หินดำ (อาหรับ: ٱلْحَجَرُ ٱلْأَسْوَد, อัลฮะญะรุลอัสวัด) เป็นหินที่ตั้งอยู่ที่มุมตะวันออกของกะอ์บะฮ์ อาคารโบราณที่อยู่ตรงกลางมัสยิดอัลฮะรอมในมักกะฮ์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย มุสลิมเคารพหินนี้เป็นเรลิกของอิสลาม ซึ่งมีธรรมเนียมมุสลิมระบุว่าหินนี้มีอายุตั้งแต่สมัย
หินที่กะอ์บะฮ์ก้อนนี้ได้รับการเคารพบูชาในสมัยก่อนการมาของอิสลาม ตามธรรมเนียมอิสลามระบุว่า ศาสดามุฮัมมัดนำหินก้อนนี้มาติดที่กำแพงกะอ์บะฮ์ใน ค.ศ. 605 ห้าปีก่อนได้รับ นับตั้งแต่นั้ันมา หินนั้นถูกทำให้แตกเป็นชิ้น ๆ และปัจจุบันนำไปครอบด้วยเงินที่มุมกะอ์บะฮ์ รูปร่างหินเป็นหินสีเข้มที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ ซึ่งถูกขัดให้เรียบด้วยมือของผู้แสวงบุญ และมักได้รับการกล่าวถึงเป็นอุกกาบาต
ผู้แสวงบุญมุสลิมเดินวนรอบกะอ์บะฮ์ (เฏาะวาฟ) ในช่วงฮัจญ์ และมีหลายคนพยายามหยุดเพื่อจุมพิตหินดำ โดยเลียนแบบการจูบตามธรรมเนียมอิสลามที่บันทึกไว้ว่าได้รับจากมุฮัมมัด แม้ว่ามุสลิมให้การเคารพหินดำ แต่พวกเขาไม่ได้บูชามัน
รูปลักษณ์
หินดำเคยเป้นหินก้อนเดียว แต่ปัจจุบันประกอบด้วยชิ้นส่วนหลายชิ้นที่ประสานเข้าด้วยกัน โดยมีกรอบเงินที่ยึดด้วยตะปูเงินเข้ากับผนังด้านนอกของกะอ์บะฮ์อยู่ล้อมรอบหินนี้ ชิ้นส่วนเหล่านี้ประกอบด้วยชิ้นส่วนขนาดเล็กกว่าซึ่งรวมกันเป็นชิ้นส่วนหินเจ็ดหรือแปดชิ้นที่มองเห็นได้ในปัจจุบัน ส่วนที่เปิดเผยของหินมีขนาดประมาณ 20 เซนติเมตร (7.9 นิ้ว) กับ 16 เซนติเมตร (6.3 นิ้ว) ส่วนขนาดดั้งเดิมยังไม่เป็นที่กระจ่าง และข้อมูลมุมที่บันทึกเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา เนื่องจากชิ้นส่วนหินได้รับการจัดเรียงใหม่หลายต่อหลายครั้ง โดยในคริสต์ศตวรรษที่ 10 ผู้สังเกตกล่าวถึงหินนี้ว่ามีความยาวเพียง 1 Cubit (46 เซนติเมตร หรือ 18 นิ้ว) จากนั้นในช่วงต้นคริสตืศตวรรษที่ 17 มีบันทึกว่าหินมีความยาว 140 โดย 122 เซนติเมตร (4 ฟุต 7 นิ้ว โดย 4 ฟุต 0 นิ้ว) ในคริสต์ศตวรรษที่ 18 รายงานว่าหินมีความสูง 110 เซนติเมตร (3 ฟุต 7 นิ้ว) และรายงานว่าหินมีความยาว 76 เซนติเมตร (2 ฟุต 6 นิ้ว) และกว้าง 46 เซนติเมตร (1 ฟุต 6 นิ้ว)
หินดำติดอยู่ที่มุมตะวันออกของกะอ์บะฮ์ ซึ่งมีชื่อว่า อัรรุกนุลอัสวัด ('มุมหินดำ') ส่วนหินอีกก้อนที่ตั้งอยู่มุมตรงข้ามของหินดำในมุม อัรรุกนุลยะมานี ('มุมเยเมน') มีความสูงค่อนข้างต่ำกว่าหินดำ การเลือกมุมตะวันออกอาจมีความสำคัญทางพิธีกรรม เนื่องเป็นมุมที่เจอกับลมตะวันออกพัดพาฝนมา (อัลเกาะบูล) และเป็นทิศทางที่ดาวคาโนปัสขึ้น
แผ่นเงินที่อยู่รอบหินดำและหรือผ้าคลุมกะอ์บะฮ์สีดำ ได้รับการบำรุงรักษาจากสุลต่านออตโตมันในฐานะผู้อารักขามัสยิดศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองมาหลายศตวรรษ แผ่นนั้นสึกหรอไปตามกาลเวลาเนื่องจากต้องรับมือกับผู้แสวงบุญเป็นอย่างมากและมีการเปลี่ยนเป็นระยะ แผ่นที่ชำรุดนำกลับไปที่อิสตันบูล โดยนำไปจัดแสดงเป็นส่วนหนึ่งของ ในพระราชวังโทพคาปึ
ความหมายและการแสดงสัญลักษณ์
ชาวมุสลิมกล่าวว่าหินดำนี้ถูกพบโดยอับราฮัม (อิบรอฮีม) และอิชมาเอล (อิสมาอีล) บุตรชายของท่าน ในขณะกำลังหาหินเพื่อนำมาก่อสร้างกะอ์บะฮ์ โดยท่านทั้งสองตระหนักเห็นในคุณค่าของหินดำ จึงได้นำหินดำมาประดิษฐานที่มุมหนึ่งของกะอ์บะฮ์
มุสลิมเชื่อว่าหินนี้เคยมีสีขาวบริสุทธิ์ แต่ภายหลังกลายเป็นสีดำเนื่องจากบาปของผู้ที่แตะต้องมัน
ตามธรรมเนียมศาสดาบันทึกว่า "การแตะมันทั้งสอง (หินดำและ อัรรุกนุลยะมานี) เป็นการลบล้างบาป" และมีฮะดีษบันทึกว่า เมื่อเคาะลีฟะฮ์ อุมัร (ค.ศ. 580–644) เดินทางมาจุมพิตหิน เขากล่าวว่า: "ข้ารู้ว่า ท่านก็คือหินก้อนหนึ่งที่ไม่มีอันตราย ไม่มีประโยชน์ และหากแม้นว่าข้าไม่เห็นท่านศาสดามุฮัมมัดจูบท่านล่ะก็ ข้าก็จะไม่จูบท่าน"
ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์
ธรรมชาติของหินดำยังคงเป็นที่ถกเถียง โดยมีการกล่าวถึงหินหลายแบบ เช่น เป็นหินบะซอลต์, โมรา, ชิ้นส่วนแก้วธรรมชาติ หรือหินอุกกาบาต ภัณฑารักษ์ฝ่ายชุดสะสมแร่ธาตุของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี ตีพิมพ์การวิเคราะห์หินดำอย่างครอบคลุมเป็นครั้งแรกใน ค.ศ. 1857 โดยเขาโปรดปรานสมมติฐานต้นกำเนิดจากอุกกาบาต Robert Dietz และ John McHone เสนอใน ค.ศ. 1974 ว่าหินดำแท้จริงเป็นโมรา โดยตัดสินจากลักษณะทางกายภาพของมันและมีรายงานโดยนักธรณีวิทยาชาวอาหรับว่าหินมีลักษณะการแพร่กระจายของหินโมราที่มองเห็นได้ชัดเจน
เบาะแสสำคัญเกี่ยวกับธรรมชาติของมันมาจากรายงานการฟื้นฟูหินใน ค.ศ. 951 หลังหินนี้ถูกปล้นสดมออกไป 21 ปี พงศาวดารรายงานว่า หินถูกระบุด้วยความสามารถในการลอยน้ำ ถ้ารายงานนี้เป็นจริง ก็จะเป็นการชี้ขาดว่าหินดำเป็นโมรา, ลาวาบะซอลต์, หรือหินอุกกาบาต แม้ว่าจะเทียบเท่ากับแก้วหรือด้วย
Elsebeth Thomsen จากมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกนเสนออีกสมมติฐานหนึ่งใน ค.ศ. 1980 ว่าหินดำอาจเป็นชิ้นส่วนแก้ว หรือ จากการพุ่งชนของอุกกาบาตที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ เมื่อ 6,000 ปีที่แล้วที่ พื้นที่ในทะเลทรายรุบอุลคอลีทางตะวันออกของมักกะฮ์ 1,100 กม. การวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์พื้นที่วาบัรใน ค.ศ. 2004 กล่าวแนะว่าเหตุการณ์พุ่งชนเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คิด และอาจเกิดขึ้นในช่วง 200–300 ปีที่ผ่านมา
นักธรณีวิทยามองสมมติฐานอุกกาบาตว่าเป็นที่สงสัย ทางของอังกฤษเสนอแนะว่ามันอาจเป็นอุกกาบาตเทียม (pseudometeorite) หรือเป็นหินบนโลกที่ถูกระบุผิดเป็นอุกกาบาต
หินดำไม่เคยได้รับการวิเคราะห์ด้วยเทคนิคทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ และต้นกำเนิดของมันยังคงเป็นหัวข้อของการคาดเดา
อ้างอิง
- Sheikh Safi-ur-Rehman al-Mubarkpuri (2002). Ar-Raheeq Al-Makhtum (The Sealed Nectar): Biography of the Prophet. Dar-us-Salam Publications. ISBN .
- Burke, John G. (1991). Cosmic Debris: Meteorites in History. University of California Press. pp. 221–23. ISBN .
- Elliott, Jeri (1992). Your Door to Arabia. Lower Hutt, N.Z.: R. Eberhardt. ISBN .
- Mohamed, Mamdouh N. (1996). Hajj to Umrah: From A to Z. Amana Publications. ISBN .
- Hedin, Christer (2010). "Muslim Pilgrimage as Education by Experience". Scripta Instituti Donneriani Aboensis. 22: 176. 10.1.1.1017.315. doi:10.30674/scripta.67366. OCLC 7814979907. S2CID 191262972.
- "Do Muslims Worship The Black Stone Of The Kaaba?". bismikaallahuma.org. สืบค้นเมื่อ October 15, 2005.
- Bevan, Alex; De Laeter, John (2002). Meteorites: A Journey Through Space and Time. UNSW Pres. pp. 14–15. ISBN .
- Ali, Maulana Muhammad (25 July 2011). The Religion of Islam. Ahmadiyya Anjuman Ishaat Islam Lahore USA. p. 351. ISBN .
- Glassé, Cyril; Smith, Huston (2003). The New Encyclopedia of Islam. Rowman Altamira. p. 245. ISBN .
- Al-Azmeh, Aziz (2017). The Emergence of Islam in Late Antiquity: Allah and His People. Cambridge University Press. p. 200. ISBN .
- Aydın, Hilmi (2004). The sacred trusts: Pavilion of the Sacred Relics, Topkapı Palace Museum. Tughra Books. ISBN .
- Saying of the Prophet, Collection of , VII, 49
- , Tafsir, vol. 1, pp. 460, 468. Quoted in translation by Francis E. Peters, Muhammad and the Origins of Islam, p. 5. , 1994. ISBN
- ibn Isa at-Tirmidhi, Muhammad. Jami' at-Tirmidhi: Book of Hajj. Vol. 2nd, Hadith 959.
- University of Southern California. . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 30 สิงหาคม 2006. สืบค้นเมื่อ 12 สิงหาคม 2006.
- Partsch, Paul Maria (1857). "Über den schwarzen Stein der Kaaba zu Mekka, mitgetheilt aus den hinterlassenen Schriften des wirklichen Mitgliedens" (PDF). Denkschriften der Mathematisch-naturwissenschaftlichen Classe der Kaiserlichen Akademie der Wissenschaften zu Wien. Erste Abtheilung (13): 1–5.
- Thomsen, E. (1980). "New Light on the Origin of the Holy Black Stone of the Ka'ba". Meteoritics. 15 (1): 87. Bibcode:1980Metic..15...87T. doi:10.1111/j.1945-5100.1980.tb00176.x.
- Prescott, J. R. (2004). "Luminescence dating of the Wabar meteorite craters, Saudi Arabia". Journal of Geophysical Research. 109 (E1): E01008. Bibcode:2004JGRE..109.1008P. doi:10.1029/2003JE002136. ISSN 0148-0227.
- Grady, Monica M.; Graham, A.L. (2000). Grady, Monica M. (บ.ก.). Catalogue of meteorites: with special reference to those represented in the collection of the Natural History Museum, London. Vol. 1. Cambridge University Press. p. 263. ISBN .
- Golia, Maria (2015). Meteorite: Nature and Culture (ภาษาอังกฤษ). Reaktion Books. ISBN .
บรรณานุกรม
- Grunebaum, G. E. von (1970). Classical Islam: A History 600 A.D.–1258 A.D.. Aldine Publishing Company. ISBN
- Sheikh Safi-ur-Rahman al-Mubarkpuri (2002). (The Sealed Nectar): Biography of the Prophet. Dar-us-Salam Publications. ISBN .
- Elliott, Jeri (1992). Your Door to Arabia. ISBN .
- Mohamed, Mamdouh N. (1996). Hajj to Umrah: From A to Z. Amana Publications. ISBN .
- Time-Life Books (1988). Time Frame AD 600–800: The March of Islam, ISBN .
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
hinda xahrb ٱل ح ج ر ٱل أ س و د xlhayarulxswd epnhinthitngxyuthimumtawnxxkkhxngkaxbah xakharobranthixyutrngklangmsyidxlharxminmkkah praethssaxudixaraebiy muslimekharphhinniepnerlikkhxngxislam sungmithrrmeniymmuslimrabuwahinnimixayutngaetsmyhinda trngklang imichtrngthiepnthikhrxbdwyengin thitidxyukbkaxbah hinthikaxbahkxnniidrbkarekharphbuchainsmykxnkarmakhxngxislam tamthrrmeniymxislamrabuwa sasdamuhmmdnahinkxnnimatidthikaaephngkaxbahin kh s 605 hapikxnidrb nbtngaetnnma hinnnthukthaihaetkepnchin aelapccubnnaipkhrxbdwyenginthimumkaxbah rupranghinepnhinsiekhmthiaetkepnesiyng sungthukkhdiheriybdwymuxkhxngphuaeswngbuy aelamkidrbkarklawthungepnxukkabat phuaeswngbuymuslimedinwnrxbkaxbah etaawaf inchwnghcy aelamihlaykhnphyayamhyudephuxcumphithinda odyeliynaebbkarcubtamthrrmeniymxislamthibnthukiwwaidrbcakmuhmmd aemwamuslimihkarekharphhinda aetphwkekhaimidbuchamnruplksnphaphwaddanhnaaeladankhangkhxngchinswnhindainkhristthswrrs 1850 hindaekhyepnhinkxnediyw aetpccubnprakxbdwychinswnhlaychinthiprasanekhadwykn odymikrxbenginthiyuddwytapuenginekhakbphnngdannxkkhxngkaxbahxyulxmrxbhinni chinswnehlaniprakxbdwychinswnkhnadelkkwasungrwmknepnchinswnhinecdhruxaepdchinthimxngehnidinpccubn swnthiepidephykhxnghinmikhnadpraman 20 esntiemtr 7 9 niw kb 16 esntiemtr 6 3 niw swnkhnaddngedimyngimepnthikracang aelakhxmulmumthibnthukepliynaeplngiptlxdewla enuxngcakchinswnhinidrbkarcderiyngihmhlaytxhlaykhrng odyinkhriststwrrsthi 10 phusngektklawthunghinniwamikhwamyawephiyng 1 Cubit 46 esntiemtr hrux 18 niw caknninchwngtnkhristustwrrsthi 17 mibnthukwahinmikhwamyaw 140 ody 122 esntiemtr 4 fut 7 niw ody 4 fut 0 niw inkhriststwrrsthi 18 raynganwahinmikhwamsung 110 esntiemtr 3 fut 7 niw aelaraynganwahinmikhwamyaw 76 esntiemtr 2 fut 6 niw aelakwang 46 esntiemtr 1 fut 6 niw hindatidxyuthimumtawnxxkkhxngkaxbah sungmichuxwa xrruknulxswd mumhinda swnhinxikkxnthitngxyumumtrngkhamkhxnghindainmum xrruknulyamani mumeyemn mikhwamsungkhxnkhangtakwahinda kareluxkmumtawnxxkxacmikhwamsakhythangphithikrrm enuxngepnmumthiecxkblmtawnxxkphdphafnma xlekaabul aelaepnthisthangthidawkhaonpskhun aephnenginthixyurxbhindaaelahruxphakhlumkaxbahsida idrbkarbarungrksacaksultanxxtotmninthanaphuxarkkhamsyidskdisiththithngsxngmahlaystwrrs aephnnnsukhrxiptamkalewlaenuxngcaktxngrbmuxkbphuaeswngbuyepnxyangmakaelamikarepliynepnraya aephnthicharudnaklbipthixistnbul odynaipcdaesdngepnswnhnungkhxng inphrarachwngothphkhapukhwamhmayaelakaraesdngsylksnkaxbahthimkkah hindaxyuthimumtawnxxkkhxngxakhar chawmuslimklawwahindanithukphbodyxbrahm xibrxhim aelaxichmaexl xismaxil butrchaykhxngthan inkhnakalnghahinephuxnamakxsrangkaxbah odythanthngsxngtrahnkehninkhunkhakhxnghinda cungidnahindamapradisthanthimumhnungkhxngkaxbah muslimechuxwahinniekhymisikhawbrisuththi aetphayhlngklayepnsidaenuxngcakbapkhxngphuthiaetatxngmn tamthrrmeniymsasdabnthukwa karaetamnthngsxng hindaaela xrruknulyamani epnkarlblangbap aelamihadisbnthukwa emuxekhaalifah xumr kh s 580 644 edinthangmacumphithin ekhaklawwa kharuwa thankkhuxhinkxnhnungthiimmixntray immipraoychn aelahakaemnwakhaimehnthansasdamuhmmdcubthanlak khakcaimcubthan khxmulthangwithyasastrthrrmchatikhxnghindayngkhngepnthithkethiyng odymikarklawthunghinhlayaebb echn epnhinbasxlt omra chinswnaekwthrrmchati hruxhinxukkabat de phntharksfaychudsasmaerthatukhxngckrwrrdixxsetriy hngkari tiphimphkarwiekhraahhindaxyangkhrxbkhlumepnkhrngaerkin kh s 1857 odyekhaoprdpransmmtithantnkaenidcakxukkabat Robert Dietz aela John McHone esnxin kh s 1974 wahindaaethcringepnomra odytdsincaklksnathangkayphaphkhxngmnaelamiraynganodynkthrniwithyachawxahrbwahinmilksnakaraephrkracaykhxnghinomrathimxngehnidchdecn ebaaaessakhyekiywkbthrrmchatikhxngmnmacakrayngankarfunfuhinin kh s 951 hlnghinnithukplnsdmxxkip 21 pi phngsawdarraynganwa hinthukrabudwykhwamsamarthinkarlxyna tharaynganniepncring kcaepnkarchikhadwahindaepnomra lawabasxlt hruxhinxukkabat aemwacaethiybethakbaekwhruxdwy Elsebeth Thomsen cakmhawithyalyokhepneheknesnxxiksmmtithanhnungin kh s 1980 wahindaxacepnchinswnaekw hrux cakkarphungchnkhxngxukkabatthiaetkepnesiyng emux 6 000 pithiaelwthi phunthiinthaelthrayrubxulkhxlithangtawnxxkkhxngmkkah 1 100 km karwiekhraahthangwithyasastrphunthiwabrin kh s 2004 klawaenawaehtukarnphungchnekidkhunerwkwathikhid aelaxacekidkhuninchwng 200 300 pithiphanma nkthrniwithyamxngsmmtithanxukkabatwaepnthisngsy thangkhxngxngkvsesnxaenawamnxacepnxukkabatethiym pseudometeorite hruxepnhinbnolkthithukrabuphidepnxukkabat hindaimekhyidrbkarwiekhraahdwyethkhnikhthangwithyasastrsmyihm aelatnkaenidkhxngmnyngkhngepnhwkhxkhxngkarkhadedaxangxingSheikh Safi ur Rehman al Mubarkpuri 2002 Ar Raheeq Al Makhtum The Sealed Nectar Biography of the Prophet Dar us Salam Publications ISBN 978 1 59144 071 0 Burke John G 1991 Cosmic Debris Meteorites in History University of California Press pp 221 23 ISBN 978 0 520 07396 8 Elliott Jeri 1992 Your Door to Arabia Lower Hutt N Z R Eberhardt ISBN 978 0 473 01546 6 Mohamed Mamdouh N 1996 Hajj to Umrah From A to Z Amana Publications ISBN 978 0 915957 54 5 Hedin Christer 2010 Muslim Pilgrimage as Education by Experience Scripta Instituti Donneriani Aboensis 22 176 10 1 1 1017 315 doi 10 30674 scripta 67366 OCLC 7814979907 S2CID 191262972 Do Muslims Worship The Black Stone Of The Kaaba bismikaallahuma org subkhnemux October 15 2005 Bevan Alex De Laeter John 2002 Meteorites A Journey Through Space and Time UNSW Pres pp 14 15 ISBN 978 0 86840 490 5 Ali Maulana Muhammad 25 July 2011 The Religion of Islam Ahmadiyya Anjuman Ishaat Islam Lahore USA p 351 ISBN 978 1 934271 18 6 Glasse Cyril Smith Huston 2003 The New Encyclopedia of Islam Rowman Altamira p 245 ISBN 978 0 7591 0190 6 Al Azmeh Aziz 2017 The Emergence of Islam in Late Antiquity Allah and His People Cambridge University Press p 200 ISBN 978 1 316 64155 2 Aydin Hilmi 2004 The sacred trusts Pavilion of the Sacred Relics Topkapi Palace Museum Tughra Books ISBN 978 1 932099 72 0 Saying of the Prophet Collection of VII 49 Tafsir vol 1 pp 460 468 Quoted in translation by Francis E Peters Muhammad and the Origins of Islam p 5 1994 ISBN 0 7914 1876 6 ibn Isa at Tirmidhi Muhammad Jami at Tirmidhi Book of Hajj Vol 2nd Hadith 959 University of Southern California khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 30 singhakhm 2006 subkhnemux 12 singhakhm 2006 Partsch Paul Maria 1857 Uber den schwarzen Stein der Kaaba zu Mekka mitgetheilt aus den hinterlassenen Schriften des wirklichen Mitgliedens PDF Denkschriften der Mathematisch naturwissenschaftlichen Classe der Kaiserlichen Akademie der Wissenschaften zu Wien Erste Abtheilung 13 1 5 Thomsen E 1980 New Light on the Origin of the Holy Black Stone of the Ka ba Meteoritics 15 1 87 Bibcode 1980Metic 15 87T doi 10 1111 j 1945 5100 1980 tb00176 x Prescott J R 2004 Luminescence dating of the Wabar meteorite craters Saudi Arabia Journal of Geophysical Research 109 E1 E01008 Bibcode 2004JGRE 109 1008P doi 10 1029 2003JE002136 ISSN 0148 0227 Grady Monica M Graham A L 2000 Grady Monica M b k Catalogue of meteorites with special reference to those represented in the collection of the Natural History Museum London Vol 1 Cambridge University Press p 263 ISBN 978 0 521 66303 8 Golia Maria 2015 Meteorite Nature and Culture phasaxngkvs Reaktion Books ISBN 978 1780235479 brrnanukrm wikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb hinda Grunebaum G E von 1970 Classical Islam A History 600 A D 1258 A D Aldine Publishing Company ISBN 978 0 202 15016 1 Sheikh Safi ur Rahman al Mubarkpuri 2002 The Sealed Nectar Biography of the Prophet Dar us Salam Publications ISBN 1 59144 071 8 Elliott Jeri 1992 Your Door to Arabia ISBN 0 473 01546 3 Mohamed Mamdouh N 1996 Hajj to Umrah From A to Z Amana Publications ISBN 0 915957 54 X Time Life Books 1988 Time Frame AD 600 800 The March of Islam ISBN 0 8094 6420 9 21 25 21 02 N 39 49 34 58 E 21 4225056 N 39 8262722 E 21 4225056 39 8262722 bthkhwamkhwamechuxniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldk