พรหมภูมิ หรือ พรหมโลก ถือเป็นดินแดนของพระพรหม ซึ่งเป็นภพภูมิที่สถิตย์อยู่เสวยสุขของพระพรหมผู้อุบัติเกิดในพรหมวิมาน ณ พรหมโลก อันเป็นแดนซึ่งมีแต่ความสุขอันเกิดจากฌานเท่านั้น (แบ่งชั้นตามอำนาจฌานที่ได้บรรลุ) ในภพภูมินี้ตามคัมภีร์กล่าวว่าปราศจากความสุขที่เนื่องด้วยกามราคะ
พรหมภูมิอาจแบ่งออกเป็น 2 พวก ได้แก่ รูปพรหม และ อรูปพรหม
รูปพรหม
รูปพรหม หรือ รูปาวจรภูมิ คือ ชั้นที่พระพรหมผู้วิเศษมีรูป หากแต่เป็นรูปทิพย์ มนุษย์ธรรมดาไม่สามารถ มองเห็นได้ จักเห็นได้ก็โดยทิพยวิสัยเท่านั้น ประกอบด้วยวิมาน 16 ชั้น
- ชั้นที่ 1 - ชั้นที่ 3 รวมเรียกว่า ปฐมฌานภูมิ ด้วยพระพรหมในชั้นนี้บรรลุด้วยปฐมฌาน ทั้งสามชั้นนี้ ความจริงตั้งอยู่ ณ พื้นที่ระดับเดียวกัน แต่แยกสถานที่เป็น 3 เขต
- ชั้นที่ 4 - ชั้นที่ 6 รวมเรียกว่า ทุติยฌานภูมิ ด้วยเหล่าพระพรหมในชั้นนี้บรรลุด้วยทุติยฌาน ทั้งสามชั้นนี้ ความจริงตั้งอยู่ ณ พื้นที่ระดับเดียวกัน แต่แยกสถานที่เป็น 3 เขต
- ชั้นที่ 7 - ชั้นที่ 9 รวมเรียกว่า ตติยฌานภูมิ ด้วยเหล่าพระพรหมในชั้นนี้บรรลุด้วยตติยฌาน ทั้งสามชั้นนี้ ความจริงตั้งอยู่ ณ พื้นที่ระดับเดียวกัน แต่แยกสถานที่เป็น 3 เขต
- ตั้งแต่ชั้นที่ 10 ขึ้นไป รวมเรียกว่า จตุตถฌานภูมิ ด้วยเหล่าพระพรหมในชั้นนี้บรรลุด้วยจตุตถฌาน ชั้นที่ 10-11 ตั้งอยู่ ณ พื้นที่ระดับเดียวกัน แต่แยกสถานที่กันอยู่ และมีระยะห่างไกลกันมาก
- หากแต่เฉพาะเหล่าพระพรหมในชั้นที่ 12 – 16 เรียกว่า ปัญจสุทธาวาส หรือ สุทธาวาสภูมิ อันเป็นชั้นที่เหล่าพระพรหมในชั้นนี้ ต้องเป็นพระพรหมอริยบุคคลในพุทธศาสนา ระดับอนาคามีอริยบุคคล เท่านั้น ต่างจาก 11 ชั้นแรก แม้พระพรหมทั้งหลายจะได้สำเร็จฌานวิเศษเพียงใด ก็อุบัติในสุทธาวาสภูมิไม่ได้อย่างเด็ดขาด สุทธาวาสภูมินี้มีอยู่ 5 ชั้น ตั้งอยู่ท่ามกลางอากาศ และตั้งอยู่เป็นชั้นๆ ขึ้นไป ตามลำดับภูมิไม่ตั้งในระดับเดียวกันเช่นชั้นแรกๆที่ผ่านมา
ชั้นที่ 1 พรหมปาริสัชชาภูมิ
ที่สถิตแห่งพระพรหมผู้เป็นบริวารแห่งท้าวมหาพรหม พรหมโลกชั้นที่ 1 พรหมปาริสัชชาภูมิ เป็นพรหมโลกชั้นแรก เป็นพรหมชั้นล่างสุด ตั้งอยู่เบื้องบนสูงกว่าปรนิมมิตวสวัตตีสวรรค์ขึ้นไปถึง 5 ล้าน 5 แสน 8 พันโยชน์ คือไกลจากมนุษยโลกจนไม่สามารถนับได้ ซึ่งหากเอาก้อนศิลาขนาดเท่าปราสาทเหล็ก (โลหปราสาท) ทิ้งลงมาจากชั้นนี้ ยังใช้เวลาถึง 4 เดือนจึงจะตกถึงแผ่นดิน พระพรหมในที่นี้มีคุณวิเศษ โดยเคยเจริญสมถกรรมฐานจนได้บรรลุ ปฐมฌาน ขั้นปริตตะ คือ ขั้นสามัญมาแล้วทั้งสิ้น เสวยปณีตสุขอยู่ มีความเป็นอยู่อย่างแสนจะสุขนักหนา ตราบจนหมด พรหมายุขัย มีอายุแห่งพรหมประมาณส่วนที่ 3 แห่งมหากัป (1 ใน 3 แห่งมหากัป) มีท้าวสหบดีพรหม เป็น พรหมบดี
ชั้นที่ 2 พรหมปุโรหิตาภูมิ
ที่สถิตแห่งพระพรหมผู้เป็นปุโรหิต (อาจารย์ใหญ่) ของท้าวมหาพรหม พรหมโลกชั้นที่ 2 พรหมปุโรหิตาภูมิ เป็นที่อยู่ของพระพรหมผู้ทรงฐานะประเสริฐ คือเป็นปุโรหิตของท่านมหาพรหม ความเป็นอยู่ทุกอย่างล้ำเลิศวิเศษกว่าพรหมโลกชั้นแรก รัศมีก็รุ่งเรืองกว่า รูปทรงร่างกายใหญ่กว่า สวยงามกว่า พรหมทุกท่านล้วนมีคุณวิเศษ ได้เคยเจริญสมถกรรมฐานจนได้ บรรลุ ปฐมฌาน ขั้นมัชฌิมะ คือขั้นปานกลาง มาแล้วทั้งสิ้น มีอายุแห่งพรหมประมาณครึ่งมหากัป
ชั้นที่ 3 มหาพรหมาภูมิ
ที่สถิตแห่งพระพรหมผู้ยิ่งใหญ่ พรหมโลกชั้นที่ 3 มหาพรหมาภูมิ ที่อยู่แห่งท่านพระพรหม ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย มีความเป็นอยู่และรูปกายประเสริฐยิ่งขึ้นไปอีก ได้เคยเจริญสมถกรรมฐานจนได้บรรลุปฐมฌานขั้น ปณีตะคือขั้นสูงสุดมาแล้วทั้งสิ้น มีอายุแห่งพรหมประมาณ 1 มหากัป
ชั้นที่ 4 ปริตรตาภาภูมิ
ที่สถิตแห่งพระพรหมผู้มีรัศมีน้อยกว่าชั้นพรหมที่สูงกว่าตน พรหมโลกชั้นที่ 4 ปริตรตาภาภูมิ ที่อยู่ของพระพรหม ทั้งหลายผู้มีรัศมีน้อยกว่าพระพรหมที่มีศักดิ์สูงกว่าตน ได้เจริญภาวนากรรมบำเพ็ญสมถกรรมฐาน จนได้บรรลุ ทุติยฌาน ขั้นปริตตะ คือ ขั้นสามัญมาแล้ว มีอายุแห่งพรหมประมาณ 2 มหากัป มีท้าวจตุรพักตร์หรือธาดาพรหม เป็นพรหมบดี
ชั้นที่ 5 อัปปมาณาภาภูมิ
ที่สถิตแห่งพระพรหมผู้มีรัศมีรุ่งเรืองหาประมาณมิได้ พรหมโลกชั้นที่ 5 อัปปมาณาภาภูมิ ที่อยู่ของพระพรหม ผู้มีรัศมีรุ่งเรืองมากมายหาประมาณมิได้ เคยเจริญภาวนาการบำเพ็ญสมถกรรมฐาน จนได้บรรลุ ทุติยฌาน ขั้นมัชฌิมะ คือขั้นปานกลางมาแล้ว มีอายุแห่งพรหมประมาณ 4 มหากัป มีท้าวมหาอัฐปาลพรหม เป็นพรหมบดี
ชั้นที่ 6 อาภัสราภูมิ
ที่สถิตแห่งพระพรหมผู้มีรัศมีเป็นประกายรุ่งเรือง พรหมโลกชั้นที่ 6 อาภัสสราภูมิ เคยเจริญภาวนากรรมบำเพ็ญ สมถกรรมฐานจนได้บรรลุ ทุติยฌาน ขั้นปณีตะ คือ ประณีตสูงสุดมาแล้ว มีอายุแห่งพรหมประมาณ 8 มหากัป มีท้าวมาลีวราช เป็นพรหมบดี
"...ดูกรภิกษุทั้งหลาย ประการอื่นยังมีอีก ภิกษุเป็นผู้ประกอบด้วยศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ ปัญญา เธอได้ฟังว่า เทวดาชั้นอาภัสสรา มีอายุยืน มีวรรณะมากด้วยความสุข เธอมีความ ปรารถนาอย่างนี้ว่า โอหนอ เราเมื่อตายไปแล้วพึงเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นอาภัสสรา เถิด เธอตั้งจิตนั้น อธิษฐานจิตนั้น เจริญจิตนั้น ความปรารถนาและวิหารธรรมเหล่านั้น อันเธอเจริญแล้ว อย่างนี้ ทำให้มากแล้วอย่างนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความสำเร็จในภาวะนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้มรรค นี้ปฏิปทา เป็นไปเพื่อความสำเร็จในความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้น อาภัสสรา ฯ..." (พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๔ หน้าที่ ๑๗๖ ข้อที่ ๗๒๖)
ชั้นที่ 7 ปริตตสุภาภูมิ
ที่สถิตแห่งพระพรหมผู้มีรัศมีสง่างามน้อยกว่าชั้นพรหมที่สูงกว่าตน พรหมโลกชั้นที่ 7 ปริตตสุภาภูมิ ที่อยู่ของพระพรหม ผู้มีความสง่าสวยงามแห่งรัศมีเป็นส่วนน้อย คือน้อยกว่าพระพรหมในพรหมโลกที่สูงกว่าตนนั่นเอง ได้เคยเจริญภาวนากรรม บำเพ็ญสมถกรรมฐานจนได้บรรลุตติยฌาน ขั้นปริตตะ คือขั้นสามัญมาแล้วทั้งสิ้น มีอายุแห่งพรหมประมาณ 16 มหากัป
ชั้นที่ 8 อัปปมาณสุภาภูมิ
ที่สถิตแห่งพระพรหมผู้รัศมีสง่างามหาประมาณมิได้ พรหมโลกชั้นที่ 8 อัปปมาณสุภาภูมิ ที่อยู่ของพระพรหม ทั้งหลาย ผู้มีความสง่าสวยงามแห่งรัศมีมากมายไม่มี ประมาณ สง่าสวยงามแห่งรัศมีซึ่งซ่านออกจากกายตัว มากมายสุดประมาณได้เคยเจริญภาวนากรรมบำเพ็ญสมถกรรมฐาน จนได้บรรลุ ตติยฌาน ขั้นมัชฌิมะ คือขั้นปานกลางมาแล้วทั้งสิ้น มีอายุแห่งพรหมประมาณ 32 มหากัป
ชั้นที่ 9 สุภกิณหาภูมิ
ที่สถิตแห่งพระพรหมผู้มีรัศมีสง่างามสุกปลั่งทั่วสรรพางค์กาย พรหมโลกชั้นที่ 9 สุภกิณหาภูมิ ที่อยู่ของพระพรหม ผู้มีความสง่าสวยงามแห่งรัศมี ที่ออกสลับ ปะปนกันอยู่เสมอเป็นนิตย์ ทรงรัศมีนานาพรรณ เป็นที่น่าเพ่งพิศทัศนาได้เคยเจริญภาวนากรรมบำเพ็ญสมถกรรมฐาน จนได้บรรลุ ตติยฌาน ขั้นปณีตะ คือขั้นประณีตสูงสุดมาแล้วทั้งสิ้น มีอายุแห่งพรหมประมาณ 64 มหากัป
"....ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตว์เหล่า หนึ่งมีกายอย่างเดียวกัน มีสัญญาอย่างเดียวกัน เช่นพวกเทพสุภกิณหกะ นี้เป็นวิญญาณฐิติที่ ๔...." (พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๓๐ หน้าที่ ๑๗๘ ข้อที่ ๔๘๐)
ชั้นที่ 10 เวหัปผลาภูมิ
ที่สถิตแห่งพระพรหมผู้ได้รับผลแห่งฌานอันไพบูลย์ พรหมโลกชั้นที่ 10 เวหัปผลาภูมิ เป็นที่อยู่ของพระพรหม ทั้งหลาย ผู้ได้รับผลแห่งฌานกุศลอย่างไพบูลย์ มีอายุแห่งพรหมประมาณ 500 มหากัป
อนึ่งผลแห่งฌานกุศล ที่ส่งให้ไปอุบัติเกิดในพรหมโลก 9 ชั้นแรกนั้น ไม่เรียกว่า มีผลไพบูลย์เต็มที่ ทั้งนี้ก็โดยมี เหตุผลตามสภาวธรรมที่เป็นจริง ดังต่อไปนี้
- เมื่อคราวโลกถูกทำลายด้วยไฟนั้น พรหมภูมิ 3 ชั้นแรก ก็ถูกทำลายไปด้วย
- เมื่อคราวโลกถูกทำลายด้วยน้ำนั้น พรหมภูมิ 6 ชั้นแรก ก็ถูกทำลายไปด้วย
- เมื่อคราวโลกถูกทำลายด้วยลมนั้น พรหมภูมิทั้ง 9 ชั้นแรก ก็ถูกทำลายไปไม่มีเหลือเลย
ชั้นที่ 11 อสัญญีสัตตาภูมิ
ที่สถิตแห่งพระพรหมผู้หาสัญญามิได้ (คือมีแต่รูป) พรหมโลกชั้นที่ 11 อสัญญีสัตตาภูมิ เป็นที่อยู่ของพระพรหมผู้อุบัติเกิดด้วยอำนาจแห่งสัญญาวิราคภาวนา เสวยสุขอัน ประณีตนักหนา เคยเจริญภาวนากรรมบำเพ็ญสมถกรรมฐาน จนได้สำเร็จจตุตถฌาน อันเป็นรูปฌานขั้นสูงสุดสถิตย์อยู่ในปราสาท แก้ววิมานอันมโหฬารกว้างขวาง มีบุปผชาติประดับประดาเรียบ ไม่รู้แห้งเหี่ยว มีหน้าตาสวยสง่าอุปมาดังรูปพระปฏิมากรพุทธรูปทองคำขัดสี แต่มีอิริยาบถไม่เหมือนกัน บางองค์นั่ง บางองค์นอน บางองค์ยืน มีอิริยาบถใดก็ เป็นอย่างนั้นตลอดไป ไม่เคลื่อนไหว จักษุทั้งสองก็มิได้กะพริบเลย สถิตย์เสวยสุขเป็นประดุจรูปปั้น อยู่อย่างนั้นชั่วกาล มีอายุแห่งพรหมประมาณ 500 มหากัป
สุทธาวาส
ชั้นนี้เป็นที่เกิดของพระอนาคามี
ชั้นที่ 12 อวิหาสุทธาวาสภูมิ ( *ผู้ได้สมาบัติที่ 9 ไม่ใช่ตติยมรรค )
ที่สถิตแห่งพระพรหมผู้ไม่เสื่อมคลายในสมบัติแห่งตน สูงขึ้นไปจากอสัญญีสัตตาภูมิประมาณ 5 ล้าน 5 แสน 8 พันโยชน์ เป็นที่อยู่อันบริสุทธิ์แห่งพระพรหมอนาคามีอริยบุคคลที่ไม่ละทิ้งสมบัติ เป็นผู้มีวาสนาบารมี กิเลสธุลีเหลือติดอยู่ในจิตสันดานน้อยมาก ด้วยได้เคยเป็นสาวกแห่งพระพุทธองค์ พบพระบวรพุทธศาสนาแล้วมีปกติเห็นภัยในวัฏสงสาร อุตสาหะจำเริญ วิปัสสนากรรมฐาน จนยังตติยมรรคให้ เกิดในขันธสันดานได้สำเร็จเป็นพระอนาคามีอริยบุคคลจะสถิตย์อยู่จนอายุครบกำหนด ไม่จุติเสียก่อน ต่างจากพระพรหมในสุทธาวาสภูมิที่เหลืออยู่อีก 4 ภูมิ คือพระพรหมในอีก 4 สุทธาวาสภูมิที่เหลือ ซึ่งอาจมีการจุติหรือนิพพานเสียก่อนอายุครบกำหนด มีอายุแห่งพรหมประมาณ 1000 มหากัป
ชั้นที่ 13 อตัปปาสุทธาวาสภูมิ
ที่สถิตแห่งพระพรหมผู้ไม่เดือดร้อนกับใคร สูงขึ้นไปต่อจากอวิหาสุทธาวาสภูมิขึ้นไปอีกประมาณ ได้ 5 ล้าน 5 แสน 8 พันโยชน์ เป็นที่อยู่อันบริสุทธิ์แห่งพระพรหมอนาคามี ผู้ละซึ่งเป็นกิเลสอันทำให้ จิตเดือดร้อน ทั้งทางกาย วาจาและใจเลย ย่อมเข้าฌานสมาบัติ หรือผลสมาบัติอยู่เสมอ นิวรณธรรมซึ่งเป็นกิเลสอันทำให้ จิตเดือดร้อนไม่มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ฉะนั้นจิตใจของท่านเหล่านั้นจึงมีแต่สงบเยือกเย็นได้สำเร็จเป็นพระอนาคามีอริยบุคคลและในขณะที่เจริญ วิปัสสนากรรมฐาน ปรากฏว่าเป็นผู้มีวิริยินทรีย์ คือมี วิริยะแก่กล้ากว่าอินทรีย์อย่างอื่น มีอายุแห่งพรหมประมาณ 2000 มหากัป
ชั้นที่ 14 สุทัสสาสุทธาวาสภูมิ
ที่สถิตแห่งพระพรหมผู้มีความเห็น (สภาวธรรม) อย่างแจ่มแจ้ง สูงขึ้นไปต่อจากอตัปปาสุทธาวาสภูมิขึ้นไปอีกประมาณ ได้ 5 ล้าน 5 แสน 8 พันโยชน์ เป็นที่อยู่อันบริสุทธิ์แห่งพระพรหมอนาคามี ผู้มีความแจ่มใส สามารถเห็นสภาวธรรมได้โดยแจ้งชัดเพราะบริบูรณ์ ด้วยประสาทจักษุ ทิพพจักษุ ธัมมจักษุและปัญญาจักษุ จึงเห็นสภาวธรรมได้แจ่มใส ชัดเจน ท่านเหล่านี้เคยเป็นพระสาวกแห่งพระพุทธองค์ อุตสาหะจำเริญวิปัสสนากรรมฐานจนสามารถยัง ตติยมรรคให้บังเกิดในขันธสันดาน ได้สำเร็จเป็นพระอนาคามีอริยบุคคลและในขณะที่เจริญ วิปัสสนากรรมฐาน ปรากฏว่าเป็นผู้มีสตินทรีย์ คือมี สติแก่กล้ากว่าอินทรีย์อย่างอื่น มีอายุแห่งพรหมประมาณ 4000 มหากัป
ชั้นที่ 15 สุทัสสีสุทธาวาสภูมิ
ที่สถิตแห่งพระพรหมผู้มีความเห็น (สภาวธรรม) อย่างแจ่มแจ้งยิ่ง สูงขึ้นไปต่อจากสุทัสสาสุทธาวาสภูมิขึ้นไปอีกประมาณ ได้ 5 ล้าน 5 แสน 8 พันโยชน์ เป็นที่อยู่อันบริสุทธิ์แห่งพระพรหมอนาคามี ผู้มีความเห็นอย่างแจ่มใสมากกว่า มีประสาทจักษุ ทิพพจักษุ ปัญญาจักษุ ทั้ง 3 นี้มีกำลังแก่ กล้ากว่าพระพรหมในสุทัสสาสุทธาวาสภูมิ ทำให้ท่านมีความเห็นในสภาวธรรมได้ชัดเจนแจ่มใสยิ่ง ท่านเหล่านี้เคยเป็นพระสาวกแห่งพระพุทธองค์ อุตสาหะจำเริญวิปัสสนากรรมฐานจนสามารถยังตติยมรรค ให้บังเกิดในขันธสันดานได้สำเร็จเป็นพระอนาคามีอริยบุคคล และในขณะที่เจริญวิปัสสนากรรมฐาน ปรากฏว่าเป็นผู้มี สมาธินทรีย์ คือมีสมาธิแก่กล้ากว่าอินทรีย์อย่างอื่น มีอายุแห่งพรหมประมาณ 8000 มหากัป
ชั้นที่ 16 อกนิฏฐสุทธาวาสภูมิ
ที่สถิตแห่งพระพรหมผู้ทรงคุณพิเศษไม่มีใครเป็นรอง สูงขึ้นไปต่อจากสุทัสสีสุทธาวาสภูมิขึ้นไปอีกประมาณ ได้ 5 ล้าน 5 แสน 8 พันโยชน์ เป็นที่อยู่อันบริสุทธิ์แห่งพระพรหมอนาคามีอริยบุคคลทั้งหลาย ผู้มีวาสนาบารมี มีกิเลสธุลีเหลือติดอยู่น้อยนักหนาโดยท่านเหล่านี้เคยเป็นพระสาวกแห่งพระพุทธองค์ อุตสาหะจำเริญวิปัสสนากรรมฐานจนสามารถยัง ตติยมรรคให้บังเกิดในขันธสันดาน ได้สำเร็จเป็นพระอนาคามีอริยบุคคลและในขณะที่เจริญ วิปัสสนากรรมฐาน ปรากฏว่าเป็นผู้มีปัญญินทรีย์ คือมี ปัญญาแก่กล้ากว่าอินทรีย์อย่างอื่น ฉะนั้น ท่านพระพรหมอนาคามีบุคคลที่อุบัติเกิดในอกนิฏฐพรหมโลกนี้ จึงมีคุณสมบัติวิเศษยิ่งกว่า บรรดาพระพรหมทั้งสิ้นในพรหมโลกทั้งหลายรวมทั้งสุทธาวาสพรหมทั้งสี่ที่กล่าวมาแล้ว มีอายุแห่งพรหมประมาณ 16000 มหากัป
พรหมโลกนี้ มีพระเจดีย์เจ้าองค์สำคัญ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แสดงว่าเป็นพรหมโลกที่เคารพนับถือพระบวรพุทธศาสนา องค์หนึ่งมีนามว่า ทุสสะเจดีย์ ซึ่งเป็นที่บรรจุผ้าขาวของพระพุทธเจ้าเมื่อครั้งเสด็จออกผนวช โดยพระพรหมทั้งหลายได้นำบริขารและไตรจีวรลงมาถวาย และพระองค์ได้ถอดผ้าขาวที่ทรงอยู่ยื่นให้ พระพรหมจึงรับเอาและนำมาบรรจุไว้ยังเจดีย์ที่นฤมิตขึ้นนี้ และเป็นที่สักการบูชาของพระพรหมทั้งหลายในปัจจุบัน
พระพรหมอนาคามีทั้งหลายในสุทธาวาสพรหมแรกทั้ง 4 หากยังมิได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์และละสังขารเข้าสู่นิพพาน พอสิ้นพรหมายุขัย ก็ต้องจุติจากสุทธาวาสพรหมภูมิที่ตนสถิตอยู่มาอุบัติในชั้นที่ 16 นี้ เพื่อสำเร็จเป็นพระอรหันต์และดับขันธ์เข้าสู่ปรินิพพานโดยทั้งสิ้น จึงอาจกล่าวได้ว่า อกนิฏฐสุทธาวาสพรหมภูมินี้ เป็นพรหมภูมิที่มีศีลคุณ สมาธิคุณ ปัญญาคุณ อย่างประเสริฐล้ำเลิศยิ่งกว่าพรหมโลกชั้นอื่นๆ ทั้งหมด
อรูปพรหม
อรูปพรหม หรือ อรูปาวจรภูมิ สมัยที่โลกยังว่างจากพระพุทธศาสนา บรรดาโยคี ฤๅษี ชีไพรดาบส ที่บำเพ็ญตบะเดชะภาวนา รำพึงว่าอันว่าตัวตน กล่าวคืออัตภาพร่างกายนี้ไม่ดีเป็นนักหนา กอปรไปด้วย ทุกข์โทษหาประมาณมิได้ ควรที่ตูจะปรารถนากระทำตัว ให้หายไปเสียเถิด แล้วก็เกิดความพอใจเป็นนักหนา ในภาวะที่ไม่มีตัวตนไม่มีรูปกาย ปรารถนาอยู่แต่ในความไม่มีรูป
อรูปภูมิมี 4 ชั้น คือ อากาสานัญจายตนภูมิ วิญญาณัญจายตนภูมิ อากิญจัญญายตนภูมิ และ เนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ พรหมในชั้นนี้ไม่มีรูปร่าง มีแต่จิตเจตสิก เพราะเห็นว่าหากมีร่างกายอยู่นั้นจะมีแต่โทษ อาจจะไปทำร้ายซึ่งกันและกันได้ จึงบริกรรมด้วยความว่างเปล่า ยึดเอาอากาศซึ่งเป็นความว่างเปล่าเป็นอารมณ์ จนได้ฌานที่มีอากาศเป็นอารมณ์เรียกว่า อากาสานัญจายตนภูมิ ซึ่งมีอายุอยู่ได้สองหมื่นกัปป์ จากนั้นก็อาจภาวนาเพื่อจะได้ไปอยู่ในพรหมโลกขั้นสูงต่อไปอีกได้ อายุของพรหมเหล่านี้จะยืนอยู่ได้สี่หมื่น หกหมื่น และแปดหมื่นสี่พันกัปป์ ตามลำดับ
ชั้นที่ 17 อากาสานัญจายตนภูมิ
ชั้นที่ทรงอากาศไม่มีที่สิ้นสุด ที่สถิตแห่งพระพรหมผู้ได้ยึดเอา อากาศ เป็นอารมณ์ เป็นที่ตั้งอยู่แห่งพระพรหม ผู้เกิดจากฌานที่อาศัยอากาสบัญญัติ ไม่มีที่สุดเป็นอารมณ์ ตั้งอยู่พ้นจากอกนิฏฐสุทธาวาสพรหมโลกไปอีก 5 ล้าน 5 แสน 8 พันโยชน์ มีอายุแห่งพรหมประมาณ 20000 มหากัป
ชั้นที่ 18 วิญญาณัญจายตนภูมิ
ชั้นที่ทรงภาวะวิญญาณไม่มีที่สิ้นสุด ที่สถิตแห่งพระพรหมผู้ได้ยึด วิญญาณ เป็นอารมณ์ พ้นจากอากาสานัญจายตนภูมิขึ้นไปอีก 5 ล้าน 5 แสน 8 พันโยชน์ วิญญาณัญจายตนภูมิ เป็นที่อยู่ แห่งพระพรหมผู้วิเศษ ผู้เกิดจากฌานที่อาศัย วิญญาณบัญญัติ พระพรหมผู้วิเศษไม่มีรูป และปฏิสนธิด้วยวิญญาณัญจายตนวิบากจิต มีอายุแห่งพรหมประมาณ 40000 มหากัป
ชั้นที่ 19 อากิญจัญญายตนภูมิ
ชั้นที่ทรงภาวะไม่มีอะไรเลย ที่สถิตแห่งพระพรหมผู้ได้ยึดเอาความไม่มีอะไรเลย เป็นอารมณ์ เป็นที่อยู่แห่งพระพรหมผู้วิเศษ ผู้เกิดจากฌานที่อาศัย นัตถิภาวบัญญัติเป็นอารมณ์ พระพรหมผู้วิเศษไม่มีรูป และปฏิสนธิด้วยอากิญจัญญายตนวิบากจิตพ้นจากวิญญานัญจายตนภูมิขึ้นไปอีก 5 ล้าน 5 แสน 8 พันโยชน์ มีอายุแห่งพรหมประมาณ 60000 มหากัป
ชั้นที่ 20 เนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ
ชั้นที่ทรงภาวะที่มีสัญญาไม่ปรากฏชัด ที่สถิตแห่งพระพรหมผู้ได้เข้าถึงภาวะมี สัญญา ก็ไม่ใช่ ไม่มีสัญญาก็ไม่ใช่ (ในทัศนะนี้แปลว่า ยังไม่หมด ยังมีอยู่ แต่ไม่มาก ไม่ยึดมั่นเหมือนปถุชนทั่วไป) เป็นที่อยู่แห่งพระพรหมผู้เกิดจากฌานที่อาศัย ความประณีตเป็นอย่างยิ่ง พระพรหมวิเศษแต่ละองค์ในชั้นสูงสุดนี้ ล้วนแต่เป็นผู้ที่ได้สำเร็จยอดแห่งอรูปฌาน คืออรูปฌานที่ 4 มาแล้ว มีอายุยืนนานเป็นที่สุดด้วยอำนาจแห่ง อรูปฌานกุศลอันสูงสุดที่ตนได้บำเพ็ญมา เพราะเหตุที่ตนปฏิสนธิด้วยเนวสัญญานาสัญญายตนวิบากจิตทั้ง อยู่พ้นจากอากิญจัญญายตนภูมิขึ้นไปอีก 5 ล้าน 5 แสน 8 พันโยชน์ มีอายุแห่งพรหมประมาณ 84000 มหากัป
ผู้ที่เกิดเป็นอรูปพรหมนั้นไม่มีรูปขันธ์ 1 มีเพียงนามขันธ์ 4 คือ เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ จึงไม่มีอวัยวะร่างกายใดๆ แต่มีความรู้สึกนึกคิดในฝ่ายนามธรรม (มีผู้บรรยายว่า สภาวะของอรูปภพ มีทั้งข้อดีกับข้อเสีย ข้อดีก็คือจะไม่มีอายตนะห้าประการคือ ตา หู จมูก ลิ้น และกายมากระทบหรือไม่รับรู้อะไร มีแต่จิตเจตสิกที่รับอากาศเป็นอารมณ์รับรู้ ไม่ได้อยู่ร่วมกันเป็นหมู่แต่อาศัยปลีกวิเวก และอยู่เสวยสุขได้นานหลายกัปจนนับประมาณไม่ได้ แต่ข้อเสียก็คือจะไม่สามารถสื่อสารกับใครหรือพบเห็นอะไรเลย นอกจากนั้นจะไม่สามารถบรรลุมรรคผลนิพพานได้เลยตอนที่ยังเป็นอรูปพรหมเพราะไม่มีอายตนะห้าประการเป็นตัวรับรู้ในการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน (แต่มีปรากฏในหลักฐานปริยัติว่า ผู้ที่ได้ถึงพระนิพพานในลำดับแรก คือ โสดาปัตติผล สามารถเจริญวิปัสสนาต่อในอรูปภพต่อจนถึงความเป็นพระอรหัตผลได้)) นอกจากนั้นเมื่อได้สิ้นกาลอายุขัยก็จะต้องลงไปเกิดในกามาวจรภูมิ ต้องเวียนว่ายตายเกิดอย่างไม่จบไม่สิ้นอีกครั้งด้วยอำนาจกิเลส ในอรูปภพนี้ไม่มีปรากฏในหลักฐานทางพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาทว่าพระพุทธเจ้าพระองค์ใดจะเสด็จขึ้นมาโปรดเหล่าอรูปพรหมที่อรูปาวจรภูมินี้เลย เรื่องนี้มีกล่าวไว้ในพุทธประวัติว่า อสิตดาบสได้ทำนายเจ้าชายสิทธัตถะกุมารว่าเมื่อเจริญวัยก็จะเสด็จออกผนวชและตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าก็ดีใจ แต่ก็คิดได้ว่าตัวเองชราภาพมากก็คงไม่ได้มีโอกาสได้อยู่ดูและฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า แม้จะละสังขารไปเกิดเป็นอรูปพหรมก็ไม่สามารถฟังธรรมได้เลยจึงร้องไห้ หรือหลังจากพระพุทธเจ้าได้ตัดสินพระทัยว่าจะแสดงธรรมโปรดเวไนยสัตว์ก็ทรงระลึกถึงอุทกดาบสและอาฬารดาบสผู้เคยเป็นพระอาจารย์สอนวิชาสมาบัติแก่พระพุทธองค์ ที่สามารถจะเข้าใจฟังธรรมได้แต่ก็น่าเสียดาย เพราะดาบสทั้งสองก็ได้ละสังขารไปเกิดเป็นอรูปพรหม พระพุทธองค์ก็ไม่สามารถไปโปรดดาบสทั้งสองได้เลย
อ้างอิง
- นิตย์ จารุศร (รวบรวม และ เรียบเรียง). สารธรรม. กรุงเทพฯ : เหรียญบุญ การพิมพ์, 2547.
- พระพานิช ญาณชีโว. ไตรภูมิพระร่วง (ฉบับย่อความ) . กรุงเทพฯ : ตรงหัว, 2539.
- เสฐียรโกเศศ. ไตรภูมิกถา หรือ ไตรภูมิพระร่วง พระราชนิพนธ์ในพญาลิไทย. กรุงเทพฯ : องค์การค้าของคุรุสภา, 2545.
- เสฐียรโกเศศ. เล่าเรื่องในไตรภูมิ. ธนบุรี : โรงพิมพ์อักษรเพชรเกษม, 2512.
ดูเพิ่ม
- พระพรหม
- ไตรภูมิ
- ไตรภูมิพระร่วง (วรรณคดี)
แหล่งข้อมูลอื่น
- ไตรภูมิกถา หรือ ไตรภูมิพระร่วง 2009-01-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
phrhmphumi hrux phrhmolk thuxepndinaednkhxngphraphrhm sungepnphphphumithisthityxyueswysukhkhxngphraphrhmphuxubtiekidinphrhmwiman n phrhmolk xnepnaednsungmiaetkhwamsukhxnekidcakchanethann aebngchntamxanacchanthiidbrrlu inphphphuminitamkhmphirklawwaprascakkhwamsukhthienuxngdwykamrakhaxrupphrhm chbbkrungsri phrhmphumixacaebngxxkepn 2 phwk idaek rupphrhm aela xrupphrhmrupphrhmrupphrhm hrux rupawcrphumi khux chnthiphraphrhmphuwiessmirup hakaetepnrupthiphy mnusythrrmdaimsamarth mxngehnid ckehnidkodythiphywisyethann prakxbdwywiman 16 chn chnthi 1 chnthi 3 rwmeriykwa pthmchanphumi dwyphraphrhminchnnibrrludwypthmchan thngsamchnni khwamcringtngxyu n phunthiradbediywkn aetaeyksthanthiepn 3 ekht chnthi 4 chnthi 6 rwmeriykwa thutiychanphumi dwyehlaphraphrhminchnnibrrludwythutiychan thngsamchnni khwamcringtngxyu n phunthiradbediywkn aetaeyksthanthiepn 3 ekht chnthi 7 chnthi 9 rwmeriykwa ttiychanphumi dwyehlaphraphrhminchnnibrrludwyttiychan thngsamchnni khwamcringtngxyu n phunthiradbediywkn aetaeyksthanthiepn 3 ekht tngaetchnthi 10 khunip rwmeriykwa ctutthchanphumi dwyehlaphraphrhminchnnibrrludwyctutthchan chnthi 10 11 tngxyu n phunthiradbediywkn aetaeyksthanthiknxyu aelamirayahangiklknmak hakaetechphaaehlaphraphrhminchnthi 12 16 eriykwa pycsuththawas hrux suththawasphumi xnepnchnthiehlaphraphrhminchnni txngepnphraphrhmxriybukhkhlinphuththsasna radbxnakhamixriybukhkhl ethann tangcak 11 chnaerk aemphraphrhmthnghlaycaidsaercchanwiessephiyngid kxubtiinsuththawasphumiimidxyangeddkhad suththawasphuminimixyu 5 chn tngxyuthamklangxakas aelatngxyuepnchn khunip tamladbphumiimtnginradbediywknechnchnaerkthiphanmapthmchanphumi3chnthi 1 phrhmparischchaphumi thisthitaehngphraphrhmphuepnbriwaraehngthawmhaphrhm phrhmolkchnthi 1 phrhmparischchaphumi epnphrhmolkchnaerk epnphrhmchnlangsud tngxyuebuxngbnsungkwaprnimmitwswttiswrrkhkhunipthung 5 lan 5 aesn 8 phnoychn khuxiklcakmnusyolkcnimsamarthnbid sunghakexakxnsilakhnadethaprasathehlk olhprasath thinglngmacakchnni yngichewlathung 4 eduxncungcatkthungaephndin phraphrhminthinimikhunwiess odyekhyecriysmthkrrmthancnidbrrlu pthmchan khnpritta khux khnsamymaaelwthngsin eswypnitsukhxyu mikhwamepnxyuxyangaesncasukhnkhna trabcnhmd phrhmayukhy mixayuaehngphrhmpramanswnthi 3 aehngmhakp 1 in 3 aehngmhakp mithawshbdiphrhm epn phrhmbdi chnthi 2 phrhmpuorhitaphumi thisthitaehngphraphrhmphuepnpuorhit xacaryihy khxngthawmhaphrhm phrhmolkchnthi 2 phrhmpuorhitaphumi epnthixyukhxngphraphrhmphuthrngthanapraesrith khuxepnpuorhitkhxngthanmhaphrhm khwamepnxyuthukxyanglaeliswiesskwaphrhmolkchnaerk rsmikrungeruxngkwa rupthrngrangkayihykwa swyngamkwa phrhmthukthanlwnmikhunwiess idekhyecriysmthkrrmthancnid brrlu pthmchan khnmchchima khuxkhnpanklang maaelwthngsin mixayuaehngphrhmpramankhrungmhakp chnthi 3 mhaphrhmaphumi thisthitaehngphraphrhmphuyingihy phrhmolkchnthi 3 mhaphrhmaphumi thixyuaehngthanphraphrhm phuyingihythnghlay mikhwamepnxyuaelarupkaypraesrithyingkhunipxik idekhyecriysmthkrrmthancnidbrrlupthmchankhn pnitakhuxkhnsungsudmaaelwthngsin mixayuaehngphrhmpraman 1 mhakp thutiychanphumi3 chbbkrungsri chnthi 4 pritrtaphaphumi thisthitaehngphraphrhmphumirsminxykwachnphrhmthisungkwatn phrhmolkchnthi 4 pritrtaphaphumi thixyukhxngphraphrhm thnghlayphumirsminxykwaphraphrhmthimiskdisungkwatn idecriyphawnakrrmbaephysmthkrrmthan cnidbrrlu thutiychan khnpritta khux khnsamymaaelw mixayuaehngphrhmpraman 2 mhakp mithawcturphktrhruxthadaphrhm epnphrhmbdi chnthi 5 xppmanaphaphumi thisthitaehngphraphrhmphumirsmirungeruxnghapramanmiid phrhmolkchnthi 5 xppmanaphaphumi thixyukhxngphraphrhm phumirsmirungeruxngmakmayhapramanmiid ekhyecriyphawnakarbaephysmthkrrmthan cnidbrrlu thutiychan khnmchchima khuxkhnpanklangmaaelw mixayuaehngphrhmpraman 4 mhakp mithawmhaxthpalphrhm epnphrhmbdi chnthi 6 xaphsraphumi thisthitaehngphraphrhmphumirsmiepnprakayrungeruxng phrhmolkchnthi 6 xaphssraphumi ekhyecriyphawnakrrmbaephy smthkrrmthancnidbrrlu thutiychan khnpnita khux pranitsungsudmaaelw mixayuaehngphrhmpraman 8 mhakp mithawmaliwrach epnphrhmbdi dukrphiksuthnghlay prakarxunyngmixik phiksuepnphuprakxbdwysrththa sil suta cakha pyya ethxidfngwa ethwdachnxaphssra mixayuyun miwrrnamakdwykhwamsukh ethxmikhwam prarthnaxyangniwa oxhnx eraemuxtayipaelwphungekhathungkhwamepnshayaehngethwdachnxaphssra ethid ethxtngcitnn xthisthancitnn ecriycitnn khwamprarthnaaelawiharthrrmehlann xnethxecriyaelw xyangni thaihmakaelwxyangni yxmepnipephuxkhwamsaercinphawann dukrphiksuthnghlay nimrrkh niptiptha epnipephuxkhwamsaercinkhwamepnshayaehngethwdachn xaphssra phraitrpidk chbbhlwng elmthi 14 hnathi 176 khxthi 726 chnthi 7 prittsuphaphumi thisthitaehngphraphrhmphumirsmisngangamnxykwachnphrhmthisungkwatn phrhmolkchnthi 7 prittsuphaphumi thixyukhxngphraphrhm phumikhwamsngaswyngamaehngrsmiepnswnnxy khuxnxykwaphraphrhminphrhmolkthisungkwatnnnexng idekhyecriyphawnakrrm baephysmthkrrmthancnidbrrluttiychan khnpritta khuxkhnsamymaaelwthngsin mixayuaehngphrhmpraman 16 mhakp chnthi 8 xppmansuphaphumi thisthitaehngphraphrhmphursmisngangamhapramanmiid phrhmolkchnthi 8 xppmansuphaphumi thixyukhxngphraphrhm thnghlay phumikhwamsngaswyngamaehngrsmimakmayimmi praman sngaswyngamaehngrsmisungsanxxkcakkaytw makmaysudpramanidekhyecriyphawnakrrmbaephysmthkrrmthan cnidbrrlu ttiychan khnmchchima khuxkhnpanklangmaaelwthngsin mixayuaehngphrhmpraman 32 mhakp chnthi 9 suphkinhaphumi thisthitaehngphraphrhmphumirsmisngangamsukplngthwsrrphangkhkay phrhmolkchnthi 9 suphkinhaphumi thixyukhxngphraphrhm phumikhwamsngaswyngamaehngrsmi thixxkslb papnknxyuesmxepnnity thrngrsminanaphrrn epnthinaephngphisthsnaidekhyecriyphawnakrrmbaephysmthkrrmthan cnidbrrlu ttiychan khnpnita khuxkhnpranitsungsudmaaelwthngsin mixayuaehngphrhmpraman 64 mhakp dukrphiksuthnghlay stwehla hnungmikayxyangediywkn misyyaxyangediywkn echnphwkethphsuphkinhka niepnwiyyanthitithi 4 phraitrpidk chbbhlwng elmthi 30 hnathi 178 khxthi 480 chnthi 10 ewhpphlaphumi thisthitaehngphraphrhmphuidrbphlaehngchanxniphbuly phrhmolkchnthi 10 ewhpphlaphumi epnthixyukhxngphraphrhm thnghlay phuidrbphlaehngchankuslxyangiphbuly mixayuaehngphrhmpraman 500 mhakp xnungphlaehngchankusl thisngihipxubtiekidinphrhmolk 9 chnaerknn imeriykwa miphliphbulyetmthi thngnikodymi ehtuphltamsphawthrrmthiepncring dngtxipni emuxkhrawolkthukthalaydwyifnn phrhmphumi 3 chnaerk kthukthalayipdwy emuxkhrawolkthukthalaydwynann phrhmphumi 6 chnaerk kthukthalayipdwy emuxkhrawolkthukthalaydwylmnn phrhmphumithng 9 chnaerk kthukthalayipimmiehluxelychnthi 11 xsyyisttaphumi thisthitaehngphraphrhmphuhasyyamiid khuxmiaetrup phrhmolkchnthi 11 xsyyisttaphumi epnthixyukhxngphraphrhmphuxubtiekiddwyxanacaehngsyyawirakhphawna eswysukhxn pranitnkhna ekhyecriyphawnakrrmbaephysmthkrrmthan cnidsaercctutthchan xnepnrupchankhnsungsudsthityxyuinprasath aekwwimanxnmohlarkwangkhwang mibupphchatipradbpradaeriyb imruaehngehiyw mihnataswysngaxupmadngrupphraptimakrphuththrupthxngkhakhdsi aetmixiriyabthimehmuxnkn bangxngkhnng bangxngkhnxn bangxngkhyun mixiriyabthidk epnxyangnntlxdip imekhluxnihw cksuthngsxngkmiidkaphribely sthityeswysukhepnpraducruppn xyuxyangnnchwkal mixayuaehngphrhmpraman 500 mhakp xwihasuththawas xtppasuththawassuththawas chnniepnthiekidkhxngphraxnakhami chnthi 12 xwihasuththawasphumi phuidsmabtithi 9 imichttiymrrkh thisthitaehngphraphrhmphuimesuxmkhlayinsmbtiaehngtn sungkhunipcakxsyyisttaphumipraman 5 lan 5 aesn 8 phnoychn epnthixyuxnbrisuththiaehngphraphrhmxnakhamixriybukhkhlthiimlathingsmbti epnphumiwasnabarmi kielsthuliehluxtidxyuincitsndannxymak dwyidekhyepnsawkaehngphraphuththxngkh phbphrabwrphuththsasnaaelwmipktiehnphyinwtsngsar xutsahacaeriy wipssnakrrmthan cnyngttiymrrkhih ekidinkhnthsndanidsaercepnphraxnakhamixriybukhkhlcasthityxyucnxayukhrbkahnd imcutiesiykxn tangcakphraphrhminsuththawasphumithiehluxxyuxik 4 phumi khuxphraphrhminxik 4 suththawasphumithiehlux sungxacmikarcutihruxniphphanesiykxnxayukhrbkahnd mixayuaehngphrhmpraman 1000 mhakp chnthi 13 xtppasuththawasphumi thisthitaehngphraphrhmphuimeduxdrxnkbikhr sungkhuniptxcakxwihasuththawasphumikhunipxikpraman id 5 lan 5 aesn 8 phnoychn epnthixyuxnbrisuththiaehngphraphrhmxnakhami phulasungepnkielsxnthaih citeduxdrxn thngthangkay wacaaelaicely yxmekhachansmabti hruxphlsmabtixyuesmx niwrnthrrmsungepnkielsxnthaih citeduxdrxnimmioxkasthicaekidkhunidchanncitickhxngthanehlanncungmiaetsngbeyuxkeynidsaercepnphraxnakhamixriybukhkhlaelainkhnathiecriy wipssnakrrmthan praktwaepnphumiwiriyinthriy khuxmi wiriyaaekklakwaxinthriyxyangxun mixayuaehngphrhmpraman 2000 mhakp suthssasuththawas suthssisuththawaschnthi 14 suthssasuththawasphumi thisthitaehngphraphrhmphumikhwamehn sphawthrrm xyangaecmaecng sungkhuniptxcakxtppasuththawasphumikhunipxikpraman id 5 lan 5 aesn 8 phnoychn epnthixyuxnbrisuththiaehngphraphrhmxnakhami phumikhwamaecmis samarthehnsphawthrrmidodyaecngchdephraabriburn dwyprasathcksu thiphphcksu thmmcksuaelapyyacksu cungehnsphawthrrmidaecmis chdecn thanehlaniekhyepnphrasawkaehngphraphuththxngkh xutsahacaeriywipssnakrrmthancnsamarthyng ttiymrrkhihbngekidinkhnthsndan idsaercepnphraxnakhamixriybukhkhlaelainkhnathiecriy wipssnakrrmthan praktwaepnphumistinthriy khuxmi stiaekklakwaxinthriyxyangxun mixayuaehngphrhmpraman 4000 mhakp chnthi 15 suthssisuththawasphumi thisthitaehngphraphrhmphumikhwamehn sphawthrrm xyangaecmaecngying sungkhuniptxcaksuthssasuththawasphumikhunipxikpraman id 5 lan 5 aesn 8 phnoychn epnthixyuxnbrisuththiaehngphraphrhmxnakhami phumikhwamehnxyangaecmismakkwa miprasathcksu thiphphcksu pyyacksu thng 3 nimikalngaek klakwaphraphrhminsuthssasuththawasphumi thaihthanmikhwamehninsphawthrrmidchdecnaecmisying thanehlaniekhyepnphrasawkaehngphraphuththxngkh xutsahacaeriywipssnakrrmthancnsamarthyngttiymrrkh ihbngekidinkhnthsndanidsaercepnphraxnakhamixriybukhkhl aelainkhnathiecriywipssnakrrmthan praktwaepnphumi smathinthriy khuxmismathiaekklakwaxinthriyxyangxun mixayuaehngphrhmpraman 8000 mhakp thussaecdiy chnxknitthsuththawasphumichnthi 16 xknitthsuththawasphumi thisthitaehngphraphrhmphuthrngkhunphiessimmiikhrepnrxng sungkhuniptxcaksuthssisuththawasphumikhunipxikpraman id 5 lan 5 aesn 8 phnoychn epnthixyuxnbrisuththiaehngphraphrhmxnakhamixriybukhkhlthnghlay phumiwasnabarmi mikielsthuliehluxtidxyunxynkhnaodythanehlaniekhyepnphrasawkaehngphraphuththxngkh xutsahacaeriywipssnakrrmthancnsamarthyng ttiymrrkhihbngekidinkhnthsndan idsaercepnphraxnakhamixriybukhkhlaelainkhnathiecriy wipssnakrrmthan praktwaepnphumipyyinthriy khuxmi pyyaaekklakwaxinthriyxyangxun chann thanphraphrhmxnakhamibukhkhlthixubtiekidinxknitthphrhmolkni cungmikhunsmbtiwiessyingkwa brrdaphraphrhmthngsininphrhmolkthnghlayrwmthngsuththawasphrhmthngsithiklawmaaelw mixayuaehngphrhmpraman 16000 mhakp phrhmolkni miphraecdiyecaxngkhsakhy sungepnsylksnaesdngwaepnphrhmolkthiekharphnbthuxphrabwrphuththsasna xngkhhnungminamwa thussaecdiy sungepnthibrrcuphakhawkhxngphraphuththecaemuxkhrngesdcxxkphnwch odyphraphrhmthnghlayidnabrikharaelaitrciwrlngmathway aelaphraxngkhidthxdphakhawthithrngxyuyunih phraphrhmcungrbexaaelanamabrrcuiwyngecdiythinvmitkhunni aelaepnthiskkarbuchakhxngphraphrhmthnghlayinpccubn phraphrhmxnakhamithnghlayinsuththawasphrhmaerkthng 4 hakyngmiidsaercepnphraxrhntaelalasngkharekhasuniphphan phxsinphrhmayukhy ktxngcuticaksuththawasphrhmphumithitnsthitxyumaxubtiinchnthi 16 ni ephuxsaercepnphraxrhntaeladbkhnthekhasupriniphphanodythngsin cungxacklawidwa xknitthsuththawasphrhmphumini epnphrhmphumithimisilkhun smathikhun pyyakhun xyangpraesrithlaelisyingkwaphrhmolkchnxun thnghmdxrupphrhmxrupphrhm hrux xrupawcrphumi smythiolkyngwangcakphraphuththsasna brrdaoykhi visi chiiphrdabs thibaephytbaedchaphawna raphungwaxnwatwtn klawkhuxxtphaphrangkayniimdiepnnkhna kxpripdwy thukkhothshapramanmiid khwrthitucaprarthnakrathatw ihhayipesiyethid aelwkekidkhwamphxicepnnkhna inphawathiimmitwtnimmirupkay prarthnaxyuaetinkhwamimmirup xrupphumimi 4 chn khux xakasanycaytnphumi wiyyanycaytnphumi xakiycyyaytnphumi aela enwsyyanasyyaytnphumi phrhminchnniimmiruprang miaetcitectsik ephraaehnwahakmirangkayxyunncamiaetoths xaccaiptharaysungknaelaknid cungbrikrrmdwykhwamwangepla yudexaxakassungepnkhwamwangeplaepnxarmn cnidchanthimixakasepnxarmneriykwa xakasanycaytnphumi sungmixayuxyuidsxnghmunkpp caknnkxacphawnaephuxcaidipxyuinphrhmolkkhnsungtxipxikid xayukhxngphrhmehlanicayunxyuidsihmun hkhmun aelaaepdhmunsiphnkpp tamladb xrupphrhm chbbkrungthn chnthi 17 xakasanycaytnphumi chnthithrngxakasimmithisinsud thisthitaehngphraphrhmphuidyudexa xakas epnxarmn epnthitngxyuaehngphraphrhm phuekidcakchanthixasyxakasbyyti immithisudepnxarmn tngxyuphncakxknitthsuththawasphrhmolkipxik 5 lan 5 aesn 8 phnoychn mixayuaehngphrhmpraman 20000 mhakp chnthi 18 wiyyanycaytnphumi chnthithrngphawawiyyanimmithisinsud thisthitaehngphraphrhmphuidyud wiyyan epnxarmn phncakxakasanycaytnphumikhunipxik 5 lan 5 aesn 8 phnoychn wiyyanycaytnphumi epnthixyu aehngphraphrhmphuwiess phuekidcakchanthixasy wiyyanbyyti phraphrhmphuwiessimmirup aelaptisnthidwywiyyanycaytnwibakcit mixayuaehngphrhmpraman 40000 mhakp chnthi 19 xakiycyyaytnphumi chnthithrngphawaimmixairely thisthitaehngphraphrhmphuidyudexakhwamimmixairely epnxarmn epnthixyuaehngphraphrhmphuwiess phuekidcakchanthixasy ntthiphawbyytiepnxarmn phraphrhmphuwiessimmirup aelaptisnthidwyxakiycyyaytnwibakcitphncakwiyyanycaytnphumikhunipxik 5 lan 5 aesn 8 phnoychn mixayuaehngphrhmpraman 60000 mhakp chnthi 20 enwsyyanasyyaytnphumi chnthithrngphawathimisyyaimpraktchd thisthitaehngphraphrhmphuidekhathungphawami syya kimich immisyyakimich inthsnaniaeplwa yngimhmd yngmixyu aetimmak imyudmnehmuxnpthuchnthwip epnthixyuaehngphraphrhmphuekidcakchanthixasy khwampranitepnxyangying phraphrhmwiessaetlaxngkhinchnsungsudni lwnaetepnphuthiidsaercyxdaehngxrupchan khuxxrupchanthi 4 maaelw mixayuyunnanepnthisuddwyxanacaehng xrupchankuslxnsungsudthitnidbaephyma ephraaehtuthitnptisnthidwyenwsyyanasyyaytnwibakcitthng xyuphncakxakiycyyaytnphumikhunipxik 5 lan 5 aesn 8 phnoychn mixayuaehngphrhmpraman 84000 mhakp phuthiekidepnxrupphrhmnnimmirupkhnth 1 miephiyngnamkhnth 4 khux ewthna syya sngkhar aelawiyyan cungimmixwywarangkayid aetmikhwamrusuknukkhidinfaynamthrrm miphubrryaywa sphawakhxngxrupphph mithngkhxdikbkhxesiy khxdikkhuxcaimmixaytnahaprakarkhux ta hu cmuk lin aelakaymakrathbhruximrbruxair miaetcitectsikthirbxakasepnxarmnrbru imidxyurwmknepnhmuaetxasyplikwiewk aelaxyueswysukhidnanhlaykpcnnbpramanimid aetkhxesiykkhuxcaimsamarthsuxsarkbikhrhruxphbehnxairely nxkcaknncaimsamarthbrrlumrrkhphlniphphanidelytxnthiyngepnxrupphrhmephraaimmixaytnahaprakarepntwrbruinkarecriywipssnakrrmthan aetmipraktinhlkthanpriytiwa phuthiidthungphraniphphaninladbaerk khux osdapttiphl samarthecriywipssnatxinxrupphphtxcnthungkhwamepnphraxrhtphlid nxkcaknnemuxidsinkalxayukhykcatxnglngipekidinkamawcrphumi txngewiynwaytayekidxyangimcbimsinxikkhrngdwyxanackiels inxrupphphniimmipraktinhlkthanthangphraphuththsasnafayethrwathwaphraphuththecaphraxngkhidcaesdckhunmaoprdehlaxrupphrhmthixrupawcrphuminiely eruxngnimiklawiwinphuththprawtiwa xsitdabsidthanayecachaysiththtthakumarwaemuxecriywykcaesdcxxkphnwchaelatrsruepnphraphuththecakdiic aetkkhididwatwexngchraphaphmakkkhngimidmioxkasidxyuduaelafngthrrmcakphraphuththeca aemcalasngkharipekidepnxrupphhrmkimsamarthfngthrrmidelycungrxngih hruxhlngcakphraphuththecaidtdsinphrathywacaaesdngthrrmoprdewinystwkthrngralukthungxuthkdabsaelaxalardabsphuekhyepnphraxacarysxnwichasmabtiaekphraphuththxngkh thisamarthcaekhaicfngthrrmidaetknaesiyday ephraadabsthngsxngkidlasngkharipekidepnxrupphrhm phraphuththxngkhkimsamarthipoprddabsthngsxngidelyxangxingnity carusr rwbrwm aela eriyberiyng sarthrrm krungethph ehriyybuy karphimph 2547 phraphanich yanchiow itrphumiphrarwng chbbyxkhwam krungethph trnghw 2539 esthiyrokess itrphumiktha hrux itrphumiphrarwng phrarachniphnthinphyaliithy krungethph xngkhkarkhakhxngkhuruspha 2545 esthiyrokess elaeruxnginitrphumi thnburi orngphimphxksrephchreksm 2512 duephimphraphrhm itrphumi itrphumiphrarwng wrrnkhdi aehlngkhxmulxunitrphumiktha hrux itrphumiphrarwng 2009 01 05 thi ewyaebkaemchchin