พระวรสารนักบุญบารนาบัส (อังกฤษ: Gospel of Barnabas) เป็นพระวรสารนอกสารบบที่เขียนขึ้นในสมัยกลางตอนปลายและอ้างว่าอุทิศแด่บารนาบัส สาวกชาวคริสต์ยุคแรกที่เป็นหนึ่งในอัครสาวกของพระเยซู (ตามที่ระบุในนี้) มีความยาวประมาณเกือบเท่ากับพระวรสารทั้ง 4 และผสมผสานเรื่องราวต่าง ๆ ในพระวรสารที่เป็นที่ยอมรับด้วย เช่น พระวรสารนี้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตพระเยซูโดยละเอียด โดยเริ่มต้นด้วยการประสูติของพระเยซู ตั้งแต่แม่พระรับสารที่เป็นเรื่องราวของทูตสวรรค์เกเบรียลกับพระแม่มารีย์ ซึ่งเกิดขึ้นก่อน จากนั้นจึงเล่าเรื่อง แล้วสิ้นสุดที่พระมหาบัญชาที่จะเผยแผ่คำสอนของพระองค์ทั่วโลก ยูดาส อิสคาริโอทถูกนำมาแทนที่พระเยซูตอนตรึงกางเขน
พระวรสารนี้มีเอกสารตัวเขียนหลงเหลือรอดเพียง 2 ฉบับ (ในภาษาอิตาลีและสเปน) ทั้งสองฉบับมีอายุในสมัยกลาง
ต้นกำเนิดของพระวรสารยังคงเป็นข้อพิพาท มีหลายทฤษฎีที่เป็นการคาดเดา และโดยทั่วไปไม่ได้รับการยอมรับ พระวรสารนักบุญบารนาบัสมีอายุตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 15 ซึ่งช้าเกินไปที่บารนาบัสเป็นผู้เขียน (ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 1) คำสอนหลายอย่างสอดคล้องกับอัลกุรอานและขัดแย้งกับคัมภีร์ไบเบิล โดยเฉพาะภาคพันธสัญญาใหม่ อย่างไรก็ตาม มีเนื้อหาบางส่วนที่ขัดแย้งกับอัลกุรอานด้วย
เนื้อหา
การวิเคราะห์
สิ่งที่เกิดผิดสมัยและข้อผิดพลาดตามข้อเท็จจริง
พระวรสารนักบุญบารนาบัสมีสิ่งที่เกิดผิดสมัย และข้อผิดพลาดทางภูมิศาสตร์และข้อเท็จจริงอื่น ๆ: 27, 43 Raggs รายงานว่า สิ่งนี้พิสูจน์ว่าพระวรสารนี้มีต้นกำเนิดในสมัยกลาง: 433 และผู้เขียนไม่รู้เกี่ยวกับปาเลสไตน์ในคริสต์ศตวรรษที่ 1: 24
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
เนื้อหาต่อต้านเปาโล
การวิเคราะห์เชิงวิชาการระบุว่าพระวรสารนักบุญบารนาบัสมีเนื้อหาที่ต่อต้านศาสนศาสตร์ของเปาโล ส่วนใหญ่แสดงให้เห็นชัดเจนในอารัมภบทและปัจฉิมบทที่กล่างถึงเปาโลว่าสอนคำสอนของพระเยซูในทางที่ผิด และเป็นการ "หลอกลวง" โดยคิดว่าพระเยซูทรงเป็นพระเจ้า (หรือ): 12, 20–21 Fouad Masri นักเขียนและมิชชันนารีชาวเลบานอน เขียนถึงพระวรสารนี้ใน Connecting with Muslims: A Guide to Communicating Effectively (2014) ว่า ผิดสมัย (anachronistic) โดยในกิจการของอัครทูตระบุว่าบารนาบัสเป็นสหายที่ดีที่สุดของเปาโล ไม่ใช่ศัตรู: 165–166 ส่วนใน อาร์. แบล็กเฮิร์สต์เขียนว่า บันทึกความข้ดแย้งระหว่างเปาโลกับบารนาบัสในจดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวกาลาเทียอาจเป็นสาเหตุว่าทำให้ผู้เขียนพระวรสารถึงอุทิศให้แก่บารนาบัส
ความสอดคล้องกับอัลกุรอาน
การตรึงกางเขนพระเยซู
ในพระวรสารนักบุญบารนาบัส พระเยซูไม่ได้ถูกตรึงกางเขน แต่แทนที่ด้วยยูดาส อิสคาริโอท (ผู้ที่ใบหน้าถูกทำให้คล้ายกับพระองค์) ส่วนพระเยซูนั้น พระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้ยกขึ้นสวรรค์: 2 : xxvii ข้อความนี้สอดคล้องกับการตีความซูเราะฮ์ 157–158 ตามสายหลักที่ยืนยันว่าพระเยซูไม่ได้ถูกตรึงกางเขน แต่กลับเป็นคนมีรูปร่างหน้าตาเหมือนพระองค์ต่างหาก:
และการที่พวกเขากล่าวว่า "แท้จริงพวกเราได้ฆ่า อัล-มะซีหฺ อีซา บุตรของมัรฺยัม รอซูลของอัลลอฮฺ" และพวกเขาหาได้ฆ่าอีซา และหาได้ตรึงเขาบนไม้กางเขนไม่ แต่ทว่าเขาถูกให้เหมือนแก้พวกเขา และแท้จริงบรรดาผู้ที่ขัดแย้งในตัวเขานั้น แน่นอนย่อมอยู่ในความสงสัยเกี่ยวกับเขา พวกเขาหามีความรู้ใดๆ ต่อเขาไม่ นอกจากคล้อยตามความนึกคิดเท่านั้น และพวกเขามิได้ฆ่าเขาด้วยความแน่ใจ หามิได้ อัลลอฮฺได้ทรงยกเขา (อีซา) ขึ้นไปยังพระองค์ต่างหาก และอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงเดชานุภาพ ผู้ทรงปรีชาญาณเสมอ: 2, 42
ในรายงานการตรึงกางเขน คาดว่าพระวรสารนี้ได้รับอิทธิพล (หรือรับมา) จาก: แนวคิดที่กล่าวถึงรูปมนุษย์ของพระเยซูเป็นเพียงภาพลวงตา: 98 : xlvii David Sox เขียนไว้ว่า ภาพลักษณ์ของยูดาส อิสคาริโอทในพระวรสารนักบุญบารนาบัสมีความเห็นอกเห็นใจมากกว่าในพระวรสารที่เป็นที่ยอมรับ ซึ่งตัวเขาถูกคัดให้เป็นผู้ทรยศที่ชั่วร้าย ตามธรรมเนียมชาวคริสต์ ชื่อของเขามีความหมายเดียวกันกับผู้ที่หลอกลวงภายใต้หน้ากากมิตรภาพ: 94–95 ส่วน Raggs ระบุว่า เนื่องจากไม่มีการให้ชื่อและอธิบายข้อกล่าวหาว่ามีการแทนที่อัลกุรอานได้ ผู้เขียนพระวรสารจึงพยายามที่จะเติมเต็มช่องว่างนี้: xxvii
คำทำนายมุฮัมมัด
ตามข้อมูลจากซูเราะฮ์ 6 มุสลิมเชื่อว่าพระเยซูเป็นผู้ดำรงตำแหน่งก่อนหน้ามุฮัมมัด และทำนายการมาของมุฮัมมัด:
และจงรำลึก เมื่ออีซา อิบนฺ มัรยัม ได้กล่าวว่า โอ้วงศ์วานอิสรออีลเอ๋ย แท้จริงฉันเป็นรอซูลของอัลลอฮฺมายังพวกท่านเป็นผู้ยืนยันสิ่งที่มีอยู่ในเตารอต ก่อนหน้าฉัน และเป็นผู้แจ้งข่าวดีถึงรอซูลคนหนึ่ง ผู้จะมาภายหลังฉัน ชื่อของเขาคือ อะหมัด ครั้นเมื่อเขา (อะหมัด) ได้มายังพวกเขาพร้อมด้วยหลักฐานอันชัดแจ้งแล้ว พวกเขากล่าวว่านี่คือมายากลแท้ ๆ: 2
คำว่าอะห์มัด (ภาษาอาหรับแปลว่า "ผู้ได้รับการสรรเสริญ") ในศาสนาอิสลามสื่อถึงมุฮัมมัด: 157 พระวรสารนักบุญบารนาบัสมีคำสอนที่อุทิศแด่พระเยซูหลายบทที่มุสลิมเชื่อว่าทำนายการมาของมุฮัมมัด: 2 พระวรสารระบุพระเยซูในบทบาทของยอห์นผู้ให้บัพติศมาในพระวรสารในสารบบ: 90 อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ขัดแย้งกับอัลกุรอานที่ระบุว่าพระเยซูเป็นพระเมสสิยาห์ที่สัญญาไว้
ไม่อิงตรีเอกานุภาพ
ตามรายงานในหลักข้อเชื่อไนซีน แนวคิดตรีเอกานุภาพคือพระเจ้ามีเพียงองค์เดียวและปรากฏเป็น 3 พระบุคคล (พระบิดา, และพระวิญญาณบริสุทธิ์) โดยพระเยซูคือพระบุตร ศาสนาอิสลามปฏิเสธหลักการนี้ โดยเชื่อในแนวคิดเตาฮีด (ความเป็นเอกะ) และถือตรีเอกานุภาพเป็นชิรก์ ซึ่งเทียบพระเจ้าให้เท่ากับสิ่งถูกสร้าง: 46, 135–136 มุสลิมเชื่อว่าพระเยซูเป็นมนุษย์เหมือนกับนบีคนอื่น ๆ และไม่เคยอ้างตนเองเป็นพระเจ้า: 223 พระวรสารนักบุญบารนาบัสมีข้อความที่ระบุว่าพระเยซูปฏิเสธว่าเป็นพระบุตรของพระเจ้า: 7 พระวรสารนี้ระบุว่าพระเยซูดูเหมือนถูกตรึงกางเขนเพื่อเป็นการลงโทษผู้ที่อ้างความเป็นพระเจ้าของพระองค์ และภายหลังได้มีการส่งมุฮัมมัดมาเพื่อเปิดโปงการฝ่าฝืนของคริสเตียนที่นมัสการพระเยซู
มุมมอง
คริสต์
ชาวคริสต์ไม่ยอมรับพระวรสารนักบุญบารนาบัส โดยถือว่าพระวรสารนี้ต่ำกว่าพระวรสารในสารบบและเป็นการปลอมแปลง: 307 เรียกพระวรสารนี้เป็น "ในเนื้อหาของชาวคริสต์ ยิว และมุสลิม" J. N. J. Kritzinger เขียนใน Religion in Southern Africa ว่าพระวรสารนี้เป็นอุปสรรคต่อระหว่างชาวคริสต์–มุสลิม และทั้งสองฝ่ายไม่ควรใช้สิ่งนี้ทำให้ศาสนาหนึ่งเสียชื่อเสียง
อิสลาม
ยอมรับ
พระวรสารนักบุญบารนาบัสเป็นพระวรสารที่ขายดีที่สุดในโลกมุสลิม: 295 และเป็นที่นิยมในศาสนาอิสลาม: 1 บางคนระบุพระวรสารนี้เป็นอินญีล หนึ่งใน 4 ที่พระผู้เป็นเจ้าประทานมา สำหรับคำตอบรับพระวรสารในเชิงบวกโดยทั่วไปในโลกมุสลิมนั้น นักบูรพคดีชาวสกอต กล่าวว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่มุสลิมที่ถูกชักชวนให้เชื่อโดยไม่มีข้อสงสัย บางคนไม่ทราบความเห็นพ้องต้องกันของนักวิชาการว่าเป็นของปลอม: 117–118 นักวิชาการชาวเยอรมัน รายงานว่า ทัศนคติเชิงบวกของมุสลิมเกี่ยวกับพระวรสารนั้นอิงตามการกล่าวอ้างว่าเขียนโดยผู้เห็นเหตุการณ์ และการไม่เห็นด้วยกับหลักคำสอนของคริสเตียนกระแสหลัก
ปฏิเสธ
พระวรสารนักบุญบารนาบัสถูกปฏิเสธจากนักวิชาการมุสลิม: 298 ที่ปฏิเสธทั้งเพียงบางส่วน: 101 หรือทั้งหมด นักวิชาการชาวอเมริกัน กล่าวว่า ความแตกต่างมากมายระหว่างพระวรสารกับอัลกุรอานทำให้พระวรสารมีความสำคัญลดลง ในวารสาร Islamic World League ฉบับเดือนมกราคม ค.ศ. 1977 Yahya al-Hashimi นักเขียนชาวซีเรีย กล่าวถึงพระวรสารนี้ว่าเป็นการโต้เถียงของชาวยิวที่สร้างความเกลียดชังระหว่างชาวคริสต์กับมุสลิม: 115 นักวิจารณ์วรรณกรรมชาวอียิปต์ อ้างเหตุผลในการปฏิเสธพระวรสารนี้บางประการ เช่น การใช้วลีและคำสอนที่ขัดแย้งกับอัลกุรอาน: 34
หมายเหตุ
- ไม่มีข้อมูลใดที่กล่าวถึงคุณลักษณะของอินญีล ในขณะที่นักวิชาการมุสลิมโดยทั่วไปถือว่าอินญีลสื่อถึงพระวรสารทั้งสี่เล่ม: 1–2 บางส่วนคิดว่าอินญีลควรเป็นพระวรสารเล่มเดียวที่พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่พระเยซู โดยไม่มีฝีมือมนุษย์ปรากฏในนั้น และยังคงมีเศษส่วนในพระวรสารที่เป็นที่ยอมรับเหล่านี้: 215–216 นักวิชาการมุสลิมหลายคนมีส่วนในการเชื่อมโยงอินญีลเข้ากับพระวรสารนักบุญบารนาบัส เช่น
อ้างอิง
- Geneviève Gobillot, Évangiles, in M. A. Amir-Moezzi, Dictionnaire du Coran, ed. Robert Laffont, 2007, p. 291.
- Joosten, Jan (2010). "The Date and Provenance of the "Gospel of Barnabas"". The Journal of Theological Studies. 61 (1): 200–215. doi:10.1093/jts/flq010. ISSN 0022-5185. JSTOR 43665026.
- Slomp, Jan. "The 'Gospel of Barnabas' in recent research". . สืบค้นเมื่อ 22 May 2022. . จากแหล่งเดิมเมื่อ 7 April 2022
- Campbell, William F. (1989). Gospel of Barnabas: Its True Value. Christian Study Centre. ISBN .
- อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อRaggs
- Sox, David (1984). The Gospel of Barnabas. . ISBN .
- Blackhirst, R. (Spring 2000). "Barnabas and the Gospels: Was There an Early Gospel of Barnabas?". . 7 (1): 1–22. ISSN 1075-7139. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-02-20. สืบค้นเมื่อ 2022-06-03.
- Masri, Fouad (2014). Connecting with Muslims: A Guide to Communicating Effectively. InterVarsity Press. ISBN .
- O'Brien, Jack (2020). The Qur'an and the Cross—A Study of Al-Nisa (4):157: 'and They Did Not Kill Him and Did Not Crucify Him, But It Was Made to Appear So to Them'. . ISBN .
- ; Saleeb, Abdul (1993). Answering Islam: The Crescent in Light of the Cross. . ISBN .
- Zahniser, A. H. Mathias (2017). The Mission and Death of Jesus in Islam and Christianity. . ISBN .
- lookup%5d%5d.HTM "CCC, 2.1". Vatican.va. สืบค้นเมื่อ 232–267.
{{}}
: ตรวจสอบค่า|url=
((help)); ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|access-date=
((help)) - (2009). "Using the Death of Jesus to Refute Islam" (PDF). Journal of the International Society of Christian Apologetics. 2 (1): 87–110. ISSN 2572-9322. (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-10-30. สืบค้นเมื่อ 2022-05-30.
- . "The 'Gospel of Barnabas' – Has the True Gospel of Jesus Been Found?". IslamInstitut.de. จากแหล่งเดิมเมื่อ 4 March 2016. สืบค้นเมื่อ 27 May 2022.
- (April 2010). "The Date and Provenance of the 'Gospel of Barnabas'". . 61 (1): 200–215. doi:10.1093/jts/flq010. JSTOR 43665026.
- Kritzinger, J. N. J. (January 1980). "A Critical Study of the Gospel of Barnabas". Religion in South Africa. 1 (1): 49–65. JSTOR 24763798.
- Hewer, Chris (May 2008). "Theological Issues in Christian–Muslim Dialogue". . 89 (1021): 311–323. doi:10.1111/j.1741-2005.2008.00223.x. JSTOR 43251232.
- (1991). Muslim–Christian Encounters: Perceptions and Misperceptions. . ISBN .
- Reed, Annette Yoshiko (22 May 2014). "'Muslim Gospel' Revealing the 'Christian Truth' Excites The Da Vinci Code Set". . จากแหล่งเดิมเมื่อ 31 October 2020. สืบค้นเมื่อ 27 May 2022.
- (2016). "The Gospel of Barnabas: A Muslim Forgery?". Islamic Writings: The Student Journal of the Islamic College. 6 (1): 49–65. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-05-23. สืบค้นเมื่อ 2022-05-23.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phrawrsarnkbuybarnabs xngkvs Gospel of Barnabas epnphrawrsarnxksarbbthiekhiynkhuninsmyklangtxnplayaelaxangwaxuthisaedbarnabs sawkchawkhristyukhaerkthiepnhnunginxkhrsawkkhxngphraeysu tamthirabuinni mikhwamyawpramanekuxbethakbphrawrsarthng 4 aelaphsmphsaneruxngrawtang inphrawrsarthiepnthiyxmrbdwy echn phrawrsarninaesnxeruxngrawekiywkbchiwitphraeysuodylaexiyd odyerimtndwykarprasutikhxngphraeysu tngaetaemphrarbsarthiepneruxngrawkhxngthutswrrkhekebriylkbphraaemmariy sungekidkhunkxn caknncungelaeruxng aelwsinsudthiphramhabychathicaephyaephkhasxnkhxngphraxngkhthwolk yudas xiskharioxththuknamaaethnthiphraeysutxntrungkangekhnsaenaexksartwekhiynphasaxitali 2 hna phrawrsarnimiexksartwekhiynhlngehluxrxdephiyng 2 chbb inphasaxitaliaelasepn thngsxngchbbmixayuinsmyklang tnkaenidkhxngphrawrsaryngkhngepnkhxphiphath mihlaythvsdithiepnkarkhadeda aelaodythwipimidrbkaryxmrb phrawrsarnkbuybarnabsmixayutngaetkhriststwrrsthi 13 thungkhriststwrrsthi 15 sungchaekinipthibarnabsepnphuekhiyn chwngkhriststwrrsthi 1 khasxnhlayxyangsxdkhlxngkbxlkurxanaelakhdaeyngkbkhmphiribebil odyechphaaphakhphnthsyyaihm xyangirktam mienuxhabangswnthikhdaeyngkbxlkurxandwyenuxhakarwiekhraahsingthiekidphidsmyaelakhxphidphladtamkhxethccring aephnthi phrawrsarnkbuybarnabsmisingthiekidphidsmy aelakhxphidphladthangphumisastraelakhxethccringxun 27 43 Raggs raynganwa singniphisucnwaphrawrsarnimitnkaenidinsmyklang 433 aelaphuekhiynimruekiywkbpaelsitninkhriststwrrsthi 1 24 swnnirxephimetimkhxmul khunsamarthchwyephimkhxmulswnniidenuxhatxtanepaol karwiekhraahechingwichakarrabuwaphrawrsarnkbuybarnabsmienuxhathitxtansasnsastrkhxngepaol swnihyaesdngihehnchdecninxarmphbthaelapcchimbththiklangthungepaolwasxnkhasxnkhxngphraeysuinthangthiphid aelaepnkar hlxklwng odykhidwaphraeysuthrngepnphraeca hrux 12 20 21 Fouad Masri nkekhiynaelamichchnnarichawelbanxn ekhiynthungphrawrsarniin Connecting with Muslims A Guide to Communicating Effectively 2014 wa phidsmy anachronistic odyinkickarkhxngxkhrthutrabuwabarnabsepnshaythidithisudkhxngepaol imichstru 165 166 swnin xar aeblkehirstekhiynwa bnthukkhwamkhdaeyngrahwangepaolkbbarnabsincdhmaykhxngnkbuyepaolthungchawkalaethiyxacepnsaehtuwathaihphuekhiynphrawrsarthungxuthisihaekbarnabs khwamsxdkhlxngkbxlkurxan kartrungkangekhnphraeysu inphrawrsarnkbuybarnabs phraeysuimidthuktrungkangekhn aetaethnthidwyyudas xiskharioxth phuthiibhnathukthaihkhlaykbphraxngkh swnphraeysunn phraphuepnecaepnphuykkhunswrrkh 2 xxvii khxkhwamnisxdkhlxngkbkartikhwamsueraah 157 158 tamsayhlkthiyunynwaphraeysuimidthuktrungkangekhn aetklbepnkhnmirupranghnataehmuxnphraxngkhtanghak aelakarthiphwkekhaklawwa aethcringphwkeraidkha xl masih xisa butrkhxngmr ym rxsulkhxngxllxh aelaphwkekhahaidkhaxisa aelahaidtrungekhabnimkangekhnim aetthwaekhathukihehmuxnaekphwkekha aelaaethcringbrrdaphuthikhdaeyngintwekhann aennxnyxmxyuinkhwamsngsyekiywkbekha phwkekhahamikhwamruid txekhaim nxkcakkhlxytamkhwamnukkhidethann aelaphwkekhamiidkhaekhadwykhwamaenic hamiid xllxh idthrngykekha xisa khunipyngphraxngkhtanghak aelaxllxh epnphuthrngedchanuphaph phuthrngprichayanesmx 2 42 inrayngankartrungkangekhn khadwaphrawrsarniidrbxiththiphl hruxrbma cak aenwkhidthiklawthungrupmnusykhxngphraeysuepnephiyngphaphlwngta 98 xlvii David Sox ekhiyniwwa phaphlksnkhxngyudas xiskharioxthinphrawrsarnkbuybarnabsmikhwamehnxkehnicmakkwainphrawrsarthiepnthiyxmrb sungtwekhathukkhdihepnphuthrysthichwray tamthrrmeniymchawkhrist chuxkhxngekhamikhwamhmayediywknkbphuthihlxklwngphayithnakakmitrphaph 94 95 swn Raggs rabuwa enuxngcakimmikarihchuxaelaxthibaykhxklawhawamikaraethnthixlkurxanid phuekhiynphrawrsarcungphyayamthicaetimetmchxngwangni xxvii khathanaymuhmmd tamkhxmulcaksueraah 6 muslimechuxwaphraeysuepnphudarngtaaehnngkxnhnamuhmmd aelathanaykarmakhxngmuhmmd aelacngraluk emuxxisa xibn mrym idklawwa oxwngswanxisrxxilexy aethcringchnepnrxsulkhxngxllxh mayngphwkthanepnphuyunynsingthimixyuinetarxt kxnhnachn aelaepnphuaecngkhawdithungrxsulkhnhnung phucamaphayhlngchn chuxkhxngekhakhux xahmd khrnemuxekha xahmd idmayngphwkekhaphrxmdwyhlkthanxnchdaecngaelw phwkekhaklawwanikhuxmayaklaeth 2 khawaxahmd phasaxahrbaeplwa phuidrbkarsrresriy insasnaxislamsuxthungmuhmmd 157 phrawrsarnkbuybarnabsmikhasxnthixuthisaedphraeysuhlaybththimuslimechuxwathanaykarmakhxngmuhmmd 2 phrawrsarrabuphraeysuinbthbathkhxngyxhnphuihbphtismainphrawrsarinsarbb 90 xyangirktam singnikhdaeyngkbxlkurxanthirabuwaphraeysuepnphraemssiyahthisyyaiw imxingtriexkanuphaph tamraynganinhlkkhxechuxinsin aenwkhidtriexkanuphaphkhuxphraecamiephiyngxngkhediywaelapraktepn 3 phrabukhkhl phrabida aelaphrawiyyanbrisuththi odyphraeysukhuxphrabutr sasnaxislamptiesthhlkkarni odyechuxinaenwkhidetahid khwamepnexka aelathuxtriexkanuphaphepnchirk sungethiybphraecaihethakbsingthuksrang 46 135 136 muslimechuxwaphraeysuepnmnusyehmuxnkbnbikhnxun aelaimekhyxangtnexngepnphraeca 223 phrawrsarnkbuybarnabsmikhxkhwamthirabuwaphraeysuptiesthwaepnphrabutrkhxngphraeca 7 phrawrsarnirabuwaphraeysuduehmuxnthuktrungkangekhnephuxepnkarlngothsphuthixangkhwamepnphraecakhxngphraxngkh aelaphayhlngidmikarsngmuhmmdmaephuxepidopngkarfafunkhxngkhrisetiynthinmskarphraeysumummxngkhrist chawkhristimyxmrbphrawrsarnkbuybarnabs odythuxwaphrawrsarnitakwaphrawrsarinsarbbaelaepnkarplxmaeplng 307 eriykphrawrsarniepn inenuxhakhxngchawkhrist yiw aelamuslim J N J Kritzinger ekhiynin Religion in Southern Africa waphrawrsarniepnxupsrrkhtxrahwangchawkhrist muslim aelathngsxngfayimkhwrichsingnithaihsasnahnungesiychuxesiyng xislam yxmrb phrawrsarnkbuybarnabsepnphrawrsarthikhaydithisudinolkmuslim 295 aelaepnthiniyminsasnaxislam 1 bangkhnrabuphrawrsarniepnxinyil hnungin 4 thiphraphuepnecaprathanma sahrbkhatxbrbphrawrsarinechingbwkodythwipinolkmuslimnn nkburphkhdichawskxt klawwaimicheruxngaeplkthimuslimthithukchkchwnihechuxodyimmikhxsngsy bangkhnimthrabkhwamehnphxngtxngknkhxngnkwichakarwaepnkhxngplxm 117 118 nkwichakarchaweyxrmn raynganwa thsnkhtiechingbwkkhxngmuslimekiywkbphrawrsarnnxingtamkarklawxangwaekhiynodyphuehnehtukarn aelakarimehndwykbhlkkhasxnkhxngkhrisetiynkraaeshlk ptiesth phrawrsarnkbuybarnabsthukptiesthcaknkwichakarmuslim 298 thiptiesththngephiyngbangswn 101 hruxthnghmd nkwichakarchawxemrikn klawwa khwamaetktangmakmayrahwangphrawrsarkbxlkurxanthaihphrawrsarmikhwamsakhyldlng inwarsar Islamic World League chbbeduxnmkrakhm kh s 1977 Yahya al Hashimi nkekhiynchawsieriy klawthungphrawrsarniwaepnkarotethiyngkhxngchawyiwthisrangkhwamekliydchngrahwangchawkhristkbmuslim 115 nkwicarnwrrnkrrmchawxiyipt xangehtuphlinkarptiesthphrawrsarnibangprakar echn karichwliaelakhasxnthikhdaeyngkbxlkurxan 34 hmayehtuimmikhxmulidthiklawthungkhunlksnakhxngxinyil inkhnathinkwichakarmuslimodythwipthuxwaxinyilsuxthungphrawrsarthngsielm 1 2 bangswnkhidwaxinyilkhwrepnphrawrsarelmediywthiphraphuepnecaprathanaekphraeysu odyimmifimuxmnusypraktinnn aelayngkhngmiessswninphrawrsarthiepnthiyxmrbehlani 215 216 nkwichakarmuslimhlaykhnmiswninkarechuxmoyngxinyilekhakbphrawrsarnkbuybarnabs echnxangxingGenevieve Gobillot Evangiles in M A Amir Moezzi Dictionnaire du Coran ed Robert Laffont 2007 p 291 Joosten Jan 2010 The Date and Provenance of the Gospel of Barnabas The Journal of Theological Studies 61 1 200 215 doi 10 1093 jts flq010 ISSN 0022 5185 JSTOR 43665026 Slomp Jan The Gospel of Barnabas in recent research de cakaehlngedimemux 7 April 2022 subkhnemux 22 May 2022 Campbell William F 1989 Gospel of Barnabas Its True Value Christian Study Centre ISBN 1 881085 02 3 xangxingphidphlad payrabu lt ref gt imthuktxng immikarkahndkhxkhwamsahrbxangxingchux Raggs Sox David 1984 The Gospel of Barnabas ISBN 0 04 200044 0 Blackhirst R Spring 2000 Barnabas and the Gospels Was There an Early Gospel of Barnabas 7 1 1 22 ISSN 1075 7139 cakaehlngedimemux 2020 02 20 subkhnemux 2022 06 03 Masri Fouad 2014 Connecting with Muslims A Guide to Communicating Effectively InterVarsity Press ISBN 978 08 30895 90 8 O Brien Jack 2020 The Qur an and the Cross A Study of Al Nisa 4 157 and They Did Not Kill Him and Did Not Crucify Him But It Was Made to Appear So to Them ISBN 978 36 43910 82 0 Saleeb Abdul 1993 Answering Islam The Crescent in Light of the Cross ISBN 0 8010 3859 6 Zahniser A H Mathias 2017 The Mission and Death of Jesus in Islam and Christianity ISBN 978 17 25256 26 2 lookup 5d 5d HTM CCC 2 1 Vatican va subkhnemux 232 267 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkha url help trwcsxbkhawnthiin access date help 2009 Using the Death of Jesus to Refute Islam PDF Journal of the International Society of Christian Apologetics 2 1 87 110 ISSN 2572 9322 PDF cakaehlngedimemux 2015 10 30 subkhnemux 2022 05 30 The Gospel of Barnabas Has the True Gospel of Jesus Been Found IslamInstitut de cakaehlngedimemux 4 March 2016 subkhnemux 27 May 2022 April 2010 The Date and Provenance of the Gospel of Barnabas 61 1 200 215 doi 10 1093 jts flq010 JSTOR 43665026 Kritzinger J N J January 1980 A Critical Study of the Gospel of Barnabas Religion in South Africa 1 1 49 65 JSTOR 24763798 Hewer Chris May 2008 Theological Issues in Christian Muslim Dialogue 89 1021 311 323 doi 10 1111 j 1741 2005 2008 00223 x JSTOR 43251232 1991 Muslim Christian Encounters Perceptions and Misperceptions ISBN 0 415 05410 9 Reed Annette Yoshiko 22 May 2014 Muslim Gospel Revealing the Christian Truth Excites The Da Vinci Code Set cakaehlngedimemux 31 October 2020 subkhnemux 27 May 2022 2016 The Gospel of Barnabas A Muslim Forgery Islamic Writings The Student Journal of the Islamic College 6 1 49 65 cakaehlngedimemux 2022 05 23 subkhnemux 2022 05 23 wikisxrs mingantnchbbekiywkb phrawrsarnkbuybarnabs bthkhwamsasnaniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldk