วัดเขาแก้ววรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดวรวิหาร สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ใน อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี
วัดเขาแก้ววรวิหาร | |
---|---|
ที่ตั้ง | เลขที่ 1 ตำบลต้นตาล อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี |
ประเภท | พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร |
นิกาย | เถรวาท มหานิกาย |
พระประธาน | พระพุทธรูปปางมารวิชัย |
เจ้าอาวาส | พระวิสุทธิโสภณ (ประโยชน์ สุขุมาโล ป.ธ.7) |
ส่วนหนึ่งของ |
ประวัติ
วัดเขาแก้ววรวิหารเดิมเป็นวัดราษฎร์สร้างเมื่อ พ.ศ. 2171 ในรัชสมัยพระเจ้าทรงธรรม ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จไปนมัสการพระพุทธบาทสระบุรีและจะเสด็จนมัสการพระพุทธฉายด้วย จึงทรงแวะพักไพร่พลขบวนราบที่พลับพลาที่หินลาดวัดเขาแก้ว ทรงเห็นว่าบริเวณนี้มีชัยภูมิที่เหมาะสม เพราะตั้งอยู่ภูเขาเล็ก ๆ แวดล้อมด้วยธรรมชาติที่งดงามเป็นที่สงบ เหมาะสำหรับการบำเพ็ญสมณธรรม พระองค์จึงทรงรับสั่งให้เจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต กัลยาณมิตร) เป็นแม่กองควบคุมการก่อสร้าง โดยได้จัดการให้พนักงานนำเครื่องบนและสิ่งก่อสร้างจากกรุงเทพมาบูรณปฏิสังขรณ์พระอุโบสถ ปรับปรุงขยายให้ใหญ่กว่าของเดิม ก่อกำแพงรอบพระอุโบสถขึ้นใหม่ สร้างกุฏิไว้ด้านทิศเหนือของพระเจดีย์ รวมถึงรบูรณะองค์พระเจดีย์ และทรงสถาปนาวัดเขาแก้วขึ้นเป็นพระอารามหลวงพระราชทานนามว่า วัดคีรีรัตนาราม ต่อมาสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรสทรงเห็นว่าชื่อวัดคีรีรัตนรามเป็นคำมคธ จึงเปลี่ยนเป็นคำไทยว่า "วัดเขาแก้ว"
เสนาสนะ
องค์เจดีย์สีขาวโดดเด่นอยู่บนเขา มีรูปลักษณะทรงไทย 5 ยอด ในอดีตบริเวณหน้าวัดเคยเป็นพลับพลาที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในคราวเสด็จประพาสหัวเมือง บันไดทางขึ้นเป็นบันไดนาคหันเศียรกลับ ราวบันไดคือลำตัวนาคประดับกระจกสีสวยงาม มีสิงห์ยืนอยู่เหนือซุ้มประตู และทวารบาลเป็นรูปทหารแต่งเครื่องแบบอย่างตะวันตก เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุของพระสาวก ลักษณะเป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง สูงราว 34 เมตร เหนือขึ้นไปที่บัลลังก์เป็นบัวกลุ่ม รอบองค์เจดีย์ทำเป็นซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปหินปางต่าง ๆ ในอดีตจะมีทั้งสีดำ สีขาว และสีเขียว หากปัจจุบันทำเป็นสีเหลืองทอง มีเพียง 1 องค์ที่ยังคงเป็นสีดำ ต่ำลงมามีเจดีย์บริวารล้อมรอบทั้งสี่ทิศ อีกทั้งระหว่างเจดีย์องค์ใหญ่และหอระฆังมี เจดีย์ปรางค์ห้ายอดองค์เล็ก ประดิษฐานพระพุทธบาทจำลองและพระพุทธรูปทรงเครื่อง ด้านทิศตะวันออกประดิษฐาน พระพุทธรูปปางป่าเลไลย์และด้านทิศตะวันตกประดิษฐานพระพุทธรูปปางห้ามญาติ
พระอุโบสถ ตามทะเบียนวัดของทางราชการแจ้งว่าอุโบสถวัดนี้ ผูกพัทธสีมาเมื่อวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2312 เป็นทรงไทยก่ออิฐ ถือปูน หลังคาซ้อน 2 ชั้น มุขลด 1 ขั้น ทั้งด้านหน้าและด้านหลังเป็นมุขโถงพื้นปูอิฐหน้าวัว พื้นในพระอุโบสถปูด้วยหินอ่อน เครื่องบนเป็นเครื่องไม้มุงกระเบื้องติดช่อฟ้า ดินเผา บริเวณพัทธสีมา กว้าง 14 เมตร ยาว 23 เมตร มีกำแพงแก้วล้อมรอบ กว้าง 18.50 เมตร ยาว 28 เมตร
อ้างอิง
- "วัดเขาแก้ววรวิหาร". ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม.
- "วัดเขาแก้ววรวิหาร". การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.).
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
wdekhaaekwwrwihar epnphraxaramhlwngchntrichnidwrwihar sngkdkhnasngkhfaymhanikay tngxyuin xaephxesaih cnghwdsraburiwdekhaaekwwrwiharthitngelkhthi 1 tabltntal xaephxesaih cnghwdsraburipraephthphraxaramhlwngchntri chnidwrwiharnikayethrwath mhanikayphraprathanphraphuththruppangmarwichyecaxawasphrawisuththiosphn praoychn sukhumaol p th 7 swnhnungkhxngsaranukrmphraphuththsasnaprawtiwdekhaaekwwrwiharedimepnwdrasdrsrangemux ph s 2171 inrchsmyphraecathrngthrrm txmaphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhwidesdcipnmskarphraphuththbathsraburiaelacaesdcnmskarphraphuththchaydwy cungthrngaewaphkiphrphlkhbwnrabthiphlbphlathihinladwdekhaaekw thrngehnwabriewnnimichyphumithiehmaasm ephraatngxyuphuekhaelk aewdlxmdwythrrmchatithingdngamepnthisngb ehmaasahrbkarbaephysmnthrrm phraxngkhcungthrngrbsngihecaphrayanikrbdinthr ot klyanmitr epnaemkxngkhwbkhumkarkxsrang odyidcdkarihphnkngannaekhruxngbnaelasingkxsrangcakkrungethphmaburnptisngkhrnphraxuobsth prbprungkhyayihihykwakhxngedim kxkaaephngrxbphraxuobsthkhunihm srangkutiiwdanthisehnuxkhxngphraecdiy rwmthungrburnaxngkhphraecdiy aelathrngsthapnawdekhaaekwkhunepnphraxaramhlwngphrarachthannamwa wdkhirirtnaram txmasmedcphramhasmneca krmphrayawchiryanworrsthrngehnwachuxwdkhirirtnramepnkhamkhth cungepliynepnkhaithywa wdekhaaekw esnasnaxngkhecdiysikhawoddednxyubnekha miruplksnathrngithy 5 yxd inxditbriewnhnawdekhyepnphlbphlathiprathbkhxngphrabathsmedcphracxmeklaecaxyuhw inkhrawesdcpraphashwemuxng bnidthangkhunepnbnidnakhhnesiyrklb rawbnidkhuxlatwnakhpradbkracksiswyngam misinghyunxyuehnuxsumpratu aelathwarbalepnrupthharaetngekhruxngaebbxyangtawntk ecdiybrrcuphrabrmsaririkthatuaelaphrathatukhxngphrasawk lksnaepnecdiyyxmumimsibsxng sungraw 34 emtr ehnuxkhunipthibllngkepnbwklum rxbxngkhecdiythaepnsumpradisthanphraphuththruphinpangtang inxditcamithngsida sikhaw aelasiekhiyw hakpccubnthaepnsiehluxngthxng miephiyng 1 xngkhthiyngkhngepnsida talngmamiecdiybriwarlxmrxbthngsithis xikthngrahwangecdiyxngkhihyaelahxrakhngmi ecdiyprangkhhayxdxngkhelk pradisthanphraphuththbathcalxngaelaphraphuththrupthrngekhruxng danthistawnxxkpradisthan phraphuththruppangpaelilyaeladanthistawntkpradisthanphraphuththruppanghamyati phraxuobsth tamthaebiynwdkhxngthangrachkaraecngwaxuobsthwdni phukphththsimaemuxwnthi 3 emsayn ph s 2312 epnthrngithykxxith thuxpun hlngkhasxn 2 chn mukhld 1 khn thngdanhnaaeladanhlngepnmukhothngphunpuxithhnaww phuninphraxuobsthpudwyhinxxn ekhruxngbnepnekhruxngimmungkraebuxngtidchxfa dinepha briewnphththsima kwang 14 emtr yaw 23 emtr mikaaephngaekwlxmrxb kwang 18 50 emtr yaw 28 emtrxangxing wdekhaaekwwrwihar sunykhxmulklangthangwthnthrrm wdekhaaekwwrwihar karthxngethiywaehngpraethsithy ththth wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb wdekhaaekwwrwihar