บทความนี้ยังต้องการเพิ่มเพื่อ |
ปืนกลมือ หรือ ปกม. (อังกฤษ: Submachine Gun, SMG) เป็นอาวุธปืนประเภทคาร์บินแบบอัตโนมัติที่ถูกบรรจุด้วยตลับกระสุนหรือแม็กกาซีน ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อให้ยิงด้วยกระสุนปืนพก คำว่า "ปืนกลมือ" เป็นการประกาศเกียรติคุณโดย จอห์น ที ทอมป์สัน ผู้ประดิษฐ์ปืนกลมือทอมป์สัน เพื่ออธิบายถึงแนวคิดการออกแบบว่าเป็นอาวุธปืนแบบอัตโนมัติที่มีอำนาจการยิงน้อยกว่าปืนกล (ดังนั้นจึงมีคำนำหน้าว่า "sub") ในขณะที่ปืนกลจะต้องยิงด้วยกระสุนปืนไรเฟิลเพื่อจัดประเภทเช่นนี้ ปืนกลมือจึงยังไม่ถือว่าเป็นปืนกล
ปืนกลมือนั้นได้ถูกพัฒนาขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง (ค.ศ. 1914-1918) ซึ่งเป็นอาวุธประเภทการรุกในระยะประชิด ส่วนใหญ่สำหรับการโจมตีในสนามเพลาะ เมื่อถึงจุดสูงสุดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง (ค.ศ. 1939-1945) ปืนกลมือจำนวนนับล้านกระบอก ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้งานโดยกองกำลังทหารประจำการ หน่วยทหารคอมมานโดลับ และพลพรรค ภายหลังสงคราม การออกแบบปืนกลมือแบบใหม่ก็ได้ปรากฏขึ้นบ่อยครั้ง อย่างไรก็ตาม ในช่วงปี ค.ศ. 1980 การใช้งานปืนกลมือก็ได้ลดลง ปัจจุบัน, ปืนกลมือก็ได้ถูกแทนที่ด้วยปืนไรเฟิลจู่โจมเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมีระยะการทำงานที่ยาวนานกว่าและมีความสามารถในการเจาะทะลุหมวกเหล็กและชุดเกราะที่ถูกใช้งานโดยทหารราบสมัยใหม่ อย่างไรก็ตาม ปืนกลมือยังคงมีการใช้งานโดยกองกำลังทหารหน่วยรบพิเศษและทีมหน่วยสวาตของตำรวจสำหรับการสู้รบในระยะประชิด(CQB Full:Close-quarters combat) เนื่องจากพวกเขาได้ถือว่า"เป็นอาวุธปืนขนาดลำกล้องปืนพกที่ควบคุมได้ง่ายและมีโอกาสน้อยที่จะเจาะทะลุเป้าหมาย และทำลายศัตรูระยะใกล้ได้ดี"
ข้อดี
ปืนกลมือนั้นเหมือนปืนลูกซอง มันเหมาะสำหรับการต่อสู้ระยะใกล้หรือประชิดในสภาพแวดล้อมที่เป็นเมือง ซึ่งเป็นที่ที่ระยะยิงและความแม่นยำของอาวุธสำคัญน้อยกว่าความสามารถในการโจมตีใส่เป้าหมายได้หลายครั้ง กระสุนปืนพกเหมาะสำหรับการปะทะในเมือง ตั้งแต่ที่มันมีการเจาะทะลุที่ดีและยิงถูกเป้าหมายที่ไม่ได้ตั้งใจน้อยกว่ากระสุนของไรเฟิล
ข้อด้อย
ในทางกลับกัน ปืนกลมือนั้นไม่ทรงประสิทธิภาพกับเกราะ ซึ่งในทางทหารยุคใหม่นั้นจะมีเกราะป้องกันร่างก
กายกันหมด ปืนกลมือไม่ค่อยมีพลังทำลายในระยะไกลและความแม่นยำที่น้อยกว่าในระยะไกลหรือกลางเมื่อเทียบกับปืนไรเฟิล ทำให้มันมีข้อจำกัดในการใช้ในที่โล่ง
ประวัติศาสตร์
ในช่วงต้นของคริสต์ทศวรรษ 20 มีการทดลองเปลี่ยนปืนพกจากให้เป็น กระสุนของปืนพกก็ถูกพัฒนาไปในเวลาเดียวกันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยอิตาลี, เยอรมนี, และสหรัฐอเมริกา
พวกมันเริ่มเป็นที่นิยมในคริสต์ทศวรรษ 1920 และ 1930 ในฐานะอาวุธในตัวเลือกของทั้งเหล่าอาชญากรและตำรวจในอเมริกา ด้วยชื่อเสียงอันโด่งดังของปืนกลมือทอมป์สัน มันมักถูกเรียกว่า"ทอมมี่กัน" (Tommy Gun) ปืนกลมือเริ่มเป็นที่สะดุดตาด้วยการเป็นอาวุธรบในแนวหน้าในสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันปืนกลมือถูกใช้อย่างแพร่หลายโดยตำรวจ หน่วยสวาท คอมมานโดทางทหาร และหน่วยต่อต้านผู้ก่อการร้ายในหลายๆ สถานการณ์
คริสต์ทศวรรษ 19 ถึงคริสต์ทศวรรษ 1920
อาวุธอัตโนมัติแบบแรกที่ใช้กระสุนของปืนพกคือปืนกลแม็กซิมรุ่นที่ลดขนาดลงมา มันถูกใช้เพื่อสาธิตในการตลาดในคริสต์ทศวรรษ 19 ช่วงแรกของปืนกลมือมีเอกลักษณ์เป็นชิ้นส่วนของเหล็ก โดยมีแร่งอยู่ท้ายลำกล้อง ปืนกลมือปรากฏตัวในช่วงหลังของสงครามโลกครั้งที่ 1 ครั้งแรกที่เห็นมันทำหน้าที่คือในสงครามสนามเพลาะ ที่ที่ซึ่งระเบิดมือ ปืนพก และดาบปลายปืนมักถูกใช้งาน
ชาวอิตาเลี่ยนได้พัฒนาในปีพ.ศ. 2458 มันถูกพิจารณาว่าเป็นปืนกลมืออันแรก เนื่องจากมันยิงกระสุนของปืนพก (9 ม.ม.กลิเซนติ) เดิมทีถูกพัฒนาให้เป็นปืนกลสำหรับอากาศยาน บางครั้งก็ถูกใช้โดยทหารราบ ทั้งสองสำหรับการจู่โจมในระยะใกล้และใช้เป็น การออกแบบของมันในท้ายสุดก็ถูกดัดแปลงให้กลายเป็นปืนกลมือ
อย่างไรก็ตาม ปืนกลมือเบิร์กมันน์ เอ็มพี18 เป็นปืนกลมือแบบแรกที่แท้จริงโดยเปรียบเทียบจากวันที่ทำต้นแบบของเบิรกมันน์กับวันที่เบเร็ตต้าเข้าประจำการ ขณะที่เบเร็ตต้า 1918 กลายเป็นแบบพื้นฐานในไม่กี่เดือนก่อนเบิร์กมันน์ เอ็มพี18 ในปีพ.ศ. 2461 เบิร์กมันน์ถูกทดสอบในแบบต้นแบบในช่วงต้นปีพ.ศ. 2459 โครงการปืนกลมือทอมป์สัเริ่มขึ้นในสมัยเดียวกัน วันและการประสบความสำเร็จที่แตกต่างกันมากมายของปืนกลมือรุ่นแรกๆ ทำให้เกิดการโต้เถียงมากมายในหมู่นักประวัติศาตร์ด้านอาวุธปืน ซึ่งบสรุปก็มีผลมาจากเชื้อชาติและการตีความของพวกเขา
เบเร็ตต้า เอ็ม1918 มีพานท้ายที่ทำจากไม้ แมกกาซีนแบบกล่องบรรจุกระสุน 25 นัด และมีอัตราการยิงอยู่ที่ 900 นัดต่อนาที เยอรมันได้ใช้รุ่นที่หนักกว่าของปืนพกลูเกอร์ ติดตั้งด้วยที่ขนาดใหญ่ขึ้น ลแลำกล้องที่ยาวกว่าเดิม; มันเป็นกึ่งอัตโนมัติ มันทรงประสิทธิภาพกับเบิร์กมันน์ ซึ่ง 1918 ได้พัฒนา เอ็มพี18 ใช้กระสุนน 9 ม.ม.แบบพาราเบลลัม โดยเป็นแมกกาซีนแบบก้นหอย เอ็มพี18ถูกใช้โดยกองทหารจู่โจมของเยอรมัน พร้อมกับยุทธวิธีที่ดี ทำให้ประสบชัยชนะที่มีชื่อเสียงในปีสุดท้ายของสงคราม อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่เพียงพอต่อการป้องกันเยอรมันจากการพ่ายแพ้ในเดือนพฤศจิกายน ปีค.ศ. 1918
ปืนกลมือทอมป์สันได้อยู่ในการพัฒนาในช่วงใกล้เคียงกับเบิร์กมันน์และเบเร็ตต้า แต่การพัฒนานั้นก็ถูกพักในปีพ.ศ. 2460 เมื่อสหรัฐฯและนักออกแบบอาวุธ (ทอมป์สัน) ได้เข้าสู่สงคราม การออกแบบสมบูรณ์ในภายหลังและใช้ระบบภายในที่ต่างจากเอ็มพี18 หรือเบเร็ตต้า แต่มันก็พลาดโอกาสในการเป็นปืลกลมือที่ถูกออกแบบโดยเฉพาะกระบอกแรก แต่มันก็กลายเป็นอาวุธพื้นฐานและมีการใช้งานที่ยาวนานกว่าอีกสองแบบ
คริสต์ทศวรรษ 1920 ถึงคริสต์ทศวรรษ 1950
ในปีระหว่างสงคราม ปืนกลมือกลายมาเป็นที่โด่งดังในหมุ่เหล่าอาชญากร อย่าง เจมส์ แคกนี่ที่มักใช้ปืนกลมือทอมป์สันแบบแมกกาซีนกลม ทำให้ทางทหารหลีกเลี่ยงการใช้ปืนนี้ มันยังถูกใช้โดยตำรวจ แต่อาชญากรหลายคนชอบใช้ ถึงกระนั้นปืนกลมือก็เป็นที่ชื่นชอบในทางทหารมากมาย ด้วยการที่หลายประเทศเริ่มออกแบบของพวกเขา โดยเฉพาะในคริสต์ทศวรรษ 1930
ในสหภาพโซเวียต พีพีดี-40 และ พีพีดี34/38 ได้ถูกพัฒนาขึ้น ในฝรั่งเศส แอมอาแอ็สได้ถูกพัฒนาให้เป็น แอมอาแอ็ส-38 ในเยอรมนีได้มีการพัฒนาบางส่วนของเอ็มเพ 18 ชื่อว่าเอ็มพี28/2 และเอ็มพี34 นอกจากนั้น นาซีเยอรมันได้ปรับแต่งเอ็มพี38 มันไม่ใช้ไม้และมีพานท้ายแบบโลหะที่พับได้ อิตาลีได้พัฒนาไปไกลกว่านั้น ด้วยจำนวนของการออกแบบที่มาก ด้วยการมีราคาที่ต่ำ คุณภาพหรือน้ำหนัก
ในช่วงการบุกโปแลนด์ของนาซีเยอรมันในปีพ.ศ. 2482 การผลิตเอ็มเพ 38 เพิ่งเริ่มขึ้นและมีแค่ไม่กี่พันกระบอกที่เข้าประจำการ แต่มันพิสูจน์ถึงการใช้อย่างแพร่หลายในเมือง จากนั้น รุ่นที่ปลอดภัยกว่าและถูกกว่าได้กำเนิดขึ้น เอ็มเพ 40 มีเอ็มเพ 40 เป็นล้านกระบอกถูกผลิตในสงครามโลกครั้งที่ 2 การออกแบบของเอ็มพี40 นั้นใช้เหล็กแบบอะลูมิเนียม แต่มันก็มีน้ำหนักเบาแม้ว่าจะไม่ทนทาน เนื่องมาจากมันลดชิ้นส่วนที่หนักของเอ็มเพ 38
อิตาลีได้พัฒนาเบเร็ตต้า โมเดล 38 ซึ่งเป็นปืนกลมือที่ถูกใช้โดยกองทัพบกอิตาลีในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
อังกฤษได้พัฒนา มีพื้นฐานมาจากเอ็มพี28/2 แต่เนื่องด้วยอัตราการผลิตที่ต่ำและราคาที่แพงทำให้นำไปสู่การสร้างปืนที่ง่ายกว่า, ถูกกว่าและรวดเร็วกว่า ปืนกลมือสเตน ปืนสเตนนั้นถูกมากในช่วงจบของสงครามโลกครั้งที่ 2 นาซีเยอรมันเริ่มผลิตรุ่นเลียนแบบของพวกเขาเอง อังกฤษยังใช้เอ็ม1928 ทอมป์สัน และรวมทั้งเอ็ม1 ที่พัฒนาแล้วอีกมากมาย หลังจากสงคราม สเตนถูกแทนที่ด้วย
อเมริกาและพันธมิตรได้ใช้ปืนกลมือทอมป์สัน โดยเฉพาะซึ่งไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ใช้กับแมกกาซีนแบบกลม เนื่องจากทอมป์สันยังมีราคาแพงในการผลิต ปืนกลมือ เอ็ม3 จึงถูกสร้างขึ้นมาในปีพ.ศ. 2485 ตามมาด้วยการพัฒนาเอ็ม3เอ1ในปีพ.ศ. 2484 เอ็ม3นั้นไม่ได้มีประสิทธิภาพมากกว่าเลย แต่มันถูกสร้างขึ้นด้วยเหล็กราคาถูก ทำให้มันสามารถสร้างได้มากกว่า มันสามารถยิงได้กระสุนแบบ.45 เอพีซี ซึ่งทอมป์สันและใช้ยิง หรือประสุนแบบ 9 ม.ม.ลูเกอร์ ถูกใช้อย่างแพร่หลายโดยฝ่ายพันธมิตรและฝ่ายอักษะ มันเป็นหนึ่งในปืนกลมือที่ประจำการยาวนานที่สุดในสงคราม ถูกผลิตจนถึงคริสต์ทศวรรษ 1960 และประจำการอยู่ในกองทัพของสหรัฐฯจนถึงคริสต์ทศวรรษ 1980
ญี่ปุ่นได้พัฒนาปืนกลมือไทป์ 100 โดยเริ่มใช้ในปี ค.ศ. 1942 ซึ่งไทป์ 100 มีสลักใต้ปากกระบอกปืนเพื่อใช้สำหรับติดตั้งดาบปลายปืน
ฟินแลนด์ได้พัฒนาปืนกลมือ เอ็ม/31 ก่อนจะถึงสงครามฤดูหนาว ซึ่งมันถูกใช้มากมาย อาวุธนี้ใช้กระสุนแบบ 9 ม.ม.พาราเบลลัม ตั้งแต่แมกกาซีนแบบกลมด้วยความจุ 70 นัด (แม้ว่าบ่อยครั้งที่จะใช้จุมากถึง 74 นัด) แม้ว่าอเมริกาจะใช้แมกกาซีนแบบแท่งกับทอมป์สัน และชาวรัซเซียขนแมกกาซีนแบบกลมไม่มากนัก (ปกติมักจะแค่หนึ่ง และที่เหลือก็จะเป็นแบบแท่ง) ปืนกลมือของฟินแลนด์มักใช้แมกกาซีนแบบกลมมากกว่า และมีโอกาสขัดลำกล้องน้อยกว่าแบบแท่ง อาวุธนี้ถูกใช้จนกระทั่งจบสงครามแลปแลนด์ และในช่วงสงครามสงบในคริสต์ทศวรรษ 1990
เมื่อจบสงครามโลกครั้งที่ 2 สหภาพโซเวียตได้เก็บปืนกลมือไว้มากมาย อย่างพีพีชา-41 ซึ่งทหารราบทั้งกองพันสามารถอาจแทบไม่มีอาวุธชนิดอื่นเลย กองทหารของเยอรมันได้ตั้งกองทหารที่รับผิดชอบเรื่องปืนกลมือ การค้นพบเริ่มขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งอัตราการยิงที่สูงเป็นประสิทธิภาพที่ดี แต่เพราะว่าความแม่นยำที่น้อย มันจึงส่งผลให้เกิดการพัฒนาปืนเล็กยาวจู่โจมขึ้นมา
คริสต์ทศวรรษ 1950 ถึงปัจจุบัน
ปืนกลมือได้มีการพัฒนาตนเองในเรื่องการลดการหยุดยั้ง โดยเฉพาะอย่างยิงในกรณีที่ซึ่งอาวุธบรรจุด้วยกระสุนที่มีความเร็วต่ำกว่าเสียง แบบมากมายของสเตนและเฮคเลอร์แอนด์คอช เอ็มพี5รุ่นใหม่ได้ถูกผลิตด้วยตัวหยุดแบบสมบูรณ์ และอาวุธแบบนี้มักถูกใช้โดยหน่วยรบพิเศษและตำรวจ หลังจากสงครามเกาหลีจบลง บทบาทของปืนกลมือในกองทัพก็ลดลงไปด้วย ทั้งปืนกลมือและปืนเล็กยาวถูกแทนที่โดยปืนเล็กยาวจู่โจมแบบใหม่ อย่าง และ ปืนกลมือถูกใช้โดยหน่วยรบพิเศษและที่ปฏิบัติการในสภาพแวดล้อมที่เป็นเมืองหรือในบริเวณที่คับแคบ และเป็นอาวุธป้องกันตัวของลูกเรือในเครื่องบิน พลประจำยานเกราะ และทหารเรือ แม้ว่าปืนกลมือมีความกระชับสำหรับผู้ใช้ แต่มันก็ยังต้องแข่งขันกับปืนคาร์บินและปืนเล็กยาวจู่โจมที่มีความยาวสั้น อำนาจของปืนกลมือในการรักษากฎหมายได้ถูกลดลงโดยการพัฒนาตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1990 ปัจจัยอย่างการใช้ประโยชน์ที่มากของปืนเล็กยาวจู่โจมและคาร์บิน และการใช้ที่เพิ่มขึ้นของเกราะลำตัวได้ผสมผสานกันจนถึงขีดสุดของปืนกลมือ ปืนเล็กยาวจู่โจมและคาร์บินได้เข้ามาแทนที่ปืนกลมือในบางบทบาท อย่างไรก็ตาม ปืนเล็กยาวจู่โจมก็ไม่ได้แทนที่อย่างสมบูรณ์ เพราะน้ำหนักของมัน มันยังมีปากกระบอกที่ใหญ่กว่า แรงถีบที่มากกว่าและดูเหมือนว่าการทะลุทะลวงของมันจะมากเกินไป เนื่องจากกระสุนของมัน
ผู้ที่จะมาแทนที่ปืนกลมือก็ยังมีอาวุธป้องกันบุคคลหรือพีดีดับบลิว (Personal Defense Weapon, PDW) และปืนที่คล้ายปืนพกกลซึ่งยิงกระสุนแบบเจาะเกราะ พีดีดับบลิวทำงานคล้ายปืนกลมือและมักถูกจำแนกว่าเป็นอย่างเดียวกัน อย่างไรก็ตาม กระสุนแบบพิเศษของอาวุธป้องกันตัวนั้นไม่สามารถนำไปใช้ได้กับปืนพกและปืนเล็กยาวแบบทั่วไป และมันมีประสิทธิภาพน้อยกว่ากระสุนของปืนเล็กยาวเมื่อเจอกับเป้าหมายที่ไม่ได้หุ้มเกราะ แนวทางของปืนกลมือยุคใหม่นั้นจะมีน้ำหนักเบาขึ้น เป็นอาวุธที่มีขนาดเล็กและอาจใช้พลาสติก
ประเภทของปืนกลมือ
อ้างอิง
- "The Thompson submachine gun: shooting a 20th century icon. - Free Online Library".
- Military Small Arms Of The 20th Century. Ian Hogg & John Weeks. Krause Publications. 2000. p93
- Military Small Arms Of The 20th Century. Ian Hogg & John Weeks. Krause Publications. 2000. p93
- Military Small Arms Of The 20th Century. Ian Hogg & John Weeks. Krause Publications. 2000. p93
- David Crane (December 11, 2011). Submachine Guns (SMG’s): Outpaced by Today’s Modern Short-Barreled Rifles (SBR’s)/Sub-Carbines, or Still a Viable Tool for Close Quarters Battle/Close Quarters Combat (CQB/CQC)? Defense Review.
- David Crane (December 11, 2011). Submachine Guns (SMG’s): Outpaced by Today’s Modern Short-Barreled Rifles (SBR’s)/Sub-Carbines, or Still a Viable Tool for Close Quarters Battle/Close Quarters Combat (CQB/CQC)? Defense Review.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-08-21. สืบค้นเมื่อ 2009-04-16.
แหล่งข้อมูลอื่น
- ปืนกลมือ 2009-03-16 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนใน guns.ru
- ปืนกลมือใน Encyclopedia Britannica
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniyngtxngkarephimaehlngxangxingephuxphisucnkhwamthuktxngkhunsamarthphthnabthkhwamniidodyephimaehlngxangxingtamsmkhwr enuxhathikhadaehlngxangxingxacthuklbxxk haaehlngkhxmul punklmux khaw hnngsuxphimph hnngsux skxlar JSTOR eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir punklmux hrux pkm xngkvs Submachine Gun SMG epnxawuthpunpraephthkharbinaebbxtonmtithithukbrrcudwytlbkrasunhruxaemkkasin sungthukxxkaebbmaephuxihyingdwykrasunpunphk khawa punklmux epnkarprakasekiyrtikhunody cxhn thi thxmpsn phupradisthpunklmuxthxmpsn ephuxxthibaythungaenwkhidkarxxkaebbwaepnxawuthpunaebbxtonmtithimixanackaryingnxykwapunkl dngnncungmikhanahnawa sub inkhnathipunklcatxngyingdwykrasunpunirefilephuxcdpraephthechnni punklmuxcungyngimthuxwaepnpunklpunklmuxehkhelxraexndkhxch exmphi5thukichxyangaephrhlayodyphukhumkdhmay thimyuththkaraelakxngkalngthangthhar punklmuxnnidthukphthnakhuninchwngsngkhramolkkhrngthihnung kh s 1914 1918 sungepnxawuthpraephthkarrukinrayaprachid swnihysahrbkarocmtiinsnamephlaa emuxthungcudsungsudinchwngsngkhramolkkhrngthisxng kh s 1939 1945 punklmuxcanwnnblankrabxk idthuksrangkhunephuxichnganodykxngkalngthharpracakar hnwythharkhxmmanodlb aelaphlphrrkh phayhlngsngkhram karxxkaebbpunklmuxaebbihmkidpraktkhunbxykhrng xyangirktam inchwngpi kh s 1980 karichnganpunklmuxkidldlng pccubn punklmuxkidthukaethnthidwypunirefilcuocmepnswnihy sungmirayakarthanganthiyawnankwaaelamikhwamsamarthinkarecaathaluhmwkehlkaelachudekraathithukichnganodythharrabsmyihm xyangirktam punklmuxyngkhngmikarichnganodykxngkalngthharhnwyrbphiessaelathimhnwyswatkhxngtarwcsahrbkarsurbinrayaprachid CQB Full Close quarters combat enuxngcakphwkekhaidthuxwa epnxawuthpunkhnadlaklxngpunphkthikhwbkhumidngayaelamioxkasnxythicaecaathaluepahmay aelathalaystrurayaikliddi khxdipunklmuxnnehmuxnpunluksxng mnehmaasahrbkartxsurayaiklhruxprachidinsphaphaewdlxmthiepnemuxng sungepnthithirayayingaelakhwamaemnyakhxngxawuthsakhynxykwakhwamsamarthinkarocmtiisepahmayidhlaykhrng krasunpunphkehmaasahrbkarpathainemuxng tngaetthimnmikarecaathaluthidiaelayingthukepahmaythiimidtngicnxykwakrasunkhxngirefilkhxdxyinthangklbkn punklmuxnnimthrngprasiththiphaphkbekraa sunginthangthharyukhihmnncamiekraapxngknrangk kayknhmd punklmuximkhxymiphlngthalayinrayaiklaelakhwamaemnyathinxykwainrayaiklhruxklangemuxethiybkbpunirefil thaihmnmikhxcakdinkarichinthiolngprawtisastrinchwngtnkhxngkhristthswrrs 20 mikarthdlxngepliynpunphkcakihepn krasunkhxngpunphkkthukphthnaipinewlaediywkninchwngsngkhramolkkhrngthi 1 odyxitali eyxrmni aelashrthxemrika phwkmnerimepnthiniyminkhristthswrrs 1920 aela 1930 inthanaxawuthintweluxkkhxngthngehlaxachyakraelatarwcinxemrika dwychuxesiyngxnodngdngkhxngpunklmuxthxmpsn mnmkthukeriykwa thxmmikn Tommy Gun punklmuxerimepnthisadudtadwykarepnxawuthrbinaenwhnainsngkhramolkkhrngthi 2 pccubnpunklmuxthukichxyangaephrhlayodytarwc hnwyswath khxmmanodthangthhar aelahnwytxtanphukxkarrayinhlay sthankarn khristthswrrs 19 thungkhristthswrrs 1920 aebbcalxngkhxngthxmpsnkbaemkkasinaebbklxng xawuthxtonmtiaebbaerkthiichkrasunkhxngpunphkkhuxpunklaemksimrunthildkhnadlngma mnthukichephuxsathitinkartladinkhristthswrrs 19 chwngaerkkhxngpunklmuxmiexklksnepnchinswnkhxngehlk odymiaerngxyuthaylaklxng punklmuxprakttwinchwnghlngkhxngsngkhramolkkhrngthi 1 khrngaerkthiehnmnthahnathikhuxinsngkhramsnamephlaa thithisungraebidmux punphk aeladabplaypunmkthukichngan chawxitaeliynidphthnainpiph s 2458 mnthukphicarnawaepnpunklmuxxnaerk enuxngcakmnyingkrasunkhxngpunphk 9 m m kliesnti edimthithukphthnaihepnpunklsahrbxakasyan bangkhrngkthukichodythharrab thngsxngsahrbkarcuocminrayaiklaelaichepn karxxkaebbkhxngmninthaysudkthukddaeplngihklayepnpunklmux xyangirktam punklmuxebirkmnn exmphi18 epnpunklmuxaebbaerkthiaethcringodyepriybethiybcakwnthithatnaebbkhxngebirkmnnkbwnthieberttaekhapracakar khnathiebertta 1918 klayepnaebbphunthaninimkieduxnkxnebirkmnn exmphi18 inpiph s 2461 ebirkmnnthukthdsxbinaebbtnaebbinchwngtnpiph s 2459 okhrngkarpunklmuxthxmpserimkhuninsmyediywkn wnaelakarprasbkhwamsaercthiaetktangknmakmaykhxngpunklmuxrunaerk thaihekidkarotethiyngmakmayinhmunkprawtisatrdanxawuthpun sungbsrupkmiphlmacakechuxchatiaelakartikhwamkhxngphwkekha ebertta exm1918 miphanthaythithacakim aemkkasinaebbklxngbrrcukrasun 25 nd aelamixtrakaryingxyuthi 900 ndtxnathi eyxrmnidichrunthihnkkwakhxngpunphkluekxr tidtngdwythikhnadihykhun laelaklxngthiyawkwaedim mnepnkungxtonmti mnthrngprasiththiphaphkbebirkmnn sung 1918 idphthna exmphi18 ichkrasunn 9 m m aebbpharaebllm odyepnaemkkasinaebbknhxy exmphi18thukichodykxngthharcuocmkhxngeyxrmn phrxmkbyuththwithithidi thaihprasbchychnathimichuxesiynginpisudthaykhxngsngkhram xyangirktam mnkimephiyngphxtxkarpxngkneyxrmncakkarphayaephineduxnphvscikayn pikh s 1918 punklmuxthxmpsnidxyuinkarphthnainchwngiklekhiyngkbebirkmnnaelaebertta aetkarphthnannkthukphkinpiph s 2460 emuxshrthaelankxxkaebbxawuth thxmpsn idekhasusngkhram karxxkaebbsmburninphayhlngaelaichrabbphayinthitangcakexmphi18 hruxebertta aetmnkphladoxkasinkarepnpulklmuxthithukxxkaebbodyechphaakrabxkaerk aetmnkklayepnxawuthphunthanaelamikarichnganthiyawnankwaxiksxngaebb khristthswrrs 1920 thungkhristthswrrs 1950 punklmuxexmeph 40 yudphanthaypunklmuxithp 100punklmux exm3 inpirahwangsngkhram punklmuxklaymaepnthiodngdnginhmuehlaxachyakr xyang ecms aekhknithimkichpunklmuxthxmpsnaebbaemkkasinklm thaihthangthharhlikeliyngkarichpunni mnyngthukichodytarwc aetxachyakrhlaykhnchxbich thungkrannpunklmuxkepnthichunchxbinthangthharmakmay dwykarthihlaypraethserimxxkaebbkhxngphwkekha odyechphaainkhristthswrrs 1930 inshphaphosewiyt phiphidi 40 aela phiphidi34 38 idthukphthnakhun infrngess aexmxaaexsidthukphthnaihepn aexmxaaexs 38 ineyxrmniidmikarphthnabangswnkhxngexmeph 18 chuxwaexmphi28 2 aelaexmphi34 nxkcaknn nasieyxrmnidprbaetngexmphi38 mnimichimaelamiphanthayaebbolhathiphbid xitaliidphthnaipiklkwann dwycanwnkhxngkarxxkaebbthimak dwykarmirakhathita khunphaphhruxnahnk inchwngkarbukopaelndkhxngnasieyxrmninpiph s 2482 karphlitexmeph 38 ephingerimkhunaelamiaekhimkiphnkrabxkthiekhapracakar aetmnphisucnthungkarichxyangaephrhlayinemuxng caknn runthiplxdphykwaaelathukkwaidkaenidkhun exmeph 40 miexmeph 40 epnlankrabxkthukphlitinsngkhramolkkhrngthi 2 karxxkaebbkhxngexmphi40 nnichehlkaebbxalumieniym aetmnkminahnkebaaemwacaimthnthan enuxngmacakmnldchinswnthihnkkhxngexmeph 38 xitaliidphthnaebertta omedl 38 sungepnpunklmuxthithukichodykxngthphbkxitaliinchwngsngkhramolkkhrngthisxng xngkvsidphthna miphunthanmacakexmphi28 2 aetenuxngdwyxtrakarphlitthitaaelarakhathiaephngthaihnaipsukarsrangpunthingaykwa thukkwaaelarwderwkwa punklmuxsetn punsetnnnthukmakinchwngcbkhxngsngkhramolkkhrngthi 2 nasieyxrmnerimphlitruneliynaebbkhxngphwkekhaexng xngkvsyngichexm1928 thxmpsn aelarwmthngexm1 thiphthnaaelwxikmakmay hlngcaksngkhram setnthukaethnthidwy xemrikaaelaphnthmitridichpunklmuxthxmpsn odyechphaasungimidthukxxkaebbmaihichkbaemkkasinaebbklm enuxngcakthxmpsnyngmirakhaaephnginkarphlit punklmux exm3 cungthuksrangkhunmainpiph s 2485 tammadwykarphthnaexm3ex1inpiph s 2484 exm3nnimidmiprasiththiphaphmakkwaely aetmnthuksrangkhundwyehlkrakhathuk thaihmnsamarthsrangidmakkwa mnsamarthyingidkrasunaebb 45 exphisi sungthxmpsnaelaichying hruxprasunaebb 9 m m luekxr thukichxyangaephrhlayodyfayphnthmitraelafayxksa mnepnhnunginpunklmuxthipracakaryawnanthisudinsngkhram thukphlitcnthungkhristthswrrs 1960 aelapracakarxyuinkxngthphkhxngshrthcnthungkhristthswrrs 1980 yipunidphthnapunklmuxithp 100 odyerimichinpi kh s 1942 sungithp 100 mislkitpakkrabxkpunephuxichsahrbtidtngdabplaypun finaelndidphthnapunklmux exm 31 kxncathungsngkhramvduhnaw sungmnthukichmakmay xawuthniichkrasunaebb 9 m m pharaebllm tngaetaemkkasinaebbklmdwykhwamcu 70 nd aemwabxykhrngthicaichcumakthung 74 nd aemwaxemrikacaichaemkkasinaebbaethngkbthxmpsn aelachawrsesiykhnaemkkasinaebbklmimmaknk pktimkcaaekhhnung aelathiehluxkcaepnaebbaethng punklmuxkhxngfinaelndmkichaemkkasinaebbklmmakkwa aelamioxkaskhdlaklxngnxykwaaebbaethng xawuthnithukichcnkrathngcbsngkhramaelpaelnd aelainchwngsngkhramsngbinkhristthswrrs 1990 emuxcbsngkhramolkkhrngthi 2 shphaphosewiytidekbpunklmuxiwmakmay xyangphiphicha 41 sungthharrabthngkxngphnsamarthxacaethbimmixawuthchnidxunely kxngthharkhxngeyxrmnidtngkxngthharthirbphidchxberuxngpunklmux karkhnphberimkhuninchwngsngkhramolkkhrngthi 2 sungxtrakaryingthisungepnprasiththiphaphthidi aetephraawakhwamaemnyathinxy mncungsngphlihekidkarphthnapunelkyawcuocmkhunma khristthswrrs 1950 thungpccubn exfexn phi90 twxyangkhxngxawuthpxngkntwaelapunklmuxthithukphthnainpikh s 1980 punklmuxidmikarphthnatnexngineruxngkarldkarhyudyng odyechphaaxyangyinginkrnithisungxawuthbrrcudwykrasunthimikhwamerwtakwaesiyng aebbmakmaykhxngsetnaelaehkhelxraexndkhxch exmphi5runihmidthukphlitdwytwhyudaebbsmburn aelaxawuthaebbnimkthukichodyhnwyrbphiessaelatarwc hlngcaksngkhramekahlicblng bthbathkhxngpunklmuxinkxngthphkldlngipdwy thngpunklmuxaelapunelkyawthukaethnthiodypunelkyawcuocmaebbihm xyang aela punklmuxthukichodyhnwyrbphiessaelathiptibtikarinsphaphaewdlxmthiepnemuxnghruxinbriewnthikhbaekhb aelaepnxawuthpxngkntwkhxnglukeruxinekhruxngbin phlpracayanekraa aelathharerux aemwapunklmuxmikhwamkrachbsahrbphuich aetmnkyngtxngaekhngkhnkbpunkharbinaelapunelkyawcuocmthimikhwamyawsn xanackhxngpunklmuxinkarrksakdhmayidthukldlngodykarphthnatngaetkhristthswrrs 1990 pccyxyangkarichpraoychnthimakkhxngpunelkyawcuocmaelakharbin aelakarichthiephimkhunkhxngekraalatwidphsmphsankncnthungkhidsudkhxngpunklmux punelkyawcuocmaelakharbinidekhamaaethnthipunklmuxinbangbthbath xyangirktam punelkyawcuocmkimidaethnthixyangsmburn ephraanahnkkhxngmn mnyngmipakkrabxkthiihykwa aerngthibthimakkwaaeladuehmuxnwakarthaluthalwngkhxngmncamakekinip enuxngcakkrasunkhxngmn phuthicamaaethnthipunklmuxkyngmixawuthpxngknbukhkhlhruxphididbbliw Personal Defense Weapon PDW aelapunthikhlaypunphkklsungyingkrasunaebbecaaekraa phididbbliwthangankhlaypunklmuxaelamkthukcaaenkwaepnxyangediywkn xyangirktam krasunaebbphiesskhxngxawuthpxngkntwnnimsamarthnaipichidkbpunphkaelapunelkyawaebbthwip aelamnmiprasiththiphaphnxykwakrasunkhxngpunelkyawemuxecxkbepahmaythiimidhumekraa aenwthangkhxngpunklmuxyukhihmnncaminahnkebakhun epnxawuththimikhnadelkaelaxacichphlastikpraephthkhxngpunklmuxpunklmuxaeblkhmnn exmphi18 punklexchekhexmphi 5xangxing The Thompson submachine gun shooting a 20th century icon Free Online Library Military Small Arms Of The 20th Century Ian Hogg amp John Weeks Krause Publications 2000 p93 Military Small Arms Of The 20th Century Ian Hogg amp John Weeks Krause Publications 2000 p93 Military Small Arms Of The 20th Century Ian Hogg amp John Weeks Krause Publications 2000 p93 David Crane December 11 2011 Submachine Guns SMG s Outpaced by Today s Modern Short Barreled Rifles SBR s Sub Carbines or Still a Viable Tool for Close Quarters Battle Close Quarters Combat CQB CQC Defense Review David Crane December 11 2011 Submachine Guns SMG s Outpaced by Today s Modern Short Barreled Rifles SBR s Sub Carbines or Still a Viable Tool for Close Quarters Battle Close Quarters Combat CQB CQC Defense Review khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2010 08 21 subkhnemux 2009 04 16 aehlngkhxmulxunpunklmux 2009 03 16 thi ewyaebkaemchchinin guns ru punklmuxin Encyclopedia Britannicabthkhwamthhar hruxkarthharniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldkhk