ซัยยิดาฟาฏิมะฮ์ อัชชะรีฟ (อาหรับ: فاطمة الشريف) หรือ ฟาฏิมะฮ์ อัซซานูซี (อาหรับ: فاطمة السنوسي; ค.ศ. 1911 – 3 ตุลาคม ค.ศ. 2009) เป็นพระราชินีในพระเจ้าอิดริสที่ 1 แห่งลิเบีย เป็นสมเด็จพระราชินีเพียงพระองค์เดียวของลิเบียก่อนการปฏิวัติโดยพันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี ในปี ค.ศ. 1969 พระองค์จึงเป็นสมเด็จพระราชินีองค์สุดท้ายในแอฟริกาเหนือ
สมเด็จพระราชินีฟาฏิมะฮ์ | |
---|---|
สมเด็จพระราชินีแห่งลิเบีย | |
ครองราชย์ | 24 ธันวาคม ค.ศ. 1951 – 1 กันยายน ค.ศ. 1969 |
พระราชสมภพ | ประมาณ ค.ศ. 1911 ลิเบียของอิตาลี |
สวรรคต | 3 ตุลาคม ค.ศ. 2009 (98 ปี) ไคโร ประเทศอียิปต์ |
พระราชสวามี | พระเจ้าอิดริสที่ 1 แห่งลิเบีย (ค.ศ. 1931–1983) |
พระบุตร | 1 พระองค์ |
ราชวงศ์ | ซานูซี |
พระราชบิดา | อะห์มัด ชะรีฟ อัซซานูซี |
พระราชมารดา | เคาะดีญะฮ์ บินต์ อะห์มัด อัลริฟี |
พระราชประวัติ
ฟาฏิมะฮ์ อัชชะรีฟพระราชสมภพในปี ค.ศ. 1911 ที่โอเอซิสแห่งคูฟรา (ประเทศลิเบียในปัจจุบัน) เป็นพระธิดาเพียงคนเดียวในซัยยิดอะห์มัด ชะรีฟ อัซซานูซี อดีตผู้นำทางศาสนาของราชวงศ์ซานูซี กับเคาะดีญะฮ์ บินต์ อะห์มัด อัลริฟี ภรรยาคนที่สอง พระบิดาของพระองค์ได้ทำการต่อต้านกองกำลังของเหล่าอาณานิคม จนในปี ค.ศ. 1929 พระองค์ได้รับคำสั่งให้หนีออกจากลิเบียไปยังเขตแดนอียิปต์โดยใช้อูฐ
ในปี ค.ศ. 1931 ฟาฏิมะฮ์ได้อภิเษกสมรสกับพระเจ้าอิดริสที่ 1 แห่งลิเบีย ซึ่งเป็นพระประยูรญาติ และผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำราชวงศ์ต่อจากบิดาของพระองค์ พระราชพิธีอภิเษกสมรสจัดขึ้นที่เมืองซีวา พระองค์เคยประสูติกาลพระบุตรพระองค์แรกและพระองค์เดียวของพระองค์เมื่อ ค.ศ. 1953 ซึ่งสิ้นพระชนม์เสียขณะมีชันษาเพียงหนึ่งวัน
ในตำแหน่งพระราชินี
เมื่อพระเจ้าอีดริสเสด็จขึ้นครองราชย์ พระองค์ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระราชินีแห่งลิเบียในปี ค.ศ. 1951 กระทั่งปี ค.ศ. 1954 พระภาคิไนยคนหนึ่งของพระองค์ได้ลอบสังหารอิบราฮิม เชลฮี ที่ปรึกษาส่วนพระองค์ของพระราชสวามี เนื่องจากข่าวลือว่านายเชลฮีมั่นใจว่ากษัตริย์อิดริสจะทรงหย่ากับพระราชินี และกษัตริย์จะทรงสนพระทัยที่จะอภิเษกสมรสกับบุตรสาวของตนแทน หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวกษัตริย์อิดริสจึงดำเนินการลงโทษต่อพระภาคิไนยของสมเด็จพระราชินี
กษัตริย์อิดริสทรงตัดสินพระทัยที่จะอภิเษกสมรสใหม่เพราะมีพระราชประสงค์ที่จะมีองค์รัชทายาทไว้สืบทอดราชบัลลังก์ สมเด็จพระราชินีเองก็ทรงหาสตรีให้กษัตริย์อิดริสเลือกไว้สองคนไปถวายสำหรับอภิเษกสมรส แต่กษัตริย์อิดริสกลับทรงอภิเษกสมรสกับสตรีชั้นสูงชาวอียิปต์ชื่อ อาลียา อับเดล กอดีร์ ลัมลุม (Alia Abdel Kader Lamloum) แล้วอภิเษกสมรสกันในปี ค.ศ. 1955 กระนั้นสมเด็จพระราชินีฟาฏิมะฮ์ก็ยังรักษาสถานภาพของการเป็นสมเด็จพระราชินีและมิได้หย่าร้างหรือถูกขับออกจากพระราชวังโตบรุก พระเจ้าอิดริสและพระราชินีฟาฏิมะฮ์ทรงรับอุปการะเหล่าโอรส-ธิดาของพระประยูรญาติหลายพระองค์ รวมทั้งสุไลมา เด็กหญิงชาวแอลจีเรียที่บิดาของเธอเสียชีวิตจากการต่อสู้กับฝรั่งเศส
สมเด็จพระราชินีมีพระอารมณ์ขัน ปฏิภาณไหวพริบ และพระปรีชาสามารถที่จะทำให้ผู้อื่นผ่อนคลาย โดยเฉพาะเด็กและกลุ่มผู้ที่สนับสนุนกษัตริย์อิดริส ด้วยวิธีการอันแลดูเรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยความสง่างาม พระองค์จึงกลายเป็นแบบอย่างที่ดีของสตรียุคใหม่ชาวลิเบีย ด้วยบทบาทพระราชินีของพระองค์ ขณะที่ยังทรงดำรงตำแหน่งพระราชินี พระองค์ปราศจากเครื่องทรงฮิญาบ แต่ทรงมีบทบาทในการเข้าร่วมพระกรณียกิจกับสาธารณะอย่างสม่ำเสมอ
หลังการปฏิวัติ
ในการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองของลิเบียเมื่อวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 1969 พระองค์และพระสวามีประทับอยู่ในประเทศตุรกี ต่อมาทั้งสองพระองค์ได้พำนักอยู่ในบ้านพักแห่งหนึ่งในไคโร ประเทศอียิปต์ ภายใต้การคุ้มครองของญะมาล อับดุนนาศิรผู้นำอียิปต์ในขณะนั้น ซึ่งมาจากการที่เขายึดทรัพย์สินจากฝ่ายตรงข้าม ซึ่งในพระตำหนักมีราชองครักษ์ และทั้งสองพระองค์จะมีรายได้ 10,000 ปอนด์อียิปต์ต่อปี
หลังจากการปฏิวัติล้มล้างระบอบกษัตริย์ในลิเบีย พระองค์ได้พยายามขึ้นฟ้องต่อศาลประชาชนของลิเบียในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1971 แต่กลับถูกพิพากษาให้ถูกจำคุก 5 ปี และทรัพย์สมบัติของพระองค์ก็ถูกยึดเป็นของรัฐ ต่อมาภายหลังได้มีการส่งมอบพระตำหนักส่วนพระองค์ในกรุงตรีโปลีคืนแก่พระองค์ในปี ค.ศ. 2007
อดีตสมเด็จพระราชินีฟาฏิมะฮ์ได้เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ค.ศ. 2009 ณ ไคโร ประเทศอียิปต์ สิริรวมพระชนมายุได้ 98 พรรษา และพระศพถูกฝังไว้ที่สุสานฮัมซะฮ์ อัลมะดีนะฮ์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย
อ้างอิง
- Biodata 2009-10-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- "Queen of Libya". The Washington Post. October 14, 2009. สืบค้นเมื่อ 2011-10-26.
- "Lives Remembered". The Telegraph. 13 Oct 2009. สืบค้นเมื่อ 2011-10-26.
- Fatima al-Sanussi, Queen of Libya | Times Online Obituary
- 00.html LIBYA: Family Troubles - TIME[]
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-10-06. สืบค้นเมื่อ 2011-10-25.
แหล่งข้อมูลอื่น
- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ ฟาฏิมะฮ์แห่งลิเบีย
ก่อนหน้า | ฟาฏิมะฮ์ อัชชะรีฟ | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
ตำแหน่งใหม่ | สมเด็จพระราชินีแห่งลิเบีย (24 ธันวาคม ค.ศ. 1951 – 1 กันยายน ค.ศ. 1969) | ยกเลิกตำแหน่ง |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
syyidafatimah xchcharif xahrb فاطمة الشريف hrux fatimah xssanusi xahrb فاطمة السنوسي kh s 1911 3 tulakhm kh s 2009 epnphrarachiniinphraecaxidristhi 1 aehngliebiy epnsmedcphrarachiniephiyngphraxngkhediywkhxngliebiykxnkarptiwtiodyphnexkmuxmmar kddafi inpi kh s 1969 phraxngkhcungepnsmedcphrarachinixngkhsudthayinaexfrikaehnuxsmedcphrarachinifatimahsmedcphrarachiniaehngliebiykhrxngrachy24 thnwakhm kh s 1951 1 knyayn kh s 1969phrarachsmphphpraman kh s 1911 liebiykhxngxitaliswrrkht3 tulakhm kh s 2009 98 pi ikhor praethsxiyiptphrarachswamiphraecaxidristhi 1 aehngliebiy kh s 1931 1983 phrabutr1 phraxngkhrachwngssanusiphrarachbidaxahmd charif xssanusiphrarachmardaekhaadiyah bint xahmd xlrifiphrarachprawtifatimah xchcharifphrarachsmphphinpi kh s 1911 thioxexsisaehngkhufra praethsliebiyinpccubn epnphrathidaephiyngkhnediywinsyyidxahmd charif xssanusi xditphunathangsasnakhxngrachwngssanusi kbekhaadiyah bint xahmd xlrifi phrryakhnthisxng phrabidakhxngphraxngkhidthakartxtankxngkalngkhxngehlaxananikhm cninpi kh s 1929 phraxngkhidrbkhasngihhnixxkcakliebiyipyngekhtaednxiyiptodyichxuth inpi kh s 1931 fatimahidxphiesksmrskbphraecaxidristhi 1 aehngliebiy sungepnphraprayuryati aelaphusubthxdtaaehnngphunarachwngstxcakbidakhxngphraxngkh phrarachphithixphiesksmrscdkhunthiemuxngsiwa phraxngkhekhyprasutikalphrabutrphraxngkhaerkaelaphraxngkhediywkhxngphraxngkhemux kh s 1953 sungsinphrachnmesiykhnamichnsaephiynghnungwnintaaehnngphrarachinismedcphrarachiniaelatahiyah nasir phrryayamal xbdunnasir prathanathibdikhxngxiyipt emuxphraecaxidrisesdckhunkhrxngrachy phraxngkhidrbkarsthapnakhunepnsmedcphrarachiniaehngliebiyinpi kh s 1951 krathngpi kh s 1954 phraphakhiinykhnhnungkhxngphraxngkhidlxbsngharxibrahim echlhi thipruksaswnphraxngkhkhxngphrarachswami enuxngcakkhawluxwanayechlhimnicwakstriyxidriscathrnghyakbphrarachini aelakstriycathrngsnphrathythicaxphiesksmrskbbutrsawkhxngtnaethn hlngcakehtukarndngklawkstriyxidriscungdaeninkarlngothstxphraphakhiinykhxngsmedcphrarachini kstriyxidristhrngtdsinphrathythicaxphiesksmrsihmephraamiphrarachprasngkhthicamixngkhrchthayathiwsubthxdrachbllngk smedcphrarachiniexngkthrnghastriihkstriyxidriseluxkiwsxngkhnipthwaysahrbxphiesksmrs aetkstriyxidrisklbthrngxphiesksmrskbstrichnsungchawxiyiptchux xaliya xbedl kxdir lmlum Alia Abdel Kader Lamloum aelwxphiesksmrskninpi kh s 1955 krannsmedcphrarachinifatimahkyngrksasthanphaphkhxngkarepnsmedcphrarachiniaelamiidhyaranghruxthukkhbxxkcakphrarachwngotbruk phraecaxidrisaelaphrarachinifatimahthrngrbxupkaraehlaoxrs thidakhxngphraprayuryatihlayphraxngkh rwmthngsuilma edkhyingchawaexlcieriythibidakhxngethxesiychiwitcakkartxsukbfrngess smedcphrarachinimiphraxarmnkhn ptiphanihwphrib aelaphraprichasamarththicathaihphuxunphxnkhlay odyechphaaedkaelaklumphuthisnbsnunkstriyxidris dwywithikarxnaeldueriybngayaetepiymipdwykhwamsngangam phraxngkhcungklayepnaebbxyangthidikhxngstriyukhihmchawliebiy dwybthbathphrarachinikhxngphraxngkh khnathiyngthrngdarngtaaehnngphrarachini phraxngkhprascakekhruxngthrnghiyab aetthrngmibthbathinkarekharwmphrakrniykickbsatharnaxyangsmaesmxhlngkarptiwtismedcphrarachinifatimah say inpi kh s 1995 inkarptiwtiepliynaeplngkarpkkhrxngkhxngliebiyemuxwnthi 1 knyayn kh s 1969 phraxngkhaelaphraswamiprathbxyuinpraethsturki txmathngsxngphraxngkhidphankxyuinbanphkaehnghnunginikhor praethsxiyipt phayitkarkhumkhrxngkhxngyamal xbdunnasirphunaxiyiptinkhnann sungmacakkarthiekhayudthrphysincakfaytrngkham sunginphratahnkmirachxngkhrks aelathngsxngphraxngkhcamirayid 10 000 pxndxiyipttxpi hlngcakkarptiwtilmlangrabxbkstriyinliebiy phraxngkhidphyayamkhunfxngtxsalprachachnkhxngliebiyineduxnphvscikayn kh s 1971 aetklbthukphiphaksaihthukcakhuk 5 pi aelathrphysmbtikhxngphraxngkhkthukyudepnkhxngrth txmaphayhlngidmikarsngmxbphratahnkswnphraxngkhinkrungtrioplikhunaekphraxngkhinpi kh s 2007 xditsmedcphrarachinifatimahidesdcswrrkhtemuxwnthi 3 tulakhm kh s 2009 n ikhor praethsxiyipt sirirwmphrachnmayuid 98 phrrsa aelaphrasphthukfngiwthisusanhmsah xlmadinah praethssaxudixaraebiyxangxingBiodata 2009 10 06 thi ewyaebkaemchchin Queen of Libya The Washington Post October 14 2009 subkhnemux 2011 10 26 Lives Remembered The Telegraph 13 Oct 2009 subkhnemux 2011 10 26 Fatima al Sanussi Queen of Libya Times Online Obituary 00 html LIBYA Family Troubles TIME lingkesiy khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 10 06 subkhnemux 2011 10 25 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb fatimahaehngliebiykxnhna fatimah xchcharif thdiptaaehnngihm smedcphrarachiniaehngliebiy 24 thnwakhm kh s 1951 1 knyayn kh s 1969 ykeliktaaehnngbthkhwamchiwprawtiniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk