunthikhlumipthungtxnehnuxmaelesiy ephraaphbsing kxsrangobran aebbediywkbthiphbinpttaniaethwrimfngaemnabucngaelapadnglawas pakaemnalawas inrthekhdah hnngsuxehlanneriykxyangcudchudimdungdudicsknidwa emuxngobranyarng ephraasakemuxngekaphbthi x yarng thngthimikhwamekaaekrungeruxngmakxn xanackrsriwichyaelaxanackrthwarawditng 500 pi sriwichyaelathwarawditnginphuththstwrrsthi 12 lngkasukaepnnkhrrththiolktawntktawnxxk ruckknaelw tngaetphuththstwrrsthi 7 emuxngobranyarngcungimichemuxngekathrrmda hakaetepnemuxngthankhrrthyingihy smyobranekakukinphumiphakhniodyaeth emuxngobranthi krmsilpakr kalngkhudaetngxyuthi xaephxyarng inkhnanikhux sunykarpkkhrxng xanackrlngkasuka inemuxbnthuk chawxinediyaela chawxahrb thieriykemuxngniwa lngkasuka kbbnthuk khxngchawcinthieriyk hlang hya suy lwnrabuthisthangaela thitngtrngknhmd n s phrthiphy phnthuokwith hwhnaklumnganwichakar obrankhdi phukhwbkhumkarkhudaetngaela burnamatngaetaerkthung 16 pi xthibaywa pttaniwnnikhux dinaednekidihm emuxthaelthxy hangfngxxkipthukthi lngkasukaelyklayepn emuxngphayinaephndin xyuhangchayfngthael inwnniekuxb 25 km chayfngbriewnthaeruxihykhrngonn pccubnnikhux khlxngpaelahmubankaaelbusa thaeruxihy hmubanethiyraya hmubanesakraodngerux t tnhyngluola x emuxng pttani rxngrxythangobrankhdi chiihehnwamilksnaepnemuxngeriyngknthung 3 emuxngdwykn idaek emuxngthikalngkhudxyuthibanwd bancaela aelabanpraaew phrarachwng xaephxyarng banpraaewxyurimthael milksna khaykhupratuhxrbtammumemuxng khadwanacaepnprachakhm 3 aehng thixyurwmknmakkwaemuxng odyrwmaelwphunthidngklawni phbrxngrxythangobrankhdithungkwa 40 aehng lngmuxkhudipephiyngimkiaehngethann chinihy thikalngkhudxyuepnsasnsthanin sasnaphrahmnaela phuththsasna thngphbkhacarukphasapllwaxinediyobranaelaphasasnskvtdwy bngbxkxyangednchd aerkerimnnchawlngkasukanbthuxsasnaphrahmn epliynmathuxphuthth aelwepliynmaepnxislamtamladb lngkasukaefuxngenuxngmacakthitngepnkungklangesnthangkhakhayolktawntkaelatawnxxk epnsunyklangkarsuxkhayaelkepliynsinkhaaelasunykhaekhruxngethssinkhasakhykhxngphumiphakhni thidngthisud idaekimhxm aelakayan sungxinediy xahrbynyuorptangtxngkarxyangmak naechuxwakayanchndithisudepnkayanlngkasuka ephraaekhruxnghxmthacakkayanthiolkxahrb aelachatimuslimichxyangkwangkhwang enuxngcakepnekhruxnghxm thiimmiaexlkxhxlecuxpnimphid hlkthangsasnathichuxwa ismis ebnosxin thiyngichknmacnthukwnni lngkasukaepnthaerux sngxxkthiihymak lngkasukaxacepnxanackrediywinolkthilmslayipimichephraakarsngkhramhruxorkhrabad hakekidcakthaelthxyhangxxkiperuxy emuximsamarththamahakinidehmuxnedim phukhnkxphyphthingbanthingemuxngipxyuthixunknhmd phrxm kbxanackrxuniklekhiyngecriyrungeruxngkhunmaaethnthisunyklangxanackrlngkasukaxanackrlngkasukaepnxanackrobran misunyklangtngxyubriewn xaephxyarng cnghwdpttani mixanaekhtpkkhrxngkwangkhwangkhrxbkhlumkhabsmuthrmlayutxnlangthnghmdodyphthnamacakemuxngthaelk khxngchawphunemuxngcnetibotepnrthaelamithanaepnxanackrmatngaetphuththstwrrsthi 7 epnsunyklangkarkhaaelasasna cnidlmslayipintnphuththstwrrsthi 21 pccubnpraktrxngrxysasnsthanpraephthsthupecdiykhnadihy canwn 33 aehng inphunthipraman 9 tarangkiolemtrcaktananaelacdhmayehtucaktanan ithrburi pttani klawthungemuxnglngkasuka khxngphraecamaorngmhawngshruxrachamarngmhawngsa txmakhawalngkasukakhxy eluxnhayip klayepnkhawapttanidarussalamekhamaaethnthi cdhmayehturachwngsehliyng ph s 1045 1099 bnthukiwwaxanackrlngkasuka sthapnakhuninrawphuththstwrrsthi 7 mixanacpkkhrxngrahwangsxngfngthael khuxdantawntkcrdithrburi aeladantawnxxkthipttanikhxkhwamincdhmayehtunisxdkhlxngkbtananithrburi pttani Paul Wheatly phuechiywchayeruxngaehlmmalayu mikhwamehnwatananithrburi milksnaehmuxnethphniyay aetngkhunemuxchawxinediyedinthangmathunghwemuxngmalayurawphuththstwrrsthi 6 aelaekhaaesdngkhwamkhidehniwwa lngkasuka imkhwripsasxnkbithrburinacaxyuthangpttanithnghmd D G E Hall idklawthungrthekaaeksamrthinaehlmmalayu khuxrthhlngsyiw lngkasuka tnhmahling tamphrlingk hruxnkhrsrithrrmrach tkokla takwpa txmarththngsamnitkxyuitxanackhxngxanackrfunnsungepnxanackrthimikxngeruxyingihy xyuinthaelcintxnit emuxtkxyuitxanacaelwkrbexawthnthrrmtang macakxinediy txmaphuththstwrrsthi 11 xanackrfunnesuxmslaylng rthtang thitkxyuitxiththiphlkaeyktwepnxisra lngkasukaphayitkarnakhxngphraecaphkhthtkfunfuxanackhxngtnexngidxyangrwderw phuththstwrrsthi 14 15 lngkasukaklbtkxyuitxanackhxngxanackrsriwichy phraecaraechnthrocrathi 1 aehngxinediy ykthpheruxkhammayudrthtang khxngsriwichy lngkasukakphlxythukyudipdwy txmaxikxanackrmchpahitaehngchwaklbekhamamixanac aelachuxlngkasukakhxyeluxncanghayip aesdngwaxanackrlngkasukatawnxxknnxyuthipttaniniexng enuxngcakyukhlngkasuka emuxngpttaniyngimekidkhun aelatxngnbthuxphuththsasnadwyephraaemuxekidkarkhudkhnkhunphbthngsasnahinduaelaphuththsasna echn sthupsakhyinphraphuththsasnathixaephxyarng thiidburnatkaetngaelwkaesdngthungdinaedninphraphuththsasna aelalngkasukatxngmixayupraman 1 500 pimaaelw nbwaekaaekmak aetphungruckkncringimkipimanikarekhamakhxngsasnaxislamklawkhux pramankhriststwrrsthi 15 praman ph s 2000 ess inyukhphyaxinthira sasnaxislamidephyaephrekhasupttaniaelapahng kxnthicaekhasumalaka inchwngnnkstriyhruxsultanemuxngpttanilmpwy immihmxinpttanirksaid ekidkartikhxngrxngpawhaphurksamiaekhkpasaycaksumatrachuxechksaxi hrux echksafiyiddin idkhnxasamarksasultanaetkhxkhamnsyyawatharksahayaelw phraxngkhcatxngekharitnbthuxsasnaxislam emuxidrksacnhayaetemuxhayaelwsultanimyxmepliynsasnaelypwyhnkxik klbmarksaknihmkhxkhasyyaknxikklbipklbmaechnnithung 3 khrng sultanelytxngyxmepliynsasnamanbthuxsasnaxislamhmxphurksaidrbkaraetngtngepn daota sari yara faekah phuruthangsasnayxdeyiym emuxecaemuxngepliynsasnaihm oxrs thida khunnang aelachawemuxngkerimepliynsasnatamepnsasnaxislamtxcaknnkerimmikarthalay phraphuththrup phuththsthan ethwrup aelaethwaly xanackrthiekhynbthuxphraphuththsasnaxyuhlaypicungmiobranwtthuthangphuththsasnanxyetmthi hruxaethbcaimmiely kmiphbbangknthiyarngemuxngobran txngkarxangxing rachthutlngkasukathictursethiynxnehmin krungpkking miphaphpraktxyuincdhmayehturachwngsehliyng hruxehliyngchu khxngcin ph s 1045 1106 bukhkhlinphaphchux xchita cinxxkesiyngepn xaesxtw epnrachthutcakpraethslngkasuka cinxxkesiyngepn hlnghyasiw bangaehlngeriyk hlang hya suy mikhabrryayphaphwa epnkhnhwhyikhyxng naklw nungpha ocngkraebn hmsibechiyng swmkailthikhxethathngsxng phiwkhxnkhangda odyedinthangipeyuxnrachsankcininpi ph s 1058 smyhxngetaehngrachwngsehliyng thangkarcinidekhiynphaph xaesxtw iwepnthiralukphraecaaephndinaehnglngkasukainewlann thrngphranamwa phxeciytatw hrux phkhthttehliyngchu sungtrngkbrchsmy praman ph s 1060 xangxingGuy John 2014 Lost Kingdoms Hindu Buddhist Sculpture of Early Southeast Asia Yale University Press pp 28 29 ISBN 978 0300204377 W Linehan April 1948 Langkasuka The Island of Asoka Journal of the Malayan Branch of the Royal Asiatic Society 21 1 144 119 123 JSTOR 41560480 prawtisastrxanackrlngkasuka nkhrpttani http blog eduzones com tambralinga 3310 2010 01 11 thi ewyaebkaemchchin pttani khux lngkasuka http nikrakib blogspot com 2007 08 blog post 27 html