ดันแคน เอดเวิดส์ (อังกฤษ: Duncan Edwards; 1 ตุลาคม พ.ศ. 2479 – 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2501) เป็นนักฟุตบอลชาวอังกฤษที่เล่นให้กับสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ เขาเป็นหนึ่งในบัสบีเบบส์ ซึ่งเป็นกลุ่มนักเตะเยาวชนของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดภายใต้การคุมทีมของแมตต์ บัสบีในช่วงกลางคริสต์ทศวรรษที่ 1950 และยังเป็นหนึ่งในผู้เล่นแปดคนที่เสียชีวิตจากภัยพิบัติทางอากาศมิวนิก
รูปปั้นของเอิดเวิร์ดในใจกลางของดัดลีย์ บ้านเกิดของเขา | |||
ข้อมูลส่วนตัว | |||
---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | ดันแคน เอดเวิดส์ | ||
วันเกิด | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2479 | ||
สถานที่เกิด | ดัดลีย์, วุร์สเตอร์เชียร์, ประเทศอังกฤษ | ||
วันเสียชีวิต | 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2501 (21 ปี) | ||
สถานที่เสียชีวิต | มิวนิก, รัฐบาวาเรีย, ประเทศเยอรมนีตะวันตก | ||
ส่วนสูง | 5 ft 11 in (1.80 m) | ||
ตำแหน่ง | กองกลาง | ||
สโมสรเยาวชน | |||
1952–1953 | แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด | ||
สโมสรอาชีพ* | |||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) |
1953–1958 | แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด | 151 | (20) |
ทีมชาติ | |||
1949–1952 | 9 | (0) | |
1954–1957 | 6 | (5) | |
1953–1954 | 4 | (0) | |
1955–1958 | อังกฤษ | 18 | (5) |
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น |
เอดเวิดส์เกิดในดัดลีย์ เทศมณฑลวุร์สเตอร์เชียร์ เขาทำสัญญากับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดตั้งแต่ยังวัยรุ่น และกลายเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่เล่นในฟุตบอลลีกเฟิสต์ดิวิชันและผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง ในอาชีพนักฟุตบอลของเขานั้น เขาช่วยให้ยูไนเต็ดชนะเลิศฟุตบอลลีก 2 ครั้ง และไปถึงรอบรองชนะเลิศยูโรเปียนคัพ
ประวัติ
ช่วงต้นของชีวิต
เอดเวิดส์เกิดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2479 ในบ้านของเขาที่เขตวูดไซด์ของดัดลีย์ ซึ่งในขณะนั้นยังเป็นส่วนหนึ่งของวุร์สเตอร์เชียร์ เขาเป็นลูกชายคนโตของแกลดสโตนและซาราห์ แอนน์ เอ็ดเวิร์ด และยังเป็นลูกคนเดียวของพวกเขาที่มีชีวิตรอดจากวัยเด็ก น้องสาวของเขา แคโรล แอนน์ เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2490 ด้วยอายุ 14 สัปดาห์ ต่อมาเขาและครอบครัวได้ย้ายบ้านมายัง 31 เอล์ม โรด ซึ่งอยู่ในดัดลีย์เหมือนกัน เอดเวิดส์เข้าศึกษาที่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2484 ถึง พ.ศ. 2491 และตั้งแต่ปี พ.ศ. 2491 ถึง พ.ศ. 2495 เขายังเล่นฟุตบอลให้กับทีมฟุตบอลโรงเรียน วุร์สเตอร์เชียร์แอนด์เบอร์มิงแฮม และทีมฟุตบอลประจำเขต เขายังเป็นตัวแทนของโรงเรียนใน เขาได้ถูกเลือกให้ไปแสดงในงานเต้นมอร์ริสแห่งชาติ แต่ก็ได้รับข้อเสนอให้ลองไปคัดตัวกับทีมอายุไม่เกิน 14 ปีของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ซึ่งส่งมาในวันเดียวกันและเขาเลือกที่จะเข้าคัดตัวทีหลัง
ความสามารถในการเล่นฟุตบอลของเอดเวิดส์สร้างความประทับใจแก่ผู้คัดตัว ทำให้เขาได้ไปเล่นในทีมฟุตบอลโรงเรียนอังกฤษ และได้ลงเป็นนัดแรกพบกับเวลส์ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ ในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2493 หลังจากนั้นเขาก็ได้ถูกเลือกให้เป็นกัปตันทีม และเป็นได้สองฤดูกาล เพราะเขาถูกจับตามองจากสโมสรใหญ่ ๆ โดยแจ็ค โอไบรเอน แมวมองของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ได้รายงานกลับมายังแมตต์ บัสบี ผู้จัดการทีมในขณะนั้นว่า "วันนี้ได้เห็นเด็กนักเรียนวัย 12 ปีที่เขาจับตามองเป็นพิเศษ เขาชื่อดันแคน เอดเวิดส์จากดัดลีย์"
โจ เมอร์เซอร์ ผู้ซึ่งในเวลานั้นเป็นโค้ชให้กับทีมฟุตบอลโรงเรียนอังกฤษ ได้กระตุ้นให้บัสบีทำข้อสัญญากับเอดเวิดส์ ผู้ซึ่งถูกจับตามองจากสโมสรฟุตบอลวุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์และแอสตันวิลลา เอดเวิดส์เซ็นสัญญากับยูไนเต็ดเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2495 แต่ระยะเวลาที่เขาเซ็นสัญญาจริง ๆ นั้นไม่แน่นอน บางส่วนก็ว่าเขาเซ็นสัญญาในวันเกิดปีที่ 17 ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2496 บางส่วนก็ว่าเขาเซ็นสัญญาก่อนหน้านั้นปีนึงแล้ว แต่วันที่ที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้เป็นวันเซ็นสัญญาของเอดเวิดส์ที่ยืนยันจากทางสโมสรอย่างเป็นทางการ ซึ่งตัวบัสบีเอง หรือโค้ช เดินทางไปยังบ้านของเอดเวิดส์เพื่อให้เขาเซ็นสัญญาโดยเร็วที่สุด แต่รายงานอื่น ๆ เชื่อว่านี่เกิดขึ้นเมื่อเขาเซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ผู้จัดการทีมของสโมสรฟุตบอลวุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ ไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งที่พลาดการเซ็นสัญญากับเยาวชนในบ้านของตัวเอง และยังแย้งอีกว่ายูไนเต็ดได้นำเงินมาเป็นตัวช่วยโน้มใจเอดเวิดส์และครอบครัวของเขา แต่ตัวเอดเวิดส์ยืนยันว่าเขาต้องการที่จะเล่นให้กับสโมสรฟุตบอลในแลงคาเชอร์ นอกจากนี้ เขายังได้รับการประกันว่าหากไม่ประสบความสำเร็จในอาชีพนักฟุตบอลจะยังคงมีงานทำ โดยได้ฝึกงานเป็น
อาชีพนักฟุตบอล
เอดเวิดส์เริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลที่ทีมเยาวชนของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และได้ลงเล่นเป็นครั้งคราวในการแข่งขันเอฟเอยูธคัพ ซึ่งพวกเขาชนะเลิศเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2496 แต่ในนัดชิงชนะเลิศนั้น เขาก็ได้ลงเป็นตัวจริงนัดแรก วันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2496 เขาได้เล่นในนัดฟุตบอลลีกเฟิสต์ดิวิชันที่พบกับคาร์ดิฟฟ์ซิตี ซึ่งยูไนเต็ดแพ้ 4–1 ด้วยอายุ 16 ปี 185 วัน ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดตลอดกาลที่เล่นในลีกสูงสุด ด้วยความที่สโมสรในเวลานั้นเต็มไปด้วยผู้เล่นที่อายุมากเป็นจำนวนมาก บัสบี ผู้จัดการทีมในขณะนั้น จึงได้หาเยาวชนเข้ามาเสริมแทน และเอดเวิดส์ พร้อมกับ และ เป็นหนึ่งในเยาวชนที่บัสบีได้ดึงขึ้นมาทดแทนผู้เล่นเก่าในช่วงปี พ.ศ. 2496 ซึ่งภายหลังได้เรียกเยาวชนชุดนี้ว่า "บัสบีเบบส์" ด้วยความสามารถของเขาในนัดแรกที่ได้ลงเป็นตัวจริง หนังสือพิมพ์ ให้ความเห็นไว้ว่า "เขาแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการผ่านบอลและยิง แต่เขาจะต้องเคลื่อนที่ได้รวดเร็วกว่านี้ ในฐานะที่เล่นในตำแหน่งปีก"
เอดเวิดส์ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงแก่สโมสรบ่อยครั้ง จนเสมือนว่าเขาเป็นผู้เล่นตัวจริงของสโมสรไปแล้ว หลังจากในนัดกระชับมิตรกับ เขาแทนที่ที่บาดเจ็บ ในนัดเยือนที่พบกับสโมสรฟุตบอลฮัดเดอส์ฟิลด์ทาวน์ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2496 และได้ลงเป็นตัวจริงทั้งหมด 24 นัดในลีก และในเอฟเอคัพซึ่งพ่ายแพ้ให้กับเบิร์นลีย์ ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของทีมเยาวชนและได้ชนะเลิศเอฟเอยูธคัพเป็นสมัยที่สองติดต่อกัน เขาได้ลงเป็นตัวจริงครั้งแรกแก่ทีมชาติชุดอายุไม่เกิน 23 ปีในนัดที่พบกับอิตาลี เมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2497 หลังจากนั้นเขาก็ถูกพิจารณาให้ขึ้นไปเล่นในทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ แต่ในวันที่คณะผู้คัดเลือกเดินทางมาดูการเล่นของเขาในนัดการแข่งขันกับอาร์เซนอล ในวันที่ 27 มีนาคม เขาแสดงฟอร์มการเล่นที่ไม่ดี ทำให้เขาไม่ถูกพิจารณา
ฤดูกาลต่อมา เขาได้รับโอกาสลงเป็นตัวจริงทั้งหมด 36 ครั้งและสามารถทำประตูได้เป็นประตูแรก และสโมสรจบเป็นอันดับที่หกในฤดูกาลนั้น ความสามารถของเขาทำให้เขาจะถูกคัดตัวไปร่วมทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่เป็นครั้งที่สอง และสมาชิกของคณะผู้คัดเลือกก็รีบรุดมาชมการแข่งขันกับฮัดเดอส์ฟิลด์ทาวน์ ที่มีขึ้นในวันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2497 แต่ความสามารถของเขาก็ไม่เข้าตาของคณะผู้คัดเลือกอีก แม้ว่าเขาจะถูกเลือกให้ไปเล่นใน ซึ่งจะแข่งขันในนัดกระชับมิตรกับ ในเดือนมีนาคม เขาเล่นให้กับ พบกับทีมที่อยู่ในระดับเดียวกันจากประเทศเยอรมนีและหนึ่งสัปดาห์ต่อมา เขาก็ถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ แม้ว่าเขาจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องการเล่นที่ไม่ดี เขาได้ลงเป็นตัวจริงครั้งแรกสำหรับทีมชาติเมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2498 ในนัดที่พบกับสกอตแลนด์ ในการแข่งขัน ด้วยอายุ 18 ปี 183 วัน ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงแก่ทีมชาติอังกฤษ หลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง แต่สถิตินี้ก็คงอยู่จนกระทั่ง ไมเคิล โอเวน ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงครั้งแรกในปี พ.ศ. 2541 สามสัปดาห์ต่อมา ยูไนเต็ดยังคงให้เขาติดทีมเยาวชนของสโมสร เพื่อจะได้ชนะเลิศเอฟเอยูธคัพเป็นสมัยที่สามติดต่อกัน แต่การที่นักฟุตบอลทีมชาติอังกฤษเล่นให้กับทีมเยาวชนนั้นจะไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง และถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก แมตต์ บัสบี ผู้จัดการทีมก็ออกมาให้สัมภาษณ์เพื่อปกป้องตัวเอดเวิดส์ที่ได้ตัดสินใจว่าจะลงเล่นให้กับทีมเยาวชน
ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2498 เอดเวิดส์ถูกเลือกให้เล่นกับทีมชาติอังกฤษชุดที่จะไปแข่งกับฝรั่งเศส โปรตุเกส และสเปน ซึ่งเขาได้ลงเล่นเป็นตัวจริงทั้งสามนัด หลังจากที่เขากลับมาจากยุโรปแผ่นดินใหญ่แล้ว เขาก็ได้เกณฑ์ทหารกับกองทัพบริติชเป็นระยะเวลา 2 ปี ซึ่งเป็นข้อบังคับสำหรับชายหนุ่มที่มีอายุเท่าเขาในเวลานั้น ซึ่งเขาได้ประจำการอยู่ที่ ใกล้กับ ร่วมกับเพื่อนร่วมทีม บ็อบบี ชาร์ลตัน แต่ทั้งสองของถูกอนุญาตให้กลับไปเล่นกับสโมสรได้ตามเวลา เขายังได้ลงเล่นในนัดแข่งขันของทหาร และในหนึ่งฤดูกาล เขาก็ได้ลงไปกว่า 100 นัดทั้งหมด ใน เอดเวิดส์ไม่ได้ลงเล่นให้กับสโมสรเป็นระยะเวลาเกือบสองเดือน เนื่องจากป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ แต่ถึงอย่างนั้น เขายังสามารถลงเล่นให้กับยูไนเต็ดได้ 33 นัด จนกระทั่งยูไนเต็ดชนะเลิศฟุตบอลลีก โดยมีคะแนนห่างจากแบล็กพูล 11 คะแนน ฤดูกาลต่อมา เขาลงเล่นในลีก 34 นัด ซึ่งยูไนเต็ดก็ได้ชนะในฟุตบอลลีกเป็นสมัยที่สองติดต่อกัน เขายังได้อยู่ในทีมชุดที่จะแข่ง แต่ยูไนเต็ดก็พลาดคว้าสองแชมป์ โดยแพ้ให้กับแอสตันวิลลา 2–1 เขายังได้ลงเล่นให้กับยูไนเต็ดในการแข่งขันยูโรเปียนคัพทั้งหมด 7 นัด รวมทั้งนัดที่ยูไนเต็ดชนะ 10–0 ซึ่งกลายเป็นสถิติของยูไนเต็ดที่ชนะด้วยประตูมากที่สุด ตอนนี้เอดเวิดส์ก็กลายเป็นตัวจริงของทีมชาติอังกฤษไปแล้ว โดยได้ลงเล่นในรอบคัดเลือกของฟุตบอลโลก 1958 ทั้ง 4 นัด และทำประตูได้สองประตู ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2499 ซึ่งเป็นนัดที่ชนะเดนมาร์ก 5–2 เขาถูกคาดหมายไว้ว่าจะเป็นผู้เล่นอังกฤษคนหนึ่งที่จะได้เล่นในรอบแพ้ตัดเชือกของฟุตบอลโลก และยังหมายไว้อีกว่า เขาจะได้แทนที่ เป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษ
เอดเวิดส์เริ่มต้นฤดูกาล 1957–58 ด้วยฟอร์มที่ดีและมีข่าวลือว่าสโมสรใหญ่จากอิตาลีจะเซ็นสัญญากับเขา นัดสุดท้ายของเขาในอังกฤษ มีขึ้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2501 เมื่อเขาทำประตูให้กับยูไนเต็ดให้เอาชนะอาร์เซนอลไปได้ 5–4 การเล่นของเขาถูกวิจารณ์โดยสำนักข่าว เนื่องจากการเล่นที่ไม่ดีของเขา เป็นเหตุให้อาร์เซนอลได้ประตูที่ 4 แต่ก็ยังทำให้ ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษประทับใจ ห้าวันต่อมา เขาลงเล่นในนัดสุดท้ายตลอดกาลของเขา ซึ่งยูไนเต็ดเสมอกับเรดสตาร์เบลเกรด 3–3 ในนัดเยือนและได้ผ่านเข้าไปเล่นรอบรองชนะเลิศยูโรเปียนคัพ ด้วยผลรวมประตู 5–4
การเสียชีวิต
ขณะที่เดินทางจากเบลเกรด เพื่อกลับบ้าน เครื่องบินที่เอดเวิดส์และเพื่อนร่วมทีมของเขาโดยสารอยู่ก็เกิดอุบัติเหตุระหว่างที่จะบินขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่เครื่องบินลำนี้ได้ลงจอดเพื่อเติมเชื้อเพลิงในมิวนิก ประเทศเยอรมนี ผู้เล่น 7 คนและผู้โดยสารคนอื่น 14 คนเสียชีวิตทันที และเอดเวิดส์ถูกพามายังในมิวนิก ด้วยอาการบาดเจ็บสาหัสที่ขา สะโพก และไต แพทย์พยายามปลอบเขาด้วยโอกาสที่จะรอดชีวิต แต่เขาอาจไม่สามารถกลับไปเล่นฟุตบอลได้อีก
แพทย์ได้ใช้ เพื่อให้เขามีชีวิตรอดต่อไป แต่อวัยวะเทียมนี้ทำให้ความสามารถในการแข็งตัวของเลือดลดลง และเริ่มมีเลือดออกภายในร่างกาย อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังคงถามผู้ช่วยผู้จัดการทีม จิมมี เมอร์ฟี ว่า "กี่โมงที่เราจะลงเล่นกับวูฟส์ จิมมี? ฉันต้องไม่พลาดนัดนั้น" วันที่ 14 กุมภาพันธ์ อาการของเขาถูกรายงานว่า "ดีขึ้นอย่างมาก" ถึงกระนั้น วันที่ 19 กุมภาพันธ์ อาการของเขากลับทรุดลงอย่างรวดเร็ว ด้วยการใช้ไตเทียม ซึ่งทำให้สุขภาพของเขาย่ำแย่ลง แพทย์ต่างประหลาดใจกับการสู้ชีวิตของเขา และวันต่อมา อาการของเขาก็ค่อย ๆ ดีขึ้น แต่ท้ายที่สุดแล้วเอ็ดเวิร์ดได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2501 เวลา 2 นาฬิกา 15 นาที หนึ่งชั่วโมงก่อนการเสียชีวิตของเขา นิตยสาร Football Mouthly ของ ก็ถูกตีพิมพ์ ด้วยหน้าปกที่มีภาพถ่ายของเอ็ดเวิร์ดกำลังยิ้มอยู่
ร่างของเอดเวิดส์ถูกฝังที่สุสานดัดลีย์ ใน 5 วันต่อมา เขาถูกฝังข้าง ๆ หลุมศพของแคโรล แอนน์ น้องสาวของเขา ประชาชนกว่า 5,000 คนออกมายืนเรียงกันตามถนนในดัดลีย์สำหรับงานศพของเขา หลุมศพของเขาจารึกไว้ว่า "วันแห่งความทรงจำ เขาจากพวกเราไปโดยไม่มีการอำลาและเขาจะไม่กลับมาอีก" และหลุมศพของเขาก็จะมีแฟนคลับมาเยือนที่นี่อยู่บ่อยๆ
การระลึก
เอดเวิดส์ได้ถูกทำเป็นอนุสรณ์หลายแห่งในดัดลีย์ บ้านเกิดของเขา ภาพวาดหน้าต่างกระจกสีของโบสถ์เซนต์ฟรานซิสซึ่งออกแบบโดย ถูกเปิดตัวโดยแมตต์ บัสบี ในปี พ.ศ. 2504 และรูปปั้นของเขาในใจกลางเมืองดัดลีย์ก็มอบให้จากแม่ของเอดเวิดส์และบ็อบบี ชาร์ลตัน ในปี พ.ศ. 2542 ปี พ.ศ. 2536 ตรอกตันของชุมชนหนึ่งใกล้กับสุสาน ที่ซึ่งเขาถูกฝังไว้ ได้ถูกตั้งชื่อว่า "ตรอกดันแคนเอดเวิดส์" ผับเวร์นส์เนสต์ใน ใกล้กับที่ที่เอดเวิดส์เติบโตมา ก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น "ดิดันแคนเอดเวิดส์" เพื่อเป็นเกียรติแก่เขาในปี พ.ศ. 2544 แต่มันก็ปิดตัวลงในห้าปีต่อมา เนื่องจากมีผู้ลอบวางเพลิง ในปี พ.ศ. 2549 มีเครื่องเล่นใหม่ๆ มูลค่ากว่า 100,000 ปอนด์ ในสวนสาธารณะพรีออรี ที่ซึ่งเอดเวิดส์มาเล่นตอนเด็กๆ ในปี พ.ศ. 2551 ถนนเลี่ยงเมืองทางตอนใต้ของดัดลีย์ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น "ดันแคนเอดเวิดส์เวย์" เพื่อเป็นเกียรติแก่เขาได้จัดแสดงสิ่งต่างๆที่เกี่ยวกับเขา รวมถึงหมวกที่แทนถึงการลงเล่นของเขาให้กับอังกฤษ บ้านจัดสรรในแมนเชสเตอร์ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นดันแคนเอดเวิดส์ รวมทั้งถนนที่ตัดผ่านบ้านเหล่านั้น ก็ได้นำชื่อของผู้เสียชีวิตในโศกนาฎกรรมมิวนิกมาตั้ง เช่น และ ในวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 แผ่นฟ้าถูกเปิดตัวโดยบ็อบบี ชาร์ลตัน ที่ห้องพักของเขาในสเตทฟอร์ด
ในปี พ.ศ. 2539 เอดเวิดส์เป็นหนึ่งในผู้เล่นห้าคนที่ถูกเลือกให้อยู่ในตราไปรษณียากรบริติช ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ "ตำนานนักฟุตบอล" โดยได้เปิดตัวเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1996 เขายังถูกแสดงโดย ในภาพยนตร์บริติชเรื่อง ซึ่งมีโครงเรื่องมาจากโศกนาฎกรรมมิวนิก
มีหลายคนที่ยกย่องความสามารถของเอดเวิดส์ บ็อบบี ชาร์ลตัน กล่าวถึงเอดเวิดส์ว่า "เป็นผู้เล่นคนเดียวที่ทำให้เขารู้สึกด้อยกว่า" และกล่าวว่าการตายของเขาเป็น "โศกนาฎกรรมเดียวที่ใหญ่ที่สุดที่เคยเกิดขึ้นกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและฟุตบอลอังกฤษ" เชื่อว่าถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ คนที่จะชูถ้วยฟุตบอลโลกในฐานะกัปตันทีมชาติอังกฤษ จะไม่ใช่บ็อบบี มัวร์ แต่เป็นดันแคน เอดเวิดส์กล่าวว่า "ไม่มีข้อกังขาใดๆ ที่จะทำให้ผมมั่นใจได้ว่าดันแคนเป็นนักฟุตบอลที่ดีที่สุดตลอดกาล ไม่ใช่แค่เฉพาะยูไนเต็ดและทีมชาติอังกฤษ แต่ยังดีที่สุดในโลก แม้ว่าจอร์จ เบสต์จะพิเศษ เช่นเดียวกับเปเล่ และมาราโดนา แต่สำหรับผมแล้ว ดันแคนดีกว่าพวกเขามากทั้งในด้านทักษะและความสามารถ" การรับรู้ถึงความสามารถของเอดเวิดส์นั้น ทำให้มันเป็นอันดับแรกของฮอลล์ออฟเฟมของฟุตบอลอังกฤษในปี พ.ศ. 2545
รูปแบบการเล่น
ถึงแม้ว่าเขาจะเล่นอยู่ในตำแหน่งกองกลางตัวรับเป็นหลัก แต่เอดเวิดส์เคยกล่าวไว้ว่า เขาสามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในสนาม ครั้งหนึ่งเขาเคยถูกส่งลงเป็นกองหน้าตัวเป้าแทนผู้เล่นที่เล่นตำแหน่งนี้ประจำ เนื่องจากบาดเจ็บ และในนัดเดียวกัน เขาก็ถูกเปลี่ยนไปเล่นเป็นกองหลังตำแหน่งกลาง ด้วยสาเหตุเดียวกัน พรสวรรค์อันยิ่งใหญ่ของเขา คือ ความแข็งแรงทางจิตใจของเขาและมีความเป็นผู้นำในสนาม ซึ่งเขามักจะถูกกล่าวไว้ว่า เป็นสิ่งที่น่าจดจำสำหรับนักเตะเยาวชนเช่นเขา เขายังมีพละกำลังที่มากบรรยายว่าเอดเวิดส์เปรียบเสมือนเป็น "ก้อนหินกลางทะเลอันโหดร้าย"บ็อบบี มัวร์ยังเปรียบเทียบเขากับ เมื่ออยู่ในสถานการณ์ตั้งรับ นอกจากนี้เขายังถูกบรรยายไว้อีกว่าเป็น "กองหน้าที่คม" จากร่างกายของเขาทำให้เขาได้ชื่อเล่นว่า "บิกดังก์" และ "ดิแทงก์" และเขายังได้รับการขนานนามว่าเป็นนักเตะที่อึดที่สุดตลอดกาล
เอดเวิดส์ยังถูกบรรยายเกี่ยวกับแรงและช่วงเวลาที่เขาใช้ในการสกัดลูกฟุตบอลและในการจ่ายบอลและยิงด้วยความสมดุลของเท้าทั้งสองข้าง เขายังเป็นที่รู้จักในเรื่องของการวิ่งในสนาม ความสามารถในการโหม่งบอล และการยิงประตูจากระยะไกล หลังจากที่เขาทำประตูได้เมือ่วันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2499 ในนัดที่พบกับเยอรมนีตะวันตก เขาได้ชื่อเล่นใหม่ว่า "บูม บูม" โดยสำนักข่าวท้องถิ่นของเยอรมนี เพราะว่า "ได้ยิงในรองเท้าของเขา"
สถิติ
สโมสร | ฤดูกาล | ฟุตบอลลีก เฟิสต์ดิวิชัน | เอฟเอคัพ | ยูโรเปียนคัพ | ชาริตีชีลด์ | รวม | |||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ||
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด | 1 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 1 | 0 | |
24 | 0 | 1 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 25 | 0 | ||
33 | 6 | 3 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 36 | 6 | ||
33 | 3 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 33 | 3 | ||
34 | 5 | 6 | 1 | 7 | 0 | 1 | 0 | 48 | 6 | ||
26 | 6 | 2 | 0 | 5 | 0 | 1 | 0 | 34 | 6 | ||
รวมทั้งหมด | 151 | 20 | 12 | 1 | 12 | 0 | 2 | 0 | 177 | 21 |
ทีมชาติ | ฤดูกาล | ลงเล่น | ประตู |
---|---|---|---|
อังกฤษ | 1954–55 | 4 | 0 |
1955–56 | 5 | 1 | |
1956–57 | 6 | 3 | |
1957–58 | 3 | 1 | |
รวมทั้งหมด | 18 | 5 |
ระดับชาติ
- ผลประตูและคะแนนจะนำทีมชาติอังกฤษขึ้นก่อน
# | วันที่ | สนาม | คู่แข่ง | คะแนน | ผล | การแข่งขัน |
---|---|---|---|---|---|---|
1 | 26 พฤษภาคม 2499 | โอลึมเพียชตาดิโยน, เบอร์ลิน | เยอรมนีตะวันตก | 1–0 | 3–1 | กระชับมิตร |
2 | 5 ธันวาคม 2499 | , วุลเวอร์แฮมป์ตัน | เดนมาร์ก | 4–2 | 5–2 | |
3 | 5–2 | |||||
4 | 6 เมษายน 2500 | สนามกีฬาเวมบลีย์, ลอนดอน | สกอตแลนด์ | 2–1 | 2–1 | |
5 | 6 พฤศจิกายน 2501 | สนามกีฬาเวมบลีย์, ลอนดอน | ไอร์แลนด์เหนือ | 2–3 | 2–3 |
ชีวิตส่วนตัว
เอดเวิดส์เป็น และชีวิตของเขานอกวงการฟุตบอลนั้น มีความส่วนตัวเป็นอย่างมาก เขามีความสนใจในการตกปลา เล่นไพ่ และไปโรงภาพยนตร์ แม้ว่าเขามักจะร่วมเต้นรำกับเพื่อนร่วมทีม แต่เขาก็ไม่เคยมีความมั่นใจต่อสภาพแวดล้อมของสังคมจิมมี เมอร์ฟี ผู้ช่วยผู้จัดการทีมของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้บรรยายไว้ว่า เอดเวิดส์เป็น "เด็กบริสุทธิ์" และเขาสามารถพูดสำเนียงได้ ซึ่งเพื่อนร่วมทีมของเขายากที่จะเลียนแบบ ครั้งหนึ่งเอดเวิดส์เคยถูกตำรวจจับในข้อหาขี่จักรยานที่ไม่มีไฟหน้า เขาถูกปรับเป็นเงิน 5 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ และค่าเหนื่อยสองสัปดาห์จากสโมสร
ช่วงที่เขายังมีชีวิตอยู่ เอดเวิดส์อาศัยอยู่ในห้องพัก บริเวณกอร์สอเวนิว เวลานั้นเขาได้หมั้นกับมอลลี ลีช วัย 22 ปี ผู้ซึ่งเป็นพนักงานในโรงงานผลิตสิ่งทอ ในบริเวณ เขาและมอลลีพบกันที่โรงแรมในท่าอากาศยานแมนเชสเตอร์ เมื่อหนึ่งปีก่อนที่ทั้งคู่จะหมั้นกัน ทั้งคู่ยังเป็นผู้ปกครองอุปถัมภ์ของลูกสาวของเพื่อนของลีช โจเซฟีน สตอทท์
เอดเวิดส์มีผลงานการโฆษณาเม็ดกลูโคส และยังเขียนหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อว่า "แทคเกิลซอกเกอร์ดิสเวย์" การโฆษณาทำให้เขามีรายได้เพิ่ม 15 ปอนด์ต่อสัปดาห์ในแต่ละฤดู เว้นในฤดูร้อนซึ่งเขาจะได้ 12 ปอนด์ต่อสัปดาห์ หนังสือที่เขาเขียนนั้นถูกตีพิมพ์หลังจากที่เขาเสียชีวิตไม่นานด้วยความเห็นชอบจากครอบครัวของเขา และหลังจากที่ถูกตีพิมพ์นานหลายปี หนังสือเล่มนี้ก็ถูกตีพิมพ์ซ้ำอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2552
อ้างอิง
- McCartney, p. 1.
- "Staffordshire Boundary Changes". GENUKI. 26 March 2001. สืบค้นเมื่อ 14 February 2008.
- Dickinson, Matt (1 February 2008). "Tragedy of the golden boy whose talent knew no bounds". The Times. London. สืบค้นเมื่อ 13 February 2008.
- "Duncan Edwards- 50 years on". Dudley News. 30 January 2008. สืบค้นเมื่อ 20 February 2008.
- McCartney, p. 4.
- "Your memories of Duncan". Dudley News. 30 January 2008. สืบค้นเมื่อ 14 February 2008.
- McCartney, p. 5.
- Philip, Robert (6 February 2008). . The Daily Telegraph. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-06-10. สืบค้นเมื่อ 13 February 2008.
- "Edwards: The Black Country's greatest". Birmingham Post. 8 February 2008. สืบค้นเมื่อ 14 February 2008.
- Viner, Brian (1 October 2001). "Football: Enduring legend of indomitable Edwards". The Independent. สืบค้นเมื่อ 14 February 2008.[]
- McCartney, p. 12.
- "Legends: Duncan Edwards". Manchester United F.C. สืบค้นเมื่อ 26 January 2011.
- McCartney, p. 25.
- . Express and Star. 8 January 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-09-19. สืบค้นเมื่อ 18 February 2008.
- McCartney, p. 13.
- Meek, p. 100.
- McCartney, p. 16.
- Horne et al., p. 225.
- . Soccerbase. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-12-05. สืบค้นเมื่อ 13 February 2008.
- Holt, Lloyd, p. 140.
- McCartney, p. 22.
- McCartney, pp. 25–26.
- "Duncan Edwards". stretfordend.co.uk. สืบค้นเมื่อ 19 February 2008.
- "Manchester United". The Football Club History Database. สืบค้นเมื่อ 19 February 2008.
- McCartney, p. 30.
- McCartney, pp. 34–36.
- McCartney, p. 41.
- McCartney, p. 52.
- McCartney, pp. 52–53.
- McCartney, pp. 56–57.
- Courtney, Barry (8 June 2005). "England – International Results 1950–1959 – Details". Rec.Sport.Soccer Statistics Foundation. สืบค้นเมื่อ 16 September 2010.
- McCartney, p. 59.
- Greenhalgh, Simon (4 February 2008). "Charlton remembers his lost team mates". Messenger Newspapers. สืบค้นเมื่อ 21 February 2008.
- Meek, p. 102.
- McCartney, pp. 60–61.
- . Soccerbase. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-12-05. สืบค้นเมื่อ 19 February 2008.
- . Soccerbase. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-12-05. สืบค้นเมื่อ 19 February 2008.
- "Broken dreams: United and Villa in a game of two eras". The Independent. 2 January 2008. สืบค้นเมื่อ 19 February 2008.
- . Soccerbase. 23 February 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-01-26. สืบค้นเมื่อ 21 February 2008.
- "World Cup 1958 qualifications". Rec.Sport.Soccer Statistics Foundation. สืบค้นเมื่อ 15 September 2010.
- Charlton, Bobby (3 February 2008). . The Daily Telegraph. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-04-04. สืบค้นเมื่อ 14 February 2008.
- Meek, David (6 February 2008). "Busby Babes were destined for great things". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 19 February 2008.
- McCartney, p. 105.
- "Pat Rice recalls United's last match in Britain before the Munich air disaster of 1958". Daily Mail. 5 February 2008. สืบค้นเมื่อ 20 February 2008.
- McCartney, p. 113.
- "Old International" (6 February 1958). "United through: excitement aplenty in second half". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 20 February 2008.
- "1958: United players killed in air disaster". BBC. 6 February 1958. สืบค้นเมื่อ 18 February 2008.
- . Sportsnet.ca. 1 February 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-02-07. สืบค้นเมื่อ 18 February 2008.
- "Hodgy sheds a tear for mate". Bicester Advertiser. 5 February 2008. สืบค้นเมื่อ 18 February 2008.
- McCartney, p. 114.
- McCartney, p. 117.
- Wagg et al., p. 22.
- "Manchester soccer star much improved". Calgary Herald. Google News. Reuters. 14 February 1958. สืบค้นเมื่อ 23 April 2011.
- Henderson, Gair (19 February 1958). "'Edwards is sinking rapidly'". Evening Times. สืบค้นเมื่อ 24 April 2011.
- "The lost Babes". The Guardian. 5 February 2008. สืบค้นเมื่อ 18 February 2008.
- Clarke, Roger (21 February 2008). "Football: Dudley's jewel in the crown... Busby Babe Duncan Edwards died 50 years ago today, aged just 21". . สืบค้นเมื่อ 18 November 2012.
- Inglis, Simon (2008). The Best of Charles Buchan's Football Monthly. Malavan Media. p. 57. ISBN .
- Hassan, Nabil (6 February 2008). "Why Edwards was king". BBC. สืบค้นเมื่อ 13 February 2008.
- Madeley, Peter (4 February 2008). . ESPN. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-10-21. สืบค้นเมื่อ 14 February 2008.
- McCartney, p. 121.
- "The day decency died in our 'beautiful game'". Daily Mail. 1 February 2008. สืบค้นเมื่อ 18 February 2008.
- Robson, James (6 February 2008). "A rock in a raging sea". Manchester Evening News. สืบค้นเมื่อ 13 February 2008.
- "A Tribute to Duncan Edwards" (PDF). . สืบค้นเมื่อ 30 June 2015.[]
- "Fans adorn statue of Duncan Edwards with a United shirt". Daily Mail. 5 February 2008. สืบค้นเมื่อ 13 February 2008.
- ""Eyesore" pub set for revamp". Dudley News. 16 November 2006. สืบค้นเมื่อ 14 February 2008.
- "c". Stourbridge News. 13 January 2006. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-20. สืบค้นเมื่อ 18 February 2008.
- Bradley, Steve (29 December 2008). . Birmingham Mail. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-09-26. สืบค้นเมื่อ 18 June 2009.
- . . 14 December 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-11-22. สืบค้นเมื่อ 15 November 2012.
- Conn, David (21 April 2010). "FC United homage to history as they prepare for future at Newton Heath". The Guardian. Guardian News and Media. สืบค้นเมื่อ 4 January 2011.
- Downes, Robert (26 May 2011). "Busby Babes players honoured in blue plaque scheme". Stretford and Altrincham Messenger. สืบค้นเมื่อ 31 May 2011.
- Wilson, Iain (27 March 1996). "English stamp their authority in football poll". . Glasgow. สืบค้นเมื่อ 9 February 2011.
- "Family so proud of film about Duncan Edwards". Express and Star. 15 November 2010. สืบค้นเมื่อ 27 April 2011.
- "Greatest England XI – Sir Bobby Charlton". The Football Association. 7 November 2003. สืบค้นเมื่อ 19 January 2011.
- Collett, Mike (1 February 2008). "Edwards had everything but time on his side". Reuters. สืบค้นเมื่อ 18 February 2008.
- "England Player Honours – National Football Museum Hall of Fame". England Football Online. 1 November 2004. สืบค้นเมื่อ 14 February 2008.
- Winter, Henry (9 February 2008). . The Daily Telegraph. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-04-16. สืบค้นเมื่อ 19 February 2008.
- Galvin, Robert. "Duncan Edwards". The National Football Museum. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-01-15. สืบค้นเมื่อ 13 February 2008.
- Murphy, Alex (18 February 2008). "Football's 50 greatest hard men". The Times. London. สืบค้นเมื่อ 7 August 2007.
- Northcroft, Jonathan (14 February 2008). "Lost in time – Manchester United's 1958 Busby Babes". The Times. London. สืบค้นเมื่อ 3 February 2008.
- Greenhalgh, Simon (22 January 2008). "Remembering a legend". Messenger Newspapers. สืบค้นเมื่อ 13 February 2008.
- McCartney, p. 38.
- McCartney, p. 61.
- McCartney, p. 39.
- Mullock, Simon (10 February 2008). "Dietmar Hamann urges Man City fans to behave for minute's silence". Daily Mirror. สืบค้นเมื่อ 14 February 2008.[]
- Kelly, Graham (7 April 2003). "Graham Kelly: Rooney's rise mirrored in simpler days of Edwards". The Independent. สืบค้นเมื่อ 22 February 2008.[]
- Smith, Rory (3 February 2008). . Sunday Mirror. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-02-06. สืบค้นเมื่อ 13 February 2008.
- "Tackle Soccer This Way". Kelmscott Press. สืบค้นเมื่อ 19 November 2009.
บรรณานุกรม
- Holt, Nick; Lloyd, Guy (2006). Total British Football. Flame Tree Publishing. ISBN .
- Horne, John; Tomlinson, Alan; Whannel, Garry (1999). Understanding Sport: An Introduction to the Sociological and Cultural Analysis of Sport. Taylor & Francis. ISBN .
- Leighton, James (2002). Duncan Edwards: The Greatest. London: Simon & Schuster UK. ISBN .
- McCartney, Iain (2001). Duncan Edwards: The Full Report. Britespot Publishing Solutions. ISBN .
- Meek, David (2006). Legends of United: The Heroes of the Busby Years. Orion Books. ISBN .
- Wagg, Stephen (2004). Andrews, David L. (บ.ก.). Manchester United: A Thematic Study. Routledge. ISBN .
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
dnaekhn exdewids xngkvs Duncan Edwards 1 tulakhm ph s 2479 21 kumphaphnth ph s 2501 epnnkfutbxlchawxngkvsthielnihkbsomsrfutbxlaemnechsetxryuinetdaelafutbxlthimchatixngkvs ekhaepnhnunginbsbiebbs sungepnklumnketaeyawchnkhxngaemnechsetxryuinetdphayitkarkhumthimkhxngaemtt bsbiinchwngklangkhristthswrrsthi 1950 aelayngepnhnunginphuelnaepdkhnthiesiychiwitcakphyphibtithangxakasmiwnikdnaekhn exdewidsruppnkhxngexidewirdinicklangkhxngddliy banekidkhxngekhakhxmulswntwchuxetmdnaekhn exdewidswnekid1 tulakhm ph s 2479sthanthiekidddliy wursetxrechiyr praethsxngkvswnesiychiwit21 kumphaphnth ph s 2501 21 pi sthanthiesiychiwitmiwnik rthbawaeriy praethseyxrmnitawntkswnsung5 ft 11 in 1 80 m taaehnngkxngklangsomsreyawchn1952 1953aemnechsetxryuinetdsomsrxachiph pithimlngeln pratu 1953 1958aemnechsetxryuinetd151 20 thimchati1949 19529 0 1954 19576 5 1953 19544 0 1955 1958xngkvs18 5 ndthilngelnaelapratuthiyingihaeksomsrechphaalikinpraethsethann exdewidsekidinddliy ethsmnthlwursetxrechiyr ekhathasyyakbaemnechsetxryuinetdtngaetyngwyrun aelaklayepnphuelnthixayunxythisudthielninfutbxllikefistdiwichnaelaphuelnthixayunxythisudtngaetsngkhramolkkhrngthisxng inxachiphnkfutbxlkhxngekhann ekhachwyihyuinetdchnaelisfutbxllik 2 khrng aelaipthungrxbrxngchnaelisyuorepiynkhphprawtichwngtnkhxngchiwit layesnkhxngdnaekhn exdewids exdewidsekidemuxwnthi 1 tulakhm ph s 2479 inbankhxngekhathiekhtwudisdkhxngddliy sunginkhnannyngepnswnhnungkhxngwursetxrechiyr ekhaepnlukchaykhnotkhxngaekldsotnaelasarah aexnn exdewird aelayngepnlukkhnediywkhxngphwkekhathimichiwitrxdcakwyedk nxngsawkhxngekha aekhorl aexnn esiychiwitinpi ph s 2490 dwyxayu 14 spdah txmaekhaaelakhrxbkhrwidyaybanmayng 31 exlm ord sungxyuinddliyehmuxnkn exdewidsekhasuksathitngaetpi ph s 2484 thung ph s 2491 aelatngaetpi ph s 2491 thung ph s 2495 ekhayngelnfutbxlihkbthimfutbxlorngeriyn wursetxrechiyraexndebxrmingaehm aelathimfutbxlpracaekht ekhayngepntwaethnkhxngorngeriynin ekhaidthukeluxkihipaesdnginnganetnmxrrisaehngchati aetkidrbkhxesnxihlxngipkhdtwkbthimxayuimekin 14 pikhxngsmakhmfutbxlxngkvs sungsngmainwnediywknaelaekhaeluxkthicaekhakhdtwthihlng khwamsamarthinkarelnfutbxlkhxngexdewidssrangkhwamprathbicaekphukhdtw thaihekhaidipelninthimfutbxlorngeriynxngkvs aelaidlngepnndaerkphbkbewlsthisnamkilaewmbliy inwnthi 1 emsayn ph s 2493 hlngcaknnekhakidthukeluxkihepnkptnthim aelaepnidsxngvdukal ephraaekhathukcbtamxngcaksomsrihy odyaeckh oxibrexn aemwmxngkhxngaemnechsetxryuinetd idraynganklbmayngaemtt bsbi phucdkarthiminkhnannwa wnniidehnedknkeriynwy 12 pithiekhacbtamxngepnphiess ekhachuxdnaekhn exdewidscakddliy oc emxresxr phusunginewlannepnokhchihkbthimfutbxlorngeriynxngkvs idkratunihbsbithakhxsyyakbexdewids phusungthukcbtamxngcaksomsrfutbxlwulewxraehmptnwxnedxerxsaelaaexstnwilla exdewidsesnsyyakbyuinetdemuxwnthi 2 mithunayn ph s 2495 aetrayaewlathiekhaesnsyyacring nnimaennxn bangswnkwaekhaesnsyyainwnekidpithi 17 ineduxntulakhm ph s 2496 bangswnkwaekhaesnsyyakxnhnannpinungaelw aetwnthithirabuiwkxnhnaniepnwnesnsyyakhxngexdewidsthiyunyncakthangsomsrxyangepnthangkar sungtwbsbiexng hruxokhch edinthangipyngbankhxngexdewidsephuxihekhaesnsyyaodyerwthisud aetraynganxun echuxwaniekidkhunemuxekhaesnsyyaepnnkfutbxlxachiph phucdkarthimkhxngsomsrfutbxlwulewxraehmptnwxnedxerxs imphxicepnxyangyingthiphladkaresnsyyakbeyawchninbankhxngtwexng aelayngaeyngxikwayuinetdidnaenginmaepntwchwyonmicexdewidsaelakhrxbkhrwkhxngekha aettwexdewidsyunynwaekhatxngkarthicaelnihkbsomsrfutbxlinaelngkhaechxr nxkcakni ekhayngidrbkarpraknwahakimprasbkhwamsaercinxachiphnkfutbxlcayngkhngmingantha odyidfuknganepn xachiphnkfutbxl exdewidserimtnxachiphnkfutbxlthithimeyawchnkhxngsomsrfutbxlaemnechsetxryuinetd aelaidlngelnepnkhrngkhrawinkaraekhngkhnexfexyuthkhph sungphwkekhachnaelisepnkhrngaerkinpi ph s 2496 aetinndchingchnaelisnn ekhakidlngepntwcringndaerk wnthi 4 emsayn ph s 2496 ekhaidelninndfutbxllikefistdiwichnthiphbkbkhardiffsiti sungyuinetdaeph 4 1 dwyxayu 16 pi 185 wn thaihekhaklayepnphuelnthixayunxythisudtlxdkalthielninliksungsud dwykhwamthisomsrinewlannetmipdwyphuelnthixayumakepncanwnmak bsbi phucdkarthiminkhnann cungidhaeyawchnekhamaesrimaethn aelaexdewids phrxmkb aela epnhnungineyawchnthibsbiiddungkhunmathdaethnphuelnekainchwngpi ph s 2496 sungphayhlngideriykeyawchnchudniwa bsbiebbs dwykhwamsamarthkhxngekhainndaerkthiidlngepntwcring hnngsuxphimph ihkhwamehniwwa ekhaaesdngihehnthungkhwamsamarthinkarphanbxlaelaying aetekhacatxngekhluxnthiidrwderwkwani inthanathielnintaaehnngpik exdewidsidlngelnepntwcringaeksomsrbxykhrng cnesmuxnwaekhaepnphuelntwcringkhxngsomsripaelw hlngcakinndkrachbmitrkb ekhaaethnthithibadecb inndeyuxnthiphbkbsomsrfutbxlhdedxsfildthawn emuxwnthi 31 tulakhm ph s 2496 aelaidlngepntwcringthnghmd 24 ndinlik aelainexfexkhphsungphayaephihkbebirnliy thungxyangnn ekhakyngkhngepnswnhnungkhxngthimeyawchnaelaidchnaelisexfexyuthkhphepnsmythisxngtidtxkn ekhaidlngepntwcringkhrngaerkaekthimchatichudxayuimekin 23 piinndthiphbkbxitali emuxwnthi 24 mkrakhm ph s 2497 hlngcaknnekhakthukphicarnaihkhunipelninthimchatixngkvschudihy aetinwnthikhnaphukhdeluxkedinthangmadukarelnkhxngekhainndkaraekhngkhnkbxaresnxl inwnthi 27 minakhm ekhaaesdngfxrmkarelnthiimdi thaihekhaimthukphicarna vdukaltxma ekhaidrboxkaslngepntwcringthnghmd 36 khrngaelasamarththapratuidepnpratuaerk aelasomsrcbepnxndbthihkinvdukalnn khwamsamarthkhxngekhathaihekhacathukkhdtwiprwmthimchatixngkvschudihyepnkhrngthisxng aelasmachikkhxngkhnaphukhdeluxkkribrudmachmkaraekhngkhnkbhdedxsfildthawn thimikhuninwnthi 18 knyayn ph s 2497 aetkhwamsamarthkhxngekhakimekhatakhxngkhnaphukhdeluxkxik aemwaekhacathukeluxkihipelnin sungcaaekhngkhninndkrachbmitrkb ineduxnminakhm ekhaelnihkb phbkbthimthixyuinradbediywkncakpraethseyxrmniaelahnungspdahtxma ekhakthukeriyktidthimchatixngkvschudihy aemwaekhacathukwiphakswicarnineruxngkarelnthiimdi ekhaidlngepntwcringkhrngaerksahrbthimchatiemuxwnthi 2 emsayn ph s 2498 inndthiphbkbskxtaelnd inkaraekhngkhn dwyxayu 18 pi 183 wn thaihekhaklayepnphuelnthixayunxythisudthiidlngelnepntwcringaekthimchatixngkvs hlngcaksngkhramolkkhrngthisxng aetsthitinikkhngxyucnkrathng imekhil oxewn idlngelnepntwcringkhrngaerkinpi ph s 2541 samspdahtxma yuinetdyngkhngihekhatidthimeyawchnkhxngsomsr ephuxcaidchnaelisexfexyuthkhphepnsmythisamtidtxkn aetkarthinkfutbxlthimchatixngkvselnihkbthimeyawchnnncaimehmaasmepnxyangying aelathukwiphakswicarnepnxyangmak aemtt bsbi phucdkarthimkxxkmaihsmphasnephuxpkpxngtwexdewidsthiidtdsinicwacalngelnihkbthimeyawchn ineduxnphvsphakhm ph s 2498 exdewidsthukeluxkihelnkbthimchatixngkvschudthicaipaekhngkbfrngess oprtueks aelasepn sungekhaidlngelnepntwcringthngsamnd hlngcakthiekhaklbmacakyuorpaephndinihyaelw ekhakideknththharkbkxngthphbritichepnrayaewla 2 pi sungepnkhxbngkhbsahrbchayhnumthimixayuethaekhainewlann sungekhaidpracakarxyuthi iklkb rwmkbephuxnrwmthim bxbbi charltn aetthngsxngkhxngthukxnuyatihklbipelnkbsomsridtamewla ekhayngidlngelninndaekhngkhnkhxngthhar aelainhnungvdukal ekhakidlngipkwa 100 ndthnghmd in exdewidsimidlngelnihkbsomsrepnrayaewlaekuxbsxngeduxn enuxngcakpwyepnikhhwdihy aetthungxyangnn ekhayngsamarthlngelnihkbyuinetdid 33 nd cnkrathngyuinetdchnaelisfutbxllik odymikhaaennhangcakaeblkphul 11 khaaenn vdukaltxma ekhalngelninlik 34 nd sungyuinetdkidchnainfutbxllikepnsmythisxngtidtxkn ekhayngidxyuinthimchudthicaaekhng aetyuinetdkphladkhwasxngaechmp odyaephihkbaexstnwilla 2 1 ekhayngidlngelnihkbyuinetdinkaraekhngkhnyuorepiynkhphthnghmd 7 nd rwmthngndthiyuinetdchna 10 0 sungklayepnsthitikhxngyuinetdthichnadwypratumakthisud txnniexdewidskklayepntwcringkhxngthimchatixngkvsipaelw odyidlngelninrxbkhdeluxkkhxngfutbxlolk 1958 thng 4 nd aelathapratuidsxngpratu inwnthi 5 thnwakhm ph s 2499 sungepnndthichnaednmark 5 2 ekhathukkhadhmayiwwacaepnphuelnxngkvskhnhnungthicaidelninrxbaephtdechuxkkhxngfutbxlolk aelaynghmayiwxikwa ekhacaidaethnthi epnkptnthimchatixngkvs exdewidserimtnvdukal 1957 58 dwyfxrmthidiaelamikhawluxwasomsrihycakxitalicaesnsyyakbekha ndsudthaykhxngekhainxngkvs mikhuninwnthi 1 kumphaphnth ph s 2501 emuxekhathapratuihkbyuinetdihexachnaxaresnxlipid 5 4 karelnkhxngekhathukwicarnodysankkhaw enuxngcakkarelnthiimdikhxngekha epnehtuihxaresnxlidpratuthi 4 aetkyngthaih phucdkarthimchatixngkvsprathbic hawntxma ekhalngelninndsudthaytlxdkalkhxngekha sungyuinetdesmxkberdstareblekrd 3 3 inndeyuxnaelaidphanekhaipelnrxbrxngchnaelisyuorepiynkhph dwyphlrwmpratu 5 4 karesiychiwit exdewidsthukfngxyuthisusanddliy aelahlumsphkhxngekhakyngkhngmisingralukcakaefnkhxngekhamakmay khnathiedinthangcakeblekrd ephuxklbban ekhruxngbinthiexdewidsaelaephuxnrwmthimkhxngekhaodysarxyukekidxubtiehturahwangthicabinkhunxikkhrng hlngcakthiekhruxngbinlaniidlngcxdephuxetimechuxephlinginmiwnik praethseyxrmni phueln 7 khnaelaphuodysarkhnxun 14 khnesiychiwitthnthi aelaexdewidsthukphamaynginmiwnik dwyxakarbadecbsahsthikha saophk aelait aephthyphyayamplxbekhadwyoxkasthicarxdchiwit aetekhaxacimsamarthklbipelnfutbxlidxik aephthyidich ephuxihekhamichiwitrxdtxip aetxwywaethiymnithaihkhwamsamarthinkaraekhngtwkhxngeluxdldlng aelaerimmieluxdxxkphayinrangkay xyangirktam ekhakyngkhngthamphuchwyphucdkarthim cimmi emxrfi wa kiomngthieracalngelnkbwufs cimmi chntxngimphladndnn wnthi 14 kumphaphnth xakarkhxngekhathukraynganwa dikhunxyangmak thungkrann wnthi 19 kumphaphnth xakarkhxngekhaklbthrudlngxyangrwderw dwykarichitethiym sungthaihsukhphaphkhxngekhayaaeylng aephthytangprahladickbkarsuchiwitkhxngekha aelawntxma xakarkhxngekhakkhxy dikhun aetthaythisudaelwexdewirdidesiychiwitlngemuxwnthi 21 kumphaphnth ph s 2501 ewla 2 nalika 15 nathi hnungchwomngkxnkaresiychiwitkhxngekha nitysar Football Mouthly khxng kthuktiphimph dwyhnapkthimiphaphthaykhxngexdewirdkalngyimxyu rangkhxngexdewidsthukfngthisusanddliy in 5 wntxma ekhathukfngkhang hlumsphkhxngaekhorl aexnn nxngsawkhxngekha prachachnkwa 5 000 khnxxkmayuneriyngkntamthnninddliysahrbngansphkhxngekha hlumsphkhxngekhacarukiwwa wnaehngkhwamthrngca ekhacakphwkeraipodyimmikarxalaaelaekhacaimklbmaxik aelahlumsphkhxngekhakcamiaefnkhlbmaeyuxnthinixyubxy karraluk thnnhnunginddliyidtngchuxtamexdewids ephuxepnekiyrtiaekekha exdewidsidthukthaepnxnusrnhlayaehnginddliy banekidkhxngekha phaphwadhnatangkracksikhxngobsthesntfransissungxxkaebbody thukepidtwodyaemtt bsbi inpi ph s 2504 aelaruppnkhxngekhainicklangemuxngddliykmxbihcakaemkhxngexdewidsaelabxbbi charltn inpi ph s 2542 pi ph s 2536 trxktnkhxngchumchnhnungiklkbsusan thisungekhathukfngiw idthuktngchuxwa trxkdnaekhnexdewids phbewrnsenstin iklkbthithiexdewidsetibotma kthukepliynchuxepn didnaekhnexdewids ephuxepnekiyrtiaekekhainpi ph s 2544 aetmnkpidtwlnginhapitxma enuxngcakmiphulxbwangephling inpi ph s 2549 miekhruxngelnihm mulkhakwa 100 000 pxnd inswnsatharnaphrixxri thisungexdewidsmaelntxnedk inpi ph s 2551 thnneliyngemuxngthangtxnitkhxngddliythukepliynchuxepn dnaekhnexdewidsewy ephuxepnekiyrtiaekekhaidcdaesdngsingtangthiekiywkbekha rwmthunghmwkthiaethnthungkarlngelnkhxngekhaihkbxngkvs bancdsrrinaemnechsetxrthukepliynchuxepndnaekhnexdewids rwmthngthnnthitdphanbanehlann kidnachuxkhxngphuesiychiwitinosknadkrrmmiwnikmatng echn aela inwnthi 8 krkdakhm ph s 2554 aephnfathukepidtwodybxbbi charltn thihxngphkkhxngekhainsetthfxrd inpi ph s 2539 exdewidsepnhnunginphuelnhakhnthithukeluxkihxyuintraiprsniyakrbritich sungepnswnhnungkhxng tanannkfutbxl odyidepidtwephuxepnxnusrnaekfutbxlchingaechmpaehngchatiyuorp 1996 ekhayngthukaesdngody inphaphyntrbriticheruxng sungmiokhrngeruxngmacakosknadkrrmmiwnik mihlaykhnthiykyxngkhwamsamarthkhxngexdewids bxbbi charltn klawthungexdewidswa epnphuelnkhnediywthithaihekharusukdxykwa aelaklawwakartaykhxngekhaepn osknadkrrmediywthiihythisudthiekhyekidkhunkbaemnechsetxryuinetdaelafutbxlxngkvs echuxwathaekhayngmichiwitxyu khnthicachuthwyfutbxlolkinthanakptnthimchatixngkvs caimichbxbbi mwraetepndnaekhn exdewidsklawwa immikhxkngkhaid thicathaihphmmnicidwadnaekhnepnnkfutbxlthidithisudtlxdkal imichaekhechphaayuinetdaelathimchatixngkvs aetyngdithisudinolk aemwacxrc ebstcaphiess echnediywkbepel aelamaraodna aetsahrbphmaelw dnaekhndikwaphwkekhamakthngindanthksaaelakhwamsamarth karrbruthungkhwamsamarthkhxngexdewidsnn thaihmnepnxndbaerkkhxnghxllxxfefmkhxngfutbxlxngkvsinpi ph s 2545rupaebbkarelnodythwip ekhamikhwamaekhngaekrngaelakhwamchladinkarelnfutbxlthiyxdeyiym khwamsamarththukxyangkhxngekhasmburnaebb imwacaepnkarichethasay khwa hruxkaryingrayaikl ekhathaidthukxyangtamsychatyan bxbbi charltn thungaemwaekhacaelnxyuintaaehnngkxngklangtwrbepnhlk aetexdewidsekhyklawiwwa ekhasamarthelnidthuktaaehnnginsnam khrnghnungekhaekhythuksnglngepnkxnghnatwepaaethnphuelnthielntaaehnngnipraca enuxngcakbadecb aelainndediywkn ekhakthukepliynipelnepnkxnghlngtaaehnngklang dwysaehtuediywkn phrswrrkhxnyingihykhxngekha khux khwamaekhngaerngthangcitickhxngekhaaelamikhwamepnphunainsnam sungekhamkcathukklawiwwa epnsingthinacdcasahrbnketaeyawchnechnekha ekhayngmiphlakalngthimakbrryaywaexdewidsepriybesmuxnepn kxnhinklangthaelxnohdray bxbbi mwryngepriybethiybekhakb emuxxyuinsthankarntngrb nxkcakniekhayngthukbrryayiwxikwaepn kxnghnathikhm cakrangkaykhxngekhathaihekhaidchuxelnwa bikdngk aela diaethngk aelaekhayngidrbkarkhnannamwaepnnketathixudthisudtlxdkal exdewidsyngthukbrryayekiywkbaerngaelachwngewlathiekhaichinkarskdlukfutbxlaelainkarcaybxlaelayingdwykhwamsmdulkhxngethathngsxngkhang ekhayngepnthiruckineruxngkhxngkarwinginsnam khwamsamarthinkarohmngbxl aelakaryingpratucakrayaikl hlngcakthiekhathapratuidemuxwnthi 26 phvsphakhm ph s 2499 inndthiphbkbeyxrmnitawntk ekhaidchuxelnihmwa bum bum odysankkhawthxngthinkhxngeyxrmni ephraawa idyinginrxngethakhxngekha sthitisomsr vdukal futbxllik efistdiwichn exfexkhph yuorepiynkhph charitichild rwmlngeln pratu lngeln pratu lngeln pratu lngeln pratu lngeln pratuaemnechsetxryuinetd 1 0 0 0 0 0 0 0 1 024 0 1 0 0 0 0 0 25 033 6 3 0 0 0 0 0 36 633 3 0 0 0 0 0 0 33 334 5 6 1 7 0 1 0 48 626 6 2 0 5 0 1 0 34 6rwmthnghmd 151 20 12 1 12 0 2 0 177 21thimchati vdukal lngeln pratuxngkvs 1954 55 4 01955 56 5 11956 57 6 31957 58 3 1rwmthnghmd 18 5radbchati phlpratuaelakhaaenncanathimchatixngkvskhunkxn wnthi snam khuaekhng khaaenn phl karaekhngkhn1 26 phvsphakhm 2499 oxlumephiychtadioyn ebxrlin eyxrmnitawntk 1 0 3 1 krachbmitr2 5 thnwakhm 2499 wulewxraehmptn ednmark 4 2 5 23 5 24 6 emsayn 2500 snamkilaewmbliy lxndxn skxtaelnd 2 1 2 15 6 phvscikayn 2501 snamkilaewmbliy lxndxn ixraelndehnux 2 3 2 3chiwitswntwexdewidsepn aelachiwitkhxngekhanxkwngkarfutbxlnn mikhwamswntwepnxyangmak ekhamikhwamsnicinkartkpla elniph aelaiporngphaphyntr aemwaekhamkcarwmetnrakbephuxnrwmthim aetekhakimekhymikhwammnictxsphaphaewdlxmkhxngsngkhmcimmi emxrfi phuchwyphucdkarthimkhxngsomsrfutbxlaemnechsetxryuinetdidbrryayiwwa exdewidsepn edkbrisuththi aelaekhasamarthphudsaeniyngid sungephuxnrwmthimkhxngekhayakthicaeliynaebb khrnghnungexdewidsekhythuktarwccbinkhxhakhickryanthiimmiifhna ekhathukprbepnengin 5 odyecahnathitarwc aelakhaehnuxysxngspdahcaksomsr chwngthiekhayngmichiwitxyu exdewidsxasyxyuinhxngphk briewnkxrsxewniw ewlannekhaidhmnkbmxlli lich wy 22 pi phusungepnphnknganinorngnganphlitsingthx inbriewn ekhaaelamxlliphbknthiorngaerminthaxakasyanaemnechsetxr emuxhnungpikxnthithngkhucahmnkn thngkhuyngepnphupkkhrxngxupthmphkhxngluksawkhxngephuxnkhxnglich ocesfin stxthth exdewidsmiphlngankarokhsnaemdkluokhs aelayngekhiynhnngsuxelmhnung chuxwa aethkhekilsxkekxrdisewy karokhsnathaihekhamirayidephim 15 pxndtxspdahinaetlavdu ewninvdurxnsungekhacaid 12 pxndtxspdah hnngsuxthiekhaekhiynnnthuktiphimphhlngcakthiekhaesiychiwitimnandwykhwamehnchxbcakkhrxbkhrwkhxngekha aelahlngcakthithuktiphimphnanhlaypi hnngsuxelmnikthuktiphimphsaxikkhrngineduxnphvscikayn ph s 2552xangxingMcCartney p 1 Staffordshire Boundary Changes GENUKI 26 March 2001 subkhnemux 14 February 2008 Dickinson Matt 1 February 2008 Tragedy of the golden boy whose talent knew no bounds The Times London subkhnemux 13 February 2008 Duncan Edwards 50 years on Dudley News 30 January 2008 subkhnemux 20 February 2008 McCartney p 4 Your memories of Duncan Dudley News 30 January 2008 subkhnemux 14 February 2008 McCartney p 5 Philip Robert 6 February 2008 The Daily Telegraph khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 06 10 subkhnemux 13 February 2008 Edwards The Black Country s greatest Birmingham Post 8 February 2008 subkhnemux 14 February 2008 Viner Brian 1 October 2001 Football Enduring legend of indomitable Edwards The Independent subkhnemux 14 February 2008 lingkesiy McCartney p 12 Legends Duncan Edwards Manchester United F C subkhnemux 26 January 2011 McCartney p 25 Express and Star 8 January 2008 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 09 19 subkhnemux 18 February 2008 McCartney p 13 Meek p 100 McCartney p 16 Horne et al p 225 Soccerbase khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 12 05 subkhnemux 13 February 2008 Holt Lloyd p 140 McCartney p 22 McCartney pp 25 26 Duncan Edwards stretfordend co uk subkhnemux 19 February 2008 Manchester United The Football Club History Database subkhnemux 19 February 2008 McCartney p 30 McCartney pp 34 36 McCartney p 41 McCartney p 52 McCartney pp 52 53 McCartney pp 56 57 Courtney Barry 8 June 2005 England International Results 1950 1959 Details Rec Sport Soccer Statistics Foundation subkhnemux 16 September 2010 McCartney p 59 Greenhalgh Simon 4 February 2008 Charlton remembers his lost team mates Messenger Newspapers subkhnemux 21 February 2008 Meek p 102 McCartney pp 60 61 Soccerbase khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 12 05 subkhnemux 19 February 2008 Soccerbase khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 12 05 subkhnemux 19 February 2008 Broken dreams United and Villa in a game of two eras The Independent 2 January 2008 subkhnemux 19 February 2008 Soccerbase 23 February 2008 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2009 01 26 subkhnemux 21 February 2008 World Cup 1958 qualifications Rec Sport Soccer Statistics Foundation subkhnemux 15 September 2010 Charlton Bobby 3 February 2008 The Daily Telegraph khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 04 04 subkhnemux 14 February 2008 Meek David 6 February 2008 Busby Babes were destined for great things The Guardian subkhnemux 19 February 2008 McCartney p 105 Pat Rice recalls United s last match in Britain before the Munich air disaster of 1958 Daily Mail 5 February 2008 subkhnemux 20 February 2008 McCartney p 113 Old International 6 February 1958 United through excitement aplenty in second half The Guardian subkhnemux 20 February 2008 1958 United players killed in air disaster BBC 6 February 1958 subkhnemux 18 February 2008 Sportsnet ca 1 February 2008 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2009 02 07 subkhnemux 18 February 2008 Hodgy sheds a tear for mate Bicester Advertiser 5 February 2008 subkhnemux 18 February 2008 McCartney p 114 McCartney p 117 Wagg et al p 22 Manchester soccer star much improved Calgary Herald Google News Reuters 14 February 1958 subkhnemux 23 April 2011 Henderson Gair 19 February 1958 Edwards is sinking rapidly Evening Times subkhnemux 24 April 2011 The lost Babes The Guardian 5 February 2008 subkhnemux 18 February 2008 Clarke Roger 21 February 2008 Football Dudley s jewel in the crown Busby Babe Duncan Edwards died 50 years ago today aged just 21 subkhnemux 18 November 2012 Inglis Simon 2008 The Best of Charles Buchan s Football Monthly Malavan Media p 57 ISBN 0 9547445 8 6 Hassan Nabil 6 February 2008 Why Edwards was king BBC subkhnemux 13 February 2008 Madeley Peter 4 February 2008 ESPN khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 10 21 subkhnemux 14 February 2008 McCartney p 121 The day decency died in our beautiful game Daily Mail 1 February 2008 subkhnemux 18 February 2008 Robson James 6 February 2008 A rock in a raging sea Manchester Evening News subkhnemux 13 February 2008 A Tribute to Duncan Edwards PDF subkhnemux 30 June 2015 lingkesiy Fans adorn statue of Duncan Edwards with a United shirt Daily Mail 5 February 2008 subkhnemux 13 February 2008 Eyesore pub set for revamp Dudley News 16 November 2006 subkhnemux 14 February 2008 c Stourbridge News 13 January 2006 cakaehlngedimemux 2011 07 20 subkhnemux 18 February 2008 Bradley Steve 29 December 2008 Birmingham Mail khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 09 26 subkhnemux 18 June 2009 14 December 2011 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 11 22 subkhnemux 15 November 2012 Conn David 21 April 2010 FC United homage to history as they prepare for future at Newton Heath The Guardian Guardian News and Media subkhnemux 4 January 2011 Downes Robert 26 May 2011 Busby Babes players honoured in blue plaque scheme Stretford and Altrincham Messenger subkhnemux 31 May 2011 Wilson Iain 27 March 1996 English stamp their authority in football poll Glasgow subkhnemux 9 February 2011 Family so proud of film about Duncan Edwards Express and Star 15 November 2010 subkhnemux 27 April 2011 Greatest England XI Sir Bobby Charlton The Football Association 7 November 2003 subkhnemux 19 January 2011 Collett Mike 1 February 2008 Edwards had everything but time on his side Reuters subkhnemux 18 February 2008 England Player Honours National Football Museum Hall of Fame England Football Online 1 November 2004 subkhnemux 14 February 2008 Winter Henry 9 February 2008 The Daily Telegraph khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 04 16 subkhnemux 19 February 2008 Galvin Robert Duncan Edwards The National Football Museum cakaehlngedimemux 2008 01 15 subkhnemux 13 February 2008 Murphy Alex 18 February 2008 Football s 50 greatest hard men The Times London subkhnemux 7 August 2007 Northcroft Jonathan 14 February 2008 Lost in time Manchester United s 1958 Busby Babes The Times London subkhnemux 3 February 2008 Greenhalgh Simon 22 January 2008 Remembering a legend Messenger Newspapers subkhnemux 13 February 2008 McCartney p 38 McCartney p 61 McCartney p 39 Mullock Simon 10 February 2008 Dietmar Hamann urges Man City fans to behave for minute s silence Daily Mirror subkhnemux 14 February 2008 lingkesiy Kelly Graham 7 April 2003 Graham Kelly Rooney s rise mirrored in simpler days of Edwards The Independent subkhnemux 22 February 2008 lingkesiy Smith Rory 3 February 2008 Sunday Mirror khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 02 06 subkhnemux 13 February 2008 Tackle Soccer This Way Kelmscott Press subkhnemux 19 November 2009 brrnanukrmHolt Nick Lloyd Guy 2006 Total British Football Flame Tree Publishing ISBN 1 84451 403 X Horne John Tomlinson Alan Whannel Garry 1999 Understanding Sport An Introduction to the Sociological and Cultural Analysis of Sport Taylor amp Francis ISBN 0 419 13640 1 Leighton James 2002 Duncan Edwards The Greatest London Simon amp Schuster UK ISBN 978 0 85720 781 4 McCartney Iain 2001 Duncan Edwards The Full Report Britespot Publishing Solutions ISBN 0 9539288 5 3 Meek David 2006 Legends of United The Heroes of the Busby Years Orion Books ISBN 0 7528 7558 2 Wagg Stephen 2004 Andrews David L b k Manchester United A Thematic Study Routledge ISBN 0 415 33333 4