สโมสรฟุตบอลออกซฟอร์ด ยูไนเต็ด เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพในเมืองออกซ์ฟอร์ด ทีมจะลงแข่งขันในอีเอฟแอลแชมเปียนชิป ซึ่งเป็นระดับที่ 2 ของระบบลีกฟุตบอลอังกฤษ ในฤดูกาล 2024–25 ในฐานะแชมป์เพลย์ออฟ ประธานสโมสรคือแกรนท์ เฟอร์กูสัน เดส บักกิงแฮมเป็นหัวหน้าโค้ช และเอลเลียต มัวร์เป็นกัปตันทีม
ชื่อเต็ม | Oxford United Football Club | ||
---|---|---|---|
ฉายา | ดิ อัส | ||
ก่อตั้ง | 1893 (ในชื่อเฮดดิงตัน ยูไนเต็ด) | ||
สนาม | คัสซัม สเตเดียม | ||
ความจุ | 12,500 | ||
ประธาน | สัมฤทธิ์ ธนะกาญจนสุทธิ์ | ||
ผู้จัดการ | Des Buckingham | ||
ลีก | อีเอฟแอลแชมเปียนชิป | ||
2023–24 | ลีกวัน, อันดับ 5 (เลื่อนชั้นผ่านการเพลย์ออฟ) | ||
เว็บไซต์ | เว็บไซต์สโมสร | ||
|
สโมสรก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 1893 ในชื่อ สโมสรฟุตบอลเฮดดิงตัน เฮดดิงตันรวมเข้ากับเฮดดิงตันควอร์รี ซึ่งเป็นคู่แข่งในท้องถิ่นเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 1911 และเปลี่ยนชื่อเป็นเฮดดิงตันยูไนเต็ด สโมสรได้ใช้ชื่อปัจจุบันในปี 1960 เข้าร่วมฟุตบอลลีกในปี 1962 หลังจากคว้าแชมป์เซาท์เทิร์นฟุตบอลลีก และขึ้นสู่ดิวิชัน 2 ในปี 1968
ยุคที่สโมสรประสบความสำเร็จสูงสุดอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 1984–1986 เมื่อสโมสรได้เลื่อนชั้นสู่ดิวิชัน 1 (เดิม) ซึ่งเป็นลีกสูงสุดของอังกฤษในขณะนั้น และสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลลีกคัพ (มิลค์ คัพ) ได้ในปี 1986 ด้วยการเอาชนะสโมสรควีนส์ปาร์ก เรนเจอร์ส ในนัดชิงชนะเลิศที่สนามกีฬาเวมบลีย์ ไปได้ถึง 3–0 ท่ามกลางผู้ชมกว่า 9 หมื่นคน แต่กลับไม่สามารถลงแข่งขันในรายการระดับทวีปอย่างยูฟ่าคัพได้ เพราะในปีดังกล่าวสโมสรฟุตบอลจากอังกฤษอยู่ระหว่างถูกลงโทษแบนโดยยูฟ่าจากกรณีเกิดเหตุการณ์โศกนาฏกรรมเฮย์เซลที่ประเทศเบลเยี่ยม
ต่อมาสโมสรมีอันต้องตกชั้นจากลีกสูงสุดในปี 1988 และมีผลงานตกต่ำลงอย่างต่อเนื่องจนต้องไปแข่งขันในระดับฟุตบอลคอนเฟอเรนซ์ซึ่งเป็นลีกกึ่งอาชีพในปี ค.ศ. 2006 โดยนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลอังกฤษที่สโมสรที่เคยคว้าแชมป์ฟุตบอลลีกคัพต้องตกชั้นลงไปเล่นในฟุตบอลคอนเฟอเรนซ์
อย่างไรก็ตามสโมสรใช้เวลา 4 ปี ในการเลื่อนชั้นกลับขึ้นมาสู่ลีกอาชีพอีกครั้งในปี 2010 หลังจากเอาชนะสโมสรฟุตบอลยอร์ก ซิตี ได้ในการแข่งขันรอบเพลย์ออฟ ของฟุตบอลคอนเฟอเรนซ์ ฤดูกาล 2009–10 ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ และได้เลื่อนชั้นขึ้นสู่ฟุตบอลลีกทู ก่อนที่จะสามารถคว้าตำแหน่งรองแชมป์ฟุตบอลลีกทู ในฤดูกาล 2015–2016 และได้เลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกวัน
สำหรับผู้เล่นที่ครองสถิติลงสนามให้กับสโมสรมากที่สุดคือ รอน แอทคินสัน ที่ลงสนามให้กับสโมสรเมื่อรวมทุกรายการมากถึง 560 นัด ก่อนที่เขาจะกลายเป็นผู้จัดการทีมของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในเวลาต่อมา ส่วนผู้ที่ลงสนามมากที่สุดเมื่อนับเฉพาะการแข่งขันในฟุตบอลลีก คือ จอห์น ชูเคอร์ โดยลงเล่นในลีกไป 478 นัด
ในด้านสถิติการยิงประตู เกรแฮม แอทคินสัน น้องชายของ รอน แอทคินสัน ได้รับการบันทึกว่าเป็นผู้ยิงประตูสูงสุดของสโมสรที่ 107 ประตู เมื่อรวมทุกรายการ
ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 ทางสโมสรได้ประกาศเป็นทางการว่ากลุ่มนายทุนจากประเทศไทยได้เข้าซื้อกิจการด้วยการเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ โดยนายสัมฤทธิ์ ธนะกาญจนสุทธิ์ นักธุรกิจชาวไทยรับตำแหน่งเป็นประธานสโมสรคนใหม่
ประวัติสโมสร
เฮดดิงตัน ยูไนเต็ด
สโมสรก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1893 ภายใต้ชื่อสโมสรฟุตบอลเฮดดิงตันและได้เพิ่มคำว่า ยูไนเต็ด เข้าไปในชื่อของสโมสรในปี ค.ศ. 1911 หลังจากควบรวมกิจการกับสโมสรฟุตบอลเฮดดิงตัน ควอรี
เฮดดิงตัน ยูไนเต็ด ไม่มีสนามเหย้าประจำเป็นของตัวเอง จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1913 สโมสรได้ลงทุนสร้างสนาม "วู้ทเทนส์ ฟิลด์" บริเวณถนนลอนดอน โรด เพื่อเป็นสนามเหย้าแห่งแรกของสโมสร แต่ในเวลาต่อมาพื้นที่บริเวณดังกล่าว ถูกจัดให้เป็นพื้นที่ที่ต้องมีการบูรณะและจัดผังเมืองใหม่ ทำให้สโมสรถูกย้ายออกจากบริเวณนั้นในปี ค.ศ.1920
ปี ค.ศ.1925 สโมสรลงทุนสร้างสนามใหม่บริเวณถนนลอนดอน โรด อีกครั้ง และใช้ชื่อสนามว่า "มาเนอร์ กราวนด์'" โดยใช้แข่งขันฟุตบอลสลับกับคริกเก็ต
การส่งทีมเข้าร่วมแข่งขันในรายการต่างๆของสโมสร ในปี ค.ศ.1899 สโมสรฟุตบอลเฮดดิงตัน ได้เข้าร่วมแข่งขันในลีกฟุตบอลสมัครเล่นอย่าง ออกซฟอร์ดเชอร์ ดิสตริกลีก ดิวิชัน 2 ต่อมาภายหลังจากมีการปรับโครงสร้างระบบฟุตบอลอังกฤษในปี ค.ศ. 1919 ลีกได้เปลี่ยนชื่อเป็น ออกซฟอร์ดเชอร์ จูเนียร์ลีก
ปี ค.ศ. 1921 เฮดดิงตัน ยูไนเต็ด ได้เข้ามาแข่งขันใน อ๊อกซอน ซีเนียร์ลีก โดยมีคู่แข่งสำคัญในยุคนั้นเป็นสโมสรฟุตบอลเล็กๆอย่างสโมสรฟุตบอลคาวลีย์ และได้มีโอกาสเล่นในเอฟเอคัพเป็นครั้งแรกในปี 1931 โดยพบกับ สโมสรฟุตบอลฮาวสโลว์ ในรอบคัดเลือก ต่อมาสโมสรย้ายมาแข่งขันใน สปาร์ตัน ลีก ในปี 1947 ถึงปี 1948 และช่วงเวลาดังกล่าวสโมสรคริกเก็ต ได้ย้ายไปใช้สนามบริเวณค่ายทหารคาวลีย์ จึงได้ย้ายออกจากสนามมาเนอร์ กราวนด์ ที่ใช้ร่วมกับสโมสรฟุตบอลเฮดดิงตัน ยูไนเต็ด มาอย่างยาวนาน
ในปี ค.ศ. 1949 เฮดดิงตัน ยูไนเต็ด ได้สถานะเป็นสโมสรฟุตบอลระดับอาชีพ เมื่อได้เล่นใน เซาท์เทิร์นฟุตบอลลีก และได้เปลี่ยนชื่อสโมสรเป็น ออกซฟอร์ด ยูไนเต็ด หลังจากคว้าตำแหน่งรองแชมป์ เซาท์เทิร์นฟุตบอลลีก (พรีเมียร์ ดิวิชัน) ได้ในฤดูกาล 1959–1960
ฟุตบอลลีก
หลังจากเปลี่ยนชื่อสโมสรเป็น ออกซฟอร์ด ยูไนเต็ด สโมสรสร้างผลงานด้วยการคว้าแชมป์ "เซาท์เทิร์นฟุตบอลลีก พรีเมียร์ ดิวิชัน" ได้ 2 สมัยติดต่อกัน คือในฤดูกาล 1960–61 และ ฤดูกาล 1961–62
ต่อมาสโมสรได้รับเลือกให้เลื่อนชั้นสู่ฟุตบอลลีก จากการที่สโมสรฟุตบอลแอคคริงตัน สแตนลีย์ ในฟุตบอลลีก ดิวิชัน 4 (เดิม) ประสบกับสภาวะล้มละลาย จนต้องถอนทีมออกจากฟุตบอลลีก ทำให้สโมสรได้เข้ามาแข่งขันในดิวิชัน 4 (เดิม) แทนที่สโมสรแอคคริงตัน สแตนลีย์ ในฤดูกาล 1962–63
โดย 2 ฤดูกาลแรกในลีกอาชีพ สโมสรฟุตบอลออกซฟอร์ด ยูไนเต็ด จบฤดูกาลด้วยอันดับ 18 ก่อนที่ฤดูกาล 1964–65 สโมสรจะคว้าอันดับที่ 4 ในตารางคะแนน และเลื่อนชั้นสู่ฟุตบอลลีก ดิวิชัน 3 ได้สำเร็จ
สโมสรลงแข่งขันในฟุตบอลลีก ดิวิชัน 3 ได้เพียง 3 ปีก็สามารถคว้าแชมป์ดิวิชัน 3 ได้ในฤดูกาล 1967–68 พร้อมกับเลื่อนชั้นสู่ฟุตบอลลีก ดิวิชัน 2 โดยลงแข่งขันในฟุตบอลลีก ดิวิชัน 2 ได้ 8 ปี ก่อนจะตกชั้นกลับลงไปเล่นในดิวิชัน 3 เมื่อจบฤดูกาล 1975–76
ปี ค.ศ.1982 สโมสรออกซฟอร์ด ยูไนเต็ด ต้องประสบกับปัญหาทางการเงิน เมื่อไม่สามารถชำระหนี้สินที่ค้างกับธนาคารบาคเลย์ได้ ทำให้ โรเบิร์ต แม็กซ์เวลล์ ได้เข้ามาซื้อกิจการของสโมสร และจัดการกับปัญหาหนี้สินต่างๆ โดยในเดือนเมษายน ปี 1983 แม็กซ์เวลล์ เปิดเผยโครงการที่จะควบรวมกิจการกับสโมสรฟุตบอลเรดิง เพื่อสร้างสโมสรขึ้นมาใหม่ในชื่อ สโมสรฟุตบอลเธมส์ วัลลีย์ รอยัลส์ โดยมีจิม สมิธ เป็นผู้จัดการทีมและมี มอริซ อีแวนส์ ผู้จัดการทีมของเรดิง เป็นผู้ช่วย ซึ่งแนวคิดในการควบรวมกิจการดังกล่าว ได้รับการคัดค้านอย่างหนักจากแฟนบอลของทั้ง 2 สโมสรจนนำไปสู่การประท้วง ก่อนที่ประธานสโมสรของเรดิง จะล้มเลิกโครงการไปในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตามภายใต้การคุมทีมของจิม สมิธ สโมสรสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลลีก ดิวิชัน 3 ได้ในฤดูกาล 1983–84 ทำให้ได้กลับขึ้นไปเล่นในดิวิชัน 2 อีกครั้ง และเพียงแค่ฤดูกาลแรกที่กลับเข้ามาจิม สมิธ ก็สร้างผลงานได้อย่างน่าทึ่ง ด้วยการพาสโมสรคว้าแชมป์ดิวิชัน 2 ได้สำเร็จด้วยการมีคะแนนเหนือทีมอย่างเบอร์มิงแฮม ซิตี และแมนเชสเตอร์ซิตี นับได้ว่าเป็นการคว้าแชมป์ลีกและเลื่อนชั้น 2 สมัยติดต่อกัน อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรจะได้เล่นในลีกสูงสุดของอังกฤษอย่างฟุตบอลลีก ดิวิชัน 1
อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นไม่นาน จิม สมิธ ได้ลาออกเพื่อไปรับงานคุมทีมควีนส์ปาร์ก เรนเจอร์ส และสโมสรได้แต่งตั้งให้ มอริซ อีแวนส์ ผู้จัดการทีมเรดิง เข้ารับตำแหน่งแทน
ลีกสูงสุดและแชมป์ลีกคัพ
ออกซฟอร์ด ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ มอริซ อีแวนส์ จบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 18 ในฟุตบอลลีกดิวิชัน 1 ฤดูกาล1985–86 ซึ่งเป็นปีแรกในการแข่งขันบนลีกสูงสุดของสโมสร โดยสโมสรรอดพ้นจากการตกชั้นด้วยการเอาชนะสโมสรอาร์เซนอล ในนัดสุดท้ายของฤดูกาลไปได้ถึง 3–0 นอกจากนี้ในปีดังกล่าวยังสร้างปรากฏการณ์ด้วยการคว้าแชมป์ฟุตบอลลีกคัพ หรือ มิลค์ คัพ ตามชื่อผู้สนับสนุนในขณะนั้น ทั้งที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาบนลีกสูงสุดเป็นปีแรก
ฤดูกาล 1986–87 สโมสรต้องดิ้นรนหนีการตกชั้นบนลีกสูงสุดอีกครั้ง และโรเบิร์ต แม็กซ์เวลล์ ได้ลาออกจากตำแหน่งประธานสโมสรในเดือนพฤษภาคม 1987 เพื่อไปซื้อกิจการของสโมสรดาร์บี เคาน์ตี โดยได้มอบหมายให้ เควิน แม็กซ์เวลล์ ซึ่งเป็นลูกชายของเขาเข้ารับตำแหน่งประธานสโมสรแทน และสโมสรจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 18 ทำให้รอดพ้นจากการตกชั้นไปได้อีกฤดูกาลหนึ่ง
ต่อมา มอริซ อีแวนส์ ได้ถูกปลดออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมในเดือน มีนาคม 1988 จากผลงานของสโมสรที่ตกไปอยู่ท้ายตารางและสุ่มเสี่ยงในการตกชั้น โดยตำแหน่งผู้จัดการทีมถูกแทนที่โดย มาร์ค ลอว์เรนสัน อดีตกองหลังชื่อดังของสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ซึ่งในที่สุดลอว์เลนสัน ก็ไม่สามารถช่วยให้สโมสรรอดจากการตกชั้นจากลีกสูงสุดได้
หลังจากการแข่งขันฟุตบอลลีกดิวิชัน 2 (เดิม) ฤดูกาล 1988–89 เริ่มต้นไปได้เพียงแค่ 3 เดือน มาร์ค ลอว์เรนสัน ก็ลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม เนื่องจากเกิดความขัดแย้งกับประธานสโมสรที่ขายดีน ซอนเดอส์ กองหน้าทีมชาติเวลส์ ซึ่งเป็นผู้เล่นคนสำคัญไปให้กับดาร์บี เคาน์ตีอย่างไม่โปร่งใส โดยโรเบิร์ต แม็กซ์เวลล์ ซึ่งเป็นประธานสโมสรดาร์บี เคาน์ตี เป็นพ่อของ เควิน แม็กซ์เวลล์ ประธานสโมสรออกซฟอร์ด ยูไนเต็ด
ในปี ค.ศ. 1991 ภายหลังจาก โรเบิร์ต แม็กซ์เวลล์ ได้เสียชีวิตลง ส่งผลให้บรรดาทรัพย์สินต่างๆของเขาซึ่งรวมถึงสโมสรออกซฟอร์ด ยูไนเต็ด ต้องถูกขายเพื่อนำมาชำระหนี้สินต่างๆ โดยบริษัท ไบโอแมส รีไซคลิง จำกัด ได้เข้ามาซื้อกิจการของสโมสรไปดูแลแทน และแต่งตั้งให้ไบรอัน ฮอร์ตัน เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ ภายใต้การคุมทีมของไบรอัน ฮอร์ตัน สโมสรจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 21 ในตารางคะแนนดิวิชัน 2 (เดิม) ฤดูกาล 1991–1992 โดยมีคะแนนเหนือโซนตกชั้นเพียงแค่ 2 คะแนน
ฤดูกาล 1992–1993 มีการก่อตั้งพรีเมียร์ลีกเป็นปีแรก ทำให้ฟุตบอลลีกดิวิชัน 2 (เดิม) เปลี่ยนชื่อเป็นดิวิชัน 1 โดยสโมสรได้อันดับที่ 14 ในดิวิชัน 1 เมื่อจบฤดูกาล ก่อนที่ต่อมา ไบรอัน ฮอร์ตัน จะย้ายไปรับงานคุมทีมที่สโมสรแมนเชสเตอร์ซิตีในพรีเมียร์ลีก ในเดือนสิงหาคม 1993 โดยระหว่างที่สโมสรกำลังหาผู้จัดการทีม ได้มอบหมายให้ มอริซ อีแวนส์ กลับมาคุมทีมเป็นการชั่วคราว และแต่งตั้งให้ เดนิส สมิธ มาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของสโมสร ภายใต้การคุมทีมของสมิธ สโมสรมีผลงานย่ำแย่เมื่อชนะเพียงแค่ 4 นัด จากการแข่งขันใน 11 นัดสุดท้ายของฤดูกาล 1993–1994 และตกชั้นลงจากดิวิชัน 1 ในที่สุด
ผู้เล่นปัจจุบัน
- ข้อมูลล่าสุดวันที่ 3 สิงหาคม ค.ศ. 2022
หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ
|
|
ผู้เล่นที่ปล่อยยืม
หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ
|
เกียรติประวัติ
- ฟุตบอลลีกคัพ
- แชมป์: 1985–86
- เซาท์เทิร์น ฟุตบอลลีก
- พรีเมียร์ดิวิชัน แชมป์: 1952–53, 1960–61, 1961–62
- พรีเมียร์ดิวิชัน รองแชมป์: 1953–54, 1959–60
- เซาท์เทิร์นลีกคัพ
- แชมป์: 1952–53, 1953–54
- ฟุตบอลลีก
- ก่อนก่อตั้งพรีเมียร์ลีก
- ดิวิชัน 2 (เดิม): แชมป์ 1984–85
- ดิวิชัน 3 (เดิม): แชมป์ 1967–68, 1983–84
- ดิวิชัน 4 (เดิม): อันดับสี่ 1964–65
- หลังก่อตั้งพรีเมียร์ลีก
- ดิวิชัน 2 (ปัจจุบันคือ ลีกวัน): รองแชมป์ 1995–96
- ฟุตบอลลีกทู: รองแชมป์ 2015–16
- ก่อนก่อตั้งพรีเมียร์ลีก
- ฟุตบอลคอนเฟอเรนซ์
- คอนเฟอเรนซ์ พรีเมียร์ ชนะรอบเพลย์ออฟ: 2009–10
สถิติ
สถิติผู้เล่น
- ผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงสนาม
- ผู้เล่นอายุมากที่สุดที่ได้ลงสนาม
- ผู้เล่นที่ลงสนามให้สโมสรมากที่สุด
อันดับ | ชื่อ | ตำแหน่ง | ช่วงปี | ลีกa | เอฟเอคัพ | ลีกคัพb | อื่นๆc | รวม | ดูเพิ่ม |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | รอน แอตคินสัน | กองกลาง | 1959–1971 | 508 (1) | 33 (0) | 18 (0) | 0 (0) | 559 (1) | |
2 | จอห์น ชูเคอร์ | กองหน้า | 1962–1977 | 473 (5) | 29 (0) | 24 (0) | 3 (0) | 529 (5) | |
3 | แกรี่ บริกส์ | กองหลัง | 1978–1989 | 418 (2) | 24 (0) | 50 (0) | 14 (0) | 506 (2) | |
4 | โคลิน คลาร์ก | กองหลัง | 1966–1978 | 443 (1) | 23 (0) | 27 (0) | 3 (0) | 496 (1) | |
5 | ไซริล บีวอน | กองหลัง | 1959–1969 | 416 (2) | 27 (1) | 18 (0) | 0 (0) | 461 (3) | |
6 | เลส โรบินสัน | กองหลัง | 1990–2000 | 380 (5) | 22 (0) | 36 (0) | 16 (0) | 454 (5) | |
7 | มอริซ ไคลน์ | กองหลัง | 1959–1969 | 403 (0) | 26 (0) | 19 (0) | 0 (0) | 448 (0) | |
8 | รอย เบอร์ตัน | ผู้รักษาประตู | 1971–1982 | 395 (0) | 16 (0) | 28 (0) | 8 (0) | 447 (0) | |
9 | โจอี้ บีแชมพ์ | กองกลาง | 1989–1994 1995–2002 | 321 (41) | 21 (3) | 26 (3) | 9 (5) | 377 (52) | |
10 | เกรแฮม แอตคินสัน | กองหน้า | 1959–1974 | 357 (4) | 19 (0) | 17 (0) | 1 (0) | 394 (4) |
- a. รวม ฟุตบอลลีก, เนชันนัลลีก และ เซาเทิร์น ฟุตบอลลีก
- b. รวม ฟุตบอลลีกคัพ และ เซาเทิร์นลีก คัพ
- c. ได้แก่ ฟุตบอลลีก โทรฟี, ฟุตบอลลีก กรุป คัพ, แองโกล-อิตาเลียน คัพ, ฟูล เมมเบอร์ส คัพ และ เอฟเอ โทรฟี
- ผู้เล่นที่ยิงประตูมากที่สุดในหนึ่งฤดูกาล (นับรวมเมื่อครั้งยังแข่งในลีกสมัครเล่น)
- ผู้เล่นที่ยิงประตูมากที่สุดในหนึ่งฤดูกาล (ไม่รวมยุคแข่งลีกสมัครเล่น)
- ผู้เล่นที่ยิงประตูในฟุตบอลลีกมากที่สุดในหนึ่งฤดูกาล
- ผู้เล่นที่ยิงประตูให้สโมสรมากที่สุด
อันดับ | ชื่อ | ตำแหน่ง | ช่วงปี | ลีกa | เอฟเอคัพ | ลีกคัพb | อื่นๆc | รวม | ดูเพิ่ม |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | เกรแฮม แอตคินสัน | กองหน้า | 1959–1974 | 97 (361) | 7 (19) | 3 (17) | 0 (1) | 107 (398) | |
2 | เจมส์ คอนสตาเบิล | กองหน้า | 2008–2014 | 90 (246) | 7 (15) | 2 (6) | 7 (13) | 106 (280) | |
3 | โทนี่ โจนส์ | กองกลาง | 1959–1967 | 89 (318) | 9 (24) | 2 (14) | 0 (0) | 100 (356) | |
4 | จอห์น อัลดริดจ์ d | กองหน้า | 1984–1987 | 72 (114) | 2 (5) | 14 (17) | 2 (5) | 90 (141) | |
5 | ปีเตอร์ โฟลี่ | กองหน้า | 1975–1983 | 71 (277) | 9 (13) | 8 (27) | 2 (14) | 90 (321) | |
6 | โจอี้ บีแชมพ์ | กองกลาง | 1989–1994 1995–2002 | 64 (362) | 4 (24) | 10 (29) | 0 (14) | 78 (429) | |
7 | แฮร์รี่ ไบรอัน "บัด" เฮาจ์ตัน d | กองหน้า | 1961–1963 | 69 (106) | 5 (5) | 1 (3) | 0 (0) | 75 (114) | |
8 | พอล มูดี้ | กองหน้า | 1994–1997 2001–2002 | 63 (171) | 5 (9) | 4 (14) | 3 (3) | 75 (197) | |
9 | วิลเลียม '"บิลลี่" รีส | กองหน้า | 1955–1959 | 53 (103) | 3 (11) | 2 (8) | 0 (0) | 58 (122) | |
10 | แมตต์ เมอร์ฟี่ | กองกลาง | 1993–2001 | 38 (248) | 6 (15) | 6 (16) | 5 (11) | 55 (290) |
- a. Includes , and .
- b. Includes Football League Cup and .
- c. Includes , , , , , and .
- d. Where two players scored the same number of goals, the player with the fewer appearances is listed first.
- ผู้เล่นที่สโมสรขายแพงที่สุด
- คีมาร์ รูฟ : 3 ล้าน ปอนด์ (ไป ลีดส์ ยูไนเต็ด, กรกฎาคม ค.ศ. 2016)
- ผู้เล่นที่สโมสรซื้อแพงที่สุด
สโมสรพันธมิตร
อ้างอิง
- General
- Bickerton, Bob (1998). Club Colours. Hamlyn. ISBN .
- Howland, Andy and Roger (1989). Oxford United: A Complete Record (1893–1989). Breedon Books. ISBN .
- Brodetsky, Martin (2009). Oxford United: The Complete Record. Breedon Books. ISBN .
- "Club Statement: Board Changes". Oxford United F.C. 27 September 2022. จากแหล่งเดิมเมื่อ 11 October 2022. สืบค้นเมื่อ 27 September 2022.
- "Des Buckingham confirmed as Oxford United head coach". Oxford United Football Club. 16 November 2023. จากแหล่งเดิมเมื่อ 16 November 2023. สืบค้นเมื่อ 16 November 2023.
- รู้จัก“อ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด”ทีมลูกหนังล่าสุดของคนไทย
- Brodetsky, Martin; Brunt, Heather; Williams, Chris; Crabtree, David. . Oxford United. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-09-15. สืบค้นเมื่อ 11 September 2007.
- Jenkins, Stephanie. "Headington United History". Headington.org. สืบค้นเมื่อ 26 October 2007.
- "1985/1986 Third Division Table". Football Club History Database. สืบค้นเมื่อ 13 September 2007.
- "Oxford United – First Team squad". OUFC.co.uk. Oxford United F.C. สืบค้นเมื่อ 12 August 2019.
- Howland p.390.
- "1995/96 Division Two Table". Football Club History Database. สืบค้นเมื่อ 4 February 2009.
- "League Records: Past Winners". . สืบค้นเมื่อ 4 February 2009.
- "Oxford United 3–1 York City". BBC News. 16 May 2010. สืบค้นเมื่อ 21 May 2010.
- Brodetsky. Oxford United: The Complete Record, p.185.
- Howland. Oxford United: A Complete Record, p.394.
- Brodetsky. Oxford United: The Complete Record, pp.447–448
- Brodetsky. Oxford United: The Complete Record, p.485
- Brodetsky. Oxford United: The Complete Record, p.451
- Brodetsky. Oxford United: The Complete Record, pp.454–455
- Brodetsky. Oxford United: The Complete Record, p.449
- Brodetsky. Oxford United: The Complete Record, pp.482–483
- Brodetsky. Oxford United: The Complete Record, p.471
- Brodetsky. Oxford United: The Complete Record, p.453
- Brodetsky. Oxford United: The Complete Record, p.447
- Brodetsky. Oxford United: The Complete Record, p.359
- Howland. Oxford United: A Complete Record, p.199
- "James Constable Appearances". Rage Online. สืบค้นเมื่อ 2010-12-22.
- Brodetsky. Oxford United: The Complete Record, pp.469–470
- Brodetsky. Oxford United: The Complete Record, p.446
- Brodetsky. Oxford United: The Complete Record, p.461
- Brodetsky. Oxford United: The Complete Record, p.467
- Brodetsky. Oxford United: The Complete Record, p.476
- Brodetsky. Oxford United: The Complete Record, p.481
- Brodetsky. Oxford United: The Complete Record, p.477
- ""ยังสิงห์ หาดใหญ่" จับมือ "อ็อกฟอร์ด ยูไนเต็ด" คัดนักเตะไปฝึกบอลที่อังกฤษ". สืบค้นเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2022.
แหล่งข้อมูลอื่น
- สโมสรฟุตบอลออกซฟอร์ดยูไนเต็ด ที่เฟซบุ๊ก
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
somsrfutbxlxxksfxrd yuinetd epnsomsrfutbxlxachiphinemuxngxxksfxrd thimcalngaekhngkhninxiexfaexlaechmepiynchip sungepnradbthi 2 khxngrabblikfutbxlxngkvs invdukal 2024 25 inthanaaechmpephlyxxf prathansomsrkhuxaekrnth efxrkusn eds bkkingaehmepnhwhnaokhch aelaexleliyt mwrepnkptnthimxxksfxrd yuinetdchuxetmOxford United Football Clubchayadi xskxtng1893 131 pithiaelw 1893 inchuxehddingtn yuinetd snamkhssm setediymkhwamcu12 500prathansmvththi thnakaycnsuththiphucdkarDes Buckinghamlikxiexfaexlaechmepiynchip2023 24likwn xndb 5 eluxnchnphankarephlyxxf ewbistewbistsomsrsichudthimehyasichudthimeyuxn somsrkxtngkhunemuxwnthi 27 tulakhm 1893 inchux somsrfutbxlehddingtn ehddingtnrwmekhakbehddingtnkhwxrri sungepnkhuaekhnginthxngthinemuxwnthi 25 krkdakhm 1911 aelaepliynchuxepnehddingtnyuinetd somsridichchuxpccubninpi 1960 ekharwmfutbxllikinpi 1962 hlngcakkhwaaechmpesathethirnfutbxllik aelakhunsudiwichn 2 inpi 1968 yukhthisomsrprasbkhwamsaercsungsudxyuinchwngpi kh s 1984 1986 emuxsomsrideluxnchnsudiwichn 1 edim sungepnliksungsudkhxngxngkvsinkhnann aelasamarthkhwaaechmpfutbxllikkhph milkh khph idinpi 1986 dwykarexachnasomsrkhwinspark ernecxrs inndchingchnaelisthisnamkilaewmbliy ipidthung 3 0 thamklangphuchmkwa 9 hmunkhn aetklbimsamarthlngaekhngkhninraykarradbthwipxyangyufakhphid ephraainpidngklawsomsrfutbxlcakxngkvsxyurahwangthuklngothsaebnodyyufacakkrniekidehtukarnosknatkrrmehyeslthipraethsebleyiym txmasomsrmixntxngtkchncakliksungsudinpi 1988 aelamiphlngantktalngxyangtxenuxngcntxngipaekhngkhninradbfutbxlkhxnefxernssungepnlikkungxachiphinpi kh s 2006 odynbepnkhrngaerkinprawtisastrwngkarfutbxlxngkvsthisomsrthiekhykhwaaechmpfutbxllikkhphtxngtkchnlngipelninfutbxlkhxnefxerns xyangirktamsomsrichewla 4 pi inkareluxnchnklbkhunmasulikxachiphxikkhrnginpi 2010 hlngcakexachnasomsrfutbxlyxrk siti idinkaraekhngkhnrxbephlyxxf khxngfutbxlkhxnefxerns vdukal 2009 10 thisnamkilaewmbliy aelaideluxnchnkhunsufutbxllikthu kxnthicasamarthkhwataaehnngrxngaechmpfutbxllikthu invdukal 2015 2016 aelaideluxnchnkhunsulikwn sahrbphuelnthikhrxngsthitilngsnamihkbsomsrmakthisudkhux rxn aexthkhinsn thilngsnamihkbsomsremuxrwmthukraykarmakthung 560 nd kxnthiekhacaklayepnphucdkarthimkhxngaemnechsetxryuinetdinewlatxma swnphuthilngsnammakthisudemuxnbechphaakaraekhngkhninfutbxllik khux cxhn chuekhxr odylngelninlikip 478 nd indansthitikaryingpratu ekraehm aexthkhinsn nxngchaykhxng rxn aexthkhinsn idrbkarbnthukwaepnphuyingpratusungsudkhxngsomsrthi 107 pratu emuxrwmthukraykar ineduxnkumphaphnth kh s 2018 thangsomsridprakasepnthangkarwaklumnaythuncakpraethsithyidekhasuxkickardwykarepnphuthuxhunrayihy odynaysmvththi thnakaycnsuththi nkthurkicchawithyrbtaaehnngepnprathansomsrkhnihmprawtisomsrehddingtn yuinetd somsrkxtngkhuninpi kh s 1893 phayitchuxsomsrfutbxlehddingtnaelaidephimkhawa yuinetd ekhaipinchuxkhxngsomsrinpi kh s 1911 hlngcakkhwbrwmkickarkbsomsrfutbxlehddingtn khwxri ehddingtn yuinetd immisnamehyapracaepnkhxngtwexng cnkrathnginpi kh s 1913 somsridlngthunsrangsnam wuthethns fild briewnthnnlxndxn ord ephuxepnsnamehyaaehngaerkkhxngsomsr aetinewlatxmaphunthibriewndngklaw thukcdihepnphunthithitxngmikarburnaaelacdphngemuxngihm thaihsomsrthukyayxxkcakbriewnnninpi kh s 1920 pi kh s 1925 somsrlngthunsrangsnamihmbriewnthnnlxndxn ord xikkhrng aelaichchuxsnamwa maenxr krawnd odyichaekhngkhnfutbxlslbkbkhrikekt karsngthimekharwmaekhngkhninraykartangkhxngsomsr inpi kh s 1899 somsrfutbxlehddingtn idekharwmaekhngkhninlikfutbxlsmkhrelnxyang xxksfxrdechxr distriklik diwichn 2 txmaphayhlngcakmikarprbokhrngsrangrabbfutbxlxngkvsinpi kh s 1919 likidepliynchuxepn xxksfxrdechxr cueniyrlik pi kh s 1921 ehddingtn yuinetd idekhamaaekhngkhnin xxksxn sieniyrlik odymikhuaekhngsakhyinyukhnnepnsomsrfutbxlelkxyangsomsrfutbxlkhawliy aelaidmioxkaselninexfexkhphepnkhrngaerkinpi 1931 odyphbkb somsrfutbxlhawsolw inrxbkhdeluxk txmasomsryaymaaekhngkhnin spartn lik inpi 1947 thungpi 1948 aelachwngewladngklawsomsrkhrikekt idyayipichsnambriewnkhaythharkhawliy cungidyayxxkcaksnammaenxr krawnd thiichrwmkbsomsrfutbxlehddingtn yuinetd maxyangyawnan inpi kh s 1949 ehddingtn yuinetd idsthanaepnsomsrfutbxlradbxachiph emuxidelnin esathethirnfutbxllik aelaidepliynchuxsomsrepn xxksfxrd yuinetd hlngcakkhwataaehnngrxngaechmp esathethirnfutbxllik phriemiyr diwichn idinvdukal 1959 1960 futbxllik hlngcakepliynchuxsomsrepn xxksfxrd yuinetd somsrsrangphlngandwykarkhwaaechmp esathethirnfutbxllik phriemiyr diwichn id 2 smytidtxkn khuxinvdukal 1960 61 aela vdukal 1961 62 txmasomsridrbeluxkiheluxnchnsufutbxllik cakkarthisomsrfutbxlaexkhkhringtn saetnliy infutbxllik diwichn 4 edim prasbkbsphawalmlalay cntxngthxnthimxxkcakfutbxllik thaihsomsridekhamaaekhngkhnindiwichn 4 edim aethnthisomsraexkhkhringtn saetnliy invdukal 1962 63 ody 2 vdukalaerkinlikxachiph somsrfutbxlxxksfxrd yuinetd cbvdukaldwyxndb 18 kxnthivdukal 1964 65 somsrcakhwaxndbthi 4 intarangkhaaenn aelaeluxnchnsufutbxllik diwichn 3 idsaerc somsrlngaekhngkhninfutbxllik diwichn 3 idephiyng 3 piksamarthkhwaaechmpdiwichn 3 idinvdukal 1967 68 phrxmkbeluxnchnsufutbxllik diwichn 2 odylngaekhngkhninfutbxllik diwichn 2 id 8 pi kxncatkchnklblngipelnindiwichn 3 emuxcbvdukal 1975 76 pi kh s 1982 somsrxxksfxrd yuinetd txngprasbkbpyhathangkarengin emuximsamarthcharahnisinthikhangkbthnakharbakhelyid thaih orebirt aemksewll idekhamasuxkickarkhxngsomsr aelacdkarkbpyhahnisintang odyineduxnemsayn pi 1983 aemksewll epidephyokhrngkarthicakhwbrwmkickarkbsomsrfutbxlerding ephuxsrangsomsrkhunmaihminchux somsrfutbxlethms wlliy rxyls odymicim smith epnphucdkarthimaelami mxris xiaewns phucdkarthimkhxngerding epnphuchwy sungaenwkhidinkarkhwbrwmkickardngklaw idrbkarkhdkhanxyanghnkcakaefnbxlkhxngthng 2 somsrcnnaipsukarprathwng kxnthiprathansomsrkhxngerding calmelikokhrngkaripinewlatxma xyangirktamphayitkarkhumthimkhxngcim smith somsrsamarthkhwaaechmpfutbxllik diwichn 3 idinvdukal 1983 84 thaihidklbkhunipelnindiwichn 2 xikkhrng aelaephiyngaekhvdukalaerkthiklbekhamacim smith ksrangphlnganidxyangnathung dwykarphasomsrkhwaaechmpdiwichn 2 idsaercdwykarmikhaaennehnuxthimxyangebxrmingaehm siti aelaaemnechsetxrsiti nbidwaepnkarkhwaaechmplikaelaeluxnchn 2 smytidtxkn xikthngyngepnkhrngaerkinprawtisastrsomsrcaidelninliksungsudkhxngxngkvsxyangfutbxllik diwichn 1 xyangirktamhlngcaknnimnan cim smith idlaxxkephuxiprbngankhumthimkhwinspark ernecxrs aelasomsridaetngtngih mxris xiaewns phucdkarthimerding ekharbtaaehnngaethn liksungsudaelaaechmplikkhph thwyaechmplikkhph milkh khph thipccubnyngkhngtngaesdngihchmxyuthisomsr xxksfxrd yuinetd phayitkarkhumthimkhxng mxris xiaewns cbvdukaldwyxndbthi 18 infutbxllikdiwichn 1 vdukal1985 86 sungepnpiaerkinkaraekhngkhnbnliksungsudkhxngsomsr odysomsrrxdphncakkartkchndwykarexachnasomsrxaresnxl inndsudthaykhxngvdukalipidthung 3 0 nxkcakniinpidngklawyngsrangpraktkarndwykarkhwaaechmpfutbxllikkhph hrux milkh khph tamchuxphusnbsnuninkhnann thngthiephingeluxnchnkhunmabnliksungsudepnpiaerk vdukal 1986 87 somsrtxngdinrnhnikartkchnbnliksungsudxikkhrng aelaorebirt aemksewll idlaxxkcaktaaehnngprathansomsrineduxnphvsphakhm 1987 ephuxipsuxkickarkhxngsomsrdarbi ekhanti odyidmxbhmayih ekhwin aemksewll sungepnlukchaykhxngekhaekharbtaaehnngprathansomsraethn aelasomsrcbvdukaldwyxndbthi 18 thaihrxdphncakkartkchnipidxikvdukalhnung txma mxris xiaewns idthukpldxxkcaktaaehnngphucdkarthimineduxn minakhm 1988 cakphlngankhxngsomsrthitkipxyuthaytarangaelasumesiynginkartkchn odytaaehnngphucdkarthimthukaethnthiody markh lxwernsn xditkxnghlngchuxdngkhxngsomsrfutbxlliewxrphul sunginthisudlxwelnsn kimsamarthchwyihsomsrrxdcakkartkchncakliksungsudid hlngcakkaraekhngkhnfutbxllikdiwichn 2 edim vdukal 1988 89 erimtnipidephiyngaekh 3 eduxn markh lxwernsn klaxxkcaktaaehnngphucdkarthim enuxngcakekidkhwamkhdaeyngkbprathansomsrthikhaydin sxnedxs kxnghnathimchatiewls sungepnphuelnkhnsakhyipihkbdarbi ekhantixyangimoprngis odyorebirt aemksewll sungepnprathansomsrdarbi ekhanti epnphxkhxng ekhwin aemksewll prathansomsrxxksfxrd yuinetd inpi kh s 1991 phayhlngcak orebirt aemksewll idesiychiwitlng sngphlihbrrdathrphysintangkhxngekhasungrwmthungsomsrxxksfxrd yuinetd txngthukkhayephuxnamacharahnisintang odybristh iboxaems riiskhling cakd idekhamasuxkickarkhxngsomsripduaelaethn aelaaetngtngihibrxn hxrtn epnphucdkarthimkhnihm phayitkarkhumthimkhxngibrxn hxrtn somsrcbvdukaldwyxndbthi 21 intarangkhaaenndiwichn 2 edim vdukal 1991 1992 odymikhaaennehnuxosntkchnephiyngaekh 2 khaaenn vdukal 1992 1993 mikarkxtngphriemiyrlikepnpiaerk thaihfutbxllikdiwichn 2 edim epliynchuxepndiwichn 1 odysomsridxndbthi 14 indiwichn 1 emuxcbvdukal kxnthitxma ibrxn hxrtn cayayiprbngankhumthimthisomsraemnechsetxrsitiinphriemiyrlik ineduxnsinghakhm 1993 odyrahwangthisomsrkalnghaphucdkarthim idmxbhmayih mxris xiaewns klbmakhumthimepnkarchwkhraw aelaaetngtngih ednis smith maepnphucdkarthimkhnihmkhxngsomsr phayitkarkhumthimkhxngsmith somsrmiphlnganyaaeyemuxchnaephiyngaekh 4 nd cakkaraekhngkhnin 11 ndsudthaykhxngvdukal 1993 1994 aelatkchnlngcakdiwichn 1 inthisudphuelnpccubnkhxmullasudwnthi 3 singhakhm kh s 2022 hmayehtu thngchatithipraktbngbxkihthrabwaphuelnkhnnnsamarthelnihkbchatiidtamkdkhxngfifatamkhwamehmaasm ephraaphuelnbangkhnxacthuxsxngsychati elkh taaehnng sychati phueln1 GK2 DF4 DF5 DF6 MF7 FW8 MF9 FW10 FW11 FW13 GK14 DF15 DF kptn elkh taaehnng sychati phueln16 DF17 MF18 MF21 GK Edward McGinty23 FW25 MF Oisin Smyth26 DF27 MF30 FW39 FW42 DF59 FWphuelnthiplxyyum hmayehtu thngchatithipraktbngbxkihthrabwaphuelnkhnnnsamarthelnihkbchatiidtamkdkhxngfifatamkhwamehmaasm ephraaphuelnbangkhnxacthuxsxngsychati elkh taaehnng sychati phuelnekiyrtiprawtifutbxllikkhph aechmp 1985 86 esathethirn futbxllik phriemiyrdiwichn aechmp 1952 53 1960 61 1961 62 phriemiyrdiwichn rxngaechmp 1953 54 1959 60 esathethirnlikkhph aechmp 1952 53 1953 54 futbxllik kxnkxtngphriemiyrlik diwichn 2 edim aechmp 1984 85 diwichn 3 edim aechmp 1967 68 1983 84 diwichn 4 edim xndbsi 1964 65 hlngkxtngphriemiyrlik diwichn 2 pccubnkhux likwn rxngaechmp 1995 96 futbxllikthu rxngaechmp 2015 16 futbxlkhxnefxerns khxnefxerns phriemiyr chnarxbephlyxxf 2009 10sthitisthitiphueln phuelnxayunxythisudthiidlngsnam ecsn siokhl 16 pi 149 wn phb aemnsfild thawn 7 knyayn 1976 phuelnxayumakthisudthiidlngsnam imekhil duebxrri 37 pi 195 wn phb aexkhkhringtn saetnliy 27 emsayn 2013 phuelnthilngsnamihsomsrmakthisudxndb chux taaehnng chwngpi lika exfexkhph likkhphb xunc rwm duephim1 rxn aextkhinsn kxngklang 1959 1971 509 508 1 33 33 0 18 18 0 00 0 0 560 559 1 2 cxhn chuekhxr kxnghna 1962 1977 478 473 5 29 29 0 24 24 0 03 3 0 534 529 5 3 aekri briks kxnghlng 1978 1989 420 418 2 24 24 0 50 50 0 14 14 0 508 506 2 4 okhlin khlark kxnghlng 1966 1978 444 443 1 23 23 0 27 27 0 03 3 0 497 496 1 5 isril biwxn kxnghlng 1959 1969 418 416 2 28 27 1 18 18 0 00 0 0 464 461 3 6 els orbinsn kxnghlng 1990 2000 385 380 5 22 22 0 36 36 0 16 16 0 459 454 5 7 mxris ikhln kxnghlng 1959 1969 403 403 0 26 26 0 19 19 0 00 0 0 448 448 0 8 rxy ebxrtn phurksapratu 1971 1982 395 395 0 16 16 0 28 28 0 08 8 0 447 447 0 9 ocxi biaechmph kxngklang 1989 1994 1995 2002 362 321 41 24 21 3 29 26 3 14 9 5 429 377 52 10 ekraehm aextkhinsn kxnghna 1959 1974 361 357 4 19 19 0 17 17 0 01 1 0 398 394 4 a rwm futbxllik enchnnllik aela esaethirn futbxllik b rwm futbxllikkhph aela esaethirnlik khph c idaek futbxllik othrfi futbxllik krup khph aexngokl xitaeliyn khph ful emmebxrs khph aela exfex othrfi phuelnthiyingpratumakthisudinhnungvdukal nbrwmemuxkhrngyngaekhnginliksmkhreln aehrri ibrxn bd ehactn 43 pratu vdukal 1961 62 phuelnthiyingpratumakthisudinhnungvdukal imrwmyukhaekhngliksmkhreln cxhn xldridc 34 pratu vdukal 1984 85 phuelnthiyingpratuinfutbxllikmakthisudinhnungvdukal cxhn xldridc 30 pratu vdukal 1984 85 phuelnthiyingpratuihsomsrmakthisudxndb chux taaehnng chwngpi lika exfexkhph likkhphb xunc rwm duephim1 ekraehm aextkhinsn kxnghna 1959 1974 97 97 361 7 7 19 03 3 17 0 0 1 107 107 398 2 ecms khxnstaebil kxnghna 2008 2014 90 90 246 7 7 15 02 2 6 7 7 13 106 106 280 3 othni ocns kxngklang 1959 1967 89 89 318 9 9 24 02 2 14 0 0 0 100 100 356 4 cxhn xldridc d kxnghna 1984 1987 72 72 114 2 2 5 14 14 17 2 2 5 090 Z 90 141 5 pietxr ofli kxnghna 1975 1983 71 71 277 9 9 13 08 8 27 2 2 14 090 A 90 321 6 ocxi biaechmph kxngklang 1989 1994 1995 2002 64 64 362 4 4 24 10 10 29 0 0 14 078 78 429 7 aehrri ibrxn bd ehactn d kxnghna 1961 1963 69 69 106 5 5 5 01 1 3 0 0 0 075 Z 75 114 8 phxl mudi kxnghna 1994 1997 2001 2002 63 63 171 5 5 9 04 4 14 3 3 3 075 A 75 197 9 wileliym billi ris kxnghna 1955 1959 53 53 103 3 3 11 02 2 8 0 0 0 058 58 122 10 aemtt emxrfi kxngklang 1993 2001 38 38 248 6 6 15 06 6 16 5 5 11 055 55 290 a Includes and b Includes Football League Cup and c Includes and d Where two players scored the same number of goals the player with the fewer appearances is listed first phuelnthisomsrkhayaephngthisud khimar ruf 3 lan pxnd ip lids yuinetd krkdakhm kh s 2016 phuelnthisomsrsuxaephngthisud din windas 4 7 aesn pxnd cak xebxrdin krkdakhm kh s 1998 somsrphnthmitryngsingh hadihy yuinetdxangxingGeneralBickerton Bob 1998 Club Colours Hamlyn ISBN 0 600 59542 0 Howland Andy and Roger 1989 Oxford United A Complete Record 1893 1989 Breedon Books ISBN 0 907969 52 6 Brodetsky Martin 2009 Oxford United The Complete Record Breedon Books ISBN 978 1 85983 715 3 Club Statement Board Changes Oxford United F C 27 September 2022 cakaehlngedimemux 11 October 2022 subkhnemux 27 September 2022 Des Buckingham confirmed as Oxford United head coach Oxford United Football Club 16 November 2023 cakaehlngedimemux 16 November 2023 subkhnemux 16 November 2023 ruck xxksfxrd yuinetd thimlukhnnglasudkhxngkhnithy Brodetsky Martin Brunt Heather Williams Chris Crabtree David Oxford United khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 09 15 subkhnemux 11 September 2007 Jenkins Stephanie Headington United History Headington org subkhnemux 26 October 2007 1985 1986 Third Division Table Football Club History Database subkhnemux 13 September 2007 Oxford United First Team squad OUFC co uk Oxford United F C subkhnemux 12 August 2019 Howland p 390 1995 96 Division Two Table Football Club History Database subkhnemux 4 February 2009 League Records Past Winners subkhnemux 4 February 2009 Oxford United 3 1 York City BBC News 16 May 2010 subkhnemux 21 May 2010 Brodetsky Oxford United The Complete Record p 185 Howland Oxford United A Complete Record p 394 Brodetsky Oxford United The Complete Record pp 447 448 Brodetsky Oxford United The Complete Record p 485 Brodetsky Oxford United The Complete Record p 451 Brodetsky Oxford United The Complete Record pp 454 455 Brodetsky Oxford United The Complete Record p 449 Brodetsky Oxford United The Complete Record pp 482 483 Brodetsky Oxford United The Complete Record p 471 Brodetsky Oxford United The Complete Record p 453 Brodetsky Oxford United The Complete Record p 447 Brodetsky Oxford United The Complete Record p 359 Howland Oxford United A Complete Record p 199 James Constable Appearances Rage Online subkhnemux 2010 12 22 Brodetsky Oxford United The Complete Record pp 469 470 Brodetsky Oxford United The Complete Record p 446 Brodetsky Oxford United The Complete Record p 461 Brodetsky Oxford United The Complete Record p 467 Brodetsky Oxford United The Complete Record p 476 Brodetsky Oxford United The Complete Record p 481 Brodetsky Oxford United The Complete Record p 477 yngsingh hadihy cbmux xxkfxrd yuinetd khdnketaipfukbxlthixngkvs subkhnemux 7 kumphaphnth 2022 aehlngkhxmulxunsomsrfutbxlxxksfxrdyuinetd thiefsbuk