การสงครามสมัยใหม่ตอนต้น (อังกฤษ: Early modern warfare) เป็นสมัยของการสงครามภายหลัง มีความเกี่ยวข้องกับจุดเริ่มต้นของการใช้ดินปืนอย่างแพร่หลายและการพัฒนาอาวุธที่เหมาะสมเพื่อใช้ระเบิด รวมทั้งปืนใหญ่และอาวุธปืน ด้วยเหตุนี้ ยุคสมัยนี้ได้ถูกเรียกว่า สมัยการสงครามดินปืน (แนวคิดนี้ได้ถูกนำเสนอโดย Michael Roberts ใน ค.ศ. 1950) ตลอดช่วงเวลาทั้งหมดนี้ยังคงมีอยู่ภายใน ซึ่งมีลักษณะครอบคลุมสมัยยุทธวิธีของกองทัพเรือ รวมทั้งการใช้ดินปืนในปืนใหญ๋ของกองทัพเรือ
เหล่ามหาอำนาจทั้งหมดในยุโรปและ กำลังต่อสู้รบอย่างแข็งขันในสงครามหลายครั้งตลอดช่วงเวลานี้ โดยถูกจัดเป็นกลุ่มตามเงื่อนไขทางภูมิศาสตร์และตามลำดับเหตุการณ์ ดังนี้:
- ระหว่าง ค.ศ. 1520 และ ค.ศ. 1640 (รวมทั้งสงครามสามสิบปี สงครามแปดสิบปี และ) และ สงครามทางตอนเหนือ และ
- สงครามรัสเซีย-ตุรกี สงครามออตโตมัน-ฮาพส์บวร์ค และสงครามออตโตมันในยุโรป
- จะงอยแอฟริกา การพิชิตเอธิโอเปียของอดัล และมีการเกี่ยวพันกับออตโตมัน มัมลุกส์ และโปรตุเกส
- ในเอเชีย สงครามเปอร์เซีย-โปรตุเกส การทัพของนาเดอร์ ชัยชนะของโมกุล สงครามอังกฤษ-มัยซอร์ ญี่ปุ่นบุกครองเกาหลี (ค.ศ. 1592–1598) การเปลี่ยนผ่านจากหมิงสู่ชิง ตามด้วยสิบการทัพใหญ่
- ตลอดช่วงศตวรรษที่ 18 "" ซึ่งเป็นคำศัพท์ที่ให้ความหมายครอบคลุมในวงกว้าง(umbrella term) ซึ่งรวมทั้งสงครามเก้าปี สงครามเจ็ดปี สงครามสืบราชบัลลังก์สเปน สงครามสืบราชบัลลังก์ออสเตรีย สงครามประกาศอิสรภาพอเมริกา(สงครามปฏิวัติอเมริกา) สงครามปฏิวัติฝรั่งเศส และสงครามนโปเลียน ในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 สู่ช่วงต้นของศตวรรษที่ 19 ซึ่งนำไปสู่จุดสิ้นสุดของสมัยนี้
ดินปืนก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 15
มีการใช้การสงครามดินปืนในการบุกครองญี่ปุ่นของมองโกลใน ค.ศ. 1274 และ 1281 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรูปของการยิงลูกระเบิด (explosive bomb) จาก (catapult) ใส่ทหารข้าศึก บันทึกของญี่ปุ่นมีภาพระเบิดที่ฝ่ายมองโกลใช้กับซามูไรขี่ม้า หลักฐานทางโบราณคดีของการใช้ดินปืนรวมถึงการค้นพบลูกระเบิดหลายลูกในซากเรืออับปางนอกชายฝั่งญี่ปุ่น โดยรังสีเอกซ์พิสูจน์ว่าภายในบรรจุดินปืนอยู่
ทวีปยุโรป
กำเนิดป้อมสนามหลายเหลี่ยม
สมัยตั้งแต่ ค.ศ. 1500 ถึง 1801 มีความก้าวหน้าของเทคนิคป้อมสนามในทวีปยุโรปอย่างรวดเร็ว ขณะที่ปราสาทสมัยกลางอาศัยกำแพงสูงเพื่อป้องกันข้าศึก ป้อมสนามสมัยใหม่ต้องรับมือกับการยิงของปืนใหญ่ วิศวกรจึงได้พัฒนารูปแบบป้อมที่เรียกว่า "สไตล์อิตาลี" หรือ trace itallienne ซึ่งมีกำแพงเตี้ย หนาและลาดเอียง ซึ่งจะดูดซับหรือทำให้กระสุนปืนใหญ่แฉลบไป นอกจากนี้ ป้อมดังกล่าวยังมีรูปทรงคล้ายดาว โดยมีป้อมแหลม (bastion) ยื่นออกไปเป็นมุมเล็ก ๆ จุดประสงค์ของรูปทรงดังกล่าวเพื่อให้ป้อมแหลมทุกป้อมได้รับการยิงสนับสนุนจากป้อมแหลมที่อยู่ติดกัน ทำให้ฝ่ายเข้าตีไม่มีจุดบอดที่จะหลบเข้ากำบัง ไม่นานป้อมสนามแบบใหม่นี้ก็ลบข้อได้เปรียบของปืนใหญ่ไป
ป้อมหลายเหลี่ยมเป็นป้อมสนามแบบที่พัฒนาขึ้นราวกลางคริสต์ศตวรรษที่ 18 เพื่อสนองต่อการพัฒนากระสุนระเบิดได้ (explosive shell) แบบป้อมดาว (star fort) ที่ซับซ้อนซึ่งมีมาก่อนป้อมหลายเหลี่ยมนี้มีประสิทธิภาพสูงต่อการโจมตีด้วยปืนใหญ่ แต่ด้อยประสิทธิภาพลงเมื่อเผชิญกับการยิงของปืนที่มีเกลียวในลำกล้อง (rifled) และอำนาจทำลายของกระสุนระเบิดได้ ป้อมสนามแบบหลายเหลี่ยมยังได้รับอธิบายว่าเป็น "ป้อมที่ไม่มีด้านข้าง" ป้อมแบบนี้ถูกสร้างขึ้นมากในสหราชอาณาจักรและจักรวรรดิอังกฤษในสมัยของลอร์ดพัลเมอร์สตัน จึงมักเรียกว่า ป้อมพัลเมอร์สตัน
ในการสนองตอบจุดอ่อนของป้อมดาว วิศวกรทหารจึงพัฒนาป้อมสนามแบบที่เรียบง่ายกว่าแต่ทนทานขึ้นกว่ามาก ตัวอย่างป้อมแบบนี้พบได้ที่ป้อมแมคเฮนรีในบัลติมอร์ สหรัฐอเมริกา ที่ตั้งของยุทธการอันลือเลื่องที่ประพันธ์เพลงชาติสหรัฐอเมริกา
อาวุธปืน
อำนาจของรัฐอภิชนาธิปไตยเสื่อมลงทั่วยุโรปตะวันตกระหว่างสมัยนี้ ปราสาทโบราณอายุหลายร้อยปีของอภิชนไม่มีประโยชน์อีกต่อไปเมื่อเจอกับปืนใหญ่ ความสำคัญของชนชั้นสูงในการสงครามก็หมดไปเมื่อทหารม้าหนักสมัยกลางสูญเสียบทบาทสำคัญที่สุดในการยุทธ์ ทหารม้าหนักซึ่งประกอบขึ้นจากอัศวินสวมเกราะเริ่มหมดความสำคัญไปในสมัยกลางตอนปลาย ทั้งธนูยาวอังกฤษและหอก (pike) สวิสได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถทำลายกองทัพอัศวินสวมเกราะขนาดใหญ่กว่าได้ อย่างไรก็ดี การใช้ธนูยาวอย่างเหมาะสมนั้นต้องอาศัยการฝึกฝนชั่วชีวิต จึงทำให้การระดมกองกำลังพลธนูขนาดใหญ่นั้นเป็นไปไม่ได้ ขณะเดียวกัน การใช้หอกอย่างเหมาะสมนั้นต้องอาศัยการปฏิบัติในรูปขบวนอย่างซับซ้อน ตลอดจนความอดทนและการประสานอย่างยิ่งของพลหอก และทำให้การระดมกองกำลังขนาดใหญ่เป็นไปได้ยากเช่นกัน
เริ่มตั้งแต่ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 14 ช่างทำชุดเกราะเสริมชิ้นเกราะแผ่น (plate armour) เข้ากับเกราะโลหะเชื่อม (mail armor) แบบเดิมของอัศวินและ men-at-arms เพื่อป้องกันลูกศรของธนูยาวและหน้าไม้ เมื่อถึง ค.ศ. 1415 พลราบบางส่วนเริ่มใช้ "ปืนใหญ่มือ" เป็นครั้งแรก และปืนไฟถือขนาดเล็ก พร้อมสายชนวน ปรากฏให้เห็นในสนามรบในคริสต์ศตวรรษที่ 15
ความเสื่อมของเกราะแผ่น
ในช่วง 250 ปี (ค.ศ. 1400 ถึง 1650) ทหารสวมเกราะแผ่นอย่างกว้างขวางในแทบทุกยุทธการสำคัญของยุโรป ทั้งพลราบ (มักเป็นพลหอก) และพลขี่ม้าเกือบทั้งสิ้น เกราะแผ่นถูกคาดหวังว่าจะสะท้อนอาวุธมีคมและหยุดลูกปืนไฟและปืนพกจากระยะไกล ซึ่งมักจะทำได้ตามที่คาด แต่อาวุธปืนกับเกราะแผ่นจะได้ผลตราบเท่าที่ความเร็วและน้ำหนักของลูกปืนยังค่อนข้างต่ำ แต่เมื่อกาลผ่านไป อาวุธปืนมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ปืนคาบศิลาแบบนกปืนชนวนกระสุนด้วยหินเหล็กไฟ (flintlock musket) ซึ่งมีใช้ตั้งแต่ ค.ศ. 1650 สามารถสังหารทหารสวมเกราะได้จากระยะถึง 100 หลา แม้จะไม่ค่อยแม่นยำ
หลัง ค.ศ. 1650 ปืนคาบศิลาแบบนกปืนชนวนกระสุนด้วยหินเหล็กไฟดังกล่าวซึ่งทหารราบส่วนใหญ่ยกเว้นพลหอกถือยิงดินระเบิดและลูกปืนหนักกว่าปืนไฟ ทหารเกณฑ์สามารถฝึกให้ใช้ปืนคาบศิลาได้ในไม่กี่สัปดาห์ เนื่องจากปืนคาบศิลายุคแรก ๆ ขาดความแม่นยำ การฝึกทักษะยิงปืนจึงมีประโยชน์อยู่บ้าง การใช้ปืนคาบศิลาไม่ต้องอาศัยพลกำลังกายมหาศาลของพลหอกหรือทักษะที่ค่อนข้างหาได้ยากของพลขี่ม้า ไม่เหมือนกับปืนไฟที่มีมาก่อน ปืนคาบศิลาสามารถชนะได้แม้กองกำลังทหารม้าสวมเกราะหนักส่วนมาก
เนื่องจากอาวุธปืนต้องการการฝึกฝนเพียงเล็กน้อยก็ใช้ได้ ชาวนาที่มีปืนจึงทำลายระเบียบและความเคารพที่ทหารม้าในยุโรปและชาวตะวันออกธำรงไว้ แม้เกราะแผ่นที่ตีขึ้นอย่างดีจะยังป้องกันอาวุธปืนทะลุทะลวงผ่านได้อยู่ แต่จนถึง ค.ศ. 1690 ชุดเกราะก็ไม่สามารถเทียบได้กับอาวุธปืนจำนวนมากในการเข้าตีด้านหน้าและจึงเลิกใช้ไป แม้แต่ในหมู่ทหารม้า จนสิ้นสุดคริสต์ศตวรรษที่ 17 ทหารในหน่วยทหารราบและทหารม้าส่วนมากล้วนเลือกไม่สวมเกราะทั้งตัว ซึ่งจะทำให้มีความคล่องตัวสูงกว่า มากกว่าสวมเกราะแผ่น ซึ่งจะทำให้มีการป้องกันเล็กน้อย แต่มีความคล่องตัวด้อยลงกว่ามาก
การเปลี่ยนเป็นปืนคาบศิลา
ปืนคาบศิลา ซึ่งมีใช้ตั้งแต่ ค.ศ. 1410 เป็นหนึ่งในอาวุธปืนมือถือแรก ๆ ที่ค่อนข้างเบา (แต่ยังต้องใช้แท่นเพื่อให้สมดุล) และคนหนึ่งคนสามารถใช้ปืนได้หนึ่งกระบอก หนึ่งในอาวุธเหล่านี้มีบันทึกครั้งแรกว่าใช้ในยุทธการที่อาแซ็งกูร์ใน ค.ศ. 1415 แม้ยุทธการดังกล่าวจะยังมีความเป็นสมัยกลางอยู่มาก คำว่า ปืนคาบศิลา เดิมใช้กับแบบที่หนักกว่าของปืนไฟ ซึ่งยิงกระสุนที่สามารถเจาะทะลุเกราะแผ่นได้ แต่ต้องยิงระยะประชิดเท่านั้น ในคริสต์ศตวรรษที่ 16 อาวุธปืนยังต้องตั้งอยู่บนแท่งค้ำยันเพื่อให้อยู่นิ่ง คาลิเวอร์ (caliver) เป็นแบบที่เบากว่าของปืนไฟ จนถึง ค.ศ. 1600 กองทัพเลิกใช้อาวุธปืนแบบนี้และหันไปใช้ปืนคาบศิลาแบบนกปืนชนวนกระสุนด้วยไม้ขีดไฟ (matchlock musket) ซึ่งใหม่และเบากว่า ตลอดคริสต์ศตวรรษที่ 16 จนถึงคริสต์ทศวรรษ 1690 ปืนคาบศิลาใช้แบบนกปืนชนวนกระสุนด้วยไม้ขีดไฟ
อย่างไรก็ดี แบบนกปืนชนวนกระสุนด้วยไม้ขีดไฟถูกแทนที่ด้วยปืนคาบศิลาแบบชนวนกระสุนด้วยหินเหล็กไฟในคริสต์ทศวรรษ 1690 ซึ่งมีโอกาสด้านน้อยกว่าและมีอัตราบรรจุกระสุนใหม่เร็วกว่า จนถึงเวลานี้ มีเพียงหน่วยทหารม้าเบาสำรวจที่ยังสวมแผ่นเกราะหน้าและหลังเพื่อป้องกันตนเองจากพลปืนคาบศิลาที่อยู่ไกลหรือไร้ระเบียบ
ขณะที่ทหารที่ถืออาวุธปืนสามารถสร้างความเสียหายใหญ่หลวงแก่ทหารม้าได้จากระยะปานกลาง ในระยะประชิด ทหารม้าสามารถสังหารทหารราบที่ถือปืนคาบศิลาได้หากสามารถทลายรูปขบวนของทหารราบและอยู่ใกล้พอที่จะประจัญบานอย่างชุลมุน เป็นเวลาหลายปีที่รูปขบวนทหารราบมีกำลังพลผสมกันซึ่งถือทั้งอาวุธปืนซึ่งให้อำนาจโจมตีและหอกเพื่อให้การป้องกันพลปืนไฟหรือพลปืนคาบศิลาจากการบุกตีของทหารม้า การคิดค้นดาบปลายปืนทำให้มีการรวมอาวุธสองอย่างนี้เป็นหนึ่งในคริสต์ทศวรรษ 1690 ซึ่งเปลี่ยนทหารราบให้เป็นเหล่าที่สำคัญที่สุดในการทหารสมัยใหม่ตอนต้น ซึ่งใช้ปืนคาบศิลาแบบนกปืนชนวนกระสุนด้วยหินเหล็กไฟแล้วติดดาบปลายปืนอย่างเดียวกันทั้งหมด
สภาพของสงคราม
สมัยนี้มีขนาดและขอบเขตของการสงครามเพิ่มขึ้นมาก จำนวนพลรบที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 และขยายอย่างมากหลังคริสต์ทศวรรษ 1660 ตัวอย่างเช่น พระมหากษัตริย์ฝรั่งเศสทรงเรียกชายได้รวมราว 20,000 นายในสงครามกับสเปนในคริสต์ทศวรรษ 1550 แต่ทรงระดมได้ถึง 500,000 นายในสงครามสืบราชบัลลังก์สเปนเมื่อถึง ค.ศ. 1700 ยิ่งไปกว่านั้น สงครามยังทวีความนองเลือดในสมัยนี้ บางส่วนเป็นเพราะพัฒนาการของเทคโนโลยีอาวุธและเทคนิคการใช้อาวุธ (ตัวอย่างเช่น การระดมยิงของทหารราบ)
อย่างไรก็ดี เหตุผลหลัก คือ ปัจจุบันกองทัพมีขนาดใหญ่ขึ้นมาก แต่การสนับสนุนส่งกำลังบำรุงแก่กองทัพยังไม่เพียงพอ ซึ่งหมายความว่า กองทัพมักทำลายพื้นที่พลเรือนเพื่อพยายามหาเลี้ยงตนเอง ทำให้เกิดทุพภิกขภัยและการย้ายประชากร ด้วยเหตุนี้ สงครามในสมัยนี้จึงเป็นหนึ่งในบรรดาสงครามที่นองเลือดที่สุดก่อนสมัยใหม่ ตัวอย่างเช่น สงครามสามสิบปีและเป็นความขัดแย้งที่นองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์เยอรมนีและอังกฤษตามลำดับก่อนสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง อีกปัจจัยที่เสริมการนองเลือดในสงคราม คือ การขาดชุดกฏที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อเชลยศึกและผู้ที่มิใช่พลรบ เชลยมักถูกเรียกค่าไถ่เป็นเงินหรือเชลยอื่น บ้างก็ถูกสังหารทิ้ง
หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้การสงครามมีผลกระทบเพิ่มขึ้น คือ ความไม่เด็ดขาด กองทัพเคลื่อนที่ได้ช้าในยุคก่อนที่จะมีถนนและคลองดี ๆ ยุทธการเกิดขึ้นค่อนข้างน้อย เพราะกองทัพอาจดำเนินกลยุทธ์ได้เป็นเดือน ๆ โดยไม่มีการขัดกันโดยตรง ยิ่งไปกว่านั้น ยุทธการยังมักถูกคั่นจากการเพิ่มจำนวนของป้อมสนามขั้นสูงและมีปลายแหลม เพื่อควบคุมพื้นที่ กองทัพจำต้องยึดเมืองที่มีป้อมป้องกันอยู่ ไม่ว่าจะเอาชนะข้าศึกได้ในสนามรบหรือไม่ก็ตาม ผลคือ ยุทธการที่พบบ่อยที่สุดในสมัยนี้ คือ การล้อม ซึ่งกินเวลามากและมีราคาแพง การโจมตีเมืองที่มีป้อมอาจลงเอยด้วยความสูญเสียใหญ่หลวงและนครซึ่งไม่ยอมจำนนก่อนการโจมตีมักถูกปล้นอย่างโหดร้าย และทั้งฝ่ายที่รักษาเมืองและล้อมมักสูญเสียอย่างหนักจากโรคระบาด
สภาพของความขัดแย้งที่ไม่เด็ดขาด หมายความว่าสงครามมักยาวและเกิดในท้องถิ่น ความขัดแย้งยืดยาวเป็นทศวรรษและหลายรัฐใช้เวลายามสงครามมากกว่าในยามสงบ ความพยายามของสเปนในการพิชิตเนเธอร์แลนด์คืนหลังการก่อการกำเริบดัตช์ติดขัดด้วยการสงครามล้อมไร้ที่สิ้นสุด ค่าใช้จ่ายทำให้พระมหากษัตริย์สเปนต้องทรงประกาศล้มละลายหลายครั้ง เริ่มตั้งแต่ ค.ศ. 1577
การสงครามที่เปลี่ยนไปทำให้กำลังทหารรับจ้างในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาและสมัยกลางพ้นสมัยไปในที่สุด อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นแบบค่อยเป็นค่อนไป จนถึงสงครามสามสิบปี กำลังพลส่วนมากเป็นทหารรับจ้าง แต่หลังสงคราม รัฐส่วนมากลงทุนในกำลังพลที่มีระเบียบวินัยดีกว่าและบันดาลใจด้วยอุดมการณ์มากกว่า ทหารรับจ้างมีความสำคัญเป็นผู้ฝึกสอนและผู้บริหารอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ไม่นานรัฐก็ทำงานเหล่านี้เอง ขนาดกองทัพที่มหาศาลเหล่านี้ต้องอาศัยกำลังผู้ปกครองสนับสนุนขนาดใหญ่ รัฐรวมอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลางใหม่ถูกบังคับให้ตั้งระบบข้าราชการประจำที่มีการจัดระเบียบขนาดใหญ่เพื่อจัดการกองทัพเหล่านี้ ซึ่งนักประวัติศาสตร์บางคนแย้งว่า นี่เป็นพื้นฐานของรัฐระบบข้าราชการประจำสมัยใหม่
การเพิ่มภาษีและการทำหน้าที่ของรัฐบาลที่รวมอำนาจที่เพิ่มขึ้นรวมกันทำให้เกิดการก่อการกำเริบทั่วยุโรป เช่น สงครามกลางเมืองอังกฤษ ในหลายประเทศ ผลของความขัดแย้งนี้คือความรุ่งเรืองของราชาธิปไตยแบบสมบูรณาญาสิทธิ์ มีเพียงในอังกฤษและเนเธอร์แลนด์เท่านั้นที่การปกครองแบบมีผู้แทนวิวัฒนาขึ้น ตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 17 รัฐเรียนรู้ที่จะจัดหาเงินทุนสงครามผ่านการกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำระยะยาวผ่านสถาบันธนาคารชาติ เช่น รัฐแรกที่ดำเนินกระบวนการนี้ได้อย่างเชี่ยวชาญ คือ สาธารณรัฐดัตช์
การเปลี่ยนโฉมกองทัพยุโรปมีผลกระทบทางสังคมใหญ่หลวง เจ. เอฟ. ซี. ฟุลเลอร์กล่าวประโยคที่มีชื่อเสียงว่า "ปืนคาบศิลาสร้างพลราบ และพลราบสร้างประชาธิปไตย" ข้อโต้แย้งนี้กล่าวว่า การป้องกันรัฐขณะนี้ตกอยู่กับสามัญชน มิใช่อภิชน การก่อการกำเริบของชนชั้นล่างซึ่งมักถูกกำราบได้เป็นประจำในสมัยกลาง ขณะนี้อาจคุกคามอำนาจของรัฐได้อย่างไม่น่าเชื่อ อย่างไรก็ดี อภิชนยังผูกขาดนายทหารอยู่ในแทบทุกกองทัพในสมัยใหม่ตอนต้น รวมทั้งกองบัญชาการสูงสุด
ยิ่งไปกว่านั้น การก่อการกำเริบโดยประชาชนแทบล้มเหลวทุกครั้งหากไม่ได้รับการสนับสนุนและอุปถัมภ์จากชนชั้นขุนนางหรือผู้ดี แต่กองทัพใหม่ ด้วยความที่มีรายจ่ายสูง ยังต้องอาศัยการเก็บภาษีและชนชั้นค้าขายซึ่งเริ่มต้องการบทบาทเพิ่มขึ้นในสังคม อำนาจพาณิชย์ที่ยิ่งใหญ่ของดัตช์และอังกฤษเทียบได้กับความเข้มแข็งทางทหารของรัฐที่ใหญ่กว่ามาก ด้วยการฝึกคนให้ใช้ปืนคาบศิลานั้นง่าย จึงเป็นการง่ายขึ้นที่จะสร้างกองทัพขนาดใหญ่ ความไม่แม่นยำของอาวุธทำให้กลุ่มทหารขนาดใหญ่มีความจำเป็น จึงนำไปสู่การเพิ่มขนาดของกองทัพอย่างรวดเร็ว
เป็นครั้งแรกที่ประชากรกลุ่มใหญ่สามารถเข้าสู่สนามรบ แทนที่จะมีเพียงทหารอาชีพที่มีทักษะสูง มีการถกเถียงว่าการดึงคนจากทั่วประเทศเข้าสู่กำลังทหารที่มีการจัดระเบียบช่วยก่อให้เกิดความสามัคคีของชาติและความรักชาติ และระหว่างสมัยนี้เองที่มีความคิดรัฐชาติสมัยใหม่เกิดขึ้น อย่างไรก็ดี ความคิดดังกล่าวปรากฏชัดก็เมื่อหลังสงครามปฏิวัติฝรั่งเศส ในเวลานี้ การเกณฑ์ทหารจะกลายเป็นกระบวนทัศน์ของการสงครามสมัยใหม่ ทว่าก่อนหน้านั้น แท้จริงแล้วกองทัพแห่งชาติส่วนมากประกอบด้วยคนหลายเชื้อชาติ
ทหารราบ
- แถวตอน - รูปขบวนนี้ปกติใช้ขณะเดินแถว แต่ก็มีประสิทธิภาพในการเจาะผ่านรูปขบวนแถวหน้ากระดานได้ แม้จะได้รับความสูญเสียอย่างหนัก
- แถวหน้ากระดาน - รูปขบวนเป็นแถวลึกสองหรือสามแถวซึ่งให้ปืนคาบศิลาส่วนมากนำมาถือ และเป็นรูปขบวนรบที่ใช้บ่อยที่สุด แถวแรกมักจะคุกเข่าหลังจากยิงเสร็จเพื่อให้แถวที่สองยิงต่อ
- สี่เหลี่ยมจัตุรัส - รูปขบวนนี้ใช้กับทหารม้า โดยจะติดดาบปลายปืน แถวแรกจะคุกเข่าลงโดยชี้ปืนคาบศิลาทำมุมขึ้น (คล้ายกับหอก) แถวที่สองและสามจะยิงใส่ทหารม้าเมื่อเข้าใกล้ รูปขบวนนี้ด้อยประสิทธิภาพเมื่อเผชิญกับทหารม้าและทหารราบผสมกัน หรือการยิงจากปืนใหญ่ในกรณีสี่เหลี่ยมจัตุรัสธรรมดา
- (skirmisher) - ทหารราบเบาซึ่งจะนำหน้าและเป็นกลุ่มแรกที่จะยิงเพื่อดึงให้ข้าศึกเข้าตี พลแม่นปืนจะไม่เล็งทหารทั่วไป แต่จะยิงนายทหารเพื่อให้อีกฝ่ายขาดผู้นำ
ทหารม้า
ความรุ่งเรืองของดินปืนลดความสำคัญของทหารม้าหนักซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นใหญ่ในสมรภูมิ แต่ทหารม้ายังคงประสิทธิภาพในบทบาทใหม่กระทั่งคริสต์ศตวรรษที่ 19 ทหารม้าร่วมกับทหารราบเพิ่มความเป็นมืออาชีพมากขึ้นในสมัยนี้ แต่ทหารม้ายังมีเกียรติภูมิทางสังคมและทหารเหนือกว่าทหารราบ มีการริเริ่มใช้ทหารม้าเบาเพื่อการรบปะทะและสำรวจเพราะข้อได้เปรียบด้านความเร็วและความคล่องตัว หน่วยทหารม้าแบบใหม่ที่เริ่มนำมาใช้ในสมัยนี้ ได้แก่ ดรากูน (dragoon) ซึ่งรบได้ทั้งเดินเท้าและขี่ม้า หรือทหารราบขี่ม้า (mounted infantry)
ดรากูนถูกตั้งใจให้เดินทางบนหลังม้าแต่ต่อสู้แบบเดินเท้าและใช้และปืนพกเป็นอาวุธ แม้แต่ทหารม้าออร์โธด็อกซ์ยังถืออาวุธปืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปืนพกเช่นกัน ซึ่งใช้ในยุทธวิธีชื่อว่า caracole ทหารม้าที่ใช้ดาบบุกตีทหารราบที่ไม่มีระเบียบวินัยยังค่อนข้างเด็ดขาดอยู่ แต่การบุกตีพลปืนคาบศิลาและพลหอกที่มีระเบียบวินัยดีทางด้านหน้าแทบจะไร้ผลโดยสิ้นเชิง ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 16 เป็นต้นมา หน่วยทหารม้ามีแนวโน้มบุกตีทหารม้าอื่นทางปีกของรูปขบวนทหารราบมากกว่า และพยายามรบอยู่หลังทหารราบข้าศึก เมื่อบรรลุผลตามนี้แล้วและติดตามข้าศึกที่กำลังแตกหนี ทหารม้าหนักก็ยังคงสามารถทำลายกองทัพข้าศึกได้
อ้างอิง
- Stephen Turnbull (19 February 2013). . Osprey Publishing. pp. 41–42. ISBN . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-12-31. สืบค้นเมื่อ 16 April 2013.
- Delgado, James (February 2003). "Relics of the Kamikaze". Archaeology. Archaeological Institute of America. 56 (1).
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
karsngkhramsmyihmtxntn xngkvs Early modern warfare epnsmykhxngkarsngkhramphayhlng mikhwamekiywkhxngkbcuderimtnkhxngkarichdinpunxyangaephrhlayaelakarphthnaxawuththiehmaasmephuxichraebid rwmthngpunihyaelaxawuthpun dwyehtuni yukhsmyniidthukeriykwa smykarsngkhramdinpun aenwkhidniidthuknaesnxody Michael Roberts in kh s 1950 tlxdchwngewlathnghmdniyngkhngmixyuphayin sungmilksnakhrxbkhlumsmyyuththwithikhxngkxngthpherux rwmthngkarichdinpuninpunihykhxngkxngthpherux ehlamhaxanacthnghmdinyuorpaela kalngtxsurbxyangaekhngkhninsngkhramhlaykhrngtlxdchwngewlani odythukcdepnklumtamenguxnikhthangphumisastraelatamladbehtukarn dngni rahwang kh s 1520 aela kh s 1640 rwmthngsngkhramsamsibpi sngkhramaepdsibpi aela aela sngkhramthangtxnehnux aela sngkhramrsesiy turki sngkhramxxtotmn haphsbwrkh aelasngkhramxxtotmninyuorp cangxyaexfrika karphichitexthioxepiykhxngxdl aelamikarekiywphnkbxxtotmn mmluks aelaoprtueks inexechiy sngkhramepxresiy oprtueks karthphkhxngnaedxr chychnakhxngomkul sngkhramxngkvs mysxr yipunbukkhrxngekahli kh s 1592 1598 karepliynphancakhmingsuching tamdwysibkarthphihy tlxdchwngstwrrsthi 18 sungepnkhasphththiihkhwamhmaykhrxbkhluminwngkwang umbrella term sungrwmthngsngkhramekapi sngkhramecdpi sngkhramsubrachbllngksepn sngkhramsubrachbllngkxxsetriy sngkhramprakasxisrphaphxemrika sngkhramptiwtixemrika sngkhramptiwtifrngess aelasngkhramnopeliyn inchwngplaystwrrsthi 18 suchwngtnkhxngstwrrsthi 19 sungnaipsucudsinsudkhxngsmynidinpunkxnkhriststwrrsthi 15mikarichkarsngkhramdinpuninkarbukkhrxngyipunkhxngmxngoklin kh s 1274 aela 1281 odyechphaaxyangyinginrupkhxngkaryinglukraebid explosive bomb cak catapult isthharkhasuk bnthukkhxngyipunmiphaphraebidthifaymxngoklichkbsamuirkhima hlkthanthangobrankhdikhxngkarichdinpunrwmthungkarkhnphblukraebidhlaylukinsakeruxxbpangnxkchayfngyipun odyrngsiexksphisucnwaphayinbrrcudinpunxyuthwipyuorpkaenidpxmsnamhlayehliym aebbcalxngnkhrthimipxmsnamhlayehliym smytngaet kh s 1500 thung 1801 mikhwamkawhnakhxngethkhnikhpxmsnaminthwipyuorpxyangrwderw khnathiprasathsmyklangxasykaaephngsungephuxpxngknkhasuk pxmsnamsmyihmtxngrbmuxkbkaryingkhxngpunihy wiswkrcungidphthnarupaebbpxmthieriykwa sitlxitali hrux trace itallienne sungmikaaephngetiy hnaaelaladexiyng sungcadudsbhruxthaihkrasunpunihyaechlbip nxkcakni pxmdngklawyngmirupthrngkhlaydaw odymipxmaehlm bastion yunxxkipepnmumelk cudprasngkhkhxngrupthrngdngklawephuxihpxmaehlmthukpxmidrbkaryingsnbsnuncakpxmaehlmthixyutidkn thaihfayekhatiimmicudbxdthicahlbekhakabng imnanpxmsnamaebbihmniklbkhxidepriybkhxngpunihyip pxmhlayehliymepnpxmsnamaebbthiphthnakhunrawklangkhriststwrrsthi 18 ephuxsnxngtxkarphthnakrasunraebidid explosive shell aebbpxmdaw star fort thisbsxnsungmimakxnpxmhlayehliymnimiprasiththiphaphsungtxkarocmtidwypunihy aetdxyprasiththiphaphlngemuxephchiykbkaryingkhxngpunthimiekliywinlaklxng rifled aelaxanacthalaykhxngkrasunraebidid pxmsnamaebbhlayehliymyngidrbxthibaywaepn pxmthiimmidankhang pxmaebbnithuksrangkhunmakinshrachxanackraelackrwrrdixngkvsinsmykhxnglxrdphlemxrstn cungmkeriykwa pxmphlemxrstn inkarsnxngtxbcudxxnkhxngpxmdaw wiswkrthharcungphthnapxmsnamaebbthieriybngaykwaaetthnthankhunkwamak twxyangpxmaebbniphbidthipxmaemkhehnriinbltimxr shrthxemrika thitngkhxngyuththkarxnluxeluxngthipraphnthephlngchatishrthxemrika xawuthpun xanackhxngrthxphichnathipityesuxmlngthwyuorptawntkrahwangsmyni prasathobranxayuhlayrxypikhxngxphichnimmipraoychnxiktxipemuxecxkbpunihy khwamsakhykhxngchnchnsunginkarsngkhramkhmdipemuxthharmahnksmyklangsuyesiybthbathsakhythisudinkaryuthth thharmahnksungprakxbkhuncakxswinswmekraaerimhmdkhwamsakhyipinsmyklangtxnplay thngthnuyawxngkvsaelahxk pike swisidphisucnaelwwasamarththalaykxngthphxswinswmekraakhnadihykwaid xyangirkdi karichthnuyawxyangehmaasmnntxngxasykarfukfnchwchiwit cungthaihkarradmkxngkalngphlthnukhnadihynnepnipimid khnaediywkn karichhxkxyangehmaasmnntxngxasykarptibtiinrupkhbwnxyangsbsxn tlxdcnkhwamxdthnaelakarprasanxyangyingkhxngphlhxk aelathaihkarradmkxngkalngkhnadihyepnipidyakechnkn erimtngaettnkhriststwrrsthi 14 changthachudekraaesrimchinekraaaephn plate armour ekhakbekraaolhaechuxm mail armor aebbedimkhxngxswinaela men at arms ephuxpxngknluksrkhxngthnuyawaelahnaim emuxthung kh s 1415 phlrabbangswnerimich punihymux epnkhrngaerk aelapunifthuxkhnadelk phrxmsaychnwn praktihehninsnamrbinkhriststwrrsthi 15 khwamesuxmkhxngekraaaephn inchwng 250 pi kh s 1400 thung 1650 thharswmekraaaephnxyangkwangkhwanginaethbthukyuththkarsakhykhxngyuorp thngphlrab mkepnphlhxk aelaphlkhimaekuxbthngsin ekraaaephnthukkhadhwngwacasathxnxawuthmikhmaelahyudlukpunifaelapunphkcakrayaikl sungmkcathaidtamthikhad aetxawuthpunkbekraaaephncaidphltrabethathikhwamerwaelanahnkkhxnglukpunyngkhxnkhangta aetemuxkalphanip xawuthpunmiprasiththiphaphmakkhun echn punkhabsilaaebbnkpunchnwnkrasundwyhinehlkif flintlock musket sungmiichtngaet kh s 1650 samarthsngharthharswmekraaidcakrayathung 100 hla aemcaimkhxyaemnya hlng kh s 1650 punkhabsilaaebbnkpunchnwnkrasundwyhinehlkifdngklawsungthharrabswnihyykewnphlhxkthuxyingdinraebidaelalukpunhnkkwapunif thhareknthsamarthfukihichpunkhabsilaidinimkispdah enuxngcakpunkhabsilayukhaerk khadkhwamaemnya karfukthksayingpuncungmipraoychnxyubang karichpunkhabsilaimtxngxasyphlkalngkaymhasalkhxngphlhxkhruxthksathikhxnkhanghaidyakkhxngphlkhima imehmuxnkbpunifthimimakxn punkhabsilasamarthchnaidaemkxngkalngthharmaswmekraahnkswnmak enuxngcakxawuthpuntxngkarkarfukfnephiyngelknxykichid chawnathimipuncungthalayraebiybaelakhwamekharphthithharmainyuorpaelachawtawnxxktharngiw aemekraaaephnthitikhunxyangdicayngpxngknxawuthpunthaluthalwngphanidxyu aetcnthung kh s 1690 chudekraakimsamarthethiybidkbxawuthpuncanwnmakinkarekhatidanhnaaelacungelikichip aemaetinhmuthharma cnsinsudkhriststwrrsthi 17 thharinhnwythharrabaelathharmaswnmaklwneluxkimswmekraathngtw sungcathaihmikhwamkhlxngtwsungkwa makkwaswmekraaaephn sungcathaihmikarpxngknelknxy aetmikhwamkhlxngtwdxylngkwamak karepliynepnpunkhabsila punkhabsila sungmiichtngaet kh s 1410 epnhnunginxawuthpunmuxthuxaerk thikhxnkhangeba aetyngtxngichaethnephuxihsmdul aelakhnhnungkhnsamarthichpunidhnungkrabxk hnunginxawuthehlanimibnthukkhrngaerkwaichinyuththkarthixaaesngkurin kh s 1415 aemyuththkardngklawcayngmikhwamepnsmyklangxyumak khawa punkhabsila edimichkbaebbthihnkkwakhxngpunif sungyingkrasunthisamarthecaathaluekraaaephnid aettxngyingrayaprachidethann inkhriststwrrsthi 16 xawuthpunyngtxngtngxyubnaethngkhaynephuxihxyuning khaliewxr caliver epnaebbthiebakwakhxngpunif cnthung kh s 1600 kxngthphelikichxawuthpunaebbniaelahnipichpunkhabsilaaebbnkpunchnwnkrasundwyimkhidif matchlock musket sungihmaelaebakwa tlxdkhriststwrrsthi 16 cnthungkhristthswrrs 1690 punkhabsilaichaebbnkpunchnwnkrasundwyimkhidif xyangirkdi aebbnkpunchnwnkrasundwyimkhidifthukaethnthidwypunkhabsilaaebbchnwnkrasundwyhinehlkifinkhristthswrrs 1690 sungmioxkasdannxykwaaelamixtrabrrcukrasunihmerwkwa cnthungewlani miephiynghnwythharmaebasarwcthiyngswmaephnekraahnaaelahlngephuxpxngkntnexngcakphlpunkhabsilathixyuiklhruxirraebiyb khnathithharthithuxxawuthpunsamarthsrangkhwamesiyhayihyhlwngaekthharmaidcakrayapanklang inrayaprachid thharmasamarthsngharthharrabthithuxpunkhabsilaidhaksamarththlayrupkhbwnkhxngthharrabaelaxyuiklphxthicapracybanxyangchulmun epnewlahlaypithirupkhbwnthharrabmikalngphlphsmknsungthuxthngxawuthpunsungihxanacocmtiaelahxkephuxihkarpxngknphlpunifhruxphlpunkhabsilacakkarbuktikhxngthharma karkhidkhndabplaypunthaihmikarrwmxawuthsxngxyangniepnhnunginkhristthswrrs 1690 sungepliynthharrabihepnehlathisakhythisudinkarthharsmyihmtxntn sungichpunkhabsilaaebbnkpunchnwnkrasundwyhinehlkifaelwtiddabplaypunxyangediywknthnghmd sphaphkhxngsngkhram smynimikhnadaelakhxbekhtkhxngkarsngkhramephimkhunmak canwnphlrbthiekiywkhxngephimkhunxyangtxenuxngtngaetklangkhriststwrrsthi 16 aelakhyayxyangmakhlngkhristthswrrs 1660 twxyangechn phramhakstriyfrngessthrngeriykchayidrwmraw 20 000 nayinsngkhramkbsepninkhristthswrrs 1550 aetthrngradmidthung 500 000 nayinsngkhramsubrachbllngksepnemuxthung kh s 1700 yingipkwann sngkhramyngthwikhwamnxngeluxdinsmyni bangswnepnephraaphthnakarkhxngethkhonolyixawuthaelaethkhnikhkarichxawuth twxyangechn karradmyingkhxngthharrab xyangirkdi ehtuphlhlk khux pccubnkxngthphmikhnadihykhunmak aetkarsnbsnunsngkalngbarungaekkxngthphyngimephiyngphx sunghmaykhwamwa kxngthphmkthalayphunthiphleruxnephuxphyayamhaeliyngtnexng thaihekidthuphphikkhphyaelakaryayprachakr dwyehtuni sngkhraminsmynicungepnhnunginbrrdasngkhramthinxngeluxdthisudkxnsmyihm twxyangechn sngkhramsamsibpiaelaepnkhwamkhdaeyngthinxngeluxdthisudinprawtisastreyxrmniaelaxngkvstamladbkxnsngkhramolkkhrngthihnung xikpccythiesrimkarnxngeluxdinsngkhram khux karkhadchudktthichdecnekiywkbkarptibtitxechlysukaelaphuthimiichphlrb echlymkthukeriykkhaithepnenginhruxechlyxun bangkthuksngharthing hnunginsaehtuthithaihkarsngkhrammiphlkrathbephimkhun khux khwamimeddkhad kxngthphekhluxnthiidchainyukhkxnthicamithnnaelakhlxngdi yuththkarekidkhunkhxnkhangnxy ephraakxngthphxacdaeninklyuththidepneduxn odyimmikarkhdknodytrng yingipkwann yuththkaryngmkthukkhncakkarephimcanwnkhxngpxmsnamkhnsungaelamiplayaehlm ephuxkhwbkhumphunthi kxngthphcatxngyudemuxngthimipxmpxngknxyu imwacaexachnakhasukidinsnamrbhruximktam phlkhux yuththkarthiphbbxythisudinsmyni khux karlxm sungkinewlamakaelamirakhaaephng karocmtiemuxngthimipxmxaclngexydwykhwamsuyesiyihyhlwngaelankhrsungimyxmcannkxnkarocmtimkthukplnxyangohdray aelathngfaythirksaemuxngaelalxmmksuyesiyxyanghnkcakorkhrabad sphaphkhxngkhwamkhdaeyngthiimeddkhad hmaykhwamwasngkhrammkyawaelaekidinthxngthin khwamkhdaeyngyudyawepnthswrrsaelahlayrthichewlayamsngkhrammakkwainyamsngb khwamphyayamkhxngsepninkarphichitenethxraelndkhunhlngkarkxkarkaeribdtchtidkhddwykarsngkhramlxmirthisinsud khaichcaythaihphramhakstriysepntxngthrngprakaslmlalayhlaykhrng erimtngaet kh s 1577 karsngkhramthiepliynipthaihkalngthharrbcanginsmyfunfusilpwithyaaelasmyklangphnsmyipinthisud xyangirkdi karepliynaeplngniepnaebbkhxyepnkhxnip cnthungsngkhramsamsibpi kalngphlswnmakepnthharrbcang aethlngsngkhram rthswnmaklngthuninkalngphlthimiraebiybwinydikwaaelabndalicdwyxudmkarnmakkwa thharrbcangmikhwamsakhyepnphufuksxnaelaphubriharxyuchwnghnung aetimnanrthkthanganehlaniexng khnadkxngthphthimhasalehlanitxngxasykalngphupkkhrxngsnbsnunkhnadihy rthrwmxanacekhasusunyklangihmthukbngkhbihtngrabbkharachkarpracathimikarcdraebiybkhnadihyephuxcdkarkxngthphehlani sungnkprawtisastrbangkhnaeyngwa niepnphunthankhxngrthrabbkharachkarpracasmyihm karephimphasiaelakarthahnathikhxngrthbalthirwmxanacthiephimkhunrwmknthaihekidkarkxkarkaeribthwyuorp echn sngkhramklangemuxngxngkvs inhlaypraeths phlkhxngkhwamkhdaeyngnikhuxkhwamrungeruxngkhxngrachathipityaebbsmburnayasiththi miephiynginxngkvsaelaenethxraelndethannthikarpkkhrxngaebbmiphuaethnwiwthnakhun tngaetplaykhriststwrrsthi 17 rtheriynruthicacdhaenginthunsngkhramphankarkuyumdxkebiytarayayawphansthabnthnakharchati echn rthaerkthidaeninkrabwnkarniidxyangechiywchay khux satharnrthdtch karepliynochmkxngthphyuorpmiphlkrathbthangsngkhmihyhlwng ec exf si fulelxrklawpraoykhthimichuxesiyngwa punkhabsilasrangphlrab aelaphlrabsrangprachathipity khxotaeyngniklawwa karpxngknrthkhnanitkxyukbsamychn miichxphichn karkxkarkaeribkhxngchnchnlangsungmkthukkarabidepnpracainsmyklang khnanixackhukkhamxanackhxngrthidxyangimnaechux xyangirkdi xphichnyngphukkhadnaythharxyuinaethbthukkxngthphinsmyihmtxntn rwmthngkxngbychakarsungsud yingipkwann karkxkarkaeribodyprachachnaethblmehlwthukkhrnghakimidrbkarsnbsnunaelaxupthmphcakchnchnkhunnanghruxphudi aetkxngthphihm dwykhwamthimiraycaysung yngtxngxasykarekbphasiaelachnchnkhakhaysungerimtxngkarbthbathephimkhuninsngkhm xanacphanichythiyingihykhxngdtchaelaxngkvsethiybidkbkhwamekhmaekhngthangthharkhxngrththiihykwamak dwykarfukkhnihichpunkhabsilannngay cungepnkarngaykhunthicasrangkxngthphkhnadihy khwamimaemnyakhxngxawuththaihklumthharkhnadihymikhwamcaepn cungnaipsukarephimkhnadkhxngkxngthphxyangrwderw epnkhrngaerkthiprachakrklumihysamarthekhasusnamrb aethnthicamiephiyngthharxachiphthimithksasung mikarthkethiyngwakardungkhncakthwpraethsekhasukalngthharthimikarcdraebiybchwykxihekidkhwamsamkhkhikhxngchatiaelakhwamrkchati aelarahwangsmyniexngthimikhwamkhidrthchatismyihmekidkhun xyangirkdi khwamkhiddngklawpraktchdkemuxhlngsngkhramptiwtifrngess inewlani kareknththharcaklayepnkrabwnthsnkhxngkarsngkhramsmyihm thwakxnhnann aethcringaelwkxngthphaehngchatiswnmakprakxbdwykhnhlayechuxchati thharrab aethwtxn rupkhbwnnipktiichkhnaedinaethw aetkmiprasiththiphaphinkarecaaphanrupkhbwnaethwhnakradanid aemcaidrbkhwamsuyesiyxyanghnk aethwhnakradan rupkhbwnepnaethwluksxnghruxsamaethwsungihpunkhabsilaswnmaknamathux aelaepnrupkhbwnrbthiichbxythisud aethwaerkmkcakhukekhahlngcakyingesrcephuxihaethwthisxngyingtx siehliymcturs rupkhbwnniichkbthharma odycatiddabplaypun aethwaerkcakhukekhalngodychipunkhabsilathamumkhun khlaykbhxk aethwthisxngaelasamcayingisthharmaemuxekhaikl rupkhbwnnidxyprasiththiphaphemuxephchiykbthharmaaelathharrabphsmkn hruxkaryingcakpunihyinkrnisiehliymctursthrrmda skirmisher thharrabebasungcanahnaaelaepnklumaerkthicayingephuxdungihkhasukekhati phlaemnpuncaimelngthharthwip aetcayingnaythharephuxihxikfaykhadphunathharma khwamrungeruxngkhxngdinpunldkhwamsakhykhxngthharmahnksungkhrnghnungekhyepnihyinsmrphumi aetthharmayngkhngprasiththiphaphinbthbathihmkrathngkhriststwrrsthi 19 thharmarwmkbthharrabephimkhwamepnmuxxachiphmakkhuninsmyni aetthharmayngmiekiyrtiphumithangsngkhmaelathharehnuxkwathharrab mikarrierimichthharmaebaephuxkarrbpathaaelasarwcephraakhxidepriybdankhwamerwaelakhwamkhlxngtw hnwythharmaaebbihmthierimnamaichinsmyni idaek drakun dragoon sungrbidthngedinethaaelakhima hruxthharrabkhima mounted infantry drakunthuktngicihedinthangbnhlngmaaettxsuaebbedinethaaelaichaelapunphkepnxawuth aemaetthharmaxxrothdxksyngthuxxawuthpun odyechphaaxyangyingpunphkechnkn sungichinyuththwithichuxwa caracole thharmathiichdabbuktithharrabthiimmiraebiybwinyyngkhxnkhangeddkhadxyu aetkarbuktiphlpunkhabsilaaelaphlhxkthimiraebiybwinydithangdanhnaaethbcairphlodysineching tngaetkhriststwrrsthi 16 epntnma hnwythharmamiaenwonmbuktithharmaxunthangpikkhxngrupkhbwnthharrabmakkwa aelaphyayamrbxyuhlngthharrabkhasuk emuxbrrluphltamniaelwaelatidtamkhasukthikalngaetkhni thharmahnkkyngkhngsamarththalaykxngthphkhasukidxangxingStephen Turnbull 19 February 2013 Osprey Publishing pp 41 42 ISBN 978 1 4728 0045 9 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 12 31 subkhnemux 16 April 2013 Delgado James February 2003 Relics of the Kamikaze Archaeology Archaeological Institute of America 56 1