บทความนี้ไม่มีจาก |
ยุคโจมง (ญี่ปุ่น: 縄文時代; โรมาจิ: Jōmon-jidai) หมายถึงคาบเวลาในยุคก่อนประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น ประมาณ ถึง
นักวิชาการส่วนใหญ่เห็นพ้องกันว่า เมื่อประมาณ ระหว่างหมู่เกาะญี่ปุ่นกับแผ่นดินใหญ่ของทวีปเอเชียยังคงเชื่อมต่อกันด้วยแผ่นน้ำแข็ง โดยอาศัยหลักฐานทางโบราณคดี นักวิชาการสันนิษฐานว่ามนุษย์ Homo sapiens ได้อพยพจากทางตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ของเอเชียมาอาศัยบนหมู่เกาะญี่ปุ่นในช่วง และดำรงชีวิตแบบนักล่า-เก็บของป่าและใช้เครื่องมือหิน นักโบราณคดีได้ค้นพบเครื่องมือหิน ที่อยู่อาศัย และซากดึกดำบรรพ์ของมนุษย์ในยุคนั้นทั่วหมู่เกาะญี่ปุ่น นอกจากนี้ การศึกษาใน พ.ศ. 2531 ยังชี้ว่าชาวญี่ปุ่นมีพื้นฐานทางพันธุกรรมร่วมกับชาวเอเชียตะวันออก
คำว่า โจมง ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า ลายเชือก ซึ่งสื่อถึงลวดลายบนภาชนะหรือตุ๊กตาดินเผาในยุคนั้นซึ่งทำโดยใช้เชือกพันรอบกิ่งไม้แล้วกดทาบลงบนวัสดุ
ยุคโจมงตั้งเค้าและโจมงเริ่มแรก (10,000 – 4,000 ก่อน ค.ศ.)
รูปแบบการดำรงชีวิตของมนุษย์ที่เริ่มมีรูปแบบคงที่นั้น เริ่มขึ้นเมื่อประมาณ ถึงยุคหินกลาง หากแต่นักวิชาการบางคนเสนอว่าเป็นยุคหินใหม่ที่มีคุณลักษณะบางอย่างของทั้งยุคหินกลางและหินใหม่ ในยุคดังกล่าวนี้ สมาชิกของวัฒนธรรมโจมงซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายกลุ่ม และเป็นไปได้ว่าเป็นบรรพบุรุษของชาวไอนุในญี่ปุ่นปัจจุบัน ได้ทิ้งร่องรอยทางโบราณคดีไว้อย่างชัดเจนที่สุด วัฒนธรรมโจมงนี้อาจนับได้อย่างคร่าว ๆ ว่าอยู่ร่วมสมัยกับอารยธรรมในเมโสโปเตเมีย ลุ่มแม่น้ำไนล์ และลุ่มแม่น้ำสินธุ
เครื่องดินเผายุคแรก
โดยอาศัยหลักฐานทางโบราณคดี ชาวโจมงอาจเป็นคนพวกแรกในโลกที่ทำขึ้นเมื่อ อีกทั้งยังเป็นพวกแรกที่ทำเครื่องมือหินอีกด้วย ความเก่าแก่ของเครื่องดินเผาเหล่านี้ได้รับการระบุภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง โดยวิธีการหาอายุจากคาร์บอนกัมมันตรังสี อย่างไรก็ตาม นักวิชาการชาวญี่ปุ่นบางคนเชื่อว่าการผลิตเครื่องดินเผาน่าจะเกิดขึ้นบนแผ่นดินใหญ่ก่อน เนื่องจากแหล่งเครื่องดินเผาในบริเวณซึ่งอยู่ในประเทศจีนและรัสเซียปัจจุบันนั้นได้ผลิตเครื่องดินเผาซึ่ง "อาจจะเก่าพอ ๆ กับเครื่องดินเผาถ้ำฟุกุอิ แม้จะไม่เก่ากว่าก็ตาม" ชาวโจมงได้ปั้นตุ๊กตาและภาชนะจากดินเหนียวและทำลวดลายอย่างซับซ้อนด้วยการกดดินที่ยังหมาดอยู่ด้วยทั้งแบบที่ฟั่นเป็นเกลียวและไม่ฟั่น และกิ่งไม้
รูปแบบของยุคหินใหม่
โดยทั่วไป การผลิตเครื่องดินเผาสามารถบอกเป็นนัยได้ถึงรูปแบบการดำรงชีวิตแบบอยู่ติดที่ ด้วยข้อเท็จจริงที่ว่าเครื่องดินเผานั้นแตกหักได้ง่ายและย่อมไม่มีประโยชน์กับผู้ดำรงชีวิตแบบหาของป่า-ล่าสัตว์ซึ่งต้องย้ายถิ่นฐานอยู่เสมอ ด้วยเหตุนี้ ชาวโจมงจึงน่าจะเป็นคนพวกแรกในโลกที่ดำรงชีวิตแบบอยู่ติดที่ หรืออย่างน้อยก็เป็นแบบกึ่งติดที่ ชาวโจมงใช้เครื่องมือหินทั้งแบบที่ขึ้นรูปด้วยการสกัดและการบด และใช้ธนู อีกทั้งยังน่าจะชำนาญในการหาของป่า-ล่าสัตว์และการประมงทั้งชายฝั่งและน้ำลึก ชาวโจมงได้เริ่มทำการเกษตรขั้นตั้นและอาศัยในถ้ำ ซึ่งภายหลังได้ย้ายมาอาศัยในหลุมขุดตื้น ๆ และบ้านที่สร้างขึ้นบนพื้นดิน ร่องรอยที่เหลือของที่อาศัยเหล่านี้เป็นประโยชน์สำหรับการศึกษาทางโบราณคดีในภายหลัง ร่องรอยเหล่านี้เองเป็นเหตุให้นักวิชาการส่วนหนึ่งยกให้ญี่ปุ่นเป็นแหล่งที่เริ่มต้นทำการเกษตรเป็นที่แรกในโลกเมื่อ ก่อนที่เกษตรกรรมจะแพร่หลายในตะวันออกกลางถึงสองพันปี อย่างไรก็ตาม หลักฐานทางโบราณคดีบางอย่างชี้ว่าการทดลองทำการเกษตรบนเนินเขาและในหุบเขาต่าง ๆ ของเขตพระจันทร์เสี้ยวอันอุดมสมบูรณ์ในบริเวณที่ปัจจุบันเป็นประเทศซีเรีย จอร์แดน ตุรกี และอิรักนั้น มีมาแล้วตั้งแต่ประมาณ
การขยายตัวของประชากร
วัฒนธรรมแบบกึ่งอยู่ติดที่นี้ได้นำไปสู่การเพิ่มขึ้นของประชากรอย่างสำคัญ จนกระทั่งมีหลักฐานว่าวัฒนธรรมโจมงมีความหนาแน่นประชากรสูงที่สุดแห่งหนึ่งในบรรดากลุ่มประชากรที่ดำรงชีวิตด้วยการล่าสัตว์ การศึกษาแผนที่ทางพันธุกรรมโดย ได้แสดงให้เห็นรูปแบบของการขยายตัวทางพันธุกรรมจากพื้นที่ในทะเลญี่ปุ่นไปยังพื้นที่อื่น ๆ ในเอเชียตะวันออก การขยายตัวครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งที่สำคัญที่สุดเป็นอันดับสามของเอเชียตะวันออก (รองจาก "การขยายตัวครั้งใหญ่" จากทวีปแอฟริกา และการขยายตัวครั้งที่สองจากตอนเหนือของไซบีเรีย) ซึ่งสื่อถึงการขยายตัวทางภูมิศาสตร์ในยุคโจมงตอนต้น การศึกษาเหล่านี้ยังชี้ว่าการขยายตัวของกลุ่มประชากรชาวโจมงครั้งนี้อาจแผ่ไปจนถึงทวีปอเมริกาผ่านเส้นทางเลียบชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก
ยุคหลัก ๆ
ยุคโจมงตั้งเค้า (10,000 - 7,500 ก.ค.ศ.) :
- ลายปั้นแปะ
- ลายเล็บกด
- ลายเชือกทาบ
- มุโระยะล่าง
ยุคโจมงเริ่มแรก (7,500 - 4,000 ก.ค.ศ.) :
- อิงุซะ
- อินะริดะอิ
- มิโตะ
- ทะโดะล่าง
- ทะโดะบน
- ชิโบะงุชิ
- คะยะมะ
ยุคโจมงตอนต้นถึงท้ายสุด (4,000 – 400 ก.ค.ศ.)
ยุคโจมงตอนต้นและตอนกลางนั้นมีการขยายตัวของประชากรอย่างมาก ซึ่งเห็นได้จากปริมาณของหลักฐานที่ขุดพบได้จากสองยุคนี้ ทั้งสองยุคดังกล่าวสอดคล้องกับกับช่วงภูมิอากาศร้อนสุดในยุคโฮโลซีน (ระหว่าง ถึง ) ซึ่งอุณหภูมิเฉลี่ยขึ้นสูงกว่าปัจจุบันหลายองศาเซลเซียส และระดับน้ำทะเลสูงกว่าปัจจุบันประมาณ 5 ถึง 6 เมตร งานศิลปะที่งดงามเช่นภาชนะดินเผารูปเปลวไฟซึ่งประดับประดาอย่างซับซ้อนนั้นเกิดขึ้นในยุคนี้ หลังจาก ภูมิอากาศเริ่มเย็นลง และประชากรเริ่มหดตัวลงอย่างมาก การค้นพบแหล่งทางโบราณคดีหลัง 1,500 ปีก่อนคริสต์ศักราชมีจำนวนน้อยลง
เมื่อถึงช่วงท้ายของยุคโจมง ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างสำคัญเกิดขึ้นในแง่โบราณคดี โดยการเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวได้พัฒนาจากแบบเริ่มต้นมาเป็นนาข้าวแบบซับซ้อนและเกิดระบบการปกครองขึ้น องค์ประกอบอื่น ๆ หลายอย่างของวัฒนธรรมญี่ปุ่นอาจนับย้อนไปได้ถึงยุคนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งสะท้อนถึงการอพยพเข้ามาผสมปนเปกันของชาวแผ่นดินใหญ่จากเอเชียตอนเหนือและชาวแปซิฟิกตอนใต้ องค์ประกอบเหล่านั้นมีทั้งเทพปกรณัมชินโต ประเพณีการแต่งงาน ลีลาทางสถาปัตยกรรม และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เช่น สิ่งทอ คันธนูที่ทำโดยการอัดไม้ต่างชนิดเข้าด้วยกัน งานโลหะ และงานแก้ว
ยุคหลัก ๆ
ยุคโจมงตอนต้น (4,000 - 3,000 ก.ค.ศ.) :
- ฮะนะซุมิล่าง
- เซะกิยะมะ
- คุโระฮะมะ
- โมะโระอิโซะ เอ, บี, ซี
- จูซันโบะดะอิ
ยุคโจมงตอนกลาง (3,000 - 2,000 ก.ค.ศ.) :
- คะสึซะกะ/โอะตะมะดะอิ
- คะโซะริ อี 1
- คะโซะริ อี 2
ยุคโจมงตอนปลาย (2,000 - 1,000 ก.ค.ศ.) :
- โชะเมียวจิ
- โฮะริโนะอุจิ
- คะโซะริ บี 1
- คะโซะริ บี 2
- อังเงียว 1
ยุคโจมงท้ายสุด (1,000 - 400 ก.ค.ศ.) :
- อังเงียว 2
- อังเงียว 3
อ้างอิง
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniimmikarxangxingcakaehlngthimaidkrunachwyprbprungbthkhwamni odyephimkarxangxingaehlngthimathinaechuxthux enuxkhwamthiimmiaehlngthimaxacthukkhdkhanhruxlbxxk eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir yukhocmng yipun 縄文時代 ormaci Jōmon jidai hmaythungkhabewlainyukhkxnprawtisastrkhxngyipun praman thung nkwichakarswnihyehnphxngknwa emuxpraman rahwanghmuekaayipunkbaephndinihykhxngthwipexechiyyngkhngechuxmtxkndwyaephnnaaekhng odyxasyhlkthanthangobrankhdi nkwichakarsnnisthanwamnusy Homo sapiens idxphyphcakthangtawnxxkaelatawnxxkechiyngitkhxngexechiymaxasybnhmuekaayipuninchwng aeladarngchiwitaebbnkla ekbkhxngpaaelaichekhruxngmuxhin nkobrankhdiidkhnphbekhruxngmuxhin thixyuxasy aelasakdukdabrrphkhxngmnusyinyukhnnthwhmuekaayipun nxkcakni karsuksain ph s 2531 yngchiwachawyipunmiphunthanthangphnthukrrmrwmkbchawexechiytawnxxk khawa ocmng inphasayipunaeplwa layechuxk sungsuxthunglwdlaybnphachnahruxtuktadinephainyukhnnsungthaodyichechuxkphnrxbkingimaelwkdthablngbnwsduyukhocmngtngekhaaelaocmngerimaerk 10 000 4 000 kxn kh s rupaebbkardarngchiwitkhxngmnusythierimmirupaebbkhngthinn erimkhunemuxpraman thungyukhhinklang hakaetnkwichakarbangkhnesnxwaepnyukhhinihmthimikhunlksnabangxyangkhxngthngyukhhinklangaelahinihm inyukhdngklawni smachikkhxngwthnthrrmocmngsungmixyudwyknhlayklum aelaepnipidwaepnbrrphburuskhxngchawixnuinyipunpccubn idthingrxngrxythangobrankhdiiwxyangchdecnthisud wthnthrrmocmngnixacnbidxyangkhraw waxyurwmsmykbxarythrrminemosopetemiy lumaemnainl aelalumaemnasinthu ekhruxngdinephayukhaerk ekhruxngpndinephayukhocmng raw 10 000 8 000 pikxnkhristskrach phiphithphnthsthanaehngchati otekiyw odyxasyhlkthanthangobrankhdi chawocmngxacepnkhnphwkaerkinolkthithakhunemux xikthngyngepnphwkaerkthithaekhruxngmuxhinxikdwy khwamekaaekkhxngekhruxngdinephaehlaniidrbkarrabuphayhlngsngkhramolkkhrngthisxng odywithikarhaxayucakkharbxnkmmntrngsi xyangirktam nkwichakarchawyipunbangkhnechuxwakarphlitekhruxngdinephanacaekidkhunbnaephndinihykxn enuxngcakaehlngekhruxngdinephainbriewnsungxyuinpraethscinaelarsesiypccubnnnidphlitekhruxngdinephasung xaccaekaphx kbekhruxngdinephathafukuxi aemcaimekakwaktam chawocmngidpntuktaaelaphachnacakdinehniywaelathalwdlayxyangsbsxndwykarkddinthiynghmadxyudwythngaebbthifnepnekliywaelaimfn aelakingim rupaebbkhxngyukhhinihm odythwip karphlitekhruxngdinephasamarthbxkepnnyidthungrupaebbkardarngchiwitaebbxyutidthi dwykhxethccringthiwaekhruxngdinephannaetkhkidngayaelayxmimmipraoychnkbphudarngchiwitaebbhakhxngpa lastwsungtxngyaythinthanxyuesmx dwyehtuni chawocmngcungnacaepnkhnphwkaerkinolkthidarngchiwitaebbxyutidthi hruxxyangnxykepnaebbkungtidthi chawocmngichekhruxngmuxhinthngaebbthikhunrupdwykarskdaelakarbd aelaichthnu xikthngyngnacachanayinkarhakhxngpa lastwaelakarpramngthngchayfngaelanaluk chawocmngiderimthakarekstrkhntnaelaxasyintha sungphayhlngidyaymaxasyinhlumkhudtun aelabanthisrangkhunbnphundin rxngrxythiehluxkhxngthixasyehlaniepnpraoychnsahrbkarsuksathangobrankhdiinphayhlng rxngrxyehlaniexngepnehtuihnkwichakarswnhnungykihyipunepnaehlngthierimtnthakarekstrepnthiaerkinolkemux kxnthiekstrkrrmcaaephrhlayintawnxxkklangthungsxngphnpi xyangirktam hlkthanthangobrankhdibangxyangchiwakarthdlxngthakarekstrbneninekhaaelainhubekhatang khxngekhtphracnthresiywxnxudmsmburninbriewnthipccubnepnpraethssieriy cxraedn turki aelaxirknn mimaaelwtngaetpraman karkhyaytwkhxngprachakr wthnthrrmaebbkungxyutidthiniidnaipsukarephimkhunkhxngprachakrxyangsakhy cnkrathngmihlkthanwawthnthrrmocmngmikhwamhnaaennprachakrsungthisudaehnghnunginbrrdaklumprachakrthidarngchiwitdwykarlastw karsuksaaephnthithangphnthukrrmody idaesdngihehnrupaebbkhxngkarkhyaytwthangphnthukrrmcakphunthiinthaelyipunipyngphunthixun inexechiytawnxxk karkhyaytwkhrngninbwaepnkhrngthisakhythisudepnxndbsamkhxngexechiytawnxxk rxngcak karkhyaytwkhrngihy cakthwipaexfrika aelakarkhyaytwkhrngthisxngcaktxnehnuxkhxngisbieriy sungsuxthungkarkhyaytwthangphumisastrinyukhocmngtxntn karsuksaehlaniyngchiwakarkhyaytwkhxngklumprachakrchawocmngkhrngnixacaephipcnthungthwipxemrikaphanesnthangeliybchayfngmhasmuthraepsifik yukhhlk yukhocmngtngekha 10 000 7 500 k kh s laypnaepa layelbkd layechuxkthab muorayalang yukhocmngerimaerk 7 500 4 000 k kh s xingusa xinaridaxi miota thaodalang thaodabn chiobanguchi khayamayukhocmngtxntnthungthaysud 4 000 400 k kh s odangu thiphbincnghwdmiyangi yukhocmngtxntnaelatxnklangnnmikarkhyaytwkhxngprachakrxyangmak sungehnidcakprimankhxnghlkthanthikhudphbidcaksxngyukhni thngsxngyukhdngklawsxdkhlxngkbkbchwngphumixakasrxnsudinyukhoholsin rahwang thung sungxunhphumiechliykhunsungkwapccubnhlayxngsaeslesiys aelaradbnathaelsungkwapccubnpraman 5 thung 6 emtr ngansilpathingdngamechnphachnadinepharupeplwifsungpradbpradaxyangsbsxnnnekidkhuninyukhni hlngcak phumixakaserimeynlng aelaprachakrerimhdtwlngxyangmak karkhnphbaehlngthangobrankhdihlng 1 500 pikxnkhristskrachmicanwnnxylng emuxthungchwngthaykhxngyukhocmng idmikarepliynaeplngxyangsakhyekidkhuninaengobrankhdi odykarephaaplukaelaekbekiywidphthnacakaebberimtnmaepnnakhawaebbsbsxnaelaekidrabbkarpkkhrxngkhun xngkhprakxbxun hlayxyangkhxngwthnthrrmyipunxacnbyxnipidthungyukhnidwyechnkn sungsathxnthungkarxphyphekhamaphsmpnepknkhxngchawaephndinihycakexechiytxnehnuxaelachawaepsifiktxnit xngkhprakxbehlannmithngethphpkrnmchinot praephnikaraetngngan lilathangsthaptykrrm aelakhwamkawhnathangethkhonolyi echn singthx khnthnuthithaodykarxdimtangchnidekhadwykn nganolha aelanganaekw yukhhlk yukhocmngtxntn 4 000 3 000 k kh s hanasumilang esakiyama khuorahama omaoraxiosa ex bi si cusnobadaxi yukhocmngtxnklang 3 000 2 000 k kh s khasusaka oxatamadaxi khaosari xi 1 khaosari xi 2 yukhocmngtxnplay 2 000 1 000 k kh s ochaemiywci oharionaxuci khaosari bi 1 khaosari bi 2 xngengiyw 1 yukhocmngthaysud 1 000 400 k kh s xngengiyw 2 xngengiyw 3xangxing