นกอีแจว | |
---|---|
ชุดขนในฤดูผสมพันธุ์ของนกอีแจว มีขนหางคู่กลางยาว หน้าและปีกสีขาว ขนต้นคอสีทองเรียบ | |
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Aves |
อันดับ: | Charadriiformes |
วงศ์: | |
สกุล: | Hydrophasianus |
สปีชีส์: | H. chirurgus |
ชื่อทวินาม | |
Hydrophasianus chirurgus (, 1786) | |
แหล่งกระจายพันธุ์ของนกอีแจว (H. chirurgus) | |
ชื่อพ้อง | |
Parra chinensis |
นกอีแจว (ชื่อวิทยาศาสตร์: Hydrophasianus chirurgus;อังกฤษ: pheasant-tailed jacana) เป็นนกชนิดเดียวในสกุลนกอีแจว (Hydrophasianus) ลักษณะเฉพาะคือมีชุดขนนอกฤดูและในฤดูผสมพันธุ์แตกต่างกันที่สีขนและความยาวของหาง โดยตัวเมียมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้ ตัวเมียหนึ่งตัวจะจับคู่ผสมพันธุ์กับเพศผู้หลายตัวและทำรังหลายรังในบริเวณเดียวกันในแบบฮาเร็ม ลูกหลายครอกถูกเลี้ยงโดยตัวผู้หลายตัว ลักษณะเด่นร่วมเช่นเดียวกับนกใน (Jacanidae) คือ มีนิ้วตีนและเล็บตีนยาวเพื่อช่วยพยุงตัวขณะเดินบนใบพืชลอยน้ำในถิ่นอาศัยหนองน้ำตื้น บางครั้งอาจว่ายน้ำหรือลุยน้ำที่ลึกถึงต้นขาขณะหาอาหาร นกอีแจวกินสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังเป็นหลัก พบได้ตามแหล่งน้ำจืดในเอเชียเขตร้อน ตั้งแต่เยเมนทางตะวันตกไปจนถึงฟิลิปปินส์ทางตะวันออกและอาจอพยพในบางช่วงตามฤดูกาล เป็นนกชนิดเดียวในวงศ์ที่อพยพเป็นระยะทางไกล
อนุกรมวิธาน
| |||||||||||||||||||||||||||||||||
แผนผังวิวัฒนาการชาติพันธุ์อย่างย่อ แสดงความสัมพันธ์ในวงศ์ Jacanidae ของสกุลต่าง ๆ อ้างอิงการศึกษาลำดับยีน จากไมโตคอนเดรีย |
นกอีแจว (Hydrophasianus chirurgus) ถูกอธิบายโดยนักสำรวจชาวฝรั่งเศส (Pierre Sonnerat) ในปีค.ศ.1776 ในหนังสือการเดินทางสู่นิวกินี (Voyage à la Nouvelle Guinée) ซึ่งรวมภาพประกอบของนกที่เขาเรียกว่า "ศัลยแพทย์แห่งเกาะลูซอน" (Le Chirurgien de l'Isle de Luzon) อธิบายถึงนกที่มีนิ้วเท้ายาว มีส่วนขยายของขนหางยาวคล้ายกับมีดที่ใช้ในการถ่ายเลือดโดยศัลยแพทย์ในยุคนั้น จากคำอธิบายนี้ (Le Chirurgien) นกอีแจวได้รับชื่อทวินามโดย (Giovanni Scopoli) ในปีค.ศ.1787 ในหนังสือ การอธิบายพืชและสัตว์อย่างละเอียดเล่มที่ 2 (Deliciae florae et faunae Insubricae, Pars II) ซึ่งนกอีแจวถูกจัดในสกุล Tringa และชื่อเฉพาะ chirurgus (ชื่ิอทวินาม:Tringa chirurgus) ต่อมานกอีแจวถูกจัดในสกุล Parra (และมีชื่อพ้อง Parra luzonensis) ร่วมกับนกอีแจวชนิดอื่น ๆ และต่อมาสกุลในวงศ์นกอีแจวและนกพริก (ต่อมาเรียกว่า Parridae) ก็แยกจากกันเป็นหลายสกุล
ชื่อสกุล Hydrophasianus ของนกอีแจวหมายถึง "ไก่ฟ้าน้ำ" หรือ "ไก่น้ำ" ถูกสร้างขึ้นโดย (Johann Georg Wagler) ในปีค.ศ. 1832 เพื่อแยกนกอีแจวออกจากนกอีแจวอื่นและนกพริก เนื่องจากนกอีแจว (H. chirurgus) มีความโดดเด่น คือ
- จะงอยปากแหลมเรียวยาว
- ไม่มีแถบกระจังหน้าผาก (lappet)
- นิ้วตีนหลังที่สั้นกว่านกสกุลนกพริก (Metopidius)
- (primary) นอกสุดสองเส้นรูปใบหอก และขนปลายปีกเส้นที่สี่ชี้แหลม
- ขนสองชุดนอกฤดูและในฤดูผสมพันธุ์แตกต่างกัน
สกุลนกอีแจว (Hydrophasianus) มีสมาชิกเพียงชนิดเดียว (monotypic genus) คือ นกอีแจว
ชื่ออื่น
ลักษณะทางสรีรวิทยา
เป็นนกขนาดเล็ก ปลายปากถึงโคนหางยาว 30 เซนติเมตร จะงอยปากแหลมตรง ปีกแต่ละข้างมีเดือยยื่น ตัวเมียจะมีขนาดโตกว่าตัวผู้เล็กน้อย สีของปาก ขา และนิ้วเป็นสีเทาอมฟ้า หน้าผาก รอบตาและคอด้านล่างสีขาว กระหม่อมสีน้ำตาล คอด้านบนสีเหลือง สลับแถบสีดำขั้นกลางระหว่างคอสองด้าน ปีกสีขาวตัดกับสีของลำตัวด้านบนน้ำตาลดำ และลำตัวด้านล่างซึ่งมีสีดำเป็นมันชัดเจน ขณะบินปีกขาวปลายปีกดำ
นิ้วตีนที่ยาวมากและเล็บตีนยาวช่วยในการกระจายน้ำหนักตัว ทำให้สามารถเดินบนกอพืชลอยน้ำ ใบพืชลอยน้ำหรือใบบัวที่ลอยอยู่เหนือน้ำเพื่อหาอาหารได้ นิ้วตีน 4 นิ้ว ด้านหน้า 3 นิ้ว และด้านหลัง 1 นิ้ว
นกอีแจวมีลักษณะโดดเด่นมากที่สีขนและขนหางที่ยาว ซึ่งยาวที่สุดในวงศ์นกพริกและนกอีแจว และเป็นชนิดเดียวในวงศ์มีชุดขนนอกฤดูผสมพันธุ์และในฤดูผสมพันธุ์ที่แตกต่างกัน โดยเปลี่ยนขนเมื่อใกล้ฤดูผสมพันธุ์ ชุดขนนอกฤดูผสมพันธุ์ หน้าผากถึงท้ายทอยน้ำตาลเข้ม หน้าและคอขาวมีแถบตาต่อเนื่องถึงแถบอกสีดำ ข้างคอเหลือง ลำตัวด้านบนน้ำตาล ลำตัวด้านล่างขาว คล้ายนกพริกที่ยังไม่เต็มวัย แต่ขณะบินปีกขาวปลายปีกดำ ส่วนชุดขนในฤดูผสมพันธุ์ ขนหางคู่กลางจะยื่นยาวออกไปอีก 25 เซนติเมตร ยาวมากกว่าปกติถึง 10 เท่า เป็นที่มาของชื่อนกอีแจวในภาษาอังกฤษ นกอีแจวหางไก่ฟ้า (pheasant-tailed jacana)
การวัดขนาด
การวัดขนาดนกตามมาตรฐานจากการศึกษาตัวอย่างมีชีวิตในช่วงฤดูผสมพันธุ์ในประเทศไทย โดยเฉลี่ยจากตัวผู้ 17 ตัว และตัวเมีย 4 ตัว ร่วมกับข้อมูลบางส่วนของการวัดส่วนหัวจาก Rasmussen and Anderton (2005) (จากปลายจะงอยปากถึงด้านหลังของกะโหลก)
ขนาดนกในช่วงฤดูผสมพันธุ์ | ||
---|---|---|
ตัวผู้ | ตัวเมีย | |
น้ำหนัก (กรัม) | 129.2 | 140.7 |
จะงอยปาก (เซนติเมตร) | 2.89 | 3.12 |
ปีก (เซนติเมตร) | 24.76 | 25.83 |
กระดูกข้อเท้า (เซนติเมตร) | 5.72 | 6.33 |
หาง (เซนติเมตร) | 25.75 | 28.34 |
หัว (เซนติเมตร) | 5.3-5.5 | 5.8-6.3 |
ความยาว (เซนติเมตร) | 45.91 | 50.27 |
- ชุดขนในฤดูผสมพันธุ์ ขนคอด้านบน (ด้านหลัง) สีเหลืองทอง หน้าขาวล้วน มีเส้นดำตัดระหว่างคอบนและล่าง (หน้าหลัง)
- ชุดขนนอกฤดูผสมพันธุ์ ขนคอบน (ด้านหลัง) มีร่องรอยขนสีเหลืองแซม
- ชุดขนนอกฤดูผสมพันธุ์ หางสั้น แถบสีน้ำตาลดำลากผ่านจากโคนปาก ตา สู่คอ ขนปีกขาวเมื่อหุบปีก ไม่ชัดเจน ขาที่ยาวบางครั้งลุยน้ำที่ลึกถึงลำตัวด้านล่าง หรือใช้ว่ายน้ำ
- กลุ่มนกอีแจว ที่เกาะไต้หวัน
- (ชุดขนนอกฤดูผสมพันธุ์) แถบสีน้ำตาลดำลากผ่านจากโคนปาก ตา สู่คอ คล้ายสร้อย ท้องขาว
พฤติกรรม
มักอาศัยตามแหล่งน้ำ เพื่อหากินอาหารที่จับและจิกกินตามผิวน้ำ อาหารได้แก่สัตว์น้ำเล็ก ๆ รวมทั้งแมลงต่าง ๆ และพืชน้ำบางชนิดบางส่วนเช่น เมล็ดพืช ราก สามารถว่ายน้ำได้คล่อง และบินได้ไกลในการอพยพ แต่ในแหล่งน้ำมักบินไม่นานเพื่อหลบหนี เป็นนกที่ไม่ได้พบเห็นโดยทั่วไป ในฤดูหนาวอาจรวมเป็นกลุ่มได้ถึง 50–100 ตัว
เสียงร้อง "มี-อู่ย" หรือ "แจว-แจว"
การผสมพันธุ์และทำรัง
ผสมในช่วงเดือนพฤษภาคม–สิงหาคม นกอีแจวตัวเมียเป็นฝ่ายเกี้ยวพาราสี โดยเมื่อเลือกคู่แล้ว นกตัวเมียเดินหาจุดที่เหมาะสมในการรับน้ำหนักนกสองตัว โดยยืนก้มหัวและยกก้นขึ้น นกตัวผู้จะร่อนลงบนหลังของตัวเมียและกระพือปีกในการทรงตัวขณะผสมพันธุ์
นกอีแจวตัวเมียหลังจากเลือกคู่และผสมพันธุ์แล้วจะหาที่วางไข่ ตัวเมียเป็นฝ่ายทำรังแบบง่าย ๆ ส่วนมากใช้จอกหูหนู และพืชจำพวกสาหร่ายมากองรวมกันอย่างลวก ๆ บนแพจอกหูหนู หรือพืชลอยน้ำ วางไข่ครอกละประมาณ 3–4 ฟอง ไข่สีเขียวสนิมทองแดง (เขียวอมฟ้า) แกมจุดดำน้ำตาล บางครั้งอาจพบไข่บางใบมีสีฟ้าน้ำทะเล การวางไข่ของตัวเมียแต่ละฟองห่างกันประมาณ 24 ชั่วโมง จากนั้นเมื่อครบ 4 ฟอง ตัวเมียปล่อยให้นกอีแจวตัวผู้ซึ่งมีรูปร่างขนาดที่เล็กกว่ารับภาระฟักไข่และเลี้ยงลูกตามลำพัง ส่วนตัวเมียจะไปจับคู่ใหม่ ซึ่งอาจมีถึง 4–10 ตัวในช่วงเวลาฤดูผสมพันธุ์หนึ่ง ๆ (เรียก polyandry)
ในปากีสถาน นกตัวเมียจับคู่ 2 ครั้ง ในประเทศไทยพบว่านกตัวเมียใช้เวลา 17–21 วันในการจับคู่วางไข่ครั้งต่อไป ในประเทศจีนพบว่าตัวเมียใช้เวลา 9–12 วันและจับคู่ตัวผู้ประมาณ 7–10 ตัวในหนึ่งฤดูกาล
พฤติกรรมของนกตัวเมียที่จับคู่กับตัวผู้หลายตัวนี้ยังพบได้ในญาติร่วมวงศ์อย่าง วงศ์นกคุ่มอืด รวมไปถึงนกในเครือญาตินกชายเลนที่ตัวเมียมีสีสันสวยงามกว่าตัวผู้อย่าง นกโป่งวิด และ
การกกไข่
ในช่วงสองสามวันแรกของการฟักไข่นกอีแจวตัวเมียอาจช่วยปกป้องรัง และบินไล่นกน้ำอื่น ๆ ที่เข้ามาใกล้เกินไป อาจเกิดการต่อสู้ปกป้องในระยะประชิดรังโดยการหนีบจะงอยปากนกตัวอื่นและโจมตีด้วยปีกทั้งสองข้าง นกอีแจวตัวผู้มักออกหาอาหารในตอนเช้าและตอนเย็น และนั่งกกอยู่ที่รังในช่วงที่ร้อนที่สุดของวัน
นกอีแจวตัวผู้ อาจขยับหรือลากไข่ไปรอบ ๆ โดยกดไข่ด้วยจะงอยปากกับอก หรือระหว่างปีกและลำตัว เมื่อถูกรบกวนนกตัวผู้อาจผลักไข่ให้ลอยน้ำไปยังบนกลุ่มพืชลอยน้ำใกล้เคียง หรืออาจย้ายรังไปที่ใหม่เป็นระยะห่างประมาณ 15 เมตร บางครั้งนกตัวผู้อาจแสดงอาการปีกหักหรือวิ่งหนีในระยะที่ีห่างจากรังเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของผู้ล่า
มีระยะเวลาฟักไข่ 22–28 วัน ไข่อาจตกเป็นเหยื่อของนกกระสา และลูกนกถูกล่าโดยนกอื่นเช่น
ลูกนกมีขนสีเหลืองอ่อนประกอบลายพรางคล้ายลูกไก่ แต่มีขาและตีนที่ใหญ่โต เมื่อภัยมาพ่อนกจะส่งเสียงร้อง แจ๊ว ๆ แจว ๆ เพื่อให้ลูกดำน้ำแล้วใช้ปลายปากโผล่สำหรับหายใจได้ยาวนาน
ถิ่นอาศัยและนิเวศวิทยา
นกอีแจว (H. chirurgus) มีถิ่นอาศัยตามแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ เช่น บึง ทะเลสาบ ที่มีพืชน้ำลอยตัวมากพอ ในปากีสถานเนปาล อินเดียเขตร้อน ศรีลังกา ไปถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พม่า ไทย คาบสมุทรมลายู บอร์เนียวใต้ หมู่เกาะฟิลิปปินส์ จีนตอนใต้ และเกาะไต้หวัน
นกอีแจวมีถิ่นอาศัยส่วนใหญ่ทับซ้อนกับนกพริก ยกเว้นในศรีลังกาที่พบเฉพาะนกอีแจว
นกอีแจวที่อพยพส่วนมากเป็นประชากรในทางใต้ของจีนและแถบเทือกเขาหิมาลัย และมักอพยพไปยังแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดียตอนใต้ตามลำดับ ในหนานจิงนกอีแจวเริ่มอพยพในเดือนพฤศจิกายนและกลับมาในฤดูร้อนประมาณสัปดาห์ที่สามของเดือนเมษายน นกบางตัวเมื่อมาถึงมีขนชุดนอกฤดูผสมพันธุ์ ประชากรนกอีแจวที่อาศัยบนเกาะไต้หวันถูกระบุว่าใกล้สูญพันธุ์ บางครั้งประชากรนกในฤดูร้อนอาจแยกย้ายกันไปหลายทิศทางและมีบันทึกว่าเป็นนกนกพลัดหลงในโซโคตรากาตาร์ ออสเตรเลียและทางตอนใต้ของญี่ปุ่น นกอีแจวมีแนวโน้มที่จะพบได้ทั่วไปในที่ราบระดับความสูงที่ไม่มาก แต่บางครั้งมีบันทึกว่าพบบนเทือกเขาหิมาลัยในฤดูร้อนที่ความสูง 3,650 เมตร ในแคชเมียร์ และที่ความสูง 3,800 เมตร ในลาหูล (Lahaul)
ในประเทศไทย
นกอีแจวเป็นทั้งนกประจำถิ่นและนกอพยพนอกฤดูผสมพันธุ์ และตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ปี 2535 นกอีแจวเป็นสัตว์คุ้มครองบัญชีรายชื่อ ปี 2546 ในลำดับที่ 838
ในประเทศไทยพบนกอีแจวในบึงบอระเพ็ด ด้วยพฤติกรรมนกตัวเมียหนึ่งตัวจะจับคู่ผสมพันธุ์กับนกตัวผู้หลายตัวในช่วงฤดูผสมพันธุ์ ปล่อยให้พ่อนกต้องฟักไข่และเลี้ยงดูลูกนกตามลำพัง แผงขนคอสีทอง และหางที่ยาวมาก จึงมักเรียกนกอีแจวว่า "ราชินีบึงบอระเพ็ด" หรือ "ราชินีแห่งนกน้ำ" แหล่งน้ำอื่นที่พบได้แก่ จังหวัดพะเยา จังหวัดเชียงใหม่ ทะเลสาบสงขลา ภาคใต้ตอนล่างเช่น ทะเลน้อยในจังหวัดพัทลุง
อ้างอิง
- Viscount Walden, Arthur (1877). "A list of the bird known to inhabit the Philippine Archipelago". Transactions of the Zoological Society of London. 9 (2): 125–252. doi:10.1111/j.1096-3642.1875.tb00238.x.
- Whittingham, L.A.; Sheldon, F.H.; Emlen, S.T. (2000). "Molecular phylogeny of jacanas and its implications for morphologic and biogeographic evolution" (PDF). The Auk. 117 (1): 22–32. doi:10.1642/0004-8038(2000)117[0022:MPOJAI]2.0.CO;2.
- Hoffmann, Alfred (1950). "Zur Brutbiologie des polyandrischen Wasserfasans Hydrophasianus chirurgus". Scop. Ornithol. Ber. (in German). 2: 119–126.
- Sonnerat, Pierre (1776). Voyage à la Nouvelle Guinée : dans lequel on trouve la description des lieux, des observations physiques & morales, & des détails relatifs à l'histoire naturelle dans le regne animal & le regne végétal. Paris: Chez Ruault. pp. 82–84.
- Scopoli, Giovanni Antonio (1787). Deliciae florae et faunae Insubricae. Pars II[] (PDF). p. 92.
- Blanford, W.T. (1898). The Fauna of British India. Birds. Volume IV. Calcutta: Taylor and Francis. pp. 219–221.
- Baker, E.C. Stuart (1929). The Fauna of British India. Birds. Volume VI (2 ed.). London: Taylor and Francis. pp. 42–43.
- Mitchell, P. Chalmers (1905). "On the anatomy of Limicoline birds; with special reference to the correlation of modification". Proceedings of the Zoological Society of London. 2: 155–169.
- "ข้อมูลนกบึงบอระเพ็ด". 123.242.166.5.
- "นกอีแจว Pheasant-tailed Jacana ( Hydrophasianus chirurgus (Scopoli, 1786) )". www.lowernorthernbird.com.
- ""อีแจว"ราชินีแห่งนกน้ำ ไอดอล"เรยา"บึงบอระเพ็ด". www.thairath.co.th. 2011-09-13.
- Rasmussen, P.C.; Anderton, J. (2005). Birds of South Asia. The Ripley guide. Volume 2. Smithsonian Institution and Lynx edicions. p. 150.
- OwYong, Alan (2020-02-17). "Feeding behaviour of Pheasant-tailed Jacana, Hydrophasianus chirurgus". Singapore Bird Group (ภาษาอังกฤษ).
- "Hydrophasianus chirurgus (Scopoli, 1786)". India Biodiversity Portal.
- "นกอีแจว - eBird". ebird.org.
- "Pheasant-tailed Jacana Macaulay Library ML714944". macaulaylibrary.org (ภาษาอังกฤษ).
- Livesey, T.R. (1921). "Eggs of the Pheasant-tailed Jacana (H. chirurgus)". J. Bombay Nat. Hist. Soc. 27 (4): 954.
- Inglis, C.M. (1920). "Abnormal coloured egg of the Pheasant-tailed Jacana (Hydrophasianus chirurgus)". J. Bombay Nat. Hist. Soc. 27 (2): 403.
- Khan, Zahid Iqbal; Mughal, Mohammad Shareef (2014-11-03). "The Breeding Biology of Pheasant Tailed Jacana, Hydrophasianus chirurgus in Wetlands of Pakistan". Journal of Bioresource Management (ภาษาอังกฤษ). 1 (2): 5. doi:10.35691/JBM.4102.0010. ISSN 2309-3854.
- Thong-aree, Siriporn; Khobkhet, Obas; Lauhachinda, Virayuth; Pong-umpai, Somnuk (1995). "Breeding biology of Pheasant-tailed Jacana Hydrophasianus chirurgus in central Thailand" (PDF). Nat. Hist. Bull. Siam Soc. 43: 289–302.
- Hoffmann, Alfred (1949). "Über die Brutpflege des polyandrischen Wasserfasans, Hydrophasianus chirurgus (Scop.)". Zoologische Jahrbücher (ภาษาเยอรมัน). 78: 367–403.
- Chen, Te-Chih; Lin, Yao-Sung; Ding, Tzung-Su (2008). "Time Budget of Polyandrous Pheasant-Tailed Jacana (Hydrophasianus chirurgus) during Breeding Season in Taiwan". Taiwania. 53 (2): 107–115. doi:10.6165/tai.2008.53(2).107.
- Serrao, J.S; Shekhar, P.B. (1962). "Pheasant-tailed Jacanas at Kalina". Newsletter for Birdwatchers. 2 (1): 4–6.
- Hoffmann, Alfred (1950). "Zur Brutbiologie des polyandrischen Wasserfasans Hydrophasianus chirurgus". Scop. Ornithol. Ber. (ภาษาเยอรมัน). 2: 119–126.
- Thong-aree, Siriporn; Khobkhet, Obas; Lauhachinda, Virayuth; Pong-umpai, Somnuk (1995). "Breeding biology of Pheasant-tailed Jacana Hydrophasianus chirurgus in central Thailand" (PDF). Nat. Hist. Bull. Siam Soc. 43: 289–302.
- Dinesh E. Gabadage, et al (2015). Avifaunal diversity in the peripheral areas of the Maduruoya National Park in Sri Lanka: With conservation and management implications. Journal of Asia-Pacific Biodiversity 08(02):121 - 132.
- "Hydrophasianus chirurgus (Pheasant-tailed Jacana) - Avibase". avibase.bsc-eoc.org.
- Hoffmann, Alfred (1949). "Über die Brutpflege des polyandrischen Wasserfasans, Hydrophasianus chirurgus (Scop.)". Zoologische Jahrbücher (in German). 78: 367–403.
- Demey, Ron, ed. (2005). "Recent report". Bulletin of the African Bird Club. 12 (1): 71.
- Balmer, D.; Betton, K., eds. (2006). "Around the region". Sandgrouse. 28 (2): 184–192.
- Betterton, F.A. (1947). "The altitudinal limit of the Pheasant-tailed Jacana [Hydrophasianus chirurgus (Scopoli)]". J. Bombay Nat. Hist. Soc. 47 (2): 384.
- Ali, Salim; Ripley, S. Dillon (1980). Handbook of the Birds of India and Pakistan. Volume 2. Megapodes to Crab Plover (2 ed.). Oxford University Press. pp. 199–200.
- Whistler, Hugh (2008-04-03). "VIII.-The Birds of Lahul, N.W. Himalaya". Ibis (ภาษาอังกฤษ). 67 (1): 152–208. doi:10.1111/j.1474-919X.1925.tb02913.x.
- "นกอีแจว Pheasant-tailed Jacana". Birds of Thailand: Siam Avifauna.
- "นกอีแจว Pheasant-tailed Jacana – ภาพถ่ายนกทุกชนิดที่พบในประเทศไทย".
- "สัตว์ป่าคุ้มครอง - โลกสีเขียว". www.verdantplanet.org.
- ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 109 ตอนที่ 15.
- "บึงบอระเพ็ด". https://www.bangkokbiznews.com/.
- "นก'หลายผัว หลายเมีย'". https://www.posttoday.com สืบค้นเมื่อ 6 พฤษภาคม 2564.
- Siriporn Thong-aree, Obas Khobkhet, Virayuth Lauhachinda and Somnuk Pong-umpai. (1995) Breeding Biology of Pheasant-tailed Jacana Hydrophasianus Chirurgus in Central Thailand.
- "ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าทะเลน้อย". paro6.dnp.go.th.
- "ยินดีต้อนรับสู่จังหวัดพัทลุง www.phatthalung.go.th โดยสำนักงานจังหวัดพัทลุง". www.phatthalung.go.th.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
nkxiaecwchudkhninvduphsmphnthukhxngnkxiaecw mikhnhangkhuklangyaw hnaaelapiksikhaw khntnkhxsithxngeriybsthanakarxnurkskhwamesiyngta IUCN 3 1 karcaaenkchnthangwithyasastrxanackr Animaliaiflm Chordatachn Avesxndb Charadriiformeswngs skul Hydrophasianusspichis H chirurguschuxthwinamHydrophasianus chirurgus 1786 aehlngkracayphnthukhxngnkxiaecw H chirurgus chuxphxngParra chinensis Parra luzonensis Tringa chirurgus nkxiaecw chuxwithyasastr Hydrophasianus chirurgus xngkvs pheasant tailed jacana epnnkchnidediywinskulnkxiaecw Hydrophasianus lksnaechphaakhuxmichudkhnnxkvduaelainvduphsmphnthuaetktangknthisikhnaelakhwamyawkhxnghang odytwemiymikhnadihykwatwphu twemiyhnungtwcacbkhuphsmphnthukbephsphuhlaytwaelatharnghlayrnginbriewnediywkninaebbhaerm lukhlaykhrxkthukeliyngodytwphuhlaytw lksnaednrwmechnediywkbnkin Jacanidae khux miniwtinaelaelbtinyawephuxchwyphyungtwkhnaedinbnibphuchlxynainthinxasyhnxngnatun bangkhrngxacwaynahruxluynathilukthungtnkhakhnahaxahar nkxiaecwkinstwimmikraduksnhlngepnhlk phbidtamaehlngnacudinexechiyekhtrxn tngaeteyemnthangtawntkipcnthungfilippinsthangtawnxxkaelaxacxphyphinbangchwngtamvdukal epnnkchnidediywinwngsthixphyphepnrayathangiklxnukrmwithan Hydrophasianus MicroparraIrediparraActophilornisaephnphngwiwthnakarchatiphnthuxyangyx aesdngkhwamsmphnthinwngs Jacanidae khxngskultang xangxingkarsuksaladbyin cakimotkhxnedriyphaphprakxbkhxngpiaexr sxnenxr slyaephthyaehngekaalusxn Le Chirurgien de l Isle de Luzon nkxiaecw Hydrophasianus chirurgus thukxthibayodynksarwcchawfrngess Pierre Sonnerat inpikh s 1776 inhnngsuxkaredinthangsuniwkini Voyage a la Nouvelle Guinee sungrwmphaphprakxbkhxngnkthiekhaeriykwa slyaephthyaehngekaalusxn Le Chirurgien de l Isle de Luzon xthibaythungnkthiminiwethayaw miswnkhyaykhxngkhnhangyawkhlaykbmidthiichinkarthayeluxdodyslyaephthyinyukhnn cakkhaxthibayni Le Chirurgien nkxiaecwidrbchuxthwinamody Giovanni Scopoli inpikh s 1787 inhnngsux karxthibayphuchaelastwxyanglaexiydelmthi 2 Deliciae florae et faunae Insubricae Pars II sungnkxiaecwthukcdinskul Tringa aelachuxechphaa chirurgus chuixthwinam Tringa chirurgus txmankxiaecwthukcdinskul Parra aelamichuxphxng Parra luzonensis rwmkbnkxiaecwchnidxun aelatxmaskulinwngsnkxiaecwaelankphrik txmaeriykwa Parridae kaeykcakknepnhlayskul chuxskul Hydrophasianus khxngnkxiaecwhmaythung ikfana hrux ikna thuksrangkhunody Johann Georg Wagler inpikh s 1832 ephuxaeyknkxiaecwxxkcaknkxiaecwxunaelankphrik enuxngcaknkxiaecw H chirurgus mikhwamoddedn khux cangxypakaehlmeriywyaw immiaethbkracnghnaphak lappet niwtinhlngthisnkwankskulnkphrik Metopidius primary nxksudsxngesnrupibhxk aelakhnplaypikesnthisichiaehlm khnsxngchudnxkvduaelainvduphsmphnthuaetktangkn skulnkxiaecw Hydrophasianus mismachikephiyngchnidediyw monotypic genus khux nkxiaecw chuxxunlksnathangsrirwithyachudkhnnxkvduphsmphnthu khnabin sngektplaypikkhnpiknxksudesnthi 4 thichiaehlmokhrngkradukkhxngnkxiaecwtwemiy aesdngeduxythikhxphbpik saybn chudkhnnxkvduphsmphnthukhxngnkxiaecw hnaphakthungthaythxynatalekhm hnaaelakhxkhawmiaethbtatxenuxngthungaethbxksida khlaysrxykhx epnnkkhnadelk playpakthungokhnhangyaw 30 esntiemtr cangxypakaehlmtrng pikaetlakhangmieduxyyun twemiycamikhnadotkwatwphuelknxy sikhxngpak kha aelaniwepnsiethaxmfa hnaphak rxbtaaelakhxdanlangsikhaw krahmxmsinatal khxdanbnsiehluxng slbaethbsidakhnklangrahwangkhxsxngdan piksikhawtdkbsikhxnglatwdanbnnatalda aelalatwdanlangsungmisidaepnmnchdecn khnabinpikkhawplaypikda niwtinthiyawmakaelaelbtinyawchwyinkarkracaynahnktw thaihsamarthedinbnkxphuchlxyna ibphuchlxynahruxibbwthilxyxyuehnuxnaephuxhaxaharid niwtin 4 niw danhna 3 niw aeladanhlng 1 niw nkxiaecwmilksnaoddednmakthisikhnaelakhnhangthiyaw sungyawthisudinwngsnkphrikaelankxiaecw aelaepnchnidediywinwngsmichudkhnnxkvduphsmphnthuaelainvduphsmphnthuthiaetktangkn odyepliynkhnemuxiklvduphsmphnthu chudkhnnxkvduphsmphnthu hnaphakthungthaythxynatalekhm hnaaelakhxkhawmiaethbtatxenuxngthungaethbxksida khangkhxehluxng latwdanbnnatal latwdanlangkhaw khlaynkphrikthiyngimetmwy aetkhnabinpikkhawplaypikda swnchudkhninvduphsmphnthu khnhangkhuklangcayunyawxxkipxik 25 esntiemtr yawmakkwapktithung 10 etha epnthimakhxngchuxnkxiaecwinphasaxngkvs nkxiaecwhangikfa pheasant tailed jacana karwdkhnad karwdkhnadnktammatrthancakkarsuksatwxyangmichiwitinchwngvduphsmphnthuinpraethsithy odyechliycaktwphu 17 tw aelatwemiy 4 tw rwmkbkhxmulbangswnkhxngkarwdswnhwcak Rasmussen and Anderton 2005 cakplaycangxypakthungdanhlngkhxngkaohlk khnadnkinchwngvduphsmphnthutwphu twemiynahnk krm 129 2 140 7cangxypak esntiemtr 2 89 3 12pik esntiemtr 24 76 25 83kradukkhxetha esntiemtr 5 72 6 33hang esntiemtr 25 75 28 34hw esntiemtr 5 3 5 5 5 8 6 3khwamyaw esntiemtr 45 91 50 27chudkhninvduphsmphnthu khnkhxdanbn danhlng siehluxngthxng hnakhawlwn miesndatdrahwangkhxbnaelalang hnahlng chudkhnnxkvduphsmphnthu khnkhxbn danhlng mirxngrxykhnsiehluxngaesm chudkhnnxkvduphsmphnthu hangsn aethbsinataldalakphancakokhnpak ta sukhx khnpikkhawemuxhubpik imchdecn khathiyawbangkhrngluynathilukthunglatwdanlang hruxichwayna klumnkxiaecw thiekaaithwn chudkhnnxkvduphsmphnthu aethbsinataldalakphancakokhnpak ta sukhx khlaysrxy thxngkhawphvtikrrmkarphsmphnthu nktwphuophlngbnhlngkhxngtwemiynkxiaecwtwphukhnaeliyngluknkthiyngelknkxiaecwrun mkxasytamaehlngna ephuxhakinxaharthicbaelacikkintamphiwna xaharidaekstwnaelk rwmthngaemlngtang aelaphuchnabangchnidbangswnechn emldphuch rak samarthwaynaidkhlxng aelabinidiklinkarxphyph aetinaehlngnamkbinimnanephuxhlbhni epnnkthiimidphbehnodythwip invduhnawxacrwmepnklumidthung 50 100 tw esiyngrxng mi xuy hrux aecw aecw karphsmphnthuaelatharng phsminchwngeduxnphvsphakhm singhakhm nkxiaecwtwemiyepnfayekiywpharasi odyemuxeluxkkhuaelw nktwemiyedinhacudthiehmaasminkarrbnahnknksxngtw odyyunkmhwaelaykknkhun nktwphucarxnlngbnhlngkhxngtwemiyaelakraphuxpikinkarthrngtwkhnaphsmphnthu nkxiaecwtwemiyhlngcakeluxkkhuaelaphsmphnthuaelwcahathiwangikh twemiyepnfaytharngaebbngay swnmakichcxkhuhnu aelaphuchcaphwksahraymakxngrwmknxyanglwk bnaephcxkhuhnu hruxphuchlxyna wangikhkhrxklapraman 3 4 fxng ikhsiekhiywsnimthxngaedng ekhiywxmfa aekmcuddanatal bangkhrngxacphbikhbangibmisifanathael karwangikhkhxngtwemiyaetlafxnghangknpraman 24 chwomng caknnemuxkhrb 4 fxng twemiyplxyihnkxiaecwtwphusungmiruprangkhnadthielkkwarbpharafkikhaelaeliyngluktamlaphng swntwemiycaipcbkhuihm sungxacmithung 4 10 twinchwngewlavduphsmphnthuhnung eriyk polyandry inpakisthan nktwemiycbkhu 2 khrng inpraethsithyphbwanktwemiyichewla 17 21 wninkarcbkhuwangikhkhrngtxip inpraethscinphbwatwemiyichewla 9 12 wnaelacbkhutwphupraman 7 10 twinhnungvdukal phvtikrrmkhxngnktwemiythicbkhukbtwphuhlaytwniyngphbidinyatirwmwngsxyang wngsnkkhumxud rwmipthungnkinekhruxyatinkchayelnthitwemiymisisnswyngamkwatwphuxyang nkopngwid aela karkkikh inchwngsxngsamwnaerkkhxngkarfkikhnkxiaecwtwemiyxacchwypkpxngrng aelabinilnknaxun thiekhamaiklekinip xacekidkartxsupkpxnginrayaprachidrngodykarhnibcangxypaknktwxunaelaocmtidwypikthngsxngkhang nkxiaecwtwphumkxxkhaxaharintxnechaaelatxneyn aelanngkkxyuthirnginchwngthirxnthisudkhxngwn nkxiaecwtwphu xackhybhruxlakikhiprxb odykdikhdwycangxypakkbxk hruxrahwangpikaelalatw emuxthukrbkwnnktwphuxacphlkikhihlxynaipyngbnklumphuchlxynaiklekhiyng hruxxacyayrngipthiihmepnrayahangpraman 15 emtr bangkhrngnktwphuxacaesdngxakarpikhkhruxwinghniinrayathiihangcakrngephuxebiyngebnkhwamsnickhxngphula mirayaewlafkikh 22 28 wn ikhxactkepnehyuxkhxngnkkrasa aelaluknkthuklaodynkxunechn luknkmikhnsiehluxngxxnprakxblayphrangkhlaylukik aetmikhaaelatinthiihyot emuxphymaphxnkcasngesiyngrxng aecw aecw ephuxihlukdanaaelwichplaypakophlsahrbhayicidyawnanthinxasyaelaniewswithyankxiaecw H chirurgus mithinxasytamaehlngnacudkhnadihy echn bung thaelsab thimiphuchnalxytwmakphx inpakisthanenpal xinediyekhtrxn srilngka ipthungexechiytawnxxkechiyngit phma ithy khabsmuthrmlayu bxreniywit hmuekaafilippins cintxnit aelaekaaithwn nkxiaecwmithinxasyswnihythbsxnkbnkphrik ykewninsrilngkathiphbechphaankxiaecw nkxiaecwthixphyphswnmakepnprachakrinthangitkhxngcinaelaaethbethuxkekhahimaly aelamkxphyphipyngaethbexechiytawnxxkechiyngitaelaxinediytxnittamladb inhnancingnkxiaecwerimxphyphineduxnphvscikaynaelaklbmainvdurxnpramanspdahthisamkhxngeduxnemsayn nkbangtwemuxmathungmikhnchudnxkvduphsmphnthu prachakrnkxiaecwthixasybnekaaithwnthukrabuwaiklsuyphnthu bangkhrngprachakrnkinvdurxnxacaeykyaykniphlaythisthangaelamibnthukwaepnnknkphldhlnginosokhtrakatar xxsetreliyaelathangtxnitkhxngyipun nkxiaecwmiaenwonmthicaphbidthwipinthirabradbkhwamsungthiimmak aetbangkhrngmibnthukwaphbbnethuxkekhahimalyinvdurxnthikhwamsung 3 650 emtr inaekhchemiyr aelathikhwamsung 3 800 emtr inlahul Lahaul inpraethsithy nkxiaecwepnthngnkpracathinaelankxphyphnxkvduphsmphnthu aelatamphrarachbyytisngwnaelakhumkhrxngstwpa pi 2535 nkxiaecwepnstwkhumkhrxngbychiraychux pi 2546 inladbthi 838 inpraethsithyphbnkxiaecwinbungbxraephd dwyphvtikrrmnktwemiyhnungtwcacbkhuphsmphnthukbnktwphuhlaytwinchwngvduphsmphnthu plxyihphxnktxngfkikhaelaeliyngduluknktamlaphng aephngkhnkhxsithxng aelahangthiyawmak cungmkeriyknkxiaecwwa rachinibungbxraephd hrux rachiniaehngnkna aehlngnaxunthiphbidaek cnghwdphaeya cnghwdechiyngihm thaelsabsngkhla phakhittxnlangechn thaelnxyincnghwdphthlungxangxingViscount Walden Arthur 1877 A list of the bird known to inhabit the Philippine Archipelago Transactions of the Zoological Society of London 9 2 125 252 doi 10 1111 j 1096 3642 1875 tb00238 x Whittingham L A Sheldon F H Emlen S T 2000 Molecular phylogeny of jacanas and its implications for morphologic and biogeographic evolution PDF The Auk 117 1 22 32 doi 10 1642 0004 8038 2000 117 0022 MPOJAI 2 0 CO 2 Hoffmann Alfred 1950 Zur Brutbiologie des polyandrischen Wasserfasans Hydrophasianus chirurgus Scop Ornithol Ber in German 2 119 126 Sonnerat Pierre 1776 Voyage a la Nouvelle Guinee dans lequel on trouve la description des lieux des observations physiques amp morales amp des details relatifs a l histoire naturelle dans le regne animal amp le regne vegetal Paris Chez Ruault pp 82 84 Scopoli Giovanni Antonio 1787 Deliciae florae et faunae Insubricae Pars II lingkesiy PDF p 92 Blanford W T 1898 The Fauna of British India Birds Volume IV Calcutta Taylor and Francis pp 219 221 Baker E C Stuart 1929 The Fauna of British India Birds Volume VI 2 ed London Taylor and Francis pp 42 43 Mitchell P Chalmers 1905 On the anatomy of Limicoline birds with special reference to the correlation of modification Proceedings of the Zoological Society of London 2 155 169 khxmulnkbungbxraephd 123 242 166 5 nkxiaecw Pheasant tailed Jacana Hydrophasianus chirurgus Scopoli 1786 www lowernorthernbird com xiaecw rachiniaehngnkna ixdxl erya bungbxraephd www thairath co th 2011 09 13 Rasmussen P C Anderton J 2005 Birds of South Asia The Ripley guide Volume 2 Smithsonian Institution and Lynx edicions p 150 OwYong Alan 2020 02 17 Feeding behaviour of Pheasant tailed Jacana Hydrophasianus chirurgus Singapore Bird Group phasaxngkvs Hydrophasianus chirurgus Scopoli 1786 India Biodiversity Portal nkxiaecw eBird ebird org Pheasant tailed Jacana Macaulay Library ML714944 macaulaylibrary org phasaxngkvs Livesey T R 1921 Eggs of the Pheasant tailed Jacana H chirurgus J Bombay Nat Hist Soc 27 4 954 Inglis C M 1920 Abnormal coloured egg of the Pheasant tailed Jacana Hydrophasianus chirurgus J Bombay Nat Hist Soc 27 2 403 Khan Zahid Iqbal Mughal Mohammad Shareef 2014 11 03 The Breeding Biology of Pheasant Tailed Jacana Hydrophasianus chirurgus in Wetlands of Pakistan Journal of Bioresource Management phasaxngkvs 1 2 5 doi 10 35691 JBM 4102 0010 ISSN 2309 3854 Thong aree Siriporn Khobkhet Obas Lauhachinda Virayuth Pong umpai Somnuk 1995 Breeding biology of Pheasant tailed Jacana Hydrophasianus chirurgus in central Thailand PDF Nat Hist Bull Siam Soc 43 289 302 Hoffmann Alfred 1949 Uber die Brutpflege des polyandrischen Wasserfasans Hydrophasianus chirurgus Scop Zoologische Jahrbucher phasaeyxrmn 78 367 403 Chen Te Chih Lin Yao Sung Ding Tzung Su 2008 Time Budget of Polyandrous Pheasant Tailed Jacana Hydrophasianus chirurgus during Breeding Season in Taiwan Taiwania 53 2 107 115 doi 10 6165 tai 2008 53 2 107 Serrao J S Shekhar P B 1962 Pheasant tailed Jacanas at Kalina Newsletter for Birdwatchers 2 1 4 6 Hoffmann Alfred 1950 Zur Brutbiologie des polyandrischen Wasserfasans Hydrophasianus chirurgus Scop Ornithol Ber phasaeyxrmn 2 119 126 Thong aree Siriporn Khobkhet Obas Lauhachinda Virayuth Pong umpai Somnuk 1995 Breeding biology of Pheasant tailed Jacana Hydrophasianus chirurgus in central Thailand PDF Nat Hist Bull Siam Soc 43 289 302 Dinesh E Gabadage et al 2015 Avifaunal diversity in the peripheral areas of the Maduruoya National Park in Sri Lanka With conservation and management implications Journal of Asia Pacific Biodiversity 08 02 121 132 Hydrophasianus chirurgus Pheasant tailed Jacana Avibase avibase bsc eoc org Hoffmann Alfred 1949 Uber die Brutpflege des polyandrischen Wasserfasans Hydrophasianus chirurgus Scop Zoologische Jahrbucher in German 78 367 403 Demey Ron ed 2005 Recent report Bulletin of the African Bird Club 12 1 71 Balmer D Betton K eds 2006 Around the region Sandgrouse 28 2 184 192 Betterton F A 1947 The altitudinal limit of the Pheasant tailed Jacana Hydrophasianus chirurgus Scopoli J Bombay Nat Hist Soc 47 2 384 Ali Salim Ripley S Dillon 1980 Handbook of the Birds of India and Pakistan Volume 2 Megapodes to Crab Plover 2 ed Oxford University Press pp 199 200 Whistler Hugh 2008 04 03 VIII The Birds of Lahul N W Himalaya Ibis phasaxngkvs 67 1 152 208 doi 10 1111 j 1474 919X 1925 tb02913 x nkxiaecw Pheasant tailed Jacana Birds of Thailand Siam Avifauna nkxiaecw Pheasant tailed Jacana phaphthaynkthukchnidthiphbinpraethsithy stwpakhumkhrxng olksiekhiyw www verdantplanet org rachkiccanuebksa elmthi 109 txnthi 15 bungbxraephd https www bangkokbiznews com nk hlayphw hlayemiy https www posttoday com subkhnemux 6 phvsphakhm 2564 Siriporn Thong aree Obas Khobkhet Virayuth Lauhachinda and Somnuk Pong umpai 1995 Breeding Biology of Pheasant tailed Jacana Hydrophasianus Chirurgus in Central Thailand sunysuksathrrmchatiaelastwpathaelnxy paro6 dnp go th yinditxnrbsucnghwdphthlung www phatthalung go th odysankngancnghwdphthlung www phatthalung go th