ฮุจญะตุลลอฮ์ อิบน์ อัลฮะซัน อัลมะฮ์ดี (อาหรับ: حُجَّة ٱللَّٰه ٱبْن ٱلْحَسَن ٱلْمَهْدِيّ, Ḥujjat Allāh ibn al-Ḥasan al-Mahdīy) เป็นบุคคลที่ชีอะฮ์สิบสองอิมามเชื่อว่าเป็นมะฮ์ดี และเป็นอิมามคนสุดท้ายในที่จะมาพร้อมกับอีซา (พระเยซู) เพื่อนำสันติสุขกับความยุติธรรมมายังโลก ชีอะฮ์สิบสองอิมามเชื่อว่าอัลมะฮ์ดีเกิดวันที่ 15 ชะอ์บาน ค.ศ. 869/ ฮ.ศ. 255 และเป็นอิมามะฮ์ตอนอายุเกือบ 5 ขวบหลังจาก พ่อของเขาถูกฆ่า ในช่วงแรก เขาได้ติดต่อกับผู้ศรัทธาผ่านทาง (The Four Deputies) สมัยนั้นถูกเรียกเป็น (ٱلْغَيْبَة ٱلصُّغْرَىٰ) ซึ่งมีระยะเวลาตั้งแต่ ค.ศ. 873–941
ฮุจญะตุลลอฮ์ อัลมะฮ์ดี حُجَّة ٱللَّٰه ٱلْمَهْدِيّ อิมามคนที่ 12 ของชีอะฮ์สิบสองอิมาม | |
---|---|
ชื่อมุฮัมมัด อัลมะฮ์ดีใน | |
เกิด | 15 ชะอ์บาน ฮ.ศ. 255 (ป. 28 กรกฎาคม ค.ศ. 869 ) , รัฐเคาะลีฟะฮ์อับบาซียะฮ์ |
สาบสูญ | ป. 5 มกราคม 874 (อายุ 4) ป. 941 |
สถานะ | หายตัว |
อนุสรณ์สถาน | , ประเทศอิรัก , ประเทศอิรัก , ประเทศอิหร่าน |
ชื่ออื่น | ดิลาวัร (مُحَمَّد ٱبْن ٱلْحَسَن) |
ตัวแทน | |
มีชื่อเสียงจาก | |
ตำแหน่ง | รายการ
|
วาระ | ค.ศ. 874 – ปัจจุบัน |
ผู้ดำรงตำแหน่งก่อน | |
ปัจจามิตร | ชัยฏอน, และอัลมะซีฮุดดัจญ์ญาล |
บิดามารดา | ฮะซัน อัลอัสกะรี (พ่อ) (แม่) |
มุสลิมซุนนีส่วนใหญ่ปฏิเสธว่าเขาเป็นมะฮ์ดี และเชื่อว่ามะฮ์ดียังไม่ถือกำเนิด โดยกล่าวว่ามีแค่อัลลอฮ์เท่านั้นที่รู้
ประวัติ
ความเชื่อเกี่ยวกับมะฮ์ดีและกออิมของชีอะฮ์
ตามที่ ญาซิม ฮุเซน ได้อธิบายไว้ว่า ความหมายของ "มะฮ์ดี" ในฐานะผู้ชี้นำนั้นถูกนำมาใช้ตั้งแต่สมัยท่านศาสดา (ศ็อลฯ) ชาวซุนนีก็ใช้คำนี้เรียก คุละฟาอัรรอชิดีน และชีอะฮ์ก็ใช้เรียกบรรดาอิมาม เช่น ในการลุกขึ้นต่อสู้ของ ฮุเซน บิน อา ชีอะฮ์กูฟะฮ์ได้เชิญชวนท่านในฐานะของมะฮ์ดี และสุไลมาน บิน ศุร็อด ก็ถูกเรียกในฐานะนี้ภายหลังจากที่ถูกฆ่าเช่นกัน แต่การใช้คำในความหมายของผู้ปลดปล่อยนั้นเกิดขึ้นในยุคของการลุกขึ้นสู้ของมุคตาร โดย มุคตาร ษะกอฟี ใช้เรียก มุฮัมหมัด ฮะนะฟียะฮ์
ตามคำกล่าวของ Saïd Amir Arjomand และ Wilferd Madelung ว่า ความเชื่อเกี่ยวมะฮ์ดี ผู้เร้นกายและผู้ปลดปล่อย ในหมู่มุสลิมนั้นย้อนกลับไปในยุคนิกายกัยซานียะฮ์ เป็นกลุ่มหนึ่งที่เกิดขึ้นหลังจากความพ่ายแพ้ของการลุกขึ้นต่อสู้ของมุคตาร พวกเขาเชื่อว่า มุฮัมหมัด ฮะนะฟียะฮ์ บุตรของ อาลี อิมามท่านแรกของชีอะฮ์ว่าคือ มะฮ์ดี และหลังจากที่เขาเสียชีวิตลงกลุ่มนี้ก็ประกาศว่าเขายังไม่ตาย แต่เร้นกายอยู่ในภูเขาริฎวา ในเมืองมะดีนะฮ์ และจะกลับมาปรากฏอีกครั้งในฐานะมะฮ์ดีและกออิม Wilferd Madelung กล่าว่า บรรดาชีอะฮ์เรียกลูกหลานหลายท่านของท่านศาสดาในฐานะมะฮ์ดี เช่น มุฮัมหมัด ฮะนะฟียะฮ์ , อะบูฮาชิม บุตรของมุฮัมหมัด ฮะนะฟียะฮ์ , มุฮัมหมัด บิน มุอาวิยะฮ์ มาจากครอบครัวของ ญะอ์ฟัร อะบูฏอลิบ , มุฮัมหมัด อิบนุ อับดุลลอฮ์ , นัฟส์ ซะกียะฮ์ , ญะอ์ฟัร ซอดิก , มูซา กาซิม นอกจากกลุ่มกัยซานียะฮ์แล้ว กลุ่มซัยดียะฮ์ ก็ใช้คำนี้เรียกบรรดาผู้ลุกขึ้นต่อสู้ของพวกเขาในฐานะมะฮ์ดี ผู้ปลดปล่อยด้วยเช่นกัน และยังมีกลุ่มย่อยของอิมามียะฮ์ เช่น นาวูซียะ วากิฟียะฮ์ ที่ใช้ชื่อนี้เรียกอิมามท่านที่หกและอิมามท่านที่เจ็ด
ทั้งมุฮัมหมัดบาเกร และ ญะอ์ฟัร ซอดิก บรรดาผู้ปฏิบัติตามท่านได้กล่าวสร้างความมั่นใจให้แก่พวกท่านไว้ในหลายกรณีว่า หากลุกขึ้นต่อสู่กับผู้ปกครองแห่งยุคก็จะให้การสนับสนุนพวกท่าน แต่ทั้งสองอิมามได้ให้คำตอบที่สร้างความสงบแก่พวกเขาลงว่า แม้ว่าอิมามทั้งหมดจะเป็นกออิมก็ตามและมีความสามารถที่จะต่อกรกับผู้ปกครองที่อธรรมได้ แต่กออิมผู้ถูกสัญญาไว้นั้นจะมาปรากฏหลังจากบัญชาของพระเจ้าเพื่อมาทำลายความอธรรมให้หมดไป เกี่ยวกับการใช้คำว่า มะฮ์ดี ในฐานะ ผู้ปลดปล่อยนั้นก็มีทัศนะที่แตกต่างกันออกไปในหมู่ชีอะฮ์ มุดัรริซี เขียนไว้ว่า ชีอะฮ์อิมามียะฮ์รู้จักกับแนวคิดกออิมตั้งแต่ยุคของอาลี และกลุ่มกัยซานียะฮ์ กระทั่งยุคการเร้นกายระยะสั้น ความหมายของมะฮ์ดี ไม่ใช่เป็นแนวคิดของอิมามียะฮ์ ทว่าในยุคการเร้นกายบรรดาชีอะฮ์เร่มค่อยๆให้ความหมายของมะฮ์ดีนั้นเกี่ยวข้องกับกลุ่มที่ไม่ใข่ชีอะฮ์ และให้ความหมายของกออิมนั้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับกับอิมามียะฮ์ แม้ว่าในตำราต่างๆจะถือว่าอิมามท่านที่สิบสองของชีอะฮ์ก็คือกออิมมากระทั่งช่วงปลายศตวรรษที่สาม / ค.ศ. ที่ 9 ก็ตาม แต่ต้นศตวรรษต่อมาตำราต่างๆของชีอะฮ์เรียกอิมามท่านที่สิบสองว่า มะฮ์ดี Abdulaziz Sachedina กล่าวไว้เช่นกันว่า มะฮ์ดะวียัต ของอิมามท่านที่สิสอง เป็นทฤษฎีอิมามัตของอิมามผู้เร้นกายที่ผนวกเข้ากับความเชื่อการมาปรากฏของอิมามมะฮ์ดีและการสร้างความยุติธรรม ทั้งที่ก่อนหน้านี้อิมามท่านที่สิบสองไม่ถูกเรียกว่ามะฮ์ดีผู้ถูกสัญญามาก่อน ในทางตรงกันข้ามญาวิม ฮุเซน เขียนว่า ไม่เพียงแต่มะฮ์ดี จะหมายถึงผู้ปลดปล่อย ในมุมมองของอิมามียะฮ์ที่ใช้มาตั้งแต่ยุคบรรดาอิมาม ทว่าบรรดาอิมามก็มีความเชื่อว่าพวกท่านแต่คนสามารถเป็นมะฮ์ดีกออิมได้หากสถานการณ์ตอบรับ บรรดามุสลิมเชื่อกันมานมนานแล้วว่าท่านศาสดาได้ให้ความหวังถึงการมาของบุรุษผู้หนึ่งที่มาจากเชื้อสายของฮุเซน บิน อาลี ที่จะยืนหยัดขึ้นทำลายอุตริกรรมให้หมดไปจากอิสลาม แต่การแข่งขันกันทางการเมืองระหว่างมสุลิมเป็นเหตุให้บางกลุ่มได้ทำการบิดเบือนฮะดีษต่างๆ ของศาสดาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ในเวทีทางการเมือง
ตามคำกล่าวของ Saïd Amir Arjomand ว่า ส่วนใหญ่กลุ่มกัยซานีจะเป็นชาวอิหร่าน และคาดว่าชาวอิหร่านมีความรู้เกี่ยวกับผู้ปลดปล่อยจากความเชื่อของศาสนาโซโรแอสเตอร์ วีรบุรุษ อย่าวเชน โฆรชอซิบ ที่หลังจากตื่นจากการนอนหลับอันยาวนาน พวกอะฮ์รีมันก็จะปรากฏขึ้นบนหน้าแผ่นดิน มุฮัมหมัดอะมีร มุอิซซี และ ตีมูตี ฟิรนีช ว่าส่วนใหญ่ความเชื่อเกี่ยวกับผู้ปลดปล่อย การมาปรากฏของผู้ปลดปล่อย การเร้นกาย และเรื่องที่เกี่ยวข้องกันนี้ นั้นได้มาจากศาสนาก่อนหน้านี้ เช่น ศาสนามานี ศาสนาโซโรแอสเตอร์ ศาสนาวยูดาย และศาสนาคริสต์
ตามที่ญาวิม ฮุเซน ได้เขียนไว้ว่า ที่มาของทัศนะเกี่ยวกับมะฮ์ดีในฐานะผู้ปลดปล่อยนั้นมีอยู๋ในฮะดีษของท่านศาสดา ที่บรรดาสาวกจำนวน 26 ท่านได้รายงานไว้ซึ่งมีอยู่ในหนังสือฮะดีษของพี่น้องซุนนี ซัยดียะฮ์และอิมามียะฮ์ เขาปฏิเสธความฎออีฟของฮะดีษ โดยกล่าวว่า ฮะดีษเหล่านี้ก็แพร่หลายในยุคราชวงศ์อุมัยะฮ์ และก็มีอยู่ในหนังสือ สุลัยม์ บิน เกส ซึ่งอ้างถึงสุลัยม์ บิน เกส ฮิลาลี (ประมาณ ฮ.ศ. 80-90 / ค.ศ. 699-708) อีกด้านหนึ่งนักประวัติศาสตร์ และนักเทววิทยาของชีอะฮ์ เช่น ซัยยิดมุรตะฎอ อัสกะรี และมุฮัมหมัด ฮุเซน ฏอบาฏอบาอี ย้ำถึงจุดร่วมระหว่างศาสนาเกี่ยวกับความหวังการมาของมะฮ์ดี และสร้างความยุติธรรมขึ้นบนหน้าแผ่นดิน โดยถือว่าเป็นธรรมชาติที่มีอยู่ในตลาดต่างๆ กลุ่มนี้เริ่มจากการกล่าวถึงมะฮ์ดีในฮะดีษต่างๆ ของศาสดาแห่งอิสลามที่ทั้งชีอะฮ์และซุนนีรายไว้ และเชื่อว่าการมีอยู่ของมะฮ์ดีนั้นเป็นสิ่งจำเป็นหนึ่งที่จะต้องเกิดขึ้นตามสัญญาที่มีอยู่ในอิสลามและกุรอานเพื่อสร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในหน้าแผ่นดิน
สถานการณ์ทางการเมืองและความเชื่อในช่วงปลายศตวรรษที่สามและสี่
ในยุคการปกครองของ มุตะวักกิล อับบาซี (ฮ.ศ. 232-247/ค.ศ. 847-861) การเมืองที่ประนีประนอมของมะมูน (ฮ.ศ. 198-218 /ค.ศ. 813-833) และบรรดาคอลีฟะฮ์ภายหลังจากเขามีท่าทีที่ที่แข็งกร้าวต่อชีอะฮ์ ในยุคของมุตะวักกิลเขาสั่งให้ทำลายสุสานของ ฮุเซน บิน อาลี เขาได้เรียกตัวอิมามท่านท่านที่สิบของชีอะอ์ อิมามฮาดีย์ กับบุตรของท่าน อิมามฮะซันอัสการี จากเมืองมะดีนะฮ์มายังเมืองซามัรรอ เพื่ออยู่ในการควบคุมของคอลีฟะฮ์ มุตะวักกิลทำทุกวิถีทางในการกลั่นแกล้งและไม่เกียรติต่ออิมาม มีรายงานมากมายบ่งบอกว่าผู้ปกครองได้กดดันบรรดาอิมามในเมืองซามัรรออย่างหนัก บรรดาชีอะฮ์ในอิรักและฮิญาซก็ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก มุนตะซิร ผู้เป็นลูกชายและขึ้นปกครองต่อหลังจากผู้เป็นบิดาได้ยกเลิกนโยบายนี้จึงทำให้อิมามฮาดีมีเสรีภาพมากขึ้น แต่นโยบายทางการเมืองของมุตะวักกิลก็ดำเนินต่อไปในยุคของมุสตะอีน (ฮ.ศ. 862-866) เป็นไปได้ว่าในยุคนี้เองที่อิมามท่านที่สิบของชีอะฮ์ได้ส่ง อุษมาน บินสะอีด เป็นตัวแทนไปยังอิรัก (ซึ่งตัวแทนคนนี้ก็ได้รับการรับรองในยุคของอิมามท่านที่สิบเอ็ด อิมามฮะซันอัสการี ด้วยเช่นกัน) ยุคสุดท้ายของบรรดาชีอะฮ์ เป็นยุคของตัวแทน แต่แตกต่างจากการแต่งตั้งตัวแทนอื่นๆในยุคอะละวี (อิสมาอีลียะฮ์ ซัยดียะฮ์ ลูกหลานของฮะซัน บิน อาลี) ที่มีขึ้นเพื่อการลุกขึ้นต่อสู้ ทว่าตัวแทนในยุคปลายของบรรดาอิมามนั้นมีขึ้นเพื่อกิจด้านศาสนา เช่น การเก็บเงินคุมส์และซะกาตดี
เนื่องจากนโยบายทางการเมือง การเงิน การทหารของมุตะวักกิล การเปลี่ยนเมืองหลวงไปยังเมืองซามัรรอ และการโอนเอียงทางด้านมัซฮับไปสู่กลุ่มฮะนาบิละฮ์ ทำให้อำนาจการปกครองอ่อนแอลง กระทั่งเมื่อเขาถูกลอบสังหารในปี ฮ.ศ. 247 ค.ศ. 861 โดยทาสชาวเติร์ก เป็นเหตุให้อำนาจของราชวงศ์อับบาซีเร่มเสื่อมถอยลง เกิดสงครามขึ้นภายในแบกแดดและซามัรรอ หลังจากการตายของมุตะวักกิล ก็มีการสังหารคอลีฟะฮ์อีกสี่คน ทำให้ราชวงศ์อับบาซีแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เป็นหัวหน้ากลุ่ม (อะมีร) กระจัดกระจายในดินแดนอิสลาม เช่นกลุ่มซอฟาริยอน ที่ขัดแย้งกับผู้นำคนก่อนของกลุ่มฏอฮิรียอน เกี่ยวกับเรื่องเอกราชของตน สถานการณ์ทางการเมืองและศาสนาในช่วงปลายตำแหน่งฮะซัน อัสการี และช่วงต้นหลังจากที่ท่านได้เสียชีวิตไปนั้นอยู่ในยุคการปกครองของมุอ์ตะมิด อับบาซี (ฮ.ศ. 256-892) ที่ถือว่าวิกฤติอย่างมาก ทางด้านการเมืองที่อยู่ในยุคอ่อนแอของราชวงศ์อับบาซี เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายแข่งแย่งกันขึ้นอย่างกว้างขวาง มุอ์ตะมิด จึงควบคุมอิมามฮะซัน อัสการี ที่ถือว่าเป็นคู่แข่งที่อันตรายในการขึ้นสู่คอลีฟะฮ์ไว้ในเมืองซามัรรอ กระทั่งห้ามไม่ให้บรรชีอะฮ์เข้าพบ อีกด้านหนึ่ง มุอ์ตะมิด อับบาซี อยู่ใต้อำนาจของพี่ชาย คือ มุวัฟฟัก บิลลาฮ์ ที่มีอำนาจทางการทหาร ในลักษณะที่ว่า ค.ศ. 882 สามารถยึดอำนาจของคอลีฟะฮ์ได้เบ็ดเสร็จ มุวัฟฟักและลูกชายของเขา มุอ์ตะฏิด (คอลีฟะฮ์ตั้งแต่ ค.ศ 892-902)และลูกๆ ของเขา มุกตะฟี (ค.ศ.902-908) และมุกตะดิร (ค.ศ. 908-932) ประสบความสำเร็จในการกู้อำนาจคอลีฟะฮ์กลับมาอีกครั้ง แม้ว่าจะมีอำนาจปกครองเฉพาะในอิรักเท่านั้นก็ตาม แต่พวกเขาก็สามารถขยายอำนาจของตนไปยังอียิปต์ ตะวันตกและอิหร่านผ่านกองกำลังทหารและทางการทูต นับจากยุคของมุอ์ตะฎิดจากนั้นเป็นต้นมาอับบาซีก็ตกอยู่ในอำนาจของครอบครัวชีอะฮ์ชาวฟุรอตและตระกูลที่เพิ่งเข้ารับอิสลาม ชาวญะรอห์ การแก่งแย่งของสองตระกูลนี้ยิ่งทำให้การปกครองระบบเจ้าขุนมูลนายของอับบาซีต้องล่มสลายลง
ช่วงปลายศตวรรษที่สามแห่งฮิจเราะฮ์ศักราช ชาวชีอะฮ์ประสบกับวิกฤติผู้นำ เกิดกลุ่มอิสมาอีลียะฮ์ขึ้นในดินแดนต่างๆ เช่น แอฟริกาเหนือ และซีเรียทางตอนเหนือ การเชิญชวนของกลุ่มอิสมาอีลียะฮ์เพิ่มมากขึ้น กระทั่งอะบูอับดิลลาฮ์ ชีอีย์ สามารถรวบรวมผู้ปฏิบัติตามได้ในฝั่งตะวันตกของอาหรับ ในยุคนี้มีบุคคลหนึ่งนามว่า สะอีด บิน ฮุเซน รู้จักกันในนามของ อุบัยดิลลาฮ์ มะฮ์ดี อ้างตนเป็นอิมาม และอะบูอับดิลลาฮ์ก็เป็นผู้หนึ่งที่ปฏิบัติตามเขา อะบูอับดิลลาฮ์สามารถยึดแอฟริกาได้สำเร็จในปี ฮ.ศ. 297/ค.ศ. 909 ต่อมาในปีเดียวกันนั้น ก็แต่งตั้งให้อุบัยดิลลาฮ์มะฮ์ดีขึ้นดำรงตำแหน่งคอลีฟะฮ์ และจัดตั้งรัฐฟาฏิมียานขึ้น ส่วนอิสมาอีลีที่ไม่ยอมรับคอลีฟะฮ์ ฟาติมียาน ก็จัดตั้งกลุ่มการ์มาติยานขึ้น อีด้านหนึ่ง ชีอะฮ์ซัยดี ก็เกิดกลุ่มซัยดีขึ้นในปี ฮ.ศ. 250 / ค.ศ. 864 ในฏับริสตอน และในปี ฮ.ศ. 284 / ค.ศ. 879 ก็เจัดตั้งรัฐขึ้นในเยเมน ในยุคนี้ชาวขีอะฮ์จะยึดหลักเทวะวิทยาตาม อะบูสะฮ์ล นูบัคตี (เกิด ฮ.ศ. 237 เสียขีวิต ฮ.ศ. 311) จากนั้นก็ยึดหลักเทวะวิทยาตามเชคมุฟีด
ช่วงต้นการเร้นกายระยะยาว เป็นยุคที่รู้จักกันในนามของ "ศตวรรษแห่งชีอะฮ์" ช่วงต้นศตวรรษที่สี่แห่งฮิจเราะฮ์ศักราช/ศตวรรษที่สิบแห่งคริสต์ศักราช นิกายซัยดี ครอบครัวอาลิบูยะฮ์ มีอำนาจเหนือดินแดนที่สำคัญของอิหร่าน ได้แก่ ฟอร์ส เรย์ และอิศฟาฮาน ในปีฮ.ศ. 334/ค.ศ. 945 บะนีอับบาสตกอยู่ภายใต้อำนาจของชีอะฮ์อาลิบูยะฮ์ เบื้องต้นอาลิบูยะฮ์นั้นเป็นชีอะฮ์ซัยดี เมื่องขึ้นปกครองก็เปลี่ยนมาเป็นชีอะฮ์สิบสองอิมาม ในยุคอาลิบูยะฮ์ ก็มีการปกครองชีอะฮ์ในดินแดนอื่นๆ เช่น ฟาฏิมียาน ในอียิปต์และแอฟริกาเหนือ บะนีฮัมดาน ทางตอนเหนือของอิรักและซีเรีย และการปกครองของอิดรีซิยาน ที่ปกครองดินแดนส่วนหนึ่งทางแอฟริกาเหนือ เนื่องจากอิทธิพลของฟาฏิมียานและอาลิบูยะฮ์ในดินแดนที่เป็นจุดศูนย์กลางของอิสลามทำให้ชีอะฮ์มีความเข้มแข็งทั้งทางด้านศาสนาและแนวความคิด ถือได้ว่าเป็นยุครุ่งเรืองและผลงานทางวิชาการก็เกิดขึ้นมากมายในยุคนี้ อาลิบูยะฮ์เป็นผู้เผยแผ่วิชาการของชีอะฮ์ อีกทั้งให้การสนับสนุนบรรดานักการศาสนา กระทั่งเป็นการปูทางการเข้ามาของแนวคิดด้านเทวะวิทยาของมุอ์ตะซีละฮ์สู่ชีอะฮ์
ดูเพิ่ม
หมายเหตุ
- รู้จักกันในชื่อ อิมามมะฮ์ดี (ٱلْإِمَام ٱلْمَهْدِيّ), อิมาม อัซซะมาน (إِمَام ٱلزَّمَان, "อิมามแห่งเวลา"), ฮุจญะฮ์ อิบน์ อัลฮะซัน (حُجَّة ٱبْن ٱلْحَسَن) และ มุฮัมมัด อิบน์ อัลฮะซัน อิบน์ อะลี อิบน์ มุฮัมมัด อิบน์ อะลี (مُحَمَّد ٱبْن ٱلْحَسَن ٱبْن عَلِيّ)
อ้างอิง
- A Brief History of The Fourteen Infallibles. Qum: Ansariyan Publications. 2004. p. 159.
- al-Qurashi, Baqir Shareef (2006). The Life of Imam al-Mahdi. Qum: Ansariyan Publications. p. 40.
- A Brief History of The Fourteen Infallibles. Qum: Ansariyan Publications. 2004. p. 160.
- Dr.Annemarie Schimmels book "Pain and Grace: A Study of Two Mystical Writers of Eighteenth-Century Muslim India" BRILL, 1976, p.32
- . www.imamreza.net. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 กันยายน 2017.
- The Return of al-Mahdi. P11
- حسین 1367, pp. 34–35, 55 and 225
- 5. The Application of the Epithet al-Mahdi to the Twelfth Imam 1. The early usage of the term al-Mahdi
- حسین 1367, pp. 35–36
- 1. The early usage of the term al-Mahdi
- Sachedina ۱۹۸۱, pp. 15–16
- Moddaressi 1993, pp. 88–91
- حسین 1367, pp. 224-225 and 238
- 5. The Application of the Epithet al-Mahdi to the Twelfth Imam 5. Conclusion
- Hussain 1987, pp. 15
- Furnish & Rubin 2005, pp. 8–11
- حسین 1367, pp. 36–46
- 3. The traditions concerning the Twelfth Imam and his occultation
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-07-01. สืบค้นเมื่อ 2018-06-01.
- Tabatabaee & Nasr 1979, pp. 212
- Corbin 1993, p. 68-74
- Sachedina ۱۹۸۱, pp. 27–29
- پاکتچی ۱۳۹۲, p. ۶۱۸
- Momen 1985, pp. 74–75
- Chase 2010, p. 305-313
- Chase 2010, p. 313-315
- Sachedina ۱۹۸۱, p. 29
- Tabatabaee ۱۹۷۹, p. ۲۰۹
- Chase 2010, p. 323
- Chase 2010, p. 332-339
- Chase 2010, p. 325-332
- پاکتچی 1380, pp. 164–165
- Chase 2010, p. 347-348
- Momen ۱۹۸۵, pp. ۷۵–۷۶
- Sachedina ۱۹۸۱, pp. 40–41
ข้อมูล
สารานุกรม
- Madelung, W. (2022). "Al-Mahdī". ใน Bearman, P. (บ.ก.). Encyclopaedia of Islam (Second ed.). Brill Reference Online.
- Gleave, Robert (2004). "GHAYBA(T)". ใน Martin, Richard C. (บ.ก.). Encyclopedia of Islam and the Muslim World. Vol. 2. Macmillan Reference. pp. 273, 274. ISBN .
- Amir-Moezzi, Mohammad Ali (1998). "ESCHATOLOGY iii. Imami Shiʿism". Encyclopaedia Iranica. Vol. VIII/6. pp. 575–581.
- Amir-Moezzi, Mohammad Ali (2007). "ISLAM IN IRAN vii. THE CONCEPT OF MAHDI IN TWELVER SHIʿISM". Encyclopaedia Iranica. Vol. XIV/2. pp. 136–143.
- Hulmes, Edward D.A. (2013). "HASAN AL-'ASKARI, ABU MUHAMMAD HASAN IBN 'ALI (c. AD 845-74)". ใน Netton, Ian Richard (บ.ก.). Encyclopedia of Islamic Civilization and Religion. Routledge. p. 217. ISBN .
- Eliash, J. (2022). "Ḥasan Al-ʿAskarī". ใน Bearman, P. (บ.ก.). Encyclopaedia of Islam (Second ed.). Brill Reference Online.
- Halm, H. (1987). "ʿASKARĪ". Encyclopaedia Iranica. Vol. II/7. p. 769.
- Glassé, Cyril, บ.ก. (2008). "Hidden Imām". The New Encyclopedia of Islam. Alta Mira. pp. 178, 179. ISBN .
- Klemm, Verena (2007). "ISLAM IN IRAN ix. THE DEPUTIES OF MAHDI". Encyclopaedia Iranica. Vol. XIV/2. pp. 143–6.
- Arjomand, Said Amir (2000). "ḠAYBA". Encyclopaedia Iranica. Vol. X/4. pp. 341–344.
หนังสือ
- (1981). Islamic Messianism: The Idea of Mahdī in Twelver Shīʻism. Suny press. ISBN .
- (2013). A History of Shi'i Islam. I.B. Tauris. ISBN .
- Hussain, Jassim M. (1986). Occultation of the Twelfth Imam: A Historical Background. Routledge Kegan & Paul. ISBN .
- (1985). An Introduction to Shi'i Islam. Yale University Press. ISBN .
- (1975). Shi'ite Islam. Translated by . State University of New York Press. ISBN .
- (2014). History Of Islamic Philosophy. แปลโดย Sherrard, Liadain. Routledge. ISBN .
- (2016). Twelve Infallible Men: The Imams and the Making of Shi’ism. Harvard University Press. ISBN .
- Goldziher, Ignaz (1981). Introduction to Islamic Theology and Law. Princeton University Press. ISBN .
- Donaldson, Dwight M. (1933). The Shi'ite Religion: A History of Islam in Persia and Iraḳ. AMS Press.
- (1993). Crisis and Consolidation in the Formative Period of Shi'ite Islam: Abū Ja'far Ibn Qiba Al-Rāzī and His Contribution to Imāmite Shī'ite Thought (PDF). Darwin Press. ISBN .
- Holt, P.M.; Lambton, Ann K.S.; Lewis, Bernard, บ.ก. (1970). The Cambridge history of Islam. Vol. 1. Cambridge University Press.
- (2016). Divine Guide in Early Shi'ism: The Sources of Esotericism in Islam. SUNY Press. ISBN .
- Mavani, Hamid (2013). Religious Authority and Political Thought in Twelver Shi'ism: From Ali to Post-Khomeini. Routledge. ISBN .
- Richter, Joanne (2005). Iran: The Culture. Crabtree Publishing Company. ISBN .
บทความ
อ่านเพิ่ม
- al-Qarashi, Baqir Sharif (2006). The Life of Imam Al-Mahdi, translated by Syed Athar Husain S.H. Rizvi. Ansariyan Publications. ISBN .
- (1983). Awaited Saviour. Imam Al Khoei Islamic. ISBN .
- (1996). Al-Imam Al-Mahdi: The Just Leader of Humanity, translated by Abdulaziz Abdulhussein Sachedina. Islamic Education and Information Center. ISBN .
- (1993). History of Islamic Philosophy, translated by Liadain Sherrard and . Kegan Paul International in association with Islamic Publications for The Institute of Ismaili Studies. ISBN .
- Hussain, Jassim M. (1986). Occultation of the Twelfth Imam: A Historical Background. Routledge. ISBN .
- ; (1989). Expectation of the Millennium: Shiʻism in History. SUNY Press. ISBN .
- (1979). Shi'ite Islam. (translator). Suny press. ISBN .
แหล่งข้อมูลอื่น
- Muhammad al-Mahdi al-Hujjah an article by Encyclopædia Britannica Online
- Ghaybah an article by Encyclopædia Britannica Online
- Mahdi an article by Encyclopædia Britannica Online
- ghaybah(The Occultation) an article by Encyclopædia Britannica Online
- MAHDI'S DEPUTIES 2007-10-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน by Verena Klemm, an article by encyclopedia Iranica
- The Awaited Saviour by Ayatullah Muhammad Baqir al-Sadr & Ayatullah Murtadha Mutahhari
- A Discussion concerning the Mahdi, by Ayatullah Muhammad Baqir al-Sadr
- Imam Mahdi's Biography
- Twelfth Imam
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
hucyatullxh xibn xlhasn xlmahdi xahrb ح ج ة ٱلل ه ٱب ن ٱل ح س ن ٱل م ه د ي Ḥujjat Allah ibn al Ḥasan al Mahdiy epnbukhkhlthichixahsibsxngximamechuxwaepnmahdi aelaepnximamkhnsudthayinthicamaphrxmkbxisa phraeysu ephuxnasntisukhkbkhwamyutithrrmmayngolk chixahsibsxngximamechuxwaxlmahdiekidwnthi 15 chaxban kh s 869 h s 255 aelaepnximamahtxnxayuekuxb 5 khwbhlngcak phxkhxngekhathukkha inchwngaerk ekhaidtidtxkbphusrththaphanthang The Four Deputies smynnthukeriykepn ٱل غ ي ب ة ٱلص غ ر ى sungmirayaewlatngaet kh s 873 941hucyatullxh xlmahdi ح ج ة ٱلل ه ٱل م ه د ي ximamkhnthi 12 khxngchixahsibsxngximamchuxmuhmmd xlmahdiinekid15 chaxban h s 255 p 28 krkdakhm kh s 869 869 07 28 rthekhaalifahxbbasiyahsabsuyp 5 mkrakhm 874 xayu 4 p 941sthanahaytwxnusrnsthan praethsxirk praethsxirk praethsxihranchuxxundilawr م ح م د ٱب ن ٱل ح س ن twaethnmichuxesiyngcaktaaehnngraykar xlmahdi phasaxahrb phuthukchina xlkxxim phasaxahrb phuyunhyd xlhucyah phasaxahrb karphisucn xlmuntasr phasaxahrb phuthithukrxkhxy hucyatullxh phasaxahrb phuphisucnkhxngxllxh ximamulxsr phasaxahrb ximamsmyni warakh s 874 pccubnphudarngtaaehnngkxnpccamitrchytxn aelaxlmasihuddcyyalbidamardahasn xlxskari phx aem muslimsunniswnihyptiesthwaekhaepnmahdi aelaechuxwamahdiyngimthuxkaenid odyklawwamiaekhxllxhethannthiruprawtikhwamechuxekiywkbmahdiaelakxximkhxngchixah tamthi yasim huesn idxthibayiwwa khwamhmaykhxng mahdi inthanaphuchinannthuknamaichtngaetsmythansasda sxl chawsunnikichkhanieriyk khulafaxrrxchidin aelachixahkicheriykbrrdaximam echn inkarlukkhuntxsukhxng huesn bin xa chixahkufahidechiychwnthaninthanakhxngmahdi aelasuilman bin surxd kthukeriykinthananiphayhlngcakthithukkhaechnkn aetkarichkhainkhwamhmaykhxngphupldplxynnekidkhuninyukhkhxngkarlukkhunsukhxngmukhtar ody mukhtar sakxfi icheriyk muhmhmd hanafiyah tamkhaklawkhxng Said Amir Arjomand aela Wilferd Madelung wa khwamechuxekiywmahdi phuernkayaelaphupldplxy inhmumuslimnnyxnklbipinyukhnikaykysaniyah epnklumhnungthiekidkhunhlngcakkhwamphayaephkhxngkarlukkhuntxsukhxngmukhtar phwkekhaechuxwa muhmhmd hanafiyah butrkhxng xali ximamthanaerkkhxngchixahwakhux mahdi aelahlngcakthiekhaesiychiwitlngklumnikprakaswaekhayngimtay aeternkayxyuinphuekharidwa inemuxngmadinah aelacaklbmapraktxikkhrnginthanamahdiaelakxxim Wilferd Madelung klawa brrdachixaheriyklukhlanhlaythankhxngthansasdainthanamahdi echn muhmhmd hanafiyah xabuhachim butrkhxngmuhmhmd hanafiyah muhmhmd bin muxawiyah macakkhrxbkhrwkhxng yaxfr xabutxlib muhmhmd xibnu xbdullxh nfs sakiyah yaxfr sxdik musa kasim nxkcakklumkysaniyahaelw klumsydiyah kichkhanieriykbrrdaphulukkhuntxsukhxngphwkekhainthanamahdi phupldplxydwyechnkn aelayngmiklumyxykhxngximamiyah echn nawusiya wakifiyah thiichchuxnieriykximamthanthihkaelaximamthanthiecd thngmuhmhmdbaekr aela yaxfr sxdik brrdaphuptibtitamthanidklawsrangkhwammnicihaekphwkthaniwinhlaykrniwa haklukkhuntxsukbphupkkhrxngaehngyukhkcaihkarsnbsnunphwkthan aetthngsxngximamidihkhatxbthisrangkhwamsngbaekphwkekhalngwa aemwaximamthnghmdcaepnkxximktamaelamikhwamsamarththicatxkrkbphupkkhrxngthixthrrmid aetkxximphuthuksyyaiwnncamaprakthlngcakbychakhxngphraecaephuxmathalaykhwamxthrrmihhmdip ekiywkbkarichkhawa mahdi inthana phupldplxynnkmithsnathiaetktangknxxkipinhmuchixah mudrrisi ekhiyniwwa chixahximamiyahruckkbaenwkhidkxximtngaetyukhkhxngxali aelaklumkysaniyah krathngyukhkarernkayrayasn khwamhmaykhxngmahdi imichepnaenwkhidkhxngximamiyah thwainyukhkarernkaybrrdachixahermkhxyihkhwamhmaykhxngmahdinnekiywkhxngkbklumthiimikhchixah aelaihkhwamhmaykhxngkxximnnepneruxngthiekiywkbkbximamiyah aemwaintaratangcathuxwaximamthanthisibsxngkhxngchixahkkhuxkxximmakrathngchwngplaystwrrsthisam kh s thi 9 ktam aettnstwrrstxmataratangkhxngchixaheriykximamthanthisibsxngwa mahdi Abdulaziz Sachedina klawiwechnknwa mahdawiyt khxngximamthanthisisxng epnthvsdiximamtkhxngximamphuernkaythiphnwkekhakbkhwamechuxkarmapraktkhxngximammahdiaelakarsrangkhwamyutithrrm thngthikxnhnaniximamthanthisibsxngimthukeriykwamahdiphuthuksyyamakxn inthangtrngknkhamyawim huesn ekhiynwa imephiyngaetmahdi cahmaythungphupldplxy inmummxngkhxngximamiyahthiichmatngaetyukhbrrdaximam thwabrrdaximamkmikhwamechuxwaphwkthanaetkhnsamarthepnmahdikxximidhaksthankarntxbrb brrdamuslimechuxknmanmnanaelwwathansasdaidihkhwamhwngthungkarmakhxngburusphuhnungthimacakechuxsaykhxnghuesn bin xali thicayunhydkhunthalayxutrikrrmihhmdipcakxislam aetkaraekhngkhnknthangkaremuxngrahwangmsulimepnehtuihbangklumidthakarbidebuxnhadistang khxngsasdaephuxaeswnghaphlpraoychninewthithangkaremuxng tamkhaklawkhxng Said Amir Arjomand wa swnihyklumkysanicaepnchawxihran aelakhadwachawxihranmikhwamruekiywkbphupldplxycakkhwamechuxkhxngsasnaosoraexsetxr wirburus xyawechn okhrchxsib thihlngcaktuncakkarnxnhlbxnyawnan phwkxahrimnkcapraktkhunbnhnaaephndin muhmhmdxamir muxissi aela timuti firnich waswnihykhwamechuxekiywkbphupldplxy karmapraktkhxngphupldplxy karernkay aelaeruxngthiekiywkhxngknni nnidmacaksasnakxnhnani echn sasnamani sasnaosoraexsetxr sasnawyuday aelasasnakhrist tamthiyawim huesn idekhiyniwwa thimakhxngthsnaekiywkbmahdiinthanaphupldplxynnmixyuinhadiskhxngthansasda thibrrdasawkcanwn 26 thanidraynganiwsungmixyuinhnngsuxhadiskhxngphinxngsunni sydiyahaelaximamiyah ekhaptiesthkhwamdxxifkhxnghadis odyklawwa hadisehlanikaephrhlayinyukhrachwngsxumyah aelakmixyuinhnngsux sulym bin eks sungxangthungsulym bin eks hilali praman h s 80 90 kh s 699 708 xikdanhnungnkprawtisastr aelankethwwithyakhxngchixah echn syyidmurtadx xskari aelamuhmhmd huesn txbatxbaxi yathungcudrwmrahwangsasnaekiywkbkhwamhwngkarmakhxngmahdi aelasrangkhwamyutithrrmkhunbnhnaaephndin odythuxwaepnthrrmchatithimixyuintladtang klumnierimcakkarklawthungmahdiinhadistang khxngsasdaaehngxislamthithngchixahaelasunnirayiw aelaechuxwakarmixyukhxngmahdinnepnsingcaepnhnungthicatxngekidkhuntamsyyathimixyuinxislamaelakurxanephuxsrangkhwamyutithrrmihekidkhuninhnaaephndin sthankarnthangkaremuxngaelakhwamechuxinchwngplaystwrrsthisamaelasi harm susan ximamhasnxskari inyukhkarpkkhrxngkhxng mutawkkil xbbasi h s 232 247 kh s 847 861 karemuxngthipranipranxmkhxngmamun h s 198 218 kh s 813 833 aelabrrdakhxlifahphayhlngcakekhamithathithithiaekhngkrawtxchixah inyukhkhxngmutawkkilekhasngihthalaysusankhxng huesn bin xali ekhaideriyktwximamthanthanthisibkhxngchixax ximamhadiy kbbutrkhxngthan ximamhasnxskari cakemuxngmadinahmayngemuxngsamrrx ephuxxyuinkarkhwbkhumkhxngkhxlifah mutawkkilthathukwithithanginkarklnaeklngaelaimekiyrtitxximam miraynganmakmaybngbxkwaphupkkhrxngidkddnbrrdaximaminemuxngsamrrxxyanghnk brrdachixahinxirkaelahiyaskichchiwitxyangyaklabak muntasir phuepnlukchayaelakhunpkkhrxngtxhlngcakphuepnbidaidykeliknoybaynicungthaihximamhadimiesriphaphmakkhun aetnoybaythangkaremuxngkhxngmutawkkilkdaenintxipinyukhkhxngmustaxin h s 862 866 epnipidwainyukhniexngthiximamthanthisibkhxngchixahidsng xusman binsaxid epntwaethnipyngxirk sungtwaethnkhnnikidrbkarrbrxnginyukhkhxngximamthanthisibexd ximamhasnxskari dwyechnkn yukhsudthaykhxngbrrdachixah epnyukhkhxngtwaethn aetaetktangcakkaraetngtngtwaethnxuninyukhxalawi xismaxiliyah sydiyah lukhlankhxnghasn bin xali thimikhunephuxkarlukkhuntxsu thwatwaethninyukhplaykhxngbrrdaximamnnmikhunephuxkicdansasna echn karekbenginkhumsaelasakatdi enuxngcaknoybaythangkaremuxng karengin karthharkhxngmutawkkil karepliynemuxnghlwngipyngemuxngsamrrx aelakaroxnexiyngthangdanmshbipsuklumhanabilah thaihxanackarpkkhrxngxxnaexlng krathngemuxekhathuklxbsngharinpi h s 247 kh s 861 odythaschawetirk epnehtuihxanackhxngrachwngsxbbasiermesuxmthxylng ekidsngkhramkhunphayinaebkaeddaelasamrrx hlngcakkartaykhxngmutawkkil kmikarsngharkhxlifahxiksikhn thaihrachwngsxbbasiaetkxxkepnesiyng epnhwhnaklum xamir kracdkracayindinaednxislam echnklumsxfariyxn thikhdaeyngkbphunakhnkxnkhxngklumtxhiriyxn ekiywkberuxngexkrachkhxngtn sthankarnthangkaremuxngaelasasnainchwngplaytaaehnnghasn xskari aelachwngtnhlngcakthithanidesiychiwitipnnxyuinyukhkarpkkhrxngkhxngmuxtamid xbbasi h s 256 892 thithuxwawikvtixyangmak thangdankaremuxngthixyuinyukhxxnaexkhxngrachwngsxbbasi ekidkaraebngfkaebngfayaekhngaeyngknkhunxyangkwangkhwang muxtamid cungkhwbkhumximamhasn xskari thithuxwaepnkhuaekhngthixntrayinkarkhunsukhxlifahiwinemuxngsamrrx krathnghamimihbrrchixahekhaphb xikdanhnung muxtamid xbbasi xyuitxanackhxngphichay khux muwffk billah thimixanacthangkarthhar inlksnathiwa kh s 882 samarthyudxanackhxngkhxlifahidebdesrc muwffkaelalukchaykhxngekha muxtatid khxlifahtngaet kh s 892 902 aelaluk khxngekha muktafi kh s 902 908 aelamuktadir kh s 908 932 prasbkhwamsaercinkarkuxanackhxlifahklbmaxikkhrng aemwacamixanacpkkhrxngechphaainxirkethannktam aetphwkekhaksamarthkhyayxanackhxngtnipyngxiyipt tawntkaelaxihranphankxngkalngthharaelathangkarthut nbcakyukhkhxngmuxtadidcaknnepntnmaxbbasiktkxyuinxanackhxngkhrxbkhrwchixahchawfurxtaelatrakulthiephingekharbxislam chawyarxh karaekngaeyngkhxngsxngtrakulniyingthaihkarpkkhrxngrabbecakhunmulnaykhxngxbbasitxnglmslaylng chwngplaystwrrsthisamaehnghiceraahskrach chawchixahprasbkbwikvtiphuna ekidklumxismaxiliyahkhunindinaedntang echn aexfrikaehnux aelasieriythangtxnehnux karechiychwnkhxngklumxismaxiliyahephimmakkhun krathngxabuxbdillah chixiy samarthrwbrwmphuptibtitamidinfngtawntkkhxngxahrb inyukhnimibukhkhlhnungnamwa saxid bin huesn ruckkninnamkhxng xubydillah mahdi xangtnepnximam aelaxabuxbdillahkepnphuhnungthiptibtitamekha xabuxbdillahsamarthyudaexfrikaidsaercinpi h s 297 kh s 909 txmainpiediywknnn kaetngtngihxubydillahmahdikhundarngtaaehnngkhxlifah aelacdtngrthfatimiyankhun swnxismaxilithiimyxmrbkhxlifah fatimiyan kcdtngklumkarmatiyankhun xidanhnung chixahsydi kekidklumsydikhuninpi h s 250 kh s 864 intbristxn aelainpi h s 284 kh s 879 kecdtngrthkhunineyemn inyukhnichawkhixahcayudhlkethwawithyatam xabusahl nubkhti ekid h s 237 esiykhiwit h s 311 caknnkyudhlkethwawithyatamechkhmufid chwngtnkarernkayrayayaw epnyukhthiruckkninnamkhxng stwrrsaehngchixah chwngtnstwrrsthisiaehnghiceraahskrach stwrrsthisibaehngkhristskrach nikaysydi khrxbkhrwxalibuyah mixanacehnuxdinaednthisakhykhxngxihran idaek fxrs ery aelaxisfahan inpih s 334 kh s 945 banixbbastkxyuphayitxanackhxngchixahxalibuyah ebuxngtnxalibuyahnnepnchixahsydi emuxngkhunpkkhrxngkepliynmaepnchixahsibsxngximam inyukhxalibuyah kmikarpkkhrxngchixahindinaednxun echn fatimiyan inxiyiptaelaaexfrikaehnux banihmdan thangtxnehnuxkhxngxirkaelasieriy aelakarpkkhrxngkhxngxidrisiyan thipkkhrxngdinaednswnhnungthangaexfrikaehnux enuxngcakxiththiphlkhxngfatimiyanaelaxalibuyahindinaednthiepncudsunyklangkhxngxislamthaihchixahmikhwamekhmaekhngthngthangdansasnaaelaaenwkhwamkhid thuxidwaepnyukhrungeruxngaelaphlnganthangwichakarkekidkhunmakmayinyukhni xalibuyahepnphuephyaephwichakarkhxngchixah xikthngihkarsnbsnunbrrdankkarsasna krathngepnkarputhangkarekhamakhxngaenwkhiddanethwawithyakhxngmuxtasilahsuchixahduephimxismaxiliyahhmayehturuckkninchux ximammahdi ٱل إ م ام ٱل م ه د ي ximam xssaman إ م ام ٱلز م ان ximamaehngewla hucyah xibn xlhasn ح ج ة ٱب ن ٱل ح س ن aela muhmmd xibn xlhasn xibn xali xibn muhmmd xibn xali م ح م د ٱب ن ٱل ح س ن ٱب ن ع ل ي xangxingA Brief History of The Fourteen Infallibles Qum Ansariyan Publications 2004 p 159 al Qurashi Baqir Shareef 2006 The Life of Imam al Mahdi Qum Ansariyan Publications p 40 A Brief History of The Fourteen Infallibles Qum Ansariyan Publications 2004 p 160 Dr Annemarie Schimmels book Pain and Grace A Study of Two Mystical Writers of Eighteenth Century Muslim India BRILL 1976 p 32 www imamreza net khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 29 knyayn 2017 The Return of al Mahdi P11 حسین 1367 pp 34 35 55 and 225harvnb error no target CITEREFحسین1367 5 The Application of the Epithet al Mahdi to the Twelfth Imam 1 The early usage of the term al Mahdi حسین 1367 pp 35 36harvnb error no target CITEREFحسین1367 1 The early usage of the term al Mahdi Sachedina ۱۹۸۱ pp 15 16harvnb error no target CITEREFSachedina۱۹۸۱ Moddaressi 1993 pp 88 91harvnb error no target CITEREFModdaressi1993 حسین 1367 pp 224 225 and 238harvnb error no target CITEREFحسین1367 5 The Application of the Epithet al Mahdi to the Twelfth Imam 5 Conclusion Hussain 1987 pp 15harvnb error no target CITEREFHussain1987 Furnish amp Rubin 2005 pp 8 11harvnb error no target CITEREFFurnishRubin2005 حسین 1367 pp 36 46harvnb error no target CITEREFحسین1367 3 The traditions concerning the Twelfth Imam and his occultation khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 07 01 subkhnemux 2018 06 01 Tabatabaee amp Nasr 1979 pp 212harvnb error no target CITEREFTabatabaeeNasr1979 Corbin 1993 p 68 74 Sachedina ۱۹۸۱ pp 27 29harvnb error no target CITEREFSachedina۱۹۸۱ پاکتچی ۱۳۹۲ p ۶۱۸harvnb error no target CITEREFپاکتچی۱۳۹۲ Momen 1985 pp 74 75 Chase 2010 p 305 313harvnb error no target CITEREFChase2010 Chase 2010 p 313 315harvnb error no target CITEREFChase2010 Sachedina ۱۹۸۱ p 29harvnb error no target CITEREFSachedina۱۹۸۱ Tabatabaee ۱۹۷۹ p ۲۰۹harvnb error no target CITEREFTabatabaee۱۹۷۹ Chase 2010 p 323harvnb error no target CITEREFChase2010 Chase 2010 p 332 339harvnb error no target CITEREFChase2010 Chase 2010 p 325 332harvnb error no target CITEREFChase2010 پاکتچی 1380 pp 164 165harvnb error no target CITEREFپاکتچی1380 Chase 2010 p 347 348harvnb error no target CITEREFChase2010 Momen ۱۹۸۵ pp ۷۵ ۷۶harvnb error no target CITEREFMomen۱۹۸۵ Sachedina ۱۹۸۱ pp 40 41harvnb error no target CITEREFSachedina۱۹۸۱ khxmulsaranukrm Madelung W 2022 Al Mahdi in Bearman P b k Encyclopaedia of Islam Second ed Brill Reference Online Gleave Robert 2004 GHAYBA T in Martin Richard C b k Encyclopedia of Islam and the Muslim World Vol 2 Macmillan Reference pp 273 274 ISBN 0 02 865604 0 Amir Moezzi Mohammad Ali 1998 ESCHATOLOGY iii Imami Shiʿism Encyclopaedia Iranica Vol VIII 6 pp 575 581 Amir Moezzi Mohammad Ali 2007 ISLAM IN IRAN vii THE CONCEPT OF MAHDI IN TWELVER SHIʿISM Encyclopaedia Iranica Vol XIV 2 pp 136 143 Hulmes Edward D A 2013 HASAN AL ASKARI ABU MUHAMMAD HASAN IBN ALI c AD 845 74 in Netton Ian Richard b k Encyclopedia of Islamic Civilization and Religion Routledge p 217 ISBN 9781135179670 Eliash J 2022 Ḥasan Al ʿAskari in Bearman P b k Encyclopaedia of Islam Second ed Brill Reference Online Halm H 1987 ʿASKARi Encyclopaedia Iranica Vol II 7 p 769 Glasse Cyril b k 2008 Hidden Imam The New Encyclopedia of Islam Alta Mira pp 178 179 ISBN 9781905299683 Klemm Verena 2007 ISLAM IN IRAN ix THE DEPUTIES OF MAHDI Encyclopaedia Iranica Vol XIV 2 pp 143 6 Arjomand Said Amir 2000 ḠAYBA Encyclopaedia Iranica Vol X 4 pp 341 344 hnngsux 1981 Islamic Messianism The Idea of Mahdi in Twelver Shiʻism Suny press ISBN 978 0873954426 2013 A History of Shi i Islam I B Tauris ISBN 9780755608669 Hussain Jassim M 1986 Occultation of the Twelfth Imam A Historical Background Routledge Kegan amp Paul ISBN 9780710301581 1985 An Introduction to Shi i Islam Yale University Press ISBN 9780300034998 1975 Shi ite Islam Translated by State University of New York Press ISBN 0 87395 390 8 2014 History Of Islamic Philosophy aeplody Sherrard Liadain Routledge ISBN 9781135198893 2016 Twelve Infallible Men The Imams and the Making of Shi ism Harvard University Press ISBN 9780674737075 Goldziher Ignaz 1981 Introduction to Islamic Theology and Law Princeton University Press ISBN 9781400843510 Donaldson Dwight M 1933 The Shi ite Religion A History of Islam in Persia and Iraḳ AMS Press 1993 Crisis and Consolidation in the Formative Period of Shi ite Islam Abu Ja far Ibn Qiba Al Razi and His Contribution to Imamite Shi ite Thought PDF Darwin Press ISBN 9780878500956 Holt P M Lambton Ann K S Lewis Bernard b k 1970 The Cambridge history of Islam Vol 1 Cambridge University Press 2016 Divine Guide in Early Shi ism The Sources of Esotericism in Islam SUNY Press ISBN 9780791494790 Mavani Hamid 2013 Religious Authority and Political Thought in Twelver Shi ism From Ali to Post Khomeini Routledge ISBN 978 0 415 62440 4 Richter Joanne 2005 Iran The Culture Crabtree Publishing Company ISBN 9780778793175 bthkhwam Kohlberg Etan 2009 From Imamiyya to Ithna ashariyya Bulletin of the School of Oriental and African Studies 39 3 521 534 doi 10 1017 S0041977X00050989 S2CID 155070530 xanephimal Qarashi Baqir Sharif 2006 The Life of Imam Al Mahdi translated by Syed Athar Husain S H Rizvi Ansariyan Publications ISBN 964 438 806 2 1983 Awaited Saviour Imam Al Khoei Islamic ISBN 0 686 90398 6 1996 Al Imam Al Mahdi The Just Leader of Humanity translated by Abdulaziz Abdulhussein Sachedina Islamic Education and Information Center ISBN 0 9680717 0 8 1993 History of Islamic Philosophy translated by Liadain Sherrard and Kegan Paul International in association with Islamic Publications for The Institute of Ismaili Studies ISBN 0 7103 0416 1 Hussain Jassim M 1986 Occultation of the Twelfth Imam A Historical Background Routledge ISBN 0 7103 0158 8 1989 Expectation of the Millennium Shiʻism in History SUNY Press ISBN 0 88706 843 X 1979 Shi ite Islam translator Suny press ISBN 0 87395 272 3 aehlngkhxmulxunMuhammad al Mahdi thiokhrngkarphinxngkhxngwikiphiediy phaphaelasuxcakkhxmmxnskhakhmcakwikikhakhmkhxmulcakwikisneths Muhammad al Mahdi al Hujjah an article by Encyclopaedia Britannica Online Ghaybah an article by Encyclopaedia Britannica Online Mahdi an article by Encyclopaedia Britannica Online ghaybah The Occultation an article by Encyclopaedia Britannica Online MAHDI S DEPUTIES 2007 10 25 thi ewyaebkaemchchin by Verena Klemm an article by encyclopedia Iranica The Awaited Saviour by Ayatullah Muhammad Baqir al Sadr amp Ayatullah Murtadha Mutahhari A Discussion concerning the Mahdi by Ayatullah Muhammad Baqir al Sadr Imam Mahdi s Biography Twelfth Imam