บทความนี้ไม่มีจาก |
ที-34 (T-34) เป็นรถถังขนาดกลางสัญชาติโซเวียตที่ถูกนำเสนอในปี ค.ศ. 1940 ได้มีชื่อเสียงในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง กับปฏิบัติการบาร์บาร็อสซา
T-34 | |
---|---|
A T-34-85 tank on display at in April 2007. | |
ชนิด | รถถังขนาดกลาง |
แหล่งกำเนิด | สหภาพโซเวียต |
บทบาท | |
ประจำการ | 1940–ประมาณทศวรรษ 1960s (USSR) 1950s–ปัจจุบัน (ประเทศอื่น) |
ผู้ใช้งาน | สหภาพโซเวียต และ 39 ประเทศ |
สงคราม | สงครามโลกครั้งที่สอง, and many others |
ประวัติการผลิต | |
ผู้ออกแบบ | |
ช่วงการออกแบบ | 1937–40 |
ช่วงการผลิต | 1940–58 |
จำนวนที่ผลิต | 84,070 35,120 T-34/76 48,950 T-34-85 |
ข้อมูลจำเพาะ (T-34 Model 1941) | |
มวล | 26.5 ตัน |
ความยาว | 6.68 m (21 ft 11 in) |
ความกว้าง | 3.00 m (9 ft 10 in) |
ความสูง | 2.45 m (8 ft 0 in) |
ลูกเรือ | 4 (T-34-76) 5 (T-34-85) |
เกราะ | Hull front 47 mm /60° (upper part) 45 mm (1.8")/60° (lower part), Hull side 40 mm/41°(upper part), Hull rear 45 mm, Hull top 20 mm, Hull bottom 15 mm; Turret front 60 mm (2.4"), Turret side 52 mm/30°, Turret rear 30 mm, Turret top 16 mm [] |
อาวุธหลัก | 76.2 mm (3.00 in) (T-34-85: 85 mm gun) |
อาวุธรอง | 2 × 7.62 mm (0.308 in) DT machine guns |
เครื่องยนต์ | 38.8 L 500 hp (370 kW) |
กำลัง/น้ำหนัก | 18.9 hp (14 kW) / tonne |
กันสะเทือน | |
ความสูงจากพื้นรถ | 0.4 m (16 in) |
พิสัยปฏิบัติการ |
|
ความเร็ว | 53 km/h (33 mph) |
ปืนรถถังขนาด 76.2 มม.(3 นิ้ว) ที่ทรงพลังมากกว่าปืนรถถังที่ร่วมสมัย ในขณะที่เกราะแบบลาดเอียง 60 องศา ซึ่งสามารถป้องกันได้ดีต่ออาวุธต่อต้านรถถัง ระบบกันสะเทือนของคริสตีได้รับการสืบทอดมาจากการออกแบบรถถังรุ่นเอ็ม1928 ของชาวอเมริกันนามว่า รถถังแบบรุ่นที่ถูกขายที่มีป้อมปืนน้อยให้กับกองทัพแดง และได้ถูกบันทึกว่า เป็น"รถแทรกเตอร์ฟาร์ม" ภายหลังจากถูกกองทัพสหรัฐปฏิเสธ ที 34 มีผลอย่างมากต่อความขัดแย้งในแนวรบด้านตะวันออกในสงครามโลกครั้งที่สอง และมีผลกระทบที่ยาวนานต่อการออกแบบรถถัง ภายหลังจากที่เยอรมันได้เผชิญหน้ากับรถถังคันนี้ในปี ค.ศ. 1941 นายพลเยอรมัน นามว่า เพาล์ ลูทวิช เอวัลท์ ฟ็อน ไคลสท์ ได้เรียกมันว่า "รถถังที่ดีเยี่ยมที่สุดในโลก" และไฮนทซ์ กูเดรีอันได้ยืนยันว่า รถถังที-34 "มีความเหนือกว่า"รถถังเยอรมันอย่างมาก "ในช่วงต้นของเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1941 หัวหน้ากองบัญชาการใหญ่แห่งแวร์มัคท์ อัลเฟรท โยเดิล ได้บันทึกไว้ในอนุทินสงครามของเขาที่กล่าวถึง ความประหลาดใจที่อาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่ชนิดนี้ที่น่าทึงและไม่รู้จัก ได้ถูกปล่อยมาต่อสู้รบกับกองพลจู่โจมเยอรมัน" แม้ว่าเกราะและอาวุธยุทโธปกรณ์ของมันจะมีมากกว่าในช่วงสงคราม แต่ก็ยังได้ถูกอธิบายว่า เป็นการออกแบบรถถังที่มีอิทธิพลมากที่สุดในสงคราม
ที-34 เป็นหัวหลักของกองกำลังยานเกราะโซเวียตในช่วงตลอดสงคราม ข้อมูลจำเพาะทั่วไปของมันยังแทบไม่เปลี่ยนแปลงจนถึงปลายปี ค.ศ. 1944 เมื่อได้อัพเกรดอำนาจการยิงด้วยการเปิดตัวรถถังรุ่นที-34/85 ที่ถูกทำออกมาดีมากขึ้น วิธีการผลิตนั้นได้ถูกทำออกมาอย่างประณีตและมีเหตุผลอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของแนวรบด้านตะวันออก ทำให้ที-34 ถูกผลิตออกมาได้เร็วและราคาถูกกว่า ในท้ายที่สุด โซเวียตได้สร้างที-34 จำนวนกว่า 80,000 คันของทุกรุ่นทั้งหมด ทำให้สามารถเข้าสู่สนามรบได้จำนวนมากขึ้นเรือย ๆ แม้จะต้องประสบความสูญเสียในการสู้รบกับกองทัพแวร์มัคท์ของเยอรมัน การแทนที่รถถังเบาและขนาดกลางจำนวนมากในการเข้าประจำการในกองทัพแดง เป็นรถถังที่ถูกผลิตขึ้นได้มากที่สุดในสงครามและเป็นรถถังที่ผลิตขึ้นได้มากที่สุดเป็นอันดับสองตลอดกาล (รองลงจากรถถังรุ่น (ที-54/ที 55)) ด้วยจำนวนที่สูญเสีย 44,900 คันในช่วงสงคราม มันยังเป็นการสูญเสียรถถังมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา การพัฒนาได้นำไปสู่รถถังรุ่น ที-44 โดยตรง จากนั้นก็เป็นรถถังรุ่น (ที-54 และที-55) ซึ่งจะพัฒนามาเป็นรถถังรุ่น ที-62 ที-72 และที-90 ในภายหลัง ซึ่งเป็นแกนหลักของยานเกราะของกองทัพสมัยใหม่จำนวนมาก ที-34 รุ่นต่าง ๆ ได้ถูกส่งออกไปอย่างกว้างขวางในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง และเมื่อไม่นานมานี้ ในปี ค.ศ. 2018 มีจำนวนมากกว่า 130 คัน ที่ยังอยู่ในประจำการ
จุดเริ่มต้น
ที-34 พัฒนาขึ้นมามาจากรถถังตระกูลบีที หรือที่ภาษารัสเซียเรียก แบแต ซึ่งเป็นรถถังเคลื่อนที่เร็ว และถูกนำเข้าประจำการณ์แทนรถถังตระกูลบีที และ ที-26 โดยช่วงก่อน ค.ศ. 1939 รถถังโซเวียตส่วนมากเป็นรถถังเบารุ่นที-26 และ ตระกูลบีที รุ่น ที-26 นั้นเป็นรถถังเคลื่อนที่ช้าสำหรับทหารราบมันถูกออกแบบมาให้เกาะไปกับทหารเดินเท้า ส่วนบีทีนั้น เป็นรถถังของทหารม้า มันเร็วมาก และถูกออกแบบให้สู้กับรถถัง แต่ไม่ใช่กับทหารราบ แต่ทั้งสองแบบมีเกราะบาง ป้องกันอาวุธเล็ก ได้ แต่ต้านปืนต่อสู้รถถังขนาดใหญ่ไม่ได้ ขณะที่เครื่องยนต์น้ำมันก๊าดของรถถังก็มักมีปัญหาไฟลุกอยู่ บ่อยครั้ง ทั้งสองแบบ ต่างก็พัฒนามาจากมันสมองของชาวต่างชาติทั้งสิ้น ที-26 นั้นพัฒนามาจากรถถัง วิคเกอร์-6 ตัน ของอังกฤษ ส่วน บีที ก็เป็นการออกแบบโดย วิศวกรอเมริกัน
เอ-20, เอ-32
ค.ศ. 1937 กองทัพแดงมอบหมายให้ ( Mikhail koshkin ) ให้เป็นผู้นำทีมออกแบบรถถังที่จะมาแทนรถถังบีที พวกเขาก็ได้รถถังต้นแบบที่เรียกกันว่า เอ-20 ตามขนาดเกราะที่หนา 20 มม.ติดปืนขนาด 45 มม.และใช้เครื่องยนต์ วี-2ที่พัฒนาใหม่ ใช้น้ำมันดีเซลซึ่งติดไฟได้ยากกว่า มันมีล้อขนาด 8x6 คล้ายกับล้อขนาด 8x2 ของบีที ที่สามารถวิ่งได้แม้ไม่มี ทำให้ไม่ต้องซ่อมบำรุงรักษาตีนตะขาบที่ในยุคนั้นยังไม่สมบูรณ์นัก มันทำความเร็วบนถนนได้กว่า 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกจากนั้น ทีมออกแบบยังได้ยืมแนวคิดจากการวิจัยโครงการรถถังบีทีก่อนหน้านี้ เรื่องการโค้งมนของเกราะ เพื่อให้กระสุนที่ถูกยิงมาแฉลบออกไปมาใช้ด้วย แต่ข้อได้เปรียบในด้านการรบอื่นๆของ เอ-20 ยังไม่มี
กอชกิ้นได้ขอสตาลินเดินหน้าพัฒนารถถังต้นแบบรุ่น 2 เพื่อให้เป็นรถถังครอบจักรวาล ติดอาวุธหนักกว่า มีเกราะหนากว่า และสามารถใช้ทดแทนได้ทั้งรถถัง ที-26 และ บีที รถต้นแบบนี้พวกเขาเรียกมันว่า เอ-32 ตามความหนา 32 มม.ของเกราะด้านหน้า มันติดปืนขนาด 76.2 มม. และใช้เครื่องยนต์แบบ เอ-20 รถ ถังรุ่นนี้เคลื่อนที่ได้ดีพอๆกับ เอ-20 แม้จะหนักกว่า
สงครามฟินแลนด์
ต่อมาเกิดสงครามฤดูหนาวระหว่างโซเวียตกับฟินแลนด์และรถถังรุ่นที่มีอยู่ของโซเวียตแสดงผลงานการรบได้ย่ำแย่มาก ปัญหาการไม่ยอมรับรถถัง เอ-32 ของบรรดานายทหาร และปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการผลิตรถถังรุ่นใหม่ที่สูงมากจึงถูกมองข้ามไป ประกอบกับมีประเด็นเรื่องความสำเร็จของการทำของเยอรมนีในฝรั่งเศสมาเสริม รถถัง เอ-32 รุ่นที่มีเกราะด้านหน้าหนา 45 มม.และมีตีนตะขาบที่กว้างกว่าเดิม จึงเข้าสู่สายพานการผลิต มันได้รับชื่อว่า ที-34 คอชกิ้นเลือกใช้ชื่อนี้ก็เพราะ ค.ศ. 1934 เป็นปีที่ลูกของเขาเกิดแนวคิดเกี่ยวกับรถถังรุ่นใหม่ และเพื่อเป็นการร่วมฉลองการออกกฤษฎีกาขยายกองกำลังยานเกราะ
หลังการจากไปของกอชกิ้น
ที-34 ต้นแบบ 2 คันสร้างเสร็จต้น ค.ศ. 1940 และได้แสดงแสนยานุภาพโดยการวิ่งไกล 2,000 กิโล เมตรจากโรงงานที่คาร์คอฟ (ปัจจุบันเรียก คาร์คิฟ อยู่ในยูเครน) เพื่อไปมอสโก ก่อนจะไปฟินแลนด์ และ ก่อนจะกลับไปโรงงานเพื่อปรับปรุงข้อบกพร่อง ที-34 รุ่นพร้อมใช้งานออกมาในเดือนกันยายนปีเดียวกัน และเข้าทดแทนรถถัง ที-26 , รถถังขนาดกลางที-28 และ บีที ปลายเดือนเดียวกันนั้น กอชกิ้นก็เสียชีวิตจากโรคปอดบวม รถรุ่นแรกติดปืนขนาด 76.2 มม.จึงเรียกกันว่า ที-34/76 ในปี ค.ศ. 1944 มีการปรับปรุงระบบอาวุธ โดยหันมาใช้ปืนขนาด 85 มม. จึงเรียกว่า ที-34/85 เพื่อนำมาต่อกรกับรถถถังพันท์เซอร์และทีเกอร์ของฝ่ายเยอรมัน
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ในเบื้องต้น ที-34 ผลิตกันที่เมืองคาร์คอฟ โดยโรงงานอื่นๆส่งส่วนประกอบต่างๆมาสนับสนุน ต่อมามีการย้ายฐานการผลิตไปเมืองอื่น ก่อนที่นาซีเยอรมันจะบุกสหภาพโซเวียตในสงครามโลกครั้งที่ 2 เรื่องนี้กดดันให้ประเทศต้องเร่งผลิตที-34 ออกมาเต็มกำลังหลังจากที่ก่อนหน้านี้ถกเถียงกันว่า ควรหันไปผลิตรถถังรุ่นเก่า หรือไม่ก็หันพัฒนารุ่นที่ก้าวหน้ามากกว่า ช่วงที่ประเทศเข้าสู่สงคราม ที-34 มีสัดส่วนแค่ 4 เปอร์เซ็นต์ของรถถังของประเทศ
การปรากฏตัวของที-34 ในฤดูร้อน ค.ศ. 1941 ทำให้ทหารเยอรมันประหลาดใจ และตกใจอย่างมากแม้ คาดว่าจะเจอการตอบโต้อย่างหนักจากฝ่ายศัตรูมาอย่างดีแล้วก็ตาม แต่ที-34 ยุคแรกก็มีข้อบกพร่องทาง ด้านเครื่องยนต์มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบและคลัทช์ ความสูญเสียของที-34 ใน ฤดูร้อนปีนั้น ครึ่งหนึ่งเกิดจากความบกพร่องของมันเอง มากกว่าที่จะเป็นจากฝ่ายข้าศึก
จากการสูญเสียมากมายในช่วงแรกของฝ่ายโซเวียต จึงได้คิดหาวิธีทำให้ค่าใช้จ่ายในการผลิตรถถูกลง แต่รถ ถังยังใช้งานได้ดี เช่นเรื่องการทำให้โลหะแข็งขึ้น ในที่สุดในเวลาแค่ 2 ปี ค่าใช้จ่ายในการผลิตรถที-34ก็ลด ลงจากคันละ 269,500 รูเบิ้ลในปี ค.ศ. 1941 เหลือแค่ 135,000 รูเบิ้ล ระยะเวลาในการสร้างก็ลดลงครึ่งหนึ่ง ใช้เวลาในการผลิต1200คันต่อเดือน แม้คนงานส่วนมากจะเป็นผู้หญิง คนสูงอายุ และเด็ก
ที-34 เหนือกว่ารถถังเยอรมันอย่างมากเมื่อสามารถลุยได้ทั้งในสภาพพื้นผิวทีเป็นโคลนหนา หรือน้ำแข็ง อาวุธของฝ่ายทหารราบเยอรมันก็ทำอะไรมันไม่ได้ แต่ที่ทำให้ ที-34 ไม่ประสบควมสำเร็จขนานใหญ่ก็เพราะพลประจำรถถังที่ได้รับการฝึกน้อย และฝ่ายบัญชาการที่มีข้อบกพร่อง ฝ่ายเยอรมันได้แก้เกมด้วยการผลิตปืนต่อสู้รถถัง และรถถังที่ใหญ่กว่า แม้ทหารเยอรมันบอกว่าที่พวกเขาต้องการก็คือให้เยอรมันผลิต ที-34 ออกมาสู้กับที-34 ของโซเวียต
การปรับปรุง และ ที-43
หลังจากฝ่ายเยอรมันนำปืนขนาด 75 มม.มาติดรถถังของพวกเขาในปี ค.ศ. 1942 ทำให้ที-34 ไม่ได้เปรียบอีกต่อไป โซเวียตก็ได้เริ่มออกแบบรถถังรุ่นใหม่คือ ซึ่งหวังจะให้เด่นในเรื่องเกราะที่เพิ่มการป้องกันได้มากขึ้น มันจะเป็น โดยจะเข้ามาแทน ที-34 และ รถถังหนัก เควี-1 แต่ปีถัดมา เยอรมนีส่งรถถังทีเกอร์และพันท์เซอร์เข้าสนามรบ ปืนของที-34 สู้กับรถถังรุ่นใหม่ไม่ไหว มองกันว่าปืนต่อสู้อากาศยานขนาด 88 มม.น่าจะสู้ได้ และมันสามารถนำมาปรับใช้กับรถถังได้ แต่เกราะของ ที-43 รุ่นต้นแบบก็ยังต้านทานปืนใหญ่รถถังขนาด 88 มม.ของทีเกอร์ไม่ไหว ขณะเดียวกันความเร็วของมันก็สู้ ที-34 ไม่ได้ โซเวียตจึงตัดสินใจปรับปรุง ที-34 จนกลายเป็นรุ่น ที-34/85 ตามขนาดของปืน การตัดสินใจพัฒนารถถังรุ่นเก่า แทนการผลิตรุ่นใหม่ มีความสำคัญต่อการรักษาอัตราการผลิตรถถังของโซเวียตอย่างมาก เพราะขณะที่โซเวียตผลิตที-34/85 ได้เดือนละ 1,200 คันเมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1944 นาซีเยอรมันมีรถถังพันท์เซอร์อยู่ในแค่ 304 คันเท่านั้น ข้อด้อยของที-34 จึงสู้กับรถถังเหล่านี้ได้ไม่ยากเย็นนัก
ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการสร้าง ที-34/85 ก็ลดลงเรื่อยๆ ปี ค.ศ. 1945 ค่าใช้จ่ายลดเหลือคันละ142,000 ขณะที่ศักยภาพการเคลื่อนที่และความเร็วยังเท่าเดิม ส่วนระบบอาวุธและเกราะก็เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว จนถึงปลายปี ค.ศ. 1945 ที-34 ถูกผลิตออกมากว่า 57,000 คัน และคิดเป็น 55 เปอร์เซ็นต์ของรถถังทั้งหมดที่โซเวียตมีอยู่
หลังสงครามโลกครั้งที่สอง
หลังสงคราม มีการผลิตที-34 ออกมาอีกมากมาย รวมทั้งมีการออกใบอนุญาตให้ประเทศอื่นๆสามารถผลิตมันได้ด้วยอย่างจีน โปแลนด์ และ ในยุคทศวรรษที่ 1960 ที-34/85 มีการปรับปรุงให้ทันสมัยเพื่อการส่งออกและการเป็นกำลังสำรอง ประเมินกันว่า ที-34 ถูกผลิตออกมาทั้งสิ้น 84,070 คัน มันถูกใช้ในกลุ่มประเทศสนธิสัญญาวอร์ซอ ในสงครามเกาหลี สงครามเวียดนาม สงครามบอสเนีย ตะวันออกกลาง อัฟกานิสถาน โซมาเลีย และไซปรัส รวมแล้ว 39 ประเทศทั่วโลกเคยนำ ที-34 เข้าประจำการ
อ้างอิง
- Zaloga & Kinnear 1996:18
- Specifications for T-34 model 41 WWIIVehicles.com. Retrieved on 18 May 2013.
- Zaloga & Sarson 1994:5
- Zaloga & Grandsen 1984:184
- McFadden, David Frederick (2002). Two ways to build a better mousetrap. Ohio: Ohio State University. p. 11.
- Guderian, Heinz (2000). "6". Panzer Leader. London: Penguin Classics. p. 233. ISBN .
- Caidin, M. (1974). 14 "The incredible T-34 tank." In The Tigers are Burning (2nd ed., p. 162). Los Angeles: Pinnacle Books.
- Kennedy, Paul (2013). Engineers of Victory. New York: Random House. pp. 184. ISBN .
- "Achtung Panzer! – T-34!".
- "The T-34 in WWII: the Legend vs. the Performance | Operation Barbarrosa". www.operationbarbarossa.net. สืบค้นเมื่อ 2015-12-16.
- Krivosheev, G. I. (1997). Soviet Casualties and Combat Losses. Greenhill. p. 253. ISBN .
- International Institute for Strategic Studies (IISS) (2010). The Military Balance 2010. London: IISS. ISBN .
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
bthkhwamniimmikarxangxingcakaehlngthimaidkrunachwyprbprungbthkhwamni odyephimkarxangxingaehlngthimathinaechuxthux enuxkhwamthiimmiaehlngthimaxacthukkhdkhanhruxlbxxk eriynruwacanasaraemaebbnixxkidxyangiraelaemuxir thi 34 T 34 epnrththngkhnadklangsychatiosewiytthithuknaesnxinpi kh s 1940 idmichuxesiynginchwngsngkhramolkkhrngthisxng kbptibtikarbarbarxssaT 34A T 34 85 tank on display at in April 2007 chnidrththngkhnadklangaehlngkaenid shphaphosewiytbthbathpracakar1940 pramanthswrrs 1960s USSR 1950s pccubn praethsxun phuichnganshphaphosewiyt aela 39 praethssngkhramsngkhramolkkhrngthisxng and many othersprawtikarphlitphuxxkaebbchwngkarxxkaebb1937 40chwngkarphlit1940 58canwnthiphlit84 070 35 120 T 34 76 48 950 T 34 85khxmulcaephaa T 34 Model 1941 mwl26 5 tnkhwamyaw6 68 m 21 ft 11 in khwamkwang3 00 m 9 ft 10 in khwamsung2 45 m 8 ft 0 in lukerux4 T 34 76 5 T 34 85 ekraaHull front 47 mm 60 upper part 45 mm 1 8 60 lower part Hull side 40 mm 41 upper part Hull rear 45 mm Hull top 20 mm Hull bottom 15 mm Turret front 60 mm 2 4 Turret side 52 mm 30 Turret rear 30 mm Turret top 16 mm txngkartrwcsxbkhwamthuktxng xawuthhlk76 2 mm 3 00 in T 34 85 85 mm gun xawuthrxng2 7 62 mm 0 308 in DT machine gunsekhruxngynt38 8 L 500 hp 370 kW kalng nahnk18 9 hp 14 kW tonneknsaethuxnkhwamsungcakphunrth0 4 m 16 in phisyptibtikar400 km T 34 250 mi 240 km T 34 85 150 mi khwamerw53 km h 33 mph punrththngkhnad 76 2 mm 3 niw thithrngphlngmakkwapunrththngthirwmsmy inkhnathiekraaaebbladexiyng 60 xngsa sungsamarthpxngknidditxxawuthtxtanrththng rabbknsaethuxnkhxngkhristiidrbkarsubthxdmacakkarxxkaebbrththngrunexm1928 khxngchawxemriknnamwa rththngaebbrunthithukkhaythimipxmpunnxyihkbkxngthphaedng aelaidthukbnthukwa epn rthaethrketxrfarm phayhlngcakthukkxngthphshrthptiesth thi 34 miphlxyangmaktxkhwamkhdaeynginaenwrbdantawnxxkinsngkhramolkkhrngthisxng aelamiphlkrathbthiyawnantxkarxxkaebbrththng phayhlngcakthieyxrmnidephchiyhnakbrththngkhnniinpi kh s 1941 nayphleyxrmn namwa ephal luthwich exwlth fxn ikhlsth ideriykmnwa rththngthidieyiymthisudinolk aelaihnths kuedrixnidyunynwa rththngthi 34 mikhwamehnuxkwa rththngeyxrmnxyangmak inchwngtnkhxngeduxnkrkdakhm kh s 1941 hwhnakxngbychakarihyaehngaewrmkhth xlefrth oyedil idbnthukiwinxnuthinsngkhramkhxngekhathiklawthung khwamprahladicthixawuthyuthothpkrnihmchnidnithinathungaelaimruck idthukplxymatxsurbkbkxngphlcuocmeyxrmn aemwaekraaaelaxawuthyuthothpkrnkhxngmncamimakkwainchwngsngkhram aetkyngidthukxthibaywa epnkarxxkaebbrththngthimixiththiphlmakthisudinsngkhram thi 34 epnhwhlkkhxngkxngkalngyanekraaosewiytinchwngtlxdsngkhram khxmulcaephaathwipkhxngmnyngaethbimepliynaeplngcnthungplaypi kh s 1944 emuxidxphekrdxanackaryingdwykarepidtwrththngrunthi 34 85 thithukthaxxkmadimakkhun withikarphlitnnidthukthaxxkmaxyangpranitaelamiehtuphlxyangtxenuxngephuxtxbsnxngkhwamtxngkarkhxngaenwrbdantawnxxk thaihthi 34 thukphlitxxkmaiderwaelarakhathukkwa inthaythisud osewiytidsrangthi 34 canwnkwa 80 000 khnkhxngthukrunthnghmd thaihsamarthekhasusnamrbidcanwnmakkhuneruxy aemcatxngprasbkhwamsuyesiyinkarsurbkbkxngthphaewrmkhthkhxngeyxrmn karaethnthirththngebaaelakhnadklangcanwnmakinkarekhapracakarinkxngthphaedng epnrththngthithukphlitkhunidmakthisudinsngkhramaelaepnrththngthiphlitkhunidmakthisudepnxndbsxngtlxdkal rxnglngcakrththngrun thi 54 thi 55 dwycanwnthisuyesiy 44 900 khninchwngsngkhram mnyngepnkarsuyesiyrththngmakthisudethathiekhymima karphthnaidnaipsurththngrun thi 44 odytrng caknnkepnrththngrun thi 54 aelathi 55 sungcaphthnamaepnrththngrun thi 62 thi 72 aelathi 90 inphayhlng sungepnaeknhlkkhxngyanekraakhxngkxngthphsmyihmcanwnmak thi 34 runtang idthuksngxxkipxyangkwangkhwanginchwnghlngsngkhramolkkhrngthisxng aelaemuximnanmani inpi kh s 2018 micanwnmakkwa 130 khn thiyngxyuinpracakarcuderimtnthi 34 phthnakhunmamacakrththngtrakulbithi hruxthiphasarsesiyeriyk aebaet sungepnrththngekhluxnthierw aelathuknaekhapracakarnaethnrththngtrakulbithi aela thi 26 odychwngkxn kh s 1939 rththngosewiytswnmakepnrththngebarunthi 26 aela trakulbithi run thi 26 nnepnrththngekhluxnthichasahrbthharrabmnthukxxkaebbmaihekaaipkbthharedinetha swnbithinn epnrththngkhxngthharma mnerwmak aelathukxxkaebbihsukbrththng aetimichkbthharrab aetthngsxngaebbmiekraabang pxngknxawuthelk id aettanpuntxsurththngkhnadihyimid khnathiekhruxngyntnamnkadkhxngrththngkmkmipyhaiflukxyu bxykhrng thngsxngaebb tangkphthnamacakmnsmxngkhxngchawtangchatithngsin thi 26 nnphthnamacakrththng wikhekxr 6 tn khxngxngkvs swn bithi kepnkarxxkaebbody wiswkrxemriknex 20 ex 32kh s 1937 kxngthphaedngmxbhmayih Mikhail koshkin ihepnphunathimxxkaebbrththngthicamaaethnrththngbithi phwkekhakidrththngtnaebbthieriykknwa ex 20 tamkhnadekraathihna 20 mm tidpunkhnad 45 mm aelaichekhruxngynt wi 2thiphthnaihm ichnamndieslsungtidifidyakkwa mnmilxkhnad 8x6 khlaykblxkhnad 8x2 khxngbithi thisamarthwingidaemimmi thaihimtxngsxmbarungrksatintakhabthiinyukhnnyngimsmburnnk mnthakhwamerwbnthnnidkwa 85 kiolemtrtxchwomng nxkcaknn thimxxkaebbyngidyumaenwkhidcakkarwicyokhrngkarrththngbithikxnhnani eruxngkarokhngmnkhxngekraa ephuxihkrasunthithukyingmaaechlbxxkipmaichdwy aetkhxidepriybindankarrbxunkhxng ex 20 yngimmi kxchkinidkhxstalinedinhnaphthnarththngtnaebbrun 2 ephuxihepnrththngkhrxbckrwal tidxawuthhnkkwa miekraahnakwa aelasamarthichthdaethnidthngrththng thi 26 aela bithi rthtnaebbniphwkekhaeriykmnwa ex 32 tamkhwamhna 32 mm khxngekraadanhna mntidpunkhnad 76 2 mm aelaichekhruxngyntaebb ex 20 rth thngrunniekhluxnthiiddiphxkb ex 20 aemcahnkkwasngkhramfinaelndtxmaekidsngkhramvduhnawrahwangosewiytkbfinaelndaelarththngrunthimixyukhxngosewiytaesdngphlngankarrbidyaaeymak pyhakarimyxmrbrththng ex 32 khxngbrrdanaythhar aelapyhaeruxngkhaichcayinkarphlitrththngrunihmthisungmakcungthukmxngkhamip prakxbkbmipraedneruxngkhwamsaerckhxngkarthakhxngeyxrmniinfrngessmaesrim rththng ex 32 runthimiekraadanhnahna 45 mm aelamitintakhabthikwangkwaedim cungekhasusayphankarphlit mnidrbchuxwa thi 34 khxchkineluxkichchuxnikephraa kh s 1934 epnpithilukkhxngekhaekidaenwkhidekiywkbrththngrunihm aelaephuxepnkarrwmchlxngkarxxkkvsdikakhyaykxngkalngyanekraahlngkarcakipkhxngkxchkinthi 34 tnaebb 2 khnsrangesrctn kh s 1940 aelaidaesdngaesnyanuphaphodykarwingikl 2 000 kiol emtrcakorngnganthikharkhxf pccubneriyk kharkhif xyuinyuekhrn ephuxipmxsok kxncaipfinaelnd aela kxncaklbiporngnganephuxprbprungkhxbkphrxng thi 34 runphrxmichnganxxkmaineduxnknyaynpiediywkn aelaekhathdaethnrththng thi 26 rththngkhnadklangthi 28 aela bithi playeduxnediywknnn kxchkinkesiychiwitcakorkhpxdbwm rthrunaerktidpunkhnad 76 2 mm cungeriykknwa thi 34 76 inpi kh s 1944 mikarprbprungrabbxawuth odyhnmaichpunkhnad 85 mm cungeriykwa thi 34 85 ephuxnamatxkrkbrthththngphnthesxraelathiekxrkhxngfayeyxrmninchwngsngkhramolkkhrngthi 2inebuxngtn thi 34 phlitknthiemuxngkharkhxf odyorngnganxunsngswnprakxbtangmasnbsnun txmamikaryaythankarphlitipemuxngxun kxnthinasieyxrmncabukshphaphosewiytinsngkhramolkkhrngthi 2 eruxngnikddnihpraethstxngerngphlitthi 34 xxkmaetmkalnghlngcakthikxnhnanithkethiyngknwa khwrhnipphlitrththngruneka hruximkhnphthnarunthikawhnamakkwa chwngthipraethsekhasusngkhram thi 34 misdswnaekh 4 epxresntkhxngrththngkhxngpraeths karprakttwkhxngthi 34 invdurxn kh s 1941 thaihthhareyxrmnprahladic aelatkicxyangmakaem khadwacaecxkartxbotxyanghnkcakfaystrumaxyangdiaelwktam aetthi 34 yukhaerkkmikhxbkphrxngthang danekhruxngyntmakmay odyechphaaxyangyingrabbaelakhlthch khwamsuyesiykhxngthi 34 in vdurxnpinn khrunghnungekidcakkhwambkphrxngkhxngmnexng makkwathicaepncakfaykhasuk cakkarsuyesiymakmayinchwngaerkkhxngfayosewiyt cungidkhidhawithithaihkhaichcayinkarphlitrththuklng aetrth thngyngichnganiddi echneruxngkarthaiholhaaekhngkhun inthisudinewlaaekh 2 pi khaichcayinkarphlitrththi 34kld lngcakkhnla 269 500 ruebilinpi kh s 1941 ehluxaekh 135 000 ruebil rayaewlainkarsrangkldlngkhrunghnung ichewlainkarphlit1200khntxeduxn aemkhnnganswnmakcaepnphuhying khnsungxayu aelaedk thi 34 ehnuxkwarththngeyxrmnxyangmakemuxsamarthluyidthnginsphaphphunphiwthiepnokhlnhna hruxnaaekhng xawuthkhxngfaythharrabeyxrmnkthaxairmnimid aetthithaih thi 34 imprasbkhwmsaerckhnanihykephraaphlpracarththngthiidrbkarfuknxy aelafaybychakarthimikhxbkphrxng fayeyxrmnidaekekmdwykarphlitpuntxsurththng aelarththngthiihykwa aemthhareyxrmnbxkwathiphwkekhatxngkarkkhuxiheyxrmnphlit thi 34 xxkmasukbthi 34 khxngosewiytkarprbprung aela thi 43hlngcakfayeyxrmnnapunkhnad 75 mm matidrththngkhxngphwkekhainpi kh s 1942 thaihthi 34 imidepriybxiktxip osewiytkiderimxxkaebbrththngrunihmkhux sunghwngcaihednineruxngekraathiephimkarpxngknidmakkhun mncaepn odycaekhamaaethn thi 34 aela rththnghnk ekhwi 1 aetpithdma eyxrmnisngrththngthiekxraelaphnthesxrekhasnamrb punkhxngthi 34 sukbrththngrunihmimihw mxngknwapuntxsuxakasyankhnad 88 mm nacasuid aelamnsamarthnamaprbichkbrththngid aetekraakhxng thi 43 runtnaebbkyngtanthanpunihyrththngkhnad 88 mm khxngthiekxrimihw khnaediywknkhwamerwkhxngmnksu thi 34 imid osewiytcungtdsinicprbprung thi 34 cnklayepnrun thi 34 85 tamkhnadkhxngpun kartdsinicphthnarththngruneka aethnkarphlitrunihm mikhwamsakhytxkarrksaxtrakarphlitrththngkhxngosewiytxyangmak ephraakhnathiosewiytphlitthi 34 85 ideduxnla 1 200 khnemuxeduxnphvsphakhm kh s 1944 nasieyxrmnmirththngphnthesxrxyuinaekh 304 khnethann khxdxykhxngthi 34 cungsukbrththngehlaniidimyakeynnk khnathikhaichcayinkarsrang thi 34 85 kldlngeruxy pi kh s 1945 khaichcayldehluxkhnla142 000 khnathiskyphaphkarekhluxnthiaelakhwamerwyngethaedim swnrabbxawuthaelaekraakephimkhunekuxbethatw cnthungplaypi kh s 1945 thi 34 thukphlitxxkmakwa 57 000 khn aelakhidepn 55 epxresntkhxngrththngthnghmdthiosewiytmixyuhlngsngkhramolkkhrngthisxnghlngsngkhram mikarphlitthi 34 xxkmaxikmakmay rwmthngmikarxxkibxnuyatihpraethsxunsamarthphlitmniddwyxyangcin opaelnd aela inyukhthswrrsthi 1960 thi 34 85 mikarprbprungihthnsmyephuxkarsngxxkaelakarepnkalngsarxng praeminknwa thi 34 thukphlitxxkmathngsin 84 070 khn mnthukichinklumpraethssnthisyyawxrsx insngkhramekahli sngkhramewiydnam sngkhrambxseniy tawnxxkklang xfkanisthan osmaeliy aelaisprs rwmaelw 39 praethsthwolkekhyna thi 34 ekhapracakarxangxingwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb thi 34 Zaloga amp Kinnear 1996 18 Specifications for T 34 model 41 WWIIVehicles com Retrieved on 18 May 2013 Zaloga amp Sarson 1994 5 Zaloga amp Grandsen 1984 184 McFadden David Frederick 2002 Two ways to build a better mousetrap Ohio Ohio State University p 11 Guderian Heinz 2000 6 Panzer Leader London Penguin Classics p 233 ISBN 978 0 14 139027 7 Caidin M 1974 14 The incredible T 34 tank In The Tigers are Burning 2nd ed p 162 Los Angeles Pinnacle Books Kennedy Paul 2013 Engineers of Victory New York Random House pp 184 ISBN 978 1 4000 6761 9 Achtung Panzer T 34 The T 34 in WWII the Legend vs the Performance Operation Barbarrosa www operationbarbarossa net subkhnemux 2015 12 16 Krivosheev G I 1997 Soviet Casualties and Combat Losses Greenhill p 253 ISBN 978 1 85367 280 4 International Institute for Strategic Studies IISS 2010 The Military Balance 2010 London IISS ISBN 978 1 85743 557 3