เปลือกสมองส่วนการเห็น (อังกฤษ: visual cortex, cortex visualis) ในสมองเป็นส่วนหนึ่งของเปลือกสมอง ทำหน้าที่ประมวลข้อมูลสายตา อยู่ในสมองกลีบท้ายทอยด้านหลังของสมอง
เปลือกสมองส่วนการเห็น (Visual cortex) | |
---|---|
ภาพของสมองจากด้านหลัง เขตบร็อดแมนน์ 17 (เปลือกสมองส่วนการเห็นปฐมภูมิ) มีสีแดง; เขตบร็อดแมนน์ 18 มีสีส้ม; เขตบร็อดแมนน์ 19 มีสีเหลือง | |
สมองแสดงจากด้านข้าง สมองด้านหน้าอยู่ทางด้านซ้าย ภาพบนเป็นภาพมองจากข้างนอก, ภาพล่างเป็นภาพผ่าออกตรงกลาง, เขตบร็อดแมนน์ 17 (เปลือกสมองส่วนการเห็นปฐมภูมิ) มีสีส้ม | |
รายละเอียด | |
ตัวระบุ | |
ภาษาละติน | Cortex visualis |
MeSH | D014793 |
นิวโรเล็กซ์ ID | nlx_143552 |
FMA | 242644 |
[แก้ไขบนวิกิสนเทศ] |
คำว่า เปลือกสมองส่วนการเห็น หมายถึงคอร์เทกซ์ต่าง ๆ ในสมองรวมทั้ง
- เปลือกสมองส่วนการเห็นปฐมภูมิ (อังกฤษ: primary visual cortex) หรือรู้จักกันว่า คอร์เทกซ์ลาย (อังกฤษ: striate cortex) หรือ เขตสายตา V1 หรือสั้น ๆ ว่า V1
- เปลือกสมองส่วนการเห็นนอกคอร์เทกซ์ลาย (อังกฤษ: extrastriate cortex) ประกอบด้วยเขตสายตาต่าง ๆ เป็นต้นว่า V2, V3, V4, และ V5 (หรือ MT)
เปลือกสมองส่วนการเห็นปฐมภูมิโดยสรีระแล้วเป็นส่วนเดียวกันกับเขตบร็อดแมนน์ 17 หรือ BA17 เปลือกสมองส่วนการเห็นนอกคอร์เทกซ์ลายประกอบด้วยเขตบร็อดแมนน์ 18 และเขตบร็อดแมนน์ 19
ซีกสมองแต่ละด้านมีเปลือกสมองส่วนการเห็น เปลือกสมองส่วนการเห็นของซีกสมองด้านซ้ายรับสัญญาณจากลานสายตา (visual field) ด้านขวา และเปลือกสมองส่วนการเห็นของซีกสมองด้านขวารับสัญญาณจากลานสายตาด้านซ้าย
บทความนี้พรรณนาถึงเปลือกสมองส่วนการเห็นในไพรเมต โดยเฉพาะอย่างยิ่งของมนุษย์
อารัมภบท
เปลือกสมองส่วนการเห็นปฐมภูมิ (V1) เป็นคอร์เทกซ์รับรู้ความรู้สึก ตั้งอยู่ภายในและรอบ ๆ (calcarine fissure) ในสมองกลีบท้ายทอย V1 ของซีกสมองแต่ละข้างรับข้อมูลโดยตรงจากนิวเคลียสงอคล้ายเข่าด้านข้าง (lateral geniculate nucleus) ซึ่งอยู่ในซีกสมองด้านเดียวกัน
V1 แต่ละข้างส่งข้อมูลผ่านทางสัญญาณหลัก 2 ทางที่เรียกว่า ทางสัญญาณด้านหลัง (dorsal stream) และทางสัญญาณด้านล่าง (ventral stream) โดยรายละเอียดคือ
- ทางสัญญาณด้านหลังเริ่มจาก V1 ผ่านเขตสายตา V2 หลังจากนั้นผ่าน (รู้จักอีกอย่างหนึ่งว่า V6) และเขตสายตา MT (รู้จักอีกอย่างหนึ่งว่า V5) และหลังจากนั้นไปยังคอร์เทกซ์กลีบข้างด้านหลัง (posterior parietal cortex) ทางสัญญาณนี้ ซึ่งบางครั้งเรียกกันว่า ทางสัญญาณบอกว่าที่ไหน (where pathway) หรือว่า ทางสัญญาณบอกว่าทำอย่างไร (how pathway) เป็นทางสัญญาณที่เกี่ยวข้องกับระบบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- การเคลื่อนไหว
- แผนที่ตำแหน่งของสิ่งของ
- การควบคุมตาและแขน โดยเฉพาะเมื่อมีการใช้ข้อมูลสายตาในการเคลื่อนไหวลูกตาแบบ saccade หรือในการเอื้อมแขน
- ทางสัญญาณด้านล่างเริ่มจาก V1 ผ่านเขตสายตา V2 หลังจากนั้นผ่านเขตสายตา V4 และมุ่งไปสู่คอร์เทกซ์กลีบขมับด้านล่าง (inferior temporal cortex) ทางสัญญาณนี้ซึ่งบางครั้งเรียกว่า ทางสัญญาณบอกว่าอะไร (what pathway) เกี่ยวข้องกับระบบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- การรู้จำรูปร่าง (form recognition)
- การเป็นตัวแทนสิ่งของ (object representation)
- การเก็บ
เลสลี อังเกอร์เลเดอร์ และมอร์ติเมอร์ มิชกิน เป็นบุคคลแรกที่ระบุทางสัญญาณด้านล่างว่า เป็นทางสัญญาณบอกว่าอะไร และทางสัญญาณด้านหลังว่า เป็นทางสัญญาณบอกว่าที่ไหน หลังจากนั้น เมลวิน กูดเดวล์ และมิลเนอร์ ขยายแนวคิดนี้โดยเสนอว่า
- ทางสัญญาณด้านล่างเป็นระบบสำคัญในการรับรู้อารมณ์ทางตา
- ทางสัญญาณด้านหลังสื่อการควบคุมการเคลื่อนไหวที่อาศัยตา (visual control) ในกิจกรรมที่อาศัยทักษะ
ถึงแม้ว่า แนวคิดนี้ยังเป็นที่ถกเถียงกันในกลุ่มนักวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับสายตาและนักจิตวิทยา แต่ว่า การแบ่งออกซึ่งหน้าที่ระหว่างสายตาเพื่อการรับรู้อารมณ์ (vision-for-perception) และสายตาเพื่อการกระทำ (vision-for-action) เป็นการนำเสนอที่ได้รับการสนับสนุนจากผลงานวิจัยในประสาทจิตวิทยา (neuropsychology) ประสาทสรีรวิทยา (neurophysiology) และประสาททัศนะ (neuroimaging) หลักฐานเป็นที่ถกเถียงกันมากที่สุดบางอย่างมาจากงานวิจัยการเคลื่อนไหวที่ใช้สายตาของสัตว์ทดลองปกติ
ตัวอย่างเช่น ผลงานวิจัยที่ได้แสดงว่า ภาพลวงตาเช่นภาพลวงตาเอ็บบิงก์ฮอส (Ebbinghaus illusion) ยังให้เกิดความบิดเบือนด้านการรับรู้ เมื่อสัตว์ทดลองตอบสนองด้วยการวินิจฉัยอารมณ์ แต่ว่า เมื่อสัตว์ทดลองนั้นตอบสนองด้วยการกระทำ เช่นการคว้าจับวัตถุที่เป็นอารมณ์ ความบิดเบือนเช่นนั้นกลับไม่ปรากฏ
ถึงกระนั้น งานวิจัยอื่น เสนอว่า ทั้งระบบที่เกี่ยวข้องกับการกระทำ และระบบที่เกี่ยวข้องกับการรับรู้อารมณ์ ถูกหลอกโดยภาพลวงตาที่กล่าวแล้วเหมือน ๆ กัน แต่ว่า งานวิจัยที่หลังจากนั้นอีก ก็ให้การสนับสนุนที่ชัดเจนแก่แนวคิดที่ว่า ภาพลวงตาไม่มีผลต่อการกระทำที่อาศัยทักษะเช่นการคว้าจับ และเสนอว่า การแยกออกจากกันระหว่างการกระทำและการรับรู้เป็นวิธีที่ดี ในการแบ่งหน้าที่ของทางสัญญาณด้านหลังและทางสัญญาณด้านล่างของระบบสายตาในเปลือกสมอง
เซลล์ประสาทในเปลือกสมองส่วนการเห็นยิงศักยะงาน เมื่อตัวกระตุ้นสายตาปรากฏในลานรับสัญญาณ (receptive field) ของตน คำจำกัดความของลานรับสัญญาณก็คือ เขตภายในลานสายตา (visual field) ทั้งหมดที่ก่อให้เกิดศักยะงานในเซลล์นั้น ๆ เมื่อปรากฏตัวกระตุ้น แต่สำหรับเซลล์ประสาทหนี่ง ๆ เซลล์นั้นอาจจะมีการตอบสนองดีที่สุดต่อตัวกระตุ้นเฉพาะอย่าง ที่ปรากฏในลานรับสัญญาณของเซลล์ คุณสมบัตินี้เรียกว่า การเลือกตัวกระตุ้นของนิวรอน (neuronal tuning) ในเขตสายตาขั้นแรก ๆ เซลล์ประสาทจะมีการเลือกตัวกระตุ้นที่ง่าย ๆ เช่น เซลล์ประสาทใน V1 อาจจะยิงสัญญาณเมื่อมีตัวกระตุ้นแนวตั้งในลานรับสัญญาณของเซลล์ แต่ในเขตสายตาหลัง ๆ เซลล์ประสาทจะมีการเลือกตัวกระตุ้นที่ซับซ้อน เช่น ในคอร์เทกซ์กลีบขมับด้านล่าง (inferior temporal cortex) เซลล์ประสาทอาจจะยิงสัญญาณเมื่อรูปใบหน้าของคนหนึ่งปรากฏที่ลานรับสัญญาณของเซลล์
งานวิจัยในปัจจุบัน
ในการทำงานวิจัยเกี่ยวกับเปลือกสมองส่วนการเห็นปฐมภูมิ นักวิจัยอาจจะบันทึกศักยะงานของเซลล์ประสาทด้วยอิเล็คโทรดที่อยู่ในสมองของสัตว์ทดลอง เช่น แมว เฟอเรท (สัตว์คล้ายพังพอน) หนู หรือลิง หรืออาจจะบันทึกสัญญาณสายตา (optical signals) โดยตรงจากสัตว์ทดลอง หรือว่า อาจจะบันทึกสัญญาณ EEG, MEG, หรือ fMRI จาก V1 ของมนุษย์และลิง
ตัวอย่างต่าง ๆ ของงานวิจัยปัจจุบันเกี่ยวกับเปลือกสมองส่วนการเห็นก็คือ
- งานวิจัย V1 อย่างหนึ่งก็คือเพื่อทำความเข้าใจการเลือกตัวกระตุ้นของนิวรอน (neuronal tuning) อย่างสมบูรณ์ เพื่อที่จะใช้ V1 นั้นเป็นตัวแบบในการสร้างทฤษฎีเกี่ยวกับวงจรคอร์เทกซ์ที่เป็นมาตรฐาน
- แม้ว่า รอยโรค (lesion) ใน V1 โดยปกติย่อมนำไปสู่ภาวะ (scotoma) หรือช่องในลานเห็น แต่เป็นที่น่าสนใจว่า คนไข้ที่มีดวงมืดในลานเห็นนั้น บ่อยครั้งสามารถใช้ข้อมูลทางสายตาที่ส่งให้กับดวงมืดในลานเห็นของคนไข้ในการเคลื่อนไหว แม้ว่าคนไข้จะไม่มีการรับรู้ถึงอารมณ์นั้น ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า ภาวะเห็นทั้งบอด (blindsight) เป็นปรากฏการณ์ที่นักวิทยาศาสตร์ผู้มีความสนใจในเรื่องประสาทสัมพันธ์แห่งการรับรู้อารมณ์ (neural correlates of consciousness) ศึกษาวิจัยกันอย่างกว้างขวาง
- เมื่อเร็ว ๆ นี้ นักวิจัยได้ใช้เทคนิคบันทึกภาพของประสาทหลายชนิด จนทำให้เข้าใจได้ว่า เปลือกสมองส่วนการเห็นนั้น มีส่วนในการกำหนดต้นแบบ (prototypes) ซึ่ง (Prototype Theory) ในจิตวิทยาแสดงว่า เป็นวิธีหลักในการจัดประเภท 3 วิธีที่มนุษย์จัดประเภทและคิดถึงอารมณ์ต่าง ๆ ในใจ
เปลือกสมองส่วนการเห็นปฐมภูมิ (V1)
เปลือกสมองส่วนการเห็นปฐมภูมิ (อังกฤษ: primary visual cortex, ชื่อย่อ V1) เป็นเขตสายตาที่มีการวิจัยมากที่สุดในสมอง ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทั้งหมดที่ได้รับการวิจัย V1 อยู่ทางด้านหลังของคอร์เทกซ์ท้ายทอย (occipital cortex) ซึ่งมีหน้าที่ประมวลข้อมูลทางสายตา V1 เป็นเขตเปลือกสมองส่วนการเห็นที่เรียบง่ายที่สุด และเป็นเขตขั้นแรกสุด มีกิจเฉพาะในการประมวลข้อมูลของทั้งตัวกระตุ้นที่นิ่ง และทั้งตัวกระตุ้นที่เคลื่อนไหว และมีสมรรถภาพในการรู้จำแบบ (pattern recognition)
คำว่า เปลือกสมองส่วนการเห็นปฐมภูมิ ซึ่งเป็นการจำกัดความโดยหน้าที่ของคอร์เทกซ์ เทียบเท่ากับคำว่า คอร์เทกซ์ลาย (striate cortex) ซึ่งเป็นการจำกัดความโดยกายวิภาค คำว่า striate cortex มีกำเนิดมาจากคำว่า stria of Gennari (ลายเจ็นนารี) ซึ่งเป็นลายยาวที่เด่น เห็นได้โดยตาเปล่า เป็นลายที่แสดงตัวแอกซอนที่มีปลอกไมอีลินจากนิวเคลียสงอคล้ายเข่าด้านข้าง (lateral geniculate nucleus ตัวย่อ LGN) ที่ดำเนินมาสุดที่ชั้นที่ 4 ของ V1
V1 มี 6 ชั้นแบ่งโดยหน้าที่ของแต่ละชั้น เรียกว่าชั้น 1 ถึง ชั้น 6 และในชั้นที่ 4 ซึ่งรับข้อมูลสายตาจาก LGN ยังแบ่งเป็นชั้นย่อยอีก 4 ชั้น เรียกว่า ชั้นย่อย 4A 4B 4Cα และ 4Cβ ชั้นย่อย 4Cα รับข้อมูลเข้าจากเซลล์ ของ LGN (วิถีประสาทเฉพาะกิจจากเรตินาผ่านชั้น magnocellular ของ LGN มายัง V1 เรียกว่า magnocellular pathway) ในขณะที่ชั้นย่อย 4Cβ รับข้อมูลเข้าจากเซลล์ ของ LGN (วิถีประสาทเฉพาะกิจจากเรตินาผ่านชั้น parvocellular ของ LGN มายัง V1 เรียกว่า parvocellular pathway)
จำนวนนิวรอนโดยเฉลี่ยใน V1 ของมนุษย์ผู้ใหญ่ แต่ละซีกสมอง มีประมาณ 140 ล้านนิวรอน.
หน้าที่และการทำงาน
V1 มีแผนที่ปริภูมิทางตาที่มีขอบเขตที่ชัดเจน ตัวอย่างเช่น ในมนุษย์ ส่วนของ V1 เหนือ (calcarine fissure) มีความสัมพันธ์อย่างชัดเจนต่อลานสายตาครึ่งล่าง และส่วนของ V1 ใต้ช่องแคลคะรีน ก็มีความสัมพันธ์ต่อลานสายตาครึ่งบน โดยทฤษฎีก็คือ แผนที่ retinotopy ใน V1 นี้ เป็นการแปลงภาพทางสายตาจากเรตินา มาสู่นิวรอนใน V1 ความสัมพันธ์ระหว่างตำแหน่งหนึ่ง ๆ ใน V1 และตำแหน่งหนึ่ง ๆ ในลานสายตาของแต่ละบุคคลนั้น แม่นยำแน่นอนมาก แม้แต่จุดบอดในเรตินา ก็ยังมีจุดที่สัมพันธ์กับจุดใน V1 และโดยวิวัฒนาการทางชีววิทยา ความสัมพันธ์กันที่ว่านั้น พบได้ในสัตว์ทั้งหมดที่มี V1 โดยพื้นฐาน ในมนุษย์และในสัตว์ที่มีรอยบุ๋มจอตา (fovea) นิวรอนส่วนใหญ่ของ V1 นั้น มีความสัมพันธ์กับเขตเล็ก ๆ ตรงกลางของลานสายตารอบ ๆ รอยบุ๋มจอตาเป็นปรากฏการณ์ที่รู้จักกันว่า การขยายรายละเอียดของคอร์เทกซ์ (cortical magnification) ในบรรดาบริเวณเปลือกสมองส่วนการเห็นทั้งหมด นิวรอนใน V1 มีลานรับสัญญาณที่เล็กที่สุด ซึ่งอาจจะเป็นเพราะเพื่อความแม่นยำของการเข้ารหัสปริภูมิ (spatial encoding)
การเลือกตัวกระตุ้นของนิวรอน (neuronal tuning) ใน V1 แตกต่างกันอย่างยิ่งแล้วแต่ช่วงเวลา ในระยะต้น ๆ (40 มิลลิวินาทีและหลังจากนั้น) นิวรอนเลือกตัวกระตุ้นไม่กี่ตัวเท่านั้น คือนิวรอนสามารถที่จะแยกแยะความแตกต่างแม้เพียงเล็กน้อยในแนวตั้ง (orientation) ความถี่ในปริภูมิ (spatial frequency) และสีของตัวกระตุ้น ยิ่งไปกว่านั้น นิวรอนในเขต V1 ในมนุษย์และสัตว์ที่มีการเห็นเป็นภาพเดียวด้วยสองตา (binocular vision) มีการเลือกตัวกระตุ้นแบบ (ocular dominance) กล่าวคือนิวรอนเหล่านั้น เลือกตัวกระตุ้นจากตาใดตาหนึ่งเท่านั้น ใน V1 และในคอร์เทกซ์รับความรู้สึกปฐมภูมิอย่างอื่น นิวรอนที่มีการเลือกตัวกระตุ้นคล้าย ๆ กัน มักจะอยู่รวมกันเป็นคอลัมน์ในคอร์เทกซ์ (cortical columns) เดวิด ฮูเบล และทอร์สเต็น วีเซล นำเสนอแบบจำลองของคอลัมน์ในคอร์เทกซ์ที่มีการจัดรูปแบบเหมือนลูกบาศก์น้ำแข็ง สำหรับนิวรอนที่เลือกตัวกระตุ้นโดย 2 แบบ คือโดยตาหนึ่งมีอำนาจเหนือ (ocular dominance) และโดยแนวตั้ง (orientation) แต่ว่า แบบจำลองนี้ ไม่สามารถรองรับสี ความถี่ในปริภูมิ และลักษณะอื่น ๆ ที่นิวรอนเลือกเป็นตัวกระตุ้น[] วิธีการจัดตั้งที่แน่ชัดสำหรับคอลัมน์ในคอร์เทกซ์ใน V1 ก็ยังเป็นประเด็นยอดนิยมในงานวิจัยปัจจุบัน
ในเรื่องการทำงานของ V1 ดูเหมือนว่า มติปัจจุบันของนักวิทยาศาสตร์ก็คือ การทำงานระยะต้นของนิวรอนใน V1 เปรียบเสมือนตัวกรองหลายชั้นที่มีผลต่อปริภูมิและเวลา (ของสิ่งที่รับรู้) ในเรื่องของปริภูมิ การทำงานของ V1 เปรียบเสมือนกับการแปลงฟูรีเย (Fourier transform) ที่ซับซ้อน แต่ทำงานในปริภูมิที่จำกัด หรือถ้าจะให้ถูกต้องยิ่งกว่านั้น เหมือนกับการแปลงเกเบอร์ (Gabor transform) โดยทฤษฎีแล้ว ตัวกรองเหล่านี้รวม ๆ กันสามารถทำการประมวลข้อมูลเหมือนที่นิวรอนทำเกี่ยวกับความถี่ในปริภูมิ แนวตั้ง การเคลื่อนไหว ทิศทางการเคลื่อนไหว ความเร็ว (และเพราะเหตุนั้น ความถี่ทางกาลเวลา) และลักษณะมากมายอย่างอื่นเกี่ยวกับปริภูมิและเวลา มีการทดลองที่ได้ยืนยันทฤษฎีเหล่านี้ แต่ก็ได้ตั้งโจทก์คำถามใหม่ ๆ ขึ้นมาอีกด้วย
ในระยะหลัง ๆ (หลังจาก 100 มิลลิวินาที) นิวรอนใน V1 ก็ยังมีความไวต่อภาพรวม (global organisation) ของสิ่งที่แวดล้อมตัวกระตุ้นเพิ่มขึ้นอีกด้วย ความไวที่เกิดเพิ่มขึ้นอย่างนี้ น่าจะเกิดจากสัญญาณป้อนกลับของคอร์เทกซ์ระดับสูงมายังคอร์เทกซ์ระดับล่าง (คือ V1) และจากสัญญาณนิวรอนปิรามิดภายใน V1 เอง ในขณะที่การส่งสัญญาณต่อไปข้างหน้า เป็นสัญญาณที่ขับหรือผลักให้เพิ่ม (driving) การส่งสัญญาณป้อนกลับโดยมากเป็นสัญญาณเพื่อปรับเปลี่ยน (modulatory) หลักฐานในงานวิจัยแสดงว่า สัญญาณป้อนกลับที่มาจากคอร์เทกซ์ระดับสูงเช่น V4, คอร์เทกซ์กลีบขมับด้านล่าง, และ MT ซึ่งมีลานรับสัญญาณที่ใหญ่และซับซ้อนมากกว่า สามารถเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนรูปปฏิกิริยาของนิวรอนใน V1 หลักฐานนี้สามารถอธิบายการรับสัญญาณของนิวรอนใน V1 ที่เปลี่ยนไปจากการรับสัญญาณแบบดั้งเดิม (ที่ไม่ประกอบด้วยสัญญาณป้อนกลับ) โดยประมวลสัญญาณของสิ่งแวดล้อมซึ่งอยู่นอกลานรับสัญญาณของนิวรอนเพิ่มเข้าไปอีกด้วย
ข้อมูลทางตาที่ส่งไปให้ V1 ไม่ได้มีการเข้ารหัสให้อยู่ในรูปแบบที่แสดงพื้นที่ (หรือปริภูมิ) โดยตรง แต่เป็นรูปแบบที่แสดงความแตกต่างกันเฉพาะพื้นที่ (local contrast) ตัวอย่างเช่น ในรูปที่ครึ่งหนึ่งเป็นสีดำ อีกครึ่งหนึ่งเป็นสีขาว เส้นแบ่งระหว่างสีดำและสีขาวมีความแตกต่างกันที่ชัดเจนที่สุด เส้นแบ่งนั่นแหละจะได้รับการเข้ารหัส ในขณะที่นิวรอนจำนวนน้อยเข้ารหัสข้อมูลความสว่าง (คือขาวและดำ)ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อมีการส่งข้อมูลต่อ ๆ กันไปในเขตสายตาในระดับต่อ ๆ ไป ก็จะมีการเข้ารหัสสัญญาณแสดงความถี่และเฟสที่ไม่เป็นไปเฉพาะพื้นที่ยิ่ง ๆ ขึ้นไป อย่างไรก็ดี ที่สำคัญก็คือ ในระยะต้น ๆ ของการประมวลข้อมูลโดยคอร์เทกซ์ ข้อมูลทางสายตาที่สามารถระบุตำแหน่งในพื้นที่ก็ยังมีการเข้ารหัสโดยความแตกต่างเฉพาะพื้นที่ (local contrast) นั่นแหละ
V2
เขตสายตา V2 หรือเรียกกันว่า คอร์เทกซ์ก่อนคอร์เทกซ์ลาย (อังกฤษ: prestriate cortex) เป็นเขตสำคัญที่สองของเปลือกสมองส่วนการเห็น และเป็นเขตแรกที่อยู่ในเขตสัมพันธ์ทางตา (visual association area) โดยกายวิภาค V2 แบ่งออกเป็น 4 เขต คือ เขตด้านหลัง (dorsal) และเขตด้านล่างหรือด้านท้อง (ventral) ในซีกทั้งสองของสมอง เขตทั้ง 4 เหล่านี้รวมกันสามารถแสดงแผนภูมิของโลกแห่งการเห็น
การเชื่อมต่อ
V2 รับสัญญาณจาก V1 (โดยตรง และโดยอ้อมผ่านนิวเคลียส pulvinar) และส่งสัญญาณไปยัง V3, V4, และ V5 นอกจากนั้นแล้ว V2 ยังส่งสัญญาณป้อนกลับไปยัง V1 อีกด้วย ในสมองของลิง V2 รับสัญญาณที่มีกำลังจาก V1 และส่งสัญญาณที่มีกำลังไปยังเปลือกสมองส่วนการเห็นในระดับอื่น ๆ คือ V3, V4, และ V5
หน้าที่และการทำงาน
โดยการทำงานแล้ว V2 มีลักษณะหลาย ๆ อย่างเหมือน V1 คือ
- นิวรอนโดยมากใน V2 เลือกตัวกระตุ้นแบบง่าย ๆ เช่นแนวตั้ง ความถี่ในปริภูมิ ขนาด สี และรูปร่าง
- ปฏิกิริยาของนิวรอนจำนวนมากใน V2 มีการปรับเปลี่ยน (modulated) โดยตัวกระตุ้นที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น เช่น
- แนวตั้งของเส้นรูปร่างที่ลวงตา (illusory contours)
- ความไม่เหมือนกันของสองตา (binocular disparity)
- ความที่ตัวกระตุ้นนั้นเป็นส่วนของรูปหนึ่ง หรือส่วนของพื้นดิน
นอกจากนี้ งานวิจัยเร็ว ๆ นี้แสดงว่า เซลล์ใน V2
- สามารถปรับเปลี่ยนได้เล็กน้อยโดยความใส่ใจ (attentional modulation) (คือเล็กน้อยแต่มากกว่า V1 และน้อยกว่า V4)
- มีการเลือกตัวกระตุ้นที่ค่อนข้างซับซ้อน
- อาจจะขับได้โดยแนวตั้ง (orientation) หลาย ๆ แนวที่มีอยู่ในเขตย่อยต่าง ๆ ในลานรับสัญญาณเดียว
งานวิจัยโดยกายวิภาคชี้ชั้น 3 ของ V2 โดยเฉพาะว่าเป็นจุดหนึ่งที่ประมวลข้อมูลทางตา โดยการเปรียบเทียบกับชั้น 3 แล้ว ชั้น 6 ของ เปลือกสมองส่วนการเห็นนั้น ประกอบด้วยนิวรอนหลายประเภท และนิวรอนเหล่านั้นมีการตอบสนองที่ซับซ้อนมากกว่าต่อตัวกระตุ้นทางตา
มีการเสนอว่าระบบต่าง ๆ ในทางสัญญาณด้านท้อง ตั้งแต่สายตาจนไปถึงฮิปโปแคมปัส ทั้งหมดสำคัญต่อความทรงจำทางตา ทฤษฎีนี้ ซึ่งต่างจากทฤษฎีที่มีการยอมรับมากกว่า พยากรณ์ว่า การเปลี่ยนแปลงความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับการรู้จำอารมณ์ (object recognition memory - ตัวย่อว่า ORM) สามารถทำได้โดยการควบคุม V2 ซึ่งเป็นเขตที่มีการเชื่อมต่ออย่างสูงกับระบบในทางสัญญาณด้านท้อง ในงานวิจัยเร็ว ๆ นี้งานหนึ่ง พบว่า เซลล์ในชั้น 6 ของ V2 มีบทบาทสำคัญในการเก็บรักษาความจำของการรู้จำอารมณ์ (ORM) และในการเปลี่ยนความจำระยะสั้นไปเป็นความจำระยะยาว
คอมเพล็กซ์สายตาที่สาม รวมทั้ง V3
คำว่า คอมเพล็กซ์สายตาที่สาม (อังกฤษ: third visual complex) หมายถึงเขตคอร์เทกซ์ที่อยู่ข้างหน้าต่อจาก V2 ทันที และรวมเขตที่เรียกว่า เขตสายตา V3 (visual area V3) ในมนุษย์ และเพราะยังเป็นที่ถกเถียงกันว่า เขตสายตา V3 นั้น จริง ๆ มีขอบเขตขนาดไหน การใช้คำว่า "คอมเพล็กซ์" จึงสมกับความที่ยังไม่มีมติเป็นอันเดียวกันในหมู่นักวิจัย โดยที่มีนักวิจัยบางพวกเสนอว่า คอร์เทกซ์ที่อยู่ข้างหน้าของ V2 อาจจะรวมหน่วยย่อยคอร์เทกซ์ที่มีหน้าที่ต่าง ๆ กัน 2-3 หน่วย ตัวอย่างเช่น เดวิด แวน เอสเส็น และคณะ (ค.ศ. 1986) เสนอว่า มีหน่วยที่เรียกว่า V3 ด้านหลัง (dorsal V3) ในด้านบนของซีกสมอง ซึ่งต่างจากหน่วยที่เรียกว่า V3 ด้านท้อง (ventral V3) หรือ เขตข้างหลังด้านท้อง (ventral posterior area - ตัวย่อ VP) ซึ่งอยู่ทางด้านล่างของสมอง ความแตกต่างกันของ V3 ด้านหลัง และ V3 ด้านท้อง ก็คือ
- มีการเชื่อมต่อกับส่วนต่าง ๆ ของสมองที่ต่างกัน
- ปรากฏไม่เหมือนกันเมื่อย้อมสี (stained) ด้วยวิธีต่าง ๆ
- มีนิวรอนที่มีปฏิกิริยาต่างกันต่อตัวกระตุ้นทางตา (ตัวอย่างเช่น นิวรอนที่เลือกตัวกระตุ้นโดยสีมีอยู่ใน V3 ด้านท้องมากกว่า)
นอกจากนั้นแล้ว ยังมีงานวิจัยที่แสดงถึงหน่วยย่อยอื่น ๆ รวมทั้ง V3A และ V3B ในมนุษย์ หน่วยย่อยเหล่านี้อยู่ใกล้ V3 ด้านหลัง แต่ไม่อยู่ติดกับ V2
V3 ด้านท้อง (VP) มีการเชื่อมต่อจาก V1 ที่อ่อน และมีการเชื่อมต่อกับคอร์เทกซ์ขมับด้านล่าง (inferior temporal cortex) ที่เข้มแข็ง. ในขณะที่งานวิจัยก่อน ๆ เสนอว่า VP มีภูมิแผนที่เฉพาะด้านบนของลานสายตา (เหนือจุดตรึงภาพ point of fixation) แต่ว่า งานวิจัยที่หลังจากนั้นกลับแสดงว่า VP นั้นมีขอบเขตที่กว้างขวางกว่าที่คิดไว้ก่อน ๆ และเหมือนกับเขตสายตาอื่น ๆ V3 อาจจะมีภูมิแผนที่ของลานสายตาทั้งหมด โรซ่าและทวีเดลเรียก VP ที่มีขอบเขตที่ใหญ่ขึ้นนี้ว่า Ventrolateral Posterior Area (VLP)
V4
เขตสายตา V4 เป็นเขตหนึ่งในเขตเปลือกสมองส่วนการเห็นนอกคอร์เทกซ์ลาย (extrastriate visual cortex) ในลิงมาคาก V4 อยู่ด้านหน้าของ V2 และอยู่หลังจากคอร์เทกซ์ขมับด้านล่าง (inferior temporal cortex) V4 มีหน่วยย่อยอย่างน้อย 4 หน่วย (V4d ซ้ายและขวา, V4v ซ้ายและขวา) และนักวิชาการบางพวกรายงานว่า V4 มีหน่วยย่อยด้านหน้า (rostral) และด้านหลัง (caudal) เช่นกัน ปัจจุบันยังไม่มีความแน่ชัดว่า เขต V4 ในมนุษย์อยู่ที่ไหน และเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจจากนักวิชาการเป็นอย่างมาก
V4 เป็นเขตคอร์เทกซ์ที่สามในทางสัญญาณด้านล่าง (ventral stream) ซึ่งรับสัญญาณที่ส่งต่อมาจาก V2 ที่มีกำลัง และส่งสัญญาณที่มีกำลังต่อไปยังคอร์เทกซ์ขมับด้านล่าง (inferior temporal cortex) V4 ยังได้รับสัญญาณโดยตรงจาก V1 ด้วย โดยเฉพาะสัญญาณส่วนตรงกลางใกล้รอยบุ๋มจอตา (fovea) นอกจากนั้นแล้ว V4 ยังมีการเชื่อมต่อที่อ่อนไปยัง V5 และรอยนูนแองกูลาร์ (Angular gyrus) อีกด้วย
V4 เป็นเขตสายตาแรกในทางสัญญาณด้านล่างของระบบสายตา ที่มีการปรับเปลี่ยนอย่างชัดเจนเนื่องจากความใส่ใจ (attentional modulation) งานวิจัยโดยมากแสดงว่า (selective attention) สามารถเปลี่ยนความถี่การยิงสัญญาณของ V4 ได้โดยประมาณ 20% งานวิจัยสำคัญของมอแรนและเดสิโมน ซึ่งแสดงการปรับเปลี่ยนเนื่องจากการใส่ใจนี้ เป็นงานแรกที่ค้นพบผลเนื่องจากความใส่ใจ ในเปลือกสมองส่วนการเห็นทั้งระบบ
เหมือนกับ V1 เขตสายตา V4 มีการเลือกตัวกระตุ้นโดยแนวตั้ง โดยความถี่ในปริภูมิ และโดยสี แต่ไม่เหมือน V1 เขตสายตา V4 มีการเลือกตัวกระตุ้นโดยลักษณะที่ซับซ้อนระดับกลาง ๆ เช่นรูปร่างเชิงเรขาคณิต (เช่นมุมของสามเหลี่ยม: 469 ) แม้ว่า ยังไม่มีใครที่อธิบายการเลือกตัวกระตุ้นที่ซับซ้อนของ V4 ได้อย่างบริบูรณ์ แต่ว่า V4 ไม่มีการเลือกตัวกระตุ้นโดยรูปใบหน้าต่างจากคอร์เทกซ์บางอย่างอื่นเช่นคอร์เทกซ์ขมับด้านล่าง
เสเมอร์ เซกี เป็นคนแรกที่อธิบายคุณสมบัติการยิงสัญญาณของ V4 ไว้ในปลายคริสต์ทศวรรษ 1970 และเซกีนั้นแหละ เป็นคนตั้งชื่อเขตสายตานี้ไว้ ก่อนหน้านี้ V4 ถูกเรียกตามกายวิภาคว่า prelunate gyrus ดั้งเดิมทีเดียว เซกีแสดงว่า วัตถุประสงค์ของ V4 ก็เพื่อรวมบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสี แต่ว่างานวิจัยในต้นคริสต์ทศวรรษ 1980 พิสูจน์ว่า V4 มีความเกี่ยวข้องโดยตรงในการรู้จำรูปร่าง (form recognition) เหมือนกับเขตคอร์เทกซ์ก่อน ๆ งานวิจัยนี้สนับสนุน (Two Streams hypothesis) ซึ่งอังเกอร์เลเดอร์และมิชกินเสนอในปี ค.ศ. 1982
งานวิจัยเร็ว ๆ นี้ แสดงว่า V4
- มีสภาพพลาสติก (plasticity) ในระยะยาว
- เข้ารหัสความเด่น (salience) ของตัวกระตุ้น
- จำกัดโดยสัญญาณที่มาจาก frontal eye fields (FEF)
- ปรับเปลี่ยนภูมิพื้นที่ของลานรับสัญญาณของตนเพราะความใส่ใจ
V5/MT
เขตสายตา V5 หรือรู้จักกันว่า เขตสายตา MT (อังกฤษ: middle temporal area) เป็นเขตเปลือกสมองส่วนการเห็นนอกคอร์เทกซ์ลายที่เข้าใจกันว่า ทำหน้าที่สำคัญในการรับรู้การเคลื่อนไหว (motion perception) คือ
- ประมวลสัญญาณการเคลื่อนไหวเฉพาะที่ จนเกิดการรับรู้
- เป็นตัวชี้ทางการเคลื่อนไหวของตา
การเชื่อมต่อ
MT มีการเชื่อมต่อกับเขตต่าง ๆ ในคอร์เทกซ์และใต้คอร์เทกซ์เป็นจำนวนมาก สัญญาณทางเข้าของ MT มาจาก
- V1, V2, และ V3 ข้างหลัง ( หรือเรียกว่า V6)
- หรือ koniocellular region ของนิวเคลียสงอคล้ายเข่าด้านข้าง (LGN)
- pulvinar ด้านล่าง
รูปแบบการเชื่อมต่อของสัญญาณจากเรตินามายัง MT เริ่มเปลี่ยนไปต่างจากเขตคอร์เทกซ์ที่ต่ำกว่า คือ สัดส่วนระหว่างนิวรอนที่ประมวลข้อมูลจากรอยบุ๋มจอตา (fovea) กับจากเรตินาส่วนนอก ไม่เหมือนกับเขตคอร์เทกซ์ที่ต่ำกว่า (ดูแผนที่ปริภูมของ V1 ด้านบน)
ความเห็นหลักอย่างหนึ่งก็คือ V1 เป็นตัวส่งสัญญาณทางเข้าที่สำคัญที่สุดของ MTอย่างไรก็ดี งานวิจัยหลายงานได้แสดงว่าเซลล์ประสาทใน MT สามารถตอบสนองต่อข้อมูลทางตา บ่อยครั้งโดยเลือกตัวกระตุ้นโดยทิศทาง แม้ว่า V1 จะถูกทำลายหรือถูกหยุดยั้งไป ยิ่งไปกว่านั้น งานวิจัยของเสเมอร์ เซกี และคณะเสนอว่า ข้อมูลทางตาบางอย่างนั้นมาถึง MT ก่อนถึง V1 ด้วยซ้ำ
MT ส่งสัญญาณออกโดยหลักไปยังเขตที่อยู่ติดกันรอบ ๆ รวมทั้งเขต FST, MST และ V4t (middle temporal crescent) นอกจากนั้นแล้ว เขตอื่นที่รับสัญญาณจาก MT ก็คือเขตที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวตาของสมองกลีบหน้าและสมองกลีบข้าง (คือเขต frontal eye field และ )
หน้าที่
งานวิจัยแรก ๆ โดยสรีรวิทยาไฟฟ้าของเซลล์ประสาทใน MT แสดงว่า เซลล์จำนวนมากเลือกตัวกระตุ้นที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่โดยความเร็วและโดยทิศทาง ซึ่งบอกเป็นนัยว่า MT มีหน้าที่สำคัญในการประมวลข้อมูลการเคลื่อนไหวทางตา
งานวิจัยโดยรอยโรค ก็ยังสนับสนุนความคิดเกี่ยวกับหน้าที่ของ MT คือการรู้ความเคลื่อนไหวและการเคลื่อนไหวตา และงานวิจัยทางประสาทจิตวิทยา (Neuropsychology) ของคนไข้ที่ไม่สามารถเห็นการเคลื่อนไหว ผู้เห็นโลกเป็นฉาก ๆ (คือเป็นเฟรม) บอกเป็นนัยว่า MT ในไพรเมต เหมือนกันกับเขต MT/V5 ในมนุษย์
แต่ว่า เพราะว่า เซลล์ประสาทใน V1 ก็เลือกตัวกระตุ้นโดยความเร็วและการเคลื่อนไหวเช่นกัน ผลงานวิจัยเริ่มแรกเหล่านี้จึงไม่ได้ตอบคำถามอย่างชัดเจนว่า MT ทำอะไรได้ที่ V1 ทำไม่ได้ ยังมีงานวิจัยอีกมากอื่นที่เกี่ยวกับเขตนี้เนื่องจากปรากฏว่า MT ทำหน้าที่ประมวลสัญญาณการเคลื่อนไหวเฉพาะที่รวมเป็นข้อมูล การเคลื่อนไหวของตัวกระตุ้นซับซ้อนในภาพรวมทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่น การทำรอยโรค ที่ MT นำไปสู่ความบกพร่องในการรับรู้การเคลื่อนไหวของตัวกระตุ้นซับซ้อน เพราะ MT มีเซลล์มากมายที่เลือกการเคลื่อนไหวของรูปทางตาที่ซับซ้อน (เช่น ปลายเส้นตรง มุม) เป็นตัวกระตุ้น อีกอย่างหนึ่ง การกระตุ้นแบบละเอียด (Microstimulation) ของนิวรอนใน MT มีผลต่อการรับรู้การเคลื่อนไหว ยกตัวอย่างเช่น ในการทดลองในลิง ถ้าใช้อิเล็คโทรดกระตุ้นนิวรอนที่เลือกการเคลื่อนไหวด้านขึ้นเป็นตัวกระตุ้น เป็นไปได้มากขึ้นที่ ลิงทดลองนั้นจะแจ้งถึงการเคลื่อนไหวด้านขึ้น
ยังมีเรื่องที่ต้องถกเถียงกันอีกมากเกี่ยวกับการประมวลผลที่ MT ทำ เช่น มีงานวิจัยที่เสนอว่า การเคลื่อนไหวหลัก ๆ นั้น ได้รับการประมวลตั้งแต่ในระบบสายตาส่วนล่างเช่น V1
โครงสร้างโดยกิจ
มีงานวิจัยแสดงว่า เซลล์ MT อยู่รวมกันเป็นคอลัมน์โดยเซลล์ในคอลัมน์เลือกตัวกระตุ้นที่มีทิศทางเดียวกัน (คือแบ่งเป็น direction columns) เดอแอนเจลิส เสนออีกอย่างว่า นิวรอน MT ที่เลือกตัวกระตุ้นโดย (binocular disparity) อยู่รวมกันเป็นคอลัมน์
ดูเพิ่ม
เชิงอรรถและอ้างอิง
- Saccade หมายถึงการเคลื่อนไหวอย่างเร็ว ๆ ของตา ของศีรษะ หรือของส่วนอื่นในร่างกาย หรือของอุปกรณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง และยังหมายถึงการเปลี่ยนความถี่อย่างรวดเร็วของสัญญาณส่ง หรือความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอย่างอื่น ๆ ได้อีกด้วย Saccades (พหูพจน์) เป็นการเคลื่อนไหวตาทั้งสองข้างไปยังทิศทางเดียวกันอย่างรวดเร็ว
- ตัวอย่างเช่น เมื่อเราเห็นหน้าคนที่เรารู้จัก มีนิวรอนกลุ่มหนึ่งในคอร์เทกซ์ขมับด้านล่าง ที่ยิงสัญญาณบ่งบอกถึงคนที่รู้จักนั้น การยิงสัญญาณของนิวรอนกลุ่มนั้นนั่นแหละ เป็น "ตัวแทน" ของ "หน้าคนที่เรารู้จัก" (คือสิ่งของ)
- Ungerleider LG, Mishkin M (1982). "Two Cortical Visual Systems". ใน Ingle DJ, Goodale MA, Mansfield RJ (บ.ก.). Analysis of Visual Behavior. Boston: MIT Press. pp. 549–586. ISBN .
- Goodale MA, Milner AD (1992). "Separate pathways for perception and action". Trends in Neurosciences. 15 (1): 20–25. 10.1.1.207.6873. doi:10.1016/0166-2236(92)90344-8. PMID 1374953. S2CID 793980.
- ตัวอย่างเช่น จะเอื้อมมือไปใส่ซองจดหมายที่ตู้ไปรษณีย์ เป็น "กิจกรรมที่อาศัยทักษะ" ซึ่งต้องใช้ข้อมูลทางตาที่แสดงว่า ตู้ไปรษณีย์อยู่ที่ตรงไหน ช่องใส่จดหมายมีรูปร่างอย่างไรขนาดไหน เมื่อมีการเอื้อมแขนออกไปก็ต้องมีการควบคุมการเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นกิจกรรมอาศัยทักษะ ที่ต้องอาศัยข้อมูลทางตา
- คือในภาพลวงตานั้น มีวงกลมที่มีขนาดเท่ากันในสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกัน แต่ประสาทตากลับเห็นวงกลมเหล่านั้นว่ามีขนาดแตกต่างกัน
- คือสามารถปรับขยายมือให้ถูกขนาดเพื่อจับวัตถุนั้นอย่างเหมาะสม
- Aglioti S, DeSouza JF, Goodale MA (1995). "Size-contrast illusions deceive the eye but not the hand". Current Biology. 5 (6): 679–85. doi:10.1016/S0960-9822(95)00133-3. PMID 7552179. S2CID 206111613.
- Franz VH, Scharnowski F, Gegenfurtner (2005). "Illusion effects on grasping are temporally constant not dynamic". Journal of Experimental Psychology: Human Perception and Performance. 31 (6): 1359–78. doi:10.1037/0096-1523.31.6.1359. PMID 16366795.
- Ganel T, Goodale MA (2003). "Visual control of action but not perception requires analytical processing of object shape". Nature. 426 (6967): 664–7. Bibcode:2003Natur.426..664G. doi:10.1038/nature02156. PMID 14668865. S2CID 4314969.
- Ganel T, Tanzer M, Goodale MA (2008). "A double dissociation between action and perception in the context of visual illusions: opposite effects of real and illusory size". Psychological Science. 19 (3): 221–5. doi:10.1111/j.1467-9280.2008.02071.x. PMID 18315792. S2CID 15679825.
- Goodale MA. (2011). "Transforming vision into action". Vision Research. 51 (14): 1567–87. doi:10.1016/j.visres.2010.07.027. PMID 20691202.
- คือแสดงว่า มนุษย์จัดประเภทให้กับอารมณ์หนึ่ง ๆ โดยวิธีหลักคือ ใช้ตัวอย่างที่เป็นแบบฉบับอย่างดีที่สุดสำหรับประเภทนั้น ๆ เช่น จัดโต๊ะให้อยู่ในประเภทของเฟอร์นิเจอร์ ที่มีเก้าอี้เป็นตัวต้นแบบ (prototype)
- Schacter, Daniel L., Daniel Todd Gilbert, and Daniel M. Wegner. Psychology, pages 364-366. 2nd ed. New York, NY: Worth Publishers, 2011. Print.
- Leuba G; Kraftsik R (1994). "Changes in volume, surface estimate, three-dimentional shape and total number of neurons of the human primary visual cortex from midgestation until old age". Anatomy and Embryology. 190 (4): 351–366. PMID 7840422.
- ซึ่งหมายความว่า ความสัมพันธ์กันนั้นได้รับการวิวัฒนาการจากธรรมชาติในสัตว์บรรพบุรุษดั้งเดิมที่มี V1 ไม่ใช่ได้รับการวิวัฒนาการภายหลัง
- คือแทนที่นิวรอนใน V1 จะมีความสัมพันธ์กับลานสายตาโดยเฉลี่ยทั่ว ๆ กัน แต่ปรากฏว่านิวรอนส่วนใหญ่กลับมีความสัมพันธ์กับเขตเล็ก ๆ คือบริเวณรอบ ๆ fovea เท่านั้น ผลก็คือเมื่อมองดูอะไรอยู่ ส่วนของภาพที่มีความละเอียดมากที่สุดก็คือส่วนที่จ้องอยู่ นั่นก็คือส่วนที่อยู่ใกล้ ๆ fovea ให้สังเกตดูว่า จะเข้าไปเพ่งดูอะไรให้ชัด ๆ ต้องมองตรง ๆ ที่ตรงนั้น
- การเข้ารหัสโดยรวม ๆ ก็คือ การแปลงข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบหนึ่ง ไปเป็นข้อมูลในอีกรูปแบบหนึ่ง ตัวอย่างเช่น เข้ารหัสเสียงดนตรีไปเป็นหลุมเล็ก ๆ บนซีดีที่ใช้เล่นเพลงนั้นได้
- คือข้อมูลที่ส่งมาจากเรตินานั้น เพียงพอที่จะบอกตำแหน่งของวัตถุต่าง ๆ ในพื้นที่ (ปริภูมิ) นิวรอนใน V1 ต้องบันทึกข้อมูลพวกนี้ไว้ (คือเข้ารหัสปริภูมิ) อย่างละเอียดที่สุด
- Lamme & Roelfsema, 2000
- Hupe et al. 1998
- Angelucci et al., 2003; Hupe et al., 2001
- Guo et al., 2007; Huang et al., 2007; Sillito et al., 2006
- คือแทนที่จะใช้นิวรอนครึ่งหนึ่งเข้ารหัสสีขาวและอีกครึ่งหนึ่งเข้ารหัสสีดำ แต่กลับไปใช้นิวรอนส่วนหนึ่งในการเข้ารหัสเส้นแบ่ง และใช้นิวรอนจำนวนเพียงเล็กน้อยเข้ารหัสสีขาวและสีดำ
- คือแม้ว่านิวรอนไม่ได้เข้ารหัสบ่งถึงพื้นที่โดยตรง แต่ข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่นั้นไม่ได้สูญหายไปโดยเทคนิคการเข้ารหัสอีกอย่างหนึ่งคือโดยความแตกต่างเฉพาะพื้นที่ (local contrast)
- Gazzaniga, Ivry & Mangun: Cognitive neuroscience, 2002
- I. Stepniewska, J. H. Kaas, J. Comp. Neurol. 371, 129 (1996) .
- R. Gattas, A. P. Sousa, M. Mishkin, L. G. Ungerleider, Cereb. Cortex 7, 110 (1997) .
- J. Hegde, D. C. Van Essen, J. Neurosci. 20, RC61 (2000) .
- J. Hegde, D. C. Van Essen, J. Neurophysiol. 92, 3030 (2004) .
- A. Anzai, X. Peng, D. C. Van Essen, Nat. Neurosci. 10, 1313 (2007) .
- Ts'o, Daniel; Mark Zarella; Guy Burkitt (2009). "Whither the hypercolumn?". Journal of Physiology. 587 (12): 2791–2805. สืบค้นเมื่อ 2012-03-19.
- I. Maruko et al., J. Neurophysiol. 100, 2486 (2008) .
- (Qiu and von der Heydt, 2005)
- T. J. Bussey, L. M. Saksida, Hippocampus 17, 898 (2007) .
- http://www.sciencemag.org/cgi/content/full/325/5936/87
- Rosa MG, Tweedale R (2000). "Visual areas in lateral and ventral extrastriate cortices of the marmoset monkey". Journal of Comparative Neurology. 422 (4): 621–51. doi:10.1002/1096-9861(20000710)422:4<621::AID-CNE10>3.0.CO;2-E. PMID 10861530. S2CID 25982910.
- Goddard E; Goddard, Erin; และคณะ (2011). "Color responsiveness argues against a dorsal component of human V4". Journal of Vision. 11 (4): 3. doi:10.1167/11.4.3. PMID 21467155.
- ความใส่ใจแบบเลือกสรร (selective attention) คือความสามารถในการใส่ใจในตัวกระตุ้นอย่างหนึ่งในขณะที่ไม่ใส่ใจ (filtering) ตัวกระตุ้นอย่างอื่น เหมือนคนคุยกันในที่อึกทึกยังสามารถใส่ใจในบทสนทนาได้
- http://www.sciencemag.org/cgi/content/abstract/229/4715/782)
- Moran & Desimone. Selective Attention Gates Visual Processing in the Extrastriate Cortex. Science 229 (4715), 1985.
- Kandel, Eric R.; Schwartz, James H.; Jessell, Thomas M.; Siegelbaum, Steven A.; Hudspeth, A.J. (2013). Principles of Neural Science Fifth Edition. United State of America: McGraw-Hill. ISBN .
- frontal eye fields (FEF) เป็นเขตในคอร์เทกซ์กลีบหน้าผากส่วนหน้า (prefrontal cortex) ซึ่งอยู่ในสมองกลีบหน้า มีบทบาทสำคัญในการควบคุมการใส่ใจทางตาและการเคลื่อนไหวของตาเช่น
- Born R, Bradley D (2005). "Structure and function of visual area MT". Annu Rev Neurosci. 28: 157–89. doi:10.1146/annurev.neuro.26.041002.131052. PMID 16022593.
- Felleman D, Van Essen D (1991). "Distributed hierarchical processing in the primate cerebral cortex". . 1 (1): 1–47. doi:10.1093/cercor/1.1.1-a. PMID 1822724.
- Ungerleider L, Desimone R (1986). "Cortical connections of visual area MT in the macaque". Journal of Comparative Neurology. 248 (2): 190–222. doi:10.1002/cne.902480204. PMID 3722458. S2CID 1876622.
- เซลล์ koniocellular (ตัวย่อ K-cell) เป็นนิวรอนในชั้น koniocellular ของนิวเคลียสงอคล้ายเข่าด้านข้าง (LGN) ในไพรเมตรวมทั้งมนุษย์ ส่งสัญญาณไปให้ V1 และ MT
- Sincich L, Park K, Wohlgemuth M, Horton J (2004). "Bypassing V1: a direct geniculate input to area MT". Nature Neuroscience. 7 (10): 1123–8. doi:10.1038/nn1318. PMID 15378066. S2CID 13419990.
- pulvinar nuclei เป็นนิวเคลียสกลุ่มหนึ่งด้านหลังสุดของทาลามัส มีการเชื่อมต่อกับเขตคอร์เทกซ์มากมายรวมทั้งเปลือกสมองส่วนการเห็น การมีรอยโรคใน pulvinar ก่อให้เกิดอาการภาวะละเลยกึ่งปริภูมิและโรคสมาธิสั้น
- Palmer SM, Rosa MG (2006). "A distinct anatomical network of cortical areas for analysis of motion in far peripheral vision". European Journal of Neuroscience. 24 (8): 2389–405. doi:10.1111/j.1460-9568.2006.05113.x. PMID 17042793. S2CID 21562682.
- Rodman HR, Gross CG, Albright TD (1989). "Afferent basis of visual response properties in area MT of the macaque. I. Effects of striate cortex removal". Journal of Neuroscience. 9 (6): 2033–50. doi:10.1523/JNEUROSCI.09-06-02033.1989. PMC 6569731. PMID 2723765.
- คือข้อมูลสองอย่างนี้แสดงว่า ต้องมีเขตอื่นที่ส่งสัญญาณมาให้ MT โดยตรงโดยไม่ผ่าน V1 แต่อาจจะผ่าน LGN หรือ superior collicus
- เขตขมับบนด้านใน ( ตัวย่อ MST) เป็นเขตคอร์เทกซ์อยู่ในทางสัญญาณด้านล่างของระบบสายตาในไพรเมต MST ได้รับสัญญาณทางเข้าส่วนมากจาก MT ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการประมวลความเคลื่อนไหว MST ใช้ข้อมูลนั้นในการแปลผลเป็น เป็นต้น
- Dubner R, Zeki S (1971). "Response properties and receptive fields of cells in an anatomically defined region of the superior temporal sulcus in the monkey". Brain Research. 35 (2): 528–32. doi:10.1016/0006-8993(71)90494-X. PMID 5002708..
- Maunsell J, Van Essen D (1983). "Functional properties of neurons in middle temporal visual area of the macaque monkey. I. Selectivity for stimulus direction, speed, and orientation". Journal of Neurophysiology. 49 (5): 1127–47. doi:10.1152/jn.1983.49.5.1127. PMID 6864242. S2CID 8708245.
- คือเห็นโลกเหมือนดูหนังทีละเฟรม ไม่เห็นการเคลื่อนไหว เห็นเป็นภาพนิ่งเป็นฉาก ๆ
- คือพฤติกรรมในไพรเมตที่นักวิจัยเข้าไปทำลายเขต MT เหมือนกับพฤติกรรมของมนุษย์ที่มีความเสียหายในเขตนี้โดยอุบัติเหตุ
- Hess R.H.; Baker C.L.; Zihl J. (1989). "The 'motion-blind' patient: low-level spatial and temporal filters". Journal of Neuroscience. 9 (5): 1628–40. doi:10.1523/JNEUROSCI.09-05-01628.1989. PMC 6569833. PMID 2723744.
- Baker C.L. Jr; Hess R.F; Zihl J. (1991). "Residual motion perception in a 'motion-blind' patient, assessed with limited-lifetime random dot stimuli". Journal of Neuroscience. 11 (2): 454–61. doi:10.1523/JNEUROSCI.11-02-00454.1991. PMC 6575225. PMID 1992012.
- Movshon, J.A., Adelson, E.H., Gizzi, M.S., & Newsome, W.T. (1985) . The analysis of moving visual patterns. In: C. Chagas, R. Gattass, & C. Gross (Eds.), Pattern recognition mechanisms (pp. 117-151), Rome: Vatican Press.
- Britten K.H.; van Wezel R.J. (1998). "Electrical microstimulation of cortical area MST biases heading perception in monkeys". Nature Neuroscience. 1 (1): 59–63. doi:10.1038/259. PMID 10195110. S2CID 52820462.
- Wilson, H.R.; Ferrera, V.P.; Yo, C. (1992). "A psychophysically motivated model for two-dimensional motion perception". Visual Neuroscience. 9 (1): 79–97. doi:10.1017/s0952523800006386. PMID 1633129. S2CID 45196189.
- Tinsley, C.J., Webb, B.S., Barraclough, N.E., Vincent, C.J., Parker, A., & Derrington, A.M. (2003). "The nature of V1 neural responses to 2D moving patterns depends on receptive-field structure in the marmoset monkey". Journal of Neurophysiology. 90 (2): 930–7. doi:10.1152/jn.00708.2002. PMID 12711710. S2CID 540146.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Pack C.C.; Born R.T.; Livingstone M.S. (2003). "Two-dimensional substructure of stereo and motion interactions in macaque visual cortex". Neuron. 37 (3): 525–35. doi:10.1016/s0896-6273(02)01187-x. PMID 12575958.
- Albright T (1984). "Direction and orientation selectivity of neurons in visual area MT of the macaque". J Neurophysiol. 52 (6): 1106–30. PMID 6520628.
- DeAngelis G, Newsome W (1999). "Organization of disparity-selective neurons in macaque area MT". J Neurosci. 19 (4): 1398–415. PMID 9952417.
แหล่งข้อมูลอื่น
- The Primary Visual Cortex by Matthew Schmolesky 2004-12-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน at
- Architecture of the Visual Cortex, by David Hubel 2017-03-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน at Harvard University
- NeuroNames ancil-415 - striate area 17
- NeuroNames ancil-699 - Brodmann area 17 in guenon
- ภาพสมองตัดแต่งสีซึ่งรวมส่วน "visual%20cortex" at the
- Simulator for computational modeling of visual cortex maps at topographica.org
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
epluxksmxngswnkarehn xngkvs visual cortex cortex visualis insmxngepnswnhnungkhxngepluxksmxng thahnathipramwlkhxmulsayta xyuinsmxngklibthaythxydanhlngkhxngsmxngepluxksmxngswnkarehn Visual cortex phaphkhxngsmxngcakdanhlng ekhtbrxdaemnn 17 epluxksmxngswnkarehnpthmphumi misiaedng ekhtbrxdaemnn 18 misism ekhtbrxdaemnn 19 misiehluxngsmxngaesdngcakdankhang smxngdanhnaxyuthangdansay phaphbnepnphaphmxngcakkhangnxk phaphlangepnphaphphaxxktrngklang ekhtbrxdaemnn 17 epluxksmxngswnkarehnpthmphumi misismraylaexiydtwrabuphasalatinCortex visualisMeSHD014793niworelks IDnlx 143552FMA242644 aekikhbnwikisneths thangsyyandanhlng ekhiyw aelathangsyyandanlang mwng epnthangsyyanerimmacakepluxksmxngswnkarehnpthmphumi khawa epluxksmxngswnkarehn hmaythungkhxrethkstang insmxngrwmthng epluxksmxngswnkarehnpthmphumi xngkvs primary visual cortex hruxruckknwa khxrethkslay xngkvs striate cortex hrux ekhtsayta V1 hruxsn wa V1 epluxksmxngswnkarehnnxkkhxrethkslay xngkvs extrastriate cortex prakxbdwyekhtsaytatang epntnwa V2 V3 V4 aela V5 hrux MT epluxksmxngswnkarehnpthmphumiodysriraaelwepnswnediywknkbekhtbrxdaemnn 17 hrux BA17 epluxksmxngswnkarehnnxkkhxrethkslayprakxbdwyekhtbrxdaemnn 18 aelaekhtbrxdaemnn 19 siksmxngaetladanmiepluxksmxngswnkarehn epluxksmxngswnkarehnkhxngsiksmxngdansayrbsyyancaklansayta visual field dankhwa aelaepluxksmxngswnkarehnkhxngsiksmxngdankhwarbsyyancaklansaytadansay bthkhwamniphrrnnathungepluxksmxngswnkarehniniphremt odyechphaaxyangyingkhxngmnusyxarmphbthepluxksmxngswnkarehnpthmphumi V1 epnkhxrethksrbrukhwamrusuk tngxyuphayinaelarxb calcarine fissure insmxngklibthaythxy V1 khxngsiksmxngaetlakhangrbkhxmulodytrngcakniwekhliysngxkhlayekhadankhang lateral geniculate nucleus sungxyuinsiksmxngdanediywkn V1 aetlakhangsngkhxmulphanthangsyyanhlk 2 thangthieriykwa thangsyyandanhlng dorsal stream aelathangsyyandanlang ventral stream odyraylaexiydkhux thangsyyandanhlngerimcak V1 phanekhtsayta V2 hlngcaknnphan ruckxikxyanghnungwa V6 aelaekhtsayta MT ruckxikxyanghnungwa V5 aelahlngcaknnipyngkhxrethksklibkhangdanhlng posterior parietal cortex thangsyyanni sungbangkhrngeriykknwa thangsyyanbxkwathiihn where pathway hruxwa thangsyyanbxkwathaxyangir how pathway epnthangsyyanthiekiywkhxngkbrabbtang dngtxipni karekhluxnihw aephnthitaaehnngkhxngsingkhxng karkhwbkhumtaaelaaekhn odyechphaaemuxmikarichkhxmulsaytainkarekhluxnihwluktaaebb saccade hruxinkarexuxmaekhnthangsyyandanlangerimcak V1 phanekhtsayta V2 hlngcaknnphanekhtsayta V4 aelamungipsukhxrethksklibkhmbdanlang inferior temporal cortex thangsyyannisungbangkhrngeriykwa thangsyyanbxkwaxair what pathway ekiywkhxngkbrabbtang dngtxipni karrucaruprang form recognition karepntwaethnsingkhxng object representation karekb elsli xngekxreledxr aelamxrtiemxr michkin epnbukhkhlaerkthirabuthangsyyandanlangwa epnthangsyyanbxkwaxair aelathangsyyandanhlngwa epnthangsyyanbxkwathiihn hlngcaknn emlwin kudedwl aelamilenxr khyayaenwkhidniodyesnxwa thangsyyandanlangepnrabbsakhyinkarrbruxarmnthangta thangsyyandanhlngsuxkarkhwbkhumkarekhluxnihwthixasyta visual control inkickrrmthixasythksa thungaemwa aenwkhidniyngepnthithkethiyngkninklumnkwithyasastrekiywkbsaytaaelankcitwithya aetwa karaebngxxksunghnathirahwangsaytaephuxkarrbruxarmn vision for perception aelasaytaephuxkarkratha vision for action epnkarnaesnxthiidrbkarsnbsnuncakphlnganwicyinprasathcitwithya neuropsychology prasathsrirwithya neurophysiology aelaprasaththsna neuroimaging hlkthanepnthithkethiyngknmakthisudbangxyangmacaknganwicykarekhluxnihwthiichsaytakhxngstwthdlxngpkti phaphlwngtaexbbingkehasmiwngklmsism thimikhnadethakn aetwa wngklmdankhwaklbpraktihykwa twxyangechn phlnganwicythiidaesdngwa phaphlwngtaechnphaphlwngtaexbbingkhxs Ebbinghaus illusion yngihekidkhwambidebuxndankarrbru emuxstwthdlxngtxbsnxngdwykarwinicchyxarmn aetwa emuxstwthdlxngnntxbsnxngdwykarkratha echnkarkhwacbwtthuthiepnxarmn khwambidebuxnechnnnklbimprakt thungkrann nganwicyxun esnxwa thngrabbthiekiywkhxngkbkarkratha aelarabbthiekiywkhxngkbkarrbruxarmn thukhlxkodyphaphlwngtathiklawaelwehmuxn kn aetwa nganwicythihlngcaknnxik kihkarsnbsnunthichdecnaekaenwkhidthiwa phaphlwngtaimmiphltxkarkrathathixasythksaechnkarkhwacb aelaesnxwa karaeykxxkcakknrahwangkarkrathaaelakarrbruepnwithithidi inkaraebnghnathikhxngthangsyyandanhlngaelathangsyyandanlangkhxngrabbsaytainepluxksmxng esllprasathinepluxksmxngswnkarehnyingskyangan emuxtwkratunsaytapraktinlanrbsyyan receptive field khxngtn khacakdkhwamkhxnglanrbsyyankkhux ekhtphayinlansayta visual field thnghmdthikxihekidskyanganinesllnn emuxprakttwkratun aetsahrbesllprasathhning esllnnxaccamikartxbsnxngdithisudtxtwkratunechphaaxyang thipraktinlanrbsyyankhxngesll khunsmbtinieriykwa kareluxktwkratunkhxngniwrxn neuronal tuning inekhtsaytakhnaerk esllprasathcamikareluxktwkratunthingay echn esllprasathin V1 xaccayingsyyanemuxmitwkratunaenwtnginlanrbsyyankhxngesll aetinekhtsaytahlng esllprasathcamikareluxktwkratunthisbsxn echn inkhxrethksklibkhmbdanlang inferior temporal cortex esllprasathxaccayingsyyanemuxrupibhnakhxngkhnhnungpraktthilanrbsyyankhxngesllnganwicyinpccubninkarthanganwicyekiywkbepluxksmxngswnkarehnpthmphumi nkwicyxaccabnthukskyangankhxngesllprasathdwyxielkhothrdthixyuinsmxngkhxngstwthdlxng echn aemw efxerth stwkhlayphngphxn hnu hruxling hruxxaccabnthuksyyansayta optical signals odytrngcakstwthdlxng hruxwa xaccabnthuksyyan EEG MEG hrux fMRI cak V1 khxngmnusyaelaling twxyangtang khxngnganwicypccubnekiywkbepluxksmxngswnkarehnkkhux nganwicy V1 xyanghnungkkhuxephuxthakhwamekhaickareluxktwkratunkhxngniwrxn neuronal tuning xyangsmburn ephuxthicaich V1 nnepntwaebbinkarsrangthvsdiekiywkbwngcrkhxrethksthiepnmatrthan aemwa rxyorkh lesion in V1 odypktiyxmnaipsuphawa scotoma hruxchxnginlanehn aetepnthinasnicwa khnikhthimidwngmudinlanehnnn bxykhrngsamarthichkhxmulthangsaytathisngihkbdwngmudinlanehnkhxngkhnikhinkarekhluxnihw aemwakhnikhcaimmikarrbruthungxarmnnn praktkarnnieriykwa phawaehnthngbxd blindsight epnpraktkarnthinkwithyasastrphumikhwamsnicineruxngprasathsmphnthaehngkarrbruxarmn neural correlates of consciousness suksawicyknxyangkwangkhwang emuxerw ni nkwicyidichethkhnikhbnthukphaphkhxngprasathhlaychnid cnthaihekhaicidwa epluxksmxngswnkarehnnn miswninkarkahndtnaebb prototypes sung Prototype Theory incitwithyaaesdngwa epnwithihlkinkarcdpraephth 3 withithimnusycdpraephthaelakhidthungxarmntang inicepluxksmxngswnkarehnpthmphumi V1 epluxksmxngswnkarehnpthmphumimisiaedngdankhwarup Micrograph aesdngepluxksmxngswnkarehn sichmphu eyuxhumsmxngchninaelaeyuxhumsmxngchnklangrwmthnghlxdeluxd xyuthangdanbnsud enuxkhawitepluxksmxng subcortical white matter misinaengin xyudanlangkhxngphaph epluxksmxngswnkarehnpthmphumi xngkvs primary visual cortex chuxyx V1 epnekhtsaytathimikarwicymakthisudinsmxng instweliynglukdwynmthnghmdthiidrbkarwicy V1 xyuthangdanhlngkhxngkhxrethksthaythxy occipital cortex sungmihnathipramwlkhxmulthangsayta V1 epnekhtepluxksmxngswnkarehnthieriybngaythisud aelaepnekhtkhnaerksud mikicechphaainkarpramwlkhxmulkhxngthngtwkratunthining aelathngtwkratunthiekhluxnihw aelamismrrthphaphinkarrucaaebb pattern recognition khawa epluxksmxngswnkarehnpthmphumi sungepnkarcakdkhwamodyhnathikhxngkhxrethks ethiybethakbkhawa khxrethkslay striate cortex sungepnkarcakdkhwamodykaywiphakh khawa striate cortex mikaenidmacakkhawa stria of Gennari layecnnari sungepnlayyawthiedn ehnidodytaepla epnlaythiaesdngtwaexksxnthimiplxkimxilincakniwekhliysngxkhlayekhadankhang lateral geniculate nucleus twyx LGN thidaeninmasudthichnthi 4 khxng V1 V1 mi 6 chnaebngodyhnathikhxngaetlachn eriykwachn 1 thung chn 6 aelainchnthi 4 sungrbkhxmulsaytacak LGN yngaebngepnchnyxyxik 4 chn eriykwa chnyxy 4A 4B 4Ca aela 4Cb chnyxy 4Ca rbkhxmulekhacakesll khxng LGN withiprasathechphaakiccakertinaphanchn magnocellular khxng LGN mayng V1 eriykwa magnocellular pathway inkhnathichnyxy 4Cb rbkhxmulekhacakesll khxng LGN withiprasathechphaakiccakertinaphanchn parvocellular khxng LGN mayng V1 eriykwa parvocellular pathway canwnniwrxnodyechliyin V1 khxngmnusyphuihy aetlasiksmxng mipraman 140 lanniwrxn hnathiaelakarthangan V1 miaephnthipriphumithangtathimikhxbekhtthichdecn twxyangechn inmnusy swnkhxng V1 ehnux calcarine fissure mikhwamsmphnthxyangchdecntxlansaytakhrunglang aelaswnkhxng V1 itchxngaekhlkharin kmikhwamsmphnthtxlansaytakhrungbn odythvsdikkhux aephnthi retinotopy in V1 ni epnkaraeplngphaphthangsaytacakertina masuniwrxnin V1 khwamsmphnthrahwangtaaehnnghnung in V1 aelataaehnnghnung inlansaytakhxngaetlabukhkhlnn aemnyaaennxnmak aemaetcudbxdinertina kyngmicudthismphnthkbcudin V1 aelaodywiwthnakarthangchiwwithya khwamsmphnthknthiwann phbidinstwthnghmdthimi V1 odyphunthan inmnusyaelainstwthimirxybumcxta fovea niwrxnswnihykhxng V1 nn mikhwamsmphnthkbekhtelk trngklangkhxnglansaytarxb rxybumcxtaepnpraktkarnthiruckknwa karkhyayraylaexiydkhxngkhxrethks cortical magnification inbrrdabriewnepluxksmxngswnkarehnthnghmd niwrxnin V1 milanrbsyyanthielkthisud sungxaccaepnephraaephuxkhwamaemnyakhxngkarekharhspriphumi spatial encoding kareluxktwkratunkhxngniwrxn neuronal tuning in V1 aetktangknxyangyingaelwaetchwngewla inrayatn 40 milliwinathiaelahlngcaknn niwrxneluxktwkratunimkitwethann khuxniwrxnsamarththicaaeykaeyakhwamaetktangaemephiyngelknxyinaenwtng orientation khwamthiinpriphumi spatial frequency aelasikhxngtwkratun yingipkwann niwrxninekht V1 inmnusyaelastwthimikarehnepnphaphediywdwysxngta binocular vision mikareluxktwkratunaebb ocular dominance klawkhuxniwrxnehlann eluxktwkratuncaktaidtahnungethann in V1 aelainkhxrethksrbkhwamrusukpthmphumixyangxun niwrxnthimikareluxktwkratunkhlay kn mkcaxyurwmknepnkhxlmninkhxrethks cortical columns edwid huebl aelathxrsetn wiesl naesnxaebbcalxngkhxngkhxlmninkhxrethksthimikarcdrupaebbehmuxnlukbasknaaekhng sahrbniwrxnthieluxktwkratunody 2 aebb khuxodytahnungmixanacehnux ocular dominance aelaodyaenwtng orientation aetwa aebbcalxngni imsamarthrxngrbsi khwamthiinpriphumi aelalksnaxun thiniwrxneluxkepntwkratun txngkarxangxing withikarcdtngthiaenchdsahrbkhxlmninkhxrethksin V1 kyngepnpraednyxdniyminnganwicypccubn ineruxngkarthangankhxng V1 duehmuxnwa mtipccubnkhxngnkwithyasastrkkhux karthanganrayatnkhxngniwrxnin V1 epriybesmuxntwkrxnghlaychnthimiphltxpriphumiaelaewla khxngsingthirbru ineruxngkhxngpriphumi karthangankhxng V1 epriybesmuxnkbkaraeplngfuriey Fourier transform thisbsxn aetthanganinpriphumithicakd hruxthacaihthuktxngyingkwann ehmuxnkbkaraeplngekebxr Gabor transform odythvsdiaelw twkrxngehlanirwm knsamarththakarpramwlkhxmulehmuxnthiniwrxnthaekiywkbkhwamthiinpriphumi aenwtng karekhluxnihw thisthangkarekhluxnihw khwamerw aelaephraaehtunn khwamthithangkalewla aelalksnamakmayxyangxunekiywkbpriphumiaelaewla mikarthdlxngthiidyunynthvsdiehlani aetkidtngocthkkhathamihm khunmaxikdwy inrayahlng hlngcak 100 milliwinathi niwrxnin V1 kyngmikhwamiwtxphaphrwm global organisation khxngsingthiaewdlxmtwkratunephimkhunxikdwy khwamiwthiekidephimkhunxyangni nacaekidcaksyyanpxnklbkhxngkhxrethksradbsungmayngkhxrethksradblang khux V1 aelacaksyyanniwrxnpiramidphayin V1 exng inkhnathikarsngsyyantxipkhanghna epnsyyanthikhbhruxphlkihephim driving karsngsyyanpxnklbodymakepnsyyanephuxprbepliyn modulatory hlkthaninnganwicyaesdngwa syyanpxnklbthimacakkhxrethksradbsungechn V4 khxrethksklibkhmbdanlang aela MT sungmilanrbsyyanthiihyaelasbsxnmakkwa samarthepliynaeplngaelaepliynrupptikiriyakhxngniwrxnin V1 hlkthannisamarthxthibaykarrbsyyankhxngniwrxnin V1 thiepliynipcakkarrbsyyanaebbdngedim thiimprakxbdwysyyanpxnklb odypramwlsyyankhxngsingaewdlxmsungxyunxklanrbsyyankhxngniwrxnephimekhaipxikdwy khxmulthangtathisngipih V1 imidmikarekharhsihxyuinrupaebbthiaesdngphunthi hruxpriphumi odytrng aetepnrupaebbthiaesdngkhwamaetktangknechphaaphunthi local contrast twxyangechn inrupthikhrunghnungepnsida xikkhrunghnungepnsikhaw esnaebngrahwangsidaaelasikhawmikhwamaetktangknthichdecnthisud esnaebngnnaehlacaidrbkarekharhs inkhnathiniwrxncanwnnxyekharhskhxmulkhwamswang khuxkhawaelada yingipkwann emuxmikarsngkhxmultx knipinekhtsaytainradbtx ip kcamikarekharhssyyanaesdngkhwamthiaelaefsthiimepnipechphaaphunthiying khunip xyangirkdi thisakhykkhux inrayatn khxngkarpramwlkhxmulodykhxrethks khxmulthangsaytathisamarthrabutaaehnnginphunthikyngmikarekharhsodykhwamaetktangechphaaphunthi local contrast nnaehlaV2ekhtsayta V2 hruxeriykknwa khxrethkskxnkhxrethkslay xngkvs prestriate cortex epnekhtsakhythisxngkhxngepluxksmxngswnkarehn aelaepnekhtaerkthixyuinekhtsmphnththangta visual association area odykaywiphakh V2 aebngxxkepn 4 ekht khux ekhtdanhlng dorsal aelaekhtdanlanghruxdanthxng ventral insikthngsxngkhxngsmxng ekhtthng 4 ehlanirwmknsamarthaesdngaephnphumikhxngolkaehngkarehn karechuxmtx V2 rbsyyancak V1 odytrng aelaodyxxmphanniwekhliys pulvinar aelasngsyyanipyng V3 V4 aela V5 nxkcaknnaelw V2 yngsngsyyanpxnklbipyng V1 xikdwy insmxngkhxngling V2 rbsyyanthimikalngcak V1 aelasngsyyanthimikalngipyngepluxksmxngswnkarehninradbxun khux V3 V4 aela V5 hnathiaelakarthangan odykarthanganaelw V2 milksnahlay xyangehmuxn V1 khux niwrxnodymakin V2 eluxktwkratunaebbngay echnaenwtng khwamthiinpriphumi khnad si aelaruprang ptikiriyakhxngniwrxncanwnmakin V2 mikarprbepliyn modulated odytwkratunthisbsxnyingkhun echn aenwtngkhxngesnruprangthilwngta illusory contours khwamimehmuxnknkhxngsxngta binocular disparity khwamthitwkratunnnepnswnkhxngruphnung hruxswnkhxngphundin nxkcakni nganwicyerw niaesdngwa esllin V2 samarthprbepliynidelknxyodykhwamisic attentional modulation khuxelknxyaetmakkwa V1 aelanxykwa V4 mikareluxktwkratunthikhxnkhangsbsxn xaccakhbidodyaenwtng orientation hlay aenwthimixyuinekhtyxytang inlanrbsyyanediyw nganwicyodykaywiphakhchichn 3 khxng V2 odyechphaawaepncudhnungthipramwlkhxmulthangta odykarepriybethiybkbchn 3 aelw chn 6 khxng epluxksmxngswnkarehnnn prakxbdwyniwrxnhlaypraephth aelaniwrxnehlannmikartxbsnxngthisbsxnmakkwatxtwkratunthangta mikaresnxwarabbtang inthangsyyandanthxng tngaetsaytacnipthunghipopaekhmps thnghmdsakhytxkhwamthrngcathangta thvsdini sungtangcakthvsdithimikaryxmrbmakkwa phyakrnwa karepliynaeplngkhwamthrngcathiekiywkhxngkbkarrucaxarmn object recognition memory twyxwa ORM samarththaidodykarkhwbkhum V2 sungepnekhtthimikarechuxmtxxyangsungkbrabbinthangsyyandanthxng innganwicyerw ninganhnung phbwa esllinchn 6 khxng V2 mibthbathsakhyinkarekbrksakhwamcakhxngkarrucaxarmn ORM aelainkarepliynkhwamcarayasnipepnkhwamcarayayawkhxmephlkssaytathisam rwmthng V3khawa khxmephlkssaytathisam xngkvs third visual complex hmaythungekhtkhxrethksthixyukhanghnatxcak V2 thnthi aelarwmekhtthieriykwa ekhtsayta V3 visual area V3 inmnusy aelaephraayngepnthithkethiyngknwa ekhtsayta V3 nn cring mikhxbekhtkhnadihn karichkhawa khxmephlks cungsmkbkhwamthiyngimmimtiepnxnediywkninhmunkwicy odythiminkwicybangphwkesnxwa khxrethksthixyukhanghnakhxng V2 xaccarwmhnwyyxykhxrethksthimihnathitang kn 2 3 hnwy twxyangechn edwid aewn exsesn aelakhna kh s 1986 esnxwa mihnwythieriykwa V3 danhlng dorsal V3 indanbnkhxngsiksmxng sungtangcakhnwythieriykwa V3 danthxng ventral V3 hrux ekhtkhanghlngdanthxng ventral posterior area twyx VP sungxyuthangdanlangkhxngsmxng khwamaetktangknkhxng V3 danhlng aela V3 danthxng kkhux mikarechuxmtxkbswntang khxngsmxngthitangkn praktimehmuxnknemuxyxmsi stained dwywithitang miniwrxnthimiptikiriyatangkntxtwkratunthangta twxyangechn niwrxnthieluxktwkratunodysimixyuin V3 danthxngmakkwa nxkcaknnaelw yngminganwicythiaesdngthunghnwyyxyxun rwmthng V3A aela V3B inmnusy hnwyyxyehlanixyuikl V3 danhlng aetimxyutidkb V2 V3 danthxng VP mikarechuxmtxcak V1 thixxn aelamikarechuxmtxkbkhxrethkskhmbdanlang inferior temporal cortex thiekhmaekhng inkhnathinganwicykxn esnxwa VP miphumiaephnthiechphaadanbnkhxnglansayta ehnuxcudtrungphaph point of fixation aetwa nganwicythihlngcaknnklbaesdngwa VP nnmikhxbekhtthikwangkhwangkwathikhidiwkxn aelaehmuxnkbekhtsaytaxun V3 xaccamiphumiaephnthikhxnglansaytathnghmd orsaaelathwiedleriyk VP thimikhxbekhtthiihykhunniwa Ventrolateral Posterior Area VLP V4ekhtsayta V4 epnekhthnunginekhtepluxksmxngswnkarehnnxkkhxrethkslay extrastriate visual cortex inlingmakhak V4 xyudanhnakhxng V2 aelaxyuhlngcakkhxrethkskhmbdanlang inferior temporal cortex V4 mihnwyyxyxyangnxy 4 hnwy V4d sayaelakhwa V4v sayaelakhwa aelankwichakarbangphwkraynganwa V4 mihnwyyxydanhna rostral aeladanhlng caudal echnkn pccubnyngimmikhwamaenchdwa ekht V4 inmnusyxyuthiihn aelaepneruxngthiidrbkhwamsniccaknkwichakarepnxyangmak V4 epnekhtkhxrethksthisaminthangsyyandanlang ventral stream sungrbsyyanthisngtxmacak V2 thimikalng aelasngsyyanthimikalngtxipyngkhxrethkskhmbdanlang inferior temporal cortex V4 yngidrbsyyanodytrngcak V1 dwy odyechphaasyyanswntrngklangiklrxybumcxta fovea nxkcaknnaelw V4 yngmikarechuxmtxthixxnipyng V5 aelarxynunaexngkular Angular gyrus xikdwy V4 epnekhtsaytaaerkinthangsyyandanlangkhxngrabbsayta thimikarprbepliynxyangchdecnenuxngcakkhwamisic attentional modulation nganwicyodymakaesdngwa selective attention samarthepliynkhwamthikaryingsyyankhxng V4 idodypraman 20 nganwicysakhykhxngmxaernaelaedsiomn sungaesdngkarprbepliynenuxngcakkarisicni epnnganaerkthikhnphbphlenuxngcakkhwamisic inepluxksmxngswnkarehnthngrabb ehmuxnkb V1 ekhtsayta V4 mikareluxktwkratunodyaenwtng odykhwamthiinpriphumi aelaodysi aetimehmuxn V1 ekhtsayta V4 mikareluxktwkratunodylksnathisbsxnradbklang echnruprangechingerkhakhnit echnmumkhxngsamehliym 469 aemwa yngimmiikhrthixthibaykareluxktwkratunthisbsxnkhxng V4 idxyangbriburn aetwa V4 immikareluxktwkratunodyrupibhnatangcakkhxrethksbangxyangxunechnkhxrethkskhmbdanlang esemxr eski epnkhnaerkthixthibaykhunsmbtikaryingsyyankhxng V4 iwinplaykhristthswrrs 1970 aelaeskinnaehla epnkhntngchuxekhtsaytaniiw kxnhnani V4 thukeriyktamkaywiphakhwa prelunate gyrus dngedimthiediyw eskiaesdngwa wtthuprasngkhkhxng V4 kephuxrwmbrwmkhxmulekiywkbsi aetwanganwicyintnkhristthswrrs 1980 phisucnwa V4 mikhwamekiywkhxngodytrnginkarrucaruprang form recognition ehmuxnkbekhtkhxrethkskxn nganwicynisnbsnun Two Streams hypothesis sungxngekxreledxraelamichkinesnxinpi kh s 1982 nganwicyerw ni aesdngwa V4 misphaphphlastik plasticity inrayayaw ekharhskhwamedn salience khxngtwkratun cakdodysyyanthimacak frontal eye fields FEF prbepliynphumiphunthikhxnglanrbsyyankhxngtnephraakhwamisicV5 MTekhtsayta V5 hruxruckknwa ekhtsayta MT xngkvs middle temporal area epnekhtepluxksmxngswnkarehnnxkkhxrethkslaythiekhaicknwa thahnathisakhyinkarrbrukarekhluxnihw motion perception khux pramwlsyyankarekhluxnihwechphaathi cnekidkarrbru epntwchithangkarekhluxnihwkhxngtakarechuxmtx MT mikarechuxmtxkbekhttang inkhxrethksaelaitkhxrethksepncanwnmak syyanthangekhakhxng MT macak V1 V2 aela V3 khanghlng hruxeriykwa V6 hrux koniocellular region khxngniwekhliysngxkhlayekhadankhang LGN pulvinar danlang rupaebbkarechuxmtxkhxngsyyancakertinamayng MT erimepliyniptangcakekhtkhxrethksthitakwa khux sdswnrahwangniwrxnthipramwlkhxmulcakrxybumcxta fovea kbcakertinaswnnxk imehmuxnkbekhtkhxrethksthitakwa duaephnthipriphumkhxng V1 danbn khwamehnhlkxyanghnungkkhux V1 epntwsngsyyanthangekhathisakhythisudkhxng MTxyangirkdi nganwicyhlaynganidaesdngwaesllprasathin MT samarthtxbsnxngtxkhxmulthangta bxykhrngodyeluxktwkratunodythisthang aemwa V1 cathukthalayhruxthukhyudyngip yingipkwann nganwicykhxngesemxr eski aelakhnaesnxwa khxmulthangtabangxyangnnmathung MT kxnthung V1 dwysa MT sngsyyanxxkodyhlkipyngekhtthixyutidknrxb rwmthngekht FST MST aela V4t middle temporal crescent nxkcaknnaelw ekhtxunthirbsyyancak MT kkhuxekhtthiekiywkhxngkbkarekhluxnihwtakhxngsmxngklibhnaaelasmxngklibkhang khuxekht frontal eye field aela hnathi nganwicyaerk odysrirwithyaiffakhxngesllprasathin MT aesdngwa esllcanwnmakeluxktwkratunthikalngekhluxnihwxyuodykhwamerwaelaodythisthang sungbxkepnnywa MT mihnathisakhyinkarpramwlkhxmulkarekhluxnihwthangta nganwicyodyrxyorkh kyngsnbsnunkhwamkhidekiywkbhnathikhxng MT khuxkarrukhwamekhluxnihwaelakarekhluxnihwta aelanganwicythangprasathcitwithya Neuropsychology khxngkhnikhthiimsamarthehnkarekhluxnihw phuehnolkepnchak khuxepnefrm bxkepnnywa MT iniphremt ehmuxnknkbekht MT V5 inmnusy aetwa ephraawa esllprasathin V1 keluxktwkratunodykhwamerwaelakarekhluxnihwechnkn phlnganwicyerimaerkehlanicungimidtxbkhathamxyangchdecnwa MT thaxairidthi V1 thaimid yngminganwicyxikmakxunthiekiywkbekhtnienuxngcakpraktwa MT thahnathipramwlsyyankarekhluxnihwechphaathirwmepnkhxmul karekhluxnihwkhxngtwkratunsbsxninphaphrwmthnghmd yktwxyangechn kartharxyorkh thi MT naipsukhwambkphrxnginkarrbrukarekhluxnihwkhxngtwkratunsbsxn ephraa MT miesllmakmaythieluxkkarekhluxnihwkhxngrupthangtathisbsxn echn playesntrng mum epntwkratun xikxyanghnung karkratunaebblaexiyd Microstimulation khxngniwrxnin MT miphltxkarrbrukarekhluxnihw yktwxyangechn inkarthdlxnginling thaichxielkhothrdkratunniwrxnthieluxkkarekhluxnihwdankhunepntwkratun epnipidmakkhunthi lingthdlxngnncaaecngthungkarekhluxnihwdankhun yngmieruxngthitxngthkethiyngknxikmakekiywkbkarpramwlphlthi MT tha echn minganwicythiesnxwa karekhluxnihwhlk nn idrbkarpramwltngaetinrabbsaytaswnlangechn V1 okhrngsrangodykic minganwicyaesdngwa esll MT xyurwmknepnkhxlmnodyesllinkhxlmneluxktwkratunthimithisthangediywkn khuxaebngepn direction columns edxaexneclis esnxxikxyangwa niwrxn MT thieluxktwkratunody binocular disparity xyurwmknepnkhxlmnduephimrabbkarehn prasathwithyasastr smxng klibsmxng smxngklibkhmb smxngklibkhang smxngklibhna skyangan prasathsmphnthaehngkarrbruxarmnechingxrrthaelaxangxingSaccade hmaythungkarekhluxnihwxyangerw khxngta khxngsirsa hruxkhxngswnxuninrangkay hruxkhxngxupkrnxyangidxyanghnung aelaynghmaythungkarepliynkhwamthixyangrwderwkhxngsyyansng hruxkhwamepliynaeplngxyangrwderwxyangxun idxikdwy Saccades phhuphcn epnkarekhluxnihwtathngsxngkhangipyngthisthangediywknxyangrwderw twxyangechn emuxeraehnhnakhnthieraruck miniwrxnklumhnunginkhxrethkskhmbdanlang thiyingsyyanbngbxkthungkhnthirucknn karyingsyyankhxngniwrxnklumnnnnaehla epn twaethn khxng hnakhnthieraruck khuxsingkhxng Ungerleider LG Mishkin M 1982 Two Cortical Visual Systems in Ingle DJ Goodale MA Mansfield RJ b k Analysis of Visual Behavior Boston MIT Press pp 549 586 ISBN 9780262090223 Goodale MA Milner AD 1992 Separate pathways for perception and action Trends in Neurosciences 15 1 20 25 10 1 1 207 6873 doi 10 1016 0166 2236 92 90344 8 PMID 1374953 S2CID 793980 twxyangechn caexuxmmuxipissxngcdhmaythituiprsniy epn kickrrmthixasythksa sungtxngichkhxmulthangtathiaesdngwa tuiprsniyxyuthitrngihn chxngiscdhmaymiruprangxyangirkhnadihn emuxmikarexuxmaekhnxxkipktxngmikarkhwbkhumkarekhluxnihw sungepnkickrrmxasythksa thitxngxasykhxmulthangta khuxinphaphlwngtann miwngklmthimikhnadethakninsingaewdlxmthiaetktangkn aetprasathtaklbehnwngklmehlannwamikhnadaetktangkn khuxsamarthprbkhyaymuxihthukkhnadephuxcbwtthunnxyangehmaasm Aglioti S DeSouza JF Goodale MA 1995 Size contrast illusions deceive the eye but not the hand Current Biology 5 6 679 85 doi 10 1016 S0960 9822 95 00133 3 PMID 7552179 S2CID 206111613 Franz VH Scharnowski F Gegenfurtner 2005 Illusion effects on grasping are temporally constant not dynamic Journal of Experimental Psychology Human Perception and Performance 31 6 1359 78 doi 10 1037 0096 1523 31 6 1359 PMID 16366795 Ganel T Goodale MA 2003 Visual control of action but not perception requires analytical processing of object shape Nature 426 6967 664 7 Bibcode 2003Natur 426 664G doi 10 1038 nature02156 PMID 14668865 S2CID 4314969 Ganel T Tanzer M Goodale MA 2008 A double dissociation between action and perception in the context of visual illusions opposite effects of real and illusory size Psychological Science 19 3 221 5 doi 10 1111 j 1467 9280 2008 02071 x PMID 18315792 S2CID 15679825 Goodale MA 2011 Transforming vision into action Vision Research 51 14 1567 87 doi 10 1016 j visres 2010 07 027 PMID 20691202 khuxaesdngwa mnusycdpraephthihkbxarmnhnung odywithihlkkhux ichtwxyangthiepnaebbchbbxyangdithisudsahrbpraephthnn echn cdotaihxyuinpraephthkhxngefxrniecxr thimiekaxiepntwtnaebb prototype Schacter Daniel L Daniel Todd Gilbert and Daniel M Wegner Psychology pages 364 366 2nd ed New York NY Worth Publishers 2011 Print Leuba G Kraftsik R 1994 Changes in volume surface estimate three dimentional shape and total number of neurons of the human primary visual cortex from midgestation until old age Anatomy and Embryology 190 4 351 366 PMID 7840422 sunghmaykhwamwa khwamsmphnthknnnidrbkarwiwthnakarcakthrrmchatiinstwbrrphburusdngedimthimi V1 imichidrbkarwiwthnakarphayhlng khuxaethnthiniwrxnin V1 camikhwamsmphnthkblansaytaodyechliythw kn aetpraktwaniwrxnswnihyklbmikhwamsmphnthkbekhtelk khuxbriewnrxb fovea ethann phlkkhuxemuxmxngduxairxyu swnkhxngphaphthimikhwamlaexiydmakthisudkkhuxswnthicxngxyu nnkkhuxswnthixyuikl fovea ihsngektduwa caekhaipephngduxairihchd txngmxngtrng thitrngnn karekharhsodyrwm kkhux karaeplngkhxmulthixyuinrupaebbhnung ipepnkhxmulinxikrupaebbhnung twxyangechn ekharhsesiyngdntriipepnhlumelk bnsidithiichelnephlngnnid khuxkhxmulthisngmacakertinann ephiyngphxthicabxktaaehnngkhxngwtthutang inphunthi priphumi niwrxnin V1 txngbnthukkhxmulphwkniiw khuxekharhspriphumi xyanglaexiydthisud Lamme amp Roelfsema 2000 Hupe et al 1998 Angelucci et al 2003 Hupe et al 2001 Guo et al 2007 Huang et al 2007 Sillito et al 2006 khuxaethnthicaichniwrxnkhrunghnungekharhssikhawaelaxikkhrunghnungekharhssida aetklbipichniwrxnswnhnunginkarekharhsesnaebng aelaichniwrxncanwnephiyngelknxyekharhssikhawaelasida khuxaemwaniwrxnimidekharhsbngthungphunthiodytrng aetkhxmulekiywkbphunthinnimidsuyhayipodyethkhnikhkarekharhsxikxyanghnungkhuxodykhwamaetktangechphaaphunthi local contrast Gazzaniga Ivry amp Mangun Cognitive neuroscience 2002 I Stepniewska J H Kaas J Comp Neurol 371 129 1996 R Gattas A P Sousa M Mishkin L G Ungerleider Cereb Cortex 7 110 1997 J Hegde D C Van Essen J Neurosci 20 RC61 2000 J Hegde D C Van Essen J Neurophysiol 92 3030 2004 A Anzai X Peng D C Van Essen Nat Neurosci 10 1313 2007 Ts o Daniel Mark Zarella Guy Burkitt 2009 Whither the hypercolumn Journal of Physiology 587 12 2791 2805 subkhnemux 2012 03 19 I Maruko et al J Neurophysiol 100 2486 2008 Qiu and von der Heydt 2005 T J Bussey L M Saksida Hippocampus 17 898 2007 http www sciencemag org cgi content full 325 5936 87 Rosa MG Tweedale R 2000 Visual areas in lateral and ventral extrastriate cortices of the marmoset monkey Journal of Comparative Neurology 422 4 621 51 doi 10 1002 1096 9861 20000710 422 4 lt 621 AID CNE10 gt 3 0 CO 2 E PMID 10861530 S2CID 25982910 Goddard E Goddard Erin aelakhna 2011 Color responsiveness argues against a dorsal component of human V4 Journal of Vision 11 4 3 doi 10 1167 11 4 3 PMID 21467155 khwamisicaebbeluxksrr selective attention khuxkhwamsamarthinkarisicintwkratunxyanghnunginkhnathiimisic filtering twkratunxyangxun ehmuxnkhnkhuykninthixukthukyngsamarthisicinbthsnthnaid http www sciencemag org cgi content abstract 229 4715 782 Moran amp Desimone Selective Attention Gates Visual Processing in the Extrastriate Cortex Science 229 4715 1985 Kandel Eric R Schwartz James H Jessell Thomas M Siegelbaum Steven A Hudspeth A J 2013 Principles of Neural Science Fifth Edition United State of America McGraw Hill ISBN 978 0 07 139011 8 frontal eye fields FEF epnekhtinkhxrethksklibhnaphakswnhna prefrontal cortex sungxyuinsmxngklibhna mibthbathsakhyinkarkhwbkhumkarisicthangtaaelakarekhluxnihwkhxngtaechn Born R Bradley D 2005 Structure and function of visual area MT Annu Rev Neurosci 28 157 89 doi 10 1146 annurev neuro 26 041002 131052 PMID 16022593 Felleman D Van Essen D 1991 Distributed hierarchical processing in the primate cerebral cortex 1 1 1 47 doi 10 1093 cercor 1 1 1 a PMID 1822724 Ungerleider L Desimone R 1986 Cortical connections of visual area MT in the macaque Journal of Comparative Neurology 248 2 190 222 doi 10 1002 cne 902480204 PMID 3722458 S2CID 1876622 esll koniocellular twyx K cell epnniwrxninchn koniocellular khxngniwekhliysngxkhlayekhadankhang LGN iniphremtrwmthngmnusy sngsyyanipih V1 aela MT Sincich L Park K Wohlgemuth M Horton J 2004 Bypassing V1 a direct geniculate input to area MT Nature Neuroscience 7 10 1123 8 doi 10 1038 nn1318 PMID 15378066 S2CID 13419990 pulvinar nuclei epnniwekhliysklumhnungdanhlngsudkhxngthalams mikarechuxmtxkbekhtkhxrethksmakmayrwmthngepluxksmxngswnkarehn karmirxyorkhin pulvinar kxihekidxakarphawalaelykungpriphumiaelaorkhsmathisn Palmer SM Rosa MG 2006 A distinct anatomical network of cortical areas for analysis of motion in far peripheral vision European Journal of Neuroscience 24 8 2389 405 doi 10 1111 j 1460 9568 2006 05113 x PMID 17042793 S2CID 21562682 Rodman HR Gross CG Albright TD 1989 Afferent basis of visual response properties in area MT of the macaque I Effects of striate cortex removal Journal of Neuroscience 9 6 2033 50 doi 10 1523 JNEUROSCI 09 06 02033 1989 PMC 6569731 PMID 2723765 khuxkhxmulsxngxyangniaesdngwa txngmiekhtxunthisngsyyanmaih MT odytrngodyimphan V1 aetxaccaphan LGN hrux superior collicus ekhtkhmbbndanin twyx MST epnekhtkhxrethksxyuinthangsyyandanlangkhxngrabbsaytainiphremt MST idrbsyyanthangekhaswnmakcak MT sungmibthbathsakhyinkarpramwlkhwamekhluxnihw MST ichkhxmulnninkaraeplphlepn epntn Dubner R Zeki S 1971 Response properties and receptive fields of cells in an anatomically defined region of the superior temporal sulcus in the monkey Brain Research 35 2 528 32 doi 10 1016 0006 8993 71 90494 X PMID 5002708 Maunsell J Van Essen D 1983 Functional properties of neurons in middle temporal visual area of the macaque monkey I Selectivity for stimulus direction speed and orientation Journal of Neurophysiology 49 5 1127 47 doi 10 1152 jn 1983 49 5 1127 PMID 6864242 S2CID 8708245 khuxehnolkehmuxnduhnngthilaefrm imehnkarekhluxnihw ehnepnphaphningepnchak khuxphvtikrrminiphremtthinkwicyekhaipthalayekht MT ehmuxnkbphvtikrrmkhxngmnusythimikhwamesiyhayinekhtniodyxubtiehtu Hess R H Baker C L Zihl J 1989 The motion blind patient low level spatial and temporal filters Journal of Neuroscience 9 5 1628 40 doi 10 1523 JNEUROSCI 09 05 01628 1989 PMC 6569833 PMID 2723744 Baker C L Jr Hess R F Zihl J 1991 Residual motion perception in a motion blind patient assessed with limited lifetime random dot stimuli Journal of Neuroscience 11 2 454 61 doi 10 1523 JNEUROSCI 11 02 00454 1991 PMC 6575225 PMID 1992012 Movshon J A Adelson E H Gizzi M S amp Newsome W T 1985 The analysis of moving visual patterns In C Chagas R Gattass amp C Gross Eds Pattern recognition mechanisms pp 117 151 Rome Vatican Press Britten K H van Wezel R J 1998 Electrical microstimulation of cortical area MST biases heading perception in monkeys Nature Neuroscience 1 1 59 63 doi 10 1038 259 PMID 10195110 S2CID 52820462 Wilson H R Ferrera V P Yo C 1992 A psychophysically motivated model for two dimensional motion perception Visual Neuroscience 9 1 79 97 doi 10 1017 s0952523800006386 PMID 1633129 S2CID 45196189 Tinsley C J Webb B S Barraclough N E Vincent C J Parker A amp Derrington A M 2003 The nature of V1 neural responses to 2D moving patterns depends on receptive field structure in the marmoset monkey Journal of Neurophysiology 90 2 930 7 doi 10 1152 jn 00708 2002 PMID 12711710 S2CID 540146 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Pack C C Born R T Livingstone M S 2003 Two dimensional substructure of stereo and motion interactions in macaque visual cortex Neuron 37 3 525 35 doi 10 1016 s0896 6273 02 01187 x PMID 12575958 Albright T 1984 Direction and orientation selectivity of neurons in visual area MT of the macaque J Neurophysiol 52 6 1106 30 PMID 6520628 DeAngelis G Newsome W 1999 Organization of disparity selective neurons in macaque area MT J Neurosci 19 4 1398 415 PMID 9952417 aehlngkhxmulxunThe Primary Visual Cortex by Matthew Schmolesky 2004 12 29 thi ewyaebkaemchchin at Architecture of the Visual Cortex by David Hubel 2017 03 01 thi ewyaebkaemchchin at Harvard University NeuroNames ancil 415 striate area 17 NeuroNames ancil 699 Brodmann area 17 in guenon phaphsmxngtdaetngsisungrwmswn visual 20cortex at the Simulator for computational modeling of visual cortex maps at topographica org