อาสนวิหารโอเติง (ฝรั่งเศส: Cathédrale d'Autun) หรือชื่อเต็มคือ อาสนวิหารนักบุญลาซารัสแห่งโอเติง (Cathédrale Saint-Lazare d'Autun) เป็นอาสนวิหารโรมันคาทอลิกอันเป็นที่ตั้งของมุขนายกประจำ ตั้งอยู่ที่เมืองโอเติง จังหวัดโซเนลัวร์ แคว้นบูร์กอญ-ฟร็องช์-กงเต ประเทศฝรั่งเศส สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่นักบุญ
อาสนวิหารนักบุญลาซารัสแห่งโอเติง | |
---|---|
Cathédrale Saint-Lazare d'Autun | |
ศาสนา | |
ศาสนา | โรมันคาทอลิก |
บูร์กอญ | |
ผู้อุปถัมภ์ | นักบุญลาซารัส |
ที่ตั้ง | |
ที่ตั้ง | , ประเทศฝรั่งเศส |
ประเทศ | ฝรั่งเศส |
ผู้บริหาร | Diocèse d'Autun |
พิกัดภูมิศาสตร์ | 46°56′42″N 4°17′57″E / 46.9450°N 4.2991°E |
สถาปัตยกรรม | |
ประเภท | |
รูปแบบ | โรมาเนสก์ |
ลงเสาเข็ม | ค.ศ. 1120 |
เสร็จสมบูรณ์ | ค.ศ. 1146 |
สร้างขึ้นในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 12 เพื่อเป็นอาสนวิหารหลังใหม่ทดแทน "อาสนวิหารนักบุญนาซาริอุสแห่งโอเติง" อาสนวิหารหลังเก่าซึ่งสร้างมาตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 5
อาสนวิหารโอเติงเป็นหนึ่งในตัวอย่างของอาสนวิหารแบบโรมาเนสก์ที่ประกอบด้วยทั้งงานสถาปัตยกรรมและศิลปะตกแต่งภายในช่วงที่สมัยที่ศิลปะโรมาเนสก์มีความเจริญถึงขีดสุด และยังเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ในประเทศฝรั่งเศส
อาสนวิหารแห่งนี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์เมื่อปี ค.ศ. 1840
ประวัติ
อาสนวิหารแห่งแรกของเมืองโอเติงถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 5 ต่อมาได้รับการเสกขึ้นเป็นอาสนวิหารที่อุทิศแด่นักบุญนาซาริอุสแห่งมิลาน เนื่องจากมีการบรรจุเรลิกของท่านไว้ยังที่อาสนวิหารแห่งนี้ (ปัจจุบันเหลือเพียงชาเปลสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 14) ซึ่งต่อมาได้ถูกขยายและบูรณะหลายครั้ง ต่อมาประมาณปี ค.ศ. 970 ได้มีการย้ายเรลิกของนักบุญลาซารัสมาจากมาร์แซย์ ด้วยความเข้าใจว่าเป็นเรลิกของนักบุญลาซารัสแห่งเบธานี ซึ่งเป็นพระสหายคนสำคัญของพระเยซูในอดีต จึงเป็นเหตุให้มีผู้แสวงบุญมากมายมาที่อาสนวิหารหลังเก่านี้ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องขยับขยายโบสถ์ โดยมุขนายกเอเตียน เดอ โบเฌ ได้เลือกที่จะสร้างอาสนวิหารหลังใหม่แทน โดยเลือกพื้นที่ใกล้เคียงถัดไปทางทิศเหนือ ซึ่งในปัจจุบันยังคงเห็นหลักฐานหลงเหลืออยู่
อาสนวิหารแห่งใหม่นี้เป็นโครงการของมุขนายกเอเตียน เดอ โบเฌ เพื่อเป็นที่บรรจุเรลิกของนักบุญลาซารัส การก่อสร้างได้เริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1120 โดยมีการวางแผนที่จะแล้วเสร็จให้เร็วที่สุดในปี ค.ศ. 1130 และในที่สุดก็เสร็จสิ้นในปี ค.ศ. 1146 การเคลื่อนย้ายเรลิกของนักบุญลาซารัสก็ได้ทำพิธีในปีนั้น ยกเว้นบริเวณมุขทางเข้าซึ่งกว่าจะแล้วเสร็จก็กินเวลาอีกหลายปีต่อมา และหลุมศพของนักบุญลาซารัสซึ่งเป็นสักการสถานตั้งอยู่ตรงบริเวณร้องเพลงสวดสร้างประมาณปี ค.ศ. 1160-1170 ภายหลังถูกทำลายในระหว่างการบูรณะซ่อมแซมเมื่อค.ศ. 1766
การก่อสร้างได้อาศัยแบบทางสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายในมาจาก ซึ่งมีองค์ประกอบเด่น ๆ ที่เหมือนกันคือ ภายในเป็นเพดานโค้งทรงประทุน ซึ่งสร้างภายหลังจากการเสกเป็นขึ้นเป็นอาสนวิหารในปี ค.ศ. 1132 และต่อมาได้มีการต่อเติมส่วนของครีบยันลอยในสมัยนี้ ยอดแหลมสร้างในปี ค.ศ. 1469 โดยคาร์ดินัลรอแล็ง บริเวณเหนือจุดตัดกลางโบสถ์เคยเป็นที่ตั้งของหอนาฬิกาแบบสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ซึ่งสูงถึง 80 เมตร ซึ่งต่อมาถูกฟ้าผ่าและพังทลายลง
ถึงแม้ว่าจะมีการปรับแต่งส่วนประกอบต่าง ๆ ภายนอกให้เป็นแบบกอทิก อาทิ หอระฆัง ยอดแหลม ชาเปลข้าง เป็นต้น อย่างไรก็ตาม อาสนวิหารแห่งนี้โดยรวมยังโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ โดยเฉพาะรายละเอียดการตกแต่งภายในอาสนวิหาร
ตั้งแต่ ค.ศ. 1793–1805 อาสนวิหารแห่งนี้เคยเป็นที่อยู่ของ มาดอนนาแห่งเสนาบดีรอแล็ง ภาพเขียนสีน้ำมันของยัน ฟัน ไอก์ จิตรกรเอกชาวเนเธอร์แลนด์ ซึ่งปัจจุบันได้จัดแสดงถาวรอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์
ลักษณะทางสถาปัตยกรรม
แผนผังโดยรวมของอาสนวิหารเป็นทรงกางเขนละติน แบ่งเป็นบริเวณกลางโบสถ์แบบมีทางเดินข้าง แขนกางเขนแบบโถงเดี่ยว และบริเวณร้องเพลงสวดแบบครึ่งวงกลม 3 ด้าน ภายในประกอบด้วยบริเวณกลางโบสถ์และทางเดินข้างละฝั่ง แบ่งเป็นทั้งหมดเจ็ดช่วงเสา ซึ่งแต่ละช่วงกั้นโดยผนังที่มีช่องโค้งสันที่เรียงกันอย่างขนานทั้งสองฝั่ง บริเวณหัวเสาสลักเสลาเป็นลวดสวยงามด้วยลายตามแบบโรมาเนสก์ การรับน้ำหนักของผนังไม่พบการใช้ครีบยันลอยแต่อย่างใดในตอนแรก ซึ่งทำให้มีความเสี่ยงของการพังทลายลงมา และเพิ่งจะติดตั้งภายหลังในคริสต์ศตวรรษที่ 13 บริเวณโถงทางเข้ามีความหนาสองช่วงเสา และบริเวณด้านบนนั้นเป็นที่ตั้งของหอคอยแฝดซึ่งเป็นงานสร้างใหม่ในสมัยช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ตามแบบของเดิม (สันนิษฐานจากหอที่ปาแร-เลอ-มอนียาล) และบริเวณจุดตัดกลางโบสถ์มีด้านบนเป็นหอคอยกลางแบบกอทิกซึ่งสร้างในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 15 บริเวณปลายยอดเป็นไม้กางเขน
บริเวณกลางโบสถ์นั้นแบ่งตามความสูงเป็นทั้งหมด 3 ระดับ ล่างสุดเป็นซุ้มทางเดิน ถัดไปเป็นระเบียงแนบ และบนสุดเป็นช่องรับแสง ซึ่งแต่ละชั้นจะสังเกตได้โดยง่ายจากบัวเชิงตกแต่ง โดยความสูงของบริเวณกลางโบสถ์นี้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดยการใช้ช่องโค้งสันแบบปลายแหลม ซึ่งในแต่ละช่วงเสาจะแยกกันเป็นสันโค้งจรดบริเวณเพดานในแต่ละช่วง บริเวณแขนกางเขนมีความกว้างเท่ากับสองช่วงเสาของบริเวณกลางโบสถ์ และยื่นออกมาเล็กน้อยจากดานข้าง ช่วงฝั่งทางเข้าด้านในเป็นโถงทางเข้าซึ่งมีช่องโค้งปลายแหลมอยู่เหนือบริเวณประตูทางเข้าคู่ บริเวณฐานของระเบียงแนบตกแต่งเป็นบัวเชิงสลักเป็นลายใบกุหลาบ และถัดไปด้านบนเป็นบานหน้าต่างตันทั้งหมด 3 บาน
บริเวณร้องเพลงสวดนั้นก่อสร้างภายหลังราวคริสต์ศตวรรษที่ 15 ในแบบสถาปัตยกรรมกอทิก และงานกระจกสีเป็นงานสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 19 และ 20
อีกหนึ่งส่วนที่มีความน่าสนใจได้แก่การตกแต่งบริเวณหัวเสาในแต่ละช่วงเสาอย่างวิจิตรซึ่งเป็นงานของฌีลแบร์ สลักเป็นการเล่าเรื่องเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ตามพระคัมภีร์ อาทิ พระเยซูหนีไปอียิปต์ วันสมโภชพระคริสต์แสดงองค์ เป็นต้น
ฉากประดับแท่นบูชา Noli me tangere (อย่าแตะต้องเรา) เป็นงานชิ้นเดียวในอาสนวิหารที่มีอายุถึงคริสต์ศตวรรษที่ 16 เป็นภาพของมารีย์ชาวมักดาลากับพระเยซูคั่นกลางด้วยต้นไม้ และทรงยกพระหัตถ์ทำท่าทางก่อนที่จะตรัสให้แก่นักบุญมารีย์ชาวมักดาลาว่า "Noli me tangere"
นอกจากนี้ ยังพบงานศิลปะอีกบางส่วน อาทิ ภาพเขียนขนาดใหญ่ของฌ็อง-โอกุสต์-ดอมีนิก แอ็งกร์ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับมรณสักขีและนักบุญแซ็งฟอเรียงแห่งโอเติง ตั้งอยู่ด้านหน้าห้องเก็บเครื่องพิธีภายในอาสนวิหาร อีกชิ้นหนึ่งได้แก่ภาพเขียนชื่อว่า การฟื้นคืนชีพของนักบุญลาซารัส ของ จิตรกรชาวฝรั่งเศส วาดในคริสต์ศตวรรษที่ 19 และยังมีภาพพระแม่ระทมทุกข์ ผลงานของ ชาวอิตาลี และภาพพระเยซูสิ้นพระชนม์ ผลงานของ
- ฉากประดับแท่นบูชา Noli me tangere
- การฟื้นคืนชีพของนักบุญลาซารัส โดยฟร็องซัว-โฌแซ็ฟ แอ็ง
- งานกระจกสีบริเวณร้องเพลงสวด
- บริเวณโถงทางเข้าโบสถ์และออร์แกน
- เพดานและการตกแต่ง
- ตัวอย่างงานสลักหัวเสา
อ้างอิง
- [1] Base Mérimée - กระทรวงวัฒนธรรมแห่งฝรั่งเศส
- Janson, Horst Woldemar (2004). History of Art: The Western Tradition. New Jersey, USA: Pearson Education Inc.
- "The Town". Burgundy, France. สืบค้นเมื่อ March 11, 2012.
- "The Town". Burgundy, Autun. สืบค้นเมื่อ March 14, 2012.
- "Autun Cathedral`". สืบค้นเมื่อ March 13, 2012.
- "Regional Characteristics of Romanesque Architecture". สืบค้นเมื่อ March 15, 2012.
- van Boxtel, Eduard. "The site of the Romanesque art in Burgundy: Autun". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-07-12. สืบค้นเมื่อ March 14, 2012.
- "Cathedrale Saint Lazare d'Autun". Autun Cathedral Wikipedia. สืบค้นเมื่อ March 12, 2012.
ข้อมูล
- Autun Cathedral ที่ฐานข้อมูลโครงสร้าง (Structurae)
- (in German)
- (ในภาษาฝรั่งเศส) Art-Roman.net: La Cathédrale d'Autun
- (ในภาษาฝรั่งเศส) L'Art Roman en Bourgogne: Autun
บรรณานุกรม
- François Collombet, Les plus belles cathédrales de France, Paris, Sélection du Readers Digest, , 1997, p. 142–145.
- Gérard Denizeau, Histoire visuelle des Monuments de France, Paris, Larousse, , 2003, p. 60–61.
- Raymond Oursel, Bourgogne romane, (7e édition), La Pierre-qui-Vire (France), Édition Zodiaque, 1979.
- Marcel Durliat, L'art roman, 1989, Ed. Citadelles/Mazenod (rééd. avec mise à jour en 2009).
- Denis Grivot et George Zarnecki, Gislebertus, sculpteur d'Autun, Paris, 1960.
- Francis Salet, « La sculpture romane en Bourgogne, à propos d'un livre récent », dans Bulletin Monumental, tome 119, oct.-déc. 1961, p. 325-343.
แหล่งข้อมูลอื่น
- High-resolution 360° Panoramas and Images of Autun Cathedral | Art Atlas[]
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
xasnwiharoxeting frngess Cathedrale d Autun hruxchuxetmkhux xasnwiharnkbuylasarsaehngoxeting Cathedrale Saint Lazare d Autun epnxasnwiharormnkhathxlikxnepnthitngkhxngmukhnaykpraca tngxyuthiemuxngoxeting cnghwdosenlwr aekhwnburkxy frxngch knget praethsfrngess srangkhunephuxxuthisaednkbuyxasnwiharnkbuylasarsaehngoxetingCathedrale Saint Lazare d Autunsasnasasnaormnkhathxlikburkxyphuxupthmphnkbuylasarsthitngthitng praethsfrngesspraethsfrngessphubriharDiocese d Autunphikdphumisastr46 56 42 N 4 17 57 E 46 9450 N 4 2991 E 46 9450 4 2991sthaptykrrmpraephthrupaebbormaensklngesaekhmkh s 1120esrcsmburnkh s 1146 srangkhuninsmykhriststwrrsthi 12 ephuxepnxasnwiharhlngihmthdaethn xasnwiharnkbuynasarixusaehngoxeting xasnwiharhlngekasungsrangmatngaetsmykhriststwrrsthi 5 xasnwiharoxetingepnhnungintwxyangkhxngxasnwiharaebbormaenskthiprakxbdwythngngansthaptykrrmaelasilpatkaetngphayinchwngthismythisilpaormaenskmikhwamecriythungkhidsud aelayngepntwxyangthidithisudaehnghnungkhxngsthaptykrrmaebbormaenskinpraethsfrngess xasnwiharaehngniidkhunthaebiynepnxnusrnsthanthangprawtisastremuxpi kh s 1840prawtixasnwiharaehngaerkkhxngemuxngoxetingthuksrangkhunkhrngaerkinsmykhriststwrrsthi 5 txmaidrbkareskkhunepnxasnwiharthixuthisaednkbuynasarixusaehngmilan enuxngcakmikarbrrcuerlikkhxngthaniwyngthixasnwiharaehngni pccubnehluxephiyngchaeplsmykhriststwrrsthi 14 sungtxmaidthukkhyayaelaburnahlaykhrng txmapramanpi kh s 970 idmikaryayerlikkhxngnkbuylasarsmacakmaraesy dwykhwamekhaicwaepnerlikkhxngnkbuylasarsaehngebthani sungepnphrashaykhnsakhykhxngphraeysuinxdit cungepnehtuihmiphuaeswngbuymakmaymathixasnwiharhlngekani cungmikhwamcaepnthicatxngkhybkhyayobsth odymukhnaykexetiyn edx obech ideluxkthicasrangxasnwiharhlngihmaethn odyeluxkphunthiiklekhiyngthdipthangthisehnux sunginpccubnyngkhngehnhlkthanhlngehluxxyu xasnwiharaehngihmniepnokhrngkarkhxngmukhnaykexetiyn edx obech ephuxepnthibrrcuerlikkhxngnkbuylasars karkxsrangiderimkhuninpi kh s 1120 odymikarwangaephnthicaaelwesrciherwthisudinpi kh s 1130 aelainthisudkesrcsininpi kh s 1146 karekhluxnyayerlikkhxngnkbuylasarskidthaphithiinpinn ykewnbriewnmukhthangekhasungkwacaaelwesrckkinewlaxikhlaypitxma aelahlumsphkhxngnkbuylasarssungepnskkarsthantngxyutrngbriewnrxngephlngswdsrangpramanpi kh s 1160 1170 phayhlngthukthalayinrahwangkarburnasxmaesmemuxkh s 1766 aephnphngkhxngxasnwihar karkxsrangidxasyaebbthangsthaptykrrmaelakartkaetngphayinmacak sungmixngkhprakxbedn thiehmuxnknkhux phayinepnephdanokhngthrngprathun sungsrangphayhlngcakkareskepnkhunepnxasnwiharinpi kh s 1132 aelatxmaidmikartxetimswnkhxngkhribynlxyinsmyni yxdaehlmsranginpi kh s 1469 odykhardinlrxaelng briewnehnuxcudtdklangobsthekhyepnthitngkhxnghxnalikaaebbsthaptykrrmormaensksungsungthung 80 emtr sungtxmathukfaphaaelaphngthlaylng thungaemwacamikarprbaetngswnprakxbtang phaynxkihepnaebbkxthik xathi hxrakhng yxdaehlm chaeplkhang epntn xyangirktam xasnwiharaehngniodyrwmyngoddedndwysthaptykrrmormaensk odyechphaaraylaexiydkartkaetngphayinxasnwihar tngaet kh s 1793 1805 xasnwiharaehngniekhyepnthixyukhxng madxnnaaehngesnabdirxaelng phaphekhiynsinamnkhxngyn fn ixk citrkrexkchawenethxraelnd sungpccubnidcdaesdngthawrxyuthiphiphithphnthlufwr madxnnaaehngesnabdirxaelng odyyn fn ixklksnathangsthaptykrrmbriewnklangobsthmrnskkhinkbuyaesngfxeriyng phaphekhiynsinamnodychxng oxkust dxminik aexngkr kh s 1834 aephnphngodyrwmkhxngxasnwiharepnthrngkangekhnlatin aebngepnbriewnklangobsthaebbmithangedinkhang aekhnkangekhnaebbothngediyw aelabriewnrxngephlngswdaebbkhrungwngklm 3 dan phayinprakxbdwybriewnklangobsthaelathangedinkhanglafng aebngepnthnghmdecdchwngesa sungaetlachwngknodyphnngthimichxngokhngsnthieriyngknxyangkhnanthngsxngfng briewnhwesaslkeslaepnlwdswyngamdwylaytamaebbormaensk karrbnahnkkhxngphnngimphbkarichkhribynlxyaetxyangidintxnaerk sungthaihmikhwamesiyngkhxngkarphngthlaylngma aelaephingcatidtngphayhlnginkhriststwrrsthi 13 briewnothngthangekhamikhwamhnasxngchwngesa aelabriewndanbnnnepnthitngkhxnghxkhxyaefdsungepnngansrangihminsmychwngkhriststwrrsthi 19 tamaebbkhxngedim snnisthancakhxthipaaer elx mxniyal aelabriewncudtdklangobsthmidanbnepnhxkhxyklangaebbkxthiksungsranginsmykhriststwrrsthi 15 briewnplayyxdepnimkangekhn briewnklangobsthnnaebngtamkhwamsungepnthnghmd 3 radb langsudepnsumthangedin thdipepnraebiyngaenb aelabnsudepnchxngrbaesng sungaetlachncasngektidodyngaycakbwechingtkaetng odykhwamsungkhxngbriewnklangobsthnithuksrangsrrkhkhunodykarichchxngokhngsnaebbplayaehlm sunginaetlachwngesacaaeykknepnsnokhngcrdbriewnephdaninaetlachwng briewnaekhnkangekhnmikhwamkwangethakbsxngchwngesakhxngbriewnklangobsth aelayunxxkmaelknxycakdankhang chwngfngthangekhadaninepnothngthangekhasungmichxngokhngplayaehlmxyuehnuxbriewnpratuthangekhakhu briewnthankhxngraebiyngaenbtkaetngepnbwechingslkepnlayibkuhlab aelathdipdanbnepnbanhnatangtnthnghmd 3 ban briewnrxngephlngswdnnkxsrangphayhlngrawkhriststwrrsthi 15 inaebbsthaptykrrmkxthik aelangankracksiepnngansmykhriststwrrsthi 19 aela 20 xikhnungswnthimikhwamnasnicidaekkartkaetngbriewnhwesainaetlachwngesaxyangwicitrsungepnngankhxngchilaebr slkepnkarelaeruxngehtukarnsakhytang tamphrakhmphir xathi phraeysuhniipxiyipt wnsmophchphrakhristaesdngxngkh epntn chakpradbaethnbucha Noli me tangere xyaaetatxngera epnnganchinediywinxasnwiharthimixayuthungkhriststwrrsthi 16 epnphaphkhxngmariychawmkdalakbphraeysukhnklangdwytnim aelathrngykphrahtththathathangkxnthicatrsihaeknkbuymariychawmkdalawa Noli me tangere nxkcakni yngphbngansilpaxikbangswn xathi phaphekhiynkhnadihykhxngchxng oxkust dxminik aexngkr epneruxngrawekiywkbmrnskkhiaelankbuyaesngfxeriyngaehngoxeting tngxyudanhnahxngekbekhruxngphithiphayinxasnwihar xikchinhnungidaekphaphekhiynchuxwa karfunkhunchiphkhxngnkbuylasars khxng citrkrchawfrngess wadinkhriststwrrsthi 19 aelayngmiphaphphraaemrathmthukkh phlngankhxng chawxitali aelaphaphphraeysusinphrachnm phlngankhxng chakpradbaethnbucha Noli me tangere karfunkhunchiphkhxngnkbuylasars odyfrxngsw ochaesf aexng ngankracksibriewnrxngephlngswd briewnothngthangekhaobsthaelaxxraekn ephdanaelakartkaetng twxyangnganslkhwesaxangxing 1 Base Merimee krathrwngwthnthrrmaehngfrngess Janson Horst Woldemar 2004 History of Art The Western Tradition New Jersey USA Pearson Education Inc The Town Burgundy France subkhnemux March 11 2012 The Town Burgundy Autun subkhnemux March 14 2012 Autun Cathedral subkhnemux March 13 2012 Regional Characteristics of Romanesque Architecture subkhnemux March 15 2012 van Boxtel Eduard The site of the Romanesque art in Burgundy Autun khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 07 12 subkhnemux March 14 2012 Cathedrale Saint Lazare d Autun Autun Cathedral Wikipedia subkhnemux March 12 2012 khxmulAutun Cathedral thithankhxmulokhrngsrang Structurae in German inphasafrngess Art Roman net La Cathedrale d Autun inphasafrngess L Art Roman en Bourgogne AutunbrrnanukrmFrancois Collombet Les plus belles cathedrales de France Paris Selection du Readers Digest ISBN 2 7098 0888 9 1997 p 142 145 Gerard Denizeau Histoire visuelle des Monuments de France Paris Larousse ISBN 2 03 505201 7 2003 p 60 61 Raymond Oursel Bourgogne romane 7e edition La Pierre qui Vire France Edition Zodiaque 1979 Marcel Durliat L art roman 1989 Ed Citadelles Mazenod reed avec mise a jour en 2009 Denis Grivot et George Zarnecki Gislebertus sculpteur d Autun Paris 1960 Francis Salet La sculpture romane en Bourgogne a propos d un livre recent dans Bulletin Monumental tome 119 oct dec 1961 p 325 343 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb Autun Cathedral High resolution 360 Panoramas and Images of Autun Cathedral Art Atlas lingkesiy sthaniyxypraethsfrngess