ทศกัณฐ์ (สันสกฤต : दशकण्ठ) (ผู้มีสิบคอ คือ มีสิบหัว) เป็นตัวละครฝ่ายอธรรมตัวหนึ่งในวรรณกรรมเรื่องรามเกียรติ์ ดัดแปลงมาจากตัวละครราวณะ (สันสกฤต : रावण) ในมหากาพย์ฮินดู รามายณะ
ทศกัณฐ์ | |
---|---|
ตัวละครใน รามเกียรติ์ | |
ผู้ครองกรุงลงกา | |
เผ่าพันธุ์ | รากษส |
เพศ | ผู้ |
ตำแหน่ง | กษัตริย์แห่งกรุงลงกา |
คู่สมรส | นางกาลอัคคี นางมณโฑ นางปลา นางช้างพัง |
บุตร | บรรลัยกัลป์ อินทรชิต ไพนาสุริยวงศ์ (ทศพิน) สหัสกุมาร สีดา สิบรถ นางสุพรรณมัจฉา ทศคีรีวัน ทศคีรีธร |
ญาติ | ท้าวลัสเตียน (บิดา) นางรัชฎา (มารดา) ท้าวจตุรพักตร์ (ปู่) กุมภกรรณ (น้องชาย) พิเภก (น้องชาย) ขร (น้องชาย) ทูษณ์ (น้องชาย) ตรีเศียร (น้องชาย) นางสำมนักขา (น้องสาว) พระราม (ลูกเขย) หนุมาน (ลูกเขย) มัจฉานุ (หลาน) |
มิตรสหาย | ไมยราพณ์, , สหัสเดชะ, มูลพลัม, ท้าวจักรวรรดิ, , , , , |
ศัตรู | พระราม, พระลักษมณ์, หนุมาน, พาลี, สุครีพ, องคต, ชมพูพาน, พิเภก (ขณะที่พิเภกเป็นไส้ศึกแก่พระราม) |
ประวัติ
ทศกัณฐ์ เป็นบุตรคนโตของท้าวลัสเตียนกับนางรัชฎา เจ้ากรุงลงกา และเป็นหลานของท้าวมาลีวราช เดิมเป็นยักษ์ชื่อ "นนทก" กลับชาติมาเกิด ซึ่งนนทกมีหน้าที่ล้างเท้าให้กับเทวดาทั้งหลาย เทวดาเหล่านั้นก็มักจะลูบหัวนนทกจนหัวล้าน นนทกจึงเกิดความแค้น เลยไปขอนิ้วเพชรจากพระอิศวร แล้วทำร้ายพวกเทวดาที่มาลูบหัวตน นนทกได้เข่นฆ่าเหล่าเทวดาตายนับไม่ถ้วน ทำให้พระอิศวรสั่งให้พระนารายณ์ให้มาช่วยปราบนนทก พระนารายณ์จัดการกับนนทก โดยการจำแลงองค์เป็นนางเทพอัปสรดักอยู่ตรงทางที่นนทกเดินผ่านเป็นประจำ ฝ่ายยักษ์นนทกเมื่อได้เห็นนางจำแลงจึงเกิดความหลงและเข้าไปเกี้ยวพาราสี นางจำแลงแสร้งทำยินดี โดยยื่นข้อเสนอว่าให้นนทกร่ายรำตามนางทุกท่าแล้วจะยินดีผูกมิตรด้วย และแล้วยักษ์นนทกก็ทำตามนาง ด้วยท่ารำตามกลอนว่า
เทพนมปฐมพรหมสี่หน้า | สอดสร้อยมาลาเฉิดฉิน |
ทั้งกวางเดินดงหงส์บิน | กินรินเรียบถ้ำอำไพ |
อีกช้านางนอนภมรเคล้า | ทั้งแขกเต้าผาลาเพียงไหล่ |
เมขลาโยนแก้วแววไว | มยุเรศฟ้อนในอำพร |
ยอดตองต้องลมพรหมนิมิตร | ทั้งพิศมัยเรียงหมอน |
ย้ายท่ามัจฉาชมสาคร | พระสี่กรขว้างจักรฤทธิรงค์ |
ฝ่ายว่านนทกก็รำตาม | ด้วยความพิศมัยไหลหลง |
ถึงท่านาคาม้วนหางวง | ชี้ตรงถูกเพลาทันใด |
โดยหารู้ไม่ว่านั่นเป็นเล่ห์กล จนกระทั่งถึงท่านาคาม้วนหางนิ้วเพชรของนนทกชี้ไปที่ขาของตัวเอง ขานนทกก็หักลงทันใด นนทกล้มลง ทันใดนั้น นางแปลงกลายเป็นพระนารายณ์เหยียบอกนนทกไว้
ก่อนตาย นนทกอ้างว่าพระนารายณ์มีหลายมือตนสู้ไม่ได้ พระนารายณ์จึงให้คำสัตย์ว่า ให้นนทกไปเกิดใหม่ มีสิบเศียรสิบพักตร์ยี่สิบมือ เหาะเหินเดินอากาศได้ มีอาวุธนานาชนิดครบทุกมือ ส่วนพระนารายณ์จะไปเกิดเป็นมนุษย์มีสองมือและตามไปฆ่านนทกให้ได้ นนทกต่อมานนทกไปเกิดเป็นเปรตอยู่ที่เขาไกรลาสของพระอิศวรมีกระดูกยื่นออกมาจากศีรษะและใช้เส้นเอ็นของตนเล่นศอจนพระอิศวรลงมานนทกจึงขอพรให้ตนไปเกิดเป็นทศกัณฐ์ตามคำของพระนารายณ์พระอิศวรจึงให้พรแล้วให้นนทกไปจุติในครรภ์พระนางรัชดา มเหสีท้าวลัสเตียน เจ้ากรุงลงกา เกิดมาเป็นโอรสนามว่าทศกัณฐ์
ตามรามเกียรติ์ อาวุธของทศกัณฐ์มีดังกลอนต่อไปนี้
กระทืบบาทผาดโผนโจนร้อง | กึกก้องฟากฟ้าอึงอุด |
มือหนึ่งจับศรฤทธิรุทร | มือสองนั้นยุดพระขรรค์ชัย |
มือสามจับจักรกวัดแกว่ง | มือสี่จับพระแสงหอกใหญ่ |
มือห้าจับตรีแกว่งไกว | มือหกฉวยได้คทาธร |
มือเจ็ดนั้นจับง้าวง่า | มือแปดคว้าได้พะเนินขอน |
มือเก้ากุมเอาโตมร | กรสิบนั้นหยิบเกาทัณฑ์ |
ทศกัณฐ์ยังมีความสามารถพิเศษคือการได้ถอดดวงใจใส่กล่อง ฝากไว้กับอาจารย์คือพระฤๅษีโคบุตร ซึ่งในบางตำราก็กล่าวไว้ว่า ทศกัณฐ์ได้สวดมนต์สหัสนาม หรือพระนามทั้ง ๑,๐๐๐ ของพระนารายณ์ เพื่อให้สามารถรอดพ้นจากความตายได้ ๑ ครั้ง และก็อาศัยช่วงนั้น ทำการควักดวงใจของตน ออกมาใส่ไว้ในกล่องแก้ว ซึ่งลงอาคมกำกับไว้ แต่มีข้อเสีย คือ หัวใจนั้น ย่อมปรารถนาจะเข้าหาที่อยู่เดิมของมัน จึงต้องเก็บรักษาไว้ให้ห่างตัวของทศกัณฐ์ ทศกัณฐ์จึงฝากให้พระฤๅษีโคบุตร เป็นผู้ดูแลกล่องดวงใจ ทำให้ไม่มีใครฆ่าได้ ด้วยความที่มีนิสัยเจ้าชู้ ได้ลักพาตัวนางสีดาผู้มีรูปโฉมที่งดงาม ไปจากพระรามที่เป็นพระสวามี เป็นเหตุให้เกิดศึกสงครามระหว่าง ฝ่ายพระราม กับ ฝ่ายทศกัณฐ์ จนญาติมิตรของฝ่ายทศกัณฐ์ล้มตายไปเป็นจำนวนมาก สุดท้ายทศกัณฐ์ก็ถูกล่อลวงเอากล่องดวงใจไป ด้วยเล่ห์เพทุบายของหนุมาน ทำให้ทศกัณฐ์เองก็ต้องตายเพราะนิสัยเจ้าชู้และความไม่ยอมแพ้ของตน ซึ่งก่อนตาย ทศกัณฐ์ได้รู้ตัวแล้วว่าต้องตายแน่ แต่ด้วยขัตติยมานะจึงต้องต่อสู้กับพระราม จึงแต่งองค์อย่างงดงาม และถูกของพระรามฆ่าตาย ก่อนตาย ทศกัณฐ์ได้เห็นภาพว่า แท้ที่จริงแล้วพระรามคือ พระนารายณ์อวตาร และได้สั่งเสียกับน้องชายตัวเองคือพิเภก ซึ่งเรียกว่า "ทศกัณฐ์สอนน้อง" และภายหลังพิเภกก็ได้ทีครองกรุงลงกาสืบต่อแทน
ทศกัณฐ์ เป็นหนึ่งในยักษ์ทวารบาลสองตน ที่ยืนเฝ้าประตูทางเข้าพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามคู่กับสหัสเดชะ เพราะถือว่าเป็น ยักษ์ที่มีฤทธิ์มากเท่าเทียมกัน
มีการวิเคราะห์กันว่า ตัวละครอย่าง ทศกัณฐ์ หรือบรรดายักษ์ในเรื่อง เป็นตัวแทนของหรือทัสยุ ซึ่งเป็นชนชาวผิวดำที่อยู่ทางตอนใต้ของอินเดียในสมัยโบราณ และพระรามและพลพรรคลิงเป็นตัวแทนของชาวอารยัน หรือชาวผิวขาวที่อยู่ทางตอนเหนือ และชาวอารยันก็ได้ทำสงครามชนะชาวทัสยุ ซึ่งต่อมาก็ได้มีการแต่งวรรณกรรมเรื่อง รามายณะขึ้นมาเพื่อยกย่องพวกตนเอง
วงศ์ของทศกัณฐ์
ท้าวลัสเตียน | นางรัชฎา | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นางมณโฑ | ทศกัณฐ์ | กุมภกรรณ | พิเภก | ขร | ทูษณ์ | ตรีเศียร | นางสำมนักขา | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นางเบญกาย | วิรุณจำบัง | กุมภกาศ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
นางสีดา | อินทรชิต | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
บรรลัยกัลป์ | ทศคีรีวัน | ทศคีรีธร | สุพรรณมัจฉา | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ลักษณะและสี
ทศกัณฐ์เป็นยักษ์รูปงาม มี 10 หน้า 20 กร ปากแสยะ ตาโพลง มีกายเป็นสีเขียว (กายเป็นสีทองตอนลงสวนเกี้ยวนางสีดา)
โคลงภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์ ที่พระระเบียงวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ภาพจิตรกรรมฝาผนังชุดรามเกียรติ์นี้เริ่มเขียนตั้งแต่ภาพพระนารายณ์อวตารในปางต่างๆ ก่อนที่จะอวตารมาเป็น พระราม ในเรื่องรามเกียรติ์
ภาพเขียนนี้มีทั้งหมด ๑๗๘ ห้อง มีทั้งคำบรรยายใต้ภาพและคำบรรยายเป็นโคลงสลักบนแผ่นหินอ่อนติดอยู่ที่ เสารอบพระระเบียง
และมีภาพตัวละครสำคัญอีก ๘๐ ภาพ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นฝ่ายอสูรและฝ่ายวานร เขียนอยู่ตามซุ้มประตูและมุขพระระเบียง โคลงประจำภาพว่า
ทศกรรฐสิบภักตรชั้น | เศียรตรี | |
ทรงมกุฎไชยเขียวสี | อาตมไท้ | |
กรยี่สิบพรศุลี | ประสาศฤทธิ ยิ่งนา | |
ถอดจิตรจากตนได้ | ปิ่นด้าวลงกา ฯ | |
— พระองค์เจ้าเกษมสันต์โสภาคย์ (ตัวสะกดตามต้นฉบับเดิม) |
อ้างอิง
- สี ลักษณะหัวโขน และประวัติสังเขปของตัวละครในเรื่องรามเกียรติ์ นาย ประพันธ์ สุคนธชาติ รวบรวม
- ทศกัณฐ์ จิตรกรรมฝาผนังวัดหัวลำโพง wathualampong.com 2009-07-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ลิลิตนารายณ์สิบปาง
แหล่งข้อมูลอื่น
- ทศกัณฐ์ (ผู้มีสิบคอคือมีสิบศีรษะ) 2021-09-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- เยี่ยมยักษ์อยู่ยามกลางกรุงรัตนโกสินทร์[]
- หัวโขน-สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ www.culture.go.th 2009-08-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- สีที่ใช้กับหัวโขน 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- จารีตนาฏศิลป์ไทย โดย นาย ประเมษฐ์ บุณยะชัย นิตยสารศิลปากร ปีที่ ๕๐ ฉบับที่ ๑ มกราคม-กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ หน้า ๕ - ๑๙ 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ภาพจิตรกรรมฝาผนัง เรื่องรามเกียรติ์ วัดหัวลำโพง wathualampong.com 2009-09-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- โคลงรามเกียรติ์ รอบพระระเบียงวัดพระศรีรัตนศาสดาราม www.bloggang.com-praingpayear
- บทความเรื่อง "ทศกัณฐ์ พระเอกตัวจริงของหลายๆ คน" 2016-03-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
ก่อนหน้า | ทศกัณฐ์ | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
ท้าวลัสเตียน | กษัตริย์กรุงลงกาในเรื่องรามเกียรติ์ | ท้าวทศคิริวงษ์ (พิเภก) |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
thsknth snskvt दशकण ठ phumisibkhx khux misibhw epntwlakhrfayxthrrmtwhnunginwrrnkrrmeruxngramekiyrti ddaeplngmacaktwlakhrrawna snskvt र वण inmhakaphyhindu ramaynathsknthtwlakhrin ramekiyrtiphukhrxng krunglngkaephaphnthurakssephsphutaaehnngkstriyaehngkrunglngkakhusmrsnangkalxkhkhi nangmnoth nangpla nangchangphngbutrbrrlyklp xinthrchit iphnasuriywngs thsphin shskumar sida sibrth nangsuphrrnmccha thskhiriwn thskhirithryatithawlsetiyn bida nangrchda marda thawcturphktr pu kumphkrrn nxngchay phiephk nxngchay khr nxngchay thusn nxngchay triesiyr nxngchay nangsamnkkha nxngsaw phraram lukekhy hnuman lukekhy mcchanu hlan mitrshayimyraphn shsedcha mulphlm thawckrwrrdi struphraram phralksmn hnuman phali sukhriph xngkht chmphuphan phiephk khnathiphiephkepnissukaekphraram prawtithsknth epnbutrkhnotkhxngthawlsetiynkbnangrchda ecakrunglngka aelaepnhlankhxngthawmaliwrach edimepnykschux nnthk klbchatimaekid sungnnthkmihnathilangethaihkbethwdathnghlay ethwdaehlannkmkcalubhwnnthkcnhwlan nnthkcungekidkhwamaekhn elyipkhxniwephchrcakphraxiswr aelwtharayphwkethwdathimalubhwtn nnthkidekhnkhaehlaethwdataynbimthwn thaihphraxiswrsngihphranaraynihmachwyprabnnthk phranarayncdkarkbnnthk odykarcaaelngxngkhepnnangethphxpsrdkxyutrngthangthinnthkedinphanepnpraca fayyksnnthkemuxidehnnangcaaelngcungekidkhwamhlngaelaekhaipekiywpharasi nangcaaelngaesrngthayindi odyyunkhxesnxwaihnnthkrayratamnangthukthaaelwcayindiphukmitrdwy aelaaelwyksnnthkkthatamnang dwytharatamklxnwa ethphnmpthmphrhmsihna sxdsrxymalaechidchinthngkwangedindnghngsbin kinrineriybthaxaiphxikchanangnxnphmrekhla thngaekhketaphalaephiyngihlemkhlaoynaekwaewwiw myuersfxninxaphryxdtxngtxnglmphrhmnimitr thngphismyeriynghmxnyaythamcchachmsakhr phrasikrkhwangckrvththirngkhfaywannthkkratam dwykhwamphismyihlhlngthungthanakhamwnhangwng chitrngthukephlathnid odyharuimwannepnelhkl cnkrathngthungthanakhamwnhangniwephchrkhxngnnthkchiipthikhakhxngtwexng khannthkkhklngthnid nnthklmlng thnidnn nangaeplngklayepnphranaraynehyiybxknnthkiw kxntay nnthkxangwaphranaraynmihlaymuxtnsuimid phranarayncungihkhastywa ihnnthkipekidihm misibesiyrsibphktryisibmux ehaaehinedinxakasid mixawuthnanachnidkhrbthukmux swnphranarayncaipekidepnmnusymisxngmuxaelatamipkhannthkihid nnthktxmannthkipekidepneprtxyuthiekhaikrlas khxngphraxiswrmikradukyunxxkmacaksirsaaelaichesnexnkhxngtnelnsxcnphraxiswrlngmannthkcungkhxphrihtnipekidepnthsknthtamkhakhxngphranaraynphraxiswrcungihphraelwihnnthkipcutiinkhrrphphranangrchda mehsithawlsetiyn ecakrunglngka ekidmaepnoxrsnamwathsknth tamramekiyrti xawuthkhxngthsknthmidngklxntxipni krathubbathphadophnocnrxng kukkxngfakfaxungxudmuxhnungcbsrvththiruthr muxsxngnnyudphrakhrrkhchymuxsamcbckrkwdaekwng muxsicbphraaesnghxkihymuxhacbtriaekwngikw muxhkchwyidkhthathrmuxecdnncbngawnga muxaepdkhwaidphaeninkhxnmuxekakumexaotmr krsibnnhyibekathnth thsknthyngmikhwamsamarthphiesskhuxkaridthxddwngicisklxng fakiwkbxacarykhuxphravisiokhbutr sunginbangtarakklawiwwa thsknthidswdmntshsnam hruxphranamthng 1 000 khxngphranarayn ephuxihsamarthrxdphncakkhwamtayid 1 khrng aelakxasychwngnn thakarkhwkdwngickhxngtn xxkmaisiwinklxngaekw sunglngxakhmkakbiw aetmikhxesiy khux hwicnn yxmprarthnacaekhahathixyuedimkhxngmn cungtxngekbrksaiwihhangtwkhxngthsknth thsknthcungfakihphravisiokhbutr epnphuduaelklxngdwngic thaihimmiikhrkhaid dwykhwamthiminisyecachu idlkphatwnangsidaphumirupochmthingdngam ipcakphraramthiepnphraswami epnehtuihekidsuksngkhramrahwang fayphraram kb faythsknth cnyatimitrkhxngfaythsknthlmtayipepncanwnmak sudthaythsknthkthuklxlwngexaklxngdwngicip dwyelhephthubaykhxnghnuman thaihthsknthexngktxngtayephraanisyecachuaelakhwamimyxmaephkhxngtn sungkxntay thsknthidrutwaelwwatxngtayaen aetdwykhttiymanacungtxngtxsukbphraram cungaetngxngkhxyangngdngam aelathukkhxngphraramkhatay kxntay thsknthidehnphaphwa aeththicringaelwphraramkhux phranaraynxwtar aelaidsngesiykbnxngchaytwexngkhuxphiephk sungeriykwa thsknthsxnnxng aelaphayhlngphiephkkidthikhrxngkrunglngkasubtxaethn thsknth epnhnunginyksthwarbalsxngtn thiyunefapratuthangekhaphraxuobsthwdphrasrirtnsasdaramkhukbshsedcha ephraathuxwaepn yksthimivththimakethaethiymkn mikarwiekhraahknwa twlakhrxyang thsknth hruxbrrdayksineruxng epntwaethnkhxnghruxthsyu sungepnchnchawphiwdathixyuthangtxnitkhxngxinediyinsmyobran aelaphraramaelaphlphrrkhlingepntwaethnkhxngchawxaryn hruxchawphiwkhawthixyuthangtxnehnux aelachawxarynkidthasngkhramchnachawthsyu sungtxmakidmikaraetngwrrnkrrmeruxng ramaynakhunmaephuxykyxngphwktnexngwngskhxngthsknth thawlsetiyn nangrchda nangmnoth thsknth kumphkrrn phiephk khr thusn triesiyr nangsamnkkha nangebykay wiruncabng kumphkas nangsida xinthrchit brrlyklp thskhiriwn thskhirithr suphrrnmcchalksnaaelasithsknthepnyksrupngam mi 10 hna 20 kr pakaesya taophlng mikayepnsiekhiyw kayepnsithxng txnlngswnekiywnangsida okhlngphaphcitrkrrmfaphnngeruxngramekiyrti thiphraraebiyngwdphrasrirtnsasdaramthsknththrnghxkkbilphth phaphcitrkrrmfaphnngchudramekiyrtinierimekhiyntngaetphaphphranaraynxwtarinpangtang kxnthicaxwtarmaepn phraram ineruxngramekiyrti phaphekhiynnimithnghmd 178 hxng mithngkhabrryayitphaphaelakhabrryayepnokhlngslkbnaephnhinxxntidxyuthi esarxbphraraebiyng aelamiphaphtwlakhrsakhyxik 80 phaph sungswnihyepnfayxsuraelafaywanr ekhiynxyutamsumpratuaelamukhphraraebiyng okhlngpracaphaphwa thskrrthsibphktrchn esiyrtrithrngmkudichyekhiywsi xatmithkryisibphrsuli prasasvththi yingnathxdcitrcaktnid pindawlngka phraxngkhecaeksmsntosphakhy twsakdtamtnchbbedim xangxingsi lksnahwokhn aelaprawtisngekhpkhxngtwlakhrineruxngramekiyrti nay praphnth sukhnthchati rwbrwm thsknth citrkrrmfaphnngwdhwlaophng wathualampong com 2009 07 17 thi ewyaebkaemchchin lilitnaraynsibpangaehlngkhxmulxunthsknth phumisibkhxkhuxmisibsirsa 2021 09 28 thi ewyaebkaemchchin eyiymyksxyuyamklangkrungrtnoksinthr lingkesiy hwokhn sankngankhnakrrmkarwthnthrrmaehngchati www culture go th 2009 08 02 thi ewyaebkaemchchin sithiichkbhwokhn 2016 03 05 thi ewyaebkaemchchin caritnatsilpithy ody nay praemsth bunyachy nitysarsilpakr pithi 50 chbbthi 1 mkrakhm kumphaphnth 2550 hna 5 19 2016 03 05 thi ewyaebkaemchchin phaphcitrkrrmfaphnng eruxngramekiyrti wdhwlaophng wathualampong com 2009 09 07 thi ewyaebkaemchchin okhlngramekiyrti rxbphraraebiyngwdphrasrirtnsasdaram www bloggang com praingpayear bthkhwameruxng thsknth phraexktwcringkhxnghlay khn 2016 03 05 thi ewyaebkaemchchinwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb thsknth kxnhna thsknth thdipthawlsetiyn kstriykrunglngkaineruxngramekiyrti thawthskhiriwngs phiephk