อ ล บ รอก อาหร บ الب راق al Burāq หร อ æ l ˈ b ɔː r æ k ฟ าแลบ เป นม าว เศษใน ส งม ช ว ตท มาจากสวรรค โดยม กจะขนส งเหล าศ

อัล-บุรอก (อาหรับ: البُراق al-Burāq หรือ /ælˈbɔːræk/ "ฟ้าแลบ") เป็นม้าวิเศษใน: สิ่งมีชีวิตที่มาจากสวรรค์ โดยมักจะขนส่งเหล่าศาสดาหลายท่าน ซึ่งในฮะดีษส่วนใหญ่มักจะขนศาสดามุฮัมมัดจากมักกะฮ์ถึงเยรูซาเลม และกลับมาบนโลกในช่วง หรือ 'การเดินทางในเวลากลางคืน'.

ศัพทมูลวิทยา

ใน ได้อ้างถึงงานของว่า คำนี้ได้รับมาจากคำว่า"บัรก์" อาหรับ: برق หมายถึง "ฟ้าแลบ". ส่วน ได้กล่าวว่า "โบรัก" เป็นคำที่เป็นรูปภาษาอาหรับของ *บาราก หรือ *บารัก หมายถึง 'สัตว์ขี่, ภูเขา' (เปอร์เซียสมัยใหม่ บารา)".

รายละเอียด

ภาพของบุรอกในตะวันออกใกล้และมักจะมีใบหน้าเป็นมนุษย์ แต่ไม่มีฮะดีษหรือหลักฐานไหนที่กล่าวว่ามันมีใบหน้าเป็นมนุษย์ บางที่การกระทำนี้อาจเกิดขึ้นจากการแปลภาษาจากภาษาอาหรับเป็นภาษาเปอร์เซีย และเรื่องที่กล่าวถึงสัตว์ปีกว่า "เป็นสัตว์ที่มีใบหน้าที่สวยงาม".

ตัวอย่างฮะดีษที่กล่าวถึงบุร็อกไว้ว่า:

จากนั้นสัตว์สีขาว ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าล่อแต่ใหญ่กว่าลาถูกนำมาให้ฉัน ... ก้าวหนึ่งของมันจะก้าวไปได้ไกลสุดเท่าที่มันเห็น
— มุฮัมมัด อัล-บุคอรี, ซอฮีหฺ อัล-บุคอรี

ในการอธิบายช่วงแรกไม่มีคำยืนยันว่ามันมีเพศอะไร. ตามปกติควรจะเป็นเพศผู้ แต่ได้กล่าวว่ามันเป็นเพศเมีย และมักจะถูกวาดโดยมีหัวเป็นผู้หญิง

การเดินทางสู่สวรรค์ชั้นเจ็ด

การเดินทางในเวลากลางคืนเริ่มขึ้นในปีที่สิบของการเป็นศาสดาของมุฮัมมัด ตอนนั้นเขาอยู่คนเดียวที่บ้านของลูกพี่ลูกน้องเขาในมักกะฮ์ (บ้านของ). หลังจากนั้น มุฮัมมัดเดินไปที่ มัสยิดใหญ่แห่งมักกะฮ์. ในขณะที่กำลังพักผ่อนที่กะอ์บะฮ์นั้น มลาอิกะฮ์ (เทวทูต) ญิบรีลได้ปรากฎต่อหน้าเขา พร้อมกับบุร็อก. มุฮัมมัดขึ้นบนหลังมันและเดินทางไป "มัสยิดที่ไกลที่สุด".

สถานที่ของมัสยิดนั้นไม่เป็นที่แน่ชัด แต่ส่วนใหญยืนยันว่ามันหมายถึงมัสยิดอัลอักศอในเยรูซาเลม. หลังจากนั้นบุร็อกได้นำท่านไปที่ เพื่อพบบรรดาศาสดารุ่นแรกและพบกับอัลลอฮ์. พระองค์บัญชาให้มุฮัมมัดบอกกับผู้ศรัทธาว่าต้องละหมาด 50 ครั้งต่อวัน. แต่หลังจากโต้แย้งกับนบีมูซา (โมเสส) แล้ว มุฮัมมัดได้กลับไปหาอัลลอฮ์และพระองค์ทรงลดเวลาละหมาดเหลือ 10 ครั้ง และจากนั้นจึงเป็น 5 ครั้งต่อวัน. หลังจากนั้นบุร็อกได้ส่งมุฮัมมัดกลับไปที่มักกะฮ์

ในวัฒนธรรมอื่น

บุร็อกที่เป็นเอกลักษณ์^[] สลักที่มินดาเนา ประเทศฟิลิปปินส์

เป็นหนึ่งในชื่อผู้ชายของประเทศตุรกี
หนึ่งในบริษัทปิโตรเลียมของประเทศมาเลเซียมีชื่อว่าน้ำมันบุร็อก

ดูเพิ่ม

เพกาซัส
เครูบ
ลามัสซู (กระทิงมีปีก)

อ้างอิง

Vuckovic, Brooke Olson (2004). Heavenly Journeys, Earthly Concerns. Routledge. p. 48. ISBN . สืบค้นเมื่อ 25 October 2015.
Gruber, Christane J., "al-Burāq", in: Encyclopaedia of Islam, THREE, Edited by: Kate Fleet, Gudrun Krämer, Denis Matringe, John Nawas, Everett Rowson. Consulted online on 14 April 2018 <https://dx.doi.org/10.1163/1573-3912_ei3_COM_24366>
Hadith v. as Influenced by Iranian Ideas and Practices ที่
, ^[]
T.W. Arnold (1965). (PDF). p. 118. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2021-11-02. สืบค้นเมื่อ 2019-02-02.
Sullivan, Leah. (PDF). stanford.edu. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 12 July 2007. สืบค้นเมื่อ 13 November 2018.
. Buraq Oil. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-08-15. สืบค้นเมื่อ 22 June 2016.

แหล่งข้อมูลอื่น

[1] Vuckovic, Brooke Olson (2004). Heavenly Journeys, Earthly Concerns. Routledge. p. 48. ISBN . สืบค้นเมื่อ 25 October 2015.

[2] Gruber, Christane J., "al-Burāq", in: Encyclopaedia of Islam, THREE, Edited by: Kate Fleet, Gudrun Krämer, Denis Matringe, John Nawas, Everett Rowson. Consulted online on 14 April 2018 <https://dx.doi.org/10.1163/1573-3912_ei3_COM_24366>

[3] Hadith v. as Influenced by Iranian Ideas and Practices ที่

[4] , ^[]

[5] T.W. Arnold (1965). (PDF). p. 118. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2021-11-02. สืบค้นเมื่อ 2019-02-02.

[6] Sullivan, Leah. (PDF). stanford.edu. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 12 July 2007. สืบค้นเมื่อ 13 November 2018.

[7] . Buraq Oil. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-08-15. สืบค้นเมื่อ 22 June 2016.