ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
สมัยกลาง หรือ ยุคกลาง (อังกฤษ: Middle Ages) คือช่วงเวลาในประวัติศาสตร์ยุโรป ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 5 ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 15 โดยปกติแล้วเริ่มนับตั้งแต่การล่มสลายลงของจักรวรรดิโรมันตะวันตก (การสิ้นสุดของสมัยคลาสสิก) จนถึงจุดเริ่มตั้นของสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา และยุคแห่งการสำรวจ ซึ่งเป็นยุคที่นำไปสู่สมัยใหม่ในเวลาต่อมา สมัยกลางคือช่วงเวลาตรงกลางของกระบวนการเปลี่ยนผ่านในประวัติศาสตร์ตะวันตกคือ สมัยคลาสสิก สมัยกลาง และสมัยใหม่ นอกจากนี้สมัยกลางยังถูกแบ่งออกเป็นสามช่วงเวลาคือ ต้นสมัยกลาง (Early Middle Ages), (High Middle Ages) และปลายสมัยกลาง (Late Middle Ages)
ในยุคกลางตอนต้น การลดลงของประชากร, การหดตัวของเมือง และการรุกรานจากอนารยชน เริ่มต้นขึ้นในยุคโบราณตอนปลายและดำเนินไปอย่างรวดเร็ว เหล่าอนารยชนผู้บุกรุกเข้าตั้งอาณาจักรของตนในส่วนที่เหลืออยู่ของจักรวรรดิโรมันตะวันตก ในคริสต์ศตวรรษที่ 7 แอฟริกาเหนือและตะวันออกกลาง ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมันตะวันออก ได้กลายไปเป็นจักรวรรดิอิสลามหลังจากถูกยึดครองโดยผู้สืบทอดของนบีมุฮัมมัด แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและโครงสร้างทางการเมืองมากมาย แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจากยุคโบราณคลาสสิคอย่างสิ้นเชิง จักรวรรดิโรมันตะวันออกหรือจักรวรรดิไบแซนไทน์ยังคงอยู่รอดและรักษาอำนาจของตนเอาไว้ได้ นอกจากนี้แล้วอาณาจักรเกิดใหม่ส่วนใหญ่ยังคงเกี่ยวพันอยู่กับสถาบันที่หลงเหลืออยู่ของชาวโรมัน ในขณะที่วัดวาอารามของคริสต์ศาสนาได้แผ่ขยายไปทั่วยุโรปตะวันตก ในคริสต์ศตวรรษที่ 7 และ 8 ชาวแฟรงก์ภายใต้การปกครองของราชวงศ์การอแล็งเฌียงได้สถาปนาจักรวรรดิขึ้นซึ่งครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของยุโรปตะวันตกมีนามว่า จักรวรรดิการอแล็งเฌียง ซึ่งยืนยงไปจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 9 เมื่อจักรวรรดิล่มสลายลงจากแรงงกดดันของการรุกรานจากภายนอก เช่น ชาวไวกิงจากทางเหนือ ชาวแมกยาร์จากทางตะวันออก และชาวซาราเซนจากทางใต้
ช่วงต้นสมัยกลางซึ่งเริ่มขึ้นหลังคริสต์ศตวรรษที่ 10 ประชากรของยุโรปขยายตัวอย่างมากจากการที่นวัตกรรมทางเทคโนโลยีและทางการเกษตรทำให้การค้าขายเจริญรุ่งเรืองและการทำเรือกสวนไร่นาขยายตัว ระบบมาเนอร์ - องค์กรของชาวนาตามหมู่บ้านที่ติดค้างค่าเช่าที่ดินและหน้าที่ด้านแรงงานแก่ขุนนาง และระบบเจ้าขุนมูลนาย - โครงสร้างทางการเมืองที่ซึ่งอัศวินและขุนนางศักดิ์ต่ำกว่าติดค้างหน้าที่ด้านการทหารแก่เจ้านายผู้มีศักดิ์สูงกว่าของพวกเขาแลกกับสิทธิ์ในการเก็บค่าเช่าที่ดินและชาวนาใต้ปกครอง สองระบบนี้คือระเบียบของสังคมที่ใช้กันในยุคกลางตอนกลาง ต่อมาอาณาจักรเริ่มรวมศูนย์อำนาจมากขึ้นภายหลังการล่มสลายลงของจักรวรรดิคาโรแล็งเชียง สงครามครูเสดซึ่งเริ่มขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1095 คือผลิตผลจากความพยายามทางการทหารของเหล่าชาวคริสต์ในยุโรปตะวันตกที่ต้องการจะทวงคืนแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ในตะวันออกกลางคืนจากชาวมุสลิมและมีอำนาจเหนือดินแดนดังกล่าวนานพอที่จะสถาปนารัฐคริสต์ในตะวันออกใกล้ กลุ่มปัญญาชนเกิดขึ้นจากลัทธิอัสสมาจารย์นิยมและการก่อตั้งมหาวิทยาลัยทั่วยุโรป รวมไปถึงการก่อสร้างโบสถ์วิหารแบบกอทิก เป็นหนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จทางด้านศิลปะอันยอดเยี่ยมจากยุคกลางตอนกลาง
ยุคกลางตอนปลายต้องเผชิญกับความยุ่งยากและหายนะมากมาย เช่น ความอดอยาก, โรคระบาด และสงคราม ซึ่งทำให้จำนวนประชากรในยุโรปตะวันตกลดลงเป็นอย่างมาก ในช่วงเวลาสี่ปีตั้งแต่ ค.ศ. 1347 ถึง ค.ศ. 1350 กาฬโรคระบาดในยุโรปคร่าชีวิตชาวยุโรปไปสามในสี่โดยประมาณ ความกังขา, ความนอกรีต และความแตกแยกภายในคริสตจักรดำเนินควบคู่ไปกับสงครามระหว่างรัฐ สงครามกลางเมือง และการลุกฮือของชาวนาภายในอาณาจักรต่าง ๆ พัฒนาการทางด้านวัฒนธรรมและเทคโนโลยีได้เปลี่ยนแปลงสังคมของยุโรปอันเป็นจุดจบของยุคกลางและจุดเริ่มต้นของสมัยใหม่ตอนต้น
นิรุกติศาสตร์และการแบ่งช่วงเวลา
สมัยกลางเป็นหนึ่งในสามยุคหลักตามแบบแผนนิยมทั่วไปในการศึกษาประวัติศาสตร์ยุโรป ได้แก่ อารยธรรมคลาสสิคหรือสมัยคลาสสิก สมัยกลาง และสมัยใหม่ เลโอนาร์โด บรูนี คือนักประวัติศาสตร์ท่านแรกที่ใช้การจัดแบ่งช่วงเวลาทั้งสามนี้ในงานประพันธ์ ประวัติศาสตร์แห่งชาวฟลอเรนซ์ (History of the Florentine People; ค.ศ. 1442) ของเขา คำว่า "สมัยกลาง" ปรากฏครั้งแรกในภาษาละตินปี ค.ศ. 1469 ในคำว่า เมดิอาเทมปีสตัส (media tempestas) แปลว่า มัชฌิมฤดู การใช้ในช่วงแรกมีหลากหลาย เช่น เมดิอุมเอวุม (medium aevum) แปลว่า สมัยกลาง พบบันทึกครั้งแรกในปี ค.ศ. 1604 หรือ เมดิอาเชคูลา (media scecula) แปลว่า สมัยกลาง พบบันทึกครั้งแรกในปี ค.ศ. 1625 การแบ่งช่วงเวลาออกเป็นสามสมัยกลายมาเป็นมาตรฐานสากล เมื่อนักประวัติศาสตร์ชาวเยอรมันนามว่า คริสตอฟ เซลลาเรียส ตีพิมพ์ ประวัติศาสตร์สากลแยกเป็น สมัยโบราณ, สมัยกลาง และสมัยใหม่ (Universal History Divided into an Ancient, Medieval, and New Period) ในปี ค.ศ. 1683 ซึ่งภาษาอังกฤษเป็นเพียงภาษาหลักที่ยังคงพหุรูปแบบเช่นนั้นไว้ดังเดิม
ปีเริ่มแรกของสมัยกลางที่เป็นที่นิยมที่สุดคือ ค.ศ. 476, ซึ่งมีการถือนับปีนี้ครั้งแรกโดยเลโอนาร์โด บรูนี และสำหรับทั่วทั้งทวีปยุโรปแล้ว ค.ศ. 1500 มักจะถูกพิจารณาว่าเป็นจุดสิ้นสุดของสมัยกลาง ซึ่งไม่ได้มีการกำหนดวันสิ้นสุดอย่างแน่ชัดในระดับสากล หากขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่ต่างกันออกไป เช่น วันที่คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ออกเดินทางสู่ทวีปอเมริกาเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1492, การเข้ายึดครองกรุงคอนสแตนติโนเปิลโดยชาวเติร์กในปี ค.ศ. 1453 หรือการปฏิรูปศาสนาฝ่ายโปรเตสแตนต์ในปี ค.ศ. 1517 ก็ถูกนำมาใช้ในบางกรณี ในทางกลับกัน นักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษนิยมใช้ยุทธการที่บอสเวิร์ธฟิลด์ในปี ค.ศ. 1485 เป็นจุดสิ้นสุดของยุคกลาง ส่วนสเปนมักถือเอาวันสวรรคตของพระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 ในปี ค.ศ. 1516, วันสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลลาที่ 1 ในปี ค.ศ. 1504 หรือวันสิ้นสุดลงของสงครามกรานาดาในปี ค.ศ. 1492
นักประวัติศาสตร์ในกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษากลุ่มโรมานซ์มักจะจำแนกสมัยกลางออกเป็นสองช่วง คือ สมัยกลางตอนต้นและสมัยกลางตอนปลาย แต่นักประวัติศาสตร์ในกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษยึดถือการจำแนกแบบเยอรมันซึ่งแบ่งออกเป็นสามช่วง คือ สมัยกลางตอนต้น, ตอนกลาง และตอนปลาย ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 นักประวัติศาสตร์ชาวเบลเยียม อ็องรี ปิเยนน์ และนักประวัติศาสตร์ชาวดัตช์ โยฮัน เฮอร์ซิงกา ได้จำแนกสมัยกลางออกเป็นช่วงย่อยซึ่งต่อมาการจำแนกนี้แพร่หลายอย่างมาก คือ ต้นสมัยกลางตั้งแต่ ค.ศ. 476 - 1000 ยุคกลางตอนกลางตั้งแต่ ค.ศ. 1000 - 1300 และยุคกลางตอนปลายตั้งแต่ ค.ศ. 1300 - 1453 ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ตลอดช่วงสมัยกลางทั้งหมดมักถูกกล่าวถึงว่าเป็นยุคมืด แต่ด้วยการจำแนกช่วงเวลาของปิเยนน์และเฮอร์ซิงกานี้ ยุคมืดจะหมายถึงยุคกลางตอนต้นเท่านั้น อย่างน้อยก็ในหมู่นักประวัติศาสตร์
การล่มสลายของจักรวรรดิโรมัน
จักรวรรดิโรมันแผ่ขยายอาณาเขตรอบทะเลเมดิเตอร์ราเนียนจนมีอาณาเขตสูงสุดในศตวรรษที่ 2 แต่อาณาจักรโรมันที่ใหญ่เกินไปทำให้ยากแก่การปกครอง ทำให้ต้องแบ่งจักรวรรดิออกเป็นตะวันออกและตะวันตก ในค.ศ. 330 จักรพรรดิคอนสแตนตินมหาราชตั้งเมืองไบแซนติอุม (Byzantium) เป็นเมืองหลวงใหม่แทนที่โรม ตั้งชื่อใหม่เป็นโรมใหม่ (Nova Roma) แต่ผู้คนมักจะเรียกว่า เมืองของพระเจ้าคอนสแตนติน คอนสแตนติโนเปิล (Constantinople) สงครามกับ ในยุโรปกลางและตะวันออกในปัจจุบัน ทำให้ชาวโรมันเหนื่อยล้า ในศตวรรษที่ 4 พวกชนฮั่น (Huns) จากเอเชียบุกเข้ามาในยุโรปสังหารเผ่าเยอรมันอย่างโหดเหี้ยม ทำให้เผ่าเยอรมันต่าง ๆ มาขออาศัยในจักรวรรดิ แลกเปลี่ยนกับการถูกเกณฑ์ไปรบ ใน ค.ศ. 378 ในการรบที่อเดรียโนเปิล (Adrianople) เผ่าวิสิโกธ เอาชนะทัพโรมันและยึดแคว้นดาเชีย (Dacia โรมาเนียในปัจจุบัน) เป็นที่มั่น
ในค.ศ. 391 ออกกฎหมายให้คริสต์ศาสนาเป็นศาสนาเพียงหนึ่งเดียวของจักรวรรดิโรมัน ความเชื่อตามหลักของคริสต์ศาสนานั้นบรรเทาความกระหายสงครามของชาวโรมันจนเกือบหมด ทำให้ต้องจ้างทหารเผ่าเยอรมันเพื่อให้สู้กับพวกเยอรมันเอง กองทัพโรมันจึงอ่อนแอลง
พระเจ้าธีโอโดซิอุสทรงแบ่งอาณาจักรโรมันออกเป็นตะวันออกและตะวันตก การแบ่งจักรวรรดิเป็นการตัดเนื้อร้ายของจักรวรรดิ คือ ฝั่งตะวันตกที่ย่อยยับด้วยการรุกรานของเผ่าอนารยชน ทำให้จักรวรรดิฝั่งตะวันออก ที่รุ่งเรืองด้วยการค้ากับเส้นทางสายไหม ยังคงอยู่รอดเป็นจักรวรรดิไบแซนไทน์ไปอีกพันปี
ใน ค.ศ. 409 เผ่าแวนดัล (Vandals) ทนการโจมตีของชาวฮันไม่ไหว จึงข้ามแม่น้ำไรน์ที่เป็นน้ำแข็งมาในแคว้นโกล (Gaul) ปล้นสะดมไปตามทางและตั้งรกรากที่คาบสมุทรไอบีเรีย ในค.ศ. 410 พระเจ้าอลาริค (Alaric) แห่งชาววิซิกอททำทัพบุกยึดกรุงโรม เผาทำลายเมืองจนพินาศ จนแห่งจักรวรรดิตะวันตกยกแคว้นอากีแตนในฝรั่งเศสปัจจุบันให้กับพวกวิซิกอท พวกวิซิกอทจากอากีแตนก็บุกไอบีเรียขับพวกแวนดัลไปแอฟริกาเหนือในค.ศ. 429 พวกแวนดัลจากแอฟริกายกทัพเรือกลับมาโจมตีทำลายกรุงโรมใน ค.ศ. 455
ใน ค.ศ. 476 โอโดอาเซอร์ (Odoacer) จากเผ่าเยอรมันโจมตีกรุงโรม และปลดจักรพรรดิองค์สุดท้ายแห่งฝั่งตะวันตก คือ (Romulus Augustus) ทำให้จักรพรรดิฝั่งตะวันออกส่งพระเจ้าธีโอโดริค (Theodoric) แห่งชาวออสโตรกอท (Ostrogoths) มายึดโรมคืน แต่ธีโอโดริคก็ตั้งอาณาจักรในอิตาลีเสียเอง
ยุคมืด
ชนเผ่าเยอรมันต่าง ๆ เข้ามาแทนที่จักรวรรดิโรมัน ได้แก่ ชาวแองเกิลส์และชาวแซกซันในอังกฤษ ชาวแฟรงก์ในฝรั่งเศส ชาววิซิกอธในสเปน ชาวแวนดัลในแอฟริกา ชาวออสโตรกอธในอิตาลี แต่จักรวรรดิโรมันตะวันออกนั้นยังอยู่ยั้งยืนยง แต่ในยุโรปตะวันตกนั้น อารยธรรมโรมันค่อย ๆ สูญสลาย เมื่อบ้านเมืองไม่มีขื่อแป การค้าขายและคุณภาพชีวิตจึงเสื่อมลง มีเพียงคริสตจักรที่ยังคงประดิษฐานมั่นคงเป็นที่พึ่งของประชาชน สมัยนี้จึงเรียกว่ายุคมืดซึ่งไม่เกี่ยวกับความมืดมนแต่อย่างใดแต่เป็นสมัยที่บันทึกและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไม่มีหรือครุมเครือ
จักรพรรดิจัสติเนียนแห่งโรมันตะวันออกทรงต้องการจะรื้อฟื้นจักรวรรดิโรมันที่ยิ่งใหญ่ เลยทรงทำมหาสงครามยึดดินแดนต่าง ๆ คืน โดยทรงทำลายอาณาจักรพวกแวนดัลในค.ศ. 533 และพวกออสโตรกอธใน ค.ศ. 552 แต่ดินแดนที่พระองค์ยึดมาได้นั้นจะหลุดมือไปอย่างรวดเร็ว ด้วยการรุกรานของชาวมุสลิมในศตวรรษที่ 7 และ 8 ชาวอาหรับยึดได้แอฟริกาเหนือทั้งหมด และทำลายอาณาจักรชาววิซิกอธและยึดสเปนในค.ศ. 711 รวมทั้งบุกอิตาลีด้วย
แต่การรุกรานของชาวมุสลิมก็สามารถต้านท้านไว้ได้โดยชาวแฟรงก์ พวกแฟรงก์เรืองอำนาจในศตวรรษที่ 9 ภายใต้ราชวงศ์การอแล็งเฌียง ปราบปรามเผ่าเยอรมันอื่น ๆ และพิชิตเยอรมนี แผ่ขยายอิทธิพลของคริสต์ศาสนา จักรวรรดิไบแซนไทน์ที่อ่อนแอลงทำให้ควบคุมอิตาลีไม่ได้ ชาวลอมบาร์ด (Lombards เผ่าเยอรมันอีกเผ่า) จึงเข้ารุกรานอิตาลี พระสันตะปาปาทรงขอให้พระเจ้าชาร์เลอมาญ (Charlemagne) แห่งชาวแฟรงก์ช่วยเหลือ พระเจ้าชาร์เลอมาญทรงสามารถขับชาวลอมบาร์ดได้ และได้รับราชาภิเษกเป็นจักรพรรดิโรมันใน ค.ศ. 800 เป็นจุดเริ่มต้นของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
จักรวรรดิของพระเจ้าชาร์เลอมาญถูกแบ่งเป็นสามส่วนตามสนธิสัญญาแวร์เดิง (Verdun) ในค.ศ. 843 เป็นอาณาจักรแฟรงก์ตะวันออก ตะวันตก และกลาง แต่อิทธิพลของราชวงศ์คาโรแลงเจียนก็เสื่อมลง ประจวบกับการรุกรานของชาวไวกิง (Vikings) จากสแกนดีเนเวีย บุกปล้นสะดมเมืองชายฝั่งต่าง ๆ ทั่วยุโรป ทำให้การค้าล่มสลาย กษัตริย์ทรงมิอาจจะต้านการรุกรานได้ ประชาชนจึงต้องพึ่งขุนนางท้องถิ่น ทำให้ขุนนางท้องที่มีอำนาจขึ้นมา เกิดระบบเจ้าขุนมูลนายที่ทำให้อำนาจเป็นของขุนนาง ขณะที่สถาบันกษัตริย์นั้นอ่อนแอลงเรื่อย ๆ
สมัยกลางเรืองอำนาจ
ระบอบศักดินาสวามิภักดิ์ในอาณาจักรแฟรงก์ต่าง ๆ นั้นจะเป็นลักษณะของสมัยกลาง คือ นาย (lord) มีที่ดิน แบ่งที่ดิน (fief) ให้ลูกน้อง (vassal) ไปเพาะปลูกเกษตรกรรมและสร้างกองทัพ ขณะเดียวกันลูกน้องต้องทำหน้าที่ คือ จงรักษ์ภักดี (homage) และช่วยรบในสงคราม และลูกน้องก็อาจจะมีลูกน้องอีกทีเป็นขั้น ๆ นายที่ใหญ่ที่สุด คือ กษัตริย์ แบ่งที่ดินเป็นแคว้น ๆ ให้ขุนนางใหญ่ปกครอง และขุนนางเหล่านั้นก็มีขุนนางใต้บังคับบัญชาอีกที
ราชวงศ์การอแล็งเฌียงในอาณาจักรแฟรงก์ตะวันออกและตะวันตกสิ้นสุด อาณาจักรแฟรงก์ตะวันออกกลายเป็นจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ใน ค.ศ. 962 ด้วยการที่พระสันตะปาปาราชาภิเษกออทโทเป็นจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ในปี ค.ศ. 1072 เกิดข้อขัดแย้งเรื่องการสถาปนาสมณศักดิ์ระหว่างสมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรีที่ 7 กับจักรพรรดิไฮน์ริชที่ 4 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ที่สุดจักรพรรดิไฮร์ริชต้องทรงเดินข้ามเทือกเขาแอลป์เพื่อขอโทษพระสันตะปาปา เป็นชัยชนะของฝ่ายคริสตจักรต่อฝ่ายอาณาจักร การเสื่อมอำนาจของพระจักรพรรดิทำให้นครรัฐต่าง ๆ ในอิตาลีเรืองอำนาจขึ้นมา
อาณาจักรแฟรงก์ตะวันตกกลายเป็นอาณาจักรฝรั่งเศส ภายใต้ราชวงศ์กาเปเซียง อาณาจักรฝรั่งเศสเป็นที่ที่ระบอบศักดินาสวามิภักดิ์ส่งผลร้ายแรงที่สุด ฝรั่งเศสแตกเป็นแคว้นเล็กแคว้นน้อย กษัตริย์ฝรั่งเศสทรงไม่มีพระราชอำนาจในการควบคุมขุนนาง ทรงมีเพียงที่ดินรอบ ๆ กรุงปารีสเท่านั้น ขุนนางฝรั่งเศสคนหนึ่งได้เป็นกษัตริย์อังกฤษ และด้วยการแต่งงานทำให้ได้ที่ดินมากมายในฝรั่งเศสเป็นของตนทำให้มีอำนาจมากกว่ากษัตริย์ฝรั่งเศสเองเสียอีก
สงครามครูเสดในสมัยกลาง
แม้ชาวมุสลิมจะยึดครองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ คือ กรุงเยรูซาเล็ม (Jerusalem) ไป แต่ก็ให้เสรีภาพแก่ผู้แสวงบุญชาวคริสต์ที่จะเดินทางไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่ในศตวรรษที่ 11 เซลจุคเติร์กเข้ายึดครองดินแดนศักดิ์สิทธิ์และขัดขวางการเดินทางแสวงบุญของชาวคริสต์ รวมทั้งได้รับแรงบันดาลใจจากการต่อสู้เพื่อขับไล่ชาวมุสลิมในสเปน ประกอบกับการร้องขอจากจักรพรรดิอเล็กซิอุสที่ 1 แห่งจักรวรรดิไบแซนไทน์ ให้มาช่วยรบพวกเติร์ก จึงประชุมสภาคลีมองต์ (Council of Clermont) ประกาศว่าทุกคนที่ไปช่วยยึดดินแดนศักดิ์สิทธิคืนจะได้รับ (indulgence) ทำให้ทั้งขุนนางและชาวบ้านยกพลกันไปดินแดนศักดิ์สิทธิ์ จนยึดดินแดนเยรูซาเล็มได้ในค.ศ. 1099 ตั้งรัฐนักรบครูเสดต่าง ๆ เช่น ราชอาณาจักรเยรูซาเล็ม อัศวินคณะต่าง ๆ เช่น อัศวินเทมพลาร์ (Knights Templar) หรืออัศวินฮอสปิทัลเลอร์ (Hospitallers) ทำสงครามกับพวกเติร์ก
แต่รัฐครูเสดเหล่านี้อยู่ได้ร้อยกว่าปีก็เสียให้ชาวมุสลิมไปในที่สุด โดยเฉพาะสุลต่านศอลาฮุดดีนแห่งไคโร ยึดกรุงเยรูซาเล็มคืนในค.ศ. 1291 ชาวยุโรปจึงถูกขับออกจากตะวันออกกลางไปในที่สุด สงครามครูเสดครั้งต่อ ๆ มา เปลี่ยนเป้าหมายไปอย่างสิ้นเชิง ใน ค.ศ. 1204 สงครามครูเสดครั้งที่ 4 ลงเอยด้วยการยึดจักรวรรดิไบแซนไทน์ ตั้งจักรวรรดิละติน (Latin Empire) และรัฐครูเสดต่าง ๆ ในกรีซ หรือสงครามครูเสดตอนเหนือโดยอัศวินทิวทอนิก (Teutonic Knights) ปราบปรามชาวบอลติกอย่างโหดร้ายให้มาเข้ารีตศาสนาคริสต์
ฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 13 ปราบปรามและยึดที่ดินจากขุนนางต่าง ๆ ขยายอำนาจของกษัตริย์ฝรั่งเศสจนกลายเป็นมหาอำนาจของสมัยกลาง ขณะที่จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ จักรพรรดิทรงมุ่งจะกู้เมืองต่าง ๆ ในอิตาลีที่เป็นอิสระและสนับสนุนพระสันตะปาปา ทรงให้อำนาจขุนนางในเยอรมนี ทำให้เยอรมนีแตกเป็นแคว้นเล็กแคว้นน้อยมาก
เคารพอย่างสูง
บาสเกโรงเรียนกลางคลองสอง
แหล่งค้นคว้าเพิ่มเติม
- ชูสิริ จามรมาน. (2528). ยุโรปในมัธยมสมัย. กรุงเทพฯ: รักษ์สิปป์.
- จิราธร ชาติศิริ. (2564). อยู่อย่างไรในยุคกลาง: สังเขปประวัติศาสตร์ชีวิตชาวอังกฤษในสมัยกลาง. ขอนแก่น: สาขามนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
- อนันต์ชัย เลาหะพันธุ. (2550). เรื่องน่ารู้ในยุโรปสมัยกลาง. กรุงเทพฯ: ศักดิโสภาการพิมพ์.
หมายเหตุ
- Nees Early Medieval Art pp. 109–112
- Power Central Middle Ages p. 304
- BruniHistory of the Florentine people p. xvii
- Albrow Gllobal Age p. 205
- Robinson "Medieval, the Middle Ages" Speculum
- "Middle Ages" Dictionary.com
- Bruni History of the Florentine people p. xvii
- Wickham Inheritance of Rome p. 86
- See the titles of Watts Making of Polities Europe 1300–1500 or Epstein Economic History of Later Medieval Europe 1000–1500 or the end date used in Holmes (ed.) The Oxford History of Medieval Europe
- Davies Europe pp. 291–293
- Bordone and Sergi Dieci secoli di medioevo
- See the title of Saul Companion to Medieval England 1066–1485
- Kamen Spain 1469–1714 p. 29
- Mommsen "Petrarch's Conception of the 'Dark Ages'" Speculum
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
lingkkhamphasa inbthkhwamni miiwihphuxanaelaphurwmaekikhbthkhwamsuksaephimetimodysadwk enuxngcakwikiphiediyphasaithyyngimmibthkhwamdngklaw krann khwrribsrangepnbthkhwamodyerwthisud smyklang hrux yukhklang xngkvs Middle Ages khuxchwngewlainprawtisastryuorp tngaetkhriststwrrsthi 5 thungkhriststwrrsthi 15 odypktiaelwerimnbtngaetkarlmslaylngkhxngckrwrrdiormntawntk karsinsudkhxngsmykhlassik cnthungcuderimtnkhxngsmyfunfusilpwithya aelayukhaehngkarsarwc sungepnyukhthinaipsusmyihminewlatxma smyklangkhuxchwngewlatrngklangkhxngkrabwnkarepliynphaninprawtisastrtawntkkhux smykhlassik smyklang aelasmyihm nxkcaknismyklangyngthukaebngxxkepnsamchwngewlakhux tnsmyklang Early Middle Ages High Middle Ages aelaplaysmyklang Late Middle Ages aebbcalxngkhxnghmwkhumekraasungthukphbthisththnhu inhlumsphkhxngphunachawaexngokl aesksn snnisthanwaepnkstriyrawpi kh s 620 inchwngtnsmyklang inyukhklangtxntn karldlngkhxngprachakr karhdtwkhxngemuxng aelakarrukrancakxnarychn erimtnkhuninyukhobrantxnplayaeladaeninipxyangrwderw ehlaxnarychnphubukrukekhatngxanackrkhxngtninswnthiehluxxyukhxngckrwrrdiormntawntk inkhriststwrrsthi 7 aexfrikaehnuxaelatawnxxkklang sungekhyepnswnhnungkhxngckrwrrdiormntawnxxk idklayipepnckrwrrdixislamhlngcakthukyudkhrxngodyphusubthxdkhxngnbimuhmmd aemwacamikarepliynaeplngthangsngkhmaelaokhrngsrangthangkaremuxngmakmay aetkimidepliynipcakyukhobrankhlassikhxyangsineching ckrwrrdiormntawnxxkhruxckrwrrdiibaesnithnyngkhngxyurxdaelarksaxanackhxngtnexaiwid nxkcakniaelwxanackrekidihmswnihyyngkhngekiywphnxyukbsthabnthihlngehluxxyukhxngchawormn inkhnathiwdwaxaramkhxngkhristsasnaidaephkhyayipthwyuorptawntk inkhriststwrrsthi 7 aela 8 chawaefrngkphayitkarpkkhrxngkhxngrachwngskarxaelngechiyngidsthapnackrwrrdikhunsungkhrxbkhlumphunthiswnihykhxngyuorptawntkminamwa ckrwrrdikarxaelngechiyng sungyunyngipcnthungkhriststwrrsthi 9 emuxckrwrrdilmslaylngcakaerngngkddnkhxngkarrukrancakphaynxk echn chawiwkingcakthangehnux chawaemkyarcakthangtawnxxk aelachawsaraesncakthangit chwngtnsmyklangsungerimkhunhlngkhriststwrrsthi 10 prachakrkhxngyuorpkhyaytwxyangmakcakkarthinwtkrrmthangethkhonolyiaelathangkarekstrthaihkarkhakhayecriyrungeruxngaelakarthaeruxkswnirnakhyaytw rabbmaenxr xngkhkrkhxngchawnatamhmubanthitidkhangkhaechathidinaelahnathidanaerngnganaekkhunnang aelarabbecakhunmulnay okhrngsrangthangkaremuxngthisungxswinaelakhunnangskditakwatidkhanghnathidankarthharaekecanayphumiskdisungkwakhxngphwkekhaaelkkbsiththiinkarekbkhaechathidinaelachawnaitpkkhrxng sxngrabbnikhuxraebiybkhxngsngkhmthiichkninyukhklangtxnklang txmaxanackrerimrwmsunyxanacmakkhunphayhlngkarlmslaylngkhxngckrwrrdikhaoraelngechiyng sngkhramkhruesdsungerimkhunkhrngaerkinpi kh s 1095 khuxphlitphlcakkhwamphyayamthangkarthharkhxngehlachawkhristinyuorptawntkthitxngkarcathwngkhunaephndinskdisiththiintawnxxkklangkhuncakchawmuslimaelamixanacehnuxdinaedndngklawnanphxthicasthapnarthkhristintawnxxkikl klumpyyachnekidkhuncaklththixssmacaryniymaelakarkxtngmhawithyalythwyuorp rwmipthungkarkxsrangobsthwiharaebbkxthik epnhnungintwxyangkhwamsaercthangdansilpaxnyxdeyiymcakyukhklangtxnklang yukhklangtxnplaytxngephchiykbkhwamyungyakaelahaynamakmay echn khwamxdxyak orkhrabad aelasngkhram sungthaihcanwnprachakrinyuorptawntkldlngepnxyangmak inchwngewlasipitngaet kh s 1347 thung kh s 1350 kalorkhrabadinyuorpkhrachiwitchawyuorpipsaminsiodypraman khwamkngkha khwamnxkrit aelakhwamaetkaeykphayinkhristckrdaeninkhwbkhuipkbsngkhramrahwangrth sngkhramklangemuxng aelakarlukhuxkhxngchawnaphayinxanackrtang phthnakarthangdanwthnthrrmaelaethkhonolyiidepliynaeplngsngkhmkhxngyuorpxnepncudcbkhxngyukhklangaelacuderimtnkhxngsmyihmtxntnniruktisastraelakaraebngchwngewlasmyklangepnhnunginsamyukhhlktamaebbaephnniymthwipinkarsuksaprawtisastryuorp idaek xarythrrmkhlassikhhruxsmykhlassik smyklang aelasmyihm eloxnarod bruni khuxnkprawtisastrthanaerkthiichkarcdaebngchwngewlathngsamniinnganpraphnth prawtisastraehngchawflxerns History of the Florentine People kh s 1442 khxngekha khawa smyklang praktkhrngaerkinphasalatinpi kh s 1469 inkhawa emdixaethmpists media tempestas aeplwa mchchimvdu karichinchwngaerkmihlakhlay echn emdixumexwum medium aevum aeplwa smyklang phbbnthukkhrngaerkinpi kh s 1604 hrux emdixaechkhula media scecula aeplwa smyklang phbbnthukkhrngaerkinpi kh s 1625 karaebngchwngewlaxxkepnsamsmyklaymaepnmatrthansakl emuxnkprawtisastrchaweyxrmnnamwa khristxf esllaeriys tiphimph prawtisastrsaklaeykepn smyobran smyklang aelasmyihm Universal History Divided into an Ancient Medieval and New Period inpi kh s 1683 sungphasaxngkvsepnephiyngphasahlkthiyngkhngphhurupaebbechnnniwdngedim pierimaerkkhxngsmyklangthiepnthiniymthisudkhux kh s 476 sungmikarthuxnbpinikhrngaerkodyeloxnarod bruni aelasahrbthwthngthwipyuorpaelw kh s 1500 mkcathukphicarnawaepncudsinsudkhxngsmyklang sungimidmikarkahndwnsinsudxyangaenchdinradbsakl hakkhunxyukbsthankarnthitangknxxkip echn wnthikhrisotefxr okhlmbs xxkedinthangsuthwipxemrikaepnkhrngaerkinpi kh s 1492 karekhayudkhrxngkrungkhxnsaetntionepilodychawetirkinpi kh s 1453 hruxkarptirupsasnafayopretsaetntinpi kh s 1517 kthuknamaichinbangkrni inthangklbkn nkprawtisastrchawxngkvsniymichyuththkarthibxsewirthfildinpi kh s 1485 epncudsinsudkhxngyukhklang swnsepnmkthuxexawnswrrkhtkhxngphraecaefrnnodthi 2 inpi kh s 1516 wnswrrkhtkhxngsmedcphrarachininathxisaebllathi 1 inpi kh s 1504 hruxwnsinsudlngkhxngsngkhramkranadainpi kh s 1492 nkprawtisastrinklumpraethsthiichphasaklumormansmkcacaaenksmyklangxxkepnsxngchwng khux smyklangtxntnaelasmyklangtxnplay aetnkprawtisastrinklumpraethsthiichphasaxngkvsyudthuxkarcaaenkaebbeyxrmnsungaebngxxkepnsamchwng khux smyklangtxntn txnklang aelatxnplay inchwngtnkhriststwrrsthi 20 nkprawtisastrchawebleyiym xxngri pieynn aelankprawtisastrchawdtch oyhn ehxrsingka idcaaenksmyklangxxkepnchwngyxysungtxmakarcaaenkniaephrhlayxyangmak khux tnsmyklangtngaet kh s 476 1000 yukhklangtxnklangtngaet kh s 1000 1300 aelayukhklangtxnplaytngaet kh s 1300 1453 inkhriststwrrsthi 19 tlxdchwngsmyklangthnghmdmkthukklawthungwaepnyukhmud aetdwykarcaaenkchwngewlakhxngpieynnaelaehxrsingkani yukhmudcahmaythungyukhklangtxntnethann xyangnxykinhmunkprawtisastrkarlmslaykhxngckrwrrdiormn ody cxtot di bxnodenyuorppramankh s 450 ckrwrrdiormnaephkhyayxanaekhtrxbthaelemdietxrraeniyncnmixanaekhtsungsudinstwrrsthi 2 aetxanackrormnthiihyekinipthaihyakaekkarpkkhrxng thaihtxngaebngckrwrrdixxkepntawnxxkaelatawntk inkh s 330 ckrphrrdikhxnsaetntinmharachtngemuxngibaesntixum Byzantium epnemuxnghlwngihmaethnthiorm tngchuxihmepnormihm Nova Roma aetphukhnmkcaeriykwa emuxngkhxngphraecakhxnsaetntin khxnsaetntionepil Constantinople sngkhramkb inyuorpklangaelatawnxxkinpccubn thaihchawormnehnuxyla instwrrsthi 4 phwkchnhn Huns cakexechiybukekhamainyuorpsngharephaeyxrmnxyangohdehiym thaihephaeyxrmntang makhxxasyinckrwrrdi aelkepliynkbkarthukeknthiprb in kh s 378 inkarrbthixedriyonepil Adrianople ephawisiokth exachnathphormnaelayudaekhwndaechiy Dacia ormaeniyinpccubn epnthimn inkh s 391 xxkkdhmayihkhristsasnaepnsasnaephiynghnungediywkhxngckrwrrdiormn khwamechuxtamhlkkhxngkhristsasnannbrrethakhwamkrahaysngkhramkhxngchawormncnekuxbhmd thaihtxngcangthharephaeyxrmnephuxihsukbphwkeyxrmnexng kxngthphormncungxxnaexlng phraecathioxodsixusthrngaebngxanackrormnxxkepntawnxxkaelatawntk karaebngckrwrrdiepnkartdenuxraykhxngckrwrrdi khux fngtawntkthiyxyybdwykarrukrankhxngephaxnarychn thaihckrwrrdifngtawnxxk thirungeruxngdwykarkhakbesnthangsayihm yngkhngxyurxdepnckrwrrdiibaesnithnipxikphnpi in kh s 409 ephaaewndl Vandals thnkarocmtikhxngchawhnimihw cungkhamaemnairnthiepnnaaekhngmainaekhwnokl Gaul plnsadmiptamthangaelatngrkrakthikhabsmuthrixbieriy inkh s 410 phraecaxlarikh Alaric aehngchawwisikxththathphbukyudkrungorm ephathalayemuxngcnphinas cnaehngckrwrrditawntkykaekhwnxakiaetninfrngesspccubnihkbphwkwisikxth phwkwisikxthcakxakiaetnkbukixbieriykhbphwkaewndlipaexfrikaehnuxinkh s 429 phwkaewndlcakaexfrikaykthpheruxklbmaocmtithalaykrungormin kh s 455 in kh s 476 oxodxaesxr Odoacer cakephaeyxrmnocmtikrungorm aelapldckrphrrdixngkhsudthayaehngfngtawntk khux Romulus Augustus thaihckrphrrdifngtawnxxksngphraecathioxodrikh Theodoric aehngchawxxsotrkxth Ostrogoths mayudormkhun aetthioxodrikhktngxanackrinxitaliesiyexngyukhmudchnephaeyxrmntang ekhamaaethnthickrwrrdiormn idaek chawaexngekilsaelachawaesksninxngkvs chawaefrngkinfrngess chawwisikxthinsepn chawaewndlinaexfrika chawxxsotrkxthinxitali aetckrwrrdiormntawnxxknnyngxyuyngyunyng aetinyuorptawntknn xarythrrmormnkhxy suyslay emuxbanemuxngimmikhuxaep karkhakhayaelakhunphaphchiwitcungesuxmlng miephiyngkhristckrthiyngkhngpradisthanmnkhngepnthiphungkhxngprachachn smynicungeriykwayukhmudsungimekiywkbkhwammudmnaetxyangidaetepnsmythibnthukaelahlkthanthangprawtisastrimmihruxkhrumekhrux ckrphrrdicstieniynaehngormntawnxxkthrngtxngkarcaruxfunckrwrrdiormnthiyingihy elythrngthamhasngkhramyuddinaedntang khun odythrngthalayxanackrphwkaewndlinkh s 533 aelaphwkxxsotrkxthin kh s 552 aetdinaednthiphraxngkhyudmaidnncahludmuxipxyangrwderw dwykarrukrankhxngchawmusliminstwrrsthi 7 aela 8 chawxahrbyudidaexfrikaehnuxthnghmd aelathalayxanackrchawwisikxthaelayudsepninkh s 711 rwmthngbukxitalidwy aetkarrukrankhxngchawmuslimksamarthtanthaniwidodychawaefrngk phwkaefrngkeruxngxanacinstwrrsthi 9 phayitrachwngskarxaelngechiyng prabpramephaeyxrmnxun aelaphichiteyxrmni aephkhyayxiththiphlkhxngkhristsasna ckrwrrdiibaesnithnthixxnaexlngthaihkhwbkhumxitaliimid chawlxmbard Lombards ephaeyxrmnxikepha cungekharukranxitali phrasntapapathrngkhxihphraecacharelxmay Charlemagne aehngchawaefrngkchwyehlux phraecacharelxmaythrngsamarthkhbchawlxmbardid aelaidrbrachaphieskepnckrphrrdiormnin kh s 800 epncuderimtnkhxngckrwrrdiormnxnskdisiththi ckrwrrdikhxngphraecacharelxmaythukaebngepnsamswntamsnthisyyaaewreding Verdun inkh s 843 epnxanackraefrngktawnxxk tawntk aelaklang aetxiththiphlkhxngrachwngskhaoraelngeciynkesuxmlng pracwbkbkarrukrankhxngchawiwking Vikings caksaekndienewiy bukplnsadmemuxngchayfngtang thwyuorp thaihkarkhalmslay kstriythrngmixaccatankarrukranid prachachncungtxngphungkhunnangthxngthin thaihkhunnangthxngthimixanackhunma ekidrabbecakhunmulnaythithaihxanacepnkhxngkhunnang khnathisthabnkstriynnxxnaexlngeruxy smyklangeruxngxanacrabxbskdinaswamiphkdiinxanackraefrngktang nncaepnlksnakhxngsmyklang khux nay lord mithidin aebngthidin fief ihluknxng vassal ipephaaplukekstrkrrmaelasrangkxngthph khnaediywknluknxngtxngthahnathi khux cngrksphkdi homage aelachwyrbinsngkhram aelaluknxngkxaccamiluknxngxikthiepnkhn naythiihythisud khux kstriy aebngthidinepnaekhwn ihkhunnangihypkkhrxng aelakhunnangehlannkmikhunnangitbngkhbbychaxikthi rachwngskarxaelngechiynginxanackraefrngktawnxxkaelatawntksinsud xanackraefrngktawnxxkklayepnckrwrrdiormnxnskdisiththiin kh s 962 dwykarthiphrasntapaparachaphieskxxthothepnckrphrrdiormnxnskdisiththi inpi kh s 1072 ekidkhxkhdaeyngeruxngkarsthapnasmnskdirahwangsmedcphrasntapapaekrkxrithi 7 kbckrphrrdiihnrichthi 4 aehngckrwrrdiormnxnskdisiththi thisudckrphrrdiihrrichtxngthrngedinkhamethuxkekhaaexlpephuxkhxothsphrasntapapa epnchychnakhxngfaykhristckrtxfayxanackr karesuxmxanackhxngphrackrphrrdithaihnkhrrthtang inxitalieruxngxanackhunma xanackraefrngktawntkklayepnxanackrfrngess phayitrachwngskaepesiyng xanackrfrngessepnthithirabxbskdinaswamiphkdisngphlrayaerngthisud frngessaetkepnaekhwnelkaekhwnnxy kstriyfrngessthrngimmiphrarachxanacinkarkhwbkhumkhunnang thrngmiephiyngthidinrxb krungparisethann khunnangfrngesskhnhnungidepnkstriyxngkvs aeladwykaraetngnganthaihidthidinmakmayinfrngessepnkhxngtnthaihmixanacmakkwakstriyfrngessexngesiyxik sngkhramkhruesdinsmyklang aemchawmuslimcayudkhrxngdinaednskdisiththi khux krungeyrusaelm Jerusalem ip aetkihesriphaphaekphuaeswngbuychawkhristthicaedinthangipyngdinaednskdisiththi aetinstwrrsthi 11 eslcukhetirkekhayudkhrxngdinaednskdisiththiaelakhdkhwangkaredinthangaeswngbuykhxngchawkhrist rwmthngidrbaerngbndaliccakkartxsuephuxkhbilchawmusliminsepn prakxbkbkarrxngkhxcakckrphrrdixelksixusthi 1 aehngckrwrrdiibaesnithn ihmachwyrbphwketirk cungprachumsphakhlimxngt Council of Clermont prakaswathukkhnthiipchwyyuddinaednskdisiththikhuncaidrb indulgence thaihthngkhunnangaelachawbanykphlknipdinaednskdisiththi cnyuddinaedneyrusaelmidinkh s 1099 tngrthnkrbkhruesdtang echn rachxanackreyrusaelm xswinkhnatang echn xswinethmphlar Knights Templar hruxxswinhxspithlelxr Hospitallers thasngkhramkbphwketirk aetrthkhruesdehlanixyuidrxykwapikesiyihchawmuslimipinthisud odyechphaasultansxlahuddinaehngikhor yudkrungeyrusaelmkhuninkh s 1291 chawyuorpcungthukkhbxxkcaktawnxxkklangipinthisud sngkhramkhruesdkhrngtx ma epliynepahmayipxyangsineching in kh s 1204 sngkhramkhruesdkhrngthi 4 lngexydwykaryudckrwrrdiibaesnithn tngckrwrrdilatin Latin Empire aelarthkhruesdtang inkris hruxsngkhramkhruesdtxnehnuxodyxswinthiwthxnik Teutonic Knights prabpramchawbxltikxyangohdrayihmaekharitsasnakhrist frngessinstwrrsthi 13 prabpramaelayudthidincakkhunnangtang khyayxanackhxngkstriyfrngesscnklayepnmhaxanackhxngsmyklang khnathickrwrrdiormnxnskdisiththi ckrphrrdithrngmungcakuemuxngtang inxitalithiepnxisraaelasnbsnunphrasntapapa thrngihxanackhunnangineyxrmni thaiheyxrmniaetkepnaekhwnelkaekhwnnxymak ekharphxyangsung basekorngeriynklangkhlxngsxng karkxkarkaeribkhxngprachachninyuorpchwngplaysmyklang silpasmyklangaehlngkhnkhwaephimetimchusiri camrman 2528 yuorpinmthymsmy krungethph rkssipp cirathr chatisiri 2564 xyuxyangirinyukhklang sngekhpprawtisastrchiwitchawxngkvsinsmyklang khxnaekn sakhamnusysastr mhawithyalykhxnaekn xnntchy elahaphnthu 2550 eruxngnaruinyuorpsmyklang krungethph skdiosphakarphimph hmayehtuNees Early Medieval Art pp 109 112 Power Central Middle Ages p 304 BruniHistory of the Florentine people p xvii Albrow Gllobal Age p 205 Robinson Medieval the Middle Ages Speculum Middle Ages Dictionary com Bruni History of the Florentine people p xvii Wickham Inheritance of Rome p 86 See the titles of Watts Making of Polities Europe 1300 1500 or Epstein Economic History of Later Medieval Europe 1000 1500 or the end date used in Holmes ed The Oxford History of Medieval Europe Davies Europe pp 291 293 Bordone and Sergi Dieci secoli di medioevo See the title of Saul Companion to Medieval England 1066 1485 Kamen Spain 1469 1714 p 29 Mommsen Petrarch s Conception of the Dark Ages Speculum kxnhna smyklang thdipsmyobran chwngewlathangprawtisastrsakl kh s 476 1453 smyihm