วัดอุโมงค์ (สวนพุทธธรรม) เป็นวัดเก่าแก่ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองเชียงใหม่ บริเวณเชิงดอยสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
วัดอุโมงค์ | |
---|---|
เจดีย์ประจำวัดอุโมงค์ (สวนพุทธธรรม) | |
ที่ตั้ง | ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50200 |
ประเภท | วัดราษฎร์ |
นิกาย | เถรวาท มหานิกาย |
เจ้าอาวาส | พระครูสุคันธศีล (เจ้าคณะตำบลสุเทพเขต 2) |
เว็บไซต์ | www.watumong.org |
ส่วนหนึ่งของ |
พญามังราย พระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านนา (ครองราชย์ พ.ศ. 1805–1854) ทรงสร้างวัดแห่งนี้ขึ้น และวัดได้รับการบูรณะและเปลี่ยนชื่อหลายครั้งตราบจนปัจจุบัน
ใน พ.ศ. 2567 กรมศิลปากรได้เข้าบูรณะรูปปั้นโบราณในวัด โดยพอกปูนทับของเดิมแล้วปั้นขึ้นใหม่ ทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง
ประวัติ
วัดอุโมงค์เป็นวัดที่พญามังรายทรงสร้างขึ้น พระราชทานชื่อว่า "วัดเวฬุกัฏฐาราม" (วัดไผ่สิบเอ็ดกอ) เนื่องจากตั้งอยู่บริเวณป่าไผ่เชิงดอยสุเทพ พญามังรายทรงสร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อเป็นที่พำนักของคณะสงฆ์ซึ่งเชิญมาจากเกาะลังกาโดยเฉพาะ
ต่อมาพญากือนา (ครองราชย์ พ.ศ. 1898–1928) ทรงเชิญ พระภิกษุที่ทรงนับถือ ให้มาพำนัก ณ วัดนี้ พร้อมทั้งทรงบูรณะวัดโดยซ่อมแซมเจดีย์และสร้างอุโมงค์ทางเดินทั้งสี่ทิศ แล้วพระราชทานนามใหม่ว่า "วัดอุโมงค์เถรจันทร์" ตามนามของวัดอุโมงค์มหาเถรจันทร์ที่มหาเถรเคยพำนักอยู่
ในช่วงที่เมืองเชียงใหม่อยู่ใต้การปกครองของพม่า วัดอุโมงค์กลายเป็นวัดร้าง ไม่มีภิกษุจำพรรษา กระทั่งใน พ.ศ. 2492 เจ้าชื่น สิโรรส มาตั้งสำนักปฏิบัติธรรมขึ้น เนื่องจากได้รับแรงบันดาลใจจากสวนโมกขพลารามของพุทธทาสภิกขุ และตั้งนามใหม่ให้แก่วัดว่า "วัดอุโมงค์ (สวนพุทธธรรม)" ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้มาจนปัจจุบัน
ใน พ.ศ. 2567 กรมศิลปากรได้เข้าบูรณะรูปปั้นยักษ์อายุ 400–500 ปีหลายรูปภายในวัด โดยพอกปูนทับของเดิมแล้วปั้นขึ้นใหม่ ทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่า ส่งผลให้สิ้นสภาพโบราณวัตถุ และไม่หลงเหลือฝีมือครูช่างแต่โบราณอีก
ภาพจิตรกรรมภายในอุโมงค์
จิตรกรรมฝาผนังวัดอุโมงค์ในส่วนที่เหลือหลักฐานให้ชมในปัจจุบันอยู่บริเวณเพดานโค้งภายในอุโมงค์ ตัวอุโมงค์ตั้งอยู่บริเวณต่อเนื่องกับเจดีย์ทางทิศเหนือ โดยหันทางเข้าหลักไปยังทิศตะวันออกจำนวน 3 อุโมงค์ในด้านหน้า ซึ่งอุโมงค์กลาง (อุโมงค์ที่ 4) มีขนาดใหญ่ที่สุด ซึ่งสามารถเห็นได้ เพียง 3 อุโมงค์เท่านั้น คือ อุโมงค์ที่ 1, 2, และ 3 นอกเหนือจากนี้ไม่สามารถเห็นได้ อีกทั้งภาพหลักฐานจิตรกรรมฝาผนังในอุโมงค์มีสภาพลบเลือนไปมาก จำเป็นต้องใช้เทคนิคคัดลอกจิตรกรรมด้วยมือและคอมพิวเตอร์ควบคู่กัน โดยการคัดลอกลายเส้น และการคัดลอกเป็นภาพสี จึงทำให้ยังสามารถเห็นภาพจิตรกรรมฝาผนังอันเก่าแก่ของศิลปะล้านนาซึ่งมีอายุกว่า 500 ปีได้ชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม
จิตรกรรมผาผนังภายในอุโมงค์ของวัดอุโมงค์ตามสภาพปัจจุบันนั้น อยู่ในสภาพที่ชำรุดลบเลือนมาก จนหลายคนเข้าใจว่าคงไม่มีภาพจิตรกรรมหลงเหลือแล้ว แต่จากการสำรวจของโครงการย้อนรอยอดีตจิตรกรรมวัดอุโมงค์ กลับพบหลักฐานของจิตรกรรมฝาผนังมากกว่าที่คาดคิด เป็นเหตุให้กรมศิลปากรช่วยเหลือโดยจัดสรรงบประมาณแผ่นดิน เพื่อมาทำการสำรวจ และอนุรักษ์จิตรกรรมแห่งนี้เมื่อปลายปี พ.ศ. 2542-กลางปี พ.ศ. 2543
นอกจากนี้ ภัทรุตม์ สายะเสวี ซึ่งเป็นหัวหน้าโครงการอนุรักษ์จิตรกรรมวัดอุโมงค์ของกรมศิลปากรในขณะนั้น ได้เข้าร่วมทำงานอนุรักษ์จิตรกรรมอีกด้วย โดยการให้คำแนะนำและดูแลการปฏิบัติงานของทีมงานโครงการย้อนรอยอดีตจิตรกรรมวัดอุโมงค์ เป็นอย่างดี
ส่วนการอนุรักษ์งานจิตรกรรมฝาผนังวัดอุโมงค์นั้นได้นำกระบวนการทางเคมีและศิลปะ ซึ่งมีขั้นตอนตั้งแตทำการสำรวจ, ทำความสะอาดภาพจิตรกรรม, เสริมความแข็งแรงของผนังปูนฉาบ, ชั้นสีของงานจิตรกรรมให้มั่นคงแข็งแรงพร้อมทั้งบันทึกหลักฐานตลอดงานการอนุรักษ์ทั้งภาพถ่าย แผนผัง และภาพลายเส้น ระหว่างขั้นตอนดังกล่าวทีมงานได้ค้นพบภาพจิตรกรรมฝาผนังเพิ่มเติมด้วยความบังเอิญ คือ เหตุที่ทำให้อุโมงค์ชำรุดเนื่องจากมีรอยร้าวที่อุโมงค์ เมื่อฝนตกทำให้น้ำไหลซึมเข้ารอยร้าว จึงเกิดการสะสมของหินปูนที่เคลือบลายจิตรกรรมจนมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ทีมงานจึงเอาคราบหินปูนออกโดยใช้น้ำยาเคมีที่ทำให้คราบหินปูนอ่อนตัวลง จากนั้นใช้มีดฝานหินปูนออกทีละนิดจนหมด จึงปรากฏภาพจิตรกรรมที่สวยงาม
- ภาพจิตรกรรมนกสลับดอกโบตั๋น
- ภาพจิตรกรรมนกสลับดอกโบตั๋น เทคนิกการจำลองภาพโดยการใช้คอมพิวเตอร์
- ภาพจิตรกรรมนกสลับดอกโบตั๋น ถ่ายจากกล้องดิจิทัล
- ภาพจิตรกรรมนกสลับดอกโบตั๋น ถ่ายจากกล้องดิจิทัล
- ภาพจิตรกรรมนกสลับดอกโบตั๋น ถ่ายจากกล้องดิจิทัล
- ภาพจิตรกรรมดอกบัวสลับลายเมฆ
- ภาพจิตรกรรมดอกบัวสลับลายเมฆ เทคนิคการจำลองภาพโดยการใช้คอมพิวเตอร์
- ภาพจิตรกรรมดอกบัวสลับลายเมฆ ถ่ายจากกล้องดิจิทัล
- ภาพจิตรกรรมดอกบัวสลับลายประจำยาม
- ภาพจิตรกรรมดอกบัวสลับลายประจำยาม เทคนิกการจำลองภาพโดยการใช้คอมพิวเตอร์
- ภาพจิตรกรรมดอกบัวสลับลายประจำยาม ถ่ายจากกล้องดิจิทัล
การใช้สี
ภาพจำลองจิตรกรรมภายในอุโมงค์สร้างขึ้นโดยการใช้ข้อมูลที่ได้จากการคัดลอกงานจิตรกรรม และการปฏิบัติงานอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนังด้วยกระบวนการทางเคมี ทำให้สามารถเห็นจิตรกรรมฝาผนังในสภาพเดิมก่อนการชำรุดเมื่อราว 500 ปีก่อน พบว่างานจิตรกรรมนี้มีสีที่ใช้มากอยู่ 2 สี คือสีแดงสด (แดงชาด) และลีเขียวสด สองสีนี้เป็นสีตรงข้าม ส่วนอัตราการใช้สีอยู่ที่ 70:30 หรือ 80:20 ซึ่งตรงกับทฤษฎีสีที่พบในงานจิตรกรรม ในสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ รวมถึงภาพจากการถ่ายด้วยกล้องดิจิทัล ซึ่งเป็นทฤษฎีสีตรงข้ามตามอัตราส่วนดังที่กล่าวข้างต้น ดังนั้นจึงสามารถสันนิษฐานได้ว่า ช่างล้านนาสมัยนั้นรู้จักแนวคิดทฤษฎีสีและองค์ประกอบทางศิลปะก่อนที่ศิลปะจากตะวันตกจะแพร่หลายเข้ามาในประเทศไทยภายหลังอีกหลายร้อยปีต่อมา
การสร้างอุโมงค์ของคนโบราณ
ชาวล้านนาสร้างอุโมงค์โดยการก่ออิฐถือปูน แล้วฉาบปูนปิดทับโครงสร้างอิฐอีกชั้นหนึ่ง แต่ปัจจุบันชั้นปูนฉาบนี้ได้หลุดกะเทาะเกือบหมดสิ้นแล้ว คงเหลือก็เพียงส่วนของเพดานโค้งภายในอุโมงค์ที่ปรากฏจิตรกรรมฝาผนังเท่านั้น ส่วนบริเวณด้านนอกเกือบทั้งหมดนั้นไม่ปรากฏชั้นของปูนฉาบแล้ว เหลือเพียงอิฐก่อผนัง และอิฐก่อโครงสร้างอุโมงค์เท่านั้น
ในปี พ.ศ. 2546 ในระหว่างราวปลายเดือนเมษายน-กันยายน ได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์อุโมงค์ครั้งใหญ่ที่ดำเนินงานโดยการรับเหมาผ่านเอกชน ภายใต้การกำกับของกรมศิลปากร มีการซ่อมแซมโครงสร้างของอุโมงค์ให้แข็งแรงขึ้น โดยขุดเปิดหน้าดินที่อยู่เหนืออุโมงค์ทั้งหมดจนลึกถึงระดับเดียวกับพื้นอุโมงค์ จึงพบหลักฐานเพิ่มเติม คือโครงสร้างแต่ละอุโมงค์ก่อด้วยอิฐถือปูน แยกไปแต่ละช่อง โดยเริ่มก่ออิฐเรียงสลับกันจากผนังอุโมงค์ขึ้นมาทั้งสองด้านจนได้ความสูงระดับที่เป็นเพดานก่ออิฐให้โค้งเข้าหากัน โดยใช้ด้านสันของอิฐที่มีทรงสี่เหลี่ยมคางหมูหันด้านสันเข้าหากัน จึงเป็นซุ้มโค้งครึ่งวงกลม จำเป็นต้องก่ออิฐผนังหนามากเพื่อรองรับโครงสร้างของอุโมงค์ ส่วนเหนือสุดก็มีการก่ออิฐเหลื่อมเรียงสลับกันปิดอยู่ด้านบนอีกชั้นหนึ่ง และพบว่าพื้นที่ระหว่างอุโมงค์แต่ละช่องนั้นล้วนเป็นดินลูกรังสีน้ำตาลอมส้มจนถึงระดับพื้นดินทั้งสิ้น ไม่ปนเศษอิฐ ปูน หรือเศษเครื่องเคลือบดินเผาเลย และชั้นดินลูกรังนี้ปิดมิดคลุมเพดานทุกอุโมงค์ด้วย และชั้นบนสุดจะมีอิฐปูทับอีกหลายชั้น ดังนั้น ภายในอุโมงค์ล้วนเป็นดินลูกรังและปิดทับด้วยอิฐภายนอกทั้งสิ้น และไม่มีห้องลับใดๆซ่อนอยู่ในระหว่างอุโมงค์ตามที่สงสัยกันแต่แรกแต่อย่างใด และบ่งชี้ได้ว่าเป็นอุโมงค์ที่ไม่ได้เกิดจากธรรมชาติ แต่เกิดจากการก่อสร้างของมนุษย์ขึ้นมาอย่างจงใจ
เจดีย์ในวัดอุโมงค์
เจดีย์วัดอุโมงค์ เชิงดอยสุเทพ เชียงใหม่ ตั้งอยู่ในบริเวณที่ต่อเนื่องกับอุโมงค์ทางทิศเหนือ ซึ่งอยู่ภายในวัดอุโมงค์เจดีย์วัดอุโมงค์ เป็นระยะแรกของศิลปะล้านนาที่สร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 19 ปรับปรุงมาจากเจดีย์ทรงระฆังแบบหนึ่งในศิลปะพุกาม ครั้นล่วงมาถึงช่วงปลายพุทธศตวรรษที่ 20 ต่อเนื่องกับต้นพุทธศตวรรษถัดมา เจดีย์ทรงนี้คลี่คลายไปโดยมีรูปทรงที่สูงโปร่ง และในช่วงเวลาของพุทธศตวรรษที่ 21 รูปแบบของเจดีย์ทรงระฆังจึงมีการคลี่คลายปรับเปลี่ยนค่อนข้างรวดเร็ว เพราะได้รับอิทธิพลจากเจดีย์ในศิลปะสุโขทัย อีกทั้งเป็นเจดีย์องค์สำคัญยุคต้นๆของพัฒนาการเจดีย์ทรงระฆังในศิลปะล้านนา งานก่อสร้างเริ่มขึ้นในรัชกาลของพระเจ้ามังรายคงสร้างเป็นเจดีย์ทรงระฆัง ต่อมาได้รับการบูรณะในรัชกาลของพระเมืองแก้ว มีการปั้นปูนประดับลวดลายที่ส่วนฐานใต้ทรงระฆังมีการปรับเปลี่ยนที่ทรงกรวยซึ่งเป็นส่วนบนของเจดีย์ โดยประดับรูปกลีบบัวทรงยาวประกอบกันเป็นบัวคว่ำและบัวหงาย (ปัทมบาท) ตามแบบอย่างของเจดีย์มอญพม่า ส่วนองค์เจดีย์ในปัจจุบัน ยังเหลือแบบแผนที่น่าจะเป็นเค้าเดิม คือระเบียบของฐานในผังกลม 3 ฐานซ้อนลดหลั่น เป็นชุดฐานรองรับทรงระฆังใหญ่ ต่อขึ้นไปคือบัลลังก์สี่เหลี่ยม ส่วนยอดที่ทรงกรวยประกอบด้วยส่วนสำคัญที่ทางภาคกลางเรียกว่า ปล้องไฉน และปลี ที่ท้องไม้ของบานกลมแต่ละฐานประดับด้วยแถวช่องสี่เหลี่ยมไว้โดยรอบงานประดับเช่นนี้รวมทั้งขนาดที่ใหญ่ของทรงระฆัง เกี่ยวข้องกับแบบแผนของเจดีย์แบบหนึ่งของพุกาม สร้างเมื่อราวกลางพุทธศตวรรษที่18 เช่นเจดีย์ในบริเวณ (Thitsavadi Temple) ในหมู่บ้านปวาสอ (Pwasaw) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมือง
ข้อมูลจำเพาะ
- ได้รับอนุญาตให้ตั้งเป็นวัดเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2512[]
- ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2537
การประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถาน
วัดอุโมงค์ (สวนพุทธธรรม) ได้รับการประกาศเป็นโบราณสถานสำหรับชาติ ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 52 ตอนที่ 0ง วันที่ 8 มีนาคม 2478 พร้อมกับวัดอีกหลายแห่งในจังหวัดเชียงใหม่
คลังภาพ
- ทางบันไดเพื่อขึ้นไปเจดีย์ที่ชั้นบน
- ทางบันไดเพื่อขึ้นไปนมัสการเจดีย์ที่ชั้นบน
- ทางบันไดเพื่อขึ้นไปนมัสการเจดีย์ที่ชั้นบน ถ่ายจากชั้นบน
- ทางบันไดเพื่อขึ้นไปนมัสการเจดีย์ที่ชั้นบน ถ่ายจากชั้นบน
- ประติมากรรมตั้งอยู่ไม่ไกลจากบันได
- อยู่บริเวณชั้นเดียวกับเจดีย์
- ต้นไม้ร่มรื่นบริเวณหน้าอุโมงค์
- เสาอโศก
- ส่วนบนของเสาอโศก
- ข้อมูลของเสาอโศก
- รูปปั้นหน้าอาคารที่เปิดให้ชมภาพวาดทางศาสนาพุทธ
- รูปปั้นภิกขุปัญญานันทะ
- กลอนเชิดชูภิกขุปัญญานันทะ
- พระพุทธรูป
- เศียรพระพุทธรูปสกุลช่างพะเยา
- ข้อมูลเศียรพระพุทธรูปสกุลช่างพะเยา
- ประติมากรรมหน้าอุโมงค์
- บอร์ดข้อมูลจิตรกรรมในอุโมงค์
- บอร์ดข้อมูลจิตรกรรมในอุโมงค์
- บอร์ดข้อมูลจิตรกรรมในอุโมงค์
- บอร์ดข้อมูลจิตรกรรมในอุโมงค์
- บอร์ดข้อมูลเจดีย์ในวัดอุโมงค์
- พระพุทธรูปภายในวัดอุโมงค์
อ้างอิง
- ปิยะรัตน์ โกมาศ. ประวัติวัดอุโมงค์. [] (เชียงใหม่ : โครงการย้อนรอยอดีตจิตรกรรมวัดอุโมงค์, ม.ป.ป.)
- ธนภัทร์ ลิ้มหัสนัยกุล (2023-04-05). "วัดงามแห่งเขตอรัญญิก วัดอุโมงค์ (สวนพุทธธรรม) วัดป่าเชิงดอยสุเทพที่สร้างในสมัยพญามังราย และมีเจดีย์ประธาน-จิตรกรรมเก่าแก่ที่สุดในเชียงใหม่". readthecloud.co.
- "โวย บูรณะยักษ์ล้านนาวัดอุโมงค์ อายุ 500 ปี กลายเป็นของใหม่". thairath.co.th. 2024-06-08.
- "ไม่เหลือสภาพโบราณวัตถุ!!! อ.เปิดภาพเทียบชัดๆ "วัดดัง" โบกปูนทับยักษ์โบราณ 500 ปี". sanook.com. 2024-06-08.
- "โบกปูนทับ ยักษ์โบราณล้านนา อายุ 400 ปี จนใหม่เอี่ยม ที่แท้ผู้ว่าฯสั่ง". khaosod.co.th. 2024-06-09.
- "เที่ยว...วัดอุโมงค์ วัดเก่าแก่ของเมืองเชียงใหม่ ยุคพระเจ้ากือนาธรรมิกราช". smk.co.th. 2017.
- "ย้อนประวัติ "วัดอุโมงค์ เชียงใหม่" สัมผัสความสงบงามท่ามกลางเมือง". thairath.co.th. 2022-09-16.
- จิตรกรรมฝาผนังล้านนา : การค้นพบใหม่ที่วัดอุโมงค์. 2007-11-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (เชียงใหม่ : โครงการย้อนรอยอดีตจิตรกรรมวัดอุโมงค์, ม.ป.ป.)
- เมื่อมีดผ่าตัดช่วยไขปริศนาในงานจิตรกรรมโบราณ. 2007-10-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (เชียงใหม่ : โครงการย้อนรอยอดีตจิตรกรรมวัดอุโมงค์, ม.ป.ป.)
- สีสันในจิตรกรรม. [] (เชียงใหม่ : โครงการย้อนรอยอดีตจิตรกรรมวัดอุโมงค์, ม.ป.ป.)
- คนโบราณเขาสร้างอุโมงค์กันอย่างไร. 2007-10-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (เชียงใหม่ : โครงการย้อนรอยอดีตจิตรกรรมวัดอุโมงค์, ม.ป.ป.)
- ที่มาของเจดีย์วัดอุโมงค์. [] (เชียงใหม่ : โครงการย้อนรอยอดีตจิตรกรรมวัดอุโมงค์, ม.ป.ป.)
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-09-30. สืบค้นเมื่อ 2007-09-12.
- ประกาศกรมศิลปากร กำหนดจำนวนโบราณสถานสำหรับชาติ
แหล่งข้อมูลอื่น
- วัดอุโมงค์ (สวนพุทธธรรม)
- แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศของ วัดอุโมงค์ (สวนพุทธธรรม)
- ภาพถ่ายดาวเทียมจากวิกิแมเปีย หรือกูเกิลแมปส์
- แผนที่จากลองดูแมป หรือเฮียวีโก
- ภาพถ่ายทางอากาศจากเทอร์ราเซิร์ฟเวอร์
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
wdxuomngkh swnphuthththrrm epnwdekaaek tngxyuthangthistawntkkhxngemuxngechiyngihm briewnechingdxysuethph xaephxemuxngechiyngihm cnghwdechiyngihm sungxyuthangthisitkhxngmhawithyalyechiyngihmwdxuomngkhecdiypracawdxuomngkh swnphuthththrrm thitngtablsuethph xaephxemuxngechiyngihm cnghwdechiyngihm 50200praephthwdrasdrnikayethrwath mhanikayecaxawasphrakhrusukhnthsil ecakhnatablsuethphekht 2 ewbistwww watumong orgswnhnungkhxngsaranukrmphraphuththsasnathangekhaxuomngkhhlk phyamngray phramhakstriyaehngxanackrlanna khrxngrachy ph s 1805 1854 thrngsrangwdaehngnikhun aelawdidrbkarburnaaelaepliynchuxhlaykhrngtrabcnpccubn in ph s 2567 krmsilpakridekhaburnaruppnobraninwd odyphxkpunthbkhxngedimaelwpnkhunihm thaihepnthiwiphakswicarnxyangkwangkhwangprawtiwdxuomngkhepnwdthiphyamngraythrngsrangkhun phrarachthanchuxwa wdewlukttharam wdiphsibexdkx enuxngcaktngxyubriewnpaiphechingdxysuethph phyamngraythrngsrangwdnikhunephuxepnthiphankkhxngkhnasngkhsungechiymacakekaalngkaodyechphaa txmaphyakuxna khrxngrachy ph s 1898 1928 thrngechiy phraphiksuthithrngnbthux ihmaphank n wdni phrxmthngthrngburnawdodysxmaesmecdiyaelasrangxuomngkhthangedinthngsithis aelwphrarachthannamihmwa wdxuomngkhethrcnthr tamnamkhxngwdxuomngkhmhaethrcnthrthimhaethrekhyphankxyu inchwngthiemuxngechiyngihmxyuitkarpkkhrxngkhxngphma wdxuomngkhklayepnwdrang immiphiksucaphrrsa krathngin ph s 2492 ecachun siorrs matngsankptibtithrrmkhun enuxngcakidrbaerngbndaliccakswnomkkhphlaramkhxngphuthththasphikkhu aelatngnamihmihaekwdwa wdxuomngkh swnphuthththrrm sungepnchuxthiichmacnpccubn in ph s 2567 krmsilpakridekhaburnaruppnyksxayu 400 500 pihlayrupphayinwd odyphxkpunthbkhxngedimaelwpnkhunihm thaihepnthiwiphakswicarnxyangkwangkhwangwa sngphlihsinsphaphobranwtthu aelaimhlngehluxfimuxkhruchangaetobranxikphaphcitrkrrmphayinxuomngkhcitrkrrmfaphnngwdxuomngkhinswnthiehluxhlkthanihchminpccubnxyubriewnephdanokhngphayinxuomngkh twxuomngkhtngxyubriewntxenuxngkbecdiythangthisehnux odyhnthangekhahlkipyngthistawnxxkcanwn 3 xuomngkhindanhna sungxuomngkhklang xuomngkhthi 4 mikhnadihythisud sungsamarthehnid ephiyng 3 xuomngkhethann khux xuomngkhthi 1 2 aela 3 nxkehnuxcakniimsamarthehnid xikthngphaphhlkthancitrkrrmfaphnnginxuomngkhmisphaphlbeluxnipmak caepntxngichethkhnikhkhdlxkcitrkrrmdwymuxaelakhxmphiwetxrkhwbkhukn odykarkhdlxklayesn aelakarkhdlxkepnphaphsi cungthaihyngsamarthehnphaphcitrkrrmfaphnngxnekaaekkhxngsilpalannasungmixayukwa 500 piidchdecnmakkhunkwaedim citrkrrmphaphnngphayinxuomngkhkhxngwdxuomngkhtamsphaphpccubnnn xyuinsphaphthicharudlbeluxnmak cnhlaykhnekhaicwakhngimmiphaphcitrkrrmhlngehluxaelw aetcakkarsarwckhxngokhrngkaryxnrxyxditcitrkrrmwdxuomngkh klbphbhlkthankhxngcitrkrrmfaphnngmakkwathikhadkhid epnehtuihkrmsilpakrchwyehluxodycdsrrngbpramanaephndin ephuxmathakarsarwc aelaxnurkscitrkrrmaehngniemuxplaypi ph s 2542 klangpi ph s 2543 nxkcakni phthrutm sayaeswi sungepnhwhnaokhrngkarxnurkscitrkrrmwdxuomngkhkhxngkrmsilpakrinkhnann idekharwmthanganxnurkscitrkrrmxikdwy odykarihkhaaenanaaeladuaelkarptibtingankhxngthimnganokhrngkaryxnrxyxditcitrkrrmwdxuomngkh epnxyangdi swnkarxnurksngancitrkrrmfaphnngwdxuomngkhnnidnakrabwnkarthangekhmiaelasilpa sungmikhntxntngaetthakarsarwc thakhwamsaxadphaphcitrkrrm esrimkhwamaekhngaerngkhxngphnngpunchab chnsikhxngngancitrkrrmihmnkhngaekhngaerngphrxmthngbnthukhlkthantlxdngankarxnurksthngphaphthay aephnphng aelaphaphlayesn rahwangkhntxndngklawthimnganidkhnphbphaphcitrkrrmfaphnngephimetimdwykhwambngexiy khux ehtuthithaihxuomngkhcharudenuxngcakmirxyrawthixuomngkh emuxfntkthaihnaihlsumekharxyraw cungekidkarsasmkhxnghinpunthiekhluxblaycitrkrrmcnmxngdwytaeplaimehn thimngancungexakhrabhinpunxxkodyichnayaekhmithithaihkhrabhinpunxxntwlng caknnichmidfanhinpunxxkthilanidcnhmd cungpraktphaphcitrkrrmthiswyngam phaphcitrkrrmnkslbdxkobtnphaphcitrkrrmnkslbdxkobtn ethkhnikkarcalxngphaphodykarichkhxmphiwetxr phaphcitrkrrmnkslbdxkobtn thaycakklxngdicithl phaphcitrkrrmnkslbdxkobtn thaycakklxngdicithl phaphcitrkrrmnkslbdxkobtn thaycakklxngdicithl phaphcitrkrrmdxkbwslblayemkhphaphcitrkrrmdxkbwslblayemkh ethkhnikhkarcalxngphaphodykarichkhxmphiwetxr phaphcitrkrrmdxkbwslblayemkh thaycakklxngdicithl phaphcitrkrrmdxkbwslblaypracayamphaphcitrkrrmdxkbwslblaypracayam ethkhnikkarcalxngphaphodykarichkhxmphiwetxr phaphcitrkrrmdxkbwslblaypracayam thaycakklxngdicithl karichsi phaphcalxngcitrkrrmphayinxuomngkhsrangkhunodykarichkhxmulthiidcakkarkhdlxkngancitrkrrm aelakarptibtinganxnurkscitrkrrmfaphnngdwykrabwnkarthangekhmi thaihsamarthehncitrkrrmfaphnnginsphaphedimkxnkarcharudemuxraw 500 pikxn phbwangancitrkrrmnimisithiichmakxyu 2 si khuxsiaedngsd aedngchad aelaliekhiywsd sxngsiniepnsitrngkham swnxtrakarichsixyuthi 70 30 hrux 80 20 sungtrngkbthvsdisithiphbinngancitrkrrm insingphimphtang rwmthungphaphcakkarthaydwyklxngdicithl sungepnthvsdisitrngkhamtamxtraswndngthiklawkhangtn dngnncungsamarthsnnisthanidwa changlannasmynnruckaenwkhidthvsdisiaelaxngkhprakxbthangsilpakxnthisilpacaktawntkcaaephrhlayekhamainpraethsithyphayhlngxikhlayrxypitxmakarsrangxuomngkhkhxngkhnobranthangedinphayinchxngxuomngkh chawlannasrangxuomngkhodykarkxxiththuxpun aelwchabpunpidthbokhrngsrangxithxikchnhnung aetpccubnchnpunchabniidhludkaethaaekuxbhmdsinaelw khngehluxkephiyngswnkhxngephdanokhngphayinxuomngkhthipraktcitrkrrmfaphnngethann swnbriewndannxkekuxbthnghmdnnimpraktchnkhxngpunchabaelw ehluxephiyngxithkxphnng aelaxithkxokhrngsrangxuomngkhethann inpi ph s 2546 inrahwangrawplayeduxnemsayn knyayn idmikarburnptisngkhrnxuomngkhkhrngihythidaeninnganodykarrbehmaphanexkchn phayitkarkakbkhxngkrmsilpakr mikarsxmaesmokhrngsrangkhxngxuomngkhihaekhngaerngkhun odykhudepidhnadinthixyuehnuxxuomngkhthnghmdcnlukthungradbediywkbphunxuomngkh cungphbhlkthanephimetim khuxokhrngsrangaetlaxuomngkhkxdwyxiththuxpun aeykipaetlachxng odyerimkxxitheriyngslbkncakphnngxuomngkhkhunmathngsxngdancnidkhwamsungradbthiepnephdankxxithihokhngekhahakn odyichdansnkhxngxiththimithrngsiehliymkhanghmuhndansnekhahakn cungepnsumokhngkhrungwngklm caepntxngkxxithphnnghnamakephuxrxngrbokhrngsrangkhxngxuomngkh swnehnuxsudkmikarkxxithehluxmeriyngslbknpidxyudanbnxikchnhnung aelaphbwaphunthirahwangxuomngkhaetlachxngnnlwnepndinlukrngsinatalxmsmcnthungradbphundinthngsin impnessxith pun hruxessekhruxngekhluxbdinephaely aelachndinlukrngnipidmidkhlumephdanthukxuomngkhdwy aelachnbnsudcamixithputhbxikhlaychn dngnn phayinxuomngkhlwnepndinlukrngaelapidthbdwyxithphaynxkthngsin aelaimmihxnglbidsxnxyuinrahwangxuomngkhtamthisngsyknaetaerkaetxyangid aelabngchiidwaepnxuomngkhthiimidekidcakthrrmchati aetekidcakkarkxsrangkhxngmnusykhunmaxyangcngicecdiyinwdxuomngkhchxngthangedinphayinxuomngkh ecdiywdxuomngkh echingdxysuethph echiyngihm tngxyuinbriewnthitxenuxngkbxuomngkhthangthisehnux sungxyuphayinwdxuomngkhecdiywdxuomngkh epnrayaaerkkhxngsilpalannathisrangkhuninphuththstwrrsthi 19 prbprungmacakecdiythrngrakhngaebbhnunginsilpaphukam khrnlwngmathungchwngplayphuththstwrrsthi 20 txenuxngkbtnphuththstwrrsthdma ecdiythrngnikhlikhlayipodymirupthrngthisungoprng aelainchwngewlakhxngphuththstwrrsthi 21 rupaebbkhxngecdiythrngrakhngcungmikarkhlikhlayprbepliynkhxnkhangrwderw ephraaidrbxiththiphlcakecdiyinsilpasuokhthy xikthngepnecdiyxngkhsakhyyukhtnkhxngphthnakarecdiythrngrakhnginsilpalanna ngankxsrangerimkhuninrchkalkhxngphraecamngraykhngsrangepnecdiythrngrakhng txmaidrbkarburnainrchkalkhxngphraemuxngaekw mikarpnpunpradblwdlaythiswnthanitthrngrakhngmikarprbepliynthithrngkrwysungepnswnbnkhxngecdiy odypradbrupklibbwthrngyawprakxbknepnbwkhwaaelabwhngay pthmbath tamaebbxyangkhxngecdiymxyphma swnxngkhecdiyinpccubn yngehluxaebbaephnthinacaepnekhaedim khuxraebiybkhxngthaninphngklm 3 thansxnldhln epnchudthanrxngrbthrngrakhngihy txkhunipkhuxbllngksiehliym swnyxdthithrngkrwyprakxbdwyswnsakhythithangphakhklangeriykwa plxngichn aelapli thithxngimkhxngbanklmaetlathanpradbdwyaethwchxngsiehliymiwodyrxbnganpradbechnnirwmthngkhnadthiihykhxngthrngrakhng ekiywkhxngkbaebbaephnkhxngecdiyaebbhnungkhxngphukam srangemuxrawklangphuththstwrrsthi18 echnecdiyinbriewn Thitsavadi Temple inhmubanpwasx Pwasaw thangtawnxxkechiyngitkhxngemuxngkhxmulcaephaaidrbxnuyatihtngepnwdemuxwnthi 29 tulakhm ph s 2512 txngkarxangxing idrbphrarachthanwisungkhamsimaemuxwnthi 18 mithunayn ph s 2537karprakaskhunthaebiynobransthanwdxuomngkh swnphuthththrrm idrbkarprakasepnobransthansahrbchati tamprakasinrachkiccanuebksa elm 52 txnthi 0ng wnthi 8 minakhm 2478 phrxmkbwdxikhlayaehngincnghwdechiyngihmkhlngphaphthangbnidephuxkhunipecdiythichnbn thangbnidephuxkhunipnmskarecdiythichnbn thangbnidephuxkhunipnmskarecdiythichnbn thaycakchnbn thangbnidephuxkhunipnmskarecdiythichnbn thaycakchnbn pratimakrrmtngxyuimiklcakbnid xyubriewnchnediywkbecdiy tnimrmrunbriewnhnaxuomngkh esaxosk swnbnkhxngesaxosk khxmulkhxngesaxosk ruppnhnaxakharthiepidihchmphaphwadthangsasnaphuthth ruppnphikkhupyyanntha klxnechidchuphikkhupyyanntha phraphuththrup esiyrphraphuththrupskulchangphaeya khxmulesiyrphraphuththrupskulchangphaeya pratimakrrmhnaxuomngkh bxrdkhxmulcitrkrrminxuomngkh bxrdkhxmulcitrkrrminxuomngkh bxrdkhxmulcitrkrrminxuomngkh bxrdkhxmulcitrkrrminxuomngkh bxrdkhxmulecdiyinwdxuomngkh phraphuththrupphayinwdxuomngkhxangxingpiyartn okmas prawtiwdxuomngkh lingkesiy echiyngihm okhrngkaryxnrxyxditcitrkrrmwdxuomngkh m p p thnphthr limhsnykul 2023 04 05 wdngamaehngekhtxryyik wdxuomngkh swnphuthththrrm wdpaechingdxysuethphthisranginsmyphyamngray aelamiecdiyprathan citrkrrmekaaekthisudinechiyngihm readthecloud co owy burnaykslannawdxuomngkh xayu 500 pi klayepnkhxngihm thairath co th 2024 06 08 imehluxsphaphobranwtthu x epidphaphethiybchd wddng obkpunthbyksobran 500 pi sanook com 2024 06 08 obkpunthb yksobranlanna xayu 400 pi cnihmexiym thiaethphuwasng khaosod co th 2024 06 09 ethiyw wdxuomngkh wdekaaekkhxngemuxngechiyngihm yukhphraecakuxnathrrmikrach smk co th 2017 yxnprawti wdxuomngkh echiyngihm smphskhwamsngbngamthamklangemuxng thairath co th 2022 09 16 citrkrrmfaphnnglanna karkhnphbihmthiwdxuomngkh 2007 11 15 thi ewyaebkaemchchin echiyngihm okhrngkaryxnrxyxditcitrkrrmwdxuomngkh m p p emuxmidphatdchwyikhprisnainngancitrkrrmobran 2007 10 12 thi ewyaebkaemchchin echiyngihm okhrngkaryxnrxyxditcitrkrrmwdxuomngkh m p p sisnincitrkrrm lingkesiy echiyngihm okhrngkaryxnrxyxditcitrkrrmwdxuomngkh m p p khnobranekhasrangxuomngkhknxyangir 2007 10 12 thi ewyaebkaemchchin echiyngihm okhrngkaryxnrxyxditcitrkrrmwdxuomngkh m p p thimakhxngecdiywdxuomngkh lingkesiy echiyngihm okhrngkaryxnrxyxditcitrkrrmwdxuomngkh m p p khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 09 30 subkhnemux 2007 09 12 prakaskrmsilpakr kahndcanwnobransthansahrbchatiaehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb wdxuomngkh swnphuthththrrm wdxuomngkh swnphuthththrrm aephnthiaelaphaphthaythangxakaskhxng wdxuomngkh swnphuthththrrm phaphthaydawethiymcakwikiaemepiy hruxkuekilaemps aephnthicaklxngduaemp hruxehiywiok phaphthaythangxakascakethxrraesirfewxr 18 46 58 N 98 57 04 E 18 782837 N 98 951132 E 18 782837 98 951132