ลัทธิอนุตตรธรรมเชื่อว่าพระศรีอริยเมตไตรยแบ่งภาคมาเกิดเป็น ลู่ จงอี (จีน: 路中一) เพื่อสืบต่อเป็นจู่ซือรุ่นที่ 17 ในประเทศจีนและเป็นจู่ซือองค์แรกในธรรมกาลยุคขาว
ลู่ จงอี | |
---|---|
เกิด | 18 พฤษภาคม ค.ศ. 1849 มณฑลซานตง |
เสียชีวิต | กุมภาพันธ์ 26, 1925 | (75 ปี)
สัญชาติ | ชาวฮั่น |
ยุคสมัย | ราชวงศ์ชิง |
ตำแหน่ง | จู่ซือลัทธิอนุตตรธรรม |
ประวัติ
ลู่ จงอี เกิดที่เมือง มณฑลซานตง เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ค.ศ. 1849 ครอบครัวมีฐานะยากจน กำพร้าบิดามารดาตั้งแต่ยังเล็ก จึงอยู่อาศัยกับน้องสาวชื่อ เพียงสองคน เมื่ออายุได้ 22 ปี จงอีจึงไปสมัครเป็นทหารเพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว
ในปี ค.ศ. 1895 ขณะอายุได้ 46 ปี จงอีได้รับวิวรณ์จากพระแม่องค์ธรรมทางความฝันว่า ถึงเวลาที่ท่านต้องเริ่มพันธกิจโปรดสัตว์แล้ว ให้ไปขอรับถ่ายทอดเต๋าจากอาจารย์ (ศิษย์ของหวัง เจฺว๋อี ผู้ก่อตั้งลัทธิอนุตตรธรรม) ซึ่งเป็นจู่ซือของลัทธิอนุตตรธรรมอยู่ในขณะนั้น จงอีจึงตัดสินใจลาออกจากราชการ ไปตามหาอาจารย์หลิว ชิงซวี โดยมีเงินที่เก็บสะสมไว้ติดตัวอยู่ 100 ตำลึง เมื่อได้พบอาจารย์หลิว จงอีก็ได้รับเต๋า โดยเสียเงินทั้ง 100 ตำลึงที่มีอยู่เป็นค่าธรรมเนียม
หลังจากรับเต๋าแล้ว จงอีก็ทำงานเป็นคนงานตักน้ำผ่าฟื้นในสำนักของอาจารย์หลิวนั้น ต่อมาพระแม่องค์ธรรมก็ บอกให้อาจารย์หลิวมอบตำแหน่งจู่ซือให้กับพระศรีอริยเมตไตรยคือลู่ จงอี อาจารย์หลิวจึงประกาศแก่บรรดาศิษย์ว่าตนเองชรามากแล้ว ศิษย์ที่ได้รับอาณัติสวรรค์แล้วให้แยกย้ายกันไปฝึกปฏิบัติและเผยแพร่เต๋ากันเองต่อไป ส่วนลู่ จงอี ได้สืบทอดตำแหน่งจู่ซือต่อจากอาจารย์หลิวในปี ค.ศ. 1905 ต่อมา ลู จงอีได้รับแนะนำจากพระแม่องค์ธรรมซึ่งมาประทับทรงในกระบะทรายว่าให้กลับไปตำหนักกวนอิม
ลู่ จงอี นึกถึงลู่ จงเจี๋ย น้องสาว จึงกลับไปหาน้องสาวที่เมืองจี่หนิง แล้วเล่าถึงเหตุการณ์ที่ตนเองได้รับเต๋า น้องสาวของจงอีเกิดความศรัทธา จึงร่วมกับพี่ชายเผยแพร่เต๋าต่อไปจนแพร่หลาย มีผู้ติดตามเป็นสาวกมากมายหลายพันคน รวมทั้งจาง เทียนหรัน และซุน ฮุ่ยหมิง ซึ่งมาเข้าสำนักในปี ค.ศ. 1918
ลู่ จงอี ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1925 สิริอายุได้ 76 ปี
หลังมรณกรรม
หลังจากลู่ จงอี ถึงแก่มรณกรรมแล้ว พระแม่องค์ธรรมได้ประทับทรงในกระบะทราย ประกาศว่าลู่ จงอี ได้รับอริยฐานะเป็น “จินกงจู่ซือ” (จีน: 金公祖师) และหลังจากมรณกรรมได้ 100 วัน อาจารย์ลู่ได้เข้าสิงร่างบุรุษชาวมณฑลซานซีชื่อหยาง ชุนหลิง ซึ่งไม่เคยรู้จักลัทธิอนุตตรธรรมมาก่อน นายหยางเดินทางมาที่สถานธรรมที่เมืองจี่หนาน มณฑลซานตง และถ่ายทอดโอวาท 2 ครั้ง คือคัมภีร์ “” และคัมภีร์ “” ทั้งสองคัมภีร์ถือเป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ในลัทธิอนุตตรธรรม
อ้างอิง
- ปฐมธรรมาจารย์แห่งธรรมกาลยุคขาว, ศุภนิมิต แปลและเรียบเรียง, กรุงทพฯ : ส่งเสริมคุณภาพชีวิต, ม.ป.ป.,
- สายทอง 3, ศุภนิมิต แปลและเรียบเรียง, กรุงทพฯ : ส่งเสริมคุณภาพชีวิต, ม.ป.ป.,
ก่อนหน้า | ลู่ จงอี | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
จู่ซือลัทธิอนุตตรธรรม (ค.ศ. 1905 - 1925) | จาง เทียนหรัน และซุน ฮุ่ยหมิง |
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
lththixnuttrthrrmechuxwaphrasrixriyemtitryaebngphakhmaekidepn lu cngxi cin 路中一 ephuxsubtxepncusuxrunthi 17 inpraethscinaelaepncusuxxngkhaerkinthrrmkalyukhkhawlu cngxiekid18 phvsphakhm kh s 1849 1849 05 18 mnthlsantngesiychiwitkumphaphnth 26 1925 1925 02 26 75 pi sychatichawhnyukhsmyrachwngschingtaaehnngcusuxlththixnuttrthrrmprawtilu cngxi ekidthiemuxng mnthlsantng emuxwnthi 18 phvsphakhm kh s 1849 khrxbkhrwmithanayakcn kaphrabidamardatngaetyngelk cungxyuxasykbnxngsawchux ephiyngsxngkhn emuxxayuid 22 pi cngxicungipsmkhrepnthharephuxharayidmacunecuxkhrxbkhrw inpi kh s 1895 khnaxayuid 46 pi cngxiidrbwiwrncakphraaemxngkhthrrmthangkhwamfnwa thungewlathithantxngerimphnthkicoprdstwaelw ihipkhxrbthaythxdetacakxacary sisykhxnghwng ec wxi phukxtnglththixnuttrthrrm sungepncusuxkhxnglththixnuttrthrrmxyuinkhnann cngxicungtdsiniclaxxkcakrachkar iptamhaxacaryhliw chingswi odymienginthiekbsasmiwtidtwxyu 100 talung emuxidphbxacaryhliw cngxikidrbeta odyesiyenginthng 100 talungthimixyuepnkhathrrmeniym hlngcakrbetaaelw cngxikthanganepnkhnngantknaphafuninsankkhxngxacaryhliwnn txmaphraaemxngkhthrrmk bxkihxacaryhliwmxbtaaehnngcusuxihkbphrasrixriyemtitrykhuxlu cngxi xacaryhliwcungprakasaekbrrdasisywatnexngchramakaelw sisythiidrbxantiswrrkhaelwihaeykyayknipfukptibtiaelaephyaephretaknexngtxip swnlu cngxi idsubthxdtaaehnngcusuxtxcakxacaryhliwinpi kh s 1905 txma lu cngxiidrbaenanacakphraaemxngkhthrrmsungmaprathbthrnginkrabathraywaihklbiptahnkkwnxim lu cngxi nukthunglu cngeciy nxngsaw cungklbiphanxngsawthiemuxngcihning aelwelathungehtukarnthitnexngidrbeta nxngsawkhxngcngxiekidkhwamsrththa cungrwmkbphichayephyaephretatxipcnaephrhlay miphutidtamepnsawkmakmayhlayphnkhn rwmthngcang ethiynhrn aelasun huyhming sungmaekhasankinpi kh s 1918 lu cngxi thungaekkrrmemuxwnthi 26 kumphaphnth kh s 1925 sirixayuid 76 pihlngmrnkrrmhlngcaklu cngxi thungaekmrnkrrmaelw phraaemxngkhthrrmidprathbthrnginkrabathray prakaswalu cngxi idrbxriythanaepn cinkngcusux cin 金公祖师 aelahlngcakmrnkrrmid 100 wn xacaryluidekhasingrangburuschawmnthlsansichuxhyang chunhling sungimekhyrucklththixnuttrthrrmmakxn nayhyangedinthangmathisthanthrrmthiemuxngcihnan mnthlsantng aelathaythxdoxwath 2 khrng khuxkhmphir aelakhmphir thngsxngkhmphirthuxepnkhmphirskdisiththiinlththixnuttrthrrmxangxingpthmthrrmacaryaehngthrrmkalyukhkhaw suphnimit aeplaelaeriyberiyng krungthph sngesrimkhunphaphchiwit m p p saythxng 3 suphnimit aeplaelaeriyberiyng krungthph sngesrimkhunphaphchiwit m p p kxnhna lu cngxi thdipcusuxlththixnuttrthrrm kh s 1905 1925 cang ethiynhrn aelasun huyhming