เนื้อหาในบทความนี้ล้าสมัย โปรดปรับปรุงข้อมูลให้เป็นไปตามเหตุการณ์ปัจจุบันหรือล่าสุด ดูประกอบ |
วัดพระบรมธาตุวรมหาวิหาร หรือ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ ถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร
วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร | |
---|---|
ชื่อสามัญ | วัดพระบรมธาตุ หรือ วัดพระมหาธาตุ |
ที่ตั้ง | ถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช |
ประเภท | พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร |
นิกาย | เถรวาท |
พระประธาน | |
พระพุทธรูปสำคัญ | พระเจ้าศรีธรรมโศกราช(ปางมารวิชัย), พระเหมชาลา(ปางห้ามญาติ), พระทนทกุมาร(ปางประทานอภัย) |
เจ้าอาวาส | พระธรรมวชิรากร (สมปอง ปญฺญาทีโป ป.ธ.๗) |
ความพิเศษ | พระอารามหลวงชั้นเอก |
กิจกรรม | นมัสการพระบรมธาตุ โบราณสถานคู่เมืองภาคใต้ ขอพรองค์ท้าวจตุคามรามเทพ เทพารักษ์ผู้เฝ้าองค์พระมหาธาตุ |
ส่วนหนึ่งของ |
ประวัติของวัดพระธาตุ
- พ.ศ. 854 เจ้าชายทนทกุมารและพระนางเหมชาลา (พระโอรสธิดาในพระเจ้าโคสีหราชกับพระนางมหาเทวี ผู้ครองเมืองทันทบุรี) และบาคู (แปลว่า นักบวช) ชาวสิงหล ได้สร้างวัดพระบรมธาตุวรมหาวิหาร เจดีย์องค์เดิมเจดีย์แบบศรีวิชัย คล้ายเจดีย์กิริเวเทระ ในเมืองโบโลนนารุวะ ประเทศศรีลังกา
- พ.ศ. 1093(รอตรวจสอบ) พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์ปทุมวงศ์ แห่งอาณาจักรตามพรลิงก์ ทรงสร้างเมืองนครศรีธรรมราชขึ้น พร้อมกับการก่อสร้างเจดีย์ขึ้นใหม่ เป็นเจดีย์แบบศาญจิ
- พ.ศ. 1770(รอตรวจสอบ) พระเจ้าจันทรภาณุศรีธรรมาโศกราช กษัตริย์พระองค์ที่ 2 แห่งอาณาจักรตามพรลิงก์ และเป็นพระอนุชาของพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ได้บูรณะพระบรมธาตุเจดีย์ เจดีย์แบบลังกา ทรงระฆังคว่ำ หรือ โอคว่ำ มีปล้องไฉน 52 ปล้อง สูงจากฐานถึงยอดปลี 37 วา 2 ศอก ยอดปลีของปล้องไฉน หุ้มทองคำเหลืองอร่าม สูง 6 วา (เท่ากับ 12 เมตร) 1 ศอก (เท่ากับ 0.50 เมตร) แผ่เป็นแผ่นหนา เท่าใบลานหุ้มไว้ น้ำหนัก 800 ชั่ง (เท่ากับ 960 บาท) รอบพระมหาธาตุ มีองค์เจดีย์ 158 องค์
- พ.ศ. 1830 หลัง ตามพรลิงก์ล่มสลายเพราะโรคระบาด พระพนมศรีทะเลมเหสวัสดิทราชา (ท้าวพญาอู่ทอง ) กษัตริย์ผู้ปกครอง ราชวงค์เพชรบุรี-อยุธยา ได้ส่งพระโอรสธิดาลงมา 3 องค์มาสร้างเมืองนครศรีธรรมราช คือ 1.เจ้าศรีราชาคนโต ได้ครองนครศรีธรรมราช 2.คนรองพระนางสนตราเทวี ได้ครองเมืองตระนอม มีพระสวามีชื่อเจ้าอินทราชา 3.เจ้าอินทรกุมารได้ครองเมืองสระอุเลาหรือท่าทองกาญจนดิษฐ เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 30 มกราคม พุทธศักราช 1830 ปีขาล โดยนางสนตราเทวี แม่เมืองขนอม ได้บุกเบิกสร้างนาตระนอม (อ.ขนอม) ตระชล(อ.สิชล) นาตระฉลอง อลอง(ต.ฉลอง) นาสระเพียง นากาญจนดิษ ไชยา และสร้างท่าเรือขนอมหรือเมืองกลอย ค้าขายข้าว พริก งาช้าง แร่ แล้วนำเงินไปบูรณะพระธาตุเมืองนครศรีธรรมราชที่ร้างมาหลายอายุคนเพราะเกิดโรคระบาดตามพระราชโองการของเจ้าอยู่หัวแห่งอยุธยา ร่วมกับเจ้าศรีราชา พระนางสนตราเทวีแม่เมืองตระนอมหรือขนอมยังได้บูรณะวัดเจดีย์หลวงที่สร้างจากปะการังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวของ อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราชถึงปัจจุบัน และลูกหลานของพระนางสนตราเทวี ได้ทำนุบำรุงสร้างอีกหลายวัดตลอดมาจนถึงสมัยพระคีรีศรีสงคราม(เจ้าหัวเมืองกลอยหรือเมืองขนอม) กับ แม่เมืองอ่ำแดงเอียด ในนครศรีธรรมราชอีกหลายวัด เช่น วัดกลาง วัดกระดังงา ในเมืองตระนอม เป็นต้น ลูกหลานได้ครองเมืองสืบมา จนอยุธยาเสียกรุง เมืองตระนอม และท่าทองจึงได้ไปรวมกับเมืองนครศรีธรรมราช สายเจ้าศรีราชา ในปี พ.ศ 2310 และสุดท้ายพระเจ้าตากสินลงมารวบรวมหัวเมืองน้อยใหญ่ทางใต้ ทั้ง3เมือง คือมืองตระนอมขนอม ,เมืองสระอุเลาท่าทอง ,เมืองนคร จึงขึ้นกับกรุงธนบุรี ในปี พ.ศ 2312 ในที่สุด บ้านเมืองช่วงนี้มีภัยสงคราม การบูรณทำนุบำรุงวัดน้อยลง พระคีรีศรีสงครามได้เป็นกำลังต่อเรือที่เมืองไชยาเพื่อให้พระเจ้าตากสินใช้ในการสู้ศึกกับพม่าและแขก โดยลูกชายของพระคีรีศรีสงคราม คือหลวงไชยคีรีศรีสงคราม ได้รับใช้ชาติต่อมาเป็นทหารรักษาพระองค์หรือวังหน้าในสมัย ร.2 ตลอดจนได้รับความไว้วางใจเป็นทัพหน้าชนะศึกไทรบุรี เมื่อปี 2364 ในสมัย ร.3 และลูกหลานของพระคีรีศรีสงครามสืบตระกูลว่า "ขนอม" ตลอดมา
- พ.ศ. 2155 และ พ.ศ. 2159 สมัยสมเด็จพระเอกาทศรถมีการซ่อมแผ่นทอง ที่ปลียอดพระบรมธาตุ
- พ.ศ. 2190 สมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ยอดพระบรมธาตุได้ชำรุดหักลง และได้มีการซ่อมสร้างขึ้นใหม่
- พ.ศ. 2275 - 2301 สมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ มีการดัดแปลงทางเข้าพระสถูปพระบรมธาตุบริเวณวิหารพระทรงม้า
- พ.ศ. 2312 สมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ปฏิสังขรณ์พระอารามทั่วไปภายในวัด และโปรดให้สร้างวิหารทับเกษตร ต่อออกจากฐานทักษิณรอบองค์พระบรมธาตุ
- สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เจ้าพระยานครศรีธรรมราช (พัฒน์) ได้บูรณะพระวิหารหลวง วิหารทับเกษตร พระบรมธาตุที่ชำรุด
- ปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บูรณะกำแพงชั้นนอก วิหารทับเกษตร วิหารธรรมศาลา วิหารพระทรงม้า วิหารเขียน ปิดทองพระพุทธรูป
- พ.ศ. 2457 สมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ติดตั้งสายล่อฟ้า ยอดองค์พระบรมธาตุเจดีย์
- พ.ศ. 2515 - 2517 บูรณปฏิสังขรณ์พระวิหารหลวง และพระอุโบสถ
- พ.ศ. 2530 ซ่อมกลีบบัวทองคำ ที่ฉีกขาดเปราะบาง เสื่อมสภาพเป็นสนิม เสริมความมั่นคงแข็งแรงที่กลีบบัวปูนปั้น ในวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2530 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะดำรงพระราชอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จอัญเชิญแผ่นกลีบบัวทองคำ ขึ้นประดิษฐานบนองค์พระบรมธาตุเจดีย์
- พ.ศ. 2537 - 2538 บูรณะปลียอดทองคำพระบรมธาตุเจดีย์ และเสริมความมั่นคงปูนแกนในปลียอด ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 50 ล้านบาท สิ้นทองคำ 141 บาท (มาตราชั่ง ตวง วัด ของไทย 1 บาท เท่ากับ 15.2 กรัม)
กรมศิลปากร ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารเป็นโบราณสถาน ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 53 ตอนที่ 34 วันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2479 และคณะกรรมการมรดกโลก มีมติในการประชุมคณะกรรมการสมัยที่ 37 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 รับรองวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารเข้าสู่บัญชีเบื้องต้นก่อนเสนอขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกโลก
สถานที่สำคัญ
- พระวิหารหลวง (พระอุโบสถ)
- วิหารพระมหาภิเนษกรณ์ หรือวิหารพระทรงม้า
- วิหารเขียน หรือวิหารพระเขียน
- วิหารโพธิ์ลังกา และ ต้นศรีมหาโพธิ์
- วิหารพระกัจจายนะ หรือวิหารพระแอด
- วิหารพระปัญญา
- พระเจดีย์ราย รอบพระบรมธาตุ
- พระบรมธาตุเจดีย์
- วิหารสามจอม หรือวิหารพระเจ้าศรีธรรมโศกราช
- วิหารทับเกษตร หรือพระระเบียงตีนธาตุ
- วิหารพระระเบียง หรือวิหารคด
- วิหารธรรมศาลา
- วิหารโพธิ์พระเดิม
- มณฑปพระพุทธบาทจำลอง
- อนุสาวรีย์พระนางเหมชาลาและเจ้าชายทันทกุมาร
- อนุสาวรีย์พระเจ้าศรีธรรมโศกราช
- อนุสาวรีย์แม่เจ้าอยู่หัว (พระนางเลือดขาวแม่เจ้าอยู่หัว)
ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ
ประเพณีผ้าขึ้นธาตุ หมายถึง การนำผ้าผืนยาวขึ้นไปห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ในวันสำคัญทางศาสนา ชาวนครได้ร่วมมือร่วมใจกันบริจาคเงินตามกำลังศรัทธานำเงินที่ได้ไปซื้อผ้ามาเย็บต่อกันเป็นแถวยาวนับพันหลา แล้วจัดเป็นขบวนแห่ผ้าขึ้นห่มพระบรมธาตุเจดีย์ ผ้าที่ขึ้นไปห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์เรียกว่า “ผ้าพระบฎ” (หรือ พระบต) นิยมใช้สีขาว สีเหลือง สีแดง สำหรับผ้าสีขาวนิยมเขียนภาพเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธประวัติตั้งแต่ประสูติ เสด็จออกบรรพชา ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุเป็นเอกลักษณ์ประจำเมืองนครศรีธรรมราช แก่นแท้อยู่ที่การบูชาพระพุทธเจ้าอย่างใกล้ชิด โดยใช้องค์พระบรมธาตุเจดีย์เป็นตัวแทน
ตามตำนานประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุมีว่า ในสมัยที่พระเจ้าสามพี่น้อง คือ พระเจ้าศรีธรรมโศกราช พระเจ้าจันทรภาณุ และพระเจ้าพงษาสุระ กำลังดำเนินการสมโภชพระบรมธาตุอยู่นั้น คลื่นได้ซัดผ้าแถบยาวชิ้นหนึ่ง ซึ่งมีลายเขียนเรื่องราวพุทธประวัติ (เรียกว่า พระบฎ หรือ พระบต) ขึ้นที่ชายหาดปากพนัง จึงนำผ้าผืนนั้นไปถวายพระเจ้าศรีธรรมโศกราช พระองค์จึงรับสั่งให้ซักจนสะอาด แต่ลายเขียนพุทธประวัติก็ไม่ลบเลือนยังคงสมบูรณ์ดีทุกประการ จึงรับสั่งให้ประกาศหาเจ้าของ ได้ความว่าชาวพุทธกลุ่มหนึ่ง จะเดินทางไปลังกา เพื่อนำพระบฎไปถวายเป็นพุทธบูชาพระทันตธาตุ คือ พระเขี้ยวแก้ว แต่เรือถูกมรสุมซัดแตกที่ชายฝั่งเมืองนครมีรอดชีวิต 10 คน ส่วนพระบฏถูกคลื่นซัดขึ้นฝั่งปากพนัง พระเจ้าศรีธรรมโศกราชทรงพิจารณาเห็นว่าควรจะนำขึ้นไปห่มพระบรมธาตุเจดีย์เนื่องในโอกาสสมโภชพระบรมธาตุ เจ้าของพระบฎที่รอดชีวิตก็ยินดีด้วย จึงโปรดให้ชาวเมืองนครจัดเครื่องประโคมแห่แหนผ้าห่มโอบฐานพระบรมธาตุเจดีย์ จึงเป็นประเพณีประจำเมืองนครสืบมาจนทุกวันนี้
ลำดับเจ้าอาวาส
ลำดับเจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุ มีดังนี้
ลำดับที่ | รายนาม | เริ่มวาระ | สิ้นสุดวาระ |
1 | พระครูวินัยธรนุ่ม (นุ่น) | พ.ศ. 2458 | พ.ศ. 2463 |
2 | พระครูปลัดแก้วชิน (ชิน) | พ.ศ. 2464 | พ.ศ. 2467 |
3 | พ.ศ. 2468 | พ.ศ. 2469 | |
4 | พระรัตนธัชมุนี (แบน คณฺฐาภรโณ) | พ.ศ. 2470 | พ.ศ. 2521 |
5 | พ.ศ. 2522 | พ.ศ. 2543 | |
6 | พ.ศ. 2544 | ปัจจุบัน |
พิกัดแผนที่
- แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศของ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร
- ภาพถ่ายดาวเทียมจากวิกิแมเปีย หรือกูเกิลแมปส์
- แผนที่จากลองดูแมป หรือเฮียวีโก
- ภาพถ่ายทางอากาศจากเทอร์ราเซิร์ฟเวอร์
8°24′40″N 99°57′58″E / 8.410985°N 99.966147°E
อ้างอิง
- ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศกระทรวงธรรมการ แผนกกรมสังฆการี เรื่อง จัดระเบียบพระอารามหลวง 2011-11-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม 32, ตอน 0 ก, 3 ตุลาคม พ.ศ. 2458, หน้า 294
- ตั้งตารอ "ว่าที่มรดกโลก" ทรงคุณค่า 6 แห่งของไทย
- https://finearts.go.th/main/view/19611--%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2--%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%98%E0%B8%A2%E0%B8%B2-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B8-%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3-%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A?type1=6
- ประวัติพระอารามหลวง เล่ม 2, หน้า 541
แหล่งค้นคว้าเพิ่มเติม
- อิทธิกร ทองแกมแก้ว. "มองพระปานผ่านวัดพระมหาธาตุเมืองนครศรีธรรมราช." ใน จุดนัดพบ การข้ามแดน และไข้พื้นที่ในภาคใต้ของไทย เอกสารประกอบการสัมมนาวิชาการระดับชาติ เครือข่ายประวัติศาสตร์ มานุษยวิทยา และสังคมวิทยาภาคใต้ ครั้งที่ 4 ประจำปี 2561 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต. น. 78-93. ภูเก็ต: พีพี บุคส์ แอนด์ คอม, 2561.
- กองพุทธศาสนสถาน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ. ประวัติพระอารามหลวง เล่ม 2. กรุงเทพฯ : สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ, 2548. 622 หน้า. หน้า 313-314.
- ตำนานพระธาตุเมืองนครศรีธรรมราช (ฉบับกระดาษฝรั่ง)
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
enuxhainbthkhwamnilasmy oprdprbprungkhxmulihepniptamehtukarnpccubnhruxlasud duhnaxphiprayprakxb wdphrabrmthatuwrmhawihar hrux wdphramhathatuwrmhawihar tngxyu thnnrachdaenin tablinemuxng xaephxemuxngnkhrsrithrrmrach cnghwdnkhrsrithrrmrach epnphraxaramhlwngchnexk chnidwrmhawiharwdphramhathatuwrmhawiharchuxsamywdphrabrmthatu hrux wdphramhathatuthitngthnnrachdaenin tablinemuxng xaephxemuxngnkhrsrithrrmrach cnghwdnkhrsrithrrmrachpraephthphraxaramhlwngchnexk chnidwrmhawiharnikayethrwathphraprathanphraphuththrupsakhyphraecasrithrrmoskrach pangmarwichy phraehmchala panghamyati phrathnthkumar pangprathanxphy ecaxawasphrathrrmwchirakr smpxng py yathiop p th 7 khwamphiessphraxaramhlwngchnexkkickrrmnmskarphrabrmthatu obransthankhuemuxngphakhit khxphrxngkhthawctukhamramethph ethpharksphuefaxngkhphramhathatuswnhnungkhxngsaranukrmphraphuththsasnaprawtikhxngwdphrathatuph s 854 ecachaythnthkumaraelaphranangehmchala phraoxrsthidainphraecaokhsihrachkbphranangmhaethwi phukhrxngemuxngthnthburi aelabakhu aeplwa nkbwch chawsinghl idsrangwdphrabrmthatuwrmhawihar ecdiyxngkhedimecdiyaebbsriwichy khlayecdiykiriewethra inemuxngobolnnaruwa praethssrilngka ph s 1093 rxtrwcsxb phraecasrithrrmaoskrach pthmkstriyrachwngspthumwngs aehngxanackrtamphrlingk thrngsrangemuxngnkhrsrithrrmrachkhun phrxmkbkarkxsrangecdiykhunihm epnecdiyaebbsayci ph s 1770 rxtrwcsxb phraecacnthrphanusrithrrmaoskrach kstriyphraxngkhthi 2 aehngxanackrtamphrlingk aelaepnphraxnuchakhxngphraecasrithrrmaoskrach idburnaphrabrmthatuecdiy ecdiyaebblngka thrngrakhngkhwa hrux oxkhwa miplxngichn 52 plxng sungcakthanthungyxdpli 37 wa 2 sxk yxdplikhxngplxngichn humthxngkhaehluxngxram sung 6 wa ethakb 12 emtr 1 sxk ethakb 0 50 emtr aephepnaephnhna ethaiblanhumiw nahnk 800 chng ethakb 960 bath rxbphramhathatu mixngkhecdiy 158 xngkh ph s 1830 hlng tamphrlingklmslayephraaorkhrabad phraphnmsrithaelmehswsdithracha thawphyaxuthxng kstriyphupkkhrxng rachwngkhephchrburi xyuthya idsngphraoxrsthidalngma 3 xngkhmasrangemuxngnkhrsrithrrmrach khux 1 ecasrirachakhnot idkhrxngnkhrsrithrrmrach 2 khnrxngphranangsntraethwi idkhrxngemuxngtranxm miphraswamichuxecaxinthracha 3 ecaxinthrkumaridkhrxngemuxngsraxuelahruxthathxngkaycndisth emuxwnphvhsbdi thi 30 mkrakhm phuththskrach 1830 pikhal odynangsntraethwi aememuxngkhnxm idbukebiksrangnatranxm x khnxm trachl x sichl natrachlxng xlxng t chlxng nasraephiyng nakaycndis ichya aelasrangthaeruxkhnxmhruxemuxngklxy khakhaykhaw phrik ngachang aer aelwnaenginipburnaphrathatuemuxngnkhrsrithrrmrachthirangmahlayxayukhnephraaekidorkhrabadtamphrarachoxngkarkhxngecaxyuhwaehngxyuthya rwmkbecasriracha phranangsntraethwiaememuxngtranxmhruxkhnxmyngidburnawdecdiyhlwngthisrangcakpakarngklayepnaehlngthxngethiywkhxng xaephxkhnxm cnghwdnkhrsrithrrmrachthungpccubn aelalukhlankhxngphranangsntraethwi idthanubarungsrangxikhlaywdtlxdmacnthungsmyphrakhirisrisngkhram ecahwemuxngklxyhruxemuxngkhnxm kb aememuxngxaaedngexiyd innkhrsrithrrmrachxikhlaywd echn wdklang wdkradngnga inemuxngtranxm epntn lukhlanidkhrxngemuxngsubma cnxyuthyaesiykrung emuxngtranxm aelathathxngcungidiprwmkbemuxngnkhrsrithrrmrach sayecasriracha inpi ph s 2310 aelasudthayphraecataksinlngmarwbrwmhwemuxngnxyihythangit thng3emuxng khuxmuxngtranxmkhnxm emuxngsraxuelathathxng emuxngnkhr cungkhunkbkrungthnburi inpi ph s 2312 inthisud banemuxngchwngnimiphysngkhram karburnthanubarungwdnxylng phrakhirisrisngkhramidepnkalngtxeruxthiemuxngichyaephuxihphraecataksinichinkarsusukkbphmaaelaaekhk odylukchaykhxngphrakhirisrisngkhram khuxhlwngichykhirisrisngkhram idrbichchatitxmaepnthharrksaphraxngkhhruxwnghnainsmy r 2 tlxdcnidrbkhwamiwwangicepnthphhnachnasukithrburi emuxpi 2364 insmy r 3 aelalukhlankhxngphrakhirisrisngkhramsubtrakulwa khnxm tlxdma ph s 2155 aela ph s 2159 smysmedcphraexkathsrthmikarsxmaephnthxng thipliyxdphrabrmthatu ph s 2190 smysmedcphraecaprasaththxng yxdphrabrmthatuidcharudhklng aelaidmikarsxmsrangkhunihm ph s 2275 2301 smyphraecaxyuhwbrmoks mikarddaeplngthangekhaphrasthupphrabrmthatubriewnwiharphrathrngma ph s 2312 smysmedcphraecakrungthnburi ptisngkhrnphraxaramthwipphayinwd aelaoprdihsrangwiharthbekstr txxxkcakthanthksinrxbxngkhphrabrmthatu smyphrabathsmedcphraphuththelishlanphaly ecaphrayankhrsrithrrmrach phthn idburnaphrawiharhlwng wiharthbekstr phrabrmthatuthicharud ptisngkhrnkhrngihy smyphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw burnakaaephngchnnxk wiharthbekstr wiharthrrmsala wiharphrathrngma wiharekhiyn pidthxngphraphuththrup ph s 2457 smyphrabathsmedcphramngkudeklaecaxyuhw tidtngsaylxfa yxdxngkhphrabrmthatuecdiy ph s 2515 2517 burnptisngkhrnphrawiharhlwng aelaphraxuobsth ph s 2530 sxmklibbwthxngkha thichikkhadepraabang esuxmsphaphepnsnim esrimkhwammnkhngaekhngaerngthiklibbwpunpn inwnthi 28 singhakhm ph s 2530 phrabathsmedcphramhaphumiphlxdulyedchmharach brmnathbphitrthrngphrakrunaoprdekla ihphrabathsmedcphrawchireklaecaxyuhw khnadarngphrarachxisriyys smedcphrabrmoxrsathirach ecafamhawchiralngkrn syammkudrachkumar esdcxyechiyaephnklibbwthxngkha khunpradisthanbnxngkhphrabrmthatuecdiy ph s 2537 2538 burnapliyxdthxngkhaphrabrmthatuecdiy aelaesrimkhwammnkhngpunaekninpliyxd ichngbpramanthngsin 50 lanbath sinthxngkha 141 bath matrachng twng wd khxngithy 1 bath ethakb 15 2 krm krmsilpakr idprakasinrachkiccanuebksa wdphramhathatuwrmhawiharepnobransthan prakasinrachkiccanuebksa elm 53 txnthi 34 wnthi 27 knyayn ph s 2479 aelakhnakrrmkarmrdkolk mimtiinkarprachumkhnakrrmkarsmythi 37 n krungphnmepy praethskmphucha emuxwnthi 21 mithunayn ph s 2556 rbrxngwdphramhathatuwrmhawiharekhasubychiebuxngtnkxnesnxkhunthaebiynaehlngmrdkolksthanthisakhyecachaythnthkumar aelaphranangehmchala chawsrilngka khnathrngxyechiyphraekhiywaekw phaphpradbphrawisutrmnthpphraekhiywaekw wdphraekhiywaekw praethssrilngkaphrawiharhlwng phraxuobsth wiharphramhaphienskrn hruxwiharphrathrngma wiharekhiyn hruxwiharphraekhiyn wiharophthilngka aela tnsrimhaophthi wiharphrakccayna hruxwiharphraaexd wiharphrapyya phraecdiyray rxbphrabrmthatu phrabrmthatuecdiy wiharsamcxm hruxwiharphraecasrithrrmoskrach wiharthbekstr hruxphraraebiyngtinthatu wiharphraraebiyng hruxwiharkhd wiharthrrmsala wiharophthiphraedim mnthpphraphuththbathcalxng xnusawriyphranangehmchalaaelaecachaythnthkumar xnusawriyphraecasrithrrmoskrach xnusawriyaemecaxyuhw phranangeluxdkhawaemecaxyuhw praephniaehphakhunthatukhbwnaehphakhunhmphrabrmthatuecdiy praephniphakhunthatu hmaythung karnaphaphunyawkhuniphmxngkhphrabrmthatuecdiyinwnsakhythangsasna chawnkhridrwmmuxrwmicknbricakhengintamkalngsrththanaenginthiidipsuxphamaeybtxknepnaethwyawnbphnhla aelwcdepnkhbwnaehphakhunhmphrabrmthatuecdiy phathikhuniphmxngkhphrabrmthatuecdiyeriykwa phaphrabd hrux phrabt niymichsikhaw siehluxng siaedng sahrbphasikhawniymekhiynphaphenuxhaekiywkbphuththprawtitngaetprasuti esdcxxkbrrphcha trsru pthmethsna aelapriniphphan praephniaehphakhunthatuepnexklksnpracaemuxngnkhrsrithrrmrach aeknaethxyuthikarbuchaphraphuththecaxyangiklchid odyichxngkhphrabrmthatuecdiyepntwaethn tamtananpraephniaehphakhunthatumiwa insmythiphraecasamphinxng khux phraecasrithrrmoskrach phraecacnthrphanu aelaphraecaphngsasura kalngdaeninkarsmophchphrabrmthatuxyunn khlunidsdphaaethbyawchinhnung sungmilayekhiyneruxngrawphuththprawti eriykwa phrabd hrux phrabt khunthichayhadpakphnng cungnaphaphunnnipthwayphraecasrithrrmoskrach phraxngkhcungrbsngihskcnsaxad aetlayekhiynphuththprawtikimlbeluxnyngkhngsmburndithukprakar cungrbsngihprakashaecakhxng idkhwamwachawphuththklumhnung caedinthangiplngka ephuxnaphrabdipthwayepnphuththbuchaphrathntthatu khux phraekhiywaekw aeteruxthukmrsumsdaetkthichayfngemuxngnkhrmirxdchiwit 10 khn swnphrabtthukkhlunsdkhunfngpakphnng phraecasrithrrmoskrachthrngphicarnaehnwakhwrcanakhuniphmphrabrmthatuecdiyenuxnginoxkassmophchphrabrmthatu ecakhxngphrabdthirxdchiwitkyindidwy cungoprdihchawemuxngnkhrcdekhruxngpraokhmaehaehnphahmoxbthanphrabrmthatuecdiy cungepnpraephnipracaemuxngnkhrsubmacnthukwnniladbecaxawasladbecaxawaswdphramhathatu midngni ladbthi raynam erimwara sinsudwara1 phrakhruwinythrnum nun ph s 2458 ph s 24632 phrakhrupldaekwchin chin ph s 2464 ph s 24673 ph s 2468 ph s 24694 phrartnthchmuni aebn khn thaphron ph s 2470 ph s 25215 ph s 2522 ph s 25436 ph s 2544 pccubnphikdaephnthiaephnthiaelaphaphthaythangxakaskhxng wdphramhathatuwrmhawihar phaphthaydawethiymcakwikiaemepiy hruxkuekilaemps aephnthicaklxngduaemp hruxehiywiok phaphthaythangxakascakethxrraesirfewxr 8 24 40 N 99 57 58 E 8 410985 N 99 966147 E 8 410985 99 966147 wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb wdphrabrmthatuwrmhawiharxangxingrachkiccanuebksa prakaskrathrwngthrrmkar aephnkkrmsngkhkari eruxng cdraebiybphraxaramhlwng 2011 11 09 thi ewyaebkaemchchin elm 32 txn 0 k 3 tulakhm ph s 2458 hna 294 tngtarx wathimrdkolk thrngkhunkha 6 aehngkhxngithy https finearts go th main view 19611 E0 B8 A7 E0 B8 B4 E0 B8 AB E0 B8 B2 E0 B8 A3 E0 B8 98 E0 B8 A3 E0 B8 A3 E0 B8 A1 E0 B8 A8 E0 B8 B2 E0 B8 A5 E0 B8 B2 E0 B8 9E E0 B8 A3 E0 B8 B0 E0 B8 A7 E0 B8 B4 E0 B8 AB E0 B8 B2 E0 B8 A3 E0 B8 AA E0 B8 A1 E0 B8 B1 E0 B8 A2 E0 B8 AD E0 B8 A2 E0 B8 B8 E0 B8 98 E0 B8 A2 E0 B8 B2 E0 B8 A7 E0 B8 B1 E0 B8 94 E0 B8 9E E0 B8 A3 E0 B8 B0 E0 B8 A1 E0 B8 AB E0 B8 B2 E0 B8 98 E0 B8 B2 E0 B8 95 E0 B8 B8 E0 B8 A7 E0 B8 A3 E0 B8 A1 E0 B8 AB E0 B8 B2 E0 B8 A7 E0 B8 B4 E0 B8 AB E0 B8 B2 E0 B8 A3 E0 B8 99 E0 B8 84 E0 B8 A3 E0 B8 A8 E0 B8 A3 E0 B8 B5 E0 B8 98 E0 B8 A3 E0 B8 A3 E0 B8 A1 E0 B8 A3 E0 B8 B2 E0 B8 8A type1 6 prawtiphraxaramhlwng elm 2 hna 541aehlngkhnkhwaephimetimxiththikr thxngaekmaekw mxngphrapanphanwdphramhathatuemuxngnkhrsrithrrmrach in cudndphb karkhamaedn aelaikhphunthiinphakhitkhxngithy exksarprakxbkarsmmnawichakarradbchati ekhruxkhayprawtisastr manusywithya aelasngkhmwithyaphakhit khrngthi 4 pracapi 2561 n mhawithyalyrachphtphuekt n 78 93 phuekt phiphi bukhs aexnd khxm 2561 kxngphuththsasnsthan sanknganphraphuththsasnaaehngchati prawtiphraxaramhlwng elm 2 krungethph sanknganphraphuththsasnaaehngchati 2548 622 hna hna 313 314 tananphrathatuemuxngnkhrsrithrrmrach chbbkradasfrng