สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล (อังกฤษ: Liverpool Football Club) เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพที่อยู่ในเมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ แข่งขันอยู่ในพรีเมียร์ลีก ลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ สโมสรก่อตั้งใน ค.ศ. 1892 ได้เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลลีกในปีต่อมาและใช้สนามแอนฟีลด์เป็นสนามเหย้าตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร
ชื่อเต็ม | สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล | |||
---|---|---|---|---|
ฉายา | The Reds หงส์แดง | |||
ก่อตั้ง | 3 มิถุนายน ค.ศ. 1892 | |||
สนาม | แอนฟีลด์ | |||
ความจุ | 60,725 | |||
เจ้าของ | เฟนเวย์ สปอร์ต กรุป | |||
ประธาน | ทอม เวอร์เนอร์ | |||
หัวหน้าผู้ฝึกสอน | อาร์เนอ สล็อต | |||
ลีก | พรีเมียร์ลีก | |||
2023–24 | พรีเมียร์ลีก อันดับที่ 3 จาก 20 | |||
เว็บไซต์ | เว็บไซต์สโมสร | |||
| ||||
สำหรับการแข่งขันภายในประเทศ ลิเวอร์พูลชนะเลิศ(ลีกสูงสุด) 19 สมัย, เอฟเอคัพ 8 สมัย, ลีกคัพ 10 สมัย (สถิติสูงสุด) และเอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ 16 สมัย ส่วนการแข่งขันระดับนานาชาติ ลิเวอร์พูลชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 6 สมัย, ยูฟ่าคัพ 3 สมัย, ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 4 สมัย (ทั้งสามรายการเป็นสถิติสูงสุดของสโมสรอังกฤษ) และฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ 1 สมัย ช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์คือช่วงคริสต์ทศวรรษ 1970 และคริสต์ทศวรรษ 1980 เมื่อบิลล์ แชงคลี, บ๊อบ เพสลีย์, โจ เฟแกนและเคนนี แดลกลีช พาทีมชนะเลิศลีกสูงสุด 11 สมัยและยูโรเปียนคัพ 4 ใบ ต่อมาลิเวอร์พูลชนะเลิศการแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนลีกอีก 2 สมัย ภายใต้การคุมทีมของราฟาเอล เบนิเตซและเยือร์เกิน คล็อพตามลำดับ ซึ่งคล็อพสามารถนำทีมชนะเลิศลีกสูงสุดใน ค.ศ. 2020 นับเป็นการชนะเลิศลีกสูงสุดสมัยที่ 19 และสมัยแรกของยุคพรีเมียร์ลีก
ลิเวอร์พูลเป็นหนึ่งในสโมสรที่มีผู้สนับสนุนมากที่สุดในโลกและเป็นหนึ่งในสโมสรฟุตบอลที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก ลิเวอร์พูลมีสโมสรคู่แข่งซึ่งแข่งขันด้วยกันมาอย่างยาวนาน ได้แก่ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและเอฟเวอร์ตัน ลิเวอร์พูลใช้เสื้อสีแดงและกางเกงขาสั้นสีขาวเป็นชุดแข่งขันมาตั้งแต่ ค.ศ. 1896 ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเต็มตัวเมื่อเล่นเป็นทีมเหย้าตั้งแต่ ค.ศ. 1964 เป็นต้นมา ฉายาในภาษาอังกฤษของลิเวอร์พูลคือ "เดอะเรดส์" (The Reds) ส่วนฉายาที่ชาวไทยนิยมเรียกคือ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูลมีเพลงประจำสโมสรคือ "ยูลล์เนฟเวอร์วอล์กอะโลน" (You'll Never Walk Alone)
แฟนบอลของสโมสรได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับโศกนาฏกรรมที่สำคัญ 2 ครั้ง ได้แก่ ภัยพิบัติสนามกีฬาเฮย์เซลที่กำแพงพังลงมาทับแฟนบอลในนัดชิงชนะเลิศยูโรเปียนคัพ 1985 ที่บรัสเซลส์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 39 คน โดยส่วนใหญ่เป็นชาวอิตาลีและผู้สนับสนุนยูเวนตุส หลังจากนั้นยูฟ่าได้ระงับสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลยุโรปของสโมสรจากอังกฤษเป็นระยะเวลา 5 ปี และภัยพิบัติฮิลส์โบโรใน ค.ศ. 1989 เมื่อแฟนบอลของลิเวอร์พูล 97 คนเสียชีวิตจากการถูกบีบอัดติดกับรั้วที่กั้นสนาม นำไปสู่การยกเลิกรั้วกันสนามบริเวณที่ยืน โดยกำหนดให้สนามกีฬาของสโมสรในลีกสองระดับแรกของฟุตบอลอังกฤษต้องเป็นแบบมีที่นั่งทั้งหมด การรณรงค์เพื่อความยุติธรรมเป็นเวลานานทำให้มีการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ คณะกรรมการและคณะกรรมการอิสระเพิ่มเติมซึ่งทำให้ผู้สนับสนุนพ้นผิดในท้ายที่สุด
ประวัติ
สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ก่อตั้งหลังเกิดข้อพิพาทระหว่างคณะกรรมการของเอฟเวอร์ตันกับจอห์น โฮลดิง ประธานสโมสรและเจ้าของที่ดินแอนฟีลด์ เอฟเวอร์ตันย้ายไปกูดิสันพาร์กใน ค.ศ. 1892 หลังใช้งานแอนฟีลด์เป็นระยะเวลาแปดปีและโฮลดิงก่อตั้งสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลเพื่อเล่นในแอนฟีลด์ แต่เดิมใช้ชื่อว่า "สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตันและแอตแลติกกราวด์สจำกัด" (อังกฤษ: Everton F.C. and Athletic Grounds Ltd) (หรือเรียกสั้น ๆ ว่า เอฟเวอร์ตันแอตแลติก) สโมสรกลายเป็นสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1892 และได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการในอีกสามเดือนต่อมา หลังสมาคมฟุตบอลปฏิเสธที่จะยอมรับสโมสรว่าเป็นเอฟเวอร์ตัน
ลิเวอร์พูลลงแข่งขันครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 1892 เป็นการแข่งขันนัดกระชับมิตรก่อนเริ่มต้นฤดูกาล โดยพบกับ ลิเวอร์พูลชนะด้วยผลประตูรวม 7–1 โดยผู้เล่นลิเวอร์พูลที่ลงสนามในนัดดังกล่าวนั้นเป็นชาวสก็อตแลนด์ทั้งหมด โดยผู้เล่นที่มาจากสก็อตแลนด์เพื่อมาเล่นในอังกฤษในเวลานั้น มักจะเรียกว่า ผู้จัดการทีม เดินทางไปสกอตแลนด์เพื่อมองหาผู้เล่น หลังคัดเลือกผู้เล่นแล้ว พวกเขากลายเป็นที่รู้จักในนาม "ทีมออฟแมกส์" ทีมชนะเลิศในฤดูกาลแรกที่ลงเล่น และเข้าร่วมฟุตบอลลีกเซคันด์ดิวิชันในฤดูกาล 1893–94 หลังชนะเลิศรายการดังกล่าว ทีมก็ได้เลื่อนชั้นสู่เฟิสต์ดิวิชัน แล้วก็ชนะเลิศใน ค.ศ. 1901 และ 1906
ลิเวอร์พูลเข้าถึงครั้งแรกใน โดยแพ้ให้กับเบิร์นลีย์ด้วยผลประตู 1–0 ลิเวอร์พูลชนะเลิศลีกสูงสุดติดต่อกันใน ค.ศ. 1922 และ 1923 แล้วก็ไม่ชนะเลิศอีกเลยจนกระทั่งฤดูกาล 1946–47 เมื่อสโมสรชนะเลิศเฟิสต์ดิวิชันเป็นสมัยที่ห้าภายใต้การคุมทีมของ อดีตผู้เล่นกองหลังตัวกลางเวสต์แฮมยูไนเต็ด ลิเวอร์พูลแพ้ในรอบชิงชนะเลิศเอฟเอคัพอีกครั้ง โดยแพ้ให้กับอาร์เซนอล ใน ค.ศ. 1950 สโมสรตกชั้นไปเซคันด์ดิวิชันในฤดูกาล 1953–54 หลังจากลิเวอร์พูลแพ้ สโมสรฟุตบอลนอกลีก ในเอฟเอคัพ ฤดูกาล 1958–59 สโมสรได้แต่งตั้งให้บิลล์ แชงคลี เป็นผู้จัดการทีม เมื่อได้รับตำแหน่ง เขาปล่อยผู้เล่นจำนวน 24 คน และเปลี่ยนห้องเก็บรองเท้าที่แอนฟีลด์ให้กลายเป็นห้องสำหรับเหล่าผู้ฝึกสอนวางแผนการเล่น แชงคลีและสมาชิก "บูตรูม" คนอื่น ประกอบด้วย โจ เฟแกน, และบ๊อบ เพสลีย์ เริ่มสร้างทีมใหม่กันที่นี่
สโมสรเลื่อนชั้นกลับสู่เฟิสต์ดิวิชันใน ค.ศ. 1962 และชนะเลิศใน ค.ศ. 1964 ซึ่งเป็นการชนะเลิศลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบ 17 ปี สโมสรชนะเลิศเอฟเอคัพครั้งแรกใน ค.ศ. 1965 และชนะเลิศลีกสูงสุดใน ค.ศ. 1966 แต่แพ้ให้กับโบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ ฤดูกาล 1965–66 ลิเวอร์พูลชนะเลิศลีกและยูฟ่าคัพในฤดูกาล 1972–73 และชนะเลิศเอฟเอคัพอีกครั้งในปีถัดมา หลังจากนั้นไม่นาน แชงคลีเกษียณออกจากตำแหน่งและบ๊อบ เพสลีย์ ผู้ช่วยของเขา ขึ้นเป็นผู้จัดการทีมแทน ใน ค.ศ. 1976 ซึ่งเป็นฤดูกาลที่สองที่เพสลีย์เป็นผู้จัดการทีม สโมสรชนะเลิศลีกและยูฟ่าคัพอีกครั้ง และในฤดูกาลถัดมา สโมสรชนะเลิศลีกและชนะเลิศยูโรเปียนคัพเป็นครั้งแรก แต่แพ้ในรอบชิงชนะเลิศเอฟเอคัพ 1977 ลิเวอร์พูลชนะเลิศยูโรเปียนคัพอีกครั้งใน ค.ศ. 1978 และลีกสูงสุดใน ค.ศ. 1979 ตลอดเก้าฤดูกาลที่เพสลีย์เป็นผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูลคว้าถ้วยรางวัล 20 ใบ รวมไปถึงยูโรเปียนคัพ 3 ใบ, ยูฟ่าคัพ 1 ใบ, ลีกสูงสุด 6 ใบและลีกคัพ 3 ใบติดต่อกัน การแข่งขันในประเทศรายการเดียวที่เขาไม่ได้ชนะเลิศคือเอฟเอคัพ
เพสลีย์เกษียณใน ค.ศ. 1983 และโจ เฟแกนขึ้นเป็นผู้จัดการทีมแทน ในฤดูกาลแรกของเฟแกน ลิเวอร์พูลชนะเลิศลีก, ลีกคัพและยูโรเปียนคัพ กลายเป็นทีมอังกฤษทีมแรกที่ได้ถ้วยรางวัลสามใบในหนึ่งฤดูกาล ลิเวอร์พูลเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศของยูโรเปียนคัพอีกครั้งใน ค.ศ. 1985 โดยพบกับยูเวนตุสที่ ก่อนการแข่งขัน ผู้สนับสนุนลิเวอร์พูลพังรั้วซึ่งกั้นระหว่างผู้สนับสนุนทั้งสองฝั่งและเข้าปะทะกับผู้สนับสนุนยูเวนตุส น้ำหนักของกลุ่มผู้สนับสนุนส่งผลให้กำแพงที่กั้นพังลงมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 39 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวอิตาลี อุบัติการณ์นี้กลายเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ภัยพิบัติเฮย์เซล การแข่งขันนั้นดำเนินการต่อ ทั้งที่มีการประท้วงจากผู้จัดการทีมทั้งสองทีมและลิเวอร์พูลก็แพ้ให้กับยูเวนตุสด้วยผลประตู 1–0 ผลจากโศกนาฏกรรมดังกล่าว ส่งผลให้สโมสรจากอังกฤษไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันในยุโรปเป็นเวลาห้าปี ขณะที่สโมสรลิเวอร์พูลได้รับโทษห้ามเข้าร่วมการแข่งขันสิบปี ซึ่งต่อมาลดเหลือหกปี ผู้สนับสนุนลิเวอร์พูลสิบสี่คนได้รับการลงโทษจากความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา
เฟแกนประกาศเกษียณก่อนที่จะเกิดภัยพิบัติเฮย์เซลและเคนนี แดลกลีชได้รับการแต่งตั้งเป็น ในระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่ง สโมสรชนะเลิศลีกสูงสุดอีกสามสมัยและเอฟเอคัพสองสมัย รวมไปถึงการได้ดับเบิลแชมป์จากการชนะเลิศลีกและเอฟเอคัพในฤดูกาล 1985–86 อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของลิเวอร์พูลถูกบดบังด้วยภัยพิบัติฮิลส์โบโร ซึ่งเป็นการแข่งขันเอฟเอคัพ รอบรองชนะเลิศ ที่พบกับนอตทิงแฮมฟอเรสต์ เมื่อวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1989 โดยผู้สนับสนุนลิเวอร์พูลร้อยกว่าคนถูกบีบอัดติดกับรั้วกั้น ส่งผลให้ผู้สนับสนุนเสียชีวิต 94 คนในวันนั้น สี่วันต่อมา ผู้เคราะห์ร้ายคนที่ 95 เสียชีวิตที่โรงพยาบาลจากอาการบาดเจ็บของเขา และเกือบสี่ปีต่อมา ผู้เคราะห์ร้ายคนที่ 96 ก็เสียชีวิตโดยไม่สามารถฟื้นคืนสติกลับมาได้ แอนดรูว์ เดวีน ผู้เคราะห์ร้ายคนที่ 97 เสียชีวิตเมื่อ ค.ศ. 2021 จากอาการบาดเจ็บที่ได้รับจากภัยพิบัติ เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้รัฐบาลทบทวนเรื่องความปลอดภัยของสนามกีฬา ปูทางให้ออกกฎหมายให้สนามกีฬาของสโมสรลีกสูงสุดต้องเป็นแบบมีที่นั่งทั้งหมด รายงานระบุสาเหตุหลักของภัยพิบัติคือความแออัดของผู้คน เนื่องจากการควบคุมของตำรวจที่ล้มเหลว
ลิเวอร์พูลเกือบชนะเลิศลีกสูงสุดในฤดูกาล 1988–89 หลังจบฤดูกาลด้วยคะแนนและผลต่างประตูเท่ากับอาร์เซนอล แต่จำนวนประตูได้น้อยกว่า เมื่ออาร์เซนอลทำประตูลูกสุดท้ายใน
แดลกลีชลาออกใน ค.ศ. 1991 โดยอ้างภัยพิบัติฮิลส์โบโรและผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว อดีตผู้เล่นลิเวอร์พูล เข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมแทน ภายใต้การคุมทีมของเขา ลิเวอร์พูลชนะเลิศใน ค.ศ. 1992 แต่ผลงานในลีกนั้นไม่ค่อยดีนัก พวกเขาการจบอันดับที่ 6 สองฤดูกาลติดต่อกัน ทำให้ซูเนสถูกปลดในเดือนมกราคม ค.ศ. 1994 และ เข้ารับตำแหน่งแทน ภายใต้การคุมทีมของอีแวนส์ ลิเวอร์พูลชนะเลิศใน ค.ศ. 1995 และจบอันดับที่ 3 ใน ค.ศ. 1996 และ 1998 ซึ่งเป็นอันดับที่ดีที่สุดที่พวกเขาทำได้ เฌราร์ อูลีเย ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมร่วมในฤดูกาล 1998–99 และกลายเป็นผู้จัดการทีมเดี่ยวในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1998 หลังอีแวนส์ลาออก ใน ค.ศ. 2001 ซึ่งเป็นฤดูกาลที่สองอูลีเยที่ได้คุมทีมเต็มฤดูกาล ลิเวอร์พูลชนะเลิศทริปเปิลแชมป์ ได้แก่ เอฟเอคัพ, ลีกคัพและยูฟ่าคัพ อูลีเยเข้ารับการผ่าตัดหัวใจระหว่างฤดูกาล 2001–02 และลิเวอร์พูลจบอันดับที่ 2 ในลีกตามหลังอาร์เซนอล ลิเวอร์พูลชนะเลิศลีกคัพใน ค.ศ. 2003 แต่ก็ยังไม่สามารถชนะเลิศลีกสูงสุดได้ในสองฤดูกาลถัดมา
ราฟาเอล เบนิเตซเข้ารับตำแหน่งแทนอูลีเยหลังจบฤดูกาล 2003–04 ถึงแม้ว่าฤดูกาลแรกของเบนิเตซนั้นจะจบอันดับที่ 5 ในลีก แต่ลิเวอร์พูลก็ชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2004–05 ด้วยการเอาชนะเอซี มิลานในการดวลลูกโทษด้วยผลประตู 3–2 หลังจากเสมอกันด้วยผลประตู 3–3 ฤดูกาลถัดมา ลิเวอร์พูลจบอันดับที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก และชนะเลิศด้วยการเอาชนะเวสต์แฮมยูไนเต็ดในการดวลลูกโทษหลังจากเสมอกันด้วยผลประตู 3–3 นักธุรกิจชาวอเมริกัน และ กลายเป็นเจ้าของสโมสรระหว่างฤดูกาล 2006–07 หลังตกลงซื้อหุ้นของสโมสรซึ่งมีมูลค่ารวมกับหนี้คงค้างที่ 218.9 ล้านปอนด์ สโมสรเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศใน ค.ศ. 2007 ซึ่งพบกับมิลานอีกครั้ง เหมือนเมื่อ ค.ศ. 2005 แต่ก็แพ้ด้วยผลประตู 2–1 ช่วงระหว่างฤดูกาล 2008–09 ลิเวอร์พูลทำคะแนน 86 แต้ม เป็นสถิติของสโมสรที่ทำคะแนนเยอะที่สุดในยุคพรีเมียร์ลีกในเวลานั้น อย่างไรก็ตาม พวกเขาจบอันดับที่ 2 ตามหลังแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
ในฤดูกาล 2009–10 ลิเวอร์พูลจบอันดับที่ 7 ในพรีเมียร์ลีก ทำให้ไม่ได้สิทธิ์เข้าแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ส่งผลให้เบนิเตซลาออกจากตำแหน่งด้วยความยินยอมของทั้งสองฝ่ายรอย ฮอดจ์สัน อดีตผู้จัดการทีมฟูลัม เข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมลิเวอร์พูนแทน ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาล 2010–11 ลิเวอร์พูลนั้นเสี่ยงต่อการล้มละลายและเจ้าหนี้ของสโมสรขอให้ศาลสูงอนุญาตให้มีการขายสโมสรโดยปฏิเสธคำขอของฮิกส์และยิลเลตต์ เจ้าของทีมและ ประมูลสโมสรสำเร็จและได้เป็นเจ้าของในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2010 ผลการแข่งขันที่ย่ำแย่ในช่วงต้นฤดูกาล ทำให้ฮอดจ์สันลาออกจากตำแหน่งด้วยความยินยอมของทั้งสองฝ่ายและสโมสรแต่งตั้งเคนนี แดลกลีช อดีตผู้เล่นและผู้จัดการทีมเป็นผู้จัดการทีมอีกครั้ง ในฤดูกาล 2011-12 ลิเวอร์พูลชนะเลิศลีกคัพเป็นสมัยที่ 8 และเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศเอฟเอคัพ แต่กลับจบอันดับที่ 8 ในพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นการจบอันดับที่แย่ที่สุดในรอบ 18 ปี ทำให้แดลกลีชถูกไล่ออก และเบรนดัน ร็อดเจอส์เข้ารับตำแหน่งนี้แทน ในฤดูกาล 2013–14 เขาพาลิเวอร์พูลเกือบชนะเลิศพรีเมียร์ลีกอย่างเหลือเชื่อโดยจบอันดับที่ 2 รองจากแมนเชสเตอร์ซิตี พวกเขาทำประตูในลีก 101 ลูก นับเป็นการทำประตูมากที่สุดตั้งแต่ฤดูกาล 1895–96 ที่ทำประตูไป 106 ลูก สิ่งนี้ทำให้ลิเวอร์พูลได้สิทธิ์กลับไปแข่งขันในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ผลงานอันน่าผิดหวังในฤดูกาล 2014–15 ซึ่งลิเวอร์พูลจบอันดับที่ 6 ในลีก และการเริ่มต้นฤดูกาล 2015–16 ที่ย่ำแย่ ทำให้ร็อดเจอส์ถูกไล่ออกในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2015
เยือร์เกิน คล็อพ เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมแทนร็อดเจอส์ ในฤดูกาลแรก คล็อพพาทีมเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลลีกคัพและยูฟ่ายูโรปาลีก แต่จบด้วยการเป็นรองแชมป์ทั้งสองรายการ ลิเวอร์พูลจบอันดับที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2018–19 ด้วยคะแนน 97 แต้มโดยแพ้เพียงแค่เกมเดียวเท่านั้น ทำให้เป็นทีมที่ไม่ได้ชนะเลิศที่ทำแต้มมากที่สุด คล็อพพาสโมสรเข้ารอบชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกสองปีติดต่อกันใน ค.ศ. 2018 และ 2019 โดยชนะทอตนัมฮอตสเปอร์ด้วยผลประตู 2–0 ในนัดชิงชนะเลิศ ค.ศ. 2019 ลิเวอร์พูลเอาชนะฟลาเม็งกู สโมสรจากบราซิลในนัดชิงชนะเลิศของฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2019 ด้วยผลประตู 1–0 ทำให้ลิเวอร์พูลชนะเลิศรายการนี้เป็นครั้งแรก ลิเวอร์พูลชนะเลิศพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019–20 เป็นการชนะเลิศลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบสามสิบปี สโมสรทำหลายสถิติในฤดูกาลนี้ โดยรวมถึงการชนะเลิศลีกทั้งที่ยังเหลือการแข่งขันอีกเจ็ดนัด ทำให้เป็นสโมสรที่ชนะเลิศลีกเร็วที่สุด และการทำคะแนน 99 แต้มซึ่งเป็นสถิติใหม่ของสโมสร ลิเวอร์พูลชนะในลีกฤดูกาลนี้ 32 นัด นับเป็นสถิติร่วมของจำนวนนัดที่ชนะมากที่สุดในหนึ่งฤดูกาลของลีกสูงสุด เมื่อเดือนมกราคม ค.ศ. 2024 คล็อพประกาศจะออกจากสโมสรเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ค.ศ. 2024 สโมสรประกาศว่า อาร์เนอ สล็อต จะเข้ามารับตำแหน่งเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2024
สีชุดแข่งและตราสโมสร
ในช่วงเวลาส่วนใหญ่ของประวัติศาสตร์ลิเวอร์พูล สีชุดทีมเหย้าของสโมสรเป็นสีแดงล้วน แต่ในช่วงที่สโมสรเพิ่งก่อตั้ง ชุดทีมเหย้าจะคล้ายกับเอฟเวอร์ตันในสมัยนั้น โดยเป็นเสื้อแบ่งสี่ส่วนสีฟ้าขาว ชุดดังกล่าวใช้ในการแข่งขันจนถึง ค.ศ. 1894 เมื่อสโมสรนำสีแดงซึ่งเป็นสีประจำเมืองมาใช้ ตั้งแต่ ค.ศ. 1901 สโมสรใช้ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองลิเวอร์พูลเป็นตราสโมสร แต่ยังไม่ถูกนำมาอยู่ในชุดแข่งจนกระทั่งใน ค.ศ. 1955 ลิเวอร์พูลใส่ชุดแข่งขันเป็นเสื้อสีแดงและกางกางขาสั้นสีขาวจนถึง ค.ศ. 1964 เมื่อผู้จัดการทีม บิลล์ แชงคลี ตัดสินใจเปลี่ยนให้เป็นสีแดงล้วน ลิเวอร์พูลลงเล่นในชุดสีแดงล้วนครั้งแรกในนัดที่พบกับอันเดอร์เลคต์ ระลึกถึงในอัตชีวประวัติของเขาว่า:
เขา [แชงคลี] คิดว่าโทนสีจะส่งผลกระทบทางจิตวิทยา – สีแดงคือความอันตราย สีแดงคือพลัง วันหนึ่งเขาเข้ามาในห้องแต่งตัวและโยนกางเกงขาสั้นสีแดงคู่หนึ่งให้กับ "ใส่กางเกงขาสั้นนั่นซะและมาดูว่าคุณเป็นยังไง" เขาพูด "ให้ตายเถอะ รอนนี คุณดูดีมาก ดูน่ากลัว คุณดูเหมือนสูง 7 ฟุต" "ทำไมไม่ทำให้มันสมบูรณ์แบบไปเลยล่ะ หัวหน้า?" ผมเสนอ "ทำไมไม่สวมถุงเท้าสีแดงล่ะ? ใส่สีแดงล้วนให้หมดไปเลย" แชงคลีอนุมัติและชุดที่เป็นที่จดจำก็ถือกำเนิดขึ้น
สีชุดทีมเยือนของลิเวอร์พูลมักจะเป็นเสื้อสีเหลืองหรือสีขาวและกางเกงขาสั้นสีดำ ยกเว้นในบางครั้ง เช่น ใน ค.ศ. 1987 สโมสรใช้ชุดสีเทาล้วน และในฤดูกาล 1991–92 ซึ่งฉลองครบรอบหนึ่งร้อยปี สโมสรใช้เสื้อสีเขียวและกางเกงขาสั้นสีขาว ชุดทีมเยือนมีหลากหลายสีในทศวรรษ 1990 ประกอบด้วย สีทองกับสีกรมท่า, สีเหลืองสดใส, สีดำและสีเทาและสีน้ำตาลอ่อน สโมสรสลับสีชุดทีมเยือนระหว่างสีเหลืองกับสีขาว จนกระทั่งในฤดูกาล 2008–09 ได้กลับมาใช้ชุดสีเทาอีกครั้ง สีชุดที่สามถูกออกแบบสำหรับนัดเยือนในการแข่งขันรายการยุโรป แต่ก็สามารถใส่ชุดที่สามในนัดเยือนของการแข่งขันในประเทศได้ หากสีชุดทีมเยือนนั้นซ้ำกับสีชุดทีมเหย้า เป็นผู้ออกแบบชุดแข่งขันระหว่าง ค.ศ. 2012–2015 โดยเริ่มครั้งแรกในฤดูกาล 2012–13 ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2015 บริษัทแม่ของวอร์ริเออร์ นิวบาลานซ์ ประกาศเข้าสู่ตลาดฟุตบอลโลก ชุดแข่งของสโมสรจึงถูกเปลี่ยนผู้ผลิตชุดจากวอร์ริเออร์เป็นนิวบาลานซ์ เสื้อผ้ายี่ห้ออื่นที่เคยผลิตให้กับสโมสรได้แก่ อัมโบรซึ่งเคยผลิตชุดแข่งให้จนถึง ค.ศ. 1985 จากนั้นอาดิดาสได้เข้าแทนที่ จนกระทั่ง ค.ศ. 1996 รีบอคได้เข้ามาแทนที่อาดิดาส และผลิตชุดแข่งให้สโมสรเป็นเวลา 10 ปี ก่อนที่อาดิดาสจะกลับมาผลิตชุดแข่งให้อีกครั้งตั้งแต่ ค.ศ. 2006 ถึง 2012ไนกี้กลายเป็นผู้ผลิตชุดแข่งอย่างเป็นทางการตั้งแต่ฤดูกาล 2020–21
ลิเวอร์พูลเป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพแรกในอังกฤษที่มีตราของผู้สนับสนุนอยู่บนชุดแข่งขัน หลังทำสัญญากับฮิตาชิใน ค.ศ. 1979 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สโมสรได้รับการสนับสนุนจาก, , และสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด สัญญาที่เซ็นกับคาร์ลส์เบิร์กใน ค.ศ. 1992 นั้นเป็นสัญญาที่ยาวนานที่สุดในลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ สัญญานี้สิ้นสุดลงในช่วงต้นฤดูกาล 2010–11 เมื่อธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดกลายเป็นผู้สนับสนุนของสโมสร
ตราสโมสรของลิเวอร์พูลมีนกไลเวอร์ สัญลักษณ์ของเมือง ซึ่งในอดีตถูกนำมาใส่ในโล่ ต่อมาใน ค.ศ. 1992 ซึ่งเป็นปีที่มีการรำลึกถึงร้อยปีของสโมสร มีการออกแบบตราสโมสรใหม่โดยนำสัญลักษณ์ที่อยู่บนประตูแชงคลีมาใส่ไว้ด้วย ปีต่อมามีการใส่คบเพลิงคู่ไว้ทั้งสองด้านของตราสโมสร เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของอนุสรณ์สถานฮิลส์โบโรที่ตั้งอยู่ด้านนอกแอนฟีลด์ และระลึกถึงผู้เสียชีวิตในภัยพิบัติฮิลส์โบโร ใน ค.ศ. 2012 ชุดแข่งแรกของวอร์ริเออร์สปอร์ตส์นำโล่และประตูออกไป เหลือแค่นกไลเวอร์เหมือนกับชุดแข่งในทศวรรษ 1970 คบเพลิงถูกย้ายไปอยู่ด้านหลังเสื้อ ล้อมตัวเลข 96 ซึ่งเป็นจำนวนผู้เสียชีวิตในภัยพิบัติฮิลส์โบโร
ผู้ผลิตชุดและผู้สนับสนุนบนเสื้อ
ช่วงเวลา | ผู้ผลิตชุด | ผู้สนับสนุน (หน้าอก) | ผู้สนับสนุน (แขนเสื้อ) |
---|---|---|---|
1973–1979 | อัมโบร | ไม่มี | ไม่มี |
1979–1982 | ฮิตาชิ | ||
1982–1985 | |||
1985–1988 | อาดิดาส | ||
1988–1992 | |||
1992–1996 | |||
1996–2006 | รีบอค | ||
2006–2010 | อาดิดาส | ||
2010–2012 | สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด | ||
2012–2015 | วอร์ริเออร์สปอตส์ | ||
2015–2017 | นิวบาลานซ์ | ||
2017–2020 | |||
2020– | ไนกี้ | เอ็กซ์พีเดีย |
สนามกีฬา
แอนฟีลด์ถูกสร้างขึ้นใน ค.ศ. 1884 บนที่ดินติดกับ ห่างจากตัวเมืองลิเวอร์พูล 2 ไมล์ (3 กิโลเมตร) แต่เดิมเคยเป็นสนามเหย้าของเอฟเวอร์ตัน ก่อนที่สโมสรจะย้ายไปกูดิสันพาร์ก หลังมีข้อพิพาทเรื่องค่าเช่ากับ จอห์น โฮลดิง เจ้าของแอนฟีลด์ ทำให้แอนฟีลด์ไม่มีผู้ใช้งาน โฮลดิงจึงก่อตั้งลิเวอร์พูลใน ค.ศ. 1892 และสโมสรได้ลงเล่นในแอนฟีลด์นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ความจุของสนามในเวลานั้นคือ 20,000 ที่นั่ง อย่างไรก็ตาม มีผู้ชมเพียง 100 คนในการแข่งขันครั้งแรกของสโมสรที่สนามแห่งนี้
อัฒจันทร์เดอะค็อป ถูกสร้างขึ้นใน ค.ศ. 1906 เนื่องจากเริ่มมีผู้ชมเข้ามาชมเกมการแข่งขันมากขึ้น ในตอนแรกนั้นเรียกว่าโอกฟิลด์โรดเอ็มแบงก์เมนต์ โดยเกมแรกหลังการสร้างอัฒจันทร์นี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 1906 ในนัดที่เจ้าบ้านเอาชนะสโตกซิตีด้วยผลประตู 1–0 ใน ค.ศ. 1906 อัฒจันทร์ฝั่งยืนที่อยู่ปลายด้านหนึ่งของสนามถูกเปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการเป็น ตั้งชื่อตามเนินเขาใน ประเทศแอฟริกาใต้ เนินเขาเป็นที่ตั้งของในสงครามบูร์ครั้งที่สอง ซึ่งมีทหารมากกว่า 300 นายจากกองทหารแลงคาเชอร์เสียชีวิตที่นั่น โดยหลายคนมาจากลิเวอร์พูล อัฒจันทร์นี้สามารถจุได้สูงสุดถึง 28,000 คน เคยเป็นหนึ่งในอัฒจันทร์ยืนชั้นเดียวที่ใหญ่ที่สุดในโลก หลายสนามในอังกฤษเริ่มมีการตั้งชื่ออัฒจันทร์ว่าสปิออนค็อป แต่อัฒจันทร์สปิออนค็อปของแอนฟีลด์นี้เป็นอัฒจันทร์ที่ใหญ่ที่สุดในตอนนั้น โดยสามารถจุผู้สนับสนุนได้มากกว่าสนามฟุตบอลบางแห่ง
แอนฟีลด์สามารถรองรับผู้สนับสนุนสูงสุดได้มากกว่า 60,000 คนและมีความจุปกติที่ 55,000 คน จนกระทั่งในทศวรรษ 1990 หลัง เทย์เลอร์รีพอร์ต รายงานเหตุการณ์การถล่มของอัฒจันทร์ที่สนามฮิลส์โบโร พรีเมียร์ลีกจึงมีคำสั่งให้ทุกสนามเปลี่ยนจากอัฒจันทร์ยืนเป็นแบบนั่งทั้งหมดในฤดูกาล 1993–94 ความจุของแอนฟีลด์จึงลดลงเหลือ 45,276 ที่นั่ง ผลจากรายงานได้ผลักดันให้มีการปรับปรุงอัฒจันทร์เคมลินโรด ซึ่งปรับปรุงเสร็จใน ค.ศ. 1992 ตรงกับการครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งสโมสร จึงตั้งชื่อว่าอัฒจันทร์เซนเทเนรี และได้เปลี่ยนชื่อเป็นอัฒจันทร์เคนนีแดลกลีชใน ค.ศ. 2017 มีการสร้างอัฒจันทร์เพิ่มอีกหนึ่งชั้นในอัฒจันทร์ฝั่งแอนฟีลด์โรดในช่วงปลาย ค.ศ. 1998 ทำให้ความจุของสนามเพิ่มขึ้น แต่เกิดปัญหาขึ้นหลังจากการเปิดใช้งาน ทำให้ต้องมีการสร้างเสาและตอม่อค้ำจุนเสริมเข้าไปเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับชั้นบนสุดของอัฒจันทร์ หลังจากมีการรายงานการสั้นของชั้นอัฒจันทร์ช่วงเริ่มต้นของฤดูกาล 1999–2000
เนื่องจากข้อจำกัดในการขยายความจุของแอนฟีลด์ ลิเวอร์พูลได้ประกาศแผนย้ายไปสนามกีฬาสแตนลีย์พาร์กเมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2002 แผนนี้ได้รับการอนุมัติในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2004 และในเดือนกันยายน ค.ศ. 2006 สภาเมืองลิเวอร์พูลได้อนุมัติสัญญาเช่า 999 ปี ทำให้ลิเวอร์พูลได้รับอนุญาตให้สร้างสนามแห่งใหม่ใกล้สแตนลีย์พาร์ก ภายหลังจากการซื้อสโมสรโดยจอร์จ ยิลเลตต์ และทอม ฮิกส์ ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2007 สนามกีฬาดังกล่าวได้รับการออกแบบใหม่ โดยได้รับการอนุมัติจากสภาเมืองในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2007 กำหนดเปิดในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2011 สนามแห่งใหม่ถูกออกแบบให้มีความจุ 60,000 คน มีบริษัท เอชเคเอส เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง การก่อสร้างหยุดชั่วคราวในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2008 หลังยิลเลตต์และฮิกส์ ประสบปัญหาในการหาเงินมาลงทุน จำนวน 300 ล้านปอนด์ ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2012 บีบีซีสปอร์ต รายงานว่า เฟนเวย์สปอร์ตกรุป เจ้าของใหม่ของสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ได้ตัดสินใจปรับปรุงสนามแอนฟีลด์แทนการสร้างสนามใหม่ในสแตนลีย์พาร์ก โดยการปรับปรุงแอนฟีลด์จะทำให้เพิ่มความจุจาก 45,276 คนเป็นประมาณ 60,000 คน มีค่าใช้จ่ายประมาณ 150 ล้านปอนด์ เมื่อการก่อสร้างเมนสแตนด์ของแอนฟีลด์เสร็จ จะทำให้ความจุเพิ่มเป็น 54,074 คน การสร้างส่วนต่อขยายชั้นสามของอัฒจันทร์ซึ่งใช้เงิน 100 ล้านปอนด์ เป็นส่วนหนึ่งโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณรอบแอนฟีลด์ รวมมูลค่า 260 ล้านปอนด์ เยือร์เกิน คล็อพ ผู้จัดการทีมในเวลานั้นกล่าวถึงอัฒจันทร์ว่า "น่าประทับใจ"
การสนับสนุน
ลิเวอร์พูลเป็นหนึ่งสโมสรที่ได้รับการสนับสนุนมากที่สุดในโลก ลิเวอร์พูลแถลงว่ามีฐานผู้สนับสนุนทั่วโลก โดยมีผู้สนับสนุนสโมสรได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการมากกว่า 200 แห่งในอย่างน้อย 50 ประเทศ กลุ่มที่มีชื่อเสียง เช่น สโมสรจะใช้ประโยชน์จากการสนับสนุนนี้ผ่านการทัวร์ฤดูร้อนทั่วโลก ซึ่งรวมถึงการลงเล่นต่อหน้าผู้ชมจำนวน 101,000 คนที่มิชิแกนในสหรัฐ และผู้ชมจำนวน 95,000 คนที่เมลเบิร์นในออสเตรเลีย ผู้สนับสนุนของลิเวอร์พูลมักเรียกตัวเองว่าเป็น คอปิตส์ ซึ่งอ้างอิงถึงผู้สนับสนุนที่เคยยืนและนั่งบนอัฒจันทร์เดอะค็อปที่แอนฟีลด์ ใน ค.ศ. 2008 ผู้สนับสนุนของลิเวอร์พูลได้ก่อตั้งสโมสรชื่อว่า ซึ่งลงเล่นในเกมการแข่งขันให้สำหรับผู้สนับสนุนที่ไม่มีเงินดูฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
เพลง "ยูลล์เนฟเวอร์วอล์กอะโลน" แต่เดิมนั้นมาจากละครเพลงของรอดเจอร์สและแฮมเมอร์สไตน์ ชื่อว่า แคเรอแซล ซึ่งต่อมาได้บันทึกเสียงใหม่จนกลายเป็นเพลงสรรเสริญของสโมสรที่ผู้ชมในแอนฟิลด์ร้องตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1960 ซึ่งต่อมาก็ได้รับความนิยมในหมู่ผู้สนับสนุนของของสโมสรอื่นทั่วโลก ชื่อของเพลงถูกนำไปประดับบนประตูแชงคลี ซึ่งเปิดใช้งานเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1982 เพื่อรำลึกถึงอดีตผู้จัดการทีม บิล แชงคลี คำว่า "You'll Never Walk Alone" บนประตูแชงคลี ถูกนำไปใส่ไว้ด้านบนของตราสโมสร
ผู้สนับสนุนของสโมสรได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับโศกนาฏกรรมที่สำคัญ 2 ครั้ง ครั้งแรกคือ ภัยพิบัติสนามกีฬาเฮย์เซลเมื่อ ค.ศ. 1985 ทำให้ผู้สนับสนุนยูเวนตุสเสียชีวิต 39 คน พวกเขาถูกขังอยู่ที่มุมหนึ่งโดยผู้สนับสนุนลิเวอร์พูลที่พุ่งเข้ามาหาพวกเขา น้ำหนักของผู้สนับสนุนที่อยู่มุมนั้นทำให้กำแพงพังลงมา ยูฟ่ากล่าวโทษเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นความผิดของผู้สนับสนุนลิเวอร์พูลแต่เพียงผู้เดียว และระงับสิทธิ์สโมสรอังกฤษทั้งหมดจากการแข่งขันรายการฟุตบอลยุโรปเป็นเวลาห้าปี ลิเวอร์พูลได้รับโทษแบนเพิ่มเติมจนไม่สามารถเข้าร่วมยูโรเปียนคัพฤดูกาล 1990–91 แม้ว่าจะชนะเลิศลีกสูงสุดใน ค.ศ. 1990 ก็ตาม ผู้สนับสนุนยี่สิบเจ็ดคนถูกจับในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนาและถูกส่งตัวไปยังเบลเยียมเพื่อเข้าร่วมการพิจารณาคดีเมื่อ ค.ศ. 1987 ใน ค.ศ. 1989 หลังการพิจารณาคดีห้าเดือนในเบลเยียม ผู้สนับสนุนลิเวอร์พูล 14 คนได้รับโทษจำคุก 3 ปีจากความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา โทษจำคุกกึ่งหนึ่งให้รอลงอาญา
ภัยพิบัติครั้งที่สองเกิดขึ้นในเอฟเอคัพ รอบรองชนะเลิศ ระหว่างลิเวอร์พูลกับนอตทิงแฮมฟอเรสต์ที่สนามกีฬาฮิลส์โบโรในเชฟฟิลด์ เมื่อวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1989 ผู้สนับสนุนลิเวอร์พูล 96 คน เสียชีวิตจากการที่ผู้ชมเข้ามาในอัฒจันทร์ฝั่งแลปปิงส์เลนเอ็น ซึ่งกลายเป็นที่รู้จักในชื่อภัยพิบัติฮิลส์โบโร วันต่อมา หนังสือพิมพ์ เดอะซัน ได้ตีพิมพ์บทความ "เดอะทรูธ" ซึ่งอ้างว่าแฟนลิเวอร์พูลได้ปล้นคนที่เสียชีวิตกับโจมตีและปัสสาวะใส่ตำรวจ จากการสอบสวน ข้อกล่าวหานั้นไม่เป็นความจริง นำไปสู่การคว่ำบาตรหนังสือพิมพ์ โดยผู้สนับสนุนลิเวอร์พูลทั่วเมืองและที่อื่น ๆ หลายคนยังปฏิเสธที่จะซื้อ เดอะซัน แม้เวลาจะผ่านมาแล้ว 30 ปี องค์กรสนับสนุนหลายแห่งได้ก่อตั้งขึ้นหลังเกิดภัยพิบัติ เช่น การรณรงค์เพื่อความยุติธรรมของฮิลส์โบโร ซึ่งเป็นตัวแทนของครอบครัวผู้สูญเสีย ผู้รอดชีวิตและผู้สนับสนุนในความพยายามที่จะรักษาความยุติธรรม
คู่แข่ง
คู่แข่งของลิเวอร์พูลที่แข่งขันด้วยกันยาวนานที่สุดก็คือเอฟเวอร์ตัน โดยเรียกการแข่งขันนี้ว่าเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี จุดเริ่มต้นของการเป็นคู่แข่งนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่การก่อตั้งของลิเวอร์พูลและข้อพิพาทระหว่างคณะกรรมการของเอฟเวอร์ตันกับเจ้าของแอนฟีลด์ เมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บีเป็นหนึ่งในดาร์บีท้องถิ่นที่ไม่มีการบังคับแบ่งแยกผู้สนับสนุนทั้งสองฝ่าย จึงเป็นที่รู้จักในฐานะ "ดาร์บีมิตรภาพ" ตั้งแต่กลางทศวรรษ 1980 การแข่งขันเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งในสนามและนอกสนาม โดยเฉพาะตั้งแต่ก่อตั้งพรีเมียร์ลีกใน ค.ศ. 1992 เมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บีเป็นการแข่งขันที่มีผู้เล่นได้รับใบแดงและถูกไล่ออกจากสนามมากกว่านัดการแข่งขันอื่น ๆ เรียกได้ว่าเป็น "การแข่งขันที่ไร้กติกาและเดือดที่สุดในพรีเมียร์ลีก" ในแง่ของการสนับสนุนภายในเมือง จำนวนของผู้สนับสนุนลิเวอร์พูลนั้นมีมากกว่าเอฟเวอร์ตันในอัตราส่วน 2:1
ความเป็นคู่แข่งของลิเวอร์พูลกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเกิดขึ้นมาตั้งแต่การแข่งขันของทั้งสองเมืองในช่วงการปฏิวัติอุตสาหกรรมในศตวรรษที่ 19 ทั้งสองเมืองเชื่อมถึงกันด้วยและทางถนน ลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์นั้นห่างกันไปตามประมาณ 30 ไมล์ (48 กิโลเมตร) นิตยสาร จัดอันดับให้ลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นสองสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ ทั้งสองสโมสรเป็นทีมจากอังกฤษที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดทั้งในประเทศและต่างประเทศ และก็มีผู้สนับสนุนทั่วโลก การแข่งขันนี้ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในคู่แข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกฟุตบอลและเป็นการแข่งขันที่มีชื่อเสียงที่สุดในฟุตบอลอังกฤษ ทั้งสองสโมสรผลัดกันชนะเลิศระหว่าง ค.ศ. 1964 ถึง 1967 และแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกลายเป็นทีมจากอังกฤษทีมแรกที่ชนะเลิศยูโรเปียนคัพใน ค.ศ. 1968 ก่อนที่ลิเวอร์พูลจะชนะเลิศในรายการยูโรเปียนคัพ 4 สมัยในเวลาต่อมา เมื่อรวมกันแล้วทั้งสองสโมสรชนะเลิศลีกสูงสุด 39 สมัยและยูโรเปียนคัพ 9 สมัย ทั้งสองสโมสรนั้นประสบความสำเร็จต่างช่วงเวลา ลิเวอร์พูลชนะเลิศลีกสูงสุดในช่วงทศวรรษ 1970 และ 1980 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไม่ชนะเลิศลีกสูงสุดยาวนาน 26 ปี และความสำเร็จของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในยุคพรีเมียร์ลีก เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ลิเวอร์พูลไม่ชนะเลิศลีกสูงสุดยาวนาน 30 ปี และทั้งสองสโมสรจบฤดูกาลเป็นที่หนึ่งกับที่สองในลีกด้วยกันแค่ห้าครั้งเท่านั้น ด้วยความเป็นคู่แข่ง ทำให้ทั้งสองสโมสรทำการซื้อขายผู้เล่นระหว่างกันน้อยมาก ผู้เล่นคนสุดท้ายที่ย้ายระหว่างสองสโมสรคือ ที่ย้ายจากลิเวอร์พูลไปแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเมื่อ ค.ศ. 1964
ความเป็นเจ้าของและฐานะทางการเงิน
จอห์น โฮลดิง เป็นประธานคนแรกของสโมสร ในฐานะที่เป็นเจ้าของแอนฟีลด์และผู้ก่อตั้งของลิเวอร์พูล เขาดำรงตำแหน่งตั้งแต่ ค.ศ. 1892 จนถึง ค.ศ. 1904 ต่อมา เข้ามารับตำแหน่งเป็นประธานสโมสรหลังจากที่โฮลดิงออกไป และได้กลายเป็นประธานของฟุตบอลลีก มีการผลัดเปลี่ยนตำแหน่งประธานสโมสรอยู่หลายคน ก่อนที่จอห์น สมิธ ซึ่งพ่อของเขาเป็นผู้ถือหุ้นของสโมสร เข้ามารับตำแหน่งใน ค.ศ. 1973 เขาเป็นประธานสโมสรในช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของลิเวอร์พูล ก่อนที่เขาจะก้าวลงจากตำแหน่งใน ค.ศ. 1990 เข้ารับตำแหน่งประธานสโมสรในปีเดียวกัน ซึ่งครอบครัวของเขาเป็นเจ้าของสโมสรยาวนานกว่า 50 ปี เข้ามารับตำแหน่งประธานสโมสรใน ค.ศ. 1991 ลุงของเขา เคยเป็นผู้ถือหุ้นของลิเวอร์พูลและเคยเป็นประธานของเอฟเวอร์ตัน ตั้งแต่ ค.ศ. 1961 ถึง 1973 มัวร์สเป็นเจ้าของสโมสรร้อยละ 51 และใน ค.ศ. 2004 เขาแสดงความเต็มใจที่จะพิจารณาการเสนอราคาสำหรับหุ้นของเขาในลิเวอร์พูล
ท้ายที่สุด มัวร์สขายสโมสรให้กับนักธุรกิจชาวอเมริกัน จอร์จ ยิลเลตต์ และทอม ฮิกส์ เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2007 โดยที่ข้อตกลงมีมูลค่าสโมสรและหนี้คงค้างที่ 218.9 ล้านปอนด์ ทั้งสองคนจ่าย 5,000 ปอนด์ต่อหุ้น หรือ 174.1 ล้านปอนด์สำหรับการถือหุ้นทั้งหมดและ 44.8 ล้านปอนด์เพื่อชำระหนี้สินของสโมสร ความขัดแย้งระหว่างยิลเลตต์กับฮิกส์และการที่ผู้สนับสนุนไม่สนับสนุนพวกเขา ทำให้ทั้งสองคนต้องการขายสโมสร ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานสโมสรเมื่อวันที่ 16 เมษายน ค.ศ. 2010 เพื่อดูแลการขายสโมสร ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2010 มีบัญชีที่แสดงให้เห็นว่าบริษัทโฮลดิงของสโมสรมีหนี้ 350 ล้านปอนด์ (เนื่องจากการซื้อสโมสรที่ใช้เงินจากการยืม) พร้อมกับขาดทุน 55 ล้านปอนด์ ทำให้ผู้สอบบัญชีอย่างเคพีเอ็มจีมีคุณสมบัติเป็นผู้ทำรายงานตรวจสอบบัญชี กลุ่มของเจ้าหนี้รวมไปถึงนำตัวยิลเลตต์กับฮิกส์ขึ้นศาล และบังคับให้พวกเขาอนุญาตให้คณะกรรมการดำเนินการขายสโมสรและสินทรัพย์หลักของบริษัทโฮลดิง ผู้พิพากษาศาลสูง ตัดสินให้เจ้าหนี้ชนะคดีและปูทางให้เกิดการขายสโมสรให้กับ (อดีต นิวอิงแลนด์สปอร์ตเวนเจอร์ส) ถึงแม้ว่ายิลเลตต์กับฮิกส์ยังคงมีตัวเลือกในการอุทธรณ์ ยิลเลตต์กับฮิกส์ขายลิเวอร์พูลให้กับเฟนเวย์สปอร์ตกรุปเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ค.ศ. 2010 เป็นจำนวนเงิน 300 ล้านปอนด์
ลิเวอร์พูลได้รับการขนานนามว่าเป็นตราสินค้าระดับโลก จากรายงานเมื่อ ค.ศ. 2010 เครื่องหมายการค้าและทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวข้องของสโมสรถูกประเมินมูลค่าไว้ที่ 141 ล้านปอนด์ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้านี้ 5 ล้านปอนด์ ลิเวอร์พูลได้รับการจัดอันดับเรตติงของแบรนด์ให้อยู่ในระดับ AA (แข็งแกร่งมาก) ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2010 นิตยสารธุรกิจ ฟอบส์ จัดอันดับให้ลิเวอร์พูลอยู่ในอันดับที่ 6 ของทีมฟุตบอลที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก รองจากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด, เรอัลมาดริด, อาร์เซนอล, บาร์เซโลนา และไบเอิร์นมิวนิก โดยประเมินมูลค่าของลิเวอร์พูลไว้ที่ 822 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (532 ล้านปอนด์) ไม่รวมหนี้ นักบัญชีจากดีลอยต์จัดอันดับให้ลิเวอร์พูลอยู่ในอันดับที่ 8 ใน ซึ่งเป็นการจัดอันดับสโมสรฟุตบอลในโลกในแง่ของรายได้ รายได้ของลิเวอร์พูลในฤดูกาล 2009–10 อยู่ที่ 225.3 ล้านยูโร รายงานของดีลอยต์เมื่อ ค.ศ. 2018 ระบุว่า ในปีก่อนหน้า สโมสรมีรายได้ประจำปีอยู่ที่ 424.2 ล้านยูโร และ ฟอบส์ ประเมินมูลค่าสโมสรไว้ที่ 1.944 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อมาใน ค.ศ. 2018 รายได้ประจำปีเพิ่มขึ้นเป็น 513.7 ล้านยูโร และ ฟอบส์ ประเมินมูลค่าสโมสรไว้ที่ 2.183 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และใน ค.ศ. 2019 ดีลอยต์รายงานว่า รายได้ประจำปีเพิ่มขึ้นเป็น 604 ล้านยูโร (533 ล้านปอนด์) ทำให้สโมสรทำเงินเกินห้าร้อยล้านปอนด์
ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2020 ผู้สนับสนุนและสื่อต่าง ๆ แสดงความไม่พอใจต่อเจ้าของสโมสร หลังตัดสินใจจะพักงานลูกจ้างที่ไม่ใช่นักเตะในช่วงการระบาดทั่วของโควิด-19 ทำให้สโมสรกลับคำและขอโทษสำหรับการตัดสินใจในตอนแรกของพวกเขา ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2021 ฟอบส์ ประเมินมูลค่าสโมสรไว้ที่ 4.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสองปีนั้นเพิ่มขึ้นร้อยละ 88 ทำให้ลิเวอร์พูลกลายเป็นสโมสรฟุตบอลของโลก
ลิเวอร์พูลในสื่อ
ลิเวอร์พูลปรากฏในรายการ ของบีบีซี ซึ่งออกอากาศไฮไลต์การแข่งขันระหว่างพวกเขากับอาร์เซนอลที่แอนฟีลด์ เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ค.ศ. 1964 การแข่งขันฟุตบอลนัดแรกที่ออกอากาศเป็นภาพสีทางโทรทัศน์คือ นัดการแข่งระหว่างลิเวอร์พูลกับเวสต์แฮมยูไนเต็ด ถ่ายทอดสดในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1967 ผู้สนับสนุนลิเวอร์พูลปรากฏในเพลงของพิงก์ฟลอยด์ชื่อว่า "" โดยพวกเขาร้องเพลงที่ตัดตอนมาจากเพลง "ยูลล์เนฟเวอร์วอล์กอะโลน" ลิเวอร์พูลปล่อยเพลง "" โดยมี และสมาชิกคนอื่น ๆ ในทีมร่วมร้องเพลงนี้ เพื่อเป็นที่จดจำของสโมสรที่เข้าชิงชนะเลิศเอฟเอคัพเมื่อ ค.ศ. 1988
ละครสารคดีเกี่ยวกับภัยพิบัติฮิลส์โบโร เขียนบทโดย ออกอากาศเมื่อ ค.ศ. 1996 แสดงนำโดย เป็นเทรเวอร์ ฮิกส์ ผู้สูญเสียลูกสาววัยรุ่นสองคนในภัยพิบัติ และเป็นผู้รณรงค์เพื่อการออกแบบสนามกีฬาที่ปลอดภัยและช่วยก่อตั้งกลุ่มสนับสนุนครอบครัวฮิลส์โบโร ลิเวอร์พูลปรากฏในภาพยนตร์เรื่อง (อังกฤษ: The 51st State) โดยตัวละครอดีตนักฆ่า เฟลิกซ์ เดอซูซา () เป็นผู้สนับสนุนของทีมและฉากสุดท้ายเกิดขึ้นในเกมการแข่งขันระหว่างลิเวอร์พูลกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด สโมสรปรากฏในรายการโทรทัศน์สำหรับเด็ก ซึ่งเกี่ยวกับเด็กหนุ่มที่พยายามเข้ามาทดสอบฝีเท้ากับลิเวอร์พูล
ผู้เล่น
ผู้เล่นชุดปัจจุบัน
- ณ วันที่ 31 มกราคม ค.ศ. 2024
หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ
|
|
ผู้เล่นที่ถูกยืมตัว
หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ
|
|
ทีมสำรองและศูนย์เยาวชน
อดีตผู้เล่น
สถิติผู้เล่น
กัปตันทีม
ตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรใน ค.ศ. 1892 มีผู้เล่น 45 คนที่ได้รับเลือกให้เป็นกัปตันทีมของสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล เป็นกัปตันทีมคนแรกหลังจากที่ลิเวอร์พูลก่อตั้งสโมสรโดยแยกตัวจากเอฟเวอร์ตัน อเล็กซ์ เรสเบค เป็นกัปตันทีมระหว่าง ค.ศ. 1899–1909 และเป็นผู้เล่นที่ทำหน้าที่กัปตันทีมยาวนานที่สุด ก่อนที่สตีเวน เจอร์ราด ซึ่งอยู่กับลิเวอร์พูลยาวนานถึง 12 ฤดูกาล ตั้งแต่ 2003–04 จะทำลายสถิติ กัปตันทีมคนปัจจุบันคือ เฟอร์จิล ฟัน ไดก์ ทำหน้าที่แทน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ในฤดูกาล 2023–24 หลังเฮนเดอร์สันย้ายไป อัลอิตติฟาก
|
|
ผู้เล่นแห่งฤดูกาล
บุคลากร
สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลและแอธเลติกกราวน์จำกัด
แหล่งข้อมูล: สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล
แหล่งข้อมูล: | ผู้ฝึกสอนและทีมแพทย์
แหล่งข้อมูล: |
เกียรติประวัติ
ถ้วยรางวัลแรกของลิเวอร์พูลคือแลงคาเชอร์ลีก ซึ่งชนะเลิศในฤดูกาลแรกของสโมสร ต่อมาใน ค.ศ. 1901 สโมสรชนะเลิศลีกสมัยแรก ในขณะที่สมัยที่ 19 หรือสมัยล่าสุดเกิดขึ้นใน ค.ศ. 2020 ความสำเร็จแรกในเอฟเอคัพเกิดขึ้นใน ค.ศ. 1965 ช่วงที่ลิเวอร์พูลชนะถ้วยรางวัลมากที่สุดคือทศวรรษ 1980 ซึ่งสโมสรชนะเลิศลีก 6 สมัย เอฟเอคัพ 2 สมัย ลีกคัพ 4 สมัย ฟุตบอลลีกซูเปอร์คัพ 1 สมัย แชริตีชีลด์ 5 สมัย (ร่วมกับสโมสรอื่น 1 สมัย) และยูโรเปียนคัพ 2 สมัย
สโมสรมีจำนวนนัดที่ชนะและคะแนนบนลีกสูงสุดมากกว่าทีมอื่นในอังกฤษ ลิเวอร์พูลยังมีอันดับในลีกโดยเฉลี่ยสูงสุด (3.3) ในช่วง 50 ปีนับถึง ค.ศ. 2015 และมีอันดับลีกเฉลี่ยสูงเป็นอันดับที่สอง (8.7) ในช่วง ค.ศ. 1900–1999 รองจากอาร์เซนอล
ลิเวอร์พูลเป็นสโมสรบริติชที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในระดับนานาชาติที่ 14 สมัย โดยชนะเลิศยูโรเปียนคัพหรือยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับสโมสรสูงสุดของยูฟ่า 6 สมัย นับเป็นสถิติสูงสุดของทีมอังกฤษ และเป็นรองเพียงเรอัลมาดริดและเอซี มิลาน การชนะเลิศยูโรเปียนคัพสมัยที่ 5 ของลิเวอร์พูลใน ค.ศ. 2005 ทำให้สโมสรได้รับถ้วยรางวัลถาวรและยังได้รับตราผู้ชนะหลายสมัยด้วย ลิเวอร์พูลยังถือสถิติเป็นทีมจากอังกฤษที่ชนะเลิศยูฟ่าคัพ การแข่งขันระดับที่สองของสโมสรยุโรป มากที่สุดที่ 3 สมัย ใน ค.ศ. 2019 สโมสรชนะเลิศฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกเป็นสมัยแรก ทำให้เป็นสโมสรแรกจากอังกฤษที่ชนะเลิศสามรายการระดับทวีป ได้แก่ สโมสรโลก แชมเปียนส์ลีก และยูฟ่าซูเปอร์คัพ
ระดับ | การแข่งขัน | ชนะเลิศ | ฤดูกาล |
---|---|---|---|
ประเทศ | เฟิสต์ดิวิชัน/พรีเมียร์ลีก | 19 | , , , , , , , , , , , , , , , , , , 2019–20 |
เซคันด์ดิวิชัน | 4 | , , , | |
เอฟเอคัพ | 8 | , , , , , , , 2021–22 | |
ฟุตบอลลีกคัพ/อีเอฟแอลคัพ | 10 | , , , , , 2000–01, 2002–03, , 2021–22, 2023-24 | |
เอฟเอแชริตีชีลด์/เอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ | 16 | *, *, , , , *, , , , *, , , *, , 2006, 2022 (* ร่วม) | |
1 | |||
ทวีป | ยูโรเปียนคัพ/ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก | 6 | , , , , , 2018–19 |
ยูฟ่าคัพ/ยูฟ่ายูโรปาลีก | 3 | , , | |
ยูฟ่าซูเปอร์คัพ | 4 | , , , 2019 | |
โลก | ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ | 1 | 2019 |
ระดับรอง
-
- ชนะเลิศ (1) :
-
- ชนะเลิศ (1) :
ดับเบิลแชมป์และทริปเปิลแชมป์
หมายเหตุ
- พรีเมียร์ลีก ก่อตั้งเมื่อ ค.ศ. 1992 กลายเป็นลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ จากนั้นฟุตบอลลีกเฟิสต์และเซคันด์ดิวิชัน ได้กลายเป็นลีกระดับที่สองและสาม ตามลำดับ และตั้งแต่ ค.ศ. 2004 เฟิสต์ดิวิชันกลายเป็นแชมเปียนชิปและเซคันด์ดิวิชันกลายเป็นลีกวัน
- ดับเบิลที่เป็นส่วนหนึ่งของทริปเปิลแชมป์ อาทิ เอฟเอคัพและลีกคัพใน ค.ศ. 2001 จะไม่นับรวมในดับเบิลแชมป์
อ้างอิง
- "Happy birthday LFC? Not quite yet..." Liverpool F.C. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-04-07. สืบค้นเมื่อ 15 March 2014.
Liverpool F.C. was born on 3 June 1892. It was at John Houlding's house in Anfield Road that he and his closest friends left from Everton FC, formed a new club.
- Beattie, Adam (2024-02-10). "12 new photos and video as Anfield Road End nears full capacity". This Is Anfield (ภาษาอังกฤษแบบบริติช).
- . Liverpool F.C. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 July 2010. สืบค้นเมื่อ 11 August 2010.
- Graham 1985, p. 14.
- Kelly 1988, p. 15.
- Graham 1985, pp. 16–18.
- Graham 1985, p. 20.
- Liversedge 1991, p. 14.
- Kelly 1988, pp. 50–51.
- Kelly 1988, p. 57.
- . Union of European Football Associations (UEFA). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 May 2014.
- Kelly 1999, p. 86.
- Pead 1986, p. 414.
- Kelly 1988, p. 157.
- Kelly 1988, p. 158.
- Cox, Russell & Vamplew 2002, p. 90.
- "On This Day – 29 May 1985: Fans die in Heysel rioting". BBC. 29 May 1985. จากแหล่งเดิมเมื่อ 12 January 2018. สืบค้นเมื่อ 12 September 2006.
- Kelly 1988, p. 172.
- "On This Day – 15 April 1989: Soccer fans crushed at Hillsborough". BBC. 15 April 1989. จากแหล่งเดิมเมื่อ 23 September 2021. สืบค้นเมื่อ 12 September 2006.
- Pithers, Malcolm (22 December 1993). "Hillsborough victim died 'accidentally': Coroner says withdrawal of treatment not to blame". The Independent. จากแหล่งเดิมเมื่อ 12 June 2018. สืบค้นเมื่อ 28 August 2010.
- "Hillsborough: Fan injured in stadium disaster dies 32 years later". BBC News. BBC. 29 July 2021. จากแหล่งเดิมเมื่อ 19 September 2021. สืบค้นเมื่อ 20 September 2021.
- "A hard lesson to learn". BBC. 15 April 1999. จากแหล่งเดิมเมื่อ 13 January 2016. สืบค้นเมื่อ 12 September 2006.
- Cowley, Jason (29 March 2009). "The night Football was reborn". The Observer. จากแหล่งเดิมเมื่อ 23 June 2012. สืบค้นเมื่อ 23 July 2011.
- Liversedge 1991, pp. 104–105.
- Scully, Mark (22 February 2012). "LFC in the League Cup final: 1995 – McManaman masterclass wins praise from wing wizard Matthews". Liverpool Echo. จากแหล่งเดิมเมื่อ 23 February 2012. สืบค้นเมื่อ 2 February 2020.
- Kelly 1999, p. 227.
- "Houllier acclaims Euro triumph". BBC Sport. 16 May 2001. จากแหล่งเดิมเมื่อ 12 January 2016. สืบค้นเมื่อ 24 March 2007.
- "Houllier 'satisfactory' after surgery". BBC Sport. 15 October 2001. จากแหล่งเดิมเมื่อ 12 January 2016. สืบค้นเมื่อ 13 March 2007.
- "Liverpool lift Worthington Cup". BBC Sport. 2 March 2003. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2 February 2014. สืบค้นเมื่อ 2 February 2020.
- . Statto. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 December 2013. สืบค้นเมื่อ 3 September 2012.
- "AC Milan 3–3 Liverpool (aet)". BBC Sport. 25 May 2005. จากแหล่งเดิมเมื่อ 12 June 2018. สืบค้นเมื่อ 15 April 2007.
- "Liverpool 3–3 West Ham (aet)". BBC Sport. 13 May 2006. จากแหล่งเดิมเมื่อ 9 September 2007. สืบค้นเมื่อ 26 August 2010.
- "US pair agree Liverpool takeover". BBC Sport. 6 February 2007. จากแหล่งเดิมเมื่อ 12 January 2016. สืบค้นเมื่อ 2 March 2007.
- McNulty, Phil (23 May 2007). "AC Milan 2–1 Liverpool". BBC Sport. จากแหล่งเดิมเมื่อ 24 May 2007. สืบค้นเมื่อ 23 May 2007.
- "Liverpool's top-flight record". LFC History. จากแหล่งเดิมเมื่อ 16 May 2019. สืบค้นเมื่อ 19 August 2011.
- . The Daily Telegraph. 3 June 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-06-06. สืบค้นเมื่อ 3 June 2010.
- . Liverpool F.C. 1 July 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 July 2010. สืบค้นเมื่อ 11 August 2010.
- Gibson, Owen (15 October 2010). "Liverpool FC finally has a new owner after 'win on penalties'". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 7 November 2010.
- "Roy Hodgson exits and Kenny Dalglish takes over". BBC Sport. 8 January 2011. สืบค้นเมื่อ 22 April 2011.
- Bensch, Bob; Panja, Tariq (16 May 2012). . Bloomberg. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 June 2012.
- Ingham, Mike (16 May 2012). "Kenny Dalglish sacked as Liverpool manager". BBC. สืบค้นเมื่อ 10 June 2012.
- "Liverpool manager Brendan Rodgers to 'fight for his life'". BBC. 1 June 2012. สืบค้นเมื่อ 10 June 2012.
- Ornstein, David (12 May 2014). "Liverpool: Premier League near-miss offers hope for the future". BBC Sport. BBC. สืบค้นเมื่อ 7 August 2014.
- . Liverpool F.C. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 สิงหาคม 2012. สืบค้นเมื่อ 27 สิงหาคม 2012.
- "Brendan Rodgers: Liverpool boss sacked after Merseyside derby". BBC Sport. 4 October 2015. สืบค้นเมื่อ 10 October 2015.
- Smith, Ben (8 October 2015). "Liverpool: Jurgen Klopp confirmed as manager on £15m Anfield deal". BBC Sport. BBC. สืบค้นเมื่อ 10 October 2015.
- "Liverpool 1–3 Sevilla". BBC. 18 May 2016.
- "Premier League: The numbers behind remarkable title battle" (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2019-05-12. สืบค้นเมื่อ 2019-05-19.
- "Liverpool beat Spurs to become champions of Europe for sixth time". BBC. สืบค้นเมื่อ 1 June 2019.
- "Real Madrid 3-1 Liverpool" (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2018-05-26. สืบค้นเมื่อ 2019-05-19.
- "Firmino winner seals Club World Cup win". BBC. สืบค้นเมื่อ 21 December 2019.
- "Liverpool win Premier League: Reds' 30-year wait for top-flight title ends". BBC. สืบค้นเมื่อ 25 June 2020.
- Sport, Telegraph (2020-07-22). "Liverpool lift the Premier League trophy tonight - these are the records they've broken on the way". The Telegraph (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). ISSN 0307-1235. สืบค้นเมื่อ 2020-07-24.
- "Champions Liverpool beat Newcastle to finish on 99 points". BBC. 26 July 2020. สืบค้นเมื่อ 27 July 2020.
- "Jurgen Klopp: Liverpool manager to leave Anfield at end of season". Sky Sports (ภาษาอังกฤษ). จากแหล่งเดิมเมื่อ 26 January 2024. สืบค้นเมื่อ 2024-01-30.
- "Arne Slot to become Liverpool FC's new head coach" (ภาษาอังกฤษ). Liverpool F.C. 20 May 2024. สืบค้นเมื่อ 22 May 2024.
- . Liverpool F.C. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 July 2010. สืบค้นเมื่อ 12 August 2010.
- St. John, Ian (9 October 2005). "Shankly: the hero who let me down". The Times. สืบค้นเมื่อ 12 September 2006.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 January 2012. สืบค้นเมื่อ 18 January 2012.
- Badenhausen, Kurt (4 February 2015). "New Balance Challenges Nike And Adidas With Entry into Global Soccer Market". Forbes. สืบค้นเมื่อ 4 February 2015.
- Crilly 2007, p. 28.
- "LFC announces multi-year partnership with Nike as official kit supplier from 2020-21". Liverpool F.C. สืบค้นเมื่อ 7 January 2020.
- Dart, James; Tinklin, Mark (6 July 2005). "Has a streaker ever scored?". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 16 August 2007.
- Espinoza, Javier (8 May 2009). "Carlsberg and Liverpool might part ways". Forbes. สืบค้นเมื่อ 23 July 2008.
- "Liverpool and Standard Chartered announce sponsorship deal". Standard Chartered Bank. 14 September 2009. สืบค้นเมื่อ 12 August 2010.
- "Hillsborough". Liverpool F.C. สืบค้นเมื่อ 12 August 2010.
- "Liverpool kit launch sparks anger among Hillsborough families". BBC Sport. BBC. 11 May 2012. สืบค้นเมื่อ 17 May 2012.
- "Liverpool land Expedia sleeve deal following Western Union departure - SportsPro Media". www.sportspromedia.com. สืบค้นเมื่อ 2020-10-20.
- Liversedge 1991, p. 112.
- Kelly 1988, p. 187.
- Moynihan 2009, p. 24.
- Liversedge 1991, p. 113.
- Kelly 1988, p. 188.
- Pearce, James (23 August 2006). . Liverpool Echo. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 February 2009. สืบค้นเมื่อ 6 December 2008.
- (PDF). Premier League Handbook Season 2010/11. Premier League. 2010. p. 35. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 14 December 2010. สืบค้นเมื่อ 17 August 2010.
- "Anfield". Liverpool F.C. สืบค้นเมื่อ 15 August 2010.
- "Liverpool unveil new stadium". BBC Sport. 17 May 2002. สืบค้นเมื่อ 17 March 2007.
- Hornby, Mike (31 July 2004). "Reds stadium gets go-ahead". Liverpool Echo. สืบค้นเมื่อ 12 September 2006.
- "Liverpool get go-ahead on stadium". BBC Sport. 8 September 2006. สืบค้นเมื่อ 8 March 2007.
- "Liverpool's stadium move granted". BBC. 6 November 2007. สืบค้นเมื่อ 22 August 2010.
- "Liverpool stadium 'will be built'". BBC Sport. 17 September 2009. สืบค้นเมื่อ 28 July 2011.
- Smith, Ben (15 October 2012). "Liverpool to redevelop Anfield instead of building on Stanley Park". BBC Sport. BBC. สืบค้นเมื่อ 16 August 2014.
- "Liverpool's new Main Stand boosts Anfield capacity to 54,000". BBC News. BBC. 9 September 2016. สืบค้นเมื่อ 27 September 2019.
- "How Liverpool's worldwide fanbase will be tuning into events at Manchester United". Liverpool Echo. สืบค้นเมื่อ 29 July 2018.
- Rice, Simon (6 November 2009). "Manchester United top of the 25 best supported clubs in Europe". The Independent. สืบค้นเมื่อ 6 August 2011.
- . Liverpool F.C. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 July 2011. สืบค้นเมื่อ 6 August 2011.
- . Liverpool F.C. 27 July 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 July 2015. สืบค้นเมื่อ 2 September 2014.
- "Steven Gerrard delights the MCG crowd as Liverpool beats Melbourne Victory 2–0". ABC. สืบค้นเมื่อ 29 July 2018.
- "Man Utd 1–4 Liverpool: Xherdan Shaqiri scores stunning overhead kick". BBC. สืบค้นเมื่อ 29 July 2018.
- . Fédération Internationale de Football Association (FIFA). 11 June 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 September 2008. สืบค้นเมื่อ 14 November 2008.
- George, Ricky (18 March 2008). "Liverpool fans form a club in their price range". The Daily Telegraph. สืบค้นเมื่อ 18 March 2008.
- Hart, Simon (25 October 2013). "Anfield's 50 years of never walking alone". The Independent. สืบค้นเมื่อ 20 July 2018.
- . Fédération Internationale de Football Association (FIFA). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-08-24. สืบค้นเมื่อ 23 July 2011.
- "LFC Crests". Liverpool F.C. สืบค้นเมื่อ 29 July 2018.
- McKie, David (31 May 1985). "Thatcher set to demand FA ban on games in Europe". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 7 December 2008.
- "The Heysel disaster". BBC. 29 May 2000. สืบค้นเมื่อ 7 December 2008.
- "1987: Liverpool fans to stand trial in Belgium". BBC. 9 September 1987. สืบค้นเมื่อ 22 August 2010.
- Jackson, Jamie (4 April 2005). "The witnesses". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 27 May 2006.
- "Liverpool remembers Heysel". BBC. 29 May 2000. สืบค้นเมื่อ 24 May 2006.
- Smith, David (11 July 2004). "The city that eclipsed the Sun". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 7 December 2008.
- Burrell, Ian (8 July 2004). "An own goal? Rooney caught in crossfire between 'The Sun' and an unforgiving city". The Independent. สืบค้นเมื่อ 22 December 2008.
- . Liverpool F.C. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 February 2012. สืบค้นเมื่อ 23 July 2011.
- . Fédération Internationale de Football Association (FIFA). 11 September 2006. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 August 2009. สืบค้นเมื่อ 20 December 2008.
- Smith, Rory (24 January 2009). "Liverpool and Everton no longer play the 'friendly derby' as fans become more vitriolic". The Daily Telegraph. สืบค้นเมื่อ 26 August 2010.
- Smith, Rory (7 February 2010). "Liverpool 1 Everton 0: match report". The Daily Telegraph. สืบค้นเมื่อ 20 July 2011.
- "Everton's research confirms Liverpool fans vastly outweigh them in the city". MSN. 20 February 2020.
- Rohrer, Finlo (21 August 2007). "Scouse v Manc". BBC. สืบค้นเมื่อ 3 April 2008.
- . FIFA.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-07-09. สืบค้นเมื่อ 8 July 2020.
- Bray, Joe (12 February 2019). "Manchester United ranked as the biggest football club in England ahead of Liverpool FC". Manchester Evening News. สืบค้นเมื่อ 4 January 2020.
- Taylor, Daniel (21 October 2019). "Manchester United v Liverpool: the battle for Asia". The Athletic. สืบค้นเมื่อ 4 January 2020.
- "Manchester United v Liverpool: The biggest game in football". Sky Sports. สืบค้นเมื่อ 3 January 2019.
- "The 20 biggest rivalries in world football ranked – Liverpool vs Manchester Utd". The Telegraph. 20 March 2015. สืบค้นเมื่อ 7 November 2015.
- "The 7 Greatest Rivalries in Club Football: From Boca to the Bernabeu". The Bleacher Report. 26 November 2013. สืบค้นเมื่อ 7 November 2015.
- Cox, Michael (12 December 2014). "Man Utd vs. Liverpool is close to a classic rivalry, but lacks major drama". ESPN FC.
- . FIFA.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-02-03. สืบค้นเมื่อ 3 February 2015.
- Jolly, Richard (13 December 2014). "Manchester United – Liverpool remains English football's No.1 rivalry". Goal.com.
- Ingle, Sean; Murray, Scott (10 May 2000). "Knowledge Unlimited". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 26 February 2008.
- Liversedge 1991, p. 108.
- Liversedge 1991, p. 109.
- Liversedge 1991, p. 110.
- Reade 2009, p. 206.
- Narayana, Nagesh (5 March 2008). . Reuters. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-12-27. สืบค้นเมื่อ 22 August 2010.
- Wilson, Bill (6 February 2007). "US business duo at Liverpool helm". BBC. สืบค้นเมื่อ 2 December 2008.
- McNulty, Phil (20 January 2008). "Liverpool braced for takeover bid". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 2 December 2008.
- Bandini, Paolo (16 April 2010). "Liverpool appoint Martin Broughton as chairman to oversee sale of club". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 16 April 2010.
- Conn, David (7 May 2010). "Auditors cast doubt on future of Liverpool after losses". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 8 May 2010.
- . ESPN. 13 October 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-10-16. สืบค้นเมื่อ 23 March 2011.
- "Liverpool takeover completed by US company NESV". BBC Sport. 15 October 2010. สืบค้นเมื่อ 12 August 2011.
- "Top 25 Football Club Brands" (PDF). Brand Finance. สืบค้นเมื่อ 7 August 2011.
- "Liverpool". Forbes. 21 April 2010. สืบค้นเมื่อ 8 August 2010.
- Wilson, Bill (10 February 2011). "Real Madrid top football rich list for sixth year". BBC. สืบค้นเมื่อ 22 July 2011.
- "Deloitte Football Money League 2018". Deloitte. 23 January 2018. สืบค้นเมื่อ 23 January 2018.
- Ozanian, Mike. "The World's Most Valuable Soccer Teams 2018". Forbes. สืบค้นเมื่อ 2018-06-12.
- "Deloitte Football Money League 2018". Deloitte. 23 January 2018. สืบค้นเมื่อ 5 November 2019.
- Ozanian, Mike. "The Business Of Soccer". Forbes. สืบค้นเมื่อ 17 August 2019.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
somsrfutbxlliewxrphul xngkvs Liverpool Football Club epnsomsrfutbxlxachiphthixyuinemuxngliewxrphul praethsxngkvs aekhngkhnxyuinphriemiyrlik liksungsudkhxngfutbxlxngkvs somsrkxtngin kh s 1892 idekharwmaekhngkhnfutbxllikinpitxmaaelaichsnamaexnfildepnsnamehyatngaetkxtngsomsrsomsrfutbxlliewxrphulchuxetmsomsrfutbxlliewxrphulchayaThe Reds hngsaedngkxtng 1892 06 03 3 mithunayn kh s 1892 132 pi snamaexnfildkhwamcu60 725ecakhxngefnewy spxrt krupprathanthxm ewxrenxrhwhnaphufuksxnxarenx slxtlikphriemiyrlik2023 24phriemiyrlik xndbthi 3 cak 20ewbistewbistsomsrsichudthimehyasichudthimeyuxnsichudthisam sahrbkaraekhngkhnphayinpraeths liewxrphulchnaelisliksungsud 19 smy exfexkhph 8 smy likkhph 10 smy sthitisungsud aelaexfexkhxmmiwnitichild 16 smy swnkaraekhngkhnradbnanachati liewxrphulchnaelisyufaaechmepiynslik 6 smy yufakhph 3 smy yufasuepxrkhph 4 smy thngsamraykarepnsthitisungsudkhxngsomsrxngkvs aelafifakhlbewildkhph 1 smy chwngewlathiprasbkhwamsaercmakthisudinprawtisastrkhuxchwngkhristthswrrs 1970 aelakhristthswrrs 1980 emuxbill aechngkhli bxb ephsliy oc efaeknaelaekhnni aedlklich phathimchnaelisliksungsud 11 smyaelayuorepiynkhph 4 ib txmaliewxrphulchnaeliskaraekhngkhnyufaaechmepiynlikxik 2 smy phayitkarkhumthimkhxngrafaexl ebnietsaelaeyuxrekin khlxphtamladb sungkhlxphsamarthnathimchnaelisliksungsudin kh s 2020 nbepnkarchnaelisliksungsudsmythi 19 aelasmyaerkkhxngyukhphriemiyrlik liewxrphulepnhnunginsomsrthimiphusnbsnunmakthisudinolkaelaepnhnunginsomsrfutbxlthimimulkhamakthisudinolk liewxrphulmisomsrkhuaekhngsungaekhngkhndwyknmaxyangyawnan idaek aemnechsetxryuinetdaelaexfewxrtn liewxrphulichesuxsiaedngaelakangekngkhasnsikhawepnchudaekhngkhnmatngaet kh s 1896 kxncaepliynepnsiaedngetmtwemuxelnepnthimehyatngaet kh s 1964 epntnma chayainphasaxngkvskhxngliewxrphulkhux edxaerds The Reds swnchayathichawithyniymeriykkhux hngsaedng liewxrphulmiephlngpracasomsrkhux yullenfewxrwxlkxaoln You ll Never Walk Alone aefnbxlkhxngsomsridekhaipekiywkhxngkbosknatkrrmthisakhy 2 khrng idaek phyphibtisnamkilaehyeslthikaaephngphnglngmathbaefnbxlinndchingchnaelisyuorepiynkhph 1985 thibrsesls thaihmiphuesiychiwit 39 khn odyswnihyepnchawxitaliaelaphusnbsnunyuewntus hlngcaknnyufaidrangbsiththiekharwmkaraekhngkhnfutbxlyuorpkhxngsomsrcakxngkvsepnrayaewla 5 pi aelaphyphibtihilsoborin kh s 1989 emuxaefnbxlkhxngliewxrphul 97 khnesiychiwitcakkarthukbibxdtidkbrwthiknsnam naipsukarykelikrwknsnambriewnthiyun odykahndihsnamkilakhxngsomsrinliksxngradbaerkkhxngfutbxlxngkvstxngepnaebbmithinngthnghmd karrnrngkhephuxkhwamyutithrrmepnewlananthaihmikarsxbswnkhxngecahnathichnsutrsph khnakrrmkaraelakhnakrrmkarxisraephimetimsungthaihphusnbsnunphnphidinthaythisudprawticxhn ohlding phukxtngsomsrfutbxlliewxrphul somsrfutbxlliewxrphul kxtnghlngekidkhxphiphathrahwangkhnakrrmkarkhxngexfewxrtnkbcxhn ohlding prathansomsraelaecakhxngthidinaexnfild exfewxrtnyayipkudisnpharkin kh s 1892 hlngichnganaexnfildepnrayaewlaaepdpiaelaohldingkxtngsomsrfutbxlliewxrphulephuxelninaexnfild aetedimichchuxwa somsrfutbxlexfewxrtnaelaaextaeltikkrawdscakd xngkvs Everton F C and Athletic Grounds Ltd hruxeriyksn wa exfewxrtnaextaeltik somsrklayepnsomsrfutbxlliewxrphulineduxnminakhm kh s 1892 aelaidrbkaryxmrbxyangepnthangkarinxiksameduxntxma hlngsmakhmfutbxlptiesththicayxmrbsomsrwaepnexfewxrtn liewxrphullngaekhngkhnkhrngaerkemuxwnthi 1 knyayn kh s 1892 epnkaraekhngkhnndkrachbmitrkxnerimtnvdukal odyphbkb liewxrphulchnadwyphlpraturwm 7 1 odyphuelnliewxrphulthilngsnaminnddngklawnnepnchawskxtaelndthnghmd odyphuelnthimacakskxtaelndephuxmaelninxngkvsinewlann mkcaeriykwa phucdkarthim edinthangipskxtaelndephuxmxnghaphueln hlngkhdeluxkphuelnaelw phwkekhaklayepnthiruckinnam thimxxfaemks thimchnaelisinvdukalaerkthilngeln aelaekharwmfutbxllikeskhnddiwichninvdukal 1893 94 hlngchnaelisraykardngklaw thimkideluxnchnsuefistdiwichn aelwkchnaelisin kh s 1901 aela 1906 liewxrphulekhathungkhrngaerkin odyaephihkbebirnliydwyphlpratu 1 0 liewxrphulchnaelisliksungsudtidtxknin kh s 1922 aela 1923 aelwkimchnaelisxikelycnkrathngvdukal 1946 47 emuxsomsrchnaelisefistdiwichnepnsmythihaphayitkarkhumthimkhxng xditphuelnkxnghlngtwklangewstaehmyuinetd liewxrphulaephinrxbchingchnaelisexfexkhphxikkhrng odyaephihkbxaresnxl in kh s 1950 somsrtkchnipeskhnddiwichninvdukal 1953 54 hlngcakliewxrphulaeph somsrfutbxlnxklik inexfexkhph vdukal 1958 59 somsridaetngtngihbill aechngkhli epnphucdkarthim emuxidrbtaaehnng ekhaplxyphuelncanwn 24 khn aelaepliynhxngekbrxngethathiaexnfildihklayepnhxngsahrbehlaphufuksxnwangaephnkareln aechngkhliaelasmachik butrum khnxun prakxbdwy oc efaekn aelabxb ephsliy erimsrangthimihmknthini ruppn bill aechngkhli dannxk aexnfild aechngkhliphasomsreluxnchnsuefistdiwichnaelachnaelisliksungsudkhrngaerktngaet kh s 1947 somsreluxnchnklbsuefistdiwichnin kh s 1962 aelachnaelisin kh s 1964 sungepnkarchnaelisliksungsudkhrngaerkinrxb 17 pi somsrchnaelisexfexkhphkhrngaerkin kh s 1965 aelachnaelisliksungsudin kh s 1966 aetaephihkbobrussixadxrthmunthinndchingchnaelisyufakhphwinenxrskhph vdukal 1965 66 liewxrphulchnaelislikaelayufakhphinvdukal 1972 73 aelachnaelisexfexkhphxikkhrnginpithdma hlngcaknnimnan aechngkhlieksiynxxkcaktaaehnngaelabxb ephsliy phuchwykhxngekha khunepnphucdkarthimaethn in kh s 1976 sungepnvdukalthisxngthiephsliyepnphucdkarthim somsrchnaelislikaelayufakhphxikkhrng aelainvdukalthdma somsrchnaelislikaelachnaelisyuorepiynkhphepnkhrngaerk aetaephinrxbchingchnaelisexfexkhph 1977 liewxrphulchnaelisyuorepiynkhphxikkhrngin kh s 1978 aelaliksungsudin kh s 1979 tlxdekavdukalthiephsliyepnphucdkarthim liewxrphulkhwathwyrangwl 20 ib rwmipthungyuorepiynkhph 3 ib yufakhph 1 ib liksungsud 6 ibaelalikkhph 3 ibtidtxkn karaekhngkhninpraethsraykarediywthiekhaimidchnaeliskhuxexfexkhph ephsliyeksiynin kh s 1983 aelaoc efaeknkhunepnphucdkarthimaethn invdukalaerkkhxngefaekn liewxrphulchnaelislik likkhphaelayuorepiynkhph klayepnthimxngkvsthimaerkthiidthwyrangwlsamibinhnungvdukal liewxrphulekhathungrxbchingchnaeliskhxngyuorepiynkhphxikkhrngin kh s 1985 odyphbkbyuewntusthi kxnkaraekhngkhn phusnbsnunliewxrphulphngrwsungknrahwangphusnbsnunthngsxngfngaelaekhapathakbphusnbsnunyuewntus nahnkkhxngklumphusnbsnunsngphlihkaaephngthiknphnglngma thaihmiphuesiychiwit 39 khn swnihyepnchawxitali xubtikarnniklayepnthiruckkninchux phyphibtiehyesl karaekhngkhnnndaeninkartx thngthimikarprathwngcakphucdkarthimthngsxngthimaelaliewxrphulkaephihkbyuewntusdwyphlpratu 1 0 phlcakosknatkrrmdngklaw sngphlihsomsrcakxngkvsimsamarthekharwmkaraekhngkhninyuorpepnewlahapi khnathisomsrliewxrphulidrbothshamekharwmkaraekhngkhnsibpi sungtxmaldehluxhkpi phusnbsnunliewxrphulsibsikhnidrbkarlngothscakkhwamphidthankhaphuxunodyimectna xnusrnsthanhilsobor carukchuxphuesiychiwit 97 khncakphyphibtihilsobor efaeknprakaseksiynkxnthicaekidphyphibtiehyeslaelaekhnni aedlklichidrbkaraetngtngepn inrahwangthiekhadarngtaaehnng somsrchnaelisliksungsudxiksamsmyaelaexfexkhphsxngsmy rwmipthungkariddbebilaechmpcakkarchnaelislikaelaexfexkhphinvdukal 1985 86 xyangirktam khwamsaerckhxngliewxrphulthukbdbngdwyphyphibtihilsobor sungepnkaraekhngkhnexfexkhph rxbrxngchnaelis thiphbkbnxtthingaehmfxerst emuxwnthi 15 emsayn kh s 1989 odyphusnbsnunliewxrphulrxykwakhnthukbibxdtidkbrwkn sngphlihphusnbsnunesiychiwit 94 khninwnnn siwntxma phuekhraahraykhnthi 95 esiychiwitthiorngphyabalcakxakarbadecbkhxngekha aelaekuxbsipitxma phuekhraahraykhnthi 96 kesiychiwitodyimsamarthfunkhunstiklbmaid aexndruw edwin phuekhraahraykhnthi 97 esiychiwitemux kh s 2021 cakxakarbadecbthiidrbcakphyphibti ehtukarndngklawthaihrthbalthbthwneruxngkhwamplxdphykhxngsnamkila puthangihxxkkdhmayihsnamkilakhxngsomsrliksungsudtxngepnaebbmithinngthnghmd raynganrabusaehtuhlkkhxngphyphibtikhuxkhwamaexxdkhxngphukhn enuxngcakkarkhwbkhumkhxngtarwcthilmehlw liewxrphulekuxbchnaelisliksungsudinvdukal 1988 89 hlngcbvdukaldwykhaaennaelaphltangpratuethakbxaresnxl aetcanwnpratuidnxykwa emuxxaresnxlthapratuluksudthayin aedlklichlaxxkin kh s 1991 odyxangphyphibtihilsoboraelaphlkrathbcakehtukarndngklaw xditphuelnliewxrphul ekharbtaaehnngphucdkarthimaethn phayitkarkhumthimkhxngekha liewxrphulchnaelisin kh s 1992 aetphlnganinliknnimkhxydink phwkekhakarcbxndbthi 6 sxngvdukaltidtxkn thaihsuensthukpldineduxnmkrakhm kh s 1994 aela ekharbtaaehnngaethn phayitkarkhumthimkhxngxiaewns liewxrphulchnaelisin kh s 1995 aelacbxndbthi 3 in kh s 1996 aela 1998 sungepnxndbthidithisudthiphwkekhathaid echrar xuliey idrbkaraetngtngihepnphucdkarthimrwminvdukal 1998 99 aelaklayepnphucdkarthimediywineduxnphvscikayn kh s 1998 hlngxiaewnslaxxk in kh s 2001 sungepnvdukalthisxngxulieythiidkhumthimetmvdukal liewxrphulchnaelisthripepilaechmp idaek exfexkhph likkhphaelayufakhph xulieyekharbkarphatdhwicrahwangvdukal 2001 02 aelaliewxrphulcbxndbthi 2 inliktamhlngxaresnxl liewxrphulchnaelislikkhphin kh s 2003 aetkyngimsamarthchnaelisliksungsudidinsxngvdukalthdma thwyyuorepiynkhphthiliewxrphulchnaelissmythi 5 emux kh s 2005 rafaexl ebnietsekharbtaaehnngaethnxulieyhlngcbvdukal 2003 04 thungaemwavdukalaerkkhxngebnietsnncacbxndbthi 5 inlik aetliewxrphulkchnaelisyufaaechmepiynslik vdukal 2004 05 dwykarexachnaexsi milaninkardwllukothsdwyphlpratu 3 2 hlngcakesmxkndwyphlpratu 3 3 vdukalthdma liewxrphulcbxndbthi 3 inphriemiyrlik aelachnaelisdwykarexachnaewstaehmyuinetdinkardwllukothshlngcakesmxkndwyphlpratu 3 3 nkthurkicchawxemrikn aela klayepnecakhxngsomsrrahwangvdukal 2006 07 hlngtklngsuxhunkhxngsomsrsungmimulkharwmkbhnikhngkhangthi 218 9 lanpxnd somsrekhathungrxbchingchnaelisin kh s 2007 sungphbkbmilanxikkhrng ehmuxnemux kh s 2005 aetkaephdwyphlpratu 2 1 chwngrahwangvdukal 2008 09 liewxrphulthakhaaenn 86 aetm epnsthitikhxngsomsrthithakhaaenneyxathisudinyukhphriemiyrlikinewlann xyangirktam phwkekhacbxndbthi 2 tamhlngaemnechsetxryuinetd invdukal 2009 10 liewxrphulcbxndbthi 7 inphriemiyrlik thaihimidsiththiekhaaekhngkhnyufaaechmepiynslik sngphlihebnietslaxxkcaktaaehnngdwykhwamyinyxmkhxngthngsxngfayrxy hxdcsn xditphucdkarthimfulm ekharbtaaehnngphucdkarthimliewxrphunaethn inchwngerimtnvdukal 2010 11 liewxrphulnnesiyngtxkarlmlalayaelaecahnikhxngsomsrkhxihsalsungxnuyatihmikarkhaysomsrodyptiesthkhakhxkhxnghiksaelayileltt ecakhxngthimaela pramulsomsrsaercaelaidepnecakhxngineduxntulakhm kh s 2010 phlkaraekhngkhnthiyaaeyinchwngtnvdukal thaihhxdcsnlaxxkcaktaaehnngdwykhwamyinyxmkhxngthngsxngfayaelasomsraetngtngekhnni aedlklich xditphuelnaelaphucdkarthimepnphucdkarthimxikkhrng invdukal 2011 12 liewxrphulchnaelislikkhphepnsmythi 8 aelaekhathungrxbchingchnaelisexfexkhph aetklbcbxndbthi 8 inphriemiyrlik sungepnkarcbxndbthiaeythisudinrxb 18 pi thaihaedlklichthukilxxk aelaebrndn rxdecxsekharbtaaehnngniaethn invdukal 2013 14 ekhaphaliewxrphulekuxbchnaelisphriemiyrlikxyangehluxechuxodycbxndbthi 2 rxngcakaemnechsetxrsiti phwkekhathapratuinlik 101 luk nbepnkarthapratumakthisudtngaetvdukal 1895 96 thithapratuip 106 luk singnithaihliewxrphulidsiththiklbipaekhngkhninyufaaechmepiynslikxikkhrng xyangirktam phlnganxnnaphidhwnginvdukal 2014 15 sungliewxrphulcbxndbthi 6 inlik aelakarerimtnvdukal 2015 16 thiyaaey thaihrxdecxsthukilxxkineduxntulakhm kh s 2015 eyuxrekin khlxph ekhamaepnphucdkarthimaethnrxdecxs invdukalaerk khlxphphathimekhachingchnaelisfutbxllikkhphaelayufayuorpalik aetcbdwykarepnrxngaechmpthngsxngraykar liewxrphulcbxndbthi 2 inphriemiyrlik vdukal 2018 19 dwykhaaenn 97 aetmodyaephephiyngaekhekmediywethann thaihepnthimthiimidchnaelisthithaaetmmakthisud khlxphphasomsrekharxbchingchnaelisyufaaechmepiynsliksxngpitidtxknin kh s 2018 aela 2019 odychnathxtnmhxtsepxrdwyphlpratu 2 0 inndchingchnaelis kh s 2019 liewxrphulexachnaflaemngku somsrcakbrasilinndchingchnaeliskhxngfutbxlchingaechmpsomsrolk 2019 dwyphlpratu 1 0 thaihliewxrphulchnaelisraykarniepnkhrngaerk liewxrphulchnaelisphriemiyrlik vdukal 2019 20 epnkarchnaelisliksungsudkhrngaerkinrxbsamsibpi somsrthahlaysthitiinvdukalni odyrwmthungkarchnaelislikthngthiyngehluxkaraekhngkhnxikecdnd thaihepnsomsrthichnaelislikerwthisud aelakarthakhaaenn 99 aetmsungepnsthitiihmkhxngsomsr liewxrphulchnainlikvdukalni 32 nd nbepnsthitirwmkhxngcanwnndthichnamakthisudinhnungvdukalkhxngliksungsud emuxeduxnmkrakhm kh s 2024 khlxphprakascaxxkcaksomsremuxsinsudvdukal emuxwnthi 20 phvsphakhm kh s 2024 somsrprakaswa xarenx slxt caekhamarbtaaehnngepnhwhnaphufuksxntngaetwnthi 1 mithunayn kh s 2024sichudaekhngaelatrasomsrsichudthimehyakhxngliewxrphultngaet kh s 1892 thung 1896wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb chudaekhngkhnkhxngsomsrfutbxlliewxrphul inchwngewlaswnihykhxngprawtisastrliewxrphul sichudthimehyakhxngsomsrepnsiaednglwn aetinchwngthisomsrephingkxtng chudthimehyacakhlaykbexfewxrtninsmynn odyepnesuxaebngsiswnsifakhaw chuddngklawichinkaraekhngkhncnthung kh s 1894 emuxsomsrnasiaedngsungepnsipracaemuxngmaich tngaet kh s 1901 somsrichsungepnsylksnkhxngemuxngliewxrphulepntrasomsr aetyngimthuknamaxyuinchudaekhngcnkrathngin kh s 1955 liewxrphulischudaekhngkhnepnesuxsiaedngaelakangkangkhasnsikhawcnthung kh s 1964 emuxphucdkarthim bill aechngkhli tdsinicepliynihepnsiaednglwn liewxrphullngelninchudsiaednglwnkhrngaerkinndthiphbkbxnedxrelkht ralukthunginxtchiwprawtikhxngekhawa ekha aechngkhli khidwaothnsicasngphlkrathbthangcitwithya siaedngkhuxkhwamxntray siaedngkhuxphlng wnhnungekhaekhamainhxngaetngtwaelaoynkangekngkhasnsiaedngkhuhnungihkb iskangekngkhasnnnsaaelamaduwakhunepnynging ekhaphud ihtayethxa rxnni khundudimak dunaklw khunduehmuxnsung 7 fut thaimimthaihmnsmburnaebbipelyla hwhna phmesnx thaimimswmthungethasiaedngla issiaednglwnihhmdipely aechngkhlixnumtiaelachudthiepnthicdcakthuxkaenidkhun sichudthimeyuxnkhxngliewxrphulmkcaepnesuxsiehluxnghruxsikhawaelakangekngkhasnsida ykewninbangkhrng echn in kh s 1987 somsrichchudsiethalwn aelainvdukal 1991 92 sungchlxngkhrbrxbhnungrxypi somsrichesuxsiekhiywaelakangekngkhasnsikhaw chudthimeyuxnmihlakhlaysiinthswrrs 1990 prakxbdwy sithxngkbsikrmtha siehluxngsdis sidaaelasiethaaelasinatalxxn somsrslbsichudthimeyuxnrahwangsiehluxngkbsikhaw cnkrathnginvdukal 2008 09 idklbmaichchudsiethaxikkhrng sichudthisamthukxxkaebbsahrbndeyuxninkaraekhngkhnraykaryuorp aetksamarthischudthisaminndeyuxnkhxngkaraekhngkhninpraethsid haksichudthimeyuxnnnsakbsichudthimehya epnphuxxkaebbchudaekhngkhnrahwang kh s 2012 2015 odyerimkhrngaerkinvdukal 2012 13 ineduxnkumphaphnth kh s 2015 bristhaemkhxngwxrriexxr niwbalans prakasekhasutladfutbxlolk chudaekhngkhxngsomsrcungthukepliynphuphlitchudcakwxrriexxrepnniwbalans esuxphayihxxunthiekhyphlitihkbsomsridaek xmobrsungekhyphlitchudaekhngihcnthung kh s 1985 caknnxadidasidekhaaethnthi cnkrathng kh s 1996 ribxkhidekhamaaethnthixadidas aelaphlitchudaekhngihsomsrepnewla 10 pi kxnthixadidascaklbmaphlitchudaekhngihxikkhrngtngaet kh s 2006 thung 2012inkiklayepnphuphlitchudaekhngxyangepnthangkartngaetvdukal 2020 21 trasomsrkhxngliewxrphulxikrupaebbhnungbnpratuaechngkhli liewxrphulepnsomsrfutbxlxachiphaerkinxngkvsthimitrakhxngphusnbsnunxyubnchudaekhngkhn hlngthasyyakbhitachiin kh s 1979 tngaetnnepntnma somsridrbkarsnbsnuncak aelasaetndardcharetxrd syyathiesnkbkharlsebirkin kh s 1992 nnepnsyyathiyawnanthisudinliksungsudkhxngfutbxlxngkvs syyanisinsudlnginchwngtnvdukal 2010 11 emuxthnakharsaetndardcharetxrdklayepnphusnbsnunkhxngsomsr trasomsrkhxngliewxrphulminkilewxr sylksnkhxngemuxng sunginxditthuknamaisinol txmain kh s 1992 sungepnpithimikarralukthungrxypikhxngsomsr mikarxxkaebbtrasomsrihmodynasylksnthixyubnpratuaechngkhlimaisiwdwy pitxmamikariskhbephlingkhuiwthngsxngdankhxngtrasomsr ephuxepnsylksnkhxngxnusrnsthanhilsoborthitngxyudannxkaexnfild aelaralukthungphuesiychiwitinphyphibtihilsobor in kh s 2012 chudaekhngaerkkhxngwxrriexxrspxrtsnaolaelapratuxxkip ehluxaekhnkilewxrehmuxnkbchudaekhnginthswrrs 1970 khbephlingthukyayipxyudanhlngesux lxmtwelkh 96 sungepncanwnphuesiychiwitinphyphibtihilsobor phuphlitchudaelaphusnbsnunbnesux chwngewla phuphlitchud phusnbsnun hnaxk phusnbsnun aekhnesux 1973 1979 xmobr immi immi1979 1982 hitachi1982 19851985 1988 xadidas1988 19921992 19961996 2006 ribxkh2006 2010 xadidas2010 2012 saetndardcharetxrd2012 2015 wxrriexxrspxts2015 2017 niwbalans2017 20202020 inki exksphiediysnamkilaaexnfild snamehyasomsrfutbxlliewxrphul aexnfildthuksrangkhunin kh s 1884 bnthidintidkb hangcaktwemuxngliewxrphul 2 iml 3 kiolemtr aetedimekhyepnsnamehyakhxngexfewxrtn kxnthisomsrcayayipkudisnphark hlngmikhxphiphatheruxngkhaechakb cxhn ohlding ecakhxngaexnfild thaihaexnfildimmiphuichngan ohldingcungkxtngliewxrphulin kh s 1892 aelasomsridlngelninaexnfildnbtngaetnnepntnma khwamcukhxngsnaminewlannkhux 20 000 thinng xyangirktam miphuchmephiyng 100 khninkaraekhngkhnkhrngaerkkhxngsomsrthisnamaehngni xthcnthredxakhxp thuksrangkhunin kh s 1906 enuxngcakerimmiphuchmekhamachmekmkaraekhngkhnmakkhun intxnaerknneriykwaoxkfildordexmaebngkemnt odyekmaerkhlngkarsrangxthcnthrni ekidkhunemuxwnthi 1 knyayn kh s 1906 inndthiecabanexachnasotksitidwyphlpratu 1 0 in kh s 1906 xthcnthrfngyunthixyuplaydanhnungkhxngsnamthukepliynchuxxyangepnthangkarepn tngchuxtameninekhain praethsaexfrikait eninekhaepnthitngkhxnginsngkhramburkhrngthisxng sungmithharmakkwa 300 naycakkxngthharaelngkhaechxresiychiwitthinn odyhlaykhnmacakliewxrphul xthcnthrnisamarthcuidsungsudthung 28 000 khn ekhyepnhnunginxthcnthryunchnediywthiihythisudinolk hlaysnaminxngkvserimmikartngchuxxthcnthrwaspixxnkhxp aetxthcnthrspixxnkhxpkhxngaexnfildniepnxthcnthrthiihythisudintxnnn odysamarthcuphusnbsnunidmakkwasnamfutbxlbangaehng aexnfildsamarthrxngrbphusnbsnunsungsudidmakkwa 60 000 khnaelamikhwamcupktithi 55 000 khn cnkrathnginthswrrs 1990 hlng ethyelxrriphxrt raynganehtukarnkarthlmkhxngxthcnthrthisnamhilsobor phriemiyrlikcungmikhasngihthuksnamepliyncakxthcnthryunepnaebbnngthnghmdinvdukal 1993 94 khwamcukhxngaexnfildcungldlngehlux 45 276 thinng phlcakraynganidphlkdnihmikarprbprungxthcnthrekhmlinord sungprbprungesrcin kh s 1992 trngkbkarkhrbrxb 100 pikhxngkarkxtngsomsr cungtngchuxwaxthcnthresnethenri aelaidepliynchuxepnxthcnthrekhnniaedlklichin kh s 2017 mikarsrangxthcnthrephimxikhnungchninxthcnthrfngaexnfildordinchwngplay kh s 1998 thaihkhwamcukhxngsnamephimkhun aetekidpyhakhunhlngcakkarepidichngan thaihtxngmikarsrangesaaelatxmxkhacunesrimekhaipephuxsrangkhwammnkhngihkbchnbnsudkhxngxthcnthr hlngcakmikarrayngankarsnkhxngchnxthcnthrchwngerimtnkhxngvdukal 1999 2000 enuxngcakkhxcakdinkarkhyaykhwamcukhxngaexnfild liewxrphulidprakasaephnyayipsnamkilasaetnliypharkemuxeduxnphvsphakhm kh s 2002 aephnniidrbkarxnumtiineduxnkrkdakhm kh s 2004 aelaineduxnknyayn kh s 2006 sphaemuxngliewxrphulidxnumtisyyaecha 999 pi thaihliewxrphulidrbxnuyatihsrangsnamaehngihmiklsaetnliyphark phayhlngcakkarsuxsomsrodycxrc yileltt aelathxm hiks ineduxnkumphaphnth kh s 2007 snamkiladngklawidrbkarxxkaebbihm odyidrbkarxnumticaksphaemuxngineduxnphvscikayn kh s 2007 kahndepidineduxnsinghakhm kh s 2011 snamaehngihmthukxxkaebbihmikhwamcu 60 000 khn mibristh exchekhexs epnphurbehmakxsrang karkxsranghyudchwkhrawineduxnsinghakhm kh s 2008 hlngyilelttaelahiks prasbpyhainkarhaenginmalngthun canwn 300 lanpxnd ineduxntulakhm kh s 2012 bibisispxrt raynganwa efnewyspxrtkrup ecakhxngihmkhxngsomsrfutbxlliewxrphul idtdsinicprbprungsnamaexnfildaethnkarsrangsnamihminsaetnliyphark odykarprbprungaexnfildcathaihephimkhwamcucak 45 276 khnepnpraman 60 000 khn mikhaichcaypraman 150 lanpxnd emuxkarkxsrangemnsaetndkhxngaexnfildesrc cathaihkhwamcuephimepn 54 074 khn karsrangswntxkhyaychnsamkhxngxthcnthrsungichengin 100 lanpxnd epnswnhnungokhrngkarphthnaphunthibriewnrxbaexnfild rwmmulkha 260 lanpxnd eyuxrekin khlxph phucdkarthiminewlannklawthungxthcnthrwa naprathbic karsnbsnunkhxpits infng liewxrphulepnhnungsomsrthiidrbkarsnbsnunmakthisudinolk liewxrphulaethlngwamithanphusnbsnunthwolk odymiphusnbsnunsomsridrbkaryxmrbxyangepnthangkarmakkwa 200 aehnginxyangnxy 50 praeths klumthimichuxesiyng echn somsrcaichpraoychncakkarsnbsnunniphankarthwrvdurxnthwolk sungrwmthungkarlngelntxhnaphuchmcanwn 101 000 khnthimichiaekninshrth aelaphuchmcanwn 95 000 khnthiemlebirninxxsetreliy phusnbsnunkhxngliewxrphulmkeriyktwexngwaepn khxpits sungxangxingthungphusnbsnunthiekhyyunaelanngbnxthcnthredxakhxpthiaexnfild in kh s 2008 phusnbsnunkhxngliewxrphulidkxtngsomsrchuxwa sunglngelninekmkaraekhngkhnihsahrbphusnbsnunthiimmiengindufutbxlphriemiyrlik ephlng yullenfewxrwxlkxaoln aetedimnnmacaklakhrephlngkhxngrxdecxrsaelaaehmemxrsitn chuxwa aekherxaesl sungtxmaidbnthukesiyngihmcnklayepnephlngsrresriykhxngsomsrthiphuchminaexnfildrxngtngaettnthswrrs 1960 sungtxmakidrbkhwamniyminhmuphusnbsnunkhxngkhxngsomsrxunthwolk chuxkhxngephlngthuknaippradbbnpratuaechngkhli sungepidichnganemuxwnthi 2 singhakhm kh s 1982 ephuxralukthungxditphucdkarthim bil aechngkhli khawa You ll Never Walk Alone bnpratuaechngkhli thuknaipisiwdanbnkhxngtrasomsr pratuaechngkhli srangkhunephuxepnekiyrtiihkbxditphucdkarthim bill aechngkhli phusnbsnunkhxngsomsridekhaipekiywkhxngkbosknatkrrmthisakhy 2 khrng khrngaerkkhux phyphibtisnamkilaehyeslemux kh s 1985 thaihphusnbsnunyuewntusesiychiwit 39 khn phwkekhathukkhngxyuthimumhnungodyphusnbsnunliewxrphulthiphungekhamahaphwkekha nahnkkhxngphusnbsnunthixyumumnnthaihkaaephngphnglngma yufaklawothsehtukarnthiekidkhunwaepnkhwamphidkhxngphusnbsnunliewxrphulaetephiyngphuediyw aelarangbsiththisomsrxngkvsthnghmdcakkaraekhngkhnraykarfutbxlyuorpepnewlahapi liewxrphulidrbothsaebnephimetimcnimsamarthekharwmyuorepiynkhphvdukal 1990 91 aemwacachnaelisliksungsudin kh s 1990 ktam phusnbsnunyisibecdkhnthukcbinkhxhakhaphuxunodyimectnaaelathuksngtwipyngebleyiymephuxekharwmkarphicarnakhdiemux kh s 1987 in kh s 1989 hlngkarphicarnakhdihaeduxninebleyiym phusnbsnunliewxrphul 14 khnidrbothscakhuk 3 picakkhwamphidthankhaphuxunodyimectna othscakhukkunghnungihrxlngxaya phyphibtikhrngthisxngekidkhuninexfexkhph rxbrxngchnaelis rahwangliewxrphulkbnxtthingaehmfxerstthisnamkilahilsoborinechffild emuxwnthi 15 emsayn kh s 1989 phusnbsnunliewxrphul 96 khn esiychiwitcakkarthiphuchmekhamainxthcnthrfngaelppingselnexn sungklayepnthiruckinchuxphyphibtihilsobor wntxma hnngsuxphimph edxasn idtiphimphbthkhwam edxathruth sungxangwaaefnliewxrphulidplnkhnthiesiychiwitkbocmtiaelapssawaistarwc cakkarsxbswn khxklawhannimepnkhwamcring naipsukarkhwabatrhnngsuxphimph odyphusnbsnunliewxrphulthwemuxngaelathixun hlaykhnyngptiesththicasux edxasn aemewlacaphanmaaelw 30 pi xngkhkrsnbsnunhlayaehngidkxtngkhunhlngekidphyphibti echn karrnrngkhephuxkhwamyutithrrmkhxnghilsobor sungepntwaethnkhxngkhrxbkhrwphusuyesiy phurxdchiwitaelaphusnbsnuninkhwamphyayamthicarksakhwamyutithrrmkhuaekhngphuelnliewxrphul chudsietha rahwangkaraekhngkhnphbkbaemnechsetxryuinetdthioxldaethrffxrd emuxwnthi 14 minakhm kh s 2009 odyliewxrphulchnadwyphlpratu 4 1 khuaekhngkhxngliewxrphulthiaekhngkhndwyknyawnanthisudkkhuxexfewxrtn odyeriykkaraekhngkhnniwaemxrsiyisddarbi cuderimtnkhxngkarepnkhuaekhngnnekidkhuntngaetkarkxtngkhxngliewxrphulaelakhxphiphathrahwangkhnakrrmkarkhxngexfewxrtnkbecakhxngaexnfild emxrsiyisddarbiepnhnungindarbithxngthinthiimmikarbngkhbaebngaeykphusnbsnunthngsxngfay cungepnthiruckinthana darbimitrphaph tngaetklangthswrrs 1980 karaekhngkhnerimthwikhwamrunaerngmakkhun thnginsnamaelanxksnam odyechphaatngaetkxtngphriemiyrlikin kh s 1992 emxrsiyisddarbiepnkaraekhngkhnthimiphuelnidrbibaedngaelathukilxxkcaksnammakkwandkaraekhngkhnxun eriykidwaepn karaekhngkhnthiirktikaaelaeduxdthisudinphriemiyrlik inaengkhxngkarsnbsnunphayinemuxng canwnkhxngphusnbsnunliewxrphulnnmimakkwaexfewxrtninxtraswn 2 1 khwamepnkhuaekhngkhxngliewxrphulkbaemnechsetxryuinetdekidkhunmatngaetkaraekhngkhnkhxngthngsxngemuxnginchwngkarptiwtixutsahkrrminstwrrsthi 19 thngsxngemuxngechuxmthungkndwyaelathangthnn liewxrphulaelaaemnechsetxrnnhangkniptampraman 30 iml 48 kiolemtr nitysar cdxndbihliewxrphulaelaaemnechsetxryuinetdepnsxngsomsrthiihythisudinxngkvs thngsxngsomsrepnthimcakxngkvsthiprasbkhwamsaercmakthisudthnginpraethsaelatangpraeths aelakmiphusnbsnunthwolk karaekhngkhnnithukmxngwaepnhnunginkhuaekhngkhnthiyingihythisudinolkfutbxlaelaepnkaraekhngkhnthimichuxesiyngthisudinfutbxlxngkvs thngsxngsomsrphldknchnaelisrahwang kh s 1964 thung 1967 aelaaemnechsetxryuinetdklayepnthimcakxngkvsthimaerkthichnaelisyuorepiynkhphin kh s 1968 kxnthiliewxrphulcachnaelisinraykaryuorepiynkhph 4 smyinewlatxma emuxrwmknaelwthngsxngsomsrchnaelisliksungsud 39 smyaelayuorepiynkhph 9 smy thngsxngsomsrnnprasbkhwamsaerctangchwngewla liewxrphulchnaelisliksungsudinchwngthswrrs 1970 aela 1980 sungepnchwngewlaediywkbthiaemnechsetxryuinetdimchnaelisliksungsudyawnan 26 pi aelakhwamsaerckhxngaemnechsetxryuinetdinyukhphriemiyrlik epnchwngewlaediywkbthiliewxrphulimchnaelisliksungsudyawnan 30 pi aelathngsxngsomsrcbvdukalepnthihnungkbthisxnginlikdwyknaekhhakhrngethann dwykhwamepnkhuaekhng thaihthngsxngsomsrthakarsuxkhayphuelnrahwangknnxymak phuelnkhnsudthaythiyayrahwangsxngsomsrkhux thiyaycakliewxrphulipaemnechsetxryuinetdemux kh s 1964khwamepnecakhxngaelathanathangkarenginkhxng ecakhxngliewxrphul cxhn ohlding epnprathankhnaerkkhxngsomsr inthanathiepnecakhxngaexnfildaelaphukxtngkhxngliewxrphul ekhadarngtaaehnngtngaet kh s 1892 cnthung kh s 1904 txma ekhamarbtaaehnngepnprathansomsrhlngcakthiohldingxxkip aelaidklayepnprathankhxngfutbxllik mikarphldepliyntaaehnngprathansomsrxyuhlaykhn kxnthicxhn smith sungphxkhxngekhaepnphuthuxhunkhxngsomsr ekhamarbtaaehnngin kh s 1973 ekhaepnprathansomsrinchwngewlathiprasbkhwamsaercmakthisudinprawtisastrkhxngliewxrphul kxnthiekhacakawlngcaktaaehnngin kh s 1990 ekharbtaaehnngprathansomsrinpiediywkn sungkhrxbkhrwkhxngekhaepnecakhxngsomsryawnankwa 50 pi ekhamarbtaaehnngprathansomsrin kh s 1991 lungkhxngekha ekhyepnphuthuxhunkhxngliewxrphulaelaekhyepnprathankhxngexfewxrtn tngaet kh s 1961 thung 1973 mwrsepnecakhxngsomsrrxyla 51 aelain kh s 2004 ekhaaesdngkhwametmicthicaphicarnakaresnxrakhasahrbhunkhxngekhainliewxrphul thaythisud mwrskhaysomsrihkbnkthurkicchawxemrikn cxrc yileltt aelathxm hiks emuxwnthi 6 kumphaphnth kh s 2007 odythikhxtklngmimulkhasomsraelahnikhngkhangthi 218 9 lanpxnd thngsxngkhncay 5 000 pxndtxhun hrux 174 1 lanpxndsahrbkarthuxhunthnghmdaela 44 8 lanpxndephuxcharahnisinkhxngsomsr khwamkhdaeyngrahwangyilelttkbhiksaelakarthiphusnbsnunimsnbsnunphwkekha thaihthngsxngkhntxngkarkhaysomsr idrbkaraetngtngepnprathansomsremuxwnthi 16 emsayn kh s 2010 ephuxduaelkarkhaysomsr ineduxnphvsphakhm kh s 2010 mibychithiaesdngihehnwabristhohldingkhxngsomsrmihni 350 lanpxnd enuxngcakkarsuxsomsrthiichengincakkaryum phrxmkbkhadthun 55 lanpxnd thaihphusxbbychixyangekhphiexmcimikhunsmbtiepnphutharayngantrwcsxbbychi klumkhxngecahnirwmipthungnatwyilelttkbhikskhunsal aelabngkhbihphwkekhaxnuyatihkhnakrrmkardaeninkarkhaysomsraelasinthrphyhlkkhxngbristhohlding phuphiphaksasalsung tdsinihecahnichnakhdiaelaputhangihekidkarkhaysomsrihkb xdit niwxingaelndspxrtewnecxrs thungaemwayilelttkbhiksyngkhngmitweluxkinkarxuththrn yilelttkbhikskhayliewxrphulihkbefnewyspxrtkrupemuxwnthi 15 tulakhm kh s 2010 epncanwnengin 300 lanpxnd liewxrphulidrbkarkhnannamwaepntrasinkharadbolk cakraynganemux kh s 2010 ekhruxnghmaykarkhaaelathrphysinthangpyyathiekiywkhxngkhxngsomsrthukpraeminmulkhaiwthi 141 lanpxnd ephimkhuncakpikxnhnani 5 lanpxnd liewxrphulidrbkarcdxndberttingkhxngaebrndihxyuinradb AA aekhngaekrngmak ineduxnemsayn kh s 2010 nitysarthurkic fxbs cdxndbihliewxrphulxyuinxndbthi 6 khxngthimfutbxlthimimulkhasungthisudinolk rxngcakaemnechsetxryuinetd erxlmadrid xaresnxl baresolna aelaibexirnmiwnik odypraeminmulkhakhxngliewxrphuliwthi 822 landxllarshrth 532 lanpxnd imrwmhni nkbychicakdilxytcdxndbihliewxrphulxyuinxndbthi 8 in sungepnkarcdxndbsomsrfutbxlinolkinaengkhxngrayid rayidkhxngliewxrphulinvdukal 2009 10 xyuthi 225 3 lanyuor rayngankhxngdilxytemux kh s 2018 rabuwa inpikxnhna somsrmirayidpracapixyuthi 424 2 lanyuor aela fxbs praeminmulkhasomsriwthi 1 944 phnlandxllarshrth txmain kh s 2018 rayidpracapiephimkhunepn 513 7 lanyuor aela fxbs praeminmulkhasomsriwthi 2 183 phnlandxllarshrth aelain kh s 2019 dilxytraynganwa rayidpracapiephimkhunepn 604 lanyuor 533 lanpxnd thaihsomsrthaenginekinharxylanpxnd ineduxnemsayn kh s 2020 phusnbsnunaelasuxtang aesdngkhwamimphxictxecakhxngsomsr hlngtdsiniccaphknganlukcangthiimichnketainchwngkarrabadthwkhxngokhwid 19 thaihsomsrklbkhaaelakhxothssahrbkartdsinicintxnaerkkhxngphwkekha ineduxnemsayn kh s 2021 fxbs praeminmulkhasomsriwthi 4 1 phnlandxllarshrth odysxngpinnephimkhunrxyla 88 thaihliewxrphulklayepnsomsrfutbxlkhxngolkliewxrphulinsuxliewxrphulpraktinraykar khxngbibisi sungxxkxakasihiltkaraekhngkhnrahwangphwkekhakbxaresnxlthiaexnfild emuxwnthi 22 singhakhm kh s 1964 karaekhngkhnfutbxlndaerkthixxkxakasepnphaphsithangothrthsnkhux ndkaraekhngrahwangliewxrphulkbewstaehmyuinetd thaythxdsdineduxnminakhm kh s 1967 phusnbsnunliewxrphulpraktinephlngkhxngphingkflxydchuxwa odyphwkekharxngephlngthitdtxnmacakephlng yullenfewxrwxlkxaoln liewxrphulplxyephlng odymi aelasmachikkhnxun inthimrwmrxngephlngni ephuxepnthicdcakhxngsomsrthiekhachingchnaelisexfexkhphemux kh s 1988 lakhrsarkhdiekiywkbphyphibtihilsobor ekhiynbthody xxkxakasemux kh s 1996 aesdngnaody epnethrewxr hiks phusuyesiyluksawwyrunsxngkhninphyphibti aelaepnphurnrngkhephuxkarxxkaebbsnamkilathiplxdphyaelachwykxtngklumsnbsnunkhrxbkhrwhilsobor liewxrphulpraktinphaphyntreruxng xngkvs The 51st State odytwlakhrxditnkkha efliks edxsusa epnphusnbsnunkhxngthimaelachaksudthayekidkhuninekmkaraekhngkhnrahwangliewxrphulkbaemnechsetxryuinetd somsrpraktinraykarothrthsnsahrbedk sungekiywkbedkhnumthiphyayamekhamathdsxbfiethakbliewxrphulphuelnphuelnchudpccubn n wnthi 31 mkrakhm kh s 2024 hmayehtu thngchatithipraktbngbxkihthrabwaphuelnkhnnnsamarthelnihkbchatiidtamkdkhxngfifatamkhwamehmaasm ephraaphuelnbangkhnxacthuxsxngsychati elkh taaehnng sychati phueln1 GK xalisng aebekr kptnkhnthi 4 2 DF oc okems3 MF wataru exnod4 DF efxrcil fn idk kptn 5 DF xibraxima oknaet6 MF etiyok xlkntara7 FW luys dixs8 MF odminik osobslxyi9 FW darwin nuyeys10 MF xaelksis mk xalisetr11 FW muhmmd esaalah13 GK xaedriyn17 MF ekhxrtis ocns18 FW okdi khkop elkh taaehnng sychati phueln19 FW harwiy exleliyt20 FW dioyku chxta21 DF kxsts simiks26 DF aexndruw rxebirtsn kptnkhnthi 3 32 DF chxaexl matip38 MF irxn khraefinaebrkh43 MF setfan byechtich46 DF50 FW62 GK khiwin ekhlliehxr66 MF ethrnt xelksanedxr xaronld rxngkptn 78 DF84 DF khxenxr aebrdliyphuelnthithukyumtw hmayehtu thngchatithipraktbngbxkihthrabwaphuelnkhnnnsamarthelnihkbchatiidtamkdkhxngfifatamkhwamehmaasm ephraaphuelnbangkhnxacthuxsxngsychati elkh taaehnng sychati phueln22 DF ip obltnwxnedxerxs cnthungwnthi 30 mithunayn kh s 2024 28 FW ip hllsiti cnthungwnthi 30 mithunayn kh s 2024 45 GK ip cnthungwnthi 30 phvscikayn kh s 2024 elkh taaehnng sychati phueln47 DF nathaeniyl fillips ip khardiffsiti cnthungwnthi 30 mithunayn kh s 2024 72 DF ip imnths 05 cnthungwnthi 30 mithunayn kh s 2024 thimsarxngaelasunyeyawchn xditphueln sthitiphueln kptnthim tngaetkxtngsomsrin kh s 1892 miphueln 45 khnthiidrbeluxkihepnkptnthimkhxngsomsrfutbxlliewxrphul epnkptnthimkhnaerkhlngcakthiliewxrphulkxtngsomsrodyaeyktwcakexfewxrtn xelks ersebkh epnkptnthimrahwang kh s 1899 1909 aelaepnphuelnthithahnathikptnthimyawnanthisud kxnthistiewn ecxrrad sungxyukbliewxrphulyawnanthung 12 vdukal tngaet 2003 04 cathalaysthiti kptnthimkhnpccubnkhux efxrcil fn idk thahnathiaethn cxraedn ehnedxrsn invdukal 2023 24 hlngehnedxrsnyayip xlxittifak stiewn ecxrrard kptnthimthirbichyawnanthisudkhxngliewxrphulchux rayaewlaaexndruw aehnnah 1892 1895cimmi rxss 1895 1897cxhn aemkkhartniy 1897 1898aehrri soterxr 1898 1899xelks ersebkh 1899 1909xaethxr kxddard 1909 19121912 19131913 19151919 1920xiefriym lxngewirth 1920 1921odnld aemkkhinliy 1921 19281928 19291929 19301930 19311931 19341934 1939 chux rayaewlaaemtt bsbi 1939 19401945 19471947 19501950 19531953 19541954 19551955 19581958 19591959 19601960 19611961 19701970 19731973 19781978 1981ekrxm suniss 1982 19841984 1985 chux rayaewlaaexln aehnesn 1985 19881988 1989aexln aehnesn 1989 19901990 1991stif niokhl 1990 19911991 1993exiyn rch 1993 1996cxhn bans 1996 1997phxl xins 1997 19991999 2002sami huepiy 2001 2003stiewn ecxrrard 2003 2015cxraedn ehnedxrsn 2015 2023efxrcil fn idk 2023 phuelnaehngvdukalbukhlakrecakhxng thut exiyn rch rxbbi fawelxr imekhil oxewnsomsrfutbxlliewxrphulaelaaextheltikkrawncakd ecakhxng prathan thxm ewxrenxr prathanfaykarphanichy billi ohaekn prathanfayptibtikar aexndi hiwcs aehlngkhxmul somsrfutbxlliewxrphul phuxanwykar cxhn dbebilyu ehnri thxm ewxrenxr imekhil kxrdxn pietxr mwr imekhil xiaekn krrmkarthiimepnphubrihar ekhnni aedlklich phuxanwykarfaysuxsar susan aeblk phuxanwykarfayaemwmxng edf fxlolws hwhnafayaemwmxng aebrri hnetxr phuxanwykarfayethkhnikh cueliyn wxrd aehlngkhxmul phufuksxnaelathimaephthy phucdkarthim xarenx slxt phuchwyphufuksxn wang phuchwyphufuksxn wang phufuksxnphthnaradbsung wang phufuksxnphurksapratuthimchudihy wang phufuksxnphurksapratuthimchudihy phuchwyphufuksxnphurksapratuthimchudihy wang hwhnafaykarxxkkalngkayaelafunfusphaph wang hwhnafayfunfuaelasmrrthna wang phufuksxnkarxxkkalngkaythimchudihy phuchwyphufuksxnkarxxkkalngkaythimchudihy cxraedn aefrkhlf hwhnankkayphaphbabd li onbs hmxpracasomsr cim mxksn hwhnafayophchnakar omna enmemxr phuxanwykarsunyeyawchn aehlngkhxmul ekiyrtiprawtithwyyuorepiynkhphhkibthiliewxrphulidcakkarchnaelistngaet kh s 1977 thung 2019 cdaesdnginphiphithphnthkhxngsomsr thwyrangwlaerkkhxngliewxrphulkhuxaelngkhaechxrlik sungchnaelisinvdukalaerkkhxngsomsr txmain kh s 1901 somsrchnaelisliksmyaerk inkhnathismythi 19 hruxsmylasudekidkhunin kh s 2020 khwamsaercaerkinexfexkhphekidkhunin kh s 1965 chwngthiliewxrphulchnathwyrangwlmakthisudkhuxthswrrs 1980 sungsomsrchnaelislik 6 smy exfexkhph 2 smy likkhph 4 smy futbxlliksuepxrkhph 1 smy aechritichild 5 smy rwmkbsomsrxun 1 smy aelayuorepiynkhph 2 smy somsrmicanwnndthichnaaelakhaaennbnliksungsudmakkwathimxuninxngkvs liewxrphulyngmixndbinlikodyechliysungsud 3 3 inchwng 50 pinbthung kh s 2015 aelamixndblikechliysungepnxndbthisxng 8 7 inchwng kh s 1900 1999 rxngcakxaresnxl liewxrphulepnsomsrbritichthiprasbkhwamsaercmakthisudinradbnanachatithi 14 smy odychnaelisyuorepiynkhphhruxyufaaechmepiynslik sungepnkaraekhngkhnradbsomsrsungsudkhxngyufa 6 smy nbepnsthitisungsudkhxngthimxngkvs aelaepnrxngephiyngerxlmadridaelaexsi milan karchnaelisyuorepiynkhphsmythi 5 khxngliewxrphulin kh s 2005 thaihsomsridrbthwyrangwlthawraelayngidrbtraphuchnahlaysmydwy liewxrphulyngthuxsthitiepnthimcakxngkvsthichnaelisyufakhph karaekhngkhnradbthisxngkhxngsomsryuorp makthisudthi 3 smy in kh s 2019 somsrchnaelisfutbxlchingaechmpsomsrolkepnsmyaerk thaihepnsomsraerkcakxngkvsthichnaelissamraykarradbthwip idaek somsrolk aechmepiynslik aelayufasuepxrkhph ekiyrtiprawtikhxngsomsrfutbxlliewxrphul radb karaekhngkhn chnaelis vdukalpraeths efistdiwichn phriemiyrlik 19 2019 20eskhnddiwichn 4 exfexkhph 8 2021 22futbxllikkhph xiexfaexlkhph 10 2000 01 2002 03 2021 22 2023 24exfexaechritichild exfexkhxmmiwnitichild 16 2006 2022 rwm 1thwip yuorepiynkhph yufaaechmepiynslik 6 2018 19yufakhph yufayuorpalik 3 yufasuepxrkhph 4 2019olk fifakhlbewildkhph 1 2019radbrxng chnaelis 1 chnaelis 1 dbebilaechmpaelathripepilaechmp dbebilaechmp likaelaexfexkhph 1 likaelalikkhph 3 likaelayuorepiynkhph 2 likaelayufakhph 2 likkhphaelayuorepiynkhph 1 exfexkhphaelalikkhph 1 2021 22 thripepilaechmp lik likkhphaelayuorepiynkhph 1 exfexkhph likkhphaelayufakhph 1 hmayehtuphriemiyrlik kxtngemux kh s 1992 klayepnliksungsudkhxngfutbxlxngkvs caknnfutbxllikefistaelaeskhnddiwichn idklayepnlikradbthisxngaelasam tamladb aelatngaet kh s 2004 efistdiwichnklayepnaechmepiynchipaelaeskhnddiwichnklayepnlikwn dbebilthiepnswnhnungkhxngthripepilaechmp xathi exfexkhphaelalikkhphin kh s 2001 caimnbrwmindbebilaechmpxangxing Happy birthday LFC Not quite yet Liverpool F C khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 04 07 subkhnemux 15 March 2014 Liverpool F C was born on 3 June 1892 It was at John Houlding s house in Anfield Road that he and his closest friends left from Everton FC formed a new club Beattie Adam 2024 02 10 12 new photos and video as Anfield Road End nears full capacity This Is Anfield phasaxngkvsaebbbritich Liverpool F C khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 12 July 2010 subkhnemux 11 August 2010 Graham 1985 p 14 Kelly 1988 p 15 Graham 1985 pp 16 18 Graham 1985 p 20 Liversedge 1991 p 14 Kelly 1988 pp 50 51 Kelly 1988 p 57 Union of European Football Associations UEFA khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 10 May 2014 Kelly 1999 p 86 Pead 1986 p 414 Kelly 1988 p 157 Kelly 1988 p 158 Cox Russell amp Vamplew 2002 p 90 On This Day 29 May 1985 Fans die in Heysel rioting BBC 29 May 1985 cakaehlngedimemux 12 January 2018 subkhnemux 12 September 2006 Kelly 1988 p 172 On This Day 15 April 1989 Soccer fans crushed at Hillsborough BBC 15 April 1989 cakaehlngedimemux 23 September 2021 subkhnemux 12 September 2006 Pithers Malcolm 22 December 1993 Hillsborough victim died accidentally Coroner says withdrawal of treatment not to blame The Independent cakaehlngedimemux 12 June 2018 subkhnemux 28 August 2010 Hillsborough Fan injured in stadium disaster dies 32 years later BBC News BBC 29 July 2021 cakaehlngedimemux 19 September 2021 subkhnemux 20 September 2021 A hard lesson to learn BBC 15 April 1999 cakaehlngedimemux 13 January 2016 subkhnemux 12 September 2006 Cowley Jason 29 March 2009 The night Football was reborn The Observer cakaehlngedimemux 23 June 2012 subkhnemux 23 July 2011 Liversedge 1991 pp 104 105 Scully Mark 22 February 2012 LFC in the League Cup final 1995 McManaman masterclass wins praise from wing wizard Matthews Liverpool Echo cakaehlngedimemux 23 February 2012 subkhnemux 2 February 2020 Kelly 1999 p 227 Houllier acclaims Euro triumph BBC Sport 16 May 2001 cakaehlngedimemux 12 January 2016 subkhnemux 24 March 2007 Houllier satisfactory after surgery BBC Sport 15 October 2001 cakaehlngedimemux 12 January 2016 subkhnemux 13 March 2007 Liverpool lift Worthington Cup BBC Sport 2 March 2003 cakaehlngedimemux 2 February 2014 subkhnemux 2 February 2020 Statto khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 3 December 2013 subkhnemux 3 September 2012 AC Milan 3 3 Liverpool aet BBC Sport 25 May 2005 cakaehlngedimemux 12 June 2018 subkhnemux 15 April 2007 Liverpool 3 3 West Ham aet BBC Sport 13 May 2006 cakaehlngedimemux 9 September 2007 subkhnemux 26 August 2010 US pair agree Liverpool takeover BBC Sport 6 February 2007 cakaehlngedimemux 12 January 2016 subkhnemux 2 March 2007 McNulty Phil 23 May 2007 AC Milan 2 1 Liverpool BBC Sport cakaehlngedimemux 24 May 2007 subkhnemux 23 May 2007 Liverpool s top flight record LFC History cakaehlngedimemux 16 May 2019 subkhnemux 19 August 2011 The Daily Telegraph 3 June 2010 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2010 06 06 subkhnemux 3 June 2010 Liverpool F C 1 July 2010 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 29 July 2010 subkhnemux 11 August 2010 Gibson Owen 15 October 2010 Liverpool FC finally has a new owner after win on penalties The Guardian subkhnemux 7 November 2010 Roy Hodgson exits and Kenny Dalglish takes over BBC Sport 8 January 2011 subkhnemux 22 April 2011 Bensch Bob Panja Tariq 16 May 2012 Bloomberg khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 20 June 2012 Ingham Mike 16 May 2012 Kenny Dalglish sacked as Liverpool manager BBC subkhnemux 10 June 2012 Liverpool manager Brendan Rodgers to fight for his life BBC 1 June 2012 subkhnemux 10 June 2012 Ornstein David 12 May 2014 Liverpool Premier League near miss offers hope for the future BBC Sport BBC subkhnemux 7 August 2014 Liverpool F C khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 13 singhakhm 2012 subkhnemux 27 singhakhm 2012 Brendan Rodgers Liverpool boss sacked after Merseyside derby BBC Sport 4 October 2015 subkhnemux 10 October 2015 Smith Ben 8 October 2015 Liverpool Jurgen Klopp confirmed as manager on 15m Anfield deal BBC Sport BBC subkhnemux 10 October 2015 Liverpool 1 3 Sevilla BBC 18 May 2016 Premier League The numbers behind remarkable title battle phasaxngkvsaebbbritich 2019 05 12 subkhnemux 2019 05 19 Liverpool beat Spurs to become champions of Europe for sixth time BBC subkhnemux 1 June 2019 Real Madrid 3 1 Liverpool phasaxngkvsaebbbritich 2018 05 26 subkhnemux 2019 05 19 Firmino winner seals Club World Cup win BBC subkhnemux 21 December 2019 Liverpool win Premier League Reds 30 year wait for top flight title ends BBC subkhnemux 25 June 2020 Sport Telegraph 2020 07 22 Liverpool lift the Premier League trophy tonight these are the records they ve broken on the way The Telegraph phasaxngkvsaebbbritich ISSN 0307 1235 subkhnemux 2020 07 24 Champions Liverpool beat Newcastle to finish on 99 points BBC 26 July 2020 subkhnemux 27 July 2020 Jurgen Klopp Liverpool manager to leave Anfield at end of season Sky Sports phasaxngkvs cakaehlngedimemux 26 January 2024 subkhnemux 2024 01 30 Arne Slot to become Liverpool FC s new head coach phasaxngkvs Liverpool F C 20 May 2024 subkhnemux 22 May 2024 Liverpool F C khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 24 July 2010 subkhnemux 12 August 2010 St John Ian 9 October 2005 Shankly the hero who let me down The Times subkhnemux 12 September 2006 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 20 January 2012 subkhnemux 18 January 2012 Badenhausen Kurt 4 February 2015 New Balance Challenges Nike And Adidas With Entry into Global Soccer Market Forbes subkhnemux 4 February 2015 Crilly 2007 p 28 LFC announces multi year partnership with Nike as official kit supplier from 2020 21 Liverpool F C subkhnemux 7 January 2020 Dart James Tinklin Mark 6 July 2005 Has a streaker ever scored The Guardian subkhnemux 16 August 2007 Espinoza Javier 8 May 2009 Carlsberg and Liverpool might part ways Forbes subkhnemux 23 July 2008 Liverpool and Standard Chartered announce sponsorship deal Standard Chartered Bank 14 September 2009 subkhnemux 12 August 2010 Hillsborough Liverpool F C subkhnemux 12 August 2010 Liverpool kit launch sparks anger among Hillsborough families BBC Sport BBC 11 May 2012 subkhnemux 17 May 2012 Liverpool land Expedia sleeve deal following Western Union departure SportsPro Media www sportspromedia com subkhnemux 2020 10 20 Liversedge 1991 p 112 Kelly 1988 p 187 Moynihan 2009 p 24 Liversedge 1991 p 113 Kelly 1988 p 188 Pearce James 23 August 2006 Liverpool Echo khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 10 February 2009 subkhnemux 6 December 2008 PDF Premier League Handbook Season 2010 11 Premier League 2010 p 35 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 14 December 2010 subkhnemux 17 August 2010 Anfield Liverpool F C subkhnemux 15 August 2010 Liverpool unveil new stadium BBC Sport 17 May 2002 subkhnemux 17 March 2007 Hornby Mike 31 July 2004 Reds stadium gets go ahead Liverpool Echo subkhnemux 12 September 2006 Liverpool get go ahead on stadium BBC Sport 8 September 2006 subkhnemux 8 March 2007 Liverpool s stadium move granted BBC 6 November 2007 subkhnemux 22 August 2010 Liverpool stadium will be built BBC Sport 17 September 2009 subkhnemux 28 July 2011 Smith Ben 15 October 2012 Liverpool to redevelop Anfield instead of building on Stanley Park BBC Sport BBC subkhnemux 16 August 2014 Liverpool s new Main Stand boosts Anfield capacity to 54 000 BBC News BBC 9 September 2016 subkhnemux 27 September 2019 How Liverpool s worldwide fanbase will be tuning into events at Manchester United Liverpool Echo subkhnemux 29 July 2018 Rice Simon 6 November 2009 Manchester United top of the 25 best supported clubs in Europe The Independent subkhnemux 6 August 2011 Liverpool F C khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 23 July 2011 subkhnemux 6 August 2011 Liverpool F C 27 July 2011 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 11 July 2015 subkhnemux 2 September 2014 Steven Gerrard delights the MCG crowd as Liverpool beats Melbourne Victory 2 0 ABC subkhnemux 29 July 2018 Man Utd 1 4 Liverpool Xherdan Shaqiri scores stunning overhead kick BBC subkhnemux 29 July 2018 Federation Internationale de Football Association FIFA 11 June 2008 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 11 September 2008 subkhnemux 14 November 2008 George Ricky 18 March 2008 Liverpool fans form a club in their price range The Daily Telegraph subkhnemux 18 March 2008 Hart Simon 25 October 2013 Anfield s 50 years of never walking alone The Independent subkhnemux 20 July 2018 Federation Internationale de Football Association FIFA khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 08 24 subkhnemux 23 July 2011 LFC Crests Liverpool F C subkhnemux 29 July 2018 McKie David 31 May 1985 Thatcher set to demand FA ban on games in Europe The Guardian subkhnemux 7 December 2008 The Heysel disaster BBC 29 May 2000 subkhnemux 7 December 2008 1987 Liverpool fans to stand trial in Belgium BBC 9 September 1987 subkhnemux 22 August 2010 Jackson Jamie 4 April 2005 The witnesses The Guardian subkhnemux 27 May 2006 Liverpool remembers Heysel BBC 29 May 2000 subkhnemux 24 May 2006 Smith David 11 July 2004 The city that eclipsed the Sun The Guardian subkhnemux 7 December 2008 Burrell Ian 8 July 2004 An own goal Rooney caught in crossfire between The Sun and an unforgiving city The Independent subkhnemux 22 December 2008 Liverpool F C khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 3 February 2012 subkhnemux 23 July 2011 Federation Internationale de Football Association FIFA 11 September 2006 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 25 August 2009 subkhnemux 20 December 2008 Smith Rory 24 January 2009 Liverpool and Everton no longer play the friendly derby as fans become more vitriolic The Daily Telegraph subkhnemux 26 August 2010 Smith Rory 7 February 2010 Liverpool 1 Everton 0 match report The Daily Telegraph subkhnemux 20 July 2011 Everton s research confirms Liverpool fans vastly outweigh them in the city MSN 20 February 2020 Rohrer Finlo 21 August 2007 Scouse v Manc BBC subkhnemux 3 April 2008 FIFA com khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2020 07 09 subkhnemux 8 July 2020 Bray Joe 12 February 2019 Manchester United ranked as the biggest football club in England ahead of Liverpool FC Manchester Evening News subkhnemux 4 January 2020 Taylor Daniel 21 October 2019 Manchester United v Liverpool the battle for Asia The Athletic subkhnemux 4 January 2020 Manchester United v Liverpool The biggest game in football Sky Sports subkhnemux 3 January 2019 The 20 biggest rivalries in world football ranked Liverpool vs Manchester Utd The Telegraph 20 March 2015 subkhnemux 7 November 2015 The 7 Greatest Rivalries in Club Football From Boca to the Bernabeu The Bleacher Report 26 November 2013 subkhnemux 7 November 2015 Cox Michael 12 December 2014 Man Utd vs Liverpool is close to a classic rivalry but lacks major drama ESPN FC FIFA com khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2015 02 03 subkhnemux 3 February 2015 Jolly Richard 13 December 2014 Manchester United Liverpool remains English football s No 1 rivalry Goal com Ingle Sean Murray Scott 10 May 2000 Knowledge Unlimited The Guardian subkhnemux 26 February 2008 Liversedge 1991 p 108 Liversedge 1991 p 109 Liversedge 1991 p 110 Reade 2009 p 206 Narayana Nagesh 5 March 2008 Reuters khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 12 27 subkhnemux 22 August 2010 Wilson Bill 6 February 2007 US business duo at Liverpool helm BBC subkhnemux 2 December 2008 McNulty Phil 20 January 2008 Liverpool braced for takeover bid BBC Sport subkhnemux 2 December 2008 Bandini Paolo 16 April 2010 Liverpool appoint Martin Broughton as chairman to oversee sale of club The Guardian subkhnemux 16 April 2010 Conn David 7 May 2010 Auditors cast doubt on future of Liverpool after losses The Guardian subkhnemux 8 May 2010 ESPN 13 October 2010 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2010 10 16 subkhnemux 23 March 2011 Liverpool takeover completed by US company NESV BBC Sport 15 October 2010 subkhnemux 12 August 2011 Top 25 Football Club Brands PDF Brand Finance subkhnemux 7 August 2011 Liverpool Forbes 21 April 2010 subkhnemux 8 August 2010 Wilson Bill 10 February 2011 Real Madrid top football rich list for sixth year BBC subkhnemux 22 July 2011 Deloitte Football Money League 2018 Deloitte 23 January 2018 subkhnemux 23 January 2018 Ozanian Mike The World s Most Valuable Soccer Teams 2018 Forbes subkhnemux 2018 06 12 Deloitte Football Money League 2018 Deloitte 23 January 2018 subkhnemux 5 November 2019 Ozanian Mike The Business Of Soccer Forbes subkhnemux 17 August 2019