เจดีย์ชเวดากอง (พม่า: ရွှေတိဂုံစေတီတော်, ออกเสียง: [ʃwèdəɡòʊ̯ɰ̃ zèdìdɔ̀] ชเวดะโกนเซดีดอ ; มอญ: ကျာ်ဒဂုၚ်) ตั้งอยู่บนเนินเขาสิงคุตตระ เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า โดยคำว่า ชเว (ရွှေ) หมายถึง ทอง, ดะโกน (ဒဂုံ แผลงเป็น တိဂုံ, ภาษามอญเรียกชื่อว่า ตะเกิง) คือชื่อดั้งเดิมของเมืองย่างกุ้ง เชื่อกันว่าเป็นมหาเจดีย์ที่บรรจุพระเกศาธาตุของพระโคตมพุทธเจ้าจำนวน 8 เส้น ยอดสุดขององค์เจดีย์บริเวณลูกแก้วหรือหยาดน้ำค้างประดับด้วยเครื่องประดับต่าง ๆ และเพชร 5,448 เม็ด ชั้นบนสุดมีทับทิม 2,317 เม็ดและเพชรเม็ดใหญ่ 76 กะรัต เพื่อรับลำแสงแรกและลำแสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์ ผู้ที่เข้ามานมัสการหรือเยี่ยมชมจะต้องถอดรองเท้าทุกครั้ง
เจดีย์ชเวดากอง | |
---|---|
ရွှေတိဂုံစေတီတော် | |
ศาสนา | |
ศาสนา | พุทธ |
นิกาย | เถรวาท |
เทศกาล | เทศกาลเฉลิมฉลองเจดีย์ชเวดากอง |
หน่วยงานกำกับดูแล | คณะกรรมาธิการผู้ดูแลเจดีย์ชเวดากอง |
สถานะ | เปิด |
ที่ตั้ง | |
ที่ตั้ง | ย่างกุ้ง ภาคย่างกุ้ง พม่า |
ที่ตั้งในประเทศพม่า | |
พิกัดภูมิศาสตร์ | 16°47′54″N 96°08′59″E / 16.798354°N 96.149705°E |
สถาปัตยกรรม | |
เสร็จสมบูรณ์ | ประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 6 |
ลักษณะจำเพาะ | |
ความสูงสูงสุด | 99 เมตร (325 ฟุต) |
ความสูงยอดแหลม | 112 เมตร (367 ฟุต) |
เว็บไซต์ | |
www |
ประวัติ
ตามตำนาน เจดีย์ชเวดากองนั้นสร้างเมื่อ 2,500 ปีที่แล้ว แต่นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีเชื่อกันว่าสร้างระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 6–10 โดยชาวมอญ ตามตำนานนั้นกล่าวว่ามีพี่น้องพ่อค้า 2 คนคือ ตปุสสะและภัลลิกะ จากตอนเหนือของเนินเขาสิงคุตตระ ได้ไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า พระองค์จึงประทานพระเกศาให้พ่อค้าทั้งสองมา 8 เส้น พ่อค้าทั้งสองกลับมายังพม่าและได้ความช่วยเหลือจากผู้ปกครองท้องถิ่น พระราชาโอะกะลาปะ ในการประดิษฐานพระเกศาธาตุบริเวณเนินเขาสิงคุตตระ
องค์เจดีย์ได้ถูกทิ้งร้างทรุดโทรมจนมาถึงคริสต์ศตวรรษที่ 14 พระยาอู่ (ค.ศ. 1323–1384) ได้ทรงบูรณะเจดีย์ให้มีความสูง 18 เมตร (59 ฟุต) ศตวรรษต่อมาพระนางเชงสอบู (ค.ศ. 1453–1472) ได้ทรงบูรณะเจดีย์ให้มีความสูงถึง 40 เมตร (131 ฟุต) ได้ทำการปรับเปลี่ยนเนินซึ่งเป็นที่ตั้งขององค์เจดีย์ให้เป็นฐานเจดีย์ลาดเป็นชั้น ๆ แบบขั้นบันได และปูพื้นด้านบนของฐานด้วยแผ่นหิน พระนางรับสั่งให้มีการบำรุงรักษาองค์เจดีย์ต่อไปแก่พระเจ้าธรรมเจดีย์ ซึ่งครองราชสมบัติต่อหลังพระนางสละราชสมบัติ ในช่วงบั้นปลายพระชนม์ชีพพระนางประชวรและมีพระบัญชาให้วางแท่นบรรทมในจุดที่พระองค์สามารถมองเห็นเจดีย์ได้ทุกเวลา มีการจารึกภาษามอญบันทึกการบูรณะปฏิสังขรณ์องค์เจดีย์ที่เริ่มต้นในปี ค.ศ. 1436 จนบูรณะเสร็จสิ้นในรัชสมัยพระเจ้าธรรมเจดีย์เมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 16 ต่อมาเจดีย์ชเวดากองได้กลายเป็นสถานที่แสวงบุญของพุทธศาสนิกชนที่มีชื่อเสียงที่สุดในพม่า
แผ่นดินไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ เรื่อยมาทำให้เจดีย์ได้รับความเสียหาย และเมื่อปี ค.ศ. 1768 ได้เกิดแผ่นดินไหวอย่างหนัก ทำให้ยอดของเจดีย์หักถล่มลงมา แต่ได้มีการบูรณะให้สูงขึ้นถึง 99 เมตร (325 ฟุต) ฉัตรองค์ใหม่สำหรับประดับยอดเจดีย์ได้รับการถวายจากพระเจ้ามินดง เมื่อปี ค.ศ. 1871 หลังการผนวกดินแดนพม่าตอนล่างโดยอังกฤษ แผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงปานกลางในเดือนตุลาคม ปี ค.ศ. 1970 ทำให้เพลาฉัตรบนยอดองค์เจดีย์ได้รับความเสียหาย มีการสร้างโครงและซ่อมแซมครั้งใหญ่
เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ – 7 มีนาคม ค.ศ. 2012 มีเทศกาลเฉลิมฉลองประจำปีของเจดีย์ชเวดากองเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1988 หลังถูกห้ามโดยสภาสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐ ที่ปกครองประเทศในขณะนั้น เทศกาลเจดีย์ชเวดากองเป็นเทศกาลเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เริ่มต้นตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ เดือนดะบ้อง ไปจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ ตามปฏิทินพม่า
รูปแบบ
ฐานเจดีย์เป็นแบบสี่เหลี่ยมยกเก็จสามชั้น ด้านบนฐานมีเพียงพระภิกษุและผู้ชายเท่านั้นที่สามารถขึ้นได้ ถัดมาเป็นชั้นฐานแปดเหลี่ยมยกเก็จ ต่อมาเป็นชั้นฐานเขียงกลม ถัดไปด้านบนคือส่วนองค์ระฆัง, รัดอกคาดองค์ระฆัง, บัวคอเสื้อลายเฟื่องอุบะ, ปล้องไฉน, ปัทมบาท, ปลียาว, ฉัตร, ธงใบพัด และลูกแก้วหรือหยาดน้ำค้าง ประกอบด้วยเพชร 5,448 เม็ดและทับทิม 2,317 เม็ด บนสุดเป็นเพชรปลายแหลมหนัก 76 กะรัต
แผ่นทองที่ใช้ปิดโครงสร้างอิฐถูกยึดด้วยหมุดแบบดั้งเดิม ประชาชนทั่วประเทศได้บริจาคเงินทองเพื่อบูรณะเจดีย์ การปฏิบัติยังคงมีมาจนถึงทุกวันนี้หลังจากพระนางเชงสอบู ได้บริจาคทองคำเท่าน้ำหนักของพระองค์ในการบูรณะเจดีย์
มีบันไดทางขึ้นไปยังลานเนินเขาสิงคุตตระสี่ทาง ในแต่ละทางขึ้นมีรูปปั้นคล้ายสิงห์ที่เรียกว่าชีนเต่ ประดับไว้เป็นคู่หน้าทางขึ้นเพื่อปกปักรักษาองค์เจดีย์ตามความเชื่อ ทางทิศตะวันออกและทางใต้มีร้านขายธูปเทียน ทองคำเปลว หนังสือ และวัตถุมงคลต่าง ๆ
ผู้ที่เข้ามานมัสการหรือเยี่ยมชมมักนิยมเดินตามเข็มนาฬิกาวนรอบเจดีย์ เริ่มต้นที่ศาลทางทิศตะวันออกซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปพระกกุสันธพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าพระองค์แรกในภัทรกัปนี้ ถัดไปเป็นศาลทางทิศใต้ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปพระโกนาคมนพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าองค์ที่สองในภัทรกัปนี้ ถัดไปศาลทางทิศตะวันตกเป็นศาลของพระกัสสปพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าองค์ที่สามในภัทรกัปนี้ สุดท้ายศาลทางทิศเหนือเป็นศาลของพระโคตมพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน
พิธีกรรม
ประชาชนชาวพม่าส่วนใหญ่นับถือพุทธศาสนานิกายเถรวาท แต่บางส่วนก็ยังมีความเชื่อในทางโหราศาสตร์ เช่นโหราศาสตร์พม่าที่เกี่ยวข้องกับดวงดาว 7 ดวงได้แก่ ดวงอาทิตย์, ดวงจันทร์, ดาวอังคาร, ดาวพุธ, ดาวพฤหัสบดี, ดาวศุกร์และดาวเสาร์ นอกจากนี้ยังตระหนักถึงดาวอีกสองดวงคือราหูและเกตุ ความเชื่อเรื่องดวงดาวล้วนได้รับอิทธิพลมาจากโหราศาสตร์ฮินดู แต่ดาวราหูและเกตุของโหราศาสตร์พม่าต่างจากดาวราหูและเกตุของฮินดู โดยโหราศาสตร์พม่าพิจารณาให้เป็นดวงดาวที่แตกต่างและแยกกัน ในขณะที่โหราศาสตร์ฮินดูพิจารณาว่าเป็นหัวและหางของนาคหรือเป็นจุดขึ้นและลง ส่วนในโหราศาสตร์พม่าดาวเกตุเป็นราชาของดวงดาวทั้งมวล เช่นเดียวกับภาษาอื่น ๆ อีกมากมายชาวพม่าตั้งชื่อวันทั้งเจ็ดในสัปดาห์ตามดวงดาวทั้งเจ็ดดวง แต่โหราศาสตร์ของพม่ามีการแบ่งสัปดาห์เป็นแปดวันโดยแบ่งวันพุธเป็นสองวัน คือ เที่ยงคืนจนถึง 18:00 น. เป็นวันพุธ แต่หลังเวลา 18.00 น. จนถึงเวลาเที่ยงคืนเป็นวันของราหู
เป็นสิ่งสำคัญสำหรับชาวพม่าที่จะต้องรู้ว่าวันเกิดของตนได้รับอิทธิพลจากดาวเคราะห์ดวงใด นองจากนี้ยังมีการกำหนดสัญลักษณ์ของรูปสัตว์ต่าง ๆ แทนในแต่ละวัน เช่น ครุฑสำหรับวันอาทิตย์, เสือสำหรับวันจันทร์, สิงโตสำหรับวันอังคาร, ช้างมีงาสำหรับวันพุธครึ่งวันแรก, ช้างไม่มีงาสำหรับวันพุธครึ่งวันหลัง, หนูสำหรับวันพฤหัสบดี, หนูตะเภาสำหรับวันศุกร์และนาคสำหรับวันเสาร์ สัญลักษณ์ของวันต่าง ๆ กระจายไปรอบองค์เจดีย์แต่ละจุดจะมีพระพุทธรูปประดิษฐานไว้ ผู้ศรัทธามักนำดอกไม้ ธงต่าง ๆ ไปบูชาและทรงน้ำพระพร้อมคำอธิษฐานและความปรารถนา ด้านหลังองค์พระเป็นรูปปั้นของเทวดาผู้พิทักษ์และด้านล่างจะเป็นสัตว์ที่เป็นตัวแทนในแต่ละวัน ชาวพุทธมักนิยมเดินสำรวจเวียนรอบฐานเจดีย์ตามเข็มนาฬิกา
ผู้แสวงบุญและผู้ศรัทธามักซื้อดอกไม้ธูปเทียนธงสีและธงริ้วต่าง ๆ ตามทางขึ้นมานมัสการและไว้รอบเจดีย์ มีกล่องบริจาคอยู่ในสถานที่ต่าง ๆ รอบองค์เจดีย์ เพื่อมอบให้โดยสมัครใจซึ่งอาจมอบให้เจดีย์เพื่อวัตถุประสงค์ทั่วไป สิ่งเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์ของการให้ทานอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในคำสอนของศาสนาพุทธ ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2560 ชาวต่างชาติจะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมแรกเข้า 10,000 จัต (ประมาณ 7 ดอลลาร์สหรัฐ)
เจดีย์ชเวดากองในวรรณกรรม
รัดยาร์ด คิปลิง ได้บรรยายในปี ค.ศ. 1889 ถึงการเยี่ยมชมเจดีย์ชเวดากอง อีกสิบปีต่อมาได้ลงพิมพ์ในหนังสือ
“ | ขณะนั้นสีทองลึกลับปรากฎขึ้นที่ขอบฟ้า อัศจรรย์สวยงามเมื่อต้องแสงอาทิตย์ มีรูปทรงที่ไม่ใช่โดมมุสลิมหรือยอดแหลมวิหารฮินดู ตั้งอยู่บนเนินเขาสีเขียวและด้านล่างเป็นแนวภัณฑาคาร เพิงไม้และโรงไม้ ภายใต้พระเจ้าองค์ใหม่หรือ ที่ทำให้ข้าพเจ้าคิดว่าพวกเราชาวอังกฤษยังต้องมานั่งที่นี่ ? | ” |
“ | นั้นคือชเวดากองเก่า สหายร่วมเดินทางของฉันกล่าว 'ช่างเถอะ!' แต่นั่นไม่ใช่ที่คิดสาบานตรงนี้ มันอธิบายเป็นอย่างแรกว่าทำไมพวกเรายึดย่างกุ้ง และเหตุที่สองพวกเราผลักดันให้เห็นถึงดินแดนที่มั่งคั่งและหาได้ยาก จนตอนนั้นที่ฉันไม่ได้ศึกษามามองไม่เห็นว่าดินแดนนี้มีลักษณะต่างจากสุนทรวัน แต่เจดีย์สีทองบอกว่านี่คือพม่า และนั่นต่างจากดินแดนที่คุณเคยรู้จัก สหายร่วมเดินทางของฉันกล่าวว่า นั้นเป็นศาสนสถานโบราณที่มีชื่อเสียง และตอนนี้เส้นทาง ตองอู–มัณฑะเลย์ มีการเปิด คณะผู้จาริกแสวงบุญนับพันได้เดินทางลงมาชม ยอดทองขนาดใหญ่บนสุดที่พวกเขาเรียกว่า ที่ (ထီး) สูญหายไปจากแผ่นดินไหว นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงถูกปิดด้วยงานไม้ไผ่อยู่สามส่วนของความสูง คุณจะเห็นเมื่อทั้งหมดถูกเปิดออก พวกเขากำลังปิดทองอยู่ในตอนนี้ | ” |
สงครามและการบุกรุก
ในปี ค.ศ. 1608 ฟีลีปึ ดึ บรีตู อี นีโกตึ นักผจญภัยชาวโปรตุเกส หรือที่รู้จักในนามของ งะซีนกา เมื่ออยู่ในพม่า ได้เข้าปล้นชิงสมบัติของเจดีย์ชเวดากอง และได้เอาขนาด 300 ตัน ซึ่งถวายโดยพระเจ้าธรรมเจดีย์เมื่อปี ค.ศ. 1485 เจตนาของฟีลีปือคือการหลอมระฆังเพื่อสร้างปืนใหญ่ แต่ระฆังได้ตกลงไปในแม่น้ำพะโคขณะกำลังขนย้าย จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้รับการกู้คืน
สองศตวรรษต่อมาจักรวรรดิบริติชเริ่มเข้าครอบครองพื้นที่เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ค.ศ. 1824 ช่วงสงครามอังกฤษ–พม่าครั้งที่หนึ่ง ทันทีที่ยึดครองเจดีย์ชเวดากองได้พวกเขาได้ใช้เป็นป้อมปราการจนสละทิ้งในอีกสองปีต่อมา มีการปล้นสะดมการทำลายทรัพย์สิน และข้ออ้างของเจ้าหน้าที่คนหนึ่งในการขุดอุโมงค์เข้าไปในส่วนลึกของเจดีย์ คือการหาว่าสามารถใช้เป็นที่เก็บดินปืนได้หรือไม่ ระฆังมหาฆัณฏา ระฆังสัมฤทธิ์หนัก 23 ตัน สร้างในปี ค.ศ. 1779 โดยได้รับการสนับสนุนจากพระเจ้าจิงกูจาและเป็นที่รู้จักในชื่อระฆังพระเจ้าจิงกูจา ถูกขนย้ายลงเรือปรารถนาที่จะส่งไปยังโกลกาตา และได้พบเหตุการณ์เช่นเดียวกับระฆังพระเจ้าธรรมเจดีย์คือตกลงไปในแม่น้ำ เมื่อชาวอังกฤษล้มเหลวในความพยายามที่จะกู้ระฆังขึ้นมา จึงมีประชาชนเสนอที่จะกู้ระฆังโดยมีเงื่อนไขว่าถ้ากู้ขึ้นมาได้ให้ถวายคืนไปยังเจดีย์ ชาวอังกฤษคิดว่ามันเป็นเรื่องไร้ประโยชน์จึงตอบตกลง ต่อมานักดำน้ำได้นำเสาไม้ไผ่หลายร้อยต้นผูกเข้ากับระฆังด้านล่างและปล่อยให้ลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ ระฆังใบนี้มักมีคนสับสนกับระฆังพระเจ้าแสรกแมง ขนาด 42 ตัน ซึ่งได้รับการถวายในปี ค.ศ. 1841 โดยพระเจ้าแสรกแมงพร้อมกับชุบทองคำ 20 กก. ระฆังขนาดใหญ่นี้แขวนอยู่ในศาลามุมตะวันออกเฉียงเหนือของเจดีย์ ส่วนระฆังพระเจ้าจิงกูจาแขวนในศาลาตะวันตกเฉียงเหนือของเจดีย์
ในสงครามอังกฤษ–พม่าครั้งที่สอง จักรวรรดิบริติชเข้ายึดครองเจดีย์ในเดือนเมษายนปี ค.ศ. 1852 แต่คราวนี้เจดีย์อยู่ภายใต้การควบคุมทางทหารเป็นเวลานานถึง 77 ปีจนถึงปี ค.ศ. 1929 อย่างไรก็ตามประชาชนสามารถเข้าไปสักการะองค์เจดีย์ได้
ระหว่างการยึดครองเจดีย์และเป็นป้อมปราการของบริติช หม่อง ทอ เล ซึ่งเป็นชาวมอญเชื้อสายพม่า ประสบความสำเร็จในการป้องกันการปล้นทรัพย์สมบัติจากกองทัพบริติช ท้ายที่สุดเขาก็สามารถบูรณะเจดีย์ให้มีชื่อเสียงดังเดิมได้ ทั้งยังได้รับเงินสนับสนุนจากผู้ปกครองชาวอังกฤษ บทความบางส่วนได้ถูกบันทึกลงในหนังสือ “A Twentieth Century Burmese Matriarch” (ปูชนียบุคคลของพม่าในคริสต์ศตวรรษที่ 20) ซึ่งเขียนโดยทายาทสายตรงที่สืบเชื้อสายมาจากหลานสาวของเขา คีน ธีดา
“ | หลังจากเกษียณแล้วเขาย้ายกลับไปยังภาคย่างกุ้งซึ่งยังคงอยู่ในมือพม่า ไม่นานนักก่อนที่นั้นจะถูกยึดครอง เขาเคยถูกจับอีกครั้งในช่วงสงคราม แต่เขาโชคดีที่สนับสนุนกิจการทางศาสนาและได้รับบุญอันยิ่งใหญ่ ความสามารถในการเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมของเขา ทำให้เขาได้รับหน้าที่ในการบูรณะเจดีย์ชเวดากองครั้งใหญ่ จากการถูกทำลายและปล้นทรัพย์สมบัติของกองทัพบริติชช่วงสงครามอังกฤษ–พม่าครั้งที่สอง ศาสนสถานที่ยิ่งใหญ่ของพุทธถูกใช้เป็นป้อมปราการโดยกองทัพบริติชช่วงสงครามในปี ค.ศ. 1824 และใช้เป็นป้อมปราการอีกครั้งในปี ค.ศ. 1852 เมื่อเขาได้ยินการเปลี่ยนศาสนสถานเป็นป้อมปราการและปล้นทรัพย์สมบัติ เขาจึงส่งจดหมายอุทธรณ์ทันทีไปยังสำนักงานบริติชอินเดียในลอนดอนให้หยุดทำลายศาสนสถาน เขาได้รับค่าชดเชยจากข้าหลวงพม่าแห่งบริติช มิสเตอร์เพเลย์ (Arthur Purves Phayre) และเริ่มบูรณะเจดีย์ในปี ค.ศ. 1855 พร้อมการสนับสนุนการบริจาคจากประชาชน เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ดูแลเจดีย์ชเวดากอง และได้รับยศ KSM จากบริติชราช สำหรับการบริการสาธารณะของเขา เขาเสียชีวิตเมื่ออายุ 95 ปี มรดกที่เขาทิ้งไว้คือเกียรติประวัติและกิตติศัพท์สูงสุดแก่วงศ์ตระกูลและทายาทรุ่นหลังของเขา | ” |
เวทีการเมือง
ในปี ค.ศ. 1920 นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยของพม่ามาพบกันที่ศาลามุมตะวันตกเฉียงใต้ของเจดีย์ชเวดากอง และวางแผนประท้วงต่อต้านพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยใหม่ ที่พวกเขาเชื่อว่าจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับการปกครองของอาณานิคมมากขึ้น ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ได้รับการขึ้นเป็นอนุสรณ์สถาน ผลที่ตามมาคือการคว่ำบาตรมหาวิทยาลัยและมีการจัดตั้ง "สถาบันการศึกษาแห่งชาติ" ซึ่งมีแหล่งเงินทุนและดำเนินการโดยชาวพม่า วันนี้จึงได้รับการระลึกเป็นวันชาติวันหนึ่งของพม่า ครั้งที่สองนักศึกษามหาวิทยาลัยได้หยุดประท้วงในปี ค.ศ. 1936 โดยรวมตัวกันบริเวณเชิงฐานเจดีย์ชเวดากอง
ในปี ค.ศ. 1938 คนงานเหมืองบ่อน้ำมันได้หยุดงานประท้วง และทยอยเดินทางออกจากเหมืองบ่อน้ำมันเมืองเชาะและเยนานช่องบริเวณตอนกลางของพม่าไปยังย่างกุ้ง เพื่อจัดค่ายประท้วงบริเวณเจดีย์ชเวดากอง การประท้วงครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนและนักศึกษา เป็นที่รู้จักกันในชื่อ 'การปฏิวัติ 1300' เจ้าหน้าที่ตำรวจของบริติชได้สวมรองเท้าบูทบุกเข้าจู่โจมค่ายผู้ประท้วงบริเวณเจดีย์ ขณะที่ชาวพม่าล้วนต้องถอดรองเท้าก่อนขึ้นเจดีย์ทั้งสิ้น
ปัญหาเรื่องการสวมรองเท้าขึ้นไปบนเจดีย์ เป็นเรื่องละเอียดอ่อนของชาวพม่าตั้งแต่สมัยอาณานิคม ชาวพม่าจะถอดรองเท้าเมื่อเข้าไปในศาสนสถานพุทธทุกแห่ง ไฮแรม ค็อกซ ทูตบริติชและเจ้าหน้าที่ศาลพม่า ในปี ค.ศ. 1796 ได้ชมประเพณีพื้นบ้านโดยไม่ได้แวะไปที่เจดีย์เพราะการที่เขาจะต้องถอดรองเท้า อย่างไรก็ตามหลังจากการผนวกพม่าตอนล่าง ผู้มาเยือนชาวยุโรปและทหารที่มายังเจดีย์ได้แสดงออกถึงการไม่เคารพประเพณีท้องถิ่น อู ธรรมโลกา เผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสวมรองเท้าขึ้นไปบนเจดีย์ในปี ค.ศ. 1902 ต่อมาเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจของบริติชออกกฎข้อบังคับเด็ดขาดห้ามสวมรองเท้าเข้าไปในบริเวณเจดีย์ อย่างไรก็ตามพวกเขาได้ยกเว้นเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลให้สวมรองเท้าได้ ระเบียบข้อบังคับและการยกเว้นนี้เป็นจุดเริ่มต้นกระตุ้นให้ประชาชนเริ่มมีบทบาทในขบวนการชาตินิยม ปัจจุบันไม่อนุญาตให้สวมรองเท้าหรือถุงเท้าขึ้นไปบนเจดีย์
ในเดือนมกราคมปี ค.ศ. 1946 นายพลอองซาน ได้จัดการชุมนุมใหญ่ที่บริเวณเจดีย์เพื่อเรียกร้องเอกราชจากอังกฤษ โดยมีการประท้วงและการชุมนุมเป็นวงกว้าง อีกสี่สิบสองปีต่อมาในวันที่ 26 สิงหาคม ค.ศ. 1988 ลูกสาวของเขา อองซาน ซูจี ได้กล่าวกับผู้ชุมนุมกว่า 500,000 คนที่บริเวณเจดีย์ชเวดากองเพื่อเรียกร้องการปกครองระบอบประชาธิปไตยจากการปกครองของทหาร เหตุการณ์นี้เป็นที่รู้กันกันในชื่อ การปฏิวัติ 8888 ซึ่งเป็นการประท้วงระบอบการปกครองครั้งใหญ่ครั้งที่สอง
การปฏิวัติผ้ากาสาวพัสตร์
ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2007 มีการประท้วงทั่วประเทศต่อการปกครองของทหาร เกี่ยวกับการขึ้นราคาสินค้าอุปโภคบริโภคหลายชนิดขึ้นอย่างรวดเร็ว พระสงฆ์ถูกห้ามเข้าเจดีย์เป็นเวลาหลายวันก่อนที่รัฐบาลจะยอมปล่อยให้เข้ามา
เมื่อวันที่ 24 กันยายน ค.ศ. 2007 พระภิกษุและตี่ละฉิ่น กว่า 20,000 รูป (การประท้วงครั้งใหญ่สุดในรอบ 20 ปี) ได้เดินขบวนไปยังเจดีย์ชเวดากองที่เมืองย่างกุ้ง ต่อมาในวันจันทร์มีประชาชนกว่า 30,000 คนและพระสงฆ์ 15,000 รูป เดินขบวนจากเจดีย์ชเวดากองและผ่านสำนักงานพรรคฝ่ายค้านของนางอองซาน ซูจี คือ พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) นักแสดงตลกและนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ซากะนา กับ จอ ตู มีการนำอาหารและน้ำมาถวายแด่พระสงฆ์ ในวันเสาร์มีพระสงฆ์เดินทางไปทักทายนางอองซานซูจีซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมในบ้านพัก ต่อมาวันอาทิตย์มีแม่ชีจำนวน 150 คนเข้าร่วมเดินขบวน เมื่อวันที่ 25 กันยายน ค.ศ. 2007 พระสงฆ์และผู้สนับสนุน 2,000 คนขัดขืนคำขู่ของคณะผู้บริหารประเทศ เดินขบวนในถนนย่างกุ้งไปยังเจดีย์ชเวดากอง ท่ามกลางรถบรรทุกทหารและคำเตือนของ พลจัตวา มยิน มอง ไม่ให้พุทธศาสนิกชนละเมิดกฎระเบียบและข้อบังคับ
วันที่ 26 กันยายน ค.ศ. 2007 มีการปะทะกันระหว่างกองกำลังรักษาความปลอดภัยกับพระสงฆ์และผู้ประท้วงหลายพันคน มีผู้ประท้วงที่เสียชีวิตอย่างน้อย 5 รายจากกองกำลังรักษาความปลอดภัย ตามรายงานเจ้าหน้าที่มีการใช้แก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุมอย่างสันติของพระสงฆ์จำนวนมากรอบ ๆ เจดีย์ชเวดากอง
มีรายงานการประท้วงว่าพระสงฆ์จำนวนอย่างน้อย 50 รูปถูกจับขึ้นไปบนรถบรรทุกของกองทัพ และถูกนำไปยังสถานที่ที่ไม่เปิดเผย นอกจากนี้มีการรายงานว่าทหารใช้ปืนไรเฟิลจู่โจมและปิดศาสนสถานพุทธ มีประกาศให้ฝูงชนสลายตัวอย่างรวดเร็วก่อนจะปราบปรามอย่างรุนแรง มีการขับไล่พระสงฆ์และผู้ประท้วงกว่าร้อยคนและเริ่มปิดล้อมบริเวณเจดีย์
เจ้าหน้าผู้มีอำนาจได้ประกาศสั่งให้ฝูงชนสลายการชุมนุมประท้วง แต่พยานในที่เกิดเหตุกล่าวว่าพระสงฆ์นั่งลงและเริ่มสวดภาวนาต่อสู้กับการห้ามชุมนุมของรัฐบาลทหาร กองกำลังรักษาความปลอดภัยที่เจดีย์ได้โจมตีผู้ชุมนุม มีการทำร้ายพระสงฆ์และผู้สนับสนุนอีกหลายร้อยราย พระสงฆ์ถูกพาขึ้นไปยังรถบรรทุกโดยหน่วยงานท่ามกลางประชนหลายร้อยคนที่เห็นเหตุการณ์ มีรายงานว่าบางส่วนได้เลี่ยงและมุ่งหน้าไปยังเจดีย์ซู่เลแทน ซึ่งเป็นหนึ่งในศาสนสถานพุทธที่ตั้งอยู่ในใจกลางกรุงย่างกุ้ง
การจำลอง
เจดีย์หรือสิ่งก่อสร้างที่มีการระบุชัดเจนว่าสร้างจำลองมาจากเจดีย์ชเวดากอง เช่น
- อุปปาตสันติเจดีย์ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเนปยีดอ เมืองหลวงของประเทศพม่า เป็นเจดีย์ที่จำลองมาจากเจดีย์ชเวดากองสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 2009 โดยมีรูปแบบลักษณะที่คล้ายคลึงกัน แต่มีความสูงน้อยกว่าเจดีย์ชเวดากองเล็กน้อย
- ขนาด 46.8 เมตร (154 ฟุต) ณ ในเมืองเบอรัซตากี จังหวัดสุมาตราเหนือ ประเทศอินโดนีเซีย สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 2010 วัสดุก่อสร้างของเจดีย์นี้ถูกนำเข้ามาจากประเทศพม่า
- เจดีย์วิปัสสนาสากล สูง 29 เมตร (95 ฟุต) เปิดเมื่อ ค.ศ. 2010 ณ เมืองมุมไบ, ประเทศอินเดีย
- เจดีย์ชเวดากองจำลองไทย-พม่า หรือ เจดีย์ชเวดากองคลองแห ขนาด กว้าง 20 เมตร สูง 17 เมตร เป็นเจดีย์องค์แรกที่ชาวพม่าสร้างขึ้นในประเทศไทย เพื่อเป็นศูนย์รวมใจของชาวพม่าที่เข้ามาประกอบอาชีพในประเทศไทย โดยเป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะพม่าและไทย ณ วัดคลองแห อำเภอหาดใหญ่, จังหวัดสงขลา, ประเทศไทย
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- Ministry of Religious Affairs and Culture, Myanmar (2018-12-06). "Shwedagon Pagoda on Singuttara Hill". UNESCO.
- "Paya Shwedagon Yangon -Myanmar". Dhammapiti (ภาษาฝรั่งเศส). 2007-02-11. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-12-23. สืบค้นเมื่อ 2016-08-26.
- "เจดีย์ชเวดากอง : Shwedagon Pagoda". wonder7th.com. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-02-27. สืบค้นเมื่อ 2014-07-14.
- (1934). "The Shwe Dagon Pagoda". Journal of the Burma Research Society: 1–91.
- BURMA, D. G . E. HALL, M.A., D.LIT., F.R.HIST.S.Professor Emeritus of the University of London and formerly Professor of History in the University of Rangoon, Burma.Third edition 1960. Page 35-36
- Gecker, Jocelyn (22 February 2012). "Festival returns to Myanmar's Shwedagon Pagoda". Yahoo! News. Associated Press. สืบค้นเมื่อ 23 February 2012.
- . Mizzima News. 22 February 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 February 2012. สืบค้นเมื่อ 23 February 2012.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-05-28. สืบค้นเมื่อ 2022-03-18.
- Billinge, T (2014). "Shwedagon Paya". The Temple Trail. สืบค้นเมื่อ 2014-12-29.
- Skidmore, Monique. Burma At The Turn Of The Twenty-first Century. University of Hawaii Press, 2005, p. 162.
- Kipling, JR (1914). "II: The River of the Lost Footsteps and the Golden Mystery upon its Banks. Shows how a Man may go to the Shway Dagon Pagoda and see it not and to the Pegu Club and hear too much. A Dissertation on Mixed Drinks". . Vol. I. New York: Doubleday. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-08-09. สืบค้นเมื่อ 2018-08-09.
- Bird, GW (1897). Wanderings in Burma (1st ed.). London: F.J. Bright and Son.
- Oung, Kin Thida (2007). A Twentieth Century Burmese Matriarch. Lulu. p. 200. ISBN .
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-11-14. สืบค้นเมื่อ 2007-09-24.
- "Nuns in Burma anti-junta rallies". BBC News. 23 September 2007. สืบค้นเมื่อ 1 January 2010.
- Matthew Weaver. "Troops sent in as Burmese protesters defy junta". the Guardian.
- Burma riot police beat back monks BBC, 26 September 2007.
- Insect spray to be used for crackdown on protesters Mizzima News, 27 September 2007. 23 กุมภาพันธ์ 2008 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Roughneen, S (2013-11-13). "Naypyidaw's Synthetic Shwedagon Shimmers, but in Solitude". . Chiang Mai, Thailand: Irrawaddy Publishing Group. สืบค้นเมื่อ 2014-12-29.
- (2010-11-01). . Shwedagon's Pagoda Replica Project. Berastagi, Sumatera Utara, Indonesia. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-12-02. สืบค้นเมื่อ 2014-12-29.
- "Global Vipassana Pagoda inaugurated in Mumbai". . 8 February 2009. สืบค้นเมื่อ 9 June 2013.
ดูเพิ่ม
- Martin, Steve (2002). Lonely Planet Myanmar (Burma). Lonely Planet Publications. ISBN .
- Elliot, Mark (2003). South-East Asia: The Graphic Guide. Trailblazer Publications. ISBN .
- Win Pe (1972). Shwedagon. Printing and Publishing Corporation, Rangoon.
- "Dictionary of Buddhism" by Damien Keown (Oxford University Press, 2003) ISBN
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ 2021-02-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- The Legend of Shwedagon by Khin Myo Chit 2007-03-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- My Child-life in Burmah by Olive Jennie Bixby 1880 recollections of a missionary's daughter : inc. detailed description of King Mindon's new hti being erected, pp 111
- Rudyard Kipling's description of Shwedagon Pagoda in 1889
- Elizabeth Moore conference the shwedagon in british burma myanmar 2012-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Lt. J.E. Alexander's account, 1827, p. 153
- Myanmar: Time to say hello YouTube
- "Scene upon the Terrace of the Great Dagon Pagoda" from 1826
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
ecdiychewdakxng phma ရ တ ဂ စ တ တ xxkesiyng ʃwedeɡoʊ ɰ zedidɔ chewdaoknesdidx mxy က ဒဂ ၚ tngxyubneninekhasingkhuttra emuxngyangkung praethsphma odykhawa chew ရ hmaythung thxng daokn ဒဂ aephlngepn တ ဂ phasamxyeriykchuxwa taeking khuxchuxdngedimkhxngemuxngyangkung echuxknwaepnmhaecdiythibrrcuphraeksathatukhxngphraokhtmphuththecacanwn 8 esn yxdsudkhxngxngkhecdiybriewnlukaekwhruxhyadnakhangpradbdwyekhruxngpradbtang aelaephchr 5 448 emd chnbnsudmithbthim 2 317 emdaelaephchremdihy 76 kart ephuxrblaaesngaerkaelalaaesngsudthaykhxngdwngxathity phuthiekhamanmskarhruxeyiymchmcatxngthxdrxngethathukkhrngecdiychewdakxngရ တ ဂ စ တ တ sasnasasnaphuththnikayethrwathethskalethskalechlimchlxngecdiychewdakxnghnwyngankakbduaelkhnakrrmathikarphuduaelecdiychewdakxngsthanaepidthitngthitngyangkung phakhyangkung phmathitnginpraethsphmaphikdphumisastr16 47 54 N 96 08 59 E 16 798354 N 96 149705 E 16 798354 96 149705sthaptykrrmesrcsmburnpramankhriststwrrsthi 6lksnacaephaakhwamsungsungsud99 emtr 325 fut khwamsungyxdaehlm112 emtr 367 fut ewbistwww wbr shwedagonpagoda wbr comprawtiecdiychewdakxng praman kh s 1890 tamtanan ecdiychewdakxngnnsrangemux 2 500 pithiaelw aetnkprawtisastraelankobrankhdiechuxknwasrangrahwangkhriststwrrsthi 6 10 odychawmxy tamtanannnklawwamiphinxngphxkha 2 khnkhux tpussaaelaphllika caktxnehnuxkhxngeninekhasingkhuttra idipekhaefaphraphuththeca phraxngkhcungprathanphraeksaihphxkhathngsxngma 8 esn phxkhathngsxngklbmayngphmaaelaidkhwamchwyehluxcakphupkkhrxngthxngthin phrarachaoxakalapa inkarpradisthanphraeksathatubriewneninekhasingkhuttra xngkhecdiyidthukthingrangthrudothrmcnmathungkhriststwrrsthi 14 phrayaxu kh s 1323 1384 idthrngburnaecdiyihmikhwamsung 18 emtr 59 fut stwrrstxmaphranangechngsxbu kh s 1453 1472 idthrngburnaecdiyihmikhwamsungthung 40 emtr 131 fut idthakarprbepliyneninsungepnthitngkhxngxngkhecdiyihepnthanecdiyladepnchn aebbkhnbnid aelapuphundanbnkhxngthandwyaephnhin phranangrbsngihmikarbarungrksaxngkhecdiytxipaekphraecathrrmecdiy sungkhrxngrachsmbtitxhlngphranangslarachsmbti inchwngbnplayphrachnmchiphphranangprachwraelamiphrabychaihwangaethnbrrthmincudthiphraxngkhsamarthmxngehnecdiyidthukewla mikarcarukphasamxybnthukkarburnaptisngkhrnxngkhecdiythierimtninpi kh s 1436 cnburnaesrcsininrchsmyphraecathrrmecdiyemuxtnkhriststwrrsthi 16 txmaecdiychewdakxngidklayepnsthanthiaeswngbuykhxngphuththsasnikchnthimichuxesiyngthisudinphma aephndinihwelk nxy eruxymathaihecdiyidrbkhwamesiyhay aelaemuxpi kh s 1768 idekidaephndinihwxyanghnk thaihyxdkhxngecdiyhkthlmlngma aetidmikarburnaihsungkhunthung 99 emtr 325 fut chtrxngkhihmsahrbpradbyxdecdiyidrbkarthwaycakphraecamindng emuxpi kh s 1871 hlngkarphnwkdinaednphmatxnlangodyxngkvs aephndinihwthimikhwamrunaerngpanklangineduxntulakhm pi kh s 1970 thaihephlachtrbnyxdxngkhecdiyidrbkhwamesiyhay mikarsrangokhrngaelasxmaesmkhrngihy emuxwnthi 22 kumphaphnth 7 minakhm kh s 2012 miethskalechlimchlxngpracapikhxngecdiychewdakxngepnkhrngaerknbtngaetpi kh s 1988 hlngthukhamodysphasntiphaphaelakarphthnaaehngrth thipkkhrxngpraethsinkhnann ethskalecdiychewdakxngepnethskalecdiythiihythisudinpraeths erimtntngaetwnkhun 1 kha eduxndabxng ipcnthungwnkhun 15 kha tamptithinphmarupaebbrupaebbsthaptykrrm aelaxngkhprakxbkhxngecdiychewdakxng thanecdiyepnaebbsiehliymykekcsamchn danbnthanmiephiyngphraphiksuaelaphuchayethannthisamarthkhunid thdmaepnchnthanaepdehliymykekc txmaepnchnthanekhiyngklm thdipdanbnkhuxswnxngkhrakhng rdxkkhadxngkhrakhng bwkhxesuxlayefuxngxuba plxngichn pthmbath pliyaw chtr thngibphd aelalukaekwhruxhyadnakhang prakxbdwyephchr 5 448 emdaelathbthim 2 317 emd bnsudepnephchrplayaehlmhnk 76 kart aephnthxngthiichpidokhrngsrangxiththukyuddwyhmudaebbdngedim prachachnthwpraethsidbricakhenginthxngephuxburnaecdiy karptibtiyngkhngmimacnthungthukwnnihlngcakphranangechngsxbu idbricakhthxngkhaethanahnkkhxngphraxngkhinkarburnaecdiy mibnidthangkhunipynglaneninekhasingkhuttrasithang inaetlathangkhunmiruppnkhlaysinghthieriykwachinet pradbiwepnkhuhnathangkhunephuxpkpkrksaxngkhecdiytamkhwamechux thangthistawnxxkaelathangitmirankhaythupethiyn thxngkhaeplw hnngsux aelawtthumngkhltang phuthiekhamanmskarhruxeyiymchmmkniymedintamekhmnalikawnrxbecdiy erimtnthisalthangthistawnxxksungpradisthanphraphuththrupphrakkusnthphuththeca phraphuththecaphraxngkhaerkinphthrkpni thdipepnsalthangthisitsungpradisthanphraphuththrupphraoknakhmnphuththeca phraphuththecaxngkhthisxnginphthrkpni thdipsalthangthistawntkepnsalkhxngphraksspphuththeca phraphuththecaxngkhthisaminphthrkpni sudthaysalthangthisehnuxepnsalkhxngphraokhtmphuththeca phraphuththecaxngkhpccubnphithikrrmbark oxbama xditprathanathibdishrth khnasrngnaphraphuththrup n cudwnsukr odyoxbamaekidwnsukr prachachnchawphmaswnihynbthuxphuththsasnanikayethrwath aetbangswnkyngmikhwamechuxinthangohrasastr echnohrasastrphmathiekiywkhxngkbdwngdaw 7 dwngidaek dwngxathity dwngcnthr dawxngkhar dawphuth dawphvhsbdi dawsukraeladawesar nxkcakniyngtrahnkthungdawxiksxngdwngkhuxrahuaelaektu khwamechuxeruxngdwngdawlwnidrbxiththiphlmacakohrasastrhindu aetdawrahuaelaektukhxngohrasastrphmatangcakdawrahuaelaektukhxnghindu odyohrasastrphmaphicarnaihepndwngdawthiaetktangaelaaeykkn inkhnathiohrasastrhinduphicarnawaepnhwaelahangkhxngnakhhruxepncudkhunaelalng swninohrasastrphmadawektuepnrachakhxngdwngdawthngmwl echnediywkbphasaxun xikmakmaychawphmatngchuxwnthngecdinspdahtamdwngdawthngecddwng aetohrasastrkhxngphmamikaraebngspdahepnaepdwnodyaebngwnphuthepnsxngwn khux ethiyngkhuncnthung 18 00 n epnwnphuth aethlngewla 18 00 n cnthungewlaethiyngkhunepnwnkhxngrahu epnsingsakhysahrbchawphmathicatxngruwawnekidkhxngtnidrbxiththiphlcakdawekhraahdwngid nxngcakniyngmikarkahndsylksnkhxngrupstwtang aethninaetlawn echn khruthsahrbwnxathity esuxsahrbwncnthr singotsahrbwnxngkhar changmingasahrbwnphuthkhrungwnaerk changimmingasahrbwnphuthkhrungwnhlng hnusahrbwnphvhsbdi hnutaephasahrbwnsukraelanakhsahrbwnesar sylksnkhxngwntang kracayiprxbxngkhecdiyaetlacudcamiphraphuththruppradisthaniw phusrththamknadxkim thngtang ipbuchaaelathrngnaphraphrxmkhaxthisthanaelakhwamprarthna danhlngxngkhphraepnruppnkhxngethwdaphuphithksaeladanlangcaepnstwthiepntwaethninaetlawn chawphuththmkniymedinsarwcewiynrxbthanecdiytamekhmnalika phuaeswngbuyaelaphusrththamksuxdxkimthupethiynthngsiaelathngriwtang tamthangkhunmanmskaraelaiwrxbecdiy miklxngbricakhxyuinsthanthitang rxbxngkhecdiy ephuxmxbihodysmkhricsungxacmxbihecdiyephuxwtthuprasngkhthwip singehlaniepnsylksnkhxngkarihthanxyanghnung sungepnsingsakhyinkhasxnkhxngsasnaphuthth ineduxnthnwakhm ph s 2560 chawtangchaticathukeriykekbkhathrrmeniymaerkekha 10 000 ct praman 7 dxllarshrth ecdiychewdakxnginwrrnkrrmrdyard khipling idbrryayinpi kh s 1889 thungkareyiymchmecdiychewdakxng xiksibpitxmaidlngphimphinhnngsux khnannsithxngluklbprakdkhunthikhxbfa xscrryswyngamemuxtxngaesngxathity mirupthrngthiimichodmmuslimhruxyxdaehlmwiharhindu tngxyubneninekhasiekhiywaeladanlangepnaenwphnthakhar ephingimaelaorngim phayitphraecaxngkhihmhrux thithaihkhaphecakhidwaphwkerachawxngkvsyngtxngmanngthini nnkhuxchewdakxngeka shayrwmedinthangkhxngchnklaw changethxa aetnnimichthikhidsabantrngni mnxthibayepnxyangaerkwathaimphwkerayudyangkung aelaehtuthisxngphwkeraphlkdnihehnthungdinaednthimngkhngaelahaidyak cntxnnnthichnimidsuksamamxngimehnwadinaednnimilksnatangcaksunthrwn aetecdiysithxngbxkwanikhuxphma aelanntangcakdinaednthikhunekhyruck shayrwmedinthangkhxngchnklawwa nnepnsasnsthanobranthimichuxesiyng aelatxnniesnthang txngxu mnthaely mikarepid khnaphucarikaeswngbuynbphnidedinthanglngmachm yxdthxngkhnadihybnsudthiphwkekhaeriykwa thi ထ suyhayipcakaephndinihw nnepnehtuphlwathaimthungthukpiddwynganimiphxyusamswnkhxngkhwamsung khuncaehnemuxthnghmdthukepidxxk phwkekhakalngpidthxngxyuintxnni sngkhramaelakarbukrukthharxngkvsthxdrxngethaxxkkhnaipeyiymchmecdiychewdakxngchwngsngkhramolkkhrngthisxng inpi kh s 1608 filipu du britu xi nioktu nkphcyphychawoprtueks hruxthiruckinnamkhxng ngasinka emuxxyuinphma idekhaplnchingsmbtikhxngecdiychewdakxng aelaidexakhnad 300 tn sungthwayodyphraecathrrmecdiyemuxpi kh s 1485 ectnakhxngfilipuxkhuxkarhlxmrakhngephuxsrangpunihy aetrakhngidtklngipinaemnaphaokhkhnakalngkhnyay cnthungthukwnnikyngimidrbkarkukhun sxngstwrrstxmackrwrrdibriticherimekhakhrxbkhrxngphunthiemuxwnthi 11 phvsphakhm kh s 1824 chwngsngkhramxngkvs phmakhrngthihnung thnthithiyudkhrxngecdiychewdakxngidphwkekhaidichepnpxmprakarcnslathinginxiksxngpitxma mikarplnsadmkarthalaythrphysin aelakhxxangkhxngecahnathikhnhnunginkarkhudxuomngkhekhaipinswnlukkhxngecdiy khuxkarhawasamarthichepnthiekbdinpunidhruxim rakhngmhakhnta rakhngsmvththihnk 23 tn sranginpi kh s 1779 odyidrbkarsnbsnuncakphraecacingkucaaelaepnthiruckinchuxrakhngphraecacingkuca thukkhnyaylngeruxprarthnathicasngipyngoklkata aelaidphbehtukarnechnediywkbrakhngphraecathrrmecdiykhuxtklngipinaemna emuxchawxngkvslmehlwinkhwamphyayamthicakurakhngkhunma cungmiprachachnesnxthicakurakhngodymienguxnikhwathakukhunmaidihthwaykhunipyngecdiy chawxngkvskhidwamnepneruxngirpraoychncungtxbtklng txmankdanaidnaesaimiphhlayrxytnphukekhakbrakhngdanlangaelaplxyihlxykhunsuphiwna rakhngibnimkmikhnsbsnkbrakhngphraecaaesrkaemng khnad 42 tn sungidrbkarthwayinpi kh s 1841 odyphraecaaesrkaemngphrxmkbchubthxngkha 20 kk rakhngkhnadihyniaekhwnxyuinsalamumtawnxxkechiyngehnuxkhxngecdiy swnrakhngphraecacingkucaaekhwninsalatawntkechiyngehnuxkhxngecdiy insngkhramxngkvs phmakhrngthisxng ckrwrrdibritichekhayudkhrxngecdiyineduxnemsaynpi kh s 1852 aetkhrawniecdiyxyuphayitkarkhwbkhumthangthharepnewlananthung 77 picnthungpi kh s 1929 xyangirktamprachachnsamarthekhaipskkaraxngkhecdiyid rahwangkaryudkhrxngecdiyaelaepnpxmprakarkhxngbritich hmxng thx el sungepnchawmxyechuxsayphma prasbkhwamsaercinkarpxngknkarplnthrphysmbticakkxngthphbritich thaythisudekhaksamarthburnaecdiyihmichuxesiyngdngedimid thngyngidrbenginsnbsnuncakphupkkhrxngchawxngkvs bthkhwambangswnidthukbnthuklnginhnngsux A Twentieth Century Burmese Matriarch puchniybukhkhlkhxngphmainkhriststwrrsthi 20 sungekhiynodythayathsaytrngthisubechuxsaymacakhlansawkhxngekha khin thida hlngcakeksiynaelwekhayayklbipyngphakhyangkungsungyngkhngxyuinmuxphma imnannkkxnthinncathukyudkhrxng ekhaekhythukcbxikkhrnginchwngsngkhram aetekhaochkhdithisnbsnunkickarthangsasnaaelaidrbbuyxnyingihy khwamsamarthinkarepnphunathiyxdeyiymkhxngekha thaihekhaidrbhnathiinkarburnaecdiychewdakxngkhrngihy cakkarthukthalayaelaplnthrphysmbtikhxngkxngthphbritichchwngsngkhramxngkvs phmakhrngthisxng sasnsthanthiyingihykhxngphuthththukichepnpxmprakarodykxngthphbritichchwngsngkhraminpi kh s 1824 aelaichepnpxmprakarxikkhrnginpi kh s 1852 emuxekhaidyinkarepliynsasnsthanepnpxmprakaraelaplnthrphysmbti ekhacungsngcdhmayxuththrnthnthiipyngsanknganbritichxinediyinlxndxnihhyudthalaysasnsthan ekhaidrbkhachdechycakkhahlwngphmaaehngbritich misetxrephely Arthur Purves Phayre aelaerimburnaecdiyinpi kh s 1855 phrxmkarsnbsnunkarbricakhcakprachachn ekhaidrbkaraetngtngihepnphuduaelecdiychewdakxng aelaidrbys KSM cakbritichrach sahrbkarbrikarsatharnakhxngekha ekhaesiychiwitemuxxayu 95 pi mrdkthiekhathingiwkhuxekiyrtiprawtiaelakittisphthsungsudaekwngstrakulaelathayathrunhlngkhxngekha ewthikaremuxngphuprathwngthiecdiychewdakxnginyangkung pi kh s 2007 inpi kh s 1920 nksuksacakmhawithyalykhxngphmamaphbknthisalamumtawntkechiyngitkhxngecdiychewdakxng aelawangaephnprathwngtxtanphrarachbyytimhawithyalyihm thiphwkekhaechuxwacaepnkarexuxpraoychnihkbkarpkkhrxngkhxngxananikhmmakkhun pccubnsthanthiaehngniidrbkarkhunepnxnusrnsthan phlthitammakhuxkarkhwabatrmhawithyalyaelamikarcdtng sthabnkarsuksaaehngchati sungmiaehlngenginthunaeladaeninkarodychawphma wnnicungidrbkarralukepnwnchatiwnhnungkhxngphma khrngthisxngnksuksamhawithyalyidhyudprathwnginpi kh s 1936 odyrwmtwknbriewnechingthanecdiychewdakxng inpi kh s 1938 khnnganehmuxngbxnamnidhyudnganprathwng aelathyxyedinthangxxkcakehmuxngbxnamnemuxngechaaaelaeynanchxngbriewntxnklangkhxngphmaipyngyangkung ephuxcdkhayprathwngbriewnecdiychewdakxng karprathwngkhrngniidrbkarsnbsnuncakprachachnaelanksuksa epnthiruckkninchux karptiwti 1300 ecahnathitarwckhxngbritichidswmrxngethabuthbukekhacuocmkhayphuprathwngbriewnecdiy khnathichawphmalwntxngthxdrxngethakxnkhunecdiythngsin pyhaeruxngkarswmrxngethakhunipbnecdiy epneruxnglaexiydxxnkhxngchawphmatngaetsmyxananikhm chawphmacathxdrxngethaemuxekhaipinsasnsthanphuthththukaehng ihaerm khxks thutbritichaelaecahnathisalphma inpi kh s 1796 idchmpraephniphunbanodyimidaewaipthiecdiyephraakarthiekhacatxngthxdrxngetha xyangirktamhlngcakkarphnwkphmatxnlang phumaeyuxnchawyuorpaelathharthimayngecdiyidaesdngxxkthungkarimekharphpraephnithxngthin xu thrrmolka ephchiyhnakbecahnathitarwcinkarswmrxngethakhunipbnecdiyinpi kh s 1902 txmaecahnathiphumixanackhxngbritichxxkkdkhxbngkhbeddkhadhamswmrxngethaekhaipinbriewnecdiy xyangirktamphwkekhaidykewnecahnathikhxngrthbalihswmrxngethaid raebiybkhxbngkhbaelakarykewnniepncuderimtnkratunihprachachnerimmibthbathinkhbwnkarchatiniym pccubnimxnuyatihswmrxngethahruxthungethakhunipbnecdiy ineduxnmkrakhmpi kh s 1946 nayphlxxngsan idcdkarchumnumihythibriewnecdiyephuxeriykrxngexkrachcakxngkvs odymikarprathwngaelakarchumnumepnwngkwang xiksisibsxngpitxmainwnthi 26 singhakhm kh s 1988 luksawkhxngekha xxngsan suci idklawkbphuchumnumkwa 500 000 khnthibriewnecdiychewdakxngephuxeriykrxngkarpkkhrxngrabxbprachathipitycakkarpkkhrxngkhxngthhar ehtukarnniepnthiruknkninchux karptiwti 8888 sungepnkarprathwngrabxbkarpkkhrxngkhrngihykhrngthisxng karptiwtiphakasawphstr ineduxnknyayn kh s 2007 mikarprathwngthwpraethstxkarpkkhrxngkhxngthhar ekiywkbkarkhunrakhasinkhaxupophkhbriophkhhlaychnidkhunxyangrwderw phrasngkhthukhamekhaecdiyepnewlahlaywnkxnthirthbalcayxmplxyihekhama emuxwnthi 24 knyayn kh s 2007 phraphiksuaelatilachin kwa 20 000 rup karprathwngkhrngihysudinrxb 20 pi idedinkhbwnipyngecdiychewdakxngthiemuxngyangkung txmainwncnthrmiprachachnkwa 30 000 khnaelaphrasngkh 15 000 rup edinkhbwncakecdiychewdakxngaelaphansanknganphrrkhfaykhankhxngnangxxngsan suci khux phrrkhsnnibataehngchatiephuxprachathipity NLD nkaesdngtlkaelankekhluxnihwthangkaremuxng sakana kb cx tu mikarnaxaharaelanamathwayaedphrasngkh inwnesarmiphrasngkhedinthangipthkthaynangxxngsansucisungxyuphayitkarkhwbkhuminbanphk txmawnxathitymiaemchicanwn 150 khnekharwmedinkhbwn emuxwnthi 25 knyayn kh s 2007 phrasngkhaelaphusnbsnun 2 000 khnkhdkhunkhakhukhxngkhnaphubriharpraeths edinkhbwninthnnyangkungipyngecdiychewdakxng thamklangrthbrrthukthharaelakhaetuxnkhxng phlctwa myin mxng imihphuththsasnikchnlaemidkdraebiybaelakhxbngkhb wnthi 26 knyayn kh s 2007 mikarpathaknrahwangkxngkalngrksakhwamplxdphykbphrasngkhaelaphuprathwnghlayphnkhn miphuprathwngthiesiychiwitxyangnxy 5 raycakkxngkalngrksakhwamplxdphy tamraynganecahnathimikarichaeksnataephuxslaykarchumnumxyangsntikhxngphrasngkhcanwnmakrxb ecdiychewdakxng mirayngankarprathwngwaphrasngkhcanwnxyangnxy 50 rupthukcbkhunipbnrthbrrthukkhxngkxngthph aelathuknaipyngsthanthithiimepidephy nxkcaknimikarraynganwathharichpunirefilcuocmaelapidsasnsthanphuthth miprakasihfungchnslaytwxyangrwderwkxncaprabpramxyangrunaerng mikarkhbilphrasngkhaelaphuprathwngkwarxykhnaelaerimpidlxmbriewnecdiy ecahnaphumixanacidprakassngihfungchnslaykarchumnumprathwng aetphyaninthiekidehtuklawwaphrasngkhnnglngaelaerimswdphawnatxsukbkarhamchumnumkhxngrthbalthhar kxngkalngrksakhwamplxdphythiecdiyidocmtiphuchumnum mikartharayphrasngkhaelaphusnbsnunxikhlayrxyray phrasngkhthukphakhunipyngrthbrrthukodyhnwynganthamklangprachnhlayrxykhnthiehnehtukarn miraynganwabangswnideliyngaelamunghnaipyngecdiysuelaethn sungepnhnunginsasnsthanphuthththitngxyuinicklangkrungyangkungkarcalxngecdiyhruxsingkxsrangthimikarrabuchdecnwasrangcalxngmacakecdiychewdakxng echn xuppatsntiecdiy sungtngxyuinemuxngenpyidx emuxnghlwngkhxngpraethsphma epnecdiythicalxngmacakecdiychewdakxngsrangesrcsmburninpi kh s 2009 odymirupaebblksnathikhlaykhlungkn aetmikhwamsungnxykwaecdiychewdakxngelknxy khnad 46 8 emtr 154 fut n inemuxngebxrstaki cnghwdsumatraehnux praethsxinodniesiy srangesrcinpi kh s 2010 wsdukxsrangkhxngecdiynithuknaekhamacakpraethsphma ecdiywipssnasakl sung 29 emtr 95 fut epidemux kh s 2010 n emuxngmumib praethsxinediy ecdiychewdakxngcalxngithy phma hrux ecdiychewdakxngkhlxngaeh khnad kwang 20 emtr sung 17 emtr epnecdiyxngkhaerkthichawphmasrangkhuninpraethsithy ephuxepnsunyrwmickhxngchawphmathiekhamaprakxbxachiphinpraethsithy odyepnkarphsmphsanrahwangsilpaphmaaelaithy n wdkhlxngaeh xaephxhadihy cnghwdsngkhla praethsithyduephimsthaniyxyphraphuththsasnasasnaphuththinpraethsphma prawtisasnaphuththxangxingMinistry of Religious Affairs and Culture Myanmar 2018 12 06 Shwedagon Pagoda on Singuttara Hill UNESCO Paya Shwedagon Yangon Myanmar Dhammapiti phasafrngess 2007 02 11 cakaehlngedimemux 2007 12 23 subkhnemux 2016 08 26 ecdiychewdakxng Shwedagon Pagoda wonder7th com cakaehlngedimemux 2014 02 27 subkhnemux 2014 07 14 1934 The Shwe Dagon Pagoda Journal of the Burma Research Society 1 91 BURMA D G E HALL M A D LIT F R HIST S Professor Emeritus of the University of London and formerly Professor of History in the University of Rangoon Burma Third edition 1960 Page 35 36 Gecker Jocelyn 22 February 2012 Festival returns to Myanmar s Shwedagon Pagoda Yahoo News Associated Press subkhnemux 23 February 2012 Mizzima News 22 February 2012 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 25 February 2012 subkhnemux 23 February 2012 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2023 05 28 subkhnemux 2022 03 18 Billinge T 2014 Shwedagon Paya The Temple Trail subkhnemux 2014 12 29 Skidmore Monique Burma At The Turn Of The Twenty first Century University of Hawaii Press 2005 p 162 Kipling JR 1914 II The River of the Lost Footsteps and the Golden Mystery upon its Banks Shows how a Man may go to the Shway Dagon Pagoda and see it not and to the Pegu Club and hear too much A Dissertation on Mixed Drinks Vol I New York Doubleday khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 08 09 subkhnemux 2018 08 09 Bird GW 1897 Wanderings in Burma 1st ed London F J Bright and Son Oung Kin Thida 2007 A Twentieth Century Burmese Matriarch Lulu p 200 ISBN 9780557102297 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 11 14 subkhnemux 2007 09 24 Nuns in Burma anti junta rallies BBC News 23 September 2007 subkhnemux 1 January 2010 Matthew Weaver Troops sent in as Burmese protesters defy junta the Guardian Burma riot police beat back monks BBC 26 September 2007 Insect spray to be used for crackdown on protesters Mizzima News 27 September 2007 23 kumphaphnth 2008 thi ewyaebkaemchchin Roughneen S 2013 11 13 Naypyidaw s Synthetic Shwedagon Shimmers but in Solitude Chiang Mai Thailand Irrawaddy Publishing Group subkhnemux 2014 12 29 2010 11 01 Shwedagon s Pagoda Replica Project Berastagi Sumatera Utara Indonesia khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 12 02 subkhnemux 2014 12 29 Global Vipassana Pagoda inaugurated in Mumbai 8 February 2009 subkhnemux 9 June 2013 duephimMartin Steve 2002 Lonely Planet Myanmar Burma Lonely Planet Publications ISBN 1 74059 190 9 Elliot Mark 2003 South East Asia The Graphic Guide Trailblazer Publications ISBN 1 873756 67 4 Win Pe 1972 Shwedagon Printing and Publishing Corporation Rangoon Dictionary of Buddhism by Damien Keown Oxford University Press 2003 ISBN 0 19 860560 9aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb ecdiychewdakxng ewbistxyangepnthangkar 2021 02 23 thi ewyaebkaemchchin The Legend of Shwedagon by Khin Myo Chit 2007 03 11 thi ewyaebkaemchchin My Child life in Burmah by Olive Jennie Bixby 1880 recollections of a missionary s daughter inc detailed description of King Mindon s new hti being erected pp 111 Rudyard Kipling s description of Shwedagon Pagoda in 1889 Elizabeth Moore conference the shwedagon in british burma myanmar 2012 03 05 thi ewyaebkaemchchin Lt J E Alexander s account 1827 p 153 Myanmar Time to say hello YouTube Scene upon the Terrace of the Great Dagon Pagoda from 1826