ตำนานเมืองนครศรีธรรมราช เป็นตำนานที่แต่งเป็นร้อยแก้ว มีลักษณะเป็นการบอกเล่าของท้องถิ่น ตำนานเมืองและตำนานพระธาตุผสมเข้ากับเหตุการณ์ช่วงปลายกรุงศรีอยุธยาถึงต้นรัตนโกสินทร์ เดวิด เค. วัยอาจระบุว่าตำนานเมืองนครศรีธรรมราชเป็นสำนวนที่เขียนในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ตำนานเมืองนครศรีธรรมราชน่าจะเป็นต้นเค้าให้กับตำนานอีกสองฉบับคือ ตำนานพระบรมธาตุเมืองนครศรีธรรมราชและตำนานพระบรมธาตุเมืองนครศรีธรรมราชฉบับกลอนสวด (นิพพานโสตร)
ตำนานเมืองนครศรีธรรมราชตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2481 หลวงทำนุนิกรราษฎร์จัดพิมพ์หนังสือเป็นที่ระลึกในงานประชุมเพลิงศพนางสามพร้อม ณ นคร ธิดาพระยาบริรักษ์ภูเบศ (เอี่ยม ณ นคร) ต้นฉบับเป็นสมุดไทยเก่าแก่ของกรมศิลปากร เขียนด้วยหมึกดำอักษรไทยย่อ บางส่วนชำรุดและลบเลือนแล้ว อย่างไรก็ดีในการตีพิมพ์เมื่อ พ.ศ. 2517 ระบุว่าจากการตรวจสอบกลุ่มหนังสือตัวเขียนและจารึกสำนักหอสมุดแห่งชาติ ไม่พบต้นฉบับสมุดไทย จึงได้พิมพ์ตามอักขรวิธีฉบับตีพิมพ์ครั้งแรก
เนื้อหา
เรื่องราวกล่าวถึงนครบุรีของท้าวโคศรีหราชและเมืองขันบุรีของท้าวอังคุตราช ทำศึกแย่งชิงพระทันตธาตุ (ฟัน) ท้าวโคศรีหราชให้นางเหมมาลาและเจ้าธนกุมารนำพระทันตธาตุหลบหนีไปที่เมืองลังกา ระหว่างทางเกิดสำเภาล่ม สองพี่น้องจึงรอนแรมเข้าไปพบกับหาดทรายแก้วจึงได้ฝังพระทันตธาตุไว้ ต่อมามีมหาเถรพรหมเทพเหาะมานมัสการพระทันตธาตุ สองพี่น้องจึงห่อพระทันตธาตุห่อเกล้าชฎา โดยเดินทางไปขึ้นสำเภาที่ท่าตรัง แต่เกิดเหตุอัศจรรย์สำเภาหนักเดินทางไปไม่ได้ เจ้าสำเภาคิดว่าสองพี่น้องนี้เป็นปัญหาจึงวางแผนฆ่า สองพี่น้องได้ระลึกถึงมหาเถรพรหมเทพให้มาช่วยเหลือ มหาเถรพรหมเทพได้แปลงเป็นครุฑเข้ามาช่วยเหลือ
หลังจากนั้น ข้อความในต้นฉบับก็ขาดหายไป จนถึงตอนที่นาคราชขึ้นมาถวายบังคมพระทันตธาตุ พระมหาเถรพรหมเทพ จึงทำนายว่าพระยาศรีธรรมาโศกราช จะมาตั้งเมืองที่หาดทรายแก้วและจะก่อสร้างพระเจดีย์องค์ใหญ่สูง 37 วา
เรื่องกล่าวถึงเมืองหนึ่งที่ใหญ่มาก ราชามีราชบุตร 2 คน ต่อมาไข้ยมบนระบาด เจ้าเมืองจึงอพยพผู้คนลงเรือสำเภามายังหาดทรายแก้ว นายพราน 8 คนได้พบหาดกว้างใหญ่และพบแก้วเท่าลูกหมากสุกจึงนำไปถวายเจ้าเมือง จากนั้นเจ้าเมืองจึงให้พระเถระ 4 รูป พร้อมด้วยไพร่พล 100 คน ลงไปยังเมืองลังกา เจ้าเมืองลังกาก็ให้พระพุทธคำเพียร เดินทางกลับมาพร้อมเถระ 4 รูป และมาปรึกษาและการตั้งเมืองกับพระยาศรีธรรมาโศกราช โดยให้พระพุทธคำเพียรได้กล่าวแก่พระยาศรีธรรมาโศกราชว่าให้ตั้งเมืองด้วยการจัดเกณฑ์คนในช่องห้วยช่องเขา แต่เกิดไข้ยมบนระบาดอีกครั้ง พระยาศรีธรรมาโศกราชจึงทิ้งรี้พลอพยพอีกหน
ต่อมาศักราชใดไม่ปรากฏเอกสารลบเลือน พระยาศรีธรรมาโศกราชได้สร้างเมืองขึ้นสำเร็จโดยคำปรึกษาของพระพุทธคำเพียร ระหว่างนั้นรู้ข่าวว่าพระพุทธสิหิงค์เสด็จออกจากเมืองลังกาล่องน้ำมาถึงเกาะปีนังจนถึงหาดทรายแก้ว
ต่อมามีนักเทศน์ถือราชสารจากมัธยมประเทศ แจ้งให้พระยาศรีธรรมาโศกราชก่อสร้างพระมหาธาตุแต่ยังไม่มีพระสารีริกธาตุ พระยาศรีธรรมาโศกราชจึงให้เสนาอำมาตย์ป่าวประกาศว่ามีผู้ใดรู้ที่ซ่อนพระสารีริกธาตุจะให้ทองเท่าลูกฟัก มีผู้เฒ่าอายุ 120 ปี รู้ว่าพระธาตุซ่อนอยู่ที่ใด เมื่อพบแล้วเอาขึ้นมาไม่ได้เพราะมีมนต์สะกดอยู่จึงประกาศหาผู้แก้มนต์ มีชายยากจนผู้หนึ่งสามารถแก้มนต์ได้ เมื่อแก้ได้พระอินทร์ก็ให้พระวิษณุลงมาเอาพระบรมสารีริกธาตุให้แก่พระยาศรีธรรมาโศกราช
หลังจากสร้างพระมหาธาตุเจดีย์แล้ว พระยาศรีธรรมาโศกราชได้สร้าง(เมืองสิบสองนักษัตร) หลังจากนั้นเกิดไข้ห่าระบาดผู้คนล้มตาย เมืองนครศรีธรรมราชก็ร้างไปนาน
เรื่องเล่าถึงศักราช 1196 กล่าวถึงพระยาศรีไสยณรงค์ เป็นผู้ครองเมือง ต้นฉบับรายการนี้ขาดหาย คำกล่าวถึงท้าวอู่ทองแบ่งอาณาเขตกับเจ้าเมืองนครและสัญญาว่าจะเป็นพระญาติกันสืบไป โดยเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชทูลแก่ท้าวอู่ทองว่าเมื่อสิ้นพระองค์แล้วขอฝากพระนางพระยาศรีธรรมราชและราชบุตร คือ พระยาจันทรภาณุและพระยาหงศ์สุราหะ ให้อยู่ในความปกครองของท้าวอู่ทองด้วย
ต่อมาพระยาศรีธรรมาโศกราชเสด็จสวรรคต พระยาจันทรภาณุจึงปกครองเมืองแทน จนในปีที่ 7 ของพระองค์ ไข้ยมบนระบาดหนัก พระยาจันทรภาณุจึงพาลูกเมียและคนนายคนสนิทลงเรือหนีแต่ลูกเมียตายในที่สุด เมืองนครศรีธรรมราชจึงไร้ผู้คนอีกครั้ง
เรื่องราวกล่าวถึงกษัตริย์ราชวงศ์เพชรบุรีซึ่งทำนาเกลือเจริญรุ่งเรือง มีหลานชายชื่อพระพนมทะเล หลานสะใภ้ชื่อนางสะเดียงทอง กษัตริย์เพชรบุรีได้ส่งให้พระพนมทะเลและนางสะเดียงทองไปสร้างเมืองนคร ต่อมาห่าระบาด คนที่เกณฑ์มาตั้งบ้านเรือนหนีไปเข้าป่าอีกครั้ง พระพนมทะเลและนางสะเดียงทองก็ส่งลูกหลานออกไปสร้างป่าให้เป็นนาอีกครั้ง ส่งไปเป็นเจ้าเมืองแขกบ้างและเมืองอื่น ๆ บ้าง
ต่อมาพระพนมทะเลและนางสะเดียงทองสวรรคต เจ้าศรีราชา ราชบุตรองค์โตขึ้นครองราชย์ ได้รับพระราชทานจากเจ้ากรุงเพชรบุรีเป็นพระยาศรีธรรมาโศกราช บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง จนสิ้นพระยาศรีธรรมาโศกราช (เจ้าศรีราชา) นายอูซึ่งเป็นหลานชาย ได้มาเป็นเจ้าเมืองสืบต่อ หลังจากนั้นนายราม บุตรชาย ขึ้นมาเป็นเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช
ฉบับ
- พ.ศ. 2481 พิมพ์หนังสือเป็นที่ระลึกในงานประชุมเพลิงศพนางสามพร้อม ณ นคร
- พ.ศ. 2491 พิมพ์ในงานฌาปนกิจศพนายอาจิณ ลิมปิชาติ
- พ.ศ. 2500 พิมพ์เป็นบรรณาการในงานฌาปนกิจศพคุณเยี่ยม โกมารกุล ณ นคร
- พ.ศ. 2505 พิมพ์รวมอยู่ในหนังสือ รวมเรื่องเมืองนครศรีธรรมราช พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพพลเอกเจ้าพระยาบดินทรเดชานุชิต (แย้ม ณ นคร)
- พ.ศ. 2510 พิมพ์รวมอยู่ในหนังสือ เรื่องเมืองนครศรีธรรมราช พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพนางตลับ จันทราทิพย์
- พ.ศ. 2517 พิมพ์รวมอยู่ในหนังสือ เรื่องเมืองนครศรีธรรมราช พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพนายดิเรก ณ นคร
- พ.ศ. 2560 กรมศิลปากรพิมพ์เผยแพร่ในหนังสือ ตำนานพระธาตุและตำนานเมืองนครศรีธรรมราช
อ้างอิง
- พิเชฐ แสงทอง. "ตำนานไทยพุทธและมลายูมุสลิม : อำนาจและการต่อต้านในภาคใต้ของไทย" (PDF). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะอักษรศาสตร์.
- "ตำนานพระธาตุและตำนานเมือง นครศรีธรรมราช" (PDF). กรมศิลปากร.
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
tananemuxngnkhrsrithrrmrach epntananthiaetngepnrxyaekw milksnaepnkarbxkelakhxngthxngthin tananemuxngaelatananphrathatuphsmekhakbehtukarnchwngplaykrungsrixyuthyathungtnrtnoksinthr edwid ekh wyxacrabuwatananemuxngnkhrsrithrrmrachepnsanwnthiekhiyninsmyphrabathsmedcphraphuththyxdfaculaolkmharach tananemuxngnkhrsrithrrmrachnacaepntnekhaihkbtananxiksxngchbbkhux tananphrabrmthatuemuxngnkhrsrithrrmrachaelatananphrabrmthatuemuxngnkhrsrithrrmrachchbbklxnswd niphphanostr phrabrmthatuecdiywdphramhathatuwrmhawihar tananemuxngnkhrsrithrrmrachtiphimphkhrngaerkemux ph s 2481 hlwngthanunikrrasdrcdphimphhnngsuxepnthiralukinnganprachumephlingsphnangsamphrxm n nkhr thidaphrayabrirksphuebs exiym n nkhr tnchbbepnsmudithyekaaekkhxngkrmsilpakr ekhiyndwyhmukdaxksrithyyx bangswncharudaelalbeluxnaelw xyangirkdiinkartiphimphemux ph s 2517 rabuwacakkartrwcsxbklumhnngsuxtwekhiynaelacaruksankhxsmudaehngchati imphbtnchbbsmudithy cungidphimphtamxkkhrwithichbbtiphimphkhrngaerkenuxhaeruxngrawklawthungnkhrburikhxngthawokhsrihrachaelaemuxngkhnburikhxngthawxngkhutrach thasukaeyngchingphrathntthatu fn thawokhsrihrachihnangehmmalaaelaecathnkumarnaphrathntthatuhlbhniipthiemuxnglngka rahwangthangekidsaephalm sxngphinxngcungrxnaermekhaipphbkbhadthrayaekwcungidfngphrathntthatuiw txmamimhaethrphrhmethphehaamanmskarphrathntthatu sxngphinxngcunghxphrathntthatuhxeklachda odyedinthangipkhunsaephathithatrng aetekidehtuxscrrysaephahnkedinthangipimid ecasaephakhidwasxngphinxngniepnpyhacungwangaephnkha sxngphinxngidralukthungmhaethrphrhmethphihmachwyehlux mhaethrphrhmethphidaeplngepnkhruthekhamachwyehlux hlngcaknn khxkhwamintnchbbkkhadhayip cnthungtxnthinakhrachkhunmathwaybngkhmphrathntthatu phramhaethrphrhmethph cungthanaywaphrayasrithrrmaoskrach camatngemuxngthihadthrayaekwaelacakxsrangphraecdiyxngkhihysung 37 wa eruxngklawthungemuxnghnungthiihymak rachamirachbutr 2 khn txmaikhymbnrabad ecaemuxngcungxphyphphukhnlngeruxsaephamaynghadthrayaekw nayphran 8 khnidphbhadkwangihyaelaphbaekwethalukhmaksukcungnaipthwayecaemuxng caknnecaemuxngcungihphraethra 4 rup phrxmdwyiphrphl 100 khn lngipyngemuxnglngka ecaemuxnglngkakihphraphuththkhaephiyr edinthangklbmaphrxmethra 4 rup aelamapruksaaelakartngemuxngkbphrayasrithrrmaoskrach odyihphraphuththkhaephiyridklawaekphrayasrithrrmaoskrachwaihtngemuxngdwykarcdeknthkhninchxnghwychxngekha aetekidikhymbnrabadxikkhrng phrayasrithrrmaoskrachcungthingriphlxphyphxikhn txmaskrachidimpraktexksarlbeluxn phrayasrithrrmaoskrachidsrangemuxngkhunsaercodykhapruksakhxngphraphuththkhaephiyr rahwangnnrukhawwaphraphuththsihingkhesdcxxkcakemuxnglngkalxngnamathungekaapinngcnthunghadthrayaekw txmaminkethsnthuxrachsarcakmthympraeths aecngihphrayasrithrrmaoskrachkxsrangphramhathatuaetyngimmiphrasaririkthatu phrayasrithrrmaoskrachcungihesnaxamatypawprakaswamiphuidruthisxnphrasaririkthatucaihthxngethalukfk miphuethaxayu 120 pi ruwaphrathatusxnxyuthiid emuxphbaelwexakhunmaimidephraamimntsakdxyucungprakashaphuaekmnt michayyakcnphuhnungsamarthaekmntid emuxaekidphraxinthrkihphrawisnulngmaexaphrabrmsaririkthatuihaekphrayasrithrrmaoskrach hlngcaksrangphramhathatuecdiyaelw phrayasrithrrmaoskrachidsrangemuxngsibsxngnkstr hlngcaknnekidikhharabadphukhnlmtay emuxngnkhrsrithrrmrachkrangipnan eruxngelathungskrach 1196 klawthungphrayasriisynrngkh epnphukhrxngemuxng tnchbbraykarnikhadhay khaklawthungthawxuthxngaebngxanaekhtkbecaemuxngnkhraelasyyawacaepnphrayatiknsubip odyecaemuxngnkhrsrithrrmrachthulaekthawxuthxngwaemuxsinphraxngkhaelwkhxfakphranangphrayasrithrrmrachaelarachbutr khux phrayacnthrphanuaelaphrayahngssuraha ihxyuinkhwampkkhrxngkhxngthawxuthxngdwy txmaphrayasrithrrmaoskrachesdcswrrkht phrayacnthrphanucungpkkhrxngemuxngaethn cninpithi 7 khxngphraxngkh ikhymbnrabadhnk phrayacnthrphanucungphalukemiyaelakhnnaykhnsnithlngeruxhniaetlukemiytayinthisud emuxngnkhrsrithrrmrachcungirphukhnxikkhrng eruxngrawklawthungkstriyrachwngsephchrburisungthanaekluxecriyrungeruxng mihlanchaychuxphraphnmthael hlansaiphchuxnangsaediyngthxng kstriyephchrburiidsngihphraphnmthaelaelanangsaediyngthxngipsrangemuxngnkhr txmaharabad khnthieknthmatngbaneruxnhniipekhapaxikkhrng phraphnmthaelaelanangsaediyngthxngksnglukhlanxxkipsrangpaihepnnaxikkhrng sngipepnecaemuxngaekhkbangaelaemuxngxun bang txmaphraphnmthaelaelanangsaediyngthxngswrrkht ecasriracha rachbutrxngkhotkhunkhrxngrachy idrbphrarachthancakecakrungephchrburiepnphrayasrithrrmaoskrach banemuxngecriyrungeruxng cnsinphrayasrithrrmaoskrach ecasriracha nayxusungepnhlanchay idmaepnecaemuxngsubtx hlngcaknnnayram butrchay khunmaepnecaemuxngnkhrsrithrrmrachchbbph s 2481 phimphhnngsuxepnthiralukinnganprachumephlingsphnangsamphrxm n nkhr ph s 2491 phimphinnganchapnkicsphnayxacin limpichati ph s 2500 phimphepnbrrnakarinnganchapnkicsphkhuneyiym okmarkul n nkhr ph s 2505 phimphrwmxyuinhnngsux rwmeruxngemuxngnkhrsrithrrmrach phimphepnxnusrninnganphrarachthanephlingsphphlexkecaphrayabdinthredchanuchit aeym n nkhr ph s 2510 phimphrwmxyuinhnngsux eruxngemuxngnkhrsrithrrmrach phimphepnxnusrninnganchapnkicsphnangtlb cnthrathiphy ph s 2517 phimphrwmxyuinhnngsux eruxngemuxngnkhrsrithrrmrach phimphepnxnusrninnganphrarachthanephlingsphnaydierk n nkhr ph s 2560 krmsilpakrphimphephyaephrinhnngsux tananphrathatuaelatananemuxngnkhrsrithrrmrachxangxingphiechth aesngthxng tananithyphuththaelamlayumuslim xanacaelakartxtaninphakhitkhxngithy PDF culalngkrnmhawithyaly khnaxksrsastr tananphrathatuaelatananemuxng nkhrsrithrrmrach PDF krmsilpakr