พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2021–22

พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2021–22 เป็นการแข่งขันฤดูกาลที่ 30 ของพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่เริ่มจัดการแข่งขันครั้งแรกในปี ค.ศ. 1992 และเป็นฤดูกาลที่สามที่ใช้ระบบ (วีเออาร์) วันที่เริ่มต้นและสิ้นสุดของฤดูกาลการแข่งขันประกาศเมื่อวันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 2021 และตารางการแข่งขันประกาศเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ค.ศ. 2021

พรีเมียร์ลีก

ฤดูกาล	2021–22
วันที่	13 สิงหาคม ค.ศ. 2021 – 22 พฤษภาคม ค.ศ. 2022
ทีมชนะเลิศ	แมนเชสเตอร์ซิตี แชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 6 แชมป์ลีกสูงสุดอังกฤษสมัยที่ 8
ตกชั้น	เบิร์นลีย์ วอตฟอร์ด นอริชซิตี
แชมเปียนส์ลีก	แมนเชสเตอร์ซิตี ลิเวอร์พูล เชลซี ทอตนัมฮอตสเปอร์
ยูโรปาลีก	อาร์เซนอล แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
ยูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก	เวสต์แฮมยูไนเต็ด
จำนวนนัด	380
จำนวนประตู	1,071 (2.82 ประตูต่อนัด)
ผู้ทำประตูสูงสุด	ซน ฮึง-มิน มุฮัมมัด เศาะลาห์ (คนละ 23 ประตู)
ทีมเหย้า ชนะสูงสุด	เชลซี 7–0 นอริชซิตี (23 ตุลาคม ค.ศ. 2021) แมนเชสเตอร์ซิตี 7–0 ลีดส์ยูไนเต็ด (14 ธันวาคม ค.ศ. 2021)
ทีมเยือน ชนะสูงสุด	เซาแทมป์ตัน 0–6 เชลซี (9 เมษายน ค.ศ. 2022)
จำนวนประตูสูงสุด	แมนเชสเตอร์ซิตี 6–3 เลสเตอร์ซิตี (26 ธันวาคม ค.ศ. 2021)
ชนะติดต่อกัน มากที่สุด	12 นัด แมนเชสเตอร์ซิตี
ไม่แพ้ติดต่อกัน มากที่สุด	15 นัด แมนเชสเตอร์ซิตี ลิเวอร์พูล
ไม่ชนะติดต่อกัน มากที่สุด	14 นัด นิวคาสเซิลยูไนเต็ด
แพ้ติดต่อกัน มากที่สุด	6 นัด ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ลีดส์ยูไนเต็ด นอริชซิตี วอตฟอร์ด
จำนวนผู้ชมสูงสุด	73,564 คน แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 1-1 เชลซี (28 เมษายน ค.ศ. 2022)
จำนวนผู้ชมต่ำสุด	16,479 คน เบรนต์ฟอร์ด 2–0 อาร์เซนอล (13 สิงหาคม ค.ศ. 2021)
จำนวนผู้ชมรวม	11,665,166 คน
จำนวนผู้ชมเฉลี่ย	39,677 คน
← 2020–21 2022–23 →

แมนเชสเตอร์ซิตี คือทีมที่ป้องกันแชมป์ในฤดูกาลนี้ หลังพวกเขาชนะเลิศพรีเมียร์ลีกสมัยที่ห้าในฤดูกาลที่แล้ว

ฤดูกาลนี้เห็นการกลับมาของการให้ผู้ชมเข้ามาชมในสนามเต็มความจุ หลังในช่วงท้ายฤดูกาล 2019–20 และทั้งฤดูกาล 2020–21 จัดการแข่งขันโดยให้ผู้ชมเข้าชมอย่างจำกัดหรือไม่มีผู้ชมเลย เนื่องจากข้อจำกัดที่เกิดจาก ฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลที่สองที่มีการพักช่วงกลางฤดูกาล โดยไม่มีการแข่งขันพรีเมียร์ลีกระหว่างวันที่ 23 มกราคม ถึง 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022

ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2021 มีการแข่งขันหลายนัดถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากเกิดการระบาดทั่วของโควิด-19 ในหลายสโมสร โดยแต่ละสโมสรเรียกร้องให้ลีกหยุดการแข่งขันจนถึงปี ค.ศ. 2022 หลังการประชุมเมื่อวันที่ 20 ธันวาคมระหว่าง 20 สโมสรในพรีเมียร์ลีก ได้มีการตัดสินใจที่จะทำให้การแข่งขันดังกล่าวสำเร็จในช่วงคริสต์มาส "ซึ่งจะทำได้อย่างปลอดภัย" สโมสรต่าง ๆ ได้รับคำแนะนำว่าหากมีผู้เล่นพร้อมทั้งหมด 13 คน รวมถึงผู้รักษาประตูด้วย พวกเขาควรจะทำการแข่งขันให้สำเร็จ

สรุป

แมนเชสเตอร์ซิตี เป็นแชมป์เก่า โดยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 5 ในฤดูกาลที่แล้ว

ฤดูกาลนี้เห็นการกลับมาของผู้ชมเต็มสนาม หลังจากผู้ชม 1/3 ในฤดูกาล 2019-20 และผู้ชมเต็มสนามในฤดูกาล 2020-21 ฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลที่สองที่มีช่วงพักฤดูหนาว โดยไม่มีการแข่งขันในพรีเมียร์ลีกระหว่างวันที่ 23 มกราคมถึง 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022

การต่อสู้เพื่อตำแหน่งจ่าฝูง

การแข่งขันช่วงแรกเป็นการแข่งขันระหว่างลิเวอร์พูล แมนเชสเตอร์ซิตี และเชลซี ซึ่งห่างกันสองแต้มในต้นเดือนธันวาคม ในเดือนธันวาคม เชลซีเป็นผู้นำหลังจากพ่ายแพ้เพียงนัดเดียวจาก 14 นัด จนกระทั่งความพ่ายแพ้อย่างช็อคกับเวสต์แฮมยูไนเต็ดทำให้ซิตีได้เปรียบ ชัยชนะต่อเนื่องกัน 12 นัด จบลงด้วยชัยชนะของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เหนือเชลซีซึ่งทำให้ความหวังในการคว้าแชมป์ของพวกเขาจบลง ทำให้แมนฯ ซิตี ขึ้นนำ 13 แต้มภายในเดือนมกราคม (แม้ว่าลิเวอร์พูลจะมีสองเกมในมือเนื่องจากการเลื่อนการแข่งขันจากสถานการณ์โควิด-19) จากนั้นลิเวอร์พูลก็เก็บชัยชนะ 10 เกมรวด รวมทั้งสองเกมในมือ เพื่อลดช่องว่างกับซิตีให้เหลือเพียงแต้มเดียวก่อนการเจอกันที่ เอทิฮัด สเตเดียม ในวันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน ผลเสมอ 2-2 ทำให้ซิตียังคงนำไปจนถึงสัปดาห์สุดท้ายของฤดูกาล

การเข้าซื้อกิจการของนิวคาสเซิล

ในวันพุธที่ 7 ตุลาคม กองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ ของซาอุดีอาระเบียได้ซื้อหุ้น 80% เสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการนิวคาสเซิลยูไนเต็ดมูลค่า 300 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นการสิ้นสุดการถือครองสโมสร 14 ปีของไมค์ แอชลีย์ ในวันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม ค.ศ. 2021 มีการประชุมฉุกเฉินโดยอีก 19 สโมสรในพรีเมียร์ลีก ซึ่งพวกเขาแสดงความโกรธเคืองต่อการตัดสินใจของลีกในการอนุมัติการเทคโอเวอร์ นิวคาสเซิลยูไนเต็ดเป็นสโมสรเดียวในพรีเมียร์ลีกที่ถูกกีดกันไม่ให้เข้าร่วมการประชุม ในวันพฤหัสบดีที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021 สโมสรในพรีเมียร์ลีกได้ลงคะแนนให้ควบคุมอำนาจทางการเงินของพรีเมียร์ลีกเพื่อจำกัดอำนาจการใช้จ่ายของนิวคาสเซิลยูไนเต็ด

ในช่วงเวลาการเข้าซื้อกิจการ นิวคาสเซิลอยู่ในอันดับที่ 19 โดยไม่ชนะใครจาก 7 เกมแรกของพวกเขา เจ้าของคนใหม่ปลด สตีฟ บรูซ และจ้าง เอ็ดดี ฮาว ในขณะที่นิวคาสเซิ่ลไม่ชนะการแข่งขันจนกระทั่งนัดที่ 15 ฟอร์มของพวกเขาดีขึ้นอย่างมากหลังจากการเซ็นสัญญากับนักเตะ 5 คนในตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคมคือ ซื้อ คีแรน ทริปเปียร์ จาก อัตเลติโกมาดริด ยืม จาก แอสตันวิลลา (ก่อนจะซื้อขาดเมื่อจบฤดูกาลด้วยราคา 15 ล้านปอนด์) ซื้อ แดน เบิร์น จาก ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ซื้อ คริส วูด จาก เบิร์นลีย์ และซื้อ บรูนู กีมาไรส์ จาก โอลิมปิกลียง ชัยชนะ 12 นัดจาก 18 นัดสุดท้ายของฤดูกาลทำให้พวกเขาจบในอันดับที่ 11

ทีม

ทีมที่เข้าแข่งขันในฤดูกาลนี้มีทั้งหมด 20 ทีม โดยแบ่งเป็น 17 ทีมมาจากฤดูกาลก่อนหน้านี้และ 3 ทีมที่เลื่อนชั้นขึ้นมาจากอีเอฟแอลแชมเปียนชิป ทีมที่เลื่อนชั้นขึ้นมา ได้แก่ นอริชซิตี, วอตฟอร์ด (ทั้งสองทีมตกชั้นหลังแข่งขันในพรีเมียร์ลีกหนึ่งปี) และเบรนต์ฟอร์ด กลับมาหลังตกชั้นไปเจ็ดสิบสี่ปี นี่จะเป็นฤดูกาลแรกของเบรนต์ฟอร์ดในพรีเมียร์ลีกด้วย โดยทั้งสามทีมแทนที่ ฟูลัม, เวสต์บรอมมิชอัลเบียน (ทั้งสองทีมตกชั้นหลังแข่งขันในพรีเมียร์ลีกหนึ่งปี) และ เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด (ตกชั้นหลังจากกลับมาสองปีในลีกสูงสุด)

สนามและที่ตั้ง

ลอนดอน

เมอร์ซีย์ไซด์

แอสตันวิลลา

ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน

เบิร์นลีย์

ลีดส์
ยูไนเต็ด

เลสเตอร์
ซิตี

แมนเชสเตอร์ซิตี

แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

นิวคาสเซิล
ยูไนเต็ด

นอริช
ซิตี

เซาแทมป์ตัน

วอตฟอร์ด

วุลเวอร์แฮมป์ตัน
วอนเดอเรอส์

ทีมจากลอนดอน:
อาร์เซนอล
เบรนต์ฟอร์ด
เชลซี
คริสตัลพาเลซ
ทอตนัมฮอตสเปอร์
เวสต์แฮมยูไนเต็ด

ทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์:
เอฟเวอร์ตัน
ลิเวอร์พูล

ที่ตั้งของทีมในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2021–22

อาร์เซนอล

เบรนต์ฟอร์ด

เชลซี

คริสตัลพาเลซ

ทอตนัมฮอตสเปอร์

เวสต์แฮม
ยูไนเต็ด

ที่ตั้งของทีมจากลอนดอน

ทีม	ที่ตั้ง	สนาม	ความจุ
อาร์เซนอล	ลอนดอน ()	เอมิเรตส์สเตเดียม	60,704
แอสตันวิลลา	เบอร์มิงแฮม	วิลลาพาร์ก	42,682
เบรนต์ฟอร์ด	ลอนดอน ()		17,250
ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน	ไบรตัน	สนามกีฬาฟัลเมอร์	30,750
เบิร์นลีย์	เบิร์นลีย์	เทิร์ฟมัวร์	21,944
เชลซี	ลอนดอน ()	สแตมฟอร์ดบริดจ์	40,834
คริสตัลพาเลซ	ลอนดอน ()	เซลเฮิสต์พาร์ก	25,486
เอฟเวอร์ตัน	ลิเวอร์พูล ()	กูดิสันพาร์ก	39,414
ลีดส์ยูไนเต็ด	ลีดส์	เอลแลนด์โรด	37,792
เลสเตอร์ซิตี	เลสเตอร์	คิงเพาเวอร์สเตเดียม	32,312
ลิเวอร์พูล	ลิเวอร์พูล ()	แอนฟีลด์	53,394
แมนเชสเตอร์ซิตี	แมนเชสเตอร์	สนามกีฬาซิตีออฟแมนเชสเตอร์	55,017
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด	แมนเชสเตอร์ ()	โอลด์แทรฟฟอร์ด	74,140
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด	นิวคาสเซิลอะพอนไทน์	เซนต์เจมส์พาร์ก	52,305
นอริชซิตี	นอริช	แคร์โรว์โรด	27,244
เซาแทมป์ตัน	เซาแทมป์ตัน	เซนต์แมรีส์สเตเดียม	32,384
ทอตนัมฮอตสเปอร์	ลอนดอน ()	ทอตนัมฮอตสเปอร์สเตเดียม	62,303
วอตฟอร์ด		วิคาริจโรด	22,200
เวสต์แฮมยูไนเต็ด	ลอนดอน ()	ลอนดอนสเตเดียม	60,000
วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์	วุลเวอร์แฮมป์ตัน	มอลินิว	32,050

บุคลากรและชุดแข่งขัน

ทีม	ผู้จัดการทีม	กัปตัน	ผู้ผลิตชุด	ผู้สนับสนุน (อก)	ผู้สนับสนุน (แขนซ้าย)
อาร์เซนอล	อาร์เตตา, มิเกลมิเกล อาร์เตตา	อาแล็กซ็องดร์ ลากาแซ็ต^a	อาดิดาส	ฟลายเอมิเรตส์
แอสตันวิลลา	เจอร์ราร์ด, สตีเวนสตีเวน เจอร์ราร์ด	มิงส์, ไทโรนไทโรน มิงส์		คาซู	โอบีสปอตส์
เบรนต์ฟอร์ด	ฟรังก์, ทอแมสทอแมส ฟรังก์	พ็อนตุส ยอนซ็อน	อัมโบร		เซฟตีคัลเจอร์
ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน	พอตเตอร์, แกรแฮมแกรแฮม พอตเตอร์	ดังก์, ลูวิสลูวิส ดังก์	ไนกี้		สนิกเกอร์สยูเค.คอม
เบิร์นลีย์	เบน มี (ดูแลร่วมกัน)	เบน มี	อัมโบร	สเพรเดกซ์สปอร์ตส์	แอสโตรเพย์
เชลซี	ทุคเคิล, โทมัสโทมัส ทุคเคิล	อัซปิลิกูเอตา, เซซาร์เซซาร์ อัซปิลิกูเอตา	ไนกี้
คริสตัลพาเลซ	วีเยรา, ปาทริกปาทริก วีเยรา	มิลิวอเยวิช, ลูคาลูคา มิลิวอเยวิช	พูมา	ดับบลิว88	ไอคอนิก
เอฟเวอร์ตัน	แฟรงก์ แลมพาร์ด	โคลแมน, เชมัสเชมัส โคลแมน	ฮัมเมล		ไม่มี
ลีดส์ยูไนเต็ด	เจสซี มาร์ช		อาดิดาส		BOXT
เลสเตอร์ซิตี	ร็อดเจอส์, เบรนดันเบรนดัน ร็อดเจอส์	สไมเกิล, แคสเปอร์แคสเปอร์ สไมเกิล	อาดิดาส	เอฟบีเอส
ลิเวอร์พูล	คล็อพ, เยือร์เกินเยือร์เกิน คล็อพ	เฮนเดอร์สัน, จอร์แดนจอร์แดน เฮนเดอร์สัน	ไนกี้	สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด
แมนเชสเตอร์ซิตี	กวาร์ดิโอลา, เปปเปป กวาร์ดิโอลา	เฟร์นังจิญญู, เฟร์นังจิญญู	พูมา	เอทิฮัดแอร์เวส์
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด	รัล์ฟ รังนิค (ชั่วคราว)	แฮร์รี แมไกวร์	อาดิดาส	ทีมวิวเวอร์
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด	ฮาว, เอ็ดดีเอ็ดดี ฮาว	ลาสเซลส์, จามาล		ฟัน88
นอริชซิตี	ดีน สมิท		โจมา	รถยนต์โลตัส
เซาแทมป์ตัน	ฮาเซินฮึทเทิล, รัล์ฟรัล์ฟ ฮาเซินฮึทเทิล	วอร์ด-พราวส์, เจมส์เจมส์ วอร์ด-พราวส์	ฮัมเมล	สปอร์ตเบ็ต.ไอโอ
ทอตนัมฮอตสเปอร์	อันโตนีโอ กอนเต	โยริส, อูว์โกอูว์โก โยริส	ไนกี้		ซินช์
วอตฟอร์ด	รอย ฮอดจ์สัน	รอประกาศ^b		สเกต.คอม	โดชคอยน์
เวสต์แฮมยูไนเต็ด	มอยส์‎, เดวิดเดวิด มอยส์‎	โนเบิล, มาร์กมาร์ก โนเบิล	อัมโบร		สโคปมาร์เกตส์
วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์	ลาฌึ, บรูนูบรูนู ลาฌึ	โคอาดี, คอเนอร์คอเนอร์ โคอาดี	คาสโตร	แมนเบ็ตเอ็กซ์	Bitci.com

a.^ ปีแยร์-แอเมอริก โอบาเมอย็องก์ เคยเป็นกัปตันทีมของอาร์เซนอลจนถึงวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 2021 เขาถูกปลดจากตำแหน่งหลังการละเมิดวินัย; เขาถูกปล่อยตัวออกจากสโมสรเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ อาแล็กซ็องดร์ ลากาแซ็ต ทำหน้าที่เป็นกัปตันทีม โดยพฤตินัย จนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อเขาได้รับการเสนอชื่อให้เป็นกัปตันทีมอย่างเป็นทางการ

b.^ ทรอย ดีนีย์ เคยเป็นกัปตันทีมของวอตฟอร์ตช่วงต้นฤดูกาล แต่เขาออกจากสโมสรเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม และยังไม่มีการแต่งตั้งกัปตันทีมอย่างเป็นทางการจากสโมสร มูซา ซีซอโก ทำหน้าที่เป็นกัปตันทีม โดยพฤตินัย

การเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีม

ทีม	ผู้จัดการที่ออก	สาเหตุที่ออก	วันที่ตำแหน่งว่าง	อันดับในตารางคะแนน	ผู้จัดการคนใหม่	วันที่ได้รับการแต่งตั้ง
คริสตัลพาเลซ	ฮอดจ์สัน, รอยรอย ฮอดจ์สัน	สิ้นสุดสัญญา	24 พฤษภาคม ค.ศ. 2021	ก่อนเปิดฤดูกาล	วีเยรา, ปาทริกปาทริก วีเยรา	4 กรกฎาคม ค.ศ. 2021
วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์	เอสปีรีตู ซังตู, นือนูนือนู เอสปีรีตู ซังตู	ยินยอมร่วมกัน			ลาฌึ, บรูนูบรูนู ลาฌึ	9 มิถุนายน ค.ศ. 2021
เอฟเวอร์ตัน	การ์โล อันเชลอตตี	เซ็นสัญญากับเรอัลมาดริด	1 มิถุนายน ค.ศ. 2021		เบนิเตซ, ราฟาเอลราฟาเอล เบนิเตซ	30 มิถุนายน ค.ศ. 2021
ทอตนัมฮอตสเปอร์	เมสัน, ไรอันไรอัน เมสัน	สิ้นสุดการรักษาการแทน	30 มิถุนายน ค.ศ. 2021		ซังตู, นูนู อึชปีรีตูนูนู อึชปีรีตู ซังตู
วอตฟอร์ด		ถูกไล่ออก	3 ตุลาคม ค.ศ. 2021	อันดับที่ 14	รานีเอรี, เกลาดีโอเกลาดีโอ รานีเอรี	4 ตุลาคม ค.ศ. 2021
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด	บรูซ, สตีฟสตีฟ บรูซ	ยินยอมร่วมกัน	20 ตุลาคม ค.ศ. 2021	อันดับที่ 19	โจนส์, แกรมี	20 ตุลาคม ค.ศ. 2021
ทอตนัมฮอตสเปอร์	อึชปีรีตู ซังตู, นูนูนูนู อึชปีรีตู ซังตู	ถูกไล่ออก	1 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021	อันดับที่ 8	อันโตนีโอ กอนเต	2 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021
นอริชซิตี	ฟาร์เคอ, ดานีเอิลดานีเอิล ฟาร์เคอ		6 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021	อันดับที่ 20	ดีน สมิท	15 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021
แอสตันวิลลา	ดีน สมิท		7 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021	อันดับที่ 15	เจอร์ราด, สตีเวนสตีเวน เจอร์ราด	11 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด	โจนส์, แกรมี	สิ้นสุดการรักษาการแทน	8 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021	อันดับที่ 19	เอ็ดดี ฮาว	8 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด	อูเลอ กึนนาร์ ซูลชาร์	ถูกไล่ออก	21 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021	อันดับที่ 7	ไมเคิล แคร์ริก	21 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021
	ไมเคิล แคร์ริก	สิ้นสุดการรักษาการแทน	29 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021	อันดับที่ 8	รัล์ฟ รังนิค (ชั่วคราว)	29 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021
เอฟเวอร์ตัน	ราฟาเอล เบนิเตซ	ถูกไล่ออก	16 มกราคม ค.ศ. 2022	อันดับที่ 15	ดันแคน เฟอร์กูสัน (รักษาการ)	18 มกราคม ค.ศ. 2022
วอตฟอร์ด	เกลาดีโอ รานีเอรี		24 มกราคม ค.ศ. 2022	อันดับที่ 19	รอย ฮอดจ์สัน	25 มกราคม ค.ศ. 2022
เอฟเวอร์ตัน	ดันแคน เฟอร์กูสัน	สิ้นสุดการรักษาการแทน	30 มกราคม ค.ศ. 2022	อันดับที่ 16	แฟรงก์ แลมพาร์ด	30 มกราคม ค.ศ. 2022
ลีดส์ยูไนเต็ด	มาร์เซโล บิเอลซา	ถูกไล่ออก	27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022		เจสซี มาร์ช	28 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022
เบิร์นลีย์	ชอน ไดช์		15 เมษายน ค.ศ. 2022	อันดับที่ 18	เบน มี (ดูแลร่วมกัน)	15 เมษายน ค.ศ. 2022

ตารางคะแนน

อันดับ	ทีม	เล่น	ชนะ	เสมอ	แพ้	ได้	เสีย	ต่าง	คะแนน	การผ่านเข้ารอบหรือการตกชั้น
1	แมนเชสเตอร์ซิตี (C)	38	29	6	3	99	26	+73	93	ผ่านเข้าสู่ แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม
2	ลิเวอร์พูล	38	28	8	2	94	26	+68	92
3	เชลซี	38	21	11	6	76	33	+43	74
4	ทอตนัมฮอตสเปอร์	38	22	5	11	69	40	+29	71
5	อาร์เซนอล	38	22	3	13	61	48	+13	69	ผ่านเข้าสู่ ยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม
6	แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด	38	16	10	12	57	57	0	58
7	เวสต์แฮมยูไนเต็ด	38	16	8	14	60	51	+9	56	ผ่านเข้าสู่ ยูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก รอบเพลย์ออฟ
8	เลสเตอร์ซิตี	38	14	10	14	62	59	+3	52
9	ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน	38	12	15	11	42	44	−2	51
10	วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์	38	15	6	17	38	43	−5	51
11	นิวคาสเซิลยูไนเต็ด	38	13	10	15	44	62	−18	49
12	คริสตัลพาเลซ	38	11	15	12	50	46	+4	48
13	เบรนต์ฟอร์ด	38	13	7	18	48	56	−8	46
14	แอสตันวิลลา	38	13	6	19	52	54	−2	45
15	เซาแทมป์ตัน	38	9	13	16	43	67	−24	40
16	เอฟเวอร์ตัน	38	11	6	21	43	66	−23	39
17	ลีดส์ยูไนเต็ด	38	9	11	18	42	79	−37	38
18	เบิร์นลีย์ (R)	38	7	14	17	34	53	−19	35	ตกชั้นสู่ อีเอฟแอลแชมเปียนชิป
19	วอตฟอร์ด (R)	38	6	5	27	34	77	−43	23
20	นอริชซิตี (R)	38	5	7	26	23	84	−61	22

แหล่งที่มา : พรีเมียร์ลีก
กฎการจัดอันดับ : 1) คะแนน; 2) ผลต่างประตู; 3) ประตูรวม; 4) หากทีมที่ชนะเลิศ, ทีมที่ตกชั้นหรือทีมที่ผ่านเข้าสู่การแข่งขันของยูฟ่า ไม่สามารถตัดสินได้ตามกฎ 1 ถึง 3, จะมีการบังคับใช้กฎ 4.1 ถึง 4.3 – 4.1) คะแนนที่ได้จากเฮด-ทู-เฮดระหว่างทีมดังกล่าว; 4.2) ประตูทีมเยือนจากเฮด-ทู-เฮดระหว่างทีมดังกล่าว; 4.3) เพลย์ออฟ
(C) ชนะเลิศ; (R) ตกชั้น.
หมายเหตุ :

1. ตั้งแต่ผู้ชนะเลิศของ อีเอฟแอลคัพ ฤดูกาล 2021–22 และ เอฟเอคัพ ฤดูกาล 2021–22 คือ ลิเวอร์พูล ซึ่งผ่านเข้ารอบแชมเปียนส์ลีกแล้ว ทำให้สิทธิ์ของผู้ชนะเลิศเอฟเอคัพ (ยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม) ถูกส่งต่อให้ทีมอันดับที่หกและสิทธิ์ของผู้ชนะเลิศอีเอฟแอลคัพ (ยูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก รอบเพลย์ออฟ) ถูกส่งต่อให้ทีมอันดับที่เจ็ด

ผลการแข่งขัน

เหย้า / เยือน	ARS	AVL	BRE	BHA	BUR	CHE	CRY	EVE	LEE	LEI	LIV	MCI	MUN	NEW	NOR	SOU	TOT	WAT	WHU	WOL
อาร์เซนอล	—	3–1	2–1	1–2	0–0	0–2	2–2	5–1	2–1	2–0	0–2	1–2	3–1	2–0	1–0	3–0	3–1	1–0	2–0	2–1
แอสตันวิลลา	0–1	—	1–1	2–0	1–1	1–3	1–1	3–0	3–3	2–1	1–2	1–2	2–2	2–0	2–0	4–0	0–4	0–1	1–4	2–3
เบรนต์ฟอร์ด	2–0	2–1	—	0–1	2–0		0–0	1–0	1–2	1–2	3–3	0–1	1–3	0–2	1–2	3–0	0–0	2–1	2–0	1–2
ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน	0–0	0–2	2–0	—	0–3	1–1		0–2	0–0	2–1	0–2	1–4	4–0	1–1	0–0	2–2	0–2	2–0	3–1	0–1
เบิร์นลีย์	0–1	1–3	3–1	1–2	—	0–4	3–3	3–2	1–1	0–2	0–1	0–2	1–1	1–2	0–0	2–0	1–0	0–0	0–0	1–0
เชลซี	2–4	3–0		1–1	1–1	—	3–0	1–1		1–1	2–2	0–1	1–1	1–0	7–0	3–1	2–0	2–1	1–0	2–2
คริสตัลพาเลซ	3–0	1–2	0–0		1–1	0–1	—	3–1	0–0	2–2	1–3	0–0	1–0	1–1	3–0	2–2	3–0	1–0	2–3	2–0
เอฟเวอร์ตัน	2–1	0–1	2–3	2–3	3–1	1–0	3–2	—	3–0	1–1	1–4	0–1	1–0	1–0	2–0	3–1	0–0	2–5	0–1	0–1
ลีดส์ยูไนเต็ด	1–4	0–3	2–2	1–1	3–1		1–0	2–2	—	1–1	0–3	0–4	2–4	0–1	2–1	1–1	0–4	1–0	1–2	1–1
เลสเตอร์ซิตี	0–2	0–0	2–1	1–1	2–2	0–3	2–1	1–2	1–0	—	1–0	0–1	4–2	4–0	3–0	4–1	2–3	4–2	2–2	1–0
ลิเวอร์พูล	4–0	1–0	3–0	2–2	2–0	1–1	3–0	2–0	6–0	2–0	—		4–0	3–1	3–1	4–0	1–1	2–0	1–0	3–1
แมนเชสเตอร์ซิตี	5–0	3–2	2–0	3–0	2–0	1–0	0–2	3–0	7–0	6–3		—	4–1	5–0	5–0	0–0	2–3	5–1	2–1	1–0
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด	3–2	0–1	3–0	2–0	3–1	1–1	1–0	1–1	5–1	1–1	0–5	0–2	—	4–1	3–2	1–1	3–2	0–0	1–0	0–1
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด	2–0	1–0	3–3	2–1	1–0	0–3	1–0	3–1	1–1	2–1	0–1	0–4	1–1	—	1–1	2–2	2–3	1–1	2–4	1–0
นอริชซิตี	0–5	0–2	1–3	0–0	2–0	1–3	1–1	2–1	1–2	1–2	0–3	0–4	0–1	0–3	—	2–1	0–5	1–3	0–4	0–0
เซาแทมป์ตัน	1–0	1–0	4–1	1–1	2–2	0–6	1–2	2–0	1–0	2–2	1–2	1–1	1–1	1–2	2–0	—	1–1	1–2	0–0
ทอตนัมฮอตสเปอร์	3–0	2–1	2–0	0–1	1–0	0–3	3–0	5–0	2–1	3–1	2–2	1–0	0–3	5–1	3–0	2–3	—	1–0	3–1	0–2
วอตฟอร์ด	2–3	3–2	1–2	0–2	1–2	1–2	1–4	0–0	0–3	1–5	0–5	1–3	4–1	1–1	0–3	0–1	0–1	—	1–4	0–2
เวสต์แฮมยูไนเต็ด	1–2	2–1	1–2	1–1	1–1	3–2	2–2	2–1	2–3	4–1	3–2	2–2	1–2	1–1	2–0	2–3	1–0	1–0	—	1–0
วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์	0–1	2–1	0–2	0–3	0–0	0–0	0–2	2–1	2–3	2–1	0–1	1–5	0–1	2–1	1–1	3–1	0–1	4–0	1–0	—

ที่มา: Premier League
สีฟ้าหมายถึงทีมเหย้าชนะ สีเหลืองหมายถึงเสมอกัน และสีแดงหมายถึงทีมเยือนชนะ
อักษร "a" สำหรับการแข่งขันที่ยังไม่เกิดขึ้นหมายความว่ามีบทความเกี่ยวกับการแข่งขันนัดนี้

สถิติตลอดฤดูกาล

ผู้ทำประตูสูงสุด

อันดับ	ผู้เล่น	สโมสร	ประตู
1	มุฮัมมัด เศาะลาห์	ลิเวอร์พูล	23
	ซน ฮึง-มิน	ทอตนัมฮอตสเปอร์
3	คริสเตียโน โรนัลโด	แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด	18
4	แฮร์รี เคน	ทอตนัมฮอตสเปอร์	17
5	ซาดีโย มาเน	ลิเวอร์พูล	16
6	เกฟิน เดอ เบรยเนอ	แมนเชสเตอร์ซิตี	15
	เจมี วาร์ดี	เลสเตอร์ซิตี
	ดีโยกู ฌอตา	ลิเวอร์พูล
9	วีลฟรีด ซาอา	คริสตัลพาเลซ	14
10	ราฮีม สเตอร์ลิง	แมนเชสเตอร์ซิตี	13

แฮท-ทริคส์

ผู้เล่น	ทีม	พบกับทีม	ผล	วันที่
บรูนู ฟือร์นังดึช	แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด	ลีดส์ยูไนเต็ด	5–1 (H)	14 สิงหาคม ค.ศ. 2021
โรแบร์ตู ฟีร์มีนู	ลิเวอร์พูล	วอตฟอร์ด	5–0 (A)	16 ตุลาคม ค.ศ. 2021
เมสัน เมานต์	เชลซี	นอริชซิตี	7–0 (H)	23 ตุลาคม ค.ศ. 2021
	วอตฟอร์ด	เอฟเวอร์ตัน	5–2 (A)
มุฮัมมัด เศาะลาห์	ลิเวอร์พูล	แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด	5–0 (A)	24 ตุลาคม ค.ศ. 2021
	ลีดส์ยูไนเต็ด	เวสต์แฮมยูไนเต็ด	3–2 (A)	16 มกราคม ค.ศ. 2022
ราฮีม สเตอร์ลิง	แมนเชสเตอร์ซิตี	นอริชซิตี	4–0 (A)	12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022
	เบรนต์ฟอร์ด	นอริชซิตี	3–1 (A)	5 มีนาคม ค.ศ. 2022
คริสเตียโน โรนัลโด	แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด	ทอตนัมฮอตสเปอร์	3–2 (H)	13 มีนาคม ค.ศ. 2022
ซน ฮึง-มิน	ทอตนัมฮอตสเปอร์	แอสตันวิลลา	4–0 (A)	9 เมษายน ค.ศ. 2022
คริสเตียโน โรนัลโด	แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด	นอริชซิตี	3–2 (H)	16 เมษายน ค.ศ. 2022
กาบรีแยล เฌซุส^4	แมนเชสเตอร์ซิตี	วอตฟอร์ด	5–1 (H)	23 เมษายน ค.ศ. 2022
เกฟิน เดอ เบรยเนอ^4	แมนเชสเตอร์ซิตี	วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์	5–1 (A)	11 พฤษภาคม ค.ศ. 2022

หมายเหตุ

⁴ ผู้เล่นที่ทำคนเดียว 4 ประตู
(H) – ทีมเหย้า
(A) – ทีมเยือน

อันดับการผ่านบอล

อันดับ	ผู้เล่น	สโมสร	การผ่านบอล
1	มุฮัมมัด เศาะลาห์	ลิเวอร์พูล	13
2	เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์	ลิเวอร์พูล	12
3	ฮาร์วีย์ บานส์	เลสเตอร์ซิตี	10
	จาร์ร็อด โบเวน	เวสต์แฮมยูไนเต็ด
	เมสัน เมานต์	เชลซี
	แอนดรูว์ รอเบิร์ตสัน	ลิเวอร์พูล
7	รีซ เจมส์	เชลซี	9
	แฮร์รี เคน	ทอตนัมฮอตสเปอร์
	ปอล ปอกบา	แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
10	มิคาอิล อันโตนิโอ	เวสต์แฮมยูไนเต็ด	8
	เกฟิน เดอ เบรยเนอ	แมนเชสเตอร์ซิตี
	กาบรีแยล เฌซุส	แมนเชสเตอร์ซิตี
		ทอตนัมฮอตสเปอร์
	เจมส์ แมดดิสัน	เลสเตอร์ซิตี

คลีนชีตส์

อันดับ	ผู้เล่น	สโมสร	จำนวนคลีนชีตส์
1	อาลีซง	ลิเวอร์พูล	20
	แอแดร์ซง	แมนเชสเตอร์ซิตี
3	อูว์โก โยริส	ทอตนัมฮอตสเปอร์	16
4	เอดัวร์ แมนดี	เชลซี	14
5	แอรอน แรมส์เดล	อาร์เซนอล	12
6	บิเซนเต กวยตา	คริสตัลพาเลซ	11
	เอมิเลียโน มาร์ติเนซ	แอสตันวิลลา
	ฌูแซ ซา	วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์
		ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน
10	นิก โพป	เบิร์นลีย์	9

การคาดโทษ

ผู้เล่น

• ใบเหลืองมากที่สุด: 11
  • ยูนิออร์ ฟีร์โป (ลีดส์ยูไนเต็ด)
  • ไทโรน มิงส์ (แอสตันวิลลา)
  • เจมส์ ทาร์คอฟสกี (เบิร์นลีย์)

• ใบแดงมากที่สุด: 2
  • ราอุล ฆิเมเนซ (วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์)
  • (แอสตันวิลลา)

สโมสร

• ใบเหลืองมากที่สุด: 101
  • ลีดส์ยูไนเต็ด

• ใบแดงมากที่สุด: 6
  • เอฟเวอร์ตัน

รางวัล

รางวัลประจำเดือน

เดือน							อ้างอิง
	ผู้จัดการทีม	สโมสร	ผู้เล่น	สโมสร	ผู้เล่น	สโมสร
สิงหาคม	นูนู อึชปีรีตู ซังตู	ทอตนัมฮอตสเปอร์	มิคาอิล อันโตนิโอ	เวสต์แฮมยูไนเต็ด	แดนนี อิงส์	แอสตันวิลลา
กันยายน	มิเกล อาร์เตตา	อาร์เซนอล	คริสเตียโน โรนัลโด	แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด		เอฟเวอร์ตัน
ตุลาคม	โทมัส ทุคเคิล	เชลซี	มุฮัมมัด เศาะลาห์	ลิเวอร์พูล	มุฮัมมัด เศาะลาห์	ลิเวอร์พูล
พฤศจิกายน	เปป กวาร์ดิโอลา	แมนเชสเตอร์ซิตี	เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์		โรดริ	แมนเชสเตอร์ซิตี
ธันวาคม			ราฮีม สเตอร์ลิง	แมนเชสเตอร์ซิตี	อาแล็กซ็องดร์ ลากาแซ็ต	อาร์เซนอล
มกราคม	บรูนู ลาฌึ	วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์	ดาบิด เด เฆอา	แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด	มาเตออ กอวาชิช	เชลซี
กุมภาพันธ์	เอ็ดดี ฮาว	นิวคาสเซิลยูไนเต็ด	ฌอแอล มาติป	ลิเวอร์พูล	วีลฟรีด ซาอา	คริสตัลพาเลซ
มีนาคม	มิเกล อาร์เตตา	อาร์เซนอล	แฮร์รี เคน	ทอตนัมฮอตสเปอร์	คริสเตียโน โรนัลโด	แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
เมษายน		เบิร์นลีย์	คริสเตียโน โรนัลโด	แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด	มิเกล อัลมิรอน	นิวคาสเซิลยูไนเต็ด

รางวัลส่วนบุคคล

รางวัล	ผู้ชนะเลิศ	สโมสร
	เกฟิน เดอ เบรยเนอ	แมนเชสเตอร์ซิตี
ผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลพรีเมียร์ลีก	ฟิล โฟเดน
นักฟุตบอลแห่งปีของสมาคมผู้สื่อข่าวฟุตบอล	มุฮัมมัด เศาะลาห์	ลิเวอร์พูล

อ้างอิง

1. "English Premier League Performance Stats – 2021–22". ESPN. สืบค้นเมื่อ 2 December 2021.
2. "Video Assistant Referees Explained | VAR | Premier League". Premier League. 1 June 2020. สืบค้นเมื่อ 1 March 2021.
3. "Premier League reveals dates for 2021/22 season". Sky Sports. 25 March 2021. สืบค้นเมื่อ 16 April 2021.
4. "Release date for 2021/22 fixtures announced". Premier League. 7 May 2021. สืบค้นเมื่อ 9 May 2021.
5. "Premier League fixtures: Your club-by-club guide to the 2021–22 season". BBC Sport. 16 June 2021. สืบค้นเมื่อ 16 June 2021.
6. "Crowds to return to sport from 19 July". BBC Sport (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 5 July 2021. สืบค้นเมื่อ 25 September 2021.
7. "When is the Premier League winter break in 2021-22?". Goal. 21 December 2021. สืบค้นเมื่อ 7 January 2022.
8. Dawson, Rob (16 December 2021). "Premier League COVID-19 crisis: Clubs push for shutdown until 2022 - sources". ESPN. สืบค้นเมื่อ 17 December 2021.
9. "Premier League & EFL to fulfil fixtures". BBC Sport. 20 December 2021.
10. "Crowds to return to sport from 19 July". BBC Sport. 5 July 2021. สืบค้นเมื่อ 25 September 2021.
11. "When is the Premier League winter break in 2021–22?". Goal. 21 December 2021. สืบค้นเมื่อ 7 January 2022.
12. Karen, Mattias (4 December 2021). "Chelsea loses grip on its place atop Premier League table as Man City surges". The Globe and Mail. สืบค้นเมื่อ 24 May 2022.
13. "Kevin De Bruyne fires Manchester City 13 points clear of toothless Chelsea". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 29 May 2022.
14. "Manchester City 2-2 Liverpool". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 24 May 2022.
15. "Premier League clubs v Newcastle: inside the stunning emergency vote". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 26 May 2022.
16. "Premier League clubs vote to block Newcastle sponsorship deals at emergency meeting". The Guardian. 18 October 2021. สืบค้นเมื่อ 2021-11-19.
17. "Brentford promoted to Premier League for first time after stinging Swansea". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 1 June 2021.
18. McNicholas, James; de Roché, Art. "Arsenal to rely on 'leadership group' after stripping Pierre-Emerick Aubameyang of captaincy". The Athletic (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-12-14.
19. "Adidas and Arsenal launch new partnership". Adidas. สืบค้นเมื่อ 1 July 2019.
20. "Emirates and Arsenal Renew Sponsorship Deal". emirates.com. สืบค้นเมื่อ 24 February 2019.
21. "Arsenal partner with 'Visit Rwanda'". Arsenal FC. สืบค้นเมื่อ 23 May 2018.
22. "Aston Villa announce Kappa as Principal Partner". Aston Villa FC. สืบค้นเมื่อ 25 May 2019.
23. "Cazoo confirmed as Aston Villa's principal partner". Aston Villa Official Site. 29 June 2020. สืบค้นเมื่อ 2 August 2020.
24. "Villa announce OB Sports partnership". Aston Villa Official Site. 22 June 2021. สืบค้นเมื่อ 22 June 2021.
25. "Brentford Announce Hollywoodbets as New principal Sponsor". Brentford FC. 29 June 2020. สืบค้นเมื่อ 16 July 2021.
26. . Brighton & Hove Albion FC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 June 2014. สืบค้นเมื่อ 6 June 2014.
27. . SportBusiness. 11 September 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 August 2019. สืบค้นเมื่อ 12 September 2020.
28. "PRINCIPAL SHIRT SPONSOR: SPREADEX SPORTS". Burnley FC. 19 July 2021. สืบค้นเมื่อ 19 July 2021.
29. "AstroPay Are Back". Burnley FC. 15 July 2021. สืบค้นเมื่อ 16 July 2021.
30. "Chelsea and Nike announce long-term partnership". Chelsea FC. 13 October 2016. สืบค้นเมื่อ 31 August 2020.
31. "CHELSEA ANNOUNCES THREE AS NEW OFFICIAL SHIRT PARTNER". Chelsea FC. 21 June 2020. สืบค้นเมื่อ 24 January 2020.
32. "Chelsea and Hyundai Begin New Partnership". Chelsea FC. 11 June 2018. สืบค้นเมื่อ 11 June 2018.
33. . Crystal Palace FC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 May 2018. สืบค้นเมื่อ 10 May 2018.
34. "Crystal Palace announces shirt sponsorship with W88". Crystal Palace FC. สืบค้นเมื่อ 3 August 2020.
35. "Crystal Palace iron out Iqoniq sleeve sponsorship deal". Sportspro Media. สืบค้นเมื่อ 1 September 2020.
36. "Everton Agrees Club-Record Kit Deal With hummel". www.evertonfc.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-07-04.
37. "Cazoo To Become Everton's New Main Partner". www.evertonfc.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-07-04.
38. "adidas becomes official kit partner of Leeds United". www.leedsunited.com (ภาษาอังกฤษ). 21 July 2020. สืบค้นเมื่อ 21 July 2020.
39. "SBOTOP ENTERS MULTI-YEAR PARTNERSHIP TO BECOME PRINCIPAL SPONSOR". www.leedsunited.com (ภาษาอังกฤษ). 10 August 2020. สืบค้นเมื่อ 10 August 2020.
40. "Leak Confirmed – Leicester City Announce Adidas Kit Deal". Footy Headlines. 17 May 2018. สืบค้นเมื่อ 18 May 2018.
41. "Leicester City & FBS Announce Record New Principal Club Partnership". Leicester City FC. สืบค้นเมื่อ 23 May 2021.
42. "Leicester City And ThaiBev Agree Multi-Year Global Partnership". สืบค้นเมื่อ 3 August 2018.
43. "LFC announces multi-year partnership with Nike as official kit supplier from 2020-21". Liverpool FC. สืบค้นเมื่อ 7 January 2020.
44. "Liverpool renew Standard Chartered sponsorship deal". Reuters. 24 May 2018. สืบค้นเมื่อ 12 January 2020.
45. "Liverpool Embarks on a Journey with Expedia". Liverpool Football Club. 17 October 2020. สืบค้นเมื่อ 17 October 2020.
46. Smith, Jonathan. "'I would love to stay longer' - Guardiola opens up on Man City future". . สืบค้นเมื่อ 20 September 2020.
47. "Manchester City strike 10-year kit deal with Puma". . 28 February 2019. สืบค้นเมื่อ 28 February 2019.
48. Taylor, Daniel (8 July 2011). "Manchester City bank record £400m sponsorship deal with Etihad Airways". The Guardian. London. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
49. Edwards, John (17 March 2017). . Manchester City F.C. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 May 2017. สืบค้นเมื่อ 17 May 2017.
50. "Manchester United and Adidas in £750m deal over 10 years". BBC News. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
51. "Man Utd and TeamViewer announce new principle shirt partnership from 2021/22 season". Manchester United. 19 March 2021. สืบค้นเมื่อ 19 March 2021.
52. "Kohler Unveiled as Shirt Sleeve Sponsor". Manchester United. 12 July 2018. สืบค้นเมื่อ 12 July 2018.
53. "Castore reportedly agreed deal with leading La Liga club on the eve of Newcastle kit announcement". 29 June 2021.
54. "Newcastle United and FUN88 agree new partnership". Newcastle United. 20 July 2020. สืบค้นเมื่อ 18 September 2020.
55. "KAYAK named Newcastle United's official shirt sleeve sponsor". Newcastle United. 9 July 2021. สืบค้นเมื่อ 9 July 2021.
56. "Club announces Joma as new technical kit partner". Norwich City F.C. (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 1 July 2021. สืบค้นเมื่อ 1 July 2021.{{}}: CS1 maint: url-status ()
57. . Norwich City Football Club (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 25 June 2021. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-06-25. สืบค้นเมื่อ 26 June 2021.
58. . www.canaries.co.uk (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-07-08. สืบค้นเมื่อ 9 July 2021.
59. Daniels, Tom (25 August 2020). "Sportsbet.io becomes new Main Club Sponsor". Insider Sport. สืบค้นเมื่อ 25 August 2020.
60. "Virgin Media agree new three-year deal". Southampton FC. 10 May 2019. สืบค้นเมื่อ 11 May 2019.
61. "Tottenham Hotspur announces multi-year partnership with Nike". Tottenham Hotspur FC. สืบค้นเมื่อ 30 June 2017.
62. "Tottenham Hotspur announce new £320m shirt deal". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 25 July 2019.
63. "cinch becomes Club's Official Sleeve Partner". Tottenham Hotspur F.C. 8 January 2021. สืบค้นเมื่อ 8 January 2021.
64. "Watford Announces Record Four-Year Kelme Kit Deal". Footy Headlines. 15 May 2020. สืบค้นเมื่อ 1 August 2020.
65. "Watford FC & Stake.com Announce New Multi Year Principal Partnership". Watford F.C. 22 July 2021. สืบค้นเมื่อ 22 July 2021.
66. "Watford FC to feature Doge on football shirts". CityAM. 16 August 2021. สืบค้นเมื่อ 18 August 2021.
67. "West Ham United unveil new sleeve sponsor ahead of the run-in West Ham United". West Ham United FC. 19 June 2020. สืบค้นเมื่อ 19 June 2020.
68. "Sir Andy Murray's sportswear brand signs up Wolves in first Premier kit deal". uk.sports.yahoo.com.
69. "Wolves sign new lucrative shirt sponsorship deal with ManBetX". Shropshire Star. 4 June 2019. สืบค้นเมื่อ 5 June 2019.
70. "Bitci.com become Wolves' new sleeve partners". Wolverhampton Wanderers FC. สืบค้นเมื่อ 2 June 2021.
71. "Club update: Pierre-Emerick Aubameyang". Arsenal F.C. 14 December 2021. สืบค้นเมื่อ 15 December 2021.
72. McNicholas, James; de Roché, Art (14 December 2021). "Arsenal to rely on 'leadership group' after stripping Pierre-Emerick Aubameyang of captaincy". . สืบค้นเมื่อ 15 December 2021.
73. "Alexandre Lacazette picks players who could become Arsenal captain after Mikel Arteta decision". . . 9 February 2022. สืบค้นเมื่อ 9 February 2022.
74. "Roy Hodgson to step down as Crystal Palace manager". Crystal Palace F.C. 18 May 2021. สืบค้นเมื่อ 23 May 2021.
75. "Patrick Vieira appointed as manager". Crystal Palace F.C. 4 July 2021. สืบค้นเมื่อ 4 July 2021.
76. "Nuno set to leave Wolves". Wolverhampton Wanderers F.C. 21 May 2021. สืบค้นเมื่อ 21 May 2021.
77. "Lage becomes new Wolves head coach". Wolverhampton Wanderers F.C. 9 June 2021. สืบค้นเมื่อ 9 June 2021.
78. "Club Statement: Ancelotti Leaves Everton". Everton F.C. 1 June 2021. สืบค้นเมื่อ 1 June 2021.