วิลยนอร์ สุพรหมัณยัม รามจันทรัน (ทมิฬ: விளையனூர் இராமச்சந்திரன், วิลยนูรฺ สุพฺรหฺมณฺยมฺ รามจนฺทรน อักษรโรมัน: Vilayanur Subramanian Ramachandran; เกิด พ.ศ. 2494) เป็นนักประสาทวิทยาศาสตร์ ที่มีผลงานเป็นที่รู้จักกันในสาขา (behavioral neurology) และ (psychophysics) ดร.รามจันทรันปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการของศูนย์สมองและการรับรู้ (Center for Brain and Cognition) และศาสตราจารย์ในคณะจิตวิทยา และคณะประสาทวิทยาศาสตร์ในระดับบัณฑิตศึกษา ของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานดิเอโก ประเทศสหรัฐอเมริกา
วิลยนอร์ สุพรหมัณยัม รามจันทรัน (Vilayanur S. Ramachandran) | |
---|---|
รามจันทรันในงานฉลอง Time 100 ปี ค.ศ. 2011 | |
เกิด | ค.ศ. 1951 รัฐทมิฬนาฑู ประเทศอินเดีย |
ศิษย์เก่า | แพทยศาสตร์บัณฑิต, ศัลยศาสตร์บัณฑิต (M.B.B.S.) จาก มหาวิทยาลัยมัทราส เมืองเจนไน; ปริญญาเอก จาก มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ |
มีชื่อเสียงจาก | ประสาทวิทยา, , กลุ่มอาการหลงผิดว่าแขนขายังคงอยู่, , ออทิซึม, |
รางวัล | เหรียญ Ariens Kappers จาก ; รางวัล จากประธานาธิบดีประเทศอินเดีย; BBC , ค.ศ. 2003; ได้รับเลือกเป็นสมาชิกเยี่ยมเยียน (Visiting Fellows) ของ อันเป็นสถาบันของ มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด; ผู้ร่วมรับรางวัล Henry Dale Prize ปี ค.ศ. 2005 ของ |
อาชีพทางวิทยาศาสตร์ | |
สาขา | ประสาทวิทยา, จิตวิทยา |
สถาบันที่ทำงาน | มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย แซนดีเอโก (ศาสตราจารย์) และศูนย์สมองและการรับรู้ (Center for Brain and Cognition) (ผู้อำนวยการ) |
อาจารย์ที่ปรึกษาในระดับปริญญาเอกs | Oliver Braddick, David Whitteridge, FW Campbell, H Barlow |
ดร.รามจันทรันมีชื่อเสียงในการทดลอง ที่ไม่ต้องอาศัยเทคโนโลยีที่ซับซ้อนเช่นการสร้างภาพประสาท (neuroimaging) แต่ถึงแม้ว่าจะใช้วิธีที่ง่าย ๆ ดร.รามจันทรันก็ได้สร้างความคิดใหม่ ๆ มากมายเกี่ยวกับการทำงานของสมอง
ริชาร์ด ดอว์กินส์ (ผู้เป็นนักชีววิทยาวิวัฒนาการที่มีชื่อเสียง) ได้เรียก ดร.รามจันทรันว่า "นายมาร์โก โปโล ของประสาทวิทยาศาสตร์" และ (ผู้เป็นแพทย์ประสาทจิตเวชผู้ได้รับรางวัลโนเบลในปี ค.ศ. 2000) ได้เรียกเขาว่า "นาย ในยุคปัจจุบัน"
นิตยสาร Newsweek (ข่าวสัปดาห์) ยก ดร.รามจันทรันให้เป็นสมาชิกสโมสรแห่งศตวรรษ (The Century Club) เป็นบุคคลเด่นที่สุดคนหนึ่งใน 100 คนที่ควรจะติดตามในคริสต์ศตวรรษที่ 21 ในปี ค.ศ. 2011 นิตยสารไทม์ ยกให้เขาเป็นหนึ่งในบรรดาบุคคล 100 คน ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลกในรายชื่อ "ไทม์ 100"
ดร.รามจันทรันได้เขียนหนังสือหลายเล่ม ที่ก่อให้เกิดความสนใจอย่างกว้างขวางจากสาธารณชน รวมทั้ง Phantoms In the Brain (อวัยวะแฟนตอมในสมอง) (ค.ศ. 1999) และ The Tell-Tale Brain (สมองนักเล่านิทาน) (ค.ศ. 2010)
ชีวประวัติและการศึกษา
วิลยนอร์ สุพรหมัณยัม รามจันทรัน (ตามประเพณีของคนทมิฬ นามสกุลของเขาคือ "วิลยนอร์" เขียนเป็นชื่อหน้า) เกิดในปี ค.ศ. 1951 (พ.ศ. 2494) ในรัฐทมิฬนาฑู ประเทศอินเดีย บิดาผู้ชื่อว่า ว.ม. สุพรหมัณยัม (V.M. Subramanian) เป็นวิศวกรทำงานกับองค์กรพัฒนาอุตสาหกรรม (Industrial Development) ขององค์การสหประชาชาติ ผู้ได้ทำหน้าที่ทูตในกรุงเทพมหานคร
รามจันทรันใช้ชีวิตในวัยเด็กส่วนมากเดินทางไปในที่ต่าง ๆ ในประเทศอินเดียและในทวีปเอเชีย เมื่อเจริญวัยขึ้น รามจันทรันได้เข้าโรงเรียนที่เมืองเจนไน (ชื่อเดิม มัทราส) และโรงเรียนของคนอังกฤษในกรุงเทพมหานคร เขามีความสนใจในวิทยาศาสตร์หลายสาขารวมทั้ง
รามจันทรันได้จบสำเร็จเป็นแพทยศาสตร์บัณฑิต, ศัลยศาสตร์บัณฑิต (M.B.B.S.) จาก (Madras Medical College) (ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของ มหาวิทยาลัยมัทราส) เมืองเจนไน ประเทศอินเดีย และหลังจากนั้นได้รับปริญญาเอกจาก ของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ
เมื่อเป็นบัณฑิตศึกษาอยู่ที่เคมบริดจ์ รามจันทรันมีส่วนร่วมในงานวิจัยกับคณะวิชาต่าง ๆ ที่มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด รวมทั้งคณะสรีรวิทยา หลังจากนั้น เขาได้ใช้เวลา 2 ปี ที่สถาบันแคลเทค รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นผู้รับการฝึกอบรมงานวิจัย (research fellow) ได้ทำงานร่วมกับแจ็คก์ เพ็ตติกริว (ผู้ต่อมาเป็นศาสตราจารย์นักสรีรวิทยาชาวออสเตรเลีย) ต่อมา เขาได้รับตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์สาขาจิตวิทยา ที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานดิเอโก ในปี ค.ศ. 1983 และได้รับตำแหน่งเป็นศาสตราจารย์ในสาขานั้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1998
ดร.รามจันทรันเป็นหลานชายของเซอร์ ผู้เป็นที่ปรึกษากฎหมาย (Advocate General) ของเมืองมัทราส เป็นผู้ร่วมเขียนรัฐธรรมนูญของประเทศอินเดีย ดร.รามจันทรันมีคู่สมรสคือไดแอน รอเจอร์ส-รามจันทรัน และมีบุตรสองคนคือมานีและไชยา
งานวิทยาศาสตร์
เพื่อที่จะเข้าใจว่าสมองทำงานอย่างไร ดร.รามจันทรันได้ทำการศึกษากลุ่มอาการทางประสาทเช่นกลุ่มอาการหลงผิดว่าแขนขายังคงอยู่ (phantom limb), , และ อาการหลงผิดคะกราส์ ยิ่งกว่านั้นแล้ว เขายังมีผลงานเกี่ยวกับ (synesthesia) และเป็นที่รู้จักโดยสิ่งประดิษฐ์ของเขาเพื่อช่วยบรรเทากลุ่มอาการหลงผิดว่าแขนขายังคงอยู่ คือ
เขาได้เขียนบทความมากกว่า 180 ชิ้นในวารสารวิทยาศาสตร์ รวมทั้งวารสาร ''ธรรมชาติ (Nature)" "วิทยาศาสตร์ (Science)" " (Nature Neuroscience)" "การรับรู้ (Perception)" และ "งานวิจัยในการเห็น (Vision Research)" รามจันทรันยังอยู่ในคณะกรรมการบรรณาธิการของวารสาร " (Medical Hypotheses)" (ซึ่งเป็นวารสารของบริษัท Elsevier ที่ก่อน ค.ศ. 2010 เป็นวารสารวิทยาศาสตร์ที่ไม่มีการตรวจสอบของผู้ชำนาญในสาขาเดียวกัน) และได้เขียนบทความถึง 15 ชิ้นในวารสารนั้นอีกด้วย
งานของรามจันทรันในพฤติกรรมประสาทวิทยา (behavioral neurology) ได้รับการเผยแพร่อย่างกว้างขวางโดยสื่อมวลชน เขาได้ปรากฏในภาพยนตร์สารคดีของช่อง 4 (สถานีโทรทัศน์สาธารณะของประเทศอังกฤษ) และ PBS (เครือข่ายสถานีโทรทัศน์สาธารณะของประเทศสหรัฐอเมริกา) นอกจากนั้นแล้ว ยังมีรายการเกี่ยวกับเขาเผยแพร่โดย (BBC), (ช่องวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์ของบริษัท Discovery Communications ประเทศสหรัฐอเมริกา), นิตยสาร Newsweek (ข่าวสัปดาห์ ของสหรัฐอเมริกา), รายการวิทยุ (ของ WNYC ซึ่งเป็นสถานีวิทยุสาธารณะในนครนิวยอร์ก), รายการ (ของ WBEC ซึ่งป็นสถานีวิทยุสาธารณะในนครชิคาโก), งานประชุม TED Talks (TED.com), และรายการโทรทัศน์ของชาลี โรส 2013-10-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน หนังสือของเขา คือ Phantoms In the Brain (อวัยวะแฟนตอมในสมอง) ได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์สารคดีสองตอนเผยแพร่โดยช่อง 4 ของบรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ (BBC) และเป็นภาพยนตร์ยาว 1 ชั่วโมงเผยแพร่โดย PBS ในสหรัฐอเมริกา นอกจากนั้นแล้ว เขายังเป็นหัวหน้าบรรณาธิการของ "สารานุกรมสมองมนุษย์" (ค.ศ. 2002) อีกด้วย
ดร.รามจันทรันได้กล่าวด้วยความอาลัยเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า งานวิทยาศาสตร์ได้กลายเป็นอาชีพเพื่อทำมาหากินมากเกินไป คือ ในการสัมภาษณ์กับสมาคมประสาทวิทยาศาสตร์แห่งประเทศอังกฤษในปี ค.ศ. 2010 เขาได้กล่าวไว้ว่า
แต่ว่า ที่ ๆ ผมอยากจะไปจริง ๆ เลย ก็คือกลับไปในกาลเวลา กลับไปยังสมัยวิคตอเรีย ก่อนที่งานวิทยาศาสตร์จะกลายเป็นอาชีพเพื่อทำมาหากินมากเกินไป ก่อนที่จะกลายเป็นงาน 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น ที่ประกอบด้วยความยุ่งยากเหมือนกับฝันร้ายในเรื่องการแสวงหาการใช้อำนาจและการหาเงินอุปถัมภ์งานวิจัย ในยุคนั้น นักวิทยาศาสตร์มีแต่ความสนุก สำหรับบุคคลเช่นชาลส์ ดาร์วิน และทอมัส ฮักซ์ลีย์ (นักชีววิทยาชาวอังกฤษผู้มีชื่อเสียงในการสนับสนุนทฤษฎีของดาร์วิน) โลกทั้งใบเป็นสนามเล่นของพวกเขา
ในปี ค.ศ. 2012 นักประสาทวิทยาศาสตร์ปีเตอร์ บรักเกอร์ วิจารหนังสือของรามจันทรัน คือ The Tell-Tale Brain (สมองนักเล่านิทาน) ว่าเป็นหนังสือประสาทวิทยาศาสตร์ประชานิยม เพราะให้แต่คำตอบที่ล่องลอยไม่ชัดเจนต่อคำถามที่มีความสำคัญ
รามจันทรันตอบว่า
เป็นความจริงว่า ผมได้กล่าวประเด็นต่าง ๆ ไว้อย่างครอบคลุมจักรวาล รวมทั้ง, stereopsis (การเห็นทิวทัศน์พร้อมแนวลึก), กลุ่มอาการหลงผิดว่าแขนขายังคงอยู่ (phantom limb), การปฏิเสธสภาวะอัมพาต (ของคนไข้), อาการหลงผิดคะกราส์, (synesthesia), และเรื่องอื่น ๆ อีกมาก ซึ่งอาจจะดีหรือไม่ดี
การเห็นในมนุษย์
งานยุคต้น ๆ ของ ดร.รามจันทรันมีความเกี่ยวข้องกับ โดยใช้วิธีทางจิตกายภาพ เพื่อให้อนุมานได้อย่างชัดเจนถึงกลไกในสมอง ที่เป็นรากฐานของการประมวลผลทางตา รามจันทรันได้รับเครดิตว่าเป็นผู้ค้นพบปรากฏการณ์และภาพลวงประสาททางตาแบบใหม่ ๆ
ดร.รามจันทรันยังได้ประดิษฐ์กลุ่มตัวกระตุ้นทางตาประเภทหนึ่ง (เรียกว่า เส้นขอบแฟนตอม [phantom contours]) ซึ่งเข้าไปกระตุ้นวิถีประสาท magnocellular ในการเห็นของมนุษย์ เป็นตัวกระตุ้นที่แอนน์ สเปอร์ลิงก์และคณะได้ใช้เพื่อตรวจสอบภาวะเสียการอ่านรู้ความ (dyslexia)
อวัยวะแฟนตอม
เมื่อมีการตัดแขนหรือขาออกไป คนไข้บ่อยครั้งยังมีความรู้สึกอย่างชัดเจนว่ายังมีอวัยวะเหล่านั้นอยู่ โดยเป็น "อวัยวะแฟนตอม" โดยต่อยอดงานวิจัยของโรแนลด์ เม็ลแซคก์ แห่งมหาวิทยาลัยแมคกิลล์ (แคนาดา) และของทิโมธี พอนส์ แห่งสถาบันสุขภาพจิตแห่งชาติ (NIMH) (สหรัฐอเมริกา) ดร.รามจันทรันตั้งทฤษฎีว่า มีความสัมพันธ์กันระหว่างปรากฏการณ์อวัยวะแฟนตอมและสภาพพลาสติกของระบบประสาท (neural plasticity) ในสมองของมนุษย์ผู้ใหญ่
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขามีทฤษฎีว่า แผนที่ภาพทางกายในคอร์เทกซ์รับความรู้สึกทางกาย เปลี่ยนแปลงไปเมื่อมีการตัดอวัยวะออก ในปี ค.ศ. 1993 โดยทำงานร่วมกับแยง ผู้กำลังทำงานวิจัยใช้ภาพ magnetoencephalography (MEG) ที่สถานบันวิจัยสคริปป์ส รามจันทรันแสดงให้เห็นว่า มีความเปลี่ยนแปลงที่วัดได้ในคอร์เทกซ์รับความรู้สึกทางกายของคนไข้หลายคนที่ผ่านการตัดแขนออก รามจันทรันตั้งทฤษฎีว่า มีความสัมพันธ์ระหว่างการจัดระเบียบใหม่ในคอร์เทกซ์ที่ชัดเจนในภาพ MEG และความรู้สึกที่ยังหลงเหลืออยู่ที่พบในคนไข้ เขากล่าวถึงทฤษฎีนี้ในบทความ "ความสัมพันธ์ของการรับรู้กับการจัดระเบียบใหม่อย่างกว้างขวางในคอร์เทกซ์ (Perceptual correlates of massive cortical reorganization)"
ถึงแม้ว่ารามจันทรันจะเป็นคนหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์พวกแรก ๆ ที่เน้นบทบาทของการเปลี่ยนแปลงในคอร์เทกซ์ว่า เป็นมูลฐานของ แต่งานวิจัยต่อ ๆ มากลับแสดงว่า ความรู้สึกที่หลงเหลืออยู่ไม่ได้เกิดขึ้นเนื่องด้วยการเปลี่ยนแปลงในคอร์เทกซ์หลังจากตัดอวัยวะออก จนถึงทุกวันนี้ คำถามว่า กระบวนการทางประสาทอะไรที่สัมพันธ์กับความรู้สึกที่ยังหลงเหลืออยู่และไม่ประกอบด้วยความเจ็บปวดนั้น ยังไม่มีคำตอบ
ข้อมูลป้อนกลับทางตาด้วยกระจก
รามจันทรันได้รับเครดิตว่าเป็นผู้ประดิษฐ์ และเริ่มใช้เทคนิคให้ข้อมูลป้อนกลับทางตากับสมองโดยใช้กล่องกระจก เพื่อบรรเทาภาวะหลายอย่างที่เกี่ยวกับความเจ็บปวดเนื่องด้วย, โรคลมปัจจุบัน, และอาการเจ็บปวดเฉพาะที่. งานวิจัยหลายงานที่ใช้การรักษาด้วยกระจก แสดงอนาคตที่สดใสของวิธีรักษานี้
อย่างไรก็ดี โดยการทดลองที่มีกลุ่มควบคุมและใช้การสุ่ม วิธีรักษาด้วยกระจกกลับปรากฏว่ามีผลที่ขัดแย้งกัน (คือไม่ชัดเจนว่าได้ผลจริง ๆ หรือไม่) ดังนั้น การใช้วิธีรักษานี้ยังอยู่ภายใต้การตรวจสอบในขั้นทดลองอยู่
วงจรประสาทไขว้ในสมอง
บนรากฐานของงานวิจัยเกี่ยวกับอวัยวะแฟนตอม รามจันทรันได้ตั้งทฤษฎีว่า (synesthesia) เกิดขึ้นจากการที่มีการทำงานข้ามไปข้ามมา (cross-activation) ในเขตต่าง ๆ ของสมอง
เขาได้กล่าวไว้ว่า
ประเภทย่อย ๆ ของการเจือกันของวิถีประสาทแบบสี-ตัวเลข เกิดจากการเชื่อมต่อกันเกินกว่าปกติระหว่างเขตสมองที่เกี่ยวข้องกับสีและตัวเลขในระดับต่าง ๆ ของระบบการประมวลผล ผู้มีวิถีประสาทเจือกันของเขตสมองระดับต่ำ อาจจะมีการทำงานที่ข้ามเขตในรอยนูนรูปกระสวย (fusiform gyrus) เปรียบเทียบกับผู้มีวิถีประสาทเจือกันของเขตสมองระดับสูง อาจจะมีการทำงานที่ข้ามเขตในรอยนูนแองกูลาร์ (angular gyrus)
และคล้องจองกันกับแบบแผนนี้ รามจันทรันพบการทำงานในระดับที่สูงขึ้นในเขตสมองที่ตอบสนองต่อสีในผู้มีวิถีประสาทเจือกัน เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่มี โดยตรวจสอบด้วยภาพสมองแบบ fMRI และโดยใช้การสร้างภาพแบบ MEG เขาได้แสดงว่า ความแตกต่างในส่วนประสาทที่กล่าวถึงระหว่างผู้มีวิถีประสาทเจือกันและผู้ที่ไม่มี เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อมีการแสดงตัวอักษร
รามจันทรันคาดหมายว่า ภาวะวิถีประสาทเจือกันและคำอุปมาอาจจะมีมูลฐานเดียวกันคือการเชื่อมต่อกันข้ามคอร์เทกซ์ของระบบประสาท ในปี ค.ศ. 2003 รามจันทรันและเอ็ดวาร์ด ฮับบาร์ด พิมพ์งานวิจัยที่ให้การคาดหมายว่า รอยนูนแองกูลาร์เป็นองค์ประกอบในการเข้าใจคำอุปมาอุปไมย
วิวัฒนาการของภาษา
คล้องจองกับงานของแล็คอ็อฟและจอนห์สัน รามจันทรันยกประเด็นว่า คำอุปมาอุปไมยนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นลอย ๆ
รามจันทรันและฮับบาร์ดเสนอว่า
กฏธรรมชาติ (ของการสร้างคำอุปมาอุปไมย) มีข้อจำกัดทางกายวิภาคที่สำคัญ ที่อนุญาตการทำงานข้ามเขตบางอย่าง แต่ไม่ใช่ทุกอย่าง: 18
รามจันทรันเสนอว่า วิวัฒนาการของภาษาเกิดจากแผนที่สัมพันธ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นลอย ๆ 3 อย่าง คือ เสียงกับรูปร่างที่เห็น (เช่นใน) การเจือกันของวิถีประสาทของประสาทรับรู้กับประสาทสั่งการเคลื่อนไหว (sensory-to-motor) และ การเจือกันของวิถีประสาทของประสาทสั่งการเคลื่อนไหวกับประสาทสั่งการเคลื่อนไหว (motor-to-motor): 18–23
เซลล์ประสาทกระจก
เป็นที่รู้กันดีว่า รามจันทรันเป็นผู้เน้นความสำคัญของ (Mirror neuron) เขาได้กล่าวว่า การค้นพบเซลล์ประสาทกระจกเป็นข่าวสำคัญที่สุดที่ไม่ได้รับการเผยแพร่ (จากสื่อมวลชน) ภายในทศวรรษที่ผ่านมา (คือมีการแจ้งถึงเซลล์ประสาทกระจกเป็นครั้งแรกในงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1992 โดยกลุ่มนักวิจัยนำโดยเกียโคโม ริซโซลาตตี ที่มหาวิทยาลัยปาร์มา ที่เมืองปาร์มาในประเทศอิตาลี)
ในปี ค.ศ. 2000 รามจันทรันพยากรณ์ว่า
เซลล์ประสาทกระจกจะมีผลต่อจิตวิทยา เหมือนกับดีเอ็นเอมีผลต่อชีววิทยา คือ จะเป็นโครงสร้างโดยรวมที่ช่วยอธิบายความสามารถต่าง ๆ ของจิต ที่ยังเป็นสิ่งที่ลึกลับและเข้าถึงไม่ได้ด้วยการทดลอง
รามจันทรันคาดหมายว่า งานวิจัยถึงบทบาทในเซลล์ประสาทกระจก จะช่วยอธิบายความสามารถทางจิตใจของมนุษย์ เช่นความเห็นใจผู้อื่น การเรียนรู้โดยลอกเลียนแบบ และวิวัฒนาการทางภาษา รามจันทรันยังได้ตั้งทฤษฎีขึ้นด้วยว่า เซลล์ประสาทกระจกอาจเป็นกุญแจในการเข้าใจระบบประสาทซึ่งเป็นรากฐานของความรู้สึกว่าตนในมนุษย์
ทฤษฎีเกี่ยวกับออทิซึม
ในปี ค.ศ. 1999 รามจันทรัน โดยร่วมงานกับนายอีริค แอลท์สกูเลอร์ ผู้รับอบรมหลังปริญญาเอก (ในเวลานั้น) และเจมี พิเนดา ผู้เป็นเพื่อนร่วมงาน เป็นกลุ่มนักวิจัยกลุ่มแรกที่เสนอว่า การสูญเสีย อาจเป็นความบกพร่องตัวสำคัญที่อธิบายอาการและปรากฏการณ์หลาย ๆ อย่างของโรคกลุ่มออทิซึมสเปกตรัม (autism spectrum disorder ตัวย่อ ASD) ในระหว่างปี ค.ศ. 2000 และ 2006 รามจันทรันและคณะที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานดิเอโก ได้พิมพ์บทความหลายชิ้นที่สนับสนุนทฤษฎีนี้ ซึ่งกลายเป็นทฤษฎีที่รู้จักกันว่า "ทฤษฎีกระจกแตก" (Broken Mirrors) ของโรคออทิซึม รามจันทรันและคณะไม่ได้วัดค่าการทำงานของเซลล์ประสาทกระจกโดยตรง แต่แสดงให้เห็นว่า เด็กที่มีภาวะ ASD มีการตอบสนองที่ผิดปกติทางคลื่นไฟฟ้าสมอง (EEG) (ที่รู้จักกันว่า suppression หรือการระงับคลื่นสมองมู) เมื่อเปรียบเทียบกับสมองของผู้อื่น
ในปี ค.ศ. 2006 รามจันทรันให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Frontline (แนวหน้า) ของอินเดีย ซึ่งเขากล่าวว่า
สิ่งหนึ่งที่เราค้นพบในห้องทดลองก็คือเหตุของความผิดปกติที่โหดร้ายอย่างหนึ่งซึ่งเรียกว่า ออทิซึม ความบกพร่องในระบบเซลล์ประสาทกระจกสามารถอธิบายกลุ่มอาการต่าง ๆ ที่เป็นสัญลักษณ์ของโรคออทิซึมเพียงโรคเดียว ที่ไม่พบในโรคอื่น ๆ... โดยสรุปก็คือ เราได้ค้นพบมูลฐานของโรคออทิซึมในปี ค.ศ. 2000
การยืนยันของรามจันทรันว่า ระบบเซลล์ประสาทนิวรอนที่ผิดปกติเป็นมูลฐานของออทิซึม ยังเป็นสิ่งที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง ในบทความปฏิทัศน์ปี ค.ศ. 2011 ของหนังสือ The Tell-Tale Brain (สมองนักเล่านิทาน) ไซมอน บารอน-โคเฮ็น ผู้อำนวยการของศูนย์วิจัยออทิซึมที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์กล่าวว่า
ในฐานะเป็นเครื่องอธิบายโรคออทิซึม ทฤษฎีกระจกแตกได้ให้เงื่อนงำที่ยั่วเย้าใจ แต่ว่า หลักฐานตรงกันข้ามบางอย่างขัดแย้งกับทฤษฎีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับขอบเขตของทฤษฎี
เมื่อตระหนักแล้วว่า ระบบเซลล์ประสาทกระจกที่ผิดปกติเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถอธิบายกลุ่มอาการที่กว้างขวางของ ASD รามจันทรันจึงได้ตั้งทฤษฎีเพิ่มขึ้นอีกว่า ในวัยเด็ก และความผิดปกติช่วงพัฒนาของป่องรับกลิ่น (olfactory bulb dysgenesis) อาจมีบทบาทในกลุ่มอาการของ ASD
ในปี ค.ศ. 2010 รามจันทรันกล่าวว่า
ทฤษฎีเกี่ยวกับป่องรับกลิ่น มีความเกี่ยวข้องอย่างสำคัญในการวินิจฉัยและรักษา (โรคกลุ่มอาการ ASD)
และประกาศว่า คณะของเขาจะดำเนินงานวิจัยที่เปรียบเทียบขนาดป่องรับกลิ่นของคนไข้ออทิซึมเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมผู้เป็นปกติ
Apotemnophilia
ในปี ค.ศ. 2008 รามจันทรัน พร้อมทั้งเดวิด แบรงก์ และพอล์ แม็คกิออค ตีพิมพ์ผลงานวิจัยงานแรกที่เสนอว่า เป็นโรคทางประสาทที่เกิดขึ้นจากความเสียหายในสมองกลีบข้าง
โรคที่มีน้อยนี้ ซึ่งคนไข้ต้องการจะให้ตัดอวัยวะของตนออก ได้รับการบ่งชี้เป็นครั้งแรกโดยจอหน์ มันนี ในปี ค.ศ. 1977. โดยต่อยอดงานก่อน ๆ ของรามจันทรันซึ่งชี้ถึงแผนภาพร่างกายในสมอง รามจันทรันและคณะได้เสนอว่า โรคนี้เกิดจากภาพร่างกายในสมองที่ไม่สมบูรณ์ ดังนั้น ผู้มีภาวะนี้จึงเห็นอวัยวะของตนเป็นส่วนเกินที่ไม่คุ้นเคยและอยู่นอกกายของตน รามจันทรันได้ขยายของเขตทฤษฎีนี้โดยเสนอว่าโรคเบื่ออาหารเหตุจิตใจ (anorexia nervosa) อาจจะเป็นโรคเกี่ยวกับภาพร่างกายที่มีมูลมาจากระบบประสาท ไม่ใช่เป็นโรคเกี่ยวกับความอยากอาหารที่มีเหตุในไฮโปทาลามัส
อาการหลงผิดคะกราส์
โดยร่วมงานกับผู้รับอบรมหลังปริญญาเอก (ในเวลานั้น) คือวิลเลียมส์ เฮอร์สไตน์ รามจันทรันตีพิมพ์งานวิจัยในปี ค.ศ. 1997 ซึ่งแสดงทฤษฎีที่อธิบายมูลฐานทางประสาทของอาการหลงผิดคะกราส์ (Capgras delusion) ซึ่งเป็นอาการหลงผิดที่คนไข้คิดว่า สมาชิกในครอบครัวและบุคคลผู้เป็นที่รักอื่น ๆ มีการทดแทนด้วยตัวปลอม ก่อนหน้านั้น อาการนี้ได้รับการอธิบายว่า เกิดจากความขาดออกจากกันของการรู้จำใบหน้า (facial recognition) และความตื่นตัวของอารมณ์ความรู้สึก (emotional arousal)
รามจันทรันและเฮอร์สไตน์ ได้เสนอคำอธิบายเกี่ยวกับโครงสร้างที่มีความเฉพาะเจาะจงยิ่งกว่าคำอธิบายเดิมว่า อาการหลงผิดคะกราส์เป็นผลจากการเชื่อมต่อที่ขาดจากกันของเขตรับรู้หน้าในรอยนูนรูปกระสวย (fusiform face area) ที่มีบทบาทใน และอะมิกดะลา (amygdala) ซึ่งมีบทบาทในการตอบสนองด้วยอารมณ์ความรู้สึกต่อใบหน้าที่คุ้นเคย
นอกจากนั้นแล้ว โดยมีพื้นฐานในแบบจำลองของพวกเขา และการตอบสนองของคนไข้ที่พวกเขาตรวจสอบ (ผู้เป็นชาวบราซิลที่มีความบาดเจ็บที่ศีรษะเนื่องจากอุบัติเหตุรถยนต์) รามจันทรันและเฮอร์สไตน์ได้เสนอทฤษฎีที่ทั่วไปเกี่ยวกับการสร้างความทรงจำ พวกเขาสันนิษฐานว่า บุคคลผู้มีอาการหลงผิดคะกราส์ สูญเสียความสามารถในการจัดระเบียบหรือการจัดประเภทของความทรงจำ ดังนั้น จึงไม่สามารถจัดการความจำเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ แทนที่จะมีความทรงจำเชื่อมต่อกันเกี่ยวข้องกับคน ๆ หนึ่ง ความทรงจำต่าง ๆ กันกลับประกอบด้วยความรู้สึกว่าเกี่ยวข้องกับคนต่าง ๆ กัน
ความมีเพศสลับไปมา
ในปี ค.ศ. 2012 เคสและรามจันทรันรายงานถึงผลการสำรวจบุคคลผู้มีภาวะ ผู้ประสบการสลับไปมาระหว่างพฤติกรรมเป็นชายและพฤติกรรมเป็นหญิงที่อยู่นอกอำนาจจิตใจ เคสและรามจันทรันสันนิษฐานว่า การสลับไปมาของของพฤติกรรมอาจจะเกิดจากการสลับการทำงานในสมองสองซีกในระดับที่ลึกซึ้งกว่าปกติ และมีการเข้าไปยับยั้งแผนที่ทางกายที่เป็นไปตามเพศจริง ๆ ของตนในคอร์เทกซ์กลีบข้าง
พวกเขาได้กล่าวไว้ว่า
เราสันนิษฐานว่า โดยติดตาม ระดับการสลับตาในปรากฏการณ์การแข่งขันระหว่างสองตา และตัวบ่งชี้อย่างอื่นที่แสดงการสลับการทำงานระหว่างซีกสมองทั้งสองข้าง ก็จะสามารถค้นพบเหตุทางสรีรภาพ ของการที่ผู้มีพฤติกรรมสองเพศแจ้งถึงการกลับเพศที่เป็นอัตวิสัย ทฤษฎีของเรามีมูลฐานในความสัมพันธ์ระหว่างสมองซีกซ้ายและสมองซีกขวากับเพศชายและเพศหญิง ทั้งที่แสดงไว้ตั้งแต่สมัยโบราณและทั้งที่แสดงไว้ในปัจจุบัน
การเป็นพยานในศาลฐานผู้เชี่ยวชาญ
รามจันทรันได้รับเป็นพยานผู้เชี่ยวชาญในศาลในเรื่อง (pseudocyesis) ในคดีปี ค.ศ. 2007 ของลิซา เอ็ม มอนต์กอมเมอรี รามจันทรันเป็นพยานว่า มอนต์กอมเมอรีมีอาการหลงผิดที่เกิดจากภาวะการตั้งครรภ์เท็จขั้นรุนแรง จนกระทั่งเธอไม่สามารถตระหนักว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่ หรือตระหนักถึงความผิดถูกของพฤติกรรมของตน
รางวัลและเกียรติคุณ
รามจันทรันได้รับเลือกเป็น "Visiting Fellow (สมาชิกเยี่ยมเยือน)" ของ ซึ่งเป็นสถาบันหนึ่งของมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดในประเทศอังกฤษ (ค.ศ. 1998-1999) นอกจากนั้นแล้ว เขายังได้รับตำแหน่งเป็น "Hilgard visiting professor (ศาสตราจารย์เยี่ยมเยือนฮิลการ์ด)" ของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดในประเทศสหรัฐอเมริกา (ค.ศ. 2005) เขาได้รับปริญญาเอกกิตติมศักดิ์จากวิทยาลัยคอนเน็คติกัต ประเทศสหรัฐอเมริกา (ค.ศ. 2001) และจากในเมืองมัทราส ประเทศอินเดีย (ค.ศ. 2004)
รามจันทรันได้รับรางวัล "รามอน อี กาฮาล" จากสมาคมประสาทจิตเวชระหว่างประเทศ (ค.ศ 2004) และเหรียญอาเรียนส์-แค็ปเปอร์ส จากราชบัณฑิตยสถานวิทยาศาสตร์แห่งประเทศเนเธอร์แลนด์ เพราะผลงานของเขาในประสาทวิทยาศาสตร์ (ค.ศ. 1999). เขาได้รับรางวัลเฮ็นรี เดล ร่วมกับไมเคิล เบรดี จากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ในปี ค.ศ. 2005 และโดยเป็นส่วนของรางวัลนั้น ได้รับเลือกเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ตลอดชีวิตของ (Royal Institute of Great Britain) ของประเทศอังกฤษ เพราะ "งานวิจัยโดดเด่นระหว่างสาขา"
ในปี ค.ศ. 2007 ประธานาธิบดีของประเทศอินเดียได้มอบรางวัลพลเรือนระดับสามจากสูงสุด และบรรดาศักดิ์ของประเทศอินเดีย คือรางวัล Padma Bhushan ให้แก่ ดร.รามจันทรัน ในปี ค.ศ. 2008 เขาติดอันดับ 50 ในโพลสาธารณะยอดนักปราชญ์ 100 (Top 100 Public Intellectuals Poll)
ปาฐกถา
รามจันทรันเป็นที่รู้จักกันดีในลีลาความเป็นผู้กล่าวปาฐกถาที่ดึงดูดใจ เขาได้เป็นผู้กล่าวปาฐกถานำ (คีย์โน้ตสปี๊กเก้อร์) และเป็นผู้กล่าวปาฐกถาทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศแคนาดา ประเทศอังกฤษ ประเทศออสเตรเลีย และประเทศอินเดีย
- ในปี ค.ศ. 1995 เขาได้เป็นผู้กล่าวปาฐกถา "ทศวรรษของสมอง" ณ การประชุมประจำปีครั้งที่ 25 ของสมาคมประสาทวิทยา
- ในปี ค.ศ. 1997 ได้ให้ปาฐกถาอนุสรณ์บีต์ตี ที่มหาวิทยาลัยแมคกิลล์ ประเทศแคนาดา
- ในปี ค.ศ. 1999 ได้ให้ปาฐกถานำที่งานประชุมทศวรรษแห่งสมอง ต่อหน้าองค์ประชุมของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) และหอสมุดรัฐสภา ประเทศสหรัฐอเมริกา
- ได้ให้ปาฐกถา "Rabindranath Tagore" ณ ศูนย์ปรัชญาและมูลนิธิวิทยาศาสตร์ ณ กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย
- ในปี ค.ศ. 2003 ได้ให้ปาฐกถา "รีธ" (Reith Lectures) ที่มีเป็นประจำปีของบรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ
- ในปี ค.ศ. 2007 ได้ให้ปาฐกถาซึ่งเป็นส่วนของปาฐกถาชุด โดยรับการสนับสนุนจากมูลนิธิเท็มเปิลตันของราชสมาคมแห่งลอนดอน
- ในปี ค.ศ. 2010 ได้ให้ปาฐกถาดีเด่น IAS ณ สถาบันการศึกษาชั้นสูง (Institute of Advanced Studies หรือ IAS) ของมหาวิทยาลัยบริสตอล อุทิศให้กับสหายเก่าผู้เป็นเพื่อนร่วมงานของเขาคือนายริชาร์ด เกร็กกอรี
- ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2011 ได้ให้ปาฏฐกถามีชื่อว่า "ประสาทวิทยาของธรรมชาติมนุษย์" ที่งานประชุมโนเบล ณ วิทยาลัยกัสตาวัส อดอล์ฟัส ในเมืองเซนต์ปีเตอร์ รัฐมินนิโซตา ประเทศสหรัฐอเมริกา
- ในปี ค.ศ. 2012 ได้ให้ปาฐกถากิฟฟอร์ด (28-30 พ.ค.) ณ มหาวิทยาลัยกลาสโกว์
Minotaurasaurus ramachandrani
ความสนใจของเขาในบรรพชีวินวิทยา (paleontology) กระตุ้นรามจันทรันให้จัดซื้อกะโหลกซากดึกดำบรรพ์ของไดโนเสาร์จากทะเลทรายโกบี ซึ่งได้รับการตั้งชื่อตามชื่อของเขาว่า Minotaurasaurus ramachandrani ในปี ค.ศ. 2009
ข้อถกเถียงย่อย ๆ ได้เกิดขึ้นเพราะประวัติความเป็นมาของกะโหลกใบนี้ นักบรรพชีวินวิทยาบางท่านกล่าวว่า ซากดึกดำบรรพ์นี้ขุดมาจากทะเลทรายโกบีโดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลจีน และได้รับการขายโดยไม่มีการแลกเปลี่ยนเอกสารที่สมควร รามจันทรันผู้ได้ซื้อซากดึกดำบรรพ์นี้ที่เมืองทัคสัน รัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้กล่าวว่า เขามีความยินดีที่จะส่งคืนซากดึกดำบรรพ์นี้กลับไปยังประเทศที่สมควร ถ้ามีใครแสดง "หลักฐานว่า ซากดึกดำบรรพ์นี้มีการส่งออกโดยไม่ได้รับอนุญาต" แก่เขา ในตอนนี้ กะโหลกที่เป็นแบบตัวอย่างนั้น ยังอยู่ที่พิพิธภัณฑ์หุบเขาวิคเตอร์ (Victor Valley Museum 2013-09-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน) ซึ่งอยู่ในระยะการเดินทางชั่วโมงหนึ่งโดยรถยนต์ ด้านทิศตะวันออกของนครลอสแอนเจลิส ที่เมืองหุบเขาแอปเปิล รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
หนังสือที่เขียน
- Phantoms in the Brain: Probing the Mysteries of the Human Mind (อวัยวะแฟนตอมในสมอง - การสำรวจความลึกลับของใจมนุษย์), เขียนร่วมกับ Sandra Blakeslee, ค.ศ. 1998,
- Encyclopedia of the Human Brain (สารานุกรมสมองมนุษย์) (หัวหน้าบรรณาธิการ)
- The Emerging Mind (ใจที่กำลังเผยตัว), ค.ศ. 2003,
- A Brief Tour of Human Consciousness: From Impostor Poodles to Purple Numbers (ทัวร์สั้น ๆ ของใจมนุษย์ - ตั้งแต่สุนัขพูเดิลตัวปลอม จนถึงตัวเลขมีสีม่วง), ค.ศ. 2005, (ปกอ่อน)
- The Tell-Tale Brain: A Neuroscientist's Quest for What Makes Us Human (สมองนักเล่านิทาน – การสืบหาความเป็นมนุษย์ของนักประสาทวิทยาคนหนึ่ง), ค.ศ. 2010,
เชิงอรรถและอ้างอิง
- วีดีโอที่ ดร.รามจันทรันออกเสียงชื่อของตน ที่นาที 1.45 ว่า "วิละยะนอร์"
- "BBC–Radio 4–Reith Lectures 2003–The Emerging Mind". สืบค้นเมื่อ October 4, 2011. หรือโหลดได้ที่
- "(ตอนหนึ่ง) BBC–Radio 4–Reith Lectures 2003–The Emerging Mind 1 2003" (เอ็มพี3). April 2, 2003. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2557.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - "(ตอนสอง) BBC–Radio 4–Reith Lectures 2003–The Emerging Mind 2 2003" (เอ็มพี3). April 9, 2003. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2557.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - "(ตอนสาม) BBC–Radio 3–Reith Lectures 2003–The Emerging Mind 3 2003" (เอ็มพี3). April 16, 2003. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2557.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - "(ตอนสี่) BBC–Radio 3–Reith Lectures 2003–The Emerging Mind 4 2003" (เอ็มพี3). April 23, 2003. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2557.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - "(ตอนห้า) BBC–Radio 3–Reith Lectures 2003–The Emerging Mind 5 2003" (เอ็มพี3). April 30, 2003. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2557.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help))
- "(ตอนหนึ่ง) BBC–Radio 4–Reith Lectures 2003–The Emerging Mind 1 2003" (เอ็มพี3). April 2, 2003. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2557.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-03-26. สืบค้นเมื่อ 2013-10-07.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-06. สืบค้นเมื่อ 2013-10-07.
- Psychology Department Webage with link to CBC
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-12-14. สืบค้นเมื่อ 2013-10-07.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-07-29. สืบค้นเมื่อ 2013-10-07.
- Anthony, VS Ramachandran: The Marco Polo of neuroscience, The Observer, January 29, 2011.
- พอล์ โบรคา เป็นศัลยแพทย์และนักกายวิภาคศาสตร์ผู้มีชื่อเสียง ผู้ค้นพบซึ่งเป็นเขตประสาทในสมองมีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการใช้ภาษา เป็นหลักฐานทางกายวิภาคชิ้นแรกสุดที่แสดงการทำกิจเฉพาะอย่างของเขตต่าง ๆ ในสมอง
- A Brief Tour of Human Consciousness, 2004, Back Cover
- "The Century Club". Newsweek. April 21, 1997. สืบค้นเมื่อ February 16, 2011.
- . April 21, 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-08-24. สืบค้นเมื่อ April 21, 2011. ทอม อินเซิล ผู้อำนวยการของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้กล่าวถึงรามจันทรันว่า "เป็นผู้ที่ครั้งหนึ่งได้รับการพรรณนาว่า เป็นนายมาร์โก โปโล ของประสาทวิทยาศาสตร์ รามจันทรันได้ทำแผนที่ของส่วนต่าง ๆ ที่ลึกลับที่สุดในจิตใจ ได้ทำการศึกษาใน และในโรคพร้อมกับภาวะอื่น ๆ ตั้งแต่ (synesthesia) จนถึงออทิซึม รามจันทรันกำลังเปลี่ยนวิธีที่สมองของเรา จะคิดถึงจิตใจของเรา"
- ในโพลสาธารณะ 2012-10-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนสำหรับบุคคลที่อยู่ในรายชื่อของนิตยสารไทม์ปี ค.ศ. 2011 รามจันทรันติดอันดับที่ 97 จาก 100
- อวัยวะแฟนตอม คือเป็นอวัยวะที่ไม่มีอยู่จริง ๆ แต่รู้สึกเหมือนว่ามี
- (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2021-01-26. สืบค้นเมื่อ 2013-10-07.
- Colapinto, J (May 11, 2009). "Brain Games; The Marco Polo of Neuroscience". The New Yorker. สืบค้นเมื่อ March 11, 2011. Full text via Lexis-Nexus here 2011-07-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Andrew Anthony. date = January 30, 2011 "VS Ramachandran: The Marco Polo of neuroscience". guardian.co.uk. สืบค้นเมื่อ August 8, 2011.
{{}}
: ตรวจสอบค่า|url=
((help)); ไม่มี pipe ใน:|url=
((help)) - Ramachandran V.S.,The Making of a Scientist,essay included in Curious Minds:How a Child Becomes a Scientist,page 211[1]
- Caltech Catalog,1987-1988, page 325
- Ravi, Y.V. (2003-09-23). . The Hindu. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2004-05-27. สืบค้นเมื่อ 2011-04-21.
- ScienceInsider, March 8, 2010
- (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2012-04-25. สืบค้นเมื่อ 2013-10-07.
- Brugger, Peter, Book Review, Cognitive Neuropsychiatry, Vol. 17, Issue 4, 2012
- Ramachandran,V.S. Author Response, Cognitive Neuropsychiatry, Vol. 17, Issue 4, 2012
- Sperling et al., Selective magnocellular deficits in dyslexia: a "phantom contour" study, Neuropsychologia, 41,(2003)1422-1429
- magnetoencephalography เป็นเทคนิคการทำแผนภาพของการทำงานในสมอง โดยใช้ที่มีความละเอียดอ่อนสูง บันทึกสนามแม่เหล็กที่เกิดขึ้นจากกระแสไฟฟ้าที่แล่นไปตามธรรมชาติในสมอง
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-03-31. สืบค้นเมื่อ 2013-10-07.
- Yang TT, Gallen CC, Ramachandran VS, Cobb S, Schwartz BJ, Bloom FE (February 1994). "Noninvasive detection of cerebral plasticity in adult human somatosensory cortex". NeuroReport. 5 (6): 701–4. doi:10.1097/00001756-199402000-00010. PMID 8199341.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - เพื่อดูความเห็นที่ต่างกัน โปรดดู: Flor et al., Nature Reviews, Vol 7, November 2006 [2][]
- Ramachandran, Rogers-Ramachandran, Stewart, Perceptual correlates of massive cortical reorganization, Science, 1992, Nov 13, 1159-1160
- Reprogramming the cerebral cortex: plasticity following central and peripheral lesions, Oxford, 2006, Edited by Stephen Lomber, pages 334
- Ramachandran VS, Rogers-Ramachandran D (April 1996). "Synaesthesia in phantom limbs induced with mirrors". Proc. Biol. Sci. 263 (1369): 377–86. doi:10.1098/rspb.1996.0058. PMID 8637922. สืบค้นเมื่อ 2008-09-23.
- Chan, B; Witt, R; Charrow, A; Magee, A; Howard, R; Pasquina, P. Mirror Therapy for Phantom Limb Pain, N Engl J Med 2007; 357:2206–2207November 22, 2007.
- Moseley, L; Flor, H. Targeting Cortical Representations in the Treatment of Chronic Pain: A Review 2012-05-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Neurorehabilitation & Neural Repair, XX(X) 1–7, 2012.
- Subedi, Bishnu; Grossberg, George. Phantom Limb Pain: Mechanisms and Treatment Approaches, Pain Research and Treatment, Vol 2011, Article ID 864605.
- Ramachandran VS and Hubbard EM (2001). (PDF). Journal of Consciousness Studies. 8 (12): 3–34. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-08-13. สืบค้นเมื่อ 2013-10-07.
- Hubbard EM, Arman AC, Ramachandran VS, Boynton GM (March 2005). (PDF). Neuron. 45 (6): 975–85. doi:10.1016/j.neuron.2005.02.008. PMID 15797557. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-08-13. สืบค้นเมื่อ 2011-04-21.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Hubbard EM, Ramachandran VS (2005). (PDF). Neuron. 48 (3): 509–520. doi:10.1016/j.neuron.2005.10.012. PMID 16269367. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-11-08. สืบค้นเมื่อ 2013-10-07.
- Brang D, Hubbard EM, Coulson S, Huang M, Ramachandran VS (2010). "Magnetoencephalography reveals early activation of V4 in grapheme-color synesthesia". Neuroimage. 53 (1): 268–274. doi:10.1016/j.neuroimage.2010.06.00. PMID 20547226.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Ramachandran, Hubbard, "Neural cross wiring and synesthesia", Journal of Vision, Dec 2000[3]
- Lakoff, G & Johnson, M (1980). Metaphors We Live By. Chicago, IL: University of Chicago Press.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Ramachandran, V.S. (June 1, 2000). "Mirror neurons and imitation learning as the driving force behind "the great leap forward" in human evolution". Edge Foundation web site. สืบค้นเมื่อ October 19, 2011.
- Rizzolatti,G.,Fabbri-Destro,M,"Mirror Neurons:From Discovery to Autism" Experimental Brain Research, (2010)200:223–237 [4][]
- Jarrett Christian, Brain Myths,Psychology Today, December 10,2012 [5]
- Baron-Cohen, Making Sense of the Brain's Mysteries, American Scientist, On-line Book Review, July–August, 2011 [6]
- Oberman, L.M. & Ramachandran, V.S. (2008). "Reflections on the Mirror Neuron System: Their Evolutionary Functions Beyond Motor Representation". ใน Pineda, J. A. (บ.ก.). . Contemporary Neuroscience. Humana Press. pp. 39–62. ISBN . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-11-21. สืบค้นเมื่อ 2013-10-07.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Ramachandran, V.S. (January 1, 2009). "Self Awareness: The Last Frontier". Edge Foundation web site. สืบค้นเมื่อ October 19, 2011.
- โรคกลุ่มออทิซึมสเปกตรัม (autism spectrum) เป็นคำเรียกโรคต่าง ๆ ที่เป็นความผิดปกติทางการพัฒนาที่แผ่ไปทั่ว (pervasive developmental disorder) รับการนิยามไว้ในคู่มือการวินิจฉัยและสถิติสำหรับความผิดปกติทางจิต (DSM) ว่า รวมกลุ่มอาการต่าง ๆ คือ ออทิซึม กลุ่มอาการแอสเปอร์เจอร์ ความผิดปกติทางการพัฒนาที่แผ่ไปทั่วอื่น ๆ เช่น และ
- E.L. Altschuler, A. Vankov, E.M. Hubbard, E. Roberts, V.S. Ramachandran and J.A. Pineda (2000). "Mu wave blocking by observer of movement and its possible use as a tool to study theory of other minds". 30th Annual Meeting of the Society for Neuroscience. Society for Neuroscience.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Oberman LM, Hubbard EM, McCleery JP, Altschuler EL, Ramachandran VS & Pineda JA. (2005). (PDF). Cognitive Brain Research. 24 (2): 190–198. doi:10.1016/j.cogbrainres.2005.01.014. PMID 15993757. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2012-04-19. สืบค้นเมื่อ 2013-10-07.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Ramachandran, V.S. & Oberman, L.M. (October 16, 2006). (PDF). Scientific American. 295 (5): 62–69. doi:10.1038/scientificamerican1106-62. PMID 17076085. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2009-02-05. สืบค้นเมื่อ 2013-10-07.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Oberman LM & Ramachandran VS. (2007). (PDF). Psychological Bulletin. 133 (2): 310–327. doi:10.1037/0033-2909.133.2.310. PMID 17338602. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2012-04-19. สืบค้นเมื่อ 2013-10-07.
- Interview with Sashi Kumar, Frontline,Vol 23,Issue 06,Mar 25, 2006
- Baron-Cohen,Simon,"Making Sense of the Brain's Mysteries, American Scientist, On-line Book Review, July–August,2011 [7]
- Brang,D, Ramachandran,VS, Olfactory bulb dysgenesis, mirror neuron system dysfunction, and autonomic dsyregulation as the neural basis for autism, Medical Hypotheses, 74, 2010, 919-921 [8]
- Brang, D McGeoch, P & Ramachandran VS (2008). (PDF). Cognitive Neuroscience and Neuropsychology. 19: 1305–1306. doi:10.1097/WNR.0b013e32830abc4d. PMID 18695512. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-07-20. สืบค้นเมื่อ 2013-10-07.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Ramachandran VS, Brang D, McGeoch PD, Rosar W. (2009). (PDF). Perception. 38 (5): 775–777. PMID 19662952. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2012-03-21. สืบค้นเมื่อ 2013-10-07.
{{}}
: CS1 maint: multiple names: authors list () - Ellis MD, Young, Accounting for delusional misidentifications, British Journal of Psychiatry, Aug 1990, 239-248 [9]
- Hirstein, W; Ramachandran, VS (1997). (PDF). Proc Biol Sci., B. 264 (1380): 437–444. doi:10.1098/rspb.1997.0062. PMC 1688258. PMID 9107057. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-08-13. สืบค้นเมื่อ 2013-10-07.
- bigender (ผู้มีเพศสอง, พฤติกรรมสองเพศ) เป็นคำกำหนดความโน้มน้าวในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมระหว่างเพศชายและเพศหญิง ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ผู้มีภาวะนี้บางครั้งเรียกว่า "dual gender" หรือ ""
- nasal cycle (วงจรการคัดจมูก) เป็นการสลับกันระหว่างภาวะคัดจมูกและภาวะโล่งจมูกในมนุษย์ เป็นผลจากการที่ไฮโปทาลามัสเข้าไปกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติทีละครึ่ง
- Case,L, Ramachandran,VS, Alternating gender incongruity: A new neuropsyhchiatric syndrome providing insight into the dynamic plasticity of brain-sex,Med Hypotheses. 2012 May;78(5):626-3 [10]
- Neuroskeptic web page, Sunday,April 8, 2012
- Karen Olson (October 21, 2007). "Brain Expert Witness Testifies in Lisa Montgomery Trial". Expert Witness Blog, Juris Pro. สืบค้นเมื่อ November 21, 2011.
- "United States of America v. Lisa M. Montgomery". American Lawyer. April 7, 2011. สืบค้นเมื่อ November 21, 2011.
- (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-07-26. สืบค้นเมื่อ 2013-10-07.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-06. สืบค้นเมื่อ 2013-10-07.
- Search on http://india.gov.in/myindia/advsearch_awards.php 2009-01-31 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน for Ramachandaran (sic!) in March 2008.
- . Prospect Magazine. 2009. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-09-30. สืบค้นเมื่อ June 4, 2011.
- Society for Neuroscience (1995). Society for Neuroscience Abstracts, Volume 21, Part 1. Society for Neuroscience. p. viii. ISBN .
- Past Beatty Talks web site, McGill Universtiy[11] 2009-09-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- "The Science of Cognition". Library of Congress. January 3, 2000. สืบค้นเมื่อ October 4, 2011.
- . NIH. November 2, 1999. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-03-27. สืบค้นเมื่อ October 4, 2011.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-04. สืบค้นเมื่อ October 4, 2011.
- "Nature and nurture in brain function: clues from synesthesia and phantom limbs". November 28, 2007. สืบค้นเมื่อ October 4, 2011.
- "2010 IAS Distinguished Lecture: Neuroscience and Human Nature". University of Bristol. June 28, 2010. สืบค้นเมื่อ June 4, 2011.
- งานประชุมโนเบล (Nobel Conference) เป็นงานประชุมวิชาการที่ยังจัดกันอยู่ เป็นงานแรกที่ได้รับการอนุญาตอย่างเป็นทางการจากมูลนิธิโนเบล ของกรุงสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน มีการจัดทุก ๆ ปี ณ วิทยาลัยกัสตาวัส อดอล์ฟัส ในเมืองเซนต์ปีเตอร์ รัฐมินนิโซตา ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เปิดโอกาสให้สาธารณชนสนทนากับนักวิชาการและนักวิจัยระดับโลก เกี่ยวข้องกับปัญหาต่าง ๆ ยุคปัจจุบันทางสังคมศาสตร์และวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ
- "Schedule, Nobel Conference 47". . สืบค้นเมื่อ October 4, 2011.
- "Body And Mind: Insights From Neuroscience". สืบค้นเมื่อ October 4, 2011.
- Miles, Clifford A. and Clark J. Miles (2009). "Skull of Minotaurasaurus ramachandrani, a new Cretaceous ankylosaur from the Gobi Desert" (PDF). Current Science. 96 (1): 65–70.
- naturenews, February 2, 2009
แหล่งข้อมูลอื่น
- วีดีโอของ TED.com เรื่อง "ร่องรอย ๓ อย่างเพื่อเข้าใจสมองของคุณ (3 Clues to Understanding Your Brain)" โดย ดร.รามจันทรัน ค.ศ. 2007, เป็นภาษาอังกฤษแต่มีคำบรรยายแปลด้านล่าง
- "รามจันทรันกับใจของคุณ" เล็กเช่อร์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับความเสียหายในสมองและโครงสร้างของใจ, มีคำบรรยายไทยด้านล่าง, ที่ TED.com
- Vilayanur S. Ramachandran (official webpage) 2011-07-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Take the Neuron Express for a Brief Tour of Consciousness The Science Network interview with V.S. Ramachandran
- Ramachandran Illusions 2011-07-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- All in the Mind interview
- Reith Lectures 2003 The Emerging Mind by Ramachandran หรือ โหลดได้ที่
- "(ตอนหนึ่ง) BBC–Radio 4–Reith Lectures 2003–The Emerging Mind 1 2003" (เอ็มพี3). April 2, 2003. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2557.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - "(ตอนสอง) BBC–Radio 4–Reith Lectures 2003–The Emerging Mind 2 2003" (เอ็มพี3). April 9, 2003. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2557.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - "(ตอนสาม) BBC–Radio 3–Reith Lectures 2003–The Emerging Mind 3 2003" (เอ็มพี3). April 16, 2003. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2557.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - "(ตอนสี่) BBC–Radio 3–Reith Lectures 2003–The Emerging Mind 4 2003" (เอ็มพี3). April 23, 2003. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2557.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help)) - "(ตอนห้า) BBC–Radio 3–Reith Lectures 2003–The Emerging Mind 5 2003" (เอ็มพี3). April 30, 2003. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2557.
{{}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
((help))
- "(ตอนหนึ่ง) BBC–Radio 4–Reith Lectures 2003–The Emerging Mind 1 2003" (เอ็มพี3). April 2, 2003. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2557.
- Talk at Princeton 2011-05-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน A 2009 talk about his work.
- The Third Culture 2011-05-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Scroll down for three of his essays regarding mirror neurons and self-awareness
- Ramachandran's contribution to The Science Network's Beyond Belief 2007 Lectures on synaesthesia and metaphor.
[[วิกิพีเดีย:|ข้อมูลบุคคล]] | |
---|---|
ชื่อ | วิลยนอร์ สุพรหมัณยัม รามจันทรัน} |
ชื่ออื่น | ทมิฬ: விளையனூர் இராமச்சந்திரன் |
รายละเอียดโดยย่อ | นักประสาทวิทยาศาสตร์ |
วันเกิด | ค.ศ. 1951 (พ.ศ. 2494) |
สถานที่เกิด | รัฐทมิฬนาฑู ประเทศอินเดีย |
วันตาย | |
สถานที่ตาย |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
wilynxr suphrhmnym ramcnthrn thmil வ ள யன ர இர மச சந த ரன wilynur suph rh mn ym ramcn thrn xksrormn Vilayanur Subramanian Ramachandran ekid ph s 2494 epnnkprasathwithyasastr thimiphlnganepnthiruckkninsakha behavioral neurology aela psychophysics dr ramcnthrnpccubnepnphuxanwykarkhxngsunysmxngaelakarrbru Center for Brain and Cognition aelasastracaryinkhnacitwithya aelakhnaprasathwithyasastrinradbbnthitsuksa khxngmhawithyalyaekhlifxreniy sandiexok praethsshrthxemrikawilynxr suphrhmnym ramcnthrn Vilayanur S Ramachandran ramcnthrninnganchlxng Time 100 pi kh s 2011ekidkh s 1951 rththmilnathu praethsxinediysisyekaaephthysastrbnthit slysastrbnthit M B B S cak mhawithyalymthras emuxngecnin priyyaexk cak mhawithyalyekhmbridcmichuxesiyngcakprasathwithya klumxakarhlngphidwaaekhnkhayngkhngxyu xxthisum rangwlehriyy Ariens Kappers cak rangwl cakprathanathibdipraethsxinediy BBC kh s 2003 idrbeluxkepnsmachikeyiymeyiyn Visiting Fellows khxng xnepnsthabnkhxng mhawithyalyxxksfxrd phurwmrbrangwl Henry Dale Prize pi kh s 2005 khxngxachiphthangwithyasastrsakhaprasathwithya citwithyasthabnthithanganmhawithyalyaekhlifxreniy aesndiexok sastracary aelasunysmxngaelakarrbru Center for Brain and Cognition phuxanwykar xacarythipruksainradbpriyyaexksOliver Braddick David Whitteridge FW Campbell H Barlow dr ramcnthrnmichuxesiynginkarthdlxng thiimtxngxasyethkhonolyithisbsxnechnkarsrangphaphprasath neuroimaging aetthungaemwacaichwithithingay dr ramcnthrnkidsrangkhwamkhidihm makmayekiywkbkarthangankhxngsmxng richard dxwkins phuepnnkchiwwithyawiwthnakarthimichuxesiyng ideriyk dr ramcnthrnwa naymarok opol khxngprasathwithyasastr aela phuepnaephthyprasathcitewchphuidrbrangwloneblinpi kh s 2000 ideriykekhawa nay inyukhpccubn nitysar Newsweek khawspdah yk dr ramcnthrnihepnsmachiksomsraehngstwrrs The Century Club epnbukhkhlednthisudkhnhnungin 100 khnthikhwrcatidtaminkhriststwrrsthi 21 inpi kh s 2011 nitysarithm ykihekhaepnhnunginbrrdabukhkhl 100 khn thimixiththiphlmakthisudinolkinraychux ithm 100 dr ramcnthrnidekhiynhnngsuxhlayelm thikxihekidkhwamsnicxyangkwangkhwangcaksatharnchn rwmthng Phantoms In the Brain xwywaaefntxminsmxng kh s 1999 aela The Tell Tale Brain smxngnkelanithan kh s 2010 chiwprawtiaelakarsuksawilynxr suphrhmnym ramcnthrn tampraephnikhxngkhnthmil namskulkhxngekhakhux wilynxr ekhiynepnchuxhna ekidinpi kh s 1951 ph s 2494 inrththmilnathu praethsxinediy bidaphuchuxwa w m suphrhmnym V M Subramanian epnwiswkrthangankbxngkhkrphthnaxutsahkrrm Industrial Development khxngxngkhkarshprachachati phuidthahnathithutinkrungethphmhankhr ramcnthrnichchiwitinwyedkswnmakedinthangipinthitang inpraethsxinediyaelainthwipexechiy emuxecriywykhun ramcnthrnidekhaorngeriynthiemuxngecnin chuxedim mthras aelaorngeriynkhxngkhnxngkvsinkrungethphmhankhr ekhamikhwamsnicinwithyasastrhlaysakharwmthng ramcnthrnidcbsaercepnaephthysastrbnthit slysastrbnthit M B B S cak Madras Medical College sungekhyepnswnhnungkhxng mhawithyalymthras emuxngecnin praethsxinediy aelahlngcaknnidrbpriyyaexkcak khxngmhawithyalyekhmbridc praethsxngkvs emuxepnbnthitsuksaxyuthiekhmbridc ramcnthrnmiswnrwminnganwicykbkhnawichatang thimhawithyalyxxksfxrd rwmthngkhnasrirwithya hlngcaknn ekhaidichewla 2 pi thisthabnaekhlethkh rthaekhlifxreniy epnphurbkarfukxbrmnganwicy research fellow idthanganrwmkbaeckhk ephttikriw phutxmaepnsastracarynksrirwithyachawxxsetreliy txma ekhaidrbtaaehnngphuchwysastracarysakhacitwithya thimhawithyalyaekhlifxreniy sandiexok inpi kh s 1983 aelaidrbtaaehnngepnsastracaryinsakhanntngaetpi kh s 1998 dr ramcnthrnepnhlanchaykhxngesxr phuepnthipruksakdhmay Advocate General khxngemuxngmthras epnphurwmekhiynrththrrmnuykhxngpraethsxinediy dr ramcnthrnmikhusmrskhuxidaexn rxecxrs ramcnthrn aelamibutrsxngkhnkhuxmaniaelaichyanganwithyasastrephuxthicaekhaicwasmxngthanganxyangir dr ramcnthrnidthakarsuksaklumxakarthangprasathechnklumxakarhlngphidwaaekhnkhayngkhngxyu phantom limb aela xakarhlngphidkhakras yingkwannaelw ekhayngmiphlnganekiywkb synesthesia aelaepnthiruckodysingpradisthkhxngekhaephuxchwybrrethaklumxakarhlngphidwaaekhnkhayngkhngxyu khux ekhaidekhiynbthkhwammakkwa 180 chininwarsarwithyasastr rwmthngwarsar thrrmchati Nature withyasastr Science Nature Neuroscience karrbru Perception aela nganwicyinkarehn Vision Research ramcnthrnyngxyuinkhnakrrmkarbrrnathikarkhxngwarsar Medical Hypotheses sungepnwarsarkhxngbristh Elsevier thikxn kh s 2010 epnwarsarwithyasastrthiimmikartrwcsxbkhxngphuchanayinsakhaediywkn aelaidekhiynbthkhwamthung 15 chininwarsarnnxikdwy ngankhxngramcnthrninphvtikrrmprasathwithya behavioral neurology idrbkarephyaephrxyangkwangkhwangodysuxmwlchn ekhaidpraktinphaphyntrsarkhdikhxngchxng 4 sthaniothrthsnsatharnakhxngpraethsxngkvs aela PBS ekhruxkhaysthaniothrthsnsatharnakhxngpraethsshrthxemrika nxkcaknnaelw yngmiraykarekiywkbekhaephyaephrody BBC chxngwithyasastr sungepnsthaniothrthsnkhxngbristh Discovery Communications praethsshrthxemrika nitysar Newsweek khawspdah khxngshrthxemrika raykarwithyu khxng WNYC sungepnsthaniwithyusatharnainnkhrniwyxrk raykar khxng WBEC sungpnsthaniwithyusatharnainnkhrchikhaok nganprachum TED Talks TED com aelaraykarothrthsnkhxngchali ors 2013 10 05 thi ewyaebkaemchchin hnngsuxkhxngekha khux Phantoms In the Brain xwywaaefntxminsmxng idrbkarsrangepnphaphyntrsarkhdisxngtxnephyaephrodychxng 4 khxngbrrsthaephrphaphkracayesiyngxngkvs BBC aelaepnphaphyntryaw 1 chwomngephyaephrody PBS inshrthxemrika nxkcaknnaelw ekhayngepnhwhnabrrnathikarkhxng saranukrmsmxngmnusy kh s 2002 xikdwy dr ramcnthrnidklawdwykhwamxalyemuxerw niwa nganwithyasastridklayepnxachiphephuxthamahakinmakekinip khux inkarsmphasnkbsmakhmprasathwithyasastraehngpraethsxngkvsinpi kh s 2010 ekhaidklawiwwaaetwa thi phmxyakcaipcring ely kkhuxklbipinkalewla klbipyngsmywikhtxeriy kxnthinganwithyasastrcaklayepnxachiphephuxthamahakinmakekinip kxnthicaklayepnngan 9 omngechathung 5 omngeyn thiprakxbdwykhwamyungyakehmuxnkbfnrayineruxngkaraeswnghakarichxanacaelakarhaenginxupthmphnganwicy inyukhnn nkwithyasastrmiaetkhwamsnuk sahrbbukhkhlechnchals darwin aelathxms hksliy nkchiwwithyachawxngkvsphumichuxesiynginkarsnbsnunthvsdikhxngdarwin olkthngibepnsnamelnkhxngphwkekha inpi kh s 2012 nkprasathwithyasastrpietxr brkekxr wicarhnngsuxkhxngramcnthrn khux The Tell Tale Brain smxngnkelanithan waepnhnngsuxprasathwithyasastrprachaniym ephraaihaetkhatxbthilxnglxyimchdecntxkhathamthimikhwamsakhy ramcnthrntxbwaepnkhwamcringwa phmidklawpraedntang iwxyangkhrxbkhlumckrwal rwmthng stereopsis karehnthiwthsnphrxmaenwluk klumxakarhlngphidwaaekhnkhayngkhngxyu phantom limb karptiesthsphawaxmphat khxngkhnikh xakarhlngphidkhakras synesthesia aelaeruxngxun xikmak sungxaccadihruximdi karehninmnusy nganyukhtn khxng dr ramcnthrnmikhwamekiywkhxngkb odyichwithithangcitkayphaph ephuxihxnumanidxyangchdecnthungklikinsmxng thiepnrakthankhxngkarpramwlphlthangta ramcnthrnidrbekhrditwaepnphukhnphbpraktkarnaelaphaphlwngprasaththangtaaebbihm dr ramcnthrnyngidpradisthklumtwkratunthangtapraephthhnung eriykwa esnkhxbaefntxm phantom contours sungekhaipkratunwithiprasath magnocellular inkarehnkhxngmnusy epntwkratunthiaexnn sepxrlingkaelakhnaidichephuxtrwcsxbphawaesiykarxanrukhwam dyslexia xwywaaefntxm emuxmikartdaekhnhruxkhaxxkip khnikhbxykhrngyngmikhwamrusukxyangchdecnwayngmixwywaehlannxyu odyepn xwywaaefntxm odytxyxdnganwicykhxngoraenld emlaeskhk aehngmhawithyalyaemkhkill aekhnada aelakhxngthiomthi phxns aehngsthabnsukhphaphcitaehngchati NIMH shrthxemrika dr ramcnthrntngthvsdiwa mikhwamsmphnthknrahwangpraktkarnxwywaaefntxmaelasphaphphlastikkhxngrabbprasath neural plasticity insmxngkhxngmnusyphuihy odyechphaaxyangying ekhamithvsdiwa aephnthiphaphthangkayinkhxrethksrbkhwamrusukthangkay epliynaeplngipemuxmikartdxwywaxxk inpi kh s 1993 odythanganrwmkbaeyng phukalngthanganwicyichphaph magnetoencephalography MEG thisthanbnwicyskhripps ramcnthrnaesdngihehnwa mikhwamepliynaeplngthiwdidinkhxrethksrbkhwamrusukthangkaykhxngkhnikhhlaykhnthiphankartdaekhnxxk ramcnthrntngthvsdiwa mikhwamsmphnthrahwangkarcdraebiybihminkhxrethksthichdecninphaph MEG aelakhwamrusukthiynghlngehluxxyuthiphbinkhnikh ekhaklawthungthvsdiniinbthkhwam khwamsmphnthkhxngkarrbrukbkarcdraebiybihmxyangkwangkhwanginkhxrethks Perceptual correlates of massive cortical reorganization thungaemwaramcnthrncaepnkhnhnunginnkwithyasastrphwkaerk thiennbthbathkhxngkarepliynaeplnginkhxrethkswa epnmulthankhxng aetnganwicytx maklbaesdngwa khwamrusukthihlngehluxxyuimidekidkhunenuxngdwykarepliynaeplnginkhxrethkshlngcaktdxwywaxxk cnthungthukwnni khathamwa krabwnkarthangprasathxairthismphnthkbkhwamrusukthiynghlngehluxxyuaelaimprakxbdwykhwamecbpwdnn yngimmikhatxb khxmulpxnklbthangtadwykrack ramcnthrnidrbekhrditwaepnphupradisth aelaerimichethkhnikhihkhxmulpxnklbthangtakbsmxngodyichklxngkrack ephuxbrrethaphawahlayxyangthiekiywkbkhwamecbpwdenuxngdwy orkhlmpccubn aelaxakarecbpwdechphaathi nganwicyhlaynganthiichkarrksadwykrack aesdngxnakhtthisdiskhxngwithirksani xyangirkdi odykarthdlxngthimiklumkhwbkhumaelaichkarsum withirksadwykrackklbpraktwamiphlthikhdaeyngkn khuximchdecnwaidphlcring hruxim dngnn karichwithirksaniyngxyuphayitkartrwcsxbinkhnthdlxngxyu wngcrprasathikhwinsmxng phumiphawawithiprasathecuxknthiehnsiphrxmkbehnsylksntang xacsamarthkhnphb samehliym thimixyuthangphaphdansay idxyangngay aelarwderwkwaphuimmiphawani bnrakthankhxngnganwicyekiywkbxwywaaefntxm ramcnthrnidtngthvsdiwa synesthesia ekidkhuncakkarthimikarthangankhamipkhamma cross activation inekhttang khxngsmxng ekhaidklawiwwapraephthyxy khxngkarecuxknkhxngwithiprasathaebbsi twelkh ekidcakkarechuxmtxknekinkwapktirahwangekhtsmxngthiekiywkhxngkbsiaelatwelkhinradbtang khxngrabbkarpramwlphl phumiwithiprasathecuxknkhxngekhtsmxngradbta xaccamikarthanganthikhamekhtinrxynunrupkraswy fusiform gyrus epriybethiybkbphumiwithiprasathecuxknkhxngekhtsmxngradbsung xaccamikarthanganthikhamekhtinrxynunaexngkular angular gyrus aelakhlxngcxngknkbaebbaephnni ramcnthrnphbkarthanganinradbthisungkhuninekhtsmxngthitxbsnxngtxsiinphumiwithiprasathecuxkn emuxethiybkbphuthiimmi odytrwcsxbdwyphaphsmxngaebb fMRI aelaodyichkarsrangphaphaebb MEG ekhaidaesdngwa khwamaetktanginswnprasaththiklawthungrahwangphumiwithiprasathecuxknaelaphuthiimmi ekidkhunxyangrwderwemuxmikaraesdngtwxksr ramcnthrnkhadhmaywa phawawithiprasathecuxknaelakhaxupmaxaccamimulthanediywknkhuxkarechuxmtxknkhamkhxrethkskhxngrabbprasath inpi kh s 2003 ramcnthrnaelaexdward hbbard phimphnganwicythiihkarkhadhmaywa rxynunaexngkularepnxngkhprakxbinkarekhaickhaxupmaxupimy wiwthnakarkhxngphasa khlxngcxngkbngankhxngaelkhxxfaelacxnhsn ramcnthrnykpraednwa khaxupmaxupimynn imidekidkhunlxy ramcnthrnaelahbbardesnxwaktthrrmchati khxngkarsrangkhaxupmaxupimy mikhxcakdthangkaywiphakhthisakhy thixnuyatkarthangankhamekhtbangxyang aetimichthukxyang 18 ramcnthrnesnxwa wiwthnakarkhxngphasaekidcakaephnthismphnththiimidekidkhunlxy 3 xyang khux esiyngkbruprangthiehn echnin karecuxknkhxngwithiprasathkhxngprasathrbrukbprasathsngkarekhluxnihw sensory to motor aela karecuxknkhxngwithiprasathkhxngprasathsngkarekhluxnihwkbprasathsngkarekhluxnihw motor to motor 18 23 esllprasathkrack epnthirukndiwa ramcnthrnepnphuennkhwamsakhykhxng Mirror neuron ekhaidklawwa karkhnphbesllprasathkrackepnkhawsakhythisudthiimidrbkarephyaephr caksuxmwlchn phayinthswrrsthiphanma khuxmikaraecngthungesllprasathkrackepnkhrngaerkinnganwicythitiphimphinpi kh s 1992 odyklumnkwicynaodyekiyokhom risoslatti thimhawithyalyparma thiemuxngparmainpraethsxitali inpi kh s 2000 ramcnthrnphyakrnwaesllprasathkrackcamiphltxcitwithya ehmuxnkbdiexnexmiphltxchiwwithya khux caepnokhrngsrangodyrwmthichwyxthibaykhwamsamarthtang khxngcit thiyngepnsingthiluklbaelaekhathungimiddwykarthdlxng ramcnthrnkhadhmaywa nganwicythungbthbathinesllprasathkrack cachwyxthibaykhwamsamarththangcitickhxngmnusy echnkhwamehnicphuxun kareriynruodylxkeliynaebb aelawiwthnakarthangphasa ramcnthrnyngidtngthvsdikhundwywa esllprasathkrackxacepnkuyaecinkarekhaicrabbprasathsungepnrakthankhxngkhwamrusukwatninmnusy thvsdiekiywkbxxthisum inpi kh s 1999 ramcnthrn odyrwmngankbnayxirikh aexlthskuelxr phurbxbrmhlngpriyyaexk inewlann aelaecmi phienda phuepnephuxnrwmngan epnklumnkwicyklumaerkthiesnxwa karsuyesiy xacepnkhwambkphrxngtwsakhythixthibayxakaraelapraktkarnhlay xyangkhxngorkhklumxxthisumsepktrm autism spectrum disorder twyx ASD inrahwangpi kh s 2000 aela 2006 ramcnthrnaelakhnathimhawithyalyaekhlifxreniy sandiexok idphimphbthkhwamhlaychinthisnbsnunthvsdini sungklayepnthvsdithiruckknwa thvsdikrackaetk Broken Mirrors khxngorkhxxthisum ramcnthrnaelakhnaimidwdkhakarthangankhxngesllprasathkrackodytrng aetaesdngihehnwa edkthimiphawa ASD mikartxbsnxngthiphidpktithangkhluniffasmxng EEG thiruckknwa suppression hruxkarrangbkhlunsmxngmu emuxepriybethiybkbsmxngkhxngphuxun inpi kh s 2006 ramcnthrnihsmphasnkbnitysar Frontline aenwhna khxngxinediy sungekhaklawwasinghnungthierakhnphbinhxngthdlxngkkhuxehtukhxngkhwamphidpktithiohdrayxyanghnungsungeriykwa xxthisum khwambkphrxnginrabbesllprasathkracksamarthxthibayklumxakartang thiepnsylksnkhxngorkhxxthisumephiyngorkhediyw thiimphbinorkhxun odysrupkkhux eraidkhnphbmulthankhxngorkhxxthisuminpi kh s 2000 karyunynkhxngramcnthrnwa rabbesllprasathniwrxnthiphidpktiepnmulthankhxngxxthisum yngepnsingthithkethiyngknxyangkwangkhwang inbthkhwamptithsnpi kh s 2011 khxnghnngsux The Tell Tale Brain smxngnkelanithan ismxn barxn okhehn phuxanwykarkhxngsunywicyxxthisumthimhawithyalyekhmbridcklawwainthanaepnekhruxngxthibayorkhxxthisum thvsdikrackaetkidihenguxnngathiyweyaic aetwa hlkthantrngknkhambangxyangkhdaeyngkbthvsdini odyechphaaxyangyingekiywkbkhxbekhtkhxngthvsdi emuxtrahnkaelwwa rabbesllprasathkrackthiphidpktiephiyngxyangediyw imsamarthxthibayklumxakarthikwangkhwangkhxng ASD ramcnthrncungidtngthvsdiephimkhunxikwa inwyedk aelakhwamphidpktichwngphthnakhxngpxngrbklin olfactory bulb dysgenesis xacmibthbathinklumxakarkhxng ASD inpi kh s 2010 ramcnthrnklawwathvsdiekiywkbpxngrbklin mikhwamekiywkhxngxyangsakhyinkarwinicchyaelarksa orkhklumxakar ASD aelaprakaswa khnakhxngekhacadaeninnganwicythiepriybethiybkhnadpxngrbklinkhxngkhnikhxxthisumepriybethiybkbklumkhwbkhumphuepnpktiApotemnophilia inpi kh s 2008 ramcnthrn phrxmthngedwid aebrngk aelaphxl aemkhkixxkh tiphimphphlnganwicynganaerkthiesnxwa epnorkhthangprasaththiekidkhuncakkhwamesiyhayinsmxngklibkhang orkhthiminxyni sungkhnikhtxngkarcaihtdxwywakhxngtnxxk idrbkarbngchiepnkhrngaerkodycxhn mnni inpi kh s 1977 odytxyxdngankxn khxngramcnthrnsungchithungaephnphaphrangkayinsmxng ramcnthrnaelakhnaidesnxwa orkhniekidcakphaphrangkayinsmxngthiimsmburn dngnn phumiphawanicungehnxwywakhxngtnepnswnekinthiimkhunekhyaelaxyunxkkaykhxngtn ramcnthrnidkhyaykhxngekhtthvsdiniodyesnxwaorkhebuxxaharehtucitic anorexia nervosa xaccaepnorkhekiywkbphaphrangkaythimimulmacakrabbprasath imichepnorkhekiywkbkhwamxyakxaharthimiehtuinihopthalams xakarhlngphidkhakras odyrwmngankbphurbxbrmhlngpriyyaexk inewlann khuxwileliyms ehxrsitn ramcnthrntiphimphnganwicyinpi kh s 1997 sungaesdngthvsdithixthibaymulthanthangprasathkhxngxakarhlngphidkhakras Capgras delusion sungepnxakarhlngphidthikhnikhkhidwa smachikinkhrxbkhrwaelabukhkhlphuepnthirkxun mikarthdaethndwytwplxm kxnhnann xakarniidrbkarxthibaywa ekidcakkhwamkhadxxkcakknkhxngkarrucaibhna facial recognition aelakhwamtuntwkhxngxarmnkhwamrusuk emotional arousal ramcnthrnaelaehxrsitn idesnxkhaxthibayekiywkbokhrngsrangthimikhwamechphaaecaacngyingkwakhaxthibayedimwa xakarhlngphidkhakrasepnphlcakkarechuxmtxthikhadcakknkhxngekhtrbruhnainrxynunrupkraswy fusiform face area thimibthbathin aelaxamikdala amygdala sungmibthbathinkartxbsnxngdwyxarmnkhwamrusuktxibhnathikhunekhy nxkcaknnaelw odymiphunthaninaebbcalxngkhxngphwkekha aelakartxbsnxngkhxngkhnikhthiphwkekhatrwcsxb phuepnchawbrasilthimikhwambadecbthisirsaenuxngcakxubtiehturthynt ramcnthrnaelaehxrsitnidesnxthvsdithithwipekiywkbkarsrangkhwamthrngca phwkekhasnnisthanwa bukhkhlphumixakarhlngphidkhakras suyesiykhwamsamarthinkarcdraebiybhruxkarcdpraephthkhxngkhwamthrngca dngnn cungimsamarthcdkarkhwamcaehlannidxyangmiprasiththiphaph aethnthicamikhwamthrngcaechuxmtxknekiywkhxngkbkhn hnung khwamthrngcatang knklbprakxbdwykhwamrusukwaekiywkhxngkbkhntang kn khwammiephsslbipma inpi kh s 2012 ekhsaelaramcnthrnraynganthungphlkarsarwcbukhkhlphumiphawa phuprasbkarslbipmarahwangphvtikrrmepnchayaelaphvtikrrmepnhyingthixyunxkxanaccitic ekhsaelaramcnthrnsnnisthanwa karslbipmakhxngkhxngphvtikrrmxaccaekidcakkarslbkarthanganinsmxngsxngsikinradbthiluksungkwapkti aelamikarekhaipybyngaephnthithangkaythiepniptamephscring khxngtninkhxrethksklibkhang phwkekhaidklawiwwaerasnnisthanwa odytidtam radbkarslbtainpraktkarnkaraekhngkhnrahwangsxngta aelatwbngchixyangxunthiaesdngkarslbkarthanganrahwangsiksmxngthngsxngkhang kcasamarthkhnphbehtuthangsrirphaph khxngkarthiphumiphvtikrrmsxngephsaecngthungkarklbephsthiepnxtwisy thvsdikhxngeramimulthaninkhwamsmphnthrahwangsmxngsiksayaelasmxngsikkhwakbephschayaelaephshying thngthiaesdngiwtngaetsmyobranaelathngthiaesdngiwinpccubnkarepnphyaninsalthanphuechiywchayramcnthrnidrbepnphyanphuechiywchayinsalineruxng pseudocyesis inkhdipi kh s 2007 khxnglisa exm mxntkxmemxri ramcnthrnepnphyanwa mxntkxmemxrimixakarhlngphidthiekidcakphawakartngkhrrphethckhnrunaerng cnkrathngethximsamarthtrahnkwatnexngkalngthaxairxyu hruxtrahnkthungkhwamphidthukkhxngphvtikrrmkhxngtnrangwlaelaekiyrtikhunramcnthrnidrbeluxkepn Visiting Fellow smachikeyiymeyuxn khxng sungepnsthabnhnungkhxngmhawithyalyxxksfxrdinpraethsxngkvs kh s 1998 1999 nxkcaknnaelw ekhayngidrbtaaehnngepn Hilgard visiting professor sastracaryeyiymeyuxnhilkard khxngmhawithyalysaetnfxrdinpraethsshrthxemrika kh s 2005 ekhaidrbpriyyaexkkittimskdicakwithyalykhxnenkhtikt praethsshrthxemrika kh s 2001 aelacakinemuxngmthras praethsxinediy kh s 2004 ramcnthrnidrbrangwl ramxn xi kahal caksmakhmprasathcitewchrahwangpraeths kh s 2004 aelaehriyyxaeriyns aekhpepxrs cakrachbnthitysthanwithyasastraehngpraethsenethxraelnd ephraaphlngankhxngekhainprasathwithyasastr kh s 1999 ekhaidrbrangwlehnri edl rwmkbimekhil ebrdi cakmhawithyalyxxksfxrd inpi kh s 2005 aelaodyepnswnkhxngrangwlnn idrbeluxkepnsmachikkittimskditlxdchiwitkhxng Royal Institute of Great Britain khxngpraethsxngkvs ephraa nganwicyoddednrahwangsakha inpi kh s 2007 prathanathibdikhxngpraethsxinediyidmxbrangwlphleruxnradbsamcaksungsud aelabrrdaskdikhxngpraethsxinediy khuxrangwl Padma Bhushan ihaek dr ramcnthrn inpi kh s 2008 ekhatidxndb 50 inophlsatharnayxdnkprachy 100 Top 100 Public Intellectuals Poll pathktharamcnthrnepnthiruckkndiinlilakhwamepnphuklawpathkthathidungdudic ekhaidepnphuklawpathkthana khiyontspikekxr aelaepnphuklawpathkthathnginpraethsshrthxemrika praethsaekhnada praethsxngkvs praethsxxsetreliy aelapraethsxinediy inpi kh s 1995 ekhaidepnphuklawpathktha thswrrskhxngsmxng n karprachumpracapikhrngthi 25 khxngsmakhmprasathwithya inpi kh s 1997 idihpathkthaxnusrnbitti thimhawithyalyaemkhkill praethsaekhnada inpi kh s 1999 idihpathkthanathinganprachumthswrrsaehngsmxng txhnaxngkhprachumkhxngsthabnsukhphaphaehngchati NIH aelahxsmudrthspha praethsshrthxemrika idihpathktha Rabindranath Tagore n sunyprchyaaelamulnithiwithyasastr n krungniwedli praethsxinediy inpi kh s 2003 idihpathktha rith Reith Lectures thimiepnpracapikhxngbrrsthaephrphaphkracayesiyngxngkvs inpi kh s 2007 idihpathkthasungepnswnkhxngpathkthachud odyrbkarsnbsnuncakmulnithiethmepiltnkhxngrachsmakhmaehnglxndxn inpi kh s 2010 idihpathkthadiedn IAS n sthabnkarsuksachnsung Institute of Advanced Studies hrux IAS khxngmhawithyalybristxl xuthisihkbshayekaphuepnephuxnrwmngankhxngekhakhuxnayrichard ekrkkxri ineduxntulakhm kh s 2011 idihpatthkthamichuxwa prasathwithyakhxngthrrmchatimnusy thinganprachumonebl n withyalykstaws xdxlfs inemuxngesntpietxr rthminniosta praethsshrthxemrika inpi kh s 2012 idihpathkthakiffxrd 28 30 ph kh n mhawithyalyklasokwMinotaurasaurus ramachandranikhwamsnickhxngekhainbrrphchiwinwithya paleontology kratunramcnthrnihcdsuxkaohlksakdukdabrrphkhxngidonesarcakthaelthrayokbi sungidrbkartngchuxtamchuxkhxngekhawa Minotaurasaurus ramachandrani inpi kh s 2009 khxthkethiyngyxy idekidkhunephraaprawtikhwamepnmakhxngkaohlkibni nkbrrphchiwinwithyabangthanklawwa sakdukdabrrphnikhudmacakthaelthrayokbiodyimidrbxnuyatcakrthbalcin aelaidrbkarkhayodyimmikaraelkepliynexksarthismkhwr ramcnthrnphuidsuxsakdukdabrrphnithiemuxngthkhsn rthaexriosna praethsshrthxemrika idklawwa ekhamikhwamyindithicasngkhunsakdukdabrrphniklbipyngpraethsthismkhwr thamiikhraesdng hlkthanwa sakdukdabrrphnimikarsngxxkodyimidrbxnuyat aekekha intxnni kaohlkthiepnaebbtwxyangnn yngxyuthiphiphithphnthhubekhawikhetxr Victor Valley Museum 2013 09 20 thi ewyaebkaemchchin sungxyuinrayakaredinthangchwomnghnungodyrthynt danthistawnxxkkhxngnkhrlxsaexneclis thiemuxnghubekhaaexpepil rthaekhlifxreniy praethsshrthxemrikahnngsuxthiekhiynPhantoms in the Brain Probing the Mysteries of the Human Mind xwywaaefntxminsmxng karsarwckhwamluklbkhxngicmnusy ekhiynrwmkb Sandra Blakeslee kh s 1998 ISBN 0 688 17217 2 Encyclopedia of the Human Brain saranukrmsmxngmnusy hwhnabrrnathikar ISBN 0 12 227210 2 The Emerging Mind icthikalngephytw kh s 2003 ISBN 1 86197 303 9 A Brief Tour of Human Consciousness From Impostor Poodles to Purple Numbers thwrsn khxngicmnusy tngaetsunkhphuediltwplxm cnthungtwelkhmisimwng kh s 2005 ISBN 0 13 187278 8 pkxxn The Tell Tale Brain A Neuroscientist s Quest for What Makes Us Human smxngnkelanithan karsubhakhwamepnmnusykhxngnkprasathwithyakhnhnung kh s 2010 ISBN 978 0 393 07782 7echingxrrthaelaxangxingwidioxthi dr ramcnthrnxxkesiyngchuxkhxngtn thinathi 1 45 wa wilayanxr BBC Radio 4 Reith Lectures 2003 The Emerging Mind subkhnemux October 4 2011 hruxohldidthi txnhnung BBC Radio 4 Reith Lectures 2003 The Emerging Mind 1 2003 exmphi3 April 2 2003 subkhnemux 18 krkdakhm 2557 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help txnsxng BBC Radio 4 Reith Lectures 2003 The Emerging Mind 2 2003 exmphi3 April 9 2003 subkhnemux 18 krkdakhm 2557 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help txnsam BBC Radio 3 Reith Lectures 2003 The Emerging Mind 3 2003 exmphi3 April 16 2003 subkhnemux 18 krkdakhm 2557 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help txnsi BBC Radio 3 Reith Lectures 2003 The Emerging Mind 4 2003 exmphi3 April 23 2003 subkhnemux 18 krkdakhm 2557 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help txnha BBC Radio 3 Reith Lectures 2003 The Emerging Mind 5 2003 exmphi3 April 30 2003 subkhnemux 18 krkdakhm 2557 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2021 03 26 subkhnemux 2013 10 07 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 07 06 subkhnemux 2013 10 07 Psychology Department Webage with link to CBC khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 12 14 subkhnemux 2013 10 07 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2020 07 29 subkhnemux 2013 10 07 Anthony VS Ramachandran The Marco Polo of neuroscience The Observer January 29 2011 phxl obrkha epnslyaephthyaelankkaywiphakhsastrphumichuxesiyng phukhnphbsungepnekhtprasathinsmxngmihnathiekiywkhxngkbkarichphasa epnhlkthanthangkaywiphakhchinaerksudthiaesdngkarthakicechphaaxyangkhxngekhttang insmxng A Brief Tour of Human Consciousness 2004 Back Cover The Century Club Newsweek April 21 1997 subkhnemux February 16 2011 April 21 2011 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 08 24 subkhnemux April 21 2011 thxm xinesil phuxanwykarkhxngsthabnsukhphaphaehngchati praethsshrthxemrika idklawthungramcnthrnwa epnphuthikhrnghnungidrbkarphrrnnawa epnnaymarok opol khxngprasathwithyasastr ramcnthrnidthaaephnthikhxngswntang thiluklbthisudincitic idthakarsuksain aelainorkhphrxmkbphawaxun tngaet synesthesia cnthungxxthisum ramcnthrnkalngepliynwithithismxngkhxngera cakhidthungcitickhxngera inophlsatharna 2012 10 28 thi ewyaebkaemchchinsahrbbukhkhlthixyuinraychuxkhxngnitysarithmpi kh s 2011 ramcnthrntidxndbthi 97 cak 100 xwywaaefntxm khuxepnxwywathiimmixyucring aetrusukehmuxnwami PDF khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2021 01 26 subkhnemux 2013 10 07 Colapinto J May 11 2009 Brain Games The Marco Polo of Neuroscience The New Yorker subkhnemux March 11 2011 Full text via Lexis Nexus here 2011 07 28 thi ewyaebkaemchchin Andrew Anthony date January 30 2011 VS Ramachandran The Marco Polo of neuroscience guardian co uk subkhnemux August 8 2011 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkha url help immi pipe in url help Ramachandran V S The Making of a Scientist essay included in Curious Minds How a Child Becomes a Scientist page 211 1 Caltech Catalog 1987 1988 page 325 Ravi Y V 2003 09 23 The Hindu khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2004 05 27 subkhnemux 2011 04 21 ScienceInsider March 8 2010 PDF khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2012 04 25 subkhnemux 2013 10 07 Brugger Peter Book Review Cognitive Neuropsychiatry Vol 17 Issue 4 2012 Ramachandran V S Author Response Cognitive Neuropsychiatry Vol 17 Issue 4 2012 Sperling et al Selective magnocellular deficits in dyslexia a phantom contour study Neuropsychologia 41 2003 1422 1429 magnetoencephalography epnethkhnikhkarthaaephnphaphkhxngkarthanganinsmxng odyichthimikhwamlaexiydxxnsung bnthuksnamaemehlkthiekidkhuncakkraaesiffathiaelniptamthrrmchatiinsmxng khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 03 31 subkhnemux 2013 10 07 Yang TT Gallen CC Ramachandran VS Cobb S Schwartz BJ Bloom FE February 1994 Noninvasive detection of cerebral plasticity in adult human somatosensory cortex NeuroReport 5 6 701 4 doi 10 1097 00001756 199402000 00010 PMID 8199341 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk ephuxdukhwamehnthitangkn oprddu Flor et al Nature Reviews Vol 7 November 2006 2 lingkesiy Ramachandran Rogers Ramachandran Stewart Perceptual correlates of massive cortical reorganization Science 1992 Nov 13 1159 1160 Reprogramming the cerebral cortex plasticity following central and peripheral lesions Oxford 2006 Edited by Stephen Lomber pages 334 Ramachandran VS Rogers Ramachandran D April 1996 Synaesthesia in phantom limbs induced with mirrors Proc Biol Sci 263 1369 377 86 doi 10 1098 rspb 1996 0058 PMID 8637922 subkhnemux 2008 09 23 Chan B Witt R Charrow A Magee A Howard R Pasquina P Mirror Therapy for Phantom Limb Pain N Engl J Med 2007 357 2206 2207November 22 2007 Moseley L Flor H Targeting Cortical Representations in the Treatment of Chronic Pain A Review 2012 05 13 thi ewyaebkaemchchin Neurorehabilitation amp Neural Repair XX X 1 7 2012 Subedi Bishnu Grossberg George Phantom Limb Pain Mechanisms and Treatment Approaches Pain Research and Treatment Vol 2011 Article ID 864605 Ramachandran VS and Hubbard EM 2001 PDF Journal of Consciousness Studies 8 12 3 34 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2011 08 13 subkhnemux 2013 10 07 Hubbard EM Arman AC Ramachandran VS Boynton GM March 2005 PDF Neuron 45 6 975 85 doi 10 1016 j neuron 2005 02 008 PMID 15797557 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2011 08 13 subkhnemux 2011 04 21 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Hubbard EM Ramachandran VS 2005 PDF Neuron 48 3 509 520 doi 10 1016 j neuron 2005 10 012 PMID 16269367 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2011 11 08 subkhnemux 2013 10 07 Brang D Hubbard EM Coulson S Huang M Ramachandran VS 2010 Magnetoencephalography reveals early activation of V4 in grapheme color synesthesia Neuroimage 53 1 268 274 doi 10 1016 j neuroimage 2010 06 00 PMID 20547226 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Ramachandran Hubbard Neural cross wiring and synesthesia Journal of Vision Dec 2000 3 Lakoff G amp Johnson M 1980 Metaphors We Live By Chicago IL University of Chicago Press a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a CS1 maint multiple names authors list lingk Ramachandran V S June 1 2000 Mirror neurons and imitation learning as the driving force behind the great leap forward in human evolution Edge Foundation web site subkhnemux October 19 2011 Rizzolatti G Fabbri Destro M Mirror Neurons From Discovery to Autism Experimental Brain Research 2010 200 223 237 4 lingkesiy Jarrett Christian Brain Myths Psychology Today December 10 2012 5 Baron Cohen Making Sense of the Brain s Mysteries American Scientist On line Book Review July August 2011 6 Oberman L M amp Ramachandran V S 2008 Reflections on the Mirror Neuron System Their Evolutionary Functions Beyond Motor Representation in Pineda J A b k Contemporary Neuroscience Humana Press pp 39 62 ISBN 978 1 934115 34 3 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 11 21 subkhnemux 2013 10 07 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite book title aemaebb Cite book cite book a CS1 maint multiple names authors list lingk Ramachandran V S January 1 2009 Self Awareness The Last Frontier Edge Foundation web site subkhnemux October 19 2011 orkhklumxxthisumsepktrm autism spectrum epnkhaeriykorkhtang thiepnkhwamphidpktithangkarphthnathiaephipthw pervasive developmental disorder rbkarniyamiwinkhumuxkarwinicchyaelasthitisahrbkhwamphidpktithangcit DSM wa rwmklumxakartang khux xxthisum klumxakaraexsepxrecxr khwamphidpktithangkarphthnathiaephipthwxun echn aela E L Altschuler A Vankov E M Hubbard E Roberts V S Ramachandran and J A Pineda 2000 Mu wave blocking by observer of movement and its possible use as a tool to study theory of other minds 30th Annual Meeting of the Society for Neuroscience Society for Neuroscience a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite conference title aemaebb Cite conference cite conference a CS1 maint multiple names authors list lingk Oberman LM Hubbard EM McCleery JP Altschuler EL Ramachandran VS amp Pineda JA 2005 PDF Cognitive Brain Research 24 2 190 198 doi 10 1016 j cogbrainres 2005 01 014 PMID 15993757 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2012 04 19 subkhnemux 2013 10 07 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Ramachandran V S amp Oberman L M October 16 2006 PDF Scientific American 295 5 62 69 doi 10 1038 scientificamerican1106 62 PMID 17076085 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2009 02 05 subkhnemux 2013 10 07 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Oberman LM amp Ramachandran VS 2007 PDF Psychological Bulletin 133 2 310 327 doi 10 1037 0033 2909 133 2 310 PMID 17338602 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2012 04 19 subkhnemux 2013 10 07 Interview with Sashi Kumar Frontline Vol 23 Issue 06 Mar 25 2006 Baron Cohen Simon Making Sense of the Brain s Mysteries American Scientist On line Book Review July August 2011 7 Brang D Ramachandran VS Olfactory bulb dysgenesis mirror neuron system dysfunction and autonomic dsyregulation as the neural basis for autism Medical Hypotheses 74 2010 919 921 8 Brang D McGeoch P amp Ramachandran VS 2008 PDF Cognitive Neuroscience and Neuropsychology 19 1305 1306 doi 10 1097 WNR 0b013e32830abc4d PMID 18695512 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2011 07 20 subkhnemux 2013 10 07 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Ramachandran VS Brang D McGeoch PD Rosar W 2009 PDF Perception 38 5 775 777 PMID 19662952 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2012 03 21 subkhnemux 2013 10 07 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite journal title aemaebb Cite journal cite journal a CS1 maint multiple names authors list lingk Ellis MD Young Accounting for delusional misidentifications British Journal of Psychiatry Aug 1990 239 248 9 Hirstein W Ramachandran VS 1997 PDF Proc Biol Sci B 264 1380 437 444 doi 10 1098 rspb 1997 0062 PMC 1688258 PMID 9107057 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2011 08 13 subkhnemux 2013 10 07 bigender phumiephssxng phvtikrrmsxngephs epnkhakahndkhwamonmnawinkarepliynaeplngphvtikrrmrahwangephschayaelaephshying khunxyukbsthankarn phumiphawanibangkhrngeriykwa dual gender hrux nasal cycle wngcrkarkhdcmuk epnkarslbknrahwangphawakhdcmukaelaphawaolngcmukinmnusy epnphlcakkarthiihopthalamsekhaipkratunkarthangankhxngrabbprasathxtonmtithilakhrung Case L Ramachandran VS Alternating gender incongruity A new neuropsyhchiatric syndrome providing insight into the dynamic plasticity of brain sex Med Hypotheses 2012 May 78 5 626 3 10 Neuroskeptic web page Sunday April 8 2012 Karen Olson October 21 2007 Brain Expert Witness Testifies in Lisa Montgomery Trial Expert Witness Blog Juris Pro subkhnemux November 21 2011 United States of America v Lisa M Montgomery American Lawyer April 7 2011 subkhnemux November 21 2011 PDF khlngkhxmulekaekbcakaehlngedim PDF emux 2011 07 26 subkhnemux 2013 10 07 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 07 06 subkhnemux 2013 10 07 Search on http india gov in myindia advsearch awards php 2009 01 31 thi ewyaebkaemchchin for Ramachandaran sic in March 2008 Prospect Magazine 2009 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2009 09 30 subkhnemux June 4 2011 Society for Neuroscience 1995 Society for Neuroscience Abstracts Volume 21 Part 1 Society for Neuroscience p viii ISBN 978 0 916110 45 1 Past Beatty Talks web site McGill Universtiy 11 2009 09 03 thi ewyaebkaemchchin The Science of Cognition Library of Congress January 3 2000 subkhnemux October 4 2011 NIH November 2 1999 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 03 27 subkhnemux October 4 2011 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 10 04 subkhnemux October 4 2011 Nature and nurture in brain function clues from synesthesia and phantom limbs November 28 2007 subkhnemux October 4 2011 2010 IAS Distinguished Lecture Neuroscience and Human Nature University of Bristol June 28 2010 subkhnemux June 4 2011 nganprachumonebl Nobel Conference epnnganprachumwichakarthiyngcdknxyu epnnganaerkthiidrbkarxnuyatxyangepnthangkarcakmulnithionebl khxngkrungstxkohlm praethsswiedn mikarcdthuk pi n withyalykstaws xdxlfs inemuxngesntpietxr rthminniosta praethsshrthxemrika thiepidoxkasihsatharnchnsnthnakbnkwichakaraelankwicyradbolk ekiywkhxngkbpyhatang yukhpccubnthangsngkhmsastraelawithyasastrthrrmchati Schedule Nobel Conference 47 subkhnemux October 4 2011 Body And Mind Insights From Neuroscience subkhnemux October 4 2011 Miles Clifford A and Clark J Miles 2009 Skull of Minotaurasaurus ramachandrani a new Cretaceous ankylosaur from the Gobi Desert PDF Current Science 96 1 65 70 naturenews February 2 2009aehlngkhxmulxunwidioxkhxng TED com eruxng rxngrxy 3 xyangephuxekhaicsmxngkhxngkhun 3 Clues to Understanding Your Brain ody dr ramcnthrn kh s 2007 epnphasaxngkvsaetmikhabrryayaepldanlang ramcnthrnkbickhxngkhun elkechxrphasaxngkvsekiywkbkhwamesiyhayinsmxngaelaokhrngsrangkhxngic mikhabrryayithydanlang thi TED com Vilayanur S Ramachandran official webpage 2011 07 06 thi ewyaebkaemchchin Take the Neuron Express for a Brief Tour of Consciousness The Science Network interview with V S Ramachandran Ramachandran Illusions 2011 07 20 thi ewyaebkaemchchin All in the Mind interview Reith Lectures 2003 The Emerging Mind by Ramachandran hrux ohldidthi txnhnung BBC Radio 4 Reith Lectures 2003 The Emerging Mind 1 2003 exmphi3 April 2 2003 subkhnemux 18 krkdakhm 2557 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help txnsxng BBC Radio 4 Reith Lectures 2003 The Emerging Mind 2 2003 exmphi3 April 9 2003 subkhnemux 18 krkdakhm 2557 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help txnsam BBC Radio 3 Reith Lectures 2003 The Emerging Mind 3 2003 exmphi3 April 16 2003 subkhnemux 18 krkdakhm 2557 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help txnsi BBC Radio 3 Reith Lectures 2003 The Emerging Mind 4 2003 exmphi3 April 23 2003 subkhnemux 18 krkdakhm 2557 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help txnha BBC Radio 3 Reith Lectures 2003 The Emerging Mind 5 2003 exmphi3 April 30 2003 subkhnemux 18 krkdakhm 2557 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a trwcsxbkhawnthiin accessdate help Talk at Princeton 2011 05 17 thi ewyaebkaemchchin A 2009 talk about his work The Third Culture 2011 05 18 thi ewyaebkaemchchin Scroll down for three of his essays regarding mirror neurons and self awareness Ramachandran s contribution to The Science Network s Beyond Belief 2007 Lectures on synaesthesia and metaphor wikiphiediy khxmulbukhkhl chux wilynxr suphrhmnym ramcnthrn chuxxun thmil வ ள யன ர இர மச சந த ரன raylaexiydodyyx nkprasathwithyasastrwnekid kh s 1951 ph s 2494 sthanthiekid rththmilnathu praethsxinediywntaysthanthitay