มารูนไฟฟ์ (อังกฤษ: Maroon 5) เป็นวงดนตรีแนวป็อปร็อกสัญชาติอเมริกันจากลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ก่อนก่อตั้งวงปัจจุบัน สมาชิกเก่าสี่คน ได้แก่แอดัม เลอวีน (กีตาร์ ร้องนำ) เจสซี คาร์ไมเคิล (กีตาร์จังหวะและร้องเบื้องหลัง) มิกกี แมดเดน (กีตาร์เบส) และไรอัน ดูซิก (กลอง) เคยก่อตั้งวงชื่อ คาราส์ฟลาวเออส์ (Kara's Flowers) เมื่อปี ค.ศ. 1994 ขณะยังเรียนที่ไฮสกูล วงเคยออกอัลบั้มด้วยตนเองในชื่อ วีไลก์ดิกกิง ตั้งชื่อวงตามกลุ่มผู้หญิงที่สมาชิกวงหลงใหล คาราส์ฟลาวเออส์เซ็นสัญญากับสังกัดรีพรีสเรเคิดส์ และอัลบั้มชื่อ เดอะโฟร์ธเวิลด์ ใน ค.ศ. 1997 หลังได้รับการตอบรับไม่ดีนัก สมาชิกวงแยกทางกันและเรียนในวิทยาลัย
มารูนไฟฟ์ | |
---|---|
มารูนไฟฟ์แสดงในปี 2019 | |
ข้อมูลพื้นฐาน | |
รู้จักในชื่อ | คาราส์ฟลาวเออส์ (1994–2001) |
ที่เกิด | ลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐ |
แนวเพลง | |
ช่วงปี | 1994–ปัจจุบัน |
ค่ายเพลง | |
สมาชิก | |
อดีตสมาชิก |
|
เว็บไซต์ | maroon5 |
ใน ค.ศ. 2001 วงกลับมารวมตัวกันในนามมารูนไฟฟ์ ทำดนตรีแนวทางที่แตกต่าง ได้เจมส์ วาเลนไทน์เพิ่มเป็นสมาชิกใหม่ มารูนไฟฟ์เซ็นสัญญากับสังกัด สังกัดย่อยของค่ายเจเรเคิดส์ และออกอัลบั้มแรก "ซองส์อะเบาต์เจน" ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2002 ซิงเกิลแรกคือ "ฮาร์ดเดอร์ทูบรีด" ถูกเปิดบ่อยครั้ง ทำให้อัลบั้มได้เปิดตัวที่อันดับหกในบิลบอร์ด 200 ใน ค.ศ. 2004 อัลบั้มได้รับการรับรองระดับทองคำขาว วงคว้ารางวัลแกรมมีสาขาศิลปินใหม่ยอดเยี่ยมปี 2005 ในปี ค.ศ. 2006 ไรอัน ดูซิกลาออกจากวงหลังประสบอาการข้อมือและไหล่บาดเจ็บรุนแรง และได้แมตต์ ฟลินน์มาแทนตำแหน่งเดิม
อัลบั้มชุดที่สอง อิตโวนต์บีซูนบีฟอร์ลอง วางจำหน่ายในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2007 อัลบั้มนี้ขึ้นอันดับ 1 บนบิลบอร์ด 200 และซิงเกิลแรกจากอัลบั้ม "เมกส์มีวันเดอร์" กลายเป็นเพลงแรกของวงที่ขึ้นอันดับ 1 บนบิลบอร์ดฮอต 100 ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2010 วงออกสตูดิโออัลบั้มลำดับที่สามชื่อ แฮนส์ออลโอเวอร์ ได้รับการตอบรับแบบผสมกัน อัลบั้มจำหน่ายซ้ำในปี ค.ศ. 2011 เพิ่มเพลง "มูฟส์ไลก์แจกเกอร์" ขึ้นถึงอันดับหนึ่งบนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 ในปี ค.ศ. 2012 คาร์ไมเคิลลาออกจากวงและได้พีเจ มอร์ตัน มาเล่นแทน วงได้ออกอัลบั้มที่สี่ชื่อ "โอเวอร์เอกซ์โพสต์" เพลง "วันมอร์ไนต์" ขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 นานเก้าสัปดาห์
ในปี ค.ศ. 2014 คาร์ไมเคิลกลับมาร่วมวงพร้อมกับมอร์ตัน อัดอัลบั้มที่ห้า ไฟฟ์ (V) วงเซ็นสัญญากับค่ายอินเตอร์สโคปเรเคิดส์ และสังกัด ของเลอวีนเอง หลังจากวางจำหน่ายอัลบั้มไฟฟ์ อัลบั้มขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ตบิลบอร์ด 200 ในปี ค.ศ. 2016 มารูนไฟฟ์รับ อดีตสมาชิกวง ที่ร่วมงานกับวงมานาน เพื่อทำสตูดิโออัลบั้มที่หก วางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2017 โดยประกาศสมาชิกวงคนที่เจ็ดอย่างเป็นทางการ ซิงเกิล "" จากอัลบั้ม ขึ้นอันดับหนึ่งบนบิลบอร์ดฮอต 100 เป็นซิงเกิลอันดับหนึ่งซิงเกิลที่สี่ของวง มารูนไฟฟ์ขายได้มากกว่า 109 ล้านซิงเกิล และ 27 ล้านอัลบั้ม กลายเป็นหนึ่งในศิลปินที่ขายดีที่สุดของโลก
ประวัติ
1994–2002: คาราส์ฟลาวเออส์ และการก่อตั้งมารูนไฟฟ์
แอดัม เลอวีนได้รู้จักกับไรอัน ดูซิก ผ่านเพื่อนและมือกีตาร์ แอดัม ซอลซ์แมน ขณะนั้นเลอวีนอายุ 15 ปี และดูซิกอายุ 16 ปี สมาชิกวงดั้งเดิมสี่คนพบกันขณะศึกษาที่ (Brentwood School) ในลอสแอนเจลิส ขณะเรียนที่เบรนต์วูด แอดัม เลอวีนและเจสซี คาร์ไมเคิลร่วมกับมิกกี แมดเดนและไรอัน ดูซิกตั้งวงดนตรีแนวร็อกชื่อ (Kara's Flowers) โดยชื่อวงมาจากกลุ่มแฟนดนตรีกลุ่มหนึ่งที่สมาชิกในวง "ตกหลุมรักร่วมกัน" ใน ค.ศ. 1997 ระหว่างพวกเขาเล่นดนตรีอยู่ ณ งานสังสรรค์ชายหาดแห่งหนึ่งในมาลิบู ทอมมี อัลเลน โปรดิวเซอร์อินดี ได้ยินพวกเขาเล่นดนตรีและยื่นข้อเสนอตัวเป็นผู้จัดการให้พวกเขาและให้อัดบันทึกจนเสร็จกับจอห์น เดอนิโคลา (John DeNicola) นักแต่งเพลงคู่หูของเขา ซึ่งมีชื่อจากอัลบั้มชุด ซึ่งมีเพลงอย่าง "" ทีมจัดการของโปรดิวเซอร์ ได้ยินบันทึกที่อัลเลนและเดอนิโคลาผลิต ซึ่งในที่สุดทำให้คาวาโยเสนอข้อตกลงเข้าสังกัด (Reprise Records) ทว่า หลัง เดอะโฟร์ธเวิลด์ ออกมาใน ค.ศ. 1997 ระหว่างที่เลอวีนและแมดเดนเรียนไฮสกูลปีสุดท้าย พวกเขาก็เปลี่ยนเป็นวงที่มีสไตล์แบบบริตป็อปยุค 60 แม้วงและต้นสังกัดคาดหวังกับอัลบั้มนี้มาก แต่อัลบั้มก็ไม่ติดหูและซิงเกิลนำของพวกเขา "โซปดิสโก" เป็นความล้มเหลว เลอวีนกล่าวว่า ความล้มเหลวของอัลบั้มนั้นเป็น "ความผิดหวังครั้งใหญ่" จนเกือบทำให้พวกเขาแยกวงใน ค.ศ. 1998 อัลบั้มของเขาขายได้เพียง 5,000 ตลับและพวกเขาถูกยกเลิกสัญญาหลังจากนั้นหนึ่งเดือน
ดูซิกและแมดเดนเข้าเรียนที่ UCLA ส่วนเลอวีนและคาร์ไมเคิลย้ายไปชายฝั่งตะวันออกที่ไฟฟ์ทาวส์คอลเลจ ในดิกซ์ฮิลล์ ลองไอส์แลนด์ นิวยอร์ก ขณะที่เลอวีน และคาร์ไมเคิลอยู่ที่นิวยอร์ก พวกเขาเริ่มสังเกตดนตรีที่เปิดรอบตัวเขา และต่อมาจึงนำรูปแบบเพลงดังกล่าวมาเป็นอิทธิพลแก่เพลงของตน
พวกเขากลับคืนอุตสาหกรรมดนตรีใน ค.ศ. 2000 โปรดิวเซอร์ เซ็นสัญญาให้พวกเขาทำเพลงเดโมกับ และทำเพลงขึ้นมา 3 เพลงในลอสแอนเจลิสในกลางปี ค.ศ. 2000 โดยมีมาร์ก เดิร์นลีย์วางแผน แต่เอ็มซีเอปฏิเสธและเพลงเหล่านั้นไม่เคยออกเผยแพร่ วงรวบรวมเดโมที่เคยถูกหลายสังกัดปฏิเสธไว้ด้วยกัน ก่อนตกถึงมือผู้บริหาร ได้แก่ , เบน เบิร์กแมน และเดวิด บ็อกเซนบอม ขณะที่เบิร์กแมนกำลังมองหาผู้มีความสามารถให้กับค่ายอ็อกโทนใหม่ เขาได้รับชุดเดโมจากพี่น้องของอดีตเพื่อนร่วมงานที่โคลัมเบียเรเคิดส์ และเพลงที่ดึงดูดความสนใจเขาคือเพลง "ซันเดย์มอร์นิง" ซึ่งเขาเรียกว่าเป็น "เพลงอัจฉริยะ" เบิร์กแมนประหลาดใจเมื่อทราบว่าเพลงนั้นยกความชอบให้วงคาราส์ฟลาวเออส์เพราะเสียงแตกต่างจากวงดนตรีดังกล่าวที่เขาเคยได้ยินครั้งที่วอร์เนอร์บราเธอร์โดยสิ้นเชิง
เบิร์กแมนชักชวนให้ไดเนอร์และบ็อกเซนบอมบินไปลอสแอนเจลิส เพื่อชมคาราส์ฟลาวเออส์แสดงดนตรีที่ไนต์คลับ (The Viper Room) หลังได้ชมเลอวีนบนเวที พวกเขาก็มั่นใจ เบิร์กแมนบอกว่าเขาเชื่อว่าวงต้องการ "สมาชิกคนที่ห้ามาเล่นกีตาร์เพื่อให้นักร้องอิสระขึ้น เขาจะได้เป็นดาราอย่างที่ผมรับรู้ว่าเขาเป็น" อ็อกโทนกำชับทันทีว่าให้เปลี่ยนชื่อวงเพื่อแยกอดีต นอกจากนี้ ค่ายยังเริ่มมองหานักกีตาร์เต็มเวลาเพื่อให้เลอวีนเน้นการแสดงในตำแหน่งร้องนำ เจมส์ วาเลนไทน์ (จากวง (Square) ลอสแอนเจลิส) ถูกดึงตัวมารับตำแหน่งนี้ จากการเข้าร่วมกับวง วาเลนไทน์ให้ความเห็นว่า "ผมเป็นเพื่อนกับพวกเขาและเริ่มเล่นดนตรีด้วยกัน ดูเหมือนว่าผมกำลังหักหลังวงของผมอยู่ เราเหมือนกำลังคบกัน แต่ในที่สุดผมก็ออกจากอีกวงเพื่อเข้าร่วมกับวงนี้"
2002–2006: อัลบั้ม ซองส์อะเบาต์เจน และไรอัน ดูซิกออกจากวง
—ไรอัน ดูซิก มือกลองคนแรกของมารูนไฟฟ์ ที่ออกจากวงอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 2006 เนื่องจากประสบการบาดเจ็บจากทัวร์ต่อเนื่อง
เจมส์ วาเลนไทน์เข้าเรียนในวิทยาลัยดนตรีเบิร์กลี (Berklee College of Music) กับจอห์น เมเยอร์ในปี ค.ศ. 1996 ซึ่งพวกเขาพัฒนาความสัมพันธ์ ทั้งคู่พบกันอีกในการออกรายการวิทยุครั้งหนึ่งของเมเยอร์เมื่อ ค.ศ. 2002 หลังจากเมเยอร์ได้ฟังอัลบั้มของพวกเขา เขาประทับใจ (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพลง "ดิสเลิฟ" ซึ่งกลายเป็นเพลงที่ประสบความสำเร็จที่สุดของอัลบั้มและผลักดันวงให้เป็นซูเปอร์สตาร์) มากเสียจนเขาชวนพวกเขาให้ไปเล่นเป็นวงเปิดในทัวร์ต้นปี ค.ศ. 2003 ซิงเกิลแรก "ฮาร์ดเดอร์ทูบรีด" เริ่มได้ออกอากาศทางวิทยุและโทรทัศน์ (airplay) อย่างช้า ๆ ซึ่งช่วยเพิ่มยอดขายของอัลบั้ม ภายในปี ค.ศ. 2004 อัลบั้มของพวกเขาขึ้น 20 อันดับแรกในบิลบอร์ด 200 และเพลง "ฮาร์ดเดอร์ทูบรีด" ก็ได้ขึ้นอยู่บน 20 อันดับแรกของชาร์ตซิงเกิลบิลบอร์ตฮอต 100 อัลบั้มของพวกเขาขึ้นสูงสุดในบิลบอร์ด 200 ถึงอันดับ 6 ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2004 เป็นเวลา 26 เดือนหลังออกอัลบั้ม ซึ่งถือเป็นระยะยาวที่สุดระหว่างที่การออกอัลบั้มกับการปรากฏใน 10 อันดับแรกครั้งแรกนับแต่รวมผลระบบซาวด์สแกนในบิลบอร์ด 200 ใน ค.ศ. 1991 อัลบั้มยังคงขายต่อไปจนได้มากกว่า 10 ล้านอัลบั้มทั่วโลก ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นหลังวง "ทิ้งเหง้าโพสต์กรันจ์ของวงเป็นดนตรีป็อปโซลที่ฟังสบาย กระทั่งแจมด้วยฮาร์ดร็อกบ้าง" เมเยอร์ชักชวนวงให้มาเปิดงานให้เขาอีกใน ค.ศ. 2004 สามปีจากนั้น มารูนไฟฟ์ทัวร์คอนเสิร์ตต่อเนื่องแทบไม่หยุดพัก ซึ่งรวมการเยือน 17 ประเทศ ระหว่างนี้ วงได้ทัวร์ร่วมกับมิเชล แบรนช์, แกรแฮม โคลตัน และเดอะโรลลิงสโตนส์ นอกจากนี้ ยังทัวร์ร่วมกับศิลปินอื่น เช่น เกวิน เดอกรอว์, แมตช์บ็อกซ์ทเวนตี, ชูการ์เรย์, เคาน์ติงโครวส์, แฟนทอมแพลเน็ต, เดอะไฮฟส์, แดชบอร์ดคอนเฟสชันนอล, ไซมอน ดอวส์, เดอะธริลส์, เธิร์สตีเมิร์ก, Marc Broussard, เดอะดอนน่าส์, เดอะเรดเวสต์, ไมเคิล โทลเชอร์ และกุสเตอร์
กล่าวว่า เพลง "" ของอาลียาห์ ส่งผลต่อวงและมีอิทธิพลต่อเพลง "น็อตคัมมิงโฮม"
สุดท้ายอัลบั้ม ซองส์อะเบาต์เจน ขึ้นถึงอันดับ 1 บนอัลบั้มออสเตรเลีย ขณะที่เพลง "ฮาร์ดเดอร์ทูบรีด" ติดซิงเกิล 20 อันดับแรกในสหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร และ 40 อันดับแรกในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ อัลบั้มยังขึ้นถึงอันดับ 1 ในสหราชอาณาจักรในที่สุด ซิงเกิลที่สอง "ดิสเลิฟ" ขึ้นอันดับ 5 ในสหรัฐอเมริกา อันดับ 3 ในสหราชอาณาจักร และอันดับ 8 ในออสเตรเลีย ซิงเกิลที่สาม "ชีวิลบีเลิฟด์" ขึ้นอันดับ 5 ทั้งในสหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร และอันดับ 1 ในออสเตรเลีย ซิงเกิลที่สี่ "ซันเดย์มอร์นิง" ขึ้นถึง 40 อันดับแรกในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย มารูนไฟฟ์ได้เล่นคอนเสิร์ตไลฟ์เอทที่ฟิลาเดลเฟียใน ค.ศ. 2005 เพลงที่เขาเล่นมีเพลงคัฟเวอร์ "ร็อกกินอินเดอะฟรีเวิลด์" ของนีล ยัง และเลอวีนยังได้แสดงร่วมกับศิลปินซึ่งเป็นฮีโร่คนหนึ่งของเขาอย่างสตีวี วันเดอร์ วันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 2005 ในซานตาบาร์บารา รัฐแคลิฟอร์เนีย มารูนไฟฟ์เล่นปิดฮอนด้าซีวิกทัวร์ ซึ่งพวกเขากลายเป็นพาดหัวข่าว พวกเขายังได้แสดงที่สถาบันภาพยนตร์อเมริกันเพื่อเป็นเกียรติแก่จอร์จ ลูคัส ซึ่งลูคัสเองเป็นคนเลือกมารูนไฟฟ์ เพราะเป็นวงดนตรีที่ลูกของเขานิยมในตอนนั้น ระหว่างที่ทัวร์คอนเสิร์ตอยู่หลายปี ไรอัน ดูซิก ตำแหน่งกลอง เครื่องเคาะ และนักร้องเบื้องหลัง ทรมานจากชีวิตทัวร์ ความเครียดจากการทัวร์ไม่หยุดทำให้การบาดเจ็บจากกีฬาเก่าร้ายแรงขึ้น หลังจากที่เขาขาดร่วมทัวร์กับวงหลายครั้ง โดยไรแลนด์ สตีน กับจอช เดย์มาแทน ดูซิกก็ออกจากวงอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน ค.ศ. 2006 แมตต์ ฟลินน์ อดีตมือกลองวงเกวิน เดอกรอว์ และเดอะบีฟิฟตีทูส์ เข้าร่วมวงแทนดูซิก
2006–2008: อัลบั้ม อิตโวนต์บีซูนบีฟอร์ลอง
หลังจากอัดเสียงกันตลอด 8 เดือนในปี ค.ศ. 2006 อัลบั้มชุดที่สองของมารูนไฟฟ์ชื่อ อิตโวนต์บีซูนบีฟอร์ลอง ออกจำหน่ายทั่วโลกในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2007 ภายใต้สังกัด เลอวีนกล่าวว่า อัลบั้มถัดจาก ซองส์อะเบาต์เจน นี้จะ "เซ็กซี่กว่า และแข็งแรงกว่า" ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปินยุค 80 อย่าง พรินซ์, , ไมเคิล แจ็กสัน และทอล์กกิงเฮดส์ แอน เพาเวอส์ เขียนให้กับลอสแอนเจลิสไทม์ถึงอัลบั้ม อิตโวนต์บีซูนบีฟอร์ลอง ว่า "เป็นส่วนผสมร้อนเย็นของดนตรีอิเล็กโทรฟังก์ และบลูอายด์โซลที่ล้อกันด้วยความมั่นใจดั่งเจมส์ บอนด์"ก่อนอัลบั้มวางจำหน่าย ซิงเกิลเพลง "เมกส์มีวันเดอร์" เป็นซิงเกิลและวิดีโอที่ขายได้เป็นอันดับ 1 บนไอทูนส์ และยังคงเป็นอัลบั้มที่ขายดีเป็นอันดับ 1 กว่า 50,000 ชุด หลังจากอัลบั้มออกมา อัลบั้มทำลายสถิติยอดขายของไอทูนส์ ณ สัปดาห์ที่ปล่อย ขายได้ถึง 101,000 ชุด ซิงเกิลแรก "เมกส์มีวันเดอร์" ออกสู่วิทยุในวันที่ 27 มีนาคม ค.ศ. 2007 เปิดตัวที่อันดับ 84 ในชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 เป็นอันดับล่างสุดที่เปิดตัวในบรรดา 5 เพลงที่เปิดตัวในชาร์ตสัปดาห์นั้น ในสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม ซิงเกิลนี้ทะยานจากอันดับ 64 ขึ้นไปถึงอันดับ 1 เป็นการก้าวกระโดดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด (biggest jump) ของบิลบอร์ด ณ เวลานั้น "เมกส์มีวันเดอร์" ยังสามารถขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ตฮอตดิจิทัลซองของบิลบอร์ด, ป็อป 100, และฮอตแดนซ์คลับเพลย์ได้สำเร็จด้วย
เพื่อเป็นการส่งเสริมอัลบั้ม มารูนไฟฟ์ได้แสดง "ซิกส์เดตคลับทัวร์" แห่งหนึ่ง ณ เวทีขนาดเล็กในบอสตัน ซานฟรานซิสโก ลอสแอนเจลิส มินนีแอโพลิส ไมอามี และนครนิวยอร์ก ในต้นเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2007 พวกเขายังมีคอนเสิร์ตที่แสดงสดผ่านช่อง (MSN Music) ตามมาในกลางเดือนเดียวกัน ในวันที่ 10 กรกฎาคม เขาเล่นเป็นวงเปิดคอนเสิร์ตให้กับเดอะโพลิซ ในไมอามี และตามมาด้วยการแสดงดนตรีอคูสติกที่ไมอามีคลับ สตูดิโอ เอ ในวันถัดมา ทัวร์คอนเสิร์ตอัลบั้ม อิตโวนต์บีซูนบีฟอร์ลอง ของพวกเขาจะเริ่มขึ้นปี ค.ศ. 2007 ซึ่วงจะทัวร์ใน 28 เมือง ทัวร์เริ่มขึ้นในในวันที่ 29 กันยายนในดีทรอยต์ และทัวร์ต่อใน 28 เมืองในอเมริกาเหนือ และจบลงในวันที่ 10 พฤศจิกายนในลาสเวกัส โดยมีวง เดอะไฮฟส์ เป็นแขกรับเชิญพิเศษตลอดงาน ขณะที่มีซารา บาเรลลิส และ ที่ร่วมแสดงเป็นบางครั้ง พวกเขายังได้ทัวร์ร่วมกับวง ในงานทัวร์คอนเสิร์ตด้วย และในวันที่ 28 มีนาคม ค.ศ. 2008 พวกเขาเริ่มทัวร์คอนเสิร์ตร่วมกับวงวันรีพับบลิก, และไร คูมิง พวกเขายังได้แสดงเพลง "เมกส์มีวันเดอร์" ในรายการอเมริกันไอดอล ฤดูกาลที่ 6 และเพลง "อิฟไอเนเวอร์ซียัวร์เฟสอะเกน" ในฤดูกาลที่ 7 การออกอัลบั้มซ้ำ (re-release) มีเพลง "อิฟไอเนเวอร์ซียัวร์เฟสอะเกน" เวอร์ชันใหม่ที่ร้องร่วมกับริอานนา ซึ่งเวอร์ชันใหม่ของเพลงนี้ยังอยู่ในอัลบั้ม ซึ่งเป็นการออกจำหน่ายซ้ำเช่นกัน และพวกเขาก็ได้ปล่อยซิงเกิลลำดับที่ห้า "กูดไนต์กูดไนต์" ซึ่งปรากฏในฉากเริ่มเรื่องของซีรีส์ "ซีเอสไอ: นิวยอร์ก" ตอน "Page Turner" ด้วย
2008–2011: อัลบั้ม แฮนส์ออลโอเวอร์
เลอวีนกล่าวว่าเขาเชื่อว่าวงของเขาถึงจุดสูงสุดแล้วและอาจจะทำอีกหนึ่งอัลบั้มก่อนที่จะยุบวง เขาอธิบายเรื่องนี้ว่า "สุดท้ายแล้วผมก็อยากจะเน้นเรื่องการเป็นคนที่แตกต่างไปอย่างแท้จริงเพราะผมไม่รู้ว่าผมจะทำมันไปจนผมอายุ 40-50 ปีหรือแก่กว่านั้นอย่างวงเดอะโรลลิงสโตนส์หรือเปล่า"
มารูนไฟฟ์อัดอัลบั้มชุดที่สามใน ค.ศ. 2009 ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งวงได้ทำงานร่วมกับโรเบิร์ต จอห์น "มัตต์" แลงจ์ โปรดิวเซอร์ฝ่ายอัดเสียง อัลบั้มนี้มีชื่อว่า แฮนส์ออลโอเวอร์ ออกจำหน่ายวันที่ 21 กันยายน ค.ศ. 2010 อัลบั้มเปิดตัวที่อันดับ 2 ในบิลบอร์ด 200 รองจากอัลบั้ม ยูเก็ตว้อตยูกิฟ ของ แม้ว่าจะเปิดตัวได้ดี แต่ยอดขายสัปดาห์แรกกลับทำได้เพียง 142,000 ชุด ซึ่งค่อนข้างแย่กว่าอัลบั้มก่อนหน้า อิตโวนต์บีซูนบีฟอร์ลอง ที่เปิดตัวที่อันดับหนึ่งด้วยยอดขาย 492,000 ชุด อัลบั้มได้รับคำวิจารณ์แบบคละกัน แม้ว่านักวิจารณ์บางส่วนจะชื่นชมการผลิตเพลง นักวิจารณ์จำนวนมากสันนิษฐานว่ายอดขายที่น้อยมาจากการดาวน์โหลดทางอินเทอร์เน็ตอย่างผิดกฎหมาย ที่เรียกว่าการละเมิดลิขสิทธิ์ และวงไม่ได้ใส่ใจ ซิงเกิลแรกคือ "มิสเซอรี" ออกมาวันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ. 2010 มารูนไฟฟ์ทัวร์คอนเสิร์ตกับวงเทรน ในฤดูร้อน ค.ศ. 2011 ตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคม ถึง 24 กันยายน
ในวันที่ 12 มิถุนายน ค.ศ. 2011 วงออกซ้ำอัลบั้ม แฮนส์ออลโอเวอร์ เพื่อใส่เพลง "มูฟส์ไลก์แจกเกอร์" ร่วมร้องโดยคริสตินา อากีเลรา เพลงแสดงสดครั้งแรกในรายการเดอะวอยซ์ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ค.ศ. 2011 และขึ้นถึงอันดับ 1 บนบิลบอร์ดฮอต 100 ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2011 แอดัม เลอวีนยังได้ไปร้องร่วมกับจิม คลาส ฮีโรส์ ในเพลง "สเตริโอฮาตส์" ที่ขึ้นอันดับ 4 บนบิลบอร์ดฮอต 100 ด้วย ในวันที่ 8 กันยายน ค.ศ. 2011 เจสซี คาร์ไมเคิลกล่าวว่าทางวงจะเริ่มบันทึกเสียงอัลบั้มต่อไปภายในปีนั้น ในวันที่ 1 ตุลาคม มารูนไฟฟ์แสดงสดที่คอนเสิร์ตร็อกอินริโอ ในริโอเดอจาเนโร ประเทศบราซิล มารูนไฟฟ์แสดงในชั่วโมงสุดท้ายซึ่งวงถูกเลือกให้แทนที่เจย์-ซี (Jay-Z) ที่ยกเลิกไปด้วยเหตุผลส่วนตัว มารูนไฟฟ์ยังได้ร่วมเปิดตัวเครื่องดื่มยี่ห้อสแนปเปิล (Snapple) ภายใต้ชื่ "ทีวิลบีเลิฟด์" เพื่อสนับสนุนองค์การฟีดดิงอเมริกาด้วย
มารูนไฟฟ์เล่นเพลง "มูฟส์ไลก์แจกเกอร์" กับเพลง "สเตริโอฮาตส์" ร่วมกับ เทรวี แม็กคอย ในวันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 2011 ในรายการแซตเทอร์เดย์ไนต์ไลฟ์ (Saturday Night Live) พวกเขายังแสดงเพลง "มูฟส์ไลก์แจกเกอร์" กับเพลง "สเตริโอฮาตส์" ร่วมกับคริสตินา อากีเลรา และจิม คลาส ฮีโรส์ ในวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 2011 ในรายการประกาศรางวัลอเมริกันมิวสิกอะวอร์ด (American Music Award) ซึ่งวงก็ชนะรางวัลนี้เป็นครั้งแรกในสาขาวง/คู่ดูโอ/กลุ่มศิลปินป็อปที่เป็นที่ชื่นชอบ มารูนไฟฟ์ได้แสดงเพลง "มูฟส์ไลก์แจกเกอร์" ในงาน วิกตอเรียซีเคร็ตแฟชันโชว์ (Victoria's Secret Fashion Show) ปี 2011 ด้วย ในระหว่างช่วงโปรโมชันของโคคา-โคล่าในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2011 มีเวลาเพียง 24 ชั่วโมงในการเขียนเพลงต้นฉบับจนสมบูรณ์ ซึ่งได้นักดนตรี พีเจ มอร์ตัน (PJ Morton) คอยช่วยเหลือ หลังจากเวลาของเขาหมดลง เพลง "อิซแอนีวันเอาต์แดร์" ก็ออกเผยแพร่มาบนเว็บไซต์ของโคคา-โคล่าให้ดาวน์โหลดฟรี วงบันทึกเสียงเพลงประกอบภาพยนตร์เกมล่าเกม (The Hunger Games) ชื่อเพลง "คัมอะเวย์ทูเดอะวอเทอร์" ร้องร่วมกับรอสซี เครน ในงานประกาศรางวัลแกรมมีครั้งที่ 54 วันที่ 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012 มารูนไฟฟ์แสดงพร้อมกับฟอสเตอร์เดอะพีเพิล และเดอะบีชบอยส์ ในเมดเล่ย์เพลงของเดอะบีชบอยส์ เพื่อฉลองครบรอบ 50 ปีให้แก่ศิลปินดังกล่าว
2012–14: คาร์ไมเคิลลาพัก และอัลบั้ม โอเวอร์เอกซ์โพสต์
วันที่ 9 มีนาคม ค.ศ. 2012 มารูนไฟฟ์ประกาศว่า เจสซี คาร์ไมเคิลจะขอลาพักโดยไม่ได้ระบุระยะเวลาเพื่อจะได้ไปใส่ใจกับการเรียนเกี่ยวกับ "ดนตรีและการเยียวยาทางจิตใจ" วงยังคงมุ่งหน้าทำงานอัลบั้มชุดที่สี่ โอเวอร์เอกซ์โพสด์ วางจำหน่ายวันที่ 26 มิถุนายน ค.ศ. 2012 โดยมีพีเจ มอร์ตัน สมาชิกร่วมทัวร์ตั้งแต่ ค.ศ. 2010 และกลายเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบหลังจากประกาศอย่างเป็นทางการ มาเล่นคีย์บอร์ดและร้องเบื้องหลังให้ เนื่องจากในฐานะนักร้องแนวอาร์แอนด์บี มอร์ตันประสบความสำเร็จเพียงเล็กน้อย เลอวีนกล่าวถึงอัลบั้มว่าเป็นอัลบั้มที่ "หลากหลายและเป็นแนวป็อบมากที่สุดเท่าที่เคยทำมา" ในวันที่ 16 เมษายน ค.ศ. 2012 มารูนไฟฟ์แสดงเพลง "เพย์โฟน" ร้องร่วมกับนักร้องแร็ป วิซ คาลิฟา ซิงเกิลแรกจากอัลบั้ม โอเวอร์เอ็กซ์โพสด์ ในรายการเดอะวอยซ์ ซึ่งเลอวีนเป็นหนึ่งในกรรมการตัดสินและโค้ชในรายการ ซิงเกิลนี้เปิดตัวที่อันดับที่ 3 บนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 และขึ้นได้ถึงอันดับที่ 2 ซิงเกิลที่สอง "วันมอร์ไนต์" ออกมาวันที่ 19 มิถุนายน ค.ศ. 2012 เพลงนี้ได้ขึ้นถึงอันดับที่ 1 บนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 นำเพลง คังนัมสไตล์ ของไซ และครองอันดับหนึ่งได้ถึง 9 สัปดาห์ติดต่อกันเทียบเท่ากับเพลงดัง "" ของคาร์ลี เร เจปเซน ในฐานะเพลงที่ขึ้น
ในช่วงเริ่มทัวร์ ในอเมริกาใต้ มารูนไฟฟ์ได้แนะนำให้ผู้ชมรู้จักแซม ฟาร์ราร์ เพื่อนเก่าและเป็นเพื่อนสนิท ซึ่งเล่นตำแหน่งกีตาร์ ร้องเบื้องหลัง เล่นกีตาร์เบส เครื่องประกอบจังหวะ เทิร์นเทเบิล และหาแซมเปิลเพลง หาเสียงสเปเชียลเอฟเฟกต์อื่น ๆ (โดยใช้เครื่องผลิตเสียงดนตรี (Music Production Center)) ฟาร์ราร์ยังได้ร่วมเขียนและผลิตเพลงจำนวนหนึ่งให้กับมารูนไฟฟ์ในเกือบทุกอัลบั้ม และทำการรีมิกซ์เพลง "วูแมน" (จากอัลบั้ม ) ลงอัลบั้ม วางจำหน่ายใน ค.ศ. 2008
ในวันที่ 27 พฤศจิกายน ค.ศ. 2012 มารูนไฟฟ์ออกซิงเกิลที่สาม "เดย์ไลต์" และเพื่อส่งเสริมเพลงนี้ ทางวงได้ปล่อยโปรเจกต์วิดีโอชื่อ "เดอะเดย์ไลต์โปรเจกต์" เป็นโปรเจกต์ที่ให้แฟนเพลงถ่ายทำเรื่องราวของตนเองเป็นส่วนหนึ่งในมิวสิกวิดีโอเพลง "เดย์ไลต์" กำกับโดย Jonas Åkerlund เพลง "เดย์ไลต์" ถูกเล่นสดครั้งแรกในนามของซิงเกิลวันที่ 8 พฤศจิกายน ค.ศ. 2012 ในรายการเดอะวอยซ์ของอเมริกาและมิวสิกวิดีโอถูกเผยแพร่อย่างเป็นทางการวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 2012
ในวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 2013 วงได้ประกาศว่าพวกเขาจะได้พาดหัวบนใบปิดงานฮอนด้าซีวิกทัวร์ประจำปีครั้งที่ 12 ร่วมกับแขกรับเชิญพิเศษคือเคลลี คลาร์กสัน ทัวร์เริ่มขึ้นวันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 2013 จบลงวันที่ 6 ตุลาคม ค.ศ. 2013 รวม 34 วัน มารูนไฟฟ์ออกซิงเกิลที่ 4 และซิงเกิลสุดท้ายจากอัลบั้ม "เลิฟซัมบอดี" เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 2013
2014–2016: การกลับมาของคาร์ไมเคิล อัลบั้ม ไฟฟ์
ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2013 เจมส์ วาเลนไทน์กล่าวเกี่ยวกับการอัดเสียงอัลบั้มที่ห้าในสตูดิโอว่า "สิ่งที่เรากำลังทำอยู่นี้ เสียงดนตรีอาจจะฟังดูมืดมนลงเล็กน้อย บางทีอาจจะย้อนกลับไปเหมือนกับเพลงในอัลบั้มซองส์อะเบาต์เจน แต่ ณ จุดนี้เราทำเพลงที่แตกต่างออกไปและมันก็มาเร็วกว่าที่คิด"
ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 วงได้แสดงเพลง "ออลมายเลิฟวิง" และ "ทิกเก็ตทูไรด์" ในงานคอนเสิร์ตชื่อ เดอะไนต์แด้ตเชนจด์อเมริกา เพื่อฉลองครบรอบ 50 ปีการมาถึงสหรัฐอเมริกาของวงเดอะบีเทิลส์
วันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 2014 เจสซี คาร์ไมเคิลยืนยันว่าพักงานเสร็จแล้วและพร้อมกลับมาร่วมทำงานอัลบั้มชุดที่ห้ากับวงอีกครั้ง ในวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 2014 มารูนไฟฟ์แสดงในงาน ที่ ในนครนิวยอร์กวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 2014 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทัวร์คอนเสิร์ตที่จัดโดยโตโยต้า
วันที่ 18 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 มารูนไฟฟ์ประกาศอย่างเป็นทางการว่าอัลบั้มชุดที่ห้าในชื่อ ไฟฟ์ (V คือเลข 5 ในเลขโรมัน) จะวางจำหน่ายในวันที่ 2 กันยายน ค.ศ. 2014 ในสังกัดอินเตอร์สโคปเรเคิดส์ ซิงเกิลแรกคือเพลง "แม็ปส์" ออกจำหน่ายครั้งแรกวันที่ 16 มิถุนายน ค.ศ. 2014 ขึ้นถึงอันดับที่หกบนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 หลังจากอัลบั้มออกจำหน่ายวันที่ 2 กันยายน ค.ศ. 2014 อัลบั้มขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ตบิลบอร์ด 200 ในวันที่ 20 กันยายน ค.ศ. 2014 อัลบั้มไฟฟ์ ได้รับคำวิจารณ์คละกัน แบรด วีต เขียนให้กับบิลบอร์ดว่า "เสียงร้องดั่งนกฮัมมิงเบิร์ดของเลอวีนและการส่งผ่านอารมณ์นั้นแรงกล้าพอ ๆ กับที่เขาทำไว้ในอัลบั้มซองส์อะเบาต์เจนเมื่อปี 2002 เลย"
ในวันที่ 10 สิงหาคม วงได้ลงพาดหัวข่าวเกี่ยวกับงานฮุนไดการ์ดซิตีเบรก ในประเทศเกาหลีใต้ มารูนไฟฟ์ยังแสดงในรายการ 2014 ที่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2014 (ตลอดการแสดงคอนเสิร์ตในส่วนของเทศกาลมีการถ่ายทำและออกอากาศสดออนไลน์ทั่วโลก) ซิงเกิลที่สอง "แอนิมัลส์" แสดงครั้งแรกในภาพยนตร์โฆษณา และมีให้ดาวน์โหลดฟรีทางเว็บไซต์ของเกียในเวลาจำกัดหลังจากเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาในวันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 2014 เพลงขึ้นถึงอันดับสามบนชาร์ตฮอต 100
มารูนไฟฟ์แสดงในรายการพิเศษช่วงคริสต์มาสของงานประกาศรางวัลแกรมมี ชื่อว่า "อะเวรีแกรมมีคริสต์มาส" (A Very Grammy Christmas) เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 2014 และในคอนเสิร์ตของคลื่น ในวันที่ 12 ธันวาคม ค.ศ. 2014
"ชูการ์" วางจำหน่ายเป็นซิงเกิลที่สามจากอัลบั้มเมื่อวันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 2015 มิวสิกวิดีโอแสดงสมาชิกในวงเดินทางรอบลาสเวกัส และแสดงดนตรีตามงานแต่งงาน "ชูการ์" ยังอยู่ในภาพยนตร์โฆษณานิสสันด้วย
มารูนไฟฟ์เริ่มทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลกในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2015 มีกำหนดการในอเมริกาเหนือ ยุโรป แอฟริกา เอเชีย และโอเชียเนีย และเล่นจนถึงเดือนกันยายน ค.ศ. 2015 มีศิลปิน เมจิก! และ เล่นเปิดคอนเสิร์ตให้
ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2015 ภาพถ่ายของเจสซี คาร์ไมเคิลในสตูดิโอถูกโพสต์ในอินสตาแกรมคู่กับโปรดิวเซอร์เพลง โนอาห์ "เมลบ็อกซ์" พาสโซวอย
วงกำลังจะออกอัลบั้มรวมเพลงยอดนิยมชื่อ ซิงเกิลส์ ในวันที่ 2 ตุลาคม ค.ศ. 2015 ผ่านสังกัดอินเตอร์สโคป และ อัลบั้มจะรวบรวมซิงเกิล 12 ซิงเกิลจากสตูดิโออัลบั้มที่ผ่านมา
ในวันที่ 21 ตุลาคม ค.ศ. 2015 มีประกาศผ่านว่าสมาชิกวงมารูนไฟฟ์เป็นหนึ่งในศิลปินที่จะแสดงในงานซูเปอร์โบวล์ครั้งที่ 50 ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016
ในวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 2015 วงประกาศผ่านทวิตเตอร์ว่าพวกเขาจะทัวร์คอนเสิร์ตในอเมริกาเหนือใน ค.ศ. 2016 ในเดือนกันยายนและตุลาคม โดยมีศิลปินเสริมคือทูเว ลู และ วันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 2016 วันครบรอบ 15 ปีการวางจำหน่ายอัลบั้มซองส์อะเบาต์เจน มีการเฉลิมฉลองวันมารูนไฟฟ์ (#Maroon5Day) โดยร่วมมือกับองค์กรยูนิเซฟเพื่อช่วยเหลือเด็กที่ต้องการความช่วยเหลือด้านสาธารณสุข
2017–2019: อัลบั้ม เรดพิลล์บลูส์ และการแสดงช่วงพักครึ่งของซูเปอร์โบวล์ ครั้งที่ 53
ในวันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 2017 แอดัม เลอวีนเปิดเผยว่าวงกำลังทำสตูดิโออัลบั้มที่หก เลอวีนกล่าวว่า อัลบั้มใหม่จะออก "อีกไม่ช้า" และจะมีแนวเพลงอาร์แอนด์บี ในวันที่ 13 สิงหาคม ค.ศ. 2017 เลอวีนยืนยันในงานประกาศรางวัล ว่าอัลบั้มใหม่จะวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน
ในวันที่ 4 ตุลาคม ค.ศ. 2017 มารูนไฟฟ์เผยชื่ออัลบั้ม ชื่อมีแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ เดอะ เมทริกซ์ : เพาะพันธุ์มนุษย์เหนือโลก 2199 ฉายเมื่อปี ค.ศ. 1999 อัลบั้มวางจำหน่ายในวันที่ 3 พฤศจิกายน ค.ศ. 2017เรดพิลล์บลูส์ได้รับการตอบรับผสมกันเนื่องจากวงมีทิศทางแนวเพลงไปทางป็อปมากเกินไป อัลบั้มนี้มีสามซิงเกิล ได้แก่ "วอตเลิฟเวอส์ดู" "" และ "" เพลง "เกิลส์ไลก์ยู" ร้องรับเชิญโดยคาร์ดิ บี ขึ้นอันดับหนึ่งต่อเนื่องเจ็ดสัปดาห์บนบิลบอร์ดฮอต 100 เพลง "โดนต์วอนนาโนว์" และ "โคลด์" ออกเป็นซิงเกิลนอกอัลบั้ม และถูกรวมในอัลบั้มรุ่นดีลักซ์เท่านั้น
มารูนไฟฟ์เริ่มทัวร์คอนเสิร์ต เรดพิลล์บลูส์ทัวร์ ในวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 2018 (สิ้นสุดในวันที่ 11 มิถุนายน ค.ศ. 2019) มีแขกรับเชิญได้แก่ จูเลีย ไมเคิลส์ CXLOE และ ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2018 วงนำเพลง "" ของ มาร้องใหม่เป็นโฆษณาส่งเสริมฟุตบอลโลก 2018 โดย มิวสิกวิดีโอกำกับโดย
ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2019 เลอวีนและเจสซี คาร์ไมเคิล ร่วมกับ สมาชิกวงเพิร์ลแจม แสดงเพลง "" ของคริส คอร์เนลล์ ที่คอนเสิร์ตการกุศลชื่อ ไอแอมเดอะไฮเวย์: อะทริบิวต์ทูคริสคอร์เนลล์ ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2019 วงได้เล่นในการแสดงช่วงพักครึ่งของซูเปอร์โบวล์ ครั้งที่ 53 ที่สนามเมอร์ซีเดสเบนซ์ แอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ร่วมกับแร็ปเปอร์ และแทรวิส สก็อตต์ แต่การแสดงของวงถูกวิจารณ์และจัดว่าเป็นหนึ่งในการแสดงในช่วงพักครึ่งของซูเปอร์โบวล์ที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของเนชันแนลฟุตบอลลีก ในวันที่ 8 มิถุนายน ค.ศ. 2019 มารูนไฟฟ์แสดงคอนเสิร์ตเทศกาลดนตรี ของสถานีวิทยุแคปิตอล ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ กรุงลอนดอน
2019–ปัจจุบัน: แมดเดนออกจากวงและ จอร์ดี
ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2019 มารูนไฟฟ์เผยแพร่ซิงเกิล "เมมโมรีส์" ซึ่งเป็นซิงเกิลนำของอัลบั้มที่ 7 โดยทางวงอุทิศเพลงนี้ให้แก่จอร์แดน เฟลด์สไตน์ ผู้จัดการวงที่เสียชีวิตเมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ. 2017 แอดัม เลอวีน นักร้องนำกล่าวเพิ่มเติมถึงเพลงนี้ว่ามันเป็น "เพลงสำหรับคนที่เคยประสบความสูญเสีย หรืออีกนัยหนึ่งก็คือเพลงสำหรับทุก ๆ คน" ต่อมาในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2020 มิกกี แมดเดน มือเบสถูกจับกุมหลังถูกกล่าวหาว่าใช้ความรุนแรงในครอบครัว หลังจากนั้นแมดเดนประกาศลาออกจากวง ต่อมาในวันที่ 24 กรกฎาคม ค.ศ. 2020 วงออกซิงเกิลที่สอง "โนบอดีส์เลิฟ" และซิงเกิลที่สาม "บิวตีฟูลมิสเทก" ในวันที่ 3 มีนาคม ค.ศ. 2021 ก่อนจะประกาศว่าอัลบั้มที่ 7 ของวง จะเผยแพร่ในวันที่ 11 มิถุนายน ค.ศ. 2021
อิทธิพลและแนวดนตรี
—เจมส์ วาเลนไทน์
แอดัม เลอวีนกล่าวไว้ว่า "ทุกอย่างที่เขียนและแสดงออกมาและใส่รวมกันค่อนข้างจะมาจากเรา ผมแค่คิดว่าคนจะแปลกใจที่รู้ว่าเราคือหน่วยที่ใส่ความเป็นตัวเองลงไป เราเป็นวงที่ทำตามที่พวกเขาต้องการ ไม่มีผู้ชักนำ"
อย่างไรก็ตาม ในบทความเกี่ยวกับนักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์ เบนนี บลังโก เปิดเผยว่าเพลงของวงบางเพลง เช่น "มูฟส์ไลก์แจกเกอร์" เป็นผลผลิตมาจากความพยายามโดยอาศัยความร่วมมือกับนักเขียนเพลงและโปรดิวเซอร์มืออาชีพ ในบทความเดียวกันนั้น ใส่คำกล่าวของแอดัม เลอวีนที่ว่า "ราวกับว่า [เบนนี บลังโก] มีสัมผัสของมิด้าที่สามารถหาคนที่เหมาะสมเข้าด้วยกันได้ในเวลาที่เหมาะเจาะในการสร้างช่วงเวลาของดนตรีใหม่ ๆ เขาคือความร่วมมือ และเก่งในเรื่องทำให้คนคนหนึ่งทำสิ่งที่ดีที่สุดออกมาได้"
มารูนไฟฟ์เคยอ้างว่าตนได้รับอิทธิพลมาจากไมเคิล แจ็กสัน เดอะโพลิซ บีจีส์ จัสติน ทิมเบอร์เลก และพรินซ์แอดัม เลอวีน ยังอ้างว่าได้รับอิทธิพลจากสตีวี วันเดอร์ และบิลลี โจเอล เช่นกัน ยิ่งกว่านั้น มือกีตาร์ เจมส์ วาเลนไทน์ กล่าวว่าเขาได้รับอิทธิพลจากมือกีตาร์หลายคน เช่น แพท เมธินี, และ รวมถึงวงดนตรีร็อกชื่อ ด้วย เพลงหลายเพลงของวงจะหนักไปที่กีตาร์ มักจะคลอด้วยเปียโนหรือเครื่องสังเคราะห์เสียง เนื้อหาในเพลงส่วนใหญ่เกี่ยวกับความรัก มักจะเป็นการสูญเสียความรัก เพลงอย่าง "ดิสเลิฟ" "เมกส์มีวันเดอร์" และ "" จะมีโทนถากถาง แสดงความไม่พอใจในความสัมพันธ์ ขณะที่เพลงที่ซาบซึ้งใจและเร้าอารมณ์เช่น "ชีวิลบีเลิฟด์" "" นำเสนอความยาวนานในความสัมพันธ์ชู้สาว เพลง "เมกส์มีวันเดอร์" มีเนื้อหารองคือ เลอวีนแสดงความผิดหวังเมื่อรู้ว่าบางสิ่งไม่ได้ดีอย่างที่คิดไว้ และความท้อแท้จากสถานการณ์ทางการเมืองอเมริกา และสงครามอิรัก
ดนตรีของมารูนไฟฟ์เปลี่ยนแปลงไปทุกอัลบั้ม กล่าวคือ อัลบั้มซองส์อะเบาต์เจน เต็มไปด้วยเพลงเกี่ยวกับแฟนเก่าเลอวีนที่ชื่อเจน ในอัลบั้มอิตโวนต์บีซูนบีฟอร์ลอง เพลงในอัลบั้มลดความส่วนตัวลง และมีใช้เครื่องดนตรีไฟฟ้ามากขึ้นด้วยเครื่องสังเคราะห์ดนตรี (synthesizer) ช่วยสร้างความรู้สึกแบบย้อนยุค (retro style) อัลบั้มแฮนส์ออลโอเวอร์ กลับมาที่เนื้อหาเพลงเกี่ยวกับการสูญเสียความรัก รวมไปถึงเพลงเกี่ยวกับความหลงใหล และได้ออกจำหน่ายซ้ำพร้อมเพลง "มูฟส์ไลก์แจกเกอร์" เพลงแนวอิเล็กโทรป็อปที่แสดงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านดนตรีของวง ทำให้ชวนเต้นมากขึ้น เลอวีนกล่าวว่า "มันเป็นหนึ่งในหลายเพลงที่เสี่ยงมาก" "มันเป็นสิ่งที่น่าสนใจและเป็นตัวของตัวเอง (bold statement) เราไม่เคยปล่อยเพลงแบบนั้นออกมาก่อนเลย แต่ก็น่าตื่นเต้นที่ได้ทำอะไรที่แตกต่าง แปลกใหม่ ผมดีใจที่ทุกคนชอบมัน" วาเลนไทน์เรียกอัลบั้มโอเวอร์เอกซ์โพสด์ว่าเป็น "อัลบั้มเพลงแนวป็อปมากที่สุดของพวกเราและเราไม่เคยเขินอายเลยที่ได้ทำมันขึ้นมา" พวกเขายังได้ทดลองกับดนตรีแนวนิวเวฟ และดิสโก้ ในหลาย ๆ อัลบั้ม
สมาชิก
- สมาชิกปัจจุบัน
- แอดัม เลอวีน – ร้องนำ กีตาร์ (1994–ปัจจุบัน)
- เจสซี คาร์ไมเคิล – คีย์บอร์ด เปียโน กีตาร์ให้จังหวะ ร้องเบื้องหลัง (1994–2012; หยุดพักงาน 2012–2014; 2014–ปัจจุบัน)
- เจมส์ วาเลนไทน์ – กีตาร์ ร้องเบื้องหลัง (2001–ปัจจุบัน)
- แมตต์ ฟลินน์ – กลอง เครื่องประกอบจังหวะ (2006–ปัจจุบัน; สมาชิกทัวร์ 2004–2006)
- พีเจ มอร์ตัน – คีย์บอร์ด เปียโน ร้องเบื้องหลัง (2012–ปัจจุบัน; สมาชิกทัวร์ 2010–2012)
- – กีตาร์ กีตาร์เบส เครื่องประกอบจังหวะ ร้องเบื้องหลัง เทิร์นเทเบิลส์ แซมเปิลส์ เอฟเฟกต์อื่น ๆ (2016–ปัจจุบัน; สมาชิกทัวร์ 2012–2016)
- อดีตสมาชิก
- ไรอัน ดูซิก – กลองชุด, เครื่องประกอบจังหวะ, ร้องประกอบ (1994–2006)
- มิกกี แมดเดน – กีตาร์เบส (1994–2020)
- อดีตสมาชิกร่วมทัวร์
- ทอมมี "บูม-บูม" คิง – คีย์บอร์ด, ร้องเบื้องหลัง (ทัวร์ แบ็กทูสคูล ในปี 2009)
- (จากวง โนเดาต์) – กลอง, เครื่องประกอบจังหวะ (ยังเล่นแทนแมตต์ ฟลินน์ ในการแสดงบางรอบในทัวร์ แบ็กทูสคูล เนื่องจากฟลินน์ออกจากวงมารูนไฟฟ์ชั่วคราวด้วย "ปัญหาทางครอบครัว" ดังที่กล่าวไว้ในเว็บไซต์ทางการของวง)
- (จากวง ) – กลอง, เครื่องประกอบจังหวะ (แสดงบางรอบในทัวร์อัลบั้ม ซองส์อะเบาต์เจน – สตีน เคยเป็นมือกลองให้กับวงดนตรีเก่าที่เคยเล่นร่วมกับเจมส์ วาเลนไทน์ ในวง เข้ามาเล่นแทนไรอัน ดูซิก ก่อนที่แมตต์ ฟลินน์ จะเป็นสมาชิกร่วมทัวร์และหลังจากนั้นได้เป็นมือกลองของวง)
- จอช เดย์ – กลอง, เครื่องประกอบจังหวะ (แสดงบางรอบในทัวร์อัลบั้ม ซองส์อะเบาต์เจน – เดย์เข้ามาเล่นแทนดูซิกเช่นกัน เขาเป็นสมาชิกวงที่เล่นเบื้องหลังให้กับซารา บาเรลลิส มาอย่างยาวนาน เขาเล่นให้กับวงจนถึงปี 2013)
เส้นเวลา
รายได้
ใน ค.ศ. 2015 ฟอบส์ประเมินรายได้ต่อปีของมารูนไฟฟ์ไว้ที่ 33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ผลงาน
- มารูนไฟฟ์
- 2002 : ซองส์อะเบาต์เจน (Songs About Jane)
- 2007 : อิตโวนต์บีซูนบีฟอร์ลอง (It Won't Be Soon Before Long)
- 2010 : แฮนส์ออลโอเวอร์ (Hands All Over)
- 2012 : โอเวอร์เอกซ์โพสด์ (Overexposed)
- 2014 : ไฟฟ์ (V)
- 2017 : (Red Pill Blues)
- 2021 : (Jordi)
- คาราส์ฟลาวเออส์
- 1995 : วีไลก์ดิกกิง? (We Like Digging?)
- 1997 : เดอะโฟร์ธเวิลด์ (The Fourth World)
- 1999 : สแต็กสตรีทเรคอร์ดิงส์ (Stagg Street Recordings)
ความสำเร็จ
มารูนไฟฟ์ได้เข้าชิงรางวัลแกรมมี 3 รางวัล รางวัลอเมริกันมิวสิกอะวอดส์ 3 รางวัล รางวัลบิลบอร์ดมิวสิกอะวอดส์ 4 รางวัล และรางวัล 4 รางวัล ในการประกาศรางวัลเวิลด์มิวสิกอะวอดส์ 2004 พวกเขาชนะรางวัล "กลุ่มหน้าใหม่ยอดเยี่ยมของโลก" (World's Best New Group)
อัลบั้ม แฮนส์ออลโอเวอร์ สตูดิโออัลบั้มลำดับที่สามของวง ออกจำหน่ายในเดือนกันยายน ค.ศ. 2010 ขึ้นอันดับที่สองบนชาร์ตบิลบอร์ด 200 ใน ค.ศ. 2011 อัลบั้มดังกล่าวออกจำหน่ายซ้ำและได้เพลง "มูฟส์ไลก์แจกเกอร์" ที่มีร้องรับเชิญโดยคริสตินา อากีเลรา กลายเป็นเพลงที่สองของวงที่ขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ตฮอต 100 ขายได้ 14.4 ล้านหน่วยทั่วโลก และกลายเป็นหนึ่งในซิงเกิลที่ขายดีที่สุดทั่วโลก มารูนไฟฟ์ออกอัลบั้มลำดับที่สี่ โอเวอร์เอกซ์โพสด์ เมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2012 อัลบั้มขึ้นอันดับสองบนชาร์ตบิลบอร์ด 200 ซิงเกิลสองเพลงแรกคือ "เพย์โฟน" และ "วันมอร์ไนต์" ต่างก็เป็นที่นิยมทั่วโลกและขึ้นอันดับที่สอง และอันดับที่หนึ่งบนชาร์ตฮอต 100 ตามลำดับ "วันมอร์ไนต์" สามารถเอาชนะเพลง "คังนัมสไตล์" ของไซ ได้โดยขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 และอยู่ได้นานเท่ากับเพลง "" ของคาร์ลี เร เจปเซน แอดัม เลอวีนยังได้รับความนิยมจากการเป็นกรรมการตัดสินในรายการประกวดพรสวรรค์ เดอะวอยซ์ ซึ่งออกอากาศทางช่องเอ็นบีซีด้วย
มารูนไฟฟ์อยู่อันดับที่ 15 จากการจัดอันดับ "ศิลปินแถวหน้า หมวดซิงเกิลดิจิทัล" ของสมาคมผู้ประกอบกิจการเพลงของสหรัฐอเมริกา โดยมียอดขายที่ยืนยันว่าขายได้ 15 ล้านหน่วยในสหรัฐอเมริกา ใน ค.ศ. 2013 มารูนไฟฟ์เป็นศิลปินที่ถูกเปิดเพลงมากที่สุดอันดับสามของชาร์ต วัดจากบริการ ของบริษัท กลายเป็นหนึ่งในศิลปินที่ประสบความสำเร็จที่สุดในสังกัดอินเตอร์สโคปเรเคิดส์ ในวันที่ 10 กันยายน ค.ศ. 2014 สตูดิโออัลบั้มลำดับที่ห้า ไฟฟ์ (V) เปิดตัวที่อันดับที่หนึ่งบนชาร์ตบิลบอร์ด 200 ด้วยยอดขาย 164,000 อัลบั้มในสัปดาห์แรก ใน ค.ศ. 2013 มารูนไฟฟ์อยู่ในอันดับที่ 94 ในรายชื่อ 100 ศิลปินยอดเยี่ยมตลอดกาลในงานครบรอบ 55 ปีของชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 จากซิงเกิลที่ประสบความสำเร็จอย่าง "มูฟส์ไลก์แจกเกอร์" "เพย์โฟน" และ "วันมอร์ไนต์"
ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2015 วงติดอันดับที่ 44 ในรายชื่อฮอต 100 ยอดเยี่ยมที่สุดในรอบ 57 ปี บิลบอร์ดฮอต 100
ทัวร์คอนเสิร์ต
- ซองส์อะเบาต์เจนทัวร์ (2002–04)
- (2005)
- อิตโวนต์บีซูนบีฟอร์ลองทัวร์ (2007-2008)
- แบ็กทูสคูลทัวร์ (2009)
- พาล์มทรีส์แอนด์เพาเวอร์ลายส์ทัวร์ (2010)
- แฮนส์ออลโอเวอร์ทัวร์ (2010-2012)
- (2012-2014)
- (2013)
- มารูนไฟฟ์เวิลด์ทัวร์ 2015 (2015)
- เรดพิลล์บลูส์ทัวร์ (2018-2019)
- มารูนไฟฟ์ 2020–2021 ทัวร์ (2020–2021)
การกุศล
- ตั้งแต่ ค.ศ. 2008 มารูนไฟฟ์ได้ร่วมมือกับองค์กรไม่แสวงผลกำไร รีเวิร์บ (REVERB) โดยการทัวร์สีเขียว และชักชวนแฟนเพลงให้ทำกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม
- มารูนไฟฟ์เป็นผู้สนับสนุนองค์กรเอดสติลรีไควด์ (Aid Still Required; ASR) มาอย่างยาวนาน หลังจากอุทิศเพลง "ชีวิลบีเลิฟด์" ฉบับเล่นสดให้กับซีดีเพลงขององค์กรเพื่อช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์สึนามิในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ค.ศ. 2004 แล้ว มารูนไฟฟ์ยังบันทึกเสียงประกาศสู่สาธารณะให้กับองค์กร ASR เกี่ยวกับสิ่งที่จำเป็นต้องทำให้กับเฮติด้วย มารูนไฟฟ์เข้าร่วมโครงการรณรงค์ผ่านสื่อสังคมขององค์กรหลายโครงการ และเลอวีนได้จัดงานพบปะแฟนคลับในฉากของรายการเดอะวอยซ์เพื่อสมทบทุนช่วยเหลือโครงการหลายโครงการขององค์กร ASR
- มารูนไฟฟ์สนับสนุนมูลนิธิโรคมะเร็งปอด บอนนี เจ. แอดดาริโอ
- ในปี ค.ศ. 2006 มารูนไฟฟ์ได้รางวัลเอนไวรอนเมนทัลมีเดียอะวอดส์ เนื่องจากบริจาครายได้จากทัวร์คอนเสิร์ตที่อเมริกาเหนือ 2005 ให้กับองค์กรสิ่งแวดล้อมโลกแห่งหนึ่งชื่อ "โกลบอลคูล"
- ในปี ค.ศ. 2011 มารูนไฟฟ์ (ร่วมด้วย พีเจ มอร์ตัน ซึ่งยังเป็นสมาชิกร่วมทัวร์ในขณะนั้น) เข้าร่วมโครงการ "24 ฮาวร์เซสชัน" กับโคคา-โคล่า พวกเขาเขียนและบันทึกเพลง "อิซเอนีบอดีเอาต์แดร์" ภายในเวลา 24 ชั่วโมง หลังจากจบโครงการ เพลงดังกล่าวมีให้รับชมในเว็บไซต์โคคา-โคล่า มีประกาศว่าถ้าเพลงถูกดาวน์โหลดมากกว่า 100,000 ครั้ง วงจะบริจาคน้ำสะอาดให้ทวีปแอฟริกา
- แอดัม เลอวีน หลังจากน้องชายเปิดเผยว่าเป็นเกย์ ได้กลายเป็นผู้สนับสนุนการแต่งงานกับเพศเดียวกัน และสิทธิของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ ในปี ค.ศ. 2011 เขาเปิดบัญชีทางการของมารูนไฟฟ์ในยูทูบเพื่อสนับสนุนโครงการอิตเก็ตส์เบ็ตเทอร์โปรเจกต์ ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2012 เขาประกาศว่า มารูนไฟฟ์ได้เปลี่ยนแปลงสถานที่แสดงหลังการประกาศรางวัลแกรมมี เนื่องจาก "การสนับสนุน ของร้านอาหารที่ไม่ระบุชื่อแห่งหนึ่งในลอสแอนเจลิส"
- สนับสนุนกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ
อ้างอิง
- "Up close with Maroon 5- Facebook and Twitter competition to give patron meeting with Rock band". . January 2, 2011. สืบค้นเมื่อ July 17, 2011.
- "Maroon 5". Billboard. สืบค้นเมื่อ July 17, 2011.
- Leahey, Andrew. "Kara's Flowers". AllMusic. . สืบค้นเมื่อ July 31, 2012.
- "Maroon5 Breaks Out Slowly But Surely". Billboard. August 13, 2003. สืบค้นเมื่อ October 18, 2014.
- "Maroon 5". GRAMMY.com (ภาษาอังกฤษ). March 17, 2014. สืบค้นเมื่อ February 4, 2019.
- Moss, Corey (March 6, 2007). "Maroon 5 Back With 'Harder' Album After Adam Levine Gets Sick Of Partying". . สืบค้นเมื่อ July 25, 2007.[]
- Trakin, Roy (May 9, 2014). "Maroon 5 Signs with Interscope Records, Live Nation for Worldwide Tour Deal". . สืบค้นเมื่อ June 26, 2018.
- Universal Music (June 9, 2014). . UniversalMusic.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-06-26. สืบค้นเมื่อ June 26, 2018.
- Aaron, Brown (September 17, 2014). "iTunes Festival: Maroon 5 enthusiastically blend fan-favourites and brand-new singles". Daily Express. สืบค้นเมื่อ April 24, 2015.
- . The InternetTrash. Web.archive.org. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2001-04-17. สืบค้นเมื่อ 2014-08-01.
- Visakowitz, Susan, "Sophomore Jump". They were inspired by August Calderon Billboard. 119 (17)
- Hoard, Christian (2004-06-45), "A Whiter Shade of Funk". Rolling Stone (950):43–44
- McIntosh, Gregory. "Kara's flowers". AllMusic. สืบค้นเมื่อ July 25, 2007.
- Kimpel, Dan (2006). How they made it: true tit stories of how music's biggest stars went from start to stardom!. Milwaukee: Hal Leonard Corporation. p. 87. ISBN .
- Kimpel 2006, pp. 87–88.
- Rosen, Craig (June 5, 2005), "Gold 5". Billboard. 117 (23):
- "Interview with Ben Berkman". . Apr 13, 2004. สืบค้นเมื่อ Nov 25, 2010.
- . Archive of early band biography on Maroon 5 official site. September 28, 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-09-28. สืบค้นเมื่อ February 19, 2015.
{{}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown () - "Maroon 5". Oxford Music Online. Oxford University Press. จากแหล่งเดิมเมื่อ February 7, 2021. สืบค้นเมื่อ December 26, 2020.
- "Interview with Ben Berkman, A&R at Octone Records for Maroon 5". Hitquaters. สืบค้นเมื่อ 2014-10-03.
- Maroon 5 (2006). Midnight miles: on the road through 5 continents & 17 countries. Photographs by Christopher Wray-McCann. New York: Simon & Schuster. pp. 86–87. ISBN .
- Visakowitz, Susan (April 22, 2007). . Reuters. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-24. สืบค้นเมื่อ August 7, 2015.
- . Billboard. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 10, 2007. สืบค้นเมื่อ July 25, 2007.
- "Reviews for It Won't Be Soon Before Long by Maroon 5". Metacritic. May 22, 2007. สืบค้นเมื่อ October 18, 2014.
- Leeds, Jeff (May 21, 2007). "Second CD By Maroon 5 Faces Great Expectations". New York Times.
- Waddell, Ray (June 4, 2005), "Hit The Road". Billboard. 117 (23):
- . mtv.tv. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-11-20. สืบค้นเมื่อ 2014-10-18.
- . . 2005. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-11-20. สืบค้นเมื่อ 2014-10-18.
- . baltimoresun.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-10-06. สืบค้นเมื่อ October 3, 2014.
- "Matchbox Twenty, Sugar Ray Team For Tour". Billboard. สืบค้นเมื่อ 2014-10-18.
- "Maroon 5, Counting Crows Plot Summer Tour". Billboard. สืบค้นเมื่อ 2014-10-18.
- . . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-11-20. สืบค้นเมื่อ 2014-10-18.
- "Maroon 5, The Hives Make Unlikely Touring Team". Billboard. สืบค้นเมื่อ 2014-10-18.
- . Metro Radio. November 29, 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-11-02. สืบค้นเมื่อ October 18, 2014.
- "New BMI Band Simon Dawes Lands Maroon 5 Tour". BMI. สืบค้นเมื่อ 2014-10-18.
- "Maroon5 Tapped For Honda Civic Tour". Billboard. January 28, 2005. สืบค้นเมื่อ October 18, 2014.
- "Maroon 5 Album Performance". aCHarts.us. สืบค้นเมื่อ July 25, 2007.
- "Chart History – Maroon 5". Billboard. 2007. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-09-29. สืบค้นเมื่อ July 25, 2007.
- . Rolling Stone. July 2, 2005. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 24, 2007. สืบค้นเมื่อ July 25, 2007.
- . Motor Trend. February 4, 2005. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-10-29. สืบค้นเมื่อ July 25, 2007.
- "33rd AFI Life Achievement Award". AFI.com. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-04-04. สืบค้นเมื่อ April 28, 2008.
- Maroon 5 2006, pp. 86–87.
- Moss, Corey (March 6, 2007). . MTV. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-11-21. สืบค้นเมื่อ July 25, 2007.
- Peters, Mitchell (March 12, 2007). "Maroon 5 Finds Its Groove On Sophomore Album". Billboard. สืบค้นเมื่อ July 25, 2007.
- Baber, Darren (April 26, 2007). "Maroon 5 Dominates iTunes Sales Chart With Three Simultaneous Number Ones". PR Newswire. สืบค้นเมื่อ July 25, 2007.
- Pollock, Duncan (2007). "Review: It Won't Be Soon Before Long — Maroon 5". Jacarandafm.com (94.2 FM). สืบค้นเมื่อ July 25, 2007.[]
- Powers, Ann. "Maroon 5". latimes. Los Angeles Times. สืบค้นเมื่อ 14 November 2014.
- "Maroon 5 album breaks iTunes sales record". MacNN.com. May 30, 2007. สืบค้นเมื่อ July 25, 2007.
- Bronson, Fred (May 2, 2007). "Chart Beat". . สืบค้นเมื่อ July 25, 2007.
- . . 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 29, 2007. สืบค้นเมื่อ July 25, 2007.
- MTV News staff (May 4, 2007). . MTV News. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-05-06. สืบค้นเมื่อ July 25, 2007.
- . . June 14, 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-07-13. สืบค้นเมื่อ July 25, 2007.
- "No Need to 'Wonder' – Maroon 5 Debuts at No. 1". . สืบค้นเมื่อ July 25, 2007.
- . Maroon5.com. July 10, 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-08-22. สืบค้นเมื่อ July 25, 2007.
- . KEYT3 Santa Barbara. July 9, 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-09-27. สืบค้นเมื่อ July 25, 2007.
- . Maroon5.com. July 9, 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-08-22. สืบค้นเมื่อ July 25, 2007.
- "Maroon 5 Announces Fall Tour Dates". Billboard. January 28, 2010. สืบค้นเมื่อ October 18, 2014.
- . TV.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-01-08. สืบค้นเมื่อ 2014-12-02.
- Greene, Andy (June 28, 2007), "Maroon 5: Back on Top". Rolling Stone. (1029):16
- Dorian, John. . International Business Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 4, 2010. สืบค้นเมื่อ December 2, 2014.
- . cornellsun. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-04-05.
- "Billboard 200 archives". Billboard. October 9, 2010. สืบค้นเมื่อ October 29, 2014.
- "Maroon 5 debuts at number 2 on the Billboard 200". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-10-08. สืบค้นเมื่อ October 27, 2014.
- . At40.com. April 26, 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-26. สืบค้นเมื่อ July 17, 2011.
- . Maroon5.com. July 12, 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 4, 2012. สืบค้นเมื่อ July 15, 2011.
- . Maroon5. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-02-23. สืบค้นเมื่อ October 21, 2014.
- "Maroon 5 Q&A I Billboard.com". Billboard. September 8, 2011. สืบค้นเมื่อ September 8, 2011.
- Brasil, Marcus Vinícius (2011-10-02). "Maroon 5 faz a alegria do público feminino no Rock in Rio" (ภาษาโปรตุเกส). G1. สืบค้นเมื่อ 2011-10-02.
- Porto, Henrique (2011-08-24). "Jay-Z cancela participação no Rock in Rio; Maroon 5 substitui rapper" (ภาษาโปรตุเกส). G1. สืบค้นเมื่อ 2011-10-02.
- . drpeppersnapplegroup. August 22, 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-10-06. สืบค้นเมื่อ 2014-10-03.
- "Maroon 5 - Moves Like Jagger (Live at Victoria's Secret Fashion Show)". The Hollywood Gossip. สืบค้นเมื่อ 2014-12-02.
- . . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-10-06. สืบค้นเมื่อ 2014-10-03.
- . Maroon 5. March 9, 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 14, 2012. สืบค้นเมื่อ March 26, 2012.
- . Rolling Stone. 2012-03-26. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-04-10. สืบค้นเมื่อ 2012-03-26.
- "Maroon 5 Ties Carly Rae Jepsen for Most Weeks at #1". Time. สืบค้นเมื่อ October 3, 2014.
- . Voice21. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-10-25. สืบค้นเมื่อ 2014-10-25.
- "Maroon 5 - Woman (Sam Farrar Remix)". Youtube. สืบค้นเมื่อ October 25, 2014.
- "'The Voice' Narrows Finalists to 12, Maroon 5 Rock 'Daylight'". RollingStone. สืบค้นเมื่อ 2014-12-02.
- "Maroon 5 Daylight Official Video". youtube. สืบค้นเมื่อ 2014-10-03.
- Lipshutz, Jason (April 1, 2013). "Maroon 5, Kelly Clarkson Team Up For Honda Civic Tour". Billboard. จากแหล่งเดิมเมื่อ March 18, 2015. สืบค้นเมื่อ March 24, 2015.
- . radioandrecords.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ กันยายน 27, 2013.
- Kaufman, Gil (April 1, 2013). "Maroon 5 Have Great 'Great Songs' Recorded for Next Album". . Viacom International. จากแหล่งเดิมเมื่อ May 4, 2013. สืบค้นเมื่อ May 12, 2013.
- "Maroon 5 Perform The Beatles Ticket To Ride Excerpt". grammy.com. February 7, 2014. จากแหล่งเดิมเมื่อ October 6, 2014. สืบค้นเมื่อ October 3, 2014.
- "Maroon 5 announce new album "V" and tour". Capital FM. May 22, 2014. สืบค้นเมื่อ October 22, 2014.
- "Maroon 5 performs 'Maps' live on TODAY". TODAY. สืบค้นเมื่อ 2014-10-03.
- Daw, Robbie. "Maroon 5 Announce "Maps" Single Ahead Of New Album 'V'". Idolator. สืบค้นเมื่อ 4 June 2014.
- "Maroon 5 Chart History". Billboard. September 3, 2014. สืบค้นเมื่อ October 18, 2014.
- "Maroon 5 On Course for Second No. 1 Album". Billboard. September 3, 2014. สืบค้นเมื่อ October 18, 2014.
- "Billboard archives". Billboard. October 20, 2014. สืบค้นเมื่อ October 29, 2014.
- Wete, Brad. "Maroon 5 Tightens Up on 'V': Track-By-Track Review". Billboard. Billboard. สืบค้นเมื่อ 14 November 2014.
- "Maroon 5 Ensure iTunes Festival Performance Is Anything But 'One More Night'". MTV. 12 September 2014. สืบค้นเมื่อ 22 October 2014.
- . Maroon 5. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-12-16. สืบค้นเมื่อ 2014-12-02.
- Mitchell Peters (October 25, 2014). "Ariana Grande, Maroon 5, Pharrell Williams to Perform on 'A Very Grammy Christmas'". Billboard. สืบค้นเมื่อ November 16, 2014.
- Jim Farber (October 9, 2014). "Z100's Jingle Ball 2014 line-up includes Taylor Swift, Sam Smith, Iggy Azalea". New York Daily News. สืบค้นเมื่อ November 16, 2014.
- . January 7, 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-01-13. สืบค้นเมื่อ 2015-01-29.
- Colin Stutz (November 6, 2014). "Maroon 5's 'Sugar' to Be Featured in Nissan Commercial". Billboard.
- "Instagram". Instagram.
- "Maroon 5 have a greatest hits on the way, but some of the hits are missing". Digital Spy. สืบค้นเมื่อ September 15, 2015.
- "Maroon 5 - Greatest Hits - SINGLES - Oct 2nd". Flop Of The Pops. สืบค้นเมื่อ September 15, 2015.
- . m5newsroom.blogspot.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-01-05. สืบค้นเมื่อ September 15, 2015.
- . Maximum Pop!. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-07-15. สืบค้นเมื่อ September 15, 2015.
- "Maroon 5 in Talks to Perform at Super Bowl 50 Halftime Show: Report". Billboard. สืบค้นเมื่อ October 23, 2015.
- "Adam Levine and Maroon 5 in Talks to Perform During Super Bowl 50 Halftime Show". E! Online. October 21, 2015. สืบค้นเมื่อ October 23, 2015.
- . m5newsroom.blogspot.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-10-24. สืบค้นเมื่อ October 23, 2015.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-11-08. สืบค้นเมื่อ 2015-11-19.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-08-15. สืบค้นเมื่อ 2016-07-26.
- http://www.maroon5.com/news/maroon-5-has-partnered-unicef-usa-help-donate-their-children-first-campaign-celebration
- "94.7 Fresh FM on Twitter". สืบค้นเมื่อ May 27, 2017.
- Hann, Michael (November 2, 2017). "Maroon 5: Red Pill Blues review – impeccable pop and middling R&B". The Guardian. สืบค้นเมื่อ March 25, 2017.
- . 947freshfm.cbslocal.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 27, 2017. สืบค้นเมื่อ May 27, 2017.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 15, 2017. สืบค้นเมื่อ August 26, 2017.
- "Maroon 5 – Red Pill Blues". AllMusic. November 3, 2017. สืบค้นเมื่อ March 25, 2018.
- "Maroon 5 Guitarist Clears Up Confusion Over 'Red Pill Blues' Album Title". . October 31, 2017. สืบค้นเมื่อ August 22, 2018.
- "Maroon 5 Announces New Album 'Red Pill Blues': See the Track List". Billboard. สืบค้นเมื่อ March 25, 2018.
- Blistein, Jon (October 5, 2017). "Maroon 5 Detail New Album, 'Red Pill Blues'". Rolling Stone. สืบค้นเมื่อ September 17, 2018.
- "Hyundai x 2018 FIFA World Cup™ㅣWorld Cup campaign with Maroon 5". YouTube. June 15, 2018.
- Kreps, Daniel (June 10, 2018). "Watch Maroon 5's Video for Bob Marley Cover 'Three Little Birds'". Rolling Stone. สืบค้นเมื่อ November 16, 2018.
- Grow, Kory (January 17, 2019). "Chris Cornell's Passion Dominates Star-Studded Tribute Show". Rolling Stone. สืบค้นเมื่อ January 18, 2019.
- Kaplan, Ilana (February 3, 2019). "Super Bowl LIII: See Maroon 5's Surprise-Free Halftime Show Feat. Travis Scott, Big Boi". Rolling Stone. สืบค้นเมื่อ February 3, 2019.
- Sara Jane Harris (February 5, 2019). "Five worst Super Bowl performances in NFL history". Sporting News. สืบค้นเมื่อ February 6, 2019.
- "Maroon 5's Summertime Ball Performance Including 'Sugar' And 'Moves Like Jaggger' Has Us All Reminiscing". . June 10, 2019. สืบค้นเมื่อ June 11, 2019.
- Dresdale, Andrea. . . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-10-15. สืบค้นเมื่อ October 15, 2019.
- "Maroon 5 Manager Jordan Feldstein's Cause of Death Revealed". . March 17, 2018. สืบค้นเมื่อ October 8, 2019.
- Caldwell, Brandon (September 20, 2019). . Radio Now 92.1. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-09-23. สืบค้นเมื่อ September 23, 2019.
- Chiu, Melody; Boucher, Ashley (June 30, 2020). "Maroon 5's Mickey Madden Arrested After Alleged Incident of Domestic Violence in Los Angeles". People. สืบค้นเมื่อ July 1, 2020.
- Legaspi, Althea (July 14, 2020). "Maroon 5's Mickey Madden Takes Leave of Absence After Arrest for Alleged Domestic Violence". Rolling Stone. สืบค้นเมื่อ July 24, 2020.
- Wass, Mike (July 21, 2020). "Maroon 5 Teases New Single "Nobody's Love"". . สืบค้นเมื่อ July 21, 2020.
- Findlay, Mitch (March 3, 2021). "Maroon 5 Enlists Megan Thee Stallion For "Beautiful Mistakes"". HotNewHipHop. สืบค้นเมื่อ March 3, 2021.
- "Jordi by Maroon 5 on Apple Music". สืบค้นเมื่อ April 29, 2021 – โดยทาง Apple Music.
- Bell, Crystal (June 26, 2012). "Maroon 5, 'Overexposed': Guitarist James Valentine Talks Adam Levine, 'She Will Be Loved' & 'Call Me Maybe'". Huffington Post. สืบค้นเมื่อ 27 April 2013.
- "7 Questions With Maroon 5's Adam Levine". Idolator.com. 2010-09-24. สืบค้นเมื่อ 2013-03-22.
- McKinley Jr, James C. (January 4, 2013). "Benny Blanco, Hit Maker for Rihanna and Maroon 5". The New York Times.
- "Benny Blanco, Hit Maker for Rihanna and Maroon 5". The New York Times. สืบค้นเมื่อ 2014-10-03.
- . MTV. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-08-21. สืบค้นเมื่อ 2014-12-02.
- Rosen, Steven. . . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-05-29. สืบค้นเมื่อ 27 April 2013.
- . The Australian. May 1, 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-06-04. สืบค้นเมื่อ 2015-01-29.
- "Adam Levine Calls 'Moves Like Jagger' a 'Risk' for Maroon 5: Video Interview". Billboard. สืบค้นเมื่อ 2012-12-16.
- "Fourth album 'Overexposed' June 26th". Maroon 5. March 26, 2012. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-03-28. สืบค้นเมื่อ March 26, 2012.
- Ann Powers. "Maroon 5". LA Times.
- Kathy Iandoli (September 2, 2014). "Maroon 5's 'V': Album Review". Idolator.
- "V Album Review (2014)". PluggedIn.
- Sheffield, Rob (June 26, 2012). "Overexposed | Album Reviews | Rolling Stone". Rolling Stone. สืบค้นเมื่อ June 26, 2012.
- . The Morning Call. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-07-10. สืบค้นเมื่อ March 17, 2016.
- "Band Bios Matt Flynn". Maroon5 S.I.N. สืบค้นเมื่อ 2014-10-26.
- . zap2it. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-10-25. สืบค้นเมื่อ 2014-10-25.
- . VH1. September 2, 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-01-04. สืบค้นเมื่อ October 29, 2014.
- "Mickey Madden". Billboard. สืบค้นเมื่อ 2014-10-25.
- "PJ Morton is more than just the second keyboard player in Maroon 5". AXS. สืบค้นเมื่อ 2014-10-26.
- "NME News Gomez, Phantom Planet, Maroon 5 members". NME. สืบค้นเมื่อ 2014-10-03.
- "Former Maroon 5 Drummer Ryan Dusick Lists in Los Feliz". Zillow. สืบค้นเมื่อ 2014-10-26.
- ธนากร สุนทร (July 15, 2020). "Mickey Madden ลาออกจากวง Maroon 5 หลังถูกจับกุมข้อหาใช้ความรุนแรงในครอบครัว". The Standard. สืบค้นเมื่อ July 24, 2020.
- . popdirt. June 10, 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-10-29. สืบค้นเมื่อ October 29, 2014.
- . MTV. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-11-23. สืบค้นเมื่อ October 29, 2014.
- "Maroon 5". Forbes. 2015. สืบค้นเมื่อ April 28, 2016.
- "Past GRAMMY Awards". GRAMMY. สืบค้นเมื่อ November 3, 2014.
- "Winners Search 2011". TheAMAs. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-11-07. สืบค้นเมื่อ November 7, 2014.
- "Winners Search 2012". TheAMAs. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-11-07. สืบค้นเมื่อ November 7, 2014.
- "Winners Search 2013". TheAMAs. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-11-07. สืบค้นเมื่อ November 7, 2014.
- "NEWS 2004 Teen Choice Awards winners list". moono. จากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-03-13. สืบค้นเมื่อ November 7, 2014.
- "2004 World Music Awards Winners". Billboard. September 16, 2004. สืบค้นเมื่อ November 7, 2014.
- "Bruno Mars claims 2 best-selling digital songs of 2011". Music Week. สืบค้นเมื่อ 2012-03-08.
- "Maroon 5 Reaches No. 1 on Hot 100 with 'One More Night'". Billboard. September 19, 2012. สืบค้นเมื่อ October 18, 2014.
- Sinha-Roy, Piya. . Reuters. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-11-09. สืบค้นเมื่อ 9 November 2014.
- "RIAA – Top Artists (Digital Singles)". Recording Industry Association of America. สืบค้นเมื่อ November 8, 2014.
- "Mediabase : Year-End Edition 2013" (PDF). Pdf.mediabase.com. สืบค้นเมื่อ 2014-08-01.
- "Hot 100 55th Anniversary By The Numbers: Top 100 Artists, Most No. 1s, Biggest No. 2s & More". Billboard staff. สืบค้นเมื่อ April 19, 2016.
- "Greatest of All Time—Hot 100". Billboard. สืบค้นเมื่อ April 19, 2016.
- "Maroon 5, Kelly Clarkson Team Up For Honda Civic Tour". Billboard. Billboard. สืบค้นเมื่อ 2014-10-03.
- https://www.maroon5.com/ The 2020 Tour สืบค้นเมื่อ December 8, 2019
- Along with 14 other artists who donated tracks to the album including Paul McCartney, Eric Clapton, Bonnie Raitt and Norah Jones, Maroon 5 donated the live recording of "She Will Be Loved" to ASR's All-Star CD to support victims in the aftermath of the 2004 Southeast Asian tsunami.
- "More Stars Join Tsunami Relief Efforts". Billboard. January 11, 2005. สืบค้นเมื่อ October 18, 2014.
- "Haiti Social Media Campaign". Aid Still Required. 2012-11-18. สืบค้นเมื่อ 2014-08-01.
- . Omaze. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-06-04. สืบค้นเมื่อ 2014-08-01.
- . ㅣLIVE EARTH. 2009. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-11-05. สืบค้นเมื่อ 2012-08-05.
- . Coca-Cola, Maroon 5 24 Hour Session. 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-02-01. สืบค้นเมื่อ 2012-08-05.
- Michelson, Noah (January 25, 2012). "Adam Levine And Maroon 5 Boycotting Mexican Restaurant For Anti-Gay Marriage Stance". Huffington Post. สืบค้นเมื่อ January 29, 2012.
- "Maroon 5's Adam Levine Speaks Out Against LGBT Violence". Billboard. 2010-10-13. สืบค้นเมื่อ 2014-12-02.
- . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-08-15. สืบค้นเมื่อ 2016-07-26.
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์ทางการ
- มารูนไฟฟ์ ที่เอกซ์ (ทวิตเตอร์)
- มารูนไฟฟ์ ที่เฟซบุ๊ก
- วิดีโอ ที่ยูทูบ
- มารูนไฟฟ์ ที่ มายสเปซ
wikipedia, แบบไทย, วิกิพีเดีย, วิกิ หนังสือ, หนังสือ, ห้องสมุด, บทความ, อ่าน, ดาวน์โหลด, ฟรี, ดาวน์โหลดฟรี, mp3, วิดีโอ, mp4, 3gp, jpg, jpeg, gif, png, รูปภาพ, เพลง, เพลง, หนัง, หนังสือ, เกม, เกม, มือถือ, โทรศัพท์, Android, iOS, Apple, โทรศัพท์โมบิล, Samsung, iPhone, Xiomi, Xiaomi, Redmi, Honor, Oppo, Nokia, Sonya, MI, PC, พีซี, web, เว็บ, คอมพิวเตอร์
maruniff xngkvs Maroon 5 epnwngdntriaenwpxprxksychatixemrikncaklxsaexneclis rthaekhlifxreniy kxnkxtngwngpccubn smachikekasikhn idaekaexdm elxwin kitar rxngna ecssi kharimekhil kitarcnghwaaelarxngebuxnghlng mikki aemdedn kitarebs aelairxn dusik klxng ekhykxtngwngchux kharasflawexxs Kara s Flowers emuxpi kh s 1994 khnayngeriynthiihskul wngekhyxxkxlbmdwytnexnginchux wiilkdikking tngchuxwngtamklumphuhyingthismachikwnghlngihl kharasflawexxsesnsyyakbsngkdriphriserekhids aelaxlbmchux edxaofrthewild in kh s 1997 hlngidrbkartxbrbimdink smachikwngaeykthangknaelaeriyninwithyalymaruniffmaruniffaesdnginpi 2019khxmulphunthanruckinchuxkharasflawexxs 1994 2001 thiekidlxsaexneclis rthaekhlifxreniy shrthaenwephlngpxp pxprxk fngkrxk aednspxp bluxaydosl nioxosl sxftrxkchwngpi1994 pccubnkhayephlngwxrenxrbraethxs exaexndexmxxkothn xinetxrsokhp ophlidxrsmachikaexdm elxwin ecssi kharimekhil ecms waelnithn aemtt flinn phiec mxrtnxditsmachikirxn dusik mikki aemdednewbistmaroon5 wbr com in kh s 2001 wngklbmarwmtwkninnammaruniff thadntriaenwthangthiaetktang idecms waelnithnephimepnsmachikihm maruniffesnsyyakbsngkd sngkdyxykhxngkhayecerekhids aelaxxkxlbmaerk sxngsxaebatecn ineduxnmithunayn kh s 2002 singekilaerkkhux hardedxrthubrid thukepidbxykhrng thaihxlbmidepidtwthixndbhkinbilbxrd 200 in kh s 2004 xlbmidrbkarrbrxngradbthxngkhakhaw wngkhwarangwlaekrmmisakhasilpinihmyxdeyiympi 2005 inpi kh s 2006 irxn dusiklaxxkcakwnghlngprasbxakarkhxmuxaelaihlbadecbrunaerng aelaidaemtt flinnmaaethntaaehnngedim xlbmchudthisxng xitowntbisunbifxrlxng wangcahnayineduxnphvsphakhm kh s 2007 xlbmnikhunxndb 1 bnbilbxrd 200 aelasingekilaerkcakxlbm emksmiwnedxr klayepnephlngaerkkhxngwngthikhunxndb 1 bnbilbxrdhxt 100 ineduxnknyayn kh s 2010 wngxxkstudioxxlbmladbthisamchux aehnsxxloxewxr idrbkartxbrbaebbphsmkn xlbmcahnaysainpi kh s 2011 ephimephlng mufsilkaeckekxr khunthungxndbhnungbnchartbilbxrdhxt 100 inpi kh s 2012 kharimekhillaxxkcakwngaelaidphiec mxrtn maelnaethn wngidxxkxlbmthisichux oxewxrexksophst ephlng wnmxrint khunxndbhnungbnchartbilbxrdhxt 100 nanekaspdah inpi kh s 2014 kharimekhilklbmarwmwngphrxmkbmxrtn xdxlbmthiha iff V wngesnsyyakbkhayxinetxrsokhperekhids aelasngkd khxngelxwinexng hlngcakwangcahnayxlbmiff xlbmkhunxndbhnungbnchartbilbxrd 200 inpi kh s 2016 maruniffrb xditsmachikwng thirwmngankbwngmanan ephuxthastudioxxlbmthihk wangcahnayineduxnphvscikayn kh s 2017 odyprakassmachikwngkhnthiecdxyangepnthangkar singekil cakxlbm khunxndbhnungbnbilbxrdhxt 100 epnsingekilxndbhnungsingekilthisikhxngwng maruniffkhayidmakkwa 109 lansingekil aela 27 lanxlbm klayepnhnunginsilpinthikhaydithisudkhxngolkprawti1994 2002 kharasflawexxs aelakarkxtngmaruniff aexdm elxwinidruckkbirxn dusik phanephuxnaelamuxkitar aexdm sxlsaemn khnannelxwinxayu 15 pi aeladusikxayu 16 pi smachikwngdngedimsikhnphbknkhnasuksathi Brentwood School inlxsaexneclis khnaeriynthiebrntwud aexdm elxwinaelaecssi kharimekhilrwmkbmikki aemdednaelairxn dusiktngwngdntriaenwrxkchux Kara s Flowers odychuxwngmacakklumaefndntriklumhnungthismachikinwng tkhlumrkrwmkn in kh s 1997 rahwangphwkekhaelndntrixyu n ngansngsrrkhchayhadaehnghnunginmalibu thxmmi xleln oprdiwesxrxindi idyinphwkekhaelndntriaelayunkhxesnxtwepnphucdkarihphwkekhaaelaihxdbnthukcnesrckbcxhn edxniokhla John DeNicola nkaetngephlngkhuhukhxngekha sungmichuxcakxlbmchud sungmiephlngxyang thimcdkarkhxngoprdiwesxr idyinbnthukthixlelnaelaedxniokhlaphlit sunginthisudthaihkhawaoyesnxkhxtklngekhasngkd Reprise Records thwa hlng edxaofrthewild xxkmain kh s 1997 rahwangthielxwinaelaaemdedneriynihskulpisudthay phwkekhakepliynepnwngthimisitlaebbbritpxpyukh 60 aemwngaelatnsngkdkhadhwngkbxlbmnimak aetxlbmkimtidhuaelasingekilnakhxngphwkekha ospdisok epnkhwamlmehlw elxwinklawwa khwamlmehlwkhxngxlbmnnepn khwamphidhwngkhrngihy cnekuxbthaihphwkekhaaeykwngin kh s 1998 xlbmkhxngekhakhayidephiyng 5 000 tlbaelaphwkekhathukykeliksyyahlngcaknnhnungeduxn dusikaelaaemdednekhaeriynthi UCLA swnelxwinaelakharimekhilyayipchayfngtawnxxkthiiffthawskhxlelc indikshill lxngixsaelnd niwyxrk khnathielxwin aelakharimekhilxyuthiniwyxrk phwkekhaerimsngektdntrithiepidrxbtwekha aelatxmacungnarupaebbephlngdngklawmaepnxiththiphlaekephlngkhxngtn phwkekhaklbkhunxutsahkrrmdntriin kh s 2000 oprdiwesxr esnsyyaihphwkekhathaephlngedomkb aelathaephlngkhunma 3 ephlnginlxsaexneclisinklangpi kh s 2000 odymimark edirnliywangaephn aetexmsiexptiesthaelaephlngehlannimekhyxxkephyaephr wngrwbrwmedomthiekhythukhlaysngkdptiesthiwdwykn kxntkthungmuxphubrihar idaek ebn ebirkaemn aelaedwid bxkesnbxm khnathiebirkaemnkalngmxnghaphumikhwamsamarthihkbkhayxxkothnihm ekhaidrbchudedomcakphinxngkhxngxditephuxnrwmnganthiokhlmebiyerekhids aelaephlngthidungdudkhwamsnicekhakhuxephlng snedymxrning sungekhaeriykwaepn ephlngxcchriya ebirkaemnprahladicemuxthrabwaephlngnnykkhwamchxbihwngkharasflawexxsephraaesiyngaetktangcakwngdntridngklawthiekhaekhyidyinkhrngthiwxrenxrbraethxrodysineching ebirkaemnchkchwnihidenxraelabxkesnbxmbiniplxsaexneclis ephuxchmkharasflawexxsaesdngdntrithiintkhlb The Viper Room hlngidchmelxwinbnewthi phwkekhakmnic ebirkaemnbxkwaekhaechuxwawngtxngkar smachikkhnthihamaelnkitarephuxihnkrxngxisrakhun ekhacaidepndaraxyangthiphmrbruwaekhaepn xxkothnkachbthnthiwaihepliynchuxwngephuxaeykxdit nxkcakni khayyngerimmxnghankkitaretmewlaephuxihelxwinennkaraesdngintaaehnngrxngna ecms waelnithn cakwng Square lxsaexneclis thukdungtwmarbtaaehnngni cakkarekharwmkbwng waelnithnihkhwamehnwa phmepnephuxnkbphwkekhaaelaerimelndntridwykn duehmuxnwaphmkalnghkhlngwngkhxngphmxyu eraehmuxnkalngkhbkn aetinthisudphmkxxkcakxikwngephuxekharwmkbwngni 2002 2006 xlbm sxngsxaebatecn aelairxn dusikxxkcakwng maruniffinkhxnesirtpi kh s 2004 rahwangthieraerimthaxlbm sxngsxaebatecn inpi 2001 kbemuxxlbmprasbkhwamsaercsungsudinpi 2004 chiwitkhxngeraepliyncaknkdntrixdxyakthiekhynuksngsywaxnakhtcanaphaerakawkhamphankhlunaehngkhwamsaercehnuxkhwamkhadhwngbakhlngthisudkhxngeraidxyangir irxn dusik muxklxngkhnaerkkhxngmaruniff thixxkcakwngxyangepnthangkarinpi kh s 2006 enuxngcakprasbkarbadecbcakthwrtxenuxng ecms waelnithnekhaeriyninwithyalydntriebirkli Berklee College of Music kbcxhn emeyxrinpi kh s 1996 sungphwkekhaphthnakhwamsmphnth thngkhuphbknxikinkarxxkraykarwithyukhrnghnungkhxngemeyxremux kh s 2002 hlngcakemeyxridfngxlbmkhxngphwkekha ekhaprathbic odyechphaaxyangying ephlng diselif sungklayepnephlngthiprasbkhwamsaercthisudkhxngxlbmaelaphlkdnwngihepnsuepxrstar makesiycnekhachwnphwkekhaihipelnepnwngepidinthwrtnpi kh s 2003 singekilaerk hardedxrthubrid erimidxxkxakasthangwithyuaelaothrthsn airplay xyangcha sungchwyephimyxdkhaykhxngxlbm phayinpi kh s 2004 xlbmkhxngphwkekhakhun 20 xndbaerkinbilbxrd 200 aelaephlng hardedxrthubrid kidkhunxyubn 20 xndbaerkkhxngchartsingekilbilbxrthxt 100 xlbmkhxngphwkekhakhunsungsudinbilbxrd 200 thungxndb 6 ineduxnknyayn kh s 2004 epnewla 26 eduxnhlngxxkxlbm sungthuxepnrayayawthisudrahwangthikarxxkxlbmkbkarpraktin 10 xndbaerkkhrngaerknbaetrwmphlrabbsawdsaekninbilbxrd 200 in kh s 1991 xlbmyngkhngkhaytxipcnidmakkwa 10 lanxlbmthwolk thnghmdniekidkhunhlngwng thingehngaophstkrnckhxngwngepndntripxposlthifngsbay krathngaecmdwyhardrxkbang emeyxrchkchwnwngihmaepidnganihekhaxikin kh s 2004 sampicaknn maruniffthwrkhxnesirttxenuxngaethbimhyudphk sungrwmkareyuxn 17 praeths rahwangni wngidthwrrwmkbmiechl aebrnch aekraehm okhltn aelaedxaorllingsotns nxkcakni yngthwrrwmkbsilpinxun echn ekwin edxkrxw aemtchbxksthewnti chukarery ekhantingokhrws aefnthxmaephlent edxaihfs aedchbxrdkhxnefschnnxl ismxn dxws edxathrils ethirstiemirk Marc Broussard edxadxnnas edxaerdewst imekhil othlechxr aelakusetxr klawwa ephlng khxngxaliyah sngphltxwngaelamixiththiphltxephlng nxtkhmmingohm sudthayxlbm sxngsxaebatecn khunthungxndb 1 bnxlbmxxsetreliy khnathiephlng hardedxrthubrid tidsingekil 20 xndbaerkinshrthxemrika aelashrachxanackr aela 40 xndbaerkinxxsetreliyaelaniwsiaelnd xlbmyngkhunthungxndb 1 inshrachxanackrinthisud singekilthisxng diselif khunxndb 5 inshrthxemrika xndb 3 inshrachxanackr aelaxndb 8 inxxsetreliy singekilthisam chiwilbielifd khunxndb 5 thnginshrthxemrika aelashrachxanackr aelaxndb 1 inxxsetreliy singekilthisi snedymxrning khunthung 40 xndbaerkinshrthxemrika shrachxanackr aelaxxsetreliy maruniffidelnkhxnesirtilfexththifilaedlefiyin kh s 2005 ephlngthiekhaelnmiephlngkhfewxr rxkkinxinedxafriewild khxngnil yng aelaelxwinyngidaesdngrwmkbsilpinsungepnhiorkhnhnungkhxngekhaxyangstiwi wnedxr wnthi 13 phvsphakhm kh s 2005 insantabarbara rthaekhlifxreniy maruniffelnpidhxndasiwikthwr sungphwkekhaklayepnphadhwkhaw phwkekhayngidaesdngthisthabnphaphyntrxemriknephuxepnekiyrtiaekcxrc lukhs sunglukhsexngepnkhneluxkmaruniff ephraaepnwngdntrithilukkhxngekhaniymintxnnn rahwangthithwrkhxnesirtxyuhlaypi irxn dusik taaehnngklxng ekhruxngekhaa aelankrxngebuxnghlng thrmancakchiwitthwr khwamekhriydcakkarthwrimhyudthaihkarbadecbcakkilaekarayaerngkhun hlngcakthiekhakhadrwmthwrkbwnghlaykhrng odyiraelnd stin kbcxch edymaaethn dusikkxxkcakwngxyangepnthangkarineduxnknyayn kh s 2006 aemtt flinn xditmuxklxngwngekwin edxkrxw aelaedxabififtithus ekharwmwngaethndusik 2006 2008 xlbm xitowntbisunbifxrlxng maruniffthiemdisnsaekhwrkaredn inpi kh s 2007 hlngcakxdesiyngkntlxd 8 eduxninpi kh s 2006 xlbmchudthisxngkhxngmaruniffchux xitowntbisunbifxrlxng xxkcahnaythwolkineduxnphvsphakhm kh s 2007 phayitsngkd elxwinklawwa xlbmthdcak sxngsxaebatecn nica esksikwa aelaaekhngaerngkwa sungidrbaerngbndaliccaksilpinyukh 80 xyang phrins imekhil aecksn aelathxlkkingehds aexn ephaewxs ekhiynihkblxsaexneclisithmthungxlbm xitowntbisunbifxrlxng wa epnswnphsmrxneynkhxngdntrixielkothrfngk aelabluxaydoslthilxkndwykhwammnicdngecms bxnd kxnxlbmwangcahnay singekilephlng emksmiwnedxr epnsingekilaelawidioxthikhayidepnxndb 1 bnixthuns aelayngkhngepnxlbmthikhaydiepnxndb 1 kwa 50 000 chud hlngcakxlbmxxkma xlbmthalaysthitiyxdkhaykhxngixthuns n spdahthiplxy khayidthung 101 000 chud singekilaerk emksmiwnedxr xxksuwithyuinwnthi 27 minakhm kh s 2007 epidtwthixndb 84 inchartbilbxrdhxt 100 epnxndblangsudthiepidtwinbrrda 5 ephlngthiepidtwinchartspdahnn inspdahaerkkhxngeduxnphvsphakhm singekilnithayancakxndb 64 khunipthungxndb 1 epnkarkawkraoddthiyingihythisud biggest jump khxngbilbxrd n ewlann emksmiwnedxr yngsamarthkhunxndb 1 bncharthxtdicithlsxngkhxngbilbxrd pxp 100 aelahxtaednskhlbephlyidsaercdwy ephuxepnkarsngesrimxlbm maruniffidaesdng siksedtkhlbthwr aehnghnung n ewthikhnadelkinbxstn sanfransisok lxsaexneclis minniaexophlis imxami aelankhrniwyxrk intneduxnmithunayn kh s 2007 phwkekhayngmikhxnesirtthiaesdngsdphanchxng MSN Music tammainklangeduxnediywkn inwnthi 10 krkdakhm ekhaelnepnwngepidkhxnesirtihkbedxaophlis inimxami aelatammadwykaraesdngdntrixkhustikthiimxamikhlb studiox ex inwnthdma thwrkhxnesirtxlbm xitowntbisunbifxrlxng khxngphwkekhacaerimkhunpi kh s 2007 suwngcathwrin 28 emuxng thwrerimkhunininwnthi 29 knyaynindithrxyt aelathwrtxin 28 emuxnginxemrikaehnux aelacblnginwnthi 10 phvscikayninlasewks odymiwng edxaihfs epnaekhkrbechiyphiesstlxdngan khnathimisara baerllis aela thirwmaesdngepnbangkhrng phwkekhayngidthwrrwmkbwng innganthwrkhxnesirtdwy aelainwnthi 28 minakhm kh s 2008 phwkekhaerimthwrkhxnesirtrwmkbwngwnriphbblik aelair khuming phwkekhayngidaesdngephlng emksmiwnedxr inraykarxemriknixdxl vdukalthi 6 aelaephlng xifixenewxrsiywrefsxaekn invdukalthi 7 karxxkxlbmsa re release miephlng xifixenewxrsiywrefsxaekn ewxrchnihmthirxngrwmkbrixanna sungewxrchnihmkhxngephlngniyngxyuinxlbm sungepnkarxxkcahnaysaechnkn aelaphwkekhakidplxysingekilladbthiha kudintkudint sungpraktinchakerimeruxngkhxngsiris siexsix niwyxrk txn Page Turner dwy 2008 2011 xlbm aehnsxxloxewxr maruniffaesdnginhxngkngpi kh s 2011 elxwinklawwaekhaechuxwawngkhxngekhathungcudsungsudaelwaelaxaccathaxikhnungxlbmkxnthicayubwng ekhaxthibayeruxngniwa sudthayaelwphmkxyakcaenneruxngkarepnkhnthiaetktangipxyangaethcringephraaphmimruwaphmcathamnipcnphmxayu 40 50 pihruxaekkwannxyangwngedxaorllingsotnshruxepla maruniffxdxlbmchudthisamin kh s 2009 thipraethsswitesxraelnd sungwngidthanganrwmkborebirt cxhn mtt aelngc oprdiwesxrfayxdesiyng xlbmnimichuxwa aehnsxxloxewxr xxkcahnaywnthi 21 knyayn kh s 2010 xlbmepidtwthixndb 2 inbilbxrd 200 rxngcakxlbm yuektwxtyukif khxng aemwacaepidtwiddi aetyxdkhayspdahaerkklbthaidephiyng 142 000 chud sungkhxnkhangaeykwaxlbmkxnhna xitowntbisunbifxrlxng thiepidtwthixndbhnungdwyyxdkhay 492 000 chud xlbmidrbkhawicarnaebbkhlakn aemwankwicarnbangswncachunchmkarphlitephlng nkwicarncanwnmaksnnisthanwayxdkhaythinxymacakkardawnohldthangxinethxrentxyangphidkdhmay thieriykwakarlaemidlikhsiththi aelawngimidisic singekilaerkkhux misesxri xxkmawnthi 22 mithunayn kh s 2010 maruniffthwrkhxnesirtkbwngethrn invdurxn kh s 2011 tngaetwnthi 22 krkdakhm thung 24 knyayn inwnthi 12 mithunayn kh s 2011 wngxxksaxlbm aehnsxxloxewxr ephuxisephlng mufsilkaeckekxr rwmrxngodykhristina xakielra ephlngaesdngsdkhrngaerkinraykaredxawxys emuxwnthi 21 mithunayn kh s 2011 aelakhunthungxndb 1 bnbilbxrdhxt 100 ineduxnknyayn kh s 2011 aexdm elxwinyngidiprxngrwmkbcim khlas hiors inephlng setrioxhats thikhunxndb 4 bnbilbxrdhxt 100 dwy inwnthi 8 knyayn kh s 2011 ecssi kharimekhilklawwathangwngcaerimbnthukesiyngxlbmtxipphayinpinn inwnthi 1 tulakhm maruniffaesdngsdthikhxnesirtrxkxinriox inrioxedxcaenor praethsbrasil maruniffaesdnginchwomngsudthaysungwngthukeluxkihaethnthiecy si Jay Z thiykelikipdwyehtuphlswntw maruniffyngidrwmepidtwekhruxngdumyihxsaenpepil Snapple phayitchu thiwilbielifd ephuxsnbsnunxngkhkarfiddingxemrikadwy maruniffelnephlng mufsilkaeckekxr kbephlng setrioxhats rwmkb ethrwi aemkkhxy inwnthi 5 phvscikayn kh s 2011 inraykaraestethxredyintilf Saturday Night Live phwkekhayngaesdngephlng mufsilkaeckekxr kbephlng setrioxhats rwmkbkhristina xakielra aelacim khlas hiors inwnthi 20 phvscikayn kh s 2011 inraykarprakasrangwlxemriknmiwsikxawxrd American Music Award sungwngkchnarangwlniepnkhrngaerkinsakhawng khuduox klumsilpinpxpthiepnthichunchxb maruniffidaesdngephlng mufsilkaeckekxr inngan wiktxeriysiekhrtaefchnochw Victoria s Secret Fashion Show pi 2011 dwy inrahwangchwngopromchnkhxngokhkha okhlaineduxnminakhm kh s 2011 miewlaephiyng 24 chwomnginkarekhiynephlngtnchbbcnsmburn sungidnkdntri phiec mxrtn PJ Morton khxychwyehlux hlngcakewlakhxngekhahmdlng ephlng xisaexniwnexataedr kxxkephyaephrmabnewbistkhxngokhkha okhlaihdawnohldfri wngbnthukesiyngephlngprakxbphaphyntrekmlaekm The Hunger Games chuxephlng khmxaewythuedxawxethxr rxngrwmkbrxssi ekhrn innganprakasrangwlaekrmmikhrngthi 54 wnthi 12 kumphaphnth kh s 2012 maruniffaesdngphrxmkbfxsetxredxaphiephil aelaedxabichbxys inemdelyephlngkhxngedxabichbxys ephuxchlxngkhrbrxb 50 piihaeksilpindngklaw 2012 14 kharimekhillaphk aelaxlbm oxewxrexksophst wnthi 9 minakhm kh s 2012 maruniffprakaswa ecssi kharimekhilcakhxlaphkodyimidraburayaewlaephuxcaidipisickbkareriynekiywkb dntriaelakareyiywyathangcitic wngyngkhngmunghnathanganxlbmchudthisi oxewxrexksophsd wangcahnaywnthi 26 mithunayn kh s 2012 odymiphiec mxrtn smachikrwmthwrtngaet kh s 2010 aelaklayepnsmachiketmrupaebbhlngcakprakasxyangepnthangkar maelnkhiybxrdaelarxngebuxnghlngih enuxngcakinthanankrxngaenwxaraexndbi mxrtnprasbkhwamsaercephiyngelknxy elxwinklawthungxlbmwaepnxlbmthi hlakhlayaelaepnaenwpxbmakthisudethathiekhythama inwnthi 16 emsayn kh s 2012 maruniffaesdngephlng ephyofn rxngrwmkbnkrxngaerp wis khalifa singekilaerkcakxlbm oxewxrexksophsd inraykaredxawxys sungelxwinepnhnunginkrrmkartdsinaelaokhchinraykar singekilniepidtwthixndbthi 3 bnchartbilbxrdhxt 100 aelakhunidthungxndbthi 2 singekilthisxng wnmxrint xxkmawnthi 19 mithunayn kh s 2012 ephlngniidkhunthungxndbthi 1 bnchartbilbxrdhxt 100 naephlng khngnmsitl khxngis aelakhrxngxndbhnungidthung 9 spdahtidtxknethiybethakbephlngdng khxngkharli er ecpesn inthanaephlngthikhun inchwngerimthwr inxemrikait maruniffidaenanaihphuchmruckaesm farrar ephuxnekaaelaepnephuxnsnith sungelntaaehnngkitar rxngebuxnghlng elnkitarebs ekhruxngprakxbcnghwa ethirnethebil aelahaaesmepilephlng haesiyngsepechiylexfefktxun odyichekhruxngphlitesiyngdntri Music Production Center farraryngidrwmekhiynaelaphlitephlngcanwnhnungihkbmaruniffinekuxbthukxlbm aelathakarrimiksephlng wuaemn cakxlbm lngxlbm wangcahnayin kh s 2008 inwnthi 27 phvscikayn kh s 2012 maruniffxxksingekilthisam edyilt aelaephuxsngesrimephlngni thangwngidplxyoprecktwidioxchux edxaedyiltopreckt epnoprecktthiihaefnephlngthaythaeruxngrawkhxngtnexngepnswnhnunginmiwsikwidioxephlng edyilt kakbody Jonas Akerlund ephlng edyilt thukelnsdkhrngaerkinnamkhxngsingekilwnthi 8 phvscikayn kh s 2012 inraykaredxawxyskhxngxemrikaaelamiwsikwidioxthukephyaephrxyangepnthangkarwnthi 10 thnwakhm kh s 2012 inwnthi 1 emsayn kh s 2013 wngidprakaswaphwkekhacaidphadhwbnibpidnganhxndasiwikthwrpracapikhrngthi 12 rwmkbaekhkrbechiyphiesskhuxekhlli khlarksn thwrerimkhunwnthi 1 singhakhm kh s 2013 cblngwnthi 6 tulakhm kh s 2013 rwm 34 wn maruniffxxksingekilthi 4 aelasingekilsudthaycakxlbm elifsmbxdi emuxwnthi 14 phvsphakhm kh s 2013 2014 2016 karklbmakhxngkharimekhil xlbm iff maruniffkhnakalngaesdngsdinpi kh s 2016 ineduxnemsayn kh s 2013 ecms waelnithnklawekiywkbkarxdesiyngxlbmthihainstudioxwa singthierakalngthaxyuni esiyngdntrixaccafngdumudmnlngelknxy bangthixaccayxnklbipehmuxnkbephlnginxlbmsxngsxaebatecn aet n cudnierathaephlngthiaetktangxxkipaelamnkmaerwkwathikhid ineduxnkumphaphnth kh s 2014 wngidaesdngephlng xxlmayelifwing aela thikektthuird inngankhxnesirtchux edxaintaedtechncdxemrika ephuxchlxngkhrbrxb 50 pikarmathungshrthxemrikakhxngwngedxabiethils wnthi 15 emsayn kh s 2014 ecssi kharimekhilyunynwaphknganesrcaelwaelaphrxmklbmarwmthanganxlbmchudthihakbwngxikkhrng inwnthi 29 emsayn kh s 2014 maruniffaesdnginngan thi innkhrniwyxrkwnthi 1 knyayn kh s 2014 sungepnswnhnungkhxngthwrkhxnesirtthicdodyotoyta wnthi 18 phvsphakhm kh s 2014 maruniffprakasxyangepnthangkarwaxlbmchudthihainchux iff V khuxelkh 5 inelkhormn cawangcahnayinwnthi 2 knyayn kh s 2014 insngkdxinetxrsokhperekhids singekilaerkkhuxephlng aemps xxkcahnaykhrngaerkwnthi 16 mithunayn kh s 2014 khunthungxndbthihkbnchartbilbxrdhxt 100 hlngcakxlbmxxkcahnaywnthi 2 knyayn kh s 2014 xlbmkhunxndbhnungbnchartbilbxrd 200 inwnthi 20 knyayn kh s 2014 xlbmiff idrbkhawicarnkhlakn aebrd wit ekhiynihkbbilbxrdwa esiyngrxngdngnkhmmingebirdkhxngelxwinaelakarsngphanxarmnnnaerngklaphx kbthiekhathaiwinxlbmsxngsxaebatecnemuxpi 2002 ely inwnthi 10 singhakhm wngidlngphadhwkhawekiywkbnganhunidkardsitiebrk inpraethsekahliit maruniffyngaesdnginraykar 2014 thiinkrunglxndxn praethsxngkvs emuxwnthi 11 knyayn kh s 2014 tlxdkaraesdngkhxnesirtinswnkhxngethskalmikarthaythaaelaxxkxakassdxxnilnthwolk singekilthisxng aexnimls aesdngkhrngaerkinphaphyntrokhsna aelamiihdawnohldfrithangewbistkhxngekiyinewlacakdhlngcakepidtwphaphyntrokhsnainwnthi 21 singhakhm kh s 2014 ephlngkhunthungxndbsambncharthxt 100 maruniffaesdnginraykarphiesschwngkhristmaskhxngnganprakasrangwlaekrmmi chuxwa xaewriaekrmmikhristmas A Very Grammy Christmas emuxwnthi 18 phvscikayn kh s 2014 aelainkhxnesirtkhxngkhlun inwnthi 12 thnwakhm kh s 2014 chukar wangcahnayepnsingekilthisamcakxlbmemuxwnthi 13 mkrakhm kh s 2015 miwsikwidioxaesdngsmachikinwngedinthangrxblasewks aelaaesdngdntritamnganaetngngan chukar yngxyuinphaphyntrokhsnanissndwy marunifferimthwrkhxnesirtrxbolkineduxnkumphaphnth kh s 2015 mikahndkarinxemrikaehnux yuorp aexfrika exechiy aelaoxechiyeniy aelaelncnthungeduxnknyayn kh s 2015 misilpin emcik aela elnepidkhxnesirtih ineduxnemsayn kh s 2015 phaphthaykhxngecssi kharimekhilinstudioxthukophstinxinstaaekrmkhukboprdiwesxrephlng onxah emlbxks phasoswxy wngkalngcaxxkxlbmrwmephlngyxdniymchux singekils inwnthi 2 tulakhm kh s 2015 phansngkdxinetxrsokhp aela xlbmcarwbrwmsingekil 12 singekilcakstudioxxlbmthiphanma inwnthi 21 tulakhm kh s 2015 miprakasphanwasmachikwngmaruniffepnhnunginsilpinthicaaesdnginngansuepxrobwlkhrngthi 50 ineduxnkumphaphnth kh s 2016 inwnthi 6 phvscikayn kh s 2015 wngprakasphanthwitetxrwaphwkekhacathwrkhxnesirtinxemrikaehnuxin kh s 2016 ineduxnknyaynaelatulakhm odymisilpinesrimkhuxthuew lu aela wnthi 25 mithunayn kh s 2016 wnkhrbrxb 15 pikarwangcahnayxlbmsxngsxaebatecn mikarechlimchlxngwnmaruniff Maroon5Day odyrwmmuxkbxngkhkryuniesfephuxchwyehluxedkthitxngkarkhwamchwyehluxdansatharnsukh 2017 2019 xlbm erdphillblus aelakaraesdngchwngphkkhrungkhxngsuepxrobwl khrngthi 53 maruniffrahwangthwrkhxnesirtthi inednewxr rthokholraod in kh s 2018 inwnthi 13 mkrakhm kh s 2017 aexdm elxwinepidephywawngkalngthastudioxxlbmthihk elxwinklawwa xlbmihmcaxxk xikimcha aelacamiaenwephlngxaraexndbi inwnthi 13 singhakhm kh s 2017 elxwinyunyninnganprakasrangwl waxlbmihmcawangcahnayineduxnphvscikayn inwnthi 4 tulakhm kh s 2017 maruniffephychuxxlbm chuxmiaerngbndaliccakphaphyntr edxa emthriks ephaaphnthumnusyehnuxolk 2199 chayemuxpi kh s 1999 xlbmwangcahnayinwnthi 3 phvscikayn kh s 2017erdphillblusidrbkartxbrbphsmknenuxngcakwngmithisthangaenwephlngipthangpxpmakekinip xlbmnimisamsingekil idaek wxtelifewxsdu aela ephlng ekilsilkyu rxngrbechiyodykhardi bi khunxndbhnungtxenuxngecdspdahbnbilbxrdhxt 100 ephlng odntwxnnaonw aela okhld xxkepnsingekilnxkxlbm aelathukrwminxlbmrundilksethann marunifferimthwrkhxnesirt erdphillblusthwr inwnthi 1 minakhm kh s 2018 sinsudinwnthi 11 mithunayn kh s 2019 miaekhkrbechiyidaek cueliy imekhils CXLOE aela ineduxnmithunayn kh s 2018 wngnaephlng khxng marxngihmepnokhsnasngesrimfutbxlolk 2018 ody miwsikwidioxkakbody ineduxnmkrakhm kh s 2019 elxwinaelaecssi kharimekhil rwmkb smachikwngephirlaecm aesdngephlng khxngkhris khxrenll thikhxnesirtkarkuslchux ixaexmedxaihewy xathribiwtthukhriskhxrenll inwnthi 3 kumphaphnth kh s 2019 wngidelninkaraesdngchwngphkkhrungkhxngsuepxrobwl khrngthi 53 thisnamemxrsiedsebns aextaelnta rthcxreciy rwmkbaerpepxr aelaaethrwis skxtt aetkaraesdngkhxngwngthukwicarnaelacdwaepnhnunginkaraesdnginchwngphkkhrungkhxngsuepxrobwlthiaeythisudinprawtisastrkhxngenchnaenlfutbxllik inwnthi 8 mithunayn kh s 2019 maruniffaesdngkhxnesirtethskaldntri khxngsthaniwithyuaekhpitxl thisnamkilaewmbliy krunglxndxn 2019 pccubn aemdednxxkcakwngaela cxrdi ineduxnknyayn kh s 2019 maruniffephyaephrsingekil emmomris sungepnsingekilnakhxngxlbmthi 7 odythangwngxuthisephlngniihaekcxraedn efldsitn phucdkarwngthiesiychiwitemuxeduxnthnwakhm kh s 2017 aexdm elxwin nkrxngnaklawephimetimthungephlngniwamnepn ephlngsahrbkhnthiekhyprasbkhwamsuyesiy hruxxiknyhnungkkhuxephlngsahrbthuk khn txmaineduxnmithunayn kh s 2020 mikki aemdedn muxebsthukcbkumhlngthukklawhawaichkhwamrunaernginkhrxbkhrw hlngcaknnaemdednprakaslaxxkcakwng txmainwnthi 24 krkdakhm kh s 2020 wngxxksingekilthisxng onbxdiselif aelasingekilthisam biwtifulmisethk inwnthi 3 minakhm kh s 2021 kxncaprakaswaxlbmthi 7 khxngwng caephyaephrinwnthi 11 mithunayn kh s 2021xiththiphlaelaaenwdntri phmkhidwaephlngeka khxngmaruniffcafngduimepnphuihy aelamnmikhwamepnfngk kitaraebbinl rxdecxs aelaenuxephlngekiywkbhwicthiaetkslay imepnphuihy fngk aelahwicaetkslay nnkhuxsutrsaerckhxngmaruniff ecms waelnithn aexdm elxwinklawiwwa thukxyangthiekhiynaelaaesdngxxkmaaelaisrwmknkhxnkhangcamacakera phmaekhkhidwakhncaaeplkicthiruwaerakhuxhnwythiiskhwamepntwexnglngip eraepnwngthithatamthiphwkekhatxngkar immiphuchkna xyangirktam inbthkhwamekiywkbnkaetngephlngaelaoprdiwesxr ebnni blngok epidephywaephlngkhxngwngbangephlng echn mufsilkaeckekxr epnphlphlitmacakkhwamphyayamodyxasykhwamrwmmuxkbnkekhiynephlngaelaoprdiwesxrmuxxachiph inbthkhwamediywknnn iskhaklawkhxngaexdm elxwinthiwa rawkbwa ebnni blngok mismphskhxngmidathisamarthhakhnthiehmaasmekhadwyknidinewlathiehmaaecaainkarsrangchwngewlakhxngdntriihm ekhakhuxkhwamrwmmux aelaekngineruxngthaihkhnkhnhnungthasingthidithisudxxkmaid kitarebssidakhxngaemdedn cdaesdngthi lxndxn maruniffekhyxangwatnidrbxiththiphlmacakimekhil aecksn edxaophlis bicis cstin thimebxrelk aelaphrinsaexdm elxwin yngxangwaidrbxiththiphlcakstiwi wnedxr aelabilli ocexl echnkn yingkwann muxkitar ecms waelnithn klawwaekhaidrbxiththiphlcakmuxkitarhlaykhn echn aephth emthini aela rwmthungwngdntrirxkchux dwy ephlnghlayephlngkhxngwngcahnkipthikitar mkcakhlxdwyepiyonhruxekhruxngsngekhraahesiyng enuxhainephlngswnihyekiywkbkhwamrk mkcaepnkarsuyesiykhwamrk ephlngxyang diselif emksmiwnedxr aela camiothnthakthang aesdngkhwamimphxicinkhwamsmphnth khnathiephlngthisabsungicaelaeraxarmnechn chiwilbielifd naesnxkhwamyawnaninkhwamsmphnthchusaw ephlng emksmiwnedxr mienuxharxngkhux elxwinaesdngkhwamphidhwngemuxruwabangsingimiddixyangthikhidiw aelakhwamthxaethcaksthankarnthangkaremuxngxemrika aelasngkhramxirk dntrikhxngmaruniffepliynaeplngipthukxlbm klawkhux xlbmsxngsxaebatecn etmipdwyephlngekiywkbaefnekaelxwinthichuxecn inxlbmxitowntbisunbifxrlxng ephlnginxlbmldkhwamswntwlng aelamiichekhruxngdntriiffamakkhundwyekhruxngsngekhraahdntri synthesizer chwysrangkhwamrusukaebbyxnyukh retro style xlbmaehnsxxloxewxr klbmathienuxhaephlngekiywkbkarsuyesiykhwamrk rwmipthungephlngekiywkbkhwamhlngihl aelaidxxkcahnaysaphrxmephlng mufsilkaeckekxr ephlngaenwxielkothrpxpthiaesdngkhwamepliynaeplngkhrngihyindandntrikhxngwng thaihchwnetnmakkhun elxwinklawwa mnepnhnunginhlayephlngthiesiyngmak mnepnsingthinasnicaelaepntwkhxngtwexng bold statement eraimekhyplxyephlngaebbnnxxkmakxnely aetknatunetnthiidthaxairthiaetktang aeplkihm phmdiicthithukkhnchxbmn waelnithneriykxlbmoxewxrexksophsdwaepn xlbmephlngaenwpxpmakthisudkhxngphwkeraaelaeraimekhyekhinxayelythiidthamnkhunma phwkekhayngidthdlxngkbdntriaenwniwewf aeladisok inhlay xlbmsmachiksmachikpccubnaexdm elxwin rxngna kitar 1994 pccubn ecssi kharimekhil khiybxrd epiyon kitarihcnghwa rxngebuxnghlng 1994 2012 hyudphkngan 2012 2014 2014 pccubn ecms waelnithn kitar rxngebuxnghlng 2001 pccubn aemtt flinn klxng ekhruxngprakxbcnghwa 2006 pccubn smachikthwr 2004 2006 phiec mxrtn khiybxrd epiyon rxngebuxnghlng 2012 pccubn smachikthwr 2010 2012 kitar kitarebs ekhruxngprakxbcnghwa rxngebuxnghlng ethirnethebils aesmepils exfefktxun 2016 pccubn smachikthwr 2012 2016 xditsmachikirxn dusik klxngchud ekhruxngprakxbcnghwa rxngprakxb 1994 2006 mikki aemdedn kitarebs 1994 2020 xditsmachikrwmthwrthxmmi bum bum khing khiybxrd rxngebuxnghlng thwr aebkthuskhul inpi 2009 cakwng onedat klxng ekhruxngprakxbcnghwa yngelnaethnaemtt flinn inkaraesdngbangrxbinthwr aebkthuskhul enuxngcakflinnxxkcakwngmaruniffchwkhrawdwy pyhathangkhrxbkhrw dngthiklawiwinewbistthangkarkhxngwng cakwng klxng ekhruxngprakxbcnghwa aesdngbangrxbinthwrxlbm sxngsxaebatecn stin ekhyepnmuxklxngihkbwngdntriekathiekhyelnrwmkbecms waelnithn inwng ekhamaelnaethnirxn dusik kxnthiaemtt flinn caepnsmachikrwmthwraelahlngcaknnidepnmuxklxngkhxngwng cxch edy klxng ekhruxngprakxbcnghwa aesdngbangrxbinthwrxlbm sxngsxaebatecn edyekhamaelnaethndusikechnkn ekhaepnsmachikwngthielnebuxnghlngihkbsara baerllis maxyangyawnan ekhaelnihkbwngcnthungpi 2013 esnewlarayidin kh s 2015 fxbspraeminrayidtxpikhxngmaruniffiwthi 33 landxllarshrthphlnganmaruniff2002 sxngsxaebatecn Songs About Jane 2007 xitowntbisunbifxrlxng It Won t Be Soon Before Long 2010 aehnsxxloxewxr Hands All Over 2012 oxewxrexksophsd Overexposed 2014 iff V 2017 Red Pill Blues 2021 Jordi kharasflawexxs1995 wiilkdikking We Like Digging 1997 edxaofrthewild The Fourth World 1999 saetkstritherkhxrdings Stagg Street Recordings khwamsaercmaruniffidekhachingrangwlaekrmmi 3 rangwl rangwlxemriknmiwsikxawxds 3 rangwl rangwlbilbxrdmiwsikxawxds 4 rangwl aelarangwl 4 rangwl inkarprakasrangwlewildmiwsikxawxds 2004 phwkekhachnarangwl klumhnaihmyxdeyiymkhxngolk World s Best New Group xlbm aehnsxxloxewxr studioxxlbmladbthisamkhxngwng xxkcahnayineduxnknyayn kh s 2010 khunxndbthisxngbnchartbilbxrd 200 in kh s 2011 xlbmdngklawxxkcahnaysaaelaidephlng mufsilkaeckekxr thimirxngrbechiyodykhristina xakielra klayepnephlngthisxngkhxngwngthikhunxndbhnungbncharthxt 100 khayid 14 4 lanhnwythwolk aelaklayepnhnunginsingekilthikhaydithisudthwolk maruniffxxkxlbmladbthisi oxewxrexksophsd emuxeduxnmithunayn kh s 2012 xlbmkhunxndbsxngbnchartbilbxrd 200 singekilsxngephlngaerkkhux ephyofn aela wnmxrint tangkepnthiniymthwolkaelakhunxndbthisxng aelaxndbthihnungbncharthxt 100 tamladb wnmxrint samarthexachnaephlng khngnmsitl khxngis idodykhunxndbhnungbnchartbilbxrdhxt 100 aelaxyuidnanethakbephlng khxngkharli er ecpesn aexdm elxwinyngidrbkhwamniymcakkarepnkrrmkartdsininraykarprakwdphrswrrkh edxawxys sungxxkxakasthangchxngexnbisidwy maruniffxyuxndbthi 15 cakkarcdxndb silpinaethwhna hmwdsingekildicithl khxngsmakhmphuprakxbkickarephlngkhxngshrthxemrika odymiyxdkhaythiyunynwakhayid 15 lanhnwyinshrthxemrika in kh s 2013 maruniffepnsilpinthithukepidephlngmakthisudxndbsamkhxngchart wdcakbrikar khxngbristh klayepnhnunginsilpinthiprasbkhwamsaercthisudinsngkdxinetxrsokhperekhids inwnthi 10 knyayn kh s 2014 studioxxlbmladbthiha iff V epidtwthixndbthihnungbnchartbilbxrd 200 dwyyxdkhay 164 000 xlbminspdahaerk in kh s 2013 maruniffxyuinxndbthi 94 inraychux 100 silpinyxdeyiymtlxdkalinngankhrbrxb 55 pikhxngchartbilbxrdhxt 100 caksingekilthiprasbkhwamsaercxyang mufsilkaeckekxr ephyofn aela wnmxrint ineduxnphvscikayn kh s 2015 wngtidxndbthi 44 inraychuxhxt 100 yxdeyiymthisudinrxb 57 pi bilbxrdhxt 100thwrkhxnesirtsxngsxaebatecnthwr 2002 04 2005 xitowntbisunbifxrlxngthwr 2007 2008 aebkthuskhulthwr 2009 phalmthrisaexndephaewxrlaysthwr 2010 aehnsxxloxewxrthwr 2010 2012 2012 2014 2013 maruniffewildthwr 2015 2015 erdphillblusthwr 2018 2019 maruniff 2020 2021 thwr 2020 2021 karkusltngaet kh s 2008 maruniffidrwmmuxkbxngkhkrimaeswngphlkair riewirb REVERB odykarthwrsiekhiyw aelachkchwnaefnephlngihthakickrrmephuxsingaewdlxm maruniffepnphusnbsnunxngkhkrexdstilriikhwd Aid Still Required ASR maxyangyawnan hlngcakxuthisephlng chiwilbielifd chbbelnsdihkbsidiephlngkhxngxngkhkrephuxchwyehluxphurxdchiwitcakehtukarnsunamiinexechiytawnxxkechiyngit kh s 2004 aelw maruniffyngbnthukesiyngprakassusatharnaihkbxngkhkr ASR ekiywkbsingthicaepntxngthaihkbehtidwy maruniffekharwmokhrngkarrnrngkhphansuxsngkhmkhxngxngkhkrhlayokhrngkar aelaelxwinidcdnganphbpaaefnkhlbinchakkhxngraykaredxawxysephuxsmthbthunchwyehluxokhrngkarhlayokhrngkarkhxngxngkhkr ASR maruniffsnbsnunmulnithiorkhmaerngpxd bxnni ec aexddariox inpi kh s 2006 maruniffidrangwlexniwrxnemnthlmiediyxawxds enuxngcakbricakhrayidcakthwrkhxnesirtthixemrikaehnux 2005 ihkbxngkhkrsingaewdlxmolkaehnghnungchux oklbxlkhul inpi kh s 2011 maruniff rwmdwy phiec mxrtn sungyngepnsmachikrwmthwrinkhnann ekharwmokhrngkar 24 hawresschn kbokhkha okhla phwkekhaekhiynaelabnthukephlng xisexnibxdiexataedr phayinewla 24 chwomng hlngcakcbokhrngkar ephlngdngklawmiihrbchminewbistokhkha okhla miprakaswathaephlngthukdawnohldmakkwa 100 000 khrng wngcabricakhnasaxadihthwipaexfrika aexdm elxwin hlngcaknxngchayepidephywaepneky idklayepnphusnbsnunkaraetngngankbephsediywkn aelasiththikhxngklumbukhkhlthimikhwamhlakhlaythangephs inpi kh s 2011 ekhaepidbychithangkarkhxngmaruniffinyuthubephuxsnbsnunokhrngkarxitektsebtethxropreckt ineduxnmkrakhm kh s 2012 ekhaprakaswa maruniffidepliynaeplngsthanthiaesdnghlngkarprakasrangwlaekrmmi enuxngcak karsnbsnun khxngranxaharthiimrabuchuxaehnghnunginlxsaexneclis snbsnunkxngthunephuxedkaehngshprachachatixangxing Up close with Maroon 5 Facebook and Twitter competition to give patron meeting with Rock band January 2 2011 subkhnemux July 17 2011 Maroon 5 Billboard subkhnemux July 17 2011 Leahey Andrew Kara s Flowers AllMusic subkhnemux July 31 2012 Maroon5 Breaks Out Slowly But Surely Billboard August 13 2003 subkhnemux October 18 2014 Maroon 5 GRAMMY com phasaxngkvs March 17 2014 subkhnemux February 4 2019 Moss Corey March 6 2007 Maroon 5 Back With Harder Album After Adam Levine Gets Sick Of Partying subkhnemux July 25 2007 lingkesiy Trakin Roy May 9 2014 Maroon 5 Signs with Interscope Records Live Nation for Worldwide Tour Deal subkhnemux June 26 2018 Universal Music June 9 2014 UniversalMusic com khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2018 06 26 subkhnemux June 26 2018 Aaron Brown September 17 2014 iTunes Festival Maroon 5 enthusiastically blend fan favourites and brand new singles Daily Express subkhnemux April 24 2015 The InternetTrash Web archive org khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2001 04 17 subkhnemux 2014 08 01 Visakowitz Susan Sophomore Jump They were inspired by August Calderon Billboard 119 17 Hoard Christian 2004 06 45 A Whiter Shade of Funk Rolling Stone 950 43 44 McIntosh Gregory Kara s flowers AllMusic subkhnemux July 25 2007 Kimpel Dan 2006 How they made it true tit stories of how music s biggest stars went from start to stardom Milwaukee Hal Leonard Corporation p 87 ISBN 0 634 07642 6 Kimpel 2006 pp 87 88 Rosen Craig June 5 2005 Gold 5 Billboard 117 23 Interview with Ben Berkman Apr 13 2004 subkhnemux Nov 25 2010 Archive of early band biography on Maroon 5 official site September 28 2008 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2008 09 28 subkhnemux February 19 2015 a href wiki E0 B9 81 E0 B8 A1 E0 B9 88 E0 B9 81 E0 B8 9A E0 B8 9A Cite web title aemaebb Cite web cite web a CS1 maint bot original URL status unknown lingk Maroon 5 Oxford Music Online Oxford University Press cakaehlngedimemux February 7 2021 subkhnemux December 26 2020 Interview with Ben Berkman A amp R at Octone Records for Maroon 5 Hitquaters subkhnemux 2014 10 03 Maroon 5 2006 Midnight miles on the road through 5 continents amp 17 countries Photographs by Christopher Wray McCann New York Simon amp Schuster pp 86 87 ISBN 1 4165 2419 3 Visakowitz Susan April 22 2007 Reuters khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2015 09 24 subkhnemux August 7 2015 Billboard khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux April 10 2007 subkhnemux July 25 2007 Reviews for It Won t Be Soon Before Long by Maroon 5 Metacritic May 22 2007 subkhnemux October 18 2014 Leeds Jeff May 21 2007 Second CD By Maroon 5 Faces Great Expectations New York Times Waddell Ray June 4 2005 Hit The Road Billboard 117 23 mtv tv khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 11 20 subkhnemux 2014 10 18 2005 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 11 20 subkhnemux 2014 10 18 baltimoresun com khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 10 06 subkhnemux October 3 2014 Matchbox Twenty Sugar Ray Team For Tour Billboard subkhnemux 2014 10 18 Maroon 5 Counting Crows Plot Summer Tour Billboard subkhnemux 2014 10 18 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 11 20 subkhnemux 2014 10 18 Maroon 5 The Hives Make Unlikely Touring Team Billboard subkhnemux 2014 10 18 Metro Radio November 29 2007 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 11 02 subkhnemux October 18 2014 New BMI Band Simon Dawes Lands Maroon 5 Tour BMI subkhnemux 2014 10 18 Maroon5 Tapped For Honda Civic Tour Billboard January 28 2005 subkhnemux October 18 2014 Maroon 5 Album Performance aCHarts us subkhnemux July 25 2007 Chart History Maroon 5 Billboard 2007 cakaehlngedimemux 2007 09 29 subkhnemux July 25 2007 Rolling Stone July 2 2005 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux August 24 2007 subkhnemux July 25 2007 Motor Trend February 4 2005 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 10 29 subkhnemux July 25 2007 33rd AFI Life Achievement Award AFI com cakaehlngedimemux 2007 04 04 subkhnemux April 28 2008 Maroon 5 2006 pp 86 87 Moss Corey March 6 2007 MTV khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2009 11 21 subkhnemux July 25 2007 Peters Mitchell March 12 2007 Maroon 5 Finds Its Groove On Sophomore Album Billboard subkhnemux July 25 2007 Baber Darren April 26 2007 Maroon 5 Dominates iTunes Sales Chart With Three Simultaneous Number Ones PR Newswire subkhnemux July 25 2007 Pollock Duncan 2007 Review It Won t Be Soon Before Long Maroon 5 Jacarandafm com 94 2 FM subkhnemux July 25 2007 lingkesiy Powers Ann Maroon 5 latimes Los Angeles Times subkhnemux 14 November 2014 Maroon 5 album breaks iTunes sales record MacNN com May 30 2007 subkhnemux July 25 2007 Bronson Fred May 2 2007 Chart Beat subkhnemux July 25 2007 2007 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux September 29 2007 subkhnemux July 25 2007 MTV News staff May 4 2007 MTV News khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 05 06 subkhnemux July 25 2007 June 14 2007 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 07 13 subkhnemux July 25 2007 No Need to Wonder Maroon 5 Debuts at No 1 subkhnemux July 25 2007 Maroon5 com July 10 2007 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 08 22 subkhnemux July 25 2007 KEYT3 Santa Barbara July 9 2007 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 09 27 subkhnemux July 25 2007 Maroon5 com July 9 2007 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2007 08 22 subkhnemux July 25 2007 Maroon 5 Announces Fall Tour Dates Billboard January 28 2010 subkhnemux October 18 2014 TV com khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2019 01 08 subkhnemux 2014 12 02 Greene Andy June 28 2007 Maroon 5 Back on Top Rolling Stone 1029 16 Dorian John International Business Times khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux September 4 2010 subkhnemux December 2 2014 cornellsun khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 04 05 Billboard 200 archives Billboard October 9 2010 subkhnemux October 29 2014 Maroon 5 debuts at number 2 on the Billboard 200 Billboard cakaehlngedimemux 2012 10 08 subkhnemux October 27 2014 At40 com April 26 2011 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 07 26 subkhnemux July 17 2011 Maroon5 com July 12 2011 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux January 4 2012 subkhnemux July 15 2011 Maroon5 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2015 02 23 subkhnemux October 21 2014 Maroon 5 Q amp A I Billboard com Billboard September 8 2011 subkhnemux September 8 2011 Brasil Marcus Vinicius 2011 10 02 Maroon 5 faz a alegria do publico feminino no Rock in Rio phasaoprtueks G1 subkhnemux 2011 10 02 Porto Henrique 2011 08 24 Jay Z cancela participacao no Rock in Rio Maroon 5 substitui rapper phasaoprtueks G1 subkhnemux 2011 10 02 drpeppersnapplegroup August 22 2011 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 10 06 subkhnemux 2014 10 03 Maroon 5 Moves Like Jagger Live at Victoria s Secret Fashion Show The Hollywood Gossip subkhnemux 2014 12 02 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 10 06 subkhnemux 2014 10 03 Maroon 5 March 9 2012 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux April 14 2012 subkhnemux March 26 2012 Rolling Stone 2012 03 26 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2012 04 10 subkhnemux 2012 03 26 Maroon 5 Ties Carly Rae Jepsen for Most Weeks at 1 Time subkhnemux October 3 2014 Voice21 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 10 25 subkhnemux 2014 10 25 Maroon 5 Woman Sam Farrar Remix Youtube subkhnemux October 25 2014 The Voice Narrows Finalists to 12 Maroon 5 Rock Daylight RollingStone subkhnemux 2014 12 02 Maroon 5 Daylight Official Video youtube subkhnemux 2014 10 03 Lipshutz Jason April 1 2013 Maroon 5 Kelly Clarkson Team Up For Honda Civic Tour Billboard cakaehlngedimemux March 18 2015 subkhnemux March 24 2015 radioandrecords com khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux knyayn 27 2013 Kaufman Gil April 1 2013 Maroon 5 Have Great Great Songs Recorded for Next Album Viacom International cakaehlngedimemux May 4 2013 subkhnemux May 12 2013 Maroon 5 Perform The Beatles Ticket To Ride Excerpt grammy com February 7 2014 cakaehlngedimemux October 6 2014 subkhnemux October 3 2014 Maroon 5 announce new album V and tour Capital FM May 22 2014 subkhnemux October 22 2014 Maroon 5 performs Maps live on TODAY TODAY subkhnemux 2014 10 03 Daw Robbie Maroon 5 Announce Maps Single Ahead Of New Album V Idolator subkhnemux 4 June 2014 Maroon 5 Chart History Billboard September 3 2014 subkhnemux October 18 2014 Maroon 5 On Course for Second No 1 Album Billboard September 3 2014 subkhnemux October 18 2014 Billboard archives Billboard October 20 2014 subkhnemux October 29 2014 Wete Brad Maroon 5 Tightens Up on V Track By Track Review Billboard Billboard subkhnemux 14 November 2014 Maroon 5 Ensure iTunes Festival Performance Is Anything But One More Night MTV 12 September 2014 subkhnemux 22 October 2014 Maroon 5 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 12 16 subkhnemux 2014 12 02 Mitchell Peters October 25 2014 Ariana Grande Maroon 5 Pharrell Williams to Perform on A Very Grammy Christmas Billboard subkhnemux November 16 2014 Jim Farber October 9 2014 Z100 s Jingle Ball 2014 line up includes Taylor Swift Sam Smith Iggy Azalea New York Daily News subkhnemux November 16 2014 January 7 2015 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2015 01 13 subkhnemux 2015 01 29 Colin Stutz November 6 2014 Maroon 5 s Sugar to Be Featured in Nissan Commercial Billboard Instagram Instagram Maroon 5 have a greatest hits on the way but some of the hits are missing Digital Spy subkhnemux September 15 2015 Maroon 5 Greatest Hits SINGLES Oct 2nd Flop Of The Pops subkhnemux September 15 2015 m5newsroom blogspot com khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2018 01 05 subkhnemux September 15 2015 Maximum Pop khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2018 07 15 subkhnemux September 15 2015 Maroon 5 in Talks to Perform at Super Bowl 50 Halftime Show Report Billboard subkhnemux October 23 2015 Adam Levine and Maroon 5 in Talks to Perform During Super Bowl 50 Halftime Show E Online October 21 2015 subkhnemux October 23 2015 m5newsroom blogspot com khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2015 10 24 subkhnemux October 23 2015 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2015 11 08 subkhnemux 2015 11 19 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 08 15 subkhnemux 2016 07 26 http www maroon5 com news maroon 5 has partnered unicef usa help donate their children first campaign celebration 94 7 Fresh FM on Twitter subkhnemux May 27 2017 Hann Michael November 2 2017 Maroon 5 Red Pill Blues review impeccable pop and middling R amp B The Guardian subkhnemux March 25 2017 947freshfm cbslocal com khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux January 27 2017 subkhnemux May 27 2017 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux August 15 2017 subkhnemux August 26 2017 Maroon 5 Red Pill Blues AllMusic November 3 2017 subkhnemux March 25 2018 Maroon 5 Guitarist Clears Up Confusion Over Red Pill Blues Album Title October 31 2017 subkhnemux August 22 2018 Maroon 5 Announces New Album Red Pill Blues See the Track List Billboard subkhnemux March 25 2018 Blistein Jon October 5 2017 Maroon 5 Detail New Album Red Pill Blues Rolling Stone subkhnemux September 17 2018 Hyundai x 2018 FIFA World Cup ㅣWorld Cup campaign with Maroon 5 YouTube June 15 2018 Kreps Daniel June 10 2018 Watch Maroon 5 s Video for Bob Marley Cover Three Little Birds Rolling Stone subkhnemux November 16 2018 Grow Kory January 17 2019 Chris Cornell s Passion Dominates Star Studded Tribute Show Rolling Stone subkhnemux January 18 2019 Kaplan Ilana February 3 2019 Super Bowl LIII See Maroon 5 s Surprise Free Halftime Show Feat Travis Scott Big Boi Rolling Stone subkhnemux February 3 2019 Sara Jane Harris February 5 2019 Five worst Super Bowl performances in NFL history Sporting News subkhnemux February 6 2019 Maroon 5 s Summertime Ball Performance Including Sugar And Moves Like Jaggger Has Us All Reminiscing June 10 2019 subkhnemux June 11 2019 Dresdale Andrea khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2019 10 15 subkhnemux October 15 2019 Maroon 5 Manager Jordan Feldstein s Cause of Death Revealed March 17 2018 subkhnemux October 8 2019 Caldwell Brandon September 20 2019 Radio Now 92 1 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2019 09 23 subkhnemux September 23 2019 Chiu Melody Boucher Ashley June 30 2020 Maroon 5 s Mickey Madden Arrested After Alleged Incident of Domestic Violence in Los Angeles People subkhnemux July 1 2020 Legaspi Althea July 14 2020 Maroon 5 s Mickey Madden Takes Leave of Absence After Arrest for Alleged Domestic Violence Rolling Stone subkhnemux July 24 2020 Wass Mike July 21 2020 Maroon 5 Teases New Single Nobody s Love subkhnemux July 21 2020 Findlay Mitch March 3 2021 Maroon 5 Enlists Megan Thee Stallion For Beautiful Mistakes HotNewHipHop subkhnemux March 3 2021 Jordi by Maroon 5 on Apple Music subkhnemux April 29 2021 odythang Apple Music Bell Crystal June 26 2012 Maroon 5 Overexposed Guitarist James Valentine Talks Adam Levine She Will Be Loved amp Call Me Maybe Huffington Post subkhnemux 27 April 2013 7 Questions With Maroon 5 s Adam Levine Idolator com 2010 09 24 subkhnemux 2013 03 22 McKinley Jr James C January 4 2013 Benny Blanco Hit Maker for Rihanna and Maroon 5 The New York Times Benny Blanco Hit Maker for Rihanna and Maroon 5 The New York Times subkhnemux 2014 10 03 MTV khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 08 21 subkhnemux 2014 12 02 Rosen Steven khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 05 29 subkhnemux 27 April 2013 The Australian May 1 2007 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2011 06 04 subkhnemux 2015 01 29 Adam Levine Calls Moves Like Jagger a Risk for Maroon 5 Video Interview Billboard subkhnemux 2012 12 16 Fourth album Overexposed June 26th Maroon 5 March 26 2012 cakaehlngedimemux 2012 03 28 subkhnemux March 26 2012 Ann Powers Maroon 5 LA Times Kathy Iandoli September 2 2014 Maroon 5 s V Album Review Idolator V Album Review 2014 PluggedIn Sheffield Rob June 26 2012 Overexposed Album Reviews Rolling Stone Rolling Stone subkhnemux June 26 2012 The Morning Call khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2015 07 10 subkhnemux March 17 2016 Band Bios Matt Flynn Maroon5 S I N subkhnemux 2014 10 26 zap2it khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 10 25 subkhnemux 2014 10 25 VH1 September 2 2014 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2015 01 04 subkhnemux October 29 2014 Mickey Madden Billboard subkhnemux 2014 10 25 PJ Morton is more than just the second keyboard player in Maroon 5 AXS subkhnemux 2014 10 26 NME News Gomez Phantom Planet Maroon 5 members NME subkhnemux 2014 10 03 Former Maroon 5 Drummer Ryan Dusick Lists in Los Feliz Zillow subkhnemux 2014 10 26 thnakr sunthr July 15 2020 Mickey Madden laxxkcakwng Maroon 5 hlngthukcbkumkhxhaichkhwamrunaernginkhrxbkhrw The Standard subkhnemux July 24 2020 popdirt June 10 2010 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 10 29 subkhnemux October 29 2014 MTV khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 11 23 subkhnemux October 29 2014 Maroon 5 Forbes 2015 subkhnemux April 28 2016 Past GRAMMY Awards GRAMMY subkhnemux November 3 2014 Winners Search 2011 TheAMAs khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 11 07 subkhnemux November 7 2014 Winners Search 2012 TheAMAs khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 11 07 subkhnemux November 7 2014 Winners Search 2013 TheAMAs khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 11 07 subkhnemux November 7 2014 NEWS 2004 Teen Choice Awards winners list moono cakaehlngedimemux 2008 03 13 subkhnemux November 7 2014 2004 World Music Awards Winners Billboard September 16 2004 subkhnemux November 7 2014 Bruno Mars claims 2 best selling digital songs of 2011 Music Week subkhnemux 2012 03 08 Maroon 5 Reaches No 1 on Hot 100 with One More Night Billboard September 19 2012 subkhnemux October 18 2014 Sinha Roy Piya Reuters khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 11 09 subkhnemux 9 November 2014 RIAA Top Artists Digital Singles Recording Industry Association of America subkhnemux November 8 2014 Mediabase Year End Edition 2013 PDF Pdf mediabase com subkhnemux 2014 08 01 Hot 100 55th Anniversary By The Numbers Top 100 Artists Most No 1s Biggest No 2s amp More Billboard staff subkhnemux April 19 2016 Greatest of All Time Hot 100 Billboard subkhnemux April 19 2016 Maroon 5 Kelly Clarkson Team Up For Honda Civic Tour Billboard Billboard subkhnemux 2014 10 03 https www maroon5 com The 2020 Tour subkhnemux December 8 2019 Along with 14 other artists who donated tracks to the album including Paul McCartney Eric Clapton Bonnie Raitt and Norah Jones Maroon 5 donated the live recording of She Will Be Loved to ASR s All Star CD to support victims in the aftermath of the 2004 Southeast Asian tsunami More Stars Join Tsunami Relief Efforts Billboard January 11 2005 subkhnemux October 18 2014 Haiti Social Media Campaign Aid Still Required 2012 11 18 subkhnemux 2014 08 01 Omaze khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2014 06 04 subkhnemux 2014 08 01 ㅣLIVE EARTH 2009 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2013 11 05 subkhnemux 2012 08 05 Coca Cola Maroon 5 24 Hour Session 2011 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2015 02 01 subkhnemux 2012 08 05 Michelson Noah January 25 2012 Adam Levine And Maroon 5 Boycotting Mexican Restaurant For Anti Gay Marriage Stance Huffington Post subkhnemux January 29 2012 Maroon 5 s Adam Levine Speaks Out Against LGBT Violence Billboard 2010 10 13 subkhnemux 2014 12 02 khlngkhxmulekaekbcakaehlngedimemux 2016 08 15 subkhnemux 2016 07 26 aehlngkhxmulxunwikimiediykhxmmxnsmisuxthiekiywkhxngkb maruniff ewbistthangkar maruniff thiexks thwitetxr maruniff thiefsbuk widiox thiyuthub maruniff thi mayseps