คริกเกต เป็น ที่เล่นระหว่างสองทีมของผู้เล่นสิบเอ็ดคนในสนามที่ศูนย์กลางมีความยาว 22 หลา (20 เมตร) กับที่ปลายแต่ละด้านของพิทช์ แต่ละวิคเกตประกอบด้วยลูกเกลียวไม้เรียกว่าสองลูก วางอยู่บนแท่งไม้สามแท่งที่เรียกว่า การแข่งขันคริกเกตเกิดขึ้นเมื่อโยนจากด้านหนึ่งของพิทช์ไปหาที่อยู่อีกด้านของพิทช์ โดยผู้ตีนั้นจะสามารถทำรันได้ด้วยการตีลูกและวิ่งไปยังอีกด้านของพิทช์ โดยการวิ่งข้ามฝั่งหนึ่งครั้งจะเท่ากับหนึ่งรัน หากผู้ตีสามารถตีลูกไปจนถึงเส้นขอบสนามได้ ทีมของผู้ตีจะได้สี่รัน และหากหากผู้ตีสามารถตีลูกไปข้ามออกเส้นขอบสนามได้ ทีมของผู้ตีจะได้หกรัน
สมาพันธ์สูงสุด | |
---|---|
เล่นครั้งแรก | ภาคตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ ในช่วงกลางศตวรรษที่ 16 |
ลักษณะเฉพาะ | |
การปะทะ | ไม่มี |
ผู้เล่นในทีม | ฝั่งละ 11 คน (สามารถใช้ในบางสถานการณ์) |
แข่งรวมชายหญิง | ไม่มี |
หมวดหมู่ | กีฬาประเภททีม, |
อุปกรณ์ | , , (, ), |
สถานที่ | |
อภิธาน | |
จัดแข่งขัน | |
ประเทศ ภูมิภาค | ทั่วโลก (เป็นที่นิยมในเครือจักรภพ โยเฉพาะในเอเชียใต้) |
โอลิมปิก | (เฉพาะในโอลิมปิกฤดูร้อน 1900) |
ในขณะที่ทีมของผู้โยนจะต้องทำให้ผู้ตีถูก (นิยมเรียกว่าการทำให้ผู้ตีเอาต์) โดยการทำให้ผู้ตีเอาต์นั้นอาจเป็นการโยนลูกเพื่อทำลายวิคเก็ตให้เบลตกลงมาจากสตัมป์ (เรียกว่า) การรับลูกคริกเกตก่อนลูกตกถึงพื้น (เรียกว่า) การทำลายวิคเก็ตก่อนที่ผู้เล่นฝั่งผู้ตีจะวิ่งไปถึงอีกฝั่งของพิตช์ (เรียกว่า) การที่รับลูกวิคเกตที่ผู้ตีตีไม่โดน แล้วทำลายวิคเก็ตก่อนที่ผู้เล่นผู้ตีจะกลับไปอยู่ในแดนของผู้ตีได้ทัน (เรียกว่า) หรือการทำโยนลูกให้โดนผู้ตีโดยที่ไม่โดนไม้คริกเกต โดยวิถีของลูกจะไปชนวิกเก็ต (เรียกว่า)
หากผู้โยนโยนบอลครบหกครั้ง จะถือว่าผู้โยนโยนครบและต้องสลับให้ผู้อื่นเป็นผู้โยนแทน เมื่อผู้เล่นเอาต์ถึงสิบจากสิบเอ็ดคน หรือทีมของผู้โยนโยนลูกจนครบโอเวอร์ที่จำกัดไว้ จะถือว่าจะสิ้นสุดลงหนึ่งอินนิงส์ และทีมจะสลับบทบาทกัน คริกเกตถูกตัดสินโดยผู้ตัดสินสองคน โดยได้รับความช่วยเหลือจากและผู้ตัดสินแมทช์ในการแข่งขันระดับนานาชาติ
คริกเกตเป็นกีฬาที่มีหลายรูปแบบ โดยรูปแบบของคริกเกตที่เป็นนิยมนั้นมีตั้งแต่ [Twenty20; นิยมเรียกว่าที20 (T20)] ซึ่งแต่ละทีมจะมีโอกาสตีฝั่งละ 20 โอเวอร์ และเกมโดยทั่วไปจะกินเวลาสามชั่วโมง [One Day International; นิยมเรียกว่าโอดีไอ (ODI)] ที่แต่ละทีมจะดีฝั่งละ 50 โอเวอร์ และเกมโดยทั่วไปจะกินเวลาหกชั่วโมง และ (Test Cricket) ซึ่งแต่ละทีมจะตีฝั่งละสองอินนิงส์ และแต่ละนนิงส์จะยาวกี่อินนิงส์ก็ได้ โดยคริกเกตเทสต์จะมีเวลาเล่นนานถึงห้าวัน ตามธรรมเนียมแล้วนักคริกเกตเฟิสต์คลาส (ซึ่งรวมถึงนักคริกเกตเทสต์) จะเล่นในชุดสีขาวล้วน แต่ใน (ซึ่งรวมที20 และโอดีไอ) นักกีฬาจะสวมชุดสีตามสโมสรหรือสีประจำทีม นอกเหนือจากชุดอุปกรณ์พื้นฐานแล้ว ผู้เล่นบางคนสวมอุปกรณ์ ป้องกันเพื่อป้องกันการบาดเจ็บที่เกิดจากลูกคริกเกต ซึ่งเป็นทรงกลมแข็งที่ทำจากหนังอัด โดยมีตะเข็บเย็บที่ยกขึ้นเล็กน้อยล้อมรอบแกนไม้ก๊อกที่มีชั้นเชือกรัดแน่นหลายชั้น
วิธีการชนะในคริกเกตนั้นมีสองรูปแบบ โดยทีมที่ตีก่อนจะต้องป้องกันไม่ให้ทีมคู่แข่งทำรันให้ทันทีมของตน ไม่ว่าจะเป็นการทำให้ทีมตรงข้ามเอาต์ทั้งทีม หรือการจำกัดไม่ให้ทีมตรงข้ามทำรันไม่ทันเท่ากับที่ทีมตนทำได้ในจำนวนโอเวอร์ที่จำกัดไว้ ในขณะที่ทีมที่ตีทีหลังจะชนะได้หากสามารถทำรันได้ทันก่อนที่จะถูกทำให้เอาต์ทั้งทีม หรือก่อนหมดจำนวนลูกที่จะตีได้
มีการอ้างอิงว่าคริกเกตมีการเล่นครั้งแรกที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษในช่วงกลางศตวรรษที่ 16 และได้แพร่กระจายไปทั่วโลกพร้อมกับการขยายตัวของจักรวรรดิอังกฤษ โดยมีการแข่งขันระดับนานาชาติครั้งแรกในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19 หน่วยงานกำกับดูแลของเกมคือสภาคริกเกตนานาชาติ หรือไอซีซี (International Cricket Council; ICC) ซึ่งมีสมาชิกมากกว่า 100 สมาคม โดยสิบสองสมาคมนั้นมีสถานะเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบ ที่จะสามารถแข่งคริกเกตเทสต์ได้ กฎการแข่งขันของคริกเกต (Laws of Cricket) ได้รับการดูแลโดย (Marylebone Cricket Club; MCC) ใน ลอนดอน คริกเกตเป็นที่นิยมใน เอเชียใต้ ออสตราเลเซีย สหราชอาณาจักร แอฟริกาตอนใต้ และ หมู่เกาะเวสต์อินดีส มีการแข่งขันคริกเกตหญิงมาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 ทีมชาติที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในการเล่นโอดีไอคือ ทีมชาติออสเตรเลีย ซึ่งเป็นผู้ชนะในการแข่งขันโอดีไอของไอซีซีเจ็ดรายการ รวมถึงคริกเกตโลกถึงห้าสมัย โดยทีมชาติออสเตรเลียยังเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในคริกเกตเทสต์อีกด้วย ทีมที่ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาตินั้นประกอบไปด้วย และ
ประวัติ
ต้นกำเนิด
คริกเกตเป็นหนึ่งในหลาย ๆ เกมใน "คลับบอล (club ball)" ที่เกี่ยวข้องกับการตีลูกเช่นเดียวกับเบสบอล (ซึ่งมี มากกับคริกเกต ) กอล์ฟ ฮ็อกกี้ เทนนิส สควอช แบดมินตันและเทเบิลเทนนิส โดยความแตกต่างระหว่างคริกเกตและอื่น ๆ นั้นคือการติดตั้งวิคเกตอยู่ด้านปลายทั้งสองของพิทช์ที่ผู้ตีต้องป้องกัน นักประวัติศาสตร์คริกเกตแฮร์รี อัลแธมได้ระบุไว้ถึง "คลับบอล" สามกลุ่ม: "กลุ่มฮ็อกกี้" ซึ่งลูกบอลถูกส่งไปมาระหว่างสองเป้าหมาย (ประตู); "กลุ่มกอล์ฟ" ซึ่งลูกบอลถูกส่งไปยังเป้าหมายที่ไม่มีการป้องกัน (หลุม) และ "กลุ่มคริกเกต" ซึ่ง "ลูกบอลมุ่งเป้าไปที่เครื่องหมาย (วิคเกต) และถูกส่งออกไป"
เป็นที่เชื่อกันโดยทั่วไปว่าคริกเกตมีต้นกำเนิดมาจากการละเล่นเด็ก ในมณฑลทางตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษในช่วง แม้ว่าจะมีการอ้างถึงการเล่นคริกเกตมาในช่วงก่อนหน้านี้ หลักฐานถึงการเล่นคริกเกตชัดเจนที่สุดมาจากคดีในศาลในกิลด์ฟอร์ด ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1597 (แบบเก่า) ซึ่งเทียบเท่าเท่ากับมกราคม ค.ศ. 1598 ในปฏิทินสมัยใหม่ โดยคดีนั้นเกี่ยวข้องกับการถือครองกรรมสิทธิ์ในที่ดินแปลงหนึ่ง โดยศาลได้ยินคำให้การของเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ อายุ 59 ปี ชื่อว่า จอห์น เดอร์ริกผู้ให้การเป็นพยานว่า:
ในสมัยที่ยังเป็นผู้ศึกษาในโรงเรียนเอกชนกิลด์ฟอร์ด เขาและเพื่อนของเขาหลายคน ได้มีการวิ่งเล่นที่(สนาม)คริกเกตและสถานที่อื่น ๆ
เมื่อพิจารณาจากอายุของเดอร์ริกแล้ว เขาได้ศึกษาที่โรงเรียนเมื่อราว ๆ ครึ่งศตวรรษก่อน จึงเป็นที่แน่นอนว่ามีการเล่นคริกเกตในช่วงประมาณปี 1550 โดยกลุ่มเด็กชายในเซอร์รีย์ สมมติฐานที่มองว่าคริกเกตน้นเดิมเป็นเกมสำหรับเด็กมาจากพจนานุกรมภาษาอังกฤษ-ฝรั่งเศส 1611 ของแรนเดิล คอตเกรฟว่า "ไม้คฑา (crosse)" คือ "ไม้ที่เด็กผู้ชายใช้เล่นคริกเกต" และคำกริยา " crosser " หมายถึง " ไปเล่นคริกเกต"
อีกแหล่งที่มาที่เป็นไปได้สำหรับชื่อกีฬานี้คือคำภาษาอังกฤษโบราณ "คริซ (cryce)" หรือ "คริก (cric) " ซึ่งหมายถึงไม้ค้ำยันหรือไม้เท้า ในพจนานุกรม ของซามูเอล จอห์นสัน เขาเขียนว่า "คริกเกต" มาจาก "คริซ (cryce), แซ็กซัน, แท่งไม้" ใน ภาษาฝรั่งเศสโบราณ คำว่า " คริเกต์ (criquet) " ดูเหมือนจะหมายถึงไม้กระบองหรือไม้เท้า และหากพิจารณาจากความสัมพันธ์ทางการค้าในยุคกลางที่แน่นแฟ้นระหว่างมณฑลทางตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษและเคาน์ตีแห่งแฟลนเดอร์ส โดยรายหลังนั้นอยู่ภายใต้การปกครองของของดัชชีแห่งเบอร์กันดี ชื่อนี้อาจได้มาจากภาษาดัตช์ตอนกลาง (ที่ใช้อยู่ใน แฟลนเดอร์ส ในขณะนั้น) คำว่า "คริก (krick)" ( - e ) หมายถึงไม้เท้า (ไม้หักมุม) อีกแหล่งที่มาที่เป็นไปได้คือคำภาษาดัตช์กลาง "คริกสโตล (krickstoel)" ซึ่งหมายถึงเก้าอี้เตี้ยตัวยาวที่ใช้สำหรับคุกเข่าในโบสถ์ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับ เตี้ยยาวที่มีสองตัววางขนานกันที่ใช้ในคริกเกตตอนต้น ไฮเนอร์ กิลไมส์เตอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษายุโรปของมหาวิทยาลัยบอนน์ กล่าวว่า "คริกเกต" มาจากวลีภาษาดัตช์กลางที่ใช้สำหรับฮอกกี้, met de (krik ket)sen (เช่น "ใช้ร่วมกับแท่งไม้") กิลไมส์เตอร์ได้สันนิจฐานว่าคริกเกตอาจเป็นกีฬาที่มีรากฐานมาจากเฟลมิช ไม่เพียงแค่ชื่อของกีฬาเพียงอย่างเดียว
การเติบโตของคริกเกตสมัครเล่นและคริกเกตอาชีพในอังกฤษ
แม้ว่าเป้าหมายหลักของเกมนี้คือการทำคะแนนการมากที่สุด แต่รูปแบบแรกของคริกเกตนั้นแตกต่างจากเกมสมัยใหม่ในแง่มุมทางเทคนิคที่สำคัญบางประการ โดยคริกเกตที่เล่นในอเมริกาเหนือที่รู้จักกันในชื่อวิคเกตยังคงรักษาลักษณะเหล่านี้ไว้หลายประการ โดยจะถูกผู้โยน ตามพิทช์ไปสู่ที่ถือที่มีรูปร่างคล้ายไม้ฮอกกี้ โดยผู้ตีจะต้องปกป้องวิกเกตที่ประกอบด้วยสตัมป์ขนาดเล็กสองแท่ง โดยรันที่ผู้ตีทำได้จะถูกเรียกว่านอตช์ (notches) เพราะจะบันทึกรันไว้โดยการเขียนขีดเล็ก ๆ
ในปี ค.ศ. 1611 ซึ่งเป็นปีที่พจนานุกรมของคอตเกรฟได้รับการตีพิมพ์ บันทึกของศาลสงฆ์ ที่ซิดเลแชมในมณฑลซัสเซ็กซ์ได้ระบุว่านักบวชสองคนคชื่อบาร์โธโลมิว ไวแอตต์และริชาร์ด แลทเทอร์ ได้ขาดจากการไปโบสถ์ในวันอีสเตอร์เพราะพวกเขากำลังเล่นคริกเกต พวกเขาถูกปรับ 12 เพนนีและถูกสั่งให้ ทำการปลงอาบัติ บันทึกนี้คือการกล่าวถึงครั้งแรกของการมีส่วนร่วมของผู้ใหญ่ในกีฬาคริกเกต และศตวรรษที่ 17 คือเวลาเดียวกันกับที่มีการจัดการแข่งขันระหว่างตำบลหรือหมู่บ้านที่ที่เก่าแก่ที่สุดที่หมู่บ้านเชฟนีย์ มณฑลเคนท์ ในปี ค.ศ. 1624 ผู้เล่นชื่อแจสเปอร์ วินอลเสียชีวิตหลังจากที่เขาถูกลูกคริกเกตกระแทกที่บริเวณศีรษะโดยไม่ได้ตั้งใจในการแข่งขันระหว่างสองทีมในซัสเซกซ์
คริกเกตยังคงเป็นกิจกรรมที่หาได้ยากในท้องถิ่นในช่วงเวลาส่วนใหญ่ในศตวรรษที่ 17 เป็นที่ทราบกันดีจากในบันทึกของคดีในศาลสงฆ์ และบางครั้งจากการบันทึกโดยพวกพิวริทันว่ามีการเล่นคริกเกตอยู่ทั้งในช่วงก่อนและระหว่างการจัดตั้งเครือจักรภพ พวกพิวริทันถือว่าการเล่นคริกเกตเป็นสิ่งที่ "หยาบคาย" ที่จะเล่นกันวันสะบาโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีฝูงชนจำนวนมากเข้ามามีส่วนร่วม หรือมีการพนันเข้ามาเกี่ยวข้อง
นักประวัติศาสตร์สังคมชื่อเดเรก เบอร์ลีย์ได้กล่าวว่ามี "ความนิยมในคริกเกตที่เพิ่มขึ้นอย่างมากหลังการฟื้นฟูราชวงศ์อังกฤษ " ในปี ค.ศ. 1660 การพนันในคริกเกตได้กลายเป็นปัญหาที่สำคัญมากพอที่รัฐสภาจะผ่านพระราชบัญญัติการพนันปี ค.ศ. 1664 ถึงกระนั้นเงินเดิมพัน 100 ปอนด์ที่กฎหมายบัญญัติไว้นั้น ก็ยังคงเป็นจำนวนเงินมหาศาลที่ยังมากกว่าเงินที่ประชากรมากกว่า 99% หาได้ตลอดทั้งปี คริกเกตถูกมองว่าเป็นกีฬาการพนันควบคู่ไปกับการแข่งขันชิงรางวัล การแข่งม้า และกีฬาเลือด ผู้อุปถัมภ์ร่ำรวยในสมัยนั้นนิยมจัดการแข่งขันเพื่อเงินเดิมพันสูงโดยสร้างทีมที่พวกเขามีส่วนร่วมกับผู้เล่น ที่ได้ถือว่าเป็นผู่เล่นมืออาชีพคนแรกของคริกเกต
ในช่วงปลายศตวรรษ คริกเกตได้พัฒนาเป็นกีฬาหลักที่แพร่หลายไปทั่วอังกฤษ และถูกนำไปเผยแพร่ในต่างประเทศแล้วโดยกะลาสีเรือและอาณานิคมชาวอังกฤษ – การอ้างอิงถึงคริกเกตในต่างประเทศที่เก่าแก่ที่สุดได้ถูกบันทึกในปี 1676 หนังสือพิมพ์ฉบับปี 1697 ได้รายงานถึง "การแข่งขันคริกเกตที่ยิ่งใหญ่" ที่เล่นในซัสเซ็กซ์ที่มีเดิมพัน "นัดละห้าสิบกินี" ซึ่งเป็นการแข่งขันที่โดยทั่วไปถือว่าเป็นการแข่งขันระดับเนัดแรก
ผู้อุปถัมภ์และผู้เล่นคนอื่น ๆ จากชนชั้นทางสังคมที่เรียกว่า "ผู้ดี" ได้เริ่มจัดประเภทตัวเองเป็น "" เพื่อสร้างความแตกต่างที่ชัดเจนจากนักกีฬามืออาชีพที่เมาจากชนชั้นแรงงาน การแบ่งแยกนั้นเคยชัดเจนถึงขั้นมีการแบ่งแยกห้องแต่งตัวและสิ่งอำนวยสะดวกต่าง ๆ ผู้ดีรวมทั้งขุนนางระดับสูงเช่นดยุคแห่งริชมอนด์ ได้ใช้ สิทธิ์ของผู้ดี (noblesse oblige) เพื่อเป็นการอ้างความเป็นผู้นำในการแข่งขันกีฬาใด ๆ ที่พวกเขามีส่วนร่วม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผูดีเหล่านี้ต้องการจะเล่นเคียงข้างนักกีฬาที่ "ที่สถานะทางสังคมที่ด้อยกว่าพวกเขา"
จนกระทั่งช่วงกลางศตวรรษที่ 20 นักกีฬาสมัครเล่นมักถูกมองว่าเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมที่จะเป็นผู้นำมากกว่า เนื่องจากพวกเขาเป็นคนที่มีการในระดับมัธยม และมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์หรือมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดในระดับอุดมศึกษา
ในทางทฤษฎี นักคริกเกตสมัครเล่นจะเรียกร้องค่าใช้จ่ายในการเล่น เช่นค่าเดินทางหรือค่าอุปกรณ์ ในขณะที่คู่หูมืออาชีพของเขาเล่นภายใต้สัญญาและได้รับค่าจ้างหรือค่าธรรมเนียมจากการแข่งขัน ในทางปฏิบัติ มือสมัครเล่นหลายคนมักจะได้เงินมากกว่าค่าใช้จ่ายที่พวกเขาใช้ และคำว่า "มือสมัครเล่นเก๊ (shamateur)" ก็ได้เป็นคำเยาะเย้ยต่อนักกีฬาสมัครเล่นจนกระทั่งสถานะการแบ่งแยกระหว่างมือสมัครเล่นและมืออาชีพได้ถูกยกเลิกในปี ค.ศ. 1962
คริกเกตอังกฤษในศตวรรษที่ 18 และ 19
คริกเกตได้วิวัฒนาการในหลายแง่มุมจนได้เป็นกีฬาประจำชาติของอังกฤษในศตวรรษที่ 18[] การอุปถัมภ์และการเดิมพันถูกมองว่าเป็นตัวขับเคลื่อนความสำเร็จของกีฬา คริกเกตโด่งดังในลอนดอนตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1707 และในช่วงกลางของศตวรรษ ได้มีฝูงชนจำนวนมากแห่กันไปที่ในฟินส์บรี[]ได้ดึงดูดเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ชมและนักพนัน ความนิยมในคริกเกตได้ไปถึงจุดสูงสุดใน ราวปี 1760 ผู้โยนได้เปลี่ยนวิธีการส่งลูกโดยลงพิทช์ แทนที่จะกลิ้งหรือร่อนลูกไปหาผู้ตี และการเปลี่ยนวิธีการส่งลูกก็ทำให้เกิดการปฏิวัติในการออกแบบไม้ตี โดยีมการออกแบบไม้ตีทรงตรงที่ทันสมัยแทนไม้ฮอกกี้แบบเก่า เพราะไม้ทรงตรงสามารถจัดการกับลูกกระดอนจากการโยนได้ดีกว่า[]
ได้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1760 [Marylebone Cricket Club; หรือเอ็มซีซี (MCC)] ได้ก่อตั้งขึ้นในอีกยี่สิบปีต่อมา เป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของกีฬา หลังจากมีการเปิด ในปี ค.ศ. 1787 [] ก่อนที่จะถูกแทนที่โดยเอ็มซีซีในอีกไม่นานหลังจากนั้น โดยเอ็มซีซีนี้เองก็ได้เป็นผู้ร่างกฎของคริกเกต ฉบับใหม่ที่นำมาใช้ในช่วงหลังของศตวรรษที่ 18 ที่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเช่น การให้วิคเกตประกอบไปด้วยสตัมป์สามแท่ง และการคิดค้นกฎ [Leg Before Wicket; หรือแอลบีดับเบิลยู (lbw)]
ศตวรรษที่ 19 ถูกแทนที่ด้วย และถูกแทนที่อีกที่โดย การโยนสองรูปแบบหลังนั้นเคยเป็ฯประเด็นถกเกียงกันในช่วงแรกที่มีการใช้ การจัดเกมในระดับเทศมณฑลได้นำไปสู่การก่อตั้งสโมสรระดับเทศมณฑล โดยเริ่มจาก ในปี ค.ศ. 1839 ในเดือนธันวาคมปี ค.ศ. 1889 แปดสโมสรชั้นนำของมณฑลได้ก่อตั้งลีกคริกเกตเฟิร์สคลาสลีกแรกของโลกในชื่อ ซึ่งเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1890
ผู้เล่นที่มีชื่อเสียงที่สุดในศตวรรษที่ 19 คือ ผู้เริ่มต้นอาชีพที่ยาวนานและทรงอิทธิพลในปี 1865 ซึ่งเกรซนี่เองเป็นผู้ที่ทำให้เส้นแบ่งระหว่างมืออาชีพและมือสมัครเล่นเริ่มพร่ามัวขึ้น เนื่องจากเขานั้นเป็นนักกีฬาสมัครเล่นโดยนิตินัย แต่กลับรับรายได้แบบนักกีฬาอาชีพโดยพฤตินัย เกรซเองถูกกล่าวว่าได้รับเงินสำหรับการเล่นคริกเกตมากกว่านักกีฬามืออาชีพทุกคนที่เล่นร่วมสมัยกับเขาเสียอีก[]
ช่วงเวลาสองทศวรรษที่ก่อนสงครามโลกครั้งที่หนึ่งมักถูกเรียกว่า "ยุคทองของคริกเกต" ซึ่งมักจะเป็นวลีที่กล่าวถึงเพื่อหวนความหลังถึงช่วงเวลาก่อนสงครามโลก โดยช่วงเวลานั้นได้เริ่มมีการจัดการแข่งขันเคาน์ตีแชมเปียนชิป และการแข่งขันคริกเกตเทสต์เป็นประจำทุกปี พร้อมกับยังได้ผลิตนักคริกเกตชั้นนำอีกมากมาย
คริกเกตได้กลายเป็นกีฬาระดับนานาชาติ
ในปี ค.ศ. 1844 ได้มีการจัดการระหว่าง และ ในปี ค.ศ. 1859 ทีมผู้เล่นชาวอังกฤษได้เดินทางไปอเมริกาเหนือใน ในขณะเดียวกัน จักรวรรดิอังกฤษนั้นมีบทบาทสำคัญในการแพร่กระจายเกมไปยังต่างประเทศ และในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 จักรวรรดิอังกฤษก็เป็นที่ยอมรับในออสเตรเลีย แคริบเบียน อินเดีย ปากีสถาน นิวซีแลนด์ อเมริกาเหนือ และแอฟริกาใต้
ในปี ค.ศ. 1862 ทีมจากอังกฤษได้ออกทัวร์ออสเตรเลียเป็นครั้งแรก ในขณะที่ทีมออสเตรเลียทีมแรกที่เดินทางไปต่างประเทศประกอบด้วยคนเลี้ยงปศุสัตว์ชาวอะบอริจิน การแข่งขันทีมชาติหนึ่งวันนัดแรกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 5 มกราคม ค.ศ. 1971 ระหว่างออสเตรเลียและอังกฤษที่
ในปี ค.ศ. 1876–1877 ได้เข้าร่วมการแข่งขันที่ได้รับการยอมรับย้อนหลังว่าเป็นการแข่งขันนัดแรกที่ กับทีมชาติออสเตรเลีย การแข่งขันระหว่างอังกฤษและออสเตรเลียในปี ค.ศ. 1882 ทำให้เกิดซีรีส์ที่เรียกว่า และยังคงเป็นการแข่งขันที่มีชื่อเสียงที่สุดของคริกเกตเทสต์ คริกเกตเทสต์เริ่มขยายตัวในปี ค.ศ. 1888-89 เมื่อเล่นกับทีมชาติอังกฤษ ทำให้ทีมชาติแอฟริกาใต้กลายเป็นทีมที่สามที่ได้รับสถานะทีมคริกเกตเทสต์
โลกคริกเกตในศตวรรษที่ 20
ในปี ค.ศ. 1909 ได้มีการก่อตั้งสภาคริกเกตนานาชาติ [International Cricket Council หรือไอซีซี (ICC)] ขึ้น โดยไอซีซีนั้นเป็นองค์กรหลักที่มีหน้าที่จัดการการแข่งขันคริกเกตระดับนานาชาติในระดับต่าง ๆ
ช่วงเวลาระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองถูกครอบงำโดยดอน แบรดแมน ของออสเตรเลีย ผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ตีที่ยิ่งใหญ่ในประวิติศาสตร์ของคริกเกตเทสต์ คริกเกตเทสต์ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงศตวรรษที่ 20 โดยการให้สถานะแก่ทีมสหชาติเวสต์อินดีส (1928) ทีมชาตินิวซีแลนด์ (1930) และ (1932) ในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง และ (1952) ทีมชาติศรีลังกา (1982) (1992) (2000) และ (ปี 2018 ทั้งสองทีม) ในช่วงหลังสงคราม ทีมชาติแอฟริกาใต้ถูกห้ามเล่นคริกเกตนานาชาติตั้งแต่ปี ค.ศ. 1970 ถึง 1991 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการคว่ำบาตรการแบ่งแยกสีผิว
การเพิ่มขึ้นของคริกเกตจำกัดโอเวอร์
คริกเกตเข้าสู่ยุคใหม่ในปี ค.ศ. 1963 เมื่อมณฑลต่าง ๆ ของอังกฤษเริ่มมีการแข่ง เมื่อพบว่าคริกเกตจำกัดโอเวอร์นั้นสามารถทำเงินได้มากกว่า ทำให้มีการแข่งขันครอกเกตจำกัดโอเวอร์หนึ่งวัน เรียกว่า (List A Cricket) ขึ้น ในเวลาต่อมาจึงได้มีการแข่งขันในปี ค.ศ. 1971 ไอซีซีได้เห็นศักยภาพของ จึงได้จัดการแข่งขันคริกเกตโลก (Cricket World Cup) เป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1975โดยผู้ชนะทีมแรกคือทีมเวสต์อินดีส โดยทีมชาติออสเตรเลียเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด โดยได้เป็นผู้ชนะในรายการนี้ถึงห้าสมัย
ในศตวรรษที่ 21 ได้มีการแข่งขันคริกเกตรูปแบบใหม่ในชื่อ [Twenty20; นิยมเรียกว่าที20 (T20)] โดยที20 ได้ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางในโลกคริกเกต โดยไอซีซ๊ได้มีการจัดแข่งขันรายการ (T20 Cricket World Cup) มานับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2007 โดยผู้ชนะทีมแรกคือทัมชาติอินเดีย
หลังจากการแข่งขันคริกเกตที20 โลกก็ได้มีการแข่งขันลีกที20 ระหว่างทีมแฟรนไชส์ขึ้นมาทั่วโลก เช่นอินเดียนพรีเมียร์ลีก [Indian Premier League หรือไอพีแอล (IPL)] ในประเทศอินเดีย [Caribbean Premier League หรือซีพีแอล (CPL)] ในภูมิภาคแคริบเบียน และ [Pakistan Super League หรือพีเอสแอล (PSL)] ในประเทศปากีสถาน
หลังจากที่คริกเกตเทสต์นั้นมีการแข่งขันอยู่ในระดับทัวร์มากว่า 140 ปี ในปี ค.ศ. 2019 ไอซีซีได้มีการจัดการแข่งขัน [ICC World Test Championship หรือดับเบิลยูทีซี (WTC)] ขึ้น โดยรายการนี้เป็นรายการที่แข่งขันเป็นแบบลีก แล้วมีการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศสำหรับทีมที่จบสองอันดับแรก โดยผู้ชนะเทสต์โลกทีมแรกในฤดูกาล 2019-21 คือทีมชาตินิวซีแลนด์
กฎและการเล่น
ในคริกเกต กฎของเกมระบุไว้ในหนังสือที่เรียกว่า กฎของคริกเกต (The Laws of Cricket) ซึ่งกฎเหล่านี้มีการบังคับใช้ทั่วโลก กฎของคริกเกตมีกฎหลัก 42 ข้อ (เขียนด้วยตัว "L" ใหญ่เสมอ) กฎฉบับเก่าที่สุดที่เป็นที่รู้จักถูกร่างขึ้นในปี ค.ศ. 1744 และตั้งแต่ปี ค.ศ. 1788 โค้ดดังกล่าวก็ได้เป็นเจ้าของและดูแลโดย (Marylebone Cricket Club; MCC) ในลอนดอน
พื้นที่เล่น
คริกเกตเป็นเกมไม้ตีและลูกที่เล่นในสนามคริกเกต (ดูภาพด้านขวา) ระหว่างสองทีมจากผู้เล่นสิบเอ็ดคน สนามมักจะมีรูปร่างเป็นวงกลมหรือวงรี และขอบของพื้นที่เล่นจะถูกทำเครื่องหมายด้วยขอบเขตซึ่งอาจเป็นรั้ว ส่วนหนึ่งของอัฒจันทร์ เชือก เส้นที่ทาสี หรือหลายอย่างรวมกัน ขอบเขตจะต้องทำเครื่องหมายตามความยาวทั้งหมดหากเป็นไปได้
ในศูนย์กลางของสนามโดยประมาณเป็น (Pitch) สี่เหลี่ยม (ดูภาพด้านล่าง) ซึ่งกลุ่มแท่งไม้ที่เรียกว่า (Wicket) วางอยู่ที่ปลายแต่ละด้าน; วิคเกตทั้งสองนั้นถูกวางไว้ห่างกันระหว่างพิทช์ ซึ่งเป็นพื้นผิวเรียบกว้าง 10 ฟุต (3.0 เมตร) และยาว 22 หลา (20 เมตร) โดยพิทช์นั้นมักจะมีหญ้าที่ถูกตัดให้สั้นมาก ซึ่งทำให้มีแนวโน้มที่พิทช์จะเสื่อมสภาพในขณะที่การแข่งขันดำเนินไป (คริกเกตสามารถเล่นบนพื้นผิวเทียมได้เช่นกัน โดยอาจเล่นบนพื้นพรม) วิคเกตแต่ละตัวจะประกอบด้วย (Stumps) ไม้สามแท่ง และมี (Bail) สองตัววางอยู่ข้างบน
ดังที่แสดงไว้ข้างต้น ระยะพิทช์ถูกทำเครื่องหมายที่ปลายแต่ละด้านด้วยเส้นทาสีขาวสี่เส้น: และ สตัมป์ทั้งสามถูกจัดชิดตรงกลางโบว์ลิงครีสซึ่งยาวแปดฟุตแปดนิ้ว ป็อปปิงครีสนั้นถูกวาดสี่ฟุตต่อหน้าโบว์ลิงครีสและขนานไปกับมัน โดยปกตินั้นป็อปปิงครีสนั้นจะยาวสิบสองฟุต และรีเทิร์นครีสนั้นจะถูกวาดในมุมฉากกับป็อปปิงครีสเพื่อตัดปลายของโบว์ลิงครีส โดยปกตินั้นป็อปปิงครีสนั้นจะยาวแปดฟุต ทำให้รีเทิร์นครีสยาวต่อจากโบว์ลิงครีสไปอีกสี่ฟุต
รูปแบบและการจบการแข่งขัน
ก่อนการแข่งขันเริ่มต้น กัปตันทีม (ซึ่งเป็นผู้เล่นด้วย) เพื่อตัดสินใจว่าทีมใดจะตีก่อนใน โดยอินนิงส์เป็นคำที่ใช้สำหรับแต่ละช่วงของการเล่นในการแข่งขัน ในแต่ละอินนิงส์ ทีมหนึ่งจะเป็น พยายามที่จะ ในขณะที่อีกทีมเป็นฝ่ายและเพื่อที่จะจำกัดรันให้น้อยที่สุดและ เมื่ออินนิงส์แรกจบลง ทีมจะเปลี่ยนบทบาท โดยการแข่งขันคริกเกตหนึ่งนัดอาจมีสองถึงสี่อินนิงส์ขึ้นอยู่กับประเภทของการแข่งขัน
การแข่งขันที่มีสี่อินนิงส์ตามกำหนดการจะเล่นในระยะเวลาสามถึงห้าวัน การแข่งขันที่มีสองอินนิงส์ที่กำหนดไว้มักจะเสร็จสิ้นภายในวันเดียว ในระหว่างอินนิงส์ สมาชิกทั้งหมดสิบเอ็ดคนของทีมที่ประจำตำแหน่งจะลงสนาม ในขณะเดียวกัน จะมีสมาชิกของทีมที่ตีลูกเพียงสองคนเท่านั้นที่อยู่บนสนามในเวลาใดก็ตาม ข้อยกเว้นคือ ถ้าผู้ตีป่วยหรือมีการบาดเจ็บประเภทใดก็ตามที่จำกัดความสามารถในการวิ่ง ในกรณีนี้ผู้ตีจะได้รับอนุญาตให้ที่สามารถวิ่งระหว่างประตูได้เมื่อผู้ตีทำรัน อย่างไรก็ตาม การใช้รันเนอร์นั้นไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในคริกเกตทีมชาติ
การจัดในคริกเกตนั้นจะมีการประกาศมาก่อนการแข่งขัน แต่กัปตันทีมสามารถเปลี่ยนลำบกับผู้ตีได้ตามสถานการณ์ ซึ่งต่างจากเบสบอลที่ลำดับผู้ตีจะตายตัวตลอดการแข่งขัน
วัตถุประสงค์หลักของแต่ละทีมคือการทำคะแนนให้มากกว่าคู่ต่อสู้ แต่ในคริกเกตบางรูปแบบ อาจมีความจำเป็นที่จะต้องกำจัดผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามทั้งหมดในอินนิงส์สุดท้ายเพื่อชนะการแข่งขัน มิฉะนั้นผลการแข่งขันจะจบลงด้วยการ (Drawn) ถ้าทีมที่ตีลูกสุดท้ายมีแต้มทำรันได้น้อยกว่าคู่ต่อสู้ จะถือว่า "แพ้ n รัน" (โดยที่ n คือความแตกต่างระหว่างจำนวนรันที่ทำได้โดยทีมทั้งหมด) หากทีมที่ตีลูกสุดท้ายทำรันได้มากพอที่จะชนะ เรียกว่ามี "ชนะด้วย n วิคเกต" โดยที่ n คือจำนวนวิคเกตที่ทีมที่ชนะยังเหลืออยู่ในขณะที่ทีมนั้นได้ชัยชนะไป ตัวอย่างเช่น ทีมที่ชนะโดยที่เสียไปแล้วหกวิคเกต (กล่าวคือมีผู้ตีทีมชนะเอาต์ไปแล้วหกคน) จะหมายความว่าทีมนั้นชนะการแข่งขัน "โดยสี่วิคเกต"
ในการแข่งขันที่แต่ละทีมได้ตีฝั่งละสองอินนิงส์ ยอดรวมรันอินนิงส์แรกและอินนิงส์ที่สองของทีมหนึ่งอาจน้อยกว่ารันในอินนิงส์แรกของอีกทีมหนึ่ง ทีมที่มีคะแนนมากกว่าจะเรียกว่า "ชนะโดยอินนิงส์และ n รัน" และไม่จำเป็นต้องตีอีก: n คือความแตกต่างระหว่างคะแนนรวมของทั้งสองทีม
หากทีมที่ตีในอิงนิงส์สุดท้ายถูกทำให้เอาต์ทั้งทีม และทั้งสองฝ่ายได้จำนวนรันเท่ากัน การแข่งขันจะถือว่า (Tie) กัน ผลลัพธ์นี้ค่อนข้างหายากในการแข่งขันสองอินนิงส์โดยมีเพียง 63 ตั้งแต่ผลเท่ากันครั้งแรกที่มีการบันทึกในปี ค.ศ. 1741 จนถึงผลเท่ากันครั้งล่าสุดในปี ค.ศ. 2020 ในคริกเกตเฟิร์สคลาส (รวมถึงคริกเกตเทสต์) หากเวลาที่เหลือในการแข่งขันหมดก่อนที่จะได้ผู้ชนะ การแข่งขันนัดนั้นจะถือว่ากัน
ในการแข่งขันที่แต่ละทีมได้ตีฝั่งละหนึ่งอินนิงส์ จะมีการกำหนดโอเวอร์สูงสุดที่แต่ละทีมจะตีได้ การแข่งขันดังกล่าวจะเรียกว่า "" หรือการแข่งขัน "หนึ่งวัน" และฝ่ายที่ทำคะแนนได้มากกว่าจะชนะโดยไม่คำนึงถึงจำนวนวิกเก็ตที่เสียไป เพื่อไม่ให้เกิดผลเสมอ ในบางกรณีที่การแข่งขันที่ผลเท่ากัน จะมีการให้แต่ละทีมตีทีมละอินนิงส์ที่ยาวเพียงหนึ่งโอเวอร์ ซึ่งเรียกว่าซูเปอร์โอเวอร์ โดยซูเปอร์โอเวอร์ครั้งถัดไปสามารถเล่นได้หากซูเปอร์โอเวอร์แรกยังจบลงด้วยการเท่ากัน หากการแข่งขันประเภทนี้ถูกขัดจังหวะชั่วคราวเนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่ดี จะมีการใช้สูตรทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนซึ่งรู้จักกันในชื่อ [Duckworth-Lewis-Stern Method; นิยมเรียกว่าดีแอลเอส (DLS)] เพื่อใช้ในการคำนวณจำนวนรันที่ทีมที่ตีทีหลังต้องทำให้ถึงเพื่อชนะ ในสถานการณ์ที่ทำให้ไม่สามารถเริ่มเล่นใหม่ได้ตามปกติ ตัวอย่างเช่น สภาพอากาศที่เปียกชื้นหรือหิมะตกอย่างยาวนาน จนการแข่งขันไม่สามารถดำเนินให้ถึงจำนวนโอเวอร์ขั้นต่ำที่สามารถนำวิธีดีแอลเอสได้ การแข่งขันแบบวันเดียวจะสามารถถูกประกาศว่า "ไม่มีผลการแข่งขัน (no-result)" ได้
ในทุกรูปแบบของคริกเกต ผู้ตัดสินสามารถละทิ้งการแข่งขันได้หากแสงอาทิตย์ไม่ดีหรือมีฝนตกทำให้ไม่สามารถดำเนินการต่อได้ มีกรณีที่การแข่งขันต้องถูกยกเลิกโดยที่ไม่มีการเล่น แม้แต่การแข่งขันมีกำหนดจะเล่นเป็นเวลาห้าวันก็เคยมีเหตุการณ์ที่การแข่งขันต้องถูกยกเลิกโดยที่ไม่มีการเล่นเลย ตัวอย่างเช่น คริกเกตเทสต์นัดที่สามของซีรีส์ 1970/71 ระหว่างทีมชาติอังกฤษและทีมชาติออสเตรเลีย
อินนิงส์
อินนิงส์ (innings ลงท้ายด้วย 's' ทั้งในรูปเอกพจน์และพหูพจน์) เป็นคำที่ใช้สำหรับแต่ละช่วงของการเล่นระหว่างการแข่งขัน ขึ้นอยู่กับประเภทของการแข่งขันที่เล่น แต่ละทีมจะได้ตีฝั่งละหนึ่งหรือสองอินนิงส์ บางครั้งสมาชิกทั้ง 11 คนของฝ่ายตีจะได้ลงมาตี แต่ด้วยเหตุผลหลายประการ อินนิงส์หนึ่งสามารถสิ้นสุดได้ก่อนที่นักกีฬาทุกคนจะได้ตี
อินนิ่งจะสิ้นสุดลงหากทีมตีลูกบอล "เอาต์ทั้งทีม" คือ "เมื่อผู้ตีสิบจากสิบเอ็ดคนหรือขอรีไทร์ (Retired) หรือไม่มีผู้ตีที่จะเข้ามาตีแทนอีกแล้ว" ในสถานการณ์นี้ ผู้ตีที่ไม่ได้ถูกทำให้เอาต์หลังจากอินนิงส์ของทีมตนจบลงจะถูกเรียกว่าเรียกว่า ; ซึ่งอาจเกิดจากการที่ผู้เล่นคนอื่น ๆ ถูกทำให้เอาต์จนเหลือผู้ตีเพียงคนเดียว
อินนิงส์อาจสิ้นสุดก่อนเวลาขณะที่ยังมีผู้ตีอยู่สองคนในสนาม:
- ทีมผู้ตี (Declared) แม้ว่าผู้เล่นบางคนของตนบางคนยังไม่ได้ตี โดยการประกาศจบอินนิงส์นั้นอาจมาจากการที่กัปตันทีมนั้นเชื่อว่าทีมของตนทำรันได้มากพอแล้ว และเป็นการเผื่อเวลาไว้ให้มากพอที่ทีมของตนสามารถทำให้ทีมคู่แข่งเอาต์ได้ทั้งทีมเพื่อผลชนะ
- มีการเล่นจนถึงกำหนดไว้ (เช่น ในการแข่งขันจำกัดโอเวอร์)
- การแข่งขันสิ้นสุดลงก่อนเวลาอันควรเนื่องจากสภาพอากาศไม่ดีหรือหมดเวลาการแข่งขัน
- ในอินนิงส์สุดท้ายของการแข่งขัน ทีมผู้ตีทำรันได้ถึงเป้าหมายและเป็นทีมที่ชนะการแข่งขัน
โอเวอร์
กฎของคริกเกตระบุว่า ตลอดอินนิงส์ "จะต้องมีการสลับฝั่งในการโยนลูกในทุก ๆ 6 ครั้ง" ชื่อ "โอเวอร์ (Over)" เกิดขึ้นเพราะกรรมการเรียก "โอเวอร์!" เมื่อโยนลูกครบหกลูก เมื่อถึงจุดนี้ ผู้โยนอีกคนหนึ่งโยนลูกที่อีกด้านหนึ่งของพิทช์ และทีมผู้โยนจะมีการเปลี่ยนแปลงการยืนตำแหน่งในสนาม ในขณะที่ผู้ตีทั้งสองคนจะยังยืนอยู่ที่เดิม นั่นทำให้นอนสไตรเกอร์ (Non-striker คือผู้ตีที่อยู่ตรงข้ามด้านที่ผู้ตีอีกคนพบกับลูกที่ผู้โยนโยนมา) กลายเป็นสไตรเกอร์ (Striker) โดยไม่ต้องเดินสลับฝั่ง
ผู้โยนจะไม่สามารถโยนสองโอเวอร์ติดต่อกัน แม้ว่าผู้ตีสามารถ (และมักจะ) โยนลูกสลับโอเวอร์ได้จากด้านเดียวกันของพิทช์ ทำให้มีการใช้คำว่า "สเปลล์ (Spell)" หมายถึงช่วงเวลาที่ผู้โยนนั้นโยนตลอดอินนิงส์โดยไม่มีการเปลี่ยนฝั่งที่โยน
ในระหว่างโอเวอร์ผู้ตัดสินทั้งสองคนจะมีการเปลี่ยนตำแหน่ง โดยผู้ตัดสินที่อยู่ด้านหลังวิคเกตฝั่ง A (ที่เคยเป็นฝั่งของนอนสไตรเกอร์ในโอเวอร์ที่แล้ว) จะยืนอยู่ตำแหน่ง "สแควร์เลก [(Square Leg) คือยืนอยู่ด้านหลังผู้ตี ตั้งฉากระหว่างสไตรเกอร์กับนอนสไตรเกอร์]" ที่ฝั่ง A ส่วนผู้ตัดสินที่ยืนอยู่ตำแน่งสแควร์เลกฝั่ง B (ที่เคยเป็นฝั่งของสไตรเกอร์ในโอเวอร์ที่แล้ว) จะมายืนยืนอยู่ด้านหลังวิคเกตที่ฝั่ง B
เสื้อผ้าและอุปกรณ์
ผู้รักษาวิคเกต (ผู้ที่ยืนตำแหน่งหลังวิคเกตฝั่งสไตรเกอร์) และผู้ตีจะสวมอุปกรณ์ป้องกันเนื่องจากเพื่อป้องกันลูกคริกเกตที่แข็ง และสามารถถูกโยนด้วยความเร็วมากกว่า 145 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (90 ไมล์ต่อชั่วโมง) ชุดป้องกันรวมถึงแผ่นสนับแข้ง (ออกแบบมาเพื่อปกป้องเข่าและหน้าแข้ง) หรือ สำหรับศีรษะ และกระจับสำหรับผู้เล่นชายในกางเกง (เพื่อป้องกันบริเวณเป้า) ผู้ตีบางคนจะใส่แผ่นรองเสริมด้านในเสื้อและกางเกง เช่น แผ่นรองต้นขา ผ้ารองแขน แผ่นป้องกันซี่โครง และแผ่นรองไหล่ ผู้ยืนตำแหน่งที่อยู่ในตำแหน่งที่ใกล้กับผู้ตีมาก (เช่น ถ้าอยู่เคียงข้างหรืออยู่ข้างหน้าเขา) จะได้รับอนุญาตให้สวมอุปกรณ์ป้องกัน แต่จะไม่สามารถสวมถุงมือหรืออุปกรณ์ป้องกันขาภายนอกได้
โดยทั่วไปแล้ว ชุดที่นักคริกเกตสวมใส่ในสนามจะรวมถึงเสื้อคอปกแขนสั้นหรือแขนยาว กางเกงขายาว เสื้อสวมหัวทำด้วยผ้าขนสัตว์ (ถ้าจำเป็น); (สำหรับทีมที่ยืนตำแหน่ง) หรือหมวกนิรภัย และรองเท้าที่มีหนามแหลมหรือรองเท้าบูทเพื่อเพิ่มการยึดเกาะ ปกติชุดที่นักคริกเกตใส่ในคริกเกตเฟิร์สคลาสและคริกเกตเทสต์จะเป็นสีขาวล้วน แต่สำหรับคริกเกตจำกัดโอเวอร์ นักคริกเกตจะใส่ชุดสีประจำทีมแทน
ไม้และลูกคริกเกต
แกนหลักของคริกเกตคือการที่ โยนจากฝั่งใดด้านหนึ่งของไปสู่ ที่ยืนอยู่อีกฝั่งของพิทช์ (ดูต่อไปที่ส่วนย่อย : การเล่นพื้นฐาน)
โดยปกตินั้นทำจากไม้ของต้นหลิวขาว (Salix alba) และมีรูปทรงแบบใบมีดที่มีด้ามเป็นทรงกระบอก ด้านไม้จะต้องมีความกว้างไม่เกิน 4.25 นิ้ว (10.8 เซนติเมตร) และมีความยาวไม่เกิน 38 นิ้ว (97 เซนติเมตร) ทั้งนี้ ไม่มีมาตรฐานสำหรับน้ำหนักของไม้คริกเกต ซึ่งมักจะอยู่ระหว่าง 2 ปอนด์ 7 ออนซ์ ถึง 3 ปอนด์ (1.1 และ 1.4 กิโลกรัม)
ในส่วนนั้นจะเป็นทรงกลมที่หุ้มหนังแข็ง มีเส้นรอบวง 9 นิ้ว (23 เซนติเมตร) โดยมี "ตะเข็บ" หกแถวติดเปลือกหนังของลูกเข้ากับเชือกและด้านในของไม้ก๊อก รอยต่อของลูกบอลใหม่นั้นโดดเด่นและช่วยให้ผู้โยนสามารถส่งลูกในลักษณะวิถีที่คาดเดาได้ยาก ในระหว่างการแข่งขัน คุณภาพของลูกจะเสื่อมลงจนใช้ไม่ได้อีกต่อไป ในระหว่างการเสื่อมสภาพนี้ พฤติกรรมในการบินของลูกจะเปลี่ยนไปและอาจส่งผลต่อผลของการแข่งขัน ดังนั้น ผู้เล่นจะพยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของลูกบอลโดยการปรับเปลี่ยนคุณสมบัติทางกายภาพของลูก การขัดลูกบอลและทำให้เปียกด้วยเหงื่อหรือน้ำลายนั้นถูกกฎของคริกเกต ทำให้มีการการขัดผิวของลูกคริกเกตเพียงด้านเดียวเพื่อเพิ่มการ แต่การถูสารอื่น ๆ เข้าไปในลูก การเกาพื้นผิว หรือการดึงที่ตะเข็บจะเป็นการ
บทบาทของผู้เล่น
การเล่นพื้นฐาน: ผู้โยนสู่ผู้ตี
ระหว่างการเล่นปกติ ผู้เล่นสิบสามคนและผู้ตัดสินสองคนอยู่ในสนาม ผู้เล่นสองคนเป็นผู้และที่เหลือเป็นสมาชิกของทีมที่ยืนตำแหน่งทั้งหมดสิบเอ็ดคน ผู้เล่นอีกเก้าคนในทีมของผู้ตีจะอยู่นอกสนามในศาลาของสนาม ภาพด้านล่างแสดงให้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อมีการโยนลูกและใครอยู่บนหรือใกล้กับสนาม
ในภาพ สองคน (หมายเลข 3 และ 8; ใส่ชุดสีเหลือง) ยืนสนามที่ปลายแต่ละด้านของ (6) สามคน (4 10 และ 11; ใส่ชุดสีน้ำเงินเข้ม) อยู่ประจำตำแหน่งของตน ผู้ตัดสินคนหนึ่งในสองคน (1; สวมหมวกสีขาว) ประจำการอยู่หลัง (2) ที่ปลายของพิทช์ ของ (4) กำลัง (5) จากปลายิทช์ไปยังผู้ตี (8) ที่ปลายอีกด้านหนึ่งซึ่งเรียกว่า "สไตรเกอร์ (striker)" ผู้ตีอีกคน (3) ที่ปลายพิทช์ที่ผู้โยนอยู่จะถูกเรียกว่า "นอนสไตรเกอร์ (non-striker)" (wicketkeeper) (10) ซึ่งเป็นตำแหน่งเฉพาะของทีมยืนสนาม ยืนอยู่ด้านหลังประตูของสไตรเกอร์ (9) และข้างหลังเขาเป็นหนึ่งในผู้ยืนสนามในตำแหน่งที่เรียกว่า " (First slip)" (11) ในขณะที่ผู้ตีและสลิปที่หนึ่งสวมชุดธรรมดาเท่านั้น ผู้ตีสองคนและผู้รักษาวิคเกตสวมอุปกรณ์ป้องกัน ได้แก่ หมวกนิรภัย ถุงมือบุนวม และอุปกรณ์ป้องกันขา (แผ่นสนับแข้ง)
ในขณะที่ในภาพจะเห็นผู้ตัดสิน (1) ยืนอยู่ที่ปลายพิทช์ของผู้โยน จะยังมีผู้ตัดสินอีกคนหนึ่งยืนอยู่ในสนาม โดยปกติแล้วจะอยู่ในหรือใกล้กับตำแหน่งการลงสนามที่เรียกว่า "" เพื่อให้เขาอยู่ในแนวเดียวกับ (7) ที่ปลายสนามของกองหน้า โบว์ลิงครีส (ไม่มีหมายเลข) คือรอยที่วิคเกตตั้งอยู่ระหว่างรีเทิร์นครีส (12)
ผู้โยน (4) นั้นมีความตั้งใจที่จะทำลายวิคเกต (9) ด้วยการโยนลูกใส่ (5) หรืออย่างน้อยที่สุดก็เพื่อป้องกันไม่ให้สไตรเกอร์ (8) ทำรันได้ โดยสไตรเกอร์ (8) มีหน้าที่ป้องกันวิคเกต และตีลูกเพื่อทำรัน
ผู้เล่นบางคนมีความสามารถทั้งในการตีลูกและการโยนลูกหรืออย่างใดอย่างหนึ่ง ผู้เล่นเหล่านี้จะถูกเรียกว่า ผู้ตีแต่ละคนจะถูกจำแนกตามรูปแบบของพวกเขา โดยทั่วไปจะเป็น หรือ ในขณะที่ผู้ตีจะถูกจำแนกตามว่าพวกเขาถนัดที่จะตีข้างขวาหรือซ้าย
การยืนสนาม
จากภาพด้านบน มีผู้เล่นสามคนจากสิบเอ็ดคนยืนประจำตำแหน่ง ส่วนอีกแปดคนอยู่ที่อื่นในสนาม ตำแหน่งของพวกเขากำหนดตามแผนการเล่นที่ใช้โดยกัปตันหรือผู้โยน การยืนตำแหน่งในคริกเกตมักจะเปลี่ยนตลอดในระหว่างการโยนลูกแต่ละครั้ง ตามคำสั่งของกัปตันหรือผู้โยน
หากผู้ยืนตำแหน่งได้รับบาดเจ็บหรือป่วยในระหว่างการแข่งขัน จะมีการอนุญาตให้ลงสนามแทนได้ ในคริกเกตระดับนานาชาติ ผู้เล่นสำรองจะไม่สามารถโยนหรือทำหน้าที่เป็นกัปตันได้ ยกเว้นในกรณีที่มีการใช้ผู้เล่นสำรองในกรณีที่มีผู้เล่นได้รับการกระทบกระเทือนทางสมอง ผู้เล่นสำรองจะต้องออกจากสนามเมื่อผู้เล่นที่บาดเจ็บพร้อมกลับ กฎของคริกเกตได้รับการปรับปรุงในปี ค.ศ. 2017 เพื่ออนุญาตให้ผู้เล่นสำรองสามารถทำหน้าที่เป็นผู้รักษาวิคเกต
การโยนและการกำจัดผู้ตี
ผู้โยนส่วนใหญ่มักได้รับเลือกให้เข้าร่วมทีมเนื่องจากทักษะของพวกเขาในฐานะผู้โยนโดยเฉพาะ แม้ว่าผู้เล่นบางคนจะเป็นออลราวเดอร์หรือเป็นผู้ตีที่โยนลูกเป็นครั้งคราว ผู้โยนจะโยนหลายครั้งในระหว่างอินนิงส์ แต่ไม่สามารถโยนสองโอเวอร์ติดต่อกันได้ หากกัปตันต้องการให้ผู้โยน "เปลี่ยนฝั่ง" ผู้โยนคนอื่นต้องโยนลูกที่ยังเหลืออยู่ในโอเวอร์นั้น ๆ
โอเวอร์หนึ่ง ๆ จะเริ่มขึ้นเมื่อผู้โยนเริ่มวิ่งเข้าหาพิทช์เพื่อโยนลูก (run-up) (Fast bowlers) มักจะวิ่งเป็นระยะไกลเพื่อเป็นการสร้างโมเมนตัมในการโยน ส่วนผู้โยนลูกปั่น (Spin Bowlers) มักจะวิ่งเพียงำม่กี่ก้าวก่อนโยนลูฏ ผู้โยนที่เร็วที่สุดสามารถส่งลูกด้วยความเร็วมากกว่า 145 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (90 ไมล์ต่อชั่วโมง) และบางครั้งพวกเขาก็อาศัยความเร็วเป็นหลัก เพื่อพยายามเอาชนะผู้ตีที่ถูกบังคับให้ตอบสนองอย่างรวดเร็ว ผู้โยนลูกเร็วคนอื่น ๆ อาศัยการผสมผสานระหว่างความเร็วและเล่ห์เหลี่ยมโดยทำให้ลูกวิ่งเป็น (Seam bowling) หรือวิ่ง (Swing bowling) การโยนประเภทนี้สามารถหลอกลวงผู้ตีให้ตีลูกอย่างผิดวิธีได้ ตัวอย่างเช่น เพื่อให้ลูกแตะขอบไม้ตีแล้วสามารถ "รับลูกจากข้างหลัง" โดยผู้รักษาวิคเกตหรือผู้ยืนตำแหน่งสลิปได้ ในขณะผู้โยนอีกกลุ่มหนึ่งเรียกว่า ที่โยนด้วยความเร็วที่ค่อนข้างช้าและอาศัยกลอุบายในการหลอกล่อผู้ตี ผู้โยนลูกปั่นมักจะ "ซื้อวิคเกต" โดย "โยนลูกขึ้น" (ในวิถีพาราโบลาที่ช้ากว่าและชันกว่า) เพื่อล่อให้ผู้ตีตีลูกที่ไม่ดี ผู้ตีลูกต้องระวังให้มากในการโยนลูกแต่ละครั้ง เนื่องจากลูกปั่นมักจะ "บิน" หรือถูกหมุน เพื่อที่จะทำให้ผู้ตีรับมือได้อย่างไม่ถูกต้อง และเขาอาจ "ติดกับ" และถูกทำให้เอาต์ ระหว่างผู้ตีลูกเร็วและผู้ตีลูกปั่น จะมีผู้โยนอีกกลุ่มหนึ่งที่จะโยนลูกด้วยความเร็วระดับปานกลาง โดยเน้นไปที่ความแม่นยำของการโยนเพื่อเป็นการทำลายสมาธิของผู้ตี
ในคริกเกต มีถึงเก้าวิธีที่ผู้ตีสามารถถูกกำจัดได้ ห้าวิธีแรกสามารถพบเห็นได้ทั่วไป ส่วนสี่วิธีหลังนั้นพบได้ยากมาก
- (bowled): การโยนลูกเพื่อทำลายวิคเก็ตให้เบลตกลงมาจากสตัมป์
- (caught): การรับลูกคริกเกตก่อนลูกตกถึงพื้น โดยลูกนั้นจะต้องถูกไม้หรือถุงมือของผู้ตีก่อน
- (run out): การทำลายวิคเก็ตก่อนที่ผู้เล่นฝั่งผู้ตีจะวิ่งไปถึงอีกฝั่งของพิตช์ได้ทัน
- (stumped): การที่รับลูกวิคเกตที่ผู้ตีตีไม่โดน แล้วทำลายวิคเก็ตก่อนที่ผู้ตีจะกลับไปอยู่ในป็อปปิงครีสของตนได้ทัน
- (leg before wicket; นิยมเรียกว่าแอลบีดับเบิลยู (lbw)]: การทำโยนลูกให้โดนผู้ตีโดยที่ไม่โดนไม้คริกเกต โดยวิถีของลูกจะไปชนวิกเก็ต
- (hit wicket) การที่ผู้ตีขยับร่างกาย ไปชนทำลายวิคเกตโดยไม่ตั้งใจ
- (obstructing the field): การกระทำที่เข้าข่ายรบกวนการเล่นของทีมที่ยืนตำแหน่ง เช่น การตีลูกสองครั้งในการโยนลูกครั้งเดียว
- (timed out): การที่ผู้ตีที่จะเข้ามาตีในสนาม ลงมาในสนามไม่ทันเวลาที่กำหนด
- (retired out): การทีผู้ตีออกจากการแข่งขันโดยที่ไม่ได้รับการอนุญาตจากกัปตันทีมฝั่งตรงข้ามและผู้ตัดสิน
กฎของคริกเกตระบุว่าทีมยืนสนามซึ่งโดยปกติแล้วจะเป็นผู้โยนจะต้องเรียกร้องผู้ตัดสิน (appealing) ก่อนที่ผู้ตัดสินจะตัดสินได้ ถ้าหากผู้ตีเอาต์ กรรมการยกนิ้วชี้และพูดว่า "เอาต์!" หากผู้ตีไม่เอาต์ ผู้ตัดสินจะส่ายหัวและพูดว่า "ไม่เอาต์"
การตี การวิ่ง และรันพิเศษ
ผู้ตีจะเข้ามาตีตาม ซึ่งกัปตันทีมจะตัดสินใจล่วงหน้าและนำเสนอต่อกรรมการ แต่ลำดับการตีสามารถยืดหยุ่นได้เมื่อกัปตันทีมเสนอชื่อทีมอย่างเป็นทางการ โดยทั่วไปในคริกเกตนานาชาติ จะไม่อนุญาตให้ใช้ผู้เล่นทดแทนในการตี ยกเว้นในกรณีที่ใช้แทนการถูกกระทบกระแทกทางสมอง
ตามปกติแล้ว ผู้ตีส่วนไหญ่จะยืนตำแหน่งโดยต้องหมอบลงเล็กน้อย โดยให้เท้าชี้ขนานวิคเกต มองไปในทิศทางของผู้โยน และจับไม้ตีให้ข้ามเท้าไป และปลายไม้วางอยู่บนพื้นใกล้กับนิ้วเท้าของเท้าหลัง
ผู้ตีที่มีทักษะสามารถ "ยิง (shot)" หรือ "วาดวง (stroke)" ได้หลากหลายท่าทั้งในรูปแบบป้องกันและโจมตี แนวคิดหลักของการตีคือการตีลูกให้ได้ผลดีที่สุดกับพื้นผิวเรียบของใบของไม้ ถ้าลูกสัมผัสกับด้านข้างของไม้ จะถูกเรียกว่า "โดน" ผู้ตีไม่จำเป็นต้องเล่นลูกและสามารถให้ลูกผ่านไปยังผู้รักษาวิคเกตได้ ในทำนองเดียวกันเขาไม่ต้องพยายามวิ่งเมื่อเขาตีลูกด้วยไม้ตีเช่นกัน และผู้ตีไม่ได้พยายามตีลูกบอลให้แรงที่สุดเสมอไป และผู้ตีที่ดีสามารถทำรันได้ด้วยการตีอย่างคล่องแคล่วเพียงด้วยการหมุนข้อมือ หรือเพียงแค่ "บล็อก" ลูกบ แต่ให้นำลูกให้หนีออกจากผู้ยืนสนามเพื่อที่เขาจะได้มีเวลาวิ่ง ในครกิเกตมีการเล่นช็อตที่หลากหลาย และผู้ตีสามารถตีลูกออกไปในทุกทิศทางที่ต้องการ ท่าตีต่าง ๆ ในคริกเกตมักนิยมถูกเรียกตามทิศทางของผู้ตีตามรูปด้านข้าง: เช่น " (cut)" "ไดรฟ์ (drive)" "ฮุก (hook)" หรือ "พุล (pull)"
สไตรเกอร์จะต้องป้องกันไม่ให้ลูกชนวิคเกตและพยายามที่จะ โดยการใช้ไม้ตีตีลูกเพื่อให้เขาและเพื่อนผู้ตีของเขามีเวลาที่จะวิ่งออกจากปลายด้านหนึ่งของพิทช์ก่อนที่ฝ่ายสนามจะคืนบอลได้ ในการทำรัน ผู้ตีทั้งสองต้องแตะพื้นที่อยู่หลังป็อปปิงครีสด้วยไม้ตีหรือร่างกายของผู้ตีเอง การวิ่งที่เสร็จสิ้นแต่ละครั้งจะมีค่าเท่ากับหนึ่งรัน
การตัดสินใจของผู้ตีที่จะพยายามวิ่ง จะขึ้นอยู่กับผู้ตีที่มีมุมมองที่ดีกว่าเกี่ยวกับความคืบหน้าของลูกบอล ว่าควรที่จะวิ่งทำรันหรือไม่ และสิ่งนี้จะได้รับการสื่อสารโดยการเรียกว่า "ใช่" "ไม่" หรือ "รอ" ผู้ตีสามารถทำคะแนนได้มากกว่าหนึ่งรันจากการโจมตีครั้งเดียว: การโจมตีที่คุ้มค่าหนึ่งถึงสามรันนั้นเป็นเรื่องปกติ แต่ขนาดของสนามนั้นมักจะเป็นเรื่องยากที่จะทำถึงสี่รันหรือมากกว่านั้น เพื่อชดเชยสิ่งนี้ การตีที่ไปถึงขอบเขตของสนามจะได้รับสี่รันโดยอัตโนมัติหากลูกบอลสัมผัสพื้นระหว่างเส้นทางไปยังขอบเขต หรือหกรันหากลูกบอลบินข้ามเขตโดยไม่สัมผัสพื้นภายในเขต ในกรณีเหล่านี้ ผู้ตีไม่จำเป็นต้องวิ่ง การทำได้ห้ารันหรือมากกว่าเป็นเรื่องผิดปกติ โดยมักจะมาจากการ "โยนเกิน (overthrow)" โดยผู้เล่นสนามที่พยายามส่งลูกกลับ หากสไตรเกอร์ทำแต้มได้เป็นเลขคี่ ผู้ตีทั้งสองยืนสลับกัน และนอนสไตรเกอร์จะเป็นสไตรเกอร์แทน ในขณะที่รันทั้งหมดจะถูกรวมเข้ากับยอดรวมของทีม ในการนับรันส่วนตัวจะมีเพียงแค่สไตรเกอร์เท่านั้นที่มีรายชื่อเป็นผู้ทำรัน
ทีมของผู้ตีสามารถได้จาก (extras) (เรียกว่า "รันจิปาถะ (sundries)" ในออสเตรเลีย) ซึ่งเป็นรันที่มาจจากข้อผิดพลาดที่เกิดจากฝ่ายสนาม โดยรันพิเศษนั้นมีสี่ที่มา:
- (no-ball): การโยนลูกอย่างผิดกฎ เช่น การที่เท้าหน้าของผู้โยนเหยียบเลยป็อปปิงครีส การยืดข้อศอกในการโยน () หรือการโยนลูกสู่ผู้ตีที่ตำแหน่งที่สูงกว่าเอวโดยไม่กระดอนพื้นก่อน
- (wide): การที่ผู้โยนโยนลูกในวิถีที่ผู้ตีไม่สามารถตีลูกโดน เช่น การโยนลูกที่สูงหรือห่างตัวเกินไป หรือการโยนลูกที่ผู้ตีไม่สามารถตีให้โดนโดยยังคงยืนในตำแหน่งเดิมอยู่
- (bye): การที่ผู้โยนโยนลูกไม่ถูกผู้ตีหรือไม้ตี แต่มีความผิดพลาดจากผู้เล่นสนาม (มักเป็นผู้รักษาวิคเกต) จนผูตีฉวยโอกาสวิ่งทำรันได้
- (leg bye): การที่ผู้โยนโยนลูกไปถูกร่างกายผู้ตี แต่ไม่โดนไม้หรือถุงมือของผู้ตี แล้วผูตีฉวยโอกาสวิ่งทำรันได้
ถ้าผู้โยนโยนโนบอลหรือไวด์ เขาจะต้องโยนลูกอีกครั้งเป็นการทดแทน
ทั้งนี้ รันพิเศษจะไม่ถูกนับเป็นรันส่วนตัวที่สไตรเกอร์ทำได้ และบายกับเลกบายไม่ถูกนับเป็นรันส่วนตัวที่ผู้โยนเสีย
ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ
กัปตันทีมมักจะเป็นผู้เล่นที่มีประสบการณ์มากที่สุดและมีกลยุทธ์ที่เฉียบแหลมที่สุดในทีม ในคริกเกต กัปตันทีมนั้นจะเป็นผู้ที่มีบทบาทต่อทีมมากกว่ากัปตันในกีฬาอื่น ๆ ในกฎของคริกเกต กัปตันมีหน้าที่รับผิดชอบในการเสนอชื่อผู้เล่นของเขาให้เป็นผู้ตัดสินก่อนการแข่งขัน เป็นผู้ที่เลือกผู้โยนในโอเวอร์หนึ่ง ๆ เป็นผู้ที่จัดวางตำแหน่งการยืนของผู้ร่วมทีมในสนาม และดูแลให้ผู้เล่นของเขาประพฤติตน "ภายในจิตวิญญาณและประเพณีของการแข่งขันตลอดจนการประพฤติตนในกฎของคริกเกต"
ผู้รักษาวิคเกต (wicket-keeper) [(บางครั้งเรียกว่า "ผู้รักษา (keeper)"] เป็นผู้มีทักษะการรับลูกมากกว่าเพื่อนร่วมทีมคนอื่น ๆ เขาเป็นสมาชิกคนเดียวของฝ่ายสนามที่สามารถทำสตัมป์ได้ และเป็นคนเดียวที่ได้รับอนุญาตให้สวมถุงมือและอุปกรณ์ป้องกันขาภายนอก โดยทั่วไปแล้ว ทีมหนึ่งทีมจะประกอบด้วยผู้ตีเชี่ยวชาญพิเศษห้าหรือหกคน ผู้โยนเชี่ยวชาญพิเศษสี่หรือห้าคน และผู้รักษาวิคเกท
ผู้ตัดสินและผู้บันทึกคะแนน
การแข่งขันในสนามถูกควบคุมโดยสองคน คนหนึ่งยืนอยู่หลังประตูที่ปลายนักโยน อีกคนอยู่ในตำแหน่งที่เรียกว่า "สแควร์เลก" ซึ่งอยู่ห่างจากผู้ตีฝั่งสไตรเกอร์ประมาณ 15-20 เมตร จากป็อปปิงครีส ผู้ตัดสินมีความรับผิดชอบหลายอย่างรวมทั้งการพิจารณาว่าลูกได้รับการโยนอย่างถูกต้อง (เช่นไม่ได้เป็น หรือ ) การตัดสินว่ามีการทำรันแล้ว การตัดสินว่าผู้ตีเอาต์หรือไม่ (ฝ่ายสนามต้องผู้ตัดสินก่อน [โดยปกติแล้วจะใช้วลี "เป็นยังไงบ้าง (How's that?)" หรือ "โอวซัท? (Owzat?) หรือเพียงแค่ตะโกนเฉย ๆ "] ผู้ตัดสินยังคอยดูเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดของการแข่งขัน และความเหมาะสมของสภาพ สนาม และสภาพอากาศในการเล่น ผู้ตัดสินได้รับอนุญาตให้หยุดการแข่งขันหรือละทิ้งการแข่งขันเนื่องจากสถานการณ์ที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้เล่น เช่น สนามที่เปียกชื้นหรือแสงที่เริ่มมัวลง
ในการแข่งขันทางโทรทัศน์ มักจะมีคนที่สามนอกสนามที่สามารถตัดสินใจเกี่ยวกับเหตุการณ์บางอย่างได้โดยใช้หลักฐานทางวิดีโอ สำหรับคริกเกตเทสต์และโอดีไอ เล่นระหว่างประเทศสมาชิกสมบูรณ์ทั้งสิบสองชาติ จะต้องมีผู้ตัดสินที่สามประจำอยู่เสมอ การแข่งขันเหล่านี้ยังมีผู้ตัดสินแมตช์ที่มีหน้าที่ดูแลให้การเล่นเป็นไปตามกฎหมายและจิตวิญญาณของการแข่งขัน
รายละเอียดการแข่งขัน รันและการกำจัดผู้ตีนั้นจะถูกบันทึกโดยสองคน โดยคนหนึ่งเป็นตัวแทนของแต่ละทีม ผู้บันทึกคะแนนจะถูกกำกับโดยสัญญาณมือของผู้ตัดสิน (ดูภาพด้านขวา) ตัวอย่างเช่น ผู้ตัดสินยกนิ้วชี้เพื่อส่งสัญญาณว่าผู้ตีเอาต์ (ถูกกำจัด) เขายกแขนทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะ ถ้าคนตีทำได้หกรัน ผู้บันทึกคะแนนต้องบันทึกทุกรันที่ทำได้ ทุกวิคเกตที่ทำได้ และทุกโอเวอร์ที่มีการโยน ในทางปฏิบัติ พวกเขายังเขียนข้อมูลเพิ่มเติมจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขัน
การแข่งขันจะสรุปไว้ในตารางสรุปสถิติ ในสมัยก่อนที่ตารางสรุปสถิติจะเป็นที่นิยม การบันทึกคะแนนส่วนใหญ่ทำโดยการเขียนขีดแทนรันบนไม้ อ้างอิงจาก ตารางสรุปสถิติที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่รู้จักถูกนำมาใช้ในปี ค.ศ. 1776 โดยที. แพรตต์ จากเมือง และในไม่ช้าตารางสรุปสถิติก็มีการใช้งานโดยทั่วไป เชื่อกันว่าตารางสรุปสถิติถูกพิมพ์และขายที่เป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1846
"จิตวิญญาณของคริกเกต"
นอกจากการปฏิบัติตามกฎหมายแล้ว นักคริกเกตยังต้องเคารพ "จิตวิญญาณของคริกเกต (Spirit of Cricket)" ซึ่งเป็นแนวคิดที่รวม การเล่นที่ยุติธรรม และความเคารพซึ่งกันและกัน "จิตวิญญาณของคริกเกต" นี้ถือเป็นส่วนสำคัญของกีฬามานานแล้ว แต่มีการกำหนดไว้อย่างคลุมเครือเท่านั้น ท่ามกลางความกังวลว่า "จิตวิญญาณของคริกเกต" กำลังจะอ่อนแอลง ในปี ค.ศ. 2000 ได้มีการเขียนคำนำเข้าไปในกฎหมายซึ่งแนะนำให้ผู้เข้าร่วมทุกคนเล่นด้วยจิตวิญญาณของการแข่งขัน คำนำได้รับการปรับปรุงล่าสุดในปี ค.ศ. 2017 ที่เขียนเปิดว่า:
"ความน่าดึงดูดและความสนุกสนานของคริกเกตส่วนมาก มาจากการที่การแข่งขันนั้นไม่ได้มีการเล่นตามเพียงแค่กฎเท่านั้น แต่ยังเล่นตามจิตวิญญาณของคริกเกตอีกด้วย"
คำนำเป็นคำกล่าวสั้น ๆ ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อเน้น "พฤติกรรมเชิงบวกที่ทำให้คริกเกตเป็นการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นที่ส่งเสริมความเป็นผู้นำ มิตรภาพ และการทำงานเป็นทีม" บรรทัดที่สองระบุว่า "ความรับผิดชอบหลักในการสร้างความยุติธรรมนั้นอยู่ที่กัปตัน แต่ความรับผิดชอบนั้นขยายไปถึงผู้เล่นทุกคน เจ้าหน้าที่การแข่งขัน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในคริกเกตรุ่นเยาว์ ครู ผู้ฝึกสอน และผู้ปกครอง"
กรรมการเป็นผู้ตัดสินการเล่นที่ยุติธรรมและไม่ยุติธรรม การเข้าไปแทรกแซงในกรณีที่มีการเล่นที่เป็นอันตรายหรือไม่เป็นธรรม หรือในกรณีที่ผู้เล่นมีพฤติกรรมที่ยอมรับไม่ได้ จะต้องอยู่ภายใต้กฎของคริกเกต
รูปแบบก่อนหน้าของ "จิตวิญญาณของคริกเกต" มีการระบุถึงการกระทำที่ถือว่าเป็นการทำให้ "จิตวิญญาณของคริกเกต" เสื่อมเสีย (เช่น การอุทธรณ์ทั้งที่รู้าผู้ตีไม่เอาต์) แต่รายละเอียดทั้งหมดตอนนี้ครอบคลุมอยู่ในกฎของคริกเกต กฎกติกาการเล่นและประมวลวินัยที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว โดยการตัดสินว่าการกระทำต่าง ๆ นั้นอยู่ใน "จิตวิญญาณของคริกเกต" หรือไม่นั้น จะขึ้นอยู่กับผู้ตัดสิน กัปตันทีม สโมสร และหน่วยงานกำกับดูแล
คริกเกตหญิง
บันทึกแรกเกี่ยวกับคริกเกตหญิงนั้นถูกบันทึกในเซอร์รีย์ ในปี ค.ศ. 1745 การพัฒนาคริกเกตนานาชาติได้เริ่มขึ้นเมื่อต้นศตวรรษที่ 20 และการคริกเกตเทสต์หญิงนัดแรกระหว่างทีมชาติและทีมชาติ ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1934 ในปีถัดมาได้ร่วมเล่นคริกเกตเทสต์ด้วย และในปี ค.ศ. 2007 กลายเป็นทีมที่สิบที่ได้เล่นคริกเกตเทสต์ โดยคู่แข่งทีมแรกคือ
ในปี ค.ศ. 1958 ได้มีการก่อตั้งสภาคริกเกตสตรีสากล (International Women's Cricket Council) ในปี ค.ศ. 1973 การแข่งขันคริกเกตโลกครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อมีการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกหญิงในอังกฤษ ในปี ค.ศ. 2005 สภาคริกเกตสตรีสากลได้รวมเข้ากับสภาคริกเกตนานาชาติ (ICC) เพื่อสร้างองค์กรแบบครบวงจรเพื่อช่วยในการจัดการและพัฒนาคริกเกต
คือเป็นทีมชาติที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในคริกเกตหญิง โดยเป็นผู้ชนะทั้งในรูปแบบโอดีไอและ ถึงรายการละห้าสมัย และเป็นทีมที่ครองอันดับหนึ่งในการจัดอันดับทีมโอดีอของไอซีซีมาหลายปี
การปกครอง
สภาคริกเกตนานาชาติ หรือไอซีซี (International Cricket Council; ICC) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ดูไบ เป็นองค์กรปกครองคริกเกตระดับโลก ก่อตั้งขึ้นในชื่อ ราชคณะคริกเกต (Imperial Cricket Conference) ในปี ค.ศ. 1909 โดยตัวแทนจากอังกฤษ ออสเตรเลีย และแอฟริกาใต้ ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น คณะคริกเกตนานาชาติ (International Cricket Conference) ในปี ค.ศ. 1965 และเปลี่ยนมาใช้ชื่อปัจจุบันในปี ค.ศ. 1989 ในปี พ.ศ. 2021 ไอซีซีมีสมาชิก 105 ประเทศ โดย 12 ประเทศมีสถานะเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบและสามารถเล่นได้ โดยไอซีซีมีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดระเบียบและกำกับดูแลการแข่งขันคริกเกตระดับนานาชาติที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคริกเกตโลกชายและหญิง ทั้งในรูปแบบโอดีไอและที20 นอกจากนี้ไอซีซียังมีหน้าที่แต่งตั้งผู้ตัดสินที่ทำหน้าที่ในการแข่งขันคริกเกตเทสต์ โอดีไอ และที20 ทีมชาติ
ประเทศสมาชิกแต่ละประเทศจะมีคณะกรรมการคริกเกตระดับชาติซึ่งควบคุมการแข่งขันคริกเกตที่เล่นในประเทศของตน เลือกผู้เล่นในทีมชาติ และจัดทัวร์เหย้าและเยือนสำหรับทีมชาติ ในภูมิภาคเวสต์อินดีส ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ประกอบไปด้วยชาติที่เคยเป็นอาณานิคมของจักรววรดิอังกฤษในแคริบเบียน คริกเกตในภูมิภาคนี้จะถูฏควบคุมโดย
ตารางด้านล่างแสดงรายชื่อสมาชิกเต็มรูปแบบของไอซีซี และคณะกรรมการคริกเกตในแต่ละประเทศ:
ชาติ | องค์การปกครอง | เป็นสมาชิกตั้งแต่ |
---|---|---|
อัฟกานิสถาน | 22 มิถุนายน ค.ศ. 2017 | |
ออสเตรเลีย | 15 กรกฎาคม ค.ศ. 1909 | |
บังกลาเทศ | 26 มิถุนายน ค.ศ. 2000 | |
อังกฤษ | 15 กรกฎาคม ค.ศ. 1909 | |
อินเดีย | 31 พฤษภาคม ค.ศ. 1926 | |
ไอร์แลนด์ | 22 มิถุนายน ค.ศ. 2017 | |
นิวซีแลนด์ | 31 พฤษภาคม ค.ศ. 1926 | |
ปากีสถาน | 28 กรกฎาคม ค.ศ. 1952 | |
แอฟริกาใต้ | 15 กรกฎาคม ค.ศ. 1909 | |
ศรีลังกา | 21 กรกฎาคม ค.ศ. 1981 | |
เวสต์อินดีส | 31 พฤษภาคม ค.ศ. 1926 | |
ซิมบับเว | 6 กรกฎาคม ค.ศ. 1992 |
รูปแบบของคริกเกต
คริกเกตเป็นกีฬาที่มีความซับซ้อน และมีการเล่นคริกเกตในหลายรูปแบบโดยสามารถแบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ ๆ คือ (First Class Cricket) และ (Limited Overs Cricket) รูปแบบคริกเกตที่ได้รับการยกว่าเป็นมาตรฐานสูงสุดของกีฬาคือ (Test Cricket; อาจเขียนด้วยตัว "T") ซึ่งถือว่าเป็นสับเซ็ตของคริกเกตเฟิสต์คลาส โดยทีมที่ลงเล่นในคริกเกตเทสต์นั้นเป็นทีมที่เป็นตัวแทนของสิบสองประเทศที่เป็นสมาชิกเต็มรูปแบบของไอซีซี (ดูด้านบน) โดยซีรีส์แรกที่ได้ชื่อว่าเป็นการแข่งขันคริกเกตเทสต์ซีรีส์แรก คือการแข่งขันระหว่างทีมชาติออสเตรเลีย และทีมชาติ ใน ; ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1882 ซีรีส์เทสต์ส่วนใหญ่ระหว่างทีมชาติออสเตรเลียและอังกฤษจะนิยมเรียกว่า (The Ashes) คำว่า "เฟิสต์คลาส (First Class)" ที่แปลว่า "ชั้นหนึ่ง" โดยทั่วไปใช้กับคริกเกตที่เล่นกันฝั่งละสองอินนิงส์ในประเทศที่เป็นสมาชิกเต็มรูปแแบบของไอซีซี คริกเกตเทสต์จะมีเวลาในการเล่นทั้งหมดห้าวัน และสามถึงสี่วันในคริกเกตเฟิสต์คลาส ในการแข่งขันทั้งหมดเหล่านี้ แต่ละทีมจะได้เล่นกันฝั่งละสองอินนิงส์ และผลเสมอสามารถเกิดขึ้นได้
คริกเกตแบบจำกัดโอเวอร์มีกำหนดให้มีผลแพ้ชนะภายในวันเดียว และแต่ละทีมจะได้เล่นกันฝั่งละหนึ่งอินนิงส์ และสามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ คือ (List A Cricket) ซึ่งปกติจะเล่นห้าสิบโอเวอร์ต่อทีม; และคริกเกต [Twenty20; อ่านว่า ทเวนตีทเวนตี นิยมเรียกว่า ที20 (T20)]ซึ่งแต่ละทีมจะเล่นยี่สิบโอเวอร์ต่อทีม โดยคริกเกตแบบจำกัดโอเวอร์ทั้งสองแบบจะเล่นในระดับสากลในฐานะ [Limited Overs Internationals หรือโอดีไอ (LOI)] และ [Twenty20 Internationals หรือที20ไอ (T20I)] ตามลำดับ
มีการเริ่มเล่นคริกเกตลิสต์เอในอังกฤษในฤดูกาล 1963 ในฐานะถ้วยแพ้คัดออกที่แข่งขันกันโดยสโมสรระดับเฟิร์สคลาส ในปี ค.ศ. 1969 ได้มีการจัดการแข่งขันระดับชาติขึ้น แนวคิดนี้ค่อย ๆ นำมาใช้กับประเทศคริกเกตชั้นนำอื่น ๆ และการแข่งขันแบบจำกัดโอเวอร์ระหว่างประเทศครั้งแรกเริ่มเล่นในปี 1971 ในปี 1975 ได้มีการจักแข่งขันคริกเกตโลกครั้งแรกที่ประเทศอังกฤษ ในขณะที่ที 20 เป็นรูปแบบใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การแข่งขันเสร็จสิ้นภายในเวลาประมาณสามชั่วโมง โดยปกติการแข่งขันในรูปแบบนี้จะนิยมเล่นกันในช่วงเย็น มีการครั้งแรกในปี ค.ศ. 2007 คริกเกตแบบจำกัดโอเวอร์จะไม่มีการเสมอ และการแข่งขันที่ยังไม่จบจะถูกประกาศว่า "ไม่มีผลการแข่งขัน"
เคยเป็นรูปแบบที่เป็นที่นิยมในศตวรรษที่ 18 และ 19 และเคยถูกยกว่าเป็นรูปแบบที่เป็นมาตรฐานสูงสุดของกีฬา ในรูปแบบนี้ แม้ว่าแต่ละทีมอาจมีผู้เล่นตั้งแต่หนึ่งถึงหกคน แต่ก็มีผู้ตีเพียงครั้งละหนึ่งคนเท่านั้น และเขาต้องเผชิญหน้าการโยนลูกทุกครั้งในขณะที่อินนิงส์ของเขายังคงอยู่ แทบไม่มีการเล่นคริกเกตวิคเกตเดียวนับตั้งแต่มีการเล่นคริกเกตแบบจำกัดโอเวอร์ แต่ละทีมจะได้เล่นฝั่งละสองอินนิงส์และสามารถมีผลเสมอได้
การแข่งขัน
มาการแข่งขันคริกเกตทั้งในระดับนานาชาติและในประเทศ มีการแข่งขันชิงแชมป์ระดับนานาชาติที่สำคัญหนึ่งรายการต่อรูปแบบ และในประเทศที่เป็นสมาชิกเต็มรูปแบบของไอซีซี จะมีการแข่งขันในประเทศระดับประเทศอย่างน้อยหนึ่งรายการต่อรูปแบบ ในปัจจุบันได้มีการจัดแข่งขันเป็นจำนวนมากทั่วโลก ซึ่งทำให้เกิดวลีว่า "ปรากฏการณ์ที20"
การแข่งขันระดับนานาชาติ
การแข่งขันระดับนานาชาติส่วนใหญ่จะเล่นเป็นส่วนหนึ่งของ 'ทัวร์' เมื่อทีมชาติของประเทศหนึ่งเดินทางไปยังอีกประเทศหนึ่งเป็นเวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน และเล่นการแข่งขันหลายประเภทกับประเทศเจ้าภาพ บางครั้งจะมีการมอบถ้วยรางวัลให้กับทีมผู้ชนะซีรีส์คริกเกตเทสต์ โดยซีรีส์ซึ่งมีชื่อเสียงมากที่สุดคือรายการระหว่างทีมชาติอังกฤษและออสเตรเลีย และระหว่างทีมชาติออสเตรเลียกับ
นอกจากนี้ ไอซีซียังจัดการแข่งขันสำหรับหลายประเทศพร้อมกัน เช่น รายการคริกเกตโลก รายการ และรายการ ไอซีซียังมีการจัดการแข่งขันลีกสำหรับคริกเกตเทสต์ที่นำผลการแข่งขันจากซีรีส์คริกเกตเทสต์ต่าง ๆ คือ โดยเริ่มการแข่งขัน มีการแข่งขันลีกสำหรับโอดีไอ เริ่มขึ้นในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2020 เพื่อเป็นการหาทีมเข้าสู่รายการคริกเกตโลก
ไอซีซียังเป็นผู้ที่ทำการจัดอันดับ และ และมีในตำแหน่งผู้ตี ผู้โยน และออลราวเดอร์ในทั้งสามรูปแบบอีกด้วย
การแข่งขันสำหรับประเทศสมาชิกของไอซีซีที่มีสถานะเป็นสมาชิกร่วม ประกอบไปด้วย สำหรับการแข่งขันคริกเกตเฟิสต์คลาส และสำหรับการแข่งขันแบบวันเดียว การแข่งขันในรอบสุดท้ายของรายการนี้ยังทำหน้าที่เป็นอีกด้วย
การแข่งขันระดับประเทศ
คริกเกตเฟิสต์คลาส
คริกเกตเฟิร์สคลาสในอังกฤษส่วนใหญ่จะเล่นโดย 18 สโมสรระดับเทศมณฑลซึ่งแข่งขันในลีก (County Championship) แนวคิดของแชมป์ระดับประเทศมีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 แต่การแข่งขันอย่างเป็นทางการยังไม่เป็นที่ยอมรับจนถึงปี ค.ศ. 1890 สโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคือ ซึ่งเป็นผู้ชนะในรายการนี้ที่ 33 สมัย
ต่อมาได้มีก่อตั้งการแข่งขันลีกชิงแชมป์ระดับเฟิร์สคลาสในออสเตรเลียขึ้นในปี ค.ศ. 1892-93 ในชื่อ (Sheffield Shield) ในออสเตรเลีย ทีมระดับเฟิร์สคลาสเป็นตัวแทนของรัฐต่าง ๆ โดยทีมเป็นทีมทีชนะเป็นจำนวนครั้งมากที่สุดที่ 47 สมัย
ในอินเดีย ได้มีจัดแข่งขันลีกคริกเกตเฟิสต์คลาสเป็นครั้งแรกในฤดูกาล 1934-35 ในชื่อ (Ranji Trophy) โดยทีมมุมไบเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด โดยได้ตำแหน่งชนะเลิศที่ 41 สมัย
ประเทศสมาชิกไอซีซีเต็มรูปแบบประเทศอื่น ๆ เองก็ได้มีการแข่งขันคริกเกตเฟิสต์คลาสระดับชาติของตนเอง โดยประกอบไปด้วย (อัฟกานิสถาน); (บังคลาเทศ); (ไอร์แลนด์); (นิวซีแลนด์); (ปากีสถาน); (แอฟริกาใต้); (ศรีลังกา); (เวสต์อินดีส); และ (ซิมบับเว)
คริกเกตลิสต์เอ
การแข่งขันคริกเกตลิสต์เอรายการแรกคือรายการ (Gillette Cup) ซึ่งประกอบด้วยทีมมณฑลทั้ง 18 ทีมของอังกฤษ โดยมีการแข่งขันครั้งแรกในปี ค.ศ. 1963 การแข่งขันคริกเกตลิสต์เอในประเทศอื่น ๆ ที่สำคัญ ได้แก่รายการ (Royal London One-Day Cup) ในประเทศอังกฤษ (Vijay Hazare Trophy) ในประเทศอินเดีย และ (Marsh One-Day Cup) ในประเทศออสเตรเลีย
คริกเกตที 20
[T20 Blast] เป็นการแข่งขันคริกเกตที20 รายการแรกที่เริ่มมีการแข่งขันขึ้นในปี ค.ศ. 2003 ในชื่อทเวนตี20คัพ (Twenty20 Cup) โดยประกอบด้วยทีมมณฑลทั้ง 18 ทีมของอังกฤษเช่นเดียวกับจิลเลตต์คัพ จดประสงค์ของการแข่งขันรูปแบบใหม่นั้นเกิดขึ้นเพื่อเป็นการเพิ่มฐานผู้รับชมคริกเกตในอังกฤษที่กำลังลดลง ซึ่งในรอบชิงชนะเลิศระหว่างและ มียอดผู้ชมที่ 27,509 คน ซึ่งเป็นยอดผู้ชมที่สูงที่สุดในคริกเกตมณฑล (ยกเว้นการแข่งขันคริกเกตลิตส์เอรอบชิงชนะเลิศ) นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1953 ซึ่งความสำเร็จนี้ได้ทำให้มีการเริ่มจัดแข่งขันคริกเกตที 20 ขึ้นมาในประเทศต่าง ๆ
อินเดียนพรีเมียร์ลีก [(Indian Premier League หรือไอพีแอล (IPL)] เป็นลีกคริกเกตแฟรนไชส์ที่เล่นในรูปแบบที 20 ที่จัดแข่งขันในประเทศอินเดีย และเป็นลีกที่ได้ชื่อว่ามีมูลค่าสูงที่สุดในคริกเกต โดยมีมูลค่าที่ 475 พันล้านรูปีในปี ค.ศ. 2019 ไอพีแอลเริ่มมีการแข่งขันเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 2008 จากความสำเร็จของในปีก่อนหน้านั้น ทีมประสบความสำเร็จมากที่สุดในไอพีแอลคือทีมซึ่งเป็นผู้ชนะเลิศที่ 5 สมัย
ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับคริกเกตได้ได้ให้ความเห็นว่าไอพีแอลนั้นได้ส่งผลต่อวงการคริกเกตทั่วโลก โดยนอกจากจะทำให้วงการคริกเกตมีเงินสะพัดในระดับที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนแล้ว ความสำเร็จไอพีแอลยังส่งผลให้มีการก่อตั้งการแข่งขันแฟรนไชส์ที 20 ขึ้นมาทั่วโลก เช่น [Caribbean Premier League หรือซีพีแอล (CPL)] ในภูมิภาคแคริบเบียน [Pakistan Super League หรือพีเอสแอล (PSL)] ในประเทศปากีสถาน และ [Big Bash League หรือบีบีแอล(BBL)] ในประเทศออสเตรเลีย
อื่น ๆ
เป็นรายการแข่งขันคริกเกตสามวันที่เริ่มมีการแข่งขันในปี ค.ศ. 1895 โดยมีทีมจากมณฑลที่ไม่ได้เข้าร่วมแข่งขันใน และทีมสำรองจากทีมในเคาน์ตีแชมเปียนชิป ก่อนที่ในปี ค.ศ. 1959 ทีมสำรองทั้งหลายได้แยกออกมาแข่งขันคริกเกตสามวันในชื่อ
คริกเกตสโมสรและโรงเรียน
การแข่งขันคริกเกตที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่รู้จักกันคือการแข่งขันที่ฟมู่บ้าน (Chevening) ในมณฑลเคนต์ ซึ่งอนุมานได้จากคดีในศาลในปี 1640 ที่บันทึกถึง "การเล่นคริกเกต" ของทีม "วีลด์และพวกอัปแลนด์ (Weald and the Upland)" กับทีม "ชอล์คฮิลล์ (Chalk Hill)" เมื่อ "ประมาณสามสิบปีแล้ว" ( คือ ป. 1611 ). การแข่งขันระหว่างตำบลเริ่มได้รับความนิยมในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 17 และยังคงพัฒนาต่อไปจนถึงศตวรรษที่ 18 โดยมีลีกท้องถิ่นลีกแรก ๆ ก่อตั้งขึ้นในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19
ในระดับรากหญ้า มีการเล่นมักจะหมายถึงคริกเกตระดับสมัครเล่นที่ผู้เล่นเล่นเป็นงานอดิเรก แต่บางครั้งอาจหมายถึงคริกเกตที่เล่นในการแข่งขันในช่วงสุดสัปดาห์หรือในตอนเย็น ซึ่งมีหลักฐานว่ามีการเล่นเป็นครั้งแรกในตอนใต้ของอังกฤษในศตวรรษที่ 17 และยังคงเล่นดันอย่างทั่วไปในทณฑลที่คริกเกตเป็นที่นิยม แม้ว่ารูปแบบการแข่งขันจะมีความแตกต่างกันเมื่อเทียบกับคริกเกตมืออาชีพ การแข่งขันระดับสมัครเล่นยังคงเล่นภายใต้กฎของคริกเกต และการแข่งขันของสโมสร/โรงเรียนยังถือว่าเป็นกิจกรรมที่เป็นทางการและมีการแข่งขันเป็นรายการชิงแชมป์ นอกจากนี้ ยังมีการเล่นคริกเกตในระดับสมัครเล่นในแบบที่ไม่เป็นทางการมากมาย เช่น
คริกเกตและวัฒนธรรม
อิทธิพลของคริกเกตในชีวิตประจำวัน
คริกเกตมีผลกระทบในวงกว้างต่อวัฒนธรรมสมัยนิยม ทั้งในเครือจักรภพแห่งประชาชาติ และที่อื่น ๆ ตัวอย่างเช่น มีอิทธิพลต่อศัพท์เฉพาะของชาติเหล่านี้ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ด้วยวลีต่าง ๆ เช่น
- "นั่นไม่ใช่คริกเกต (that's not cricket)" หมายถึง ไม่ยุติธรรม
- "มีที่ดี (had a good innings)" หมายถึง มีอายุยืนยาว
- " (sticky wicket)" หรือ "บนวิคเกตเหนียว (On a sticky wicket)" [หรือที่รู้จักว่า "สุนัขเหนียว (sticky dog)" หรือ "หม้อกาว (glue pot)"] เป็น คำอุปมา ใช้เพื่ออธิบายสถานการณ์ที่ยากลำบาก มีต้นกำเนิดมาจากคำที่ใช้เรียกสภาพการตีลูกยากในคริกเกต ซึ่งเกิดจากสนามที่เปียกชื้น ซึ่งเป็นสภาพวิคเกตที่เห็นได้ทั่วไปในอดีต
คริกเกตในศิลปะและวัฒนธรรมสมัยนิยม
คริกเกตเป็นหัวข้อที่กวีชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียงหลายคนเคยใช้ รวมถึงวิลเลียม เบลก และลอร์ดไบรอน โดย (Beyond a Boundary) (1963) เขียนโดยนักเขียนชาวตรินิแดด เป็นหนังสือที่มักได้รับการขนานนามว่าเป็นหนังสือที่ดีที่สุดในกีฬาทุกประเภทที่เคยเขียนมา
ในทัศนศิลป์ ได้มีภาพวาดคริกเกตที่โดดเด่น ได้แก่ภาพ ของ และภาพ เหล่านักคริกเกต (The Cricketers) (1948) ของ ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น "ภาพวาดจากออสเตรเลียที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งศตวรรษที่ 20" จิตรกรอิมเพรสชันนิสม์ชาวฝรั่งเศส กามีร์ ปีซาโร ได้วาดภาพคริกเกตเมื่อไปเยือนอังกฤษในช่วงทศวรรษที่ 1890 ภาพยนตร์ของผู้ตีของ ฟรานซิส เบคอน ที่เป็นแฟนคริกเกตตัวยง ภาพคริกเกตของเวนดี นานัน ศิลปินชาวแคริบเบียน ถูกนำใช้ในฉบับแรกของชุดสแตมป์ "เวิลด์ออฟอินเวนชัน (World of Invention)" ของราชไปรษณีย์อังกฤษ ซึ่งเป็นการฉลองการประชุมคริกเกตลอนดอนในวันที่ 1-3 มีนาคม ค.ศ. 2007 ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกในการประชุมเชิงศิลปะระดับนานาชาติครั้งแรกที่เกี่ยวกับคริกเกต และเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลอง
อิทธิพลของคริกเกตต่อกีฬาอื่น ๆ
คริกเกตมีความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์ที่ใกล้ชิดกับ และผู้เล่นหลายคนได้ ในปี ค.ศ. 1858 นักคริกเกตชาวออสเตรเลียผู้โด่งดังได้เรียกร้องให้มีการสร้าง "สโมสรฟุตบอล" เพื่อให้นักคริกเกตยังคงสภาพร่างกายในช่วงนอกฤดูกาล ในปีต่อมาสโมสรฟุตบอลเมลเบิร์นได้ก่อตั้งขึ้น ในขณะที่วิลส์และสมาชิกอีกสามคนได้เขียนกฎฉบับแรกของของกีฬาขึ้นมา โดยทั่วไปแล้ว ออสเตรเลียนฟุตบอลจะเล่นใน
ในอังกฤษ สโมสรแอสโซซิเอชันฟุตบอลหลายแห่งมีต้นกำเนิดมาจากการที่นักนักคริกเกตที่ต้องการตั้งสโมสรเพื่อเล่นฟุตบอล ในแผนการรักษาร่างกายให้สมบูรณ์ตลอดช่วงฤดูหนาว ในปี ค.ศ. 1884 สโมสรฟุตบอลดาร์บีเคาน์ตีได้ก่อตั้งขึ้นในฐานะสาขาหนึ่งของ ในช่วงนั้นเอง สโมสรแอสตันวิลลา (1874) และสโมสรเอฟเวอร์ตัน (1876) ได้ก่อตั้งโดยสมาชิกของทีมคริกเกตของโบสถ์ท้องถิ่น สนามบรามอลล์เลน ของ เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด เคยเป็นสนามเหย้าของและ ; ไม่มีการใช้สำหรับฟุตบอลจนกระทั่งปี ค.ศ. 1862 และถูกใช้ร่วมกันโดยยอร์คเชอร์และเชฟฟิลด์ยูไนเต็ดจาก ค.ศ. 1889 ถึง 1973
ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 อดีตนักคริกเกตที่เกิดในอังกฤษชื่อ จากบรุกลิน นิวยอร์ก ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้สร้างใบบันทึกคะแนนเบสบอลใบแรก ซึ่งเขาดัดแปลงมาจากใบบันทึกคะแนนคริกเกต ใบบันทึกคะแนนใบแรกปรากฏให้เห็นในฉบับปี 1859 ของนิตยสาร คลิปเปอร์ (Clipper) ใบบันทึกคะแนนของแชดวิกมีความสำคัญต่อ "แก่นแท้ทางประวัติศาสตร์" ของเบสบอลเป็นอย่างมาก จนทำให้บางครั้งนักประวัติศาสตร์เบสบอลได้เรียกแชดวิกว่า "บิดาของเบสบอล" เพราะเขาผู้เป็นบุคคลสำคัญที่ช่วยทำให้เบสบอลเริ่มเป็นที่นิยมในช่วงศตวรรษที่ 19
ดูเพิ่ม
-
- (Bete-ombro) - คริกเกตรูปแบบบราซิล
- (Plaquita) - คริกเกตรูปแบบโดมินิกัน
- เบสบอล
เชิงอรรถ
หมายเหตุ
- คำว่า "มือสมัครเล่น" ในบริบทนี้ ไม่ได้หมายถึงผู้ที่เล่นคริกเกตเป็นงานอดิเรก ผู้เล่นสมัครเล่นหลายคนนั้นเล่นคริกเกตเฟิร์สทคลาสเป็นงานเต็มเวลา ซึ่งรสมไปถึงผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์กีฬาคนหนึ่งอย่างดับเบิลยู.จี. เกรซ
- ความแตกต่างที่สำคัญของคริกเกตกับกีฬาไม้ตีและลูกกีฬาอื่น ๆ คือในขณะที่เบสบอลและเทนนิสจะมีการเปลี่ยนลูกเพื่อให้คงสภาพที่ดีที่สุดในการเล่น ในคริกเกตจะมีการใช้ลูกคริกเกตอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการเปลี่ยนลูกในช่วงเวลาที่แตกต่างกันไปในแต่ละรูปแบบ
- ในคริกเกตเทสต์ จะมีการเปลี่ยนลูกทุก ๆ 80 โอเวอร์ หรือจนกว่าจะขึ้นอินนิงส์ใหม่
- ในคริกเกตโอดีไอ จะมีการใช้ลูกคริกเกตสองลูกในแต่ละอินนิงส์ โดยการเปลี่ยนลูกจะเกิดขึ้นในโอเวอร์ที่ 34
- ในคริกเกตที 20 จะมีการใช้ลูกคริกเกตเพียงลูกเดียวตลอดทั้งอินนิงส์
- ในกรณีของคริกเกตจำกัดโอเวอร์ หากผู้โยนโยนโนบอล ลูกที่ผู้โยนต้องโยนทดแทนจะเรียกว่า (free hit) ซึ่งผู้ตีจะไม่สามารถถูกทำให้เอาต์จากวิธีการใด ๆ ยกเว้นรันเอาต์ได้
อ้างอิง
- https://australiansportscamps.com.au/blog/how-to-teach-cricket-to-kids-beginners/
- "ICC survey reveals over a billion fans – 90% in subcontinent".
- "Cricket, baseball, rounders and softball: What's the difference?". www.bbc.co.uk. สืบค้นเมื่อ 5 September 2020.
- Major (2007), p. 17.
- Barclays (1986), p. 1.
- Altham (1962), pp. 19–20.
- Altham (1962), p. 21.
- Underdown (2000), p. 3.
- Major (2007), p. 19.
- Altham (1962), p. 22.
- Major (2007), p. 31.
- Birley (1999), p. 3.
- Bowen (1970), p. 33.
- Terry, David (2000). "The Seventeenth Century Game of Cricket: A Reconstruction of the Game" (PDF). The Sports Historian, No. 20. London: The British Society of Sports History. pp. 33–43. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 27 November 2009. สืบค้นเมื่อ 2 May 2016.
- Hardman, Ray (31 October 2013). "Before There Was Baseball, There Was Wicket". www.wnpr.org (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 5 September 2020.
- Birley (1999), p. 9.
- Barclays (1986), pp. 1–2.
- Major (2007), pp. 21–22.
- McCann (2004), p. xxxi.
- Underdown (2000), p. 4.
- McCann (2004), pp. xxxiii–xxxiv.
- McCann (2004), pp. xxxi–xli.
- Underdown (2000), pp. 11–15.
- Birley (1999), pp. 7–8.
- Major (2007), p. 23.
- Birley (1999), p. 11.
- Birley (1999), pp. 11–13.
- Webber (1960), p. 10.
- Haygarth (1862), p. vi.
- McCann (2004), p. xli.
- Major (2007), page 36.
- Major (2007), pp. 268–269.
- Williams (2012), p. 23.
- Williams (2012), pp. 94–95.
- Birley (1999), p. 146.
- Birley (1999), pp. 14–16.
- (1900). . . Cardiff: . pp. 4–85. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 September 2017. สืบค้นเมื่อ 8 September 2017.
- Nyren (1833), pp. 153–154.
- Wisden. "Evolution of the Laws of Cricket". Wisden Cricketers' Almanack, 100th edition (1963 ed.). London: Sporting Handbooks Ltd. pp. 184–187.
- Birley (1999), pp. 64–67, 97–101.
- Barclays (1986), p. 456.
- . . Cardiff: . 1889. pp. 478–479. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 September 2017. สืบค้นเมื่อ 3 July 2017.
- (1978). The Golden Age of Cricket: 1890–1914. Guildford: Lutterworth Press. ISBN .
- Das, Deb (n.d.). "Cricinfo – Cricket in the USA". ESPNcricinfo. สืบค้นเมื่อ 9 March 2007.
- Birley (1999), pp. 96–97.
- Barclays (1986), pp. 62, 78, 87, 99, 113, 127 & 131.
- Birley (1999), p. 97.
- . National Museum of Australia. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-09-08. สืบค้นเมื่อ 30 December 2014.
- Anthony Bateman; Jeffrey Hill (17 March 2011). The Cambridge Companion to Cricket. Cambridge University Press. p. 101. ISBN .
- Reg Hayter, "The Centenary Test Match", 1978, pp. 130–32.
- ; Simon Balderstone; John Bowan (2006). Events That Shaped Australia. New Holland. p. 75. ISBN .
- Wisden. "Dates in Cricket History". Wisden Cricketers' Almanack, 100th edition (1963 ed.). London: Sporting Handbooks Ltd. p. 183.
- "Notes by the Editor". Wisden Cricketers' Almanack online. ESPNcricinfo. 1982. สืบค้นเมื่อ 2 July 2017.
- Booth, Douglas (1998). The Race Game: Sport and Politics in South Africa. Routledge. p. 88. ISBN .
- Wisden. "One-Day Knockout Competition, 1963". Wisden Cricketers' Almanack, 100th edition (1963 ed.). London: Sporting Handbooks Ltd. pp. 1074–1076.
- Barclays (1986), pp. 495–496.
- Barclays (1986), pp. 496–497.
- "Not luck, not fluke - New Zealand deserve to be the World Test Champions". ESPNcricinfo (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-06-27.
- "Laws". Laws of Cricket. MCC. สืบค้นเมื่อ 4 July 2017.
- "Law 1 – Players". Laws of Cricket. MCC. สืบค้นเมื่อ 1 July 2017.
- "Law 19 – Boundaries". Laws of Cricket. MCC. สืบค้นเมื่อ 3 July 2017.
- . Laws of Cricket. MCC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 July 2017. สืบค้นเมื่อ 3 July 2017.
- "Law 8 – The wickets". Laws of Cricket. MCC. สืบค้นเมื่อ 3 July 2017.
- . Laws of Cricket. MCC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 July 2017. สืบค้นเมื่อ 3 July 2017.
- . Laws of Cricket. MCC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 July 2017. สืบค้นเมื่อ 2 July 2017.
- "Law 18 – Scoring runs". Laws of Cricket. MCC. สืบค้นเมื่อ 2 July 2017.
- . Laws of Cricket. MCC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 July 2017. สืบค้นเมื่อ 2 July 2017.
- "LAW 25 BATTER'S INNINGS; RUNNERS | MCC". www.lords.org. สืบค้นเมื่อ 5 January 2020.
{{}}
: CS1 maint: url-status () - (PDF). ICC. 1 September 2019. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2019-09-03. สืบค้นเมื่อ 2021-11-01.
- . Laws of Cricket. MCC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 January 2017. สืบค้นเมื่อ 2 July 2017.
- "Law 3 – The umpires". Laws of Cricket. MCC. สืบค้นเมื่อ 4 July 2017.
- "Australia v England, 3rd Test, 1970/71". CricketArchive. สืบค้นเมื่อ 4 July 2017.
- . Laws of Cricket. MCC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 July 2017. สืบค้นเมื่อ 4 July 2017.
- . Laws of Cricket. MCC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 July 2017. สืบค้นเมื่อ 7 July 2017.
- . Laws of Cricket. MCC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 July 2017. สืบค้นเมื่อ 7 July 2017.
- Birley (1999), p. 343.
- . Laws of Cricket. MCC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 July 2017. สืบค้นเมื่อ 4 July 2017.
- . Laws of Cricket. MCC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 July 2017. สืบค้นเมื่อ 4 July 2017.
- . Laws of Cricket. MCC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 July 2017. สืบค้นเมื่อ 4 July 2017.
- ภาพนี้เป็นภาพถ่ายจากการแข่งขันโอดีไอระหว่าง ทีมชาติออสเตรเลียและ โดยผู้โยนจากศรีลังกากำลังโยนลูกไปหาผู้ตีออสเตรเลีย
- . Laws of Cricket. MCC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 July 2017. สืบค้นเมื่อ 7 July 2017.
- Marylebone Cricket Club. (PDF). Lords the Home of Cricket. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 27 June 2017. สืบค้นเมื่อ 4 May 2018.
- "Most wickets taken in an ICC World Cup career (male)". Guinness World Records. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
- "Types of fast bowling". TalkCricket. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
- "Spin bowling". TalkCricket. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
- . Laws of Cricket. MCC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-07-03. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
- "Law 32 – Caught". Laws of Cricket. MCC. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
- "Law 38 – Run out". Laws of Cricket. MCC. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
- "Law 39 – Stumped". Laws of Cricket. MCC. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
- "Law 36 – Leg before wicket". Laws of Cricket. MCC. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
- "Law 35 – Hit wicket". Laws of Cricket. MCC. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
- "Law 37 – Obstructing the field". Laws of Cricket. MCC. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
- "Law 34 – Hit the ball twice". Laws of Cricket. MCC. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
- . Laws of Cricket. MCC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 July 2017. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
- . MCC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 July 2017. สืบค้นเมื่อ 18 July 2017.
- . Laws of Cricket. MCC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 July 2017. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
- "Grip, Stance, Back-Lift". สืบค้นเมื่อ 12 October 2019.
- "Batting". TalkCricket. สืบค้นเมื่อ 7 July 2017.
- "Law 18 – Scoring runs". Laws of Cricket. MCC. สืบค้นเมื่อ 7 July 2017.
- "Law 19 – Boundaries". Laws of Cricket. MCC. สืบค้นเมื่อ 7 July 2017.
- . Laws of Cricket. MCC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 July 2017. สืบค้นเมื่อ 7 July 2017.
- . Laws of Cricket. MCC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 July 2017. สืบค้นเมื่อ 7 July 2017.
- . Laws of Cricket. MCC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 July 2017. สืบค้นเมื่อ 7 July 2017.
- . Laws of Cricket. MCC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 April 2017. สืบค้นเมื่อ 4 July 2017.
- "Bowling Strategy". TalkCricket. สืบค้นเมื่อ 7 July 2017.
- "Batting Strategy". TalkCricket. สืบค้นเมื่อ 7 July 2017.
- . Laws of Cricket. MCC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 July 2017. สืบค้นเมื่อ 4 July 2017.
- Bowen (1970), p. 57.
- Bowen (1970), p. 266.
- Bowen (1970), p. 274.
- "Preamble to the Laws". Laws of Cricket. MCC. สืบค้นเมื่อ 4 June 2020.
- (PDF). Laws of Cricket. MCC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 27 June 2017. สืบค้นเมื่อ 10 September 2018.
- "ICC History of Cricket (pre-1799)". ICC. สืบค้นเมื่อ 7 July 2017.
- "ICC History of Cricket (20th century)". ICC. สืบค้นเมื่อ 7 July 2017.
- "ICC Launches Global Women's T20I Team Rankings" (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 12 October 2018.
- "About the ICC". ICC. สืบค้นเมื่อ 7 July 2017.
- "About the England and Wales Cricket Board". ECB. สืบค้นเมื่อ 7 July 2017.
- "Cricket West Indies". Cricket West Indies. สืบค้นเมื่อ 7 July 2017.
- . International Cricket Council. ICC Development (International) Limited. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-07-07. สืบค้นเมื่อ 9 February 2016.
- "A brief history ..." Cricinfo. สืบค้นเมื่อ 2 May 2008.
- Rundell, Michael (2006). Dictionary of Cricket. London: A&C Black Publishers Ltd. p. 336. ISBN . สืบค้นเมื่อ 17 October 2011.
- "ICC clarification of limited overs". ESPNcricinfo. สืบค้นเมื่อ 8 July 2017.
- "The first official T20". ESPNcricinfo. 12 March 2016. สืบค้นเมื่อ 8 July 2017.
- Major (2007), pp. 155–167 & 404–410.
- "The T20 Revolution - The Freelancers". Cricbuzz (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 9 September 2020.
- Playfair. Marshall, Ian (บ.ก.). Playfair Cricket Annual (70th edition) (2017 ed.). London: Headline. p. 216.
- Harte, p. 175.
- Weaver, Paul (25 May 2009). "Usman Afzaal gives Surrey winning start but absent fans fuel concerns". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 17 May 2012.
- Laghate, Gaurav (20 September 2019). "IPL brand valuation soars 13.5% to Rs 47,500 crore: Duff & Phelps". The Economic Times. สืบค้นเมื่อ 22 September 2019.
- "IPL world's 6th most attended league, Big Bash 9th: Report".
- "The lowdown on the major T20 leagues".
- Birley (1999), pp. 9–10.
- Birley (1999), pp. 151–152.
- "Rules of French Cricket". topend sports. สืบค้นเมื่อ 8 July 2017.
- Green, Jonathon (1987). Dictionary of Jargon. Routledge. p. 528. ISBN .
- Marcus Callies; Wolfram R. Keller; Astrid Lohöfer (2011). Bi-directionality in the Cognitive Sciences: Avenues, Challenges, and Limitations. John Benjamins Publishing. pp. 73–. ISBN .
- Robert Hendrickson (2001). World English: From Aloha to Zed. Wiley. ISBN .
- Smart, Alastair (20 July 2013). "The art of cricket: Enough to leave you stumped", The Telegraph. Retrieved 12 March 2016.
- Rosengarten, Frank (2007). Urbane Revolutionary: C. L. R. James and the Struggle for a New Society. University Press of Mississippi, ISBN p. 134
- Meacham, Steve (6 June 2009). "Montmartre, with eucalypts". Sydney Morning Herald. Fairfax. สืบค้นเมื่อ 31 August 2009.
- "Caribbean cricket art, in the middle". BBC News. สืบค้นเมื่อ 11 June 2016.
- . Bletchley Park Post Office. March 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-07-16. สืบค้นเมื่อ 11 June 2016.
- Blainey, Geoffrey (2010). A Game of Our Own: The Origins of Australian Football. Black Inc. p. 186. ISBN .
- de Moore, Greg (2008). Tom Wills: His Spectacular Rise and Tragic Fall. Allen & Unwin. pp. 77, 93–94. ISBN .
- Hess, Rob (2008). A National Game: The History of Australian Rules Football. Viking. p. 44. ISBN .
- Goldstein, p. 184.
- Goldstein, pp. 15 & 184.
- Goldstein, p. 458.
- His Hall of Fame plaque states, in part: "Inventor of the box score. Author of the first rule-book ... Chairman of rules committee in first nationwide baseball organization." Lederer, Rich. By the Numbers: Computer technology has deepened fans' passion with the game's statistics. Memories and Dreams (Vol. 33, No. 6; Winter 2011[–2012], pp. 32–34). official magazine.
- Pesca, Mike (30 July 2009). "The Man Who Made Baseball's Box Score a Hit". . สืบค้นเมื่อ 8 March 2014.
- Arango, Tim (12 November 2010). "Myth of baseball's creation endures, with a prominent fan". The New York Times. สืบค้นเมื่อ 8 November 2014.
แหล่งข้อมูลอื่น
องค์กรและการแข่งขัน
- สภาคริกเกตนานาชาติ (ICC)
- ESPNcricinfo
สื่อ
- คำอธิบายของคริกเกต:
- คริกเกตคืออะไร? ทำความรู้จักกับกีฬา : วิดีโอที่ผลิตโดยสภาคริกเกตนานาชาติ
ข่าวสารและข้อมูลอื่น ๆ
- "คริกเกต" . สารานุกรมบริแทนนิกา ออนไลน์
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
khrikekt epn thielnrahwangsxngthimkhxngphuelnsibexdkhninsnamthisunyklangmikhwamyaw 22 hla 20 emtr kbthiplayaetladankhxngphithch aetlawikhektprakxbdwylukekliywimeriykwasxngluk wangxyubnaethngimsamaethngthieriykwa karaekhngkhnkhrikektekidkhunemuxoyncakdanhnungkhxngphithchiphathixyuxikdankhxngphithch odyphutinncasamarththarniddwykartilukaelawingipyngxikdankhxngphithch odykarwingkhamfnghnungkhrngcaethakbhnungrn hakphutisamarthtilukipcnthungesnkhxbsnamid thimkhxngphuticaidsirn aelahakhakphutisamarthtilukipkhamxxkesnkhxbsnamid thimkhxngphuticaidhkrnkhrikektkaraekhngkhnthisnam inoklkata praethsxinediysmaphnthsungsudelnkhrngaerkphakhtawnxxkechiyngitkhxngxngkvs inchwngklangstwrrsthi 16lksnaechphaakarpathaimmiphuelninthimfngla 11 khn samarthichinbangsthankarn aekhngrwmchayhyingimmihmwdhmukilapraephththim xupkrn sthanthixphithancdaekhngkhnpraeths phumiphakhthwolk epnthiniyminekhruxckrphph oyechphaainexechiyit oxlimpik echphaainoxlimpikvdurxn 1900 inkhnathithimkhxngphuoyncatxngthaihphutithuk niymeriykwakarthaihphutiexat odykarthaihphutiexatnnxacepnkaroynlukephuxthalaywikhektihebltklngmacakstmp eriykwa karrblukkhrikektkxnluktkthungphun eriykwa karthalaywikhektkxnthiphuelnfngphuticawingipthungxikfngkhxngphitch eriykwa karthirblukwikhektthiphutitiimodn aelwthalaywikhektkxnthiphuelnphuticaklbipxyuinaednkhxngphutiidthn eriykwa hruxkarthaoynlukihodnphutiodythiimodnimkhrikekt odywithikhxnglukcaipchnwikekt eriykwa hakphuoynoynbxlkhrbhkkhrng cathuxwaphuoynoynkhrbaelatxngslbihphuxunepnphuoynaethn emuxphuelnexatthungsibcaksibexdkhn hruxthimkhxngphuoynoynlukcnkhrboxewxrthicakdiw cathuxwacasinsudlnghnungxinnings aelathimcaslbbthbathkn khrikektthuktdsinodyphutdsinsxngkhn odyidrbkhwamchwyehluxcakaelaphutdsinaemthchinkaraekhngkhnradbnanachati khrikektepnkilathimihlayrupaebb odyrupaebbkhxngkhrikektthiepnniymnnmitngaet Twenty20 niymeriykwathi20 T20 sungaetlathimcamioxkastifngla 20 oxewxr aelaekmodythwipcakinewlasamchwomng One Day International niymeriykwaoxdiix ODI thiaetlathimcadifngla 50 oxewxr aelaekmodythwipcakinewlahkchwomng aela Test Cricket sungaetlathimcatifnglasxngxinnings aelaaetlanningscayawkixinningskid odykhrikektethstcamiewlaelnnanthunghawn tamthrrmeniymaelwnkkhrikektefistkhlas sungrwmthungnkkhrikektethst caelninchudsikhawlwn aetin sungrwmthi20 aelaoxdiix nkkilacaswmchudsitamsomsrhruxsipracathim nxkehnuxcakchudxupkrnphunthanaelw phuelnbangkhnswmxupkrn pxngknephuxpxngknkarbadecbthiekidcaklukkhrikekt sungepnthrngklmaekhngthithacakhnngxd odymitaekhbeybthiykkhunelknxylxmrxbaeknimkxkthimichnechuxkrdaennhlaychn withikarchnainkhrikektnnmisxngrupaebb odythimthitikxncatxngpxngknimihthimkhuaekhngtharnihthnthimkhxngtn imwacaepnkarthaihthimtrngkhamexatthngthim hruxkarcakdimihthimtrngkhamtharnimthnethakbthithimtnthaidincanwnoxewxrthicakdiw inkhnathithimthitithihlngcachnaidhaksamarththarnidthnkxnthicathukthaihexatthngthim hruxkxnhmdcanwnlukthicatiid mikarxangxingwakhrikektmikarelnkhrngaerkthiphakhtawnxxkechiyngitkhxngxngkvsinchwngklangstwrrsthi 16 aelaidaephrkracayipthwolkphrxmkbkarkhyaytwkhxngckrwrrdixngkvs odymikaraekhngkhnradbnanachatikhrngaerkinchwngkhrunghlngkhxngstwrrsthi 19 hnwyngankakbduaelkhxngekmkhuxsphakhrikektnanachati hruxixsisi International Cricket Council ICC sungmismachikmakkwa 100 smakhm odysibsxngsmakhmnnmisthanaepnsmachiketmrupaebb thicasamarthaekhngkhrikektethstid kdkaraekhngkhnkhxngkhrikekt Laws of Cricket idrbkarduaelody Marylebone Cricket Club MCC in lxndxn khrikektepnthiniymin exechiyit xxstraelesiy shrachxanackr aexfrikatxnit aela hmuekaaewstxindis mikaraekhngkhnkhrikekthyingmatngaettnstwrrsthi 20 thimchatithiprasbkhwamsaercmakthisudinkarelnoxdiixkhux thimchatixxsetreliy sungepnphuchnainkaraekhngkhnoxdiixkhxngixsisiecdraykar rwmthungkhrikektolkthunghasmy odythimchatixxsetreliyyngepnthimthiprasbkhwamsaercmakthisudinkhrikektethstxikdwy thimthiprasbkhwamsaercinradbnanachatinnprakxbipdwy aelaprawtitnkaenid phaphcakhnngsux aekhntiekhilsxxfohliaemri cakstwrrsthi 13 aesdngthungkaraekhngkhnekmkhlbbxl thiphuoyntxngoynlukcakdanlang aelaaesdngthungphuelnfngoynthiyunsnam khrikektepnhnunginhlay ekmin khlbbxl club ball thiekiywkhxngkbkartilukechnediywkbebsbxl sungmi makkbkhrikekt kxlf hxkki ethnnis skhwxch aebdmintnaelaethebilethnnis odykhwamaetktangrahwangkhrikektaelaxun nnkhuxkartidtngwikhektxyudanplaythngsxngkhxngphithchthiphutitxngpxngkn nkprawtisastrkhrikektaehrri xlaethmidrabuiwthung khlbbxl samklum klumhxkki sunglukbxlthuksngipmarahwangsxngepahmay pratu klumkxlf sunglukbxlthuksngipyngepahmaythiimmikarpxngkn hlum aela klumkhrikekt sung lukbxlmungepaipthiekhruxnghmay wikhekt aelathuksngxxkip epnthiechuxknodythwipwakhrikektmitnkaenidmacakkarlaelnedk inmnthlthangtawnxxkechiyngitkhxngxngkvsinchwng aemwacamikarxangthungkarelnkhrikektmainchwngkxnhnani hlkthanthungkarelnkhrikektchdecnthisudmacakkhdiinsalinkildfxrd ineduxnmkrakhm kh s 1597 aebbeka sungethiybethaethakbmkrakhm kh s 1598 inptithinsmyihm odykhdinnekiywkhxngkbkarthuxkhrxngkrrmsiththiinthidinaeplnghnung odysalidyinkhaihkarkhxngecahnathichnsutrsph xayu 59 pi chuxwa cxhn edxrrikphuihkarepnphyanwa insmythiyngepnphusuksainorngeriynexkchnkildfxrd ekhaaelaephuxnkhxngekhahlaykhn idmikarwingelnthi snam khrikektaelasthanthixun emuxphicarnacakxayukhxngedxrrikaelw ekhaidsuksathiorngeriynemuxraw khrungstwrrskxn cungepnthiaennxnwamikarelnkhrikektinchwngpramanpi 1550 odyklumedkchayinesxrriy smmtithanthimxngwakhrikektnnedimepnekmsahrbedkmacakphcnanukrmphasaxngkvs frngess 1611 khxngaernedil khxtekrfwa imkhtha crosse khux imthiedkphuchayichelnkhrikekt aelakhakriya crosser hmaythung ipelnkhrikekt xikaehlngthimathiepnipidsahrbchuxkilanikhuxkhaphasaxngkvsobran khris cryce hrux khrik cric sunghmaythungimkhaynhruximetha inphcnanukrm khxngsamuexl cxhnsn ekhaekhiynwa khrikekt macak khris cryce aesksn aethngim in phasafrngessobran khawa khriekt criquet duehmuxncahmaythungimkrabxnghruximetha aelahakphicarnacakkhwamsmphnththangkarkhainyukhklangthiaennaefnrahwangmnthlthangtawnxxkechiyngitkhxngxngkvsaelaekhantiaehngaeflnedxrs odyrayhlngnnxyuphayitkarpkkhrxngkhxngkhxngdchchiaehngebxrkndi chuxnixacidmacakphasadtchtxnklang thiichxyuin aeflnedxrs inkhnann khawa khrik krick e hmaythungimetha imhkmum xikaehlngthimathiepnipidkhuxkhaphasadtchklang khriksotl krickstoel sunghmaythungekaxietiytwyawthiichsahrbkhukekhainobsth sungmilksnakhlaykb etiyyawthimisxngtwwangkhnanknthiichinkhrikekttxntn ihenxr kilimsetxr phuechiywchaydanphasayuorpkhxngmhawithyalybxnn klawwa khrikekt macakwliphasadtchklangthiichsahrbhxkki met de krik ket sen echn ichrwmkbaethngim kilimsetxridsnnicthanwakhrikektxacepnkilathimirakthanmacakeflmich imephiyngaekhchuxkhxngkilaephiyngxyangediyw karetibotkhxngkhrikektsmkhrelnaelakhrikektxachiphinxngkvs wiwthnakarkhxngimtikhrikekt imhxkki dngedim say idphthnaipepnimruptrngcakpramanpi 1760 emuxidmiphurierimkaroynlukkhrikektisphithch aethnthcaepnkarklinglukaebbedim aemwaepahmayhlkkhxngekmnikhuxkarthakhaaennkarmakthisud aetrupaebbaerkkhxngkhrikektnnaetktangcakekmsmyihminaengmumthangethkhnikhthisakhybangprakar odykhrikektthielninxemrikaehnuxthiruckkninchuxwikhektyngkhngrksalksnaehlaniiwhlayprakar odycathukphuoyn tamphithchipsuthithuxthimiruprangkhlayimhxkki odyphuticatxngpkpxngwikektthiprakxbdwystmpkhnadelksxngaethng odyrnthiphutithaidcathukeriykwanxtch notches ephraacabnthukrniwodykarekhiynkhidelk inpi kh s 1611 sungepnpithiphcnanukrmkhxngkhxtekrfidrbkartiphimph bnthukkhxngsalsngkh thisidelaechminmnthlssesksidrabuwankbwchsxngkhnkhchuxbarotholmiw iwaexttaelarichard aelthethxr idkhadcakkaripobsthinwnxisetxrephraaphwkekhakalngelnkhrikekt phwkekhathukprb 12 ephnniaelathuksngih thakarplngxabti bnthuknikhuxkarklawthungkhrngaerkkhxngkarmiswnrwmkhxngphuihyinkilakhrikekt aelastwrrsthi 17 khuxewlaediywknkbthimikarcdkaraekhngkhnrahwangtablhruxhmubanthithiekaaekthisudthihmubanechfniy mnthlekhnth inpi kh s 1624 phuelnchuxaecsepxr winxlesiychiwithlngcakthiekhathuklukkhrikektkraaethkthibriewnsirsaodyimidtngicinkaraekhngkhnrahwangsxngthiminssesks khrikektyngkhngepnkickrrmthihaidyakinthxngthininchwngewlaswnihyinstwrrsthi 17 epnthithrabkndicakinbnthukkhxngkhdiinsalsngkh aelabangkhrngcakkarbnthukodyphwkphiwrithnwamikarelnkhrikektxyuthnginchwngkxnaelarahwangkarcdtngekhruxckrphph phwkphiwrithnthuxwakarelnkhrikektepnsingthi hyabkhay thicaelnknwnsabaot odyechphaaxyangyinghakmifungchncanwnmakekhamamiswnrwm hruxmikarphnnekhamaekiywkhxng nkprawtisastrsngkhmchuxederk ebxrliyidklawwami khwamniyminkhrikektthiephimkhunxyangmakhlngkarfunfurachwngsxngkvs inpi kh s 1660 karphnninkhrikektidklayepnpyhathisakhymakphxthirthsphacaphanphrarachbyytikarphnnpi kh s 1664 thungkrannenginedimphn 100 pxndthikdhmaybyytiiwnn kyngkhngepncanwnenginmhasalthiyngmakkwaenginthiprachakrmakkwa 99 haidtlxdthngpi khrikektthukmxngwaepnkilakarphnnkhwbkhuipkbkaraekhngkhnchingrangwl karaekhngma aelakilaeluxd phuxupthmphrarwyinsmynnniymcdkaraekhngkhnephuxenginedimphnsungodysrangthimthiphwkekhamiswnrwmkbphueln thiidthuxwaepnphuelnmuxxachiphkhnaerkkhxngkhrikekt inchwngplaystwrrs khrikektidphthnaepnkilahlkthiaephrhlayipthwxngkvs aelathuknaipephyaephrintangpraethsaelwodykalasieruxaelaxananikhmchawxngkvs karxangxingthungkhrikektintangpraethsthiekaaekthisudidthukbnthukinpi 1676 hnngsuxphimphchbbpi 1697 idraynganthung karaekhngkhnkhrikektthiyingihy thielninssesksthimiedimphn ndlahasibkini sungepnkaraekhngkhnthiodythwipthuxwaepnkaraekhngkhnradbendaerk phuxupthmphaelaphuelnkhnxun cakchnchnthangsngkhmthieriykwa phudi iderimcdpraephthtwexngepn ephuxsrangkhwamaetktangthichdecncaknkkilamuxxachiphthiemacakchnchnaerngngan karaebngaeyknnekhychdecnthungkhnmikaraebngaeykhxngaetngtwaelasingxanwysadwktang phudirwmthngkhunnangradbsungechndyukhaehngrichmxnd idich siththikhxngphudi noblesse oblige ephuxepnkarxangkhwamepnphunainkaraekhngkhnkilaid thiphwkekhamiswnrwm odyechphaaxyangyinghakphudiehlanitxngkarcaelnekhiyngkhangnkkilathi thisthanathangsngkhmthidxykwaphwkekha cnkrathngchwngklangstwrrsthi 20 nkkilasmkhrelnmkthukmxngwaepnphuthimikhunsmbtithiehmaasmthicaepnphunamakkwa enuxngcakphwkekhaepnkhnthimikarinradbmthym aelamhawithyalyekhmbridchruxmhawithyalyxxksfxrdinradbxudmsuksa inthangthvsdi nkkhrikektsmkhrelncaeriykrxngkhaichcayinkareln echnkhaedinthanghruxkhaxupkrn inkhnathikhuhumuxxachiphkhxngekhaelnphayitsyyaaelaidrbkhacanghruxkhathrrmeniymcakkaraekhngkhn inthangptibti muxsmkhrelnhlaykhnmkcaidenginmakkwakhaichcaythiphwkekhaich aelakhawa muxsmkhrelnek shamateur kidepnkhaeyaaeyytxnkkilasmkhrelncnkrathngsthanakaraebngaeykrahwangmuxsmkhrelnaelamuxxachiphidthukykelikinpi kh s 1962 khrikektxngkvsinstwrrsthi 18 aela 19 phaphwad nkkhrikekthnum The Young Cricketer ody 1768 khrikektidwiwthnakarinhlayaengmumcnidepnkilapracachatikhxngxngkvsinstwrrsthi 18 txngkarxangxing karxupthmphaelakaredimphnthukmxngwaepntwkhbekhluxnkhwamsaerckhxngkila khrikektodngdnginlxndxntngaetchwngpi kh s 1707 aelainchwngklangkhxngstwrrs idmifungchncanwnmakaehknipthiinfinsbri txngkarxangxing iddungdudepnthiniyminhmuphuchmaelankphnn khwamniyminkhrikektidipthungcudsungsudin rawpi 1760 phuoynidepliynwithikarsnglukodylngphithch aethnthicaklinghruxrxnlukiphaphuti aelakarepliynwithikarsnglukkthaihekidkarptiwtiinkarxxkaebbimti odyimkarxxkaebbimtithrngtrngthithnsmyaethnimhxkkiaebbeka ephraaimthrngtrngsamarthcdkarkblukkradxncakkaroyniddikwa txngkarxangxing idkxtngkhuninpi kh s 1760 Marylebone Cricket Club hruxexmsisi MCC idkxtngkhuninxikyisibpitxma epnsomsrthiyingihythisudkhxngkila hlngcakmikarepid inpi kh s 1787 txngkarxangxing kxnthicathukaethnthiodyexmsisiinxikimnanhlngcaknn odyexmsisiniexngkidepnphurangkdkhxngkhrikekt chbbihmthinamaichinchwnghlngkhxngstwrrsthi 18 thimikarepliynaeplngthisakhyechn karihwikhektprakxbipdwystmpsamaethng aelakarkhidkhnkd Leg Before Wicket hruxaexlbidbebilyu lbw stwrrsthi 19 thukaethnthidwy aelathukaethnthixikthiody karoynsxngrupaebbhlngnnekhyeppraednthkekiyngkninchwngaerkthimikarich karcdekminradbethsmnthlidnaipsukarkxtngsomsrradbethsmnthl odyerimcak inpi kh s 1839 ineduxnthnwakhmpi kh s 1889 aepdsomsrchnnakhxngmnthlidkxtnglikkhrikektefirskhlaslikaerkkhxngolkinchux sungerimkhuninpi kh s 1890 phuelnthimichuxesiyngthisudinstwrrsthi 19 khux phuerimtnxachiphthiyawnanaelathrngxiththiphlinpi 1865 sungekrsniexngepnphuthithaihesnaebngrahwangmuxxachiphaelamuxsmkhrelnerimphramwkhun enuxngcakekhannepnnkkilasmkhrelnodynitiny aetklbrbrayidaebbnkkilaxachiphodyphvtiny ekrsexngthukklawwaidrbenginsahrbkarelnkhrikektmakkwankkilamuxxachiphthukkhnthielnrwmsmykbekhaesiyxik txngkarxangxing chwngewlasxngthswrrsthikxnsngkhramolkkhrngthihnungmkthukeriykwa yukhthxngkhxngkhrikekt sungmkcaepnwlithiklawthungephuxhwnkhwamhlngthungchwngewlakxnsngkhramolk odychwngewlanniderimmikarcdkaraekhngkhnekhantiaechmepiynchip aelakaraekhngkhnkhrikektethstepnpracathukpi phrxmkbyngidphlitnkkhrikektchnnaxikmakmay khrikektidklayepnkilaradbnanachati thimxngkvsthimaerkthiedinthangiptangpraethsbneruxipyngxemrikaehnux ph s 2402 inpi kh s 1844 idmikarcdkarrahwang aela inpi kh s 1859 thimphuelnchawxngkvsidedinthangipxemrikaehnuxin inkhnaediywkn ckrwrrdixngkvsnnmibthbathsakhyinkaraephrkracayekmipyngtangpraeths aelainchwngklangstwrrsthi 19 ckrwrrdixngkvskepnthiyxmrbinxxsetreliy aekhribebiyn xinediy pakisthan niwsiaelnd xemrikaehnux aelaaexfrikait inpi kh s 1862 thimcakxngkvsidxxkthwrxxsetreliyepnkhrngaerk inkhnathithimxxsetreliythimaerkthiedinthangiptangpraethsprakxbdwykhneliyngpsustwchawxabxricin karaekhngkhnthimchatihnungwnndaerkcdkhunemuxwnthi 5 mkrakhm kh s 1971 rahwangxxsetreliyaelaxngkvsthi inpi kh s 1876 1877 idekharwmkaraekhngkhnthiidrbkaryxmrbyxnhlngwaepnkaraekhngkhnndaerkthi kbthimchatixxsetreliy karaekhngkhnrahwangxngkvsaelaxxsetreliyinpi kh s 1882 thaihekidsiristhieriykwa aelayngkhngepnkaraekhngkhnthimichuxesiyngthisudkhxngkhrikektethst khrikektethsterimkhyaytwinpi kh s 1888 89 emuxelnkbthimchatixngkvs thaihthimchatiaexfrikaitklayepnthimthisamthiidrbsthanathimkhrikektethst olkkhrikektinstwrrsthi 20 dxn aebrdaemn cakxxsetreliy phumikhaechliykartithi 99 94 inpi kh s 1909 idmikarkxtngsphakhrikektnanachati International Cricket Council hruxixsisi ICC khun odyixsisinnepnxngkhkrhlkthimihnathicdkarkaraekhngkhnkhrikektradbnanachatiinradbtang chwngewlarahwangsngkhramolkkhrngthisxngthukkhrxbngaodydxn aebrdaemn khxngxxsetreliy phuthiidrbkarykyxngwaepnphutithiyingihyinprawitisastrkhxngkhrikektethst khrikektethstyngkhngkhyaytwxyangtxenuxnginchwngstwrrsthi 20 odykarihsthanaaekthimshchatiewstxindis 1928 thimchatiniwsiaelnd 1930 aela 1932 inchwngkxnsngkhramolkkhrngthisxng aela 1952 thimchatisrilngka 1982 1992 2000 aela pi 2018 thngsxngthim inchwnghlngsngkhram thimchatiaexfrikaitthukhamelnkhrikektnanachatitngaetpi kh s 1970 thung 1991 sungepnswnhnungkhxngkarkhwabatrkaraebngaeyksiphiw karephimkhunkhxngkhrikektcakdoxewxr khrikektekhasuyukhihminpi kh s 1963 emuxmnthltang khxngxngkvserimmikaraekhng emuxphbwakhrikektcakdoxewxrnnsamarththaenginidmakkwa thaihmikaraekhngkhnkhrxkektcakdoxewxrhnungwn eriykwa List A Cricket khun inewlatxmacungidmikaraekhngkhninpi kh s 1971 ixsisiidehnskyphaphkhxng cungidcdkaraekhngkhnkhrikektolk Cricket World Cup epnkhrngaerkinpi kh s 1975odyphuchnathimaerkkhuxthimewstxindis odythimchatixxsetreliyepnthimthiprasbkhwamsaercmakthisud odyidepnphuchnainraykarnithunghasmy instwrrsthi 21 idmikaraekhngkhnkhrikektrupaebbihminchux Twenty20 niymeriykwathi20 T20 odythi20 idsngphlkrathbxyangkwangkhwanginolkkhrikekt odyixsisidmikarcdaekhngkhnraykar T20 Cricket World Cup manbtngaetpi kh s 2007 odyphuchnathimaerkkhuxthmchatixinediy hlngcakkaraekhngkhnkhrikektthi20 olkkidmikaraekhngkhnlikthi20 rahwangthimaefrnichskhunmathwolk echnxinediynphriemiyrlik Indian Premier League hruxixphiaexl IPL inpraethsxinediy Caribbean Premier League hruxsiphiaexl CPL inphumiphakhaekhribebiyn aela Pakistan Super League hruxphiexsaexl PSL inpraethspakisthan hlngcakthikhrikektethstnnmikaraekhngkhnxyuinradbthwrmakwa 140 pi inpi kh s 2019 ixsisiidmikarcdkaraekhngkhn ICC World Test Championship hruxdbebilyuthisi WTC khun odyraykarniepnraykarthiaekhngkhnepnaebblik aelwmikaraekhngkhnndchingchnaelissahrbthimthicbsxngxndbaerk odyphuchnaethstolkthimaerkinvdukal 2019 21 khuxthimchatiniwsiaelndkdaelakarelnsnamkhrikektthwip inkhrikekt kdkhxngekmrabuiwinhnngsuxthieriykwa kdkhxngkhrikekt The Laws of Cricket sungkdehlanimikarbngkhbichthwolk kdkhxngkhrikektmikdhlk 42 khx ekhiyndwytw L ihyesmx kdchbbekathisudthiepnthiruckthukrangkhuninpi kh s 1744 aelatngaetpi kh s 1788 okhddngklawkidepnecakhxngaeladuaelody Marylebone Cricket Club MCC inlxndxn phunthieln khrikektepnekmimtiaelalukthielninsnamkhrikekt duphaphdankhwa rahwangsxngthimcakphuelnsibexdkhn snammkcamiruprangepnwngklmhruxwngri aelakhxbkhxngphunthielncathukthaekhruxnghmaydwykhxbekhtsungxacepnrw swnhnungkhxngxthcnthr echuxk esnthithasi hruxhlayxyangrwmkn khxbekhtcatxngthaekhruxnghmaytamkhwamyawthnghmdhakepnipid insunyklangkhxngsnamodypramanepn Pitch siehliym duphaphdanlang sungklumaethngimthieriykwa Wicket wangxyuthiplayaetladan wikhektthngsxngnnthukwangiwhangknrahwangphithch sungepnphunphiweriybkwang 10 fut 3 0 emtr aelayaw 22 hla 20 emtr odyphithchnnmkcamihyathithuktdihsnmak sungthaihmiaenwonmthiphithchcaesuxmsphaphinkhnathikaraekhngkhndaeninip khrikektsamarthelnbnphunphiwethiymidechnkn odyxacelnbnphunphrm wikhektaetlatwcaprakxbdwy Stumps imsamaethng aelami Bail sxngtwwangxyukhangbn snamkhrikektaelakhris dngthiaesdngiwkhangtn rayaphithchthukthaekhruxnghmaythiplayaetladandwyesnthasikhawsiesn aela stmpthngsamthukcdchidtrngklangobwlingkhrissungyawaepdfutaepdniw pxppingkhrisnnthukwadsifuttxhnaobwlingkhrisaelakhnanipkbmn odypktinnpxppingkhrisnncayawsibsxngfut aelariethirnkhrisnncathukwadinmumchakkbpxppingkhrisephuxtdplaykhxngobwlingkhris odypktinnpxppingkhrisnncayawaepdfut thaihriethirnkhrisyawtxcakobwlingkhrisipxiksifut rupaebbaelakarcbkaraekhngkhn smyihm mummxngdanhlng kxnkaraekhngkhnerimtn kptnthim sungepnphuelndwy ephuxtdsinicwathimidcatikxnin odyxinningsepnkhathiichsahrbaetlachwngkhxngkarelninkaraekhngkhn inaetlaxinnings thimhnungcaepn phyayamthica inkhnathixikthimepnfayaelaephuxthicacakdrnihnxythisudaela emuxxinningsaerkcblng thimcaepliynbthbath odykaraekhngkhnkhrikekthnungndxacmisxngthungsixinningskhunxyukbpraephthkhxngkaraekhngkhn karaekhngkhnthimisixinningstamkahndkarcaelninrayaewlasamthunghawn karaekhngkhnthimisxngxinningsthikahndiwmkcaesrcsinphayinwnediyw inrahwangxinnings smachikthnghmdsibexdkhnkhxngthimthipracataaehnngcalngsnam inkhnaediywkn camismachikkhxngthimthitilukephiyngsxngkhnethannthixyubnsnaminewlaidktam khxykewnkhux thaphutipwyhruxmikarbadecbpraephthidktamthicakdkhwamsamarthinkarwing inkrniniphuticaidrbxnuyatihthisamarthwingrahwangpratuidemuxphutitharn xyangirktam karichrnenxrnnimidrbxnuyatihichinkhrikektthimchati karcdinkhrikektnncamikarprakasmakxnkaraekhngkhn aetkptnthimsamarthepliynlabkbphutiidtamsthankarn sungtangcakebsbxlthiladbphuticataytwtlxdkaraekhngkhn wtthuprasngkhhlkkhxngaetlathimkhuxkarthakhaaennihmakkwakhutxsu aetinkhrikektbangrupaebb xacmikhwamcaepnthicatxngkacdphuelnfaytrngkhamthnghmdinxinningssudthayephuxchnakaraekhngkhn michannphlkaraekhngkhncacblngdwykar Drawn thathimthitiluksudthaymiaetmtharnidnxykwakhutxsu cathuxwa aeph n rn odythi n khuxkhwamaetktangrahwangcanwnrnthithaidodythimthnghmd hakthimthitiluksudthaytharnidmakphxthicachna eriykwami chnadwy n wikhekt odythi n khuxcanwnwikhektthithimthichnayngehluxxyuinkhnathithimnnidchychnaip twxyangechn thimthichnaodythiesiyipaelwhkwikhekt klawkhuxmiphutithimchnaexatipaelwhkkhn cahmaykhwamwathimnnchnakaraekhngkhn odysiwikhekt inkaraekhngkhnthiaetlathimidtifnglasxngxinnings yxdrwmrnxinningsaerkaelaxinningsthisxngkhxngthimhnungxacnxykwarninxinningsaerkkhxngxikthimhnung thimthimikhaaennmakkwacaeriykwa chnaodyxinningsaela n rn aelaimcaepntxngtixik n khuxkhwamaetktangrahwangkhaaennrwmkhxngthngsxngthim hakthimthitiinxingningssudthaythukthaihexatthngthim aelathngsxngfayidcanwnrnethakn karaekhngkhncathuxwa Tie kn phllphthnikhxnkhanghayakinkaraekhngkhnsxngxinningsodymiephiyng 63 tngaetphlethaknkhrngaerkthimikarbnthukinpi kh s 1741 cnthungphlethaknkhrnglasudinpi kh s 2020 inkhrikektefirskhlas rwmthungkhrikektethst hakewlathiehluxinkaraekhngkhnhmdkxnthicaidphuchna karaekhngkhnndnncathuxwakn inkaraekhngkhnthiaetlathimidtifnglahnungxinnings camikarkahndoxewxrsungsudthiaetlathimcatiid karaekhngkhndngklawcaeriykwa hruxkaraekhngkhn hnungwn aelafaythithakhaaennidmakkwacachnaodyimkhanungthungcanwnwikektthiesiyip ephuximihekidphlesmx inbangkrnithikaraekhngkhnthiphlethakn camikarihaetlathimtithimlaxinningsthiyawephiynghnungoxewxr sungeriykwasuepxroxewxr odysuepxroxewxrkhrngthdipsamarthelnidhaksuepxroxewxraerkyngcblngdwykarethakn hakkaraekhngkhnpraephthnithukkhdcnghwachwkhrawenuxngcaksphaphxakasthiimdi camikarichsutrthangkhnitsastrthisbsxnsungruckkninchux Duckworth Lewis Stern Method niymeriykwadiaexlexs DLS ephuxichinkarkhanwncanwnrnthithimthitithihlngtxngthaihthungephuxchna insthankarnthithaihimsamartherimelnihmidtampkti twxyangechn sphaphxakasthiepiykchunhruxhimatkxyangyawnan cnkaraekhngkhnimsamarthdaeninihthungcanwnoxewxrkhntathisamarthnawithidiaexlexsid karaekhngkhnaebbwnediywcasamarththukprakaswa immiphlkaraekhngkhn no result id inthukrupaebbkhxngkhrikekt phutdsinsamarthlathingkaraekhngkhnidhakaesngxathityimdihruxmifntkthaihimsamarthdaeninkartxid mikrnithikaraekhngkhntxngthukykelikodythiimmikareln aemaetkaraekhngkhnmikahndcaelnepnewlahawnkekhymiehtukarnthikaraekhngkhntxngthukykelikodythiimmikarelnely twxyangechn khrikektethstndthisamkhxngsiris 1970 71 rahwangthimchatixngkvsaelathimchatixxsetreliy xinnings xinnings innings lngthaydwy s thnginrupexkphcnaelaphhuphcn epnkhathiichsahrbaetlachwngkhxngkarelnrahwangkaraekhngkhn khunxyukbpraephthkhxngkaraekhngkhnthieln aetlathimcaidtifnglahnunghruxsxngxinnings bangkhrngsmachikthng 11 khnkhxngfayticaidlngmati aetdwyehtuphlhlayprakar xinningshnungsamarthsinsudidkxnthinkkilathukkhncaidti xinningcasinsudlnghakthimtilukbxl exatthngthim khux emuxphutisibcaksibexdkhnhruxkhxriithr Retired hruximmiphutithicaekhamatiaethnxikaelw insthankarnni phutithiimidthukthaihexathlngcakxinningskhxngthimtncblngcathukeriykwaeriykwa sungxacekidcakkarthiphuelnkhnxun thukthaihexatcnehluxphutiephiyngkhnediyw xinningsxacsinsudkxnewlakhnathiyngmiphutixyusxngkhninsnam thimphuti Declared aemwaphuelnbangkhnkhxngtnbangkhnyngimidti odykarprakascbxinningsnnxacmacakkarthikptnthimnnechuxwathimkhxngtntharnidmakphxaelw aelaepnkarephuxewlaiwihmakphxthithimkhxngtnsamarththaihthimkhuaekhngexatidthngthimephuxphlchna mikarelncnthungkahndiw echn inkaraekhngkhncakdoxewxr karaekhngkhnsinsudlngkxnewlaxnkhwrenuxngcaksphaphxakasimdihruxhmdewlakaraekhngkhn inxinningssudthaykhxngkaraekhngkhn thimphutitharnidthungepahmayaelaepnthimthichnakaraekhngkhnoxewxr kdkhxngkhrikektrabuwa tlxdxinnings catxngmikarslbfnginkaroynlukinthuk 6 khrng chux oxewxr Over ekidkhunephraakrrmkareriyk oxewxr emuxoynlukkhrbhkluk emuxthungcudni phuoynxikkhnhnungoynlukthixikdanhnungkhxngphithch aelathimphuoyncamikarepliynaeplngkaryuntaaehnnginsnam inkhnathiphutithngsxngkhncayngyunxyuthiedim nnthaihnxnsitrekxr Non striker khuxphutithixyutrngkhamdanthiphutixikkhnphbkblukthiphuoynoynma klayepnsitrekxr Striker odyimtxngedinslbfng phuoyncaimsamarthoynsxngoxewxrtidtxkn aemwaphutisamarth aelamkca oynlukslboxewxridcakdanediywknkhxngphithch thaihmikarichkhawa sepll Spell hmaythungchwngewlathiphuoynnnoyntlxdxinningsodyimmikarepliynfngthioyn inrahwangoxewxrphutdsinthngsxngkhncamikarepliyntaaehnng odyphutdsinthixyudanhlngwikhektfng A thiekhyepnfngkhxngnxnsitrekxrinoxewxrthiaelw cayunxyutaaehnng saekhwrelk Square Leg khuxyunxyudanhlngphuti tngchakrahwangsitrekxrkbnxnsitrekxr thifng A swnphutdsinthiyunxyutaaenngsaekhwrelkfng B thiekhyepnfngkhxngsitrekxrinoxewxrthiaelw camayunyunxyudanhlngwikhektthifng B esuxphaaelaxupkrn phaphnkkhrikektchawxngkvs kalng tngkard inpi kh s 1883 aephnsnbaekhngaelaimtikhxngekhayngkhngmikhwamkhlaykhlungkbthiichinpccubn inkhnathithungmuxmiwiwthnakarelknxycakxdit phuelnsmyihmhlaykhnichxupkrnpxngkntwmakkwathi ekrsmiih odyechphaahmwkaelasnbaekhn phurksawikhekt phuthiyuntaaehnnghlngwikhektfngsitrekxr aelaphuticaswmxupkrnpxngknenuxngcakephuxpxngknlukkhrikektthiaekhng aelasamarththukoyndwykhwamerwmakkwa 145 kiolemtrtxchwomng 90 imltxchwomng chudpxngknrwmthungaephnsnbaekhng xxkaebbmaephuxpkpxngekhaaelahnaaekhng hrux sahrbsirsa aelakracbsahrbphuelnchayinkangekng ephuxpxngknbriewnepa phutibangkhncaisaephnrxngesrimdaninesuxaelakangekng echn aephnrxngtnkha pharxngaekhn aephnpxngknsiokhrng aelaaephnrxngihl phuyuntaaehnngthixyuintaaehnngthiiklkbphutimak echn thaxyuekhiyngkhanghruxxyukhanghnaekha caidrbxnuyatihswmxupkrnpxngkn aetcaimsamarthswmthungmuxhruxxupkrnpxngknkhaphaynxkid odythwipaelw chudthinkkhrikektswmisinsnamcarwmthungesuxkhxpkaekhnsnhruxaekhnyaw kangekngkhayaw esuxswmhwthadwyphakhnstw thacaepn sahrbthimthiyuntaaehnng hruxhmwknirphy aelarxngethathimihnamaehlmhruxrxngethabuthephuxephimkaryudekaa pktichudthinkkhrikektisinkhrikektefirskhlasaelakhrikektethstcaepnsikhawlwn aetsahrbkhrikektcakdoxewxr nkkhrikektcaischudsipracathimaethn imaelalukkhrikekt camisxngpraephth odythngsxngluknnmikhnadethakn i lukkhrikektsikhawthiichaelw niymikhin ephraaluksikhawnncaehnphayitinewlaklangkhunidngaykwa say ii lukkhrikektsiaedngthiichaelw niymichinaelarupaebbxun enuxngcakluksiaedngmikhwamthnthanmakkwa khwa aeknhlkkhxngkhrikektkhuxkarthi oyncakfngiddanhnungkhxngipsu thiyunxyuxikfngkhxngphithch dutxipthiswnyxy karelnphunthan odypktinnthacakimkhxngtnhliwkhaw Salix alba aelamirupthrngaebbibmidthimidamepnthrngkrabxk danimcatxngmikhwamkwangimekin 4 25 niw 10 8 esntiemtr aelamikhwamyawimekin 38 niw 97 esntiemtr thngni immimatrthansahrbnahnkkhxngimkhrikekt sungmkcaxyurahwang 2 pxnd 7 xxns thung 3 pxnd 1 1 aela 1 4 kiolkrm inswnnncaepnthrngklmthihumhnngaekhng miesnrxbwng 9 niw 23 esntiemtr odymi taekhb hkaethwtidepluxkhnngkhxnglukekhakbechuxkaeladaninkhxngimkxk rxytxkhxnglukbxlihmnnoddednaelachwyihphuoynsamarthsnglukinlksnawithithikhadedaidyak inrahwangkaraekhngkhn khunphaphkhxnglukcaesuxmlngcnichimidxiktxip inrahwangkaresuxmsphaphni phvtikrrminkarbinkhxnglukcaepliynipaelaxacsngphltxphlkhxngkaraekhngkhn dngnn phuelncaphyayamprbepliynphvtikrrmkhxnglukbxlodykarprbepliynkhunsmbtithangkayphaphkhxngluk karkhdlukbxlaelathaihepiykdwyehnguxhruxnalaynnthukkdkhxngkhrikekt thaihmikarkarkhdphiwkhxnglukkhrikektephiyngdanediywephuxephimkar aetkarthusarxun ekhaipinluk karekaphunphiw hruxkardungthitaekhbcaepnkar bthbathkhxngphueln karelnphunthan phuoynsuphuti rahwangkarelnpkti phuelnsibsamkhnaelaphutdsinsxngkhnxyuinsnam phuelnsxngkhnepnphuaelathiehluxepnsmachikkhxngthimthiyuntaaehnngthnghmdsibexdkhn phuelnxikekakhninthimkhxngphuticaxyunxksnaminsalakhxngsnam phaphdanlangaesdngihehnwaekidxairkhunemuxmikaroynlukaelaikhrxyubnhruxiklkbsnam inphaph sxngkhn hmayelkh 3 aela 8 ischudsiehluxng yunsnamthiplayaetladankhxng 6 samkhn 4 10 aela 11 ischudsinaenginekhm xyupracataaehnngkhxngtn phutdsinkhnhnunginsxngkhn 1 swmhmwksikhaw pracakarxyuhlng 2 thiplaykhxngphithch khxng 4 kalng 5 cakplayithchipyngphuti 8 thiplayxikdanhnungsungeriykwa sitrekxr striker phutixikkhn 3 thiplayphithchthiphuoynxyucathukeriykwa nxnsitrekxr non striker wicketkeeper 10 sungepntaaehnngechphaakhxngthimyunsnam yunxyudanhlngpratukhxngsitrekxr 9 aelakhanghlngekhaepnhnunginphuyunsnamintaaehnngthieriykwa First slip 11 inkhnathiphutiaelaslipthihnungswmchudthrrmdaethann phutisxngkhnaelaphurksawikhektswmxupkrnpxngkn idaek hmwknirphy thungmuxbunwm aelaxupkrnpxngknkha aephnsnbaekhng inkhnathiinphaphcaehnphutdsin 1 yunxyuthiplayphithchkhxngphuoyn cayngmiphutdsinxikkhnhnungyunxyuinsnam odypktiaelwcaxyuinhruxiklkbtaaehnngkarlngsnamthieriykwa ephuxihekhaxyuinaenwediywkb 7 thiplaysnamkhxngkxnghna obwlingkhris immihmayelkh khuxrxythiwikhekttngxyurahwangriethirnkhris 12 phuoyn 4 nnmikhwamtngicthicathalaywikhekt 9 dwykaroynlukis 5 hruxxyangnxythisudkephuxpxngknimihsitrekxr 8 tharnid odysitrekxr 8 mihnathipxngknwikhekt aelatilukephuxtharn phuelnbangkhnmikhwamsamarththnginkartilukaelakaroynlukhruxxyangidxyanghnung phuelnehlanicathukeriykwa phutiaetlakhncathukcaaenktamrupaebbkhxngphwkekha odythwipcaepn hrux inkhnathiphuticathukcaaenktamwaphwkekhathndthicatikhangkhwahruxsay karyunsnam sahrbphutimuxkhwa cakphaphdanbn miphuelnsamkhncaksibexdkhnyunpracataaehnng swnxikaepdkhnxyuthixuninsnam taaehnngkhxngphwkekhakahndtamaephnkarelnthiichodykptnhruxphuoyn karyuntaaehnnginkhrikektmkcaepliyntlxdinrahwangkaroynlukaetlakhrng tamkhasngkhxngkptnhruxphuoyn hakphuyuntaaehnngidrbbadecbhruxpwyinrahwangkaraekhngkhn camikarxnuyatihlngsnamaethnid inkhrikektradbnanachati phuelnsarxngcaimsamarthoynhruxthahnathiepnkptnid ykewninkrnithimikarichphuelnsarxnginkrnithimiphuelnidrbkarkrathbkraethuxnthangsmxng phuelnsarxngcatxngxxkcaksnamemuxphuelnthibadecbphrxmklb kdkhxngkhrikektidrbkarprbprunginpi kh s 2017 ephuxxnuyatihphuelnsarxngsamarththahnathiepnphurksawikhekt karoynaelakarkacdphuti cakthimchatixxsetreliy thuxsthitiepnphuthithawikhektidmakthisudinraykarkhrikektolk phuoynswnihymkidrbeluxkihekharwmthimenuxngcakthksakhxngphwkekhainthanaphuoynodyechphaa aemwaphuelnbangkhncaepnxxlrawedxrhruxepnphutithioynlukepnkhrngkhraw phuoyncaoynhlaykhrnginrahwangxinnings aetimsamarthoynsxngoxewxrtidtxknid hakkptntxngkarihphuoyn epliynfng phuoynkhnxuntxngoynlukthiyngehluxxyuinoxewxrnn oxewxrhnung caerimkhunemuxphuoynerimwingekhahaphithchephuxoynluk run up Fast bowlers mkcawingepnrayaiklephuxepnkarsrangomemntminkaroyn swnphuoynlukpn Spin Bowlers mkcawingephiyngamkikawkxnoynlut phuoynthierwthisudsamarthsnglukdwykhwamerwmakkwa 145 kiolemtrtxchwomng 90 imltxchwomng aelabangkhrngphwkekhakxasykhwamerwepnhlk ephuxphyayamexachnaphutithithukbngkhbihtxbsnxngxyangrwderw phuoynlukerwkhnxun xasykarphsmphsanrahwangkhwamerwaelaelhehliymodythaihlukwingepn Seam bowling hruxwing Swing bowling karoynpraephthnisamarthhlxklwngphutiihtilukxyangphidwithiid twxyangechn ephuxihlukaetakhxbimtiaelwsamarth rblukcakkhanghlng odyphurksawikhekthruxphuyuntaaehnngslipid inkhnaphuoynxikklumhnungeriykwa thioyndwykhwamerwthikhxnkhangchaaelaxasyklxubayinkarhlxklxphuti phuoynlukpnmkca suxwikhekt ody oynlukkhun inwithipharaoblathichakwaaelachnkwa ephuxlxihphutitilukthiimdi phutiluktxngrawngihmakinkaroynlukaetlakhrng enuxngcaklukpnmkca bin hruxthukhmun ephuxthicathaihphutirbmuxidxyangimthuktxng aelaekhaxac tidkb aelathukthaihexat rahwangphutilukerwaelaphutilukpn camiphuoynxikklumhnungthicaoynlukdwykhwamerwradbpanklang odyennipthikhwamaemnyakhxngkaroynephuxepnkarthalaysmathikhxngphuti inkhrikekt mithungekawithithiphutisamarththukkacdid hawithiaerksamarthphbehnidthwip swnsiwithihlngnnphbidyakmak bowled karoynlukephuxthalaywikhektihebltklngmacakstmp caught karrblukkhrikektkxnluktkthungphun odyluknncatxngthukimhruxthungmuxkhxngphutikxn run out karthalaywikhektkxnthiphuelnfngphuticawingipthungxikfngkhxngphitchidthn stumped karthirblukwikhektthiphutitiimodn aelwthalaywikhektkxnthiphuticaklbipxyuinpxppingkhriskhxngtnidthn leg before wicket niymeriykwaaexlbidbebilyu lbw karthaoynlukihodnphutiodythiimodnimkhrikekt odywithikhxnglukcaipchnwikekt hit wicket karthiphutikhybrangkay ipchnthalaywikhektodyimtngic obstructing the field karkrathathiekhakhayrbkwnkarelnkhxngthimthiyuntaaehnng echn kartiluksxngkhrnginkaroynlukkhrngediyw timed out karthiphutithicaekhamatiinsnam lngmainsnamimthnewlathikahnd retired out karthiphutixxkcakkaraekhngkhnodythiimidrbkarxnuyatcakkptnthimfngtrngkhamaelaphutdsin kdkhxngkhrikektrabuwathimyunsnamsungodypktiaelwcaepnphuoyncatxngeriykrxngphutdsin appealing kxnthiphutdsincatdsinid thahakphutiexat krrmkarykniwchiaelaphudwa exat hakphutiimexat phutdsincasayhwaelaphudwa imexat karti karwing aelarnphiess thisthanginkartikhxngphutimuxkhwa inmummxngthiphutimxnglngdanlangkhxngphaph sahrbphutimuxsay thisthangkhxngphuticaepnphaphsathxn khxngphaphni phuticaekhamatitam sungkptnthimcatdsiniclwnghnaaelanaesnxtxkrrmkar aetladbkartisamarthyudhyunidemuxkptnthimesnxchuxthimxyangepnthangkar odythwipinkhrikektnanachati caimxnuyatihichphuelnthdaethninkarti ykewninkrnithiichaethnkarthukkrathbkraaethkthangsmxng tampktiaelw phutiswnihycayuntaaehnngodytxnghmxblngelknxy odyihethachikhnanwikhekt mxngipinthisthangkhxngphuoyn aelacbimtiihkhamethaip aelaplayimwangxyubnphuniklkbniwethakhxngethahlng phutithimithksasamarth ying shot hrux wadwng stroke idhlakhlaythathnginrupaebbpxngknaelaocmti aenwkhidhlkkhxngkartikhuxkartilukihidphldithisudkbphunphiweriybkhxngibkhxngim thaluksmphskbdankhangkhxngim cathukeriykwa odn phutiimcaepntxngelnlukaelasamarthihlukphanipyngphurksawikhektid inthanxngediywknekhaimtxngphyayamwingemuxekhatilukdwyimtiechnkn aelaphutiimidphyayamtilukbxlihaerngthisudesmxip aelaphutithidisamarththarniddwykartixyangkhlxngaekhlwephiyngdwykarhmunkhxmux hruxephiyngaekh blxk lukb aetihnalukihhnixxkcakphuyunsnamephuxthiekhacaidmiewlawing inkhrkiektmikarelnchxtthihlakhlay aelaphutisamarthtilukxxkipinthukthisthangthitxngkar thatitang inkhrikektmkniymthukeriyktamthisthangkhxngphutitamrupdankhang echn cut idrf drive huk hook hrux phul pull sitrekxrcatxngpxngknimihlukchnwikhektaelaphyayamthica odykarichimtitilukephuxihekhaaelaephuxnphutikhxngekhamiewlathicawingxxkcakplaydanhnungkhxngphithchkxnthifaysnamcakhunbxlid inkartharn phutithngsxngtxngaetaphunthixyuhlngpxppingkhrisdwyimtihruxrangkaykhxngphutiexng karwingthiesrcsinaetlakhrngcamikhaethakbhnungrn epnphuelnephiyngkhnediywthitha khuxtharnidthung 100 rninhnungxinnings idthung 100 khrnginkhrikektthimchati kartdsinickhxngphutithicaphyayamwing cakhunxyukbphutithimimummxngthidikwaekiywkbkhwamkhubhnakhxnglukbxl wakhwrthicawingtharnhruxim aelasingnicaidrbkarsuxsarodykareriykwa ich im hrux rx phutisamarththakhaaennidmakkwahnungrncakkarocmtikhrngediyw karocmtithikhumkhahnungthungsamrnnnepneruxngpkti aetkhnadkhxngsnamnnmkcaepneruxngyakthicathathungsirnhruxmakkwann ephuxchdechysingni kartithiipthungkhxbekhtkhxngsnamcaidrbsirnodyxtonmtihaklukbxlsmphsphunrahwangesnthangipyngkhxbekht hruxhkrnhaklukbxlbinkhamekhtodyimsmphsphunphayinekht inkrniehlani phutiimcaepntxngwing karthaidharnhruxmakkwaepneruxngphidpkti odymkcamacakkar oynekin overthrow odyphuelnsnamthiphyayamsnglukklb haksitrekxrthaaetmidepnelkhkhi phutithngsxngyunslbkn aelanxnsitrekxrcaepnsitrekxraethn inkhnathirnthnghmdcathukrwmekhakbyxdrwmkhxngthim inkarnbrnswntwcamiephiyngaekhsitrekxrethannthimiraychuxepnphutharn thimkhxngphutisamarthidcak extras eriykwa rncipatha sundries inxxsetreliy sungepnrnthimaccakkhxphidphladthiekidcakfaysnam odyrnphiessnnmisithima no ball karoynlukxyangphidkd echn karthiethahnakhxngphuoynehyiybelypxppingkhris karyudkhxsxkinkaroyn hruxkaroynluksuphutithitaaehnngthisungkwaexwodyimkradxnphunkxn wide karthiphuoynoynlukinwithithiphutiimsamarthtilukodn echn karoynlukthisunghruxhangtwekinip hruxkaroynlukthiphutiimsamarthtiihodnodyyngkhngyunintaaehnngedimxyu bye karthiphuoynoynlukimthukphutihruximti aetmikhwamphidphladcakphuelnsnam mkepnphurksawikhekt cnphutichwyoxkaswingtharnid leg bye karthiphuoynoynlukipthukrangkayphuti aetimodnimhruxthungmuxkhxngphuti aelwphutichwyoxkaswingtharnid thaphuoynoynonbxlhruxiwd ekhacatxngoynlukxikkhrngepnkarthdaethn thngni rnphiesscaimthuknbepnrnswntwthisitrekxrthaid aelabaykbelkbayimthuknbepnrnswntwthiphuoynesiy phuechiywchayphiess kptnthimmkcaepnphuelnthimiprasbkarnmakthisudaelamiklyuthththiechiybaehlmthisudinthim inkhrikekt kptnthimnncaepnphuthimibthbathtxthimmakkwakptninkilaxun inkdkhxngkhrikekt kptnmihnathirbphidchxbinkaresnxchuxphuelnkhxngekhaihepnphutdsinkxnkaraekhngkhn epnphuthieluxkphuoyninoxewxrhnung epnphuthicdwangtaaehnngkaryunkhxngphurwmthiminsnam aeladuaelihphuelnkhxngekhapraphvtitn phayincitwiyyanaelapraephnikhxngkaraekhngkhntlxdcnkarpraphvtitninkdkhxngkhrikekt phurksawikhekt wicket keeper bangkhrngeriykwa phurksa keeper epnphumithksakarrblukmakkwaephuxnrwmthimkhnxun ekhaepnsmachikkhnediywkhxngfaysnamthisamarththastmpid aelaepnkhnediywthiidrbxnuyatihswmthungmuxaelaxupkrnpxngknkhaphaynxk odythwipaelw thimhnungthimcaprakxbdwyphutiechiywchayphiesshahruxhkkhn phuoynechiywchayphiesssihruxhakhn aelaphurksawikhekth phutdsinaelaphubnthukkhaaenn phutdsinsngsyyankartdsinipyngphubnthukkhaaenn karaekhngkhninsnamthukkhwbkhumodysxngkhn khnhnungyunxyuhlngpratuthiplaynkoyn xikkhnxyuintaaehnngthieriykwa saekhwrelk sungxyuhangcakphutifngsitrekxrpraman 15 20 emtr cakpxppingkhris phutdsinmikhwamrbphidchxbhlayxyangrwmthngkarphicarnawalukidrbkaroynxyangthuktxng echnimidepn hrux kartdsinwamikartharnaelw kartdsinwaphutiexathruxim faysnamtxngphutdsinkxn odypktiaelwcaichwli epnyngingbang How s that hrux oxwsth Owzat hruxephiyngaekhtaoknechy phutdsinyngkhxyduewlaerimtnaelasinsudkhxngkaraekhngkhn aelakhwamehmaasmkhxngsphaph snam aelasphaphxakasinkareln phutdsinidrbxnuyatihhyudkaraekhngkhnhruxlathingkaraekhngkhnenuxngcaksthankarnthixacepnxntraytxphueln echn snamthiepiykchunhruxaesngthierimmwlng inkaraekhngkhnthangothrthsn mkcamikhnthisamnxksnamthisamarthtdsinicekiywkbehtukarnbangxyangidodyichhlkthanthangwidiox sahrbkhrikektethstaelaoxdiix elnrahwangpraethssmachiksmburnthngsibsxngchati catxngmiphutdsinthisampracaxyuesmx karaekhngkhnehlaniyngmiphutdsinaemtchthimihnathiduaelihkarelnepniptamkdhmayaelacitwiyyankhxngkaraekhngkhn raylaexiydkaraekhngkhn rnaelakarkacdphutinncathukbnthukodysxngkhn odykhnhnungepntwaethnkhxngaetlathim phubnthukkhaaenncathukkakbodysyyanmuxkhxngphutdsin duphaphdankhwa twxyangechn phutdsinykniwchiephuxsngsyyanwaphutiexat thukkacd ekhaykaekhnthngsxngkhangkhunehnuxsirsa thakhntithaidhkrn phubnthukkhaaenntxngbnthukthukrnthithaid thukwikhektthithaid aelathukoxewxrthimikaroyn inthangptibti phwkekhayngekhiynkhxmulephimetimcanwnmakthiekiywkhxngkbkaraekhngkhn karaekhngkhncasrupiwintarangsrupsthiti insmykxnthitarangsrupsthiticaepnthiniym karbnthukkhaaennswnihythaodykarekhiynkhidaethnrnbnim xangxingcak tarangsrupsthitithiekaaekthisudethathiruckthuknamaichinpi kh s 1776 odythi aephrtt cakemuxng aelainimchatarangsrupsthitikmikarichnganodythwip echuxknwatarangsrupsthitithukphimphaelakhaythiepnkhrngaerkinpi kh s 1846 citwiyyankhxngkhrikekt nxkcakkarptibtitamkdhmayaelw nkkhrikektyngtxngekharph citwiyyankhxngkhrikekt Spirit of Cricket sungepnaenwkhidthirwm karelnthiyutithrrm aelakhwamekharphsungknaelakn citwiyyankhxngkhrikekt nithuxepnswnsakhykhxngkilamananaelw aetmikarkahndiwxyangkhlumekhruxethann thamklangkhwamkngwlwa citwiyyankhxngkhrikekt kalngcaxxnaexlng inpi kh s 2000 idmikarekhiynkhanaekhaipinkdhmaysungaenanaihphuekharwmthukkhnelndwycitwiyyankhxngkaraekhngkhn khanaidrbkarprbprunglasudinpi kh s 2017 thiekhiynepidwa khwamnadungdudaelakhwamsnuksnankhxngkhrikektswnmak macakkarthikaraekhngkhnnnimidmikarelntamephiyngaekhkdethann aetyngelntamcitwiyyankhxngkhrikektxikdwy khanaepnkhaklawsn thimicudmunghmayephuxenn phvtikrrmechingbwkthithaihkhrikektepnkaraekhngkhnthinatunetnthisngesrimkhwamepnphuna mitrphaph aelakarthanganepnthim brrthdthisxngrabuwa khwamrbphidchxbhlkinkarsrangkhwamyutithrrmnnxyuthikptn aetkhwamrbphidchxbnnkhyayipthungphuelnthukkhn ecahnathikaraekhngkhn aelaodyechphaaxyangyinginkhrikektruneyaw khru phufuksxn aelaphupkkhrxng krrmkarepnphutdsinkarelnthiyutithrrmaelaimyutithrrm karekhaipaethrkaesnginkrnithimikarelnthiepnxntrayhruximepnthrrm hruxinkrnithiphuelnmiphvtikrrmthiyxmrbimid catxngxyuphayitkdkhxngkhrikekt rupaebbkxnhnakhxng citwiyyankhxngkhrikekt mikarrabuthungkarkrathathithuxwaepnkarthaih citwiyyankhxngkhrikekt esuxmesiy echn karxuththrnthngthiruaphutiimexat aetraylaexiydthnghmdtxnnikhrxbkhlumxyuinkdkhxngkhrikekt kdktikakarelnaelapramwlwinythiekiywkhxngxyuaelw odykartdsinwakarkrathatang nnxyuin citwiyyankhxngkhrikekt hruximnn cakhunxyukbphutdsin kptnthim somsr aelahnwyngankakbduaelkhrikekthyingcakthimchatixinediy epnphuelnephiyngkhnediywthithaid 6 000 rninkhrikektthimchatihnungwnhying bnthukaerkekiywkbkhrikekthyingnnthukbnthukinesxrriy inpi kh s 1745 karphthnakhrikektnanachatiiderimkhunemuxtnstwrrsthi 20 aelakarkhrikektethsthyingndaerkrahwangthimchatiaelathimchati ineduxnthnwakhm kh s 1934 inpithdmaidrwmelnkhrikektethstdwy aelainpi kh s 2007 klayepnthimthisibthiidelnkhrikektethst odykhuaekhngthimaerkkhux inpi kh s 1958 idmikarkxtngsphakhrikektstrisakl International Women s Cricket Council inpi kh s 1973 karaekhngkhnkhrikektolkkhrngaerkekidkhunemuxmikarcdkaraekhngkhnfutbxlolkhyinginxngkvs inpi kh s 2005 sphakhrikektstrisaklidrwmekhakbsphakhrikektnanachati ICC ephuxsrangxngkhkraebbkhrbwngcrephuxchwyinkarcdkaraelaphthnakhrikekt khuxepnthimchatithiprasbkhwamsaercmakthisudinkhrikekthying odyepnphuchnathnginrupaebboxdiixaela thungraykarlahasmy aelaepnthimthikhrxngxndbhnunginkarcdxndbthimoxdixkhxngixsisimahlaypikarpkkhrxngpraethssmachikkhxngixsisi praethsthielnkhrikektethst smachiketmrupaebb caaesdngepnsiaedng praethssmachiksmthbcaaesdngepnsism odypraethsthimisthanaoxdiixcaaesdngepnsiekhm smachikthithukrangbhruxsmachikekacaaesdngepnsiethaekhm sphakhrikektnanachati hruxixsisi International Cricket Council ICC sungmisanknganihyxyuthiduib epnxngkhkrpkkhrxngkhrikektradbolk kxtngkhuninchux rachkhnakhrikekt Imperial Cricket Conference inpi kh s 1909 odytwaethncakxngkvs xxsetreliy aelaaexfrikait txmaidepliynchuxepn khnakhrikektnanachati International Cricket Conference inpi kh s 1965 aelaepliynmaichchuxpccubninpi kh s 1989 inpi ph s 2021 ixsisimismachik 105 praeths ody 12 praethsmisthanaepnsmachiketmrupaebbaelasamarthelnid odyixsisimihnathirbphidchxbinkarcdraebiybaelakakbduaelkaraekhngkhnkhrikektradbnanachatithisakhy odyechphaaxyangyingkhrikektolkchayaelahying thnginrupaebboxdiixaelathi20 nxkcakniixsisiyngmihnathiaetngtngphutdsinthithahnathiinkaraekhngkhnkhrikektethst oxdiix aelathi20 thimchati praethssmachikaetlapraethscamikhnakrrmkarkhrikektradbchatisungkhwbkhumkaraekhngkhnkhrikektthielninpraethskhxngtn eluxkphuelninthimchati aelacdthwrehyaaelaeyuxnsahrbthimchati inphumiphakhewstxindis sungepnphumiphakhthiprakxbipdwychatithiekhyepnxananikhmkhxngckrwwrdixngkvsinaekhribebiyn khrikektinphumiphakhnicathutkhwbkhumody tarangdanlangaesdngraychuxsmachiketmrupaebbkhxngixsisi aelakhnakrrmkarkhrikektinaetlapraeths chati xngkhkarpkkhrxng epnsmachiktngaetxfkanisthan 22 mithunayn kh s 2017xxsetreliy 15 krkdakhm kh s 1909bngklaeths 26 mithunayn kh s 2000xngkvs 15 krkdakhm kh s 1909xinediy 31 phvsphakhm kh s 1926ixraelnd 22 mithunayn kh s 2017niwsiaelnd 31 phvsphakhm kh s 1926pakisthan 28 krkdakhm kh s 1952aexfrikait 15 krkdakhm kh s 1909srilngka 21 krkdakhm kh s 1981ewstxindis 31 phvsphakhm kh s 1926simbbew 6 krkdakhm kh s 1992rupaebbkhxngkhrikektrahwangthimchatiaexfrikaitkbthimchatixngkvsineduxnmkrakhm kh s 2005 chayiskangekngsidaepn thiminkhrikektethst khrikektefistkhlas aelakhrikektkhlb phuelncaischudsikhawlwnaelaelndwysiaedng khrikektepnkilathimikhwamsbsxn aelamikarelnkhrikektinhlayrupaebbodysamarthaebngxxkepnpraephthihy khux First Class Cricket aela Limited Overs Cricket rupaebbkhrikektthiidrbkarykwaepnmatrthansungsudkhxngkilakhux Test Cricket xacekhiyndwytw T sungthuxwaepnsbestkhxngkhrikektefistkhlas odythimthilngelninkhrikektethstnnepnthimthiepntwaethnkhxngsibsxngpraethsthiepnsmachiketmrupaebbkhxngixsisi dudanbn odysirisaerkthiidchuxwaepnkaraekhngkhnkhrikektethstsirisaerk khuxkaraekhngkhnrahwangthimchatixxsetreliy aelathimchati in tngaetpi kh s 1882 sirisethstswnihyrahwangthimchatixxsetreliyaelaxngkvscaniymeriykwa The Ashes khawa efistkhlas First Class thiaeplwa chnhnung odythwipichkbkhrikektthielnknfnglasxngxinningsinpraethsthiepnsmachiketmrupaeaebbkhxngixsisi khrikektethstcamiewlainkarelnthnghmdhawn aelasamthungsiwninkhrikektefistkhlas inkaraekhngkhnthnghmdehlani aetlathimcaidelnknfnglasxngxinnings aelaphlesmxsamarthekidkhunid khrikektaebbcakdoxewxrmikahndihmiphlaephchnaphayinwnediyw aelaaetlathimcaidelnknfnglahnungxinnings aelasamarthaebngxxkepnsxngpraephthihy khux List A Cricket sungpkticaelnhasiboxewxrtxthim aelakhrikekt Twenty20 xanwa thewntithewnti niymeriykwa thi20 T20 sungaetlathimcaelnyisiboxewxrtxthim odykhrikektaebbcakdoxewxrthngsxngaebbcaelninradbsaklinthana Limited Overs Internationals hruxoxdiix LOI aela Twenty20 Internationals hruxthi20ix T20I tamladb mikarerimelnkhrikektlistexinxngkvsinvdukal 1963 inthanathwyaephkhdxxkthiaekhngkhnknodysomsrradbefirskhlas inpi kh s 1969 idmikarcdkaraekhngkhnradbchatikhun aenwkhidnikhxy namaichkbpraethskhrikektchnnaxun aelakaraekhngkhnaebbcakdoxewxrrahwangpraethskhrngaerkerimelninpi 1971 inpi 1975 idmikarckaekhngkhnkhrikektolkkhrngaerkthipraethsxngkvs inkhnathithi 20 epnrupaebbihmthithuksrangkhunmaodymiwtthuprasngkhephuxihkaraekhngkhnesrcsinphayinewlapramansamchwomng odypktikaraekhngkhninrupaebbnicaniymelnkninchwngeyn mikarkhrngaerkinpi kh s 2007 khrikektaebbcakdoxewxrcaimmikaresmx aelakaraekhngkhnthiyngimcbcathukprakaswa immiphlkaraekhngkhn ekhyepnrupaebbthiepnthiniyminstwrrsthi 18 aela 19 aelaekhythukykwaepnrupaebbthiepnmatrthansungsudkhxngkila inrupaebbni aemwaaetlathimxacmiphuelntngaethnungthunghkkhn aetkmiphutiephiyngkhrnglahnungkhnethann aelaekhatxngephchiyhnakaroynlukthukkhrnginkhnathixinningskhxngekhayngkhngxyu aethbimmikarelnkhrikektwikhektediywnbtngaetmikarelnkhrikektaebbcakdoxewxr aetlathimcaidelnfnglasxngxinningsaelasamarthmiphlesmxidkaraekhngkhnmakaraekhngkhnkhrikektthnginradbnanachatiaelainpraeths mikaraekhngkhnchingaechmpradbnanachatithisakhyhnungraykartxrupaebb aelainpraethsthiepnsmachiketmrupaebbkhxngixsisi camikaraekhngkhninpraethsradbpraethsxyangnxyhnungraykartxrupaebb inpccubnidmikarcdaekhngkhnepncanwnmakthwolk sungthaihekidwliwa praktkarnthi20 karaekhngkhnradbnanachati karaekhngkhnradbnanachatiswnihycaelnepnswnhnungkhxng thwr emuxthimchatikhxngpraethshnungedinthangipyngxikpraethshnungepnewlahlayspdahhruxhlayeduxn aelaelnkaraekhngkhnhlaypraephthkbpraethsecaphaph bangkhrngcamikarmxbthwyrangwlihkbthimphuchnasiriskhrikektethst odysirissungmichuxesiyngmakthisudkhuxraykarrahwangthimchatixngkvsaelaxxsetreliy aelarahwangthimchatixxsetreliykb nxkcakni ixsisiyngcdkaraekhngkhnsahrbhlaypraethsphrxmkn echn raykarkhrikektolk raykar aelaraykar ixsisiyngmikarcdkaraekhngkhnliksahrbkhrikektethstthinaphlkaraekhngkhncaksiriskhrikektethsttang khux odyerimkaraekhngkhn mikaraekhngkhnliksahrboxdiix erimkhunineduxnsinghakhm kh s 2020 ephuxepnkarhathimekhasuraykarkhrikektolk ixsisiyngepnphuthithakarcdxndb aela aelamiintaaehnngphuti phuoyn aelaxxlrawedxrinthngsamrupaebbxikdwy karaekhngkhnsahrbpraethssmachikkhxngixsisithimisthanaepnsmachikrwm prakxbipdwy sahrbkaraekhngkhnkhrikektefistkhlas aelasahrbkaraekhngkhnaebbwnediyw karaekhngkhninrxbsudthaykhxngraykarniyngthahnathiepnxikdwy karaekhngkhnradbpraeths inpi kh s 1895 epnthimaerkthichnakaraekhngkhnekhantiaechmepiynchipinpi kh s 1893khrikektefistkhlas khrikektefirskhlasinxngkvsswnihycaelnody 18 somsrradbethsmnthlsungaekhngkhninlik County Championship aenwkhidkhxngaechmpradbpraethsmimatngaetstwrrsthi 18 aetkaraekhngkhnxyangepnthangkaryngimepnthiyxmrbcnthungpi kh s 1890 somsrthiprasbkhwamsaercmakthisudkhux sungepnphuchnainraykarnithi 33 smy txmaidmikxtngkaraekhngkhnlikchingaechmpradbefirskhlasinxxsetreliykhuninpi kh s 1892 93 inchux Sheffield Shield inxxsetreliy thimradbefirskhlasepntwaethnkhxngrthtang odythimepnthimthichnaepncanwnkhrngmakthisudthi 47 smy inxinediy idmicdaekhngkhnlikkhrikektefistkhlasepnkhrngaerkinvdukal 1934 35 inchux Ranji Trophy odythimmumibepnthimthiprasbkhwamsaercmakthisud odyidtaaehnngchnaelisthi 41 smy praethssmachikixsisietmrupaebbpraethsxun exngkidmikaraekhngkhnkhrikektefistkhlasradbchatikhxngtnexng odyprakxbipdwy xfkanisthan bngkhlaeths ixraelnd niwsiaelnd pakisthan aexfrikait srilngka ewstxindis aela simbbew khrikektlistex karaekhngkhnkhrikektlistexraykaraerkkhuxraykar Gillette Cup sungprakxbdwythimmnthlthng 18 thimkhxngxngkvs odymikaraekhngkhnkhrngaerkinpi kh s 1963 karaekhngkhnkhrikektlistexinpraethsxun thisakhy idaekraykar Royal London One Day Cup inpraethsxngkvs Vijay Hazare Trophy inpraethsxinediy aela Marsh One Day Cup inpraethsxxsetreliy khrikektthi 20 karaekhngkhnxinediynphriemiyrlikthiihedxrabad pi kh s T20 Blast epnkaraekhngkhnkhrikektthi20 raykaraerkthierimmikaraekhngkhnkhuninpi kh s 2003 inchuxthewnti20khph Twenty20 Cup odyprakxbdwythimmnthlthng 18 thimkhxngxngkvsechnediywkbcilelttkhph cdprasngkhkhxngkaraekhngkhnrupaebbihmnnekidkhunephuxepnkarephimthanphurbchmkhrikektinxngkvsthikalngldlng sunginrxbchingchnaelisrahwangaela miyxdphuchmthi 27 509 khn sungepnyxdphuchmthisungthisudinkhrikektmnthl ykewnkaraekhngkhnkhrikektlitsexrxbchingchnaelis nbtngaetpi kh s 1953 sungkhwamsaercniidthaihmikarerimcdaekhngkhnkhrikektthi 20 khunmainpraethstang xinediynphriemiyrlik Indian Premier League hruxixphiaexl IPL epnlikkhrikektaefrnichsthielninrupaebbthi 20 thicdaekhngkhninpraethsxinediy aelaepnlikthiidchuxwamimulkhasungthisudinkhrikekt odymimulkhathi 475 phnlanrupiinpi kh s 2019 ixphiaexlerimmikaraekhngkhnepnkhrngaerkinpi kh s 2008 cakkhwamsaerckhxnginpikxnhnann thimprasbkhwamsaercmakthisudinixphiaexlkhuxthimsungepnphuchnaelisthi 5 smy phuechiywchayekiywkbkhrikektididihkhwamehnwaixphiaexlnnidsngphltxwngkarkhrikektthwolk odynxkcakcathaihwngkarkhrikektmienginsaphdinradbthiimekhyphbehnmakxnaelw khwamsaercixphiaexlyngsngphlihmikarkxtngkaraekhngkhnaefrnichsthi 20 khunmathwolk echn Caribbean Premier League hruxsiphiaexl CPL inphumiphakhaekhribebiyn Pakistan Super League hruxphiexsaexl PSL inpraethspakisthan aela Big Bash League hruxbibiaexl BBL inpraethsxxsetreliy xun epnraykaraekhngkhnkhrikektsamwnthierimmikaraekhngkhninpi kh s 1895 odymithimcakmnthlthiimidekharwmaekhngkhnin aelathimsarxngcakthiminekhantiaechmepiynchip kxnthiinpi kh s 1959 thimsarxngthnghlayidaeykxxkmaaekhngkhnkhrikektsamwninchux khrikektsomsraelaorngeriyn karaekhngkhnkhrikektthiekaaekthisudethathiruckknkhuxkaraekhngkhnthifmuban Chevening inmnthlekhnt sungxnumanidcakkhdiinsalinpi 1640 thibnthukthung karelnkhrikekt khxngthim wildaelaphwkxpaelnd Weald and the Upland kbthim chxlkhhill Chalk Hill emux pramansamsibpiaelw khux p 1611 karaekhngkhnrahwangtablerimidrbkhwamniyminchwngkhrungaerkkhxngstwrrsthi 17 aelayngkhngphthnatxipcnthungstwrrsthi 18 odymilikthxngthinlikaerk kxtngkhuninchwngkhrunghlngkhxngstwrrsthi 19 inradbrakhya mikarelnmkcahmaythungkhrikektradbsmkhrelnthiphuelnelnepnnganxdierk aetbangkhrngxachmaythungkhrikektthielninkaraekhngkhninchwngsudspdahhruxintxneyn sungmihlkthanwamikarelnepnkhrngaerkintxnitkhxngxngkvsinstwrrsthi 17 aelayngkhngelndnxyangthwipinthnthlthikhrikektepnthiniym aemwarupaebbkaraekhngkhncamikhwamaetktangknemuxethiybkbkhrikektmuxxachiph karaekhngkhnradbsmkhrelnyngkhngelnphayitkdkhxngkhrikekt aelakaraekhngkhnkhxngsomsr orngeriynyngthuxwaepnkickrrmthiepnthangkaraelamikaraekhngkhnepnraykarchingaechmp nxkcakni yngmikarelnkhrikektinradbsmkhrelninaebbthiimepnthangkarmakmay echnkhrikektaelawthnthrrmxiththiphlkhxngkhrikektinchiwitpracawn khrikektmiphlkrathbinwngkwangtxwthnthrrmsmyniym thnginekhruxckrphphaehngprachachati aelathixun twxyangechn mixiththiphltxsphthechphaakhxngchatiehlani odyechphaaphasaxngkvs dwywlitang echn nnimichkhrikekt that s not cricket hmaythung imyutithrrm mithidi had a good innings hmaythung mixayuyunyaw sticky wicket hrux bnwikhektehniyw On a sticky wicket hruxthiruckwa sunkhehniyw sticky dog hrux hmxkaw glue pot epn khaxupma ichephuxxthibaysthankarnthiyaklabak mitnkaenidmacakkhathiicheriyksphaphkartilukyakinkhrikekt sungekidcaksnamthiepiykchun sungepnsphaphwikhektthiehnidthwipinxditkhrikektinsilpaaelawthnthrrmsmyniym khrikektepnhwkhxthikwichawxngkvsthimichuxesiynghlaykhnekhyich rwmthungwileliym eblk aelalxrdibrxn ody Beyond a Boundary 1963 ekhiynodynkekhiynchawtriniaedd epnhnngsuxthimkidrbkarkhnannamwaepnhnngsuxthidithisudinkilathukpraephththiekhyekhiynma thxm wils nkkhrikektaelaphurwmkhidkhn inthsnsilp idmiphaphwadkhrikektthioddedn idaekphaph khxng aelaphaph ehlankkhrikekt The Cricketers 1948 khxng sungidrbkarkhnannamwaepn phaphwadcakxxsetreliythimichuxesiyngthisudaehngstwrrsthi 20 citrkrximephrschnnismchawfrngess kamir pisaor idwadphaphkhrikektemuxipeyuxnxngkvsinchwngthswrrsthi 1890 phaphyntrkhxngphutikhxng fransis ebkhxn thiepnaefnkhrikekttwyng phaphkhrikektkhxngewndi nann silpinchawaekhribebiyn thuknaichinchbbaerkkhxngchudsaetmp ewildxxfxinewnchn World of Invention khxngrachiprsniyxngkvs sungepnkarchlxngkarprachumkhrikektlxndxninwnthi 1 3 minakhm kh s 2007 sungepidtwepnkhrngaerkinkarprachumechingsilparadbnanachatikhrngaerkthiekiywkbkhrikekt aelaepnswnhnungkhxngkarechlimchlxng xiththiphlkhxngkhrikekttxkilaxun khrikektmikhwamsmphnththangprawtisastrthiiklchidkb aelaphuelnhlaykhnid inpi kh s 1858 nkkhrikektchawxxsetreliyphuodngdngideriykrxngihmikarsrang somsrfutbxl ephuxihnkkhrikektyngkhngsphaphrangkayinchwngnxkvdukal inpitxmasomsrfutbxlemlebirnidkxtngkhun inkhnathiwilsaelasmachikxiksamkhnidekhiynkdchbbaerkkhxngkhxngkilakhunma odythwipaelw xxsetreliynfutbxlcaelnin inxngkvs somsraexsossiexchnfutbxlhlayaehngmitnkaenidmacakkarthinknkkhrikektthitxngkartngsomsrephuxelnfutbxl inaephnkarrksarangkayihsmburntlxdchwngvduhnaw inpi kh s 1884 somsrfutbxldarbiekhantiidkxtngkhuninthanasakhahnungkhxng inchwngnnexng somsraexstnwilla 1874 aelasomsrexfewxrtn 1876 idkxtngodysmachikkhxngthimkhrikektkhxngobsththxngthin snambramxlleln khxng echffildyuinetd ekhyepnsnamehyakhxngaela immikarichsahrbfutbxlcnkrathngpi kh s 1862 aelathukichrwmknodyyxrkhechxraelaechffildyuinetdcak kh s 1889 thung 1973 inchwngplaystwrrsthi 19 xditnkkhrikektthiekidinxngkvschux cakbruklin niwyxrk idrbkarykyxngwaepnphusrangibbnthukkhaaennebsbxlibaerk sungekhaddaeplngmacakibbnthukkhaaennkhrikekt ibbnthukkhaaennibaerkpraktihehninchbbpi 1859 khxngnitysar khlipepxr Clipper ibbnthukkhaaennkhxngaechdwikmikhwamsakhytx aeknaeththangprawtisastr khxngebsbxlepnxyangmak cnthaihbangkhrngnkprawtisastrebsbxlideriykaechdwikwa bidakhxngebsbxl ephraaekhaphuepnbukhkhlsakhythichwythaihebsbxlerimepnthiniyminchwngstwrrsthi 19duephim Bete ombro khrikektrupaebbbrasil Plaquita khrikektrupaebbodminikn ebsbxlechingxrrthhmayehtu khawa muxsmkhreln inbribthni imidhmaythungphuthielnkhrikektepnnganxdierk phuelnsmkhrelnhlaykhnnnelnkhrikektefirsthkhlasepnnganetmewla sungrsmipthungphuelnthiyingihythisudinprawtisastrkilakhnhnungxyangdbebilyu ci ekrs khwamaetktangthisakhykhxngkhrikektkbkilaimtiaelalukkilaxun khuxinkhnathiebsbxlaelaethnniscamikarepliynlukephuxihkhngsphaphthidithisudinkareln inkhrikektcamikarichlukkhrikektxyangtxenuxng odycamikarepliynlukinchwngewlathiaetktangknipinaetlarupaebb inkhrikektethst camikarepliynlukthuk 80 oxewxr hruxcnkwacakhunxinningsihm inkhrikektoxdiix camikarichlukkhrikektsxnglukinaetlaxinnings odykarepliynlukcaekidkhuninoxewxrthi 34 inkhrikektthi 20 camikarichlukkhrikektephiynglukediywtlxdthngxinnings inkrnikhxngkhrikektcakdoxewxr hakphuoynoynonbxl lukthiphuoyntxngoynthdaethncaeriykwa free hit sungphuticaimsamarththukthaihexatcakwithikarid ykewnrnexatidxangxing https australiansportscamps com au blog how to teach cricket to kids beginners ICC survey reveals over a billion fans 90 in subcontinent Cricket baseball rounders and softball What s the difference www bbc co uk subkhnemux 5 September 2020 Major 2007 p 17 Barclays 1986 p 1 Altham 1962 pp 19 20 Altham 1962 p 21 Underdown 2000 p 3 Major 2007 p 19 Altham 1962 p 22 Major 2007 p 31 Birley 1999 p 3 Bowen 1970 p 33 Terry David 2000 The Seventeenth Century Game of Cricket A Reconstruction of the Game PDF The Sports Historian No 20 London The British Society of Sports History pp 33 43 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 27 November 2009 subkhnemux 2 May 2016 Hardman Ray 31 October 2013 Before There Was Baseball There Was Wicket www wnpr org phasaxngkvs subkhnemux 5 September 2020 Birley 1999 p 9 Barclays 1986 pp 1 2 Major 2007 pp 21 22 McCann 2004 p xxxi Underdown 2000 p 4 McCann 2004 pp xxxiii xxxiv McCann 2004 pp xxxi xli Underdown 2000 pp 11 15 Birley 1999 pp 7 8 Major 2007 p 23 Birley 1999 p 11 Birley 1999 pp 11 13 Webber 1960 p 10 Haygarth 1862 p vi McCann 2004 p xli Major 2007 page 36 Major 2007 pp 268 269 Williams 2012 p 23 Williams 2012 pp 94 95 Birley 1999 p 146 Birley 1999 pp 14 16 1900 Cardiff pp 4 85 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 8 September 2017 subkhnemux 8 September 2017 Nyren 1833 pp 153 154 Wisden Evolution of the Laws of Cricket Wisden Cricketers Almanack 100th edition 1963 ed London Sporting Handbooks Ltd pp 184 187 Birley 1999 pp 64 67 97 101 Barclays 1986 p 456 Cardiff 1889 pp 478 479 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 8 September 2017 subkhnemux 3 July 2017 1978 The Golden Age of Cricket 1890 1914 Guildford Lutterworth Press ISBN 0 7188 7022 0 Das Deb n d Cricinfo Cricket in the USA ESPNcricinfo subkhnemux 9 March 2007 Birley 1999 pp 96 97 Barclays 1986 pp 62 78 87 99 113 127 amp 131 Birley 1999 p 97 National Museum of Australia khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2018 09 08 subkhnemux 30 December 2014 Anthony Bateman Jeffrey Hill 17 March 2011 The Cambridge Companion to Cricket Cambridge University Press p 101 ISBN 978 0 521 76129 1 Reg Hayter The Centenary Test Match 1978 pp 130 32 Simon Balderstone John Bowan 2006 Events That Shaped Australia New Holland p 75 ISBN 978 1 74110 492 9 Wisden Dates in Cricket History Wisden Cricketers Almanack 100th edition 1963 ed London Sporting Handbooks Ltd p 183 Notes by the Editor Wisden Cricketers Almanack online ESPNcricinfo 1982 subkhnemux 2 July 2017 Booth Douglas 1998 The Race Game Sport and Politics in South Africa Routledge p 88 ISBN 0 7146 4799 3 Wisden One Day Knockout Competition 1963 Wisden Cricketers Almanack 100th edition 1963 ed London Sporting Handbooks Ltd pp 1074 1076 Barclays 1986 pp 495 496 Barclays 1986 pp 496 497 Not luck not fluke New Zealand deserve to be the World Test Champions ESPNcricinfo phasaxngkvs subkhnemux 2021 06 27 Laws Laws of Cricket MCC subkhnemux 4 July 2017 Law 1 Players Laws of Cricket MCC subkhnemux 1 July 2017 Law 19 Boundaries Laws of Cricket MCC subkhnemux 3 July 2017 Laws of Cricket MCC khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 3 July 2017 subkhnemux 3 July 2017 Law 8 The wickets Laws of Cricket MCC subkhnemux 3 July 2017 Laws of Cricket MCC khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 3 July 2017 subkhnemux 3 July 2017 Laws of Cricket MCC khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2 July 2017 subkhnemux 2 July 2017 Law 18 Scoring runs Laws of Cricket MCC subkhnemux 2 July 2017 Laws of Cricket MCC khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 3 July 2017 subkhnemux 2 July 2017 LAW 25 BATTER S INNINGS RUNNERS MCC www lords org subkhnemux 5 January 2020 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint url status lingk PDF ICC 1 September 2019 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2019 09 03 subkhnemux 2021 11 01 Laws of Cricket MCC khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 15 January 2017 subkhnemux 2 July 2017 Law 3 The umpires Laws of Cricket MCC subkhnemux 4 July 2017 Australia v England 3rd Test 1970 71 CricketArchive subkhnemux 4 July 2017 Laws of Cricket MCC khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2 July 2017 subkhnemux 4 July 2017 Laws of Cricket MCC khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2 July 2017 subkhnemux 7 July 2017 Laws of Cricket MCC khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2 July 2017 subkhnemux 7 July 2017 Birley 1999 p 343 Laws of Cricket MCC khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 3 July 2017 subkhnemux 4 July 2017 Laws of Cricket MCC khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 3 July 2017 subkhnemux 4 July 2017 Laws of Cricket MCC khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2 July 2017 subkhnemux 4 July 2017 phaphniepnphaphthaycakkaraekhngkhnoxdiixrahwang thimchatixxsetreliyaela odyphuoyncaksrilngkakalngoynlukiphaphutixxsetreliy Laws of Cricket MCC khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2 July 2017 subkhnemux 7 July 2017 Marylebone Cricket Club PDF Lords the Home of Cricket khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 27 June 2017 subkhnemux 4 May 2018 Most wickets taken in an ICC World Cup career male Guinness World Records subkhnemux 23 June 2015 Types of fast bowling TalkCricket subkhnemux 6 July 2017 Spin bowling TalkCricket subkhnemux 6 July 2017 Laws of Cricket MCC khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2017 07 03 subkhnemux 6 July 2017 Law 32 Caught Laws of Cricket MCC subkhnemux 6 July 2017 Law 38 Run out Laws of Cricket MCC subkhnemux 6 July 2017 Law 39 Stumped Laws of Cricket MCC subkhnemux 6 July 2017 Law 36 Leg before wicket Laws of Cricket MCC subkhnemux 6 July 2017 Law 35 Hit wicket Laws of Cricket MCC subkhnemux 6 July 2017 Law 37 Obstructing the field Laws of Cricket MCC subkhnemux 6 July 2017 Law 34 Hit the ball twice Laws of Cricket MCC subkhnemux 6 July 2017 Laws of Cricket MCC khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 3 July 2017 subkhnemux 6 July 2017 MCC khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2 July 2017 subkhnemux 18 July 2017 Laws of Cricket MCC khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 3 July 2017 subkhnemux 6 July 2017 Grip Stance Back Lift subkhnemux 12 October 2019 Batting TalkCricket subkhnemux 7 July 2017 Law 18 Scoring runs Laws of Cricket MCC subkhnemux 7 July 2017 Law 19 Boundaries Laws of Cricket MCC subkhnemux 7 July 2017 Laws of Cricket MCC khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 3 July 2017 subkhnemux 7 July 2017 Laws of Cricket MCC khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2 July 2017 subkhnemux 7 July 2017 Laws of Cricket MCC khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 3 July 2017 subkhnemux 7 July 2017 Laws of Cricket MCC khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 16 April 2017 subkhnemux 4 July 2017 Bowling Strategy TalkCricket subkhnemux 7 July 2017 Batting Strategy TalkCricket subkhnemux 7 July 2017 Laws of Cricket MCC khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2 July 2017 subkhnemux 4 July 2017 Bowen 1970 p 57 Bowen 1970 p 266 Bowen 1970 p 274 Preamble to the Laws Laws of Cricket MCC subkhnemux 4 June 2020 PDF Laws of Cricket MCC khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 27 June 2017 subkhnemux 10 September 2018 ICC History of Cricket pre 1799 ICC subkhnemux 7 July 2017 ICC History of Cricket 20th century ICC subkhnemux 7 July 2017 ICC Launches Global Women s T20I Team Rankings phasaxngkvs subkhnemux 12 October 2018 About the ICC ICC subkhnemux 7 July 2017 About the England and Wales Cricket Board ECB subkhnemux 7 July 2017 Cricket West Indies Cricket West Indies subkhnemux 7 July 2017 International Cricket Council ICC Development International Limited khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 07 07 subkhnemux 9 February 2016 A brief history Cricinfo subkhnemux 2 May 2008 Rundell Michael 2006 Dictionary of Cricket London A amp C Black Publishers Ltd p 336 ISBN 978 0 7136 7915 1 subkhnemux 17 October 2011 ICC clarification of limited overs ESPNcricinfo subkhnemux 8 July 2017 The first official T20 ESPNcricinfo 12 March 2016 subkhnemux 8 July 2017 Major 2007 pp 155 167 amp 404 410 The T20 Revolution The Freelancers Cricbuzz phasaxngkvs subkhnemux 9 September 2020 Playfair Marshall Ian b k Playfair Cricket Annual 70th edition 2017 ed London Headline p 216 Harte p 175 Weaver Paul 25 May 2009 Usman Afzaal gives Surrey winning start but absent fans fuel concerns The Guardian subkhnemux 17 May 2012 Laghate Gaurav 20 September 2019 IPL brand valuation soars 13 5 to Rs 47 500 crore Duff amp Phelps The Economic Times subkhnemux 22 September 2019 IPL world s 6th most attended league Big Bash 9th Report The lowdown on the major T20 leagues Birley 1999 pp 9 10 Birley 1999 pp 151 152 Rules of French Cricket topend sports subkhnemux 8 July 2017 Green Jonathon 1987 Dictionary of Jargon Routledge p 528 ISBN 9780710099198 Marcus Callies Wolfram R Keller Astrid Lohofer 2011 Bi directionality in the Cognitive Sciences Avenues Challenges and Limitations John Benjamins Publishing pp 73 ISBN 978 90 272 2384 5 Robert Hendrickson 2001 World English From Aloha to Zed Wiley ISBN 978 0 471 34518 3 Smart Alastair 20 July 2013 The art of cricket Enough to leave you stumped The Telegraph Retrieved 12 March 2016 Rosengarten Frank 2007 Urbane Revolutionary C L R James and the Struggle for a New Society University Press of Mississippi ISBN 87 7289 096 7 p 134 Meacham Steve 6 June 2009 Montmartre with eucalypts Sydney Morning Herald Fairfax subkhnemux 31 August 2009 Caribbean cricket art in the middle BBC News subkhnemux 11 June 2016 Bletchley Park Post Office March 2007 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 07 16 subkhnemux 11 June 2016 Blainey Geoffrey 2010 A Game of Our Own The Origins of Australian Football Black Inc p 186 ISBN 978 1 86395 347 4 de Moore Greg 2008 Tom Wills His Spectacular Rise and Tragic Fall Allen amp Unwin pp 77 93 94 ISBN 978 1 74175 499 5 Hess Rob 2008 A National Game The History of Australian Rules Football Viking p 44 ISBN 978 0 670 07089 3 Goldstein p 184 Goldstein pp 15 amp 184 Goldstein p 458 His Hall of Fame plaque states in part Inventor of the box score Author of the first rule book Chairman of rules committee in first nationwide baseball organization Lederer Rich By the Numbers Computer technology has deepened fans passion with the game s statistics Memories and Dreams Vol 33 No 6 Winter 2011 2012 pp 32 34 official magazine Pesca Mike 30 July 2009 The Man Who Made Baseball s Box Score a Hit subkhnemux 8 March 2014 Arango Tim 12 November 2010 Myth of baseball s creation endures with a prominent fan The New York Times subkhnemux 8 November 2014 2002 A Corner of a Foreign Field The Indian History of a British Sport London Picador ISBN 0 330 49117 2 OCLC 255899689 aehlngkhxmulxunxngkhkraelakaraekhngkhn sphakhrikektnanachati ICC ESPNcricinfo sux khaxthibaykhxngkhrikekt khrikektkhuxxair thakhwamruckkbkila widioxthiphlitodysphakhrikektnanachati khawsaraelakhxmulxun khrikekt saranukrmbriaethnnika xxniln