ฟุตบอลทีมชาติซาอุดีอาระเบีย (อาหรับ: المنتخب العربي السعودي لكرة القدم) เป็นทีมฟุตบอลประจำชาติของประเทศซาอุดีอาระเบียในการแข่งขันระหว่างประเทศ อยู่ภายใต้การดูแลของสหพันธ์ฟุตบอลซาอุดีอาระเบีย มีฉายาคือ อัลศอกรฺ (Al-Saqour) หรือภาษาอังกฤษคือ The Falcons (นกเหยี่ยว) และ อัลอัคฎอร (Al-Akhdar) หรือภาษาอังกฤษคือ The Green ซึ่งมาจากสีประจำทีมคือสีเขียว ซาอุดีอาระเบียได้ลงแข่งขันทั้งในรายการของสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ และสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย
ฉายา | الأخضر ("สีเขียว") الصقور الخضر ("เหยี่ยวเขียว") الصقور العربية ("เหยี่ยวอาหรับ") เศรษฐีน้ำมัน (ในภาษาไทย) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
สมาคม | สหพันธ์ฟุตบอลซาอุดีอาระเบีย | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
สมาพันธ์ย่อย | (เอเชียตะวันตก) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
สมาพันธ์ | เอเอฟซี (เอเชีย) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
หัวหน้าผู้ฝึกสอน | โรแบร์โต มันชีนี | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
กัปตัน | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
สูงสุด | (178) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ทำประตูสูงสุด | (72) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
รหัสฟีฟ่า | KSA | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
อันดับฟีฟ่า | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
อันดับปัจจุบัน | 53 (4 เมษายน 2024) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
อันดับสูงสุด | 21 (กรกฎาคม ค.ศ. 2004) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
อันดับต่ำสุด | 126 (ธันวาคม ค.ศ. 2012) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เกมระดับนานาชาติครั้งแรก | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เลบานอน 1–1 ซาอุดีอาระเบีย (เบรุต ประเทศเลบานอน; 18 มกราคม ค.ศ. 1957) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ชนะสูงสุด | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ติมอร์-เลสเต 0–10 ซาอุดีอาระเบีย (ดิลี ประเทศติมอร์ตะวันออก; 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 2015) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
แพ้สูงสุด | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
สหสาธารณรัฐอาหรับ 13–0 ซาอุดีอาระเบีย (กาซาบล็องกา ประเทศโมร็อกโก; 3 กันยายน ค.ศ. 1961) | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ฟุตบอลโลก | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เข้าร่วม | 6 (ครั้งแรกใน 1994) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผลงานดีที่สุด | รอบคัดเลือก 16 ทีม (1994) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เอเชียนคัพ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เข้าร่วม | 10 (ครั้งแรกใน ) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผลงานดีที่สุด | ชนะเลิศ (, , ) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เข้าร่วม | 7 (ครั้งแรกใน ) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผลงานดีที่สุด | ชนะเลิศ (, ) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เข้าร่วม | 24 (ครั้งแรกใน ) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผลงานดีที่สุด | ชนะเลิศ (, , ) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คอนเฟเดอเรชันส์คัพ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เข้าร่วม | 4 (ครั้งแรกใน ) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผลงานดีที่สุด | รองชนะเลิศ () | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เกียรติยศ
|
ซาอุดีอาระเบียเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดทีมหนึ่งในทวีปเอเชีย โดยชนะเลิศการแข่งขันเอเชียนคัพ 3 สมัย (ค.ศ. 1984, 1988 และ 1996) และเป็นหนึ่งในสองทีมที่เข้าชิงชนะเลิศรายการนี้มากที่สุด 6 ครั้ง และพวกเขายังคว้าเหรียญเงินในเอเชียนเกมส์ 1986 ซาอุดีอาระเบียเข้าร่วมฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 6 ครั้ง และยังเป็นชาติแรกในเอเชียที่เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศการแข่งขันของฟีฟ่าในนามทีมชาติชุดใหญ่ โดยเข้าชิงชนะเลิศรายการ ใน ค.ศ. 1992 ซึ่งปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ "ฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพ" โดยมีเพียงอีกสองชาติที่ทำสถิติดังกล่าวได้จนถึงปัจจุบัน ได้แก่ ออสเตรเลีย ใน ค.ศ. 1997 (ซึ่งลงแข่งขันในนามสมาพันธ์ฟุตบอลโอเชียเนียในขณะนั้น) และญี่ปุ่นใน ค.ศ. 2001
ซาอุดีอาระเบียลงแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งแรกในฟุตบอลโลก 1994 โดยเอาชนะเบลเยียม และโมร็อกโกได้ในรอบแบ่งกลุ่ม ก่อนจะเข้าไปแพ้สวีเดนในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ส่งผลให้พวกเขาเป็นทีมจากชาติอาหรับประเทศที่สองที่เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลก ต่อจากโมร็อกโกในฟุตบอลโลก 1986 และเป็นหนึ่งในห้าทีมของเอเชียที่ทำได้ (ร่วมกับญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย และเกาหลีเหนือ)
ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ซาอุดีอาระเบียสร้างความประหลาดใจด้วยการเอาชนะทีมแชมป์อย่างอาร์เจนตินาในนัดแรกของรอบแบ่งกลุ่มด้วยผลประตู 2–1 ถือเป็นครั้งแรกที่อาร์เจนตินาแพ้ชาติจากทวีปเอเชียในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย อย่างไรก็ตาม พวกเขาตกรอบแบ่งกลุ่มจากการแพ้อีกสองนัดถัดมาและจบอันดับสุดท้าย ซาอุดีอาระเบียจะเป็นเจ้าภาพการแข่งขันสองรายการสำคัญคือ เอเชียนคัพ 2027 และ ฟุตบอลโลก 2034 ถือเป็นครั้งแรกที่พวกเขาจะเป็นเจ้าภาพการแข่งขันสองรายการดังกล่าว
ประวัติ
ฟุตบอลทีมชาติซาอุดีอาระเบียมีจุดเริ่มต้นใน ค.ศ. 1951 จากการรวมตัวของผู้เล่นจาก และ สโมสรฟุตบอลอัลอะฮ์ลี (ญิดดะฮ์) เพื่อลงแข่งขันเกมกระชับมิตรพบกับทีมจากกระทรวงสาธารณสุขจากประเทศอียิปต์ ในวันที่ 27 มิถุนายน ณ เมืองญิดดะฮ์ และทั้งสองทีมได้แข่งขันกันอีกครั้งในวันต่อมา โดยซาอุดีอาระเบียใช้ผู้เล่นของ และ สโมสรฟุตบอลอัลฮิลาล ต่อมาในเดือนสิงหาคม เจ้าชาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้จัดการแข่งขันกระชับมิตรกับอียิปต์เป็นครั้งที่สาม และถือเป็นจุดเริ่มต้นของแนวคิดในการจัดตั้งทีมฟุตบอลเพื่อเป็นตัวแทนของประเทศ
ใน ค.ศ. 1953 ซาอุดีอาระเบียก็ได้ก่อตั้งทีมฟุตบอลขึ้น และได้เดินทางไปแข่งขันกระชับมิตรระหว่างประเทศเป็นครั้งแรก ณ กรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย ในวโรกาสที่สมเด็จพระราชาธิบดีซะอูด บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด เสด็จขึ้นครองราชย์ ต่อมาใน ค.ศ. 1957 ซาอุดีอาระเบียได้ร่วมแข่งขันรายการแพนอาหรับเกมส์ ที่เบรุต ประเทศเลบานอน โดยสมเด็จพระราชาธิบดีซะอูด บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด ได้รับเชิญให้เสด็จไปร่วมพิธีเปิด ณ สนาม ร่วมกับ ประธานาธิบดีเลบานอน และในนัดเปิดสนามเป็นการแข่งขันระหว่างซาอุดีอาระเบีย และเลบานอน โดยเสมอกันไป 1–1 และซาอุดีอาระเบียตกรอบแบ่งกลุ่ม
สหพันธ์ฟุตบอลซาอุดีอาระเบีย ได้ก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1956 ทว่าหลังจากนั้น ซาอุดีอาระเบียไม่ได้ร่วมแข่งขันในรายการสำคัญใด ๆ จนกระทั่งเอเชียนคัพ 1984 ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งพวกเขาคว้าแชมป์ได้เป็นสมัยแรก เอาชนะจีนในรอบชิงชนะเลิศ 2–0 และพวกเขากลายเป็นหนึ่งในทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดทีมหนึ่งในทวีปเอเชียนับตั้งแต่นั้น โดยเข้าชิงชนะเลิศเอเชียนคัพได้อีก 4 ครั้งติดต่อกัน และคว้าแชมป์เพิ่มได้อีกสองครั้งในปี 1988 (ชนะจุดโทษเกาหลีใต้) และ 1996 (ชนะจุดโทษสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) และได้ร่วมแข่งขันเอเชียนคัพทุกครั้งนับตั้งแต่นั้นจนถึงปัจจุบัน แต่ยังไม่สามารถคว้าแชมป์เพิ่มได้ โดยผลงานดีสุดคือการเข้าชิงชนะเลิศในเอเชียนคัพ 2007 แพ้อิรัก 0–1
พวกเขาเข้าร่วมฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายสมัยแรกในฟุตบอลโลก 1994 ภายใต้ผู้ฝึกสอนชาวอาร์เจนตินา และผู้เล่นพรสวรรค์สูงอย่าง และ ซามี อัลญาบิร พาทีมผ่านเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายก่อนจะแพ้สวีเดน 1–3 และพวกเขาเข้าร่วมฟุตบอลโลกในอีกสามครั้งถัดมา แต่ไม่สามารถชนะในรอบแบ่งกลุ่มแม้แต้นัดเดียว และไม่ได้เข้าไปเล่นในฟุตบอลโลก 2010 และ 2014 ก่อนจะกลับมาแข่งขันในฟุตบอลโลก 2018 แพ้เจ้าภาพอย่างรัสเซียในนัดเปิดสนามขาดลอย 0–5 ซึ่งถือเป็นการชนะด้วยผลประตูที่มากที่สุดเป็นอันดับสองตลอดกาลของชาติเจ้าภาพในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย นับตั้งแต่อิตาลีเจ้าภาพฟุตบอลโลก 1934 เอาชนะสหรัฐด้วยผลประตู 7–1 ซาอุดีอาระเบียตกรอบแรกอีกครั้งหลังจากแพ้อุรุกวัยไปอย่างสูสี 0–1 แม้พวกเขาจะเอาชนะอียิปต์ได้ในนัดสุดท้าย 2–1 ในครั้งนี้ซาอุดีอาระเบียมีผลงานในฟุตบอลโลกที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2002 ซึ่งพวกเขาแพ้เยอรมนี 0–8 และจบในอันดับ 32 ซึ่งเป็นอันดับสุดท้ายจากการจัดอันดับรวมเมื่อจบการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม พวกเขายังได้รับเสียงชื่นชมจากการชนะได้หนึ่งนัดในครั้งนี้ นับเป็นชัยชนะครั้งแรกนับตั้งแต่ฟุตบอลโลก 1994
ซาอุดีอาระเบียลงแข่งขันเอเชียนคัพ 2019 ด้วยความคาดหวังว่าจะทำผลงานได้ดีขึ้น แต่พวกเขาจบอันดับสองของกลุ่ม หลังจากแพ้กาตาร์ในรอบสุดท้าย ส่งผลให้พวกเขาต้องพบกับทีมใหญ่อย่างญี่ปุ่นและแพ้ไป 0–1 แม้พวกเขาจะเล่นได้ดีกว่าตลอดทั้งเกม
ในวันที่ 15 ตุลาคม ค.ศ. 2019 ซาอุดีอาระเบียได้แข่งขันกับปาเลสไตน์ ที่เวสต์แบงก์เป็นครั้งแรก โดยก่อนหน้านี้การแข่งขันระหว่างสองทีมจะจัดขึ้น ณ ประเทศที่สาม การแข่งขันดังกล่าวถูกมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของซาอุดีอาระเบียและอิสราเอล ทว่าก็ได้รับการวิจารณ์จากองค์การบริหารแห่งชาติปาเลสไตน์ว่าจะเป็นการสนับสนุนอำนาจอธิปไตยในเขตเวสต์แบงก์ ทั้งสองทีมเสมอกันไป 0–0
ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย – รอบที่ 3 ซาอุดีอาระเบียอยู่ในกลุ่มบีร่วมกับญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย, จีน, โอมาน และเวียดนาม พวกเขาสามารถผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายได้หลังจากที่ออสเตรเลียเปิดบ้านแพ้ญี่ปุ่น 0–2 โดยอยู่ร่วมกลุ่มกับอาร์เจนตินา โปแลนด์ และเม็กซิโก และตกรอบแรกจากผลงานชนะหนึ่งนัดและแพ้สองนัด แม้จะทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในนัดแรกจากการชนะอาร์เจนตินา
คู่แข่ง
อิหร่านถือเป็นคู่แข่งที่สำคัญที่สุดของซาอุดีอาระเบียด้วยเหตุผลทางประวัติศาสตร์ และการแข่งขันได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา สืบเนื่องจากความขัดแย้งจากการแบ่งแยกลัทธิทางศาสนา ซาอุดีอาระเบียมีผลงานการพบกันที่เป็นรองเล็กน้อย โดยชนะ 4 ครั้ง เสมอ 6 ครั้ง และแพ้ 5 ครั้ง และการพบกันของทั้งสองชาติถือเป็นหนึ่งในสิบการแข่งขันฟุตบอลระหว่างประเทศซึ่งได้รับอิทธิพลจากการเมืองที่ดุเดือดที่สุด
อิรักถือเป็นคู่แข่งที่สำคัญเช่นกัน โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากทศวรรษ 1970 จากเหตุการณ์สงครามอ่าว ซึ่งอิรักได้รุกรานพันธมิตรของซาอุดีอาระเบีย และนับแต่นั้นความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองชาติก็ไม่แน่นอนนัก โดยมีทั้งการพัฒนาความสัมพันธ์ในเชิงบวกสลับกับความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดจนถึงปัจจุบัน โดยอิรักเกือบจะถอนตัวจากการแข่งขัน ใน ค.ศ. 2013 หลังจากได้รับการปฏิเสธการเป็นเจ้าภาพ โดยอิรักเชื่อว่าซาอุดีอาระเบียเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
คู่แข่งชาติอื่น ๆ ของซาอุดีอาระเบียได้แก่ กาตาร์, คูเวต และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
สนาม
ตั้งแต่อดีต ซาอุดีอาระเบียมักจะลงเล่นที่สนาม ตั้งอยู่ในกรุงรียาด เป็นหนึ่งในสนามกีฬาที่มีหลังคาขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และยังมีฉายาว่า "The Pearl" หรือ ไข่มุก โดยเป็นสยามเหย้าในการแข่งขันรายการสำคัญของทีมชาติซาอุดีอาระเบียทั้งในการแข่งขันระดับภูมิภาครวมถึงฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก
นับตั้งแต่ทศวรรษ 2000 เป็นต้นมา ซาอุดีอาระเบียมีการใช้สนามอื่น ๆ มากขึ้น ในฟุตบอลโลก 2002 รอบคัดเลือก พวกเขาลงเล่นที่ ในอัดดัมมาน และในฟุตบอลโลก 2006 รอบคัดเลือก พวกเขาใช้สนาม ไฟซาล บิน ฟาฮัด และนับตั้งแต่ทศวรรษ 2010 ซาอุดีอาระเบียลงเล่นที่คิงอับดุลลอห์สปอร์ตซิตี ในรียาด ซึ่งเป็นสนามที่สร้างขึ้นใหม่ความจุกว่า 60,000 ทีนั่ง
ผลงาน
นักเตะชุดปัจจุบัน
รายชื่อผู้เล่น 26 คนที่ถูกเรียกตัวเพื่อลงแข่งขันรายการ เอเชียนคัพ 2023ระหว่างวันที่ 16 – 25 มกราคม พ.ศ. 2567
- คู่แข่ง: โอมาน, คีร์กีซสถาน และ ไทย
- ข้อมูลการลงเล่นและการทำประตูนับถึงวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 หลังจากการพบกับ จอร์แดน
# | ตำแหน่ง | ผู้เล่น | วันเกิด (อายุ) | ลงเล่น | ประตู | สโมสร |
---|---|---|---|---|---|---|
1 | GK | 10 พฤษภาคม ค.ศ. 2000 | 4 | 0 | อันนัศร์ | |
2 | DF | 23 เมษายน ค.ศ. 1996 | 4 | 0 | ||
3 | DF | 2 กันยายน ค.ศ. 1998 | 2 | 0 | ||
4 | DF | 24 เมษายน ค.ศ. 1996 | 4 | 0 | อันนัศร์ | |
5 | DF | 21 พฤศจิกายน ค.ศ. 1989 | 47 | 1 | อัลฮิลาล | |
6 | MF | 14 ธันวาคม ค.ศ. 2001 | 1 | 0 | ||
7 | MF | 30 ตุลาคม ค.ศ. 1997 | 6 | 0 | ||
8 | MF | 11 ตุลาคม ค.ศ. 1994 | 32 | 0 | อัลฮิลาล | |
9 | FW | 14 พฤษภาคม ค.ศ. 2000 | 36 | 6 | อัลอะฮ์ลี | |
10 | MF | 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 | 78 | 22 | อัลฮิลาล | |
11 | FW | 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 1993 | 29 | 15 | อัลฮิลาล | |
12 | DF | 18 กรกฎาคม ค.ศ. 1999 | 31 | 1 | อัลฮิลาล | |
13 | DF | 27 กันยายน ค.ศ. 1992 | 3 | 0 | อัลอิตติฮาด | |
14 | MF | 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2004 | 2 | 0 | ||
15 | MF | 16 สิงหาคม ค.ศ. 1996 | 18 | 0 | อันนัศร์ | |
16 | MF | 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1997 | 18 | 2 | อันนัศร์ | |
17 | DF | 9 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1999 | 26 | 0 | อัลฮิลาล | |
18 | MF | 31 มีนาคม ค.ศ. 1997 | 21 | 2 | อันนัศร์ | |
19 | MF | 14 กันยายน ค.ศ. 1994 | 76 | 17 | ||
20 | FW | 20 มกราคม ค.ศ. 2003 | 7 | 1 | ||
21 | GK | 20 ธันวาคม ค.ศ. 1996 | 0 | 0 | อันนัศร์ | |
22 | GK | 8 พฤษภาคม ค.ศ. 1991 | 0 | 0 | ||
23 | MF | 22 กันยายน ค.ศ. 1994 | 47 | 2 | อัลฮิลาล | |
24 | MF | 19 ธันวาคม ค.ศ. 1998 | 16 | 0 | อัลฮิลาล | |
25 | MF | 14 พฤษภาคม ค.ศ. 2001 | 10 | 0 | อันนัศร์ | |
26 | MF | 13 สิงหาคม ค.ศ. 2001 | 4 | 0 | อัลอิตติฮาด |
ผู้ฝึกสอน
ผู้ฝึกสอน | จาก | ถึง |
---|---|---|
อับดุลเราะห์มาน เฟาซี | 1957 | 1961 |
อะลี ชาอวช | 1967 | 1969 |
จอร์จ สกินเนอร์ | 1970 | 1970 |
โมฮัมเหม็ด เชตา | 1970 | 1972 |
ตาฮา อิสมาอิล | 1972 | 1974 |
Abdo Saleh El Wahsh | 1974 | 1974 |
เฟเรนซ์ ปุสกัส | 1975 | 1975 |
บิล แม็คแกร์รี | 1976 | 1977 |
แดนนี อัลลิสัน | 1978 | 1978 |
เดวิด วู้ดฟิลด์ | 1979 | 1979 |
รูเบนส์ มิเนลลี | 1980 | 1980 |
มาริโอ ซากัลโล | 1981 | 1984 |
เคาะห์ลีล อิบรอฮีม อัลซะยานี | 1984 | 1986 |
การ์ลูส ฌูแซร์ กัสติลโญ่ | 1986 | 1986 |
ออสวัลโด | 1987 | 1987 |
รอนนี อเลน | 1988 | 1988 |
การ์ลูส กัลเล็ตติ | 1988 | 1988 |
โอมาร์ บอร์ราส | 1988 | 1988 |
การ์ลูส อัลแบร์โต ปาร์เรย์รา | 1988 | 1990 |
เมติน ตูเรล | 1990 | 1990 |
เคลาดินโญ่ การ์เซีย | 1990 | 1992 |
เวโลโซ | 1992 | 1992 |
เนลสัน โรซา มาร์ตินส์ | 1992 | 1992 |
แคนดิญโญ่ | 1993 | 1993 |
ลีโอ บีนฮัคเคอร์ | 1993 | 1994 |
โมฮัมเหม็ด อัลเคาะห์ราชี | 1994 | 1994 |
อิโว เวิร์ทมันน์ | 1994 | 1994 |
ฆอร์เก โซลารี | 1994 | 1994 |
โมฮัมเหม็ด อัลเคาะห์ราชี | 1995 | 1995 |
เซ มาริโอ | 1995 | 1996 |
เนโล วินกาดา | 1996 | 1997 |
ฮันเซล วัลเดม | 1996 | 1997 |
อ็อตโต ฟิตส์เตอร์ | 1998 | 1998 |
การ์ลูส อัลแบร์โต ปาร์เรย์รา | 1998 | 1998 |
โมฮัมเหม็ด อัลเคาะห์ราชี | มิถุนายน 1998 | มิถุนายน 1998 |
อ็อตโต ฟิตส์เตอร์ | 1999 | กุมภาพันธ์ 1999 |
มิลาน มาคาลา | พฤษภาคม 1999 | 2000 |
นาศิร อัลโญฮัร | 2000 | 2000 |
สโลโบดัน ซานทรัช | สิงหาคม 2001 | สิงหาคม 2001 |
นาศิร อัลโญฮัร | สิงหาคม 2001 | กรกฎาคม 2002 |
เจอร์ราร์ด ฟาน เดอ เลม | สิงหาคม 2002 | สิงหาคม 2004 |
มาร์ติน คูปมัน | 2002 | 2002 |
นาศิร อัลโญฮัร | กันยายน 2004 | พฤศจิกายน 2004 |
กาเบรียล กัลเดรอน | พฤศจิกายน 2004 | ธันวาคม 2005 |
มาร์กอส ปาเกตา | 2006 | 2007 |
เอลิโอ ดอส อันฌูส | มีนาคม 2007 | มิถุนายน 2008 |
นาศิร อัลโญฮัร | มิถุยายน 2008 | กุมภาพันธ์ 2009 |
ฌูแซร์ เปเซโร | กุมภาพันธ์ 2009 | มกราคม 2011 |
นาศิร อัลโญฮัร | มกราคม 2011 | กุมภาพันธ์ 2011 |
โรเจริโอ รอเลนโซ | มิถุนายน 2011 | กรกฎาคม 2011 |
แฟรงก์ ไรจ์การ์ด | สิงหาคม 2011 | มกราคม 2013 |
ฆวน รามอน โลเปซ กาโร | มกราคม 2013 | ธันวาคม 2014 |
คอสมิน โอลาโรอู | ธันวาคม 2014 | มกราคม 2015 |
Faisal Al Baden | มีนาคม 2015 | สิงหาคม 2015 |
แบร์ต ฟัน มาร์ไวก์ | กันยายน 2015 | กันยายน 2017 |
กันยายน 2017 | พฤศจิกายน 2017 | |
พฤศจิกายน 2017 | 2019 | |
2019 | 2019 | |
แอร์เว เรอนาร์ | 2019 | 2023 |
Laurent Bonadéi | 2021 | 2021 |
Saad Al-Shehri | 2023 | 2023 |
โรแบร์โต มันชีนี | 2023 | ปัจจุบัน |
อดีตผู้เล่นคนสำคัญ
อ้างอิง
- (PDF). Fifa.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 5 September 2015. สืบค้นเมื่อ 10 September 2016.
- "Majed Abdullah". RSSSF.
- "The FIFA/Coca-Cola World Ranking". FIFA. 4 เมษายน 2024. สืบค้นเมื่อ 4 เมษายน 2024.
- "How Saudi Arabian football is thriving with two big targets in sight". the Guardian (ภาษาอังกฤษ). 2021-10-28.
- "How Saudi Arabia got back to top of Asian football". Arab News (ภาษาอังกฤษ). 2021-10-18.
- "1953.. أول بعثة رياضية إلى الخارج". arriyadiyah.com (ภาษาอาหรับ).
- "Impressive Russia win World Cup opener". BBC Sport (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2021-12-24.
- 161385360554578 (2018-06-20). "Are Saudi Arabia the worst team ever at a World Cup?". talkSPORT (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
{{}}
: CS1 maint: numeric names: authors list () - "History of the World Cup: 1934 – Italy wins for Il Duce - Sportsnet.ca". www.sportsnet.ca.
- "The climate of the UK - Atmosphere and climate - Edexcel - GCSE Geography Revision - Edexcel". BBC Bitesize (ภาษาอังกฤษแบบบริติช).
- https://digitalhub.fifa.com/m/3448065c375af8be/original/rsfgqnivvkgwkhlvrsah-pdf.pdf
- "BBC SPORT | WORLD CUP | Germany v Saudi Arabia | Germany savage Saudis". news.bbc.co.uk.
- "Salah scores but Egypt lose to Saudis". BBC Sport (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2021-12-24.
- "AFC Asian Cup 2019: Saudi Arabia 0-2 Qatar in Abu Dhabi". iranpress.com (ภาษาอังกฤษ).
- https://www.washingtonpost.com/world/middle_east/saudi-arabia-breaks-its-decades-long-boycott-to-play-soccer-in-the-west-bank/2019/10/14/9cd78ca0-eea2-11e9-bb7e-d2026ee0c199_story.html
- "Policy Goals: Soccer and the Saudi-Iranian Rivalry". www.csis.org (ภาษาอังกฤษ).
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-01-21. สืบค้นเมื่อ 2024-01-09.
แหล่งข้อมูลอื่น
- Saudi Arabia FA official website 2018-04-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Saudi Arabia national football team website
- Saudi Arabia in fifaworldcup.com
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
futbxlthimchatisaxudixaraebiy xahrb المنتخب العربي السعودي لكرة القدم epnthimfutbxlpracachatikhxngpraethssaxudixaraebiyinkaraekhngkhnrahwangpraeths xyuphayitkarduaelkhxngshphnthfutbxlsaxudixaraebiy michayakhux xlsxkr Al Saqour hruxphasaxngkvskhux The Falcons nkehyiyw aela xlxkhdxr Al Akhdar hruxphasaxngkvskhux The Green sungmacaksipracathimkhuxsiekhiyw saxudixaraebiyidlngaekhngkhnthnginraykarkhxngshphnthfutbxlrahwangpraeths aelasmaphnthfutbxlexechiysaxudixaraebiyShirt badge Association crestchayaالأخضر siekhiyw الصقور الخضر ehyiywekhiyw الصقور العربية ehyiywxahrb esrsthinamn inphasaithy smakhmshphnthfutbxlsaxudixaraebiysmaphnthyxy exechiytawntk smaphnthexexfsi exechiy hwhnaphufuksxnoraebrot mnchinikptnsungsud 178 thapratusungsud 72 rhsfifaKSAsichudehyasichudeyuxnxndbfifaxndbpccubn53 4 emsayn 2024 xndbsungsud21 krkdakhm kh s 2004 xndbtasud126 thnwakhm kh s 2012 ekmradbnanachatikhrngaerk elbanxn 1 1 saxudixaraebiy ebrut praethselbanxn 18 mkrakhm kh s 1957 chnasungsud timxr elset 0 10 saxudixaraebiy dili praethstimxrtawnxxk 17 phvscikayn kh s 2015 aephsungsud shsatharnrthxahrb 13 0 saxudixaraebiy kasablxngka praethsomrxkok 3 knyayn kh s 1961 futbxlolkekharwm6 khrngaerkin 1994 phlngandithisudrxbkhdeluxk 16 thim 1994 exechiynkhphekharwm10 khrngaerkin phlngandithisudchnaelis ekharwm7 khrngaerkin phlngandithisudchnaelis ekharwm24 khrngaerkin phlngandithisudchnaelis khxnefedxerchnskhphekharwm4 khrngaerkin phlngandithisudrxngchnaelis ekiyrtiys futbxlchayfifakhxnefedxerchnskhphthimthimthimthimthimexexfsi exechiynkhphthimthimthimthimthim2007 aephnexechiy thimexechiynekmsthimthimaephnxahrbekmsthimthim saxudixaraebiyepnthimthiprasbkhwamsaercmakthisudthimhnunginthwipexechiy odychnaeliskaraekhngkhnexechiynkhph 3 smy kh s 1984 1988 aela 1996 aelaepnhnunginsxngthimthiekhachingchnaelisraykarnimakthisud 6 khrng aelaphwkekhayngkhwaehriyyengininexechiynekms 1986 saxudixaraebiyekharwmfutbxlolkrxbsudthay 6 khrng aelayngepnchatiaerkinexechiythiekhathungrxbchingchnaeliskaraekhngkhnkhxngfifainnamthimchatichudihy odyekhachingchnaelisraykar in kh s 1992 sungpccubnruckkninchux fifakhxnefedxerchnskhph odymiephiyngxiksxngchatithithasthitidngklawidcnthungpccubn idaek xxsetreliy in kh s 1997 sunglngaekhngkhninnamsmaphnthfutbxloxechiyeniyinkhnann aelayipunin kh s 2001 saxudixaraebiylngaekhngkhnfutbxlolkkhrngaerkinfutbxlolk 1994 odyexachnaebleyiym aelaomrxkokidinrxbaebngklum kxncaekhaipaephswiedninrxb 16 thimsudthay sngphlihphwkekhaepnthimcakchatixahrbpraethsthisxngthiekharxb 16 thimsudthayinfutbxlolk txcakomrxkokinfutbxlolk 1986 aelaepnhnunginhathimkhxngexechiythithaid rwmkbyipun ekahliit xxsetreliy aelaekahliehnux inkaraekhngkhnfutbxlolk 2022 saxudixaraebiysrangkhwamprahladicdwykarexachnathimaechmpxyangxarecntinainndaerkkhxngrxbaebngklumdwyphlpratu 2 1 thuxepnkhrngaerkthixarecntinaaephchaticakthwipexechiyinfutbxlolkrxbsudthay xyangirktam phwkekhatkrxbaebngklumcakkaraephxiksxngndthdmaaelacbxndbsudthay saxudixaraebiycaepnecaphaphkaraekhngkhnsxngraykarsakhykhux exechiynkhph 2027 aela futbxlolk 2034 thuxepnkhrngaerkthiphwkekhacaepnecaphaphkaraekhngkhnsxngraykardngklawprawtifutbxlthimchatisaxudixaraebiymicuderimtnin kh s 1951 cakkarrwmtwkhxngphuelncak aela somsrfutbxlxlxahli yiddah ephuxlngaekhngkhnekmkrachbmitrphbkbthimcakkrathrwngsatharnsukhcakpraethsxiyipt inwnthi 27 mithunayn n emuxngyiddah aelathngsxngthimidaekhngkhnknxikkhrnginwntxma odysaxudixaraebiyichphuelnkhxng aela somsrfutbxlxlhilal txmaineduxnsinghakhm ecachay rthmntriwakarkrathrwngmhadithyidcdkaraekhngkhnkrachbmitrkbxiyiptepnkhrngthisam aelathuxepncuderimtnkhxngaenwkhidinkarcdtngthimfutbxlephuxepntwaethnkhxngpraeths in kh s 1953 saxudixaraebiykidkxtngthimfutbxlkhun aelaidedinthangipaekhngkhnkrachbmitrrahwangpraethsepnkhrngaerk n krungdamsks praethssieriy inworkasthismedcphrarachathibdisaxud bin xbdulxasis xal saxud esdckhunkhrxngrachy txmain kh s 1957 saxudixaraebiyidrwmaekhngkhnraykaraephnxahrbekms thiebrut praethselbanxn odysmedcphrarachathibdisaxud bin xbdulxasis xal saxud idrbechiyihesdciprwmphithiepid n snam rwmkb prathanathibdielbanxn aelainndepidsnamepnkaraekhngkhnrahwangsaxudixaraebiy aelaelbanxn odyesmxknip 1 1 aelasaxudixaraebiytkrxbaebngklum shphnthfutbxlsaxudixaraebiy idkxtngkhunin kh s 1956 thwahlngcaknn saxudixaraebiyimidrwmaekhngkhninraykarsakhyid cnkrathngexechiynkhph 1984 thipraethssingkhopr sungphwkekhakhwaaechmpidepnsmyaerk exachnacininrxbchingchnaelis 2 0 aelaphwkekhaklayepnhnunginthimthiprasbkhwamsaercmakthisudthimhnunginthwipexechiynbtngaetnn odyekhachingchnaelisexechiynkhphidxik 4 khrngtidtxkn aelakhwaaechmpephimidxiksxngkhrnginpi 1988 chnacudothsekahliit aela 1996 chnacudothsshrthxahrbexmierts aelaidrwmaekhngkhnexechiynkhphthukkhrngnbtngaetnncnthungpccubn aetyngimsamarthkhwaaechmpephimid odyphlngandisudkhuxkarekhachingchnaelisinexechiynkhph 2007 aephxirk 0 1 karaekhngkhnexechiynkhph kh s 1984 rxbchingchnaelisrahwangsaxudixaraebiyaelacin phwkekhaekharwmfutbxlolkrxbsudthaysmyaerkinfutbxlolk 1994 phayitphufuksxnchawxarecntina aelaphuelnphrswrrkhsungxyang aela sami xlyabir phathimphanekhathungrxb 16 thimsudthaykxncaaephswiedn 1 3 aelaphwkekhaekharwmfutbxlolkinxiksamkhrngthdma aetimsamarthchnainrxbaebngklumaemaetndediyw aelaimidekhaipelninfutbxlolk 2010 aela 2014 kxncaklbmaaekhngkhninfutbxlolk 2018 aephecaphaphxyangrsesiyinndepidsnamkhadlxy 0 5 sungthuxepnkarchnadwyphlpratuthimakthisudepnxndbsxngtlxdkalkhxngchatiecaphaphinfutbxlolkrxbsudthay nbtngaetxitaliecaphaphfutbxlolk 1934 exachnashrthdwyphlpratu 7 1 saxudixaraebiytkrxbaerkxikkhrnghlngcakaephxurukwyipxyangsusi 0 1 aemphwkekhacaexachnaxiyiptidinndsudthay 2 1 inkhrngnisaxudixaraebiymiphlnganinfutbxlolkthiaeythisudnbtngaetfutbxlolk 2002 sungphwkekhaaepheyxrmni 0 8 aelacbinxndb 32 sungepnxndbsudthaycakkarcdxndbrwmemuxcbkaraekhngkhn xyangirktam phwkekhayngidrbesiyngchunchmcakkarchnaidhnungndinkhrngni nbepnchychnakhrngaerknbtngaetfutbxlolk 1994 phuelnsaxudixaraebiykhnaxbxunrangkaykxnlngaekhngkhnfutbxlolk 2006thimchatisaxudixaraebiyinndepidsnamfutbxlolk 2018 phbkbthimchatirsesiy saxudixaraebiylngaekhngkhnexechiynkhph 2019 dwykhwamkhadhwngwacathaphlnganiddikhun aetphwkekhacbxndbsxngkhxngklum hlngcakaephkatarinrxbsudthay sngphlihphwkekhatxngphbkbthimihyxyangyipunaelaaephip 0 1 aemphwkekhacaelniddikwatlxdthngekm inwnthi 15 tulakhm kh s 2019 saxudixaraebiyidaekhngkhnkbpaelsitn thiewstaebngkepnkhrngaerk odykxnhnanikaraekhngkhnrahwangsxngthimcacdkhun n praethsthisam karaekhngkhndngklawthukmxngwaepncuderimtninkarphthnakhwamsmphnthrahwangpraethskhxngsaxudixaraebiyaelaxisraexl thwakidrbkarwicarncakxngkhkarbriharaehngchatipaelsitnwacaepnkarsnbsnunxanacxthipityinekhtewstaebngk thngsxngthimesmxknip 0 0 inkaraekhngkhnfutbxlolk 2022 rxbkhdeluxk osnexechiy rxbthi 3 saxudixaraebiyxyuinklumbirwmkbyipun xxsetreliy cin oxman aelaewiydnam phwkekhasamarthphanekhaipelninfutbxlolk 2022 rxbsudthayidhlngcakthixxsetreliyepidbanaephyipun 0 2 odyxyurwmklumkbxarecntina opaelnd aelaemksiok aelatkrxbaerkcakphlnganchnahnungndaelaaephsxngnd aemcathaphlnganidyxdeyiyminndaerkcakkarchnaxarecntinakhuaekhngxihranthuxepnkhuaekhngthisakhythisudkhxngsaxudixaraebiydwyehtuphlthangprawtisastr aelakaraekhngkhnidthwikhwamrunaerngmakkhuninchwngthswrrsthiphanma subenuxngcakkhwamkhdaeyngcakkaraebngaeyklththithangsasna saxudixaraebiymiphlngankarphbknthiepnrxngelknxy odychna 4 khrng esmx 6 khrng aelaaeph 5 khrng aelakarphbknkhxngthngsxngchatithuxepnhnunginsibkaraekhngkhnfutbxlrahwangpraethssungidrbxiththiphlcakkaremuxngthidueduxdthisud xirkthuxepnkhuaekhngthisakhyechnkn odymicuderimtnmacakthswrrs 1970 cakehtukarnsngkhramxaw sungxirkidrukranphnthmitrkhxngsaxudixaraebiy aelanbaetnnkhwamsmphnthrahwangthngsxngchatikimaennxnnk odymithngkarphthnakhwamsmphnthinechingbwkslbkbkhwamsmphnththitungekhriydcnthungpccubn odyxirkekuxbcathxntwcakkaraekhngkhn in kh s 2013 hlngcakidrbkarptiesthkarepnecaphaph odyxirkechuxwasaxudixaraebiyepnphuxyuebuxnghlng khuaekhngchatixun khxngsaxudixaraebiyidaek katar khuewt aela shrthxahrbexmiertssnamtngaetxdit saxudixaraebiymkcalngelnthisnam tngxyuinkrungriyad epnhnunginsnamkilathimihlngkhakhnadihythisudinolk aelayngmichayawa The Pearl hrux ikhmuk odyepnsyamehyainkaraekhngkhnraykarsakhykhxngthimchatisaxudixaraebiythnginkaraekhngkhnradbphumiphakhrwmthungfutbxlolkrxbkhdeluxk nbtngaetthswrrs 2000 epntnma saxudixaraebiymikarichsnamxun makkhun infutbxlolk 2002 rxbkhdeluxk phwkekhalngelnthi inxddmman aelainfutbxlolk 2006 rxbkhdeluxk phwkekhaichsnam ifsal bin fahd aelanbtngaetthswrrs 2010 saxudixaraebiylngelnthikhingxbdullxhspxrtsiti inriyad sungepnsnamthisrangkhunihmkhwamcukwa 60 000 thinngphlnganfutbxlolk 1930 thung 1974 imidekharwm 1978 thung 1990 imphanrxbkhdeluxk 1994 rxbsxng 1998 rxbaerk 2002 rxbaerk 2006 rxbaerk 2010 thung 2014 imphanrxbkhdeluxk 2018 rxbaerk 2022 rxbaerkexechiynkhph thung 1972 imidrwm thxntw imidrwm aela chnaelis rxngchnaelis chnaelis rxngchnaelis rxbaerk 2007 rxngchnaelis 2011 aela 2015 rxbaerk 2019 rxb 16 thimsudthay 2023 rxb 16 thimsudthaynketachudpccubnraychuxphueln 26 khnthithukeriyktwephuxlngaekhngkhnraykar exechiynkhph 2023rahwangwnthi 16 25 mkrakhm ph s 2567 khuaekhng oxman khirkissthan aela ithy khxmulkarlngelnaelakarthapratunbthungwnthi 21 phvscikayn ph s 2566 hlngcakkarphbkb cxraedn0 0 taaehnng phueln wnekid xayu lngeln pratu somsr1 1 GK 2000 05 10 10 phvsphakhm kh s 2000 24 pi 4 0 xnnsr2 2 DF 1996 04 23 23 emsayn kh s 1996 28 pi 4 03 2 DF 1998 09 02 2 knyayn kh s 1998 25 pi 2 04 2 DF 1996 04 24 24 emsayn kh s 1996 28 pi 4 0 xnnsr5 2 DF 1989 11 21 21 phvscikayn kh s 1989 34 pi 47 1 xlhilal6 3 MF 2001 12 14 14 thnwakhm kh s 2001 22 pi 1 07 3 MF 1997 10 30 30 tulakhm kh s 1997 26 pi 6 08 3 MF 1994 10 11 11 tulakhm kh s 1994 29 pi 32 0 xlhilal9 4 FW 2000 05 14 14 phvsphakhm kh s 2000 24 pi 36 6 xlxahli10 3 MF 1991 08 19 19 singhakhm kh s 1991 32 pi 78 22 xlhilal11 4 FW 1993 11 01 1 phvscikayn kh s 1993 30 pi 29 15 xlhilal12 2 DF 1999 07 18 18 krkdakhm kh s 1999 24 pi 31 1 xlhilal13 2 DF 1992 09 27 27 knyayn kh s 1992 31 pi 3 0 xlxittihad14 3 MF 2004 02 22 22 kumphaphnth kh s 2004 20 pi 2 015 3 MF 1996 08 16 16 singhakhm kh s 1996 27 pi 18 0 xnnsr16 3 MF 1997 02 07 7 kumphaphnth kh s 1997 27 pi 18 2 xnnsr17 2 DF 1999 02 09 9 kumphaphnth kh s 1999 25 pi 26 0 xlhilal18 3 MF 1997 03 31 31 minakhm kh s 1997 27 pi 21 2 xnnsr19 3 MF 1994 09 14 14 knyayn kh s 1994 29 pi 76 1720 4 FW 2003 01 20 20 mkrakhm kh s 2003 21 pi 7 121 1 GK 1996 12 20 20 thnwakhm kh s 1996 27 pi 0 0 xnnsr22 1 GK 1991 05 08 8 phvsphakhm kh s 1991 33 pi 0 023 3 MF 1994 09 22 22 knyayn kh s 1994 29 pi 47 2 xlhilal24 3 MF 1998 12 19 19 thnwakhm kh s 1998 25 pi 16 0 xlhilal25 3 MF 2001 05 14 14 phvsphakhm kh s 2001 23 pi 10 0 xnnsr26 3 MF 2001 08 13 13 singhakhm kh s 2001 22 pi 4 0 xlxittihadphufuksxnphufuksxn cak thungxbduleraahman efasi 1957 1961xali chaxwch 1967 1969cxrc skinenxr 1970 1970omhmehmd echta 1970 1972taha xismaxil 1972 1974Abdo Saleh El Wahsh 1974 1974eferns pusks 1975 1975bil aemkhaekrri 1976 1977aednni xllisn 1978 1978edwid wudfild 1979 1979ruebns mienlli 1980 1980mariox saklol 1981 1984ekhaahlil xibrxhim xlsayani 1984 1986karlus chuaesr kstiloy 1986 1986xxswlod 1987 1987rxnni xeln 1988 1988karlus kleltti 1988 1988oxmar bxrras 1988 1988karlus xlaebrot pareryra 1988 1990emtin tuerl 1990 1990ekhladinoy karesiy 1990 1992ewolos 1992 1992enlsn orsa martins 1992 1992aekhndiyoy 1993 1993liox binhkhekhxr 1993 1994omhmehmd xlekhaahrachi 1994 1994xiow ewirthmnn 1994 1994khxrek oslari 1994 1994omhmehmd xlekhaahrachi 1995 1995es mariox 1995 1996enol winkada 1996 1997hnesl wledm 1996 1997xxtot fitsetxr 1998 1998karlus xlaebrot pareryra 1998 1998omhmehmd xlekhaahrachi mithunayn 1998 mithunayn 1998xxtot fitsetxr 1999 kumphaphnth 1999milan makhala phvsphakhm 1999 2000nasir xloyhr 2000 2000solobdn santhrch singhakhm 2001 singhakhm 2001nasir xloyhr singhakhm 2001 krkdakhm 2002ecxrrard fan edx elm singhakhm 2002 singhakhm 2004martin khupmn 2002 2002nasir xloyhr knyayn 2004 phvscikayn 2004kaebriyl kledrxn phvscikayn 2004 thnwakhm 2005markxs paekta 2006 2007exliox dxs xnchus minakhm 2007 mithunayn 2008nasir xloyhr mithuyayn 2008 kumphaphnth 2009chuaesr epesor kumphaphnth 2009 mkrakhm 2011nasir xloyhr mkrakhm 2011 kumphaphnth 2011orecriox rxelnos mithunayn 2011 krkdakhm 2011aefrngk irckard singhakhm 2011 mkrakhm 2013khwn ramxn oleps kaor mkrakhm 2013 thnwakhm 2014khxsmin oxlaorxu thnwakhm 2014 mkrakhm 2015Faisal Al Baden minakhm 2015 singhakhm 2015aebrt fn mariwk knyayn 2015 knyayn 2017knyayn 2017 phvscikayn 2017phvscikayn 2017 20192019 2019aexrew erxnar 2019 2023Laurent Bonadei 2021 2021Saad Al Shehri 2023 2023oraebrot mnchini 2023 pccubnxditphuelnkhnsakhysami xlyabir nasir xchchmrxnixangxing PDF Fifa com khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 5 September 2015 subkhnemux 10 September 2016 Majed Abdullah RSSSF The FIFA Coca Cola World Ranking FIFA 4 emsayn 2024 subkhnemux 4 emsayn 2024 How Saudi Arabian football is thriving with two big targets in sight the Guardian phasaxngkvs 2021 10 28 How Saudi Arabia got back to top of Asian football Arab News phasaxngkvs 2021 10 18 1953 أول بعثة رياضية إلى الخارج arriyadiyah com phasaxahrb Impressive Russia win World Cup opener BBC Sport phasaxngkvsaebbbritich subkhnemux 2021 12 24 161385360554578 2018 06 20 Are Saudi Arabia the worst team ever at a World Cup talkSPORT phasaxngkvsaebbxemrikn a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint numeric names authors list lingk History of the World Cup 1934 Italy wins for Il Duce Sportsnet ca www sportsnet ca The climate of the UK Atmosphere and climate Edexcel GCSE Geography Revision Edexcel BBC Bitesize phasaxngkvsaebbbritich https digitalhub fifa com m 3448065c375af8be original rsfgqnivvkgwkhlvrsah pdf pdf BBC SPORT WORLD CUP Germany v Saudi Arabia Germany savage Saudis news bbc co uk Salah scores but Egypt lose to Saudis BBC Sport phasaxngkvsaebbbritich subkhnemux 2021 12 24 AFC Asian Cup 2019 Saudi Arabia 0 2 Qatar in Abu Dhabi iranpress com phasaxngkvs https www washingtonpost com world middle east saudi arabia breaks its decades long boycott to play soccer in the west bank 2019 10 14 9cd78ca0 eea2 11e9 bb7e d2026ee0c199 story html Policy Goals Soccer and the Saudi Iranian Rivalry www csis org phasaxngkvs khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2024 01 21 subkhnemux 2024 01 09 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb futbxlthimchatisaxudixaraebiy Saudi Arabia FA official website 2018 04 22 thi ewyaebkaemchchin Saudi Arabia national football team website Saudi Arabia in fifaworldcup com