ยุทธนาวีที่ตราฟัลการ์ (อังกฤษ: Battle of Trafalgar, 21 ตุลาคม ค.ศ. 1805) เป็นการกระทำระหว่าง ราชนาวีอังกฤษกับกองเรือผสมของร่วมกับ ในช่วงสงครามประสานมิตรครั้งที่สาม (สิงหาคม-ธันวาคม 1805) ใน สงครามนโปเลียน (1803–1815)
ยุทธนาวีที่ตราฟัลการ์ | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ สงครามประสานมิตรครั้งที่สามในสงครามนโปเลียน | |||||||
ยุทธนาวีที่ตราฟัลการ์ | |||||||
| |||||||
คู่สงคราม | |||||||
สหราชอาณาจักร | จักรวรรดิฝรั่งเศส จักรวรรดิสเปน | ||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||
โฮราชิโอ เนลสัน † | (เชลย) (บาดเจ็บตาย) | ||||||
กำลัง | |||||||
33 เรือรบ (27 ลำในกระบวนรบ) 18,500 นาย | 41 เรือรบ (33 ลำในกระบวนรบ) 26,000 นาย | ||||||
ความสูญเสีย | |||||||
458 เสียชีวิต ทั้งหมด: 1,666 | ฝรั่งเศส: สเปน: ผลพวง: ทั้งหมด: 13,781 |
กองเรือราชนาวีอังกฤษที่มีเรือรบแนวเส้นประจัญบาน 27 ลำภายใต้บัญชาการของพลเรือโทลอร์ดเนลสัน สามารถมีชนะเหนือกองเรือผสมฝรั่งเศส-สเปน 33 ลำ ภายใต้บัญชาการของ พลเรือโท ปีแยร์-ชาร์ล วีลเนิฟว์ แห่งกองทัพเรือฝรั่งเศส ที่ชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของสเปน ทางตะวันตกของแหลมตราฟัลการ์ ซึ่งกองเรือฝรั่งเศสสูญเสียเรือรบไปถึง 22 ลำโดยที่ไม่สามารรถจมเรือรบอังกฤษแม้แต่ลำเดียว
ชัยชนะที่งดงามของอังกฤษครั้งนี้เป็นการยืนยันฐานะของราชนาวีอังกฤษที่ได้สั่งสมมาตลอดศตวรรษที่ 18 ในฐานะกองทัพเรือที่ทรงแสนยานุภาพที่สุด
จุดเริ่มต้น
หลังการปฏิวัติฝรั่งเศส จักรวรรดิฝรั่งเศสที่ 1 ภายใต้การนำของ จักรพรรดินโปเลียน โบนาปาร์ต กลายเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงด้านการทหารโดดเด่นไปทั่วทวีปยุโรป นโปเลียนต้องการจะบุกเกาะอังกฤษเนื่องด้วยเชื่อว่าอังกฤษนั้นมีกองทัพบกที่อ่อนแอ และอังกฤษถือเป็นภัยคุกคามที่น่าเกรงสำหรับฝรั่งเศส เพราะอังกฤษมีกองทัพเรือที่ขึ้นชื่อว่าทรงแสนยานุภาพที่สุดในโลก ที่กองเรือฝรั่งเศสเคยพ่ายแพ้มาแล้วอย่างหมดท่า ซึ่งด้วยราชนาวีอังกฤษนี้เองทำให้อังกฤษมีศักยภาพพอที่จะโจมตีฝรั่งเศสรวมไปถึงประเทศใกล้เคียงได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นแล้วฝรั่งเศสจึงหันไปร่วมมือกับสเปนที่เป็นพันธมิตร ซึ่งกองทัพเรือสเปนก็จัดว่าน่าเกรงขาม
เหตุการณ์
ก่อนการปะทะ
ราชนาวีอังกฤษสามารถปิดล้อมทะเลของฝรั่งเศสได้ ซึ่งนั่นเองส่งผลกระทบต่อการพาณิชย์ของฝรั่งเศสอย่างมาก ฝรั่งเศสเองก็เร่งระดมทรัพยากรป้อนกองทัพเรืออย่างมหาศาล กองทัพเรือฝรั่งเศสสามารถฝ่าวงล้อมของราชนาวีอังกฤษไปรวมกับกองเรือสเปนที่คาดิซได้ ในขณะที่นโปเลียนซ้อมกองทัพบกรออยู่ที่ชายฝั่งทางเหนือของฝรั่งเศส เตรียมยกพลขึ้นบกที่เกาะอังกฤษ
พลเรือโทลอร์ดเนลสัน นำกองเรืออังกฤษไล่ตามกองเรือฝรั่งเศสที่ฝ่าวงล้อมมาได้ จนมาถึงคาดิซ ที่นั่นราชนาวีอังกฤษสามารถโอบล้อมกองเรือผสมฝรั่งเศส-สเปนไว้ได้ กองเรือผสมสามารถที่จะฝ่าวงล้อมหลวมๆของเนลสันมาได้ และมุ่งหน้าไปยังมหาสมุทรแอตแลนติก เพื่อที่กองเรือผสมจะไปรวมกับกองเรือฝรั่งเศสอีก 8 ลำ ซึ่งนั่นมากพอที่จะทลายแนวป้องกันช่องแคบอังกฤษ ลอร์ดเนลสัน นำกองเรืออังกฤษตามกองเรือผสมมาทัน ที่ตราฟัลการ์ โดยที่อังกฤษมีเรือรบ 27 ลำ และกองเรือผสมมี 33 ลำ
แผนของลอร์ดเนลสัน
โดยทั่วไปแล้ว การกระทำยุทธนาวีของยุโรปสมัยนั้น จะทำใช้การแปรขบวนแบบ (อังกฤษ: line of battle, ↑↓) ที่กองเรือของทั้งสองฝั่งจะแล่นสวนกันในทางขนาน และแต่ละฝ่ายจะระดมยิงปืนใหญ่กราบเรือใส่กัน กองเรือทั้งสองจะแล่นเป็นเส้นขนานกันไปยิงปืนใหญ่แลกกันไป
คืนก่อนการรบ ลอร์ดเนลสัน ได้ร่วมวางแผนกับเหล่าผู้บัญชาการเรือ และเขาไม่ยอมใช้วีธีการรบแบบที่ว่านี้ เพราะกองเรือฝ่ายตรงข้ามมีเรือมากกว่า และเรือหลายลำของกองเรือฝ่ายตรงข้ามนั้นมีขนาดและปริมาณปืนมากกว่าของกองเรืออังกฤษด้วย เนลสันจึงตัดสินใจจะแบ่งกองเรือของเขาออกเป็นสองกระบวน โดยที่กองเรือทั้งสองกระบวนนี้จะพุ่งไปตัดกับกระบวนของกองเรือผสมฝรั่งเศส-สเปนจากด้านข้าง ซึ่งการกระทำเช่นนั้นเป็นการบีบให้กองเรือผสมต้องสู้ ไม่สามารถแล่นหนีได้ แต่แผนนี้มีจุดด้อยตรงที่ว่า ระหว่างพุ่งเข้าหากองเรือผสม กองเรืออังกฤษจะถูกระดมยิงใส่โดยที่ไม่สามารถตอบโต้ได้เลย ซึ่งแน่นอนว่าเรือที่นำกระบวนกองเรืออังกฤษนั้นจะเสียหายมากที่สุด มีโอกาสสูงที่จะอัปปางก่อนถึงกองเรือผสม
วันปะทะ
เช้าวันรุ่งขึ้นกองเรืออังกฤษทำตามแผน ลอร์ดเนลสัน นำเรือธงของตนชื่อ เรือหลวงวิกตอรี (HMS Victory) มาเป็นเรือหัวกระบวนในแถวแรก คอลลิงวูด รองแม่ทัพของเนลสันก็นำเรือของตน HMS Royal Sovereign มานำหัวกระบวนในแถวที่สอง กองเรืออังกฤษพุ่งฝ่าดงกระสุนเข้าหากองเรือผสม ก่อนเข้าปะทะเนลสันให้ธงสัญญาณของเรือหลวงวิคตอรีแปรสัญญาณว่า "อังกฤษหวังว่าทุกนายจะทำตามหน้าที่" (England expects that every man will do his duty)
เนื่องจากวันนั้นกระแสลมอ่อน กองเรืออังกฤษใช้เวลาเกือบชั่วโมงในการฝ่าเข้าหากองเรือผสม เรืออังกฤษบางลำโดนยิงเสากระโดงหักแล่นไปไหนไม่ได้ แต่เนื่องจากกองเรืออังกฤษเข้าปะทะเป็นเส้นตรง กองเรือผสมจึงยิงได้แต่เรืออังกฤษลำหน้าๆเท่านั้น เมื่อกระบวนเรืออังกฤษสามารถทะลวงกระบวนทัพของกองเรือผสมได้ ก็เปิดฉากระดมยิงปืนใหญ่ทั้งสองกราบใส่กองเรือผสม โดยที่เรืออังกฤษลำหลังๆซึ่งไม่ได้รับความเสียหายเลยก็รีบเข้ามาช่วยระดมยิงกองเรือผสม ผลก็คือกระบวนทัพของกองเรือผสมส่วนกลางกับส่วนหลังนั้นโดนกองเรืออังกฤษเข้าโจมตีโดยที่กองเรือผสมส่วนหน้าไม่สามารถช่วยเหลือได้ เพราะการจะช่วยกองเรือส่วนหลังจะต้องกลับไปอ้อมเรือมาซึ่งเสียเวลามากและคงจะไม่ทันการ ดังนั้นแล้ว กองเรือส่วนหน้าจึงตัดสินใจหนีไป ระหว่างการรบนี้ ลอร์ดเนลสันถูกยิงเข้ากระทบหัวไหล่ทะลุตัดกระดูกสันหลัง เขาถูกนำพาตัวลงไปห้องใต้ดาดฟ้าทันที การรบดำเนินไปจนชัยชนะมาเยือนราชนาวีอังกฤษ หลังเนลสันทราบผลการรบ เขาก็ถึงแก่กรรมราว 16.30 น. ราวสามชั่วโมงหลังถูกยิง
หลังการปะทะ
ภายหลังข่าวชัยชนะไปถึงกรุงลอนดอน ชาวอังกฤษปลาบปลื้มยินดีในชัยชนะครั้งนี้เป็นอย่างมาก อังกฤษไม่ต้องกลัวการยกพลขึ้นบกของนโปเลียนอีก เนื่องด้วยกองเรือที่เหลือของฝรั่งเศสนั้นไม่มากพอที่จะพิชิตอังกฤษอีกต่อไป
เมื่อนโปเลียนสูญเสียกองเรือผสมนี้ไป ทำให้ความหวังของนโปเลียนที่จะยึดเกาะอังกฤษก็ล่มไปด้วย กองทัพของนโปเลียนที่รอบุกอังกฤษ ซึ่งตอนแรกตั้งชื่อว่า Armée de l'Angleterre (กองทัพแห่งอังกฤษ) ถูกเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Grande Armée (กองทัพใหญ่) แล้วนำทัพนี้เดินทางไปทางตะวันออก ซึ่งกองทัพของนโปเลียนนี้สามารถพิชิตดินแดนต่างๆได้อย่างไพศาล จนกลายเป็นที่หวั่นเกรงไปทั้งทวีป
อ้างอิง
- Adkin 2007, p. 524 .
- Adkins 2004, p. 190 .
- Hibbert 1994, p. 376 .
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
yuththnawithitraflkar xngkvs Battle of Trafalgar 21 tulakhm kh s 1805 epnkarkratharahwang rachnawixngkvskbkxngeruxphsmkhxngrwmkb inchwngsngkhramprasanmitrkhrngthisam singhakhm thnwakhm 1805 in sngkhramnopeliyn 1803 1815 yuththnawithitraflkarswnhnungkhxng sngkhramprasanmitrkhrngthisaminsngkhramnopeliynyuththnawithitraflkarwnthi21 tulakhm kh s 1805sthanthiaehlmtraflkar sepnphlchychnakhxngxngkvs nopeliynedinthphipthangtawnxxkkhusngkhramshrachxanackrckrwrrdifrngess ckrwrrdisepnphubngkhbbychaaelaphunaohrachiox enlsn echly badecbtay kalng33 eruxrb 27 lainkrabwnrb 18 500 nay41 eruxrb 33 lainkrabwnrb 26 000 naykhwamsuyesiy458 esiychiwit 1 208 badecb thnghmd 1 666frngess 10 eruxthukyud 1 eruxxppang 2 218 tay 1 155 badecb 4 000 thukcbkum sepn 11 eruxthukyud 1 025 tay 1 383 badecb 4 000 thukcbkum phlphwng echlyraw 3 000 khn cmnacakphayuhlngcakkarsurb thnghmd 13 781bthkhwamnixangxingkhristskrach khristthswrrs khriststwrrs sungepnsarasakhykhxngenuxha kxngeruxrachnawixngkvsthimieruxrbaenwesnpracyban 27 laphayitbychakarkhxngphleruxothlxrdenlsn samarthmichnaehnuxkxngeruxphsmfrngess sepn 33 la phayitbychakarkhxng phleruxoth piaeyr charl wilenifw aehngkxngthpheruxfrngess thichayfngthangtawntkechiyngitkhxngsepn thangtawntkkhxngaehlmtraflkar sungkxngeruxfrngesssuyesiyeruxrbipthung 22 laodythiimsamarrthcmeruxrbxngkvsaemaetlaediyw chychnathingdngamkhxngxngkvskhrngniepnkaryunynthanakhxngrachnawixngkvsthiidsngsmmatlxdstwrrsthi 18 inthanakxngthpheruxthithrngaesnyanuphaphthisudcuderimtnhlngkarptiwtifrngess ckrwrrdifrngessthi 1 phayitkarnakhxng ckrphrrdinopeliyn obnapart klayepnpraethsthimichuxesiyngdankarthharoddednipthwthwipyuorp nopeliyntxngkarcabukekaaxngkvsenuxngdwyechuxwaxngkvsnnmikxngthphbkthixxnaex aelaxngkvsthuxepnphykhukkhamthinaekrngsahrbfrngess ephraaxngkvsmikxngthpheruxthikhunchuxwathrngaesnyanuphaphthisudinolk thikxngeruxfrngessekhyphayaephmaaelwxyanghmdtha sungdwyrachnawixngkvsniexngthaihxngkvsmiskyphaphphxthicaocmtifrngessrwmipthungpraethsiklekhiyngidxyangngayday dngnnaelwfrngesscunghniprwmmuxkbsepnthiepnphnthmitr sungkxngthpheruxsepnkcdwanaekrngkhamehtukarnkxnkarpatha rachnawixngkvssamarthpidlxmthaelkhxngfrngessid sungnnexngsngphlkrathbtxkarphanichykhxngfrngessxyangmak frngessexngkerngradmthrphyakrpxnkxngthpheruxxyangmhasal kxngthpheruxfrngesssamarthfawnglxmkhxngrachnawixngkvsiprwmkbkxngeruxsepnthikhadisid inkhnathinopeliynsxmkxngthphbkrxxyuthichayfngthangehnuxkhxngfrngess etriymykphlkhunbkthiekaaxngkvs phleruxothlxrdenlsn nakxngeruxxngkvsiltamkxngeruxfrngessthifawnglxmmaid cnmathungkhadis thinnrachnawixngkvssamarthoxblxmkxngeruxphsmfrngess sepniwid kxngeruxphsmsamarththicafawnglxmhlwmkhxngenlsnmaid aelamunghnaipyngmhasmuthraextaelntik ephuxthikxngeruxphsmcaiprwmkbkxngeruxfrngessxik 8 la sungnnmakphxthicathlayaenwpxngknchxngaekhbxngkvs lxrdenlsn nakxngeruxxngkvstamkxngeruxphsmmathn thitraflkar odythixngkvsmieruxrb 27 la aelakxngeruxphsmmi 33 la aephnkhxnglxrdenlsn aephnphaphaesdngsthankarnrawethiyngwn kxngeruxxngkvs eruxrbfrngess eruxrbsepn odythwipaelw karkrathayuththnawikhxngyuorpsmynn cathaichkaraeprkhbwnaebb xngkvs line of battle thikxngeruxkhxngthngsxngfngcaaelnswnkninthangkhnan aelaaetlafaycaradmyingpunihykraberuxiskn kxngeruxthngsxngcaaelnepnesnkhnanknipyingpunihyaelkknip khunkxnkarrb lxrdenlsn idrwmwangaephnkbehlaphubychakarerux aelaekhaimyxmichwithikarrbaebbthiwani ephraakxngeruxfaytrngkhammieruxmakkwa aelaeruxhlaylakhxngkxngeruxfaytrngkhamnnmikhnadaelaprimanpunmakkwakhxngkxngeruxxngkvsdwy enlsncungtdsiniccaaebngkxngeruxkhxngekhaxxkepnsxngkrabwn odythikxngeruxthngsxngkrabwnnicaphungiptdkbkrabwnkhxngkxngeruxphsmfrngess sepncakdankhang sungkarkrathaechnnnepnkarbibihkxngeruxphsmtxngsu imsamarthaelnhniid aetaephnnimicuddxytrngthiwa rahwangphungekhahakxngeruxphsm kxngeruxxngkvscathukradmyingisodythiimsamarthtxbotidely sungaennxnwaeruxthinakrabwnkxngeruxxngkvsnncaesiyhaymakthisud mioxkassungthicaxppangkxnthungkxngeruxphsm wnpatha phleruxoth lxrdenlsn langkhwa thukyingkhnathibychakarxyubndadfaerux HMS Victory echawnrungkhunkxngeruxxngkvsthatamaephn lxrdenlsn naeruxthngkhxngtnchux eruxhlwngwiktxri HMS Victory maepneruxhwkrabwninaethwaerk khxllingwud rxngaemthphkhxngenlsnknaeruxkhxngtn HMS Royal Sovereign manahwkrabwninaethwthisxng kxngeruxxngkvsphungfadngkrasunekhahakxngeruxphsm kxnekhapathaenlsnihthngsyyankhxngeruxhlwngwikhtxriaeprsyyanwa xngkvshwngwathuknaycathatamhnathi England expects that every man will do his duty enuxngcakwnnnkraaeslmxxn kxngeruxxngkvsichewlaekuxbchwomnginkarfaekhahakxngeruxphsm eruxxngkvsbanglaodnyingesakraodnghkaelnipihnimid aetenuxngcakkxngeruxxngkvsekhapathaepnesntrng kxngeruxphsmcungyingidaeteruxxngkvslahnaethann emuxkrabwneruxxngkvssamarththalwngkrabwnthphkhxngkxngeruxphsmid kepidchakradmyingpunihythngsxngkrabiskxngeruxphsm odythieruxxngkvslahlngsungimidrbkhwamesiyhayelykribekhamachwyradmyingkxngeruxphsm phlkkhuxkrabwnthphkhxngkxngeruxphsmswnklangkbswnhlngnnodnkxngeruxxngkvsekhaocmtiodythikxngeruxphsmswnhnaimsamarthchwyehluxid ephraakarcachwykxngeruxswnhlngcatxngklbipxxmeruxmasungesiyewlamakaelakhngcaimthnkar dngnnaelw kxngeruxswnhnacungtdsinichniip rahwangkarrbni lxrdenlsnthukyingekhakrathbhwihlthalutdkraduksnhlng ekhathuknaphatwlngiphxngitdadfathnthi karrbdaeninipcnchychnamaeyuxnrachnawixngkvs hlngenlsnthrabphlkarrb ekhakthungaekkrrmraw 16 30 n rawsamchwomnghlngthukying hlngkarpatha phayhlngkhawchychnaipthungkrunglxndxn chawxngkvsplabplumyindiinchychnakhrngniepnxyangmak xngkvsimtxngklwkarykphlkhunbkkhxngnopeliynxik enuxngdwykxngeruxthiehluxkhxngfrngessnnimmakphxthicaphichitxngkvsxiktxip emuxnopeliynsuyesiykxngeruxphsmniip thaihkhwamhwngkhxngnopeliynthicayudekaaxngkvsklmipdwy kxngthphkhxngnopeliynthirxbukxngkvs sungtxnaerktngchuxwa Armee de l Angleterre kxngthphaehngxngkvs thukepliynchuxihmepn Grande Armee kxngthphihy aelwnathphniedinthangipthangtawnxxk sungkxngthphkhxngnopeliynnisamarthphichitdinaedntangidxyangiphsal cnklayepnthihwnekrngipthngthwipxangxingAdkin 2007 p 524harvnb error no target CITEREFAdkin2007 Adkins 2004 p 190harvnb error no target CITEREFAdkins2004 Hibbert 1994 p 376harvnb error no target CITEREFHibbert1994 wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb yuththnawithitraflkar