พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี (25 ตุลาคม พ.ศ. 2435 – 7 เมษายน พ.ศ. 2494) พระนามเดิม หม่อมเจ้าวรรณวิมล เป็นพระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ กับหม่อมอินทร์ วรวรรณ ณ อยุธยา เป็นที่รู้จักในฐานะเป็นอดีตพระคู่หมั้นในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และได้รับการสถาปนาเป็น พระวรกัญญาปทาน พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี ทั้งนี้พระองค์เป็นเสือป่าหญิงคนแรกของประเทศไทย และเป็นผู้ริเริ่มการสวมเครื่องประดับที่คาดศีรษะจนเป็นที่นิยมของสตรีในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี | |
---|---|
พระเจ้าวรวงศ์เธอ ชั้น 4 พระองค์เจ้าชั้นโท | |
ประสูติ | 25 ตุลาคม พ.ศ. 2435 วังวรวรรณ จังหวัดพระนคร อาณาจักรสยาม |
สิ้นพระชนม์ | 7 เมษายน พ.ศ. 2494 (58 ปี) โรงพยาบาลศิริราช จังหวัดธนบุรี ประเทศไทย |
ราชวงศ์ | จักรี |
ราชสกุล | วรวรรณ |
พระบิดา | พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ |
พระมารดา | หม่อมอินทร์ วรวรรณ ณ อยุธยา |
ศาสนา | พุทธ |
แต่ภายหลังก็ถูกถอดถอนหมั้นลง โดยให้เหตุผลว่า "พระราชอัธยาศัยมิได้ต้องกัน" และถูกจำสนมในพระบรมมหาราชวังตลอดรัชกาล ภายหลังพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวกษัตริย์องค์ต่อมา จึงมีพระบรมราชโองการให้ปลดปล่อยพระองค์ออกจากพระบรมมหาราชวังขณะมีพระชันษา 33 ปี และพระราชทานวังที่ประทับนาม "พระกรุณานิวาสน์"
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี ได้เข้าประทับรักษาพระองค์ในโรงพยาบาลศิริราชด้วยโรคพระวักกะพิการ เป็นเวลา 60 วัน โดยพระองค์ได้สิ้นพระชนม์ด้วยพระอาการสงบ ในเวลา 06.07 น. ของวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2494 สิริพระชันษา 58 ปี
พระประวัติ
พระชนม์ชีพตอนต้น
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวัลลภาเทวีประสูติเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2435 เป็นพระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ กับหม่อมอินทร์ วรวรรณ ณ อยุธยา (สกุลเดิม อิ่มสุข) มีพระนามเดิมว่า หม่อมเจ้าวรรณวิมล วรวรรณ และมีพระนามเรียกกันในหมู่พระญาติว่า ท่านหญิงเตอะ หรือ ท่านหญิงขาว
พระองค์ได้รับการศึกษาและมีวิถีชีวิตเยี่ยงสตรีสมัยใหม่ ทรงมีความคิดอ่านอิสระเสรี ซึ่งพระบิดา พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ เป็นผู้ที่มีความสามารถ มีความรู้และความคิดที่กว้างไกลทันสมัย แม้กระทั่งการอบรมเลี้ยงดูพระโอรส-ธิดา ก็ทรงให้ได้รับการศึกษาสมัยใหม่ ไม่เข้มงวดดังการประพฤติปฏิบัติอย่างกุลสตรีโบราณ ทำให้เหล่าพระธิดาในกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์มีความคิดเห็นกว้างขวาง และกล้าที่จะแสดงออกในวัตรปฏิบัติผิดแผกแตกต่างไปสตรีส่วนใหญ่ในสมัยนั้นที่อยู่ในกรอบของม่านประเพณีโบราณ
หม่อมเจ้าวรรณวิมล ทรงเปิดพระองค์อยู่ในสังคมชั้นสูงที่มีกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสังคมและความบันเทิง ทำให้หลายคนต่างมองเห็นภาพความสนุกสดใสของบรรดาพระธิดาในกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ได้ไม่ยากนัก ซึ่งในเรื่องนี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงศ์ ทรงเล่าไว้ใน เกิดวังปารุสก์ ตอนหนึ่งว่า "... ไม่มีผู้หญิงคนไทยครอบครัวใดที่จะช่างคุยสนุกสนานเท่าองค์หญิงตระกูลวรวรรณ เท่าที่ข้าพเจ้าเคยรู้จักพบมา..."
มูลเหตุแห่งการหมั้น
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวในขณะนั้นมีพระชนมพรรษา 40 พรรษา นับตั้งแต่ทรงเถลิงถวัลย์ราชสมบัติตั้งแต่พระชนมพรรษา 31 พรรษา ก็ยังมิได้ภิเษกสมรสหรือมีฝ่ายในดังพระมหากษัตริย์องค์ก่อน ๆ พระองค์ประทับกับข้าราชบริพารชายล้วน และมิใคร่มีโอกาสพบปะกับสตรี และบ้างก็ทรงพบแต่ก็ยังมิต้องพระทัย
หม่อมเจ้าหญิงวรรณวิมล ทรงเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นครั้งแรกที่ห้องทรงไพ่บริดจ์ในงานประกวดภาพเขียน ณ โรงละครวังพญาไท ซึ่งนับเป็นงานชุมนุมของพระบรมวงศานุวงศ์ทั้งผู้ใหญ่และหนุ่มสาว ในงานนี้บรรดาท่านหญิงทั้งหลายของราชสกุลวรวรรณจึงเสด็จมาในงานนี้ด้วยหลายองค์ ซึ่งในเรื่องนี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงศ์ ทรงเล่าเกี่ยวกับการพบกันครั้งแรกของทั้งสองพระองค์ในหนังสือ เกิดวังปารุสก์ ความตอนหนึ่งว่า
"...ข้าพเจ้าดูรูปในที่ต่าง ๆ คุยกับคนต่าง ๆ แต่มักจะไปนั่งบนพื้นคุยกับทูลหม่อมลุงเสมอบ่อย ๆ ครั้งหนึ่งข้าพเจ้าทูลว่า 'ทูลหม่อมลุงครับ ที่ห้องทางโน้นเขาเล่นไพ่บริดจ์กัน' ท่านทรงตอบว่า 'อย่างงั้นหรือ ลุงต้องไปดู บางทีจะไปเล่นกับเขาบ้าง' เมื่อท่านเสด็จไปเล่นจริง ๆ ก็เลยไปพบท่านหญิงขาว..."
ในการพบกันครั้งนั้นทำให้พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวถูกพระราชหฤทัยในรูปโฉมและคุณสมบัติเฉพาะของหม่อมเจ้าวรรณวิมล ยิ่งได้มีโอกาสสนทนากันก็พบว่ามีรสนิยมต้องกัน กล่าวคือมีรสนิยมในงานศิลปะประเภทวรรณกรรมและการแสดง ทั้งยังทรงมีไหวพริบ คารมคมคาย และความคิดอ่าน ทำให้การสนทนามีรสชาติเป็นที่พอพระราชหฤทัยอย่างยิ่ง
ตำแหน่งพระวรกัญญาปทาน
ในวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2463 หลังจากที่ทรงพบปะกับหม่อมเจ้าวรรณวิมลเพียงไม่กี่วันพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามใหม่ให้พระธิดาทั้งหลายของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ดังนี้
- หม่อมเจ้าวรรณวิมล เป็น หม่อมเจ้าวัลลภาเทวี
- เป็น หม่อมเจ้าวรรณีศรีสมร
- เป็น หม่อมเจ้านันทนามารศรี
- หม่อมเจ้าวรรณพิมล เป็น หม่อมเจ้าลักษมีลาวัณ
- เป็น หม่อมเจ้าศรีสอางค์นฤมล
ภายหลังจึงสถาปนาหม่อมเจ้าวัลลภาเทวี ขึ้นเป็น พระวรกัญญาปทาน พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี พระคู่หมั้น เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2463 พร้อมพระราชทานตราปฐมจุลจอมเกล้า และมีพระบรมราชโองการ ขณะที่ได้รับสถาปนาเป็นพระคู่หมั้นนั้น พระวรกัญญาปทาน พระองค์เจ้าวัลลภาเทวีมีพระชันษา 28 ปี ส่วนพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระชนมพรรษา 40 พรรษา และการสถาปนานี้ก็เพื่อจะได้สมพระเกียรติยศสำหรับจะได้กระทำพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสในภายหน้า
ในช่วงของการหมั้นนั้น นับเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของทั้งสองพระองค์ เพราะมีพระทัยจดจ่อกันอยู่ตลอดเวลา โดยโปรดให้พระวรกัญญาปทานเสด็จมาประทับ ณ พระตำหนักสวนจิตรลดา ในขณะที่พระองค์เองทรงประทับอยู่ที่วังพญาไท ซึ่งอยู่ใกล้กัน โปรดเสด็จเสวยของว่างและโทรศัพท์คุยหากันเสมอ ๆ เรื่องนี้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ตรัสเล่าความว่า
"...ทูลหม่อมลุงเสด็จเสวยของว่างที่นั่นทุกวัน ข้าพเจ้าก็ไปเฝ้าท่านที่นั่น บางเวลาเมื่อข้าพเจ้านั่งเฝ้าท่านอยู่ที่วังพญาไทเวลาทรงพระอักษร ทูลหม่อมลุงก็ทรงคุยกับคู่หมั้นของท่านโดยโทรศัพท์สังเกตว่าโปรดมาก"
ในหมู่พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ก็ต่างตื่นเต้นและยินดีกับพระคู่หมั้นทั้งสอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่เจ้าฟ้าด้วยกัน จึงได้มีการจัดเลี้ยงฉลองหมั้นที่เรียกว่า "สัปเปอร์เจ้าฟ้า" ซึ่งมีเพียงแต่เจ้าฟ้าเท่านั้นที่ประทับโต๊ะสัปเปอร์ แม้แต่ข้าราชการคนสนิทของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวอย่าง พระยาประสิทธิศุภการ และพระยาอนิรุทธเทวาก็ยังไม่มีโอกาสร่วมโต๊ะ นอกจากนี้พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ยังทรงคัดเลือกสตรีจากตระกูลชนชั้นสูงเพื่อมาเป็นนางพระกำนัลตามเสด็จพระคู่หมั้นด้วยพระองค์เอง อาทิ และเปรื่อง สุจริตกุล
ระหว่างห้วงเวลาหลังการหมั้นหมายนั้นทรงพระราชนิพนธ์บทละครคำกลอน เรื่อง ซึ่งในหน้าแรกของพระราชนิพนธ์นั้น มีคำอุทิศว่า
นาฏกะกลอนนี้ฉันมีจิต | ขออุทิศแด่มิ่งมารศรี | |
ผู้เป็นยอดเสน่หาจอมนารี | วัลลภาเทวีคู่ชีวัน |
ขอหล่อนจงรับไมตรีสมาน | เป็นพยานความรักสมัครมั่น | |
เหมือนแหวนแทนรักทุษยันต์ | แก่จอมขวัญศกุนตลาไซร้ |
แต่ผิดกันตัวฉันไม่ลืมหล่อน | จนสาครเหือดแห้งไม่แรงไหล | |
จนตะวันเดือนดับลับโลกไป | จะรักจอดยอดใจจนวันตาย |
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระวรกัญญาปทาน พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี ทรงออกงานสังคมร่วมกันอยู่เสมอ ๆ ดังปรากฏเช่น พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ทรงเล่าถึงงานใหญ่งานหนึ่งซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จออกพร้อมด้วยพระวรกัญญาปทาน คืองานทำบุญพระชนมายุครบ 5 รอบ สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ที่วังบูรพาภิรมย์ ดังความตอนหนึ่งว่า
"...งานทำบุญแซยิดทูลหม่อมปู่น้อยวังบูรพา เป็นงานใหญ่ครั้งแรกที่ทูลหม่อมลุงเสด็จกับพระองค์วัลลภาเทวี ทูลหม่อมลุงทรงทำแบบฝรั่งทุกประการ เช่นเวลาเสด็จขึ้นก็ทรงเอาฉลองพระองค์คลุม คลุมประทานพระองค์วัลลภาฯ"
พระวรกัญญาปทาน พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี ทรงร่วมแสดงละคร และงานพระราชพิธี ร่วมกับพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รวมทั้งร่วมแสดงละครเรื่องศกุนตลา และ โพงพาง บางครั้งก็ปรากฏพระองค์ในพื้นที่สาธารณะด้วยกันเสมอ โดยปราศจากข้าราชบริพารชายจนเป็นที่พูดถึง
ดำริหญิงและพระจริยวัตร
ด้วยความที่พระวรกัญญาปทาน พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี ทรงมีความคิดที่ล้ำสมัยสตรีไทยในยุคนั้น ทรงเขียนบทความชื่อ "ดำริหญิง" ในหนังสือดุสิตสมิธรายสัปดาห์เมื่อ พ.ศ. 2463 ในทำนองส่งเสริมให้สตรีมีความเท่าเทียมกับบุรุษ เพราะสตรีก็มีความสามารถ และจะอุ้มชูหรือชักบุรุษให้ต่ำลงก็ทำได้ แต่ก็มีพระประสงค์ให้บุรุษเข้าใจและเคารพสถานภาพของสตรี รู้จักหน้าที่ของบุรุษตามแบบสากล และขณะเดียวกันก็สนับสนุนให้สตรีรู้จักทำหน้าที่ของตนให้ถูกต้อง ความว่า
"...หญิงโดยมากมักบูชาว่าชายเป็นมนุษย์ที่วิเศษกว่าตัวเทือกเทวดา ทั้งนี้ก็เพราะในบ้านโดยมากชายเป็นเจ้าบ้านมีอำนาจบังคับบัญชากดขี่หญิง การที่ชายได้อำนาจไปมากเช่นนั้น ตามความเข้าใจของข้าพเจ้า คิดว่าคงเป็นเพราะหญิงมิได้ถือหน้าที่ที่ตนควรประพฤติ..."
แม้ในเนื้อความจะเป็นความจริงก็ตาม แต่ในขณะนั้นก็ยังไม่มีสตรีคนใดที่สามารถตีแผ่ความจริงได้อย่างห้าวหาญแจ่มชัดอย่างที่พระองค์ได้พระนิพนธ์ไว้ในบทความตอนหนึ่ง ความว่า
"...ความเข้าใจของข้าพเจ้าคิดว่ามนุษย์ทุกคนมีความบกพร่องอยู่ในตัวอย่างที่ไม่รู้จักกันพอ เช่นหญิงชายแรกคบกันคงจะต้องสรรท่าที่ตัวคิดว่าดีออกอวดกัน ต่างคนก็บูชากันว่าเป็นผู้วิเศษในขณะนั้น ความพอใจย่อมมีต่อกันมาก ก็อาจให้สัญญาต่อกันทุกอย่างในความต้องการของฝ่ายใด ครั้นเมื่อคุ้นกันเข้า ความบกพร่องซึ่งเป็นของธรรมดาตามมากน้อยก็ต้องเกิดความรู้กันขึ้นทั้งสองฝ่าย ความนับถือซึ่งกันก็ย่อมซาไป..."
นอกจากนี้ในบทความของพระองค์ที่ทรงนิพนธ์ขึ้น แสดงให้เห็นถึงความมั่นพระทัยในบทบาทและความสามารถของสตรีในการผลักดันบุรุษให้ทำกิจการต่าง ๆ ความว่า
"...ข้าพเจ้าเห็นว่ามือเบา ๆ ของหญิงนี่แหละ อาจลูบหลังชายให้ออกไปต้านศึกได้ง่าย ๆ ยิ่งกว่าจะใช้ปืนจ้องให้ต้องกลับหลังหันไป"
มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับพระองค์ที่กล่าวขานเชิงนินทาในเรื่องเกี่ยวกับพระอุปนิสัยของพระวรกัญญาปทานอย่างหนึ่ง คือการปฏิบัติพระองค์ต่อข้าราชบริพารซึ่งเคยรับใช้สนองพระเดชพระคุณใกล้ชิดก่อนจะทรงหมั้น เล่ากันว่า ครั้งหนึ่งเมื่อพระวรกัญญาปทานเสด็จมาถึงพระราชวังพญาไท มหาดเล็กเดิมคนหนึ่งได้เข้าไปเพื่อจะรับพระหัตถ์ตามธรรมเนียมตะวันตก แต่พระองค์ไม่ทรงยินยอม ครั้นเมื่อเรื่องไปถึงพระกรรณพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวก็กลายเป็นว่าทรงสะบัดมือ และแสดงพระกิริยาดูถูกมหาดเล็กเดิมคนนั้น ทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงกริ้ว และอาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของการถอดถอนหมั้น ซึ่งในเรื่องนี้ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงระบายความทุกข์ในพระทัยด้วยรูปแบบพระราชหัตถเลขาถึงหม่อมเจ้าลักษมีลาวัณ วรวรรณ พระน้องนางเธอของพระวรกัญญาปทาน
อนึ่งพระวรกัญญาปทาน พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี เป็นเจ้านายที่ทรงริเริ่มการสวมเครื่องประดับคาดที่ศีรษะเป็นพระองค์แรก จนกลายเป็นที่นิยมของสุภาพสตรีช่วงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงถอดถอนหมั้น
อย่างไรก็ตาม บทความ ดำริหญิง ดังกล่าวได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก กับทั้งยังมีพระวิสัยถือพระองค์จากเหตุการณ์สะบัดมือนั้น เป็นเหตุให้พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระพิโรธ และประพันธ์กลอนเชิงบริภาษว่า
อย่าทะนงอวดองค์ว่างามเลิศ | สวยประเสริฐยากที่จะเปรียบได้ | |
อย่าทะนงอวดองค์ว่าวิไล | อันสุรางค์นางในยังมากมี |
อย่าทะนงอวดองค์ว่าทรงศักดิ์ | จะใฝ่รักแต่องค์พระทรงศรี | |
นั่งรถยนต์โอ่อ่าวางท่าที | เป็นผู้ดีแต่ใจไพล่เป็นกา |
อย่าดูถูกลูกผู้ชายที่เจียมตน | อย่าดูถูกฝูงชนที่ต่ำกว่า | |
อย่าทะนงอวดองค์ว่าโสภา | อันชายใดฤๅจะกล้ามาง้องอน |
ครั้นแล้วจึงมีพระบรมราชโองการให้ถอนหมั้น เมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2464 และโปรดเกล้าฯ ให้ออกพระนามว่า พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี ความตอนหนึ่งว่า
"...มีความเสียพระราชหฤทัยเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มาทรงทราบตระหนักแน่ชัดขึ้นว่า การจะไม่เป็นไปโดยเรียบร้อย สมพระราชประสงค์อันดีที่กล่าวมาแล้ว เพราะเหตุที่พระราชอัธยาศัยของพระวรกัญญาปทาน พระองค์เจ้าวัลลภาเทวีมิได้ต้องกัน ซึ่งอาจจะเป็นเพราะพระองค์เจ้าวัลลภาเทวีมีพระโรคประจำพระองค์อันเป็นไปในทางพระเส้นประสาทไม่ปรกติ ทรงพระราชดำริว่า ถ้าแม้จะคงให้การดำเนินต่อไปจนถึงกระทำการพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส ก็อาจจะมีผลอันไม่พึงปรารถนา..."
และแล้วก็มีพระบรมราชโองการให้ท้าวนางจ่าโขลนนำโซ่ตรวนทองคำไปจับกุมพระองค์เจ้าวัลลภาเทวีมายังพระบรมมหาราชวัง แต่ด้วยทรงพระทิฐิมานะ พระองค์เจ้าวัลลภาเทวีจึงไม่ทรงทูลขอพระราชทานอภัย กับทั้งยังส่งหนังสือ "ศกุนตลา" ที่พระราชทานกลับพร้อมขีดเส้นใต้กลอนบทเหล่านี้
ทรงภพผู้ปิ่นโปรดฦๅสาย | ||
พระองค์เองสิไม่มียางอาย | พูดง่ายย้อนยอกกรอกคำ |
มาหลอกลวงชมเล่นเสียเปล่าเปล่า | ทิ้งให้คอยสร้อยเศร้าทุกเช้าค่ำ | |
เด็ดดอกไม้มาดมชมจนช้ำ | ไม่ต้องจดจำนำพา |
เหมือนผู้ร้ายย่องเบาเข้าลักทรัพย์ | กลัวเขาจับวิ่งปร๋อไม่รอหน้า | |
จงทรงพระเจริญเถิดราชา | ข้าขอลาแต่บัดนี้ |
ด้วยเหตุนี้ จึงทรงถูกจำขังลงโซ่ตรวนทองคำอยู่ในพระบรมมหาราชวังนับแต่นั้นจนตลอดทั้งรัชกาล
ปลายพระชนม์
ครั้นเมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคตเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลต่อมา จึงมีพระบรมราชโองการให้ปลดปล่อยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวัลลภาเทวีออกจากพระบรมมหาราชวัง และพระราชทานวังที่ประทับให้อยู่บริเวณสี่แยกพิชัย ซึ่งพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ พระบิดา ประทานชื่อว่า พระกรุณานิวาสน์ ขณะทรงได้รับการปล่อยออกมานั้น พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี มีพระชันษา 33 ปี ทรงประทับอยู่ที่วังพระกรุณานิวาสน์ และสนพระทัยในพระพุทธศาสนาตลอดมา
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวัลลภาเทวีเข้าประทับรักษาพระองค์ในโรงพยาบาลศิริราชด้วยโรคพระวักกะพิการเป็นเวลา 60 วัน โดยพระองค์ได้สิ้นพระชนม์ด้วยพระอาการสงบในเวลา 06.07 น. ของวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2494 สิริพระชันษา 58 ปี 5 เดือน และทรงได้รับพระราชทานเพลิงพระศพ ณ วัดเบญจมบพิตร เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2495
หลังสิ้นพระชนม์พระกรุณานิวาสน์ได้ตกเป็นของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ครั้นสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถทรงรับสภาสตรีแห่งชาติไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์จึงถูกเช่าสำหรับเป็นสำนักงานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2504 ถึง พ.ศ. 2518 ปัจจุบันบ้านพระกรุณานิวาสน์หลังเดิมถูกรื้อเพื่อสร้างอาคารหลังใหม่สำหรับจัดกิจกรรมและกิจการอื่น ๆ ในการหารายได้เข้าสภาสตรีแห่งชาติ
พระเกียรติยศ
ธรรมเนียมพระยศของ พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี | |
---|---|
การทูล | ฝ่าพระบาท |
การแทนตน | เกล้ากระหม่อม/เกล้ากระหม่อมฉัน |
การขานรับ | เกล้ากระหม่อม/เพคะ |
นายกองเอกพิเศษ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี | |
---|---|
รับใช้ | กองเสือป่า |
ประจำการ | พ.ศ. 2463–2468 |
ชั้นยศ | นายกองเอกพิเศษ |
หน่วย |
|
พระอิสริยยศ
- 28 ตุลาคม พ.ศ. 2435 – 21 ตุลาคม พ.ศ. 2463 : หม่อมเจ้าวรรณวิมล
- 21 ตุลาคม พ.ศ. 2463 – 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2463 : หม่อมเจ้าวัลลภาเทวี
- 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2463 – 15 มีนาคม พ.ศ. 2464 : พระวรกัญญาปทาน พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี
- 15 มีนาคม พ.ศ. 2464 – 7 เมษายน พ.ศ. 2494 : พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2464 : เครื่องราชอิสริยาภรณ์วัลลภาภรณ์ (ถอนสิทธิ 16 มีนาคม พ.ศ. 2464)
- พ.ศ. 2464 : เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 6 ชั้นที่ 1
- พ.ศ. 2463 : เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นปฐมจุลจอมเกล้า ดาราประดับเพชร
พระยศทางเสือป่า
- พ.ศ. 2463 - นายกองเอกพิเศษ สังกัดกองร้อยหลวง กรมเสือป่าพรานหลวงรักษาพระองค์ และกองร้อยหลวง กรมเสือป่าม้าหลวงรักษาพระองค์
พงศาวลี
พงศาวลีของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
- ครูตุ๊เจ้า. เสือป่าหญิงพระองค์แรก[]. เรียกดูเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2555
- ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ เลิกการพระราชพิธีหมั้น, เล่ม ๓๗, ตอน ๐ ก, ๑๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๖๓, หน้า ๔๓๕
- นราธิปประพันธ์พงศ์, กรมพระ, 2404-2474, ผู้รวบรวม. บาญชีมหามกุฏราชสันตติวงศ์ พุทธศก 2468 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ทรงรวบรวม. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร, พ.ศ. 2468. 167 หน้า.
- พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์. ฉัฬะทิศะธรรมะประฏิบัติ์ และนิทานคำกลอนสามเรื่อง. พระนคร : ประชาช่าง. 2495, ไม่มีเลขหน้า
- ศันสนีย์ วีระศิลป์ชัย. ลูกท่านหลานเธอ ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในราชสำนัก. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพฯ : มติชน. 2555, หน้า 249
- ศันสนีย์ วีระศิลป์ชัย. ลูกท่านหลานเธอ ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในราชสำนัก. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพฯ : มติชน. 2555, หน้า 250
- ศันสนีย์ วีระศิลป์ชัย. ลูกท่านหลานเธอ ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในราชสำนัก. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพฯ : มติชน. 2555, หน้า 251
- ศันสนีย์ วีระศิลป์ชัย. ลูกท่านหลานเธอ ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในราชสำนัก. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพฯ : มติชน. 2555, หน้า 252
- ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ สถาปนาพระวรกัญญาปทาน พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี, เล่ม ๓๗, ตอน ๐ ก, ๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๖๓, หน้า ๒๘๖
- ชานันท์ ยอดหงษ์. "นายใน" สมัยรัชกาลที่ 6. กรุงเทพฯ : มติชน. 2556, หน้า 7-8
- ศันสนีย์ วีระศิลป์ชัย. ลูกท่านหลานเธอ ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในราชสำนัก. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพฯ : มติชน. 2555, หน้า 253
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-09-26. สืบค้นเมื่อ 2007-02-01.
- Greene, Stephen Lyon Wakerman. Absolute Dreams : Thai Goverment under Rama VI, 1910-1925. Bangkok : White Lotus. 1999, p. 132 อ้างใน ชานันท์ ยอดหงษ์. "นายใน" สมัยรัชกาลที่ 6. กรุงเทพฯ : มติชน. 2556, หน้า 7-8
- ศันสนีย์ วีระศิลป์ชัย. ลูกท่านหลานเธอ ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในราชสำนัก. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพฯ : มติชน. 2555, หน้า 249
- ศันสนีย์ วีระศิลป์ชัย. ลูกท่านหลานเธอ ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในราชสำนัก. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพฯ : มติชน. 2555, หน้า 255
- ศันสนีย์ วีระศิลป์ชัย. ลูกท่านหลานเธอ ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในราชสำนัก. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพฯ : มติชน. 2555, หน้า 254
- โครงการพัฒนาศูนย์กลางความรู้แห่งชาติ (13 มีนาคม 2555). การแต่งกายของไทย ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 (2453-2468) เป็นต้นมา[]. เรียกดูเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2555
- วัฒนธรรมไทยภาคกลาง. การแต่งกายภาคกลาง ยุครัตนโกสินทร์สมัยใหม่ (รัชกาลที่ ๕ - ประมาณปี พ.ศ. ๒๔๘๐)[]. เรียกดูเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2555
- ศันสนีย์ วีระศิลป์ชัย. ลูกท่านหลานเธอ ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในราชสำนัก. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพฯ : มติชน. 2555, หน้า 256
- ศันสนีย์ วีระศิลป์ชัย. ลูกท่านหลานเธอ ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในราชสำนัก. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพฯ : มติชน. 2555, หน้า 257
- สิทธิพร ณ นครพนม. "พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี พระวรกัญญาปทาน หนึ่งเดียวในสยาม". ใน ศิลปวัฒนธรรม. 16, 1 (พ.ย. 2537), หน้า 138-143
- "หมายกำหนดการ ที่ 2/2495 พระราชทานเพลิง พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี และ พลเอก พระยาเทพหัสดิน 2495" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 69 (7): 306–309. 29 มกราคม พ.ศ. 2495.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=
((help)) - เกร็ดประวัติศาสตร์ตอนที่ ๑ ตอน พระองค์เจ้าวัลภาเทวี[] สุดท้ายแห่งพระชนม์ชีพของพระองค์เจ้าวัลลภาเทวี
- พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี 2010-10-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน KingVajiravudh.org
- "ประวัติความเป็นมา". สภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ฯ. สืบค้นเมื่อ 10 ตุลาคม 2560.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานตราวัลลภาภรณ์ฝ่ายใน, เล่ม ๓๗, ตอน ๐, ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๓, หน้า ๓๓๘๙
- พระบรมราชโองการ ประกาศ ถอนสิทธิที่พระราชทานไว้แก่พระวรกัญญาปทาน พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี ตามประกาศเพิ่มเติมข้อความในพระราชบัญญัติตราวัลลภาภรณ์ พุทธศักราช ๒๔๖๓ ลงวันที่ ๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๔๖๓
- ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๓๗, ตอน ๐, ๒๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๖๓, หน้า ๒๘๐๒
- "พระราชทานยศเสือป่า" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 37: หน้า 3793. 13 กุมภาพันธ์ 2463.
แหล่งข้อมูลอื่น
- พิมาน แจ่มจรัส. รักในราชสำนัก. กรุงเทพฯ: โอเดียนการพิมพ์, 2510.
- ปิยะนาถ อังควาณิชกุล. “อิทธิพลตะวันตกที่มีต่อการปรับเปลี่ยนของสตรีในราชสำนักในสมัยรัชกาลที่ 5–รัชกาลที่ 6.” วารสารประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ฉบับครบรอบ 100 ปีชาตกาล ศาสตราจารย์พิเศษขจร สุขพานิช (2556): 68-80.
- วรธิภา สัตยานุศักดิ์กุล. “‘หญิงชั่ว’ ในประวัติศาสตร์ไทย: การสร้างความเป็นหญิงโดยชนชั้นนำสยามช่วงต้นรัตนโกสินทร์–พ.ศ. 2477.” วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2559.
- วรธิภา สัตยานุศักดิ์กุล. หญิงร้าย. กรุงเทพฯ: ยิปซี, 2562.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phraecawrwngsethx phraxngkhecawllphaethwi 25 tulakhm ph s 2435 7 emsayn ph s 2494 phranamedim hmxmecawrrnwiml epnphrathidainphraecabrmwngsethx krmphranrathippraphnthphngs kbhmxmxinthr wrwrrn n xyuthya epnthiruckinthanaepnxditphrakhuhmninphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhw aelaidrbkarsthapnaepn phrawrkyyapthan phraxngkhecawllphaethwi thngniphraxngkhepnesuxpahyingkhnaerkkhxngpraethsithy aelaepnphurierimkarswmekhruxngpradbthikhadsirsacnepnthiniymkhxngstriinrchsmyphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhwphraecawrwngsethx phraxngkhecawllphaethwiphraecawrwngsethx chn 4 phraxngkhecachnothprasuti25 tulakhm ph s 2435 wngwrwrrn cnghwdphrankhr xanackrsyamsinphrachnm7 emsayn ph s 2494 58 pi orngphyabalsirirach cnghwdthnburi praethsithyrachwngsckrirachskulwrwrrnphrabidaphraecabrmwngsethx krmphranrathippraphnthphngsphramardahmxmxinthr wrwrrn n xyuthyasasnaphuthth aetphayhlngkthukthxdthxnhmnlng odyihehtuphlwa phrarachxthyasymiidtxngkn aelathukcasnminphrabrmmharachwngtlxdrchkal phayhlngphrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhwkstriyxngkhtxma cungmiphrabrmrachoxngkarihpldplxyphraxngkhxxkcakphrabrmmharachwngkhnamiphrachnsa 33 pi aelaphrarachthanwngthiprathbnam phrakrunaniwasn phraecawrwngsethx phraxngkhecawllphaethwi idekhaprathbrksaphraxngkhinorngphyabalsirirachdwyorkhphrawkkaphikar epnewla 60 wn odyphraxngkhidsinphrachnmdwyphraxakarsngb inewla 06 07 n khxngwnthi 7 emsayn ph s 2494 siriphrachnsa 58 piphraprawtiphrachnmchiphtxntn phraecawrwngsethx phraxngkhecawllphaethwiprasutiemuxwnthi 25 tulakhm ph s 2435 epnphrathidainphraecabrmwngsethx krmphranrathippraphnthphngs kbhmxmxinthr wrwrrn n xyuthya skuledim ximsukh miphranamedimwa hmxmecawrrnwiml wrwrrn aelamiphranameriykkninhmuphrayatiwa thanhyingetxa hrux thanhyingkhaw phraxngkhidrbkarsuksaaelamiwithichiwiteyiyngstrismyihm thrngmikhwamkhidxanxisraesri sungphrabida phraecabrmwngsethx krmphranrathippraphnthphngs epnphuthimikhwamsamarth mikhwamruaelakhwamkhidthikwangiklthnsmy aemkrathngkarxbrmeliyngduphraoxrs thida kthrngihidrbkarsuksasmyihm imekhmngwddngkarpraphvtiptibtixyangkulstriobran thaihehlaphrathidainkrmphranrathippraphnthphngsmikhwamkhidehnkwangkhwang aelaklathicaaesdngxxkinwtrptibtiphidaephkaetktangipstriswnihyinsmynnthixyuinkrxbkhxngmanpraephniobran hmxmecawrrnwiml thrngepidphraxngkhxyuinsngkhmchnsungthimikickrrmtang ephuxsngkhmaelakhwambnething thaihhlaykhntangmxngehnphaphkhwamsnuksdiskhxngbrrdaphrathidainkrmphranrathippraphnthphngsidimyaknk sungineruxngni phraecawrwngsethx phraxngkhecaculckrphngs thrngelaiwin ekidwngparusk txnhnungwa immiphuhyingkhnithykhrxbkhrwidthicachangkhuysnuksnanethaxngkhhyingtrakulwrwrrn ethathikhaphecaekhyruckphbma mulehtuaehngkarhmn phrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhw aelaphrawrkyyapthan phraxngkhecawllphaethwi khnaesdckhunnmskarphrapthmecdiy phrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhwinkhnannmiphrachnmphrrsa 40 phrrsa nbtngaetthrngethlingthwlyrachsmbtitngaetphrachnmphrrsa 31 phrrsa kyngmiidphiesksmrshruxmifayindngphramhakstriyxngkhkxn phraxngkhprathbkbkharachbripharchaylwn aelamiikhrmioxkasphbpakbstri aelabangkthrngphbaetkyngmitxngphrathy hmxmecahyingwrrnwiml thrngefathullaxxngthuliphrabathphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhwepnkhrngaerkthihxngthrngiphbridcinnganprakwdphaphekhiyn n ornglakhrwngphyaith sungnbepnnganchumnumkhxngphrabrmwngsanuwngsthngphuihyaelahnumsaw inngannibrrdathanhyingthnghlaykhxngrachskulwrwrrncungesdcmainngannidwyhlayxngkh sungineruxngni phraecawrwngsethx phraxngkhecaculckrphngs thrngelaekiywkbkarphbknkhrngaerkkhxngthngsxngphraxngkhinhnngsux ekidwngparusk khwamtxnhnungwa khaphecadurupinthitang khuykbkhntang aetmkcaipnngbnphunkhuykbthulhmxmlungesmxbxy khrnghnungkhaphecathulwa thulhmxmlungkhrb thihxngthangonnekhaelniphbridckn thanthrngtxbwa xyangngnhrux lungtxngipdu bangthicaipelnkbekhabang emuxthanesdcipelncring kelyipphbthanhyingkhaw inkarphbknkhrngnnthaihphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhwthukphrarachhvthyinrupochmaelakhunsmbtiechphaakhxnghmxmecawrrnwiml yingidmioxkassnthnaknkphbwamirsniymtxngkn klawkhuxmirsniyminngansilpapraephthwrrnkrrmaelakaraesdng thngyngthrngmiihwphrib kharmkhmkhay aelakhwamkhidxan thaihkarsnthnamirschatiepnthiphxphrarachhvthyxyangying taaehnngphrawrkyyapthan thrngrwmaesdnglakhreruxng ophngphang phrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhw thrngrbbthepnnayphleruxoth phrayasmuthoythin aelaphrawrkyyapthan phraxngkhecawllphaethwi rbbthepn khunhyingsmuthoythin inwnthi 21 tulakhm ph s 2463 hlngcakthithrngphbpakbhmxmecawrrnwimlephiyngimkiwnphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhwoprdekla phrarachthannamihmihphrathidathnghlaykhxngphraecabrmwngsethx krmphranrathippraphnthphngs dngni hmxmecawrrnwiml epn hmxmecawllphaethwi epn hmxmecawrrnisrismr epn hmxmecannthnamarsri hmxmecawrrnphiml epn hmxmecalksmilawn epn hmxmecasrisxangkhnvml phayhlngcungsthapnahmxmecawllphaethwi khunepn phrawrkyyapthan phraxngkhecawllphaethwi phrakhuhmn emuxwnthi 9 phvscikayn ph s 2463 phrxmphrarachthantrapthmculcxmekla aelamiphrabrmrachoxngkar khnathiidrbsthapnaepnphrakhuhmnnn phrawrkyyapthan phraxngkhecawllphaethwimiphrachnsa 28 pi swnphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhwmiphrachnmphrrsa 40 phrrsa aelakarsthapnanikephuxcaidsmphraekiyrtiyssahrbcaidkrathaphrarachphithirachaphiesksmrsinphayhna inchwngkhxngkarhmnnn nbepnchwngewlaaehngkhwamsukhkhxngthngsxngphraxngkh ephraamiphrathycdcxknxyutlxdewla odyoprdihphrawrkyyapthanesdcmaprathb n phratahnkswncitrlda inkhnathiphraxngkhexngthrngprathbxyuthiwngphyaith sungxyuiklkn oprdesdceswykhxngwangaelaothrsphthkhuyhaknesmx eruxngniphraecawrwngsethx phraxngkhecaculckrphngs trselakhwamwa thulhmxmlungesdceswykhxngwangthinnthukwn khaphecakipefathanthinn bangewlaemuxkhaphecanngefathanxyuthiwngphyaithewlathrngphraxksr thulhmxmlungkthrngkhuykbkhuhmnkhxngthanodyothrsphthsngektwaoprdmak inhmuphrabrmwngsanuwngsthukphraxngkhktangtunetnaelayindikbphrakhuhmnthngsxng odyechphaaxyangyinginhmuecafadwykn cungidmikarcdeliyngchlxnghmnthieriykwa spepxrecafa sungmiephiyngaetecafaethannthiprathbotaspepxr aemaetkharachkarkhnsnithkhxngphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhwxyang phrayaprasiththisuphkar aelaphrayaxniruththethwakyngimmioxkasrwmota nxkcakniphrabathsmedcphramngkuteklaecaxyuhw yngthrngkhdeluxkstricaktrakulchnchnsungephuxmaepnnangphrakanltamesdcphrakhuhmndwyphraxngkhexng xathi aelaepruxng sucritkul rahwanghwngewlahlngkarhmnhmaynnthrngphrarachniphnthbthlakhrkhaklxn eruxng sunginhnaaerkkhxngphrarachniphnthnn mikhaxuthiswa natkaklxnnichnmicit khxxuthisaedmingmarsriphuepnyxdesnhacxmnari wllphaethwikhuchiwnkhxhlxncngrbimtrisman epnphyankhwamrksmkhrmnehmuxnaehwnaethnrkthusynt aekcxmkhwyskuntlaisraetphidkntwchnimlumhlxn cnsakhrehuxdaehngimaerngihlcntawneduxndblbolkip carkcxdyxdiccnwntay phrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhw aelaphrawrkyyapthan phraxngkhecawllphaethwi thrngxxkngansngkhmrwmknxyuesmx dngpraktechn phraecawrwngsethx phraxngkhecaculckrphngs thrngelathungnganihynganhnungsungphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhwesdcxxkphrxmdwyphrawrkyyapthan khuxnganthabuyphrachnmayukhrb 5 rxb smedcphrarachpitulabrmphngsaphimukh ecafaphanurngsiswangwngs krmphrayaphanuphnthuwngswredch thiwngburphaphirmy dngkhwamtxnhnungwa nganthabuyaesyidthulhmxmpunxywngburpha epnnganihykhrngaerkthithulhmxmlungesdckbphraxngkhwllphaethwi thulhmxmlungthrngthaaebbfrngthukprakar echnewlaesdckhunkthrngexachlxngphraxngkhkhlum khlumprathanphraxngkhwllpha phrawrkyyapthan phraxngkhecawllphaethwi thrngrwmaesdnglakhr aelanganphrarachphithi rwmkbphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhw rwmthngrwmaesdnglakhreruxngskuntla aela ophngphang bangkhrngkpraktphraxngkhinphunthisatharnadwyknesmx odyprascakkharachbripharchaycnepnthiphudthung darihyingaelaphracriywtr phrawrkyyapthan phraxngkhecawllphaethwi dwykhwamthiphrawrkyyapthan phraxngkhecawllphaethwi thrngmikhwamkhidthilasmystriithyinyukhnn thrngekhiynbthkhwamchux darihying inhnngsuxdusitsmithrayspdahemux ph s 2463 inthanxngsngesrimihstrimikhwamethaethiymkbburus ephraastrikmikhwamsamarth aelacaxumchuhruxchkburusihtalngkthaid aetkmiphraprasngkhihburusekhaicaelaekharphsthanphaphkhxngstri ruckhnathikhxngburustamaebbsakl aelakhnaediywknksnbsnunihstriruckthahnathikhxngtnihthuktxng khwamwa hyingodymakmkbuchawachayepnmnusythiwiesskwatwethuxkethwda thngnikephraainbanodymakchayepnecabanmixanacbngkhbbychakdkhihying karthichayidxanacipmakechnnn tamkhwamekhaickhxngkhapheca khidwakhngepnephraahyingmiidthuxhnathithitnkhwrpraphvti aeminenuxkhwamcaepnkhwamcringktam aetinkhnannkyngimmistrikhnidthisamarthtiaephkhwamcringidxyanghawhayaecmchdxyangthiphraxngkhidphraniphnthiwinbthkhwamtxnhnung khwamwa khwamekhaickhxngkhaphecakhidwamnusythukkhnmikhwambkphrxngxyuintwxyangthiimruckknphx echnhyingchayaerkkhbknkhngcatxngsrrthathitwkhidwadixxkxwdkn tangkhnkbuchaknwaepnphuwiessinkhnann khwamphxicyxmmitxknmak kxacihsyyatxknthukxyanginkhwamtxngkarkhxngfayid khrnemuxkhunknekha khwambkphrxngsungepnkhxngthrrmdatammaknxyktxngekidkhwamruknkhunthngsxngfay khwamnbthuxsungknkyxmsaip nxkcakniinbthkhwamkhxngphraxngkhthithrngniphnthkhun aesdngihehnthungkhwammnphrathyinbthbathaelakhwamsamarthkhxngstriinkarphlkdnburusihthakickartang khwamwa khaphecaehnwamuxeba khxnghyingniaehla xaclubhlngchayihxxkiptansukidngay yingkwacaichpuncxngihtxngklbhlnghnip mieruxngelaekiywkbphraxngkhthiklawkhanechingninthaineruxngekiywkbphraxupnisykhxngphrawrkyyapthanxyanghnung khuxkarptibtiphraxngkhtxkharachbripharsungekhyrbichsnxngphraedchphrakhuniklchidkxncathrnghmn elaknwa khrnghnungemuxphrawrkyyapthanesdcmathungphrarachwngphyaith mhadelkedimkhnhnungidekhaipephuxcarbphrahtthtamthrrmeniymtawntk aetphraxngkhimthrngyinyxm khrnemuxeruxngipthungphrakrrnphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhwkklayepnwathrngsabdmux aelaaesdngphrakiriyaduthukmhadelkedimkhnnn thaihphrabathsmedcphraecaxyuhwthrngkriw aelaxacepnxiksaehtuhnungkhxngkarthxdthxnhmn sungineruxngni phrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhwthrngrabaykhwamthukkhinphrathydwyrupaebbphrarachhtthelkhathunghmxmecalksmilawn wrwrrn phranxngnangethxkhxngphrawrkyyapthan xnungphrawrkyyapthan phraxngkhecawllphaethwi epnecanaythithrngrierimkarswmekhruxngpradbkhadthisirsaepnphraxngkhaerk cnklayepnthiniymkhxngsuphaphstrichwngrchsmyphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhw thrngthxdthxnhmn xyangirktam bthkhwam darihying dngklawidrbkarwiphakswicarnxyangmak kbthngyngmiphrawisythuxphraxngkhcakehtukarnsabdmuxnn epnehtuihphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhwthrngphraphiorth aelapraphnthklxnechingbriphaswa xyathanngxwdxngkhwangamelis swypraesrithyakthicaepriybidxyathanngxwdxngkhwawiil xnsurangkhnanginyngmakmixyathanngxwdxngkhwathrngskdi caifrkaetxngkhphrathrngsrinngrthyntoxxawangthathi epnphudiaeticiphlepnkaxyaduthuklukphuchaythieciymtn xyaduthukfungchnthitakwaxyathanngxwdxngkhwaospha xnchayidvicaklamangxngxn khrnaelwcungmiphrabrmrachoxngkarihthxnhmn emuxwnthi 15 minakhm ph s 2464 aelaoprdekla ihxxkphranamwa phraecawrwngsethx phraxngkhecawllphaethwi khwamtxnhnungwa mikhwamesiyphrarachhvthyepnxyangying thiidmathrngthrabtrahnkaenchdkhunwa karcaimepnipodyeriybrxy smphrarachprasngkhxndithiklawmaaelw ephraaehtuthiphrarachxthyasykhxngphrawrkyyapthan phraxngkhecawllphaethwimiidtxngkn sungxaccaepnephraaphraxngkhecawllphaethwimiphraorkhpracaphraxngkhxnepnipinthangphraesnprasathimprkti thrngphrarachdariwa thaaemcakhngihkardaenintxipcnthungkrathakarphrarachphithirachaphiesksmrs kxaccamiphlxnimphungprarthna aelaaelwkmiphrabrmrachoxngkarihthawnangcaokhlnnaostrwnthxngkhaipcbkumphraxngkhecawllphaethwimayngphrabrmmharachwng aetdwythrngphrathithimana phraxngkhecawllphaethwicungimthrngthulkhxphrarachthanxphy kbthngyngsnghnngsux skuntla thiphrarachthanklbphrxmkhidesnitklxnbthehlani thrngphphphupinoprdlisayphraxngkhexngsiimmiyangxay phudngayyxnyxkkrxkkhamahlxklwngchmelnesiyeplaepla thingihkhxysrxyesrathukechakhaedddxkimmadmchmcncha imtxngcdcanaphaehmuxnphurayyxngebaekhalkthrphy klwekhacbwingprximrxhnacngthrngphraecriyethidracha khakhxlaaetbdni dwyehtuni cungthrngthukcakhnglngostrwnthxngkhaxyuinphrabrmmharachwngnbaetnncntlxdthngrchkal playphrachnm khrnemuxphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhwswrrkhtemuxwnthi 26 phvscikayn ph s 2468 phrabathsmedcphrapkeklaecaxyuhw rchkaltxma cungmiphrabrmrachoxngkarihpldplxyphraecawrwngsethx phraxngkhecawllphaethwixxkcakphrabrmmharachwng aelaphrarachthanwngthiprathbihxyubriewnsiaeykphichy sungphraecabrmwngsethx krmphranrathippraphnthphngs phrabida prathanchuxwa phrakrunaniwasn khnathrngidrbkarplxyxxkmann phraecawrwngsethx phraxngkhecawllphaethwi miphrachnsa 33 pi thrngprathbxyuthiwngphrakrunaniwasn aelasnphrathyinphraphuththsasnatlxdma phraecawrwngsethx phraxngkhecawllphaethwiekhaprathbrksaphraxngkhinorngphyabalsirirachdwyorkhphrawkkaphikarepnewla 60 wn odyphraxngkhidsinphrachnmdwyphraxakarsngbinewla 06 07 n khxngwnthi 7 emsayn ph s 2494 siriphrachnsa 58 pi 5 eduxn aelathrngidrbphrarachthanephlingphrasph n wdebycmbphitr emuxwnthi 4 kumphaphnth ph s 2495 hlngsinphrachnmphrakrunaniwasnidtkepnkhxngsanknganthrphysinswnphramhakstriy khrnsmedcphranangecasirikiti phrabrmrachininaththrngrbsphastriaehngchatiiwinphrabrmrachinupthmphcungthukechasahrbepnsankngantngaetpi ph s 2504 thung ph s 2518 pccubnbanphrakrunaniwasnhlngedimthukruxephuxsrangxakharhlngihmsahrbcdkickrrmaelakickarxun inkarharayidekhasphastriaehngchatiphraekiyrtiysthrrmeniymphrayskhxng phraxngkhecawllphaethwikarthulfaphrabathkaraethntneklakrahmxm eklakrahmxmchnkarkhanrbeklakrahmxm ephkhanaykxngexkphiess phraecawrwngsethx phraxngkhecawllphaethwirbichkxngesuxpapracakarph s 2463 2468chnysnaykxngexkphiesshnwykrmesuxpaphranhlwngrksaphraxngkh krmesuxpamahlwngrksaphraxngkhphraxisriyys 28 tulakhm ph s 2435 21 tulakhm ph s 2463 hmxmecawrrnwiml 21 tulakhm ph s 2463 9 phvscikayn ph s 2463 hmxmecawllphaethwi 9 phvscikayn ph s 2463 15 minakhm ph s 2464 phrawrkyyapthan phraxngkhecawllphaethwi 15 minakhm ph s 2464 7 emsayn ph s 2494 phraecawrwngsethx phraxngkhecawllphaethwiekhruxngrachxisriyaphrn ph s 2464 ekhruxngrachxisriyaphrnwllphaphrn thxnsiththi 16 minakhm ph s 2464 ph s 2464 ehriyyrtnaphrn rchkalthi 6 chnthi 1 ph s 2463 ekhruxngrachxisriyaphrnculcxmekla chnpthmculcxmekla darapradbephchrphraysthangesuxpa ph s 2463 naykxngexkphiess sngkdkxngrxyhlwng krmesuxpaphranhlwngrksaphraxngkh aelakxngrxyhlwng krmesuxpamahlwngrksaphraxngkhphngsawliphngsawlikhxngphraecawrwngsethx phraxngkhecawllphaethwi 16 phrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolk 8 phrabathsmedcphraphuththelishlanphaly 17 smedcphraxmrinthrabrmrachini 4 phrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw 18 engin aestn 9 smedcphrasrisurieynthrabrmrachini 19 smedcphraecaphinangethx ecafakrmphrasrisudarks 2 phraecabrmwngsethx krmphranrathippraphnthphngs 10 xn siriwnt 5 ecacxmmardaekhiyn 22 ecswswn 11 xim siriwnt 23 rxd 1 phraecawrwngsethx phraxngkhecawllphaethwi 6 hlwngophkhaphinic tad ximsukh 3 hmxmxinthr wrwrrn n xyuthya 7 wxn xangxingkhrutueca esuxpahyingphraxngkhaerk lingkesiy eriykduemuxwnthi 19 thnwakhm 2555 rachkiccanuebksa phrabrmrachoxngkar prakas elikkarphrarachphithihmn elm 37 txn 0 k 15 minakhm ph s 2463 hna 435 nrathippraphnthphngs krmphra 2404 2474 phurwbrwm baychimhamkutrachsnttiwngs phuththsk 2468 phraecabrmwngsethx krmphranrathippraphnthphngs thrngrwbrwm krungethph orngphimphosphnphiphrrththnakr ph s 2468 167 hna phraecabrmwngsethx krmphranrathippraphnthphngs chlathisathrrmapratibti aelanithankhaklxnsameruxng phrankhr prachachang 2495 immielkhhna snsniy wirasilpchy lukthanhlanethx thixyuebuxnghlngkhwamsaercinrachsank phimphkhrngthi 6 krungethph mtichn 2555 hna 249 snsniy wirasilpchy lukthanhlanethx thixyuebuxnghlngkhwamsaercinrachsank phimphkhrngthi 6 krungethph mtichn 2555 hna 250 snsniy wirasilpchy lukthanhlanethx thixyuebuxnghlngkhwamsaercinrachsank phimphkhrngthi 6 krungethph mtichn 2555 hna 251 snsniy wirasilpchy lukthanhlanethx thixyuebuxnghlngkhwamsaercinrachsank phimphkhrngthi 6 krungethph mtichn 2555 hna 252 rachkiccanuebksa phrabrmrachoxngkar prakas sthapnaphrawrkyyapthan phraxngkhecawllphaethwi elm 37 txn 0 k 9 phvscikayn ph s 2463 hna 286 channth yxdhngs nayin smyrchkalthi 6 krungethph mtichn 2556 hna 7 8 snsniy wirasilpchy lukthanhlanethx thixyuebuxnghlngkhwamsaercinrachsank phimphkhrngthi 6 krungethph mtichn 2555 hna 253 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 09 26 subkhnemux 2007 02 01 Greene Stephen Lyon Wakerman Absolute Dreams Thai Goverment under Rama VI 1910 1925 Bangkok White Lotus 1999 p 132 xangin channth yxdhngs nayin smyrchkalthi 6 krungethph mtichn 2556 hna 7 8 snsniy wirasilpchy lukthanhlanethx thixyuebuxnghlngkhwamsaercinrachsank phimphkhrngthi 6 krungethph mtichn 2555 hna 249 snsniy wirasilpchy lukthanhlanethx thixyuebuxnghlngkhwamsaercinrachsank phimphkhrngthi 6 krungethph mtichn 2555 hna 255 snsniy wirasilpchy lukthanhlanethx thixyuebuxnghlngkhwamsaercinrachsank phimphkhrngthi 6 krungethph mtichn 2555 hna 254 okhrngkarphthnasunyklangkhwamruaehngchati 13 minakhm 2555 karaetngkaykhxngithy tngaetsmyrchkalthi 6 2453 2468 epntnma lingkesiy eriykduemuxwnthi 17 thnwakhm 2555 wthnthrrmithyphakhklang karaetngkayphakhklang yukhrtnoksinthrsmyihm rchkalthi 5 pramanpi ph s 2480 lingkesiy eriykduemuxwnthi 18 thnwakhm 2555 snsniy wirasilpchy lukthanhlanethx thixyuebuxnghlngkhwamsaercinrachsank phimphkhrngthi 6 krungethph mtichn 2555 hna 256 snsniy wirasilpchy lukthanhlanethx thixyuebuxnghlngkhwamsaercinrachsank phimphkhrngthi 6 krungethph mtichn 2555 hna 257 siththiphr n nkhrphnm phraecawrwngsethx phraxngkhecawllphaethwi phrawrkyyapthan hnungediywinsyam in silpwthnthrrm 16 1 ph y 2537 hna 138 143 hmaykahndkar thi 2 2495 phrarachthanephling phraecawrwngsethx phraxngkhecawllphaethwi aela phlexk phrayaethphhsdin 2495 PDF rachkiccanuebksa 69 7 306 309 29 mkrakhm ph s 2495 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a trwcsxbkhawnthiin date help ekrdprawtisastrtxnthi 1 txn phraxngkhecawlphaethwi lingkesiy sudthayaehngphrachnmchiphkhxngphraxngkhecawllphaethwi phraecawrwngsethx phraxngkhecawllphaethwi 2010 10 18 thi ewyaebkaemchchin KingVajiravudh org prawtikhwamepnma sphastriaehngchatiinphrabrmrachinupthmph subkhnemux 10 tulakhm 2560 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help rachkiccanuebksa phrarachthantrawllphaphrnfayin elm 37 txn 0 9 mkrakhm ph s 2463 hna 3389 phrabrmrachoxngkar prakas thxnsiththithiphrarachthaniwaekphrawrkyyapthan phraxngkhecawllphaethwi tamprakasephimetimkhxkhwaminphrarachbyytitrawllphaphrn phuththskrach 2463 lngwnthi 1 mkrakhm phuththskrach 2463 rachkiccanuebksa phrarachthanekhruxngrachxisriyaphrn 2016 03 04 thi ewyaebkaemchchin elm 37 txn 0 28 phvscikayn ph s 2463 hna 2802 phrarachthanysesuxpa PDF rachkiccanuebksa elm 37 hna 3793 13 kumphaphnth 2463 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb phraecawrwngsethx phraxngkhecawllphaethwi phiman aecmcrs rkinrachsank krungethph oxediynkarphimph 2510 ISBN 974 341 064 3 piyanath xngkhwanichkul xiththiphltawntkthimitxkarprbepliynkhxngstriinrachsankinsmyrchkalthi 5 rchkalthi 6 warsarprawtisastr mhawithyalysrinkhrinthrwiorth chbbkhrbrxb 100 pichatkal sastracaryphiesskhcr sukhphanich 2556 68 80 wrthipha styanuskdikul hyingchw inprawtisastrithy karsrangkhwamepnhyingodychnchnnasyamchwngtnrtnoksinthr ph s 2477 withyaniphnthpriyyamhabnthit sakhawichaprawtisastr khnasilpsastr mhawithyalythrrmsastr 2559 wrthipha styanuskdikul hyingray krungethph yipsi 2562