ธรรมยุติกนิกาย หรือ คณะธรรมยุต เป็นคณะสงฆ์ที่พระวชิรญาณเถระทรงตั้งขึ้นเพื่อฟื้นฟูศาสนาพุทธในสยาม และแก้ไขวัตรปฏิบัติให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัย เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวผนวชอยู่นั้น ได้ทรงศึกษาพระไตรปิฎกอย่างแตกฉานทำให้มีพระวิจารณญาณเกี่ยวกับความเป็นมาของพระพุทธศาสนา และความประพฤติปฏิบัติของพระภิกษุสามเณรได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน เป็นเหตุให้มีพระราชดำริในอันที่จะฟื้นฟูการสั่งสอนพระพุทธศาสนา และการประพฤติปฏิบัติของพระสงฆ์ให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัยตามที่ได้ทรงศึกษา และทรงพิจารณาสอบสวนจนเป็นที่แน่แก่พระราชหฤทัยว่าถูกต้องเป็นจริงอย่างไร แล้วพระองค์ได้ทรงนำประพฤติปฏิบัติขึ้นก่อน หรือกล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ ทรงเริ่มแก้ไขที่พระองค์เองเป็นอันดับแรก ต่อมาเมื่อมีบุคคลอื่นเห็นชอบและนิยมตาม จึงได้มีผู้ประพฤติปฏิบัติตามอย่างพระองค์ขึ้น และมีจำนวนมากขึ้นเป็นลำดับ จนเกิดเป็นพระสงฆ์หมู่หนึ่ง หรือนิกายหนึ่ง ที่ได้ชื่อในภายหลังว่า ธรรมยุติกนิกาย หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า “ธรรมยุต” อันมีความหมายว่า ผู้ประกอบด้วยธรรม หรือชอบด้วยธรรม หรือยุติตามธรรม ทั้งนี้ก็เพราะว่าพระสงฆ์นี้เกิดขึ้นด้วยมุ่งแสวงหาว่า ข้อใดเป็นธรรม เป็นวินัย เป็นสัตถุศาสน์ (คือคำสั่งสอนของพระศาสดา) แล้วปฏิบัติข้อนั้น เว้นข้อที่ไม่เป็นธรรม ไม่เป็นวินัย ไม่เป็นสัตถุศาสน์ แม้จะเป็น (ข้อปฏิบัติตามกันมาแต่ผิดพระธรรมวินัย) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการ ให้ประกาศใช้พระราชบัญญัติลักษณะการปกครองคณะสงฆ์ขึ้น เป็นครั้งแรกในประเทศไทย พระราชบัญญัติฉบับนี้มีชื่อว่า พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ร.ศ. 121 มีสาระสำคัญคือได้ยกสถานะคณะธรรมยุติ ให้เป็นนิกายอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ตราธรรมจักร | |
ชื่อย่อ | ธรรมยุต |
---|---|
ก่อตั้ง | พ.ศ. 2376 |
ผู้ก่อตั้ง | พระวชิรญาณเถระ (พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) |
ประเภท | คณะสงฆ์ |
สํานักงานใหญ่ | วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร, เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร |
เจ้าคณะใหญ่ | สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อัมพร อมฺพโร) (ตั้งแต่ พ.ศ. 2560) |
ธรรมยุติกนิกาย ตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปฏิรูปและฟื้นฟูด้านวัตรปฏิบัติของสงฆ์ ให้มีความถูกต้องและเข้มงวดตามพุทธบัญญัติ ให้พระภิกษุสงฆ์มีวัตรปฏิบัติที่เคร่งครัดถูกต้องตามพระวินัยปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้องดีงาม ศึกษาพระปริยัติธรรมอย่างเข้าใจแจ่มแจ้ง เป็นการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในส่วนที่บกพร่องของพระสงฆ์ไทยที่มีมาแต่โบราณ ให้สมบูรณ์ทั้งพระวินัยปิฎกและพระสุตตันตปิฎก ซึ่งเป็นความพยายามของพระวชิรญาณเถระเพื่อช่วยปฏิรูปการคณะสงฆ์และเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองอย่างบริบูรณ์ขึ้นในประเทศไทย
การก่อตั้งคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย เป็นสาเหตุทำให้พระสงฆ์เถรวาทอื่นซึ่งเป็นพระสงฆ์ส่วนใหญ่ที่ไม่ใช่คณะธรรมยุต ได้มีการประชุมและมีมติให้เรียกพระสงฆ์ส่วนใหญ่ที่ไม่ใช่คณะธรรมยุต ว่า "มหานิกาย"
ประวัติ
การก่อตั้ง
พระสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย เกิดขึ้นเมื่อไร ทางตำนานแสดงไว้ว่า ดังนี้
1. พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงรับเอาวินัยวงศ์ คือ ธรรมเนียมประพฤติปฏิบัติทางพระวินัยแบบรามัญมาเป็นข้อปฏิบัติเป็นครั้งแรก เมื่อ จ.ศ. 1187 ตรงกับ พ.ศ. 2368 อันเป็นปีที่ 2 แห่งการผนวชของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว การที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงรับเอาวินัยวงศ์แบบรามัญนิกายมาเป็นแบบปฏิบัตินั้น เป็นการเริ่มต้นแก้ไขการประพฤติปฏิบัติพระธรรมวินัยของพระองค์ ซึ่งยังผลให้มีผู้ประพฤติปฏิบัติตามจนเกิดเป็นพระสงฆ์คณะหนึ่งในเวลาต่อมา
2. สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ซึ่งเป็นพระเถรชั้นเดิมแห่งคณะธรรมยุต พระองค์หนึ่ง ทรงแสดงพระมติ “อันที่จริงคณะธรรมยุตค่อยเป็นมาโดยลำดับ ปีที่ออกหน้า ควรจะกำหนดว่าเป็นปีที่ตั้งนั้น คือ จ.ศ. 1191” ปี จ.ศ. 1191 ตรงกับ พ.ศ. 2372 อันเป็นที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผนวชได้ 6 พรรษา และเสด็จจากวัดมหาธาตุกลับไปประทับ ณ วัดสมอราย(วัดราชาธิวาส) อีกครั้งหนึ่ง เพื่อทรงสะดวกในการที่จะปรับปรุงแก้ไข การประพฤติปฏิบัตพระธรรมวินัยในส่วนพระองค์เองได้โดยสะดวกพระทัย เพราะการประทับอยู่ในวัดมหาธาตุ อันเป็นที่สถิตของสมเด็จพระสังฆราช และเป็นพระราชอุปัธยาจารย์ของพระองค์ด้วยนั้น คงทรงเห็นว่าไม่เป็นการเหมาะสมที่จะประพฤติปฏิบัติวัตรปฏิบัติต่าง ๆ ที่แปลกจากทำเนียมปฏิบัติที่เคยเป็นมา ฉะนั้น การเสด็จกลับไปประทับที่วัดสมอราย จึงเท่ากับเป็นการเริ่มต้นการปรับปรุงแก้ใขวัตรปฏิบัติทางพระธรรมวินัยของพระองค์ พร้อมทั้งคณะศิษย์ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างจริงจัง
3. สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงแสดงพระมติไว้ ตามที่ปรากฏในลายพระหัตถ์ถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวว่า “วันพรุ่งนี้ (คือวันที่ 11 มกราคม) เป็นวันที่คณะธรรมยุตและวัดบวรนิเวศ ตั้งมาได้ครบ 60 รอบปีบริบูรณ์” ตามความในลายพระหัตถ์ดังกล่าวนี้หมายความว่า ทรงถือเอาวันที่ 11 มกราคม ร.ศ. 55 ( ตรงกับ พ.ศ. 2379) อันเป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จจากวัดสมอรายมาครองวัดบวรนิเวศวิหาร เป็นวันตั้งคณะธรรมยุต และเป็นวันตั้งวัดบวรนิเวศวิหาร
พัฒนาการของธรรมยุติกนิกาย
ตามความในพระราชประวัติแสดงให้เห็นว่า พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงเริ่มปรับปรุงแก้ไขการประพฤติปฏิบัติพระธรรมวินัยในส่วนพระองค์ เพื่อให้ถูกต้องตามที่ทรงได้ศึกษาพิจารณามาตั้งแต่ผนวชได้ 2 พรรษา ขณะที่ยังประทับอยู่วัดมหาธาตุ และเริ่มมีสหธรรมิกอื่น ๆ นิยมปฏิบัติตามพระองค์ขึ้นบ้างแล้ว แต่ยังคงไม่มากนัก
ครั้นปี พ.ศ. 2372 อันเป็นปีที่ผนวชได้ 6 พรรษา พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงตั้งเป็นพระราชาคณะ มาถึงระยะนี้ คงมีภิกษุสามเณรที่นิยมการปฏิบัติตามอย่างพระองค์และมาถวายตัวเป็นศิษย์มากขึ้น จึงได้เสด็จจากวัดมหาธาตุกลับไปวัดสมอราย(วัดราชาธิวาส) อันเป็นวัดนอกกำแพงพระนครและเป็นวัดฝ่ายอรัญญวาสี หรือวัดป่า ที่มีชื่ออยู่ในขณะนั้น ทั้งนี้ก็คงเพื่อความสะดวกพระทัย ในอันเป็นที่พระองค์พร้อมทั้งคณะศิษย์จะได้ประพฤติปฏิบัติ และบำเพ็ญกิจวัตรต่าง ๆ ทางพระธรรมวินัยที่เห็นว่าถูกว่าควรได้ตามประสงค์ แต่ศิษย์บางส่วนก็ยังคงอยู่ที่วัดมหาธาตุต่อมา
แม้เมื่อเสด็จมาประทับที่วัดสมอรายแล้ว การปรับปรุงแก้ไขวัตรปฏิบัติต่าง ๆ ในคณะของพระองค์ก็คงยังดำเนินไปได้ไม่ค่อยสะดวกนัก เพราะพระองค์มิได้ทรงเป็นอธิบดีสงฆ์แห่งสำนักนั้น ฉะนั้น ในขณะเมื่อประทับอยู่ที่วัดมหาธาตุก็ดี ที่วัดสมอรายก็ดี ธรรมเนียมปฏิบัติต่าง ๆ ที่พระองค์ได้ทรงพระราชดำริปรับปรุงแก้ไขขึ้นใหม่คงยังไม่ได้มีกำหนดเป็นรูปแบบที่ชัดเจนบริบูรณ์
ต่อเมื่อเสด็จมาครองวัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อ พ.ศ. 2379 แล้ว จึงปรากฏหลักฐานว่า ทรงตั้งธรรมเนียมปฏิบัติสำหรับพระสงฆ์ธรรมยุติขึ้นอย่างไรบ้าง ดังที่ปรากฏในตำนานวัดบวรนิเวศวิหารเป็นต้น
โดยที่พระสงฆ์คณะธรรมยุติกนิกาย เกิดขึ้นจากผลของการแสวงหาความถูกต้องตามพระธรรมวินัย เริ่มแต่การทรงศึกษาสอบสวน ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตลอดมาจนถึงการศึกษาสอบสวนของพระเถรานุเถระผู้เป็นบูรพาจารย์แห่งคณะธรรมยุตเป็นลำดับมา
ธรรมเนียมและแบบแผนของธรรมยุติกนิกาย
ระเบียบแบบแผนในด้านการปฏิรูปทางพระพุทธศาสนาของธรรมยุติกนิกาย โดยพระวชิรญาณเถระ (เจ้าฟ้ามงกุฏ : พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4)
- ทรงตั้งธรรมเนียมนมัสการพระเช้าค่ำ ที่เรียกว่าทำวัตรเช้า ทำวัตรค่ำ เป็นประจำ และทรงพระราชนิพนธ์บทสวดเป็นภาษาบาลี เป็นคาถา เป็น จุณณิยบท ซึ่งใช้แพร่หลายมาจนถึงปัจจุบันนี้ มีการรักษาศีลอุโบสถ และแสดงพระธรรมเทศนาเวลาสามโมงเช้าและบ่ายสามโมง ในวันธรรมสวนะและวันอุโบสถ เดือนละ 4 ครั้ง
- ทรงปฏิรูปการเทศน์และการอธิบายธรรมทรงเริ่มการเทศนาด้วยฝีพระโอษฐ์ ชวนให้ผู้ฟังเข้าใจง่ายและเกิดศรัทธา ไม่โปรดเขียนหนังสือไว้เทศน์นอกจากนี้ยังทรงฝึกหัดศิษย์ให้ปฏิบัติตาม ทรงอธิบายเพื่อให้คนเข้าใจในเนื้อหาของหลักธรรม เผยแพร่หลักธรรมสู่ราษฎร อธิบายหลักอันยุ่งยากซับซ้อน คณะสงฆ์ธรรมยุติได้เพิ่มบทสวดมนต์ภาษาไทยลงไป ทำให้คนนิยมฟังเป็นอันมาก
- ทรงกำหนดวันมาฆบูชาเป็นวันสำคัญทางศาสนาเพิ่มขึ้นจากวันวิสาขบูชา ทรงพระราชนิพนธ์คำบูชา และวางระเบียบให้เดินเวียนเทียนและสดับพระธรรมเทศนา ทรงชักนำให้บำเพ็ญกุศลตามเทศกาลต่าง ๆ เช่น ถวายสลากภัตร ตักบาตรน้ำผึ้ง ถวายผ้าจำนำพรรษา
- ทรงแก้ไขการรับผ้ากฐินให้ถูกต้องตามพุทธบัญญัติ คือเริ่มแต่การซัก ตัด เย็บ ย้อม ให้เสร็จภายในวันเดียวกัน
- ทรงแก้ไขการขอบรรพชา และการสวดกรรมวาจาในอุปสมบทกรรมให้ถูกต้องยิ่งขึ้น เช่น ระบุนามอุปสัมปทา และนามอุปัชฌายะ ซึ่งเป็นภาษาบาลีในกรรมวาจา การออกเสียง อักษรบาลี ทรงให้ถือหลักการออกเสียงให้ถูกฐานกรณ์ของอักขระตามหลักบาลีไวยากรณ์
- ทรงวางระเบียบการครองผ้า คือการนุ่งห่มของภิกษุสามเณร ให้ปฏิบัติไปตามหลักเสขิยวัตรในพระวินัยเพื่อให้สุภาพเรียบร้อย (เดิมพระธรรมยุติครองจีวรห่มม้วนซ้าย แต่ตอนปลายรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เปลี่ยนมาห่มห่มม้วนขวา (ห่มมังกร) ตามแบบพระสงฆ์มหานิกาย ครั้นถึงรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสวยราชย์ จึงได้กลับมาห่มม้วนซ้ายตามเดิม) ทรงวางระเบียบการกราบไหว้ของพระภิกษุสามเณร และระเบียบอาจารยะมารยาท ต้องวางตัวให้น่าเลื่อมใสศรัทธา สังวรในกิริยามารยาทและขนบธรรมเนียม
- ทรงให้พระสงฆ์ธรรมยุติ ศึกษาพระปริยัติธรรมให้แตกฉาน สามารถแสดงธรรมเทศนา สั่งสอน สามารถแยกระหว่างความเชื่อที่มีเหตุผล และความเชื่อในสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้ การศึกษาในด้านวิปัสสนาธุระ ไม่ใช่รับรู้เฉพาะสมถะวิธีอันเป็นเบื้องต้น แต่ให้รับรู้ไปถึงขั้นวิปัสสนากรรมฐาน การปฏิบัติตามพระวินัย ทรงให้ถือหลักว่าสิ่งใดที่สงสัยและน่ารังเกียจไม่ควรกระทำโดยเด็ดขาด พึงเคารพพระวินัยอย่างเคร่งครัด
- ทรงเห็นความสำคัญในการศึกษาหา ความรู้สาขาอื่น ๆ ของพระสงฆ์ จึงทรงอนุญาตให้พระสงฆ์เข้าศึกษาภาษาอังกฤษกับหมอแคสเวล (Reverend Jesse Caswell) ตามความสนใจ ทำให้มีการสืบสานการเข้าศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมของพระสงฆ์มาจนถึงปัจจุบัน
เจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต
อ้างอิง
- พระเทพกวี(จุนท์ พฺรหมคุตฺโต) (2541) ทำเนียมแห่งคณะธรรมยุติกนิกาย กรุงเทพฯ วัดบวรนิเวศวิหาร
- เว็บไซต์ ธรรมะไทย
ดูเพิ่ม
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
thrrmyutiknikay hrux khnathrrmyut epnkhnasngkhthiphrawchiryanethrathrngtngkhunephuxfunfusasnaphuththinsyam aelaaekikhwtrptibtiihthuktxngtamphrathrrmwiny emuxphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhwphnwchxyunn idthrngsuksaphraitrpidkxyangaetkchanthaihmiphrawicarnyanekiywkbkhwamepnmakhxngphraphuththsasna aelakhwampraphvtiptibtikhxngphraphiksusamenridxyanglaexiydthithwn epnehtuihmiphrarachdariinxnthicafunfukarsngsxnphraphuththsasna aelakarpraphvtiptibtikhxngphrasngkhihthuktxngtamphrathrrmwinytamthiidthrngsuksa aelathrngphicarnasxbswncnepnthiaenaekphrarachhvthywathuktxngepncringxyangir aelwphraxngkhidthrngnapraphvtiptibtikhunkxn hruxklawxikxyanghnungkkhux thrngerimaekikhthiphraxngkhexngepnxndbaerk txmaemuxmibukhkhlxunehnchxbaelaniymtam cungidmiphupraphvtiptibtitamxyangphraxngkhkhun aelamicanwnmakkhunepnladb cnekidepnphrasngkhhmuhnung hruxnikayhnung thiidchuxinphayhlngwa thrrmyutiknikay hruxthieriyksn wa thrrmyut xnmikhwamhmaywa phuprakxbdwythrrm hruxchxbdwythrrm hruxyutitamthrrm thngnikephraawaphrasngkhniekidkhundwymungaeswnghawa khxidepnthrrm epnwiny epnstthusasn khuxkhasngsxnkhxngphrasasda aelwptibtikhxnn ewnkhxthiimepnthrrm imepnwiny imepnstthusasn aemcaepn khxptibtitamknmaaetphidphrathrrmwiny phrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhw miphrabrmrachoxngkar ihprakasichphrarachbyytilksnakarpkkhrxngkhnasngkhkhun epnkhrngaerkinpraethsithy phrarachbyytichbbnimichuxwa phrarachbyytikhnasngkh r s 121 misarasakhykhuxidyksthanakhnathrrmyuti ihepnnikayxyangthuktxngtamkdhmaythrrmyutiknikaytrathrrmckrchuxyxthrrmyutkxtngph s 2376 191 pithiaelw 2376 phukxtngphrawchiryanethra phrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw praephthkhnasngkhsanknganihywdbwrniewsrachwrwihar ekhtphrankhr krungethphmhankhrecakhnaihysmedcphraxriywngsakhtyan xmphr xm phor tngaet ph s 2560 thrrmyutiknikay tngkhunodymiwtthuprasngkhephuxptirupaelafunfudanwtrptibtikhxngsngkh ihmikhwamthuktxngaelaekhmngwdtamphuththbyyti ihphraphiksusngkhmiwtrptibtithiekhrngkhrdthuktxngtamphrawinyptibtiinsingthithuktxngdingam suksaphrapriytithrrmxyangekhaicaecmaecng epnkarfunfuphraphuththsasnainswnthibkphrxngkhxngphrasngkhithythimimaaetobran ihsmburnthngphrawinypidkaelaphrasuttntpidk sungepnkhwamphyayamkhxngphrawchiryanethraephuxchwyptirupkarkhnasngkhaelaephyaephphraphuththsasnaihecriyrungeruxngxyangbriburnkhuninpraethsithy karkxtngkhnasngkhthrrmyutiknikay epnsaehtuthaihphrasngkhethrwathxunsungepnphrasngkhswnihythiimichkhnathrrmyut idmikarprachumaelamimtiiheriykphrasngkhswnihythiimichkhnathrrmyut wa mhanikay prawtikarkxtng phrasngkhthrrmyutiknikay ekidkhunemuxir thangtananaesdngiwwa dngni 1 phrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw thrngrbexawinywngs khux thrrmeniympraphvtiptibtithangphrawinyaebbramymaepnkhxptibtiepnkhrngaerk emux c s 1187 trngkb ph s 2368 xnepnpithi 2 aehngkarphnwchkhxngphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw karthiphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw thrngrbexawinywngsaebbramynikaymaepnaebbptibtinn epnkarerimtnaekikhkarpraphvtiptibtiphrathrrmwinykhxngphraxngkh sungyngphlihmiphupraphvtiptibtitamcnekidepnphrasngkhkhnahnunginewlatxma 2 smedcphramhasmneca krmphrayapwerswriyalngkrn sungepnphraethrchnedimaehngkhnathrrmyut phraxngkhhnung thrngaesdngphramti xnthicringkhnathrrmyutkhxyepnmaodyladb pithixxkhna khwrcakahndwaepnpithitngnn khux c s 1191 pi c s 1191 trngkb ph s 2372 xnepnthiphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw phnwchid 6 phrrsa aelaesdccakwdmhathatuklbipprathb n wdsmxray wdrachathiwas xikkhrnghnung ephuxthrngsadwkinkarthicaprbprungaekikh karpraphvtiptibtphrathrrmwinyinswnphraxngkhexngidodysadwkphrathy ephraakarprathbxyuinwdmhathatu xnepnthisthitkhxngsmedcphrasngkhrach aelaepnphrarachxupthyacarykhxngphraxngkhdwynn khngthrngehnwaimepnkarehmaasmthicapraphvtiptibtiwtrptibtitang thiaeplkcakthaeniymptibtithiekhyepnma chann karesdcklbipprathbthiwdsmxray cungethakbepnkarerimtnkarprbprungaekikhwtrptibtithangphrathrrmwinykhxngphraxngkh phrxmthngkhnasisythimicanwnephimkhunxyangcringcng 3 smedcphramhasmneca krmphrayawchiryanworrs thrngaesdngphramtiiw tamthipraktinlayphrahtththwayphraphrphrabathsmedcphraculcxmeklaecaxyuhwwa wnphrungni khuxwnthi 11 mkrakhm epnwnthikhnathrrmyutaelawdbwrniews tngmaidkhrb 60 rxbpibriburn tamkhwaminlayphrahtthdngklawnihmaykhwamwa thrngthuxexawnthi 11 mkrakhm r s 55 trngkb ph s 2379 xnepnwnthiphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhwesdccakwdsmxraymakhrxngwdbwrniewswihar epnwntngkhnathrrmyut aelaepnwntngwdbwrniewswihar phthnakarkhxngthrrmyutiknikay wdbwrniewsrachwrwihar sunyklangkhxngkhnathrrmyutiknikay tamkhwaminphrarachprawtiaesdngihehnwa phrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw idthrngerimprbprungaekikhkarpraphvtiptibtiphrathrrmwinyinswnphraxngkh ephuxihthuktxngtamthithrngidsuksaphicarnamatngaetphnwchid 2 phrrsa khnathiyngprathbxyuwdmhathatu aelaerimmishthrrmikxun niymptibtitamphraxngkhkhunbangaelw aetyngkhngimmaknk khrnpi ph s 2372 xnepnpithiphnwchid 6 phrrsa phrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw thrngtngepnphrarachakhna mathungrayani khngmiphiksusamenrthiniymkarptibtitamxyangphraxngkhaelamathwaytwepnsisymakkhun cungidesdccakwdmhathatuklbipwdsmxray wdrachathiwas xnepnwdnxkkaaephngphrankhraelaepnwdfayxryywasi hruxwdpa thimichuxxyuinkhnann thngnikkhngephuxkhwamsadwkphrathy inxnepnthiphraxngkhphrxmthngkhnasisycaidpraphvtiptibti aelabaephykicwtrtang thangphrathrrmwinythiehnwathukwakhwridtamprasngkh aetsisybangswnkyngkhngxyuthiwdmhathatutxma aememuxesdcmaprathbthiwdsmxrayaelw karprbprungaekikhwtrptibtitang inkhnakhxngphraxngkhkkhngyngdaeninipidimkhxysadwknk ephraaphraxngkhmiidthrngepnxthibdisngkhaehngsanknn chann inkhnaemuxprathbxyuthiwdmhathatukdi thiwdsmxraykdi thrrmeniymptibtitang thiphraxngkhidthrngphrarachdariprbprungaekikhkhunihmkhngyngimidmikahndepnrupaebbthichdecnbriburn txemuxesdcmakhrxngwdbwrniewswihar emux ph s 2379 aelw cungprakthlkthanwa thrngtngthrrmeniymptibtisahrbphrasngkhthrrmyutikhunxyangirbang dngthipraktintananwdbwrniewswiharepntn odythiphrasngkhkhnathrrmyutiknikay ekidkhuncakphlkhxngkaraeswnghakhwamthuktxngtamphrathrrmwiny erimaetkarthrngsuksasxbswn khxngphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw tlxdmacnthungkarsuksasxbswnkhxngphraethranuethraphuepnburphacaryaehngkhnathrrmyutepnladbma smedcphramhasmneca krmphrayapwerswriyalngkrn phraethrchnedimaehngkhnathrrmyutthrrmeniymaelaaebbaephnkhxngthrrmyutiknikayraebiybaebbaephnindankarptirupthangphraphuththsasnakhxngthrrmyutiknikay odyphrawchiryanethra ecafamngkut phrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw rchkalthi 4 thrngtngthrrmeniymnmskarphraechakha thieriykwathawtrecha thawtrkha epnpraca aelathrngphrarachniphnthbthswdepnphasabali epnkhatha epn cunniybth sungichaephrhlaymacnthungpccubnni mikarrksasilxuobsth aelaaesdngphrathrrmethsnaewlasamomngechaaelabaysamomng inwnthrrmswnaaelawnxuobsth eduxnla 4 khrng thrngptirupkarethsnaelakarxthibaythrrmthrngerimkarethsnadwyfiphraoxsth chwnihphufngekhaicngayaelaekidsrththa imoprdekhiynhnngsuxiwethsnnxkcakniyngthrngfukhdsisyihptibtitam thrngxthibayephuxihkhnekhaicinenuxhakhxnghlkthrrm ephyaephrhlkthrrmsurasdr xthibayhlkxnyungyaksbsxn khnasngkhthrrmyutiidephimbthswdmntphasaithylngip thaihkhnniymfngepnxnmak thrngkahndwnmakhbuchaepnwnsakhythangsasnaephimkhuncakwnwisakhbucha thrngphrarachniphnthkhabucha aelawangraebiybihedinewiynethiynaelasdbphrathrrmethsna thrngchknaihbaephykusltamethskaltang echn thwayslakphtr tkbatrnaphung thwayphacanaphrrsa thrngaekikhkarrbphakthinihthuktxngtamphuththbyyti khuxerimaetkarsk td eyb yxm ihesrcphayinwnediywkn thrngaekikhkarkhxbrrphcha aelakarswdkrrmwacainxupsmbthkrrmihthuktxngyingkhun echn rabunamxupsmptha aelanamxupchchaya sungepnphasabaliinkrrmwaca karxxkesiyng xksrbali thrngihthuxhlkkarxxkesiyngihthukthankrnkhxngxkkhratamhlkbaliiwyakrn thrngwangraebiybkarkhrxngpha khuxkarnunghmkhxngphiksusamenr ihptibtiiptamhlkeskhiywtrinphrawinyephuxihsuphapheriybrxy edimphrathrrmyutikhrxngciwrhmmwnsay aettxnplayrchkalphrabathsmedcphranngeklaecaxyuhw idepliynmahmhmmwnkhwa hmmngkr tamaebbphrasngkhmhanikay khrnthungrchkalphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhweswyrachy cungidklbmahmmwnsaytamedim thrngwangraebiybkarkrabihwkhxngphraphiksusamenr aelaraebiybxacaryamaryath txngwangtwihnaeluxmissrththa sngwrinkiriyamaryathaelakhnbthrrmeniym thrngihphrasngkhthrrmyuti suksaphrapriytithrrmihaetkchan samarthaesdngthrrmethsna sngsxn samarthaeykrahwangkhwamechuxthimiehtuphl aelakhwamechuxinsingthiimsamarthxthibayid karsuksaindanwipssnathura imichrbruechphaasmthawithixnepnebuxngtn aetihrbruipthungkhnwipssnakrrmthan karptibtitamphrawiny thrngihthuxhlkwasingidthisngsyaelanarngekiycimkhwrkrathaodyeddkhad phungekharphphrawinyxyangekhrngkhrd thrngehnkhwamsakhyinkarsuksaha khwamrusakhaxun khxngphrasngkh cungthrngxnuyatihphrasngkhekhasuksaphasaxngkvskbhmxaekhsewl Reverend Jesse Caswell tamkhwamsnic thaihmikarsubsankarekhasuksahakhwamruephimetimkhxngphrasngkhmacnthungpccubnecakhnaihykhnathrrmyutxangxingphraethphkwi cunth ph rhmkhut ot 2541 thaeniymaehngkhnathrrmyutiknikay krungethph wdbwrniewswihar ewbist thrrmaithyduephimsasnaphuththinpraethsithy thrrmyutiknikayinpraethskmphucha mhanikay wdithyinsngkdkhnasngkhthrrmyutinikay