นโปเลียน ฟร็องซัว ชาร์ล โฌแซ็ฟ โบนาปาร์ต (ฝรั่งเศส: Napoléon François Charles Joseph Bonaparte) เป็นพระราชโอรสองค์เดียวของ จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 แห่งฝรั่งเศส ที่ประสูติแด่อาร์ชดัชเชสมารี หลุยส์ แห่งออสเตรีย
จักรพรรดินโปเลียนที่ 2 | |||||
---|---|---|---|---|---|
กษัตริย์แห่งโรม ดยุกแห่งไรชส์ชตัท เจ้าชายแห่งปาร์มา | |||||
จักรพรรดิแห่งชาวฝรั่งเศส (พิพาท) | |||||
ครองราชย์ ครั้งที่ 1 | 4 – 6 เมษายน 1814 | ||||
ก่อนหน้า | นโปเลียนที่ 1 | ||||
ถัดไป | หลุยส์ที่ 18 (ในฐานะกษัตริย์) นโปเลียนที่ 1 (ในฐานะจักรพรรดิ) | ||||
ครองราชย์ ครั้งที่ 2 | 22 มิถุนายน – 7 กรกฎาคม 1815 | ||||
ก่อนหน้า | นโปเลียนที่ 1 | ||||
ถัดไป | หลุยส์ที่ 18 (ในฐานะกษัตริย์) นโปเลียนที่ 3 (ในฐานะจักรพรรดิ) | ||||
ผู้สำเร็จราชการ | ดยุกแห่งโอตรันโต | ||||
ประมุขแห่งราชวงศ์โบนาปาร์ต | |||||
ระหว่าง | 22 มิถุนายน 1815 – 22 กรกฎาคม 1832 | ||||
ก่อนหน้า | นโปเลียนที่ 1 | ||||
ถัดไป | โฆเชที่ 1 | ||||
พระราชสมภพ | 20 มีนาคม ค.ศ. 1811 พระราชวังตุยเลอรี ปารีส จักรวรรดิฝรั่งเศส | ||||
สวรรคต | 22 กรกฎาคม ค.ศ. 1832 พระราชวังเชินบรุน เวียนนา จักรวรรดิออสเตรีย | (21 ปี)||||
ฝังพระศพ | ออแตลเดแซ็งวาลีด | ||||
| |||||
ราชวงศ์ | โบนาปาร์ต | ||||
พระราชบิดา | จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 | ||||
พระราชมารดา | มารี หลุยส์ ดัชเชสแห่งปาร์มา | ||||
ศาสนา | โรมันคาทอลิก | ||||
ลายพระอภิไธย |
ตามมาตรา 9 ของรัฐธรรมนูญแห่งจักรวรรดิฝรั่งเศส ทรงมีพระยศตั้งแต่เกิดเป็น พระราชกุมาร (Prince Imperial) และกษัตริย์แห่งโรม (King of Rome) เนื่องจากจักรพรรดินโปเลียนประกาศให้เป็นพระยศกิตติมศักดิ์สำหรับรัชทายาทผู้มีสิทธิโดยตรง ต่อมาเมื่อพระราชบิดาลงจากอำนาจในปี 1814 พระนางมารี หลุยส์ พระราชมารดาได้รับตำแหน่งดัชเชสผู้ครองปาร์มา เจ้าชายน้อยจึงได้รับยศตามมารดาเป็น เจ้าชายแห่งปาร์มา อย่างไรก็ตาม เจ้าชายน้อยถูกเชิญให้ประทับอยู่ในเวียนนา ซึ่งที่นั่นพระองค์ถูกเรียกเป็นภาษาเยอรมันว่า ฟรันซ์ ดยุกแห่งไรชส์ชตัท (Franz, Duke of Reichstadt)
เมื่อจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 สละราชสมบัติในปี 1814 ทรงเสนอนามพระราชโอรสขึ้นเป็นจักรพรรดิ อย่างไรก็ตาม ฝ่ายสหสัมพันธมิตรผู้ชนะสงครามนโปเลียนไม่ยอมรับการสืบราชบัลลังก์ดังกล่าว นโปเลียนที่ 1 จึงถูกบังคับให้สละราชสมบัติโดยปราศจากเงื่อนไขในอีกหลายวันต่อมา ซึ่งแม้ว่าจักรพรรดินโปเลียนที่ 2 ไม่ได้ทรงปกครองฝรั่งเศสในทางปฏิบัติแต่อย่างใด แต่ก็ถือว่าทรงเป็นจักรพรรดิแห่งฝรั่งเศสในนามในปี 1815 หลังจากสิ้นการปกครองของพระราชบิดา
นโปเลียน กษัตริย์แห่งโรม ดยุกแห่งไรชส์ชตัท เสด็จสวรรคตในปี 1832 ที่กรุงเวียนนา พระองค์ได้รับสมัญญาภายหลังการสวรรคตว่า อินทรีย์หนุ่ม (L'Aiglon) ต่อมาในปี 1852 เมื่อพระญาติของพระองค์นามว่า หลุยส์-นโปเลียน โบนาปาร์ต ราชาภิเษกเป็นจักรพรรดิและสถาปนาจักรวรรดิฝรั่งเศสที่สอง ทรงเลือกใช้พระนามาภิไธยว่าจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 เพื่อเป็นการยอมรับสภาพการทรงราชย์ของนโปเลียนที่ 2
พระราชประวัติ
ประสูติ
ในช่วงเวลา 20 ถึง 21 นาฬิกาของคืนวันที่ 19 มีนาคม 1811 จักรพรรดินีมารี หลุยส์ รู้สึกเจ็บพระครรภ์ นางสนองพระโอษฐ์จึงแจ้งให้บรรดาบุคคลสำคัญทราบ บรรดาเจ้านายและขุนนางชั้นสูง รัฐมนตรี สมุหพระราชวัง ตลอดจนข้าราชบริพารต่างพากันมารวมตัวกัน ณ พระราชวังตุยเลอรี ต่อมาในเช้าวันที่ 20 มีนาคม เวลา 9.20 นาฬิกา ทรงคลอดทารกเพศชายน้ำหนัก 4.1 กิโลกรัม และส่วนสูง 51 เซนติเมตร ทรงได้รับการเจิม (พิธีบัพติศมาแบบย่อตามขนบธรรมเนียมฝรั่งเศส) โดยโฌแซ็ฟ เฟ็สช์ และมีพระนามเต็มว่า นโปเลียน ฟร็องซัว ชาร์ล โฌแซ็ฟ
ต่อมาทรงเข้าพิธีบัพติศมา ซึ่งมีต้นแบบมาจากพิธีบัพติศมาของเจ้าชายหลุยส์ โดแฟ็งแห่งฝรั่งเศส ในวันที่ 9 มิถุนายน ณ มหาวิหารน็อทร์-ดามแห่งปารีส โดยคาร์ล ฟิลลิพ เจ้าชายแห่งชวาร์ทเซินแบร์ค ราชทูตออสเตรียประจำฝรั่งเศสในขณะนั้น ได้บันทึกไว้ว่า :
“ | [...] พระราชพิธีบัพติศมางดงามและน่าประทับใจ มีเสียงสรรเสริญดังกึกก้องเมื่อพระจักรพรรดิโอบอุ้มพระราชบุตรมาจากอ้อมพระพาหุ (แขน) ของพระราชมารดาผู้ทรงศักดิ์ และชูพระองค์ขึ้นสองครั้งเพื่อเผยให้สาธารณชนได้ชื่นชม [ดังนั้นจึงเป็นการผิดธรรมเนียมประเพณี เนื่องจากทรงกระทำ ณ พระราชพิธีราชาภิเษกของพระองค์] และเห็นได้ชัดเจนว่าพระจักรพรรดิทรงรู้สึกพึงพอใจอย่างมากในห้วงเวลาอันเคร่งขรึมนี้ สังเกตได้จากพระราชอากัปกิริยาและสีพระพักตร์ | ” |
ต่อมาทรงอยู่ในความดูแลของหลุยส์ ชาร์ลอต ฟร็องซัว เลอ เตลีเย เดอ มงเตสกียู ทายาทของฟร็องซัว-มิเชล เลอ เตลีเย มาร์กี เดอ โลวัวส์ ผู้เคยดำรงตำแหน่งข้าหลวงแห่งราชโอรสราชธิดาฝรั่งเศส (Governess of the Children of France) และด้วยความเป็นที่รักใคร่และชาญฉลาด ข้าหลวงผู้ดูแลพระองค์จึงได้รวบรวมชุดหนังสือจำนวนมากไว้สำหรับพระราชโอรส เพื่อใช้ในการปูพื้นฐานทางด้านศาสนา ปรัชญา และการกลาโหม
สิทธิสืบราชสมบัติ
เนื่องจากเป็นพระราชโอรสองค์โตที่ถูกต้องตามกฎหมายของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 รัฐธรรมนูญจึงรับรองพระราชสถานะของพระองค์เป็นเจ้าชายแอ็งเปรียาลและรัชทายาทผู้มีสิทธิโดยตรง นอกจากนี้จักรพรรดิยังพระราชทานพระอิสริยยศแก่พระองค์เป็นกษัตริย์แห่งโรมอีกด้วย ถึงกระนั้นก็ตาม จักรวรรดิฝรั่งเศสที่หนึ่งที่พระองค์เป็นรัชทายาทก็ล่มสลายลงในอีกสามปีถัดมา
จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ทรงพบปะกับพระชายา (จักรพรรดินีมารี หลุยส์) และพระราชโอรสของพระองค์เป็นครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2357 และต่อมาในวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2357 ก็ทรงสละราชสมบัติให้แก่พระราชโอรสวัย 3 ชันษา ภายหลัง และยุทธการที่ปารีส เจ้าชายพระองค์น้อยจึงได้ขึ้นเสวยราชย์ด้วยพระนาม นโปเลียนที่ 2 อย่างไรก็ตามในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2357 จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 สละราชสมบัติโดยครบถ้วนสมบูรณ์ รวมทั้งสละพระราชสิทธิ์ของพระองค์และรัชทายาทเหนือราชบัลลงก์ฝรั่งเศสด้วย ทั้งนี้สนธิสัญญาฟงแตนโบลปี พ.ศ. 2357 ยังมอบสิทธิ์ในการใช้พระอิสริยยศ เจ้าชายแห่งปาร์มา ปลาเซนตีอา และกัสตัลลา แก่นโปเลียนที่ 2 และพระอิสริยยศ ดัชเชสแห่งปาร์มา ปลาเซนตีอา และกัสตัลลา แก่พระราชมารดาของพระองค์
ครองราชย์
ในวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2357 พระนางมารี หลุยส์ เสด็จฯ ออกจากพระราชวังตุยเลอรีพร้อมกับพระราชโอรส โดยที่หมายแรกก็คือพระราชวังร็องบูเยต์ แต่ด้วยความที่ทรงกลัวกองทหารของฝ่ายศัตรูที่กำลังคืบคลานเข้ามา จึงเสด็จฯ ต่อไปยังพระราชวังบลัว ต่อมาในวันที่ 13 เมษายน พระนางและพระราชโอรสจึงเสด็จฯ กลับไปยังพระราชวังร็องบูเยต์ และทรงพบกับพระราชบิดา จักรพรรดิฟรันซ์ที่ 1 แห่งออสเตรีย พร้อมด้วยจักรพรรดิอะเลคซันดร์ที่ 1 แห่งรัสเซีย จากนั้นในวันที่ 23 เมษายน พระนางและพระราชโอรสจึงเสด็จฯ ออกจากร็องบูเยต์และฝรั่งเศสไปพำนักลี้ภัยอยู่ที่ออสเตรียเป็นการถาวร ภายใต้การอารักขาของกองทหารออสเตรีย โดยมิมีโอกาสได้เสด็จฯ กลับมาอีกเลยตลอดช่วงพระชนม์ชีพที่เหลือ
ในปี พ.ศ. 2358 หลังจากที่ทรงพ่ายแพ้ในยุทธการที่วอเตอร์ลู จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 สละราชสมบัติแก่พระราชโอรสวัย 4 ชันษาเป็นครั้งที่สอง ผู้ซึ่งพระองค์มิได้ทรงพบปะตั้งแต่การเสด็จลี้ภัยไปเกาะเอลบา และหนึ่งวันหลังจากที่สละราชสมบัติ คณะรัฐบาลซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิกห้าคนจึงได้เข้ายึดการปกครองของฝรั่งเศสเอาไว้ และเฝ้ารอการเสด็จนิวัติคืนสู่ปารีสของพระเจ้าหลุยส์ที่ 18 ซึ่งในขณะนั้นประทับอยู่ ณ เลอ กาโต-ก็องเบรซิ โดยในระหว่างที่ได้ปกครองฝรั่งเศสอยู่เป็นเวลาสองสัปดาห์นั้น คณะรัฐบาลไม่เคยกราบบังคมทูลเชิญจักรพรรดินโปเลียนที่ 2 อย่างเป็นทางการหรือแต่งตั้งผู้สำเร็จราชการแทนเลย จนถึงวันที่ 7 กรกฎาคม เมื่อกองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรเคลื่อนพลเข้าสู่กรุงปารีส ความหวังของฝ่ายผู้สนับสนุนจักรพรรดินโปเลียนที่ 2 ในการเชิญพระองค์ขึ้นครองราชสมบัติจึงจบสิ้นลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งในขณะนั้นพระองค์ประทับอยู่ในออสเตรียกับพระราชมารดาและมีความเป็นไปได้ว่าทรงไม่รับรู้ว่าทรงได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิหลังการสละราชสมบัติของพระราชบิดา
เชื้อพระวงศ์โบนาปาร์ตพระองค์ต่อมาที่ได้ขึ้นเสวยราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ปกครองฝรั่งเศสก็คือเจ้าชายหลุยส์-นโปเลียน พระราชโอรสในพระเจ้าหลุยส์ที่ 1 แห่งฮอลล์แลนด์ พระอนุชาในจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ซึ่งเสด็จขึ้นครองราชย์ในปี พ.ศ. 2395 โดยใช้พระนามว่า จักรพรรดินโปเลียนที่ 3
พระชนม์ชีพในออสเตรีย
ตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิปี พ.ศ. 2357 เป็นต้นมา เจ้าชายนโปเลียนทรงใช้พระชนม์ชีพอยู่ในออสเตรียและทรงเป็นที่รู้จักในพระนาม ฟรันซ์ ซึ่งเป็นชื่อที่ทรงได้รับมาเป็นชื่อที่สอง ในปี พ.ศ. 2361 ทรงได้รับสถาปนาพระอิสริยยศเป็นดยุกแห่งไรช์สตัดท์ ซึ่งเป็นอิสริยยศที่ได้รับสืบทอดมาจากพระราชอัยกา (ตา) ฝ่ายพระราชมารดา จักรพรรดิฟรันซ์ที่ 1 เจ้าชายฟรันซ์ทรงได้รับการศึกษาจากครูผู้สอนจากกองทัพ จึงทำให้พระองค์มีความสนพระทัยด้านการทหารในเวลาต่อมา ทรงแต่งกายด้วยชุดทหารจำลองและเล่นแปรแถวกองทหารในบริเวณพระราชวัง จนกระทั่งเจริญพระชันษาได้ 8 ชันษา จึงเป็นที่ปรากฏแน่ชัดแก่คณาอาจารย์ของพระองค์ว่าจะทรงเลือกอาชีพทางด้านการทหาร
ต่อมาในปี พ.ศ. 2363 เจ้าชายฟรันซ์ทรงสำเร็จการศึกษาในชั้นประถมศึกษาและเริ่มเข้ารับการฝึกทางทหาร ทรงเรียนรู้ภาษาเยอรมัน ภาษาอิตาลี และคณิตศาสตร์ เช่น เกี่ยวกับการฝึกทางกายภาพขั้นสูง และในปี พ.ศ. 2366 ทรงเข้ารับราชการทหารอย่างเป็นทางการด้วยวัย 12 ชันษา หลังจากที่ทรงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนักเรียนายร้อยทหารแห่งกองทัพออสเตรีย ซึ่งจากคำบอกเล่าของคณาจารย์ผู้ฝึกสอน พระองค์ทรงมีบุคคลิกที่เฉลียวฉลาด จริงจัง และมุ่งมั่น นอกจากนี้ยังทรงมีรูปร่างที่สูงใหญ่ ด้วยวัย 17 พรรษา ทรงสูงเกือบ 6 ฟุต (180 เซนติเมตร)
ทั้งนี้พระกรณียกิจด้านการทหารของพระองค์สร้างความกังวลและความชื่นชมแก่บรรดาพระมหากษัตริย์ในทวีปยุโรปรวมถึงผู้นำของฝรั่งเศส และยังเปิดโอกาสความเป็นไปได้ว่าพระองค์จะนิวัติกลับสู่ฝรั่งเศสอีกครั้ง อย่างไรก็ตามทรงไม่ได้รับพระราชานุญาตให้ข้องเกี่ยวกับการเมือง แต่ทรงถูกเสนาบดีแห่งจักรวรรดิ (ตำแหน่งเทียบเท่านายกรัฐมนตรี) เคลเมินส์ ฟอน เมทเทอร์นิช ใช้พระองค์เป็นข้อต่อรองกับฝรั่งเศสเพื่อความได้เปรียบของออสเตรียแทน เมทเทอร์นิชเกรงกลัวว่าเชื้อพระวงศ์โบนาปาร์ตจะกลับมามีบทบาททางการเมืองอีกครั้ง ถึงขนาดที่ว่าไม่อนุญาตให้เจ้าชายฟรันซ์ได้มีโอกาสเปลี่ยนที่ประทับไปยังภูมิภาคที่มีสภาพอากาศอบอุ่นกว่าอย่างอิตาลีเลย นอกจากนี้พระอัยกาของพระองค์ยังทรงปฏิเสธคำกราบบังคมทูลขอพระราชานุญาตไปปฏิบัติกรณียกิจด้านการทหารเพื่อร่วมปราบปรามกลุ่มกบฏในอิตาลีอีกด้วย
จากการสิ้นพระชนม์ของพระบิดาบุญธรรม นายพลอดัม อัลแบร์ท ฟอน ไนพ์แพร์ก และการเปิดเผยข้อเท็จจริงที่ว่าพระมารดาของพระองค์มีพระบุตรก่อนการเสกสมรสซึ่งไม่ถูกต้องตามกฎหมายกับเจ้าชายอาดัม 2 พระองค์ เจ้าชายฟรันซ์จึงทรงห่างเหินกับพระมารดามากขึ้นเรื่อย ๆ และทรงรู้สึกว่าพระราชวงศ์ออสเตรียของพระองค์กำลังยื้อยุดพระองค์เอาไว้เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งทางการเมือง ทั้งนี้พระองค์ได้ตรัสกับพระสหาย นายพลอันทอน ฟอน พรอเคช-โอสเทิน ว่า "ถ้าหากพระนางโฌเซฟีนเป็นพระราชมารดาของเรา พระราชบิดาก็คงจะไม่ต้องถูกฝัง ณ เกาะเซนต์เฮเลนา และเราก็คงไม่ต้องประทับอยู่ที่เวียนนา พระราชมารดาของเรา (พระนางมารี หลุยส์) มีพระจริยวัตรที่เมตตาแต่อ่อนแอ พระนางทรงมิใช่พระชายาอันคู่ควรของพระราชบิดา"
ในปี พ.ศ. 2374 เจ้าชายฟรันซ์ทรงได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการกองพันทหารออสเตรีย แต่ก็ไม่เคยได้รับโอกาสให้ทรงบัญชาการอย่างจริงจังสักครั้ง ต่อมาในปี พ.ศ. 2375 พระองค์ประชวรด้วยอาการพระปัปผาสะ (ปอด) บวม ทำให้ต้องประทับอยู่บนแท่นพระบรรทมนานหลายเดือน จนในที่สุดเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2375 ด้วยพระพลานามัยที่ไม่สมบูรณ์แข็งแรง เจ้าชายฟรันซ์จึงสิ้นพระชนด้วยวัณโรค ณ พระราชวังเชินบรุนน์ในกรุงเวียนนา ทั้งนี้เนื่องจากพระองค์สิ้นพระชนม์โดยปราศจากรัชทายาท ส่งผลให้การอ้างสิทธิ์เหนือราชบัลลังก์ฝรั่งเศสสายโบนาปาร์ตตกเป็นของพระญาติคือ เจ้าชายหลุยส์-นโปเลียน โบนาปาร์ต ซึ่งภายหลังทรงสามารถฟื้นฟูจักรวรรดิฝรั่งเศสขึ้นมาได้สำเร็จ และครองราชสมบัติในฐานะ จักรพรรดินโปเลียนที่ 3 แห่งฝรั่งเศส
การย้ายที่ฝังพระศพ
ในวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2483 อดอล์ฟ ฮิตเลอร์สั่งให้เคลื่อนย้ายพระศพของนโปเลียนที่ 2 จากกรุงเวียนนามาฝั่งไว้ที่เลแซ็งวาลีด กรุงปารีส ส่วนพระศพของนโปเลียนที่ 1 ถูกนำกลับมายังฝรั่งเศสตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ. 2483 ในช่วงของราชาธิปไตยเดือนกรกฎาคม โดยที่พระศพของเจ้าชายถูกฝังไว้เคียงข้างกับพระราชบิดาเป็นช่วงเวลาสักระยะหนึ่ง แต่ต่อมาพระศพถูกย้ายลงไปยังโบสถ์ส่วนล่างแทน
ในขณะที่พระศพส่วนมากของเจ้าชายฟรันซ์ถูกเคลื่อนย้ายไปฝัง ณ ปารีส แต่ยังคงอวัยวะบางส่วนคือพระหทัย (หัวใจ) และพระอันตคุณ (ลำไส้เล็ก) ฝังไว้ที่เวียนนาตามธรรมเนียมของสมาชิกราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค โดยพระหทัยฝังไว้ในโกศที่ 42 ณ แฮร์ซกรุฟท์ (เยอรมัน: Herzgruft; ห้องชั้นใต้ถุนของโบสถ์ซึ่งใช้ฝังหัวใจ) ส่วนพระอันตคุณฝังไว้ในโกศที่ 76 ณ แฮร์โซกส์กรุฟท์ (เยอรมัน: Herzogsgruft; ห้องชั้นใต้ถุนของโบสถ์ซึ่งใช้ฝังพระศพของดยุก)
พระราชมรดก
- นโปเลียนที่ 2 ทรงเป็นที่รู้จักในพระนามอื่นว่า เล-กล็อง (ฝรั่งเศส: L'Aiglon; อินทรีย์หนุ่ม) ต่อมาเอ็ดม็งด์ โรสต็อง ได้ประพันธ์บทละครภายใต้ชื่อ เล-กล็อง อันโด่งดัง ซึ่งเป็นเรื่องราวเกียวกับพระชนม์ชีพของพระองค์
- นักประพันธ์เพลงชาวเซอร์เบีย เปตา สโตยาโนวิช ประพันธ์บทละครร้องขนาดสั้นชื่อว่า Napoleon II: Herzog von Reichstadt (นโปเลียนที่ 2: ดยุกแห่งไรช์ชตัดท์) ซึ่งออกแสดงครั้งแรกในกรุงเวียนนาช่วงคริสต์ทศวรรษ 1920
- อาร์ตู โอเน็กแก และฌัก อีแบร์ ร่วมกันสร้างสรรค์ละครอุปรากร (โอเปรา) เรื่อง เล-กล็อง ซึ่งออกแสดงครั้งแรกในปี พ.ศ. 2480
- นักดนตรีชาวสหราชอาณาจักร เพตชอปบอยส์ ใช้พระองค์เป็นสัญลักษณ์ของความอ้างว้างท่ามกลางความมั่งคั่ง (loneliness amid wealth) ในเพลง คิงออฟโรม ของอัลบัม เยส ในปี พ.ศ. 2552
- นักข่าวหนังสือพิมพ์ อองรี โรชฟอร์ท กล่าวติดตลกว่านโปลเยนที่ 2 คือผู้นำที่ดีที่สุดของฝรั่งเศส เนื่องจากไม่เคยครองราชย์อย่างแท้จริง พระองค์จึงไม่เคยนำมาซึ่งสงคราม ภาษี หรือการปกครองเยี่ยงทรราชย์
นอกจากนี้ยังทรงเป็นที่จดจำจากมิตรภาพของพระองค์กับเจ้าหญิงโซฟีแห่งบาวาเรีย เชื้อพระวงศ์วิตเตลส์บาค ผู้ปราดเปรื่อง ทะเยอทะยาน และหัวแข็ง ซึ่งเจ้าหญิงโซฟีทรงมีพระจริยวัตรที่ไม่ค่อยเหมือนกับพระสวามี อาร์ชดยุกฟรันซ์ คาร์ล นอกจากนี้ยังมีข่าวลือด้วยว่าทั้งเจ้าชายฟรันซ์และเจ้าหญิงโซฟีทรงมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวระหว่างกัน และพระโอรสองค์ที่สองของพระนาง จักรพรรดิแม็กซีมีเลียนที่ 1 แห่งเม็กซิโก (ประสูติ พ.ศ. 2375) คือผลจากความสัมพันธ์ดังกล่าว
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
แห่งฝรั่งเศส ชั้น กร็องเดเกลอ |
แห่งอิตาลี |
แห่งปาร์มา |
ตราอาร์มประจำพระองค์
- ตราอาร์มกษัตริย์แห่งโรม
- ตราอาร์มจักรพรรดิแห่งฝรั่งเศส (พระราชอิสริยยศแต่เพียงในนาม)
- ตราอาร์มดยุกแห่งไรช์สตัดท์
อ้างอิง
- "The King of Rome's birth". . Paris. 21 March 1811. สืบค้นเมื่อ 8 March 2012.
- "Napoleon II: King of Rome, French Emperor, Prince of Parma, Duke of Reichstadt". The Napoleon Foundation. napoleon.org. March 2011. สืบค้นเมื่อ 8 March 2012.
- . Musee-chateau-fontainebleau.fr. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-06-18. สืบค้นเมื่อ 2012-08-28.
- G. Lenotre, le Château de Rambouillet, six siècles d'histoire, ch. L'empereur, Éditions Denoël, Paris, 1984 (1930 reedition), pp. 126–133, .
- "(N.275.) Arrete par lequel la Commission du Gouvernement se constitue sous la présidence M. le Duc d'Otrante". Bulletin des lois de la République française (ภาษาฝรั่งเศส). 23 June 1815. p. 279.
- "(N. 1.) Proclamation du Roi". Bulletin des lois de la République française (ภาษาฝรั่งเศส). 25 June 1815. p. 1.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-18. สืบค้นเมื่อ 2015-12-19.
- Markham, Felix, Napoleon, p. 249
- Altman, Gail S. Fatal Links: The Curious Deaths of Beethoven and the Two Napoleons (Paperback). Anubian Press (September 1999).
- Poisson, Georges, (Robert L. Miller, translator), Hitler's Gift to France: The Return of the Ashes of Napoleon II, Enigma Books, (Synopsis & Review by Maria C. Bagshaw).
- Poisson, Georges, Le retour des cendres de l'Aiglon, Édition Nouveau Monde, Paris, 2006, French wags at the time countered Hitler's propaganda by saying "Hitler stole France's coal, but returned to them the ashes." (French)
- Driskel, Paul (1993). As Befits a Legend. Kent State University Press. p. 168
- Leo A. Loubere, Nineteenth-Century Europe: The Revolution of Life, Englewood Cliffs, New Jersey: Prentice Hall, p. 154.
- Palmer 1994, p. 3.
ก่อนหน้า | นโปเลียนที่ 2 | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 | จักรรพรรดิแห่งฝรั่งเศส (ไม่ได้เสวยราชย์) (4 เมษายน พ.ศ. 2357 - 6 เมษายน พ.ศ. 2357 และ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2358 - 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2358) | การฟื้นฟูราชวงศ์บูร์บงครั้งที่สอง ลำดับถัดไปโดย พระเจ้าหลุยส์ที่ 18 | ||
สูญเสียพระราชอิสริยยศจาก การฟื้นฟูราชวงศ์บูร์บงครั้งที่สอง | จักรรพรรดิแห่งฝรั่งเศส (พระราชอิสริยยศแต่เพียงในนาม) (7 กรกฎาคม พ.ศ. 2358 - 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2375) | จักรพรรดิโฌแซ็ฟที่ 1 อ้างสิทธิ์ในฐานะจักรพรรดิ | ||
รื้อฟื้นพระราชอิสริยยศ ลำดับก่อนหน้าโดย จักรพรรดิโยเซฟที่ 2 | กษัตริย์แห่งโรม (20 มีนาคม พ.ศ. 2354 – 4 เมษายน พ.ศ. 2357) | ล้มเลิกพระราชอิสริยยศ |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
nopeliyn frxngsw charl ochaesf obnapart frngess Napoleon Francois Charles Joseph Bonaparte epnphrarachoxrsxngkhediywkhxng ckrphrrdinopeliynthi 1 aehngfrngess thiprasutiaedxarchdchechsmari hluys aehngxxsetriyckrphrrdinopeliynthi 2kstriyaehngorm dyukaehngirchschtth ecachayaehngparmackrphrrdiaehngchawfrngess phiphath khrxngrachy khrngthi 14 6 emsayn 1814kxnhnanopeliynthi 1thdiphluysthi 18 inthanakstriy nopeliynthi 1 inthanackrphrrdi khrxngrachy khrngthi 222 mithunayn 7 krkdakhm 1815kxnhnanopeliynthi 1thdiphluysthi 18 inthanakstriy nopeliynthi 3 inthanackrphrrdi phusaercrachkardyukaehngoxtrnotpramukhaehngrachwngsobnapartrahwang22 mithunayn 1815 22 krkdakhm 1832kxnhnanopeliynthi 1thdipokhechthi 1phrarachsmphph20 minakhm kh s 1811 1811 03 20 phrarachwngtuyelxri paris ckrwrrdifrngessswrrkht22 krkdakhm kh s 1832 1832 07 22 21 pi phrarachwngechinbrun ewiynna ckrwrrdixxsetriyfngphrasphxxaetledaesngwalidphranametmnopeliyn frxngsw charl ochaesf obnapartrachwngsobnapartphrarachbidackrphrrdinopeliynthi 1phrarachmardamari hluys dchechsaehngparmasasnaormnkhathxliklayphraxphiithy tammatra 9 khxngrththrrmnuyaehngckrwrrdifrngess thrngmiphraystngaetekidepn phrarachkumar Prince Imperial aelakstriyaehngorm King of Rome enuxngcakckrphrrdinopeliynprakasihepnphrayskittimskdisahrbrchthayathphumisiththiodytrng txmaemuxphrarachbidalngcakxanacinpi 1814 phranangmari hluys phrarachmardaidrbtaaehnngdchechsphukhrxngparma ecachaynxycungidrbystammardaepn ecachayaehngparma xyangirktam ecachaynxythukechiyihprathbxyuinewiynna sungthinnphraxngkhthukeriykepnphasaeyxrmnwa frns dyukaehngirchschtth Franz Duke of Reichstadt emuxckrphrrdinopeliynthi 1 slarachsmbtiinpi 1814 thrngesnxnamphrarachoxrskhunepnckrphrrdi xyangirktam fayshsmphnthmitrphuchnasngkhramnopeliynimyxmrbkarsubrachbllngkdngklaw nopeliynthi 1 cungthukbngkhbihslarachsmbtiodyprascakenguxnikhinxikhlaywntxma sungaemwackrphrrdinopeliynthi 2 imidthrngpkkhrxngfrngessinthangptibtiaetxyangid aetkthuxwathrngepnckrphrrdiaehngfrngessinnaminpi 1815 hlngcaksinkarpkkhrxngkhxngphrarachbida nopeliyn kstriyaehngorm dyukaehngirchschtth esdcswrrkhtinpi 1832 thikrungewiynna phraxngkhidrbsmyyaphayhlngkarswrrkhtwa xinthriyhnum L Aiglon txmainpi 1852 emuxphrayatikhxngphraxngkhnamwa hluys nopeliyn obnapart rachaphieskepnckrphrrdiaelasthapnackrwrrdifrngessthisxng thrngeluxkichphranamaphiithywackrphrrdinopeliynthi 3 ephuxepnkaryxmrbsphaphkarthrngrachykhxngnopeliynthi 2phrarachprawtiprasuti ecachaynopeliyn kstriyaehngorm emuxthrngphraeyaw wadodypiaeyr opl pruodng inchwngewla 20 thung 21 nalikakhxngkhunwnthi 19 minakhm 1811 ckrphrrdinimari hluys rusukecbphrakhrrph nangsnxngphraoxsthcungaecngihbrrdabukhkhlsakhythrab brrdaecanayaelakhunnangchnsung rthmntri smuhphrarachwng tlxdcnkharachbriphartangphaknmarwmtwkn n phrarachwngtuyelxri txmainechawnthi 20 minakhm ewla 9 20 nalika thrngkhlxdtharkephschaynahnk 4 1 kiolkrm aelaswnsung 51 esntiemtr thrngidrbkarecim phithibphtismaaebbyxtamkhnbthrrmeniymfrngess odyochaesf efsch aelamiphranametmwa nopeliyn frxngsw charl ochaesf txmathrngekhaphithibphtisma sungmitnaebbmacakphithibphtismakhxngecachayhluys odaefngaehngfrngess inwnthi 9 mithunayn n mhawiharnxthr damaehngparis odykharl filliph ecachayaehngchwarthesinaebrkh rachthutxxsetriypracafrngessinkhnann idbnthukiwwa phrarachphithibphtismangdngamaelanaprathbic miesiyngsrresriydngkukkxngemuxphrackrphrrdioxbxumphrarachbutrmacakxxmphraphahu aekhn khxngphrarachmardaphuthrngskdi aelachuphraxngkhkhunsxngkhrngephuxephyihsatharnchnidchunchm dngnncungepnkarphidthrrmeniympraephni enuxngcakthrngkratha n phrarachphithirachaphieskkhxngphraxngkh aelaehnidchdecnwaphrackrphrrdithrngrusukphungphxicxyangmakinhwngewlaxnekhrngkhrumni sngektidcakphrarachxakpkiriyaaelasiphraphktr txmathrngxyuinkhwamduaelkhxnghluys charlxt frxngsw elx etliey edx mngetskiyu thayathkhxngfrxngsw miechl elx etliey marki edx olwws phuekhydarngtaaehnngkhahlwngaehngrachoxrsrachthidafrngess Governess of the Children of France aeladwykhwamepnthirkikhraelachaychlad khahlwngphuduaelphraxngkhcungidrwbrwmchudhnngsuxcanwnmakiwsahrbphrarachoxrs ephuxichinkarpuphunthanthangdansasna prchya aelakarklaohm siththisubrachsmbti enuxngcakepnphrarachoxrsxngkhotthithuktxngtamkdhmaykhxngckrphrrdinopeliynthi 1 rththrrmnuycungrbrxngphrarachsthanakhxngphraxngkhepnecachayaexngepriyalaelarchthayathphumisiththiodytrng nxkcaknickrphrrdiyngphrarachthanphraxisriyysaekphraxngkhepnkstriyaehngormxikdwy thungkrannktam ckrwrrdifrngessthihnungthiphraxngkhepnrchthayathklmslaylnginxiksampithdma ckrphrrdinopeliynthi 1 thrngphbpakbphrachaya ckrphrrdinimari hluys aelaphrarachoxrskhxngphraxngkhepnkhrngsudthayemuxwnthi 24 mkrakhm ph s 2357 aelatxmainwnthi 4 emsayn ph s 2357 kthrngslarachsmbtiihaekphrarachoxrswy 3 chnsa phayhlng aelayuththkarthiparis ecachayphraxngkhnxycungidkhuneswyrachydwyphranam nopeliynthi 2 xyangirktaminwnthi 6 emsayn ph s 2357 ckrphrrdinopeliynthi 1 slarachsmbtiodykhrbthwnsmburn rwmthngslaphrarachsiththikhxngphraxngkhaelarchthayathehnuxrachbllngkfrngessdwy thngnisnthisyyafngaetnoblpi ph s 2357 yngmxbsiththiinkarichphraxisriyys ecachayaehngparma plaesntixa aelakstlla aeknopeliynthi 2 aelaphraxisriyys dchechsaehngparma plaesntixa aelakstlla aekphrarachmardakhxngphraxngkh khrxngrachy phrasathislksnkhxngecachaynopeliyn frns dyukaehngirchchtdth inwnthi 29 minakhm ph s 2357 phranangmari hluys esdc xxkcakphrarachwngtuyelxriphrxmkbphrarachoxrs odythihmayaerkkkhuxphrarachwngrxngbueyt aetdwykhwamthithrngklwkxngthharkhxngfaystruthikalngkhubkhlanekhama cungesdc txipyngphrarachwngblw txmainwnthi 13 emsayn phranangaelaphrarachoxrscungesdc klbipyngphrarachwngrxngbueyt aelathrngphbkbphrarachbida ckrphrrdifrnsthi 1 aehngxxsetriy phrxmdwyckrphrrdixaelkhsndrthi 1 aehngrsesiy caknninwnthi 23 emsayn phranangaelaphrarachoxrscungesdc xxkcakrxngbueytaelafrngessipphankliphyxyuthixxsetriyepnkarthawr phayitkarxarkkhakhxngkxngthharxxsetriy odymimioxkasidesdc klbmaxikelytlxdchwngphrachnmchiphthiehlux inpi ph s 2358 hlngcakthithrngphayaephinyuththkarthiwxetxrlu ckrphrrdinopeliynthi 1 slarachsmbtiaekphrarachoxrswy 4 chnsaepnkhrngthisxng phusungphraxngkhmiidthrngphbpatngaetkaresdcliphyipekaaexlba aelahnungwnhlngcakthislarachsmbti khnarthbalsungprakxbipdwysmachikhakhncungidekhayudkarpkkhrxngkhxngfrngessexaiw aelaefarxkaresdcniwtikhunsupariskhxngphraecahluysthi 18 sunginkhnannprathbxyu n elx kaot kxngebrsi odyinrahwangthiidpkkhrxngfrngessxyuepnewlasxngspdahnn khnarthbalimekhykrabbngkhmthulechiyckrphrrdinopeliynthi 2 xyangepnthangkarhruxaetngtngphusaercrachkaraethnely cnthungwnthi 7 krkdakhm emuxkxngkalngfaysmphnthmitrekhluxnphlekhasukrungparis khwamhwngkhxngfayphusnbsnunckrphrrdinopeliynthi 2 inkarechiyphraxngkhkhunkhrxngrachsmbticungcbsinlngxyangrwderw sunginkhnannphraxngkhprathbxyuinxxsetriykbphrarachmardaaelamikhwamepnipidwathrngimrbruwathrngidkhunepnckrphrrdihlngkarslarachsmbtikhxngphrarachbida echuxphrawngsobnapartphraxngkhtxmathiidkhuneswyrachyepnphramhakstriypkkhrxngfrngesskkhuxecachayhluys nopeliyn phrarachoxrsinphraecahluysthi 1 aehnghxllaelnd phraxnuchainckrphrrdinopeliynthi 1 sungesdckhunkhrxngrachyinpi ph s 2395 odyichphranamwa ckrphrrdinopeliynthi 3 phrachnmchiphinxxsetriy tngaetvduibimphlipi ph s 2357 epntnma ecachaynopeliynthrngichphrachnmchiphxyuinxxsetriyaelathrngepnthiruckinphranam frns sungepnchuxthithrngidrbmaepnchuxthisxng inpi ph s 2361 thrngidrbsthapnaphraxisriyysepndyukaehngirchstdth sungepnxisriyysthiidrbsubthxdmacakphrarachxyka ta fayphrarachmarda ckrphrrdifrnsthi 1 ecachayfrnsthrngidrbkarsuksacakkhruphusxncakkxngthph cungthaihphraxngkhmikhwamsnphrathydankarthharinewlatxma thrngaetngkaydwychudthharcalxngaelaelnaepraethwkxngthharinbriewnphrarachwng cnkrathngecriyphrachnsaid 8 chnsa cungepnthipraktaenchdaekkhnaxacarykhxngphraxngkhwacathrngeluxkxachiphthangdankarthhar txmainpi ph s 2363 ecachayfrnsthrngsaerckarsuksainchnprathmsuksaaelaerimekharbkarfukthangthhar thrngeriynruphasaeyxrmn phasaxitali aelakhnitsastr echn ekiywkbkarfukthangkayphaphkhnsung aelainpi ph s 2366 thrngekharbrachkarthharxyangepnthangkardwywy 12 chnsa hlngcakthithrngidrbkaraetngtngihepnnkeriynayrxythharaehngkxngthphxxsetriy sungcakkhabxkelakhxngkhnacaryphufuksxn phraxngkhthrngmibukhkhlikthiechliywchlad cringcng aelamungmn nxkcakniyngthrngmiruprangthisungihy dwywy 17 phrrsa thrngsungekuxb 6 fut 180 esntiemtr thngniphrakrniykicdankarthharkhxngphraxngkhsrangkhwamkngwlaelakhwamchunchmaekbrrdaphramhakstriyinthwipyuorprwmthungphunakhxngfrngess aelayngepidoxkaskhwamepnipidwaphraxngkhcaniwtiklbsufrngessxikkhrng xyangirktamthrngimidrbphrarachanuyatihkhxngekiywkbkaremuxng aetthrngthukesnabdiaehngckrwrrdi taaehnngethiybethanaykrthmntri ekhlemins fxn emthethxrnich ichphraxngkhepnkhxtxrxngkbfrngessephuxkhwamidepriybkhxngxxsetriyaethn emthethxrnichekrngklwwaechuxphrawngsobnapartcaklbmamibthbaththangkaremuxngxikkhrng thungkhnadthiwaimxnuyatihecachayfrnsidmioxkasepliynthiprathbipyngphumiphakhthimisphaphxakasxbxunkwaxyangxitaliely nxkcakniphraxykakhxngphraxngkhyngthrngptiesthkhakrabbngkhmthulkhxphrarachanuyatipptibtikrniykicdankarthharephuxrwmprabpramklumkbtinxitalixikdwy cakkarsinphrachnmkhxngphrabidabuythrrm nayphlxdm xlaebrth fxn inphaephrk aelakarepidephykhxethccringthiwaphramardakhxngphraxngkhmiphrabutrkxnkaresksmrssungimthuktxngtamkdhmaykbecachayxadm 2 phraxngkh ecachayfrnscungthrnghangehinkbphramardamakkhuneruxy aelathrngrusukwaphrarachwngsxxsetriykhxngphraxngkhkalngyuxyudphraxngkhexaiwephuxhlikeliyngkhwamkhdaeyngthangkaremuxng thngniphraxngkhidtrskbphrashay nayphlxnthxn fxn phrxekhch oxsethin wa thahakphranangochesfinepnphrarachmardakhxngera phrarachbidakkhngcaimtxngthukfng n ekaaesntehelna aelaerakkhngimtxngprathbxyuthiewiynna phrarachmardakhxngera phranangmari hluys miphracriywtrthiemttaaetxxnaex phranangthrngmiichphrachayaxnkhukhwrkhxngphrarachbida phrasathislksnemuxsinphrachnmbnaethnphrabrrthm odyfrns saewxr chetxebxrhlumphrasphkhxngnopeliynthi 2 n aesngwalid krungparis inpi ph s 2374 ecachayfrnsthrngidrbaetngtngepnphubychakarkxngphnthharxxsetriy aetkimekhyidrboxkasihthrngbychakarxyangcringcngskkhrng txmainpi ph s 2375 phraxngkhprachwrdwyxakarphrappphasa pxd bwm thaihtxngprathbxyubnaethnphrabrrthmnanhlayeduxn cninthisudemuxwnthi 22 krkdakhm ph s 2375 dwyphraphlanamythiimsmburnaekhngaerng ecachayfrnscungsinphrachndwywnorkh n phrarachwngechinbrunninkrungewiynna thngnienuxngcakphraxngkhsinphrachnmodyprascakrchthayath sngphlihkarxangsiththiehnuxrachbllngkfrngesssayobnaparttkepnkhxngphrayatikhux ecachayhluys nopeliyn obnapart sungphayhlngthrngsamarthfunfuckrwrrdifrngesskhunmaidsaerc aelakhrxngrachsmbtiinthana ckrphrrdinopeliynthi 3 aehngfrngesskaryaythifngphrasphinwnthi 15 thnwakhm ph s 2483 xdxlf hitelxrsngihekhluxnyayphrasphkhxngnopeliynthi 2 cakkrungewiynnamafngiwthielaesngwalid krungparis swnphrasphkhxngnopeliynthi 1 thuknaklbmayngfrngesstngaeteduxnthnwakhm ph s 2483 inchwngkhxngrachathipityeduxnkrkdakhm odythiphrasphkhxngecachaythukfngiwekhiyngkhangkbphrarachbidaepnchwngewlaskrayahnung aettxmaphrasphthukyaylngipyngobsthswnlangaethn inkhnathiphrasphswnmakkhxngecachayfrnsthukekhluxnyayipfng n paris aetyngkhngxwywabangswnkhuxphrahthy hwic aelaphraxntkhun laiselk fngiwthiewiynnatamthrrmeniymkhxngsmachikrachwngshaphsbwrkh odyphrahthyfngiwinoksthi 42 n aehrskrufth eyxrmn Herzgruft hxngchnitthunkhxngobsthsungichfnghwic swnphraxntkhunfngiwinoksthi 76 n aehroskskrufth eyxrmn Herzogsgruft hxngchnitthunkhxngobsthsungichfngphrasphkhxngdyuk phrarachmrdknopeliynthi 2 thrngepnthiruckinphranamxunwa el klxng frngess L Aiglon xinthriyhnum txmaexdmngd orstxng idpraphnthbthlakhrphayitchux el klxng xnodngdng sungepneruxngrawekiywkbphrachnmchiphkhxngphraxngkh nkpraphnthephlngchawesxrebiy epta sotyaonwich praphnthbthlakhrrxngkhnadsnchuxwa Napoleon II Herzog von Reichstadt nopeliynthi 2 dyukaehngirchchtdth sungxxkaesdngkhrngaerkinkrungewiynnachwngkhristthswrrs 1920 xartu oxenkaek aelachk xiaebr rwmknsrangsrrkhlakhrxuprakr oxepra eruxng el klxng sungxxkaesdngkhrngaerkinpi ph s 2480 nkdntrichawshrachxanackr ephtchxpbxys ichphraxngkhepnsylksnkhxngkhwamxangwangthamklangkhwammngkhng loneliness amid wealth inephlng khingxxform khxngxlbm eys inpi ph s 2552 nkkhawhnngsuxphimph xxngri orchfxrth klawtidtlkwanopleynthi 2 khuxphunathidithisudkhxngfrngess enuxngcakimekhykhrxngrachyxyangaethcring phraxngkhcungimekhynamasungsngkhram phasi hruxkarpkkhrxngeyiyngthrrachy nxkcakniyngthrngepnthicdcacakmitrphaphkhxngphraxngkhkbecahyingosfiaehngbawaeriy echuxphrawngswitetlsbakh phupradepruxng thaeyxthayan aelahwaekhng sungecahyingosfithrngmiphracriywtrthiimkhxyehmuxnkbphraswami xarchdyukfrns kharl nxkcakniyngmikhawluxdwywathngecachayfrnsaelaecahyingosfithrngmikhwamsmphnthechingchusawrahwangkn aelaphraoxrsxngkhthisxngkhxngphranang ckrphrrdiaemksimieliynthi 1 aehngemksiok prasuti ph s 2375 khuxphlcakkhwamsmphnthdngklawekhruxngrachxisriyaphrnaehngfrngess chn krxngedeklxaehngxitaliaehngparmatraxarmpracaphraxngkhtraxarmkstriyaehngorm traxarmckrphrrdiaehngfrngess phrarachxisriyysaetephiynginnam traxarmdyukaehngirchstdthxangxing The King of Rome s birth Paris 21 March 1811 subkhnemux 8 March 2012 Napoleon II King of Rome French Emperor Prince of Parma Duke of Reichstadt The Napoleon Foundation napoleon org March 2011 subkhnemux 8 March 2012 Musee chateau fontainebleau fr khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 06 18 subkhnemux 2012 08 28 G Lenotre le Chateau de Rambouillet six siecles d histoire ch L empereur Editions Denoel Paris 1984 1930 reedition pp 126 133 ISBN 2 207 23023 6 N 275 Arrete par lequel la Commission du Gouvernement se constitue sous la presidence M le Duc d Otrante Bulletin des lois de la Republique francaise phasafrngess 23 June 1815 p 279 N 1 Proclamation du Roi Bulletin des lois de la Republique francaise phasafrngess 25 June 1815 p 1 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2015 09 18 subkhnemux 2015 12 19 Markham Felix Napoleon p 249 Altman Gail S Fatal Links The Curious Deaths of Beethoven and the Two Napoleons Paperback Anubian Press September 1999 ISBN 1 888071 02 8 Poisson Georges Robert L Miller translator Hitler s Gift to France The Return of the Ashes of Napoleon II Enigma Books ISBN 978 1 929631 67 4 Synopsis amp Review by Maria C Bagshaw Poisson Georges Le retour des cendres de l Aiglon Edition Nouveau Monde Paris 2006 ISBN 2847361847 French wags at the time countered Hitler s propaganda by saying Hitler stole France s coal but returned to them the ashes French Driskel Paul 1993 As Befits a Legend Kent State University Press p 168 ISBN 0 87338 484 9 Leo A Loubere Nineteenth Century Europe The Revolution of Life Englewood Cliffs New Jersey Prentice Hall p 154 Palmer 1994 p 3 sfn error no target CITEREFPalmer1994 kxnhna nopeliynthi 2 thdipckrphrrdinopeliynthi 1 ckrrphrrdiaehngfrngess imideswyrachy 4 emsayn ph s 2357 6 emsayn ph s 2357 aela 22 mithunayn ph s 2358 7 krkdakhm ph s 2358 karfunfurachwngsburbngkhrngthisxng ladbthdipody phraecahluysthi 18suyesiyphrarachxisriyyscak karfunfurachwngsburbngkhrngthisxng ckrrphrrdiaehngfrngess phrarachxisriyysaetephiynginnam 7 krkdakhm ph s 2358 22 krkdakhm ph s 2375 ckrphrrdiochaesfthi 1 xangsiththiinthanackrphrrdiruxfunphrarachxisriyys ladbkxnhnaody ckrphrrdioyesfthi 2 kstriyaehngorm 20 minakhm ph s 2354 4 emsayn ph s 2357 lmelikphrarachxisriyys