ลอการิทึม (อังกฤษ: logarithm) เป็นการดำเนินการทางคณิตศาสตร์ที่เป็นฟังก์ชันผกผันของฟังก์ชันเลขชี้กำลัง ค่าลอการิทึมของจำนวนหนึ่งโดยกำหนดฐานไว้ให้ จะมีค่าเทียบเท่ากับ การเอาฐานมายกกำลังค่าลอการิทึม ซึ่งจะให้คำตอบเป็นจำนวนนั้น ตัวอย่างเช่น
- ลอการิทึมของ 1000 ในฐาน 10 มีค่าเป็น 3 เพราะว่า 10 คูณกัน 3 ตัวแล้วได้ 1000 นั่นคือ 10 × 10 × 10 = 1000
- ลอการิทึมของ 32 ในฐาน 2 มีค่าเป็น 5 เพราะว่า 2 คูณกัน 5 ตัวแล้วได้ 32 นั่นคือ 2 × 2 × 2 × 2 × 2 = 32
ถ้าเขียนด้วยสัญลักษณ์ยกกำลังจะได้ว่า
- 103 = 1000 ดังนั้น log10 1000 = 3
- 25 = 32 ดังนั้น log2 32 = 5
ลอการิทึมของ x ในฐาน b เขียนแทนด้วย logbx หรือถ้าฐานมีค่าใด ๆ เป็นปริยาย จะเขียนเพียงแค่ log x (ไม่จำเป็นต้องใส่วงเล็บรอบ x) ดังนั้นสำหรับจำนวน x ฐาน b และเลขชี้กำลัง y ที่สามารถเป็นไปได้
คุณลักษณะหนึ่งที่สำคัญของลอการิทึมคือการลดทอนการคูณไปเป็นการบวกดังนี้
หมายความว่า ลอการิทึมของผลคูณของสองจำนวน จะเท่ากับผลรวมของลอการิทึมของแต่ละจำนวน การใช้ลอการิทึมเพื่อลดทอนการคำนวณที่ซับซ้อนเป็นหนึ่งในแรงผลักดันอย่างมีนัยสำคัญในการพัฒนาที่มีมาแต่เดิม มีการใช้งานลอการิทึมอย่างกว้างขวางทั้งในงานสถิติศาสตร์ เคมี ฟิสิกส์ ดาราศาสตร์ วิทยาการคอมพิวเตอร์ เศรษฐศาสตร์ ดนตรี และวิศวกรรมศาสตร์
สมบัติ
เมื่อ x และ b ถูกกำหนดให้เป็นจำนวนจริงบวก logbx จะให้ผลเป็นจำนวนจริงเพียงหนึ่งเดียว ขนาดหรือค่าสัมบูรณ์ของจำนวนเชิงซ้อนของฐาน b จะต้องไม่เป็น 0 หรือ 1 แต่โดยทั่วไปฐานของลอการิทึมจะเป็น 10, e หรือ 2 มีการนิยามลอการิทึมสำหรับทั้งจำนวนจริงและจำนวนเชิงซ้อนด้วย
สมบัติหลักของลอการิทึมคือการลดทอนการคูณไปเป็นการบวก ซึ่งพัฒนาจากเอกลักษณ์ของการยกกำลัง
เมื่อใส่ลอการิทึมเข้าไปจะได้ว่า
ตัวอย่างเช่น
สมบัติที่เกี่ยวข้องคือการลดรูปยกกำลังไปเป็นการคูณ โดยใช้เอกลักษณ์นี้
ซึ่งเมื่อนำ c ไปยกกำลัง p จะได้ว่า
กล่าวโดยนัยได้ว่า การหาค่าจำนวนหนึ่งที่ยกกำลัง p ก่อนอื่นให้หาค่าลอการิทึมฐาน b ของจำนวนนั้นแล้วคูณด้วย p แล้วใส่ผลคูณเป็นเลขชี้กำลังกลับไปยังฐาน b นั่นคือ จำนวนที่ยกกำลัง = b (ผลคูณ)
หรือใส่ลอการิทึมเข้าไปจะได้ว่า
ตัวอย่างเช่น
นอกจากการลดรูปการคูณเป็นการบวก และการยกกำลังเป็นการคูณแล้ว ลอการิทึมยังสามารถลดรูปการหารเป็นการลบ และรากเป็นการหาร เช่น
ลอการิทึมทำการดำเนินการทางคณิตศาสตร์อันยืดยาวให้คำนวณง่ายขึ้นโดยการแปลงเป็นการคูณหรือการบวก สำหรับการคำนวณด้วยมือโดยประมาณ สามารถทำได้โดยการเทียบค่าจากตารางลอการิทึม หรือใช้สไลด์รูล สำหรับ มีสมบัติหนึ่งที่ปรากฏในการใช้ตารางที่ว่า ลำดับตัวเลขใด ๆ ที่มีค่าเดียวกัน แต่มีค่าประจำหลักต่างกัน จะยังคงให้ แมนทิสซา (mantissa) ค่าเดียวกัน และต่างกันเพียงแค่ แคแรกเทอริสติก (characteristic)
ฟังก์ชันลอการิทึม
ถึงแม้ว่าลอการิทึมเป็นแนวคิดดั้งเดิมของลำดับเลขคณิตของจำนวน ที่สอดคล้องกับลำดับเรขาคณิตของจำนวนอื่น (จำนวนจริงบวก) ดังเช่นที่ให้ความหมายไว้ในสารานุกรมบริตานิกา ค.ศ. 1797 ลอการิทึมยังเป็นผลลัพธ์จากการใช้ ฟังก์ชันนั้นสามารถมีความหมายที่ขยายออกไปบนจำนวนเชิงซ้อนได้
ค่าของฟังก์ชัน logbx ขึ้นอยู่กับ b และ x ทั้งสองตัว แต่สำหรับฟังก์ชันลอการิทึมในการใช้งานตามปกติคือฟังก์ชันที่อยู่ในรูปแบบ logb (x) โดยที่ฐาน b เป็นค่าเดียวคงที่ (ซึ่งต้องเป็นจำนวนบวกและไม่เท่ากับ 1) และมี x เป็นอาร์กิวเมนต์เท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ฟังก์ชันลอการิทึมของแต่ละค่าบนฐาน b ให้ผลลัพธ์เพียงค่าเดียว ด้วยมุมมองนี้จึงทำให้ฟังก์ชันลอการิทึมฐาน b เป็นฟังก์ชันผกผันของฟังก์ชันเลขชี้กำลัง bx บ่อยครั้งที่คำว่า "ลอการิทึม" หมายถึงฟังก์ชันลอการิทึมโดยตัวมันเองหรือหมายถึงค่าที่ออกมาจากฟังก์ชัน
ลอการิทึมของจำนวนลบหรือจำนวนเชิงซ้อน
มีเพียงจำนวนจริงบวกเท่านั้นที่ให้ผลลัพธ์ของลอการิทึมเป็นจำนวนจริง ฟังก์ชันลอการิทึมสามารถขยายไปได้บนจำนวนเชิงซ้อน ซึ่งครอบคลุมจำนวนลบด้วย และให้ผลเป็นจำนวนเชิงซ้อน แต่ค่าของมันอาจมีมากกว่าหนึ่ง ตัวอย่างเช่น e2πi = e0 = 1 ซึ่งจะทำให้ลอการิทึมฐาน e ของ 1 มีผลลัพธ์เป็นทั้ง 2πi และ 0
เมื่อ z เป็นจำนวนเชิงซ้อนจำนวนหนึ่งซึ่งเขียนได้ในรูปแบบ x + iy โดยที่ x และ y เป็นจำนวนจริง ลอการิทึมของ z สามารถหาได้จากการแปลงเป็น นั่นคือ
โดยที่ r และ θ มาจาก
- คือมุมใดก็ได้ที่ทำให้ y/x = tan θ ซึ่งอาจมีมากกว่าหนึ่งค่า
ถ้าฐานของลอการิทึมถูกเลือกเป็นค่า e นั่นคือใช้ loge หรือ ln อันหมายถึงลอการิทึมธรรมชาติ ดังนั้นลอการิทึมเชิงซ้อนของ z คำนวณได้ดังนี้
แต่เนื่องจาก เป็นฟังก์ชันที่มีผลลัพธ์หลายค่า ดังนั้นจึงมีการนิยามฟังก์ชันใหม่ของลอการิทึมคือ Log (ขึ้นต้นอักษรตัวใหญ่) ซึ่งจะให้ค่าเพียงค่าเดียวดังนี้
โดยที่ φ จะให้ค่าเพียงค่าเดียวในช่วง (−π, π] ซึ่งมีความหมายเหมือนกับ φ ≡ θ (mod 2π) และ Arg คือฟังก์ชันที่ให้ค่ามุมเพียงค่าเดียวในช่วงดังกล่าว ซึ่งเป็นการนิยามเพิ่มเติมจากฟังก์ชัน arg ฟังก์ชัน Arg นี้เมื่อใช้กับจำนวนจริงจะคืนค่าเป็น 0 ออกมา ซึ่งส่งผลให้พจน์ที่เป็นจำนวนจินตภาพถูกตัดทิ้งไป เหลือแต่ลอการิทึมธรรมชาติของจำนวนจริงเท่านั้น
ลอการิทึมธรรมชาติของจำนวนจริงลบ r หาได้จากสูตร
สำหรับลอการิทึมฐานอื่นที่ไม่ใช่ e ลอการิทึมเชิงซ้อน logb (z) สามารถนิยามได้จาก ln (z) / ln (b) ซึ่งแต่ละพจน์ได้นิยามวิธีการคำนวณไว้แล้ว
ในกรณีที่เป็นจำนวนเชิงซ้อน log zp อาจมีค่าไม่เท่ากับ p log z เสมอไป
ทฤษฎีสรุป
จากมุมมองขั้นต้นทางคณิตศาสตร์ เอกลักษณ์นี้
เป็นพื้นฐานของสองเรื่อง ประการแรกคือสมบัติเชิงเลขคณิตทั้งสามอาทิ สมบัติการสลับที่ การเปลี่ยนกลุ่ม การแจกแจง จะยังคงมีอยู่ ประการที่สองคือเอกลักษณ์นี้แสดงให้เห็น (isomorphism) ระหว่างของจำนวนจริงบวกกับของจำนวนจริงทั้งหมด ฟังก์ชันลอการิทึมเท่านั้นที่เป็นสมสัณฐานอย่างต่อเนื่องระหว่างกรุปดังกล่าว
ฐาน
ปกติแล้วฐานของลอการิทึมที่ใช้กันอย่างกว้างขวางได้แก่ 10, e ≈ 2.71828… และ 2 เมื่อเราเขียนว่า "log" โดยไม่ปรากฏฐาน (b ที่หายไปจาก logb) ความหมายของฐานที่ใช้ขึ้นอยู่กับบริบทดังนี้
- ลอการิทึมธรรมชาติ (loge, ln, log, Ln) ในทางคณิตวิเคราะห์ สถิติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และบางแขนงวิชาของวิศวกรรมศาสตร์ เหตุผลเป็นเพราะว่า e ถูกพิจารณาว่าเป็นฐานที่ "ธรรมชาติ" สำหรับลอการิทึม ถึงแม้ว่าอาจจะมีตัวเลขมากหรือเป็นการบังคับ (เอกลักษณ์ของออยเลอร์เป็นสิ่งที่สำคัญในแขนงวิชาที่ต้องต่อกรกับส่วนประกอบแบบวัฏจักร)
- (log10, log, lg) ในหลายแขนงวิชาของวิศวกรรมศาสตร์ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับระดับกำลังหรืออัตราส่วนกำลังเช่น และตารางลอการิทึมซึ่งใช้สำหรับการคำนวณด้วยมือ ใช้สำหรับการประมาณค่าเช่น 210 ≈ 103 นำไปสู่การประมาณค่า 3 เดซิเบลต่ออ็อกเทฟ อันเป็นผลมาจากการใช้ log10
- (log2, lg, lb, ld) ในวิทยาการคอมพิวเตอร์และทฤษฎีสารสนเทศ การคำนวณทฤษฎีสารสนเทศใช้ log2 อันนำไปสู่หน่วยบิต (bit) ซึ่งเป็นความหมายแรกเริ่ม เทียบกับกับการคำนวณโดยใช้ loge อันนำไปสู่หน่วย (nat) ซึ่งไม่ได้เป็นความหมายดั้งเดิม แม้ว่าหน่วยทั้งสองนี้จะมีฟังก์ชันเทียบเท่ากัน ต่างกันที่มาตราส่วนเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนในการใช้ ควรระบุฐานลงไปด้วยเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด
- (Log, [log ], log) ซึ่งฐานของมันไม่เกี่ยวเนื่องกัน ตัวอย่างเช่นในทฤษฎีความซับซ้อนที่อธิบายเกี่ยวกับพฤติกรรมของขั้นตอนวิธีในสัญกรณ์โอใหญ่ ซึ่งใช้อธิบายลักษณะของขั้นตอนวิธีอาทิ "พฤติกรรมเชิงลอการิทึม" ไม่ได้เป็นการวัดประสิทธิภาพอย่างเจาะจงของขั้นตอนวิธีในสถานการณ์ที่กำหนด
- (logv, li, log, Li) คล้ายๆ ลอการิทึมฐานธรรมชาติ ต่างที่การกำหนดให้ค่าที่ได้เป็นจำนวนจินตภาพแท้แทน โดยที่ li(x) = (-i/pi)[ln(x)] โดยที่ X เป็นจำนวนจริงบวก และ antilog ก็ถูกกำหนดให้เขียนเป็น Vi(x) โดยที่ x เป็นจำนวนจินตภาพแท้เท่านั้น
สัญกรณ์ของฐานและฐานโดยนัย
บ่อยครั้งที่ฐานไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนในสัญกรณ์ log (x) ซึ่งในแต่ละสาขาวิชาก็มีธรรมเนียมการใช้ต่างกัน เราสามารถเข้าใจได้โดยนัยในสาขาวิชาหรือภาวะแวดล้อมนั้น
- นักคณิตศาสตร์กำหนดให้ log (x) หมายถึงลอการิทึมธรรมชาติ loge (x)
- วิศวกร นักชีววิทยา และนักดาราศาสตร์กำหนดให้ log (x) หมายถึงลอการิทึมสามัญ log10 (x)
- นักวิทยาการคอมพิวเตอร์กำหนดให้ log (x) หมายถึงลอการิทึมฐานสอง log2 (x)
- บนเครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์ ปุ่ม "log" หมายถึง log10 (x) และปุ่ม "ln" หมายถึง loge (x)
- ในภาษาโปรแกรมของคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานอย่างแพร่หลาย ฟังก์ชัน "log" จะคืนค่าเป็นลอการิทึมธรรมชาติ
มาตรฐานที่ต่างกันเกิดขึ้นจากสมบัติที่ต่างกันอันเป็นที่นิยมใช้ในสาขาวิชานั้น ตัวอย่างเช่น ลอการิทึมธรรมชาติมีสมบัติหลายอย่างที่เป็น "ธรรมชาติ" (เช่นอนุพันธ์ของมันเท่ากับ 1/x เป็นต้น) ทำให้เป็นที่น่าสนใจของนักคณิตศาสตร์ ในขณะที่เราเขียนจำนวนต่าง ๆ เป็นเลขฐานสิบ จึงง่ายขึ้นด้วยลอการิทึมสามัญ และเป็นที่น่าสนใจของวิศวกร และสุดท้าย คอมพิวเตอร์เก็บข้อมูลในหน่วยพื้นฐานเป็นบิต เทียบได้กับเลขฐานสอง เราสามารถทราบว่าจำนวนเต็ม n ใช้เนื้อที่เก็บกี่บิตอย่างคร่าว ๆ โดยใช้ลอการิทึมฐานสอง log2 (n) สมบัติเช่นนี้ปรากฏซ้ำ ๆ ในวิทยาการคอมพิวเตอร์และทำให้ลอการิทึมฐานสองเป็นที่นิยมในสาขานี้ เป็นต้น
บ่อยครั้งที่ประเทศในแถบยุโรปใช้สัญกรณ์นี้ blog (x) แทนที่จะเป็น logb (x)
สัญกรณ์ ln
ลอการิทึมธรรมชาติของ x เขียนได้อีกอย่างหนึ่งว่า ln (x) แทนที่จะเป็น loge (x) โดยเฉพาะในสาขาอื่นที่ไม่ใช่คณิตศาสตร์
อย่างไรก็ตามนักคณิตศาสตร์บางคนไม่ยอมรับการใช้สัญกรณ์นี้ อาทิ (Paul Halmos) นักคณิตศาสตร์ชาวยิว ได้วิจารณ์ไว้ในอัตชีวประวัติของเขาเมื่อ ค.ศ. 1985 ว่า ln เป็น "สัญกรณ์แบบเด็ก ๆ" และเขายังกล่าวอีกด้วยว่าไม่มีนักคณิตศาสตร์คนไหนเคยใช้ ข้อเท็จจริงคือสัญกรณ์นี้คิดค้นขึ้นโดย (Irving Stringham) ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ เมื่อ ค.ศ. 1893
วิทยาการคอมพิวเตอร์
ในวิทยาการคอมพิวเตอร์ ลอการิทึมฐานสองบางครั้งก็เขียนในรูปแบบ lg (x) ซึ่งเสนอโดย (Edward Reingold) และทำให้แพร่หลายโดย โดนัลด์ คนูธ (Donald Knuth) อย่างไรก็ตามสัญกรณ์นี้ก็มีการใช้เป็นลอการิทึมสามัญ และใช้ lb (x) สำหรับลอการิทึมฐานสองแทน ในตำราของรัสเซีย สัญกรณ์ lg (x) มีการใช้แทนลอการิทึมฐานสิบโดยทั่วไป รวมทั้งในเยอรมนี ในขณะที่ ld (x) หรือ lb (x) ใช้เป็นลอการิทึมฐานสอง ภาษาโปรแกรมใช้สัญกรณ์ log2 (x) สำหรับลอการิทึมฐานสอง
ฐาน b ของฟังก์ชันลอการิทึมที่ทำงานเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม ถูกละทิ้งหรือทำให้ไม่ทราบค่า เพื่อความสะดวกต่อการใช้ในการเปลี่ยนฐาน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งสำหรับการคำนวณฐานใด ๆ ไปเป็นลอการิทึมฐาน r ของ x ดังนี้
- สำหรับฐาน b ใด ๆ หรือเขียนเพียงแค่
ฐาน b ของฟังก์ชันลอการิทึมสามารถกำหนดโดยเจาะจงลงไปได้ เช่นการคำนวณความผิดพลาดของความคลาดเคลื่อน ด้วยเอกลักษณ์ต่อไปนี้
- หรือเขียนเพียงแค่ สำหรับค่า n ใด ๆ ที่เหมาะสม
การแนะนำและมาตรฐาน
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐอเมริกา ได้แนะนำไว้ว่าควรปฏิบัติตามมาตรฐานไอเอสโอเรื่อง ISO 31-11:1992 เครื่องหมายและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์สำหรับใช้ในวิทยาศาสตร์กายภาพและเทคโนโลยี ซึ่งได้แนะนำสัญกรณ์ไว้สามแบบดังนี้
- สัญกรณ์ ln (x) หมายถึง loge (x)
- สัญกรณ์ lg (x) หมายถึง log10 (x)
- สัญกรณ์ lb (x) หมายถึง log2 (x)
ดูเพิ่ม
- ลอการิทึมธรรมชาติ
- (iterated logarithm)
- (complex logarithm)
อ้างอิง
- กรณีทั่วไป x และ b สามารถเป็นจำนวนเชิงซ้อนได้ทั้งคู่ ดูเพิ่มในหนังสืออ้างอิงของ Kwok และบทความ
- Yue Kuen Kwok (2002). Applied complex variables for scientists and engineers. Cambridge MA: Cambridge University Press. p. 102. ISBN .
- เช่นภาษาซี ภาษาซีพลัสพลัส ภาษาจาวา ภาษาฟอร์แทรน ภาษาไพทอน ภาษารูบี และภาษาเบสิก
- ""Mathematisches Lexikon" at Mateh_online.at".
- Paul Halmos (1985). I Want to Be a Mathematician: An Automathography. Springer-Verlag. ISBN .
- Irving Stringham (1893). Uniplanar algebra: being part I of a propædeutic to the higher mathematical analysis. The Berkeley Press. p. xiii.
- Roy S. Freedman (2006). Introduction to Financial Technology. Academic Press. p. 59. ISBN .
- Gullberg, Jan (1997). Mathematics: from the birth of numbers. W. W. Norton & Co. ISBN .
- ""Common Logarithm" at MathWorld".
- B. N. Taylor (1995). "Guide for the Use of the International System of Units (SI)". NIST Special Publication 811, 1995 Edition. US Department of Commerce.
แหล่งข้อมูลอื่น
- Log Calculator for all bases. 2007-06-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Logarithm on MathWorld
- Jost Burgi, Swiss Inventor of Logarithms
- Logarithm calculators and word problems with work shown, for school students
- Translation of Napier's work on logarithms 2007-06-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
lxkarithum xngkvs logarithm epnkardaeninkarthangkhnitsastrthiepnfngkchnphkphnkhxngfngkchnelkhchikalng khalxkarithumkhxngcanwnhnungodykahndthaniwih camikhaethiybethakb karexathanmaykkalngkhalxkarithum sungcaihkhatxbepncanwnnn twxyangechnlxkarithumkhxng 1000 inthan 10 mikhaepn 3 ephraawa 10 khunkn 3 twaelwid 1000 nnkhux 10 10 10 1000 lxkarithumkhxng 32 inthan 2 mikhaepn 5 ephraawa 2 khunkn 5 twaelwid 32 nnkhux 2 2 2 2 2 32krafkhxngfngkchnlxkarithuminthantang siaedng khuxthan e siekhiyw khuxthan 10 simwng khuxthan 1 7 krafthukesnphancud 1 0 enuxngcakcanwnid thiimepnsuny emuxykkalng 0 aelwid 1 aelakrafthukesnphancud b 1 sahrbthan b ephraawacanwnid ykkalng 1 aelwidkhaedim esnokhngthangsayekhaiklaekn y aetimtdkbaekn y ephraamiphawaexkthanxyuthi x 0 inaenwding thaekhiyndwysylksnykkalngcaidwa 103 1000 dngnn log10 1000 3 25 32 dngnn log2 32 5 lxkarithumkhxng x inthan b ekhiynaethndwy logbx hruxthathanmikhaid epnpriyay caekhiynephiyngaekh log x imcaepntxngiswngelbrxb x dngnnsahrbcanwn x than b aelaelkhchikalng y thisamarthepnipid x by y logb x displaystyle x b y Rightarrow y log b x dd khunlksnahnungthisakhykhxnglxkarithumkhuxkarldthxnkarkhunipepnkarbwkdngni log xy log x log y displaystyle log xy log x log y dd hmaykhwamwa lxkarithumkhxngphlkhunkhxngsxngcanwn caethakbphlrwmkhxnglxkarithumkhxngaetlacanwn karichlxkarithumephuxldthxnkarkhanwnthisbsxnepnhnunginaerngphlkdnxyangminysakhyinkarphthnathimimaaetedim mikarichnganlxkarithumxyangkwangkhwangthnginngansthitisastr ekhmi fisiks darasastr withyakarkhxmphiwetxr esrsthsastr dntri aelawiswkrrmsastrsmbtiemux x aela b thukkahndihepncanwncringbwk logbx caihphlepncanwncringephiynghnungediyw khnadhruxkhasmburnkhxngcanwnechingsxnkhxngthan b catxngimepn 0 hrux 1 aetodythwipthankhxnglxkarithumcaepn 10 e hrux 2 mikarniyamlxkarithumsahrbthngcanwncringaelacanwnechingsxndwy smbtihlkkhxnglxkarithumkhuxkarldthxnkarkhunipepnkarbwk sungphthnacakexklksnkhxngkarykkalng bx by bx y displaystyle b x times b y b x y dd emuxislxkarithumekhaipcaidwa logb bx by logb bx y x y logb bx logb by displaystyle log b left b x times b y right log b b x y x y log b b x log b b y dd twxyangechn 4 22 log2 4 2 displaystyle 4 2 2 Rightarrow log 2 4 2 8 23 log2 8 3 displaystyle 8 2 3 Rightarrow log 2 8 3 log2 32 log2 4 8 log2 4 log2 8 2 3 5 displaystyle log 2 32 log 2 4 times 8 log 2 4 log 2 8 2 3 5 dd smbtithiekiywkhxngkhuxkarldrupykkalngipepnkarkhun odyichexklksnni c blogb c displaystyle c b log b c dd sungemuxna c ipykkalng p caidwa cp blogb c p bplogb c displaystyle c p left b log b c right p b p log b c dd klawodynyidwa karhakhacanwnhnungthiykkalng p kxnxunihhakhalxkarithumthan b khxngcanwnnnaelwkhundwy p aelwisphlkhunepnelkhchikalngklbipyngthan b nnkhux canwnthiykkalng b phlkhun hruxislxkarithumekhaipcaidwa logb cp plogb c displaystyle log b c p p log b c dd twxyangechn log2 64 log2 43 3log2 4 6 displaystyle log 2 64 log 2 4 3 3 log 2 4 6 dd nxkcakkarldrupkarkhunepnkarbwk aelakarykkalngepnkarkhunaelw lxkarithumyngsamarthldrupkarharepnkarlb aelarakepnkarhar echn log2 16 log2 644 log2 64 log2 4 6 2 4 displaystyle log 2 16 log 2 tfrac 64 4 log 2 64 log 2 4 6 2 4 log2 43 13log2 4 23 displaystyle log 2 sqrt 3 4 tfrac 1 3 log 2 4 tfrac 2 3 dd lxkarithumthakardaeninkarthangkhnitsastrxnyudyawihkhanwnngaykhunodykaraeplngepnkarkhunhruxkarbwk sahrbkarkhanwndwymuxodypraman samarththaidodykarethiybkhacaktaranglxkarithum hruxichsildrul sahrb mismbtihnungthipraktinkarichtarangthiwa ladbtwelkhid thimikhaediywkn aetmikhapracahlktangkn cayngkhngih aemnthissa mantissa khaediywkn aelatangknephiyngaekh aekhaerkethxristik characteristic fngkchnlxkarithumsaranukrmbritanika kh s 1797 ihkhwamhmaylxkarithumwa chudkhxngcanwninkarkawhnaelkhkhnit sungsxdkhlxngkbkarkawhnaerkhakhnit nnhmaykhwamwa karkhanwnelkhkhnitsamarththaihngayaelarwderwmakkhunkwawithixun thungaemwalxkarithumepnaenwkhiddngedimkhxngladbelkhkhnitkhxngcanwn thisxdkhlxngkbladberkhakhnitkhxngcanwnxun canwncringbwk dngechnthiihkhwamhmayiwinsaranukrmbritanika kh s 1797 lxkarithumyngepnphllphthcakkarich fngkchnnnsamarthmikhwamhmaythikhyayxxkipbncanwnechingsxnid khakhxngfngkchn logbx khunxyukb b aela x thngsxngtw aetsahrbfngkchnlxkarithuminkarichngantampktikhuxfngkchnthixyuinrupaebb logb x odythithan b epnkhaediywkhngthi sungtxngepncanwnbwkaelaimethakb 1 aelami x epnxarkiwemntethann dwyehtunicungthaihfngkchnlxkarithumkhxngaetlakhabnthan b ihphllphthephiyngkhaediyw dwymummxngnicungthaihfngkchnlxkarithumthan b epnfngkchnphkphnkhxngfngkchnelkhchikalng bx bxykhrngthikhawa lxkarithum hmaythungfngkchnlxkarithumodytwmnexnghruxhmaythungkhathixxkmacakfngkchnlxkarithumkhxngcanwnlbhruxcanwnechingsxnmiephiyngcanwncringbwkethannthiihphllphthkhxnglxkarithumepncanwncring fngkchnlxkarithumsamarthkhyayipidbncanwnechingsxn sungkhrxbkhlumcanwnlbdwy aelaihphlepncanwnechingsxn aetkhakhxngmnxacmimakkwahnung twxyangechn e2pi e0 1 sungcathaihlxkarithumthan e khxng 1 miphllphthepnthng 2pi aela 0 emux z epncanwnechingsxncanwnhnungsungekhiynidinrupaebb x iy odythi x aela y epncanwncring lxkarithumkhxng z samarthhaidcakkaraeplngepn nnkhux z rei8 r cos 8 isin 8 displaystyle z r mathrm e i theta r cos theta i sin theta dd odythi r aela 8 macak r z x2 y2 displaystyle r z sqrt x 2 y 2 8 arg z displaystyle theta arg z khuxmumidkidthithaih y x tan 8 sungxacmimakkwahnungkha dd thathankhxnglxkarithumthukeluxkepnkha e nnkhuxich loge hrux ln xnhmaythunglxkarithumthrrmchati dngnnlxkarithumechingsxnkhxng z khanwniddngni log z ln z iarg z ln r i 8 2pk displaystyle log z ln z i arg z ln r i theta 2 pi k dd aetenuxngcak epnfngkchnthimiphllphthhlaykha dngnncungmikarniyamfngkchnihmkhxnglxkarithumkhux Log khuntnxksrtwihy sungcaihkhaephiyngkhaediywdngni Log z ln z iArg z ln r if displaystyle operatorname Log z ln z i operatorname Arg z ln r i varphi dd odythi f caihkhaephiyngkhaediywinchwng p p sungmikhwamhmayehmuxnkb f 8 mod 2p aela Arg khuxfngkchnthiihkhamumephiyngkhaediywinchwngdngklaw sungepnkarniyamephimetimcakfngkchn arg fngkchn Arg niemuxichkbcanwncringcakhunkhaepn 0 xxkma sungsngphlihphcnthiepncanwncintphaphthuktdthingip ehluxaetlxkarithumthrrmchatikhxngcanwncringethann lxkarithumthrrmchatikhxngcanwncringlb r haidcaksutr Log r ln r ip displaystyle operatorname Log r ln r i pi dd sahrblxkarithumthanxunthiimich e lxkarithumechingsxn logb z samarthniyamidcak ln z ln b sungaetlaphcnidniyamwithikarkhanwniwaelw inkrnithiepncanwnechingsxn log zp xacmikhaimethakb p log z esmxipthvsdisrupcakmummxngkhntnthangkhnitsastr exklksnni log cd log c log d displaystyle log cd log c log d dd epnphunthankhxngsxngeruxng prakaraerkkhuxsmbtiechingelkhkhnitthngsamxathi smbtikarslbthi karepliynklum karaeckaecng cayngkhngmixyu prakarthisxngkhuxexklksnniaesdngihehn isomorphism rahwangkhxngcanwncringbwkkbkhxngcanwncringthnghmd fngkchnlxkarithumethannthiepnsmsnthanxyangtxenuxngrahwangkrupdngklawthanpktiaelwthankhxnglxkarithumthiichknxyangkwangkhwangidaek 10 e 2 71828 aela 2 emuxeraekhiynwa log odyimpraktthan b thihayipcak logb khwamhmaykhxngthanthiichkhunxyukbbribthdngni lxkarithumthrrmchati loge ln log Ln inthangkhnitwiekhraah sthitisastr esrsthsastr aelabangaekhnngwichakhxngwiswkrrmsastr ehtuphlepnephraawa e thukphicarnawaepnthanthi thrrmchati sahrblxkarithum thungaemwaxaccamitwelkhmakhruxepnkarbngkhb exklksnkhxngxxyelxrepnsingthisakhyinaekhnngwichathitxngtxkrkbswnprakxbaebbwtckr log10 log lg inhlayaekhnngwichakhxngwiswkrrmsastr odyechphaathiekiywkhxngkbradbkalnghruxxtraswnkalngechn aelataranglxkarithumsungichsahrbkarkhanwndwymux ichsahrbkarpramankhaechn 210 103 naipsukarpramankha 3 edsiebltxxxkethf xnepnphlmacakkarich log10 log2 lg lb ld inwithyakarkhxmphiwetxraelathvsdisarsneths karkhanwnthvsdisarsnethsich log2 xnnaipsuhnwybit bit sungepnkhwamhmayaerkerim ethiybkbkbkarkhanwnodyich loge xnnaipsuhnwy nat sungimidepnkhwamhmaydngedim aemwahnwythngsxngnicamifngkchnethiybethakn tangknthimatraswnethann ephuxhlikeliyngkhwamsbsninkarich khwrrabuthanlngipdwyephuximihekidkhwamekhaicphid Log log log sungthankhxngmnimekiywenuxngkn twxyangechninthvsdikhwamsbsxnthixthibayekiywkbphvtikrrmkhxngkhntxnwithiinsykrnoxihy sungichxthibaylksnakhxngkhntxnwithixathi phvtikrrmechinglxkarithum imidepnkarwdprasiththiphaphxyangecaacngkhxngkhntxnwithiinsthankarnthikahnd logv li log Li khlay lxkarithumthanthrrmchati tangthikarkahndihkhathiidepncanwncintphaphaethaethn odythi li x i pi ln x odythi X epncanwncringbwk aela antilog kthukkahndihekhiynepn Vi x odythi x epncanwncintphaphaethethannsykrnkhxngthanaelathanodyny bxykhrngthithanimidrabuiwxyangchdecninsykrn log x sunginaetlasakhawichakmithrrmeniymkarichtangkn erasamarthekhaicidodynyinsakhawichahruxphawaaewdlxmnn nkkhnitsastrkahndih log x hmaythunglxkarithumthrrmchati loge x wiswkr nkchiwwithya aelankdarasastrkahndih log x hmaythunglxkarithumsamy log10 x nkwithyakarkhxmphiwetxrkahndih log x hmaythunglxkarithumthansxng log2 x bnekhruxngkhidelkhwithyasastr pum log hmaythung log10 x aelapum ln hmaythung loge x inphasaopraekrmkhxngkhxmphiwetxrthiichnganxyangaephrhlay fngkchn log cakhunkhaepnlxkarithumthrrmchati matrthanthitangknekidkhuncaksmbtithitangknxnepnthiniymichinsakhawichann twxyangechn lxkarithumthrrmchatimismbtihlayxyangthiepn thrrmchati echnxnuphnthkhxngmnethakb 1 x epntn thaihepnthinasnickhxngnkkhnitsastr inkhnathieraekhiyncanwntang epnelkhthansib cungngaykhundwylxkarithumsamy aelaepnthinasnickhxngwiswkr aelasudthay khxmphiwetxrekbkhxmulinhnwyphunthanepnbit ethiybidkbelkhthansxng erasamarththrabwacanwnetm n ichenuxthiekbkibitxyangkhraw odyichlxkarithumthansxng log2 n smbtiechnnipraktsa inwithyakarkhxmphiwetxraelathaihlxkarithumthansxngepnthiniyminsakhani epntn bxykhrngthipraethsinaethbyuorpichsykrnni blog x aethnthicaepn logb x sykrn ln lxkarithumthrrmchatikhxng x ekhiynidxikxyanghnungwa ln x aethnthicaepn loge x odyechphaainsakhaxunthiimichkhnitsastr xyangirktamnkkhnitsastrbangkhnimyxmrbkarichsykrnni xathi Paul Halmos nkkhnitsastrchawyiw idwicarniwinxtchiwprawtikhxngekhaemux kh s 1985 wa ln epn sykrnaebbedk aelaekhayngklawxikdwywaimminkkhnitsastrkhnihnekhyich khxethccringkhuxsykrnnikhidkhnkhunody Irving Stringham sastracarycakmhawithyalyaekhlifxreniy ebirkliy emux kh s 1893 withyakarkhxmphiwetxr inwithyakarkhxmphiwetxr lxkarithumthansxngbangkhrngkekhiyninrupaebb lg x sungesnxody Edward Reingold aelathaihaephrhlayody odnld khnuth Donald Knuth xyangirktamsykrnnikmikarichepnlxkarithumsamy aelaich lb x sahrblxkarithumthansxngaethn intarakhxngrsesiy sykrn lg x mikarichaethnlxkarithumthansibodythwip rwmthngineyxrmni inkhnathi ld x hrux lb x ichepnlxkarithumthansxng phasaopraekrmichsykrn log2 x sahrblxkarithumthansxng than b khxngfngkchnlxkarithumthithanganekiywkbkarekhiynopraekrm thuklathinghruxthaihimthrabkha ephuxkhwamsadwktxkarichinkarepliynthan sungepnexklksnxyanghnungsahrbkarkhanwnthanid ipepnlxkarithumthan r khxng x dngni logr x logb x logb r displaystyle log r x frac log b x log b r sahrbthan b id hruxekhiynephiyngaekh logr x log x log r displaystyle log r x frac log x log r dd than b khxngfngkchnlxkarithumsamarthkahndodyecaacnglngipid echnkarkhanwnkhwamphidphladkhxngkhwamkhladekhluxn dwyexklksntxipni b n1logb n displaystyle b n frac 1 log b n hruxekhiynephiyngaekh base n1log n displaystyle text base n frac 1 log n sahrbkha n id thiehmaasm dd karaenanaaelamatrthan krathrwngphanichyshrthxemrika idaenanaiwwakhwrptibtitammatrthanixexsoxeruxng ISO 31 11 1992 ekhruxnghmayaelasylksnthangkhnitsastrsahrbichinwithyasastrkayphaphaelaethkhonolyi sungidaenanasykrniwsamaebbdngni sykrn ln x hmaythung loge x sykrn lg x hmaythung log10 x sykrn lb x hmaythung log2 x duephimlxkarithumthrrmchati iterated logarithm complex logarithm xangxingkrnithwip x aela b samarthepncanwnechingsxnidthngkhu duephiminhnngsuxxangxingkhxng Kwok aelabthkhwam Yue Kuen Kwok 2002 Applied complex variables for scientists and engineers Cambridge MA Cambridge University Press p 102 ISBN 0521004624 echnphasasi phasasiphlsphls phasacawa phasafxraethrn phasaiphthxn phasarubi aelaphasaebsik Mathematisches Lexikon at Mateh online at Paul Halmos 1985 I Want to Be a Mathematician An Automathography Springer Verlag ISBN 978 0387960784 Irving Stringham 1893 Uniplanar algebra being part I of a propaedeutic to the higher mathematical analysis The Berkeley Press p xiii Roy S Freedman 2006 Introduction to Financial Technology Academic Press p 59 ISBN 9780123704788 Gullberg Jan 1997 Mathematics from the birth of numbers W W Norton amp Co ISBN 039304002X Common Logarithm at MathWorld B N Taylor 1995 Guide for the Use of the International System of Units SI NIST Special Publication 811 1995 Edition US Department of Commerce aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb lxkarithum Log Calculator for all bases 2007 06 14 thi ewyaebkaemchchin Logarithm on MathWorld Jost Burgi Swiss Inventor of Logarithms Logarithm calculators and word problems with work shown for school students Translation of Napier s work on logarithms 2007 06 27 thi ewyaebkaemchchinbthkhwamkhnitsastrniyngepnokhrng khunsamarthchwywikiphiediyidodykarephimetimkhxmuldk