San Miniato al Monte

บาซิลิกาซานมินิอาโตอัลมอนเต (อิตาลี: Basilica di San Miniato al Monte) เป็นบาซิลิกาที่ตั้งอยู่ที่เมืองฟลอเรนซ์ทางตอนกลางของประเทศอิตาลี ตัวบาซิลิกาตั้งอยู่บนเนินที่สูงที่สุดของเมืองฟลอเรนซ์ บาซิลิกาซานมินิอาโตอัลมอนเตได้ชื่อว่าเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกชิ้นหนึ่งของสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ในทัสเคนี บาซิลิกาตั้งอยู่ติดกับสำนักสงฆ์ที่จะมองเห็นเมื่อขึ้นบันไดไปยังบาซิลิกา

บาซิลิกาซานมินิอาโตอัลมอนเต Basilica di San Miniato al Monte
บาซิลิกาซานมินิอาโตอัลมอนเตและวังสังฆราช
43°45′13″N 11°15′53″E / 43.75361°N 11.26472°E / 43.75361; 11.26472
ที่ตั้ง	ฟลอเรนซ์
ประเทศ	ประเทศอิตาลี
นิกาย	โรมันคาทอลิก
สถานะ	คริสต์ศาสนสถาน
ประเภทสถาปัตย์	แผนผังคริสต์ศาสนสถาน
รูปแบบสถาปัตย์	โรมานเนสก์

งานโมเสกเป็นภาพทางขวาของพระเยซู โดยมีคำจารึกว่า: "S. MINIATUS REX ERMINIE"

หรือมินาส (อาร์มีเนีย: Մինաս, อิตาลี: Miniato) เดิมเป็นเจ้าชายชาวอาร์มีเนียผู้รับราชการเป็นทหารในกองทัพโรมันภายใต้ มินิอัสถูกประณามว่าเป็นผู้นับถือคริสต์ศาสนาหลังจากที่ไปเป็นนักพรต และถูกนำตัวมาปรากฏต่อหน้าจักรพรรดิ ผู้กำลังตั้งค่ายอยู่หน้าประตูเมืองฟลอเรนซ์ พระจักรพรรดิมีพระบรมราชโองการให้โยนมินิอัสให้สัตว์ป่ากินในสนามกีฬา แต่เมื่อปล่อยเสือดำเข้าไป เสือดำก็ไม่ยอมทำร้ายมินิอัส มินิอัสจึงถูกต่อหน้าพระจักรพรรดิ กล่าวกันว่ามินิอัสไม่ได้เสียชีวิตทันทีแต่ก้มลงยกหัวของตนขึ้นมา แล้วประคองหัวข้าม จากนั้นก็เดินขึ้นเนินมอนส์ฟิโอเรนตินัสไปยังที่อาศัย ต่อมาก็ได้มีการสร้างสักการะสถานตรงจุดนี้ และเมื่อมาถึงคริสต์ศตวรรษที่ 8 ก็มีชาเปลขึ้นแล้ว การก่อสร้างคริสต์ศาสนสถานที่เห็นอยู่ในปัจจุบันนี้เริ่มขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1013 โดยสังฆราชอาลิบรันโด โดยการอุปถัมภ์ของสมเด็จพระจักรพรรดิไฮนริคที่ 2 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ บาซิลิกาซานมินิอาโตอัลมอนเตเริ่มด้วยการเป็นสำนักสงฆ์ของลัทธิเบ็นนาดิคติน จากนั้นก็เปลี่ยนมือไปเป็นของ และในปี ค.ศ. 1373 ก็ตกไปเป็นของผู้ซึ่งยังคงใช้คริสต์ศาสนสถานนี้อยู่ นักบวชของสำนักสงฆ์มีชื่อเสียงในการทำสุรา, น้ำผึ้ง และ ที่ขายในร้านที่ตั้งอยู่ติดกับวัด

ด้านหน้าวัดที่ทำด้วยหินอ่อนเป็นลวดลายเรขาคณิตอาจจะเริ่มทำขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1090 แต่ตอนบนสร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 12 หรือหลังจากนั้นโดยการอุปถัมภ์ของผู้มีความรับผิดชอบในการทำนุบำรุงวัดมาตั้งแต่ ค.ศ. 1288 (อินทรีที่อยู่บนยอดหน้าวัดเป็นสัญลักษณ์ของสมาคม).

งานโมเสกของภาพ “พระเยซูระหว่างพระแม่มารีและ” สร้างในปี ค.ศ. 1260 หอระฆังทลายลงมาในปี ค.ศ. 1499 และสร้างแทนในปี ค.ศ. 1523 แต่ก็ยังสร้างไม่เสร็จ ระหว่างการล้อมเมืองฟลอเรนซ์ในปี ค.ศ. 1530 บาซิลิกาใช้เป็นคลังอาวุธ และไมเคิล แอนเจโลสั่งให้ห่อวัดไว้ด้วยที่นอนเพื่อกันความเสียหายจากการยิงของฝ่ายศัตรู

ภายในมีลักษณะที่แปลกมาก โดยมีบริเวณร้องเพลงสวดตั้งอยู่บนยกพื้นเหนือคริพท์ขนาดใหญ่ และแทบจะไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใดตั้งแต่ได้ทำการสร้างมา พื้นที่เป็นลวดลายสร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1207 กลางทางเดินกลางเป็นที่ตั้งของ “ชาเปลแห่งกางเขน” (อิตาลี: Cappella del Crocefisso) ที่เป็นชาเปลที่ตั้งเป็นอิสระที่ออกแบบโดยมิเกลอโซ มิเกลอซิในปี ค.ศ. 1448 เดิมชาเปลเป็นที่ตั้งของกางเขนศักดิ์สิทธิ์ที่ปัจจุบันตั้งอยู่ที่วัดซานตาทรินิตา และตกแต่งด้วยจิตรกรรมแผงที่เชื่อกันมานานว่าเขียนโดย งานรูปลักษณ์ดินเผาเคลือบสร้างโดยลูคา เดลลา รอบเบีย

คริพท์เป็นบริเวณสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดในวัดและแท่นบูชาเอกก็เชื่อกันว่าเป็นที่บรรจุกระดูกของเอง (แม้ว่าจะมีหลักฐานว่าได้ถูกทำการเคลื่อนย้ายไปยังเมท์ซก่อนที่จะสร้างวัดเสียอีก) บนเพดานเป็นจิตรกรรมฝาผนังที่เขียนโดยทัดดิโอ กัดดี

บริเวณร้องเพลงสวดที่อยู่บนยกพื้นและเป็นที่ตั้งของแท่นเทศน์โรมาเนสก์อันงดงามและฉากที่สร้างในปี ค.ศ. 1207 บนเพดานของมุขตะวันออกเป็นงานโมเสกอันงดงามที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1297 ที่หัวเรื่องของภาพเหมือนกับด้านหน้าของบาซิลิกาและอาจจะสร้างโดยศิลปินคนเดียวกัน กางเขนเหนือแท่นบูชาเอกเป็นงานที่ระบุว่าสร้างโดยลูคา เดลลา รอบเบีย สังฆทรัพยคูหาตกแต่งอย่างเต็มที่ด้วยงานจิตรกรรมฝาผนังอันมีฝีมือเป็นฉากต่างๆ ในชีวิตของนักบุญเบ็นนาดิคแห่งเนอร์เซียโดย (ค.ศ. 1387)

ชาเปลคาร์ดินัลพอร์โตกาลโลทางด้านซ้ายของทางเดินกลางที่กล่าวว่าเป็น “งานอนุสรณ์รำลึกถึงผู้ตายอันงดงามที่สุดชิ้นหนึ่งของงานจายุคฟื้นฟูศิลปวิทยาอิตาลี” สร้างในปี ค.ศ. 1473 เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่คาร์ดินัลผู้เป็นราชทูตจากโปรตุเกสผู้มาเสียชีวิตที่ฟลอเรนซ์ในปี ค.ศ. 1459 อนุสรณ์คาร์ดินัลเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงผู้ตายอนุสรณ์เดียวในบาซิลิกา ชาเปลเป็นผลงานที่ทำร่วมกันโดยศิลปินหลายท่าน โดยมีผู้ช่วยของฟีลิปโป บรูเนลเลสกีที่มาสร้างเสร็จหลังจากที่มาเนตตีเสียชีวิตไปแล้วโดย ตัวอนุสรณ์สร้างโดย และ ชาเปลตกแต่งโดย, , และลูคา เดลลา รอบเบีย

ด้านข้างของบาซิลิกาเป็นระเบียงคดที่สร้างอย่างงดงาม ที่วางแผนกันไว้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1426 และมาสร้างในระหว่างปี ค.ศ. 1443 ถึงกลางคริสต์ทศวรรษ 1450 และออกแบบโดย และ โดยทุนจาก “Arte della Mercantia” แห่งฟลอเรนซ์ ส่วนวังป้อมของพระสังฆราชสร้างในปี ค.ศ. 1295 ต่อมาใช่เป็นค่ายทหารและโรงพยาบาล กลุ่มสิ่งก่อสร้างทั้งหมดล้อมรอบด้วยกำแพงป้องกัน เดิมสร้างอย่างรวกๆ โดยไมเคิล แอนเจโลระหว่างที่ฟลอเรนซ์ถูกล้อมในปี ค.ศ. 1553 แต่ต่อมาก็ได้รับการขยายให้เป็นป้อมปราการเต็มตัวโดยโคสิโมที่ 1 เดอ เมดิชิ ตัวกำแพงในปัจจุบันล้อมรอบสุสานขนาดใหญ่ “Porte Sante” ที่สร้างในปี ค.ศ. 1854

สุสานเป็นที่ฝังศพของบุคคลสำคัญหลายคนของอิตาลีที่รวมทั้งผู้สร้างพินอคคิโอ, นักการเมือง, จิตรกร, กวีและนักประพันธ์, นักสร้างภาพยนตร์, ประติมากร, นักเขียน และนักฟิสิคส์บรูโน เบเนเดตโต รอซซี

ระเบียงภาพ

• ด้านหน้า
• ด้านหน้าตอนบนมีหน้าบันและอินทรีบนยอด
• ผนังทำด้วยหินอ่อนสลับสี
• ภายในมองจากทางเดินกลาง
• ภายใน
• ปะรำพิธีภายใน
• ชาเปลคาร์ดินัลพอร์โตกาลโล
• จิตรกรรมฝาผนัง
• จิตรกรรมฝาผนัง
• จิตรกรรมฝาผนังภายในสังฆทรัพยคูหา
• เพดานแบบ และ หลุม
• รายละเอียดของจักรราศีจากงานฝังประดับวัสดุบนพื้นวัด

อ้างอิง

1. . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-07-19. สืบค้นเมื่อ 2010-05-28.
2. Hare, Augustus John Cuthbert (2002). Florence. Adamant Media Corporation. p. 204. ISBN .
3. Brucker, Gene (1998). Florence: The Golden Age, 1138-1737. University of California Press. p. 194. ISBN .
4. Koch, Linda A. (September 1996). "The Early Christian Revival at S. Miniato al Monte: The Cardinal of Portugal Chapel". The Art Bulletin. 78 (3): 527–555.
5. According to the Strozzi papers that recorded excerpts of the lost accounts Saalman, Howard (December 1964). "Paolo Uccello at San Miniato". The Burlington Magazine. 106 (741): 558–563. quoting archival accounts.

ดูเพิ่ม

• คริสต์ศาสนสถาน
• สถาปัตยกรรมการก่อสร้างมหาวิหารในยุโรปตะวันตก
• แผนผังวัดคริสต์ศาสนา (ผังแสดงส่วนประกอบต่างๆ ของวัด)
• สถาปัตยกรรมโรมาเนสก์

แหล่งข้อมูลอื่น

วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ บาซิลิกาซานมินิอาโตอัลมอนเต

• พจนานุกรมศัพท์สถาปัตยกรรมคริสต์ศาสนา
• San Miniato al Monte - history and pictures
• San Miniato al Monte 2008-10-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
• The Sacristy of the Basilica 2007-09-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
• San Miniato Overview
• Paradoxplace San Miniato Photo Page 2007-04-21 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
• The Museums of Florence - San Miniato al Monte