เนเฟอร์เคาฮอร์ คูวิฮาปิ เป็นฟาโรห์แห่งอียิปต์โบราณจากราชวงศ์ที่แปดในสมัยต้นช่วงระหว่างที่หนึ่ง (ระหว่าง 2181 – 2055 ปีก่อนคริสตกาล) ในช่วงเวลานี้ อียิปต์อาจถูกแบ่งแยกออกเป็นระหว่างหลายศูนย์กลางการปกครอง ฟาโรห์เนเฟอร์เคาฮอร์เป็นฟาโรห์พระองค์ที่สิบหกและพระองค์สุดท้าย แห่งราชวงศ์ที่แปด และด้วยเหตุนี้เองพระองค์จึงได้ปกครองเหนือบริเวณเมมฟิส พระองค์ครองราชย์เป็นเวลาเพียง 2 ปี และเป็นหนึ่งในฟาโรห์ที่มีหลักฐานรับรองยืนยันที่ดีที่สุดในช่วงเวลานี้นี้จากบันทึกพระราชโองการแปดฉบับที่หลงเหลืออยู่ในสภาพชำรุดไม่เป็นชิ้นเป็นอันมาจนถึงปัจจุบัน
ฟาโรห์เนเฟอร์เคาฮอร์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เนเฟอร์คาวฮอร์, ชูวิฮาปิi, ชูอิ[...](?), คูอิฮาปิ, คา(?)ปูอิบ(อิ)(?) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คาร์ทูธของฟาโรห์เนเฟอร์เคาฮอร์บนบันทึกพระนามแห่งอไบดอส | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ฟาโรห์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
รัชกาล | 2 ปี 1 เดือน กับ 1 วัน | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ก่อนหน้า | เนเฟอร์เคาเร | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ถัดไป | เนเฟอร์อิร์คาเร | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
พระราชบุตร | เนบเยท | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ราชวงศ์ | ราชวงศ์ที่แปดแห่งอียิปต์ |
หลักฐานรับรองในบันทึกพระนามกษัตริย์
พระนามของฟาโรห์เนเฟอร์เคาฮอร์ปรากฏอยู่ในรายการที่ 55 ของบันทึกพระนามกษัตริย์แห่งอไบดอส ซึ่งเป็นบันทึกพระนามที่บันทึกขึ้นในช่วงรัชสมัยของฟาโรห์เซติที่ 1 เมื่อประมาณ 900 ปีหลังจากการสววรคตของฟาโรห์เนเฟอร์เราฮอร์[5] เชื่อกันว่ามีพระนามของพระองค์ยังอยู่ในบันทึกพระนามกษัตริย์แห่งตูรินเช่นกัน ถึงแม้ว่าพระนามจะหายไปในส่วนที่เสียหายบริเวณคอลัมน์ที่ 5 บรรทัดที่ 12 ของบันทึกพระนามฯ (หลังการตีความใหม่ของ) อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาในการครองราชย์ของพระองค์ยังหลงเหลือโดยบันทึกไว้เป็นระยะเวลา "2 ปี 1 เดือน 1 วัน"
บันทึกพระราชโองการแห่งเนเฟอร์เคาฮอร์
บันทึกพระราชโองการทั้งหมดแปดฉบับที่พบในวิหารแห่งเทพมินที่ที่มาจากรัชสมัยของฟาโรห์เนเฟอร์เคาฮอร์ และยังหลงเหลือมาได้จนถึงทุกวันนี้ในสภาพที่ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน บันทึกพระราชโองการสี่ฉบับที่จารึกไว้บนแผ่นหินปูนถูกมอบให้กับพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิแทนโดยในปี ค.ศ. 1914 ซึ่งปัจจุบันจัดแสดงอยู่ที่แกลเลอรี 103
บันทึกพระราชโองการเจ็ดในแปดฉบับออกประกาศภายในวันเดียวกัน ในปีแรกแห่งการครองราชย์ของฟาโรห์เนเฟอร์เคาฮอร์ บางทีอาจจะเป็นวันที่พระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์ ปีที่เป็นปัญหามีชื่อว่า "ปีแห่งการรวมสองแผ่นดิน" ในบันทึกพระราชโองการฉบับแรก ฟาโรห์เนเฟอร์เคาฮอร์ได้พระราชทานตำแหน่งให้กับพระราชธิดาพระนามว่า เนบเยท ซึ่งเป็นภริยาของราชมนตรีนามว่า โดยพระราชทานให้เป็นราชองครักษ์ และผู้บัญชาการทหารคาเรดนิ (Khrod-ny) และสั่งให้สร้างเรือศักดิ์สิทธิ์สำหรับเทพเจ้าที่เรียกว่า "สองพลัง (Two-Powers)" บางทีอาจเป็นเทพฮอรัส-มินในรูปที่รวมกัน
บันทึกพระราชโองการฉบับที่สองและมีอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด โดยบันทึกเกี่ยวข้องกับการแต่งตั้ง บุตรชายของเชไมย์ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการอียิปต์ตอนบน โดยปกครองเหนือแคว้นทางใต้สุดทั้งเจ็ดตั้งแต่เกาะแอลเลเฟนไทน์ไปจนถึง:
ฮอรัส เนทเจอร์บาว ถูกประทับต่อหน้าฟาโรห์ในเดือนที่ 2 [ของ วันที่ 20] บันทึกพระราชโองการถึงขุนนาง ผู้ดูแล [นักบวช ไอดิ]: เจ้าได้รับพระราชทานแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าการอียิปต์บน ผู้ดูแลนักบวชในอียิปต์บนเดียวกันซึ่ง [อยู่ภายใต้] การกำกับดูแลของเจ้าไปทางใต้ยังนิวเบีย ไปทางเหนือยังแคว้นซิสตรัม ทำหน้าที่เป็นขุนนาง, ผู้นำของนักบวช, หัวหน้าผู้ปกครองเมืองที่อยู่ในการดูแลของเจ้า, แทนบิดาของเจ้า, บิดาแห่งพระเจ้า, ที่รักแห่งพระเจ้า, องค์ชายรัชทายาท, เจ้าเมืองแห่งพีระมิด, หัวหน้าผู้พิพากษา, ราชมนตรี, ผู้ดูแลจดหมายเหตุของกษัตริย์, [ขุนนาง, ผู้ว่าราชการอียิปต์บน, ผู้ดูแลนักบวช, เซไมย์ ไม่] มีใครอื่น [จะมีสิทธิเรียกร้องโดยชอบธรรมกับมัน]...
บันทึกพระราชโองการฉบับที่สามและสี่อยู่ในสภาพที่ดีไว้เพียงบางส่วนในชิ้นเดียวกัน พวกเขาบันทึกว่า ฟาโรห์เนเฟอร์เคาฮอร์พระราชทานตำแหน่งให้น้องชายของไอดิในวิหารแห่งเทพมินและอาจแจ้งให้ไอดิทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย บันทึกพระราชโองการฉบับสุดท้ายนี้บันทึกว่า ทำไมจึงพบบันทึกพระราชโองการในวิหารแห่งเทพมิน:
[พระองค์ทรงมีพระราชโองการให้ประกาศ] ถ้อยคำ [แห่งพระราชโองการนี้ที่ประตู] ทางเข้าของวิหารแห่งเทพมิน [ในคอปโตสไว้อยู่ชั่วกัลปาวสาน] และตลอดไป อินเตฟ บุตรชายของเฮมิ สหายคนเดียวที่ส่งไปเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถูกประทับต่อหน้า [พระองค์] ในปีแห่งการรวมสองแผ่นดิน เดือนที่ 2 ของฤดูเพเรต วันที่ 20"
บันทึกพระราชโองการฉบับที่เหลือบันทึกเกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งนักบวชประจำพิธีฝังพระศพไปยังวิหารแห่งเนบเยทและเชไมย์ รวมถึงการสั่งรายการสินค้าที่วิหารแห่งเทพมิน
หลักฐานรับรองอื่น
นอกเหนือจากบันทึกพระราชโองการที่กล่าวไว้ในข้างต้นแล้ว ฟาโรห์เนเฟอร์เคาเรยังปรากฏในจารึกสองแห่งบนกำแพงในหลุมฝังศพของเชไมย์ มีการระบุเวลาในปีแรกในรัชสมัยของพระองค์ เดือนที่ 4 แห่ง วันที่ 2 จารึกได้บันทึกการนำหินมาจากวาดิ ฮัมมามัต (โดยคอปโตสเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการเดินทางไปยังวาดิแห่งนี้) แต่จารึกบางส่วนถูกทำลาย แต่ดูเหมือนจะกล่าวถึงงานที่ทำเสร็จภายใน 19 วัน จากวาดิ ฮ้มมามัตเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าศิลาจารึกสามแผ่นที่รายงานการนำมาของหิน จารึกชิ้นหนึ่งลงวันที่ภายใต้ปีที่หนึ่งของฟาโรห์นิรนามและ ในจารึกอีกสองฉบับมีการกล่าวถึงไอดิด้วย ถ้าไอดินี้เหมือนกับที่ทราบจากบันทึกพระราชโองการ จารึกก็ยังแสดงให้เห็นถึงการเดินทางภายใต้รัชสมัยของพระองค์ด้วย
อ้างอิง
- : Urkunden des Alten Reichs (= Urkunden des ägyptischen Altertums. Abteilung 1). 1. Band, 4. Heft. 2., augmented edition, Hinrichs'sche Buchhandlung, Leipzig 1933, see p. 297-299, available online.
- Translation after Thomas Schneider: Lexikon der Pharaonen, Albatros, Düsseldorf 2002, ISBN , p. 175.
- : The Date of the End of the Old Kingdom, 21 (1962), p.143
- : Handbuch der ägyptischen Königsnamen, Münchner ägyptologische Studien, Heft 49, Mainz : P. von Zabern, 1999, ISBN , available online 2015-12-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน see p. 68
- Darrell D. Baker: The Encyclopedia of the Pharaohs: Volume I - Predynastic to the Twentieth Dynasty 3300–1069 BC, Stacey International, ISBN , 2008, p. 271-272
- Kim Ryholt: "The Late Old Kingdom in the Turin King-list and the Identity of Nitocris", Zeitschrift für ägyptische, 127, 2000, p. 99
- : The Scepter of Egypt: A Background for the Study of the Egyptian Antiquities in The Metropolitan Museum of Art. Vol. 1, From the Earliest Times to the End of the Middle Kingdom , MetPublications, 1978, pp.136-138, available online
- : Royal Decrees from the Temple of Min at Coptos, JEA 32(1946), pp. 3–23.
- The fragments of the decrees on the catalog of the MET: fragment 1, 2 and 3.
- Margaret Bunson: Encyclopedia of Ancient Egypt, Infobase Publishing, 2009, ISBN , available online, see p. 268 and p. 284 for Kha’redni.
- Kurt Sethe: Urkunden des Alten Reichs (= Urkunden des ägyptischen Altertums. Abteilung 1). 1. Band, 4. Heft. 2., augmented edition, Hinrichs'sche Buchhandlung, Leipzig 1933, see p. 297-299, available online.
- Nigel C. Strudwick, :Texts from the Pyramid Age, Writings from the Ancient World, Ronald J. Leprohon (ed.), Society of Biblical Literature 2005, ISBN , available online, see pp.345-347
- Maha Farid Mostafa: The Mastaba of SmAj at Naga' Kom el-Koffar, Qift, Vol. I, Cairo 2014, ISBN , p. 88-111
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
enefxrekhahxr khuwihapi epnfaorhaehngxiyiptobrancakrachwngsthiaepdinsmytnchwngrahwangthihnung rahwang 2181 2055 pikxnkhristkal inchwngewlani xiyiptxacthukaebngaeykxxkepnrahwanghlaysunyklangkarpkkhrxng faorhenefxrekhahxrepnfaorhphraxngkhthisibhkaelaphraxngkhsudthay aehngrachwngsthiaepd aeladwyehtuniexngphraxngkhcungidpkkhrxngehnuxbriewnemmfis phraxngkhkhrxngrachyepnewlaephiyng 2 pi aelaepnhnunginfaorhthimihlkthanrbrxngyunynthidithisudinchwngewlaninicakbnthukphrarachoxngkaraepdchbbthihlngehluxxyuinsphaphcharudimepnchinepnxnmacnthungpccubnfaorhenefxrekhahxrenefxrkhawhxr chuwihapii chuxi khuxihapi kha puxib xi kharthuthkhxngfaorhenefxrekhahxrbnbnthukphranamaehngxibdxsfaorhrchkal2 pi 1 eduxn kb 1 wnkxnhnaenefxrekhaerthdipenefxrxirkhaerphraprmaphiithyphranamhxrsenthecxrbaw Nṯr b3w khwamskdisiththiaehngbaphranamkhrxngrachyenefxrekhahxr Nfr k3 w Ḥr khwamsmburnphrxmkhxngdwngwiyyanaehnghxrs phranamxun phranamprasutikhuwihapi Ḫw w ḥpw ethphhapikhumkhrxngkha phranamxun pu hapi Pw ḥpwphrarachbutrenbeythrachwngsrachwngsthiaepdaehngxiyipthlkthanrbrxnginbnthukphranamkstriyphranamkhxngfaorhenefxrekhahxrpraktxyuinraykarthi 55 khxngbnthukphranamkstriyaehngxibdxs sungepnbnthukphranamthibnthukkhuninchwngrchsmykhxngfaorhestithi 1 emuxpraman 900 pihlngcakkarswwrkhtkhxngfaorhenefxrerahxr 5 echuxknwamiphranamkhxngphraxngkhyngxyuinbnthukphranamkstriyaehngturinechnkn thungaemwaphranamcahayipinswnthiesiyhaybriewnkhxlmnthi 5 brrthdthi 12 khxngbnthukphranam hlngkartikhwamihmkhxng xyangirktam rayaewlainkarkhrxngrachykhxngphraxngkhynghlngehluxodybnthukiwepnrayaewla 2 pi 1 eduxn 1 wn bnthukphrarachoxngkaraehngenefxrekhahxrbnthukphrarachoxngkarthnghmdaepdchbbthiphbinwiharaehngethphminthithimacakrchsmykhxngfaorhenefxrekhahxr aelaynghlngehluxmaidcnthungthukwnniinsphaphthiimepnchinepnxn bnthukphrarachoxngkarsichbbthicarukiwbnaephnhinpunthukmxbihkbphiphithphnthsilpaemothrophliaethnodyinpi kh s 1914 sungpccubncdaesdngxyuthiaeklelxri 103 bnthukphrarachoxngkarecdinaepdchbbxxkprakasphayinwnediywkn inpiaerkaehngkarkhrxngrachykhxngfaorhenefxrekhahxr bangthixaccaepnwnthiphraxngkhesdckhunkhrxngrachy pithiepnpyhamichuxwa piaehngkarrwmsxngaephndin inbnthukphrarachoxngkarchbbaerk faorhenefxrekhahxridphrarachthantaaehnngihkbphrarachthidaphranamwa enbeyth sungepnphriyakhxngrachmntrinamwa odyphrarachthanihepnrachxngkhrks aelaphubychakarthharkhaerdni Khrod ny aelasngihsrangeruxskdisiththisahrbethphecathieriykwa sxngphlng Two Powers bangthixacepnethphhxrs mininrupthirwmkn bnthukphrarachoxngkarchbbthisxngaelamixyuinsphaphthidithisud odybnthukekiywkhxngkbkaraetngtng butrchaykhxngechimyihdarngtaaehnngphuwakarxiyipttxnbn odypkkhrxngehnuxaekhwnthangitsudthngecdtngaetekaaaexlelefnithnipcnthung hxrs enthecxrbaw thukprathbtxhnafaorhineduxnthi 2 khxng wnthi 20 bnthukphrarachoxngkarthungkhunnang phuduael nkbwch ixdi ecaidrbphrarachthanaetngtngihepnphuwakarxiyiptbn phuduaelnkbwchinxiyiptbnediywknsung xyuphayit karkakbduaelkhxngecaipthangityngniwebiy ipthangehnuxyngaekhwnsistrm thahnathiepnkhunnang phunakhxngnkbwch hwhnaphupkkhrxngemuxngthixyuinkarduaelkhxngeca aethnbidakhxngeca bidaaehngphraeca thirkaehngphraeca xngkhchayrchthayath ecaemuxngaehngphiramid hwhnaphuphiphaksa rachmntri phuduaelcdhmayehtukhxngkstriy khunnang phuwarachkarxiyiptbn phuduaelnkbwch esimy im miikhrxun camisiththieriykrxngodychxbthrrmkbmn bnthukphrarachoxngaehngkhxpots phi aelakhiw thiprakxbtidknidsngipyngthungixdaelanxngchaykhxngekhathiphiphithphnthsilpaemothrophliaethn mhankhrniwyxrk Acc No 14 7 12 bnthukphrarachoxngkarchbbthisamaelasixyuinsphaphthidiiwephiyngbangswninchinediywkn phwkekhabnthukwa faorhenefxrekhahxrphrarachthantaaehnngihnxngchaykhxngixdiinwiharaehngethphminaelaxacaecngihixdithrabekiywkberuxngnidwy bnthukphrarachoxngkarchbbsudthaynibnthukwa thaimcungphbbnthukphrarachoxngkarinwiharaehngethphmin phraxngkhthrngmiphrarachoxngkarihprakas thxykha aehngphrarachoxngkarnithipratu thangekhakhxngwiharaehngethphmin inkhxpotsiwxyuchwklpawsan aelatlxdip xinetf butrchaykhxngehmi shaykhnediywthisngipekiywkberuxngni thukprathbtxhna phraxngkh inpiaehngkarrwmsxngaephndin eduxnthi 2 khxngvduephert wnthi 20 bnthukphrarachoxngkarchbbthiehluxbnthukekiywkhxngkbkaraetngtngnkbwchpracaphithifngphrasphipyngwiharaehngenbeythaelaechimy rwmthungkarsngraykarsinkhathiwiharaehngethphminhlkthanrbrxngxunnxkehnuxcakbnthukphrarachoxngkarthiklawiwinkhangtnaelw faorhenefxrekhaeryngpraktincaruksxngaehngbnkaaephnginhlumfngsphkhxngechimy mikarrabuewlainpiaerkinrchsmykhxngphraxngkh eduxnthi 4 aehng wnthi 2 carukidbnthukkarnahinmacakwadi hmmamt odykhxpotsepncuderimtnsahrbkaredinthangipyngwadiaehngni aetcarukbangswnthukthalay aetduehmuxncaklawthungnganthithaesrcphayin 19 wn cakwadi hmmamtepnthithrabkndixyuaelwwasilacaruksamaephnthirayngankarnamakhxnghin carukchinhnunglngwnthiphayitpithihnungkhxngfaorhnirnamaela incarukxiksxngchbbmikarklawthungixdidwy thaixdiniehmuxnkbthithrabcakbnthukphrarachoxngkar carukkyngaesdngihehnthungkaredinthangphayitrchsmykhxngphraxngkhdwyxangxing Urkunden des Alten Reichs Urkunden des agyptischen Altertums Abteilung 1 1 Band 4 Heft 2 augmented edition Hinrichs sche Buchhandlung Leipzig 1933 see p 297 299 available online Translation after Thomas Schneider Lexikon der Pharaonen Albatros Dusseldorf 2002 ISBN 3 491 96053 3 p 175 The Date of the End of the Old Kingdom 21 1962 p 143 Handbuch der agyptischen Konigsnamen Munchner agyptologische Studien Heft 49 Mainz P von Zabern 1999 ISBN 3 8053 2591 6 available online 2015 12 22 thi ewyaebkaemchchin see p 68 Darrell D Baker The Encyclopedia of the Pharaohs Volume I Predynastic to the Twentieth Dynasty 3300 1069 BC Stacey International ISBN 978 1 905299 37 9 2008 p 271 272 Kim Ryholt The Late Old Kingdom in the Turin King list and the Identity of Nitocris Zeitschrift fur agyptische 127 2000 p 99 The Scepter of Egypt A Background for the Study of the Egyptian Antiquities in The Metropolitan Museum of Art Vol 1 From the Earliest Times to the End of the Middle Kingdom MetPublications 1978 pp 136 138 available online Royal Decrees from the Temple of Min at Coptos JEA 32 1946 pp 3 23 The fragments of the decrees on the catalog of the MET fragment 1 2 and 3 Margaret Bunson Encyclopedia of Ancient Egypt Infobase Publishing 2009 ISBN 978 1438109978 available online see p 268 and p 284 for Kha redni Kurt Sethe Urkunden des Alten Reichs Urkunden des agyptischen Altertums Abteilung 1 1 Band 4 Heft 2 augmented edition Hinrichs sche Buchhandlung Leipzig 1933 see p 297 299 available online Nigel C Strudwick Texts from the Pyramid Age Writings from the Ancient World Ronald J Leprohon ed Society of Biblical Literature 2005 ISBN 978 1589831384 available online see pp 345 347 Maha Farid Mostafa The Mastaba of SmAj at Naga Kom el Koffar Qift Vol I Cairo 2014 ISBN 978 977642004 5 p 88 111