พระเจ้าคาลาคาอัวแห่งฮาวาย (ฮาวาย: Kalākaua) หรือ สมเด็จพระราชาธิบดีเดวิด ลาอาเมอา คามานาคาปูอู มาฮีนูลานี นาไลอาเอฮูโอกาลานี ลูมีอาลานี คาลาคาอัว (ฮาวาย: David Laʻamea Kamanakapuʻu Mahinulani Nalaiaehuokalani Lumialani Kalākaua) เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 7 แห่งราชอาณาจักรฮาวาย ต่อจากพระเจ้าลูนาลิโลแห่งฮาวาย พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกในราชวงศ์คาลาคาอัวและถือได้ว่าพระองค์เป็นสมเด็จพระราชาธิบดีพระองค์สุดท้ายของฮาวาย เนื่องจากรัชกาลต่อจากพระองค์ซึ่งเป็นรัชกาลสุดท้ายดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระราชินีนาถ พระเจ้าคาลาคาอัวทรงครองราชย์ระหว่างวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 1874 จนถึง 20 มกราคม 1891 โดยในระหว่างครองราชย์พระองค์ทรงได้รับฉายาว่า The Merrie Monarch
พระเจ้าคาลาคาอัวแห่งฮาวาย | |
---|---|
เดวิด ลาอาเมอา คามานาคาปูอู มาฮีนูลานี นาไลอาเอฮูโอกาลานี ลูมีอาลานี คาลาคาอัว | |
พระมหากษัตริย์แห่งหมู่เกาะฮาวาย | |
ครองราชย์ | 12 กุมภาพันธ์ 1874 - 20 มกราคม 1891 |
รัชสมัย | 17 ปี |
ราชาภิเษก | 12 กุมภาพันธ์ 1883 |
รัชกาลก่อนหน้า | พระเจ้าลูนาลิโลแห่งฮาวาย |
รัชกาลถัดไป | สมเด็จพระราชินีนาถลีลีโอกาลานีแห่งฮาวาย |
ประสูติ | 16 พฤศจิกายน 1836 |
สวรรคต | 20 มกราคม พ.ศ. 1891 (54 พรรษา) |
พระอัครมเหสี | สมเด็จพระราชินีคาปีโอลานีแห่งฮาวาย |
ราชวงศ์ | คาลาคาอัว |
พระบรมราชชนก | |
พระบรมราชชนนี | |
ลายพระอภิไธย |
พระราชประวัติ
พระเจ้าคาลาคาอัว เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 1836 ที่เมืองโฮโนลูลู ราชอาณาจักรฮาวาย ทรงเป็นโอรสในกับ มีพระอนุชาและพระขนิษฐภคนีทั้งสิ้น 7 พระองค์ ได้แก่ โมเสส สมเด็จพระราชินีนาถลีลีโอกาลานีแห่งฮาวาย คีนีนี และ พระนาม คาลาคาอัว ของพระองค์มีความหมายถึงวันแห่งสงคราม ซึ่งมีความเกี่ยวเนื่องกับวันที่สหราชอาณาจักรและราชอาณาจักรฮาวายในรัชสมัยของพระเจ้าคาเมฮาเมฮาที่ 3 แห่งฮาวายได้ลงนามในสนธิสัญญาซึ่งไม่เป็นธรรมในวันที่พระองค์เสด็จพระราชสมภพ ถึงแม้ว่าในระยะแรกพระองค์ได้รับการกำหนดให้เป็นบุตรบุญธรรมของ ผู้ว่าราชการโออาฮู แต่กลับส่งพระองค์ให้ไปเป็นบุครบุญธรรมของฮาอะเฮโอ คานูอีและสามีของนางคือเคอาเวอามาฮี คีนามากาแทน ฮาอะเฮโอมารดาบุญธรรมของพระองค์เสียชีวิตในปี ค.ศ. 1843 โดยทำพินัยกรรมยกสมบัติทั้งหมดของนางให้แก่พระองค์ หลังจากมารดาบุญธรรมของพระองค์เสียชีวิต สิทธิ์ในการเลี้ยงดูจึงตกอยู่กับบิดาบุญธรรมของพระองค์ ซึ่งเป็นหัวหน้าระดับล่าง ต่อมาบิดาบุญธรรมได้แต่งงานกับไป หญิงชาวตาฮีติ ซึ่งได้เลี้ยงดูพระองค์เสมือนบุตรของตนเอง
เมื่อพระองค์มีพระชนมายุได้ 4 พรรษา พระองค์ได้กลับไปอาศัยอยู่ที่โออาฮูกับพระบิดาและพระมารดาที่แท้จริง พระองค์ได้เข้าศึกษาต่อในโรงเรียนสำหรับชนชั้นสูงของฮาวาย ในขณะที่กำลังศึกษาอยู่นั้นพระองค์สามารถตรัสได้ทั้งภาษาฮาวายและภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว เมื่อพระองค์มีพระชนมายุ 16 พรรษา พระองค์เริ่มศึกษากฎหมาย แต่ด้วยภาระหน้าที่ของพระองค์ในรัฐบาลมีมากทำให้พระองค์ไม่มีโอกาสสำเร็จการศึกษาทางด้านกฎหมาย ในปี ค.ศ. 1863 พระองค์ได้รับมอบหมายให้ดูแลงานทางด้านการไปรษณีย์
การเลือกตั้งพระมหากษัตริย์ ค.ศ. 1872
พระเจ้าคาเมฮาเมฮาที่ 5 แห่งฮาวาย พระมหากษัตริย์พระองค์สุดท้ายของราชวงศ์คาเมฮาเมฮาเสด็จสวรรคตในวันที่ 12 ธันวาคม ค.ศ. 1872 โดยไม่ได้แต่งตั้งรัชทายาทในการขึ้นครองราชบัลลังก์ต่อจากพระองค์ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรฮาวายได้กำหนดไว้ว่าหากพระมหากษัตริย์มิได้แต่งตั้งผู้ใดเป็นรัชทายาท พระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่จะมาจากการเลือกตั้งในรัฐสภา
ในการเลือกตั้งครั้งนี้มีบุคคลสมัครรับเลือกตั้งเป็นพระมหากษัตริย์ฮาวายค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งในครั้งนี้มีผู้สมัครที่เป็นชนชั้นสูง 2 คนที่มีความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่ง คือ วิลเลียม ลูนาลีโลกับคาลาคาอัว อย่างไรก็ตามลูนาลีโลได้รับความนิยมมากกว่า เนื่องจากมีสถานะทางชนชั้นที่สูงกว่าคาลาคาอัว อีกทั้งยังเป็นลูกพี่ลูกน้องของพระเจ้าคาเมฮาเมฮาที่ 5 แห่งฮาวาย นอกจากนี้แล้วลูนาลีโลมีความเป็นเสรีนิยมมากกว่าคาลาคาอัว และให้สัญญาแก่ประชาชนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้ประชาชนมีสิทธิ์มีเสียงในการบริหารราชการแผ่นดินมากขึ้น หลายฝ่ายเชื่อว่าลูนาลีโลมีความเหมาะสมที่จะดำรงสถานะเป็นพระมหาษัตริย์ แต่ลูนาลีโลไม่ตอบรับหากไม่ได้รับการยินยอมจากประชาชน
ในช่วงของการเลือกตั้งนี้ คาลาคาอัวได้แต่งคำประพันธ์ในภาษาฮาวาย โดยมีข้อความตัดตอนเป็นภาษาอังกฤษดังนี้ :
"O my people! My countrymen of old! Arise! This is the voice!"
"Ho! all ye tribes! Ho! my own ancient people! The people who took hold and built up the Kingdom of Kamehameha."
"Arise! This is the voice."
"Let me direct you, my people! Do nothing contrary to the law or against the peace of the Kingdom."
"Do not go and vote."
"Do not be led by the foreigners; they had no part in our hardships, in gaining the country. Do not be led by their false teachings."
คาลาคาอัวมีความที่เป็นอนุรักษนิยมมากกว่าลูนาลีโล ในระหว่างนั้นชาวต่างชาติมีบทบาทสำคัญในการควบคุมรัฐบาลฮาวาย คาลาคาอัวให้สัญญาว่าจะให้ชาวพื้นเมืองเข้ามามีบทบาทในการบริหารราชการแผ่นดิน รวมถึงแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1873 ประชาชนลงคะแนนเลือกลูนาลีโลด้วยคะแนนเสียงส่วนใหญ่ และในวันต่อมารัฐสภาเห็นชอบ ลูนาลีโลขึ้นเสวยราชสมับติเป็นพระมหากษัตริย์แห่งหมู่เกาะฮาวาย
เหตุการณ์ในรัชสมัย
เมื่อพระเจ้าลูนาลิโลแห่งฮาวาย เสด็จสวรรคตอย่างกะทันหัน โดนไม่ทรงมีรัชทายาท ทำให้เกิดปัญหาเรื่องผู้ที่จะสืบราชบัลลังก์ระหว่างพระองค์กับสมเด็จพระราชินีเอ็มมา นาเอ รูก แต่ในที่สุดพระองค์ก็ได้รับเลือกให้เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ต่อไป ปัญหาการไม่มีรัชทายาทสืบราชบัลลังก์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีตทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ไม่มั่นคง พระองค์จึงได้แต่งตั้ง พระอนุชาของพระองค์ให้ทรงเป็นรัชทายาท เพื่อสร้างความมั่นคงให้สถาบันพระมหากษัตริย์
ในระยะแรกของการครองราชย์ของพระเจ้าคาลาคาอัว พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนเกาะต่าง ๆ ของราชอาณาจักรฮาวาย ซึ่งในท้ายที่สุดช่วยสร้างความนิยมของพระองค์ ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1874 พระองค์ส่งผู้แทนทางการทูตไปสหรัฐอเมริกา เพื่อเจรจาสนธิสัญญาที่จะช่วยกันลดความตึงเครียดลงในฮาวาย ในเดือนพฤศจิกายน พระเจ้าคาลาคาอัวเสด็จพระราชดำเนินเยือนวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อเข้าพบประธานาธิบดียูลิสซิส เอส. แกรนท์ ซึ่งนำไปสู่การลงนามในสนธิสัญญาเมื่อวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 1875 โดยเนื้อหาในสนธิสัญญาจะอนุญาตให้ฮาวายสามารถส่งน้ำตาลและข้าวเข้าสหรัฐอเมริกาได้โดยไม่มีภาษี
ในช่วงแรกของรัชสมัย พระองค์ได้ใช้อำนาจสูงสุดเท่าที่พระองค์มีในการแต่งตั้งและถอดถอนคณะรัฐมนตรีบ่อยครั้ง โดยพระเจ้าคาลาคาอัวเชื่อว่าชนชั้นสูงมีสิทธิอันชอบธรรมในการปกครอง การกระทำเช่นนี้ของพระองค์ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มมิชชันนารีซึ่งต้องการเห็นการปฏิรูปการปกครองของฮาวาย โดยใช้พื้นฐานราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญของสหราชอาณาจักรซึ่งลดพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ กลุ่มคณะมิชชันนารีกลุ่มนี้ยังเชื่อว่าผู้ที่จะควบคุมคณะรัฐบาลควรเป็นรัฐสภาไม่ใช่พระมหากษัตริย์ การถอดถอนและแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีได้ดำเนินการต่อไปตลอดรัชสมัยของพระองค์
ในปี ค.ศ. 1881 พระองค์ก็ได้เสด็จเยือนประเทศต่าง ๆ เพื่อนำแนวทางมาพัฒนาฮาวาย พัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและเรียนรู้วิธีการปกครองของแต่ละประเทศ เมื่อพระเจ้าคาลาคาอัวได้เสด็จออกจากฮาวาย พระองค์ได้มอบหมายให้เจ้าฟ้าหญิงลีลีโอกาลานีเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ (แทนเจ้าชายเลเลอีโอโฮกูที่ 2 ที่สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1877) พระองค์เริ่มการเสด็จเยือนต่างประเทศของพระองค์ที่ซานฟรานซิสโกซึ่งพระองค์ได้รับการต้อนรับที่ดี จากนั้นพระองค์เสด็จพระราชดำเนินเยือนจักรวรรดิญี่ปุ่นและเข้าพบจักรพรรดิเมจิ หลังจากนั้นพระองค์ได้เสด็จเยือนจักรวรรดิชิง สยามในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พม่า บริติชราช อียิปต์ อิตาลี เบลเยียม จักรวรรดิเยอรมัน จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี สาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 3 สเปน โปรตุเกส สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์ และเดินทางไปต่อที่สหรัฐอเมริกาเพื่อจะเดินทางกลับฮาวาย ในการเดินทางครั้งนี้ทำให้พระองค์มีโอกาสพบผู้นำประเทศหลายพระองค์และคน เช่น สมเด็จพระเจ้าอุมแบร์โตที่ 1 แห่งอิตาลี อุปราชแห่งอียิปต์ จักรพรรดิวิลเฮล์มที่ 1 แห่งเยอรมนี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เชสเตอร์ เอ. อาเทอร์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาและสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย การเดินทางในครั้งนี้ส่งผลให้พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกที่เดินทางรอบโลกวิลเลียม อาร์มสตรองได้เขียนบันทึกการเดินทางในครั้งนี้ไว้ในหนังสือ Around the World With a King
พระเจ้าคาลาคาอัวได้สร้างพระราชวังอิโอลานี ซึ่งเป็นพระราชวังเพียงแห่งเดียวที่มีอยู่ในสหรัฐอเมริกาปัจจุบัน โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 300,000 ดอลลาร์ สิ่งของตบแต่งในพระราชวังมาจากการสั่งซื้อของพระเจ้าคาลาคาอัวระหว่างเดินทางในทวีปยุโรป นอกจากนี้พระเจ้าคาลาคาอัวได้ตัดสินพระทัยที่จะสร้างพระบรมราชานุเสาวรีย์ของพระเจ้าคาเมฮาเมฮาที่ 1 แห่งฮาวาย พระมหากษัตริย์พระองค์แรกของราชอาณาจักร โดยพระบรมราชานุเสาวรีย์แรกเริ่มนั้นจมลงไปพร้อมกับเรือที่บรรทุกมาบริเวณหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ ดังนั้นพระองค์จึงมีพระราชโองการสร้างทดแทนในปี ค.ศ. 1883 ในปี ค.ศ. 1912 ได้มีการส่งพระบรมราชานุเสาวรีย์เดิมที่จมลงไปและซ่อมแซมแล้วสู่ฮาวาย ในปี ค.ศ. 1969 ได้มีการสั่งสร้างพระบรมราชานุเสาวรีย์เพิ่มเติม ซึ่งพระบรมราชานุเสาวรีย์เหล่านี้กลายเป็นสิ่งที่ระลึกถึงเอกราชของฮาวาย
พระเจ้าคาลาคาอัวได้มีแนวความคิดในการสร้างจักรวรรดิโพลินีเซีย ในปี ค.ศ. 1886 รัฐสภาได้ผ่านงบประมาณ 30,000 ดอลลาร์ (787,000 ดอลลาร์ในปัจจุบัน) สำหรับการสถาปนาสหพันธรัฐโพลินีเซีย พระเจ้าคาลาคาอัวได้ส่งผู้แทนไปซามัวเพื่อเข้าเฝ้ามาลีเอตัว เลาเปปา ซึ่งมาลีเอตัวได้ตกลงที่จะร่วมสหพันธรัฐ อย่างไรก็ตามสหพันธรัฐนี้ต้องสิ้นสภาพลงไป เนื่องจากพระองค์สูญเสียพระราชอำนาจจากการผ่านและพรรครีฟอร์มขึ้นมามีอำนาจในรัฐบาล ซึ่งรัฐธรรมนูญบาโยเนต์เกิดจากกลุ่มมิชชันารีได้วิพากษ์วิจารณ์พระองค์เกี่ยวกับหนื้สินของราชอาณาจักรและความสุรุ่ยสุร่ายของพระองค์ ในช่วงเวลานั้นมีชาวต่าวชาติกลุ่มหนึ่งต้องการบีบบังคับให้พระองค์สละราชสมบัติและสถาปนาเจ้าฟ้าหญิงลีลีโอกาลานีขึ้นครองราชสมบัติ ในขณะที่บางกลุ่มต้องการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์และเปิดทางให้สหรัฐอเมริกาเข้ามาผนวกเข้าเป็นดินแดนของสหรัฐ กลุ่มบุคคลที่ต้องการให้สหรัฐอเมริกาผนวกดินแดนได้ก่อตั้ง สันนิบาตฮาวาย โดยสมาชิกของกลุ่มนี้ได้นำกำลังพร้อมอาวุธบังคับพระเจ้าคาลาคาอัวให้ลงพระนามในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยธรรมนูญบาโยเนต์นี้เป็นรัฐธรรมนูญที่ลดพระราชอำนาจส่วนใหญ่ของพระมหากษัตริย์และริดรอนสิทธิในการออกเสียงเลือกตั้งของชนพื้นเมืองชาวฮาวาย ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับนี้ทำให้ 75 % ของชาวฮาวายไม่สามารถลงคะแนนเลือกตั้งได้ ด้วยเกิดจากข้อกำหนดของรัฐธรรมนูญทางด้านเพศ การรู้หนังสือ ทรัพย์สินและอายุ อย่างไรก็ตามได้มีความพยายามก่อการเพื่อฟื้นฟูพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ภายใต้การนำของแต่ล้มเหลว
สวรรคต
ในปี ค.ศ. 1890 พระพลานามัยของพระองค์เริ่มแย่ลง พระองค์จึงเดินทางไปรักษาที่ซานฟรานซิสโกตามคำแนะนำของแพทย์ และเสด็จสวรรคตที่นั่นเมื่อวันที่ 20 มกราคม 1891 พระราชดำรัสสุดท้ายของพระองค์คือ "Aue, he kanaka au, eia i loko o ke kukonukonu o ka maʻi!," หรือ "ฉันเป็นคนที่ป่วยหนัก" คำคมที่มีชื่อเสียงของพระองค์ "บอกประชาชนของฉันว่าฉันพยายามแล้ว" เป็นคำที่คิดค้นขึ้นโดยยูจัน เบิร์นในงานเขียนเกี่ยวกับพระราชประวัติของพระเจ้าคาลาคาอัวของเขาเมื่อปี ค.ศ. 1952 The last king of Paradise พระราชดำรัสของพระองค์ก่อนสิ้นพระชนม์ได้รับการบันทึกไว้ใน phonograph cylinder ซึ่งปัจจุบันเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์บิชอป
พระบรมศพของพระองค์ได้ส่งกลับมาฮาวายโดยเรือของสหรัฐอเมริกา ด้วยเหตุที่พระองค์ไม่มีพระราชโอรสและพระราชธิดา ส่งผลให้ เจ้าฟ้าหญิงลีลีโอกาลานี พระขนิษฐาของพระองค์ได้ขึ้นครองราชย์ต่อจากพระองค์
ตราประจำพระองค์
พระราชพงศาวลี
16. | ||||||||||||||||
8. | ||||||||||||||||
17. คามาคาเอเฮอิคูลี | ||||||||||||||||
4. | ||||||||||||||||
18. | ||||||||||||||||
9. | ||||||||||||||||
19. คาโอลานิอาลิอิ | ||||||||||||||||
2. | ||||||||||||||||
20. คาลิโลอาโมกู | ||||||||||||||||
10. คาเนปาวาเล | ||||||||||||||||
21. คาฮูนา | ||||||||||||||||
5. | ||||||||||||||||
22. อาฮูนูลาคาโลเว | ||||||||||||||||
11. อูอาอูอา | ||||||||||||||||
23. คาลิโออาโมคู | ||||||||||||||||
1. พระเจ้าคาลาคาอัวแห่งฮาวาย | ||||||||||||||||
24. | ||||||||||||||||
12. | ||||||||||||||||
25. คามาคาเอเฮอิคูลี | ||||||||||||||||
6. | ||||||||||||||||
26. | ||||||||||||||||
13. | ||||||||||||||||
27. | ||||||||||||||||
3. | ||||||||||||||||
28. คาโออิโออา | ||||||||||||||||
14. มาลาเออากินี่ | ||||||||||||||||
29. เคโคฮิโมกู | ||||||||||||||||
7. คามาเอโอคาลานี่ | ||||||||||||||||
30. คาโอ | ||||||||||||||||
15. คาอูฮิโนคาคา | ||||||||||||||||
31. อาวิลี | ||||||||||||||||
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. ๒๔๒๔ – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 3 ตริตาภรณ์มงกุฎไทย (ต.ม.)
อ้างอิง
- Christopher Buyers. "Kauai Genealogy". Royal Ark web site. สืบค้นเมื่อ March 1, 2010.
- Niklaus Rudolf Schweizer (2005). Turning tide: the ebb and flow of Hawaiian nationality. Peter Lang. p. 249. ISBN .
- Kingdom of Hawaii (1875). Treaties and conventions concluded between the Hawaiian Kingdom and other powers, since 1825. Pacific Commercial Advertiser Print. p. vii.
- Darlene E. Kelley (January 1, 2001). "Kalakaua Part 2". Keepers of the Culture: A study in time of the Hawaiian Islands As told by the ancients. สืบค้นเมื่อ January 28, 2010.
- (1866). Reports of a portion of the decisions rendered by the Supreme Court of the Hawaiian Islands in law, equity, admiralty, and probate. Govt. Press. pp. 82–86.
- (1843). History of the Sandwich Islands. Lahainaluna: Press of the Mission Seminary. p. 330.
- Ka Momi 2010-06-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Huapala.org. Retrieved on 2011-07-28.
- "KING KALAKAUA". Kalakaua Middle School. 10 December 2013.
- William N. Armstrong (May 1995). "About the Author: William N. Armstrong (Hardcover edition)". Editorial Reviews (Mass Market Paperback ed.). Amazon.com. ISBN .
- Armstrong, William N. and (May 1995). Around the World With a King. Mutual Pub Co. ISBN .
{{}}
: CS1 maint: uses authors parameter () - Thompson, David (February 2013). "Kalakaua's Famous Last Words?". Honolulu Magazine. PacificBasin Communications.
- Bishop Museum Tries To Revive Past King's Voice 2012-03-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Kitv.com (2009-11-24). Retrieved on 2011-07-28.
- พระราชทานเครื่องราชอิสริยยศ (หน้า ๕๔๒)
แหล่งข้อมูลอื่น
- Ukulele Hall Of Fame Museum – David Kalakaua
- The Honolulu Advertiser Kalakaua 2021-02-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Royal Four Kalakaua
- Kalakaua Middle School
ก่อนหน้า | พระเจ้าคาลาคาอัวแห่งฮาวาย | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระเจ้าลูนาลิโลแห่งฮาวาย | พระมหากษัตริย์ฮาวาย (12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1874 - 20 มกราคม ค.ศ. 1891) | สมเด็จพระราชินีนาถลีลีโอกาลานีแห่งฮาวาย |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phraecakhalakhaxwaehnghaway haway Kalakaua hrux smedcphrarachathibdiedwid laxaemxa khamanakhapuxu mahinulani nailxaexhuoxkalani lumixalani khalakhaxw haway David Laʻ amea Kamanakapuʻ u Mahinulani Nalaiaehuokalani Lumialani Kalakaua epnphramhakstriyphraxngkhthi 7 aehngrachxanackrhaway txcakphraecalunaliolaehnghaway phraxngkhepnphramhakstriyphraxngkhaerkinrachwngskhalakhaxwaelathuxidwaphraxngkhepnsmedcphrarachathibdiphraxngkhsudthaykhxnghaway enuxngcakrchkaltxcakphraxngkhsungepnrchkalsudthaydarngphraxisriyysepnsmedcphrarachininath phraecakhalakhaxwthrngkhrxngrachyrahwangwnthi 12 kumphaphnth 1874 cnthung 20 mkrakhm 1891 odyinrahwangkhrxngrachyphraxngkhthrngidrbchayawa The Merrie Monarchphraecakhalakhaxwaehnghawayedwid laxaemxa khamanakhapuxu mahinulani nailxaexhuoxkalani lumixalani khalakhaxwphramhakstriyaehnghmuekaahawaykhrxngrachy12 kumphaphnth 1874 20 mkrakhm 1891rchsmy17 pirachaphiesk12 kumphaphnth 1883rchkalkxnhnaphraecalunaliolaehnghawayrchkalthdipsmedcphrarachininathlilioxkalaniaehnghawayprasuti16 phvscikayn 1836swrrkht20 mkrakhm ph s 1891 54 phrrsa phraxkhrmehsismedcphrarachinikhapioxlaniaehnghawayrachwngskhalakhaxwphrabrmrachchnkphrabrmrachchnnilayphraxphiithyphrarachprawtiphraecakhalakhaxwemuxthrngphraeyaw rawpikh s 1850 phraecakhalakhaxw esdcphrarachsmphphemuxwnthi 16 phvscikayn 1836 thiemuxngohonlulu rachxanackrhaway thrngepnoxrsinkb miphraxnuchaaelaphrakhnisthphkhnithngsin 7 phraxngkh idaek omess smedcphrarachininathlilioxkalaniaehnghaway khinini aela phranam khalakhaxw khxngphraxngkhmikhwamhmaythungwnaehngsngkhram sungmikhwamekiywenuxngkbwnthishrachxanackraelarachxanackrhawayinrchsmykhxngphraecakhaemhaemhathi 3 aehnghawayidlngnaminsnthisyyasungimepnthrrminwnthiphraxngkhesdcphrarachsmphph thungaemwainrayaaerkphraxngkhidrbkarkahndihepnbutrbuythrrmkhxng phuwarachkaroxxahu aetklbsngphraxngkhihipepnbukhrbuythrrmkhxnghaxaehox khanuxiaelasamikhxngnangkhuxekhxaewxamahi khinamakaaethn haxaehoxmardabuythrrmkhxngphraxngkhesiychiwitinpi kh s 1843 odythaphinykrrmyksmbtithnghmdkhxngnangihaekphraxngkh hlngcakmardabuythrrmkhxngphraxngkhesiychiwit siththiinkareliyngducungtkxyukbbidabuythrrmkhxngphraxngkh sungepnhwhnaradblang txmabidabuythrrmidaetngngankbip hyingchawtahiti sungideliyngduphraxngkhesmuxnbutrkhxngtnexng emuxphraxngkhmiphrachnmayuid 4 phrrsa phraxngkhidklbipxasyxyuthioxxahukbphrabidaaelaphramardathiaethcring phraxngkhidekhasuksatxinorngeriynsahrbchnchnsungkhxnghaway inkhnathikalngsuksaxyunnphraxngkhsamarthtrsidthngphasahawayaelaphasaxngkvsxyangkhlxngaekhlw emuxphraxngkhmiphrachnmayu 16 phrrsa phraxngkherimsuksakdhmay aetdwypharahnathikhxngphraxngkhinrthbalmimakthaihphraxngkhimmioxkassaerckarsuksathangdankdhmay inpi kh s 1863 phraxngkhidrbmxbhmayihduaelnganthangdankariprsniykareluxktngphramhakstriy kh s 1872phraecakhaemhaemhathi 5 aehnghaway phramhakstriyphraxngkhsudthaykhxngrachwngskhaemhaemhaesdcswrrkhtinwnthi 12 thnwakhm kh s 1872 odyimidaetngtngrchthayathinkarkhunkhrxngrachbllngktxcakphraxngkh rththrrmnuyaehngrachxanackrhawayidkahndiwwahakphramhakstriymiidaetngtngphuidepnrchthayath phramhakstriyphraxngkhihmcamacakkareluxktnginrthspha inkareluxktngkhrngnimibukhkhlsmkhrrbeluxktngepnphramhakstriyhawaykhxnkhangmak xyangirktamkareluxktnginkhrngnimiphusmkhrthiepnchnchnsung 2 khnthimikhwamehmaasminkardarngtaaehnng khux wileliym lunaliolkbkhalakhaxw xyangirktamlunaliolidrbkhwamniymmakkwa enuxngcakmisthanathangchnchnthisungkwakhalakhaxw xikthngyngepnlukphiluknxngkhxngphraecakhaemhaemhathi 5 aehnghaway nxkcakniaelwlunaliolmikhwamepnesriniymmakkwakhalakhaxw aelaihsyyaaekprachachninkaraekikhrththrrmnuyephuxihprachachnmisiththimiesiynginkarbriharrachkaraephndinmakkhun hlayfayechuxwalunaliolmikhwamehmaasmthicadarngsthanaepnphramhastriy aetlunaliolimtxbrbhakimidrbkaryinyxmcakprachachn inchwngkhxngkareluxktngni khalakhaxwidaetngkhapraphnthinphasahaway odymikhxkhwamtdtxnepnphasaxngkvsdngni O my people My countrymen of old Arise This is the voice Ho all ye tribes Ho my own ancient people The people who took hold and built up the Kingdom of Kamehameha Arise This is the voice Let me direct you my people Do nothing contrary to the law or against the peace of the Kingdom Do not go and vote Do not be led by the foreigners they had no part in our hardships in gaining the country Do not be led by their false teachings khalakhaxwmikhwamthiepnxnurksniymmakkwalunaliol inrahwangnnchawtangchatimibthbathsakhyinkarkhwbkhumrthbalhaway khalakhaxwihsyyawacaihchawphunemuxngekhamamibthbathinkarbriharrachkaraephndin rwmthungaekikhrththrrmnuy inwnthi 1 mkrakhm kh s 1873 prachachnlngkhaaenneluxklunalioldwykhaaennesiyngswnihy aelainwntxmarthsphaehnchxb lunaliolkhuneswyrachsmbtiepnphramhakstriyaehnghmuekaahawayehtukarninrchsmyesnthangkaredinthangkhxngphraecakhalakhaxw emuxphraecalunaliolaehnghaway esdcswrrkhtxyangkathnhn odnimthrngmirchthayath thaihekidpyhaeruxngphuthicasubrachbllngkrahwangphraxngkhkbsmedcphrarachiniexmma naex ruk aetinthisudphraxngkhkidrbeluxkihepnphramhakstriyphraxngkhtxip pyhakarimmirchthayathsubrachbllngkthiekhyekidkhuninxditthaihsthabnphramhakstriyaelaphrarachwngsimmnkhng phraxngkhcungidaetngtng phraxnuchakhxngphraxngkhihthrngepnrchthayath ephuxsrangkhwammnkhngihsthabnphramhakstriy inrayaaerkkhxngkarkhrxngrachykhxngphraecakhalakhaxw phraxngkhidesdcphrarachdaenineyuxnekaatang khxngrachxanackrhaway sunginthaythisudchwysrangkhwamniymkhxngphraxngkh ineduxnthnwakhm kh s 1874 phraxngkhsngphuaethnthangkarthutipshrthxemrika ephuxecrcasnthisyyathicachwyknldkhwamtungekhriydlnginhaway ineduxnphvscikayn phraecakhalakhaxwesdcphrarachdaenineyuxnwxchingtn di si ephuxekhaphbprathanathibdiyulissis exs aekrnth sungnaipsukarlngnaminsnthisyyaemuxwnthi 30 mkrakhm kh s 1875 odyenuxhainsnthisyyacaxnuyatihhawaysamarthsngnatalaelakhawekhashrthxemrikaidodyimmiphasi inchwngaerkkhxngrchsmy phraxngkhidichxanacsungsudethathiphraxngkhmiinkaraetngtngaelathxdthxnkhnarthmntribxykhrng odyphraecakhalakhaxwechuxwachnchnsungmisiththixnchxbthrrminkarpkkhrxng karkrathaechnnikhxngphraxngkhidrbkarwiphakswicarncakklummichchnnarisungtxngkarehnkarptirupkarpkkhrxngkhxnghaway odyichphunthanrachathipityphayitrththrrmnuykhxngshrachxanackrsungldphrarachxanackhxngphramhakstriy klumkhnamichchnnariklumniyngechuxwaphuthicakhwbkhumkhnarthbalkhwrepnrthsphaimichphramhakstriy karthxdthxnaelaaetngtngkhnarthmntriiddaeninkartxiptlxdrchsmykhxngphraxngkh inpi kh s 1881 phraxngkhkidesdceyuxnpraethstang ephuxnaaenwthangmaphthnahaway phthnakhwamsmphnthrahwangpraethsaelaeriynruwithikarpkkhrxngkhxngaetlapraeths emuxphraecakhalakhaxwidesdcxxkcakhaway phraxngkhidmxbhmayihecafahyinglilioxkalaniepnphusaercrachkaraethnphraxngkh aethnecachayelelxioxohkuthi 2 thisinphrachnminpi kh s 1877 phraxngkherimkaresdceyuxntangpraethskhxngphraxngkhthisanfransisoksungphraxngkhidrbkartxnrbthidi caknnphraxngkhesdcphrarachdaenineyuxnckrwrrdiyipunaelaekhaphbckrphrrdiemci hlngcaknnphraxngkhidesdceyuxnckrwrrdiching syaminrchsmykhxngphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw phma britichrach xiyipt xitali ebleyiym ckrwrrdieyxrmn ckrwrrdixxsetriy hngkari satharnrthfrngessthi 3 sepn oprtueks shrachxanackrbrietnihyaelaixraelnd aelaedinthangiptxthishrthxemrikaephuxcaedinthangklbhaway inkaredinthangkhrngnithaihphraxngkhmioxkasphbphunapraethshlayphraxngkhaelakhn echn smedcphraecaxumaebrotthi 1 aehngxitali xuprachaehngxiyipt ckrphrrdiwilehlmthi 1 aehngeyxrmni phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw echsetxr ex xaethxr prathanathibdishrthxemrikaaelasmedcphrarachininathwiktxeriy karedinthanginkhrngnisngphlihphraxngkhepnphramhakstriyphraxngkhaerkthiedinthangrxbolkwileliym xarmstrxngidekhiynbnthukkaredinthanginkhrngniiwinhnngsux Around the World With a King phrabrmrachanuesawriyphraecakhaemhaemhathi 1 mharach phraecakhalakhaxwidsrangphrarachwngxioxlani sungepnphrarachwngephiyngaehngediywthimixyuinshrthxemrikapccubn odyichngbpramanthngsin 300 000 dxllar singkhxngtbaetnginphrarachwngmacakkarsngsuxkhxngphraecakhalakhaxwrahwangedinthanginthwipyuorp nxkcakniphraecakhalakhaxwidtdsinphrathythicasrangphrabrmrachanuesawriykhxngphraecakhaemhaemhathi 1 aehnghaway phramhakstriyphraxngkhaerkkhxngrachxanackr odyphrabrmrachanuesawriyaerkerimnncmlngipphrxmkberuxthibrrthukmabriewnhmuekaafxlkaelnd dngnnphraxngkhcungmiphrarachoxngkarsrangthdaethninpi kh s 1883 inpi kh s 1912 idmikarsngphrabrmrachanuesawriyedimthicmlngipaelasxmaesmaelwsuhaway inpi kh s 1969 idmikarsngsrangphrabrmrachanuesawriyephimetim sungphrabrmrachanuesawriyehlaniklayepnsingthiralukthungexkrachkhxnghaway phraecakhalakhaxwidmiaenwkhwamkhidinkarsrangckrwrrdiophliniesiy inpi kh s 1886 rthsphaidphanngbpraman 30 000 dxllar 787 000 dxllarinpccubn sahrbkarsthapnashphnthrthophliniesiy phraecakhalakhaxwidsngphuaethnipsamwephuxekhaefamaliextw elaeppa sungmaliextwidtklngthicarwmshphnthrth xyangirktamshphnthrthnitxngsinsphaphlngip enuxngcakphraxngkhsuyesiyphrarachxanaccakkarphanaelaphrrkhrifxrmkhunmamixanacinrthbal sungrththrrmnuybaoyentekidcakklummichchnariidwiphakswicarnphraxngkhekiywkbhnusinkhxngrachxanackraelakhwamsuruysuraykhxngphraxngkh inchwngewlannmichawtawchatiklumhnungtxngkarbibbngkhbihphraxngkhslarachsmbtiaelasthapnaecafahyinglilioxkalanikhunkhrxngrachsmbti inkhnathibangklumtxngkarlmlangsthabnphramhakstriyaelaepidthangihshrthxemrikaekhamaphnwkekhaepndinaednkhxngshrth klumbukhkhlthitxngkarihshrthxemrikaphnwkdinaednidkxtng snnibathaway odysmachikkhxngklumniidnakalngphrxmxawuthbngkhbphraecakhalakhaxwihlngphranaminrththrrmnuychbbihm odythrrmnuybaoyentniepnrththrrmnuythildphrarachxanacswnihykhxngphramhakstriyaelaridrxnsiththiinkarxxkesiyngeluxktngkhxngchnphunemuxngchawhaway sungrththrrmnuychbbnithaih 75 khxngchawhawayimsamarthlngkhaaenneluxktngid dwyekidcakkhxkahndkhxngrththrrmnuythangdanephs karruhnngsux thrphysinaelaxayu xyangirktamidmikhwamphyayamkxkarephuxfunfuphrarachxanackhxngphramhakstriyphayitkarnakhxngaetlmehlwswrrkhtinpi kh s 1890 phraphlanamykhxngphraxngkherimaeylng phraxngkhcungedinthangiprksathisanfransisoktamkhaaenanakhxngaephthy aelaesdcswrrkhtthinnemuxwnthi 20 mkrakhm 1891 phrarachdarssudthaykhxngphraxngkhkhux Aue he kanaka au eia i loko o ke kukonukonu o ka maʻi hrux chnepnkhnthipwyhnk khakhmthimichuxesiyngkhxngphraxngkh bxkprachachnkhxngchnwachnphyayamaelw epnkhathikhidkhnkhunodyyucn ebirninnganekhiynekiywkbphrarachprawtikhxngphraecakhalakhaxwkhxngekhaemuxpi kh s 1952 The last king of Paradise phrarachdarskhxngphraxngkhkxnsinphrachnmidrbkarbnthukiwin phonograph cylinder sungpccubnekbrksaiwinphiphithphnthbichxp phrabrmsphkhxngphraxngkhidsngklbmahawayodyeruxkhxngshrthxemrika dwyehtuthiphraxngkhimmiphrarachoxrsaelaphrarachthida sngphlih ecafahyinglilioxkalani phrakhnisthakhxngphraxngkhidkhunkhrxngrachytxcakphraxngkhtrapracaphraxngkhtraaephndinrachxanackrhaway phraprmaphiithyyxkhxngphraecakhalakhaxw phraprmaphiithyyxkhxngphraecakhalakhaxwphrarachphngsawli 16 8 17 khamakhaexehxikhuli 4 18 9 19 khaoxlanixalixi 2 20 khaliolxaomku 10 khaenpawael 21 khahuna 5 22 xahunulakhaolew 11 xuxaxuxa 23 khalioxxaomkhu 1 phraecakhalakhaxwaehnghaway 24 12 25 khamakhaexehxikhuli 6 26 13 27 3 28 khaoxxioxxa 14 malaexxakini 29 ekhokhhiomku 7 khamaexoxkhalani 30 khaox 15 khaxuhionkhakha 31 xawili ekhruxngrachxisriyaphrnph s 2424 ekhruxngrachxisriyaphrnxnmiekiyrtiysyingmngkudithy chnthi 3 tritaphrnmngkudithy t m xangxingChristopher Buyers Kauai Genealogy Royal Ark web site subkhnemux March 1 2010 Niklaus Rudolf Schweizer 2005 Turning tide the ebb and flow of Hawaiian nationality Peter Lang p 249 ISBN 0 8204 7030 9 Kingdom of Hawaii 1875 Treaties and conventions concluded between the Hawaiian Kingdom and other powers since 1825 Pacific Commercial Advertiser Print p vii Darlene E Kelley January 1 2001 Kalakaua Part 2 Keepers of the Culture A study in time of the Hawaiian Islands As told by the ancients subkhnemux January 28 2010 1866 Reports of a portion of the decisions rendered by the Supreme Court of the Hawaiian Islands in law equity admiralty and probate Govt Press pp 82 86 1843 History of the Sandwich Islands Lahainaluna Press of the Mission Seminary p 330 Ka Momi 2010 06 20 thi ewyaebkaemchchin Huapala org Retrieved on 2011 07 28 KING KALAKAUA Kalakaua Middle School 10 December 2013 William N Armstrong May 1995 About the Author William N Armstrong Hardcover edition Editorial Reviews Mass Market Paperback ed Amazon com ISBN 1 56647 017 X Armstrong William N and May 1995 Around the World With a King Mutual Pub Co ISBN 1 56647 017 X a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a CS1 maint uses authors parameter Thompson David February 2013 Kalakaua s Famous Last Words Honolulu Magazine PacificBasin Communications Bishop Museum Tries To Revive Past King s Voice 2012 03 08 thi ewyaebkaemchchin Kitv com 2009 11 24 Retrieved on 2011 07 28 phrarachthanekhruxngrachxisriyys hna 542 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb phraecakhalakhaxwaehnghaway Ukulele Hall Of Fame Museum David Kalakaua The Honolulu Advertiser Kalakaua 2021 02 01 thi ewyaebkaemchchin Royal Four Kalakaua Kalakaua Middle Schoolkxnhna phraecakhalakhaxwaehnghaway thdipphraecalunaliolaehnghaway phramhakstriyhaway 12 kumphaphnth kh s 1874 20 mkrakhm kh s 1891 smedcphrarachininathlilioxkalaniaehnghaway