นกต้อยตีวิด (ชื่ออื่น ได้แก่ นกกระต้อยตีวิด นกกระแตแต้แว้ด นกแต้แว้ด หรือ นกแตดแต้ ในภาษาถิ่นอีสาน) (ชื่อวิทยาศาสตร์: Vanellus indicus) เป็นนกที่สีสวยน่าดู พบได้ตามพื้นที่โล่งเกือบทุกสภาพทั่วประเทศ อยู่ในวงศ์นกหัวโต (Charadriidae) วงศ์ย่อย Vanellinae หรือ Charadriinae มีเสียงร้องเตือนภัยแหลมดังที่ไม่เหมือนใครว่า "แตแต้แวด" หรือตามคนพูดภาษาอังกฤษว่า did he do it หรือ pity to do it ทำให้มีชื่อเรียกต่าง ๆ กันตามเสียงร้องทั้งภาษาไทยและภาษาอื่น ๆ เป็นนกที่มักจะเห็นเป็นคู่ ๆ หรือเป็นฝูงเล็ก ๆ ไม่ไกลจากแหล่งน้ำ แต่อาจจะอยู่รวมเป็นฝูงใหญ่ในฤดูหนาวที่ไม่ใช่ฤดูผสมพันธุ์ ในประเทศไทย เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 จึงห้ามล่า พยายามล่า ห้ามค้า ห้ามนำเข้าหรือส่งออก ห้ามครอบครอง ห้ามเพาะพันธุ์ ห้ามเก็บหรือทำอันตรายรัง การห้ามการครอบครองและการค้ามีผลไปถึงไข่และซาก
นกต้อยตีวิด | |
---|---|
V. i. indicus ผัวเมียจากรัฐมหาราษฏระ ประเทศอินเดีย | |
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
โดเมน: | ยูแคริโอต |
อาณาจักร: | สัตว์ |
ไฟลัม: | สัตว์มีแกนสันหลัง |
ชั้น: | สัตว์ปีก |
อันดับ: | |
วงศ์: | |
สกุล: | (, 1783) |
สปีชีส์: | Vanellus indicus |
ชื่อทวินาม | |
Vanellus indicus (, 1783) | |
ขอบเขตของนกต้อยตีวิด | |
ชื่อพ้อง | |
Hoplopterus indicus |
คำพรรณนา
นกต้อยตีวิดเป็นนกขายาว ลุยน้ำ ยาวประมาณ 35 ซม. ตัวขนาดนกเขาใหญ่ ปีกและหลังมีสีน้ำตาลอ่อนมีแววสีม่วง ๆ แต่หัว อก และคอหรือด้านหน้าคอ เป็นสีดำ มีแถบสีขาว ๆ ที่เห็นชัดเจนในระหว่าง ๆ ตั้งแต่ท้องไปจนถึงหาง บางพันธุ์จะขึ้นไปข้าง ๆ คอจนเกือบถึงยอด รวมทั้งบริเวณหู ปีกยาวจนเกือบคลุมหาง หางสั้นมีสีดำ สุดด้วยสีน้ำตาลและขาว หรือดำ มีติ่งเนื้อสีแดงพาดทางด้านหน้าจากขอบตาหนึ่งไปอีกขอบตาหนึ่ง ปากแดงปลายดำ ขายาวมีสีเหลือง ตีนมี 4 นิ้ว นิ้วหลังเป็นติ่งเล็ก อยู่สูงกว่านิ้วอื่น เกาะกิ่งไม้ไม่ได้ มีพังผืดตอนโคนนิ้วเล็กน้อย เมื่อกำลังบิน ปีกมีแถบสีขาวเห็นได้ชัดทั้งบนล่าง
พันธุ์ย่อย aigneri มีสีจางกว่า ขนาดใหญ่กว่าพันธุ์ต้นแบบ และพบในประเทศตุรกี อิหร่าน อิรัก อัฟกานิสถาน และลุ่มแม่น้ำสินธุ ส่วนพันธุ์ต้นแบบพบทั่วประเทศอินเดีย พันธุ์ย่อย lankae ในประเทศศรีลังกาเล็กกว่า และสีเข้มกว่า ในขณะที่พันธุ์ย่อย atronuchalis ในอินเดียตะวันออกเฉียงเหนือและประเทศบังกลาเทศ มีแก้มขาวล้อมด้วยสีดำ
ตัวเมียตัวผู้มีขนคล้ายกัน แต่ตัวผู้มีปีกยาวกว่า 5% และมักจะมีเดือยเท้าที่ยาวกว่า นกยาวประมาณ 320-350 มม. ปีกยาว 208-247 มม. พันธุ์ต้นแบบปีกยาวที่เฉลี่ย 223 มม. และพันธุ์ศรีลังกา 217 มม. ปากยาว 31-36 มม. และกระดูกข้อเท้า (tarsus) ยาว 70-83 มม. หางยาว 104-128 มม.
นกมักจะอยู่รวมกัน 2-3 ตัวในที่โล่งที่มีน้ำ ในนาที่ไถ และที่ขอบสระหรือในสระที่แห้ง แต่บางครั้งจะรวมกันเป็นฝูงใหญ่ 26-200 ตัว บางครั้งก็พบด้วยในที่โล่งในป่า หรือในบ่อหลุมที่มีน้ำฝน นกวิ่งไปวิ่งมาเป็นระยะสั้น ๆ และจะก้มลงแบบเอียง ๆ โดยไม่ได้กางปีก เพื่อจะจิกอาหารขึ้นมาเหมือนกับนกหัวโตทั่วไป นกอาจหากินในเวลากลางคืนด้วย โดยมักจะขยันใกล้ ๆ วันเพ็ญ เป็นนกที่ระมัดระวังตื่นตัวตลอดเวลาอย่างน่าแปลกใจ ไม่ว่าจะเป็นกลางวันกลางคืน มักจะเป็นสัตว์แรกที่ตรวจจับสัตว์อื่นได้ แล้วร้องเตือนภัย ดังนั้น จึงเป็นนกน่ารำคาญสำหรับพวกนายพราน นกบินได้ไม่เร็วนัก ๆ ต้องค่อย ๆ กระพือปีกไป แต่ว่า จะว่องไวเมื่อต้องป้องกันรัง หรือถูกล่าโดยเหยี่ยว
ความสวยงามของนกมาพร้อมกับเสียงดังดุว่า "แตแต้แว้ด" บ่อยครั้งร้องในเวลากลางคืน
นกเผือกก็มีบ้างแต่น้อย
ชื่อนกในพื้นที่ต่าง ๆ มักจะเลียนเสียงร้อง รวมทั้งในภาษาฮินดี (titeeri) กันนาดา (tittibha) สินธี (tateehar) คุชราต (titodi) แคชเมียร์ (hatatut) อัสสัม (balighora) เตลูกู (yennappa chitawa)ทมิฬ (aal-kaati แปลว่า เจ้าตัวชี้มนุษย์) และไทย
การกระจายตัว
นกพบตั้งแต่ในเอเชียตะวันตก (อิรัก อิหร่านตะวันตกเฉียงใต้ อ่าวเปอร์เซีย) ตลอดจนถึงเอเชียใต้ (บาโลชิสถาน อัฟกานิสถาน ปากีสถาน ประเทศอินเดียทั้งหมดจนถึงเขต Kanyakumari เข้าไปถึงความสูง 1.8 กม. ในรัฐชัมมูและกัศมีร์และประเทศเนปาล) โดยมีพันธุ์ย่อยอื่น ๆ อีกในเอเชียอาคเนย์
นกอาจจะอพยพตามความสูงในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง (เช่นในแคว้นบาโลชิสถานตอนเหนือ) และอาจจะอพยพกระจายไปทั่วในฤดูมรสุม ที่เกิดที่อยู่ใหม่ ๆ แต่ว่า นกโดยมากจะเป็นนกประจำถิ่น
แม้นกเริ่มจะลดจำนวนลงในที่อยู่เขตทางตะวันตก แต่ก็ยังมีอยู่มากในเอเชียใต้ เห็นได้ในถิ่นที่อยู่ที่มีน้ำเกือบทุกแห่ง
พฤติกรรมและนิเวศ
ฤดูผสมพันธุ์โดยหลัก อยู่ช่วงเดือนมีนาคมถึงสิงหาคม ตัวผู้จะจีบตัวเมียโดยพองขน ยื่นปากขึ้น แล้วเดินวนรอบ ๆ ตัวเมีย อาจจะมีตัวผู้จีบตัวเมียหลายตัวพร้อม ๆ กันใกล้ ๆ กัน ไข่จะวางไว้ที่พื้นหรือในแอ่งที่ไข่จะไม่กลิ้งออก บางครั้งพร้อมกับก้อนหินเล็ก ๆ และขี้แพะหรือขี้กระต่าย โดยจะวางไข่ที่ละ 3-4 ฟองมีสีเหลืองด่างดำ มีรูปร่างคล้ายกับลูกสาลี่ มีขนาดโดยเฉลี่ย 42x30 มม. รังนั้นเห็นได้ยาก เพราะว่าสีไข่ที่พรางตา มักจะเข้ากับสีพื้น ในเขตที่อยู่อาศัยของมนุษย์ บางครั้งก็จะทำรังบนหลังคาด้วย มีบันทึกว่า นกทำรังอยู่ที่ก้อนหินระหว่างทางรถไฟ โดยพ่อแม่จะหลีกไปเมื่อรถไฟวิ่งผ่าน มีการย้ายรังนกที่เสี่ยงจากเกษตรกรรม โดยค่อย ๆ เลื่อนไข่นกออกไป
เมื่อทำรัง นกจะบินดิ่งโจมตี หรือหลอกล่อสัตว์ล่าเหยื่อ เช่นดิ้นชักไปมาเหมือนบาดเจ็บหนัก เพื่อล่อให้เราเดินตามมันไป หรืออาจจะกระพือปีกเพื่อกันสัตว์กินพืชที่อาจเป็นภัยต่อรัง
ทั้งตัวผู้ตัวเมียจะกกไข่ โดยตัวผู้ดูจะรับกกไข่ต่อจากตัวเมีย โดยเฉพาะในช่วงร้อน ๆ เวลากลางวัน ลูกนกจะออกจากไข่ภายใน 28-30 วัน นกผสมพันธุ์สำเร็จในอัตรา 40% คือไข่บางฟองจะไม่เป็นตัว ส่วนการเสียไข่ที่ผสมพันธุ์สำเร็จ อยู่ในระดับสูงที่ ~43% เนื่องจากการล่าเหยื่อของพังพอน กา และเหยี่ยว ลูกนกมีโอกาสตายที่ 8.3% โดยจะมีโอกาสรอดสูงขึ้นหลังจากอาทิตย์แรก
เหมือนกับนกหัวโตประเภทอื่น ๆ นกจะชุบขนท้องให้เปียก เพื่อให้น้ำกับลูกนก และทำให้ไข่เย็นในช่วงอากาศร้อน
นกจะอาบน้ำถ้ามี และจะไซ้ขนจนหลังออกจากรังหรือผสมพันธุ์ บางครั้งจะนอนอยู่ที่พื้น โดยวางกระดูกข้อเท้าแนบกับพื้น และบางครั้งจะพักยืนขาข้างเดียว
นกที่แข็งแรงดีมีศัตรูน้อย มีการกล่าวถึงว่า พยาธิตัวแบนและพยาธิใบไม้เป็นปรสิตในนก
อาหาร
อาหารของนกรวมทั้งแมลง หอยทาก และสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังอื่น ๆ โดยมากหาจากที่พื้น และอาจจะกินเมล็ดธัญพืชบางชนิดด้วย นกหาอาหารในช่วงกลางวันโดยหลัก แต่อาจจะหากินในเวลากลางคืนด้วย และบางครั้งจะใช้เท้ากวนเหยื่อ
ในวัฒนธรรมต่าง ๆ
บางท้องถิ่นในประเทศอินเดีย และในประเทศไทย มีความเชื่อว่า นกนอนหงายเอาตีนชี้ฟ้าเพราะกลัวฟ้าถล่ม ซึ่งไม่เป็นจริงภาษาฮินดีถึงกับมีคำอุปลักษณ์แปลว่า "นกต้อยตีวิด จะยันท้องฟ้าไว้ได้หรือไม่" หมายถึงบุคคลที่ทำอะไร เกินแรงหรือความสามารถของตน
ในบางพื้นที่ของรัฐราชสถาน เชื่อกันว่า ถ้านกวางไข่ในพื้นที่สูง ปีนั้นฝนจะตกดี มีการใช้ไข่นกในการแพทย์พื้นบ้าน
ในคัมภีร์พุทธศาสนา
คัมภีร์ชั้นพระไตรปิฎกและอรรถกถาของพระพุทธศาสนา ได้กล่าวถึงนกต้อยตีวิดในหลายประเด็นรวมทั้ง
- บุคคลพึงตามรักษาศีลเท่าชีวิต เหมือนกับนกตามรักษาไข่
- พระพุทธเจ้าทรงตามให้โอวาทกับท่านพระราหุล เหมือนกับนกตามรักษาไข่
- สัตว์ 4 พวกกลัวสิ่งที่ไม่ควรกลัว เหมือนนกนอนหงายเพราะกลัวฟ้าถล่ม
- นกถึงมีสีสวย แต่ก็มีวาจาไม่ไพเราะ จึงไม่เป็นที่รักของชนทั้งหลาย
มีการกล่าวให้บุคคลตามรักษาศีล เหมือนกับนกต้อยตีวิดตามรักษาไข่ของตน คือ
นกต้อยตีวิดรักษาฟองไข่ฉันใด จามรีรักษาขนหางฉันใด ผู้มีบุตรคนเดียวรักษาบุตรผู้เป็นที่รักฉันใด ผู้มีนัยน์ตาข้างเดียว รักษานัยน์ตาที่ยังเหลืออีกข้างฉันใด ท่านทั้งหลายจงตามรักษาศีลเหมือนฉันนั้นทีเดียว จงเป็นผู้มีศีลเป็นที่รักด้วยดี มีความเคารพ ทุกเมื่อเถิด ดังนี้
— สุมังคลวิลาสินี อรรถกถาทีฆนิกาย ศีลขันธวรรค พรหมชาลสูตร
มีการกล่าวถึงว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตามรักษาท่านพระราหุล เหมือนกับนกต้อยตีวิตตามรักษาไข่ของตน คือ
พระตถาคตผู้มีพระปัญญาเฉลียวฉลาด ทรงสมบูรณ์ด้วยศีล ทรงรักษาเราเหมือนนกต้อยตีวิดรักษาพืชพันธุ์ เหมือนเนื้อจามรีรักษาขนหางสูงสุดฉะนั้น
— ปปัญจสูทนี อรรถกถามัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ อัมพลัฏฐิกราหุโลวาทสูตร
มีการกล่าวถึงว่า นกต้อยตีวิดนอนหงาย เพราะกลัวฟ้าถล่ม คือ
เหมือนสัตว์ 4 จำพวกเหล่านี้ ย่อมกลัวต่อสิ่งที่ไม่ควรกลัว (ดังมีที่มา) ว่า ข้าแต่มหาราช สัตว์ 4 จำพวกแล ย่อมกลัวต่อสิ่งที่ไม่ควรกลัวแล 4 จำพวกไฉนบ้าง ข้าแต่มหาราช ไส้เดือนแลย่อมไม่กินดิน เพราะกลัวว่า แผ่นดินจะหมด ข้าแต่มหาราช นกกะเรียนย่อมยืนเท้าเดียว (บนแผ่นดิน) เพราะกลัวว่าแผ่นดินจะทรุด ข้าแต่มหาราช นกต้อยตีวิดนอนหงาย เพราะกลัวว่าฟ้าจะถล่ม ข้าแต่มหาราช พราหมณ์ผู้ประพฤติธรรมแล ย่อมไม่ประพฤติพรหมจรรย์ (คือจะมีภรรยา) เพราะกลัวว่าโลกจะขาดสูญ ฉะนั้น
— ปปัญจสูทนี อรรถกถามัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ ปัญจัตตยสูตร
มีการยกนกต้อยตีวิดว่า เป็นนกที่สวยแต่มีวาจาไม่ไพเราะในสุชาตาชาดก ในเรื่องนี้อรรถกถาจารย์อธิบายว่า เป็นเรื่องเนื่องกับการสอนนางสุชาดาสะใภ้ของอนาถบิณฑิกเศรษฐีผู้มีวาจาดุร้าย คือพระพุทธเจ้าก็ได้ทรงสั่งสอนนางสุชาดาในชาติก่อน ๆ มาแล้วเช่นกัน และทรงยกนกดุเหว่าเทียบกับนกต้อยตีวิด ที่มีเสียงไม่น่าฟัง คือทรงยกว่า
ธรรมดาสัตว์ทั้งหลายที่สมบูรณ์ด้วยวรรณะ
มีเสียงอันไพเราะ น่ารักน่าชม แต่พูดจาหยาบกระด้าง
ย่อมไม่เป็นที่รักของใคร ๆ ทั้งในโลกนี้และโลกหน้าพระองค์ (พระราชชนนีของพระโพธิสัตว์ผู้ในชาติหลังเป็นนางสุชาดา) ทรงทอดพระเนตรแล้วมิใช่หรือ
นกดุเหว่าสีดำตัวนี้มีสีไม่สวย ลายพร้อยไปทั้งตัว
แต่เป็นที่รักของสัตว์ทั้งหลายจำนวนมาก
เพราะร้องด้วยเสียงอันไพเราะเพราะฉะนั้นบุคคลควรพูดคำอันสละสลวย
คิดก่อนพูด พูดพอประมาณ ไม่ฟุ้งซ่าน
ถ้อยคำของผู้ที่แสดงเป็นอรรถเป็นธรรม
เป็นถ้อยคำอันไพเราะ เป็นถ้อยคำที่เป็นภาษิต— ขุททกนิกาย ชาดก สุชาตาชาดก
เชิงอรรถและอ้างอิง
- BirdLife International (2016). "Vanellus indicus". IUCN Red List of Threatened Species. 2016: e.T22694013A89569039. doi:10.2305/IUCN.UK.2016-3.RLTS.T22694013A89569039.en.
- "ต้อยตีวิด", พจนานุกรมอิเล็กทรอนิกส์ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒,
น. ชื่อนกชนิด Vanellus indicus ในวงศ์ Charadriidae ตัวขนาดนกเขาใหญ่ หัวสีดำขนบริเวณหูสีขาว มีติ่งเนื้อสีแดงพาดทางด้านหน้าจากขอบตาหนึ่งไปอีกขอบตาหนึ่ง ปากยาว ขายาวสีเหลือง ตีนมี ๔ นิ้ว นิ้วหลังเป็นติ่งเล็ก ร้องเสียงแหลม “แตแต้แว้ด” กินสัตว์ขนาดเล็ก วางไข่ในแอ่งตื้น ๆ บนพื้นดิน, กระต้อยตีวิด กระแตแต้แว้ด หรือ แต้แว้ด ก็เรียก.
- Jerdon, TC (1864). The Birds of India. George Wyman & Co. pp. 648–649.
- Symons,CT (1917). "Note on the breeding habits of the Did-he-do-it Sarcogrammus indicus". Spolia Zeylanica. 10 (39): 397–398.
- Hayman, P., J. Marchant, T. Prater (1986). Shorebirds: an identification guide to the waders of the world. Croom Helm, London. pp. 274–275.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - "สัตว์ป่าคุ้มครอง". โลกสีเขียว. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-03-26. สืบค้นเมื่อ 2015-04-23.
- Ali, S & S D Ripley (1980). Handbook of the birds of India and Pakistan. Vol. 2 (2 ed.). Oxford University Press. pp. 212–215.
- Pamela C. Rasmussen and John C. Anderton (2005). Birds of South Asia: The Ripley Guide. Smithsonian Institution & Lynx Edicions. ISBN . OCLC 60359701.
- Vyas, Rakesh (1997). "Flocking and courtship display in Redwattled Lapwing (Vanellus indicus)". Journal of Bombay Natural Hist. Soc. 94: 406–407.
- Ali, Salim (1996). Book of Indian Birds, Salim Ali centenary edition. Mumbai: Bombay Natural History Society/Oxford University Press. p. 139.
- Mehra, SP; Singh, N; Mehra, S (2008). "Sighting of a partially albino Red-wattled Lapwing Vanellus indicus in Udaipur, Rajasthan". Indian Birds. 4 (3): 120.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Saini,SS (1972). "Unexpected summer visitors in the Himalayas - Redwattled Lapwing". Newsletter for Birdwatchers. 12 (8): 5–6.
- Sharma, SK (1992). "Use of droppings of Indian Hare for nest making by Redwattled Lapwing". Newsletter for Birdwatchers. 32 (7&8): 19.
- Mundkur,Taej (1985). "Observations on the roof-nesting habit of the Redwattled Lapwing (Vanellus indicus) in Poona, Maharashtra". J. Bombay Nat. Hist. Soc. 82 (1): 194–196.
- Tehsin, Raza H; Lokhandwala,Juzer (1982). "Unusual nesting of Redwattled Lapwing (Vanellus indicus)". J. Bombay Nat. Hist. Soc. 79 (2): 414.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Reeves,SK (1975). "Unusual nesting by Red-wattled Lapwing". Newsletter for Birdwatchers. 15 (2): 5–6.
- McCann, Charles (1941). "Curious nesting site of the Red-wattled Lapwing (Lobivanellus indicus indicus Bodd.)". J. Bombay Nat. Hist. Soc. 42 (2): 439–440.
- Sridhar,S; Karanth,P (1991). "Dilemma near the nest of a pair of red-wattled lapwings". Newsletter for Birdwatchers. 31 (7&8): 7–9.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Rangaswami,S (1980). "Lapwing fighting off cobra". Newsletter for Birdwatchers. 20 (1): 13.
- Bhatnagar,RK (1978). "Interaction of a Redwattled Lapwing and a dog". Newsletter for Birdwatchers. 18 (1): 9.
- Bhagwat,VR (1991). "Lapwings and snake". Newsletter for Birdwatchers. 31 (5&6): 10–11.
- Kalsi, RS; Khera, S (1987). "Agonistic and distraction behaviour of the Redwattled Lapwing, Vanellus indicus indicus". Pavo. 25 (1&2): 43–56.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - "นิทานเกี่ยวกับนกกระแตแต้แว้ด จากเพจ สิ่งละอันพันละนก ลองเข้าไปอ่านกันดูครับ". 2013-10-01. สืบค้นเมื่อ 2015-05-24.
- Naik, RM; George, PV; Dixit, Dhruv B (1961). "Some observations on the behaviour of the incubating Redwattled Lapwing, Vanellus indicus indicus (Bodd.)". J. Bombay Nat. Hist. Soc. 58 (1): 223–230.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Desai,JH; Malhotra,AK (1976). "A note on incubation period and reproductive success of the Redwattled Lapwing, Vanellus indicus at Delhi Zoological Park". J. Bombay Nat. Hist. Soc. 73 (2): 392–394.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Sundararaman, V. (1989). "Belly-soaking and nest wetting behaviour of Redwattled Lapwing, Vanellus indicus (Boddaert)". Journal of Bombay Natural Hist. Soc. 86: 242.
- Kalsi, R. S. & S. Khera (1990). "Growth and development of the Red-wattled Lapwing Vanellus indicus". Stilt. 17: 57–64.
- Kalsi,RS; Khera,S (1992). "Some observations on maintenance behaviour of the Red-wattled Lapwing Vanellus indicus (Boddaert)". J. Bombay Nat. Hist. Soc. 89 (3): 368–372.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Jadhav. V.; Nanware S. S.; Rao S. S. (1994). "Two new tapeworm Panuwa ahilyai n. sp. and Panuwa shindei n. sp. from Vanellus indicus at Aurangabad, M.S., India". Rivista di Parassitologia. 55 (3): 379–384.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Siddiqi, AH, Jairajpuri MS (1962). "Uvitellina indica n. sp. (Trematoda: Cyclocoeliidae) from a redwattled lapwing, Lobivanellus indicus (Boddaert)". Z Parasitenkd. 21: 212–4. doi:10.1007/BF0026033. PMID 13912529.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Babi,AZ (1987). "Feeding behaviour of red-wattled lapwing". Newsletter for Birdwatchers. 27 (1–2): 15.
- "เรื่องเล่า นกกระแตแต้แว้ด". 2012-01-23. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-06-17. สืบค้นเมื่อ 2015-05-24.
- Saxena VS (1974). "Unusual nesting by Red-wattled Lapwing". Newsletter for Birdwatchers. 14 (11): 3–5.
- Ganesh Tamang (2003). "An Ethnobiological Study of the Tamang People" (PDF). Our Nature. 1: 37–41.
- Negi, Chandra S. Negi and Veerendra S. Palyal (2007). (PDF). Ethno-Med. 1 (1): 47–54. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2012-04-30. สืบค้นเมื่อ 2015-06-09.
- Srinivas, K.V. & S. Subramanya (2000). "Stealing of Redwattled Lapwing Vanellus indicus (Boddaert) and Yellow-wattled Lapwing Vanellus malabaricus (Boddaert) eggs by cowherds". Journal of Bombay Natural Hist. Soc. 97 (1): 143–144.
- "พระไตรปิฎกฉบับมหามกุฏฯ (ภาษาไทย) เล่มที่ 11 พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค พรหมชาลสูตร", E-Tipitaka 2.1.2 (2010), vol. 11, p. 166 (อรรถกถา)
- "พระไตรปิฎกฉบับมหามกุฏฯ (ภาษาไทย) เล่มที่ 20 พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ อัมพลัฏฐิกราหุโลวาทสูตร", E-Tipitaka 2.1.2 (2010), vol. 20, p. 274 (อรรถกถา)
- "พระไตรปิฎกฉบับมหามกุฏฯ (ภาษาไทย) เล่มที่ 22 พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ ปัญจัตตยสูตร", E-Tipitaka 2.1.2 (2010), vol. 22, p. 58 (อรรถกถา)
- "พระไตรปิฎกฉบับมหามกุฏฯ (ภาษาไทย) เล่มที่ 58 พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก เล่มที่ 3 ภาคที่ 4", E-Tipitaka 2.1.2 (2010), vol. 58, p. 147 (พระบาลีและอรรถกถา)
- "พระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ (ภาษาไทย) เล่มที่ 27 พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก ภาค 1 สุชาตาชาดก", E-Tipitaka 2.1.2 (2010), vol. 27, p. 132 (พระบาลี)
บรรณานุกรม
- จันทร์น้อย. "นกกระแตแต้แว้ด". bloggang.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-06-17. สืบค้นเมื่อ 2015-05-24.
- Anon. (1991) Flocking of Red Wattled Lapwings. 31(5–6):1.
- (1965) Small displacement by ground nesting birds. 5(9):10.
- Gay, Thomas (1975). "More about the nesting of the Red-wattled Lapwing". . 15 (4): 9.
- Jamdar, Nitin (1985) Redwattled Lapwing (Vanellus indicus) suffering from cataract. Journal of the Bombay Natural History Society 82(1):197.
- Kalsi, RS; Khera, S (1986) Some observations on breeding and displacement behaviour of the Redwattled Lapwing Vanellus indicus indicus (Aves: Charadriidae). Res. Bull. Panjab Univ. 37:131–141.
- Khajuria, H (1972) Nestlings of the redwattled lapwing, Vanellus i. indicus (boddaert). Pavo 8(1&2):82–83.
- Koshy, MS (1989) Lapwings on a roof. 29(7–8):7.
- (1998) Ubiquitous alarmist. Blackbuck. 14(3&4):88–90.
- Jackson, P (1976) Redwattled Lapwing. 16(3):11–12.
- Saxena, VS (1973) Unusual nesting by Redwattled Lapwing. Indian Forester 99:33–35.
แหล่งข้อมูลอื่น
- Photos of holotype for Vanellus indicus lankae
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
nktxytiwid chuxxun idaek nkkratxytiwid nkkraaetaetaewd nkaetaewd hrux nkaetdaet inphasathinxisan chuxwithyasastr Vanellus indicus epnnkthisiswynadu phbidtamphunthiolngekuxbthuksphaphthwpraeths xyuinwngsnkhwot Charadriidae wngsyxy Vanellinae hrux Charadriinae miesiyngrxngetuxnphyaehlmdngthiimehmuxnikhrwa aetaetaewd hruxtamkhnphudphasaxngkvswa did he do it hrux pity to do it thaihmichuxeriyktang kntamesiyngrxngthngphasaithyaelaphasaxun epnnkthimkcaehnepnkhu hruxepnfungelk imiklcakaehlngna aetxaccaxyurwmepnfungihyinvduhnawthiimichvduphsmphnthu inpraethsithy epnstwpakhumkhrxng tamphrarachbyytisngwnaelakhumkhrxngstwpa phuththskrach 2535 cunghamla phyayamla hamkha hamnaekhahruxsngxxk hamkhrxbkhrxng hamephaaphnthu hamekbhruxthaxntrayrng karhamkarkhrxbkhrxngaelakarkhamiphlipthungikhaelasaknktxytiwidV i indicus phwemiycakrthmharastra praethsxinediy source source esiyngrxngsthanakarxnurkskhwamesiyngta IUCN 3 1 karcaaenkchnthangwithyasastrodemn yuaekhrioxtxanackr stwiflm stwmiaeknsnhlngchn stwpikxndb wngs skul 1783 spichis Vanellus indicuschuxthwinamVanellus indicus 1783 khxbekhtkhxngnktxytiwidchuxphxngHoplopterus indicus Lobivanellus indicus Lobivanellus goensis Tringa indica Sarcogrammus indicuskhaphrrnnakraaetaetaewd nktxytiwidepnnkkhayaw luyna yawpraman 35 sm twkhnadnkekhaihy pikaelahlngmisinatalxxnmiaewwsimwng aethw xk aelakhxhruxdanhnakhx epnsida miaethbsikhaw thiehnchdecninrahwang tngaetthxngipcnthunghang bangphnthucakhunipkhang khxcnekuxbthungyxd rwmthngbriewnhu pikyawcnekuxbkhlumhang hangsnmisida suddwysinatalaelakhaw hruxda mitingenuxsiaedngphadthangdanhnacakkhxbtahnungipxikkhxbtahnung pakaedngplayda khayawmisiehluxng tinmi 4 niw niwhlngepntingelk xyusungkwaniwxun ekaakingimimid miphngphudtxnokhnniwelknxy emuxkalngbin pikmiaethbsikhawehnidchdthngbnlang V i aigneri inpraethsturki phnthuyxy aigneri misicangkwa khnadihykwaphnthutnaebb aelaphbinpraethsturki xihran xirk xfkanisthan aelalumaemnasinthu swnphnthutnaebbphbthwpraethsxinediy phnthuyxy lankae inpraethssrilngkaelkkwa aelasiekhmkwa inkhnathiphnthuyxy atronuchalis inxinediytawnxxkechiyngehnuxaelapraethsbngklaeths miaekmkhawlxmdwysida twemiytwphumikhnkhlaykn aettwphumipikyawkwa 5 aelamkcamieduxyethathiyawkwa nkyawpraman 320 350 mm pikyaw 208 247 mm phnthutnaebbpikyawthiechliy 223 mm aelaphnthusrilngka 217 mm pakyaw 31 36 mm aelakradukkhxetha tarsus yaw 70 83 mm hangyaw 104 128 mm nkmkcaxyurwmkn 2 3 twinthiolngthimina innathiith aelathikhxbsrahruxinsrathiaehng aetbangkhrngcarwmknepnfungihy 26 200 tw bangkhrngkphbdwyinthiolnginpa hruxinbxhlumthiminafn nkwingipwingmaepnrayasn aelacakmlngaebbexiyng odyimidkangpik ephuxcacikxaharkhunmaehmuxnkbnkhwotthwip nkxachakininewlaklangkhundwy odymkcakhynikl wnephy epnnkthiramdrawngtuntwtlxdewlaxyangnaaeplkic imwacaepnklangwnklangkhun mkcaepnstwaerkthitrwccbstwxunid aelwrxngetuxnphy dngnn cungepnnknarakhaysahrbphwknayphran nkbinidimerwnk txngkhxy kraphuxpikip aetwa cawxngiwemuxtxngpxngknrng hruxthuklaodyehyiyw V i atronuchalis khwamswyngamkhxngnkmaphrxmkbesiyngdngduwa aetaetaewd bxykhrngrxnginewlaklangkhun nkephuxkkmibangaetnxy chuxnkinphunthitang mkcaeliynesiyngrxng rwmthnginphasahindi titeeri knnada tittibha sinthi tateehar khuchrat titodi aekhchemiyr hatatut xssm balighora etluku yennappa chitawa thmil aal kaati aeplwa ecatwchimnusy aelaithykarkracaytwnkphbtngaetinexechiytawntk xirk xihrantawntkechiyngit xawepxresiy tlxdcnthungexechiyit baolchisthan xfkanisthan pakisthan praethsxinediythnghmdcnthungekht Kanyakumari ekhaipthungkhwamsung 1 8 km inrthchmmuaelaksmiraelapraethsenpal odymiphnthuyxyxun xikinexechiyxakheny nkxaccaxphyphtamkhwamsunginvduibimphliaelavduibimrwng echninaekhwnbaolchisthantxnehnux aelaxaccaxphyphkracayipthwinvdumrsum thiekidthixyuihm aetwa nkodymakcaepnnkpracathin aemnkerimcaldcanwnlnginthixyuekhtthangtawntk aetkyngmixyumakinexechiyit ehnidinthinthixyuthiminaekuxbthukaehngphvtikrrmaelaniewsluknkkbikhinrngthiphun luknkcaxxkcakikhphrxmkn mikhnxaphrangta canxnning thatkicVanellus indicus aigneri vduphsmphnthuodyhlk xyuchwngeduxnminakhmthungsinghakhm twphucacibtwemiyodyphxngkhn yunpakkhun aelwedinwnrxb twemiy xaccamitwphucibtwemiyhlaytwphrxm knikl kn ikhcawangiwthiphunhruxinaexngthiikhcaimklingxxk bangkhrngphrxmkbkxnhinelk aelakhiaephahruxkhikratay odycawangikhthila 3 4 fxngmisiehluxngdangda miruprangkhlaykbluksali mikhnadodyechliy 42x30 mm rngnnehnidyak ephraawasiikhthiphrangta mkcaekhakbsiphun inekhtthixyuxasykhxngmnusy bangkhrngkcatharngbnhlngkhadwy mibnthukwa nktharngxyuthikxnhinrahwangthangrthif odyphxaemcahlikipemuxrthifwingphan mikaryayrngnkthiesiyngcakekstrkrrm odykhxy eluxnikhnkxxkip emuxtharng nkcabindingocmti hruxhlxklxstwlaehyux echndinchkipmaehmuxnbadecbhnk ephuxlxiheraedintammnip hruxxaccakraphuxpikephuxknstwkinphuchthixacepnphytxrng thngtwphutwemiycakkikh odytwphuducarbkkikhtxcaktwemiy odyechphaainchwngrxn ewlaklangwn luknkcaxxkcakikhphayin 28 30 wn nkphsmphnthusaercinxtra 40 khuxikhbangfxngcaimepntw swnkaresiyikhthiphsmphnthusaerc xyuinradbsungthi 43 enuxngcakkarlaehyuxkhxngphngphxn ka aelaehyiyw luknkmioxkastaythi 8 3 odycamioxkasrxdsungkhunhlngcakxathityaerk ehmuxnkbnkhwotpraephthxun nkcachubkhnthxngihepiyk ephuxihnakbluknk aelathaihikheyninchwngxakasrxn luknkcathingrngaelwtamphxaemip hlngcakxxkcakikhimnan nkcaxabnathami aelacaiskhncnhlngxxkcakrnghruxphsmphnthu bangkhrngcanxnxyuthiphun odywangkradukkhxethaaenbkbphun aelabangkhrngcaphkyunkhakhangediyw nkbin ihsngektaethbkhawbnpikthiimehmuxnnkxun aelaaethbdakwangthihang nkthiaekhngaerngdimistrunxy mikarklawthungwa phyathitwaebnaelaphyathiibimepnprsitinnk xahar xaharkhxngnkrwmthngaemlng hxythak aelastwimmikraduksnhlngxun odymakhacakthiphun aelaxaccakinemldthyphuchbangchniddwy nkhaxaharinchwngklangwnodyhlk aetxaccahakininewlaklangkhundwy aelabangkhrngcaichethakwnehyuxinwthnthrrmtang bangthxngthininpraethsxinediy aelainpraethsithy mikhwamechuxwa nknxnhngayexatinchifaephraaklwfathlm sungimepncringphasahindithungkbmikhaxuplksnaeplwa nktxytiwid caynthxngfaiwidhruxim hmaythungbukhkhlthithaxair ekinaernghruxkhwamsamarthkhxngtn inbangphunthikhxngrthrachsthan echuxknwa thankwangikhinphunthisung pinnfncatkdi mikarichikhnkinkaraephthyphunban inkhmphirphuththsasna khmphirchnphraitrpidkaelaxrrthkthakhxngphraphuththsasna idklawthungnktxytiwidinhlaypraednrwmthng bukhkhlphungtamrksasilethachiwit ehmuxnkbnktamrksaikh phraphuththecathrngtamihoxwathkbthanphrarahul ehmuxnkbnktamrksaikh stw 4 phwkklwsingthiimkhwrklw ehmuxnnknxnhngayephraaklwfathlm nkthungmisiswy aetkmiwacaimipheraa cungimepnthirkkhxngchnthnghlay mikarklawihbukhkhltamrksasil ehmuxnkbnktxytiwidtamrksaikhkhxngtn khux nktxytiwidrksafxngikhchnid camrirksakhnhangchnid phumibutrkhnediywrksabutrphuepnthirkchnid phuminyntakhangediyw rksanyntathiyngehluxxikkhangchnid thanthnghlaycngtamrksasilehmuxnchnnnthiediyw cngepnphumisilepnthirkdwydi mikhwamekharph thukemuxethid dngni sumngkhlwilasini xrrthkthathikhnikay silkhnthwrrkh phrhmchalsutr mikarklawthungwa phraphumiphraphakhecaidtamrksathanphrarahul ehmuxnkbnktxytiwittamrksaikhkhxngtn khux phratthakhtphumiphrapyyaechliywchlad thrngsmburndwysil thrngrksaeraehmuxnnktxytiwidrksaphuchphnthu ehmuxnenuxcamrirksakhnhangsungsudchann ppycsuthni xrrthkthamchchimnikay mchchimpnnask xmphltthikrahuolwathsutr mikarklawthungwa nktxytiwidnxnhngay ephraaklwfathlm khux ehmuxnstw 4 caphwkehlani yxmklwtxsingthiimkhwrklw dngmithima wa khaaetmharach stw 4 caphwkael yxmklwtxsingthiimkhwrklwael 4 caphwkichnbang khaaetmharach iseduxnaelyxmimkindin ephraaklwwa aephndincahmd khaaetmharach nkkaeriynyxmyunethaediyw bnaephndin ephraaklwwaaephndincathrud khaaetmharach nktxytiwidnxnhngay ephraaklwwafacathlm khaaetmharach phrahmnphupraphvtithrrmael yxmimpraphvtiphrhmcrry khuxcamiphrrya ephraaklwwaolkcakhadsuy chann ppycsuthni xrrthkthamchchimnikay xupripnnask pycttysutr mikaryknktxytiwidwa epnnkthiswyaetmiwacaimipheraainsuchatachadk ineruxngnixrrthkthacaryxthibaywa epneruxngenuxngkbkarsxnnangsuchadasaiphkhxngxnathbinthikesrsthiphumiwacaduray khuxphraphuththecakidthrngsngsxnnangsuchadainchatikxn maaelwechnkn aelathrngyknkduehwaethiybkbnktxytiwid thimiesiyngimnafng khuxthrngykwa thrrmdastwthnghlaythismburndwywrrna miesiyngxnipheraa narknachm aetphudcahyabkradang yxmimepnthirkkhxngikhr thnginolkniaelaolkhna phraxngkh phrarachchnnikhxngphraophthistwphuinchatihlngepnnangsuchada thrngthxdphraentraelwmiichhrux nkduehwasidatwnimisiimswy layphrxyipthngtw aetepnthirkkhxngstwthnghlaycanwnmak ephraarxngdwyesiyngxnipheraa ephraachannbukhkhlkhwrphudkhaxnslaslwy khidkxnphud phudphxpraman imfungsan thxykhakhxngphuthiaesdngepnxrrthepnthrrm epnthxykhaxnipheraa epnthxykhathiepnphasit khuththknikay chadk suchatachadkechingxrrthaelaxangxingBirdLife International 2016 Vanellus indicus IUCN Red List of Threatened Species 2016 e T22694013A89569039 doi 10 2305 IUCN UK 2016 3 RLTS T22694013A89569039 en txytiwid phcnanukrmxielkthrxniks chbbrachbnthitysthan ph s 2542 n chuxnkchnid Vanellus indicus inwngs Charadriidae twkhnadnkekhaihy hwsidakhnbriewnhusikhaw mitingenuxsiaedngphadthangdanhnacakkhxbtahnungipxikkhxbtahnung pakyaw khayawsiehluxng tinmi 4 niw niwhlngepntingelk rxngesiyngaehlm aetaetaewd kinstwkhnadelk wangikhinaexngtun bnphundin kratxytiwid kraaetaetaewd hrux aetaewd keriyk Jerdon TC 1864 The Birds of India George Wyman amp Co pp 648 649 Symons CT 1917 Note on the breeding habits of the Did he do it Sarcogrammus indicus Spolia Zeylanica 10 39 397 398 Hayman P J Marchant T Prater 1986 Shorebirds an identification guide to the waders of the world Croom Helm London pp 274 275 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a CS1 maint multiple names authors list lingk stwpakhumkhrxng olksiekhiyw cakaehlngedimemux 2015 03 26 subkhnemux 2015 04 23 Ali S amp S D Ripley 1980 Handbook of the birds of India and Pakistan Vol 2 2 ed Oxford University Press pp 212 215 Pamela C Rasmussen and John C Anderton 2005 Birds of South Asia The Ripley Guide Smithsonian Institution amp Lynx Edicions ISBN 84 87334 67 9 OCLC 60359701 Vyas Rakesh 1997 Flocking and courtship display in Redwattled Lapwing Vanellus indicus Journal of Bombay Natural Hist Soc 94 406 407 Ali Salim 1996 Book of Indian Birds Salim Ali centenary edition Mumbai Bombay Natural History Society Oxford University Press p 139 Mehra SP Singh N Mehra S 2008 Sighting of a partially albino Red wattled Lapwing Vanellus indicus in Udaipur Rajasthan Indian Birds 4 3 120 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Saini SS 1972 Unexpected summer visitors in the Himalayas Redwattled Lapwing Newsletter for Birdwatchers 12 8 5 6 Sharma SK 1992 Use of droppings of Indian Hare for nest making by Redwattled Lapwing Newsletter for Birdwatchers 32 7 amp 8 19 Mundkur Taej 1985 Observations on the roof nesting habit of the Redwattled Lapwing Vanellus indicus in Poona Maharashtra J Bombay Nat Hist Soc 82 1 194 196 Tehsin Raza H Lokhandwala Juzer 1982 Unusual nesting of Redwattled Lapwing Vanellus indicus J Bombay Nat Hist Soc 79 2 414 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Reeves SK 1975 Unusual nesting by Red wattled Lapwing Newsletter for Birdwatchers 15 2 5 6 McCann Charles 1941 Curious nesting site of the Red wattled Lapwing Lobivanellus indicus indicus Bodd J Bombay Nat Hist Soc 42 2 439 440 Sridhar S Karanth P 1991 Dilemma near the nest of a pair of red wattled lapwings Newsletter for Birdwatchers 31 7 amp 8 7 9 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Rangaswami S 1980 Lapwing fighting off cobra Newsletter for Birdwatchers 20 1 13 Bhatnagar RK 1978 Interaction of a Redwattled Lapwing and a dog Newsletter for Birdwatchers 18 1 9 Bhagwat VR 1991 Lapwings and snake Newsletter for Birdwatchers 31 5 amp 6 10 11 Kalsi RS Khera S 1987 Agonistic and distraction behaviour of the Redwattled Lapwing Vanellus indicus indicus Pavo 25 1 amp 2 43 56 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk nithanekiywkbnkkraaetaetaewd cakephc singlaxnphnlank lxngekhaipxankndukhrb 2013 10 01 subkhnemux 2015 05 24 Naik RM George PV Dixit Dhruv B 1961 Some observations on the behaviour of the incubating Redwattled Lapwing Vanellus indicus indicus Bodd J Bombay Nat Hist Soc 58 1 223 230 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Desai JH Malhotra AK 1976 A note on incubation period and reproductive success of the Redwattled Lapwing Vanellus indicus at Delhi Zoological Park J Bombay Nat Hist Soc 73 2 392 394 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Sundararaman V 1989 Belly soaking and nest wetting behaviour of Redwattled Lapwing Vanellus indicus Boddaert Journal of Bombay Natural Hist Soc 86 242 Kalsi R S amp S Khera 1990 Growth and development of the Red wattled Lapwing Vanellus indicus Stilt 17 57 64 Kalsi RS Khera S 1992 Some observations on maintenance behaviour of the Red wattled Lapwing Vanellus indicus Boddaert J Bombay Nat Hist Soc 89 3 368 372 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Jadhav V Nanware S S Rao S S 1994 Two new tapeworm Panuwa ahilyai n sp and Panuwa shindei n sp from Vanellus indicus at Aurangabad M S India Rivista di Parassitologia 55 3 379 384 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Siddiqi AH Jairajpuri MS 1962 Uvitellina indica n sp Trematoda Cyclocoeliidae from a redwattled lapwing Lobivanellus indicus Boddaert Z Parasitenkd 21 212 4 doi 10 1007 BF0026033 PMID 13912529 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Babi AZ 1987 Feeding behaviour of red wattled lapwing Newsletter for Birdwatchers 27 1 2 15 eruxngela nkkraaetaetaewd 2012 01 23 ekbcakaehlngedimemux 2015 06 17 subkhnemux 2015 05 24 Saxena VS 1974 Unusual nesting by Red wattled Lapwing Newsletter for Birdwatchers 14 11 3 5 Ganesh Tamang 2003 An Ethnobiological Study of the Tamang People PDF Our Nature 1 37 41 Negi Chandra S Negi and Veerendra S Palyal 2007 PDF Ethno Med 1 1 47 54 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2012 04 30 subkhnemux 2015 06 09 Srinivas K V amp S Subramanya 2000 Stealing of Redwattled Lapwing Vanellus indicus Boddaert and Yellow wattled Lapwing Vanellus malabaricus Boddaert eggs by cowherds Journal of Bombay Natural Hist Soc 97 1 143 144 phraitrpidkchbbmhamkut phasaithy elmthi 11 phrasuttntpidk thikhnikay silkhnthwrrkh phrhmchalsutr E Tipitaka 2 1 2 2010 vol 11 p 166 xrrthktha phraitrpidkchbbmhamkut phasaithy elmthi 20 phrasuttntpidk mchchimnikay mchchimpnnask xmphltthikrahuolwathsutr E Tipitaka 2 1 2 2010 vol 20 p 274 xrrthktha phraitrpidkchbbmhamkut phasaithy elmthi 22 phrasuttntpidk mchchimnikay xupripnnask pycttysutr E Tipitaka 2 1 2 2010 vol 22 p 58 xrrthktha phraitrpidkchbbmhamkut phasaithy elmthi 58 phrasuttntpidk khuththknikay chadk elmthi 3 phakhthi 4 E Tipitaka 2 1 2 2010 vol 58 p 147 phrabaliaelaxrrthktha phraitrpidkchbbmhacula phasaithy elmthi 27 phrasuttntpidk khuththknikay chadk phakh 1 suchatachadk E Tipitaka 2 1 2 2010 vol 27 p 132 phrabali brrnanukrmcnthrnxy nkkraaetaetaewd bloggang com ekbcakaehlngedimemux 2015 06 17 subkhnemux 2015 05 24 Anon 1991 Flocking of Red Wattled Lapwings 31 5 6 1 1965 Small displacement by ground nesting birds 5 9 10 Gay Thomas 1975 More about the nesting of the Red wattled Lapwing 15 4 9 Jamdar Nitin 1985 Redwattled Lapwing Vanellus indicus suffering from cataract Journal of the Bombay Natural History Society 82 1 197 Kalsi RS Khera S 1986 Some observations on breeding and displacement behaviour of the Redwattled Lapwing Vanellus indicus indicus Aves Charadriidae Res Bull Panjab Univ 37 131 141 Khajuria H 1972 Nestlings of the redwattled lapwing Vanellus i indicus boddaert Pavo 8 1 amp 2 82 83 Koshy MS 1989 Lapwings on a roof 29 7 8 7 1998 Ubiquitous alarmist Blackbuck 14 3 amp 4 88 90 Jackson P 1976 Redwattled Lapwing 16 3 11 12 Saxena VS 1973 Unusual nesting by Redwattled Lapwing Indian Forester 99 33 35 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb nktxytiwid wikispichismikhxmulphasaxngkvsekiywkb Vanellus indicus Photos of holotype for Vanellus indicus lankae