พระแม่มาตังคี (สันสกฤต: मातङ्गी) เป็นเทวีในศาสนาฮินดู พระนางเป็นหนึ่งในคณะเทวีมหาวิทยาทั้งสิบของนิกายพระนางนั้นเป็นองค์เดียวกับพระสุรัสวดีเทวีแห่งศิลปศาสตร์ ในคติของตันตระ
พระแม่มาตังคี | |
---|---|
เทวีแห่งความรู้ ศิลปะ วาทศิลป์ เวทมนตร์ พลังเหนือธรรมชาติ และการควบคุมสัตว์ป่า | |
ส่วนหนึ่งของ หนึ่งกลุ่มคณะเทวีมหาวิทยา | |
จิตรกรรมแบบประเพณีอินเดียแบบเบงกอล ปลายพุทธศตวรรษที่ 24 | |
ชื่ออื่น | ราชมาตังคี,มนตราริณีเทพี |
ชื่อในอักษรเทวนาครี | मातङ्गी |
ชื่อในการทับศัพท์ภาษาสันสกฤต | Mātaṅgī |
ส่วนเกี่ยวข้อง | มหาวิทยา พระแม่สุรัสวดี เทวีในศาสนาฮินดู พระแม่กาลี พระแม่ปารวตี |
ที่ประทับ | เทวโลก , ป่าดิบชื้น หรือ ป่าช้า |
อาวุธ | ดาบ, วีณา, หัวกะโหลกที่มีนกแก้วเกาะ, ขวาน, บ่วงบาศ, ต้นอ้อย, , , (คทา) |
คู่ครอง | (พระศิวะ) หรือ พระพรหม |
เทวกำเนิด
ครั้งหนึ่งพระแม่ปารวตีได้ทูลขอพระศิวะกลับไปเยี่ยมท้าวหิมวัตและพระนางเมนกา พระศิวะตกลงแต่พระแม่จะต้องกลับมาภายในเร็ววัน พระศิวะเกิดอาการไขข้องใจจึงได้ออกตามหาพระแม่ปารวตีโดยปลอมเป็นคนขายเครื่องประดับและเมื่อพระศิวะหาพระแม่เจอ พระองค์จึงขอเสพสังวาสกับนาง ในขณะที่พระแม่กำลังจะสาปพ่อค้าคนนี้ พระนางก็รับรู้ได้ว่าเขาคือพระศิวะ นางจึงบอกกับพ่อค้าว่าให้รอช่วงเวลาที่เหมาะสมกว่านี้ ในช่วงเย็นพระแม่ได้จำแลงกายเป็นหญิงจัณฑาลและกลับไปหาพระศิวะ พระนางมีรูปกายเพรียวงาม หน้าอกอวบอิ่ม สวมชุดและเครื่องประดับสีแดง และพระนางก็ร่ายรำต่อหน้าพระศิวะ หลังการยั่วยวนแห่งพระแม่ผู้ทรงเสน่ห์ พระศิวะถามพระมาตังคีว่าเธอเป็นใคร พระแม่ตอบว่า ฉันคือหญิงวรรณะจัณฑาล พระศิวะทราบว่านี่คือพระแม่ปารวตีจึงจำแลงตนเป็นจัณฑาล และพระองค์ทั้ง2ก็ร่วมเสพสังวาสกัน (ค่อนข้างร้อนแรง)
อีกตำนานหนึ่งกล่าวไว้ว่า ฤๅษีเดินทางมายังเขาไกรลาสในขณะที่เหล่าเทพกำลังฉลองเทศกาลโฮลี แต่เขากลับไม่ได้รับความสนใจเพราะทุกคนกำลังสนุกสนานกับการเต้นรําทําให้เขาไม่พอใจและสาป พระศิวะและพระแม่ปารวตีให้ไปอยู่ในที่สันโดษ ทั้งสองพระองค์ตอบรับคําสาปและได้ไปอาศัยอยู่ในป่าช้าในรูปของมาตังและมาตังคี
อีกเรื่องเล่านึงบอกว่า พระแม่มาตังคีเสด็จลงไปในแม่นํ้าคงคาเพื่อปลุกพระแม่เกาศิกีหรืออัมพิกาเพื่อปราบอสูรศุมภะและนิศุมภะ
พระลักษณะ
พระแม่มาตังคีมีพระวรกายสีเขียวมรกตเข้มหรือสีดำ มีพระเนตรสามดวง โดยมีพระจันทร์เสี้ยวอยู่ระหว่างคิ้ว บางตำนานบอกว่าพระแม่มาตังคีเกิดจากพระแม่สุรัสวดีและพระแม่กาลีรวมร่างกัน กลายเป็นพระแม่มาตังคี อาวุธที่ถือประกอบด้วย ดาบ บ่วงบาศ วีณา ต้นอ้อย และหัวกะโหลกที่มีนกแก้ว 2 ตัวเกาะอยู่ อาศัยอยู่ตามป่าดิบชื้นหรือป่าช้า ในอินเดียใต้นิยมบูชาแบบมีพระกร8พระกร ถือ ขวาน บ่วงบาศ ดอกบัว นกแก้ว2ตัว ต้นอ้อย และวีณา
อ้างอิง
- Kinsley (1997) p. 217
ดูเพิ่ม
- มหาวิทยา
- นวทุรคา
- เจ้าพ่อเจ้าแม่ในศาสนาฮินดู
- เทพ/ผีบรรพชนในศาสนาฮินดู
- พระสุรัสวดี
- พระปารวตี
- พระกาลี
- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ Matangi
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phraaemmatngkhi snskvt म तङ ग epnethwiinsasnahindu phranangepnhnunginkhnaethwimhawithyathngsibkhxngnikayphranangnnepnxngkhediywkbphrasurswdiethwiaehngsilpsastr inkhtikhxngtntraphraaemmatngkhiethwiaehngkhwamru silpa wathsilp ewthmntr phlngehnuxthrrmchati aelakarkhwbkhumstwpaswnhnungkhxng hnungklumkhnaethwimhawithyacitrkrrmaebbpraephnixinediyaebbebngkxl playphuththstwrrsthi 24chuxxunrachmatngkhi mntrariniethphichuxinxksrethwnakhriम तङ ग chuxinkarthbsphthphasasnskvtMataṅgiswnekiywkhxngmhawithya phraaemsurswdi ethwiinsasnahindu phraaemkali phraaemparwtithiprathbethwolk padibchun hrux pachaxawuthdab wina hwkaohlkthiminkaekwekaa khwan bwngbas tnxxy khtha khukhrxng phrasiwa hrux phraphrhmethwkaenidkhrnghnungphraaemparwtiidthulkhxphrasiwaklbipeyiymthawhimwtaelaphranangemnka phrasiwatklngaetphraaemcatxngklbmaphayinerwwn phrasiwaekidxakarikhkhxngiccungidxxktamhaphraaemparwtiodyplxmepnkhnkhayekhruxngpradbaelaemuxphrasiwahaphraaemecx phraxngkhcungkhxesphsngwaskbnang inkhnathiphraaemkalngcasapphxkhakhnni phranangkrbruidwaekhakhuxphrasiwa nangcungbxkkbphxkhawaihrxchwngewlathiehmaasmkwani inchwngeynphraaemidcaaelngkayepnhyingcnthalaelaklbiphaphrasiwa phranangmirupkayephriywngam hnaxkxwbxim swmchudaelaekhruxngpradbsiaedng aelaphranangkrayratxhnaphrasiwa hlngkarywywnaehngphraaemphuthrngesnh phrasiwathamphramatngkhiwaethxepnikhr phraaemtxbwa chnkhuxhyingwrrnacnthal phrasiwathrabwanikhuxphraaemparwticungcaaelngtnepncnthal aelaphraxngkhthng2krwmesphsngwaskn khxnkhangrxnaerng xiktananhnungklawiwwa visiedinthangmayngekhaikrlasinkhnathiehlaethphkalngchlxngethskalohli aetekhaklbimidrbkhwamsnicephraathukkhnkalngsnuksnankbkaretnrathaihekhaimphxicaelasap phrasiwaaelaphraaemparwtiihipxyuinthisnods thngsxngphraxngkhtxbrbkhasapaelaidipxasyxyuinpachainrupkhxngmatngaelamatngkhi xikeruxngelanungbxkwa phraaemmatngkhiesdclngipinaemnakhngkhaephuxplukphraaemekasikihruxxmphikaephuxprabxsursumphaaelanisumphaphralksnaphraaemmatngkhimiphrawrkaysiekhiywmrktekhmhruxsida miphraentrsamdwng odymiphracnthresiywxyurahwangkhiw bangtananbxkwaphraaemmatngkhiekidcakphraaemsurswdiaelaphraaemkalirwmrangkn klayepnphraaemmatngkhi xawuththithuxprakxbdwy dab bwngbas wina tnxxy aelahwkaohlkthiminkaekw 2 twekaaxyu xasyxyutampadibchunhruxpacha inxinediyitniymbuchaaebbmiphrakr8phrakr thux khwan bwngbas dxkbw nkaekw2tw tnxxy aelawinaxangxingKinsley 1997 p 217duephimmhawithya nwthurkha ecaphxecaaeminsasnahindu ethph phibrrphchninsasnahindu phrasurswdi phraparwti phrakali wikimiediykhxmmxnsmisuxekiywkb Matangi